กลั้นลมหายใจ ไม่ใช่ทางตรัสรู้ธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 20 สิงหาคม 2013.

  1. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ไว้เจอกัน
     
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    อ้าว ที่ขอโทษนั้น ไม่ได้มีความสำนึกจากใจจริง แต่เป็นแค่อยากแสดงให้ผู้อื่นเห็นหรอกเหรอครับ?

    ตอนนี้ยังเหลือ ความอยากตีหมาจนมือชุ่มเลือดอยู่ไหมครับ?
     
  3. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    การแสดงถึงความไม่ยึดติดมันไม่สำคัญเหรอครับ ผมจะสำนึกอะไร มีอะไรที่ผมต้องสำนึก ทุกอย่างที่คุณรู้ผมเป็นคนบอกให้รู้
     
  4. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    คุณนิว หากคุณได้ธรรมจริง ผมก็จะอนุโมทนา หลายคนในนี้ก็เช่นกัน แต่มันไม่ใช่น่ะสิ

    คุณทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วที่มองคนอื่นต่ำกว่าไปซะหมด ไม่ว่าจะเอาธรรมอะไรมาสนทนา มาแสดงคุณก็ปฎิเสธหมด ต่อให้ยกพุทธพจน์มาคุณก็ปิดการรับธรรม จะเลือกรับแต่ที่ปรุงแต่งว่าใช่ ทำบุญมา ใส่บาตรมาก็ต้องมาประกาศ อยากจะบอกกับโลกกว่าเรานี้พระอริยะเจ้า แต่ใครถามอะไรยากหน่อย คุณก็ไม่สามารถตอบได้ เนี่ยมันทำตามกิเลสทั้งนั้น

    จะบอกให้พระอริยเจ้า ต้องทำลายมิจฉาทิฐิได้ ต้องหักสงสารวัฎได้ ต้องปิดอบายภูมิได้ นั้นมันผลพลอยได้ พระอริยเจ้าเบื้องต่ำเบื้องบนตามลำดับ ไม่ใช่นึกเอาเองก็จะเป็น แต่กิเลสมันลดลงตามลำดับชั้น

    พระอริยเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้มาก แต่สิ่งที่รู้แน่ ๆ คือ ปฏิจจสมุปบาท รู้อริยสัจจ์สี่ ลองถามตัวเองดี ๆ แล้วกัน
     
  5. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    แล้วการแสดงตนว่าเป็นผู้ไม่ยึดติด มีความสำคัญอะไรกับคุณเหรอครับ?

    ในเมื่อ newamazing ยังนอนกับผู้หญิง ยังตีหมา ยังเสพกามกับตนเอง ยังพูดธรรมะจากพระไตรปิฎกผิดๆ ถูกๆ ยังไม่รู้เรื่องฌานสมาธิ

    แต่ขณะเดียวกัน มีหลวงปู่ หลวงพ่อ พระอาจารย์ หลายท่าน ที่ทำได้ในสิ่งที่คุณทำไม่ได้ทั้งหมด ท่านจะแสดง หรือ ไม่แสดง การไม่ยึดติด การกระทำของท่าน มันก็บอกเอง โดยไม่ต้องป่าวประกาศอะไร
     
  6. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    อริยะมีน้อยกว่าปถุชนอันนี้คุณคิดถูก แต่ไม่ได้มีอะไรบอกว่าคุณเป็นอริยะ เอาแค่ศีลอย่างเดียวไม่ต้องดูอย่างอื่นเลย ปุถุชนถือศีลห้ากินข้าวสามมื้อ ไม่ต้องทำสมาธิเลย บรรลุธรรมง่ายๆ ได้ฌานง่ายๆ แค่กลั้นลมหายใจแค่นี้เป็นอริยะ คำพูดของคุณขัดกันเองเป็นอริยะ คุณเอาตรรกะอะไรมาคิดครับ
     
  7. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    วิญญานเข้าไปรู้สภาวะนิพพานไม่ได้ ข้อนี้เป็นเรื่องที่อริยะต้องรู้ (ญาณวัตถุ ๔๔) แต่ทำไมคุณไม่รู้ครับ
     
  8. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    อะไรอุรุเวลา อย่าเสียศูนย์ตังตรงไว้ อย่าจับโน้นจับนี้มารวมกันมันต่างกรรมต่างวาระ ขี้เกียจอธิบาย ตามสบายเลยนะบอกไปหมดแลวถ้าไม่ลองทำก็ไม่ต้องลองมีวิธีอื่นมากมาย
     
  9. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    คุณไม่ต้องอธิบายอะไรเลย คำของคุณมันประกาศความคิดของคุณอยู่แล้วครับ
     
  10. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    อ้าวท่านเรื่องทั้งหมดผมเป็นคนพูดให้รู้ไม่บิดบังเพื่ออะไรเพื่อให้คุณมาว่าผมเหรอ ผมนะยกในความจริงที่มีจริงไม่ได้สร้างภาพมาคุยกัน มีใครกล้าล่ะเห็นแต่อวดตวามดีแต่ปาก ส่วนเรื่องหลวงปู่หลวงตาเขาจะทำอย่างไรก็เรื่องของท่านเกี่ยวอะไร ส่วนเรื่องความรู้ในพระไตรปิฎกนั้นมีใครจะเท่ากัน คุณยังไม่รู้เลยว่าปีตินั้นเป็นหมวดเวทนาง่ายสุดง่ายคุณยังไม่รู้ แล้วที่แสดงมาทั้งหมดนั้นมันมั่วทั้งหมดเลยนี้ ง่ายๆยังไม่รู้ ของปลอมนี่เรานะ
     
  11. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    คุณนิวต้องเจอปิติทุกครั้งไหมครับ ในการฝึกอานาปานสติ
     
  12. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    น้อยมากก็ต้องเจอครับเพราะบางท่านอาจจะไดฌานชั้นสูงและได้วสีก็จริง แต่ก็ต้องผ่านฌานหนึ่งก่อนทุกครั้ง แต่อาจเพียงขณะจิตเดียว
     
  13. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เอาพระไตรปิฎกเล่มไหนมาพูดเนี่ย? อ่านพระไตรปิฎกผิด เลยปฏิบัติผิดทางหรือเปล่า?

    http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=12&A=1863&w=%E0%C7%B7%B9%D2%B9%D8%BB%D1%CA%CA%B9%D2
     
  14. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เตรียมตัวระเบิดตัวเองทิ้งได้เลยอินทรบุตร นักภาวนาผู้ยิ่งใหญ่ไม่รู้เสียแล้วว่าปีตินั้นเป็นสุขเวทนา ที่พูดมาทั้งหมดว่าด้วยเรื่องสูญญตาของท่าน รู้ปล่อยๆๆนี่นั้น ของปลอมนี่เราน่ะ ปีติยังไม่รู้เลย catt3
     
  15. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    คุณไม่ถูกทั้งหมดหรอกนิว
    และอินทรบุตรก็ไม่ได้ผิดทั้งหมด แถมเขามุ่งไปที่หลักสำคัญของอานาปาฯได้ถูกกว่าคุณอีก

    เพราะคุณ บอกว่าอานาปาฯ กลั้นลม แล้ว ก็เกิด ปิติ สุข เกิดฌาน ทำอานาปาฯได้ฌาน?? ไม่งั้นไม่เรียกว่าทำอานาปาฯได้ผล อย่างมากก็แค่เรียกว่ากำลังฝึก
    (จุดมุ่งหมายของอานาปาฯไม่ใช่ทำฌาน ไม่ได้มุ่งอาฌานอย่างเดียว)
    แต่ขณะที่อินทรบุตร กำลังบอกสิ่งสำคัญว่าต้องมีสติกำหนดรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นกับรูปนาม ... ลองดูว่าจุดมุ่งหมายของใครสำคัญกว่ากัน ซึ่งในอานาปานสติ หมวดกายเวทนาจิตธรรม ล้วนเน้นเรื่องสติตามรู้ธรรมชาติรูปนามตามความจริง ไม่ใช่มากลั้นลม(แล้วกายสังขารระงับ)แล้วเกิดฌาน

    มาดูหมวดเวทนาของอานาปานสติให้ดีๆ เขากำลังบอกอะไร
    การทำอานาปาให้ได้ผล
    หมายถึงกลั้นลม(ระงับกายสังขารของคุณนิว) แล้วได้ฌานหรือ ??
    หรือให้มีสติในหมวดกาย(จนกายสังขารรำงับเกิดฌาน) และแม้แต่เริ่มเข้าองค์ฌานในหมวดเวทนา สิ่งที่ต้องทำก็ต้องรักษาสติมีสติตามรู้ความจริง ไม่ต่างจากหมวดกาย เพื่อเพียรเผากิเลส ละอภิชฌาโทมนัสออกเสียได้
    ก็คือ รักษาสติทั้งในหมวดกายเวทนาจิตธรรม ฌานที่ได้เป็นโลกุตตรฌาน ไม่ใช่ฌานโลกีย์

    เพราะอานาปานสติเป็นการตามรู้รูปนามตามจริง(ตามรู้กายจิต) เป็นสติปัฏฐานสี่ ไม่ใช่ไปฝืนกลั้นลมทำฌาน เพราะไม่ใช่มาทำฌานโลกีย์(ควบคุมกายจิต)อย่างกสิณทั่วไป

    ภิกษุทั้งหลาย ! สมัยใด ภิกษุ
    ย่อมทำาการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพ�ะ
    ซึ่งปีติ หายใจเข้า”, ว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งปีติ
    หายใจออก”;
    ย่อมทำาการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพ�ะ
    ซึ่งสุข หายใจเข้า”, ว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งสุข
    หายใจออก”;ย่อมทำาการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อม
    เฉพ�ะซึ่งจิตตสังข�ร หายใจเข้า”, ว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อม
    เฉพาะซึ่งจิตตสังขาร หายใจออก”;
    ย่อมทำาการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้ทำ�
    จิตตสังข�รให้รำ�งับ หายใจเข้า”, ว่า “เราเป็นผู้ทำา
    จิตตสังขารให้รำางับ” หายใจออก”;
    ภิกษุทั้งหลาย ! สมัยนั้น ภิกษุนั้นชื่อว่า เป็นผู้
    เห็นเวทน�ในเวทน�ทั้งหล�ยอยู่เป็นประจำ� มีความเพียร
    เผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำาอภิชฌาและโทมนัสในโลก
    ออกเสียได้.

    ภิกษุทั้งหลาย ! เราย่อมกล่าวก�รทำ�ในใจเป็น
    อย่�งดีต่อลมห�ยใจเข้� และลมห�ยใจออก ว่�เป็นเวทน�
    อันหนึ่งๆ ในเวทนาทั้งหลาย
    .
    ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุนั้นในเรื่องนี้ ภิกษุนั้น
    ย่อมชื่อว่าเป็นผู้เห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจำา
    มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำาอภิชฌาและ
    โทมนัสในโลกออกเสียได้.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2013
  16. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    พวกของปลอม(คิดว่าตนจริง)เที่ยวไปว่า ใครของปลอม
    มันจะกลายเป็นเรื่องตลกกว่า
    พวกไม่ได้คิดว่าตนเป็นของจริงอะไร แต่เตือนเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

    กล่าวทั่วไปนะ
     
  17. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ในหมวดเวทนานั้แหล่ะครับที่ให้ดูความเป็นจริงของเวทนาที่เกิดขึ้นถูกต้องแล้ว ในหมวดกายนี้แหล่ะที่ไม่ค่อยมีใครเข้าใจกันไปดูลมเฉยๆ ให้ศึกษาจากพระสูตรนะครับ
    เธอย่อมทำาการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อม
    เฉพาะซึ่งกายทั้งปวง (สพฺพกายปฏิสำเวที) หายใจเข้า
    ว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง หายใจออก”
    ตรงนี้แหล่ะที่คนไปไม่ถึงกันมากคือเราจะต้องรับรู้ความรู้สึกทั่วร่างกายได้จริงๆตั้งแต่หัวจรอเท้าแล้วค่อยพิจารณารูปนามตามจริงที่รับรู้ได้ จิตที่สามารถรับความรู้สึกทั่วร่างกายได้นั้นเป็นจิตที่ฝึกฝนมาดีมีกำลัง;2 พุทธวจน
    เธอย่อมทำาการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้ทำ
    กายสังขารให้รำงับ (ปสฺสมฺภยำ กายสงฺขารำ) หายใจเข้า”,
    ว่า “เราเป็นผู้ทำากายสังขารให้รำางับ หายใจออก”;
    และตรงนี้ก็เป็นอีกเทคนิคซึ่งผู้ที่สามารถรับความรู้สึกทั่วร่างกายสามรถทำการระงับลมหายใจชั่วคราวหายใจเข้าหายใจออก จิตที่วางลงตรงช่วงนี้นั้นจะเบาและเจาะลงไปในจิตพิราณารูปนามแล้วเกิดปีติและสุขเข้าถึงฌานง่าย

    การที่เราจะมาถึงปีติ สุขนั้น เราอาจจะแค่พิจารณาลมหายใจเข้าออกเพียงอย่างเดียวก็ได้ถ้าทำให้มาก การเห็นรูปนามเกิดดับตั้งแต่ลมหายใจแรกก็มีแล้วในเรื่องปัญญา มันก็เห็นไปทั่วทั้งสาระบบของการทำงานของจักรวาลแล้วถ้าคนมีปัญญา แต่ปัญญาตรงนั้นสติสมาธิมันมีกำลังไม่มาก ฉะนั้นเราจึงต้องมีสติสมาธิที่มีกำลังสูงเราถึงต้องทำให้ได้ปีติสุขและฌานเพราะตรงนี้กว่าจะมาถึงได้จิตได้ผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนักจิตถึงมีกำลังที่จะใช้ปัญญาทำลายกิเลส ขอให้รู้ไว้ด้วย ส่วนในหมวดเวทนานั้นมันจะต้องไหลไปตามธรรมที่เกิดแล้วพิจารณารูปนามตามธรรมธรรมนั้นๆ ไ่่เห็นมีอะไร งงจัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2013
  18. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ผมสนทนากับอินทรบุตรท่านอย่าคิดมาก มีอะไรเขาก็แก้ต่างมา ผมก็โดนเขาว่าผมก็แก้ต่างไปเท่านั้น อย่าปรุ่งแต่งมากจนดูคนอื่นเป็นคนไม่ดี
     
  19. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    คำสอนนั้นดีและมีคุณค่าในตัวคำสอน แม้พ่อแม่ครูอาจารย์ก็ควรเป็นผู้ควรแก่การสรรเสริญ แม้ตัวลูกศิษย์ก็นับได้ว่าเคารพนับถือพ่อแม่ครูอาจารย์ ในสมัยพุทธกาลพระสงฆ์จะสาธยายธรรมโดยสรรเสริญพระพุทธเจ้า "ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคฯ..." แล้วสาธยายธรรมไปจนจบ. สมัยนี้มีสำนักหนึ่งประกาศว่าไม่ต้องฟังคำสาวกให้ฟังแต่พระพุทธเจ้า แต่ลูกศิษย์ของสำนักนี้กลับนำคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์มาโพสต์ โดยไม่บอกที่มา ว่าเป็นคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ ทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคำกล่าวของตน การกระทำเช่นนี้ผมถือว่าไม่ให้ความเคารพและสรรเสริญพ่อแม่ครูบาอาจารย์ คุณบอกว่าเป็นสาวกภูมิดังนั้นคุณควรพูดคำสอนของพระศาสดา ควรพูดคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ ไม่ใช่เอาคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์มาโพสต์แล้วไม่บอกที่มา ทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดเป็นบาปกรรมไม่ใช่น้อยครับ
     
  20. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ตามความรู้สึกทั่วร่างกายได้จริงๆ
    แล้วคุณใช้เทคนิคกลั้นลม(ฝืนธรรมชาติ) แล้วจะรู้ตามจริงได้อย่างไร

    หรือทำอานาปาฯแค่สมถะเอาฌาน ไม่รู้รูปนามตามจริง
    มันก็เป็นฌานโลกีย์..ได้แค่นั้น

    ว่าแต่ไอ้การกลั้นลม มันได้ฌานจริงเหรอ ถ้าคุณมัวแต่กลั้นอยู่อย่างนั้น
    ดังนั้น กลั้นทำไม เพื่ออะไร
    อาจจะมีประโยชน์ในตอนแรกที่สติยังน้อย ก็เรียกจิตเอามาอยู่กับลมแค่นั้น แล้วก็คงไม่ทำไปตลอด ไม่ใช่เป็นระงับกายสังขารอย่างที่คุณบอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...