ขอค้าน หลวงพ่อเกษม อาจิณสีโล

คุณขจร ผมพยายามหาในเว็บ วัดสามแยกแล้ว แต่เข้าถึงยากมาก

แทบจะไม่มีอะไรให้อ่านเลย นอกจากการปรามาสพระด้วยกันต่างๆ
นานา ผมก็พยายามข้าม ไปอ่านกระทู้ ก็ไม่เห็นมีการถามตอบเรื่อง
การทำบุญ ทำกันอย่างไร สุ่มสี่สุ่มห้าก็ถามโอนกันยังไง สัตว์ในภพ
ต่างๆมีการเบิกถอนโอนกันไหม พระก็ตอบว่า เท่าที่ได้ยิน...........

แปลกดี

เอาเป็นว่าผมถามคุณ ขจร ดีกว่า คือ ผมพยายามหาในส่วนของ
การสอนภาวนา วิปัสสนา โพชฌงค์ 7 และอื่นๆ อันเป็นธรรมของการ
เป็นโพธิ เมื่อก่อนยังพอได้อ่านสมาธิหมุนอยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีให้อ่าน
แล้ว คุณขจร ก็ช่วยแสดง หรือ หา document เกี่ยวกับ วิปัสสนา ให้
ผมดีกว่า เพราะลำพังแค่เรื่องบุญกุศลนั้น ส่งได้แค่ ภพเทวดา ยังไม่
ก่อให้เกิด ปัญญา ที่จะทำให้หลุดพ้นเข้านิพพาน

ในบทสรรเสริญสังฆคุณ ก็มีแต่สรรเสริญสงฆ์ว่าปฏิบัติดีต่อนิพพาน ปฏิบัต
ชอบต่อนิพพาน ปฏิบัติตรงต่อนิพพาน และ เข้าสู่นิพพานแล้ว นี่ก็ช่วยหา
ปัจจัยให้ผมได้สรรเสริญคุณของสงฆ์ให้ตรงพระโอษฐ์สักหน่อยเถิด

 

หลวงพ่อท่านก็บอกแล้วไงว่า ให้อ้างพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก่อน เพราะพระรัตนตรัย เป็นใหญ่ใน สามโลก เราอ้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด .....
...................
นี่คุณยังไม่ได้อ่านเลยนะนี่ มาถามนั่นถามนี่ บอกให้ไปอ่านเสียก่อน
...................
เอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ หัดวางใจให้เป็นกลางบ้าง
...................
อ่านแล้วค่อยมาคุยกันนะ....เริ่มเบื่อคุณขันธ์แล้ว

 

คุณ จร มันยากนักหรือไงหละ ที่แค่นึกว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ข้อนี้ผมก็รู้และ รู้มานานว่า หลวงพ่อพูดอะไร

แต่ที่ผมถามคือ คุณรู้ได้อย่างไร ว่า เปรตมันกินอะไร หรือ บุญคุณมีเท่าไร
หรือว่า คุณรู้ได้อย่างไรว่ามันเปลี่ยนบุญ ไปเป็นอย่างที่คุณตั้งใจ

ผมว่า แบบนี้ มันมืดมา มืดไปนะครับ
คุณเบื่อผมไม่เป็นไร หรอก ง่ายๆ คุณก็เลิกเถียงสิครับ ผมไม่ได้เถียงกับคุณ แต่ผมชี้แจง ให้คนอื่นฟัง

สรุปนะ คุณไม่ต้องมาเถียงกับผมหรอก หลวงพ่อเกษม ยังไม่มีคำตอบให้ผมเลย แล้วคุณจะมาเถียงผมได้อย่างไร ในเมื่อคนค้นพบวิชานี้ท่านยังตอบไม่ถูกเลย

 

ผมก็ไม่รู้จักหลวงพ่อเกษมหรอกนะ..แต่อยากจะอธิบายสิ่งที่เข้าใจมาดังนี้
1. บุญทั้ง 3(ปัญญา,ขันติ,จาคะ) ที่กล่าวมาย่อมให้กันได้เหมือนผู้ที่มีความรู้บำเพ็ญประโยชน์ให้สังคมโดยใช้ความคิดความสามารถที่มีอยู่(ความรู้ความสามารถก็เป็นนามธรรม)
2. การจ้างตามที่เข้าใจคงจะหมายถึงการจ้างเทวดาชั้นต่ำก้อาจหมายถึงการบนบานศาลกล่าวที่เราๆท่านๆเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ แม้แต่พระอาจารย์มั่นยังเคยกล่าวไว้ว่าบุญที่เราหยิบยืมเขามา(เทวดา) วันหนึ่งก็ต้องคืนให้เขาไป
3. การสวดมนต์นั้นแคบไปท่านคงหมายถึงคาถา หรือมนต์ดำซะมากกว่าซึ่งผู้มีสมาธิสูงแต่ไรศีลสามารถกระทำได้ จึงเป็นการสร้างเวรแน่นอน
4. พระคาถาชินบัญชร จะดีหรือไม่ถูกต้องแค่ไหนมีอานุภาพเท่าใด (ผู้ตั้งกระทู้คงจะเคยเห็นใช่มั๊ย หรือยึดมั่นถือมั่นเอาเองว่ามีอานุภาพเพียงใด) อนึ่งบทสวดเพื่อสรรเสริญพระคุณของพระพุทธงค์ก็มีหลายบท(ในอนาคตก็อาจจะมีอีก) เหตุใดจึงต้องร้อนรนไปถ้าเจ้าของกระทู้คิดว่าบทสวดชินบัญชรดีก็สวดไปสิ ไม่ต้องเดือดร้อน ส่วนท่านอาจารย์เกษมท่านคิดอย่างไรเราไม่อาจรู้ได้ผิดถูกไม่ปรากฎนี่ครับและนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเหมือนกัน ส่วนจะอาบัตินั้นผมวิเคราะห์ดูแล้วไม่ต้องอาบัติครับ
สติวิปลาส นั้นคำนี้อย่านำมาใช้ครับจะเกิดเวรแก่ตัวผู้กล่าวเอง ท่านเป็นพระแม้หากกล่าวผิดพลาดไปโดยเจตนาก็อย่างหนึ่ง ไม่เจตนาก็อย่างหนึ่ง ท่านอาจทราบแล้วแก้ไขโดยปลงอวิชชาเสียแล้ว และไม่ต้องอาบัติในประการทั้งปวง แต่ตัวท่านเจ้าของกระทู้ล่ะถูกต้องเป็นอย่างไรอย่าทึกทักเอาเพราะตรงกับใจเราดังกาลามสูตรว่าไว้ชัดแล้ว บาปกรรมเสียเปล่าๆ

 

คุณดูนะครับ ว่า หลวงพ่อเกษม ท่านมีแนวคิดที่เป็นอุปาทานที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ หาปรมัตธรรม หรือ ธรรมอันเป็นเครื่องยุติไม่เจอ

ช่วงแรกพูดวิชาโอนบุญ ตอนนี้ พูดเรื่อง ไม่ทำน้ำมนต์ ตอนหลังพูดเรื่องเปลี่ยนบุญ ย้ายบุญ จ้างเทวดา
มีการอวดอ้างสรรพคุณว่า เหาะได้บ้าง เห็นนรกสววรค์ ผีเปรตเทวดาทั้งหลับตาลืมตา

แบบนี้แหละ ที่เขาเรียกว่า ไปเรื่อย ไม่ใช่ผมไปเรื่อยนะ แต่หลวงพ่อเกษมนี่แหละไปเรื่อย

ผมถึงบอกว่า นี่แหละ พญามาร ให้รู้กันไว้ จะได้ไม่เสียเวลา

 

คุณ ขันธ์ ครับ
ไม่ต้องถึงพระอริยะ หรอกครับที่ต้องมาตอบ เอาแค่มโนมยิทธิ คนเข้าทรง
ที่ติดต่อกับพยานาคได้ เขาก็รู้ว่าวิชานี้มีอยู่ ให้เขาถามสิครับ

วิชาที่อยู่ในพระไตรปิฎกนั้น เป็นส่วนน้อยมากๆ เอาแค่เรื่องวิถีจิต ที่เราหยิบยกมากล่าวก็หนากว่า พระไตรปิฎกอีก

คนที่เรียนรู้วิชาที่ได้จากสมาธิ จะบอกว่าไม่อยู่ในพระไตรปิฎก ไม่ถูกไม่ต้อง
นั้นไม่ได้ เช่น หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ท่านเป็นก่อน สำเร็จก่อน นักบุญตำราจึงมาเปิดดูพระไตรปิฎกและเถียงกัน หลวงพ่อฤษีลิงดำ ท่านก็สอนมโนมยิทธิ ตามแบบของสมเด็จองค์ปฐม แล้วคุณขันธ์เคยเปิดเทียบพระไตรปิฎกว่ามีใหมล่ะ

ในพระไตรปิฎกคุณ ขันธ์ ต้องทำความเข้าใจว่า ท่านจะสอนเกี่ยวกับวิถีจิต และ
อารมณ์จิต ท่านไม่บอกว่า 8400 พระธรรมขันต์คือ 1 2 3 4 ฯลฯ
มีเพียงนักบุญตำราบางคนที่ยึดติดตัวอักษร เหมา เทียบ ว่าสมมุติบัญิญัติไม่ถูกต้อง พระธรรม 8400 ไม่ใช่วิชาที่แยกออก แต่เป็น ธรรมะ 8400 ประโยคที่เอามาตีความ และไม่เชื่อผู้ที่ปฎิบัติว่าได้ ไปพบพระพุทธเจ้า ไปคุยกับวิญญาน
มาเล่าให้ฟัง เพราะว่าตัวนักบุญตำราเองทำไม่ได้ เอะอะก็หาข้อพิสูจน์ให้เห็นด้วยตา อีกหน่อยยุคอภิญญาเฟื่องฟู จะเอาอะไรพิสูจน์ คุณ ขันธ์ นึกว่าตัวเอง
พิสูจน์เก่งกว่าฝรั่งหรือ ตอนนี้ ฝรั่งเองก็ยัง งง หาทางพิสูจน์นักมายากล ที่บ้าน
ตัวเองไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่เขาออกทีวีก็หลายคนอยู่..

 

1.คุณขันธ์ครับ เวลาคุณไปทำบุญที่วัดคุณขันธ์ เชื่อว่าได้บุญไหมครับ
...........
2.เวลาคุณขันธ์นั่งสมาธิ เจริญกรรมฐาน คุณขันธ์เชื่อว่าได้บุญไหมครับ
..........
3.แล้วคุณขันธ์เคยแผ่เมตตาไหมครับ.........
ตอบผมมาทั้งสามข้อครับ

 

คุณ VNOEN ครับ การกล่าวแบบนี้แหละ ที่เขาเรียกว่า พยายามทำให้ขาวเป็น ดำ ดำเป็นขาว

คุณ กำลังพยายามจะเปรียบ สิ่งที่คุณอ่านมาให้เข้ากับแนวทางของตน แบบนี้แหละเรียกว่า ตามตรรกะตนเอง ไม่ได้มองในแง่เจตนาของ คนเผยแพร่คำสอนนี้ ว่าไม่ได้มีเจตนา ตามนั้นเลย

คุณกำลังจะบอกว่า คุณ ทราบเจตนา ของ หลวงพ่อเกษม โดยเปรียบเทียบตามตรรกะคุณเอง ทั้งๆที่คุณไม่รู้จักหลวงพ่อเกษมหรือ

คุณไปอ่านแนวคำสอนของหลวงพ่อเกษมก่อนดีกว่า แล้วค่อยมาใหม่ ผมยินดีต้อนรับและให้คำตอบ และ โต้แย้งกับคุณ ทุกเมื่อ

 

ลองพิจารนาดู

พระศาสดาคราวเสด็จไปบ้านปาฏลิคาม ในแคว้นมคธ ทรงรับนิมนต์ของพระสินิธพราหมณ์และวัสสการพราหมณ์ เพื่อรับภัตตาหารพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ ครั้นแล้วพระองค์ทรงอนุโมทนาด้วยคาถาว่า “ยสฺมึ ปเทเส กปฺเปติ วาสํ ปณฺ ฑิตชาติโย” มีความว่า “กุลบุตรผู้มีชาติแห่งบัณฑิตสำเร็จการอยู่ในประเทศที่ใด พึงนิมนต์พรหมจารีผู้มีศีลสำรวมดีให้ฉัน ณ ที่นั้นแล้ว อุทิศทักษิณาเพื่อเทวดาผู้สิงสถิต ณ ที่นั้น เทวดาทั้งหลายนั้นอันกุลบุตรนั้นบูชาแล้ว ย่อมบูชาตอบ อันกุลบุตรนั้นนับถือแล้ว ย่อมนับถือตอบ แต่นั้นย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรนั้นด้วยเมตตาดุจมารดากับบุตร กุลบุตรนั้นอันเทวดาอนุเคราะห์แล้ว ย่อมเห็นผลอันเจริญทุกเมื่อ

ด้วยคาถานี้ เป็นอันว่าพระองค์ทรงแนะนำวิธีทำเทวตาพลีด้วยบริจาคทานแล้วอุทิศส่วนกุศลไป

​

 

ในไฟล์ที่คุณขจรให้โหลดมาอ่าน ทั้งสองไฟล์ หาคำว่า นิพพาน ได้ที่เดียว

แล้วที่ผมยกมาก็ใกล้เคียงที่สุดแล้ว กับ การเจริญปัญญา

แต่ออกไปแนวที่น่าแปลกใจ คือ เน้นที่การอธิษฐานส่งบุญก่อนการเจริญ ภาวนา
แล้วไม่อธิบายเลยว่า ภาวนาอย่างไร

แล้วตรงบุญเกิดจากศีล ก็เน้นที่ อธิษฐานส่งบุญก่อนแล้วค่อยนึกถึงศีลที่ทำดี
แล้ว อ้าว แทนที่จะให้แช่มชื่นในศีลที่ทำดี ไปเน้นที่การส่งบุญ

พอไปอ่านเกี่ยวกับการกรรมฐาน ก็มีแต่ เมตตากรรมฐาน + มรณะสติ นี่พึ่ง
ได้อ่านจากคัมภีร์วิสุทธิมรรค ท่านก็ชี้ว่า สองตัวนี้ส่งได้แค่ อุปจารสมาธิ ไม่
ถึง ฌาณ ถ้าไม่ถึง ฌาณ แล้วจะเข้านิพพานกันอย่างไรละนี้ เพราะการเข้าสู่
นิพพานนั้น จิต จะต้องไปรวมกับ อัปปนาสมาธิ

อ่านไปอ่านมา อย่าหาว่าผมอย่างงู้นอย่างงี้เลยนะ เหมือน พลศักดิ์ เหลือเกิน

( ขออภัยที่เอ่ยนามนะคุณใบไม้ )

 

คุณเอกวีร์ครับ
ภาวนาท่านละไว้ในฐานที่เข้าใจ
..........
แต่เจตนาของท่านคือ คุณเอกวีร์ ผมยังไม่เข้าใจ
...........
คุณขันธ์ครับตอบผมมา ครับ 3 ข้อที่ถามไป

 

เอา ไปกันใหญ่แล้ว มันพูดไปคนละทางจริงๆ

คุณ จร ครับ เรื่องบุญ มันมีอยู่ และมันก็ปรากฎกับผม ทันที ผมไม่ต้องไปแปลงอะไร ผมมีใจที่ให้ทาน จิตผมแปลเปลี่ยนไปในทางนั้นเสมอ
และ คนที่ได้รับทานผม เขาก็ได้ในทันที เขามีจิตใจเบิกบานทันที
ถ้าผมทำกับพระ พระศาสนาก็สืบต่อไปทันที

ส่วนเรื่องแผ่เมตตา ผมเมตตาทันที อภัยทาน และกุศลน้อมนำให้ผมมีจิตที่เมตตาทันที นี้คือ ส่วนแรกที่ได้ทันที
ส่วนเรื่อง พลังที่แผ่ไป ผมก็ย้อนถามว่า น้ำฝน เปลี่ยนไปเป็นข้าวได้ไหม


สำหรับ คุณ ขุนพล เรื่อง มโนมยิทธิ มีอยู่ในพระไตรปิฎกครับ
เรื่อง ธรรมกาย ของหลวงพ่อสด มีในพระำไตรปิฎก แต่ว่า ไม่ใช่ความหมายที่วัดธรรมกายทำกัน นั่นเป็น อาโลกสิณ

84000 พระธรรมขันธ์ มีครบถ้วน หรือคุณจะบอกว่า พระอรหันต์ที่มาประชุมกันหลายๆ องค์ เพื่อสืบต่อพระศาสนา กำลังตกหล่นเรื่อง วิชาโอนบุญ

 

เรื่องจ้างเทวดา ครับคุณขันธ์

"เด็กน้อย เนื้อตัวมอมแมม ถือเงินเหรียญ 2 บาทวิ่งมาหาหมอ
พลางร้องให้ไปพลาง บอกว่า ช่วยแม่ผมด้วยครับ ลุกไม่ได้ เป็นไข้ไม่สบายมาหลายวันแล้วผมอยู่กันสองคน ทั้งบ้านมีเงิน 2 บาทนี่ล่ะครับ แล้วหมอก็เลยไปช่วย ฉีดยาให้ยา จนแม่เด็กหาย."

ถามว่า หมอ ต้องการค่าจ้าง 2 บาทถึงไปรักษายังงั้นหรือ
เทวดา เห็นแก่บุญที่คนมาจ้างเพียงน้อยนิด ถึงไปช่วยเขาหรือ

คุณ ขันธ์ คิดให้ซึ้งนะครับ

หมอได้เงิน เพียง 2 บาทเท่านั้นหรือ
เทวดา ที่คนบอกว่าจ้างไป ได้บุญ แค่ที่เขาจ้างเท่านั้นหรือ

 

แม้แต่ใจของตัวเองยังตามไม่ทัน
ยังเที่ยวจะไปจับผิดผู้นั้นผู้นี้

ไส้เดือน......

 

เจตนาผมก็คือ เมื่อเกิดการวิวาทเรื่องพระธรรมที่พระพุทธองค์สอน

พระพุทธองค์ให้ตรวจในการสอน โพธิปักขยิธรรม ของสงฆ์นั้นๆ

ถ้าตรงพุทธพจน์ ตรงต่อนิพพาน ไม่พาไปทางอื่นเสมือนทางนั้น
ยิ่งกว่านิพพาน ก็ให้สรุปความลงได้ ว่าสงฆ์นั้นมีคุณธรรม 1 ใน 4
ตามบทสรรเสริญสังฆคุณหรือไม่

ถ้าไม่ พระพุทธองค์ให้สรุปว่าเป็น .................

 

คุณ จร ครับ เรื่องบุญ มันมีอยู่ และมันก็ปรากฎกับผม ทันที ผมไม่ต้องไปแปลงอะไร ผมมีใจที่ให้ทาน จิตผมแปลเปลี่ยนไปในทางนั้นเสมอ
และ คนที่ได้รับทานผม เขาก็ได้ในทันที เขามีจิตใจเบิกบานทันที
ถ้าผมทำกับพระ พระศาสนาก็สืบต่อไปทันที

ส่วนเรื่องแผ่เมตตา ผมเมตตาทันที อภัยทาน และกุศลน้อมนำให้ผมมีจิตที่เมตตาทันที นี้คือ ส่วนแรกที่ได้ทันที
ส่วนเรื่อง พลังที่แผ่ไป ผมก็ย้อนถามว่า น้ำฝน เปลี่ยนไปเป็นข้าวได้ไหม
........................
1.คุณขันธ์ คุณบอกเองว่า บุญมีอยู่
2.และยอมรับว่ามีบุญแน่นอน
3.คุณยอมรับว่าคุณแผ่เมตตา
.........................
1.คุณว่าบุญมีอยู่ ผมอยากถามว่า มีอยู่ที่ได บุญรูปร่างเป็นอย่างไร แสดงมาให้ผมเห็นหน่อย ผมอยากเห็น
2.คุณยอมรับว่าบุญมีแน่นอน ใส่ถุงเอามาให้ผมดูด้วย ผมยังไม่เคยเห็นบุญ
3.คุณบอกแผ่เมตตา เมตตาของคุณขันธ์หน้าตาเป็นยังไง รูปพลังบุญของคุณขันธ์ หน้าตาเป็นอย่างไร ช่วยเอามาให้เพื่อนคนอื่น ได้ดูเป็นธรรมทานด้วย.....คุณแผ่เมตตาไป เขาได้รับหรือไม่ เขาได้รับเมตตาจากคุณขันธ์ยังไง
คุณแน่ในยังไงว่าแผ่ออกไปแล้ว อะไรออก และเขาได้รับอะไรจากคุณ...ถ้าไม่รู้คุณแผ่ทำไมครับ..................
....................................
คุณบอกจิตคุณแปรเปลี่ยนได้ จิตคุณหน้าตายังไงครับ
และแปรเปลี่ยนเป็นอะไรได้ครับ....
คุณก็ช่วยตอบคำถามผมก่อนนะครับ..คุณขันธ์

 

อย่าว่า อย่างนู้น อย่างนี้ เลย นะ ครับ
(มันจะเข้า ข่าย ความรู้ ท่วมตัว เอา หัว ไม่รอด หรือ เปล่า อ่า)

เขา ก็ สอน ให้ ปล่อย วาง อย่า ยึด ถือ เป็น ตัว เป็น ตน

แล้ว จะ ศึก ษา ปะ ติ บัด กัน ไป ทำ ไม เอ่ย ถ้า ไม่ ใช่ เพื่อ ปล่อย วาง

 

ลึกซึ้ง ง่าย ได้ใจความ

 

เอ คุณขันธ์ครับ ผมคงอ่านตกไป กรุณาบอกด้วยครับว่า
พระไตรปิฏก บอกว่า นี้เป็นการฝึกการปฎิบัติเรียกว่ามโนมยิทธิ
อยู่เล่มไหน หมวดไหน หน้าไหน หรือว่า เห็นการสอนวิถีจิตแล้วใกล้เคียง
กับการฝึกมโนมยิทธิ แล้วเหมาว่า นี่ล่ะมโนมยิทธิ
การฝึกแยกกายทิพย์ลงไปเรื่อยๆ ของหลวงพ่อสดเหมือนกัน ถ้าท่านไม่อธิบาย
ให้ละเอียด มีหรือคนจะเข้าใจวิถีแห่งกายทิพย์

วิชาเบิกบุญ ถ้าบอกว่าเป็นวิชาแผ่เมตตา มาแจกแจงให้ละเอียด ลึกซึ้งลงไป
ถ้าไม่ทำความเข้าใจ ก็จะขัดแย้งกับพระไตรปิฎก เหมือนยุคแรกๆของหลวงพ่อ
สด และหลวงพ่อฤษีลิงดำ ที่มีนักบุญตำราบางคนออกมาขัดแย้งครับครับ

พอมาตอนนี้นักบุญตำราที่ขัดแย้งหลวงพ่อสด และหลวงพ่อฤษีนั้นหายไปไหนหมดแล้วไม่รู้ เพราะเวลาและการปฎิบัติของเหล่าลูกศิษย์ที่ปฎิบัติตามนั้นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าเป็นไปโดยความสุข ความเจริญ แก่คนทั้งหลาย

ผมว่าให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์วิชาเบิกบุญนี้ดีกว่าครับ..

 

ทำไมผมต้องตอบข้อเหล่านี้หละครับ คุณ จรต้องตอบ เพราะคุณจรกำลังบอกว่ามันคือ รูปธรรม และโอนกันได้