ความจริงของจิต และ หลักของใจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 10 ธันวาคม 2008.

  1. แมวแหมว

    แมวแหมว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +49
    ขอขอบคุณความเห็นทั้งของคุณขันธ์และคุณคนบาป ที่ช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ ก็ต้องยอมรับว่าเดี๋ยวนี้ผู้คนมองคนที่พยายามทำความดีรักษาความดีเป็นคนโง่ เป็นคนที่จะต้องถูกเอาเปรียบ หรือนี่คือกลียุค หรือถิ่นกาขาวดังที่เขาว่า จะมีในรูปแบบเดียว มองมุมเดียว เดิน ๆ ตามกันไป โดยไม่คิดที่จะสำรวจดูว่าทางที่กำลังเดินอยู่นั้นไปทางไหน ดีหรือไม่ดี
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คุณ แมวเหมียวครับ การที่บอกว่า คนที่พยายามทำความดีเดี๋ยวนี้เป็นคนโง่
    เรื่องนี้ผมจะอธิบายให้ฟังว่า

    คนที่พยายามทำความดี เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ความดีที่แท้จริง แต่เป็นเปลือกที่เหมือนจะดี แต่แก่นนั้นมาจากความ ไม่รู้ + ความหลง + ความยึดมั่น + ตัณหาทะยาน
    ทีนี้ แม้ผลที่บังและฉาบอยู่ภายนอกจะสวยงามเพียงใด มันก็มาจากแก่นที่ผิด ดังนั้นผลที่ได้ย่อมผิดไปจากความจริงอย่างมหันต์
    คนที่ทรงเจ้า คนที่มีองค์ แล้วบอกว่า ช่วยเหลือคนอื่น ข้อนี้ก็เช่นเดียวกัน มาจากแก่นที่ผิด มาจากจิตใจตนเองที่เข้าใจผิด แล้วจะไปช่วยคนอื่น ก็ผิดทิศผิดทางไปหมด
    คุณธรรม จะเป็นเครื่องรักษาตน คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เท่านั้น ใครศิษย์ตถาคตย่อมชี้ทางทางเดียวกัน แต่หากตั้งตนอุปโลก ว่าจะช่วย ด้วย ญาณหยั่งรู้ ด้วยวิถีที่ไม่ยืนยาวและถาวร ก็เปรียบเหมือน ยาเสพติด หรือ ยามอร์ฟีนระงับความปวด ของผุ้เป็นมะเร็ง คอยแต่จะรอวันตาย ซ้ำร้ายยังทำลายความดี และความถูกต้องที่มีอยู่
     
  3. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +1,295
    คุณขันธ์


    ใบไม้ในกำมือคุณมีแล้ว เอาตัวรอดได้อยู่


    ใบไม้นอกกำมือนั้นคุณกำลังเก็บเกี่ยว


    ถูกบ้างผิดบ้างก็ปรับกันไป นี่คือ การเรียนรู้ร่วมกัน คือ การบำเพ็ญปัญญาบารมี


    ปัญญามีตั้งแต่ในกำมือถึงมากล้นทั้งป่า


    เรื่องจิตวิญญาณ เป็นเรื่องที่ต้องใช้ "เจโตฯ"
    ไม่อาจใช้ "ปัญญาวิมุติ" เพียงอย่างเดียว


    ดีแล้วภิกษุทำต่อไปเถิด หากเธอจะลองฝึกเจโตฯ บ้าง
    จะเปิดทาง ปัญญาญาณให้มากขึ้น
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คุณ คนบาป คุณต้องแยกให้ออกระหว่าง ธรรม กับ ความเชื่อที่ไม่เกิดประโยชน์และหาหลักหาเกณฑ์อะไรไม่ได้ เอามาเป็นข้อสรุปไม่ได้ ไม่มีเหตุผล ยกขึ้นมาลอยๆ นั้นเป็น สาวกของอวิชชา และ มารทั้งสิ้น
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คำว่า ใบไม้นอกกำมือ ถือเป็น วิชชาของพระพุทธองค์ แต่ท่านไม่จำเป็นต้องสอน เพราะไม่ใช่แก่นที่จะพ้นทุกข์
    และ คำว่าใบไม้ในกำมือ นั้นถือเป็นแก่น ที่จะทำให้พ้นทุกข์ ซึ่งตามปกติ คนปฏิบัติธรรมก็มีทั้งสองส่วนอยู่แล้ว แต่คงไม่ใช่เรื่อง สีลพตรปรามาส แบบ ทรงเจ้าเข้าองค์ หรือ นั่งหลับตาบอกกรรมของผุ้คน ทั้งๆที่ตนเองก็มีกรรมหนา อย่างไม่รู้ตัว

    อย่าเอาคำว่าใบไม้นอกกำมือ มาปนกับสีลพตรปรามาสเลย
     
  6. น้องนุ่มนิ่ม

    น้องนุ่มนิ่ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +176
    คุณคนบาปพูดได้ถูกจัยจัง แต่มันก็มีกรณีที่ไม่ได้รับขันธ์แล้วองค์เทพมาลงเลยก็มีนะค่ะ
    เคยเจอมาแล้ว กำลังพูดถึงพระพรหมกับคนคนนึงอยู่ ประมาณว่าสงสัยเกี่ยวกับพระพรหม
    บางอย่างสักพักพระพรหมลงมาแฝงเลยประมาณว่าเราคุยถึงท่าน ท่านรับรู้ท่านลงมาชี้แจงให้ทราบเลยอ่ะ จากคนธรรมดาปกติอยู่ๆพูดภาษาเทพ ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นร่างทรงหรือรับขันธ์อะไรเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2008
  7. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ผมมีความเห็นว่าไสยศาสตร์ไม่ใช่เรื่องน่าอาย
    คิดเสียว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม เป็นต้นแบบชุมชนเข้มแข็งก็ได้

    หากทำในฐานะงานอดิเรก อาสาสมัคร ไม่ได้รับลาภผลอะไรแบบจริงจัง
    จะศึกษาไว้ก็ไม่แปลกอะไร

    หากทำเพื่อ แลก ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
    กาม ก็เป็นลาภผลชนิดหนึ่งนะครับ
    บริวาร ลูกศิษย์ ลูกหา ก็นับเป็นลาภผลชนิดหนึ่งนะครับ

    หากทำกิจกรรมทางไสยศาสตร์เพื่อแลกลาภผลเหล่านั้น
    ก็ถือว่า เทิร์นโปร ต้องรับกฏเกณฑ์แห่ง โปร
    จะมา สะดีด สะดิ้ง ไอ้นั้นก็ไม่ดี ไอ้นี้ก็ไม่เอา ไม่ได้

    ใครข้องเกี่ยวกับไสยศาสตร์
    ก็ให้สำรวจตัวเองนะครับ
    บางท่านเทิร์นโปรแล้ว
    แต่ร่ำร้องอยากจะเอาสิทธิแบบมือสมัครเล่น
    มันคงเป็นไปได้ยาก
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ประเด็นคือ ความไม่ฝึก ไม่ตั้งมั่น ไม่ศรัทธา
    และหันหาออกนอกเส้นทาง ไม่ละเอียดในการไตร่ตรองว่าสิ่งที่เกิดกับตนนั้นคืออะไร
    แล้วเหมาเอาเองว่า คือสิ่งนั้นสิ่งนี้เรื่อยไป

    การสรุปเอาเอง ด้วยการนึกไป สิ่งนี้มีคู่มนุษย์มาช้านาน
    อะไรๆ ก็สรุปชี้ชัดไม่ได้สักอย่าง ก็เหมากันไปเชื่อกัน

    แต่สิ่งที่ชัดเจน ปฏิบัติได้กลับไปพุ่งเป้าที่ตรงนั้น แต่หันหาสิ่งอื่นที่พิสูจน์ไม่ได้
    นี้แหละ ปิดทาง

    ทั้ง ตาทิพย์ อะไรต่างๆ ดูหมอดูดวง ทรงเจ้าเข้าผี นี่ออกนอกเส้นทางไปอย่างไม่ลืมหูลืมตา ปฏิบัติสิ ทำไมไม่ปฏิบัติ อ้างนู่นอ้างนี้ ทำไม

    อ้างว่า ยังไม่ถึงเวลาบ้าง อ้างว่าปัญญาไม่มีบ้าง อ้างว่าไม่ีมีที่เหมาะสมบ้าง อ้างไปตามกิเลส

    เดี๋ยวว่างๆ จะมาอธิบายให้ฟัง ในความจริงมากกว่านี้เกี่ยวกับวิถีจิต
     
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ลองไปดูดีๆ ไปนั่งไตร่ตรองว่า สิ่งที่เจ้าที่องค์แนะนำมาเวลาพวกคุณไปหา ก็แยกออกเป็นกลุ่มคำสอนคือ

    1 ไปสวดมนต์ สะเดาะห์เคราะห์นะ มีเจ้ากรรมนายเวร ( เออ ไม่ต้องไปหาเพื่อคำแนะนำแบบนี้หรอก สวดมนต์เองทุกวันมันก็ดีแน่นอน)
    2 อดีตชาติ ไปทำร้ายเขา ชาตินี้เขาก็มาเอาคืน ต้องไปปล่อยนกปล่อยปลา ให้เจ้ากรรมนายเวร ( เออ อันนี้ คนทำบุญทั่วไปเขาก็ทำกัน บางทีทำกันมากกว่านี้อีก )
    3 คุณมีองค์นะ รับขันธ์สิ จะได้หายป่วย ( แบบนี้ปัญญาอ่อนหนักเข้าไปอีก แบบนี้หากพระมีองค์ หากใครมีองค์แล้วไม่รู้จะทำอย่างไรหละ องค์นี้ปัญญาอ่อนมาบังคับแต่ไม่บอก ว่าจะเอาอะไร )

    เอาหลักๆ 3 อย่างนี้ก่อนนะ คนเชื่อมันก็ปัญญาอ่อน ทั้งๆ ที่หลักแห่งการทำความดีที่พระพุทธองค์ สอน ก็ครอบวิธีการทำบุญทุกประการ แต่ไม่ยอมทำ ขอให้ได้โง่หน่อย เสียค่าครูสักหน่อย ให้เขาชมสักหน่อยว่ามีองค์ นี่ตื่นเต้นดีใจ ทำอย่างกับมีสมบัติที่ตัว
    ขี้และกิเลสอยู่ทั้งใจ ไม่ดูกัน เหมานึกว่ามีสมบัติ

    เดี๋ยวว่างๆ มาใหม่
     
  10. neung48

    neung48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +457
    จาหาทำมัย ศิลก็อยู่ในจิ สมาธิก็อยู่ในจิต ปัญญาก็อยู่ในจิต ไปเที่ยวได้วิ่งหายอยู่ เหนื่อยหรือยัง พอหรือยังหละ
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ก็ถ้าคุณ ไม่หา คุณสงบแล้วก็ดีแล้ว ไม่ใช่หรือ
    ผมบอกให้คนที่ยังไม่สงบหา ศีล สมาธิ ปัญญา
    คนสงบแล้วก็ดีแล้ว แต่ อย่าลืมว่า คนที่พูดแบบนี้ กิเลสมันก็พูดแบบนี้ พระก็พูดแบบนี้
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    พูดจายังปัญญาอ่อนอยู่ แต่บอกว่า ศีล สมาธิ ปัญญามีแล้ว คนจะมี แต่ศีลแตก สมาธิหลับ และ ปัญญาอ่อน
    กลับไปฝึกเขียนภาษาไทย ให้ดีก่อน จะมาให้ความเห็นธรรมะ
    ไอ้คำว่า ทำมัย อิอิ แย้ว นี่มีแต่เด็กปัญญาอ่อน นั่นแหละพูดกัน และช่วยรณรงค์ ความสวยงามของภาษาไทยด้วย จะได้สื่อความหมายได้ชัดเจน มิฉะนั้น อีกหน่อย ประเทศไทย คนจะโง่มากขึ้น เพราะว่า ภาษาที่สื่อความหมายที่ชัดเจนนั้นอันตรธาน
     
  13. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    ขออนุญาต มอบเพลงนี้ให้กับทุกท่านครับ
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=vJWxQz7GG0w&feature=related"]YouTube - เพลง "ศรัทธา"[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=fGDTuiaOw2E"]YouTube - ศรัทธา[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2008
  14. Lokudtradham

    Lokudtradham เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +339
    อนุโมทนาบุญครับ สาธุ สาธุ สาธุ
    ใจ(จิต)เป็นของตายไม่เป็น ใจ(จิต)ไม่มีคำว่าฉิบหาย ใจ(จิต)ดวงนี้ไม่เคยตาย ทำบาปทำบุญไปตกนรกอเวจีกี่กัปป์กี่กัลป์ทุกมากน้อยเพียงใดก็ยอมรับว่าทุกแต่ไม่ยอมฉิบหายคือใจ(จิต)ขึ้นสวรรค์ชั้นพรหมก็ไปคือใจ(จิต)ดวงเดียวนี้แหละที่ไม่มีคำว่าสูญ คำว่าสูญไม่มี ถ้าจะติดตามใจ(จิต)ดวงนี้ต้องติดตามด้วยจิตตภาวนา อย่างอื่นไม่ทราบ ใจ(จิต)ดวงนี้มันไม่มีล่องลอย ไปตามดินฟ้าอากาศที่ไหนก็ไม่มีล่องลอยคิดได้วันยังค่ำ แต่คิดแล้วหายไปๆคือใจ(จิต)ดวงนี้ ...(บางส่วนของการเทศน์ของหลวงตาพระมหาบัว เทศน์ ค่ำ 15 เมษายน 2551)
     
  15. hellohuman

    hellohuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +22
    อยากได้ภาษาที่เข้าใจง่ายอ่าครับ หรือผมเด็กเกินไป(14ปี) ?
    บางทีผมพยายามทำความเข้าใจจิตนะ แต่มันเข้าใจย้ากกกยาก ยากกว่าคิดเลข คำนวณฟิสิกส์ ยังไงไม่รู้
     
  16. hellohuman

    hellohuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +22
    จิตคืออะไร แล้วเราคืออะไร อันเดียวกันหรือปล่าว สิ่งที่กำลังคิดมันเรียกว่าอะไร งงมากมาย ไม่เข้าใจ ใครสร้างกฎแห่งกรรมขึ้นมา เกิดมาตอนไหน จุดเริ่มต้นของทุกสรรพสิ่งคืออะไร ....
     
  17. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    เรื่องของเจ้าเข้า องค์ลง นี้ มีทั้งจริง และ เท็จ ประเด็นอยู่ที่ว่า แม้เป็นเจ้าจริงก็ ไม่มีประโยชน์ ที่เราจะไปหา เพราะเขาก็ไม่รู้เหตุต้นผลปลายดีไปกว่า พระธรรม เขาแก้ไขให้ก็แก้ไขให้แบบผิดๆ แก้ไขให้ด้วยความเชื่อ แก้ไขให้ด้วย ฤทธิ์ ที่สนองความต้องการของผุ้คนไปวันๆ
    ผัวเลิก เมียหนี ก็หาเจ้า เจ้าก็บอกว่าต้องทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ แต่ไม่มีหลักที่ค้นไปถึงเหตุว่า เพราะอะไร และ การแก้ควรทำอย่างไรตามเหตุปัจจัยที่เอื้ออำนวยขณะนั้น

    การแก้ปัญหา แบ่งออกเป็นหลายระดับ
    ระดับง่ายสุด แต่ผิวเผินที่สุด คือ แก้ไม่ได้จริง หลอกลวง ทำให้คนสบายใจไปหนึ่งเปราะ แต่ภายหลังก็ไม่ได้ช่วยอะไร
    ระดับง่ายคือ ให้ทำบุญ เผื่อว่าจิตใจสบายขึ้นก็จะเริ่มเห็นทางด้วยตนเอง เห็นปัญหาว่า ไม่ใช่ปัญหา
    ระดับกลางคือ หาเหตุปัจจัยที่ ทำให้เกิดผล ดังกล่าวแล้วแก้ที่เหตุ
    ระดับสูงคือ สงบที่ใจตนเอง แล้ว ปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลาย ด้วยกระบวนการของมัน

    ทีนี้ การทรงเจ้า เข้าองค์ ก็เป็นระดับแรก คือหลอกให้คนสบายใจไปวันๆ ทีนี้เหตุบางอย่างๆ มันเป็นเรื่องของจิตใจที่ขาดที่พึ่ง จิตใจที่ไม่มีหลัก มันก็ไปเรื่อยเปื่อยจนป่วยอย่างนั้น ป่วยอย่างนี้ หาสาเหตุไม่เจอ พอไปหาเจ้าทีเดียวหาย นี่ก็เพราะว่า จิตใจได้รับการเยียวยาทางอ้อม คือ ผุ้ป่วยรู้สึกเหมือนว่ามีที่พึ่ง ก็อาการต่างๆ ที่เคยเป็นโรคมาก็ทุเลา

    ส่วนมาก แล้ว เป็นเช่นนี้กันหมด พอจิตที่เริ่มดี เริ่มเชื่อมั่น มันก็มีกุศลเข้าในใจ ที่พอจะทำให้ผ่านเคราะห์กรรมไปได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า นั่นคือสิ่งที่ดี แต่คือสิ่งที่ หลอกตนเองต่างหาก
     
  18. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    ชาวพุทธเราอยากอยู่นะที่จะเข้าถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะโดยแท้
    ยังเป็น จลศรัทธา ศรัทธายังมีความหวั่นไหว บ้างก็ถือโชคลาง วัตถุมงคล
    ขอเลข นอนโลง บางคนทำบุญก็หวังเพื่องวดหน้าจะได้ถูกหวย รวยล็อตเตอรี่
    บ้างก็จะทำบุญสักครั้งก็เมื่อเวลาประสบทุกข์หรือเคราะห์กรรม
    กรณีนี้อยากอยู่นะที่จะได้บุญเต็มที่

    หรือบางคนประสบทุกข์ผิดหวัง ถึงไปหาเวลาภาวนา
    ซึ่งก็ยากอีกเหมือนกันที่จะสงบลงได้ แต่ถ้าสงบแล้ว
    ก็ดีกว่าประเภทที่มีความสุข แล้วไปนั่งภาวนา เพราะผ่านทุกข์ทางใจมาแล้ว

    เรื่องของจิตทั้งนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2008
  19. rubian

    rubian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +483
    ทำความเห็นให้ตรงนั้นแล คือ หัวใจครับ

    เปรียบเปรยนิดๆว่า "ขนาดพระพุทธเจ้า ท่านมีสติปัญญา บารมี มากขนาดนี้ ยังช่วยสรรพสัตว์ได้ไม่หมดเลย แล้วเราละ มีบารมีแล สติมากแค่นั้นหรือไร ช่วยเท่าที่ทำได้ หากช่วยไม่ได้ ปล่อยวางเสียเป็นดี"

    ดีใจด้วยกับคนที่มีความเห็นตรงแล้ว
    เอาใจช่วยสำหรับผู้ที่ยังหาหนทางอยู่

    ****สู้ต่อไปทาเคชิ (ดูไม่สุขุมเลยเรา อิๆๆๆ)****
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คำว่า ศรัทธา ที่คลอนนี้ เพราะว่า จิตดวงนั้นไม่อบรม ความศรัทธา ให้มาก
    ต้องอบรมว่าเชื่ออะไรก็เชื่อไปอย่างเดียว เช่นเชื่อในพระพุทธ ก็เชื่อเพียงอย่างเดียว
    เช่นเดียวกัน พวกมุสลิม พวกคริสต์ เขาศรัทธามาก ปลูกฝังจนเชื่อมั่นว่า เมื่อไรที่เขาขอพร เขาจะได้หากพระเจ้าเห็นควร
    และเมื่อไรที่พระเจ้าไม่ให้ตามที่ขอ หมายความว่ายังไม่ถึงเวลา ข้อนี้เป็นการลบทิฎฐิ อัตตาและตัณหาของคนไปได้มาก
    แต่คนพุทธ ถ้าขอแล้วไม่ได้ ก็วิ่งขอไปเรื่อยๆ บนบานศาลกล่าวไปเรื่อย ขาดหลักขาดแหล่งที่ชัดเจน เป็นไม้หลักปักเลน
    ผมอยากจะถามว่า มุสลิมที่เขาศรัทธามากๆ นี้มีองค์ลงหรือเปล่า คริสต์ที่เขาศรัทธามากๆ เขาก็ไม่มีองค์ลง
    มีแต่ คนที่เรียกตัวเองว่า พุทธ นี้แหละ องค์ลงทั้งนั้น

    คนเรียกตัวเองว่า ชาวพุทธ แล้วยังไปนับถือองค์ ไปเชื่อองค์ทรงเจ้า ผมขอเถอะครับ ไปเปลี่ยนศาสนาเถอะ ผมละอายแทน
     

แชร์หน้านี้

Loading...