"แก้ไข,,1" พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ ,, พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗ ,,สตุลลปกายิกวรรค,,

ในห้อง 'พระไตรปิฎก เสียงอ่าน' ตั้งกระทู้โดย MAGNETICS, 9 มิถุนายน 2009.

  1. MAGNETICS

    MAGNETICS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +995
    fishh_​



    [music]http://palungjit.org/attachments/a.609712/[/music]




    มัจฉริสูตรที่ ๒
    [๘๖] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม
    ของท่านอนาถบิณฑิตเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล เมื่อปฐมยามล่วงไป
    แล้ว พวกเทวดาสตุลลปกายิกามากด้วยกัน มีวรรณงาม ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้น
    ให้สว่าง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้วจึงถวายอภิวาทพระผู้มี-
    *พระภาค แล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ
    [๘๗] เทวดาตนหนึ่ง ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กล่าว
    คาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า
    เพราะความตระหนี่ และความประมาทอย่างนี้ บุคคลจึงให้
    ทานไม่ได้ บุคคลผู้หวังบุญ รู้แจ้งอยู่ พึงให้ทานได้ ฯ
    [๘๘] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้กล่าวคาถาทั้งหลายนี้ในสำนัก
    พระผู้มีพระภาคว่า
    คนตระหนี่กลัวภัยใดย่อมให้ทานไม่ได้ ภัยนั้นนั่นแลย่อมมี
    แก่คนตระหนี่ผู้ไม่ให้ทาน คนตระหนี่ย่อมกลัวความหิวและ
    ความกระหายใด ความหิวและความกระหายนั้นย่อมถูกต้องคน
    ตระหนี่นั้นนั่นแลผู้เป็นพาลทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า ฉะนั้น
    บุคคลควรกำจัดความตระหนี่อันเป็นสนิมในใจ ให้ทานเถิด
    เพราะบุญทั้งหลายย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในโลกหน้า ฯ
    [๘๙] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้กล่าวคาถาทั้งหลายนี้ในสำนัก
    พระผู้มีพระภาคว่า
    ชนทั้งหลายเหล่าใด เมื่อของมีน้อยก็แบ่งให้ เหมือนพวกเดิน
    ทางไกลก็แบ่งของให้แก่พวกที่เดินทางร่วมกัน ชนทั้งหลาย
    เหล่านั้น เมื่อบุคคลทั้งหลายเหล่าอื่นตายแล้ว ก็ชื่อว่าย่อม
    ไม่ตาย ธรรมนี้เป็นของบัณฑิตแต่ปางก่อน ชนพวกหนึ่งเมื่อ
    ของมีน้อยก็แบ่งให้ ชนพวกหนึ่งมีของมากก็ไม่ให้ ทักษิณาที่
    ให้แต่ของน้อย นับเสมอด้วยพัน ฯ
    [๙๐] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้กล่าวคาถาทั้งหลายนี้ในสำนัก
    พระผู้มีพระภาคว่า
    ทาน พวกพาลชนเมื่อให้ ให้ได้ยาก กุศลธรรม พวกพาล-
    *ชนเมื่อทำ ทำได้ยาก พวกอสัตบุรุษย่อมไม่ทำตาม ธรรม
    ของสัตบุรุษ อันพวกอสัตบุรุษดำเนินตามได้แสนยาก เพราะ
    ฉะนั้น การไปจากโลกนี้ของพวกสัตบุรุษและของพวกอสัตบุรุษ
    จึงต่างกัน พวกอสัตบุรุษย่อมไปสู่นรก พวกสัตบุรุษย่อมเป็น
    ผู้ดำเนินไปสู่สวรรค์ ฯ
    ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้กราบทูลคำนี้กะพระผู้มีพระภาคว่า
    ข้าแต่พระผู้มีพระภาค คำของใครหนอแลเป็นสุภาษิต ฯ
    [๙๑] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า คำของพวกท่านทั้งหมดเป็นสุภาษิตโดย
    ปริยาย ก็แต่พวกท่านจงฟังซึ่งคำของเราบ้าง
    บุคคลแม้ใด ย่อมประพฤติธรรม ประพฤติสะอาด เป็นผู้
    เลี้ยงภริยา และเมื่อของมีน้อยก็ให้ได้ เมื่อบุรุษแสนหนึ่ง
    บูชาภิกษุพันหนึ่ง หรือบริจาคทรัพย์พันกหาปณะ การบูชาของ
    บุคคลเหล่านั้น ย่อมไม่ถึงส่วนร้อย ของบุคคลอย่างนั้น ฯ
    [๙๒] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้กล่าวกะพระผู้มีพระภาค
    ด้วยคาถาว่า
    การบูชาอันไพบูลย์ใหญ่โตนี้ ย่อมไม่เท่าถึงส่วนแห่งทานที่
    บุคคลให้ด้วยความประพฤติธรรม เพราะเหตุอะไร เมื่อบุรุษ
    แสนหนึ่งบูชาภิกษุพันหนึ่ง หรือบริจาคทรัพย์พันกหาปณะ
    การบูชาของบุรุษเหล่านั้นย่อมไม่ถึงส่วนร้อยของบุคคลอย่าง
    นั้น ฯ
    [๙๓] ในลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะเทวดานั้นด้วย
    พระคาถาว่า
    บุคคลเหล่าหนึ่ง ตั้งอยู่ในกรรมปราศจากความสงบ (ปราศ-
    *จากธรรม) โบยเขา ฆ่าเขา ทำให้เขาเศร้าโศกแล้วให้ทาน
    ทานนั้นจัดว่าทานมีหน้าอันนองด้วยน้ำตา จัดว่าทานเป็นไปกับ
    ด้วยอาชญา จึงย่อมไม่เท่าถึงส่วนแห่งทานที่ให้ด้วยความสงบ
    (ประพฤติธรรม) เมื่อบุรุษแสนหนึ่งบูชาภิกษุพันหนึ่ง หรือ
    บริจาคทรัพย์พันกหาปณะ การบูชาของบุรุษเหล่านั้น ย่อมไม่
    ถึงส่วนร้อยของบุคคลอย่างนั้น โดยนัยอย่างนี้ ฯ
    สาธุสูตรที่ ๓
    [๙๔] ครั้งนั้นแล เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว พวกเทวดาสตุลลปกายิกา
    มากด้วยกัน มีวรรณงาม ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง เข้าไปเฝ้าพระผู้มี-
    *พระภาคถึงที่ประทับ ครั้นถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคแล้ว จึงได้ยืนอยู่ ณ
    ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ
    [๙๕] เทวดาองค์หนึ่ง ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้เปล่ง
    อุทานนี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า
    ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ทานยังประโยชน์ให้สำเร็จได้แล
    เพราะความตระหนี่และความประมาทอย่างนี้ บุคคลจึงให้ทาน
    ไม่ได้ อันบุคคลผู้หวังบุญ รู้แจ้งอยู่ พึงให้ทานได้ ฯ
    [๙๖] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้เปล่งอุทานนี้ในสำนักพระผู้มี-
    *พระภาคว่า
    ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ทานยังประโยชน์ให้สำเร็จได้แล
    อนึ่ง แม้เมื่อของมีอยู่น้อย ทานก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้
    บุคคลพวกหนึ่ง เมื่อของมีน้อย ย่อมแบ่งให้ได้ บุคคลพวก
    หนึ่ง มีของมากก็ให้ไม่ได้ ทักษิณาที่ให้แต่ของน้อย ก็นับ
    เสมอด้วยพัน ฯ
    [๙๗] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้เปล่งอุทานนี้ในสำนักพระผู้มี-
    *พระภาคว่า
    ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ทานยังประโยชน์ให้สำเร็จได้แล
    แม้เมื่อของมีอยู่น้อย ทานก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ อนึ่ง
    ทานที่ให้แม้ด้วยศรัทธาก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ นักปราชญ์
    ทั้งหลายกล่าวว่าทานและการรบเสมอกัน พวกวีรบุรุษแม้มี
    น้อย ย่อมชนะคนขลาดที่มากได้ ถ้าบุคคลเชื่ออยู่ย่อมให้
    สิ่งของแม้น้อยได้ เพราะฉะนั้นแล ทายกนั้นย่อมเป็นผู้มี
    ความสุขในโลกหน้า ฯ
    [๙๘] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้เปล่งอุทานนี้ในสำนักพระผู้มี
    พระภาคว่า
    ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ทานยังประโยชน์ให้สำเร็จได้แล
    แม้เมื่อของมีอยู่น้อย การให้ทานได้เป็นการดี อนึ่ง ทานที่
    ให้แม้ด้วยศรัทธาก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ อนึ่ง ทานที่ให้
    แก่บุคคลผู้มีธรรมอันได้แล้ว ยิ่งเป็นการดี บุคคลใดเกิดมาย่อม
    ให้ทานแก่ผู้มีธรรมอันได้แล้ว ผู้มีธรรมอันบรรลุแล้วด้วยความ
    หมั่นและความเพียร บุคคลนั้นล่วงพ้นนรกแห่งยมราช ย่อม
    เข้าถึงสถานอันเป็นทิพย์ ฯ
    [๙๙] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้เปล่งอุทานนี้ในสำนักพระผู้มี-
    *พระภาคว่า
    ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ทานยังประโยชน์ให้สำเร็จได้แล
    แม้เมื่อของมีอยู่น้อย การให้ทานได้เป็นการดี ทานที่ให้แม้
    ด้วยศรัทธาก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ ทานที่ให้แก่บุคคลผู้มี
    ธรรมอันได้แล้ว ยิ่งเป็นการดี อนึ่ง ทานที่บุคคลเลือกให้ยิ่ง
    เป็นการดี ทานที่เลือกให้ พระสุคตทรงสรรเสริญแล้ว
    บุคคลทั้งหลายผู้ควรแก่ทักษิณา ย่อมมีอยู่ในโลกคือหมู่สัตว์
    นี้ ทานทั้งหลาย อันบุคคลให้แล้วในบุคคลทั้งหลายนั้น ย่อม
    มีผลมาก เหมือนพืชทั้งหลายที่บุคคลหว่านแล้วในนาดี ฯ
    [๑๐๐] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้เปล่งอุทานนี้ในสำนัก
    พระผู้มีพระภาคว่า
    ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ทานยังประโยชน์ให้สำเร็จได้แล
    แม้เมื่อของมีอยู่น้อย การให้ทานได้เป็นการดี ทานที่ให้แม้
    ด้วยศรัทธาก็ให้ประโยชน์สำเร็จได้ ทานที่ให้แก่บุคคลผู้มี
    ธรรมอันได้แล้วยิ่งเป็นการดี อนึ่ง ทานที่บุคคลเลือกให้ยิ่ง
    เป็นการดี อนึ่ง ความสำรวมแม้ในสัตว์ทั้งหลายยิ่งเป็นการดี
    บุคคลใดประพฤติเป็นผู้ไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายอยู่ ไม่ทำ
    บาป เพราะกลัวความติเตียนแห่งผู้อื่น บัณฑิตทั้งหลายย่อม
    สรรเสริญบุคคลซึ่งเป็นผู้กลัวบาป แต่ไม่สรรเสริญบุคคลผู้
    กล้าในการทำบาปนั้น สัตบุรุษทั้งหลายย่อมไม่ทำบาป เพราะ
    ความกลัวบาปแท้จริง ฯ
    ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้กล่าวคำนี้กะพระผู้มีพระภาคว่า
    ข้าแต่พระผู้มีพระภาค คำของใครหนอแลเป็นสุภาษิต ฯ
    [๑๐๑] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า คำของพวกท่านทั้งหมดเป็นสุภาษิต
    โดยปริยาย แต่ว่าพวกท่านจงฟังซึ่งคำของเราบ้าง
    ก็ทานอันบัณฑิตสรรเสริญแล้วโดยส่วนมากโดยแท้ ก็แต่
    ธรรมบท ( นิพพาน) แหละประเสริฐว่าทาน เพราะว่า
    สัตบุรุษทั้งหลายผู้มีปัญญา ในกาลก่อนก็ดี ในกาลก่อนกว่า
    ก็ดี บรรลุซึ่งนิพพานแล้วแท้จริง ฯ
    นสันติสูตรที่ ๔
    [๑๐๒] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
    อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ฯ
    ครั้งนั้นแล เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว พวกเทวดาสตุลลปกายิกามากด้วย
    กัน มีวรรณงาม ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่
    ประทับ ครั้นแล้วจึงถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค แล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วน
    ข้างหนึ่ง ฯ
    [๑๐๓] เทวดาตนหนึ่ง ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กล่าว
    คาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า
    กามทั้งหลายในหมู่มนุษย์ที่เป็นของเที่ยงย่อมไม่มี บุรุษผู้
    เกี่ยวข้องแล้ว ผู้ประมาทแล้วในอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งความ
    ใคร่ทั้งหลายอันมีอยู่ในหมู่มนุษย์นี้ ไม่มาถึงนิพพานเป็นที่ไม่
    กลับมาแต่วัฏฏะเป็นที่ตั้งแห่งมัจจุ เบญจขันธ์เกิดแต่ฉันทะ
    ทุกข์ก็เกิดแต่ฉันทะ เพราะกำจัดฉันทะเสีย จึงกำจัดเบญจ-
    *ขันธ์ได้ เพราะกำจัดเบญจขันธ์ได้ จึงกำจัดทุกข์ได้ อารมณ์
    อันงามทั้งหลายในโลกไม่เป็นกาม ความกำหนัดที่พร้อมไป
    ด้วยความดำริเป็นกามของบุรุษ อารมณ์อันงามทั้งหลายย่อม
    ตั้งอยู่ในโลกอย่างนั้นนั่นแหละ บุคคลผู้มีปัญญาทั้งหลายย่อม
    กำจัดฉันทะในอารมณ์ทั้งหลายนั้นโดยแท้ บุคคลพึงละความ
    โกรธเสีย พึงทิ้งมานะเสีย พึงล่วงสังโยชน์ทั้งปวงเสีย
    ทุกข์ทั้งหลาย ย่อมไม่ตกถึงบุคคลนั้น ผู้ไม่เกี่ยวข้องในนาม
    รูป ผู้ไม่มีกิเลสเป็นเครื่องกังวล ขีณาสวภิกษุละบัญญัติเสีย
    แล้ว ไม่ติดมานะแล้ว ได้ตัดตัณหาในนามรูปนี้เสียแล้ว
    พวกเทวดา พวกมนุษย์ ในโลกนี้ก็ดี ในโลกอื่นก็ดี ใน
    สวรรค์ทั้งหลายก็ดี ในสถานเป็นที่อาศัยแห่งสัตว์ทั้งปวงก็ดี
    เที่ยวค้นหา ก็ไม่พบขีณาสวภิกษุนั้น ผู้มีเครื่องผูกอันตัดเสีย
    แล้ว ไม่มีทุกข์ ไม่มีตัณหา ฯ
    [๑๐๔] (ท่านพระโมฆราชกล่าว)
    ก็หากว่า พวกเทวดา พวกมนุษย์ ในโลกนี้ก็ดี ในโลกอื่น
    ก็ดี ไม่ได้เห็นพระขีณาสพนั้น ผู้อุดมกว่านรชน ผู้ประพฤติ
    ประโยชน์เพื่อพวกนรชน ผู้พ้นแล้วอย่างนั้น เทวดาและ
    มนุษย์เหล่าใด ย่อมไหว้พระขีณาสพนั้น เทวดาและมนุษย์
    เหล่านั้น ย่อมเป็นผู้อันบัณฑิตพึงสรรเสริญ ฯ
    [๑๐๕] (พระผู้มีพระภาคตรัส)
    ดูกรภิกษุ แม้พวกเทวดาและมนุษย์เหล่านั้น ย่อมเป็นผู้อัน
    บัณฑิตพึงสรรเสริญ พวกเทวดาและมนุษย์เหล่าใด ย่อมไหว้
    ขีณาสวภิกษุนั้น ผู้พ้นแล้วอย่างนั้น ดูกรภิกษุ แม้พวก
    เทวดาและมนุษย์เหล่านั้นรู้ธรรมแล้ว ละวิจิกิจฉาแล้ว ก็ย่อม
    เป็นผู้ล่วงแล้วซึ่งธรรมเป็นเครื่องข้อง ฯ

    be happy1​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2009
  2. MAGNETICS

    MAGNETICS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +995
    ^
    ^
    ^
    ^
    เร็ว ม๊วกกกกกกกกกกกกกกกกก
     
  3. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    คนตระหนี่ และ ร. เรือ <<< กระดกลิ้นได้ชัดมาก

    ถือซะว่า ทดเเทน ออกเสียง ส.เสือ ละกัน (เเต่เสียง ส. เสือ ก็ชัดนะ)

    หมายเหตุ เวลาออก เสียง ส.เสือ ถ้าอยากให้ ชัด ต้อง ฉีกยิ้มด้วย ถึงจะชัดเจน ไม่รู้เง้อ

    อ่านดีมากคะ เสียงเพราะ
     
  4. MAGNETICS

    MAGNETICS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +995
    ;aa54​

    ^____________^


    ขอบคุณ

    ขอบคุณ

    และ ขอบคุณ
     
  5. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
  6. MAGNETICS

    MAGNETICS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +995
    ^
    ^
    ^
    ^
    เร็วได้อีกนะข้างบน น่ะ
     
  7. มนตรา_นาคี

    มนตรา_นาคี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +179
    สาธุ บุญครั้งนี้ขอให้หนูสวย และ รวยยิ่ง ๆ ขึ้นไป สาธุ

    เหอ ๆ อ่ะนะ..คิคิ
     
  8. anusad

    anusad สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +8
    โอ๊วๆๆๆๆๆๆ...เสียงครายเนี่ย....ต๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตั๊กแก๊ ตั๊กแก๊
     
  9. Kob

    Kob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    6,161
    ค่าพลัง:
    +19,894
    1. เป็นไฟล์ mp3 ขนาด 40 kbps stereo ตามที่กำหนด ถูกต้องค่ะ
    2. ตั้งชื่อไฟล์ที่อ่านถูกต้องแล้วค่ะ
    15-032 ๒. มัจฉริสูตร
    15-033 ๓. สาธุสูตร
    15-034 ๔. นสันติสูตร

    3. ไม่ต้องอ่าน "พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
    สังยุตตนิกาย สคาถวรรค " ให้อ่านเนื้อหาเลยค่ะ ทั้งสามไฟล์เลยนะคะ

    4. อ่าน [ตัวเลข] ถูกต้องค่ะ
    อ่านข้อความในวงเล็บเล็กถูกต้องค่ะ

    5. เสียงดีเลยค่ะ ออกเสียงชัดเจนค่ะ (พี่กบนึกว่าจะออกห้าวๆ)

    6. ไฟล์แรก 15-032 ๒. มัจฉริสูตร อ่านผิดตรง สีแดงค่ะ

    [๘๘] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้กล่าวคาถาทั้งหลายนี้ในสำนัก
    พระผู้มีพระภาคว่า
    คนตระหนี่กลัวภัยใดย่อมให้ทานไม่ได้ ภัยนั้นนั่นแลย่อมมี
    แก่คนตระหนี่ผู้ไม่ให้ทาน คนตระหนี่ย่อมกลัวความหิวและ
    ความกระหายใด ความหิวและความกระหายนั้นย่อมถูกต้องคน
    ตระหนี่นั้นนั่นแลผู้เป็นพาลทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า ฉะนั้น
    บุคคลควรกำจัดความตระหนี่อันเป็นสนิมในใจ ให้ทานเถิด
    เพราะบุญทั้งหลายย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในโลกหน้า ฯ


    [๙๐] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้กล่าวคาถาทั้งหลายนี้ในสำนัก
    พระผู้มีพระภาคว่า
    ทาน พวกพาลชนเมื่อให้ ให้ได้ยาก กุศลธรรม พวกพาล-
    *ชนเมื่อทำ ทำได้ยาก พวกอสัตบุรุษย่อมไม่ทำตาม ธรรม
    ของสัตบุรุษ อันพวกอสัตบุรุษดำเนินตามได้แสนยาก เพราะ
    ฉะนั้น การไปจากโลกนี้ของพวกสัตบุรุษและของพวกอสัตบุรุษ
    จึงต่างกัน พวกอสัตบุรุษย่อมไปสู่นรก พวกสัตบุรุษย่อมเป็น
    ผู้ดำเนินไปสู่สวรรค์ ฯ

    7. ไฟล์ 15-033 ๓. สาธุสูตร อ่านผิดตรง สีแดงค่ะ

    [๑๐๐] ในลำดับนั้นแล เทวดาอื่นอีก ได้เปล่งอุทานนี้ในสำนัก
    พระผู้มีพระภาคว่า
    ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ทานยังประโยชน์ให้สำเร็จได้แล
    แม้เมื่อของมีอยู่น้อย การให้ทานได้เป็นการดี ทานที่ให้แม้
    ด้วยศรัทธาก็ให้ประโยชน์สำเร็จได้ ทานที่ให้แก่บุคคลผู้มี
    ธรรมอันได้แล้วยิ่งเป็นการดี อนึ่ง ทานที่บุคคลเลือกให้ยิ่ง
    เป็นการดี อนึ่ง ความสำรวมแม้ในสัตว์ทั้งหลายยิ่งเป็นการดี
    บุคคลใดประพฤติเป็นผู้ไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายอยู่ ไม่ทำ
    บาป เพราะกลัวความติเตียนแห่งผู้อื่น บัณฑิตทั้งหลายย่อม
    สรรเสริญบุคคลซึ่งเป็นผู้กลัวบาป แต่ไม่สรรเสริญบุคคลผู้
    กล้าในการทำบาปนั้น สัตบุรุษทั้งหลายย่อมไม่ทำบาป เพราะ
    ความกลัวบาปแท้จริง ฯ


    [๑๐๑] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า คำของพวกท่านทั้งหมดเป็นสุภาษิต
    โดยปริยาย แต่ว่าพวกท่านจงฟังซึ่งคำของเราบ้าง
    ก็ทานอันบัณฑิตสรรเสริญแล้วโดยส่วนมากโดยแท้ ก็แต่
    ธรรมบท (นิพพาน) แหละประเสริฐว่าทาน เพราะว่า
    สัตบุรุษทั้งหลายผู้มีปัญญา ในกาลก่อนก็ดี ในกาลก่อนกว่า
    ก็ดี บรรลุซึ่งนิพพานแล้วแท้จริง ฯ

    8. ไฟล์ 15-034 ๔. นสันติสูตร อ่านผิดตรง สีแดงค่ะ

    ควรอ่านเว้นวรรคด้วย ถ้าไม่เว้นวรรคจะทำให้คนฟังเข้าใจความหมายผิดไปค่ะ

    [๑๐๓] เทวดาตนหนึ่ง ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กล่าว
    คาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า
    กามทั้งหลายในหมู่มนุษย์ที่เป็นของเที่ยงย่อมไม่มีตรงนี้ควรเว้นวรรคไม่อ่านต่อทันทีค่ะ บุรุษผู้
    เกี่ยวข้องแล้ว
    ผู้ประมาทแล้วในอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งความ
    ใคร่ทั้งหลายอันมีอยู่ในหมู่มนุษย์นี้ ไม่มาถึงนิพพานเป็นที่ไม่
    กลับมาแต่วัฏฏะเป็นที่ตั้งแห่งมัจจุตรงนี้ควรเว้นวรรคไม่อ่านต่อทันทีค่ะ เบญจขันธ์เกิดแต่ฉันทะ
    ทุกข์ก็เกิดแต่ฉันทะ เพราะกำจัดฉันทะเสีย จึงกำจัดเบญจ-
    *ขันธ์ได้ เพราะกำจัดเบญจขันธ์ได้ จึงกำจัดทุกข์ได้ อารมณ์
    อันงามทั้งหลายในโลกไม่เป็นกาม ความกำหนัดที่พร้อมไป
    ด้วยความดำริเป็นกามของบุรุษ อารมณ์อันงามทั้งหลายย่อม
    ตั้งอยู่ในโลกอย่างนั้นนั่นแหละ บุคคลผู้มีปัญญาทั้งหลายย่อม
    กำจัดฉันทะในอารมณ์ทั้งหลายนั้นโดยแท้ บุคคลพึงละความ
    โกรธเสีย พึงทิ้งมานะเสีย พึงล่วงสังโยชน์ทั้งปวงเสีย
    ทุกข์ทั้งหลาย ย่อมไม่ตกถึงบุคคลนั้น ผู้ไม่เกี่ยวข้องในนาม
    รูป ผู้ไม่มีกิเลสเป็นเครื่องกังวล ขีณาสวภิกษุละบัญญัติเสีย
    แล้ว ไม่ติดมานะแล้ว ได้ตัดตัณหาในนามรูปนี้เสียแล้ว
    พวกเทวดา พวกมนุษย์ ในโลกนี้ก็ดี ในโลกอื่นก็ดี ใน
    สวรรค์ทั้งหลายก็ดี ในสถานเป็นที่อาศัยแห่งสัตว์ทั้งปวงก็ดี
    เที่ยวค้นหา ก็ไม่พบขีณาสวภิกษุนั้น ผู้มีเครื่องผูกอันตัดเสีย
    แล้ว ไม่มีทุกข์ ไม่มีตัณหา ฯ

    9. วัฏฏะ อ่านว่า วัด-ตะ

    10. น้องตาล ใช้โปรแกรม wavepad ดึงไฟล์เก่ามาแก้ไข อย่าอ่านใหม่ทั้งหมด ให้ฝึกใช้โปรแกรมให้คล่องค่ะ

    แก้ไขไฟล์มาทั้งสามไฟล์ พี่กบจะนำเอาไฟล์ที่ถูกต้องไปอัพในเล่ม 15 ค่ะ



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2009
  10. ทิกเกอร์_ทิกเกอร์

    ทิกเกอร์_ทิกเกอร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +914
    รับทราบค่ะพี่กบ...



    5. เสียงดีเลยค่ะ ออกเสียงชัดเจนค่ะ (พี่กบนึกว่าจะออกห้าวๆ)
    ^
    ^
    ^
    นู๋ล่ะเขิล ...


    >๐<



     
  11. Likely

    Likely เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    4,151
    ค่าพลัง:
    +3,821
    อ่านมาให้ฟังอีกนะก๊ะ เพราะดีๆๆๆ นานๆๆทีจะได้ฟัง อิอิ
     
  12. Kob

    Kob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    6,161
    ค่าพลัง:
    +19,894
    พี่กบรอไฟล์ที่แก้ไขจะนำไปอัพต่อจ้า
     
  13. ทิกเกอร์_ทิกเกอร์

    ทิกเกอร์_ทิกเกอร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +914
    อ่านใหม่แล้ว

    อ่านใหม่แล้ว

    และ

    อ่านใหม่แล้ว


    หวังว่าคงผ่านไปด้วยดี .. สาธุ!!!~
     
  14. Kob

    Kob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    6,161
    ค่าพลัง:
    +19,894
    ไฟล์ที่ 3 ไม่ต้องอ่าน พระไตรปิฏกเล่มที่ 15 พระสุตตันตปิฏก...
    ให้เริ่มอ่านเนื้อหาเลยนะคะ พี่กบตัดส่วนเกินมาให้ละ


    น้องตาลไปอ่านเล่มได้เลยค่ะ
    ขออนุโมทนาค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. ทิกเกอร์_ทิกเกอร์

    ทิกเกอร์_ทิกเกอร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +914
    เอิ้กกกกกกกกกกก... ขอโทษค่า สงสัยมะคืน ตัดแต่ช่วงที่พี่กบคอมเม้นไว้ ..


    ลืมตัดไฟล์ต้นๆ ลืมได้อีกค่ะ ..

    หุหุ ..


    ผ่านด่าน แย้ว เย้!!!~
     

แชร์หน้านี้

Loading...