ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบฝั่งเมียนมาเตรียมเครื่องปั่นไฟ-ทดสอบ รอล่วงหน้าตั้งแต่ 4 กุมภาฯ ขณะที่ กฟภ.ปฏิบัติการไล่ตัดกระแสไฟข้ามแดนแม่สอดเข้าเมียวดีเรียบทั้ง 2 จุดแล้ว
    .
    วันนี้(5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า การตัดกระแสไฟฟ้า ที่จ่ายข้ามแดนเข้าพม่า เพื่อตัดเส้นเลือดหล่อเลี้ยงขบวนการค้ามนุษย์-ขบวนการหลอกลวงออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ บ่อนพนันออนไลน์ ไล่ตั้งแต่ชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก , แม่สอด-เมียวดี และด่านเจดีย์สามองค์-เมืองพญาตองซู ตามนโยบายรัฐบาลไทยและคำสั่ง สมช.
    .
    ซึ่งในพื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก มีการจ่ายไฟฟ้าไปยังประเทศเมียนมา จำนวน 2 จุด คือ 1.สะพานมิตรภาพไทย - พม่า แห่งที่ 2 - อ.เมียนดี รัฐกะเหรี่ยง มีบริษัท Enova Grid Enterprise (Myanmar) Company Limited เป็นผู้รับสัมปทาน มีปริมาณการจ่ายไฟฟ้าจำวน ปริมาณไฟฟ้า 5 เมกะวัตต์
    .
    2. บ้านห้วยม่วง อ.แม่สอด - อ.เมียวดี รัฐกระเหรี่ยง มีบริษัท Shwe Myint Thaung Yinn Industry and Manufacturing Company Limited (SMTY) เป็นผู้รับสัมปทาน มีปริมาณการจ่ายไฟฟ้าจำวน ปริมาณไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์
    .
    ล่าสุดวันนี้ (5 ก.พ.) เวลา 09.20 น. เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า อ.แม่สอด จ.ตาก (กฟภ.แม่สอด) ได้ทำการตัดไฟฟ้า บริเวณสะพานมิตรภาพไทย - พม่า แห่งที่ 2 และในเวลา 09.33 น.กฟภ. ได้ทำการตัดไฟฟ้า บริเวณจุดบ้านห้วยม่วง เรียบร้อยแล้ว
    .
    เบื้องต้น หลังปฏิบัติการตัดกระแสไฟฟ้าที่ส่งจากไทยข้ามไปยังเมืองเมียว หัวเมืองชายแดนสำคัญของรัฐกะเหรี่ยง เมียนมา ยังไม่ปรากฏการต่อต้านจากทางฝั่งประเทศเมียนมาแต่อย่างใด แต่เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา มีรายงานว่าฝั่ง อ.เมียวดี มีการเตรียมการและทดสอบการใช้เครื่องปั่นไฟฟ้าในพื้นที่ชายแดนรองรับไว้แล้ว
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    https://mgronline.com/local/detail/9680000011615
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
    https://www.facebook.com/share/p/1De2VAUrhM/
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐบาลทรัมป์ได้เริ่มร่างคำสั่งฝ่ายบริหารที่จะเริ่มต้นกระบวนการยุบกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อดำเนินการตามคำมั่นสัญญาในการหาเสียงของเขาอย่างรวดเร็ว แหล่งข่าวสองรายที่ทราบแผนดังกล่าวเปิดเผยกับ CNN
    .
    แหล่งข่าวกล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะแบ่งออกเป็นสองส่วน คำสั่งดังกล่าวจะสั่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจัดทำแผนเพื่อลดขนาดกระทรวงผ่านการดำเนินการของฝ่ายบริหาร
    .
    ทรัมป์จะผลักดันให้รัฐสภาผ่านกฎหมายเพื่อยุบกระทรวงดังกล่าว เนื่องจากผู้ที่ดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวยอมรับว่าการปิดกระทรวงดังกล่าวจะต้องได้รับการมีส่วนร่วมจากรัฐสภา
    .
    แม้ว่าการเรียกร้องให้ยุบกระทรวงหรือควบรวมเข้ากับหน่วยงานของรัฐบาลกลางอื่นจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐสภามาโดยตลอด
    .
    ในช่วงวาระแรกของทรัมป์ที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี รัฐบาลของเขาเสนอให้รวมกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงแรงงานเข้าเป็นหน่วยงานของรัฐบาลกลางแห่งเดียว แม้ว่าพรรครีพับลิกันจะควบคุมทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรในเวลานั้น แต่ข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้ผลแต่อย่างใด
    .
    ในปีนี้ กระทรวงศึกษาธิการตกเป็นเป้าหมายของกรมประสิทธิภาพของรัฐบาล ซึ่งนำโดยอีลอน มัสก์ พร้อมกันนี้ CNN ยังรายงานก่อนหน้านี้ด้วย
    .
    เมื่อวันศุกร์ พนักงานหลายสิบคนของกระทรวงศึกษาธิการถูกพักงานโดยได้รับเงินเดือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามครั้งยิ่งใหญ่ของรัฐบาลทรัมป์ที่จะกำจัดพนักงานที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลาย ความเท่าเทียม การรวมกลุ่ม และความพยายามในการเข้าถึงออกจากกำลังคนของรัฐบาลกลาง
    .
    ในช่วงหาเสียง ทรัมป์ชี้ให้เห็นกระทรวงดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเป็นสัญญาณของการใช้อำนาจเกินขอบเขตของรัฐบาลกลาง และเชื่อมโยงกระทรวงเข้ากับประเด็นสงครามวัฒนธรรม “เราจะสูบเงินจากการศึกษาของรัฐบาล และหยุดการใช้เงินภาษีของประชาชนในทางที่ผิด เพื่อปลูกฝังความคิดสารพัดที่เยาวชนอเมริกันไม่ต้องการให้เยาวชนของเราได้ยิน” ทรัมป์กล่าว
    .
    แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในการยุติแผนก ก็เป็นไปได้ที่โปรแกรมและเงินทุนบางส่วนจะถูกเก็บไว้และโอนไปยังหน่วยงานอื่น ซึ่งเป็นที่ที่โปรแกรมและเงินทุนเหล่านั้นเคยเก็บไว้ก่อนที่แผนกจะก่อตั้งขึ้นในปี 1979
    .
    ตัวอย่างเช่น โปรแกรมเงินทุนของรัฐบาลกลางสำหรับโรงเรียน K-12 ที่ช่วยสนับสนุนการศึกษาของนักเรียนจากครอบครัวที่มีรายได้น้อยและเด็กที่มีความพิการ มีขึ้นก่อนการก่อตั้งกระทรวงศึกษาธิการ
    .
    เมื่อประธานาธิบดีเสนอให้ตัดงบประมาณของแผนกในอดีต รัฐสภาได้ต่อต้านและจัดสรรเงินทุนมากกว่าที่ประธานาธิบดีขอประมาณ 71% ของเวลาทั้งหมด ตามการวิเคราะห์ของ Brookings Institution แม้แต่เมื่อฝ่ายบริหารชุดแรกของทรัมป์เสนอให้ตัดงบประมาณของแผนก รัฐสภาที่ควบคุมโดยพรรครีพับลิกันก็ยังเพิ่มเงินทุนในที่สุด
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    https://edition.cnn.com/2025/02/04/politics/education-department-trump-executive-order/index.html
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
    https://www.facebook.com/share/p/1DAbz4jRGP/
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ วันจันทร์(3 ก.พ)ออกมายินดีหลังปานามาจะไม่ต่ออายุโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ของจีนหลังข้อตกลงหมดอายุเพื่อถอยห่างจากปักกิ่ง และยินยอมให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านตลอดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้ ทรัมป์อาจบีบปานามาให้ออกจาก BRI ได้ แต่อาจยังไม่ได้กับชาติในเอเชียที่หวังพึ่งทุนจีนพัฒนาประเทศหลังนายกฯไทยเพิ่งแสดงความยินดี ครม.อนุมัติไฮสปีดเทรนโคราช-หนองคาย 357 กม.เชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ คาด เสร็จปี 73 ชี้เร่งเฟส 1ยังช้ากว่าแผน
    .
    รอยเตอร์รายงานวันอังคาร(4 ก.พ) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) วานนี้(3) ได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของผู้นำปานามาที่จะถอนตัวออกจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน BRI ด้วยการไม่ต่ออายุข้อตกลงหลังหมดอายุ
    .
    รูบิโอกล่าวชื่นชมว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า เป็นความเคลื่อนไหวใดๆของปานามาในการถอยห่างจากโครงการ BRI ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงนั้นเป็นชัยชนะของวอชิงตัน ซึ่งสหรัฐฯนั้นยืนยันมาโดยตลอดว่า ปักกิ่งใช้ยุทธวิธีกับดักเงินกู้ทางการทูต( debt trap diplomacy) เพื่อสร้างอิทธิพลระดับโลกของตัวเอง
    .
    หลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประธานาธิบดีปานามา โฮเซ ราอูล มูลิโน (Jose Raul Mulino) ออกมาแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯตกลงปานามาในข้อตกลงแบบกว้างที่ปานามาจะไม่ต่อสัญญาข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐานจีน BRI และสามารถยกเลิกได้ก่อนกำหนด
    .
    เขาเปิดเผยว่า ข้อตกลงนั้นมีกำหนดจะสิ้นสุดในอีกราว 2 ปี – 3 ปีข้างหน้า
    .
    ทั้งนี้ปานามากลายเป็นชาติแรกในดินแดนละตินอเมริกากระโดดเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่งเมื่อพฤศจิกายนปี 2017 หรือ 5 เดือนหลังจากตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและเป็นพันธมิตรกับจีนแทน
    .
    เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า ศาสตราจารย์ เหยียนจง ฮวง (Yanzhong Huang) ผู้เชี่ยวชาญประจำ Council on Foreign Relations สถาบันธิงแทงก์ชื่อดังของสหรัฐฯ ออกมาฟันธงว่า สหรัฐฯและจีนกำลังเล่นเกมส์ทางการทูตอยู่ และการที่ปานามาประกาศตัวจะถอนตัวจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของประธานาธิบดีสีได้ถือเป็นชัยชนะเริ่มแรกของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ชุดใหม่ในการทูตแบบใครกระพริบตาก่อนแพ้
    .
    “สหรัฐฯปัจจุบันดูเหมือนให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นไปที่หลังบ้านตัวเองคือละตินอเมริกาซึ่งประเทศเหล่านี้ยังคงต้องพึ่งการสนับสนุนและการค้ากับสหรัฐฯ”
    .
    พร้อมเสริมว่า “แต่ผมไม่มั่นใจว่าอเมริกาจะสามารถใช้อิทธิพลที่คล้ายกันในการบีบประเทศเอเชีย ตัวอย่างเช่น เพื่อให้มีการยอมอ่อนข้อในลักษณะที่คล้ายกัน จากการที่จีนได้กลายเป็นผู้เล่นทรงอิทธิพลในภูมิภาคนั้น”
    .
    ทั้งนี้ปักกิ่งได้ออกมาปฎิเสธเสียงวิจารณ์จากโลกตะวันตกเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของจีน โดยชี้ว่ามีมากกว่า 100 ประเทศได้เข้าร่วมที่จะเป็นการกระตุ้นการพัฒนาระดับโลกที่มีทั้งท่าเรือใหม่ สะพาน ทางรถไฟและโปรเจกต์อื่นๆ
    .
    เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันอังคาร(4)ออกมาเปิดเผยคณะรัฐมนตรีไทยได้ไฟเขียวอนุมัติรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย 357 กม. โดย เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟเพื่อเชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ ให้สามารถเดินทางเข้าจีน คาดสามารถเสร็จสิ้นลงในปี 2573 MGRออนไลน์รายงาน
    .
    โดยเรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟเกิดขึ้นหลังวันที่ 4 กันยายน ปี 2017 ระหว่างการประชุมสุดยอดเซียะเหมิน BRICS ที่มีประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีไทยในเวลานั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกันเป็นสักขีพยาน อดีตกระทรวงการรถไฟจีน (ปัจจุบันเป็นในเครือของบริษัท การรถไฟแห่งชาติจีน กรุ๊ป จำกัด (China National Railway Group Limited) และบริษัทในเครือบริษัทในเครือของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงนามในสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรมโยธาระยะแรก (เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) และสัญญาจ้างเป็นที่ปรึกษา อ้างอิงจากเว็บไซต์สถานทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง
    .
    นอกจากนี้ในชัยชนะพบว่าปานามายอมอนุญาตให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านคลองปานามาโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม สื่อด้านขนส่งทางทะเล maritime executive รายงานโดยอ้างอิงจากบลูมเบิร์กที่รายงานเป็นเจ้าแรกในวันอาทิตย์(2)
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ ได้ไปเยือนคลองปานามาวันอาทิตย์(2) และสังเกตการปฎิบัติการด่าน Miraflores locks ภายในคลองปานามา
    .
    และหลังการเยือนเจ้าหน้าที่ปานามาได้ออกมายืนยันว่า จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเรือรบสหรัฐฯในการล่องผ่านตลอดคลองปานามา
    .
    แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันได้เปิดเผยกับบลูมเบิร์กตามการรายงานของสื่อ TradeWinds วันจันทร์(3)ว่า ประธานาธิบดีปานามารับปากรูบิโอว่า เรือรบอเมริกันสามารถผ่านคลองปานามาได้โดยเสรีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    https://mgronline.com/around/detail/9680000011384
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
    https://www.facebook.com/share/p/1F8czpRXHN/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Feb 5, 2025 มีผวา! องค์กรผู้บริโภคเปิดผลทดสอบ สีสังเคราะห์ ในผลิตภัณฑ์ชา กว่า 50% ฉลากไม่ครบถ้วน เสี่ยงไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ร้อง อย.เข้มงวด ทบทวนกฎหมายใช้สีผสมอาหารใหม่
    .
    มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่าผลการตรวจวิเคราะห์สีในชา ชาผงสำเร็จรูปและชาปรุงสำเร็จ พบว่ามีถึงร้อยละ 50 ที่แสดงฉลากไม่ครบถ้วนบางยี่ห้อแสดงฉลากว่าใส่สีหนึ่ง แต่ตรวจพบอีกสีหนึ่ง บางยี่ห้อแสดงฉลากว่าใช้ 1 สี แต่ตรวจพบถึง 5 สี ขณะที่บางยี่ห้อขึ้นทะเบียน อย. สำหรับการขาย "ขิงผง" เป็นต้น
    .
    โดยจากการที่นิตยสารฉลาดซื้อมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมมือกับสภาผู้บริโภค เปิดเผยผลทดสอบสีในชา ชาผงสำเร็จรูปและชาปรุงสำเร็จ 20 ตัวอย่าง จากร้านค้าและออนไลน์ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (อ่านข่าว https://ffcthailand.org/news/ColorsinThaiTea) คุณทัศนีย์ แน่นอุดร หัวหน้ากองบรรณาธิการนิตยสารฉลาดซื้อ และรองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า สีที่ใช้ เป็นสีที่สามารถนำมาผสมอาหารได้ แต่เราพบว่า ชา 10 ตัวอย่าง จาก 20 ตัวอย่าง ไม่แสดงสูตรส่วนประกอบบนฉลาก จึงไม่สามารถจัดประเภทอาหารได้ นอกจากนี้ยังไม่สามารถนำมาวิเคราะห์ชาแบบผงในสภาพพร้อมบริโภค เพราะไม่มีการแสดงวิธีปรุงบนฉลาก สะท้อนให้เห็นปัญหาในการแสดงฉลาก และเรื่องนี้ยังมีผลต่อการพิจารณาบังคับใช้กฎหมาย หากมีการใส่สีเกินมาตรฐาน นอกจากนี้ฉลากบางยี่ห้อระบุว่าใส่หนึ่งสี ได้แก่ “Sunset Yellow FCF” แต่ผลการตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการกลับพบถึง 5 สี
    .
    อย่างไรก็ตาม ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 196 พ.ศ. 2543 เรื่องชา เรายังไม่สามารถบอกได้ว่ามีการใช้สีเกินมาตรฐาน เนื่องจากยังไม่มีการกำหนดเพดานสูงสุดของการใส่สีสังเคราะห์แต่งสีแต่งกลิ่นในชา https://food.fda.moph.go.th/media.php?id=509295897327312896&name=P196.pdf
    .
    หากต้องการพิสูจน์ว่ามีการใส่สีสังเคราะห์ในชาเกินมาตรฐาน ต้องยึดตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 444 พ.ศ. 2566 เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการใช้ และอัตราส่วนของวัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ 3) https://food.fda.moph.go.th/media.php?id=573326216132698112&name=P444.pdf ซึ่งวิธีการทดสอบต้องทำตามสูตรที่ระบุข้างฉลาก เช่น “ใช้ชา 2 กรัม ผสมน้ำ 200 CC” จากนั้นจึงนำไปตรวจวิเคราะห์ว่ามีการใช้สีสังเคราะห์เกินกว่ากฎหมายกำหนดหรือไม่ แต่ปัญหาคือร้อยละ 50 ของตัวอย่างชา ไม่ได้บอกสูตรไว้บนฉลาก ผู้บริโภคจึงไม่สามารถรู้ได้ว่าตนเองได้รับสีสังเคราะห์เกินปริมาณที่ร่างกายรับไหวหรือไม่ ที่สำคัญหากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกใช้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร เช่น สังขยาชาไทย หรือผู้ประกอบการร้านชาไทย อาจใช้สูตรของตัวเองด้วยการนำชาหลายยี่ห้อมาผสมกัน เพื่อให้ได้กลิ่นหอมและสีสวยตามที่ต้องการ การควบคุมจึงทำได้ยาก จึงต้องส่งเสียงไปถึงสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่ออนุญาตให้ใช้สีในผลิตภัณฑ์ชา ก็ควรกำหนดปริมาณการใช้ด้วย
    .
    ดร. แก้ว กังสดาลอำไพ ที่ปรึกษานิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ให้ความเห็นว่า การที่ฉลากไม่บอกวิธีชงชานี่ถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะผู้บริโภคไทย ไม่ได้รับการสอนเรื่องความเป็นสารพิษเจือปนในอาหาร โดยเฉพาะสีสังเคราะห์ที่ถือเป็นสารแปลกปลอมทำให้ตับและไตทำงานหนักขึ้นยิ่งใส่เกินมาตรฐานก็ยิ่งสร้างผลกระทบทวีคูณ เห็นได้ชัดจากผลแลปที่พบว่าชาบางยี่ห้อใส่สีเกิน1 สี บางยี่ห้อมากถึง 5 สี เมื่อเข้าสู่ร่างกายก็เหมือนการกินยาหลายชนิด ทำให้ยาตีกัน อาหารก็เช่นกัน ต้องถามว่าจำเป็นแค่ไหนที่จะเอาร่างกายเข้าไปเสี่ยง แต่ปัญหาคือผู้บริโภคไม่มีทางเลือก ยิ่งซื้อผ่านออนไลน์ ยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ เพราะกฎหมาย อย. ครอบคลุมไปไม่ถึง ทำให้ผู้ประกอบการบางรายไม่แจ้งส่วนประกอบในฉลาก และอาจมีสิ่งแปลกปลอมที่อันตรายผสมอยู่
    .
    จากปัญหาข้างต้น คุณโสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่าการที่ข้อมูลบนฉลากในชาไทยไม่ถูกต้องครบถ้วน อาจนำมาซึ่งอันตรายในการบริโภค การให้ข้อมูลไม่หมด ถือเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค และอาจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 จึงเสนอให้ อย. แสดงบทบาทในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อจัดการสินค้าที่เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค และขอรณรงค์ให้ผู้ประกอบธุรกิจ มีทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงชาที่ใช้สีธรรมชาติ เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีอิสระในเลือกซื้อสินค้า รวมถึงทบทวนกฎหมายเกี่ยวกับการใช้สีผสมอาหาร และการแสดงฉลากที่เป็นมิตรต่อผู้บริโภค โดยขอให้ทบทวนและปรับปรุงประกาศเกี่ยวกับการใช้สีผสมอาหาร ทั้งในแง่วิชาการและประโยชน์ต่อผู้บริโภค ให้เป็นมิตรและสามารถคุ้มครองผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://shorturl.asia/ZrMWP
    .
    Website: https://btimes.biz
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/@BTimes_ch3
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค #สภาผู้บริโภค #สีสังเคราะห์ #สีผสมอาหาร #ผงชา #ชาเขียว #ชาไทย #ของหวาน #ขนม #อย. #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/1FGLfBSRgT/
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โรงไฟฟ้าลาวลงทุนโดยจีน จีนคุม จีนให้จัดการ call centre เอกชนจีน จะขัดขวางรัฐบาลจีนหรือ

    Screenshot_2025-02-07-15-35-27-23_f9ee0578fe1cc94de7482bd41accb329.jpg
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Feb 6, 2025 ตอกย้ำชัด! เงินกู้แบงก์ในไทยวูบมากสุดใน 20 ปี เศรษฐกิจไทยป่วยซึม หนี้ครัวเรือนพุ่งสูง

    ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ และหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 3 ปีผ่านไป การปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ชะลอตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี และคาดว่าการปล่อยสินเชื่อจะหดตัวต่อเนื่องในไตรมาส 4 ของปีผ่านไป การปล่อยสินเชื่อในระบบหดตัวต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 ก่อนจะหดตัวเพิ่มขึ้นเป็น 2.6% ในเดือนพฤศจิกายน โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อยที่หดตัวมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม สินเชื่อธุรกิจและ SMEs ยังขยายตัวได้เล็กน้อย ประมาณ 1.6% ในเดือนพฤศจิกายน 2567

    ที่ผ่านมาจะเห็นว่าค่าใช้จ่ายสวัสดิการของภาครัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 19% เป็น 29% ระหว่างปี 2557-2566 ทำให้ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น การลงทุน การกระตุ้นเศรษฐกิจทำได้น้อยลง ขณะที่รายได้ของรัฐบาลก็ลดลงด้วย นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยของไทยยังค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเงินเฟ้อ ทำให้มีโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะลดดอกเบี้ยลงอีกได้ในปีนี้ อุตสาหกรรมที่น่าห่วงท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว คืออุตสาหกรรมยานยนต์ เมื่อปี 2567 ยอดผลิตรถยนต์ในไทยอยู่ที่ 1.46 ล้านคัน ลดลง 19.95% จากปีก่อนหน้า โดยเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 4.59 แสนคัน ลดลง 33.09% และส่งออก 1 ล้านคัน ลดลง 12.07%
    .
    อภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เปิดเผยว่า กำไรของบริษัทหดตัว 2 ปีติดต่อกัน สาเหตุสำคัญมาจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่หดตัว ซึ่งเลี่ยงไม่ได้ที่จะกระทบต่อธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ จากภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ต้องเรียกว่าวิกฤต เนื่องจากราคารถยนต์ที่ตกต่ำ กระทบต่อการเกิด NPL ใหม่ๆ และ Credit Cost ที่สูงขึ้นจากการยึดรถ

    ในปีนี้ คาดว่าการหดตัวของยอดปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์โดยรวมน่าจะยังหดตัวใกล้เคียงกับปีก่อนที่ประมาณ 11% เนื่องจากบริษัทเข้มงวดในการปล่อยมากขึ้น เน้นลูกค้าที่มีความเสี่ยงจะเป็นหนี้เสียน้อย และคัดกรองรุ่นรถ อายุรถ รวมทั้งดีลเลอร์ อย่างเข้มงวดมากขึ้น ขณะที่ สินเชื่อในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยซึ่งมาจากธุรกิจอื่นๆ ยังคงเติบโตได้ค่อนข้างดี เช่น ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ยังคงเติบโตดี โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การแนะนำ (AUA) และสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) รวมเกินกว่า 1 ล้านล้านบาท ในปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเติบโตเกินกว่า 10% ได้ในปีนี้

    #สินเชื่อ #กู้เงิน #เงินกู้ #หนี้ครัวเรือน #เศรษฐกิจ #ไทย #ธนาคาร #แบงก์ #BTimes
    .

    https://www.facebook.com/share/p/1BEau7c7Ui/
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Feb 7, 2025 ล้อมคอก! กระทรวงเกษตรระงับส่งออก ฝังกลบทุเรียนปนเปื้อน 64 ตัน หวังฟื้นความเชื่อมั่นตลาดส่งออก
    .
    นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าตามที่นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้วางมาตรการตรวจเข้ม Set Zero สารปนเปื้อนในผักและผลไม้ไทย เพื่อยกระดับคุณภาพและความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดส่งออกนั้น
    .
    นายชัยศักดิ์ รินเกลื่อน ผู้อำนวยการสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร รายงานว่าหัวหน้าด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง และหัวหน้าด่านตรวจพืชอรัญประเทศ ได้ดำเนินการควบคุมการทำลายทุเรียนที่ตรวจพบการปนเปื้อนสาร Basic Yellow 2 (BY2) ด้วยวิธีฝังกลบ ปริมาณ 64.67 ตัน มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท ที่ทางสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ปฏิเสธการนำเข้าและส่งกลับไทย ก่อนที่จีนจะประกาศใช้มาตรการตรวจสาร BY2 เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 68
    .
    โดยกรมวิชาการเกษตรได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบคุณภาพทุเรียนทางกายภาพ 100% ทุกชิปเมนท์อีกครั้ง ก่อนอนุญาตส่งออกไปจีน เพื่อยกระดับการตรวจสอบติดตามทั้งระบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศ
    .
    ขณะเดียวกันยังดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติการถ่ายโอนภารกิจ ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เรื่อง การถ่ายโอนภารกิจให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจสอบการนำเข้าสินค้าอาหาร ลงวันที่ 29 เม.ย. 59 โดยเก็บตัวอย่างทุเรียนส่งห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบซ้ำผลวิเคราะห์ ยืนยันผลการตรวจสอบการปนเปื้อนสาร BY2 ในสินค้าทุเรียนที่ถูกส่งออก ก่อนจีนจะประกาศใช้มาตรการตรวจสาร BY2 สำหรับสินค้าทุเรียนที่ตรวจพบการปนเปื้อนดังกล่าว ได้นำไปทำลายด้วยวิธีการฝังกลบภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร เรียบร้อยแล้ว
    .
    ปัจจุบันกรมวิชาการเกษตร ได้สั่งระงับการส่งออกโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ที่พบปัญหาไปแล้ว 26 ล้ง และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทวนสอบหาสาเหตุการปนเปื้อน
    .
    ทั้งนี้ "คู่มือการปฏิบัติงาน การส่งออกทุเรียนคุณภาพ" อยู่ในระหว่างการปรับปรุงเพิ่มเติมรายละเอียด วิธีปฏิบัติ การตรวจสอบ ควบคุม ติดตาม สุ่มตรวจทุเรียน ไม่ให้มีการปนเปื้อนสารห้ามใช้ในทุเรียน เพื่อเป็นหลักปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ (ล้ง) ตลาดรวบรวม ผู้สุ่มเก็บตัวอย่าง และเกษตรกร รวมถึงเข้มงวดมาตรการ "4 ไม่" คือ 1.ไม่อ่อน 2.ไม่หนอน 3.ไม่มีสวมสิทธิ์ และ 4.ไม่สีไม่มีสารเคมีต้องห้าม เพื่อ "Set Zero" การใช้สารเคมีในโรงคัดบรรจุทั้งหมด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบการตรวจสอบของกรมวิชาการเกษตรให้กับกรมศุลกากร สาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) และผู้บริโภคชาวจีน
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://shorturl.asia/lwN2T
    .
    Website: https://btimes.biz
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/@BTimes_ch3
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #ส่งออก #เกษตร #ทุเรียน #กระทรวง #เศรษฐกิจ #BTimes
    https://www.facebook.com/share/p/18QvrtGepo/
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Feb 7, 2025 ดักต้นทาง! กสทช. วางมาตรการเข้มงวด สกัดเส้นทางการเงิน ตัดวงจรแก๊งคอลเซนเตอร์
    .
    นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่าเพื่อให้บรรลุภารกิจของรัฐบาลในการแก้ปัญหาคอลเซนเตอร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการนำสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่บริเวณแนวชายแดนไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายส่งผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ และเป็นภัยทางสังคมของประเทศ จากนี้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) จะเดินหน้าทำงานร่วมกับตำรวจ ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างเข้มข้น โดยสำนักงาน กสทช. ได้ออกแนวทางในการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมเพื่อตรวจสอบและปิดกั้นข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ (IP Address) ของคนร้าย โดยขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
    (1) ให้ธนาคารส่งข้อมูล IP Address ของคนร้ายที่ใช้ Mobile Banking โอนเงิน และ IP ของเครื่องแม่ข่ายที่คนร้ายใช้โอนเงินผ่านธนาคาร ให้กับตำรวจเพื่อตรวจสอบเส้นทางการทำธุรกรรมทางการเงินของคนร้าย
    .
    (2) ให้สำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ส่งข้อมูล IP Address ของคนร้ายให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider หรือ ISP) ในประเทศ ประกอบด้วย IP Address, เวลาที่ใช้ในการส่งข้อมูล (Timestamp), IP Address ปลายทางของเครื่องแม่ข่ายที่คนร้ายใช้โอนเงินผ่านธนาคาร, เลขหมายคดีที่ผู้เสียหายแจ้งความต่อตำรวจ (Case ID) และส่งข้อมูล URL คนร้ายให้แก่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อดำเนินการ
    .
    (3) ให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตระงับการใช้งานของคนร้ายชั่วคราว และตรวจสอบพร้อมจัดทำข้อมูลผู้ใช้งาน ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้ระงับความเสียหายได้ทันท่วงที
    .
    ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวเป็นการอาศัยอำนาจของตำรวจ ตามมาตรา 4 วรรคท้าย ของ พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ประกอบกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในฐานะผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามประกาศ กสทช. เรื่อง เงื่อนไขมาตรฐานการอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ข้อ 20 เรื่อง การดำเนินการเพื่อความปลอดภัยของสังคมและความมั่นคงของรัฐ ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตพึงระมัดระวังเท่าที่เป็นไปได้ในเชิงเทคโนโลยีมิให้ผู้ใดนำโครงข่ายโทรคมนาคมหรือนำเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของผู้รับใบอนุญาตไปใช้ในการประกอบธุรกิจโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือเผยแพร่ซึ่งข้อมูลอันอาจขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และต้องสนับสนุนหน่วยงานของรัฐและเอกชนในการดำเนินการใดๆ เพื่อปกป้องสิทธิของผู้บริโภคเพื่อความปลอดภัยของสังคมและความมั่นคงของรัฐ”
    .
    ดังนั้น หากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใด ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว อาจเข้าข่ายกระทำความผิดตามเงื่อนไขการประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยสำนักงาน กสทช. จะได้ดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://shorturl.asia/0Ozxc
    .
    Website: https://btimes.biz
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/@BTimes_ch3
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #กสทช #ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต #แก๊งคอลเซนเตอร์ #อินเทอร์เน็ต #มิจฉาชีพ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/1GdvzdeeNJ/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Feb 7, 2025 แย่กว่าเดิม! ทีทีบี ชี้ตลาดการเงินปั่นป่วนลากยาวหลังวิกฤตโควิด นโยบาย"ทรัมป์ 2.0" ซ้ำเติมผันผวนสูงขึ้น

    ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) มีมุมมองว่า ค่าเงินบาทในปี 68 จะเผชิญกับความผันผวนสูงขึ้นกว่าช่วงหลังวิกฤตโควิด-19 ที่สูงอยู่ก่อนแล้ว จากบริบทเศรษฐกิจไทยที่เปลี่ยนไป ขณะที่ผลกระทบจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเฉพาะการกีดกัดทางการค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยซ้ำเติมความผันผวนของค่าเงิน แนะการบริหารความเสี่ยงค่าเงินผ่านการใช้เงินสกุลท้องถิ่น จะช่วยเตรียมพร้อมในการรองรับผลกระทบของความผันผวนได้บางส่วน

    ttb analytics ระบุว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าการกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สมัยที่ 2 ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มาพร้อมกับนโยบายกีดกันทางการค้ารอบใหม่ ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ทางการเงินโลกอย่างมีนัย โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน ซึ่งภาพดังกล่าวคาดว่าจะมีต่อเนื่องตลอดทั้งปี

    โดยเปิดปี 68 เงินบาทปรับอ่อนค่าแตะระดับ 34.80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนทยอยกลับมาเคลื่อนไหวทิศทางแข็งค่าแตะระดับต่ำสุด 33.60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปัจจุบันเคลื่อนไหวใกล้เคียงระดับ 33.66 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูลวันที่ 6 ก.พ. 68) เคลื่อนไหวตามพัฒนาการ และความคาดหวังของประเด็นการขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ

    ทั้งนี้ ความผันผวนของค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้ ไม่ได้เป็นผลมาจากปัจจัยนโยบายของทรัมป์ทั้งหมด แต่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงหลังวิกฤตโควิด-19 ที่ค่าเงินผันผวนสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จากความเสี่ยงของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจจีนที่เพิ่มมากขึ้น และศักยภาพการเติบโตเศรษฐกิจไทยที่เปราะบางมากขึ้น จากนโยบายกีดกันทางการค้าที่กำลังเกิดขึ้น

    ดังนั้น การกลับมาของทรัมป์สร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดการเงินโลก และเพิ่มความผันผวน ซึ่งซ้ำเติมค่าเงินบาทที่ผันผวนสูงอยู่แล้วตั้งแต่หลังวิกฤตโควิด-19 ดังนั้น ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับค่าเงิน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ผู้ลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ หรือผู้ที่มีหนี้ในสกุลเงินต่างประเทศ ควรติดตามข้อมูลข่าวสารด้านเศรษฐกิจการเงินอย่างใกล้ชิด และใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเหมาะสม ทั้งในรูปแบบ FX Forward และ Options ตลอดจนการใช้สกุลเงินภูมิภาค ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการป้องกันความเสี่ยง เนื่องจากสกุลเงินภูมิภาคส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวสอดคล้องกัน ประกอบกับโครงสร้างการค้าของไทย ที่ส่วนใหญ่มีสัดส่วนการค้าในภูมิภาคที่สูง

    Website: https://btimes.biz
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/@BTimes_ch3
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3

    #ttb #ค่าเงิน #นโยบายทรัมป์ #อัตราแลกเปลี่ยน #โควิด #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/184wt9rjnS/
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Feb 7, 2025 ปรับใหม่! “พาณิชย์” ปรับปีฐานในการคำนวณเงินเฟ้อใหม่ จัดลิสต์สินค้าใหม่ตัดออก 34 - เพิ่มเข้า 68 รายการ ให้สอดคล้องปัจจุบัน และตรงความเป็นจริง
    .
    นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค.ได้ทำการปรับปรุงฐานในการคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) ใหม่ จากปีฐาน 2562 เป็นปีฐาน 2566 โดยได้ตัดสินค้าและบริการที่ไม่สอดคล้องกับการบริโภคในปัจจุบันออก 34 รายการ เพราะบางรายการการบริโภคลดลง และเพิ่มเข้ามาใหม่ 68 รายการ ตามความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน และเพื่อให้สะท้อนการคำนวณเงินเฟ้อให้ชัดเจนมากขึ้น ตรงตามความเป็นจริงมากขึ้น
    .
    สำหรับสินค้าและบริการที่ตัดออก 34 รายการ แยกเป็นหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 12 รายการ ได้แก่ 1.แป้งข้าวเจ้า 2.เส้นก๋วยเตี๋ยวสด 3.เส้นหมี่ 4.แหนม 5.เป็ดพะโล้ 6.ปลาตะเพียน 7.ครีมเทียม 8.ตำลึง 9.ลูกอม 10.แฮมเบอร์เกอร์ (เปลี่ยนเป็นรายการสินค้าภายใต้รายการอาหารฟาสต์ฟู้ด/delivery) 11.ข้าวแกง/ข้าวกล่อง (เปลี่ยนเป็นรายการข้าวราดแกง) 12.อาหารเย็น (อาหารตามสั่ง) (แยกรายการสินค้าเป็นต้มยำ ผัดผัก และข้าวเปล่า)
    .
    หมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม 18 รายการ ได้แก่ 1.ผ้าตัดกระโปรง 2.ผ้าตัดเสื้อ 3.เครื่องแบบนักเรียนอนุบาล 4.เสื้อเชิ้ตเด็ก 5.รองเท้ากีฬาบุรุษ 6.รองเท้ากีฬาสตรี 7.รองเท้าแตะฟองน้ำบุรุษ 8.รองเท้าแตะฟองน้ำสตรี 9.กระเบื้องซีเมนต์ใยหินมุงหลังคา 10.แผ่นยิปซัม 11.ท่อพีวีซี ประปา 12.มุ้ง 13.ผงซักฟอก (เปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ซักผ้า) 14.กระเป๋าถือ 15.น้ำมันดีเซล B10 16.แบตเตอรีสำรอง 17.นิตยสารรายเดือน 18.ค่าอะไหล่รถยนต์
    .
    ค่าบริการต่างๆ 4 รายการ ได้แก่ 1.ค่าแรงช่างไฟฟ้า 2.ค่าแรงช่างประปา 3.ค่าโดยสารรถสามล้อเครื่อง 4.ค่าสมาชิกเคเบิลทีวี
    .
    ส่วนสินค้าและบริการที่นำเข้า 68 รายการ แยกเป็นหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 29 รายการ ได้แก่ 1.แคบหมู 2.แฮม 3.ปลาแซลมอน 4.ปูอัด 5.ผักกาดหอม 6.หัวไชเท้า 7.บล็อคโคลี่ 8.หน่อไม้ฝรั่ง 9.ลำไย 10.ส้มโอ 11.อโวคาโด้ 12.น้ำปลาร้า (ปรุงสำเร็จ) 13.เครื่องดื่มเกลือแร่ 14.น้ำวิตามิน 15.น้ำตาลมะพร้าว 16.น้ำตาลทรายแดง 17.ข้าวมันไก่ 18.ข้าวราดผัดกระเพรา 19.หมูย่าง/หมูทอด 20.ปลาทอด/ปลาเผา 21.ข้าวผัด 22.ส้มตำ 23.ก๋วยเตี๋ยว/บะหมี่ 24.ข้าวเปล่า 25.ต้มยำ 26.ผัดผัก 27.ชุดสุกี้พร้อมทาน 28.ไก่ย่าง/ไก่ทอด 29.ปลาทอด/ปลาเผา
    .
    หมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม 28 รายการ ได้แก่ 1.ชุดสากล 2.กางเกงว่ายน้ำบุรุษ 3.ถุงเท้าสตรี 4.เครื่องแบบนักเรียนประถม 5.ลูกบิด/กลอนประตู 6.ฝักบัวอาบน้ำ 7.กระทะ 8.ถังน้ำ 9.เก้าอี้ 10.ตู้เสื้อผ้า 11.เตาอบไมโครเวฟ 12.เครื่องดูดฝุ่น 13.หม้อทอดไร้น้ำมัน/กระทะไฟฟ้า 14.ยาใส่แผล 15.ถุงยางอนามัย 16.น้ำเกลือทำความสะอาดแผล 17.ชุดตรวจโควิด (ATK) 18.แว่นกันแดด 19.ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า (คลีนซิ่ง) 20.รถบรรทุกขนาดเล็ก (รถปิกอัป) 21.พลังงานไฟฟ้า (EV) 22.ค่าภาษีรถจักรยานยนต์ประจำปี 23.กล้องติดรถยนต์ 24.หูฟัง 25.ฟิล์มกันรอย 26.นาฬิกา Smart Watch 27.แท็ปเล็ต 28.ค่าอาหารสำหรับตักบาตร
    .
    ค่าบริการต่างๆ 11 รายการ ได้แก่ 1.ค่าจ้างเหมาช่างก่อสร้าง 2.ค่าจ้างเหมาช่างประปา 3.ค่าจ้างเหมาช่างไฟฟ้า 4.ค่าคนดูแลผู้สูงอายุ 5.ค่าตรวจรักษาโรค/ค่าบริการทางการแพทย์ (นอกเวลาราชการ) 6.ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ (ไม่รวมประเภทสะสมทรัพย์) 7.ค่าโดยสารเครื่องบิน (ต่างประเทศ) 8.ค่าตรวจสภาพรถยนต์ 9.ค่าสมาชิกฟิตเนส 10.ค่าสมาชิกดูหนังฟังเพลงออนไลน์ 11.ค่ารักษาพยาบาลสัตว์ (โปรแกรมวัคซีนรักษาสัตว์รวม)
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://shorturl.asia/rjD04
    .
    Website: https://btimes.biz
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/@BTimes_ch3
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #สนค. #พาณิชย์ #ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป #เงินเฟ้อ #ค่าครองชีพ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/15h3Yf8bLa/
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วน พม่าตอบโต้ทางการไทย
    พม่าออกคำสั่ง "ระงับการข้ามแดน" จากท่าขี้เหล็กไปไทย ห้ามใช้พาสปอร์ตข้ามประเทศ

    ณ ท่าขี้เหล็ก, 6 กุมภาพันธ์ 2025

    รัฐบาลทหารเมียนมาได้ออกคำสั่งระงับการเดินทางจากเมืองท่าขี้เหล็ก สู่เมืองแม่สาย ประเทศไทย โดยใช้หนังสือเดินทาง (Passport) ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ประจำด่านสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 ท่าขี้เหล็ก ได้ปฏิเสธไม่ให้ผู้ถือพาสปอร์ตข้ามแดนไปยังประเทศไทย

    คำสั่งดังกล่าวมีผลทันที โดยไม่มีการแจ้งเหตุผล และไม่มีกำหนดเวลาที่จะกลับมาอนุญาตให้เดินทางได้ การระงับนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ที่ต้องการข้ามแดนเพื่อการท่องเที่ยว การรักษาพยาบาล และการศึกษา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการอนุญาตให้ใช้วีซ่าชั่วคราว (Tr Visa) หรือพาสปอร์ตในการเดินทางข้ามแดน

    ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งนี้กล่าวว่า พวกเขาไม่ทราบสาเหตุที่ถูกปฏิเสธและไม่รู้ว่าจะสามารถข้ามแดนได้อีกเมื่อใด เช่นเดียวกับผู้หญิงที่ต้องการเดินทางไปทำงานในไทยซึ่งได้รับข้อมูลว่าจะมีการจำกัดการเดินทางสำหรับกลุ่มอายุ 18-27 ปี

    ขณะเดียวกันมีรายงานว่า รัฐบาลทหารเมียนมาได้ออกมาตรการจำกัดการเดินทางออกนอกประเทศสำหรับชายอายุ 18-35 ปี ภายใต้กฎหมายการเกณฑ์ทหาร โดยไม่อนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศจนกว่าจะผ่านกระบวนการเกณฑ์ทหาร

    นอกจากนี้ รัฐบาลทหารเมียนมายังได้สั่งระงับโครงการฝึกอบรมแรงงานสำหรับการไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกในการขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ ทำให้ผู้ที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศต้องเผชิญกับอุปสรรค

    การระงับการเดินทางข้ามแดนนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมการเคลื่อนไหวของประชาชนในประเทศ ซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่าเป็นการจำกัดเสรีภาพของประชาชนและส่ง ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

    ที่มา : เพจ เชียงราย

    #ข่าว #มองการเมืองพม่า #ท่าขี้เหล็ก #แม่สาย ‎

    https://www.facebook.com/share/1ZBcNukznn/
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปภ.ช. สั่งต้องเอาจริง! หากเกษตรกรดื้อ ยังเผาต้องติดแบล็กลิสต์ ! กระทรวงเกษตรฯ รับนโยบายต้องใช้ยาแรง เตรียมขึ้นบัญชีดำเกษตรกรไม่หยุดเผา หลังขอความร่วมมือ “ห้ามเผา” เพื่อเราทุกคนแล้วยังเฉย
    วันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2568) น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นควันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการคุมเข้มสั่งห้ามเผา และการตรวจจับดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานแนวทางและขั้นตอนการแจ้งเตือนและป้องปรามเกษตรกรไม่ให้เผา ควบคู่กับการส่งเสริมวิธีการกำจัดเศษวัสดุทางการเกษตร เช่น ไถกลบตอซัง ใช้จุลินทรีย์และอินทรียวัตถุ โดยในเบื้องต้นได้รับความร่วมมือจากเกษตรกร และเตรียมขึ้นบัญชีเกษตรกรที่ถูกตัดสิทธิ์และไม่ปฏิบัติตามข้อสั่งการของรัฐ ซึ่งจะประกาศในเร็วๆนี้
    ด้านกรมป่าไม้ รายงานการจัดการไฟในพื้นที่ป่า พบว่า จังหวัดกำแพงเพชรเกิดไฟป่ามากที่สุด และพบจุดความร้อน (hotspots) สะสมในภาคเหนือมากที่สุด ขณะที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมรายงานจำนวนโรงงานรับอ้อยเผาเข้าหีบแต่ละภาคยังมีมาก ซึ่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ของแต่ละปีเป็นช่วงที่เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยจะเร่งเก็บผลผลิต แต่ภาพรวมปีนี้ลดลงจากปีก่อน
    โดยที่ประชุม ปภ.ช. ได้มอบหมายทุกจังหวัด นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ประสานการทำงานร่วมกับ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ทำงานเชิงรุก เข้าตรวจสอบและแก้ปัญหาการสะสมของจุดความร้อนที่ยังสูงอยู่ โดยเฉพาะที่จังหวัดเพชรบูรณ์และชัยภูมิ
    ขณะเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษได้เปิดเผยสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 มีแนวโน้มจะบรรเทาลงในช่วงวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2568 แต่หลังจากนั้น ค่าฝุ่นจะมีแนวโน้มกลับมาสูงอีกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง โดยต้องเฝ้าระวังจนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เนื่องจากอากาศที่นิ่งและจมตัว เกิดสภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น ทำให้อัตราการระบายอากาศค่อนข้างต่ำ ร่วมกับลมที่มีความแปรปรวนในช่วงนี้ โดยมีลมทิศใต้และตะวันออกเฉียงใต้พัดแทรกบางเวลา ส่วนลมทางตอนเหนือจะเป็นลมตะวันตก ประกอบกับข้อมูลจุดความร้อนที่ยังพบการเผาในหลายพื้นที่
    https://www.facebook.com/share/p/15dyccQBxw/
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ลงประโยชน์ล้วนๆ !
    แทนที่จะไปจัดการแก๊งสแกรมเมอร์ แต่มองข้ามไปเรื่องตัดไฟฟ้า ตัดน้ำมันแทน

    PSX_20250208_132542.jpg

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เครื่องปั่นไฟฟ้าต้นทุนสูงมาก การบำรุงรักษาก็ยุ่งยาก ไฟฟ้าที่ได้ก็ไม่น่าจะเสถียร ไฟดับ ไฟตก (แรงดันไม่ถึงที่ใช้งาน) วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้ไฟฟ้าที่เสถียรจะไม่มีปัญหาหรือ พวกแก๊งสแกมเมอร ทนไม่ได้นานหรอก ปัญหาความวุ่นวาย นอกจากประชาชนพม่าแล้ว ก็ต้องระวังพวกนี้ปั่นกระแสด้วย

    ยุ่งแล้ว! ราคาน้ำมันแพงกระฉูดขึ้น 5 เท่า หลังไทยตัดไฟฟ้า พลังงานเชื้อเพลิงพม่า

    PSX_20250208_132937.jpg

    https://www.facebook.com/share/1BAwXjxtUh/
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เพจ BIOTHAI เผย
    #ปลาหมอคางดำ ระบาดถึง #จังหวัดตราด เป็นจังหวัดที่ 20 แล้ว จ่อเข้าชายฝั่ง #กัมพูชา

    ภาพถ่ายปลาหมอคางดำ จับได้ที่ปากคลองท่าน้ำ ต.แหลมกลัด จ.ตราด

    เจ้าหน้าที่มูลนิธิการพัฒนาที่ยั่งยืน แจ้งว่า "เจอที่ปากคลองท่าน้ำ ต.แหลมกลัด จ.ตราด ผู้ใหญ่บ้านแจ้งประมงจังหวัดมาสุ่ม ไม่เจอ แต่ปรากฏว่ามันกระโดดขึ้นเรือชาวบ้าน ประมงกำลังจะสุ่มทอดแหคลองใกล้เคียง และที่คลองประทุนชาวบ้านพบลักษณะใกล้เคียงแต่เป็นตัวเล็กๆจับไม่ได้"

    โดย ตำบลแหลมกลัดมีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้
    ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลชำราก
    ทิศตะวันออก ติดต่อกับประเทศกัมพูชา
    ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลไม้รูด (อำเภอคลองใหญ่)
    ทิศตะวันตก ติดต่อกับอ่าวไทย ‎

    https://www.facebook.com/share/p/18fc8dbpX1/

    PSX_20250210_211301.jpg
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เหลือเชื่อนะครับ ระดับปิโตรนาสเลยเชียว
    ทั้งนี้ มาเลเซียไม่ได้อยู่ใน "โอเปก" แต่เป็นพันธมิตรของ "โอเปก" ที่มีข้อตกลงร่วมกันควบคุมการผลิตน้ำมันดิบอยู่ ปัจจุบัน ผลิตราว 3 แสนบาร์เรล/วัน ถือว่าไม่เท่าไหร่
    แต่ก๊าซ จัดว่าใหญ่ มาเลเซียส่งออกก๊าซทางเรือ (ก๊าซแช่เย็น LNG) เกือบๆ จะ 30 ตัน/ปี อันดับ 5 ของโลกทีเดียวครับ ไม่จ้อย
    เกิดอะไรขึ้นหนอ กลายเป็นงี้เลยเหรอ บริษัทน้ำมันเลยนะนั่น ชักเสียวๆ
    https://www.channelnewsasia.com/bus...-cut-jobs-ensure-survival-reports-say-4924221
    https://www.reuters.com/business/en...s-rightsize-workforce-reports-say-2025-02-07/
    https://www.facebook.com/share/p/15qNzJHwLb/
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทองไม่บินให้มันรู้ไป! รัฐบาลจีนให้บริษัทประกัน "ซื้อทอง" ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติ! ฉีดให้ demand มูลค่า 2 แสนล้านหยวน หลั่งเข้าสู่ตลาด!
    ไม่เคยมาก่อน ที่รัฐบาลจีนจะยอมให้บริษัทประกันกระทำเช่นนี้ได้! บัดนี้ บริษัทประกัน 10 แห่งสามารถลงทุนในทองได้สูงสุด 1% ของสินทรัพย์ทั้งหมด --- แปลงเป็นมูลค่า 2 แสนล้านหยวน (เกิน 9 แสนล้านบาท)

    ก็ต้องยืดหยุ่นหน่อย ปล่อยๆ ให้มี “ทางเลือก” ลงทุนขึ้น --- สมัยนี้ ไม่ใช่ต้องมานั่งเข้มงวดกวดขันระวัง “เก็งกำไร” ซะขนาดนั้น
    แล้วหลังๆ ทองมันพุ่งเอาๆ ขณะที่อย่างอื่นๆ มันไม่รุ่ง --- มีทองไว้ในพอร์ตฯ ย่อมมิใช่เสียหาย
    ยิ่งเป็นยุคทรัมป์ การมีทองไว้ค้ำกลายเป็นเรื่องที่สมควรยิ่งนัก

    เท่ากับว่ายิ่งเสริมส่ง หนุนนำคำพยากรณ์ที่ว่าทองจะขึ้นอีก …

    เอาแค่ demand เดิม จากเฮดจ์ฟันด์เอย จากแบงก์ชาติทั่วโลกเอย ก็ไม่หวาดไม่ไหวแล้ว มิหนำมีประกันจากแดนพญามังกรอีก เล็กซะที่ไหนล่ะ!
    ทองติดปีก

    https://www.bloomberg.com/news/arti...insurers-to-invest-in-gold?srnd=homepage-asia

    https://www.facebook.com/share/p/1DJuyYJucM/
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บทเรียนแผลมีให้เห็น! ยักษ์ใหญ่น้ำมันที่เคยรีบชิ่งหนีไปทาง "ลดโลกร้อน" มีจุกมีเจ็บ! ตอนนี้ รีบพลิกตัว "ยู-เทิร์น" กลับมาเน้นน้ำมัน&ก๊าซ ... จบแบบนี้เองเหรอ
    ❌เลิกโลกสวย ไม่ชูคำหรูแบบ "เปลี่ยนผ่านทางพลังงาน" อะไรแบบนั้นแล้วตอนนี้
    BP ยักษ์ใหญ่น้ำมันของอังกฤษ หลายปีก่อน "ออกตัวแรง" แรงมาก แรงกว่าเพื่อน --- จะไป "พลังงานสะอาด" ให้ได้
    ผ่านไป 5 ปี ดูง่ายๆ หุ้น BP ร่วง 8% ขณะที่เพื่อนๆ ยักษ์ใหญ่ทั้งหลายแหล่ หุ้นขึ้นเกิน 30% ทั้งนั้น ไม่ว่าจะ Exxon / Chevron / Shell / TotalEnergies
    โดยเฉพะ Exxon ของอเมริกา นี่หุ้นขึ้นเหยียบ 80% ในเวลา 5 ปี

    มูลค่าตลาด market cap ของ BP ตอนนี้ 6.9 หมื่นล้านปอนด์ (8.6 หมื่นล้านดอลลาร์) --- ไม่ถึงครึ่งของ Shell ด้วยซ้ำ!!!!!

    เจ้าอื่นๆ เขา "ไหวตัว" กันเร็ว
    พอเห็นท่าไม่ดี หลายเจ้าก็รีบ "ชะลอ" ลดโลกร้อน
    แรกๆ ก็แอบๆ แบบเนียนๆ --- แอบลดเป้าหมายในการลดโลกร้อน
    หลังๆ "เปิดหน้า" ป่าวประกาศไปเลยจ้า เพราะนั่นยิ่งทำให้หุ้นขึ้น! --- แปลว่านักลงทุนเชื่อมั่นว่า น้ำมัน&ก๊าซ ยัง "ไปต่อ" ยาวๆ ???

    ไอ้คำ net-zero ที่สมัยนี้ชอบเอามาทำการตลาด สร้างภาพลักษณ์แนวโลกสวยกัน ... มาตอนนี้ พวกยักษ์ใหญ่น้ำมัน&ก๊าซ ชักจะเลือนๆ มันไปแล้ว

    หมดทุกเจ้านะครับท่าน
    หมดทุกเจ้าที่ว่ามาข้างต้นเลย รวมทั้ง BP ด้วย ที่ "ชะลอ" เป้าหมายในการลดโลกร้อน (ก็ net-zero ขายฝันอะไรนั่นแหละ)
    ชะลอมากน้อย ต่างกันไป

    บางเจ้าก็ "ม้วนตัว" แรงเลย กลับมาหนุน น้ำมัน&ก๊าซ ค่อนข้างชัดเจน
    นัยๆ ว่า ไม่เอาแล้ว "ลดโลกร้อน"!?
    (แต่ไอ้พวกเป้าหมาย net-zero อะไรนั่นยังต้องมีตั้งๆ ไว้ก่อน พอเป็นยันต์แปะไว้ไม่ให้สังคมด่า)

    BP ยัง "ชะลอ" แบบเนียนๆ ไม่ชัดพอ
    นั่นทำให้ผลลัพธ์ไม่ดี
    (ซึ่งก็ไม่ใช่แค่หุ้น แต่ผลประกอบการด้วย ...)

    เรื่องมาถึงจุดที่กองทุนแนว activist จะเข้าไปขยับปรับเปลี่ยนนโยบายของ BP
    (*กองทุนแนว activist ก็คือไม่ใช่ถือหุ้นเพื่อซื้อมาขายไปทำกำไรท่าเดียว แต่ต้องการถือหุ้นให้ได้สัดส่วนพอที่จะเข้าไปมีเสียงต่อการกำหนดนโยบายของบริษัทได้ --- นโยบายที่เชื่อว่าจะทำให้หุ้นยิ่งขึ้นน่ะแหละ)

    Elliott Investment Management กว้านหุ้น BP เพิ่มขึ้นๆ ๆ เพื่อจะเข้าไปกุมพวงมาลัยของ BP
    เปลี่ยนเกียร์มาทาง น้ำมัน&ก๊าซ แบบเอาให้ชัด ไม่ต้องมีกั๊ก
    กองทุน activist อย่าง Elliott มองว่า BP ตอนนี้ undervalue --- น่าเข้า
    แค่เปลี่ยนนโยบายปุ๊บ value ก็จะพุ่งขึ้นไป(อย่างที่มันควรจะเป็น)ปั๊บ

    ที่จริงที่ยักษ์ใหญ่เจ้าอื่นๆ ไปได้ดีกว่าในระยะหลัง ก็เพราะเสร็จพวกกองทุน activist ประดานี้แต่ต้น (BP เสร็จช้าไป)

    ก็ติดตามกันต่อไป
    สรุปเทรนด์ยักษ์ใหญ่พลังงานจะ "เปลี่ยน(ไม่)ผ่าน" อะไรยังไงต่อไป
    "ลดโลกร้อน" เป็นแค่ brand image กลวงๆ แค่นั้นหรือ?
    แล้วสรุปที่มากกว่านั้น ในความเป็นจริง (ในทางปฏิบัติที่เป็นไปได้จริง) โลกเรายังจำเป็นต้องใช้ น้ำมัน&ก๊าซ ต่อไปเรื่อยๆ ใช่ไหม?

    https://www.bloomberg.com/news/arti...in-struggling-oil-major-bp?srnd=homepage-asia

    ที่จริงก็ "ยู-เทิร์น" แล้ว แต่ช้าไปมาก ช้ากว่าเพื่อนมากๆ ครับ
    https://www.reuters.com/business/en...target-strategy-reset-sources-say-2024-10-07/

    https://www.facebook.com/share/p/1BhQs9VNt5/
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,911
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทุกชาติทั่วโลกสะดุ้ง! (และแน่นอนว่าไทยแลนด์ด้วย!!!!!)
    ทรัมป์ลั่น จะใช้อาวุธ "ภาษีคืนสนอง" reciprocal tariffมันคืออะไร ร้ายแรงแค่ไหน
    ว่าง่ายๆ มันคือ ตอบโต้แบบกระจกสะท้อนกลับ : ดูว่าคุณคิดภาษีนำเข้าเราเท่าไหร่ เราก็จะคิดภาษีนำเข้ากลับเท่ากัน
    "ทุกประเทศ" ต้องรีบไปกางดูเลยนะครับท่าน มีสินค้าไหนที่เก็บภาษีนำเข้าสูงกว่าที่อเมริกาเก็บ ก็ต้องโดน "ภาษีคืนสนอง" หมดทั้งนั้น!

    เช่น แต่เดิม อเมริกาเก็บภาษีนำเข้ารถยุโรป 2.5% ขณะที่สหภาพยุโรป (EU) เก็บภาษีนำเข้ารถอเมริกา 10%
    จากนี้ ถ้าคิดแบบ "ภาษีคืนสนอง" แล้ว รถยุโรปก็ต้องโดนเท่ากันสิ --- แฟร์ๆ

    1.) ทรัมป์ทำแบบนี้ทำไม
    บีบไง
    สมมติจากตัวอย่างที่ยกมา ถ้ายุโรปไม่อยากโดนดาบนี้ ยุโรปก็แค่ดึงภาษีนำเข้ารถอเมริกาลงมาเหลือ 2.5% เท่ากัน ดาบนี้ของอเมริกาก็ใช้ออกไม่ได้ ไม่มีผล
    (หรือจะลดลงมาเหลือเท่าไหร่ก็ตามแต่ จะ 3% หรือ 4% ก็เอาที่รับได้ละกัน)

    2.) แล้วทำไมที่ผ่านมามันไม่แฟร์ ตั้งไม่เท่ากัน
    แหม ก็แล้วแต่
    ขึ้นอยู่กับอเมริกานำเข้ารถยุโรปเยอะเท่าไหร่ และยุโรปนำเข้ารถอเมริกาเยอะเท่าไหร่ มันก็ไม่เหมือนกัน
    นโยบายการปกป้องผู้ผลิตในประเทศก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งก็ต้องหาสมดุลกับการดูแลผู้บริโภคในประเทศด้วย ไม่ให้ซื้อของแพงเกินไป (ระวังเงินเฟ้อนั่นเอง) และก็ต้องวกกลับไปด้วยว่าผู้ผลิตในประเทศต้องอยู่ได้ แข่งขันได้
    เป็นต้น

    3.) กระทบมากไหม
    ไม่เสมอไป แล้วแต่
    อย่างสมมติไทย สมมติอเมริกาตั้งภาษีนำเข้าลองกองไทย 3% และสมมติไทยตั้งภาษีนำเข้าลองกองอเมริกา 15% (สมมตินะครับสมมติ ตัวเลขมั่วๆ ขึ้นมาเอง)
    ตรงนี้ ต่อให้เจอเล่น reciprocal tariff ก็ไม่มีปัญหาเลย
    ไทยก็แค่ปรับภาษีนำเข้าลองกองอเมริกามาเป็น 3% โดยที่ไทยก็ไม่เสียอะไร เพราะแน่นอนว่าไทยไม่ได้นำเข้าลองกองอเมริกาอยู่แล้วจ้า!!!!!
    เห็นไหม ว่ามันแล้วแต่ ขึ้นกับหลายอย่าง

    มันจะมีผล ก็ต่อเมื่อเป็นสินค้าที่ต่างฝ่ายต่างก็นำเข้าพอๆ กัน ไม่หนีกัน --- เนี่ยอ่ะมีผลเลย

    "ผมจะใช้สัปดาห์หน้าเลย เราจะทำอย่างที่คุณทำกับเรา เท่าเทียมกัน ไม่มากไป ไม่น้อยไป เท่ากัน แฟร์ๆ" ทรัมป์กล่าว

    "ผมว่ามันเป็นทางเดียวที่แฟร์นะ ทางนี้ไม่มีใครเจ็บกว่ากัน คุณชาร์จเรา เราชาร์จคุณ แฟร์ๆ"

    เดี๋ยวเจอกันแน่

    ตอนนี้แต่ละประเทศ ก็ต้องรีบกางตารางดู ภาษีไหนอะไรที่เหลื่อมล้ำกันเท่าไหร่ แล้วมีผลหรือไม่ผล
    อะไรที่ผลมันจะมี มันจะมาก ก็ต้องเร่งคิดหา "ดีล" ดู ว่าจะมีอะไรไปแลกเปลี่ยนกับอเมริกาไหม

    วุ่น

    https://www.bloomberg.com/news/arti...ciprocal-tariffs-next-week?srnd=homepage-asia

    https://www.facebook.com/share/p/1BAA7VZdy8/
     

แชร์หน้านี้

Loading...