ดูจิตที่รู้ผิดจากความเป็นจริง ย่อมเห็นจิตเป็นกองทุกข์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 27 กันยายน 2009.

  1. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236

    จริงๆ ท่านเข้าใจเรื่องเนวสัญญานาสัญญาแล้วครับ

    แต่ท่านไม่เข้าใจเรื่องสัญญาขันธ์
     
  2. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับมันคนละเรื่อง ฌานที่พระพุทธองค์ทรงปฏิเสธนั้น
    พระองค์ทรงรู้แล้วว่าไม่ว่างจากอารมณ์ พระองค์จึงทรงปฏิเสธไปแต่ต้นครับ

    ท่านเอาคำว่า"นิเสธ"มาใช้ ค่าของ"เนวสัญญานาสัญญา"ก็คงไม่เปลี่ยนแปลงครับ
    ทำให้กิเลสเบาบางได้เท่านั้น แต่ทำให้พ้นทุกข์ไม่ไครับ

    นิเสธ มีความหมายพื้นฐานคือผลที่ได้จากการเปลี่ยนค่าความจริงของประโยค ไปเป็น<WBR>ตรงกันข้าม การทำให้เป็นนิเสธคือการดำเนินการสำคัญที่ใช้ในตรรกศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ ...

    <CITE></CITE>
    <CITE>;aa24</CITE>
     
  3. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    คนที่เข้าใจเรื่องสัญญาขันธ์
    ไม่จำเป็นต้องเข้าใจเรื่องเนวสัญญานาสัญญาก็ได้ครับ

    หากมีกำลังวิปัสสนาดีๆ ก้เห็นข้อเท็จจริงของ สัญญาขันธ์
    โดยที่ไม่ต้อง ทำเนวสัญญานาสัญญาเลย
     
  4. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ ในทางพุทธศาสนานั้น
    สัญญาขันธ์มีเพียง๒เท่านั้น
    ๑.สัญญาในการที่จะยึดเข้ามา
    ๒.สัญญาในอันที่จะปล่อยวางครับ...

    สัญญาใน "เนวสัญญานาสัญญา" ขึ้นอยู่กับสัญญาข้อ๑ครับ

    ;aa24
     
  5. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    พูดเรื่องเดียวกันรึเปล่าเนี่ย สัญญาอารมณ์ กับ สัญญาขันธ์ พูดเรื่องไรกันอยู่ครับ เอาสักเรื่อง ผมและท่านอื่นจะได้ติดตามและพิจารณาตามได้ทันครับ
     
  6. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    นิเสธ หรือ ส่วนกลับ ของสัญญาขันธ์

    ไม่ได้เปลี่ยนค่าความจริงของอะไร
    และไม่ได้มีทิศทางตรงกันข้ามกับนิเสธของมัน

    มันเป็นส่วนที่เราเรียกว่า ตั้งความหวัง(ปราถนา)
    และส่วนที่ไม่ได้ตั้งความหวัง

    ของที่ตรงตามที่หวังกับของที่ไม่ตรงกับที่หวัง
    ในสัญญาขันธ์ ไม่ได้มีทิศทางตรงกันข้าม หรือไม่ได้มีทิศทางอะไรเลยด้วยซ้ำ

    ทิศทางมาตั้งกันใหม่ในภายหลังด้วยการปรุง(สังขาร)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2009
  7. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ จำเป็นมากนะครับ ถ้าเราไม่รู้จักสัญญาขันธ์ที่ถูกต้อง
    เราอาจหลงอยู่ในเนวสัญญานาสัญญาไปอีกนานก็ได้ครับ

    เพราะในเนวสัญญานาสัญญานั้น ก็บอกชัดอยู่แล้วนิครับว่า
    จะว่ามีสัญญาที่จะยึดก็ใช่ จะว่าไม่มีสัญญาที่จะยึดก็ใช่ครับ
    เมื่อเป็นเช่นนี้เราก็ไม่รู้จักสัญญาในอันที่จะปลอยวางสิครับ
    ยังมีความลังเลสงสัยอยู่ในสัญญานั้นครับ...

    ;aa24
     
  8. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ การที่จิตมองตัวเองไม่เห็นตนเองนั้น
    สืบเนืองมาจากไม่เคยหยุดหันกลับมามองตนเองเลยครับ

    มัวแต่มองออกไปที่ช่องทางการรับรู้อารมณ์(อายตนะ) ชอบคลุกเคล้ากับอารมณ์เหล่านั้น
    เมื่อไม่เคยฝึกฝนอบรมให้จิตหยุด จิตจึงหยุดไม่เป็นครับ

    เมื่อเราปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนา เป็นการฝึกจิตให้รู้จักหยุดหันกลับมาดูตนเอง
    เมื่อหยุดดูตนเอง ก็ย่อมรู้จักตนเองได้ดีครับ ลองทำดูบ้างนะครับ จะได้ดูจิตเป็น เห็นจิตได้ครับ....

    ;aa24
     
  9. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ไม่มีอะไรยินยันได้
    ว่าคนทำเนวสัญญานาสัญญาได้
    จะมีความเข้าใจเรื่อง ขันธ์ทั้ง5
     
  10. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    หากมีการนิยาม "สัญญาขันธ์" ล้วนๆ
    ในสัญญาขันธ์ล้วนๆ จะไม่ถือว่ามีการทำ operator ใดๆทั้งสิ้น
    ข้อมูลจะดิบสุดๆ

    การเข้าถึง การรับ การส่ง ข้อมูลดิบเหล่านั้น
    เป็นการทำงานของ "วิญญาญขันธ์"

    และการดำเนินการ(operator) หรือการประมวลผลใดๆ
    กระทำที่ "สังขารขันธ์"
     
  11. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ แต่ในเนวสัญญานาสัญญานั้น เป็นการปรุงแต่งจิตมาตั้งแต่ต้นแล้วครับ
    มันมีความปรารถนามาตั้งแต่ต้นว่าจะเข้าสู่อรูปฌานครับ

    เพียงแต่ในอารมณ์ฌานนั้นทำให้จิตลังเลสงสัยว่า
    เรามีสัญญาว่ายึดอารมณ์นั้นหรือ ก็ใช่
    เราไม่มีสัญญาในการยึดอารมณ์นั้นหรือ ก็ใช่ครับ
    ไม่ได้เป็น "นิเสธ" ไม่ใช่เป็นความปรารถนาครับ
    เป็นความลังเลสงสัยที่เกิดขึ้นที่จิตครับ ทำให้ก้าวต่อไปไม่ได้(ทางพ้นทุกข์)ครับ

    หมดเวลา เวลาหมดครับ ไปละ ของท่านบุญพิชิตใจเย็นๆหน่อยนะครับ
    เล่นยิงเป็นปืนกลเลย ตอบไม่ทันครับ ผมอ่านทุกคคห.ครับ แต่ตอบทีเดียวไม่ทันครับ

    ;aa24
     
  12. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    แล้วถ้าสัญญาในฌานกับสัญญาในขันธ์มันคนละตัวกันละครับ หรือมันคนละเรื่องกันละครับ มันใช้คนละอย่างกัน มันเป็นของที่อยู่กันคนละหน้าที่กันอย่างนี้มันจะสับสนไหมครับ สำหรับผมเวทนาทุกชนิดในฌานล้วนเป็นสัญญารมณ์ทั้งสิ้น ยังยึดอยู่เรียกว่ารูปฌาน เมื่อใดไม่มีแล้วไม่ยึดแล้วก็ไม่ใช่รูปฌาน ผมตอบตามที่ผมเห็นนะครับ ไม่รู้ตรงตามตำราเขาไหม แต่รู้สึกว่าสัญญาในขันธ์กับสัญญาในฌานมันจะเป็นคนละตัวกันครับ
     
  13. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ปริภูมิของเวคเตอร์
    เป็นตัวอย่างนึง ของอายตนะ
    ที่ประกอบด้วย รูป{จุดเริ่ม , จุดจบ} และนาม{พฤติกรรมการเคลื่อน, การหมุน, การสะท้อน, ...}

    ปริภมิเวกเตอร์ เป็นอายตนะ ที่ประกอบด้วย {รูป,นาม}

    แต่หากเป็น ปริภูมิของนามธรรมแล้ว
    จะไม่สามารถกำหนดพิกัด ได้ เพราะ
    "ไม่มีอายตนให้กำหนด"

    จะว่าอายตนคือ เซตหรือไม่
    อายตนะ เป็น ซูเปอร์เซต ของเซตอีกทีหนึ่ง
    เพราะต่อให้ไม่ได้ นิยามไว้ ก็ถือว่ามีอายตนะ
    เซตว่าง ยังต้องนิยาม
    อายตน ไม่ต้องนิยามก็ได้
     
  14. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    คือในเบื้องต้น
    ท่านไม่จำเป็นต้อง ตั้งค่าของความเข้าใจ ให้ตรงกับคำพูดในตำรา หรือคำพูดของผู้อื่น
    ปริยัติ มีขึ้นเพื่อให้ทำความเข้าใจให้ตรงกันเฉยๆ

    เราบัญญัติสิ่งนี้ ว่าอย่างนี้
    ลองเอาใส่ห่อให้ท่านอื่นดูซิ ว่าท่านเรียกของอย่างนี้ว่าอะไร
    บางที ของอย่างเดียวกันนี่นา แต่เรียกไม่ตรงกัน
    บางทีของคนละอย่าง แต่ดันเรียกชื่อ เป้นชื่อเดียวกัน
    บางท่านมาคุยปริยัติ ไม่ได้มาเถียงนะ
    แค่อยากรู้ว่า อันนี้เค้าเรียกอะไรเฉยๆ

    เรียกไม่ตรงกันแต่ทำถูกก้มี

    ต้องไปพิจารณาดูกันเป็นเรื่องๆไป เหมาไม่ได้
    คำเดียวกัน แต่เข้าใจไม่เหมือนกัน
    พูดกันคนละเรื่องก้มี
    ธรรมดาของโลก อย่าไปกังวล

    ผมก้ปรงไม่ได้หรอก เขียนมันโก้ๆ
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ k.kwan [​IMG]
    มีความเป็นไปได้มะ
    ที่หากเราไปจ้องดุอะไรซักอย่างนานๆ บ่อยๆ
    เราจะคิดว่า นี่หละคือเรา

    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] ไอคอนนี้ เขาหมายถึงยิงเข้าเป้า ตรงประเด็น โชะ โชะ โชะ

    โฮะ โฮะ โฮะ
     
  16. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    โคดสะนา งับ .... [​IMG]
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [​IMG]

    แทงกิ๋ว โปรดิ๊วเซอร์ มือทอง มาเองเรยหรอคะ

    (ปล. ขออภัยทุกท่าน ขออนุญาติ ทักทาย เกลอเก่า จั๊กหน่อยเน้อ)

    [​IMG]
     
  18. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    สรุปว่า
    เราสามารถ ปฏิบัติกรรมฐานไปตามความเข้าใจของตัวเองได้ในเบื้องต้น
    โดยที่ยังไม่ต้อง กังวลว่าสิ่งที่เราเข้าใจจะคลาดเคลื่อนกับตำรา
    หรือความเข้าใจของนักปฏิบัติท่านอื่นๆ

    แต่อย่าประมาท
    ครูบาอาจารยื ท่านบัญญัติ ปริยัติขึ้นมาก็ต้องมีเหตุ
    ไม่ใช้บัญญัติโก้ๆ
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เรียนท่านบุญยง

    ตามที่เข้าใจเป็นการส่วนตัว ปริยัติส่วนใหญ่ไม่ค่อยผิดหรอก

    ที่ผิดคือ เราเข้าใจปริยัติผิดไปจากความจริง เพราะภูมิธรรมยังไม่ถึง

    อาศัยความคิดตนเองตามภูมิธรรม ไปตีความทำความเข้าใจแล้วยึดว่าใช่ หรือไม่ใช่

    เหมือนคนที่รู้จักแต่หินที่ยังไม่เจียรนัยว่าคือเพชร

    พอมาเจอเพชรที่เจียรนัยสวยงาม ปนอยู่กับเพชรที่ยังไม่เจียร

    เขาย่อมเลือกแต่สิ่งที่เขารู้จักว่าเพชร และทิ้งอันที่เขาสำคัญผิดว่าไม่ใช่เพชรไปเสีย

    ถ้าไม่เปิดใจสดับธรรมมะของพระพุทธองค์ ย่อมได้ไปแต่ธรรมะที่ไม่ใช่ของพระพุทธองค์

    คงได้แต่ธรรมะตามความคิดของตนเท่านั้น หนอ

    [​IMG]
     
  20. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ของบางอย่างแค่ฟังหรืออ่านอย่างเดียวนั้นไม่มีวันเห็นผลเลย ไม่รู้รสชาตินั้นเลย เหมือนเห็นขวดที่ใส่น้ำเย็นวางอยู่ตรงหน้า รู้ว่านี่คือน้ำเย็น เพราะมีคุณสมบัติต่างๆครบทุกประการ แต่จะรู้ได้อย่างไรจริงๆ ถ้าไม่เปิดแล้วดื่มกิน เพียงสักแค่นั่งดูแล้วรู้ไปตามที่เห็นนั้นมันแตกต่างกับการกินมากนัก เพราะกินแล้วรู้ว่าเย็นอร่อยหรือไม่อร่อยดีหรือไม่ดี ไม่ต้องมามัวนั่งคิดนั่งดูนั่งตีความว่ามันต้องเย็นอย่างนั้นเย็นอย่างนี้ให้ยุ่งยากเลย
    ธรรมะก็เหมือนกันนั่นแหละ ไม่ได้ว่าเรื่องบัญญัติหรอกนะแต่เรื่องเดียวที่ไม่อยากรู้คือถ้าเอาตำรามาเปิดกัน เมื่อมันตีความไม่ตรงกัน ก็ย่อมมีความหมายที่คลาดเคลื่อนไปไม่มากก็น้อยไม่มีใครได้ประโยชน์เลยทั้งผู้เจรจาทั้งสองหรือสาม แม้กระทั่งผู้ติดตามอ่านถ้ามันไม่ถูกต้อง แต่ถ้ามันถูกต้องแต่ไม่ใช่กาลของคูสนทนาก้อยิ่งเท่ากับว่าโดนกิเลสหลอกอีกแล้ว
    อรูปฌาน นะโดยเฉพาะสัญญาเนวสัญญายตน นั้นเป็นเรื่องละเอียดและผู้ที่ยืนยันได้ว่าลักษณะองค์ประกอบที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร ผู้นั้นไม่ธรรมดาแน่ๆคือต่างจากเราท่านทั้งหลายมากๆ ผมทราบแค่นี้ครับ มันก็เลยดูเหมือนไม่รู้อะไรเลยแค่นี้แหละ
     

แชร์หน้านี้

Loading...