๒๕๕๕-๒๕๕๖:นองน้ำแลเลือดจะนอง'ญาณ'ของพระพรหมวชิรญาณ

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย :::เพชร:::, 30 พฤศจิกายน 2011.

แท็ก: แก้ไข
  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    [​IMG]
    นองน้ำแลเลือดจะนอง'ญาณ'ของพระพรหมวชิรญาณ
    นองน้ำแลเลือดจะนอง'ญาณ'ของพระพรหมวชิรญาณ : เรื่อง ไตรเทพ ไกรงู / ภาพ ศูนย์ภาพเนชั่น

    โหราศาสตร์ เป็นวิชาที่ใช้ทายกาลล่วงหน้าหรือดูการล่วงหน้า ใช้สำหรับพยากรณ์ผลกรรมของมนุษย์โดยอาศัยดวงดาวเป็นเครื่องพยากรณ์ แสดงเหตุและผลของดวงดาว ทำให้สามารถทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าของวิถีทางของมนุษย์ และเหตุการณ์ของโลกทั่วๆ ไป ทั้งนี้ตามหลักพุทธศาสนา ตามที่แสดงไว้ในกัมมวิภังคสูตร ๑๔ ประการ คือ บางคนอายุยืน บางคนอายุสั้น บางคนมีโรคน้อย บางคนมีโรคมาก บางคนมีผิวพรรณดีบางคนมีผิวพรรณทราม บางคนมีศักดามาก บางคนมีศักดาน้อย บางคนมีทรัพย์สมบัติมาก บางคนมีทรัพย์สมบัติน้อย บางคนมีตระกูลสูง บางคนมีตระกูลต่ำ บางคนมีปัญญามาก บางคนมีปัญญาน้อย

    ในทางพระพุทธศาสนา ได้มีพุทธานุญาตให้พระภิกษุสงฆ์เรียนรู้วิชาโหราศาสตร์ในเรื่องฤกษ์ยาม เพื่อจะได้รู้เวลาทำอุโบสถสังฆกรรม อันเป็นกิจในพระพุทธศาสนา จึงได้มีชื่อ วัน เดือน ปี และฤกษ์แสดงไว้ท้ายบอกวัตรพระเป็นประเพณีสืบต่อมา

    ปัจจุบันมีพระสงฆ์ที่ขึ้นชื่อว่า “ดูหมอแม่น” หลายสิบรูป และหนึ่งในจำนวนนี้ คือ พระพรหมวชิรญาณ (ประสิทธิ์ เขมังกโร) หรือ เจ้าคุณพรหมฯ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าอาวาสวัดยานนาวา ซึ่งที่ผ่านมามีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นักธุรกิจ นักการเมืองทั้งฝ่ายค้าน และรัฐบาล แวะเวียนไปหาไม่เคยขาด

    เจ้าคุณพรหม บอกว่า โหราศาสตร์ไม่ใช่ศาสตร์แห่งความหลุดพ้น พระพุทธเจ้าใช้คำว่า “เดรัจฉานวิชา” หรือ “โลกิยวิชา” ด้วยซ้ำ เพียงแต่สามารถเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์บรรเทาทุกข์ในระดับโลกิยชน ที่ยังอยู่ในโลกนี้ได้ เพียงแต่ไม่ควรเชื่ออย่างงมงายเท่านั้น สิ่งที่ประเสริฐที่สุดก็คือ การประพฤติธรรม ทุกศาสตร์มีประโยชน์ ผู้ที่ฉลาดหรือผู้ที่มีปัญญาต้องรู้จักนำความรู้จากโหราศาสตร์มาใช้ให้เป็นประโยชน์ เหมือนการพยากรณ์อากาศ เขาไม่ได้พยากรณ์ให้ฟังแค่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่นั่นที่นี่ แต่ต้องการให้คนฟังวางแผนล่วงหน้า

    โหราศาสตร์ดาราศาสตร์เป็นเรื่องของหลักสถิติที่มีการบันทึกกันมาอย่างต่อเนื่อง ในอดีตเราใช้ดวงดาวในการคำนวณเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทุกวันนี้แม้ว่าเราจะมีดาวเทียมในการพยากรณ์อากาศ แต่ดวงดาวบนท้องฟ้ายังคงใช้ได้อยู่ ไม่ว่าศาสตร์อะไร ถ้าเราใช้เป็นย่อมเกิดประโยชน์การที่เรารู้เรื่องโหราศาสตร์เรารู้เอาไว้เพื่อที่จะป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ถ้าใช้ไม่เป็นย่อมเกิดโทษ ถ้าบอกว่าดวงไม่ดี แล้วนอนอยู่บ้านเฉยๆ คงไม่ใช่ ยังต้องทำงานปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิม เพียงแต่ว่า ต้องทำด้วยความระมัดระวัง

    ทั้งนี้ เจ้าคุณพรหมจะเน้นย้ำเสมอๆ ว่า อย่ามงาย เชื่อสิ่งใดโดยไม่มีเหตุผล ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีเหตุปัจจัย คนหวังปกติสุขก็ต้องทำความดีเป็นปกติ โหราศาสตร์เป็นเพียงศาสตร์สื่อชี้ให้เห็นแนวทางกว้างๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วเตรียมตัวรับกับสถานการณ์นั้น ด้วยความไม่ประมาท เช่น มีการพยากรณ์ล่วงหน้าว่ากรุงเทพฯ น้ำจะท่วมมาตั้งแต่ต้นปี ๒๕๕๔ หากเราหาวิธีป้องกันแต่เนิ่นๆ ความเสียหายคงไม่มากอย่างที่เป็นอยู่ อย่างที่วัดได้หากระสอบทรายมาทำแนวป้องกันตั้งแต่น้ำเข้าอยุธยา รัฐบาลชุดนี้ในช่วงเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ สนใจแต่เรื่องอื่นไม่ได้สนใจเรื่องภัยธรรมชาติเท่าที่ควร คิดว่าการบริหารงานตามปกติจะเอาอยู่แต่สุดท้ายก็เอาไม่อยู่เพราะน้ำมามากกว่าปกติ

    อย่างไรก็ตามเท่าที่ได้ศึกษาด้านโหราศาสตร์ ในปี ๒๕๕๔ นี้ เป็นเพียงแค่การทดสอบ ความเสียหายที่ปรากฏยังถือว่าไม่มาก เมื่อเปรียบกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปี ๒๕๕๕ ซึ่งจะหนักว่าปีนี้ทุกด้าน ไม่เฉพาะเรื่องธรรมชาติเพียงอย่างเดียว เรื่องเหตุบ้านการเมืองก็สาหัสไม่แพ้ พ.ศ.๒๕๕๔ โดยเฉพาะในช่วงรอยต่อระหว่าง พ.ศ.๒๕๕๔ กับ พ.ศ.๒๕๕๕ ก็ต้องระวังในเรื่องความแตกแยกทางความคิด

    "ตั้งแต่ต้นปี ๒๕๕๕ จะมีปัญญาหลายอย่างเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมความวุ่นวายของประเทศชาติจะไม่ธรรมดาหนักและร้ายแรงยิ่งกว่าเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กลางปีนองเลือดพอปลายปีน้ำก็นอง และจะอยู่ต่อเนื่องไปอีก ๒ ปี คือ พ.ศ. ๒๕๕๖ และ พ.ศ.๒๕๕๗ เมื่อขึ้น พ.ศ.๒๕๕๘ บ้านเมืองจะสงบสุข เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง" เจ้าคุณพรหมกล่าว

    เมื่อถามถึง "รัฐบาลนี้จะอยู่ครบวาระหรือไม่?" เจ้าคุณพรหม ตอบว่า “ถ้าดวงอย่างนี้แล้ว บวกกับขาดความสามัคคี ไม่ประสานประโยชน์ต่อกันให้ดี ต่างคนต่างจะเอาปะโยชน์ใส่ตัว ไม่ตกลงกันให้ดี ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นก็เกิดขึ้นง่าย อุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะเรารักชาติ รักศาสนา รวมทั้งรักสถาบันพระมหากษัตริย์แต่ปาก ไม่ได้รักเพราะจิตสำนึกของความเป็นคนไทย”


    ยุติทุกปัญหาด้วยธรรม



    “ความแม่นยำเป็นสิ่งที่หมอดูปรารถนามากที่สุด แต่คราวนี้อาตมาได้แต่สวดมนต์ภาวนาขออย่าให้เป็นตามที่ดูไว้เลย” นี้เป็นคำยืนยันของเจ้าคุณพรหม

    พร้อมกันนี้ เจ้าคุณพรหมแนะนำว่า เมื่อเรารู้ว่าในอนาคตอาจจะเกิดอะไรขึ้น เราสามารถป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ สามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ และทุกอย่างที่พยากรณ์ไว้จะไม่เกิดขึ้นเลยหากเราตั้งตัวอยู่บนความไม่ประมาท เอาหลักของพระพุทธเจ้ามาใช้ มีหลักปฏิบัติเพื่อป้องกัน คือ ทาน ศีล และภาวนา

    ทาน แปลว่า การให้, การแบ่งปัน, การเสียสละ, การเอื้อเฟื้อ หมายถึงการให้ทานด้วยจิตใจที่ดี งาม การคลายความตระหนี่ ความเห็นแก่ตัว ความโลภในจิตใจมนุษย์ ส่งผลให้เกิดความ ใส สว่าง สะอาดของจิตใจขึ้นมา

    ศีล เป็นข้อปฏิบัติตนขั้นพื้นฐานในทางพระพุทธศาสนา คือทำให้กาย วาจา ใจ สงบไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เพื่อควบคุมความประพฤติทางกายและวาจาให้ตั้งอยู่ในความดีงามมีความปกติสุข เพื่อประโยชน์ขั้นพื้นฐานคือความสุขและไม่มีการเบียดเบียนกันในสังคม

    ภาวนา แปลว่า การเจริญ การอบรม การทำให้มีให้เป็นขึ้น หมายถึง การทำจิตใจให้สงบและทำปัญญาให้เกิดขึ้น ด้วยการฝึกฝนอบรมจิตไปตามแบบที่ท่านกำหนดไว้ ซึ่งเรียกชื่อไปต่างๆ เช่น การบำเพ็ญกรรมฐาน การทำสมาธิ การเจริญภาวนา การเจริญจิตภาวนา

    “ความไม่สงบไม่ว่าจะที่หนใดในโลกมีอยู่ตลอดเวลา ถ้าพวกเราลดความเห็นแก่ตัวลงมา มีความพอเพียง ไม่ให้แก่ตัวเกินไป นึกถึงประโยชน์ส่วนรวมของบ้านเมือง ยึดพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมานฉันท์ ประนีประนอม ปัญหาย่อมไม่เกิดขึ้น เรามีปัญญาชนจำนวนมาก แต่เป็นมิจฉาปัญญา ปัญญาดิบที่ขาดสติ ทุกวันนี้สถาบันการศึกษามุ่งเน้นแต่จะสอนวิชาชีพโดยละทิ้งวิชาชีวิต” เจ้าคุณพรหมกล่าวทิ้งท้าย
     
  2. wainkam

    wainkam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    757
    ค่าพลัง:
    +881
    "เรามีปัญญาชนจำนวนมาก แต่เป็นมิจฉาปัญญา ปัญญาดิบที่ขาดสติ ทุกวันนี้สถาบันการศึกษามุ่งเน้นแต่จะสอนวิชาชีพโดยละทิ้งวิชาชีวิต” กราบอนุโมทนาเจ้าคุณพรหมฯ และท่าน จขท. เป็นอย่างสูงครับ :>
     
  3. poppapza

    poppapza สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +7
    อนุโมทนาสาธุ ทราบซึ้งกับวรรคสุดท้ายเป็นอย่างยิ่งครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...