ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มูฮัมหมัดคาร ฮารุดีน


    สหรัฐใช้รถบรรทุกอาวุธจำนวน 250 คันขนอาวุธเข้าในซีเรีย

    IMG_8353.JPG
    -=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-


    มีภาพของยานพาหนะทางยุทธวิธีของนาวิกโยธินสหรัฐได้มีการนำรถบรรทุกอย่างน้อย 250 คันที่บรรทุกอาวุธไปยังฐานในซีเรีย โดยวิ่งไปตามถนนใกล้เมือง Tal Baydar ในชนบทของซีเรีย

    แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์จะตัดสินใจถอนกองกำลังอเมริกันทั้งหมดออกจากประเทศซีเรียแล้ว


    วิดีโอจากหอสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งซีเรียซึ่งตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักรได้แสดงให้เห็นว่ารถบรรทุกประมาณ 250 คันที่เต็มไปด้วยอาวุธและอุปกรณ์ทางทหาร กำลังวิ่งเข้าประเทศซีเรีย

    (มีวีดีโอในลิ้งค์)


    BY>>>>>Giant Khan<<<<<


    http://217.218.67.231/Detail/2019/01/25/586743/US-deployment-Syria-Trump-withdrawal-arms
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The Public Post


    ด่วน! ผู้ประท้วงชาวเคิร์ดบุกถล่มค่ายทหารตุรกีในเขตเคอร์ดิสถานอิรัก เผายานพาหนะ-ยืนบนรถถัง (คลิป)


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The Public Post


    ซาอุดิอาระเบียเร่งสร้างโรงงานผลิตขีปนาวุธนำวิถีแห่งแรก

    IMG_8354.JPG
    -=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-


    ภาพถ่ายจากดาวเทียมที่ Planet Labs แสดงให้เห็นว่าซาอุดิอาระเบียได้สร้างโรงงานผลิตขีปนาวุธเชื้อเพลิงแข็งใกล้กับใจกลางเมืองอัลวาทาห์

    ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้นำเข้าขีปนาวุธจากต่างประเทศชั้นนำของโลก ได้เริ่มสร้างโรงงานผลิตขีปนาวุธแห่งแรกตั้งอยู่ใกล้กับใจกลางเมืองอัลวาทาห์


    ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในการกล่าวว่าภาพถ่ายดาวเทียมย้อนหลังไปถึงเดือนพฤศจิกายนดูเหมือนจะแสดงให้เห็นโรงงานขีปนาวุธของซาอุดิอาระเบียตั้งอยู่ที่ฐานขีปนาวุธที่มีอยู่ใกล้อัลวาทาห์


    นี่เป็นรายงานครั้งแรกที่พบว่า ซาอุดิอระเบีย ผลิตอาวุธในประเทศหลังจากนำเข้าขีปนาวุธทำจากต่างประเทศเป็นเวลาหลายปี

    (แต่ไม่รู้ว่าจะทันได้ใช้หรือเปล่า)


    BY>>>>>Giant Khan<<<<<


    http://217.218.67.231/Detail/2019/01/25/586752/Saudi-missile-factory-nuclear-weapons-Israel
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Krobkruakao 3 - ครอบครัวข่าว 3


    นศ.พยาบาลร่ำไห้ เข้าร้องทุกข์ต่อผู้ว่าฯ ไม่ได้รับเงินกู้ยืมเรียน จนพ่อแม่ต้องกู้หนี้นอกระบบ ขายสมบัติชิ้นเดียวของบ้าน http://news.ch3thailand.com/local/86370


    #ข่าวช่อง3 #Ch3ThailandNews

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Matichon Online - มติชนออนไลน์


    เมื่อวาน เกินมาตรฐานแค่ 6 วันนี้ฝุ่น 2.5 พุ่งปริ๊ด เกิน 24 สถานี คู่ขนานพระรามสอง หนักสุด 121 มคก.ต่อ ลบม.ทำลายสถิติทุกวัน #ฝุ่นขนาดเล็ก #ฝุ่นจิ๋ว #มติชนออนไลน์ #มติชนชีวิตคุณภาพ


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปัญหาทะเลเดดซีแห้ง ผลักดันความร่วมมือสองชาติอดีตศัตรู

    วันที่ 25 ม.ค. 2562 เวลา 18:43 น.

    IMG_8355.JPG IMG_8356.JPG IMG_8357.JPG
    อิสราเอลเตรียมจับมือจอร์แดน ผุดโครงการยักษ์สูบน้ำจากทะเลแดง เติมทะเลเดดซี


    รัฐบาลอิสราเอลโดย นาย Tzachi Hanegbi รมว.กระทรวงกิจการความร่วมมือในภูมิภาคเผยว่า อิสราเอลพร้อมให้ความร่วมมือกับจอร์แดน ในโครงการลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อแก้ปัญหาความแห้งแล้งในทะเลเดดซี โดยการสร้างทางส่งน้ำขนาดยักษ์เพื่อสูบน้ำจากทะเลแดง มายังทะเลเดดซี หรือที่รู้จักกันในชื่อโครงการ "Two Seas Canal" หลังจากที่ไอเดียนี้อยู่บนพิมพ์เขียวมานานหลายปี


    รมว. Tzachi Hanegbi กล่าวว่าเขาคาดหวังให้คณะรัฐมนตรีอิสราเอลอนุมัติโครงการทะเลแดง - เดดซี ซึ่งจะนำน้ำจากทะเลแดงไปยังศูนย์กลั่นน้ำทะเลที่ตั้งอยู่ในเมืองอควาบา ของจอร์แดน ก่อนนำส่งผ่านท่อความยาว 200 กิโลเมตรไปปล่อยยังทะเลเดดซี ซึ่งกำลังเผชิญปัญหาน้ำในทะเลเดดซีแห่งอย่างรวดเร็วอยู่ในขณะนี้


    รายงานระบุว่าโครงการนี้ทั้งสองประเทศจะร่วมลงทุนเป็นจำนวน 40 ล้านดอลลาร์ต่อปี ภายใต้กรอบระยะเวลา 25 ปี ซึ่งนาย Hanegbi กล่าวซึ่งจะนำมาซึ่งยอดเงินจำนวนไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านเหรียญ นับเป็นโครงการความร่วมมือใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอล และชาติอาหรับ

    นาย Hanegbi กล่าวอีกว่า โครงการนี้นอกจากจะช่วยบรรเทาการระเหยของน้ำในทะเลเดดซี ที่มีความเค็มสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของทะเลแห่งนี้แล้ว ยังส่งให้ต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของทั้งสองชาติ รวมถึงการจัดตั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่จ่ายพลังงานแก่ทั้งสองประเทศด้วย อีกทั้งยังช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในจอร์แดนในอนาคตด้วย


    จากข้อมูลขององค์กร เมอร์ซี คอร์ปส์ เพื่อมนุษยธรรมคาดการณ์ว่าแหล่งน้ำจืดจะหมดไปจากประเทศจอร์แดนในอีก 40 ปีข้างหน้า

    สำหรับโครงการดังกล่าวนั้น ทั้งสองชาติเห็นพ้องกันตั้งแต่ปี 2013 แล้ว แต่ด้วยปัจจัยความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างอิสราเอล - ปาเลสไตน์ รวมถึงการสังหารชาวจอร์แดนสองคนโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวอิสราเอลที่สถานทูตที่กรุงอัมมานในปี 2017 ส่งผลให้ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองชาติชะงักงัน แม้ทั้งสองชาติจะเริ่มปรับปรุงความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติจากข้อตกลงสันติภาพในปี 1994

    อย่างไรก็ดีทางจอร์แดนยังไม่ขานรับทางอิสราเอลถึงความร่วมมือดังกล่าวอย่างเป็นทางการ แม้จะมีรายงานว่าทั้งสองชาติเห็นพ้องในพิมพ์เขียวของโครงการดังกล่าวก็ตาม


    https://www.posttoday.com/world/578197
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหวในทะเลที่ญี่ปุ่น-อินโดฯ ไม่มีเตือนสึนามิ

    เผยแพร่: 26 ม.ค. 2562 16:39 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    7F10A26E-1881-46FA-8D23-41B64B232A64.jpeg

    กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เมื่อเวลา 15.12 น. ตามเวลาประเทศไทย เกิดแผ่นดินไหวในทะเลขนาด 5.9 ที่ความลึก 10 กิโลเมตร บริเวณหมู่เกาะอารุ ประเทศอินโดนีเซีย

    B833B064-EBA8-4F02-97F1-E427D27BD664.jpeg

    ขณะที่เวลา 15.23 น. วันเดียวกัน ตามเวลาประเทศไทย เกิดแผ่นดินไหวในทะเลใกล้ชายฝั่งตะวันออกของเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 5.5 ที่ความลึก 59 กิโลเมตร


    อย่างไรก็ตาม ไม่มีการประกาศเตือนสึนามิ และรายงานความเสียหายจากแผ่นดินไหวดังกล่าว


    https://mgronline.com/uptodate/detail/9620000009082
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มูฮัมหมัดคาร ฮารุดีน


    อิสราเอลหวาดกลัวขีปนาวุธของฮิซบุลลอฮ์

    IMG_8362.JPG
    -=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-


    มีรายงานว่าอิสราเอลส่งข้อความประนามที่มีคำพูดอย่างแรงไปยังเลบานอน ส่งผ่านทางฝรั่งเศส ในโอกาศที่มาครอนเยือนเลบานอน เกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธที่แม่นยำโดยขบวนการฮิซบุลลอฮ์(อย่ายิงมามากนักขี้เกียจหลบกันแล้ว)


    นายกรัฐมนตรีเบนจามินเนทันยาฮู ได้เน้นย้ำถึงความกังวลของเทลอาวีฟต่อคลังอาวุธจรวดและขีปนาวุธขนาดใหญ่ของฮิซบุลลอฮ์ และความช่วยเหลือของอิหร่านต่อฮิซบุลลอฮ์

    และเขายังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอุโมงค์ที่อิสราเอลกล่าวว่าฮิซบุลลอฮ์ได้ขุดไว้ใกล้พื้นที่ที่ถูกยึดครอง


    ฮิซบุลลุอฮ์เกิดขึ้นหลังจากการรุกรานเลบานอนของอิสราเอลและการยึดครองทางตอนใต้ของประเทศในช่วงทศวรรษ 1980 และปัจจุบันฮิซบุลลอฮ์ถือเป็นกองกำลังทหารของเลบานอน

    นับตั้งแต่นั้นมาการเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ช่วยให้กองทัพแห่งชาติเลบานอนยึดพื้นที่ ที่ถูกรุกรานยึดครองจากเทลอาวีฟกลับคืนมาได้ และขัดขวางการรุกรานของอิสราเอลสองครั้งในปี 2543 และ 2549

    การเคลื่อนไหวของฮิซบุลลอฮ์ยังมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายของ Takfiri รวมถึง Daesh และ al-Nusra Front ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดสงครามในเลบานอน


    นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามในปี 2549 กองกำลังอิสราเอลได้ละเมิดอำนาจอธิปไตยของเลบานอนอยู่เป็นประจำ และอิสราเอลยังคุกคามรุกรานประเทศอาหรับอื่นๆอีกด้วย


    BY>>>>>Giant Khan<<<<<


    http://217.218.67.231/Detail/2019/0...n-France-Hezbollah-Lebanon-precision-missiles
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภัยธรรมชาติ


    ยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 68 ศพ สังเวยน้ำท่วม-ดินถล่มอินโดนีเซีย

    https://mgronline.com/around/detail/9620000009129


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai


    ... "เบื้องหลัง การรัฐประหารในหลายประเทศคืออเมริกา"


    ... "ปร้าบด้า" สำนักข่าวเก่าแก่ของรัสเซียได้เขียนบทความเกี่ยวกับจักรวรรดิอเมริกาในการปล้นทรัพยากรของโลกในหลายรูปแบบถ้ารัฐบาลประเทศไหนไม่เดินตามพวกเขาก็จะใช้วิธีการยุให้เกิดการรัฐประหารหรือสงครามขึ้น


    ... ตั้งแต่เหตุการณ์11,9 " อเมริกามีส่วนในการเขียนบทกำกับการรัฐประหาร" ไปแล้วหลายประเทศทั้งอียิปต์, คิวบา, นิคารากัว, เวเนซุเอล่า, ไฮติ, ฮอนดูรัส, บราซิล, ยูเครนและอีกในหลายประเทศในอาหรับ


    ... อย่างเช่น "อาหรับสปริง" ที่เป็นผลิตภัณ์ที่ผลิตในอเมริกาจากมือที่สกปรกของซีไอเอ ที่อาหรับไม่เคยได้พบกับฤดูใบไม้ผลิจริงๆเลย เพราะมันเป็นแค่ภาพลวงตา เป็นการหลอกลวงที่บริสุทธิ์ จากจักรวรรดิ, ในอียิปต์, เยเมน ทุกอย่างก็แย่ลง ในoccupy ปาเลสไตน์ ก็มีแต่จะแย่ลง เป็นต้น


    ... โดยประชาชนในประเทศนั้นเป็นได้แค่ทาสร่วมสมัยที่รวมทั้งประชาชนอเมริกันเองด้วยซึ่งหลังจากการรัฐประหารหรือสงครามแทรกแซงก็จะมีรัฐบาลหุ่นเชิดของจักรวรรดิขึ้นมาปกครองแทน


    ... รวมทั้งการใช้กลุ่มสิทธิมนุษยชนและการสร้างคำว่าประชาธิปไตยเป็นแค่เครื่องมือโล่ห์ป้องกันจักรวรรดิฟาสซิสท์ให้อยู่ต่อไป


    ... ขณะที่ "แผนการโคลัมเบีย" นั้นร่างขึ้นเพื่อจะปกครองและดูดผลาญทรัพยากรในลาตินอเมริกา เช่นในเวเนซุเอล่า โดยการกำจัดฝ่ายต่อต้านและยกชูหุ่นเชิดบริวารขึ้นมาแทน รวมทั้งสร้าง "กระแสต่อต้านจีนและรัสเซีย" ขึ้นในดินแดนนี้


    ... หลังจากสงครามเย็นจบโซเวียตรัสเซียแตกสลายอเมริกาก็ใช้การทำสงครามเพื่อขยายอาณาจักรโดยมี "นาโต้เป็นเครื่องจักรสงคราม" พร้อมกับ"การทำลายเศรษฐกิจ" และโยนความมั่งคั่งไปประเคนให้วอลล์สตรีท และบรรษัทขนาดใหญ่ทั้งหลาย


    ... ผลงานล่าสุดคือพวกเขาออกมาแบบไม่สนใจสายตาชาวโลกโดยการไปสนับสนุนหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาลในเวเนซุเอล่าแบบผิดกฏหมายระหว่างประเทศเพราะเป็นการแทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่น


    .


    .http://www.pravdareport.com/news/wo...ing_coups-0/?utm_referrer=main_last_news_list


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝันดีครับ

    Candy Bella


    ..... แม่ชีที่ถูกไล่ .....


    เล่าโดย : คุณปาง


    เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในจังหวัดมหาสารคาม เมื่อประมาณสิบเจ็ดปีที่ผ่านมา คุณย่ารับคุณปางมาเลี้ยงดูที่หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งแต่ยังเด็ก ทุกๆเย็น คุณปางและเพื่อนๆมักจะรวมกลุ่มเตะบอลกันเป็นประจำ


    เย็นวันหนึ่ง หลังจากเล่นบอลกันจนเหนื่อย คุณปางและคนอื่นๆก็ได้ไปหาซื้ออะไรมานั่งทาน ในกลุ่มจะมีเพื่อนรุ่นพี่สามคน และเพื่อนรุ่นเดียวกับคุณปางสามคน แต่วันนั้น มีรุ่นพี่คนหนึ่งนึกพิเรนทร์ ซื้อเหล้ามานั่งดื่มด้วย


    พอเมาได้ที่ รุ่นพี่ก็นึกคะนอง เขียนชื่อของตนเองที่ข้างขวดเหล้า แล้วท้าพวกคุณปาง ให้เอาเหล้าขวดนี้ ไปวางไว้ที่ต้นฉําฉาหลังโรงเรียนเก่า ถ้าทำได้จะให้เงินห้าร้อยบาท ซึ่งตอนแรกก็ไม่มีใครกล้ารับคำท้า


    แต่คุณปางก็พูดกล่อมกับเพื่อนว่า "เงินตั้งห้าร้อยนะเว้ย" คุยกันไปคุยกันมา สรุปว่าเพื่อนทั้งสองคนก็เอาด้วย จึงตอบรับคำท้าของรุ่นพี่ รุ่นพี่ก็ควักแบงค์ห้าร้อยออกมา แล้วพูดว่า "นี่เงิน พวกมึงเอาขวดไปวางไว้ แล้วกลับมาเอาเงิน พรุ่งนี้พวกพี่จะไปดู"


    โรงเรียนเก่าอยู่ห่างจากที่นี่ประมาณหนึ่งกิโลเมตร หลังโรงเรียนจะเป็นสวนต้นยูคาลิปตัส มีซอยเล็กๆตัดเข้าไปในสวน ลึกเข้าไปในซอยประมาณห้าร้อยเมตร จะมีต้นฉําฉาอยู่ต้นนึง ซึ่งอยู่ท้ายซอยพอดี เลยออกไปจะเป็นทุ่งนา


    ช่วงเวลาโพล้เพล้ คุณปางและเพื่อนอีกสองคน ขี่มอเตอร์ไซค์อ้อมไปข้างๆโรงเรียน จนมาถึงถนนเส้นหลังโรงเรียน จากนั้นก็ขี่รถเข้าไปในซอยเล็กๆ ที่มีแต่ต้นยูคาลิปตัสผุดขึ้นทั้งสองข้างทาง บดบังแสงอาทิตย์ยามเย็นจนแทบมองไม่เห็นหน้ากัน


    คุณปางและเพื่อนจอดมอเตอร์ไซค์ ก่อนจะถึงต้นฉำฉาประมาณหนึ่งร้อยเมตร ลงเดินเท้ากันเข้าไปทั้งสามคน เนื่องจากพื้นดินเป็นหลุมโคลน ไม่เหมาะที่จะเอารถลุยเข้าไป บรรยากาศเงียบสนิท ไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ดูวังเวงชอบกล


    ในระหว่างที่กำลังเดินกันอยู่ หูก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง ดังอยู่ในป่ายูคาลิปตัสทางซ้ายมือ ลักษณะเหมือนเสียงใบไม้หล่น และคล้ายๆเสียงคนเดินเหยียบใบไม้ "ซวบๆๆ" ทุกคนหันไปมอง แต่ก็ไม่พบอะไร


    จึงเดินกันต่อจนถึงต้นฉำฉา เป็นต้นที่ใหญ่มาก แผ่กิ่งก้านปกคลุมไปทั้วบริเวณ คุณปางกำลังจะเอาขวดเหล้าลงไปวางแถวๆโคนต้น เสียงแปลกๆก็ดังขึ้นอีก "ซวบๆๆ" แต่คราวนี้เสียงมันดังขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับเสียงกิ่งไม้หักดัง "แปะ!!" ทุกคนรีบหันไปมอง แต่ก็ยังไม่พบอะไรอีกเหมือนเดิม


    คุณปางกำลังจะหันกลับมาที่ต้นฉำฉา ปรากฏว่ามีเสียงๆหนึ่ง ดังมาจากทางเดิม "พวกมึงมาทำอะไรกัน" เป็นเสียงของผู้หญิงมีอายุ ทุกสายตาจับจ้องไปทางต้นเสียง เห็นเพียงแค่ต้นยูคาลิปตัสที่ผุดขึ้นซ้อนๆกันจนเต็มพื้นที่


    ทุกคนเริ่มใจไม่ดี กระเถิบเข้ามายืนชิดติดกัน คุณปางพยายามเพ่งมองเข้าไปในป่า สักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ "ซวบๆๆ" จนเจ้าของเสียงโผล่ออกมาจากหลังต้นยูคาลิปตัส


    เป็นแม่ชีอายุประมาณเจ็ดสิบปี ผมขาวทั้งศีรษะ ใบหน้าซูบผอม แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือ ประกายตาของแม่ชี ไม่ต่างอะไรจากตาของสัตว์ล่าเนื้อเลยแม้แต่น้อย ลูกกะตาใหญ่กว่าคนปกติ ม่านตาเว้าโคงเป็นวงลี ยืนจ้องนิ่งๆมาทางพวกคุณปาง แล้วพูดเสียงเบาๆว่า "มาทำไมกัน จะมาอยู่ด้วยเหรอ"


    คุณปางขนลุกซู่ เพราะแน่ใจแล้วว่าคงไม่ใช่คนแน่นอน ถ้ายังขืนอยู่ต่อ มีหวังคงได้นอนอยู่ใต้ต้นยูคาลิปตัสแน่ พอคิดได้แบบนั้นก็รีบวิ่งเตลิดกลับออกไปทางเดิม โดยมีเพื่อนวิ่งตามหลังมาติดๆ ทิ้งมอเตอร์ไซค์ไว้กลางป่า


    จนออกมาถึงหน้าปากซอยหลังโรงเรียน คุณปางและเพื่อนๆนั่งหายใจหอบ เหมือนคนที่ขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน คุณปางเหลือบตามองเข้าไปในป่ายูคาลิปตัส ที่ผุดขึ้นซ้อนกันจนเหมือนกำแพงยักษ์ ปรากฏว่าเห็นแม่ชียืนแอบอยู่หลังต้นยูคา โผล่ออกมาครึ่งตัว จ้องมาทางคุณปาง แสยะยิ้มกว้างจนหน้ากลัว ดวงตาพิลึกพิลั่น เหมือนกับสัตว์ล่าเนื้อไม่มีผิด


    คุณปางใจหายวาบ รู้สึกเสียวสันหลัง จนยืดตัวตรงโดยอัตโนมัติ คิดในใจว่านี่ยังหนีไม่พ้นมันอีกเหรอ ขาของคุณปางกระโดดวิ่งออกมาจากที่ตรงนั้นทันที โดยที่ไม่ต้องรอให้สมองสั่งการ เพื่อนก็คงจะเห็นเหมือนๆกัน เพราะต่างร้องโวยวายเหมือนคนสติแตก จนมารวมกันอยู่ที่บ้านของคุณปาง


    จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดคือ มีแม่ชีอยู่ท่านหนึ่ง ท่านได้ธุดงค์มาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ แล้วได้ไปปักกลดอยู่หลังโรงเรียนเก่า หลังจากนั้นก็มีชาวบ้านเข้าไปกราบไหว้กันหลายคน ท่านก็ใบ้หวยให้กับชาวบ้านเหล่านั้น


    ปรากฏว่าชาวบ้านถูกหวยติดต่อกันสิบงวด ทำให้ทุกคนในหมู่บ้านเข้าไปกราบไหว้ขอหวยเพิ่มมากขึ้นทุกวัน แต่ระยะหลังๆกลับมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น มีชาวบ้านที่ออกไปจับกบจับปูตอนดึกๆ เห็นแม่ชีท่านนี้เดินรอบๆหมู่บ้าน เมื่อมีชาวบ้านถาม ท่านก็บอกว่ามาเดินจงกรม


    และมีผู้ชายในหมู่บ้าน เริ่มเสียชีวิตลงอาทิตย์ละคน ล่าสุดเป็นศพที่ห้า สาเหตุคือไหลตายทั้งหมด มีตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงคนแก่ ตอนนั้นคนในหมู่บ้านคิดว่าเป็นผีแม่หม้าย แต่หมอธรรมในหมู่บ้านกลับบอกว่า ไม่ได้เป็นเพราะผีแม่หม้าย


    หมอธรรมบอกให้ชาวบ้านลองอุ้มไก่ เดินเข้าไปคุยกับแม่ชี แล้วลองเอาไก่มาแล่ดู ชาวบ้านก็ทำตาม แต่หลังจากที่คุยกับแม่ชีเสร็จแล้ว เดินกลับมาถึงบ้าน ปรากฏว่าไก่ตายทันที ชาวบ้านลองเอามีดมาแล่เนื้อดู ก็พบว่าเครื่องในแหลกละเอียด เหมือนถูกขย้ำจนเละ


    ชาวบ้านที่รู้เรื่องก็พากันกลัว จนสุดท้ายต้องรวมตัวกันไปขับไล่แม่ชี แต่พอไปถึงที่ป่ายูคาลิปตัส ก็ไม่พบวี่แววของแม่ชี คิดว่าคงจะเดินธุดงค์ไปที่อื่นแล้ว แต่ชาวบ้านที่ออกหากบตอนกลางคืน มักจะเห็นแม่ชีเดินจงกรมอยู่รอบๆหมู่บ้าน แต่พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แม่ชีจะหายตัวไปทุกครั้ง


    และมีเด็กที่เข้าไปเล่นกันในโรงเรียนเก่า เห็นแม่ชีเดินผลุบๆโผล่ๆอยู่ในป่ายูคาลิปตัสหลังโรงเรียน ชาวบ้านลองเดินเข้าไปตรวจดูอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่พบอะไร และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด


    Credit เรื่องราวจากเพจ

    คนอ่านผี


     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทางออกนอกตำรา : ‘ลุงตู่’ จัดชุดใหญ่‘เค้กไฟกระพริบ’ ล้มยักษ์กฟผ.เปิดทางยักษ์เอกชนสู้
    %E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C-001.jpg

    Publisher : 27 January 2019

    50255293_2507071322668356_849490135387996160_o-503x283.jpg
    วันที่ 24 มกราคม 2562 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ประชุมกันที่ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุม “เฮียศิริ จิระพงษ์พันธ์” รมว.พลังงาน ออกมาบอกว่า ที่ประชุม กพช.มีมติเห็นชอบแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 (Power Development Plan-PDP) แล้ว

    ภาพใหญ่สุดคือ การดำเนินตามแผนการผลิตไฟฟ้าของประเทศในระยะ 19-20 ปี หลังจากนี้ไปจะทำให้ค่าไฟฟ้าของไทย อยู่ระหว่าง 3.50-3.63 บาทต่อหน่วย หรือเฉลี่ย 3.58 บาทต่อหน่วยเท่านั้น...

    ดีมั้ย ดีมั้ย ดี...ชอบมั้ย ชอบมั้ย ชอบ...

    ผมมีข้อมูลมาแชร์ให้ทุกท่านได้เห็นภาพดังนี้ ที่ประชุม กพช.พยากรณ์ค่าความต้องการใช้ไฟฟ้าระยะยาว 20 ปีข้างหน้า ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าของระบบ 3 หน่วยงาน คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) และไฟฟ้าที่มาจากการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เอง หรือขายตรงของเอกชน (Independent Power Supply:IPS) ทั้งระดับในประเทศ ระดับภูมิภาคของประเทศจะตก 77,211 เมกะวัตต์

    ข้อมูลที่นำเสนอ “นายกฯลุงตู่” ที่เป็นประธานไฟฟ้าทั้งหมดจะมาจากการผลิตไฟฟ้าใหม่ 56,431 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 20,766 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังนํ้ำสูบกลับ 500 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าระบบโคเจเนอเรชัน (ผลิตไฟฟ้าและไอนํ้าร่วมกัน) 2,112 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าความร้อนร่วม 13,156 เมกะวัตต์

    โรงไฟฟ้าถ่านหิน/ลิกไนต์ 1,740 เมกะวัตต์ รับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ 5,857 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าใหม่/ทดแทน 8,300 เมกะวัตต์ และจากแผนอนุรักษ์พลังงาน 4,000 เมกะวัตต์
    50943229_2507071299335025_7883292796839264256_o-503x333.jpg
    แผนพีดีพี ยังได้กำหนดนโยบายการส่งเสริมของภาครัฐ ด้วยการเพิ่มสัดส่วนโรงไฟฟ้าขยะจาก 500 เมกะวัตต์ เป็น 900 เมกะวัตต์ สนับสนุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน อาทิ เชื้อเพลิงชีวมวล 3,376 เมกะวัตต์ พลังงานลม 1,485 เมกะวัตต์ พลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ ร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังนํ้า 2,725 เมกะวัตต์ ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านเรือน ที่เรียกกันว่า โซลาร์ประชาชน 10,000 เมกะวัตต์ นำร่องปีละ 100 เมกะวัตต์ ระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป

    ที่ประชุม กพช.ยังเห็นชอบต่อสัญญากลุ่มโรงไฟฟ้า ขนาดเล็ก (เอสพีพี) ระบบโคเจเนอเรชันที่ผลิตอยู่ 25 ราย ซึ่งแต่ละรายที่ผลิตและขายไฟฟ้าให้กับรัฐ “รํ่ารวยเป็นเศรษฐี” กันถ้วนหน้า กำลังผลิตรวม 2,974 เมกะวัตต์

    จำแนกแจกแจงกันแบบนี้ หลายท่านอาจจะไม่เห็นภาพ แต่สำหรับผู้ประกอบธุรกิจไฟฟ้า ทั้ง “หน่วยงานรัฐ-เอกชน” ต้องบอกว่า บางกลุ่มอ้าปากค้าง ร้องออกมาดังๆ ว่า ตายแหล่ว ตายแหล่ว ตายแหล่ว.....

    บางคนอาจหูผึ่ง บางคนตาลุกวาว กับโอกาสทองจากการจัดกลุ่มการผลิตไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอีก 19 ปีข้างหน้า ที่หน่วยงานของรัฐ คือ กระทรวงพลังงาน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กฟผ. กฟภ. กฟน.จะต้องดำเนินการจัดสรรให้มีการผลิตไฟฟ้าตามแผนนี้

    ผลลัพธ์แรกที่เกิดขึ้นจากนโยบายนี้คืออะไรรู้มั่ยครับ...ราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า พลังงานทดแทนเขียวยกแผง นำโดย EA, GULF, BCPG, BGRIM, GPSC-GLOW และ SPRC ซื้อขายคึกคัก ราคาทะยานบวกขึ้นมารับ มติของ กพช.ที่อนุมัติแผน PDP ฉบับใหม่

    หุ้นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กSPP IPP ในระบบโคเจเนอเรชั่นCogeneration บวกยกแผง แรงยกชุด นำโดยหุ้น RATCH-TSE-GUNKUL

    ทำไมนะรึขอรับ ผมขอบอกชัดๆ ลงไปนะขอรับอย่ามาว่าผมนะพี่น้อง....BGRIM มีโรงไฟฟ้าที่ใกล้หมดอายุ 3 โรง กำลังการผลิต 154.7 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตในมือทั้งสิ้น 2,100 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรง ABP1 (2562) และ ABP2 กับ BPLC1 (2565)

    GLOW มีโรงไฟฟ้าที่จะทยอยหมดอายุสัญญา ได้แก่ โรง Glow Energy เฟส 2 (2563), Glow SPP1 (2564), Glow SPP2 (2567), Glow SPP3 (2567-68) และ Glow SPP11 (2568) กำลังการผลิตรวม 1,200 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตในมือทั้งสิ้น 2,900 เมกะวัตต์

    EGCO มีโรงไฟฟ้าที่จะหมดอายุได้แก่ โรง Gulf Cogen (2562) และหนองแค โคเจนเนอเรชั่น (2564) กำลังการผลิตรวม 230.9 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตในมือทั้งสิ้น 4.8 พันเมกะวัตต์

    เมื่อมติออกมาเป็นเช่นนี้ ใครเป็นผู้ผลิตย่อมยิ้มออก ตีปีกกั๊บๆ เจ้าของ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นของกิจการขายไฟฟ้าให้รัฐ และนำมาขายให้กับประชาชน ภาคธุรกิจอุตสาหกรรม ไม่ต้องสุ่มเสี่ยงในเรื่องซื้อไม่ซื้อต่อสัญญาไม่ต่อสัญญา พวกเขาจึงรวยกันถ้วนหน้าจากราคาที่ปรับตัวขึ้น

    แต่ท่ามกลางคนที่มีโอกาส ย่อมมีคนขาดโอกาสติดกับดักอยู่เสมอครับ เมื่อรัฐบาลนายกฯลุงตู่ จัดนโยบายชุดใหญ่ไฟกะพริบยาวไปแบบนี้ในอีก 20 ปี ผมของบอกว่า คนที่เจ็บหนัก...ขนาดปางตาย คือ กฟผ.ขาใหญ่ในการผลิตไฟฟ้าของประเทศครับ
    1548306997374-696x522-503x377.jpg
    เพราะอะไรนะหรือครับ เพราะถ้าพิจารณาสาระหลักของแผนพีดีพี ผ่านการจัดสรรรูปแบบการผลิตไฟฟ้าในระยะ 20 ปี แล้ว จะทำให้ “ยักษ์ใหญ่ กฟผ.” เน่าสนิทครับ เพราะเท่ากับเป็นการลดสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ.ที่ปัจจุบันผลิตอยู่ในสัดส่วน 50% แต่จากมติ กพช. ตามแผนพีดีพีชุดที่นายกฯลุงตู่จัดสรรแบบนี้จะทำให้กำลังผลิตของ กฟผ. ลดลงเหลือเพียง 24-25% เท่านั้นขอบอก...กฟผ.รู้ถึงภัยที่กำลังมาหรือยังครับพี่น้อง....

    หลายคนอาจจะเข้าใจว่า กฟผ. เป็นผู้ผูกขาดระบบการผลิตไฟฟ้าในไทยอยู่ แต่ท่านเชื่อหรือไม่ในปัจจุบันนี้ หลังจากที่มีการเปิดให้เอกชนเข้ามาผลิตไฟฟ้าได้สัดส่วนของ กฟผ. ก็ลดลงเรื่อยๆ จากเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้วที่อยู่ที่ 55-57% ตอนนี้เหลือ 35-40% แต่หลังจากนี้ไปในอีก 20 ปีข้างหน้า ยักษ์ใหญ่ที่หยิ่งทรนงอย่าง กฟผ. จะเหลือกำลังผลิตเพียง 24%

    เมื่อรัฐบาลลดสัดส่วนการผลิตของ กฟผ.ลง ผู้ที่ได้รับอานิสงส์ในการเข้ามาผลิตไฟฟ้าแข่งผ่านกรรมวิธีการเสนอราคาที่ตํ่ากว่า จะเข้ามาแทนที่คือ ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน...แล้วเอกชนคือใคร...ที่จะกุมชะตาเค้กก้อนใหญ่ในระบบการผลิตไฟฟ้าของประเทศ...อย่าให้ผมบอก...มันเจ็บปาก...ครับ

    กฟผ. ผู้ทำหน้าที่รักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในประเทศมาโดยตลอด กำลังถูกปลดออกจากหน้าที่แล้วปล่อยให้เอกชนทำแทน เพราะแข่งขันกันได้

    ใครคิดอย่างไรไม่รู้ครับ แต่ผมคิดว่า “นายกฯลุงตู่-เฮียหริ” กำลังสร้างวัฒนธรรมการแข่งขันครั้งยิ่งใหญ่ของรัฐวิสาหกิจที่ผูกขาดมายาวนานให้เกิดขึ้นในประเทศให้มีประสิทธิภาพ ส่วนใครจะสงสัยที่ว่ามีนัยบางอย่างที่น่าเคลือบแคลงมากกว่าที่เห็นอยู่เปลือกนอกหรือไม่ ผมมิอาจไปการันตี

    อย่างไรก็ตาม เมื่อล้มยักษ์ใหญ่จอมผูกขาดและไร้ประสิทธิภาพลงไป จะต้องไม่ปล่อยให้ยักษ์ใหญ่เอกชนเพียงไม่กี่รายมาผูกขาดการผลิต การสร้างราคา ในระบบไฟฟ้าของประเทศที่คนไทยทุกคนต้องใช้ก็แล้วกันนายกฯลุงตู่..มิเช่นนั้น...หึหึ..

    อ่าน | คอลัมน์ทางออกนอกตำรา ทั้งหมด >>คลิก<<

    | คอลัมน์ : ทางออกนอกตำรา
    | โดย : บากบั่น บุญเลิศ
    | หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3439 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 27-30 ม.ค.2562


    http://m.thansettakij.com/content/380261
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจนจิรา จันทรเสนา


    ตำรวจควบคุมฝูงชน"เวเนซูเอลา" ได้ระดมยิงกระสุนยางเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงประธานาธิบดีเวเนซูเอลา ที่กรุงคาราคัส เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา


    Reuters


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Watchers





    #ข่าวภัยพิบัติ #สภาพอากาศสุดขั้ว

    26/01/19

    พายุทอร์นาโด ใน #ตุรกีช่วงเวลาที่ตกใจ เหมือนปลาฉลามพุ่งใส่ตู้กระจก

    เหตุการณ์ที่สนามบิน #Antalya เมื่อ 26/01/19

    คลิปพายุทอร์นาโดผ่าน @HavaForum

    #Turkey #Watchers
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Watchers

    หาดูยาก #MoonHalo
    IMG_8367.JPG
    จันทร์ทรงกลดพร้อมวงพาร์เฮลิค (#Parhelic Circle) ถ่ายภาพโดย Sheila Wiwchar จากเมือง Kaleida แคนาดา 24 ม.ค. 62


    **วงพาร์เฮลิค คือ วงกลมแสงขนาดใหญ่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่จุดสูงสุดกลางฟ้า (Azimuth) และมีเส้นรอบวงพาดผ่านจุดศูนย์กลางของดวงจันทร์หรือดวงอาทิตย์

    Cr; mrvob


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Watchers


    #ฝุ่นละออง #มลพิษ

    26/01/19

    ภาพมลพิษ ,ฝุ่นละออง ถ่ายจากเครื่องบินเหนือกรุงเทพ #PM25

    Credit: MICK อัศวา ภูธราพัฒน์

    #Watchers


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Watchers



    #ข่าวภัยพิบัติ #ไม่ปกติ

    // คลื่นอากาศเย็น ที่อาจเย็นที่สุดในรอบ 20 ปีมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าสู่แถบมิดเวสต์ของอเมริกาเป็นครั้งที่2 ใน สัปดาห์หน้า //

    26/01/19

    การแพร่ของอากาศหนาวที่หนาวที่สุด อาจทำลายสถิติ สองทศวรรษในสัปดาห์หน้าในส่วนของมิดเวสต์ อย่างรวดเร็ว


    อากาศหนาวเย็นจากอาร์กติก จะเข้ามารอบที่2ในแถบมิดเวสต์

    การระเบิดอาร์กติกครั้งที่สองในสัปดาห์หน้านี้จะยิ่งเย็นกว่านี้อีก

    บางส่วนของมิดเวสต์อาจเห็นสภาพอากาศที่หนาวที่สุดในรอบ20ปีที่ผ่านมา

    ค่าลมหนาวน่าจะถึงระดับอันตราย

    ทำให้เกิดอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศา


    ในขณะเดียวกันก็ทำให้ภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับผลกระทบวันศุกร์จนถึงเช้าวันเสาร์

    Cr: Weather channel

    #Watchers
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Watchers


    #Earthquake

    26/01/19

    23:26 น.ตามเวลาไทย

    แผ่นดินไหวขนาด 4.9

    ความลึก 57.2 กม.

    พิกัด 98.03°E 1.66°N

    นอกชายฝั่งตะวันตกทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา
    IMG_8370.JPG IMG_8371.JPG

    https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us2000j97g/executive


     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หายนะครั้งใหญ่ในอดีต! การระเบิดของ ‘ภูเขาไฟโทบา’ ครั้งรุนแรงที่สุดจนเกือบทำให้ ‘มนุษยชาติ’ ต้องสูญพันธุ์
    พฤศจิกายน 12, 2017

    [​IMG]
    ย้อนกลับไปเมื่อราว 75,000 ปีก่อนคริสตกาล โลกของเราต้องประสบกับหายนะครั้งใหญ่ นั่นก็คือ ‘การระเบิดของภูเขาไฟ’ ที่รุนแรงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ การระเบิดในครั้งนั้นทำให้เถ้าภูเขาไฟพุ่งกระจายออกไปไกลหลายพันกิโลเมตร และเกือบจะทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก ไม่เว้นแม้กระทั่ง ‘มนุษย์’ ต้องสูญพันธุ์! และภูเขาไฟมรณะลูกนั้นก็คือ ‘ภูเขาไฟโทบา’ (Toba Supervolcano)

    volcano-123-RF.jpg
    ‘ภูเขาไฟโทบา’ มีที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเมดาน (Medan) บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย จากการศึกษาของนักธรณีวิทยาพบว่า การระเบิดของภูเขาไฟโทบาเมื่อครั้งอดีตนั้นเป็นการระเบิดแบบ ‘Supervolcano’ นั่นก็คือจะมีความรุนแรงมากกว่าแรงระเบิดของภูเขาไฟธรรมดาหลายร้อยเท่า! เกิดเป็นแรงดันมหาศาลพวยพุ่งเถ้าถ่านและก๊าซพิษออกมาปกคลุมในชั้นบรรยากาศโลก และด้วยความรุนแรงของมัน ทำให้เถ้าถ่านและก๊าซพิษเหล่านั้นกระจายออกไปอย่างรวดเร็วไกลถึง 2,800 กิโลเมตร ส่งผลให้โลกต้องประสบกับภาวะการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศอย่างฉับพลัน อุณหภูมิทั่วโลกลดลงเหลือ 21 องศาเซลเซียส เกิดมลภาวะทางอากาศอย่างหนัก ถึงขนาดที่ว่าฝนตกลงมาเป็นกรด!

    นอกจากนั้นการระเบิดของภูเขาไฟโทบายังส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมอย่างรุนแรง พืชและสัตว์ล้มตายกันเป็นจำนวนมาก และแน่นอนว่า ‘มนุษย์’ ก็แทบจะสูญพันธุ์ไปจากโลกใบนี้เลยก็ว่าได้ ว่ากันว่าในตอนนั้นโลกของเราถูกปกคลุมด้วยความมืดมิดจากเถ้าถ่านภูเขาไฟนานถึง 6 ปี! ถือเป็นเหตุการณ์ภัยธรรมชาติครั้งร้ายแรงและน่าสะพรึงที่สุดที่มนุษยชาติเคยเจอเลยทีเดียว!

    volcano-123-RFCT.jpg
    123RF
    และจากการวัดค่าปริมาณเถ้าถ่านที่ภูเขาไฟโทบาปล่อยออกมานั้น ความรุนแรงของมันมากกว่าการระเบิดของ ‘ภูเขาไฟเยลโลว์สโตน’ (Yellowstone) เมื่อกว่า 2 ล้านปีก่อนเสียอีก! แต่ถึงกระนั้นก็อย่าเพิ่งคิดไปล่ะว่าภูเขาไฟโทบาจะไม่มีทางกลับมาระเบิดได้อีก เพราะเมื่อไม่นานมานี้มีรายงานจากนักธรณีวิทยาว่า พื้นผิวของภูเขาไฟโทบาเริ่มมีแก๊สและมีความร้อนที่มากผิดปกติ ไม่แน่ภูเขาไฟลูกนี้อาจจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นได้!

    เรียบเรียง : SpokeDark.TV

    https://www.spokedark.tv/posts/toba-catastrophe-theory/
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แถวๆนี้ ก็มีอาการ เกิดน้ำวนในทะเลสาป

    ทะเลสาบโตบา
    (อินโดนีเซีย: Danau Toba)

    เป็นทะเลสาบและซูเปอร์วอลเคโน มีความยาว 100 กิโลเมตร กว้าง 33 กิโลเมตร จุดที่ลึกที่สุดลึก 505 เมตร ตั้งอยู่ที่ทางเหนือของเกาะสุมาตราในอินโดนีเซีย ที่ระดับความสูง 900 เมตร พิกัดตั้งแต่ 2°53′N 98°31′E / 2.88°N 98.52°E ถึง 2°21′N99°06′E / 2.35°N 99.1°Eเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย และเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก[1]

    ทะเลสาบโตบาเคยเป็นสถานที่เกิดเหตุซูเปอร์วอลเคโนปะทุเมื่อประมาณ 69,000-77,000 ปีก่อน[2][3][4] ซึ่งเป็นการปะทุครั้งใหญ่ที่ทำให้ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง โดยถูกประมาณให้อยู่ที่ระดับ 8 ของดัชนีการระเบิดของภูเขาไฟ และเป็นเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ค้นพบในรอบ 25 ล้านปีที่ผ่านมา ตามทฤษฎีมหันตภัยโตบาแล้ว การปะทุครั้งนั้นส่งผลกระทบไปทั่วโลก มนุษย์ส่วนใหญ่ในขณะนั้นเสียชีวิต และเกิดภาวะคอขวดทางประชากรในแอฟริกาตะวันออกตอนกลางและอินเดีย ซึ่งส่งผลต่อการสืบทอดทางพันธุกรรมของมนุษย์ทุกคนในปัจจุบัน[5] อย่างไรก็ตาม สมมุติฐานนี้ไม่เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายเนื่องจากขาดหลักฐานที่แสดงถึงการเสียชีวิตหมู่หรือสูญพันธุ์ของสัตว์ชนิดอื่น แม้แต่สัตว์ที่อ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อม[6] กระนั้นก็เป็นที่ยอมรับกันว่า การปะทุของโตบาได้ทำให้เกิด ฤดูหนาวภูเขาไฟ โดยอุณหภูมิทั่วโลกลดลง 3-5 °C แต่ในละติจูดที่สูงนั้นลดลงถึง 15 °C

    ธรณีวิทยาแก้ไข
    หน่วยแอ่งยุบปากปล่องซับซ้อนแห่งโตบาในสุมาตราตอนเหนือ ประกอบด้วยปล่องภูเขาไฟสี่ปล่องที่ซ้อนทับกันและอยู่ติดกับแนวภูเขาไฟสุมาตรา แอ่งยุบปากปล่องแห่งที่สี่ที่มีอายุน้อยที่สุดเป็นแอ่งยุบในยุคควอเทอร์นารีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และตัดกับแอ่งยุบอีกสามแห่งที่มีอายุมากกว่า เมื่อครั้งเกิดการปะทุของภูเขาไฟครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยา แอ่งยุบนี้ได้พ่นตะกอนออกมาประมาณ 2,800 ลูกบาศก์กิโลเมตร ตะกอนเหล่านี้รู้จักในชื่อว่าหินเถ้าที่อายุน้อยที่สุดของโตบา หลังการปะทุครั้งนั้น โดมก่อตัวขึ้นภายในแอ่งยุบใหม่จากการรวมกันของโดมสองส่วนที่ถูกแบ่งครึ่งโดยกราเบน (graben) แนวยาว[3]

    ในทะเลสาบมีกรวยภูเขาไฟสี่ลูก กรวยภูเขาไฟสลับชั้นสามลูก และปล่องภูเขาไฟสามปล่องที่มองเห็นได้ กรวยตันดุกเบอนูวาบนขอบของแอ่งยุบด้านตะวันตกเฉียงเหนือมีพืชพรรณขึ้นอยู่ค่อนข้างน้อย บ่งบอกมีอายุน้อยเพียงหลายร้อยปี ขณะที่ภูเขาไฟปูซูบูกิตบนขอบด้านทิศใต้ยังคงมีพลังแบบพุแก๊ส[7]

    1400px-Ambarita2.jpg
    ภาพมุมกว้างของเมืองอัมบารีตาบนเกาะซาโมซีร์ ทะเลสาบโตบา
    220px-Lake_Toba_Aerial_View.jpg
    ภาพทางอากาศของทะเลสาบโตบา
    220px-LakeTobaSEShore.jpg
    ภาพทางอากาศของชายฝั่งด้านทิศใต้ มองเห็นเกาะซีบันดังทางด้านหลัง

    การปะทุแก้ไข

    220px-Lake_Toba_location.png
    ที่ตั้งของทะเลสาบโตบาแสดงด้วยจุดสีแดงบนแผนที่

    การปะทุโตบา เกิดขึ้นที่ตำแหน่งที่เป็นทะเลสาบโตบาในปัจจุบันเมื่อประมาณ 67,500-75,500 ปีก่อน[8]เป็นการปะทุครั้งหลังสุดของอนุกรมการปะทุของภูเขาไฟที่ก่อให้เกิดแอ่งยุบปากปล่องอย่างน้อยสามแห่ง โดยมีกลุ่มแอ่งยุบที่มีอายุประมาณ 700,000-840,000 ปีเกิดขึ้นก่อนแล้ว[9] การปะทุครั้งสุดท้ายถูกจัดอยู่ที่ระดับ 8 ของดัชนีการระเบิดของภูเขาไฟ จึงอาจเป็นการปะทุของภูเขาไฟครั้งใหญ่ที่สุดในระยะเวลา 25 ล้านปีที่ผ่านมา

    บิล โรส และเครก เชสเนอร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมิชิแกน ได้อนุมานว่า สสารที่ปะทุออกมามีปริมาตรทั้งหมดประมาณ 2,800 ลูกบาศก์กิโลเมตร[10] โดยเป็นหินอิกนิมไบรต์ที่หลากไปตามพื้นดินประมาณ 2,000 ลูกบาศก์กิโลเมตร และเป็นเถ้าธุลีประมาณ 800 กิโลเมตร ซึ่งส่วนใหญ่ถูกลมพัดไปทางทิศตะวันตก ตะกอนภูเขาไฟหลากจากการปะทุได้ทำลายพื้นที่ 20,000 ตารางกิโลเมตร โดยมีเถ้าธุลีทับถมหนา 600 เมตร[10]

    การปะทุครั้งนั้นรุนแรงเพียงพอที่จะทำให้เถ้าธุลีทับถมปกคลุมทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียใต้หนา 15 เซนติเมตร โดยปัจจุบันนี้พื้นที่ตอนกลางของอินเดียมีเถ้าธุลีจากโตบาทับถมหนา 6 เมตร[11]และพื้นที่บางส่วนของมาเลเซียถูกปกคลุมหนา 9 เมตร[12] นอกจากนี้ยังมีการอนุมานว่า มีแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์จำนวน 6,000 ล้านตัน[13] ถูกปล่อยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศอีกด้วย

    เหตุถล่มหลังการปะทุก่อให้เกิดแอ่งยุบปากปล่องที่ภายหลังได้มีน้ำไหลเข้ามาเติมเต็มจนกลายเป็นทะเลสาบโตบา ขณะที่เกาะกลางทะเลสาบก่อตัวขึ้นจากโดมผุดใหม่ (resurgent dome)

    220px-Toba_overview.jpg
    ภาพถ่ายจากดาวเทียมแลนแซต แสดงเกาะสุมาตราที่เป็นที่ตั้งทะเลสาบโตบา
    แม้ว่าจะไม่สามารถระบุปีที่เกิดการปะทุได้อย่างแน่นอน แต่สามารถบ่งชี้ได้ว่าเกิดขึ้นในฤดูร้อนของซีกโลกเหนือ[14] เนื่องจากมีเพียงลมมรสุมฤดูร้อนเท่านั้นที่สามารถพัดพาเถ้าธุลีจากโตบาไปทับถมในทะเลจีนใต้ได้ การปะทุอาจดำเนินอยู่สองสัปดาห์ แต่ "ฤดูหนาวจากภูเขาไฟ" (volcanic winter) ที่เกิดขึ้นตามมา ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกลดลง 3-3.5 องศาเซลเซียส อยู่หลายปี แกนน้ำแข็งจากกรีนแลนด์แสดงให้เห็นการลดระดับอย่างเป็นจังหวะของการขับสารอินทรีย์ ขณะที่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีพืชและสัตว์เพียงเล็กน้อยที่มีชีวิตรอด และเป็นไปได้ว่าการปะทุทำให้เกิดการเสียชีวิตหมู่ทั่วโลก

    จากหลักฐานที่ในดีเอ็นเอไมโทคอนเดรีย บ่งบอกว่า ชนิดพันธุ์ของมนุษย์อาจประสบกับภาวะคอขวดทางพันธุกรรมในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งทำให้ความหลากหลายทางพันธุกรรมลดลงต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้จากความเก่าแก่ของชนิดพันธุ์ ตามทฤษฎีมหันตภัยโตบาที่เสนอโดยสแตนลีย์ เอช อัมโบรส จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ เมื่อ พ.ศ. 2541 การปะทุครั้งนั้นอาจลดจำนวนประชากรมนุษย์ลงเหลือเพียงไม่กี่หมื่นคน[15] อย่างไรก็ตาม สมมุติฐานนี้ไม่เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายเนื่องจากขาดหลักฐานการเสียชีวิตหมู่หรือสูญพันธุ์ของสัตว์ชนิดอื่น แม้แต่ชนิดพันธุ์ที่อ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อม[6]

    ความเคลื่อนไหวในระยะหลังแก้ไข
    การปะทุที่รุนแรงน้อยกว่าเกิดขึ้นที่โตบาเมื่อนานมาแล้ว กรวยขนาดเล็กของภูเขาไฟปูซูบูกิตก่อตัวขึ้นบนขอบด้านตะวันตกเฉียงใต้ของแอ่งยุบปากปล่องและโดมลาวา การปะทุครั้งล่าสุดอาจเกิดขึ้นที่กรวยตันดุกเบอนูวาบนขอบด้านตะวันตกเฉียงเหนือของแอ่งยุบ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีพืชพรรณอยู่น้อย ซึ่งอาจเกิดจากการปะทุภายในไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมา[16]

    บางส่วนของแอ่งยุบปากปล่องเคยยกตัวขึ้นเนื่องจากโพรงหินหนืดถูกเติมด้วยหินหนืดบางส่วน ตัวอย่างคือ เกาะซาโมซีร์และคาบสมุทรอูลูวันที่ยกตัวขึ้นเหนือพื้นผิวทะเลสาบ ตะกอนทะเลสาบบนเกาะซาโมซีร์แสดงให้เห็นว่าเกาะนี้ยกตัวขึ้นอย่างน้อย 450 เมตรตั้งแต่การปะทุครั้งรุนแรง[9]แผ่นดินที่ยกตัวเช่นนี้พบได้ทั่วไปในแอ่งยุบขนาดใหญ่มาก โดยขึ้นอยู่กับแรงดันขึ้นด้านบนของหินหนิดที่ไม่ปะทุ และโตบาอาจเป็นแอ่งยุบที่ผุดขึ้นใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขึ้นบริเวณภูเขาไฟ โดยเฉพาะเมื่อ พ.ศ. 2530 ที่เกิดขึ้นตามแนวชายฝั่งด้านทิศใต้ของทะเลสาบ โดยจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้แผ่นดิน 11 กิโลเมตร[17]และยังมีแผ่นดินไหวครั้งอื่นๆ เกิดขึ้นในบริเวณนี้ใน พ.ศ. 2435, 2459 และ 2463-2465[9]

    ทะเลสาบโตบาอยู่ใกล้รอยเลื่อนใหญ่สุมาตราที่ทอดตัวในใจกลางเกาะสุมาตราในแนวรอยแตกสุมาตรา[9]ภูเขาไฟบนเกาะสุมาตราและชวาเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะภูเขาไฟซุนดาที่ก่อตัวขึ้นเมื่อแผ่นเปลือกโลกอินเดีย-ออสเตรเลียเคลื่อนที่ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือจนมุดตัวลงข้างใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเชียที่เคลื่อนที่ไปทางตะวันออก เขตมุดตัวในพื้นที่นี้มีความเคลื่อนไหวมาก โดยก้นทะเลใกล้ชายฝั่งด้านทิศตะวันตกของเกาะสุมาตราเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่หลายครั้งตั้งแต่ พ.ศ. 2538 รวมถึงแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย พ.ศ. 2547 ขนาดแมกนิจูด 9.1 และแผ่นดินไหวบนเกาะสุมาตรา พ.ศ. 2548 ขนาดแมกนิจูด 8.7 ซึ่งทั้งสองครั้งมีจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากทะเลสาบโตบาประมาณ 300 กิโลเมตร

    วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2550 เกิดแผ่นดินไหวแมกนิจูด 8.5 บนเกาะสุมาตรา รู้สึกได้ถึงกรุงจาการ์ตาเมืองหลวงของอินโดนีเซีย ครั้งนี้จุดเหนือศูนย์ไม่ได้อยู่ใกล้เท่าสองครั้งก่อนหน้า แต่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน

    วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เกิดแผ่นดินไหวแมกนิจูด 7.7 ห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะปาไกเซลาตันที่อยู่ใกล้เคียงกัน 36 กิโลเมตร และเกิดคลื่นสึนามิความสูง 3 เมตรตามมาทันที

    วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555 เกิดแผ่นดินไหวแมกนิจูด 7.3 ในพื้นที่

    https://th.m.wikipedia.org/wiki/ทะเลสาบโตบา
     

แชร์หน้านี้

Loading...