เขาก็บอกอยู่ว่า..ดวงจิตอาวุโสยังไม่เข้าใจอีก ส่วนเราอายุ40ปี...มันอาวุโสตรงไหนกัน55555 เราไปเกี่ยวอะไรด้วย...เบอะจริง
ไม่รู้เหมือนกันว่าเล่าปังกับอาริยชนนี่รักษาอยู่ที่เดียวกันเปล่า...แต่ดูอาการคล้ายๆกันนะ...เปลี่ยนหมอและเปลี่ยนโรงพยาบาลเถอะ...อาการจะได้ดีขึ้น...
ส่วนเราจะเป็นใครนั้น ถ้าไม่ใช่คนที่ถูกส่งลงมาเกิดเป็นกลุ่มเดียวกันก็ไม่รู้หรอกว่าเราเป็นใคร.....
เดินจิตมรรคจิตให้ถึงฝั่งพระนิพพานดูสิ...จะได้รู้ว่าตัวเองเป็นใคร...จะได้รู้ว่าความสามารถและปัญญาตนมีแค่ไหน...ถ้าเดินจิตยังไม่ถึงฝั่งพระนิพพานก็อย่า...
เราจะบอกอะไรให้นะเล่าปัง...พระเจ้าจักรพรรดิ์นั้นคือพระศรีอาริยเมตไตร...ถ้าอยากรู้ว่าพระจักรพรรดิ์มีลูกเป็นพันเป็นหมื่นอะไรนั่น...ก็ไปอ่านจากประวัติ...
ดวงตาใครหนอ..
เรื่องภัยพิบัตินั้นก็จะเกิดมีอยู่ อาตมาเห็นอยู่ แต่อาตมาไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นช่วงไหน จึงขอเตือนให้ญาติโยมภาวนาพุทโธ พุทโธ พุทโธ กันไว้...
หลายคนก็อยากเป็นนั่นเป็นนี่...อยากเป็นพระยาธรรมบ้าง..อยากเป็นพระศรีอาริย์บ้าง...ทั้งๆที่ความดีตนไม่เคยสร้างให้เป็นสมบัติของใจตน "คนอยากไม่เป็น...
ธรรมะจัดสรรวันละนิด.. คนก็โง่ตามหาพระยาธรรม...คนก็โง่ตามหาพระศรีอาริย์.. ร่างกาย_จิตใจ_สติ_ปัญญา...
เพื่ออะไร..
จิตสังขารมันหมุนตามโลกอยู่ตลอดเวลา.. จิตมันหมุนเป็นวัฏจักร..หาสวิตท์แห่งวัฏจักรได้ทุกอย่างก็จบลง.....
เจ้าของกระทู้..ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นพุทธภูมิก็อย่าเสียดายชีวิต..
เกิดมาเพื่อตาย...เกิดเท่าไหร่ตายเท่านั้น...ก่อนจะตายได้ทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นหรือยัง.....
เจ้าของกระทู้ก็อย่าไปรักโลกจนหาทางออกไม่ได้...จักรวาลและโลกมันเจริญแล้วเสื่อมเป็นธรรมดา.....
อาการของฌานสี่นั้น...จิตมันจะไปหมุนอยู่ข้างใน...ปัญญามันจะหมุนพิจารณาธรรมอยู่อย่างนั้น...ทั้งจิตและปัญญามันจะทำงานของมันเอง...โดยที่เราไม่ได้กำหนดอ...
ผู้ที่เข้าถึงฌานสี่ได้ถ้ามีสติคอยสังเกตุอาการตอนจิตถอนออกมาจากฌานในแต่ละขั้น...จะเห็นได้เลยว่ามันเป็นเรื่องยากที่คนทั่วไปจะเข้าถึงได้..
จิตสังขารมันสร้างความคิดขึ้นแล้วลากเราไปไม่หยุดหย่อน...เราไปเกาะเกี่ยวอยู่ในความคิดนั้นโดยที่ไม่รู้...
อาการของการหยุดใจ...มันนิ่งมันว่างมันไม่มีขอบเขต...มันสุขเหนือสุข...เป็นบรมสุข
จะเห็นสภาวะนิพพานได้ด้วยการหยุดใจ...ใจหยุดได้เมื่อไหร่ก็เห็นนิพพานเมื่อนั้น..
อธิบายในส่วนนี้ให้เห็นภาพชัด... สภาวะนิพพาน คือ ความสว่างที่ครอบโลกธาตุนี้อยู่...โดยความสว่างนั้นกว้างใหญ่ไพศาลหาที่สิ้นสุดไม่ได้
อันนี้คือสภาวะพ้นภพพ้นขันธ์... ผู้ฝึกจิตดีแล้วจะเห็นว่าการเกิดเป็นทุกข์...จึงไม่ติดในบุญและบาป...ปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว...
ธรรมะจัดสรร...วันนี้ก็พอสมควร แบตโทรศัพย์จะหมดแล้วขอพักก่อน
จิตแบ่งออกเป็น๒ลักษณะ จิตสังขาร๑ จิตเดิมแท้๑ ...จิตสังขารมีลักษณะรู้แล้วยึด ...จิตเดิมแท้มีลักษณะรู้เฉย((จิตเดิมแท้คือใจนั้นแหละอันเดียวกัน))
มโน คือ ใจ วิญญาณ คือ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับใจ ใจมีลักษณะรู้เฉย... วิญญาณมีลักษณะเกิดขึ้นแปรปรวนแล้วดับไป..((วิญญาณเป็นสังขาร))
ใครที่ตามรู้เสียงที่ละเอียดคงที่ไปเรื่อยๆจนสุดทาง...มันจะมีอาการดับไปแปบนึงแล้วมันจะเกิดตัววิปัสสนาญาณหรือตัวปัญญาญาณเกิดขึ้น...ตัวปัญญาญาณนี้มันถู...
เมื่อฝึกจิตจนจิตละเอียดมันจะมีเสียงหลายเสียงมากในหูในสมองนี่แหละ...มันมีเสียงที่ดังเป็นช่วงๆและมีเสียงนึงที่ดังไม่ขาดหายเป็นระดับเสียงคงที่ตลอดเวลา..
อันนี้เป็นตัวจิตสังขาร...มันมีลักษณะคิดเองของมัน...มันคิดไปไม่นานมันก็หายไปแล้วสร้างเรื่องใหม่ต่อไปไม่หยุด
อันนี้คือตัวสติ..
เจ้าของกระทู้อายุมากแล้วมั้ง...เพราะเท่าที่สังเกตุเป็นคนหลงๆลืมๆความจำสั้น...ไม่รู้ว่าเคี้ยวหมากด้วยหรือเปล่า5555...
เจ้าของกระทู้เสน่ห์แรงจัง5555....มีคนเอาเพลงมาฝากบอกรักผ่านเนต...อีกคนก็ตามเฝ้าใครเข้าใกล้เป็นไม่ได้อย่างพระจักรพรรดิราชเล่าปัง55555...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา