[ATTACH] การรักษาศีลเป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญมาก กฎเกณฑ์กติกาของบุคคลที่จะเข้าสู่พระนิพพาน อันดับแรกเลยคือ...เคารพพระพุทธเจ้าจริง ๆ...
[ATTACH] เสบียงบุญของพระอาจารย์วันนี้… แม้พระอาจารย์ท่านยังไม่ประมาท เพียรสะสมเสบียงบุญอยู่เสมอ จะได้มั่นใจว่า ในทุกวันเราได้ทำความดีแล้ว...
[ATTACH] [ATTACH] วันจันทร์ที่ ๑๓ มกราคมพุทธศักราช ๒๕๖๗ เวลา ๑๙.๐๐ น. พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ...
[ATTACH] [ATTACH] วันจันทร์ที่ ๑๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เวลา ๑๘.๓๐ น. พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ...
[ATTACH] วันจันทร์ที่ ๑๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เวลา ๑๓.๓๐ น. พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒)...
[ATTACH] [ATTACH] [ATTACH] [ATTACH] วันจันทร์ที่ ๑๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เวลา ๑๒.๐๐ น. พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน...
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๘ [MEDIA]
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง เนื่องเพราะว่าลูกกิฟท์ให้เวลาคณะทัวร์ถึง ๓ ชั่วโมงด้วยกัน พวกเราก็ทยอยกันเดินกลับมา บุคคลที่ซื้อเสื้อโค้ตก็ได้ตุ๊กตา...
พวกเราทนสู้ลมหนาวได้ไม่นานก็ต้องหนีกลับขึ้นรถกันหมด และฝ่ารถติดกันต่อไปจนกระทั่งถึง "อนุสาวรีย์น้ำท่วม" ซึ่งน้ำท่วมใหญ่ในปี ๒๕๐๐ นั้น...
กระผม/อาตมภาพนั้นต้องถอดเสื้อโค้ตออกเสียก่อน เนื่องเพราะว่าเหมือนกับใส่เกราะ จะลุกจะนั่งก็ลำบากไปหมด ครั้นถ่ายจนหมดท้องตัวเบาหวิวดีแล้ว...
เมื่อเดินดูการแสดงจนจบ พวกเราก็เดินย้อนกลับมาขึ้นรถ ฝ่ารถติดของจราจรในเมืองใหญ่ ตรงไปยังสวนสตาลิน ซึ่งรถก็ไม่สามารถจะจอดได้นานเช่นเดิม...
ต้องขออภัยที่ลืมเล่าให้ทราบว่า ช่วงเช้าก่อนที่พวกเราจะเข้าไปยังเทศกาลแกะสลักหิมะนั้น ได้แวะไปที่โบสถ์เซนต์โซเฟียมาก่อน...
เมื่อคนมาครบจำนวน ทางด้านเจ้าหน้าที่ก็วิทยุเรียกให้รถรางเทียมเข้ามารับ พวกเรานั่งรถออกมาอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นทางที่เขากำลังแกะสลักหิมะกันนั่นเอง...
เมื่อเดินเข้ามาถึงข้างใน ก็ต้องรอจนกว่าคณะจะพร้อม แล้วขึ้นรถรางที่พาพวกเราตรงไปในงาน กระผม/อาตมภาพได้สิทธิ์นั่งข้างพลขับ...
เมื่อทุกคนพร้อมกันแล้ว พวกเราก็ขนกระเป๋าขึ้นรถ เป็นการแบ่งเบาภาระของพลขับ จากนั้นลูกกิฟท์ก็นำทุกคนไปแจกไอศกรีมให้คนละแท่ง...
วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศยามเช้าอยู่ที่ -๒๓ องศาเซลเซียส เมื่อวานนี้ด้วยความที่เราอยู่ที่โรงแรมโมเดิร์นโฮเต็ล...
ครั้นมาสอบถามน้องปูเป้ก็บอกว่า พวกนี้เป็นช่างชาวจีนที่แกะสลักขึ้นมา เพื่อให้แต่ละประเทศซึ่งมีนักท่องเที่ยวมานั้น...
ครั้นขึ้นรถมาแล้ว น้องปูเป้ก็ตักเตือนพวกเราทั้งหมดว่าให้จัดเต็มเลย เนื่องเพราะว่าในลานนิทรรศการน้ำแข็งนั้นหนาวมาก ผู้ที่ไม่สามารถจะทนได้ เดินอยู่...
รถของเรามาจอดที่หน้าร้านสุกี้หม้อไฟ ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าทางด้านนี้เรียกว่าอะไร แต่ว่าเป็นร้านของชาวมองโกลแท้...
ครั้นประมาณ ๑๐ โมงครึ่งของเมืองจีน พวกเราก็มาจอดเข้าห้องน้ำกัน ซึ่งเป็นร้านขายของและห้องน้ำสาธารณะ น่าจะสร้างได้ไม่นาน...
เมื่ออิ่มแล้วออกมาปรากฏว่าที่นั่งหายหมด..! โดนกองทัพประชาชนจีนยึดไปหน้าตาเฉย ไม่ว่าคุณจะวางกระเป๋า วางเสื้อโค้ตอะไรจองที่นั่งเอาไว้...
เมื่อได้เวลาพวกเราก็ตรงไปยังหมู่บ้านสโนว์ทาวน์ ซึ่งแยกเอาไว้ต่างหากส่วนหนึ่ง เรียกว่า "บ้านในฝัน" หรือว่า "Dream Home"...
ครั้นมาถึงโรงแรมซึ่งได้จองเอาไว้ แทนที่จะเบิกห้องก็แค่แจ้งเจ้าหน้าที่เขาว่ามาถึงแล้ว จากนั้นก็เอากระเป๋ากองรวมกันเอาไว้ก่อน...
เมื่อนับจำนวนครบถ้วนและเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว โชเฟอร์ก็นำพวกเราตรงไปยังสถานที่ซึ่งเป็นร้านค้าเครื่องกันหนาว แม้ว่าในขณะนี้จะเป็นเวลา ๔...
กระผม/อาตมภาพถ่ายรูปด้วยความเพลิดเพลินเจริญใจ ถ้ารู้สึกว่านิ้วแข็งจนไม่สามารถที่จะกดชัตเตอร์ไหว ก็ยัดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ต กำผงเคมีอุ่นมือ...
กระผม/อาตมภาพสองคนกับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ., ดร. อัดขึ้นไปบนสโนว์โมบิล ๑ คัน แล้วเจ้านั่นก็บินไปจริง ๆ ด้วยความเร็วน่าจะเกิน ๑๐๐...
เมื่อกระผม/อาตมภาพไปถึง ยังชื่นชมว่าเป็นห้องน้ำที่งดงามสุด ๆ เนื่องเพราะว่ามีหิมะทับถมอยู่บนหลังคา หนาเป็นฟุต ๆ ดูนุ่มฟูเหมือนกับเอานุ่นมากองไว้...
เมื่อตรงไปยังสายพาน ๒ เพื่อรอรับกระเป๋า กระผม/อาตมภาพก็ขอไปเข้าห้องน้ำเสียก่อน เนื่องเพราะว่าปวดตั้งแต่อยู่บนเครื่องบินแล้ว...
ครั้นถึงเวลา ๒๑.๑๐ น. (เมืองจีน) เครื่องบินก็ลงที่สนามบินฮาร์บินไท่ผิง เมืองเฮยหลงเจียง กระผม/อาตมภาพเปิดโทรศัพท์เช็คอุณหภูมิแล้ว อยู่ที่ -๒๓...
จนกระทั่งโผล่ออกมาอีกด้านหนึ่ง และรถลากเลื่อนของคันอื่นไปกันเกือบหมดแล้ว แต่ว่าผู้ที่นั่งรถคันเดียวกับกระผม/อาตมภาพ ไม่ว่าจะเป็นป้ามอย...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา