Dual Core คืออะไร ?

Dual Core คืออะไร ?



โพรเซสเซอร์ ดูอัลคอร์ (Dual-core) อาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับผู้บริโภค ซึ่งโพรเซสเซอร์พวกนี้จะมีประสิทธิภาพการทำหลายงาน (multitasking) ได้อย่างเยี่ยมยอด ปัจจุบันซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบที่ซับซ้อนบนคอมพิวเตอร์อย่างเช่น แอนิเมชัน 3 มิติ และแอพพลิเคชันทางด้านงานวิทยาศาสตร์จะได้รับประโยชน์จากโพรเซสเซอร์ดูอัลคอร์ ในขณะที่ซอฟต์แวร์ใช้งานทั่วไปมีน้อยมากๆ ที่ได้รับการออกแบบ และพัฒนาให้ทำงานโดยใช้ข้อได้เปรียบจากโพรเซสเซอร์เหล่านี้

การเลือกซื้อพีซีที่ใช้โพรเซสเซอร์ดูอัลคอร์ตอนนี้ไม่ถือว่าเป็นการไม่คุ้มค่า เพราะมันช่วยให้การทำหลายงานบนคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ในระหว่างที่เขียนแผ่นซีดีคุณก็สามารถทำงานกับแอพพลิเคชันอื่นๆ ได้พร้อมกันโดยไม่มีอาการล่าช้า หรือกระตุกแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดีคุณคงจะไม่ได้เห็นประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจากการเล่นเกมส์มากนักจนกว่าเกมส์ที่คุณชื่นชอบจะได้รับการเขียนขึ้นใหม่
่ให้สนับสนุนโพรเซสเซอร์ดูอัลคอร์ในส่วนของการ์ดแสดงผลที่ดีที่สุดสำหรับเกมที่เล่นกันทุกวันนี้ แนะนำให้มีหน่วยความจำ
บนการ์ดอย่างน้อย 128MB และมีหน่วยประมวลผลกราฟิกแยกต่างหาก เพื่อสนับสนุนคุณสมบัติการแสดงผลอย่างเช่น
การสร้างพื้นผิว และแสงเงาของพิกเซล
นอกจากนี้ คุณอาจจะพิจารณาเลือกซื้อการ์ดแสดงผลที่เหมาะสมโดยดูจากข้างกล่องเกมที่คุณอยากเล่น ทั้งนี้ให้พิจารณาจากระบบที่แนะนำ
(recommended system) อย่าดูเสป็กที่ระบบขั้นต่ำ เนื่องจากสเป็กของฮาร์ดแวร์ที่แนะนำไว้นี้จะสนับสนุนการแสดงผลที่อัตราเฟรมสูง เพื่อให้การเล่นเกมส์ลื่นไหลไร้อาการกระตุกครับ

Processor ที่มีหน่วยประมวลผลกลาง 2 ส่วน (Dual Core) เป็น processor ที่สามารถทำงานได้สองงานในเวลาเดียวกันครับ โดยปกติ processor ที่มีหน่วยประมวลผล 1 ส่วน (Single Core) จะทำงานได้หนึ่งงานในเวลาหนึ่งๆ (ยกเว้นเฉพาะกรณี Hyperthreading - Intel ซึ่งสามารถทำงานได้สองงานในเวลาหนึ่งๆ โดยการจะทำงานได้นั้นต้องดูสถานะการประมวลผลปัจจุบันของ processor ว่างานที่ทำนั้น ต้องแยกกันไปทำในหน่วยการทำงานที่ต่างกันใน processor ครับ - งานในที่นี้คือ thread ครับ ไม่ใช่ process)
การจะใช้งาน dual core ได้นั้น software operating system - OS ต้องสามารถรองรับการทำงานกับ processor ได้ด้วยนะครับ (ปัจจุบัน Windows, Linux & Unix รองรับการทำงานได้ครับ)
รายละเอียดเพิ่มเติมอีกนิด ในการทำงานของ processor แบบ dual core นั้น สามารถทำงานโปรแกรมหนึ่งๆ (Process) พร้อมกันทั้ง 2 คอร์ได้ เนื่องมาจาก 1 process สามารถแบ่งย่อยการทำงานออกได้เป็นหลายๆ thread ดังนั้น ถ้าหากว่างานที่ทำมีหลาย thread ที่สามารถทำงานพร้อมกันได้ ก็จะสามารถทำงานให้โปรแกรมนั้นทำงานได้เร็วขึ้น (แบ่งกันทำงานคนละคอร์) ครับ และ dual core จะไม่สามารถทำงานได้เร็วขึ้น ในกรณีที่ thread ต้องอยู่ในสถานะงานแบบ synchronization (งานที่ต้องมีลำดับขั้นแน่นอน ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้)

Dual Core Technology

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า Core 2 Duo ก็คือ Dual Core นั้นแหละ
(ที่จริงแล้วเมื่อก่อนจะเรียก Pentium D ว่า Double Core นะ เพราะว่าเหมือนเอา Core 2 Core มาวางบน Die เดียวกันเท่านั้น)

Core 2 Duo นั้นคือ Dual Core รุ่นใหม่จ้ะ จึงเปลี่ยนชื่อจาก Pentium D มาเป็น Core 2 Duo(เหมือนกับสมัยที่เปลี่ยนชื่อจาก Pentium 3 เป็น Pentium 4 น่ะจ้ะ)

ที่เปลี่ยนชื่อเพราะว่าโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมของ CPU มีการเปลี่ยนแปลงไปจ้ะ

อย่าง Pentium D นั้นไม่มีอะไรต่างจาก Pentium 4 เลย พูดง่ายๆคือเอา Pentium 4 2 ตัวมาใส่รวมกันบน Die เดียวกัน

แต่ Core 2 Duo นั้นแตกต่างออกไป ซึ่งเกือบจะยกเครื่องใหม่เลยก็ว่าได้นะ ซึ่ง INTEL ได้ใส่เทคโนโลยีใหม่เข้าไป เช่น

Intel® Wide Dynamic Execution : โครงสร้างการทำงานนี้ จะเป็นการรวมเข้าด้วยกันระหว่างหน่วยการทำงานต่างๆ เช่น ชุดวิเคราะห์ข้อมูลและคาดเดาข้อมูลล่วงหน้า ซึ่งภายในโครงสร้างนี้ แกนหลักแต่ล่ะแกนของ CPU สามารถประมวลผลได้ถึง 4 คำสั่งต่อ clock ซึ่งปกติจะแค่ 3 คำสั่งต่อ clock และยังมีช้อดีคือ การจัดการคำสั่งที่ยืดหยุ่นจ้ะ และยังมี Micro Op Fusiom รวมอยู่ในนั้นด้วย ก็คือตัวถอดรหัสชุดคำสั่งสามารถรวมชุดคำสั่งที่คล้ายกันเป็นอันเดียวได้ แล้วค่อยส่งไ
ปยังชุดประมวลผล
ทำให้ลดภาระการทำงานของ CPU ได้จ้ะ

Intel® Advanced Smart Cache : คือ Core 2 Duo ได้ทำการรวม Cache L2 เข้าด้วยกัน ซึ่งทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น เนื่องจากถ้าแกนใดแกนไม่ได้ใช้งานก็สามารถให้อีกแกนหนึ่งนำมาใช้งานได้จ้ะ ซึ่งจาก Pentium D นั้นจะมี Cache เป็นของตัวเองในแต่ละ Core

Intel® Advanced Digital Media Boost : คือ Core2Duo นั้นได้ทำการเพิ่มประสิทธิภาพในการคิดคำนวนทางด้าน video, speech and image, photo processing, encryption, financial, engineering และ scientific ซึ่งสามารถประมวลผลได้ขนาดถึง 128 bit ซึ่งต่างจาก Pentium D ที่ทำได้เพียงครั้ง 64 bit ซึ่งต้องใช้ 2 clock ถึงจะทำงานครบ 128 bit จ้ะ

Intel® Smart Memory Access : เทคโนโลยีนี้ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพโดยการ ปรับปรุง Bandwidth บัสระบบ และหน่วยความจำ ซึ่งมันจะลดความล่าช้าในการเข้าถึงข้อมูล ที่อยู่ใน Memory เมื่อ CPU ต้องการ

อธิบายเพิ่มเติม กล่าวคือ หลังจากชุดคำสั่งแรกถูกส่งไปยังหน่วยความจำ(RAM) CPU จะเรียกชุดคำสั่งต่อไปในทันทีโดยไม่รอให้มีการบันทึกผลข้อมูลแล้วส่งกลับมา เสียก่อน และะมี Algorithm คอยตรวจสอบว่าข้อมูลใหม่นั้นซ้ำซ้อนกับข้อมูลเก่าหรือไม่จ้ะ ถ้าใช่ก็จะหยุดย้อนกลับโหลดข้อมูลใหม่ๆอีกที ด้วยเทคนิคนี้ทำให้มีความหน่วงน้อยลงจ้ะ

Intel®Intelligent Power Capability : เทคโนโลยีนี้จะช่วยในการประหยัดไฟนั้นเองจ้ะ คือ CPU สามารถเปิดปิดโครงสร้างในส่วนต่างๆอย่างชาญฉลาดและกำหนดการใช้พลังงานอย่าง เหมาะสม

Intel® 64 : Core2duo นี้สามารถใช้ประโยชน์จาก โปรแกรมที่เป็น 64-bit และ Microsoft Window Vista OS<!--QuoteEnd--><!--QuoteEEnd-->

www.community.thaiware.com/index.php/topic/316022-dual-core-adh-core-2-dual-ueoananaeiedhan

 

Core Duo แตกต่างกับ Core 2 Duo อย่างไร

www.thaicyberpoint.com/ford/blog/id/257/
เรื่องนี้คงเอาคราว ๆ พอ ไม่ได้ลึกมากมาย แต่ถ้าใครอยากได้ลึกถึงรายละเอียดกว่าที่ผมเขียน ก็เข้าไปอ่านตามลิงส์ที่ผมทำไว้เพื่อเพิ่มรายละเอียดได้ครับ
ใครที่ไม่ทราบเรื่อง Hardware ใน Computer มากนักแนะนำให้หาข้อมูลเพิ่มตาม ลิงส์ที่มีอยู่นะครับ
ข้อแตกต่างของคำว่า Solo กับ Duo ก็คือ Solo เป็น CPU แบบ Single Core และ Duo เป็น CPU แบบ Dual Core โดยถ้าใน Intel Core 2 Solo จะไม่มีคุณสมบัติ Intel Advanced Smart Cache (การแชร์ L2 cache เพื่อใช้งานร่วมกันของ Core CPU ใน Multi-core CPU) ส่วนนอกนั้นมันก็เหมือน ๆ กัน [Core Solo and Core Duo]
Core 2 Duo เป็น Hybrid CPU ระหว่าง 32bit และ 64bit CPU มันคงไม่เพียว ๆ แบบ Itanium เพราะ Core 2 Duo มันเป็นทั้ง x86 (32bit เดิม) และ x86-64 (EM64T) โดย Core 2 Duo ที่ใส่ใน Notebook มี codename ว่า Merom เป็นใช้สถาปัตยกรรมแบบ Intel Core microarchitecture โดยผลิตแบบ Dual Core และเทคโนโลยีแบบ 65 nm, เพิ่ม Supplemental Streaming SIMD Extension 3 (SSSE3) เข้ามาในชุดคำสั่งบน CPU ด้วย โดยเพิ่มขึ้นมาอีก 16 ชุดคำสั่ง และยังได้เพิ่ม Intel Advanced Smart Cache เพื่อเข้ามาช่วยจัดการข้อมูลใน L2 Cache ที่แชร์การใช้งานกันอยู่ และมีอย่างอื่นอีกเช่น Intel Wide Dynamic Execution, Intel Intelligent Power Capability, Intel Smart Memory Access และ Intel Advanced Digital Media Boost เป็นต้น ส่วนอื่น ๆ อ่านที่ Intel : Inside Intel Core™ Microarchitecture Setting New Standards for Energy-Efficient Performance ครับ
ส่วน Core Duo ที่มี codename ว่า Yonah ใช้ Pentium M microarchitecture แต่ดันใช้ชื่อ Intel Core ให้สับสนกันเล่น ๆ ซะงั้นอ่ะ ซึ่งเป็นการ Rebranding ตัว Pentuim M ใหม่ และให้มีความเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อยนั้นก็คือเปลี่ยนการผลิตจาก 90nm ใน codename Dothan มาเป็น 65nm และเพิ่ม SSE3 ลงไปใน CPU codename ดังกล่าว แถมด้วยเพิ่ม L2 Cache บ้างในบางรุ่น (ส่วนใหญ่จะรุ่นสูง ๆ ) ซึ่ง L2 Cache ที่อยู่ในรุ่น Core Duo นั้นไม่ได้ใช้ Intel Advanced Smart Cache ซึ่งทำให้ L2 Cache นั้นถูกแยกออกมาใช้ในแต่ละ Core Processor ทำให้เกิดการดึงข้อมูลซ้ำซ้อนกันได้ ซึ่งก็ต้องถูกแก้ปัญหานี้โดยใช้ Intel Advanced Smart Cache ในสถาปัตยกรรมแบบ Intel Core microarchitecture นั้นเอง ซึ่งเจ้า Core Duo นั้นก็ยังคงมีความเป็น Pentium M microarchitecture มากกว่า Intel Core microarchitecture อยู่ดี
โดยสรุปได้ย่อ ๆ ว่าสิ่งที่แยกระหว่าง Pentium M microarchitecture และ Intel Core microarchitecture คือ EM64T, SSSE3 , Intel Advanced Smart Cache, Intel Wide Dynamic Execution, Intel Intelligent Power Capability, Intel Smart Memory Access และ Intel Advanced Digital Media Boost เป็นต้น
รายละเอียดความแตกต่างของทั้ง Intel Core Solo/Duo และ Intel Core 2 Solo/Duo มีดังนี้
Core Solo/Duo

• Support CPU Speeds: 1.06 GHz – 2.33 GHz
• Support FSB Speeds: QDR FSB 133Mhz – 166MHz ~ FSB 533Mhz – 667Mhz
  
• Implementation Mobile
  - 478pins µFCPGA – Socket M (Socket479)
  - 479balls µFCBGA – Soldered on mainboard
• Instruction set Yonah: RISC – IA32 – XD – MMX – SSE – SSE2 – SSE3
• Cache : L1 64KB, L2 2MB (Independent L2 Cache)
  

Core 2 Solo/Duo

• Support CPU Speeds: 1.60 GHz – 2.93 GHz
• Implementation Desktop
  - 775lands FC-LGA4 – Socket775
• Implementation Server (Xeon Brand)
  - 775lands FC-LGA4 – Socket775 (Uniprocessor Socket775)
  - 771lands FC-LGA4 – SocketJ (LGA771, Dualprocessor Socket J และ Multiprocessor Socket J)
• Implementation Mobile
  - 478pins µFCPGA – Socket M (Socket479)
  – 479balls µFCBGA – Soldered on mainboard
• Support FSB Speeds: QDR FSB 133Mhz – 166MHz ~ FSB 533Mhz – 800Mhz
• Instruction set Merom: RISC – IA32 – EM64T - XD – MMX – SSE – SSE2 – SSE3 – SSSE3
• Cache : L1 64KB, L2 2MB – 4MB (Intel Advanced Smart Cache, Maximum 8MB in Xeon Brand)
• New Technology, Intel Advanced Smart Cache, Intel Wide Dynamic Execution, Intel Intelligent Power Capability, Intel Smart Memory Access และ Intel Advanced Digital Media Boost เป็นต้น

อ้างอิงจาก

• Wikipedia : Intel Core
  
• Wikipedia : Intel Core 2
• Wikipedia : Intel Core Microarchitecture
• The BalusC Server : Intel Core
• The BalusC Server : Intel Core 2
• Directron.com : Understanding System Memory and CPU speeds: A layman’s guide to the Front Side Bus (FSB)
• Intel : Inside Intel Core™ Microarchitecture Setting New Standards for Energy-Efficient Performance

 

สรุปได้ง่ายๆว่า

• Core เป็นชื่อ CPU ระดับกลางถึงสูง ซึ่งจะแรงกว่า Celeron และ Pentium
• Core 2 เป็นรุ่นพัฒนา Core ในแบบ 64-bit
• Solo / Duo / Quad คือ "จำนวน CPU" โดย Solo = 1, Duo = 2, และ Quad = 4
• Extreme ถ้ามีคำนี้ห้อยท้าย จะเป็น CPU รุ่นที่ Hz สูงพิเศษ และเปิดโอกาสให้ overclock ได้ เพราะไม่มีระบบล๊อก clock multiplier

ดังนั้น ถ้าเจอ CPU รุ่น Core 2 Duo แปลว่าเป็น "CPU แบบ 64-bit จำนวน 2 ตัว"
ส่วน CPU รุ่นล่าสุด ณ เวลาที่เขียนนี้ Intel เลิกใช้จำนวน Core / Hz มาเพื่อบอกสมรรถนะแล้ว
แต่เปลี่ยนมาเรียกเป็น Core i3, Core i5, Core i7 แทน
ง่ายๆเลย คือ ตัวเลขยิ่งเยอะ ยิ่งแรง
ก็ดีครับ เข้าใจง่ายดีกว่าเดิมเยอะว่าอันไหนแรงกว่า