ขอค้าน หลวงพ่อเกษม อาจิณสีโล

อริยสัจ 4 อันประเสริฐ
.......................
ปฏิบัติเถิด เกิดธรรม นำมรรคผล
.......................
ปฏิบัติเถิด คือหนทาง พ้นอับจน
......................
เกิดเป็นคน คิดเห็น เป็นเจรจา (อย่าด่ากัน)..สุนทรภู่ฝากมา

 

ที่จริงแนวทางการโอนบุญ เบิกบุญทั้งหลานที่ได้ท่านแนะนำ
ก็คือการ จัดสรรความคิดหรือคำพูดให้เป็นระเบียบและ แสดงเจตนาชัดเจนการอุทิศส่วนกุศลมากว่า อย่งอื่น
ข้อดีคือ ทำให้กำลังใจของผู้กล่าวมีสมาธิที่ดี มีกำลังใจดีขึ้น
ไม่สับสน สะเปะ สะปะ ทำให้การอุทิศส่วนกุศลมีกำลังพลังงานมีจิตส่งที่ดี
ซึ่งเป็นหลักปัจจัยทั่วไป อาจจะต่างจากการกรวดน้ำเบบเดิมๆ ที่เราคุ้นหูกัน

แต่ก็หวังว่า คงไม่มีคำว่า ดอกเบี้ยบุญ, ATM บุญ หรือว่า ไฟแนนท์ยึดบุญ ก็ OK ล่ะ

 

พูดมาแบบนี้ก็ดี ผมจะได้เสริมเลยว่า สมัยก่อน ไม่มีการโอน ไม่มีการเบิก เนื่องจาก มนุษย์ยุคนั้นไม่มีธนาคาร
จะถือเอาว่า บุญ เบิกได้ โอนได้ เป็น ธรรมไม่ได้
แนวความคิด ที่ว่า บุญมี เก็บสะสมไว้ และนำมาเบิกได้ เกิดขึ้น เมื่อมนุษย์มีทรัพย์สมบัติมากๆ จึงได้มีการรับฝากแบบธนาคารเกิดขึ้น เพื่อรักษาทรัพย์

ทีนี้ หากว่า บุญเรา เบิกได้โอนได้ มันก็ต้องมีคนขโมยได้บ้างแหละ ต่อไปก็คงมี วิชาขโมยบุญ
นี่ จะเห็นได้ว่า มันปฏิรูป คือ อาศัยการสังเกตุการณ์ในยุคปัจจุบัน สภาวะปัจจุบัน แล้วเอาไปเป็นธรรม

มีหรือ ที่พระอริยเจ้า จะสอน ธรรมอันเป็นปฏิรูปแบบนี้
ก็ อะไรที่เป็น ธรรม ต้องเป็น อกาลิโก ไม่ขึ้นอยุ่กับสภาพเวลา และ สถานที่
ก็ฝากไว้เท่านี้

และ อย่านำคำพูด ที่ไม่เป็นอกาลิโก ไปสอนคนอื่น เพราะมันบิดเบือนธรรมของพระพุทธองค์
คำสอนของ พระเกษม บกพร่องอย่างมาก และ ไม่ได้บกพร่องโดยสุจริต แต่ บกพร่องโดยทุจริต

 

อ่าน หรือฟังดีๆ พิจารณาให้แตกฉานครับ

มันไม่ได้มีแค่ เรื่องบุญ อย่างที่เข้าใจกัน

ลองปฎิบัติดู ครับ ^_^

 

คุณ nutman ทำอย่างกับ ร้านขายของโชว์ห่วย หรือพวก directsale เลยนะครับ ดูให้ดีก่อน ถ้าท่านไม่ชอบ คำสอนเรื่องบุญ เรามีเรื่องอื่นให้ท่านพิจารณานะครับ คำว่า ธรรมะนี้ มันมีถูกอย่างหนึ่ง ผิดอย่างหนึ่งด้วยหรือ

 

ไม่ใช่หรอกครับ ท่าน ไม่ได้มาโชว์ห่วยอะไร

แต่ทุกอย่างมีถูกมีผิด ดูเจตนา และผลของมัน

ภูมิธรรมแต่ละคนไม่เหมือนกัน การสอนก็จะต่างกัน

ก็ของพิจารณาดูครับ

อ่านน้อยๆ ปฎิบัติให้มากๆ บอกไปมันจะเป็น วิปัสสนึก สะหมด นึกว่าเป็นอย่างนู้น อย่างนี้

มันก็เลยเกิดปัญหาอย่างนี้ ^_^

คำว่าธรรมะ ก็เหมือนกัน ลองศึกษาดีๆ ^_^

 

กระทู้คุณภาพ อนุโมทนาในความเป็นสัมมาทิฐิ และ หนทางแห่งมรรคครับ _/|\_

 

ในทางโลกียะ ทำบุญไปเพื่อเอาเข้าตัวมากกว่า
ทานและศีล เป็นไปเพื่อ สวรรค์สมบัติ มนุษย์สมบัติ
หากมองดีๆ ก็ยังเป็นกิเลสอยู่ ยังไม่ถึงพระนิพพาน

ภาวนาสิ บุญใหญ่ เป็นไปเพื่อละ.

 

หัวใจสำคัญจริงๆ ของศาสนาพุทธ คือ ทำดี ละเว้นชั่ว

อย่างอื่นเป็นเพียงสิ่งรอบทาง

หากเปรียบแก่นของศาสนา คือ จุดหมายปลายทาง

สิ่งรอบทาง ก็เป็นเพียงสิ่งล่อใจ ให้ผู้เดิน มีกำลังใจและมานะ

ที่จะเดินต่อไปเรื่อยๆ ให้ถึงจุดหมาย

เมื่อผู้นำทาง เห็นว่าผู้ตามนั้นไม่มีมานะที่จะเดินต่อให้ถึงจุดหมาย

ก็หาสิ่งล่อใจมาล่อให้เดินต่อ เมื่อเห็นว่ามีมานะพอที่จะเดินต่อ

ก็ตัดสิ่งรอบทางออกไปเรื่อยๆ ไม่ให้เสียเวลาเดิน

หากเมื่อใดที่ท่านยังสอนให้ทำดีละเว้นชั่ว ก็ไม่ต้องไปสนใจสิ่งรอบทางหรอก

ครูสองคนสอนให้เดินต่างกัน เพราะสอนต่างคน ต่างกาล ต่างเวลา ต่างสถานะ

แต่หากไม่ละทิ้งจุดประสงค์เดิมที่เป็นแก่นแท้จริงๆ ท่านก็ยังคงเป็นผู้ชี้ทางที่น่านับถืออยู่

 

มาช่วยเติมคุณเกาฉี ตกไปท่อนนึง
1)ทำดี 2)ละเว้นชั่ว อย่าลืมอันที่สำคัญที่สุด 3) ทำจิตใจให้บริสุทธิ์
(f)

 

คนธรรมแตกคืออะไร?<o></o>
คือ คนที่ร่ำเรียนทางปริยัติมากเกินไป แล้วเกิดอาการฟุ้งซ่านสับสน จับต้นชนปลายไม่ถูก จากนั้น ก็ถูกจับ ถูกแนะนำให้ปฏิบัติใหม่ แต่ด้วยความกลัวเสียหน้า จึงรีบปรับเปลี่ยนตนเองแต่ภายนอก เปลือกนอกดูคล้ายกับว่าปฏิบัติได้ อธิบายธรรมถูก แต่ภายในจิตใจกลับไม่ได้พัฒนาเลย ลักษณะของคนธรรมแตก จึงมักมุ่งไปทางการเสริมสร้างความเชื่อมั่น หรือความมั่นใจในตนเองจากภายนอก เช่น การเอาชนะคะคานผู้อื่นในการเถียงธรรม การจับผิดคนอื่นที่เขาไม่นิยมจะต่อสู้ด้วย เพื่อจะฉวยเอาชัยชนะได้ง่ายๆ เช่น การจับผิดพระอรหันต์ที่ท่านไม่ยึดมั่นถือมั่นในเรื่องที่ใครจะมาเชื่อถือตน พระอรหันต์แบบนี้จึงเป็นเป้าหมายที่หอมหวาน ที่จะให้คนธรรมแตก มุ่งจู่โจมทำลาย เพราะพระท่านไม่ปรารถนาให้ใครมาเชื่อ และไม่สนใจว่าใครจะมาศรัทธา จึงไม่แก้ต่าง แล้วปล่อยวางตั้งแต่แรก คนธรรมแตกจึงได้ก่อกรรมหนักแก่ตัว แล้วนำพาตนเองลงสู่อบายภูมิอย่างที่ไม่มีผู้ใดฉุดรั้งได้ ทั้งๆ ที่ตอนเริ่มต้น อาจเป็นคนที่นิยมทำบุญ เข้ากับคนในสังคมบุญได้ดี มีคนนับหน้าถือตา มีคนเชื่อถือ และเกรงใจ ไม่มีใครกล้าต่อว่าหรือทัดทานได้ สิ่งเหล่านี้ ทำให้เขาหลงคิดไปเองว่าตนทำได้ดี ตนทำสำเร็จ ตนถูกต้อง ทั้งที่จริงตรงกันข้าม เพราะไม่มีใครกล้าทักท้วง หรือเพราะตนเองมีอำนาจมากจนไม่มีใครวิจารณ์นั่นเอง

 

กระทู้นี้ ทำไมยาวจัง............................................

 

อ้าว คุณนักเดินทางด่าผมนี่หว่า

พระอรหันต์ที่ว่านี้ คือ ท่านไหน

คนที่ว่ามีอำนาจ นี่ใคร ผมหรือเปล่า และผมไปมีอำนาจตรงไหน
แล้วคนที่มาเถียงผมปาวๆ นี่ใครไปห้ามเมื่อไร
ก็เห็นมาเถียงกันตั้งหลายคน แล้วก็ไปกันหมด คงเป็นเพราะขี้เกียจเถียงกับผมมั้ง

แม้กระทั่งด่า ยังด่าอ้อมๆ เลย แล้วผมไปกร่างเมื่อไร ผมไปท้าตีท้าต่อยใครหรือเปล่า มีแต่คนท้าตีท้าต่อยแจกเบอร์โทรผม

มีอยู่อย่างเดียวคือ แพ้ทางธรรม โดนตีด้วยธรรมจนหนีกันไปเอง

 

กระทู้ยังไปได้เรื่อยๆหนอ

 

ถูก...ของมัน

 

ถึงคุณ ขันธ์
กระผมรู้ครับว่าคุณ ทำดี ทำตาม ศึกษา
แต่ ทว่า ของอย่างนี้ ท่านลองหรือยังคัรบ

ผมลองทำ แล้ว และทุกวันนี้ก็ ทำอยู่

ที่ท่านสอน ท่าน สอน แก่ ปถุชน คนธรรมดา ที่ไม่ได้ศึกษามากอย่างท่านครับ
ที่ท่านสอน ท่านสอนจากฐานครับ คือให้รักษา ศีลให้เป็นปกติและละ กังวล 10
ก่อน
** ขออำนาจพุทธ ธรรม สงฆ์ จงบรรดาลบุญของข้า แก่เทพผู้รักษา แก่นายเวร แก่ญาติ และเชื้อโรค ของข้า **
เกือบทุกเวลาที่ทำ
++ ผล สำหรับผล
- เกิดความเมตตา มากขึ้นแม้แต่ยุงที่เคยตบกระจายก็ไม่อยาก
- เกิดความอยากให้แก่ทุกคน
- เกิดความละอายต่อบาป
- พึ่ง พุทธ ธรรม สงฆ์ อย่างแท้จริง ไม่ใช่พระเครื่องของขลัง
ผมสามารถ ถอดพระที่ตาผมให้แต่เด็กทั้งที่เมื่อก่อนนี้ ไม่เคยถอดแม้แต่น้อยถอดก้กลัวนึกไปต่างๆนาๆ ตอนนี้มี พระรัตนไตร อยู่กับใจ เหมือนน้ำอีกหยดที่ลงหม้อ ทางต่อไป มรรค แปดที่ พุทธ ท่านสั่งสอน คือหนทางที่ต้องไปแน่นอน

ผมจึงขอ อนุโมทนากับ หลวงพ่อเกษม ครับ
* พระไตรปิฎก เป็น หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่วิเศษ ที่ชี้ทาง ถูกต้อง
คือคำสอนของหลวงพ่อเกษมครับ *

ท่านผู้ใดส่งสัย เข้าเว็บไปอ่านได้ครับ
http://www.samyaek.com/ อ่านเรื่อง ขอถามชาวพุทธ
จะเทียบเคียง พระไตรปิฎก กับ ที่ท่านสอน

เรื่องน้ำมนต์ ยิ่งแล้ว
น้ำมนต์รดเท่าใหร่ไม่ช่วยคนจนกว่าคนจะคิดดีและทำดี
ควรแผ่เมตตาหรืออุทิศบุญ มากกว่า ทำร้ายนะคัรบ

เรื่องสวดมนต์ท่านว่าจะสวดก็สวด แต่ต้องเป็ฯภาษาที่ตัวเองเข้าใจ
เรื่องรักษา บาลีไว้ ถ้าจะรักษาก็ศึกษา จริงๆ ไปเลย เอาที่ว่าแปลได้
อย่างนั้น แล้วชาวบ้านอย่างเราๆ
จะเข้าใจธรรม ก็เริ่มจากง่ายๆ ก่อน
** ประมาณว่ารู้ธรรมเท่าไรก็ไร้ค่าถ้าไม่ทำ

 

ขอโทษ ต่อคุณ ขันต์ด้วยนะคัรบ

ถ้าทำให้คุณเคืองใจ

 

แล้วเชื่อโรค มันเกิดใหม่ และตายทุกวัน ไม่ใช่วันละตัว
แต่เป็นนับล้านตัวในเรา มันเวียนว่ายจากตัวเดิมหรือเปล่า
ก็คงไม่ใช่

เชื้อโรคบางตัวก็ไม่ได้มาอยู่เพื่อเอาเปรียบเรา แต่อยู่เพื่อประ
โยชน์ของเรา เช่น แลคโตบัลซิลัส แบบนี้คือ มันขาดน้ำหนัก
ไปบางประการ ทำให้เหมือนให้ไปยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งที่ไม่ถ้วน
ไม่สมบูรณ์

 

ท่านเป็นพระอริยะ อนาคามีคับไม่โกหกหรอก ระดับเข้านิโรธสมาบัติได้ก็คืออนาคามีขั้นละเอียดไง ผมไม่เคยไปหาท่านหรอกนะ แต่รู้แล้วกัน ท่านอยู่เพรชบูรณ์ ผมอยู่ชลบุรี ห่างกันไหมคับ ถ้าใครไปหาท่านฝากกราบท่านด้วย

 

อ้าวอยู่ชลบุรีหรือครับ

แล้วเคยไปวัดสวนสันติธรรมหรือเปล่าครับ

พมนะอยู่กรุงเทพ แต่คือ-นนี้มาค้างที่ชลบุรี เพื่อไป-งเทศน์พรุ่งนี้เช้า

* * * *

คียบอรดที่นี้ใช้ไม่ค่อยได้ ถ้าพิมพ์พิดตรงไหน ขออภัยด้วยครับ