@@..คำครู ผู้ชี้-นำ-อุปถัมภ์ สู่พระโพธิญาณ & เรื่องเล่าจากกัลยาณมิตร.@@

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 10 กรกฎาคม 2015.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    [​IMG]
     
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    "อธิษฐาน และ การตั้งสัจจะ"

    เราทั้งหลายควรหมั่นอธิษฐานสัจจะไว้บ้าง แต่ต้องดูเค้าของตัวเองก่อนว่าจะทำได้ไหม โดยให้อธิษฐานจากสิ่งรอบกายที่พอจะทำได้ก่อน เมื่อทำได้แล้ว ก็ให้ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น การอธิษฐานสัจจะบารมีนี้ เป็นการสร้างบารมีอย่างหนึ่ง เพราะสัจจะบารมีที่เราอธิษฐานนี้ เราสามารถทำได้แล้ว จะได้บารมีอื่นๆ อีกหลายบารมีตามมา เช่น ขันติบารมี ทานบารมี ฯลฯ นอกจากนี้แล้ว ยังทำให้เราเกิดกำลังใจในการปฏิบัติธรรมเพิ่มมากขึ้นอีก เวลาจะตั้งอธิษฐานจิตให้กล่าวว่า “อิมัง สัจจะวาจัง อธิษฐานมิ

    แต่ก่อนที่จะเริ่มตั้งจิตอธิษฐานนั้น อย่าลืมพิจารณาก่อนว่า สิ่งนั้นๆ เราต้องแน่ใจว่าเราสามารถทำได้ เราต้องเข้มแข็งพอกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น และการตั้งจิตอธิษฐานนี้ ท่านให้เริ่มจากทีละน้อยก่อน เช่น เริ่มจาก ๓-๗ วันก่อน แล้วค่อยเพิ่มเป็น ๑-๓ เดือน แล้วค่อยเป็นปี

    ถ้าเราสามารถปฏิบัติได้ ตามที่เราตั้งจิตอธิษฐานแล้ว บารมีของเราก็เพิ่มมากขึ้นมหาศาลนะ ถ้าทำได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ ทำไม่สำเร็จ ก็ต้องไปเริ่มต้นที่ ก ไก่ ใหม่ คือทุกอย่างที่เราเคยสร้างไว้ ทำไว้ เป็นอันว่าสูญนะ แต่ทุกคนต้องทำนะ อย่ามัวแต่รอช้า

    เริ่มจากง่ายๆ ก่อน อย่างเช่น เราตั้งจิตอธิษฐานขอถือธรรมะตลอดชีวิต ข้อนี้นักปฏิบัติต้องทำกันได้อยู่แล้ว หรือจะตั้งจิตอธิษฐานว่าชาตินี้เราจะไม่แต่งงาน อันนี้สำคัญนะ เวลาตั้งจิตอธิษฐานข้อนี้ดูเอาเองแล้วกัน ไม่รู้ใครต่อใครมาจากที่ไหนๆ มาหากันเป็นโขยงเลย รับกันไม่หวาดไม่ไหว ไม่เชื่อก็ไปลองทำดูเอง

    แรงอธิษฐานและบารมีเป็นสิ่งสำคัญ เช่น คน ๒ คน อธิษฐานด้วยกันอย่างไร ก็ต้องเจอกัน เพราะการอธิษฐานนี้เป็นการเชื่อมต่อจิตให้ถึงกัน การอธิษฐานนี้ให้เลือกช่วงที่เรามีจิตใจที่สบาย ปลอดโปร่ง จะช่วยให้การอธิษฐานนี้สำเร็จผล เหมือนกับการที่เราทำบุญ พอเริ่มตั้งจิตอธิษฐานตอนที่เราทำบุญนั้น เราเกิดความศรัทธา ความสบายใจ มันพร้อมไปหมด คำอธิษฐานนั้นก็ได้ผล

    อย่างหลวงตาพอเริ่มอธิษฐานปั๊บ ให้สังเกตเลย ไม่รู้คนมาจากไหน จนสร้างไม่ทัน เดี๋ยวก็มีโน่น เดี๋ยวก็มีนี่ ด้วยแรงอธิษฐานผู้ที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้อง จะต้องมาช่วยกัน ที่เห็นๆ อยู่นี้ ก็ด้วยแรงอธิษฐานทั้งนั้น ไม่ใช่เที่ยวไปหา ไปแจกซอง ใช้แรงอธิษฐานจากผู้ที่เกี่ยวข้องและเกี่ยวพันเท่านั้น แล้วผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันทั้งหลายก็ต้องมา ไม่งั้นอยู่ได้ที่ไหน เร่าร้อน หงุดหงิด ต้องมา

    ข้อมูลจาก... หลวงตาสอนศิษย์ เล่ม 2 หน้าที่ 38
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    " รูปลักษณ์ของพระให้พรได้โดยผ่านเรา "


    ศิษย์ : แล้วกรณีที่แขวนหลวงปู่ดู่ไว้ที่คอถูกมั๊ยคะหลวงตา...แต่ในกระเป๋าอ่ะมีหลวงพ่อองค์อื่นอีกตั้งหลายองค์...เพราะชื่นชอบมากทุกองค์เงี้ยค่ะ

    หลวงตา : ก็ไม่เห็นเป็นไร...หลวงปู่ทุกองค์ไปด้วยกันก็แล้วกัน ไม่เป็นไรนี่
    หลวงพ่อช่วยกัน

    ศิษย์ : ช่วยๆกันนะค่ะ

    หลวงตา : สมัยหลวงพ่อดู่ท่านสอนไว้...เวลาเอ็งให้พรที่ไหน มีรูปลักษณ์องค์ไหนเอ็งก็บอกท่านเลย...บอกหลวงพ่อให้พรด้วยกัน แล้วเวลาให้พรเนี่ยถ้าเค้าเห็นเนี่ยเค้าจะเห็นอ่ะ...และแสงสว่างมาจากรูปลักษณ์เนี้ย

    รูปลักษณ์หลวงปู่โต หลวงพ่อเงินรูปลักษณ์เนี่ย...เวลาหลวงตาให้พรไปหมดนั่นแหละ

    ศิษย์ : แสดงหลวงตาให้พรทุกครั้งทุกองค์ที่นี่

    หลวงตา : .ใช่...หมด

    ศิษย์ : ให้พรพร้อมหลวงตาหรอคะ

    หลวงตา : ถูก...หลวงตาเป็นสื่อไงท่านมีรูปกับนาม รูปท่านไม่เคลื่อนไหวก็จริงแต่นามท่านเคลื่อนไหว...หลวงพ่อให้พรด้วยกัน วื้บมาที่หลวงตาหมดเลย อ้าวก็ไปคนที่เราให้พร เข้าใจมั๊ย

    เอ้อ ท่านพูดไม่ได้ไง...รูปท่านพูดไม่ได้แต่นามธรรมท่านพูดได้ไง แต่ต้องฟ้งด้วยจิต

    ศิษย์ : แม้จะเป็นรูปพระพุทธเจ้า...ที่ท่านไม่เกิดแล้วเนี่ยนะค่ะ

    หลวงตา : มีได้ เป็นได้ถ้าท่านมา...มันเป็นสื่อ ท่านเป็นสื่อ บารมีท่านเอาไว้ที่ไหน

    ศิษย์ : ก็ยังอยู่ในโลกอยู่ดี

    หลวงตา : ยังอยู่ในโลก โอ้โหย...ไม่ต้องสงสัยหรอก ท่านเอาไปทิ้งไว้ที่ไหนไม่ได้หรอก ใช่ม๊ะ

    ศิษย์ : ค่ะ

    หลวงตา : เออ นอกจากไปอยู่โลกอื่นนู้นอ่ะ...ไปสร้างใหม่ก็แล้วกัน เหมือนกับสร้างบ้านใหม่อ่ะ ไปสร้างกรรรมใหม่โลกอื่นอ่ะ...เพราะของเก่ามันไม่มีเลย(หัวเราะ)ใช่ม๊ะ อย่างงั้นแหละ

    ถอดคำเทศน์จากยูทูป 25 พฤศจิกายน 2015
     
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    "ภพภูมิที่ตกค้าง"




    บนโลกของเรานี้ ใต้แผ่นดินที่เราอาศัยอยู่นี้ พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลายๆ ท่านได้กล่าวไว้ว่า มีวิญญาณหรือพลังงานของภพภูมิที่ตกค้างอยู่เป็นจำนวนมากมายมหาศาล ซึ่งนับจำนวนไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นสรรพสัตว์หรือมนุษย์ เพราะมีการตายแล้วเกิด แล้วก็เกิดแล้วตาย ใต้แผ่นดินจึงมีภพภูมิวิญญาณพลังงานของมนุษย์และสรรพสัตว์ต่างๆ จึงซ้อนๆ กันอยู่

    การคำนวณจำนวน "ปี" ของภพภูมินั้นให้เอา 50 คูณ เช่น นายดำ เขาให้เกิดมามีอายุ 60 ปี แต่ด้วยผลของกรรมจึงทำให้นายดำต้องตายเมื่ออายุ 40 ปี ถ้าเป็นปีการนับของมนุษย์ นานดำต้องมีอายุเหลืออยู่อีก 20 ปี

    แต่ปีการนับของภพภูมินั้นคูณด้วย 50 ดังนั้น 50 คูณด้วย 20 ก็เท่ากับ 1,000 ปีมนุษย์ ซึ่งดวงวิญญาณของนายดำต้องวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์เป็น 1,000 ปี หรือบางดวงวิญญาณบางพลังงานที่มีความอาฆาติแค้นมาก ก็จะตามรังควานหลอกหลอนรบกวนผู้ที่ทำร้ายเขา หรือหลายๆ แห่งตามถนนที่เป็นทางโค้งจะมีคนได้รับอุบัติเหตุเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก บางครั้งพวกเขาก็มาปรากฏให้เห็น อีกทั้ง หมู ไก่ วัว ควาย กุ้ง ปุ ปลา ฯลฯ ที่ถูกฆ่าตายก่อนกำหนดอีกล่ะ
    ซึ่งมีเป็นจำนวนมากมายมหาศาลอีกเช่นกัน

    คนในสมัยก่อนนั้น เมื่อถึงวันพระจึงนิยมไปทำบุญที่วัดเพื่อจะได้แผ่บุญกุศลไปให้แก่วิญญาณของญาติพี่น้อง ซึ่งบางคนอาจจะตกอยู่ในสภาพของวิญญาณเร่ร่อน หรือเป็นสัมภะเวสี หรือตกอยู่ในภพภูมิที่ต่ำ ได้รับความทนทุกข์ทรมาน
    หรือยังยึดติดอยู่ในสมบัติทรัพย์สินต่างๆ ของตนอยู่จึงยังไม่ยอมไปไหน

    การที่พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า) วัดพุทธพรหมปัญโญ ถ้ำเมืองนะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ท่านเดินทางไปทั่วประเทศไทย หรือต่างประเทศนั้น ท่านไปเพื่อปรับภพภูมิวิญญาณต่างๆ เพราะพวกเขาเหล่านั้นไม่สามารถมารับพลังงานแสงสว่างบุญกุศล จากหลวงตาม้าที่วัดถ้ำเมืองนะได้ ท่านจึงต้องเดินทางไปโปรดให้ถึงที่ในสถานที่นั้นๆ

    ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนกับว่า นักโทษที่ทำความผิดไว้มาก ก็ต้องโดนขังเดี่ยว จะกินอาหารผู้คุมก็ต้องเดินเอาไปให้ถึงที่ แต่ถ้าเป็นนักโทษที่ใกล้พ้นโทษ เช่น เหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะพ้นโทษ ทางผู้คุมก็สามารถพาออกมาข้างนอกคุกได้ เช่น พามาทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ฯลฯ

    การไปปรับภพภูมิของหลวงตาก็คือ ท่านไปปรับให้ไปตามผลของกรรมการกระทำที่ทำไว้ มิได้หมายความว่าท่านไปปรับให้จากวิญญาณหรือพลังงานเร่ร่อนไปเป็นเทวดา หลวงตาท่านไปปรับให้ไม่ต้องเป็นวิญญาณเร่ร่อน ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนกับว่า เป็นคนทำผิดกฎหมายต้องหนีความผิดอยู่เรื่อยๆ ไป
    หลวงตาม้าท่านก็เปรียบเสมือนว่า ท่านไปปรับให้ คือ ให้ไปขึ้นศาล ให้ศาลพิพากษาตัดสินไปเลย ไม่ต้องมาหลบหนีอยู่

    หรือบางภพภูมิวิญญาณพลังงานยังยึดติดอยู่ในสถานที่นั้นๆ เช่น ยังยึดติดในสมบัติที่ตนฝังไว้ใต้ดิน ยึดติดในบ้าน ฯลฯ ยึดติดในภรรยา ลูก ท่านก็ไปเทศน์โปรด

    ดังนั้น จึงขอเชิญชวนทุกท่านเมื่อท่านได้ทำบุญกุศล สวดมนต์ไหว้พระรักษาศีลเจริญสมาธิภาวนาแล้ว ขอให้น้อมนำแผ่เมตตาส่งบุญกุศลแผ่ไปยังภพภูมิต่างๆ ให้ทั่วทั้งสามแดนโลกธาตุ

    ขอสัตว์ทั้งหลาย, ไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ, จงมีส่วนแห่งบุญที่ข้าพเจาได้ทำในบัดนี้, และแห่งบุญอื่นที่ได้ทำไว้ก่อนแล้ว, คือจะเป็นสัตว์เหล่าใด, ซึ่งเป็นที่รักใคร่และมีบุญคุณ, เช่น มารดา บิดา ของข้าพเจ้าเป็นต้นก็ดี, ที่ข้าพเจ้าเห็นแล้วหรือไม่ได้เห็นก็ดี, สัตว์เหล่าอื่นที่เป็นกลางๆ หรือเป็นคู่เวรกันก็ดี, สัตว์ทั้งหลายตั้งอยู่ในโลก, อยู่ในภูมิทั้งสาม, อยู่ในกำเนิดทั้งสี่, มีขันธ์ห้าขันธ์ มีขันธ์ขันธ์เดียว มีขันธ์สี่ขันธ์, กำลังท่องเที่ยวอยู่ในภพน้อยภพใหญ่ก็ดี, สัตว์เหล่าใดรู้ส่วนบุญที่ข้าพเจ้าแผ่ให้แล้ว, สัตว์เหล่านั้นจงอนุโมทนาเองเถิด, ส่วนสัตว์เหล่าใด ยังไม่รู้ส่วนบุญนี้, ขอเทวดาทั้งหลาย จงบอกสัตว์เหล่านั้นให้รู้, เพราะเหตุที่ได้อนุโมทนาส่วนบุญที่ข้าพเจ้าแผ่ให้แล้ว, สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง, จงเป็นผู้ไม่มีเวร อยู่เป็นสุขทุกเมื่อ, ความปรารถนาที่ดีงามของสัตว์เหล่านั้น จงสำเร็จเถิด.

    "คติธรรมนำชีวิต" โดย... ชยปุญโญ ภิกขุ
     
  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    แชร์ประสพการณ์คุณ benfever

    เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญ ตอนที่ 13
    .
    และท่านใดที่เมล์มาหา benfever เล่าถึงปัญหาต่างๆ ให้ฟัง แต่ยังไม่เชื่อเต็มร้อยว่า หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร จะช่วยได้จริงหรือ ลองดูกรณีของ benfever นะคะ (ตัวอย่างเล็กๆ) มีอยู่ครั้งนึงเคยถูกคนหลายคนปองร้าย benfever อยู่ในสถานการณ์ที่สู้ไม่ได้ เพราะตัวคนเดียว แต่ใจนึกถึงแต่ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ช่วยด้วยๆๆตลอดเวลา กําลังจะถูกพาไปอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่าที่ไหน คนเหล่านั้นต่างพากันหัวเราะ สะใจ ขู่สารพัด (เสร็จแน่ๆ) แล้วกำลังจะถูกพาออกไปขึ้นรถ อยู่ดีๆ ก็มีโทรศัพท์มา กลุ่มคนที่จะพาไปขึ้นรถ ก็กล่าวกันเองว่าไม่ต้องพาไปละ แล้วก็ปล่อย benfever ไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (งง เหมือนกันว่าทำไมอยู่ๆ ก็ปล่อย) แล้วก็พูดดีเปลี่ยนไปเลย คำตอบที่มี “จะใครซะอีก ถ้าไม่ใช่หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร” เหตุการณ์นี้รู้มาก่อนว่าจะมีเรื่อง เพราะกลุ่มคนเหล่านั้นได้แจ้งล่วงหน้ามาแล้ว ระบุวันที่จะมา และ benfever ไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากใคร และไม่ได้เล่าให้ใครฟัง (นอกจากคนในครอบครัว และหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร) จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครมาช่วย ถ้าอยู่ในสถานการณ์นั้นคงจะทราบดี แม้แต่คนกลุ่มนั้น ยังงงกันเองว่าทำไม ในเมื่อเตรียมพร้อมที่จะมาเล่นงานแล้ว
    .
    อีกสถานการณ์นึง benfever ถูกกลุ่มคนที่เจตนาร้าย กําลังจะกลั่นแกล้ง เล่นงานในอีก 20 นาทีข้างหน้า benfever เดินก้มหน้าร้องไห้กับสิ่งที่เกิดขึ้นไปตามถนน (กล้าร้องไห้ขนาดนี้ คงพอจะเดากันได้นะคะว่าปัญหามันร้ายแรงขนาดไหน) สมาธิไม่มี ภาวนาไป ร้องไห้ไป เพราะหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมจึงเกิดเรื่องกับเรา ระหว่างเดินไปก็หยุดเดิน เตรียมหันหลังจะหนีกลับบ้าน ช่วงขณะที่กำลังจะหันหลังกลับไปนั้น ได้เจอ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร (ด้วยตาเนื้อ) ยืนคู่กันข้างหน้า ตรงกลางถนน พร้อมกับพยักหน้าให้เดินตามมา benfever ก็ยังไม่เดิน แต่หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ก็ยังยืนรอจน benfever เดินตามท่านไป ท่านทั้งสองพา benfever ไปหาคนพวกนั้น และอยู่กับ benfever ตลอดเวลา ระหว่างที่อยู่กับคนกลุ่มนั้น ก็เห็นแต่หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร อยู่หน้า benfever ตลอด ทำให้ benfever ผ่านเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้ด้วยดี
    ไม่มีปัญหาใดที่ท่านทั้ง 2 ช่วยเราไม่ได้ ถ้าเราศรัทธาในตัวท่าน เชื่อในตัวท่าน ลองพิสูจน์ดูค่ะ เบื่อกันหรือยังคะ เล่าเรื่องสนุกๆ กันดีกว่า เคล็ดไม่ลับ 12 ตอนที่ออกไป นี้ benfever หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะเริ่ม นึกถึง หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ออกกันง่ายขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ
    .
    เคล็ดไม่ลับตอนนี้จะเล่าถึงคนที่กลัวตกนรกค่ะ ทุกท่านกลัวตกนรกกันมั้ยคะ แล้วทุกท่านล้วนต่างก็ทำบาป ผิดศีล โดยที่ตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ดี เจตนา หรือไม่เจตนาก็ดีถูกมั้ยคะ ทุกท่านคงไม่อยากให้ตัวเอง คนที่รัก แม้กระทั่งสัตว์ที่รัก ต้องไปอยู่ในภพภูมินรก เมื่อตายไปถูกมั้ยคะ แล้วจะทำยังไงกันดีหล่ะ วิธีง่ายๆค่ะ
    .
    ทำยังไงได้ขึ้นสวรรค์
    .
    .- เล็งไปที่เป้าหมาย เช่น ตัวเราเอง คนที่รัก คนที่รู้จักหรือไม่รู้จัก คนที่เกลียด สัตว์ที่รัก เป็นต้น
    .- กําพระผงจักรพรรดิ์
    .- นึกหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ หรือหลวงตาม้า วิริยธโร แล้วแต่ท่านจะถนัด
    .- ครอบทับเป้าหมายที่ท่านนึกค่ะ
    วิธีการนี้เรียกว่า ครอบวิมาน
    การครอบวิมานนี้จะทำให้เป้าหมายที่เราครอบวิมานให้ไป มีเกราะแก้ว 7 ชั้น คลุมที่ตัวตลอดเวลาค่ะ ตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้ (ทำครั้งเดียวก็เพียงพอค่ะ) พอเป้าหมายที่เราครอบวิมานไปแล้ว สิ้นอายุขัย ก็จะไปอยู่ในภพภูมิสวรรค์ทันที เพราะได้บารมี หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโรพาไปค่ะ แต่ว่าจะไปอยู่สวรรค์ชั้นไหน หรือพรหมชั้นไหน และอยู่ได้นานขนาดไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่า เมื่อตอนมีชีวิตอยู่สร้างบุญบารมีมาแค่ไหน ถึงทำบาปมาขนาดไหน เมื่อสิ้นอายุขัยก็ไปภพภูมิที่ดีทันที ถ้าได้มีการครอบวิมานนะคะ รับประกัน สิ่งเหล่านี้ตรวจสอบได้ และมีเพียงหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ที่ทำได้เท่านั้น ทุกท่านต้องพึ่งบารมีของท่านนะคะ บารมีของท่านเต็มแล้วค่ะ
    .
    การครอบวิมานไม่ใช่ช่วยให้ได้ไปภพภูมิดีๆ เท่านั้นนะคะ ถ้าเกิดเป้าหมายที่เราครอบวิมานให้ไป เกิดเป็นเทวดา หรือเป็นพรหมก็ตาม ก็จะมาช่วยเรา เค้ารู้ค่ะ ว่าใครช่วยเค้าให้ไปอยู่ภพภูมินั้นบ้าง เหมือนทุกท่านช่วยก่อน เค้าก็จะมาช่วยคืน เมื่อมีกำลัง และถึงวาระเวลา แต่ยังไม่พอนะคะ เมื่อเทวดา หรือพรหมนั้น ลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ ก็จะมาช่วยเรา อย่างเช่น ถูกชะตา ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน นึกแล้วอยากช่วย ก็มีถมไปค่ะ สนุกกันแล้วใช่มั้ยคะ แต่อย่ามัวแต่ครอบวิมาน ดารา นักร้องอย่างเดียวนะคะ คนในครอบครัว เพื่อน เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง ศัตรู ขอทาน หรือสัตว์ ทุกท่านครอบวิมานให้เค้านะคะ อานิสงค์มากมหาศาลนะคะ
     
  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    กรณีน่าศึกษาของคุณเพชรนภา

    "ปัตจัตตัง+ศรัทธาในพระไตรสรณคมน์+หลวงปู่ดู่+หลวงตาม้า" กรณีน่าศึกษาของคุณเพชรนภา Petchnapa Mongkolnimit ประมาณวันที่ 23 ธันวาคม 2557 ได้มีความผิดปรกติและปวดตุ๊บๆ ที่เต้านมต้านซ้าย เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2557 ได้ไปพบแพทย์ แพทย์ลงความเห็นว่าเป็นมะเร็งเต้านม และแพร่กระจายไป 11 จุดในร่างกาย
    ปลายเดือนมกราคม 2558 ได้เริ่มให้เคมีบำบัด แต่ละเข็มเว้นสามอาทิตย์ พอให้เคมีบำบัดครบสี่ครั้ง แพทย์ได้นัดทำการผ่าตัดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2558 โดยตัดเต้านมด้านซ้ายทิ้ง และคว้านต่อมน้ำเหลืองใต้วงแขนด้านซ้ายที่มะเร็งกระจายทิ้งไป
    ในขณะที่ให้เคมีบำบัด ได้สวดบทพระไตรสรณคมน์และบทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิในใจโดยตลอด ตอนจะผ่าตัดก็สวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิในใจโดยตลอดแล้วก็สลบไป เมื่อรู้สึกตัวก็คิดว่าตัวเองสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิและหลับไป ก็สวดฯต่อ พยาบาลมาจับที่แขน และบอกว่าว่าผ่าตัดเสร็จแล้วค่ะ ไม่มีอาการเจ็บแผลหรือปวดแผลเลยแม้แต่นิดเดียว ผ่าตัดเสร็จให้เคมีบำบัดอีกสี่ครั้ง และฉายแสงต่ออีก 25 ครั้ง เสร็จสิ้นการรักษาเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2558

    ผลการตรวจของแพทย์หลังจากที่จบขั้นตอนการรักษาแล้ว ปรากฏว่ามะเร็งทั้ง 11 จุดในร่างกายนั้นไม่มีแล้ว หายเป็นปรกติแล้ว ได้ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 10 เดือน ซึ่งถือว่าเร็วมาก

    ก็คงจะด้วยอานุภาพของพระไตรสรณคมน์ และ กระแสพลังงานอันบริสุทธิ์ของหลวงปู่ดู่-หลวงตาม้า ซึ่งถ้าเราศรัทธาและปฏิบัติอย่างจริงจังก็สำเร็จผลได้นะ ก็ขออนุโมทนาสาธุกับคุณเพชรนภา Petchnapa Mongkolnimit ที่หายจากโรคมะเร็ง สาธุ สาธุ สาธุ

    หมายเหตุ : ระหว่างที่ให้คีโม-ฉายรังษี-ตัดเต้านมด้านซ้ายทิ้ง ได้สวดบทพระไตรสรณคมน์และบทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิมาโดยตลอด และระหว่างที่ให้คีโมหรือฉายรังษี นั้นก็นึกว่าคีโมหรือรังษีที่ให้นั้นเป็นกระแสพลังงานของบทสวดพระไตรสรณคมน์ เป็นกระแสพลังงานของบทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ และ เป็นกระแสพลังงานของหลวงปู่ดู่-หลวงตาม้า



    [​IMG]
     
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/F3GAkY4QQeI?&autoplay=&rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 พฤศจิกายน 2015
  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/KqFWBxuMeFg?&autoplay=&rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 พฤศจิกายน 2015
  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    [​IMG]
     
  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    เมื่อสัตว์โลกทั้งหลาย น้อมเอาความบริสุทธิ์
    คือ “พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ”
    ตลอดทั้ง “พระจักรพรรดิ รัตนะ๗”

    ซึ่งซ้อนอยู่ภายใน

    เราจะเห็นก็ตาม ไม่เห็นก็ตาม ... มีอยู่


    เข้ามาสู่ใจตนเช่นนั้น


    มีผลให้แต่ละสัตว์โลก ... สะอาดบริสุทธิ์ยิ่งๆขึ้นไป
    มีกำลังสูงขึ้น ในการที่จะบำเพ็ญบุญบารมีไปเพื่อ
    "มรรค ผล นิพพาน"

    เป็นบุญเป็นกุศล เเก่กล้าเป็น
    “บารมี อุปบารมี ปรมัตถบารมี” ยิ่งๆขึ้นไปแก่ตนเองผู้ปฏิบัติ



    ยิ่งเป็นเท่าไหร่ คือ บริสุทธิ์กาย วาจา ใจ
    เป็นบุญ เป็นบารมี ที่เราบำเพ็ญส่วนภายนอกเท่าไหร่ ... ยิ่งมีผลไปถึงภายใน


    ผลถึงภายในอย่างไร ?
    “จักรพรรดิ” นั่นแหละเขาจะ “เก็บเหตุ”
    ที่สัตว์โลกแต่ละสัตว์โลก บำเพ็ญคุณความดี
    ถ่ายทอดส่งกลับไปยัง “ต้นธาตุต้นธรรม” หรือ “เครื่องธาตุเครื่องธรรม”

    เพื่อ “ปรุงเป็นผล” เป็นวิบาก ส่งผ่านกลับเข้ามายัง ธาตุธรรมที่สุดละเอียดของกายหยาบ ตรงกลางกำเนิดธาตุธรรมเดิม
    ให้มีผลเจริญงอกงามไพบูลย์ ในบวรพระพุทธศาสนา
    สุข สมบูรณ์ บริบูรณ์
    ด้วย มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ ในส่วนของกายเนื้อหรือกายหยาบ มีการส่งไปส่งมาอย่างนี้
    และในขณะเดียวกัน “กำลัง” หรือ “ความแก่กล้าของธาตุธรรม” ที่สัตว์โลกทั้งหลายกระทำ กาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์

    ไปถึงธาตุธรรม "เห็น จำ คิด รู้" สุดหยาบไปจนสุดละเอียด
    ก็ไปมีผลถึง “ต้นในต้น” ... ให้แก่กล้ายิ่งขึ้นด้วย
    เมื่อแก่กล้ายิ่งขึ้น ด้วยการสื่อเชื่อมต่อ “บุญกุศล” จากกายเนื้อซึ่งเป็นฐานของพระ ถ้าทำคุณความดี
    ผ่านเข้าไปจากกายแต่ละกาย ที่มีอยู่สุดกายหยาบกายละเอียด
    ผ่านไปทางภาคผู้เลี้ยง คือ “จักรพรรดิ” ฯลฯ
    ไปจนถึง “ต้นธาตุต้นธรรม”


    แล้วก็ทับทวีกลับเป็นวิบากกรรมมา ยิ่งใกล้ชิดเข้าไปมากเท่าไหร่ บุญบารมีในธาตุในธรรม สุดหยาบสุดละเอียดของท่าน ... ก็แก่กล้าไปตาม
    จนถึง”ต้นธาตุต้นธรรม” เพียงนั้น
    และเมื่อถึงที่สุดของความแก่กล้า คือ “ปรมัตถบารมี” นั้นแล้ว
    ท่านก็มีพลังที่จะบรรลุ "มรรค ผล นิพพาน" ตามส่วน
    พร้อมจะเรียกว่า “พระโพธิสัตว์”
    แปลว่า ผู้ที่ได้รับพยากรณ์แล้ว
    พระผู้บำเพ็ญบารมี ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพระโพธิสัตว์ หรือผู้ที่ยังไม่ได้รับพยากรณ์ก็แล้วแต่ ซึ่งมีอยู่จำนวนมากนั้น เมื่อองค์ใดได้มาบรรลุ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ก็จะยิ่งมีพลังสูง ที่จะช่วยสัตว์โลกได้มากเพียงนั้น



    [​IMG]




    นี่ในส่วนของการบุญการกุศล มันมีความละเอียดลึกซึ้งไปอย่างนี้
    และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนี้ ได้เปิดเผยเรื่อง “จักรพรรดิ”


    และ "จักรพรรดิ" นี่แหละ
    เมื่อมีมากขึ้น สะอาดบริสุทธิ์มากขึ้น
    ก็จะช่วยให้ผู้เข้าไปนมัสการกราบไหว้
    ปฏิบัติบูชา ... “ถึงธรรมะ” กันได้มาก
    เรียกว่า "กำลังต่อกำลัง" ทุนต่อทุนเลยทีเดียว
    หรือ บารมีต่อบารมี



    พระเทพญาณมงคล ( เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี)

    *****************************************************


    คำอธิษฐาน


    โดย


    พระเทพญาณมงคล (เสริมชัย ชยมงฺคโล)


    เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
    อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี




    ขอกุศลผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้ประกอบบำเพ็ญไว้ด้วยดีแล้ว
    มีทานกุศล ศีลกุศล ภาวนากุศล
    และการอุทิศแผ่ส่วนกุศลนั้น แก่สรรพสัตว์โลกทั้งหลายเป็นต้นนี้
    ตั้งแต่อดีต จนตราบเท่าถึงปัจจุบัน
    จงเป็นตบะ เดชะ พลวปัจจัย
    ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ปราศจากกิเลสนิวรณ์ และวิปัสสนูปกิเลสทั้งหลาย
    ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีปัญญาอันเห็นชอบในพระอริยสัจทั้ง ๔ และได้ดวงตาเห็นธรรม
    ขอให้สิ้นอาสวกิเลส ตัณหา อุปาทาน
    และได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ฝ่ายสัมมาทิฏฐิแต่ส่วนเดียว
    และขอจงเป็นพลวปัจจัยเกื้อหนุนข้าพเจ้า


    ๑.ให้แตกฉานในพระไตรปิฎก
    มีพระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และ พระอภิธรรมปิฎก


    ๒.ให้ถึงพร้อมด้วยจรณะ ๑๕ ธรรมเครื่องยังให้เกิดและเจริญ โพธิปักขิยธรรม
    องค์ธรรมเครื่องตรัสรู้ ๓๗ ประการ อันประกอบด้วย
    ทิพพจักขุ ทิพพโสต สมันตจักขุ ปัญญาจักขุ ธรรมจักขุ และพุทธจักขุ อันบริสุทธิ์
    พร้อมด้วยวิชชา ๓ วิชชา ๘ อภิญญา ๖ และจตุปฏิสัมภิทาญาณ
    (สำหรับผู้ปรารถนา พุทธภูมิ พึงอธิษฐานเพิ่มว่า .....
    ให้เจริญด้วย อาสยานุสยญาณ และ อินทริยปโรปริยัตตญาณ ธรรมเครื่องช่วยในการโปรดสัตว์)


    ๓.ให้ได้เข้าถึง ได้รู้ เห็น และเป็นพระธรรมกายมรรค ผล และพระนิพพาน
    คือ ธรรมกายที่บรรลุพระอรหัตตผลแล้ว
    ทำให้แจ้งทั้งพระนิพพานถอดกาย และทั้งพระนิพพานเป็น โดยพลัน
    ให้ได้ตรัสรู้ในธรรมที่ควรรู้ ทั้งสังขตธาตุสังขตธรรม
    และอสังขตธาตุอสังขตธรรมทั้งหลาย ตามที่เป็นจริง
    ให้สามารถละธรรมที่ควรละ ให้สามารถเจริญในธรรมที่ควรเจริญ
    มุ่งตรงต่อมรรคผลนิพพาน ที่สิ้นสุดแห่งทุกข์ทั้งปวง


    ๔.ขอให้ได้บุญศักดิ์สิทธิ์ บารมี รัศมี กำลัง ฤทธิ์ อำนาจ สิทธิ เฉียบขาด เป็นทับทวี
    ตามศักดิ์แห่งบารมี และหน้าที่ทนายแห่งพระพุทธศาสนา


    ๕.ขอให้ข้าพเจ้าได้ชนะศัตรู คือ กิเลสมาร ขันธมาร มัจจุมาร
    และอุปาทานในอภิสังขารมาร ด้วยตัณหาและทิฏฐิ คือ ความหลงผิด
    และขอให้พญามารทั้งหลายและบริวาร จงอย่าได้ช่อง
    เข้าครอบงำ ขัดขวาง และทำลายการบำเพ็ญบารมีแห่งข้าพเจ้า
    ตลอดทั้งเพื่อนผู้ร่วมบำเพ็ญบารมีทั้งหลายของข้าพเจ้าได้


    ๖.ให้ได้รู้ถูก เห็นถูก ในธรรมที่ควรรู้และควรเห็น
    ให้เป็นผู้คิดถูก พูดถูก กระทำถูก นำผู้อื่นถูก
    และทรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาของพระบรมศาสดาตลอดไป ในกาลทุกเมื่อ


    ๗.ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ฉลาดในอุบาย แห่งความเจริญและความเสื่อม
    เป็นผู้เฉียบแหลมในอรรถ และ ในธรรม


    ๘.ขอให้สุข สมบูรณ์ บริบูรณ์ ด้วยปัจจัย ๔ สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลาย
    มียวดยานพาหนะ และเครื่องใช้สอยต่างๆ เป็นต้น
    ขึ้นชื่อว่าความขาดแคลนในสิ่งเหล่านี้ อย่าได้มี


    ๙.แม้ว่าข้าพเจ้าจะยังอาภัพอยู่ ยังจะต้องท่องเที่ยวไปในวัฏฏสงสาร
    ก็ขอให้ได้เกิดในฤกษ์สร้างบารมี บริบูรณ์ด้วยสมบัติ ๖ ประการ คือ
    กาลสมบัติ ชาติสมบัติ ตระกูลสมบัติ ประเทศสมบัติ ทิฏฐิสมบัติ และอุปธิสมบัติ
    ให้ได้มีโอกาสศึกษาและปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ ตามแนวทางพระพุทธศาสนา
    และขอให้ข้าพเจ้าเป็นเหมือนพระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้
    ได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้ว ไม่กระทำอกุศลกรรมอันจะนำไปสู่อบายภูมิอีก
    และถ้าหากยังมีเศษกรรมเหลืออยู่ ก็ขออย่าได้ถึงฐานะแห่งความอาภัพต่างๆ


    ๑๐.เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ก็ขอให้ได้เพศบริสุทธิ์ เป็นชาย ให้ได้บรรพชาอุปสมบท
    เป็นผู้มีอายุยืนกว่าอายุขัยของมนุษย์ในกาลนั้นตามปรารถนา
    และแม้ว่าจะผ่านวัยกลางคน ก็ขอให้มีพลานามัยแข็งแรง
    อายตนะภายในดีเลิศ และสุขภาพจิตใจดีเลิศ


    ๑๑.ขอให้ข้าพเจ้าไม่พึงคบมิตรชั่ว ให้พึงคบแต่บัณฑิตในกาลทุกเมื่อ
    และขอให้ข้าพเจ้าเป็นบ่อเกิดแห่งคุณความดี คือ
    เป็นผู้มีศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ ประกอบด้วยความเพียรและขันติ
    พึงเว้นจากเวรทั้ง ๕ ไม่เกาะเกี่ยวในกามคุณทั้ง ๕
    พึงเว้นจากเปือกตม คือ กาม

    พึงยินดีในการรักษาศีล เจริญสมาธิ ปัญญา
    วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ โดยสัมมาทิฏฐิแต่ส่วนเดียว


    *** ที่มา
    หนังสือ ทางมรรคผลนิพพาน




    ************************************************


    <iframe width="640" height="480" src="https://www.youtube-nocookie.com/embed/baB_GWg5PEo?&autoplay=&rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


    *************************************************


    <iframe width="440" height="540" src="https://www.youtube-nocookie.com/embed/BKG45weLl9I?&autoplay=
    &rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 พฤศจิกายน 2015
  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    ความรู้การฝากกระแสลูกแก้วจักรพรรดิ

    29 พฤศจิกายน 2015 เวลา 23:37 น.

    39 ประเทศที่ได้วางลูกแก้วไปแล้วทั่วโลก เช่น

    1.ไทย Thailand,
    2.สวิต Switzerland ,
    3.เยอรมัน German,
    4.ญี่ปุ่น Japan,
    5.จีน Chaina,
    6.อินเดีย India,
    7.อิตาลี Italy,
    8.ฝรั่งเศส France,
    9.พม่า Mymar,
    10.เดนมาร์ค Denmark
    11.สิงค์โปร Singappore,
    12. เวลล์ เขตปกครองพิเศษของอังกฤษ
    13.อังกฤษEngland,
    14.ตรุกี Turkey,
    15.สก๊อตแลนด์ Scotland,
    16.สวีเดน Sweden ,
    17.ใต้หวัน Taiwan
    18.มาเลียเซีย Malysia แถบทะเลจีนใต้ 19.South china sea.
    20.ออสเตรเลีย Australia
    21.เบลลเยี่ม Belium.
    22.เกาะฮองกง Hongkong
    23.เกาหลี Korea
    24.อินโดนีเซีย Indonesia
    25.ไมโคเนียเซีย Chuuk, Micronesia
    26.ฮอลแลนด์ Holland
    27. นอร์เวย์Norway
    28.ฟินแลนด์ Finland
    29. เคนย่า Kenya
    30. สปป.ลาว Laos.
    31 เสปน Spin
    32. .สหรัฐอเมริกา USA
    (ประเทศที่ใหญ่มากมี 50 รัฐ) ตามข้างล่างนี้
    1. รัฐ California แคลิ ิฟอเนีย LA ,ซานดิเอโก,บิ๊กแบร์ , ซานฟรานซิสโก
    2. รัฐ South Carolina เซาว์โคโลลายน่า
    3. รัฐ Seattle ซีแอตเทิล ทะเลสาบ
    4. รัฐ Nebraska เนบัสก้า นอทแพท
    5. รัฐ colorado, โคโลลายน่า
    6. รัฐ wyoming, วูมมิ่ง
    7. รัฐ idaho, ไอดาโฮ
    8. รัฐ south Dakota, ซาวน์ ดาคาต้า
    9. รัฐ utah อูทา
    10. แม่น้ำมิสซิสซิปปี้
    11. รัฐ Taxes เทคซัส rancho viejo, texas
    12.รัฐ Las vegas ลาสเวกัส
    13 รัฐ Nevada เนวาด้า
    14 รัฐ Georgia เจอเจีย
    15. รัฐ Illinois อิลินอย
    16. รัฐ Florida ฟลอริด้า
    17. รัฐ New York นิวยอร์ค
    18. รัฐ north Carolina นอทโคโลลายน่า
    19. รัฐ Maine เมน
    20. รัฐ Cantukey แคนตักกี้
    21. รัฐ pensylvania แพนซีเวเนีย
    22. รัฐ Verginia เวอรจิเนีย
    23.รัฐ Tennessee แทนนัทซี
    24. รัฐ Chicago ชิคาโก

    33. แคนนาดา Canada
    34. โปรแลนด์ Poland
    35. กรีนแลนด์ Greenland.
    36. รัฐเซีย Russia
    37. บาเรน bahrain ตะวันออกกลาง
    38..นิวซีแลนด์ new Zealand
    39. Ohda...ใกล้อิหร่าน ปากีสถาน.ตะวันออกกลาง

    โอวาทหลวงตาม้า
    หมั่นสวดมนต์ หมั่นห้อยพระ อย่าไปเชื่อเขาพระไม่จำเป็นต้องห้อย พระมีพลังน่ะ ไม่งั้นคนสมัยโบราณไม่ทำหรอก พระเอาไว้บรรจุพลังงาน น้อมจิตไปที่พระ พระคล้ายสไลด์ มีหมดเลย เหมือนระบบคอมพิวเตอร์ปัจจุบัน ตามองภาพ จิตจะมองเห็นพลังงาน มองบ่อยๆ สวดไปเรื่อยๆ หลับตา ภาพหายก็ลืมตา อย่าไปเพ่งน่ะ สูตรนี้ไวที่สุด ... มันจะไม่ไปไหน ให้จิตอยู่ เพราะจิตเราไม่อยู่ ถ้าเราไม่มีที่จับ ที่ยึด ถ้าเราเราภาวนาให้นึกถึงพระพุทธรูป จิตมันไว ต้องฝึกมัน ฝึกเวียนว่ายตายเกิด อย่าไปเรียนด้านเดียวทางโลก"
    " จิตมันเบา จิตมันมีกำลัง มีกำลังคือไม่หงุดหงิดลำคาญในเสียง คนที่ฝึกกรรมฐานไม่ใช่คนที่เซื้องซึ้มน่ะ เป็นประโยชน์ ทำงานหนักด้วยน่ะ ทำงานหนักกว่าคนปกติ ทั้งทางโลกและทางธรรมไม่พลาด เว้นแต่คนที่ไม่ฝึก และสงสัย.... อย่าลืมน่ะ เราต้องฝึกเตรียมตัวตาย "
    คำสอนหลวงตาม้าคลิกฟังที่นี้ คำสอนหลวงตาม้าคลิกฟังที่นี้ https://www.youtube.com/watch?v=yWBJUHCIjP8

    อานิสงค์การสวดบทพระบรมมหาจักรพรรดิ
    บทนี้เป็นการสวดไหว้พระพุทธเจ้าทั่วทั้งพระนิพพานตลอดจนถึงพระธรรมเจ้าและพระโพธิสัตว์เจ้า พระอริยสงฆ์สาวกทั้งมวล ไหว้พระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ รวมถึงน้อมนำกำลังของเทพพรหมพระอริยะเจ้าทั้งหลาย การสวดครั้งหนึ่งเป็นการดึงกำลังของพระเจ้าจักรพรรดิทุกๆพระองค์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมาร่วมดึงกำลังของพระมหาโพธิสัตว์เจ้า มารวมอาราธนาเข้าที่กายและใจ และรวมกำลังของพระโพธิญานโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย ตั้งแต่อดีต ถึง ปัจจุบัน และอนาคตการสวดครั้งหนึ่งมีอานิสงค์แผ่ไปทั่วจักวาลสามแดนโลกธาตุ สามารถแผ่บญไปทั่วทุกสรรพสัตว์ตลอดจนเทวดาประจำตัวเรา ญาติมิตรเพื่อนฝูงครอบครัว เจ้ากรรมนายเวร และหากนำบทสวดนี้ไปสวดในนรกหรือแผ่ไปไฟนรกจะดับชั่วขณะ บทนี้เป็นการสร้างกำแพงแก้วคุ้มกันตัว รวมถึงการอาราธนาบารมีครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อัญเชิญเข้าตัว เพื่อป้องกันภัย และสร้างมหาโชคมหาลาภอานิสงส์แก่ผู้สวดมีทั้งมหาบุญมหาลาภ เนื่องจากมีการกล่าวถึงพระสีวลี รวมถึงบทนี้มีพลังงานอย่างยิ่งในการเจริญพระกรรมฐาน หากนำไปสวดบริกรรมก่อนหรือระหว่างนั่งภาวนากรรมฐาน...จะทำให้การภาวนามีพุทธานุภาพมาคลุมและคุมการปฎิบัติของเรา คลุมกายและจิตเราเป็นวิมานทิพย์ (ครอบวิมานให้ตัวเองหรือสวดอธิษฐานครอบคนอื่นก็ได้) หากสวดบทนี้สามารถอฐิษฐานเรื่องราวใดๆมีติดข้องใจไห้ได้ผ่านพ้นไปอย่างทะลุปรุโปร่ง กล่าวโดยสรุปได้ว่าคาถาจักรพรรดินี้ จากการเรียบเรียงถ้อยคำโดยหลวงปู่ดู่ ท่านก่อให้เกิด จักรพรรดิ กำลังจักรพรรดิขึ้นด้วยในบทสวด พระคาถาครอบจักรวาลปล.สำหรับนักปฎิบัติเบื้องต้นใช้คู่กับพระผงจักรพรรดิจะทำให้ก้าวหน้าเร็ว

    ทำไมต้องฝากกระแส วางลูกแก้ว
    หลวงตาสอนว่าเหตุที่พวกเราต้องอธิษฐานฝากกระแสไว้ตามสถานที่ต่างๆ หรือ การวางพระผงจักรพรรดิ ลูกแก้วจักพรรดิ ตามสถานที่ต่างๆ เนื่องจาก ภูมิบริเวณนั้น บางภูมิ ไม่สามารถออกไปไกลกว่าสถานที่อยู่ได้ เนื่องจากมีความละเอียดและแสงสว่างแห่งบุญไม่มาก เช่น ภูมิที่อยู่ใกล้มนุษย์ อย่างชั้นจาตุมหาราชิกา จะไปได้ในระยะประมาณ 3 กม. รอบๆบริเวณที่อยู่เท่านั้น อย่างภูมิ นาค หรือ พญาครุฑ ก็จะไปได้แค่ระดับ หัวหน้า ส่วนคนอื่นๆก็ต้องอยู่แถวๆนั้น ดังนั้นอยู่ที่เราที่จะต้องเป็นผู้อธิษฐานฝากกระแส เพื่อปรับภพภูมิในสถานที่ๆเราต้องการจะแผ่เมตตา เพื่อให้พลังงาน หรือ กระแสบุญต่างๆที่เราได้กระทำ ให้มีแสงสว่างแห่งบุญให้ ภพภูมิ เทวดา วิญญาณต่างๆ ที่อยู่ตรงที่จุดที่เราฝากกระแสหรืออธิษฐานไว้ ให้มาโมทนาบุญกับเราได้ตลอด
    นี่คือวิธีการแผ่เมตตา โดยการฝากกระแส ในศาสตร์ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญพระโพธิสัตว์ คือผู้ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ ท่านต้องรีบเกิด รีบทำ รีบตาย การเกิดแต่ละชาติ ท่านต้องมีประโยชน์ เอาปัจจุบัน หลวงปู่ดู่ ท่านสร้างพระให้คนกำพระ สวดบทพระมหาจักรพรรดิ
    ซึ่งตอนนี้มีสวดกันเยอะ ทั่วโลก ที่หลวงตาทำทุกวันนี้ หลวงตาคือสาขาของท่าน บุญไปไหน ก็ไปที่ท่านอีกนั่นแหละ รวมถึงทุกคนที่สร้างพระ ส่งเสริมให้คนสวดบทพระมหาจักรพรรดิ บุญที่ได้ก็ไปยังหลวงปู่อีกเช่นเดียวกัน ถึงแม้ท่านจะไม่อยู่ แต่ท่านทิ้งรูปลักษณ์เอาไว้ พร้อมพลังงาน ซึ่งมีพร้อมทั้งรูปและนาม เป็นพลังงานของท่านทั้งนั้น
    คนดูหมอดู คือ คนที่ประมาทในตัวเอง ไม่เชื่อมันในตัวเอง ไปให้เขาทัก ทายต่างๆนาๆ
    สังฆทานที่ถูกต้อง มีพระพุทธรูป มีผ้าไตร มีของใช้ ของฉัน ยารักษาโรค หรืออะไรก็ได้ โดยเป็นทานของหมู่สงฆ์ และสามารถถวายองค์เดียวก็ได้ ไม่จำเป็นต้องถวายหลายๆรูป พร้อมๆกันเหรียญหรือวัตถุมงคล ของพระโพธิสัตว์ ไม่ว่าจะเกิดซักกี่ชาติ หากเหรียญที่ท่านทำยังอยู่ พลังงานบุญและบารมีของท่านที่ทำไว้ ในแต่ละชาติ ก็จะเข้าไปยัง เหรียญหรือวัตถุมงคล ของท่านเสมอ แต่ถ้าเป็นเหรียญหรือวัตถุมงคลของพระอรหันต์ พลังงานจะปิดไปแล้ว เหรียญอันนั้นจะไม่สามารถรับพลังงานอะไรได้อีก และไม่สามารถเพิ่มได้อีก เพราะว่าท่านได้ปิดบัญชีไปแล้วนั่นเอง
    ฝากกระแสฯ ขออาราธนาบารมีรวมหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด ขอบารมีหลวงปู่ได้โปรดรวมบุญรวมกำลังทั้งหมดทั้งมวลมายังลูกแก้ว และ พระผงจักพรรดิ์ นี้ ขอลูกแก้วจงเปล่งแสงกำลังบุญทุกครั้งไม่ว่าข้าพเจ้าหรือใครก็ตามในสามแดนโลกธาตุสวดบทพระมหาจักรพรรดิขอให้สว่างปรับภพภูมิแก่จิตวิญญาณทั้งหลายอัตโนมัติ

    การสัพเพฯ คืออะไร
    หลวงตาม้าท่านอธิบายต่อไปว่า เมื่อเราน้อมจากหลวงปู่ มาที่ธาตุเรานั้น เสมือนเป็นการเก็บพลังงานไว้ในภาชนะ(ภาชนะของแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและบารมีเก่าก่อนที่ได้สั่งสมมาตั้งแต่อดีตชาติ) หลังจาที่เราน้อมนำพลังงานของหลวงปู่มาที่เราแล้ว จากนั้นให้เราก็ส่งต่อพลังงานออกไปยังเป้าหมาย โดยการอธิษฐานจิต แล้วสวดสัพเพฯ ส่งพลังงานออกไป พลังงานของหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวด พระมหาจักรพรรดิทุกๆพระองค์ ไปสู่สรรพสัตว์ทั่วทั้ง 3 โลก และทุกตำแหน่งแห่งที่ในทุกๆมิติ หรือไปถึงบุคคลที่เราระบุ ส่งพลังงานไปช่วยเหลือ หรือครอบวิมานให้หรือกิจการงานต่างๆ ผู้เกี่ยวข้องทุกคนพลังงานที่ส่งผ่านภาชนะเป็นพลังงานของครูบาอาจารย์ทุกๆ พระองค์ มีกำลังส่งกว้างไกล และทรงพลังยิ่งนัก มีคลื่นความถี่สูงกว่าการเดินทางของแสงอาทิตย์ อย่างชนิดเทียบกันไม่ได้ เช่นพอนึกเท่านั้นก็ไปทั่วแสนโกฏิจักรวาลนั่นเอง เพียงแต่ให้เราหมั่นทำทุกๆวัน หลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวด และพระมหาจักรพรรดิ ทุกๆพระองค์ที่หลวงปู่ดู่ได้อัญเชิญเอาไว้ล่วงหน้า ก็จะช่วยส่งเสริมการสวดภาวนาของเราเต็มที่
    หลวงปู่จึงเตือนให้เราหมั่นทำ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน หากเราไม่ดำริ หลวงปู่ก็จะวางอุเบกขา หากเราทำตามคำแนะนำของท่านๆก็ยินดีช่วยเราเต็มที่ เช่นเดียวกับที่หลวงปู่เคยพูดให้ลูกศิษย์ได้ฟังว่า ข้าจะคอยช่วย ศรัทธาข้าจริง นับถือข้าจริง แกคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงแก แกไม่คิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงแก ข้าอยู่ใกล้ ๆ แกจำไว้ พลังงาน บุญกุศล คลื่นแสง สี เสียง ที่หลวงปู่ได้สร้างไว้ยาวนาน 80 อสงไขย กับแสนมหากัป นับตั้งแต่หลวงปู่ได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า ยังอยู่ครบถ้วนพร้อมบริบูรณ์ สำหรับให้ลูกหลานได้น้อมนำพลังงานมาที่ภาชนะของตนเองในการสวดภาวนาและสัพเพฯ)

    เครดิต คุณโด่ง เฟสรวมกองบุญ บุญพึ่งได้จริง " ทำไม่ต้องวางลูกแก้วจักรพรรดิ สัพเพฯ "

    ๑. ทำแล้วเราสบายใจ ใจสบายเป็นบุญ บุญเกิดที่เรา เราเป็นสื่อนำบุญ เป็นต้นกระแสบุญ
    ๒. วางลูกแก้วฯ เหมือนตั้งครื่องรับส่งพลังงานบุญ จุดนั้นสถานที่วางลูกแก้วฯ
    นั้น จะแผ่พลังงานบุญออกมาอัตโนมัติ ทุกเวลาที่มีผู้สวดจักรพรรดิ สัพเพฯ
    ๓. โอปปาติกะ สัมภเวสี เทวดา พรหม ที่อาศัยอยู่ หรือผ่านไปมา ยังสถานที่ๆ เราวางลูกแก้วฯ ตั้งกองบุญไว้ จะสามารถอนุโมทนารับบุญได้ทุกประการ
    ๔. เมื่อมีคนที่มาสร้างบุญ ณ. สถานที่ๆ ได้มีการวางลูกแก้วฯ ตั้งกองบุญไว้ เขาเหล่านั้นจะถูกเชื่อมกระแสบุญอัตโนมัติ ทุกครั้งที่มีบุญเกิดขึ้นในสถานที่นั้นๆ บุญก็จะถึงพร้อมเขาเหล่านั้นทุกบุญ (เป็นเรื่องของการฝากกระแสบุญ)
    ๕. สถานที่ๆ ถูกว่างลูกแก้วฯ จะแผ่พลังงานยุญออกมาแทบตลอดเวลา ดังนั้นสถานที่นั้นๆ จะถูกปรับพลังงานให้ดีขึ้นตลอดเวลาเช่นกัน (สามารถปรับแก้ฮวงจุ้ยได้ โดยที่เราไม่ต้องทุบทำลายอาคารสถานที่ เป็นการปรับพลังงานจากภายใน ออกสู่ภายนอก)

    ศูนย์กระจายบุญ จุดเชื่อมพระพลังงานจักรพรรดิ์ทั่วโลก !!!!! แจกฟรีทั่วโลก
    1.ศูนย์อเมริกา ที่ Marble of the emperor center จัดส่งสำหรับคนที่อยู่ต่างประเทศ
    https://www.facebook.com/Helpghost
    2. ศูนย์ประเทศไทย ที่ ศูนย์บรรเทาทุกข์ผี สำหรับประเทศไทยและใกล้เคียง
    https://www.facebook.com/Ghostcenter
    3. ศูนย์ลูกแก้วจักพรรดิ์ ภาษาอังกฤษ สำหรับคนต่างชาติ
    https://www.facebook.com/PositiveMarble
    4. ศูนย์การสร้างพระผงจักพรรดิ์ ที่ บันทึกบุญเทพระผงจักรพรรดิ์ทั่วโลก
    https://www.facebook.com/บันทึกบุญเทพระผงจักรพรรดิ์ทั่วโลก

    อ่อนน้อมถ่อมต้น จิตที่พระ กำพระผงจักพรรดิ์ สวดมนต์ วางลูกแก้วปรับภพภูมิ แผ่เมตตา สัพเพฯ อนุโมทนาบุญเวลาสัพเพฯนึกถึงลูกแก้วทั่วโลกและสามแดนโลกธาตุเพื่อฝากกระแสให้ภพภูมิที่ห่างไกล ที่มีความทุกข์มาก โอปาติกะทั้งหลาย ช่วยกันสวดมนต์แผ่ไปเรื่อยๆ ทุกวันๆ ค่ะ ไปไหนให้มีประโยชน์ หมั่นสวด หมั่นนึกถึงหลวงปู่



    [​IMG]
     
  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    หลวงปู่ดู่ กับพระคาถามหาจักรพรรดิ

    [​IMG]





    “นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ
    มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง
    อะหังวันทามิ ทูระโต
    อะหังวันทามิ ธาตุโย
    อะหังวันทามิ สัพพะโส
    พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ”



    “พระคาถามหาจักรพรรดิ” เป็นพระคาถาที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก“ชมพูปติสูตร” ในตอนที่พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตพระองค์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเพื่อกำราบทิฐิพญา ชมพูบดีพระมหากษัตริย์ผู้มากด้วยอิทธิฤทธิ์ โดยผู้ที่รจนาพระคาถาบทนี้ขึ้นมาก็คือ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก จ.อยุธยา พระผู้เป็นดั่งร่มโพธิ์แก้วที่แผ่กิ่งก้านใบบุญบารมีมอบความร่มเย็นเป็นสุข ให้แก่ลูกศิษย์ทั่วทุกชนชั้นอย่างไม่มีประมาณตามแนวทางแห่งพระศรีอาริยเมตไตรย์โพธิสัตว์และหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งพระคาถานี้เป็นพระคาถาหลักที่หลวงปู่ดู่ใช้ในการรวมบารมีแผ่เมตตาช่วย เหลือภพภูมิทั้งหลายทั่วสามแดนโลกธาตุ และใช้ในการอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องทุกชนิดของท่าน โดยท่านได้ถ่ายทอดความรู้ทั้งหลาย รวมทั้งพระคาถามหาจักรพรรดินี้ ไว้ให้แก่ลูกศิษย์ผู้เป็นหน่อโพธิ์แก้วต้นใหม่ที่จะทำหน้าที่สร้างความร่ม เย็นเป็นสุขให้แก่ลูกศิษย์ในรุ่นหลังต่อไปก็คือ พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร หรือ หลวงตาม้า แห่งวัดถ้ำเมืองนะ นั่นเอง

    เคยมีลูกศิษย์ที่ทันสังขารหลวงปู่ดู่ท่านหนึงสนทนากับหลวงปู่ถึงเรื่อง 'คาถามหาจักรพรรดิ'

    ลูกศิษย์ "หลวงพ่อเป็นผู้แต่งคาถาบูชาพระ คาถามหาจักรพรรดิ ใช่มั้ยครับ"

    หลวงปู่ "สำเภาเขาสร้างพระพุทธรูป อยากได้คาถาบูชาพระ
    ก็เลยมานึกเอาเอง มันจะผิดอยู่หน่อยหนึ่งตรงคำบูชาที่มี นะโมพุทธายะ
    แล้วก็ ยะธาพุทโมนะ หรือแกว่าไง" หลวงปู่ท่านถามเป็นนัยๆ

    ลูกศิษย์ "ปกติ การตั้งองค์พระ การอธิษฐานให้เป็นพระ โบราณเขาใช้กันว่านะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ ดังการที่หลวงพ่อกล่าวเช่นนี้
    ต้องการให้บูชาคาถาเกิดเป็นพระพุทธเจ้าปางมหาจักรพรรดิใช่ไหมครับ"

    หลวงปู่ดู่ท่านพยักหน้ารับ ทั้งหลวงปู่ดู่ยังกล่าวต่อไป
    เกี่ยวกับบทบูชาพระที่นิยมนำมาเรียกกันว่าคาถาจักรพรรดิในปัจจุบันนี้อีกว่า

    "คาถา บทนี้เป็นของดี หมั่นท่องไว้ทุกวัน ปกติเขาไม่ให้กันหรอกเพราะเขากลัวลูกศิษย์จะดีกว่าอาจารย์ แต่ข้าไม่เคยกลัวและไม่ปิดบัง ท่องให้ดีนะอีกหน่อยจะรวย เพราะมีการกล่าวถึงพระสิวลีผู้เป็นเลิศทางลาภไว้ด้วย อาบไปเสกไปก็ได้ กินข้าวก็ได้ ดีทั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้ามาบอกพวกแก ข้าทดลองมาแล้วทั้งนั้น เมื่อดีแล้วจึงมาบอก ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ศรัทธาและหมั่นฝึกฝนปฏิบัติ คนเราอยู่ดีๆจะให้รวยได้อย่างไร ต้องปฏิบัติเสียก่อน ดูอย่างข้าเมื่อก่อนต้องไปยืมเงินเขามาซื้อธูปเทียนใบชามาเลี้ยงแขก เดี๋ยวนี้ของกินของใช้มีใช้เกลื่อนกลาดไป เรามาพบไม้งามเมื่อขวานบิ่น แกว่าจริงไหมของดีของอร่อยกินก็ไม่ได้ ฟันไม่มี" หลวงพ่อหัวเราะ และยังเสริมอีกว่า

    "คนเราต้องทำให้ดีเมื่อดีแล้วจึงรวย แล้วจะได้ไม่ซวย พระจะดีต้องหมดอยาก
    ถ้ายังอยากอยู่ก็ไม่ใช่พระดี"

    คาถาบูชาพระที่หลวงปู่ดู่ท่านย้ำเอาไว้ให้หมั่นท่องไว้ทุกวันนั้น ต่อมาภายหลังมีลูกศิษย์นำไปสวดแล้วเห็นว่ากายทิพย์ทรงเครื่องเป็นมหาจักรพรรดิ และมีพลังงานขับเคลื่อนเป็นพิเศษทำนองนั้นจึงได้นำมากราบเรียนถามหลวงตาม้าในโอกาสที่หลวงตาลงมา กทม. วันหนึ่งหลวงตาจึงไขความลับให้ฟังทั่วกันว่า ขณะที่สวดคาถามหาจักรพรรดินั้นถ้าเทวดาผ่านมาก็จะเห็น แม้แต่ หนู หมา แมว บางครั้งก็สามารถเห็นมิตินี้ได้เช่นกัน

    ทุกอย่างที่หลวงปู่ตั้งใจรวบรวมเอาไว้ในพระคาถา ดังที่หลวงตาได้อธิบายเอาไว้จะมาปรากฏที่กายพลังงานของผู้สวดตลอดเวลาที่กำลังสวด ที่หลวงตาเรียกว่าจิตทำการบันทึกบุญเอาไว้ตลอดเวลา

    หรือหลังจากสวดแล้ว เจ้าตัวสามารถทรงอารมณ์นั้นเอาไว้ได้ กายพลังงานก็จะมีพลังงานต่างๆในพระคาถาปรากฏอยู่พลังงานในพระคาถาเป็นอย่างนี้เอง หลวงปู่ดู่จึงได้เน้นย้ำเอาไว้ ให้ลูกหลานหมั่นสวดเป็นประจำจะกินจะดื่ม จะอาบน้ำก็ดี หรือนึกขึ้นได้เมื่อใดสวดเมื่อนั้น ด้วยเกิดพลังงานบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่มหาศาล

    ที่หลวงปู่ไม่ได้แจงรายละเอียด รอเวลาเมื่อสิ่งเหล่านี้ได้มาปรากฏในผู้สวดแล้ว
    จึงนำมาถามถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนว่าเป็นสิ่งไรกันแน่....เป็นการพิสูจน์คุณวิเศษของพระคาถาที่มีคุณประโยชน์ใหญ่หลวงแก่ผู้ที่สวดช่วยทำให้ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนได้ในที่สุด
    หลวงปู่ท่านพูดน้อยแต่แฝงเอาไว้ด้วยนัยแห่งคุณประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ . . .





    หลวงปู่ดู่ท่านยังกล่าวถึงการใช้บทบูชาพระหรือคาถาพระมหาจักรพรรดิของท่านว่า

    "ข้าเป็นคนโลภมากทำอะไรก็อยากทำให้มากที่สุด ดีที่สุด เดี๋ยวนี้ใช้แค่บทนี้ทั้งนั้น
    ใครมานั่งคุมเล่าข้าเสกเขาก็รู้เองแหละว่าทำจริงหรือไม่จริง"

    หลวงปู่ดู่ท่านเคยมีลูกศิษย์คนหนึ่งเป็นพระ ต่อมาท่านไม่มาหาหลวงพ่ออีกเนื่องจากหลวงพ่อพูดว่า"ยังไม่ไปนิพพานเพราะต้องโปรดคน" แต่พระองค์นี้ไปตีความไปว่าหลวงพ่อยังติดอยู่กับลาภยศ ชื่อเสียง ซึ่งความจริงแล้วหลวงพ่อมีเมตตาและบอกความปราถนาของท่านให้ทราบว่าท่านเป็น พระโพธิสัตว์

    สาเหตุอันเนื่องจากการที่บทความนี้กล่าวท้าวความเกี่ยวกับบท ชมพูบดีสูตร หรือบทมหาจักรพรรดิ์ไว้เนื่องจากปัจจุบันขาดผู้สนใจเห็นเป็นเรื่องเหลวไหล แม้แต่พระบางองค์ท่านยังกล่าวว่าเกินความจริง โดยท่านลืมนึกถึงคำว่า "อจินไตย"คือสิ่งไม่ควรคิดเพราะไม่สามารถนำเหตุผลทางโลกหรือทางทฤษฎีมาทำให้เกิดความ กระจ่างได้ เป็นเรื่องของผู้ปฏิบัติพึงรู้ได้เอง ถ้าคิดมากอาจเป็นบ้า สิ่งเหล่านี้ได้แก่

    1. พุทธวิสัย วิสัยของพระพุทธเจ้า เช่น ทำไมท่านถึงตรัสรู้ได้ ท่านมีอิทธิปาฏิหาริย์จริงหรือ
    2.วิสัยของกรรม เช่น ทำไมคนนั้นคนนี้รวย จน สมบูรณ์ กำพร้า
    3.วิสัยของพระอรหันต์ เช่น ท่านหมดโลภ โกรธ หลงหรือ
    4.วิสัยของโลก เช่น โลกเกิดมาได้อย่างไร
    5.วิสัยของผู้ปฏิบัติธรรม เช่น ลักษณะที่สงบเป็นอย่างไร สงบจริงหรือไม่

    อานิสงค์การสวดบทพระบรมมหาจักรพรรดิ โดยย่อกล่าวคือ


    บทนี้เป็นการสวดไหว้พระพุทธเจ้าทั่วทั้งพระนิพพานตลอดจนถึงพระธรรมเจ้าและพระโพธิสัตว์เจ้า

    พระอริยสงฆ์สาวกทั้งมวลไหว้พระพุทธเจ้าทั้ง5พระองค์รวมถึงน้อมนำกำลังของเทพพรหมพระอริยะเจ้าทั้งหลาย

    การสวดครั้งหนึงเป็นการดึงกำลังของพระเจ้าจักรพรรดิทุกๆพระองค์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมาร่วมถึงกำลังของพระมหาโพธิสัตว์เจ้ามารวมอาราธนาเข้าที่กายและใจและรวมกำลังของพระโพธิญานโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลายตั้งแต่อดีต ถึง ปัจจุบัน และอนาคต

    การสวดครั้งหนึ่งมีอานิสงค์แผ่ไปทั่วจักวาลสามแดนโลกธาตุ สามารถแผ่บญไปทั่วทุกสรรพสัตว์ตลอดจนเทวดาประจำตัวเราญาติมิตรเพื่อนฝูงครอบครัว เจ้ากรรมนายเวรและหากนำบทสวดนี้ไปสวดในนรกหรือแผ่ไปไฟนรกจะดับชั่วขณะ

    บทนี้เป็นการสร้างกำแพงแก้วคุ้มกันตัว รวมถึงการอาราธนาบารมีครูบาอาจารย์พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์อัญเชิญเข้าตัวเพื่อป้องกันภัยและสร้างมหาโชคมหาลาภ

    อานิสงส์แก่ผู้สวดมีทั่งมหาบุญมหาลาภ เนื่องจากมีการกล่าวถึงพระสีวลีร่วมถึงบทนี้มีพลังงานอย่างยิ่งในการเจริญพระกรรมฐาน

    หากนำไปสวดบริกรรมก่อนหรือระหว่างนั่งภาวนากรรมฐาน...จะทำให้การภาวนามีพุทธานุภาพมาคลุมและคุมการปฎิบัติของเรา

    คลุมกายและจิตเราเป็นวิมานทิพย์ (ครอบวิมานให้ตัวเองหรือสวดอธิษฐานครอบคนอื่นก็ได้)

    หากสวดบทนี้สามารถอฐิษฐานเรื่องราวใดๆมี่ติดข้องใจได้ให้ผ่านพ้นไปอย่างทะลุปรุโปร่ง กล่าวโดยสรุปได้ว่าคาถาจักรพรรดินี้

    จากการเรียบเรียงถ้อยคำโดยหลวงปู่ดู่ท่าน ก่อให้เกิด จักรพรรดิ กำลังจักรพรรดิขึ้นด้วยในบทสวด พระคาถาครอบจักรวาล

    ปล.สำหรับนักปฎิบัติเบื้องต้นใช้คู่กับพระผงจักรพรรดิจะทำให้ก้าวหน้าเร็ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    "แบบปฏิบัติธรรมหลวงพ่อดู่เป็นเช่นใด?"

    [​IMG]





    เกี่ยวกับเรื่องแบบปฏิบัติธรรมนี้ หลวงพ่อได้เล่าไว้ว่าเคยมีผู้พิมพ์แบบปฏิบัติธรรมมาถวายและใช้คำว่า “แบบปฏิบัติธรรมวัดสะแก” ท่านแก้ให้ว่า "อย่างนี้ไม่ถูกต้องเพราะเป็นแบบของพระพุทธเจ้า ไม่ควรใช้ว่าเป็นแบบของวัดใด"

    อีกครั้งหนึ่งที่เคยมีผู้ตั้งคำถามในอินเตอร์เน็ตว่า “แบบปฏิบัติธรรมของหลวงพ่อดู่เป็นอย่างไร?”

    ข้าพเจ้าหวนระลึกถึงบทสนทนาตอนหนึ่งที่หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังเมื่อครั้งมีลูกศิษย์มาขอศึกษาธรรมตามแบบของท่าน หลวงพ่อได้ตอบศิษย์ผู้นั้นไปว่า "ข้าไม่ใช่อาจารย์หรอก อาจารย์นั่น! ต้องพระพุทธเจ้า หลวงพ่อทวดนั่น ข้าเป็นลูกศิษย์ท่าน"

    ข้าพเจ้ากลับมานั่งคิดทบทวนอยู่หลายครั้ง ความชัดเจนในคำตอบของหลวงพ่อจึงค่อย ๆ กระจ่างขึ้นเป็นลำดับ เสียงสวดมนต์ทำวัตรแว่วมาแต่ไกล .....โย ธัมมัง เทเสสิ อาทิกัลยาณัง มัชเฌกัลยาณัง ปริโยสานะกัลยาณัง สาตถัง สะพยัญชะนัง เกวะละ
    ปะริปุณณัง ปะริสุทธัง พรัหมะจะริยัง ปะกาเสสิ

    แปลได้ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ใด ทรงแสดงธรรมแล้ว มีความไพเราะงดงามในเบื้องต้น ไพเราะงดงามในท่ามกลาง ไพเราะงดงามใน ที่สุดทรงประกาศพรหมจรรย์ คือ แบบแห่งการปฏิบัติอันประเสริฐ บริสุทธิ์ บริบูรณ์โดยสิ้นเชิง พร้อมทั้งอรรถะ พร้อมทั้งพยัญชนะ สาธุ ถูกของหลวงพ่อและจริงเป็นที่สุด พระพุทธเจ้าทรงวางแบบแผนการปฏิบัติไว้อย่างดียิ่ง เป็นขั้นเป็นตอนและสมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ต้องการผู้ใดมาแต่งมาเติมอีก กุญแจคำตอบสำหรับเรื่องนี้ได้เฉลยแล้ว ตะมะหัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ ตะมะหัง ภะคะวันตัง สิระสา นะมามิ ข้าพเจ้าขอบูชาอย่างยิ่งเฉพาะพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า

    ข้อมูลจากหนังสือ 101 ปี หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    หน้าที่ 94 และ95

    คติธรรมคำสอนโดย... หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ





    Graphics by... ชยปุญฺโญ ภิกขุ (อธินันท์ อ่ำบุญ) Athinan Aumboon วัดพุทธพรมปัญโญ (ถ้ำเมืองนะ) ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

    ท่านสามารถรับชม วีดีโอ ประวัติหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ, ประวัติหลวงตาม้า, ประวัติวัดพุทธพรหมปัญโญ (ถ้ำเมืองนะ) ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และ วีดีโอ อื่นๆ ของวัดพุทธพรหมปัญโญ (ถ้ำเมืองนะ) ได้ที่... http://www.youtube.com/user/Athinan58?feature=mhee

    ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือคติธรรมคำสอน โดย... พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า) หมายเหตุ ไม่สามารถแสดงหน้าตัวอย่างได้ เพราะไฟล์มีขนาดใหญ่ 131 MB และไม่ใช่ไวรัส ได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmdVp5RVZNWEk2bTA/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือหลวงตาสอนศิษย์ เล่มที่ 1/5 ฉบับเต็มได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmeHgwWnhVZU85ajg/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือหลวงตาสอนศิษย์ เล่มที่ 2/5 ฉบับเต็มได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmU1E2eEhzczE2MzQ/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือหลวงตาสอนศิษย์ เล่มที่ 3/5 ฉบับเต็มได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmMGVzQnYzWUI2Ukk/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือหลวงตาสอนศิษย์ เล่มที่ 4/5 ฉบับเต็มได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmZU1SempNQjh4NXM/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือหลวงตาสอนศิษย์ เล่มที่ 5/5 ฉบับเต็มได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmcmVtYmd1cHhTY1E/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดเรื่องเล่าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmNjlhZTMzZGYtNG…/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดการปฏิบัติกัมมัฏฐานโดยละเอียดของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmZDU3MjZiNGItMD…/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือไตรรัตนญาณจักรพรรดิเปิดโลก ได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmOWI4ZDM4YTQtOT…/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดบทสวดจักรพรรดิ ได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmZDAxMTAxNTktNj…/edit…

    ชยปุญฺโญ ภิกขุ (อธินันท์ อ่ำบุญ) Athinan Aumboon วัดพุทธพรมปัญโญ (ถ้ำเมืองนะ) ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
     
  16. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    [​IMG]
     
  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    [​IMG]
     
  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    [​IMG]



    ครั้งหนึ่ง

    มีอุบาสกได้กราบเรียนถามหลวงปู่ว่า "หลวงปู่ครับ ที่ว่าธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม ธรรมในที่นี้หมายถึงอะไรครับ"
    หลวงปู่ตอบสั้นๆ ในทันทีว่า "กายสุจริต วาจาสุจริต มโนสุจริต"
    หลวงปู่ท่านไม่ได้ขยายความ เพราะรู้ว่านิสัยของนักศึกษาพวกนี้คงไปค้นคว้าเอาเองได้ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น
    กายสุจริตก็คือ การกระทำสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ไม่ไปประพฤติผิดศีลข้อ ๑ ๒ และ ๓ คือ ไม่ไปละเมิดหรือเบียดเบียนในชีวิต ในทรัพย์ ในบุคคลที่เขาหวงแหน (หมายถึงประพฤติผิดในกาม)
    วาจาสุจริตก็คือ การพูดจาถูกต้องดีงาม ไม่ไปประพฤติผิดศีลข้อ ๔ ได้แก่ ไม่พูดเท็จ ไม่พูดหยาบคาย ไม่พูดยุแหย่ให้แตกแยก และไม่พูดเพ้อเจ้อ เลื่อนลอย ไร้เหตุผล
    มโนสุจริตซึ่งสำคัญที่สุด คือไม่ละโมบคิดเอาแต่จะได้ ไม่คิดร้ายมุ่งเบียดเบียนหรือเพ่งมองในแง่ที่จะทำลาย รวมทั้งการมีความเห็นถูกต้อง (สัมมาทิฏฐิ)
    อานิสงส์แห่งการมีกายสุจริต วาจาสุจริต และมโนสุจริต นี้เองที่จะมาคุ้มครองเรา ซึ่งแต่ก่อนก็คิดแบบเด็กๆ ว่าก็คุ้มครองเราให้แคล้วคลาดปลอดภัยยังไงล่ะ ซึ่งก็คงจะถูกระดับหนึ่ง แต่พอศึกษาธรรมและมีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น จึงรู้ว่าหมายถึงสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้น นั่นก็คือคุ้มครองเราให้สามารถรักษากายใจให้เป็นปรกติสงบเย็นอยู่ได้ แม้ในท่ามกลางโลกธรรมที่เข้ามากระทบนั่นเอง
     
  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    แก้ไข เรื่องรับขันธ์และลงทรง

    ...สมัยที่หลวงปู่ยังทรงธาตุขันธ์อยู่ มีญาติโยมที่ไปรับขันธ์ทรงเจ้ามาพึ่งบารมีท่าน บอกว่า ไม่ต้องการโดนลงทรง

    ท่านบอกว่า "...เวลาเอ็งมีอาการ จะเริ่มทรง ให้นึกถึงข้า..."
     
  20. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,475
    ตัวอย่างการอธิษฐานรวมกำลังพระจักรพรรดิ (ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐาน)



    (ตั้งสัจจะโดยจะสวดพระคาถามหาจักรพรรดิทุกวัน หรือตั้งสัจจะใดก็ได้ที่เราคิดว่าทำได้ทุกวัน)

    ด้วยสัจจะอธิษฐานลูกขอบารมีหลวงปู่ดู่โปรดเมตตา รวมบุญน้อมนำบารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิถึงองค์ปัจจุบัน บรมมหาจักรพรรดิทุก ๆ พระองค์ ขอบารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย
    ขอบารมีรวมหลวงปู่ทวดหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด ขอบารมีรวมของดวงจิตพระโสดาบัน พระสกิทาคาและพระอนาคามีทุก ๆ ดวงจิต สิ่งที่ลูกอธิษฐาน ลูกอธิษฐานเพื่อปรับภพภูมิของ (ให้บอกความประสงค์ไปทั้งหมด)
    สิ่งที่ลูกอธิษฐานนี้ ลูกขออารธนาบารมีหลวงปู่ดู่น้อมนำบารมีรวม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ ขอบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่เป็นที่สุด
    ขอได้โปรดเมตตารวมกำลังพระจักรพรรดิในทุกรูปลักษณ์และที่ลูกได้สวดทุกวัน
    เพื่อนำกำลังนี้มาเป็นประโยชน์ต่อ ...................... (ให้บอกไปในเรื่องที่เราต้องการ เช่น หน้าที่การงาน การเงิน โรคภัยไข้เจ็บ)
    และขอให้ทุกสิ่งเป็นจริงโดยเร็วพลัน ตามสัจจะอธิษฐานนี้เทอญ ...........
    โมทนาสาธุ โมทนาสาธุ โมทนาสาธุ

    สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
    อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย
    อัพยา ปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความพยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
    อนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่ไาด้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย
    สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
    ( สวดสัพเพ สัตตา อีก 3 จบ)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...