ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    image.jpg

    เว็บภัยพิบัติ วันที่ 14 กรกฎาคม 2556
    01:00 จากข้อมูลของ JMA ศูนย์กลางพายุโซนร้อนซูลิกขณะนี้เคลื่อนออกจากมณฑลผู้เจี้นนเข้าเขตมณฑลเจียงซี พิกัด N27°35′(27.6°) E116°50′(116.8°) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 40 น็อต ความกดอากาศ 994hPa เคลื่อนที่ไปทางทิศ WNW ด้วยความเร็ว 35 กม/ชม แนวโน้มลดกำลังลงต่อเนื่อง จะเป็นดีเปรสชันในไม่กี่ ชม ข้างหน้านี้

    04:00 จากข้อมูลของ JMA ศูนย์กลางพายุโซนร้อนซูลิกอยู่ในมณฑลเจียงซี พิกัด N28°05′(28.1°) E115°20′(115.3°) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 35 น็อต ความกดอากาศ 996hPa เคลื่อนที่ไปทางทิศ WNW ด้วยความเร็ว 35 กม/ชม แนวโน้มลดกำลังลงต่อเนื่อง
    03:00 JTWC พบหย่อมความกดอากาศต่ำหบ่อมใหม่ 93W กลางมหาสมุทรแปซิฟิค ใกล้จุดที่เคยเป็นที่เกิดของพายุซูลิก ในขณะที่พายุโซนร้อนซูลิกขณะนี้อยู่ที่เจียงซี
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เรื่องปฐมโพธิกาล [๑๒๕] ข้อความเบื้องต้น
    พระศาสดาประทับนั่ง ณ ควงไม้โพธิพฤกษ์ ทรงเปล่งอุทานด้วยสามารถเบิกบานพระหฤทัย ในสมัยอื่น พระอานนทเถระทูลถาม
    จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "อเนกชาติสํสารํ" เป็นต้น.

    ทรงกำจัดมารแล้วเปล่งอุทาน

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นแล ประทับนั่ง ณ ควงไม้โพธิพฤกษ์ เมื่อพระอาทิตย์ยังไม่อัสดงคตเทียว ทรงกำจัดมารและพลแห่งมารแล้ว
    ในปฐมยาม ทรงทำลายความมืดที่ปกปิดปุพเพนิวาสญาณ,
    ในมัชฌิมยาม ทรงชำระทิพยจักษุให้หมดจดแล้ว,
    ในปัจฉิมยาม ทรงอาศัยความกรุณาในหมู่สัตว์ ทรงหยั่งพระญาณลงในปัจจยาการแล้ว ทรงพิจารณาปัจจยาการนั้น ด้วยสามารถแห่งอนุโลมปฏิโลม.
    ในเวลาอรุณขึ้น ทรงบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณพร้อมด้วยอัศจรรย์หลายอย่าง
    เมื่อจะทรงเปล่งอุทาน ที่พระพุทธเจ้ามิใช่แสนเดียวไม่ทรงละแล้ว
    จึงได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า
    (หันทะ มะยัง ปะฐะมะพุทธะภาสิตะคาถาโย ภะณามะ เส)
    เชิญเถิด เราทั้งหลาย จงกล่าวคาถาพุทธภาษิตครั้งแรกของพระพุทธเจ้าเถิด

    อะเนกะชาติสังสารัง สันธาวิสสัง อะนิพพิสัง
    (อเนกชาติสํสารํ สนฺธาวิสฺสํ อนิพฺพิสํ)
    เมื่อเรายังไม่พบญาณ, ได้แล่นท่องเที่ยวไปในสงสารอันเป็นอเนกชาติ

    คะหะการัง คะเวสันโต ทุกขา ชาติ ปุนัปปุนัง,
    (คหการกํ คเวสนฺโต ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปุนํ)
    แสวงหาอยู่ซึ่งนายช่างปลูกเรือน, คือตัณหาผู้สร้างภพ, การเกิดทุกคราวเป็ทุกข์ร่ำไป

    คะหะการะกะ ทิฏโฐสิ ปุนะ เคหัง นะ กาหะสิ
    (คหการก ทิฏฺโฐสิ ปุน เคหํ น กาหสิ)
    นี่แน่ะ นายช่างปลูกเรือน, เรารู้จักเจ้าเสียแล้ว, เจ้าจะทำเรือนให้เราไม่ได้อีกต่อไป

    สัพพา เต ผาสุกา ภัคคา คะหะกูฏัง วิสังขะตัง,
    ( สพฺพา เต ผาสุกา (๒) ภคฺคา คหกูฏํ วิสงฺขตํ)
    โครงเรือนทั้งหมดของเจ้าเราหักเสียแล้ว, ยอดเรือนเราก็รื้อเสียแล้ว

    วิสังขาระคะตัง จิตตัง ตัณหานัง ขะยะมัชฌะคา
    (วิสงฺขารคตํ จิตฺตํ ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา.)
    จิตของเราถึงแล้วซึ่งสภาพที่อะไรปรุงแต่งไม่ได้อีกต่อไป,มันได้ถึงแล้วซึ่งความสิ้นไปแห่งตัณหา (คือ ถึงนิพพาน)
    ___________________________
    ๑- ความเกิด เป็นทุกข์ร่ำไป.
    ๒- อีกนัยหนึ่ง ผาสุกา เป็นคำเปรียบกับเครื่องเรือน แปลว่า จันทันเรือนของท่านเราหักเสียหมดแล้ว.

    แก้อรรถ
    บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า คหการ๑-, คเวสนฺโต ความว่า เราเมื่อแสวงหานายช่าง คือตัณหาผู้ทำเรือน กล่าวคืออัตภาพนี้มีอภินิหารอันทำไว้แล้ว แทบบาทมูลแห่งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าทีปังกร เพื่อประโยชน์แก่พระญาณ อันเป็นเครื่องอาจเห็นนายช่างนั้นได้ คือพระโพธิญาณ
    เมื่อไม่ประสบ ไม่พบ คือไม่ได้พระญาณนั้นแล จึงท่องเที่ยว คือเร่ร่อน ได้แก่วนเวียนไปๆ มาๆ สู่สงสารมีชาติเป็นอเนก คือสู่สังสารวัฏนี้ อันนับได้หลายแสนชาติ สิ้นกาลมีประมาณเท่านี้.
    คำว่า ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปุนํ นี้ เป็นคำแสดงเหตุแห่งการแสวงหาช่างผู้ทำเรือน. เพราะชื่อว่าชาตินี้ คือการเข้าถึงบ่อยๆ ชื่อว่าเป็นทุกข์ เพราะภาวะที่เจือด้วยชราพยาธิและมรณะ, ก็ชาตินั้น เมื่อนายช่างผู้ทำเรือนนั้น อันใครๆ ไม่พบแล้ว ย่อมไม่กลับ, ฉะนั้น เราเมื่อแสวงหานายช่างผู้ทำเรือน จึงได้ท่องเที่ยวไป.
    บทว่า ทิฏฺโฐสิ ความว่า บัดนี้ เราตรัสรู้พระสัพพัญญุตญาณ พบท่านแล้วแน่นอน.
    บทว่า ปุน เคหํ ความว่า ท่านจักทำเรือนของเรา กล่าวคืออัตภาพในสังสารวัฏนี้อีกไม่ได้.
    บาทพระคาถาว่า สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคา ความว่า ซี่โครง๒- กล่าวคือ กิเลสที่เหลือทั้งหมดของท่าน เราหักเสียแล้ว.
    บาทพระคาถาว่า คหกูฏํ วิสงฺขตํ ความว่า ถึงมณฑลช่อฟ้า กล่าวคืออวิชชา แห่งเรือนคืออัตภาพที่ท่านสร้างแล้วนี้ เราก็รื้อเสียแล้ว.
    บาทพระคาถาว่า วิสงฺขารคตํ จิตฺตํ ความว่า บัดนี้ จิตของเราถึง คือเข้าไปถึงธรรมปราศจากเครื่องปรุงแต่งแล้ว คือพระนิพพาน ด้วยสามารถแห่งอันกระทำให้เป็นอารมณ์.
    บาทพระคาถาว่า ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา ความว่า เราบรรลุพระอรหัต กล่าวคือธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหาแล้ว.
    ____________________________
    ๑- บาลีเป็น คหการกํ.
    ๒- หรือ จันทันเรือน กล่าวคือกิเลสที่เหลือทั้งหมด.
    เรื่องปฐมโพธิกาล จบ.
    ------------------------------
    .. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ชราวรรคที่ ๑๑
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Piyacheep S.Vatcharobol
    2 ชั่วโมงที่แล้ว ·
    สองฝั่งของแผ่นเปลือกโลก ลากได้เป็นเส้นตรงเกือบระนาบเดียวกัน
    โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเครียร์ฟูกุชิมา
    ยังไม่ดับ ปิดเตาสนิท รังสียังรั่ว
    แผ่นดินยังไหว แล้วยุบตัวลง
    กัมมันภาพรังสีแผ่ไปถึงอลาสก้า
    ชายฝั่งแปซิฟิกทั้งอเมริกาและเอเซีย
    เวียดนาม ฟิลิปินส์ ลงมาอินโด
    รังสียังแผ่ไม่หยุดนะครับ แม้นปริมานน้อย
    57 คนที่ถูกใจ·10 ความคิดเห็น
    ถูกใจ
    แสดงความคิดเห็น
    แชร์
    image.jpg
    เครดิตภาพ hiflyer http://palungjit.org/threads/รวมคำทำนายและวิเคราะห์ภัยพิบัติ-whats-next.371929/page-144 ภาพเก่าน่ะครับตอนนี้คงกระจายไปมากกว่าในภาพแล้ว
    ญี่ปุ่นคงเอาไม่อยู่แล้ว

    หัวข้อข่าว CBC News เก่า 19 มิถุนายน 2556
    High levels of radiation found in groundwater at Fukushima
    Strontium-90 levels near Japanese power plant are 30 times above safety limit
    CBC News Posted: Jun 19, 2013 4:04 AM ET Last Updated: Jun 19, 2013 5:42 PM ET

    High levels of a toxic substance called strontium-90 have been found in groundwater at the devastated Fukushima Daiichi power plant in Japan — coming to light even as the country moves closer to bringing its nuclear reactors back online.

    Strontium-90 was detected in groundwater near the plant at levels 30 times above the government safety standard, officials said Wednesday.

    Strontium-90 is a by-product of the fission of uranium and plutonium in nuclear reactors as well as nuclear weapons. People exposed to it are at a greater risk of developing cancer.

    High levels of tritium, a less harmful substance, had also been found, Toshihiko Fukuda, a general manager at Tokyo Electric Power Co. (TEPCO), told a news conference.

    They suspect the radioactive material was released amid the meltdowns that rocked the plant following the March 2011 earthquake and tsunami, and has been circulating in groundwater. All but two of Japan’s 50 nuclear reactors have been shut down since the disaster, pending a review of safety procedures.

    TEPCO officials say it's unlikely the contaminants are leaking into the ocean because there have been no major changes in radiation levels in nearby seawater.

    The company has constantly revised announcements about radiation levels and other problems at the plant since the disaster, however. Earlier this month it reversed a claim that the groundwater flowing into the damaged basements of reactor buildings was not contaminated.

    "TEPCO needs to carry out more regular testing in specific areas and disclose everything they find," said Michiaki Furukawa, a nuclear chemist and professor emeritus at Nagoya University.

    Hundreds of tonnes of contaminated water accumulates everyday at the Fukushima Daiichi nuclear complex, most of which contains radioactive cesium.

    Japan's nuclear watchdog on Wednesday formally approved new safety requirements for atomic plants, paving the way for the reopening of facilities shut down since the Fukushima disaster.

    The new requirements by the Nuclear Regulation Authority will take effect on July 8, when operators will be able to apply for inspections. If plants pass inspection, they can reopen.

    Timeline of events at the Fukushima Daiichi nuclear complex
    What does a nuclear reactor do, and other questions
    All but two of Japan's 50 reactors have been offline since the 2011 earthquake and tsunami led to multiple meltdowns and massive radiation leaks at the Fukushima plant.

    The new requirements for the first time make it compulsory that plants take steps to guard against radiation leaks in the case of severe accidents, install emergency command centres and enact anti-terrorist measures.

    Safety was previously left up to the operators.
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    image.jpg
    วันที่ 14 กรกฎาคม 2556 เวลา 07:00 จากข้อมูลของ JMA ศูนย์กลางพายุโซนร้อนซูลิกขณะนี้อยู่ใน มณฑลเจียงซี พิกัด N28°00′ E115° ลดกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน ความกดอากาศ 998hPa ใกล้สลายตัว
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    image.jpg
    เดลินิวส์ สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ว่า ภาคตะวันออกของจีนเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะฝนหนักจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “ซูลิก” ซึ่งทำให้ต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว 500,000 คน ในวันนี้ หลังจากซูลิกพัดถล่มไต้หวัน มีผู้เสียชีวิตไป 2 คน โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีน แถลงว่า ไต้ฝุ่นซูลิก พัดขึ้นชายฝั่งมณฑลฝูเจี้ยน ด้วยความเร็วลม 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เมื่อขึ้นฝั่งแล้ว ก็อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น ขณะเคลื่อนตัวเข้าสู่แผ่นดินใหญ่

    ประชาชนมากกว่า 500,000 คน ถูกอพยพออกจากมณฑลฝูเจี้ยน และเจ้อเจียง ที่อยู่ใกล้กัน เมื่อไต้ฝุ่นกำลังแรงลูกนี้พัดขึ้นฝั่ง โดยมีทหารประมาณ 5,500 นายคอยให้ความช่วยเหลือด้านการบรรเทาทุกแก่ประชาชนหากต้องการ

    สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า มีเรือประมงเกือบ 31,000 ลำ ถูกเรียกกลับเข้าฝั่ง และเที่ยวบินโดยสารกว่า 20 เที่ยวถูกยกเลิก ไต้ฝุ่นซูลิก ทำให้เกิดฝนตกหนักในเซียะเมิน วัดได้ถึง 24 เซนติเมตรเมื่อวานนี้และวันนี้ แม่น้ำหลายสายเอ่อล้นฝั่ง ปริมาณน้ำในบางพื้นที่มากกว่าที่ทางการเตือนไว้ และคลื่นสูงถึง 10 เมตร กระแทกแนวกั้นชายฝั่งทะเลในเมืองหนิงเต้อ
    ส่วนในไต้หวัน มีผู้เสียชีวิต 2 คน และสูญหาย 1 คน และบาดเจ็บ 104 คน จากพายุดังกล่าว ซึ่งทำให้ดินถล่มและน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันนี้ผมไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ บรมบรรพตภูเขาทองวัดสระเกศมาขอนำภาพพระมาฝากครับ ผมว่าสวยมาก
    image.jpg
    ขอให้ผลบุญที่ตั้งใจทำด้วยการสักการะพระบรมสารีริกธาตุแห่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกอาทิตย์มาไม่เคยขาด ตลาดระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่มารดาเสียชีวิต จงเป็นปัจจัยนำส่งให้ข้าพเจ้าบรรลุพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาน แม้ยังไม่สามารถบรรลุขอให้ได้ดำรงตนในฐานะแห่งพระโพธิสัตว์ ดังที่มีผู้บอกข้าพเจ้าว่าข้าพเจ้าตั้งใจทำมาแล้วชั่วกัลป์ชั่วกัลป์ แต่ไม่เคยประสบผลสำเร็จเลย ก็ขอให้ได้พบสิ่งที่ตั้งใจหวังในชาตินี้ และภพนี้ด้วยเทอญ โอม อุอะมะ นะโมพุทธายะ สะสุมัง
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนสั่งอพยพกว่า3แสนคนในมณฑลฟูเจี้ยนหนีไต้ฝุ่นซูลิก
    วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16:40:28 น.Tweet มติชน
    ทางการจีนสั่งอพยพคนกว่า 3 แสนคนในมณฑลฟูเจี้ยน ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ พร้อมประกาศเตือนภัยน้ำท่วมและแผ่นดินถล่ม สำนักอุตุนิยมวิทยาจีนระบุว่า ไต้ฝุ่นซูลิกซึ่งมีความเร็ว 119 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ชายฝั่งมณฑลฟูเจี้ยนแล้ว ซึ่งถือว่าลดความรุนแรงลงหลังพัดถล่มทางตอนเหนือของไต้หวันจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ขณะที่บ้านเรือนกว่า 520,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้

    ในพื้นที่มณฑลฟูเจี้ยนและมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งอยู่ติดกับชายฝั่งทะเล ทางการได้ระงับการให้บริการรถไฟ ยกเลิกเที่ยวบิน และสั่งเรือประมงให้กลับฝั่ง เพราะฝนตกหนักและคลื่นสูง นอกจากนี้ยังมีการการใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น เบื้องต้นคาดว่าประชาชนในมณฑลฟูเจี้ยนราว 4 แสนคน และมณฑลเจ้อเจียง 4.1 แสนคน ได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่นลูกนี้ แม้ว่าไต้ฝุ่นซูลิกจะอ่อนกำลังลงขณะเคลื่อนเข้าสู่มณฑลเจียงซี แต่ก็ยังทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ แต่ทางการได้ลดระดับการเตือนภัยคลื่นสูงแล้ว ไต้ฝุ่นซูลิกเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 4 ที่พัดถล่มจีนในปีนี้ (เอพี)
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำท่วม ดินถล่มเป็นบริเวณกว้างก็มีโอกาสเกิดหลุมยุบ ผมว่าเรามาดูกันว่าหลุมยุบคืออะไรเพราะทุกวันนี้ทั่วโลกเจอปัญหานี้กันมาก
    image.jpg
    หลุมยุบ
    เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งที่ดินยุบตัวลงเป็นหลุมลึก และมีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 1-200 เมตร ลึกตั้งแต่ 1 ถึงมากกว่า 20 เมตร เมื่อแรกเกิดปากหลุมมีลักษณะเกือบกลมและมีน้ำขังอยู่ก้นหลุม ภายหลังน้ำจะกัดเซาะดินก้นหลุมกว้างขึ้น ลักษณะคล้ายลูกน้ำเต้า ทำให้ปากหลุมพังลงมาจนเหมือนกับว่าขนาดของหลุมยุบกว้างขึ้น โดยปรกติหลุมยุบจะเกิดในบริเวณที่ราบใกล้กับภูเขาที่เป็นหินปูน เนื่องจากหินปูนมีคุณสมบัติละลายน้ำที่มีสภาพเป็นกรดอ่อนได้ ประกอบกับภูเขาหินปูนมีรอยเลื่อนและรอยแตกมากมายดังจะสังเกตเห็นได้ว่าภูเขาหินปูนมีหน้าผาชัน หน้าผาเป็นรอยเลื่อนและรอยแตกในหินปูนนั่นเอง บริเวณใดที่รอยแตกของหินปูนตัดกันจะเป็นบริเวณที่ทำให้เกิดโพรงได้ง่าย โพรงหินปูนถ้าอยู่พ้นผิวดินก็คือถ้ำ ถ้าไม่พ้นเรียกว่าโพรงหินปูนใต้ดิน ซึ่งจำแนกเป็น 2 ระดับ คือ โพรงหินปูนใต้ดินระดับลึก (ลึกจากผิวดินมากกว่า 50 เมตร) และโพรงหินปูนระดับตื้น (ลึกจากผิวดินไม่เกิน 50 เมตร) ส่วนใหญ่หลุมยุบจะเกิดในบริเวณท่มีโพรงหินปูนใต้ดินระดับตื้น หลุมยุบเกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กรมทรัพยากรธรณีได้รับแจ้งและเข้าไปตรวจสอบพื้นที่มากกว่า 45 แห่ง โดยพบว่าพื้นที่ที่เกิดหลุมยุบอยู่บนที่ราบใกล้ภูเขาหินปูน ภายหลังการเกิดพิบัติภัยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 พบว่ามีหลุมยุบเกิดขึ้นมากว่า 19 ครั้ง โดยเกิดใน 4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากธรณีพิบัติภัยครั้งนี้คือ จังหวัดสตูล พังงา กระบี่ และตรัง ถึง 14 ครั้ง เกิดขึ้นในภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย 4 ครั้ง และเกิดในภูมิภาคอื่นคือ จังหวัดเลย 1 ครั้ง

    ปัจจัยที่ทำให้เกิดหลุมยุบ

    เป็นบริเวณที่มีหินปูนรองรับอยู่ในระดับตื้น
    มีโพรงหรือถ้ำใต้ดิน
    มีตะกอนดินปิดทับบาง (ไม่เกิน 50 เมตร)
    มีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดิน
    มีรอยแตกที่เพดานโพรงใต้ดิน ตะกอนดินที่อยู่เหนือโพรงไม่สามารถคงตัวอยู่ได้มีการก่อสร้างอาคารบนพื้นดินที่มีโพรงหินปูนใต้ดินระดับตื้นมีการเจาะบ่อบาดาลผ่านเพดานโพรงหินปูนใต้ดินระดับตื้น ทำให้แรงดันน้ำและอากาศภายในโพรงถ้ำเปลี่ยนแปลง มีผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเกิน 7 ริกเตอร์
    สาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมยุบหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์

    แผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระดับ 9 ริกเตอร์ ทำให้หินปูนที่มีคุณสมบัติแข็งแต่เปราะได้รับการกระทบกระเทือนเป็นบริเวณกว้าง เพดานโพรงหรือถ้ำใต้ดินที่อยู่ระดับตื้นและไม่แข็งแรงอยู่เดิมมีโอกาสยุบตัวหรือถล่มลงมาได้ง่าย นอกจากนี้คลื่นยักษ์ (สึนามิ) ที่กระหน่ำเข้ามามีแรงกระแทกมหาศาล ทำให้ระดับน้ำและบนดินมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    จากปัจจัยที่กล่าวมาแล้วบวกกับปัจจัยที่มีอยู่เดิมทำให้เกิดหลุมยุบขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในบริเวณที่ได้รับผลระทบจากแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์โดยตรง และในบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเพียงอย่างเดียว

    สรุปสาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมยุบหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ คือ

    เกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดินอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเกิดคลื่นยักษ์ทำให้แรงดันของน้ำและอากาศภายในโพรงเสียสมดุล
    เกิดการขยับตัวของพื้นที่ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยร้าวของเพดานโพรง สืบเนื่องจากการเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง

    ข้อสังเกตก่อนเกิดหลุมยุบ
    - ดินทรุดและยุบตัว ทำให้กำแพง รั้ว เสาบ้าน ต้นไม้ โผล่สูงขึ้น
    - มีการเคลื่อนตัว/ทรุดตัว ของกำแพง รั้ว เสาบ้าน ต้นไม้ ประตู/หน้าต่างบิดเบี้ยว ทำให้ปิดยากขึ้น
    - เกิดแอ่งน้ำขนาดเล็กในบริเวณที่ไม่เคยมีแอ่งน้ำมาก่อน
    - มีต้นไม้ ใบไม้ ดอกไม้ และพืชผัก เหี่ยวเฉาเป็นบริเวณแคบๆ หรือเป็นวงกลม เนื่องจากสูญเสียความชื้นของชั้นดินลงไปในโพรงใต้ดิน
    น้ำในบ่อ สระ เกิดการขุ่นข้น หรือเป็นโคลน โดยไม่มีสาเหตุ

    คำแนะนำและข้อปฏิบัติของหน่วยราชการ เมื่อเกิดเหตุการณ์หลุบยุบและโพรงยุบ
    - กรณีเกิดหลุมยุบใดๆ กรมทรัพยากรธรณี มีข้อแนะนำให้ส่วนราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้ถูกต้อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดหลุมยุบ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
    -ล้อมบริเวณด้วยวัสดุชั่วคราว ห่างจากขอบหลุมไม่ต่ำกว่า 15 เมตร เพื่อป้องกันมิให้ประชาชนหรือสัตว์เลี้ยงตกลงไปในหลุม อันอาจจะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต
    แจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบของกรมทรัพยากรธรณี กรุงเทพมหานคร (หมายเลขโทรศัพท์ 0 2202 3926 และ 0 2202 3757)และกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบสภาพพื้นที่และสภาพทางธรณีวิทยา
    ทำการถมวัสดุลงไปในหลุม โดยเริ่มจาการถมก้อนหินขนาดใหญ่เท่ามี่จะหาได้ในท้องที่ลงไปก่อน และจึงถมดินลูกรังอัดตามลงไปจนเต็มหลุม พร้อมกดทับให้แน่น ในขณะที่ถมดินลงไป ให้ฉีดน้ำเข้าไปทุกระยะ ทั้งนี้ เพื่อให้ดินเข้าไปอุดช่องว่างของหินที่รองรับพื้นที่ และตามซอกมุมต่างๆๆภายในหลุม
    - ทำรั้วกึ่งถาวร ซึ่งอาจเป็นรั้วหนาม กันพื้นที่รอบนอกในระยะไม่ต่ำกว่า 15 เมตร พร้อมทำป้ายประกาศเตือนภัย เพื่อป้องกันประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ จนกว่าจะแน่ใจว่าชั้นดินจะไม่ทรุดลงไปอีก ซึ่งเวลาในการอัดแน่นของดินภายหลังที่ถมลงไปในหลุมนั้น จะขึ้นอยู่กับสภาพของดินในแต่ละพื้นที่
    อย่าทิ้งขยะ ของเสีย หรือสารพิษลงในหลุม เนื่องจากจะทำให้เกิดการปนเปื้อนในแหล่งน้ำธรรมชาติ

    สิ่งบอกเหตุก่อนเกิดหลุมยุบและโพรงยุบในพื้นที่ราบที่อยู่ใกล้เขาหินปูน
    -เกิดเสียงดังคล้ายเสียงฟ้าร้องจากใต้ดิน ซึ่งเป็นผลมาจากการถล่มของเพดาน โพรงหินปูนใต้ดินหล่นลงมากระแทกพื้นถ้ำใต้ดิน ก่อนที่จะเกิดการยุบตัวของหลุมในเวลาต่อมา ซึ่งอาจจะหลายนาที หลายชั่วโมงหรือเป็นวันก็ได้
    บางกรณีจะมีน้ำทะลักพุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน ภายหลังการเกิดเสียงดังจากใต้ดิน เนื่องจากเกิดการยุบถล่มของเพดานถ้ำที่มีน้ำอยู่ในโพรงใต้ดิน
    -ก่อนเกิดการยุบตัว พื้นดินรอบข้างจะมีรอยแตกร้าวอย่างผิดสังเกต ซึ่งรูปร่างของพื้นที่ที่พบรอยแตกร้าว ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นวงกลมหรือวงรี คล้ายร่างแหหรือใยแมงมุม ขนาดของพื้นที่ที่พบรอยแตกร้าวจะใกล้เคียงกับขนาดโพรงหรือถ้ำที่อยู่ใต้ดิน โดยทั่วไปมีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 5 เมตร
    สิ่งก่อสร้างที่หยั่งลึกลงไปในดิน เช่นท่อน้ำ เสา รั้ว จะมีลักษณะคดโค้งหรือเลื่อนตัวผิดสังเกต
    บางครั้งจะพบว่าน้ำตามบ่อบาดาลหรือบ่อน้ำที่อยู่ใกล้เคียงจะมีสีขุ่นข้นหรือเป็นโคลน อันเนื่องจากการพังทลายของผนังถ้ำ
    ข้อปฏิบัติตนในกรณีที่พบสิ่งบอกเหตุเกิดหลุมยุบและโพรงยุบในพื้นที่ราบที่อยู๋ใกล้เขาหินปูน
    - เมื่อได้ยินเสียงดัง หรือพบสิ่งบอกเหตุอื่นๆ ข้างต้น ให้รีบออกจากบริเวณนั้นทันที หรือถ้าเป็นเขตบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ให้อพยพออกไปจากจุดนั้นอย่างน้อย 100 เมตร
    - ให้รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยด่วน เพื่อทำการกั้นเขต
    สังเกตเบื้องต้นถึงขนาด และทิศทางการขยายตัวของสิ่งบอกเหตุเกิดหลุมยุบ ถ้าเป็นลักษณะวงกลมหรือวงรี ให้กั้นแนวห้ามเข้าใกล้อย่างน้อย 10-15 เมตร จากบริเวณนั้น แต่ถ้ามีลักษณะเป็นแนวยาว ให้กั้นแนวห้ามเข้าบริเวณปลายทั้งสองเพิ่มกว่าปกติ เนื่องจากการขยายตัวของหลุมจะอยู่ในแนวยาว
    - ทำรั้วกันพื้นที่รอบทิศ ติดป้ายประกาศเตือนภัยตามแบบประกาศเตือนภัยหลุมยุบของกรมทรัพยากรธรณี หรือป้ายเตือนอื่นๆ ที่มองเห็นได้ชัดเจนในระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร อย่างน้อย 4 ด้าน
    - หลังจากเกิดสิ่งบอกเหตุ อาจจะเกิดหลุมยุบภายในระยะเวลาไม่กี่นาที หรืออาจขยายไปถึงหลายวัน ดังนั้นพึงระวังไว้ว่าไม่ควรเข้าใกล้พื้นที่ดังกล่าว ถึงแม้ว่าจะไม่เกิดหลุมยุบก็ตาม ทั้งนี้ควรให้เจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรธรณีหรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตรวจสอบ

    แผนที่แสดงพื้นที่มีโอกาสเกิดหลุมยุบ แสดงเป็น PDF File http://www.dmr.go.th/geohazard/sinkhole/thailand.pdf หลุมยุบ แสดงเป็น PDF File http://www.dmr.go.th/brochure/snkhle/sh.pdf
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหว

    บทความน่ารู้ : เรื่องสาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหว
    ที่นี่คือศูนย์รวมบทความที่น่าสนใจและให้ความรู้จากทุกมุมโลก เพื่อเป็นแหล่งความรู้สำหรับคนไทยทุกคน



    มารู้จักแผ่นดินไหวกันเถอะ

    แผ่นดินไหว เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อชีวิต และทรัพย์สินของมนุษย์ได้เป็นบริเวณกว้าง เชื่อกันว่าทุกประเทศได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ปัจจุบันพบว่ามีความพยายามอย่างมากในหลายประเทศ ซึ่งได้รับอันตรายจากแผ่นดินไหว ศึกษา และทำความเข้าใจถึงกลไกของการเกิดแผ่นดินไหว เพื่อการพยากรณ์แผ่นดินไหว และทำนายเหตุการณ์ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด? ที่ไหน? ขนาดเท่าใด? แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น ขณะนี้จึงยังไม่มีผู้ใดสามารถ พยากรณ์แผ่นดินไหวได้อย่างถูกต้อง โดยทั่วไปสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเผชิญภัยแผ่นดินไหว คือการเตรียมพร้อมที่ดี แต่ละประเทศควรมีมาตรการในการป้องกัน และบรรเทาภัยแผ่นดินไหวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับธรรมชาติของแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว รอยเลื่อนต่าง ๆ ให้ความรู้ และข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหวต่อประชาชน ให้มีการแบ่งเขตแผ่นดินไหวตามความเหมาะสมของความเสี่ยงภัย ออกกฎหมายให้อาคารสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ สามารถรับแรงแผ่นดินไหวตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่เสี่ยงภัย มีการวางแผนการจัดการที่ดี หากเกิดความเสียหายร้ายแรงหลังการเกิดแผ่นดินไหว เป็นต้น ในกรณีของประเทศไทย แม้ว่าตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิประเทศจะอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวต่ำ แต่เพื่อความไม่ประมาท กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเสริมมาตรการข้างต้นโดยมีภารกิจในการตรวจวัดแผ่นดินไหวตลอด 24 ชั่วโมง แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศเป็นประจำ ตลอดจนวางแผนจัดตั้งโครงการลดภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสาธารณชนได้
    แผ่นดินไหว เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ เกิดจากการเคลื่อนตัวโดยฉับพลันของเปลือกโลก ส่วนใหญ่ แผ่นดินไหวมักเกิดตรงบริเวณขอบ ของแผ่นเปลือกโลกเป็นแนวแผ่นดินไหวของโลก การเคลื่อนตัวดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจากชั้นหินหลอมละลาย ที่อยู่ภายใต้เปลือกโลก ได้รับพลังงานความร้อนจากแกนโลก และลอยตัวผลักดันให้เปลือกโลกตอนบนตลอดเวลา ทำให้เปลือกโลกแต่ละชิ้นมีการเคลื่อนที่ในทิศทางต่าง ๆ กันพร้อมกับสะสมพลังงานไว้ภายใน บริเวณขอบของชิ้นเปลือกโลกจึงเป็นส่วนที่ชนกันเสียดสีกัน หรือแยกจากกัน หากบริเวณขอบของชิ้นเปลือกโลกใด ๆ ไม่ผ่านหรืออยู่ใกล้กับประเทศใดประเทศนั้น ก็จะมีความเสี่ยงต่อภัยแผ่นดินไหวสูง
    เช่น ประเทศญี่ปุ่น ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศอินโดนีเซีย นิวซีแลนด์ เป็นต้น นอกจากนั้นพลังที่สะสมในเปลือกโลก ถูกส่งผ่านไปยังเปลือกโลกพื้นของทวีป ตรงบริเวณรอยร้าวของหินใต้พื้นโลกหรือที่เรียกว่า "รอยเลื่อน" เมื่อระนาบ รอยร้าวที่ประกบกันอยู่ได้รับแรงอัดมาก ๆ ก็จะทำ ให้รอยเลื่อนมีการเคลื่อนตัวอย่างฉับพลันเกิดเป็น แผ่นดินไหวเช่นเดียวกัน

    แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก (แนวระหว่างรอยต่อธรณีภาค)ทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของชั้นหินขนาดใหญ่เลื่อน เคลื่อนที่ หรือแตกหัก และเกิดการโอนถ่ายพลังงานศักย์ผ่านในชั้นหินที่อยู่ติดกัน พลังงานศักย์นี้อยู่ในรูปคลื่นไหวสะเทือน จุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว (focus) มักเกิดตามรอยเลื่อน อยู่ในระดับความลึกต่างๆของผิวโลก เท่าที่เคยวัดได้ลึกสุดอยู่ในชั้นแมนเทิลส่วนจุดที่อยู่ในระดับสูงกว่า ณ. ตำแหน่งผิวโลก เรียกว่า "จุดเหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหว" (epicenter)การสั่นสะเทือนหรือแผ่นดินไหวนี้จะถูกบันทึกด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า ไซส์โมกราฟ

    สาเหตุการเกิดแผ่นดินไหว

    1. กระบวนการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ เช่น การเคลื่อนที่ของเปลือกโลก
    2. ภูเขาไฟระเบิด (ในขณะที่แมกมาใต้ผิวโลกเคลื่อนที่ตามเส้นทางสู่ปล่องภูเขาไฟ สามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวก่อนมีการระเบิดของภูเขาไฟ)
    3. การกระทำของมนุษย์ เช่น การทดลองระเบิดปรมาณู การระเบิดพื่นที่เพื่อสำรวจวางแผนก่อนสร้างเขื่อน เป็นต้น

    คลื่นในแผ่นดินไหว

    คลื่นแผ่นดินไหวถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ

    1. คลื่นในตัวกลาง เป็นคลื่นที่มีลักษณะแผ่กระจายเป็นวงรอบๆจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว แบ่งได้เป็น 2 ชนิดคือ
    1.1 คลื่นปฐมภูมิ (คลื่น P) คลื่นตามยาว อนุภาคของคลื่นชนิดนี้เคลื่อนที่ในแนวทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่น สามารถผ่านได้ในตัวกลางทุกสถานะ
    1.2 คลื่นทุติยภูมิ (คลื่น S) คลื่นตามขวาง อนุภาคของคลื่นมีทิศตั้งฉากกับทิศคลื่นเคลื่อนที่ ผ่านได้ในตัวกลางสถานะของแข็ง
    2. คลื่นพื้นผิว เป็นคลื่นที่แผ่จากจุดเหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหว มี 2 ชนิด
    2.1 คลื่น L (Wave of Love : Love wave) เป็นคลื่นที่อนุภาคสั่นในแนวราบ มีทิศทางตังฉากกับการเคลื่อนที่ของคลื่น
    2.2 คลื่น R (Wave of Rayleigh : Rayleigh wave) อนุภาคในคลื่นนี้สั่นเป็นรูปรี ในทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่น เป็นสาเหตุทำให้พื้นโลกสั่นขึ้นลง

    การวัดระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหว

    ได้แก่ มาตราริคเตอร์ และ มาตราเมอร์แคลลี่

    มาตราริคเตอร์

    ขนาดและความสัมพันธ์ของขนาดโดยประมาณกับความสั่นสะเทือนใกล้ศูนย์กลาง

    • 1-2.9 เล็กน้อย ผู้คนเริ่มรู้สึกถึงการมาของคลื่น มีอาการวิงเวียนเพียงเล็กน้อยในบางคน
    • 3-3.9 เล็กน้อย ผู้คนที่อยู่ในอาคารรู้สึกเหมือนมีอะไรมาเขย่าอาคารให้สั่นสะเทือน
    • 4-4.9 ปานกลาง ผู้ที่อาศัยอยู่ทั้งภายในอาคาร และนอกอาคาร รู้สึกถึงการ สั่นสะเทือน วัตถุห้อยแขวนแกว่งไกว
    • 5-5.9 รุนแรงเป็นบริเวณกว้าง เครื่องเรือน และวัตถุมีการเคลื่อนที่
    • 6-6.9 รุนแรงมาก อาคารเริ่มเสียหาย พังทลาย
    • 7.0 ขึ้นไป เกิดการสั่นสะเทือนอย่างมากมาย ส่งผลทำให้อาคารและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เสียหายอย่างรุนแรง แผ่นดินแยก วัตถุบนพื้นถูกเหวี่ยงกระเด็น

    มาตราเมอร์แคลลี่

    ระดับ I อ่อนมาก ผู้คนไม่รู้สึก ต้องทำการตรวจวัดด้วยเครื่องมือเฉพาะทางเท่านั้น
    ระดับ II คนที่อยู่ในตึกสูง ๆ หรืออยู่นิ่งๆ เริ่มรู้สึกเพียงเล็กน้อย
    ระดับ III คนในบ้านเริ่มรู้สึกเหมือนรถบรรทุกเล็กแล่นผ่าน แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้สึก
    ระดับ IV ผู้อยู่ในบ้านรู้สึกเหมือนรถบรรทุกหนัแล่นผ่าน
    ระดับ V คนส่วนใหญ่รู้สึก ของเบาในบ้านเริ่มแกว่งไกว
    ระดับ VI คนส่วนใหญ่รู้สึก ของหนักในบ้านเริ่มแกว่งไหว
    ระดับ VII คนตกใจวิ่งออกจากอาคาร สิ่งก่อสร้างเริ่มมีรอยร้าว
    ระดับ VIII อาคารธรรมดาเสียหายอย่างมาก อาคารออกแบบพิเศษเสียหายเล็กน้อย
    ระดับ IX อาคารออกแบบพิเศษเสียหายอย่างชัดเจน
    ระดับ X อาคารพังเสียหายมาก รางรถไฟงอเสียหาย
    ระดับ XI อาคารสิ่งก่อสร้างพังทลายเกือบทั้งหมด แผ่นดินถล่ม
    ระดับ XII ทุกสิ่งโดนทำลายหมด มองเห็นเป็นคลื่นบนแผ่นดิน

    แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว

    หรือบริเวณตำแหน่งศูนย์กลางจะอยู่บริเวณขอบของแผ่นเปลือกโลก

    - ร้อยละ 80 ของแผ่นดินไหวทั่วโลก เกิดขึ้นรอบๆมหาสมุทรแปซิฟิก เนื่องจากในบริเวณดังกล่าวมีจุดที่เกิดแผ่นดินไหวและการระเบิดของภูเขาไฟบ่อยครั้งมาก โดยเฉพาะบริเวณขอบมหาสมุทรแปซิฟิกที่เรียก ว่า วงแหวนไฟ (Ring of Fire) ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ้ด้านตะวันตกของประเทศเม็กซิโก และด้านตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา

    - ส่วนแนวรอยต่อภูเขาแอลป์ในทวีปยุโรปและภูเขาหิมาลัยในทวีปเอเชียเป็นแหล่งที่เกิดแผ่นดินไหวประมาณร้อยละ 15 ได้แก่ บริเวณประเทศพม่า อัฟกานิสถาน อิหร่าน ตุรกี และแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในยุโรป แผ่นดินไหวในบริเวณนี้มีศูนย์เกิดแผ่นดินไหวระดับตื้นและลึกปานกลาง

    - แนวรอยต่อที่เหลืออีกร้อยละ 5 เกิดในบริเวณแนวสันกลางมหาสมุทรต่างๆของโลก ได้แก่ บริเวณเทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก แนวสันเขาใต้มหาสมุทรอินเดีย อละอาร์กติก ศูนย์เกิดแผ่นดินไหวบริเวณนี้อยู่ที่ระดับตื้นและเกิดเป็นแนวแคบๆ

    วิธีปฏิบัติตัวขณะเกิดแผ่นดินไหว

    • ตั้งสติ อยู่ในที่ที่แข็งแรงปลอดภัย ห่างจากประตู หน้าต่าง สายไฟฟ้า เป็นต้น
    • ปฏิบัติตามคำแนะนำ ข้อควรปฏิบัติของทางราชการอย่างเคร่งครัด ไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป
    • ไม่ควรทำให้เกิดประกายไฟ เพราะหากมีการรั่วซึมของแก๊สหรือวัตถุไวไฟ อาจเกิดภัยพิบัติจากไฟไหม้ ไฟลวก ซ้ำซ้อนกับแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นอีก
    • เปิดวิทยุรับฟังสถานการณ์ คำแนะนำคำเตือนต่าง ๆ จากทางราชการอย่างต่อเนื่อง
    • ไม่ควรใช้ลิฟต์ เพราะหากไฟฟ้าดังอาจมีอันตรายจากการติดอยู่ภายใต้ลิฟต์
    • มุดเข้าไปนอนใต้เตียงหรือตั่ง อย่าอยู่ใต้คานหรือที่ที่มีน้ำหนักมาก
    • อยู่ใต้โต๊ะที่แข็งแรง เพื่อป้องกันอันตรายจากสิ่งปรักหักพังร่วงหล่นลงมา
    • อยู่ห่างจากสิ่งที่ไม่มั่นคงแข็งแรง
    • ให้รีบออกจากอาคารเมื่อมีการสั่งการจากผู้ที่ควบคุมแผนป้องกันภัย หรือผู้ที่รับผิดชอบในเรื่องนี้
    • หากอยู่ในรถ ให้หยุดรถจนกว่าแผ่นดินจะหยุดไหวหรือสั่นสะเทือนหลังเกิดแผ่นดินไหว
    • ตรวจเช็คการบาดเจ็บ และการทำการปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน เพื่อให้แพทย์ได้ทำการรักษาต่อไป
    • ตรวจเช็คระบบน้ำ ไฟฟ้า หากมีการรั่วซึมหรือชำรุดเสียหาย ให้ปิดวาล์ว เพื่อป้องกันน้ำท่วมเอ่อ ยกสะพานไฟฟ้า เพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่ว ไฟฟ้าดูด หรือไฟฟ้าช็อต
    • ตรวจเช็คระบบแก๊ส โดยวิธีการดมกลิ่นเท่านั้น หากพบว่ามีการรั่วซึมของแก๊ส (มีกลิ่น) ให้เปิดประตูหน้าต่าง แล้วออกจากอาคาร แจ้งเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนผู้ที่รับผิดชอบได้ทราบในโอกาสต่อไป
    • เปิดฟังข่าวสารและปฏิบัติตามคำแนะนำ จากทางราชการโดยตลอด
    • ไม่ใช้โทรศัพท์โดยไม่จำเป็น
    • อย่ากดน้ำล้างส้วม จนกว่าจะมีการตรวจเช็คระบบท่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะอาจเกิดการแตกหักของท่อในส้วม ทำให้น้ำท่วมเอ่อหรือส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
    • ออกจากอาคารที่ชำรุดโดยด่วน เพราะอาจเกิดการพังทลายลงมา
    • สวมรองเท้ายางเพื่อป้องกันสิ่งปรักหักพัง เศษแก้ว เศษกระเบื้อง
    • รวมพล ณ ที่หมายที่ได้ตกลงนัดหมายกันไว้ และตรวจนับจำนวนสมาชิกว่าอยู่ครบหรือไม่
    • ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปปฏิบัติงานในบริเวณที่ได้รับความเสียหาย และผู้ไม่มีหน้าที่หรือไม่เกี่ยวข้อง ไม่ควรเข้าไปในบริเวณนั้น ๆ หากไม่ได้รับการอนุญาต
    • ออกจากชายฝั่ง เพราะอาจเกิดคลื่นใต้น้ำซัดฝั่งได้ แม้ว่าการสั่นสะเทือนของแผ่นดินจะสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม




    โดย: นส.จันธิรา ฉันทนาภรณ์

    ขอบคุณที่มา : thaigoodview.com/node/19325
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    ค้นหาสัจจะ
    เชื่อสัจจะ
    ปฏิบัติด้วยสัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความเห็นของอาจารย์ปิยะชีพ วัชโรบล
    เรื่องกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ที่ประเทศญี่ปุ่น

    Piyacheep S.Vatcharobol
    อาหารที่มาไทยมีรังสีระดับต่ำไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่พี่ยุ่นไม่กิน อิอิอิ ส่งออกอย่างเดียว ผักอละสัตว์บางล้อตด้วยครับ
    ถูกใจ · 1 · ตอบกลับ · 2 ชั่วโมงที่แล้ว

    Piyacheep S.Vatcharobol
    ฉลนองรังสีทำให้ญี่ปุ่นสั่งอาหารสดจาดบ้านเรามีขึ้นเป็นประวัติการณ์ และญี่ปุ่นก็ส่งอาหการทะ้ลสดมาขายเราแบบถูกมากๆ

    ญี่ปุ่นเปิดวีซ่าฟรี ๑๕ วัน อนาคตจะอพยบมาไทยนะครับ
    ถูกใจ · 2 · ตอบกลับ · 3 ชั่วโมงที่แล้ว

    Charmarie Jang Sadavongvivad
    ลำบากจังนะคะ จริงๆในที่ตั้งประเทศแบบนี้ ญี่ปุ่นไม่ควรใช้โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์เลย อันตรายมากกว่าประหยัดนะเนี่ย -*-
    แก้ไขแล้ว · ถูกใจ · 6 · ตอบกลับ · 10 ชั่วโมงที่แล้ว

    Piyacheep S.Vatcharobol
    เป็นเหตุสุดวิสัย แต่เป็นสัญญาณเตือนภัยอย่างดีว่าสร้างนิวเครียี์ใกล้รอยแยกของเปลือกโลก อันตรายมาก เบื้องต้นมองแค่ว่าเป็นทะเลเปิดจะปลอดภัยกว่าทะเลปิด หรือด้านในฝั่งทวีป แต่คงคิดไม่ถึงเรื่องภัยจากรอยแยกแรงดันของเปลือกโลกว่าจะรุนแรงมากขนาดนี้นะครับ
    ถูกใจ · 9 · ตอบกลับ · 9 ชั่วโมงที่แล้ว
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทำความเข้าใจพายุ “แกมี“ ความแตกต่างของฝนที่เกิดจากพายุ-ฝนทั่วไป
    6 ตุลาคม 2555

    พายุโซนร้อนแกมีสร้างความสนใจให้กับประชาชนอย่างมาก เพราะจะทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันได้ในหลายพื้นที่ ซึ่งในอดีตประเทศไทยเคยประสบกับพายุหลายลูก ที่มีระดับความรุนแรงของพายุแตกต่างกัน สำหรับพายุโซนร้อนแกมี นักอุตุนิยมวิทยาคาดว่า เมื่อขึ้นฝั่งเวียดนามแล้วจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น ลักษณะฝนที่เกิดจากพายุนี้เป็นอย่างไรและมีความแตกต่างจากฝนทั่วไปอย่างไร?
    เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2532 พายุไต้ฝุ่นเกย์ ได้เคลื่อนตัวเข้าถล่ม จ.ชุมพร สร้างความเสียหายให้ทรัพย์สินของชาวบ้าน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 400 คน นับเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดลูกหนึ่งที่เคลื่อนตัวมายังประเทศไทย แต่พายุไต้ฝุ่นเกย์แตกต่างจากพายุโซนร้อนแกมีที่กำลังจะมีอิทธิพลกับประเทศไทย เพราะพายุไต้ฝุ่นเกย์ ก่อตัวในอ่าวไทย ส่วนพายุโซนร้อนแกมีก่อตัวในทะเลจีนใต้ และกำลังของพายุแตกต่างกัน

    ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุหลายลูกที่ก่อตัวในทะเลจีนใต้ เช่น ปี 2533 มี 3 ลูกส่งผลให้น้ำท่วมภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร
    สถิติในรอบ 61 ปีที่ผ่านมา มีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ทั้งหมด 183 ลูก มี 13 ครั้งที่เป็นพายุโซนร้อน หรือไต้ฝุ่น พายุแต่ละระดับแบ่งตามความเร็วลมสูงสุด ที่บริเวณใกล้ศูนย์กลาง โดยเริ่มก่อตัวขึ้นจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง เป็นพายุดีเปรสชั่น มีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางไม่ถึง 63 กม./ชม. เมื่อเกิน 63 กม./ชม. แต่ไม่ถึง 118 กม./ชม. เป็นพายุโซนร้อน และเมื่อเกิน 118 กม./ชม. ขึ้นไป จะเรียกว่าพายุไต้ฝุ่น ซึ่งถ้าพายุโซนร้อนขึ้นฝั่งแล้วจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น ลักษณะคือ ไม่มีลมแรง เป็นฝนโปรยที่ฝนตกต่อเนื่องตลอดเวลา จึงมีปริมาณน้ำฝนมาก หากตกในพื้นที่ที่ดินอิ่มตัว จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งกระบวนการเกิดฝนและพื้นที่แตกต่างจากฝนที่ตกตามฤดูกาล
    ธรรมชาติของพายุจะทวีกำลังขึ้นขณะอยู่ในทะเล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อุณหภูมิน้ำทะเลที่เหมาะสม คือ 26 หรือ 27 องศาเซลเซียสขึ้นไป และมีความชื้นหรือไอน้ำที่ไปเลี้ยงที่ตัวพายุ ภายในพายุจะมีตาพายุหรือศูนย์กลาง เป็นลมหมุนวน ดึงเอาไอน้ำจากทะเลไป ก่อตัวเป็นเมฆในทางตั้ง หรือเมฆฝนฟ้าคะนองหลายๆก้อนรวมไว้ด้วยกัน มักเคลื่อนตัวตามกระแสลม ส่วนใหญ่จากทิศตะวันออกมาทางทิศตะวันตก และเมื่อเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งจะอ่อนกำลังลง เพราะไม่มีอุณหภูมิน้ำทะเล และความชื้นไปเลี้ยง และมีแรงเสียดทานบนแผ่นดิน และถ้ามีมวลอากาศเย็นเข้ามาใกล้พายุก็ยิ่งทำให้สลายตัวเร็วขึ้น เช่นเดียวกับพายุโซนร้อนแกมี ที่จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น หลังขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม
    ทันทุกกระแส เจาะลึกทุกเหตุการณ์ ส่งตรงถึงมือถือได้แค่ กด *48880521115
    ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

    ข้อมูลจาก Sanook mobile
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13.6 KB
      เปิดดู:
      576
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สาเหตุที่พายุลดความเร็วกลายเป็นดีเพรสชั่น และสลายตัวลงเนื่องจาก
    เมื่อเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งจะอ่อนกำลังลง เพราะไม่มีอุณหภูมิน้ำทะเล และความชื้นไปเลี้ยง และมีแรงเสียดทานบนแผ่นดิน และถ้ามีมวลอากาศเย็นเข้ามาใกล้พายุก็ยิ่งทำให้สลายตัวเร็วขึ้น เช่นเดียวกับพายุโซนร้อนแกมี ที่จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น หลังขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กระดานข้อความ Facebook ของ Piyacheep S.Vatcharobol
    เรื่องเดิมๆที่ว่าเรากำลังเข้าสู่ยุดน้ำแข็งชุดเล็กๆ แต่ข้อมูลเพิ่มมากกว่าเดิม สำท...
    เรื่องเดิมๆที่ว่าเรากำลังเข้าสู่ยุดน้ำแข็งชุดเล็กๆ
    แต่ข้อมูลเพิ่มมากกว่าเดิม สำทับย้ำว่ามันเกิดแล้วนะ
    เกิดแล้วนะ เกิดแล้วนะ เกิดแล้วนะ
    แล้วเราเตรียมอุปกรณ์ หรือ วางแผนรับมือกับยุคน้ำแข็งหรือยัง?

    Trisha Wareing
    Sun's bizarre activity may trigger another ice age -- Earth Changes -- Sott.net


    Sun's bizarre activity may trigger another ice age -- Sott.net
    Signs of the Times - Independent Unbiased Alternative News for Sun, 14 Jul 2013
    The sun is acting bizarrely and scientists have no idea why. Solar activity is in gradual decline, a change from the norm which in the past triggered a 300-year-long mini ice age. Three leading solar scientists presented the very latest data about the...
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    image.jpg


    Sun's bizarre activity may trigger another ice age

    Dick Ahlstrom
    The Irish Times
    Fri, 12 Jul 2013 18:39 CDT
    © NASA
    Illustration mapping the steady decline in sunspot activity over the last two solar cycles with predicted figures for the current cycle 24.
    The sun is acting bizarrely and scientists have no idea why. Solar activity is in gradual decline, a change from the norm which in the past triggered a 300-year-long mini ice age.

    Three leading solar scientists presented the very latest data about the weakening solar activity at a teleconference yesterday in Boulder, Colorado, organised by the American Astronomical Society. It featured experts from Nasa, the High Altitude Observatory and the National Solar Observatory who described how solar activity, as measured by the formation of sunspots and by massive explosions on the sun's surface, has been falling steadily since the mid-1940s.

    The sun goes through a regular 11-year cycle with a maximum, when sunspot activity is at its peak, followed by a minimum when sunspot numbers are reduced and are smaller and less energetic. We are supposed to be at a peak of activity, at solar maximum.

    Outside the norm

    The current situation, however, is outside the norm and the number of sunspots seems in steady decline. The sun was undergoing "bizarre behaviour" said Dr Craig DeForest of the society.

    "The sun's current maximum activity period is very late and very weak, leading to speculation that the sunspot cycle itself could be shutting down or entering a dormant phase," he said before the teleconference.

    Irish solar science specialist Dr Ian Elliott, formerly of the Dublin Institute for Advanced Studies, quoted from figures released by Nasa on July 1st. It had asked an expert group to predict sunspot activity using models, with an upper limit and a lower limit.

    The predictions suggested the monthly average sunspot total should range between 90 and 140, but in fact the present monthly average is only 67, Dr Elliott said. A typical average at maximum during much of the early 20th century was about 200.

    "It is the smallest solar maximum we have seen in 100 years," said Dr David Hathaway of Nasa. We are currently in solar cycle number 24 which is about half as active as cycle 23, but cycle 25 is likely to be smaller again due to changes in the magnetic flux on the sun's surface," he said.

    Dr Giuliana de Toma of the High Altitude Observatory acknowledged the clear signs that solar activity was in decline but this did not mean the earth was heading for another "Maunder Minimum". This was a time between 1645 and 1725 when solar activity was extremely low or nonexistent, a situation which caused a mini ice age.

    The fall-off in sunspot activity still has the potential to affect our weather for the worse, Dr Elliott said. Research by Prof Mike Lockwood at the University of Reading showed how low solar activity could alter the position of the jet stream over the north Atlantic, causing severe cold during winter months. This was likely the cause of the very cold and snowy winters during 2009 and 2010, Dr Elliott said.

    "It all points to perhaps another little ice age," he said. "It seems likely we are going to enter a period of very low solar activity and could mean we are in for very cold winters."

    And while the researchers in the US said the data showed a decline in activity, they had no way to predict what that might mean for the future.
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทำความรู้จัก พายุงวงช้าง
    01_3.jpg

    เรียบเรียงข้อมูลโดย กระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด

    หลังจากเกิดปรากฏการ์ "พายุงวงช้าง" ขึ้นในบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2551 ก่อนจะสลายตัวไป แต่ก็ทำเอาหลายๆ คนหวาดกลัวกับคำว่า "พายุ" พร้อมๆ กับสงสัยว่าพายุงวงช้างคืออะไร มีลักษณะอย่างไร และอันตรายมากน้อยแค่ไหน วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปทำความรู้จักกับ "พายุงวงช้าง" กันค่ะ...

    ปรากฏการณ์ "พายุงวงช้าง" มีชื่อที่ถูกต้องคือ "พายุนาคเล่นน้ำ" หรือ "พวยน้ำ" (waterspout) หมายถึง ปรากฏการณ์ที่มีลักษณะคล้ายท่อน้ำขนาดใหญ่เชื่อมต่อระหว่างผืนฟ้าและพื้นน้ำ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากลมพัดวนบิดเป็นเกลียว เห็นได้จากเมฆที่มีลักษณะเป็นลำ หรือเป็นกรวยหัวกลับยื่นลงมาจากฐานของเมฆคิวมูโลนิมบัส (เมฆฝนฟ้าคะนอง) และเห็นได้จากพวยน้ำที่พุ่งขึ้นมาเป็นพุ่ม ประกอบด้วยหยดน้ำพุ่งเป็นฝอยขึ้นจากผิวพื้นทะเล มีลมแรงพัดเข้าหาบริเวณศูนย์กลางของพวยน้ำ ยอดของพวยน้ำอาจเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่แตกต่างไปจากฐาน ทำให้แกนเอียงหรือบิดเบี้ยวแล้วหลุดออกจากกันและสลายตัวไป

    ซึ่งการเกิดจะคล้ายกับพายุทอร์นาโดที่เกิดขึ้นเหนือพื้นน้ำ แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า มักเกิดบ่อยๆ บนพื้นน้ำในเขตร้อน ช่วงเวลาที่เกิดปรากฏการณ์นี้กินเวลาไม่นานนักในบางครั้งอาจเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานถึงครึ่งชั่วโมง

    ลักษณะการเกิด "พายุงวงช้าง" หรือ "นาคเล่นน้ำ" มี 2 แบบ ได้แก่
    1. เป็นพายุทอร์นาโด ที่เกิดขึ้นเหนือผืนน้ำ (ซึ่งอาจจะเป็นทะเล ทะเลสาบ หรือแอ่งน้ำใดๆ) โดยพายุทอร์นาโดจะเกิดขึ้นระหว่างที่ฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก เรียกว่า พายุฝนฟ้าคะนองแบบซูเปอร์เซลล์ (Supercell thunderstorm) และมีระบบอากาศหมุนวนที่เรียกว่า เมโซไซโคลน (Mesocyclone) จึงเรียกพายุนาคเล่นน้ำแบบนี้ว่า นาคเล่นน้ำที่เกิดจากทอร์นาโด (Tornado waterspout)

    2. เกิดจากการที่มวลอากาศเย็น เคลื่อนผ่านเหนือผิวน้ำที่อุ่นกว่า โดยบริเวณใกล้ๆ ผิวน้ำมีความชื้นสูง และไม่ค่อยมีลมพัด (หรือถ้ามีก็พัดเบาๆ) ผลก็คืออากาศที่อยู่ติดกับผืนน้ำซึ่งอุ่นในบางบริเวณจะยกตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้อากาศโดยรอบไหลเข้ามาแทนที่ จากนั้นจึงพุ่งเป็นเกลียวขึ้นไป แบบนี้เรียกว่า "นาคเล่นน้ำ" (True waterspout) ซึ่งมักเกิดในช่วงอากาศดีพอสมควร (fair-weather waterspout) อาจเกิดได้บ่อย และประเภทเดียวกับกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากในช่วงที่เกิดมักจะมีพายุฝนฟ้าคะนองร่วมอยู่ด้วย

    แต่ความแตกต่างของ 2 แบบนี้ก็คือ นาคเล่นน้ำที่เกิดจากทอร์นาโดจะเริ่มจากอากาศหมุนวน (ในบริเวณเมฆฝนฟ้าคะนอง) แล้วหย่อนลำงวงลงมาแตะพื้น คืออากาศหมุนจากบนลงล่าง ส่วนนาคเล่นน้ำของแท้จะเริ่มจากอากาศหมุนวนบริเวณผิวพื้นน้ำ แล้วพุ่งขึ้นไป คืออากาศหมุนจากล่างขึ้นบน ในช่วงที่อากาศพุ่งขึ้นเป็นเกลียววนนี้ หากน้ำในอากาศยังอยู่ในรูปของไอน้ำ เราจะยังมองไม่เห็นอะไร แต่หากอากาศขยายตัวและเย็นตัวลงถึงจุดหนึ่ง ไอน้ำก็จะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำจำนวนมาก ทำให้เราเห็นท่อหรือ "งวงช้าง" เชื่อมผืนน้ำและเมฆ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "พายุงวงช้าง"

    โดยส่วนใหญ่มีความยาวประมาณ 10 - 100 เมตร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมีตั้งแต่ 1 เมตร ไปจนถึงหลาย 10 เมตร โดยในพายุอาจมีท่อหมุนวนเพียงท่อเดียวหรือหลายท่อก็ได้ แต่ละท่อจะหมุนด้วยอัตราเร็วในช่วง 20-80 เมตรต่อวินาที กระแสลมในตัวพายุเร็วถึง 100 - 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอาจสูงถึง 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสามารถคว่ำเรือเล็กๆ ได้สบาย ดังนั้น ชาวเรือควรสังเกตทิศทางการเคลื่อนที่ให้ดี แล้วหนีไปในทิศตรงกันข้าม นอกจากนี้ พายุชนิดนี้ยังสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วตั้งแต่ 3 - 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ส่วนใหญ่จะเคลื่อนที่ค่อนข้างช้าประมาณ 18 - 28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งนี้ พายุนี้มีอายุไม่ยืนยาวนัก คืออยู่ในช่วง 2 - 20 นาที จากนั้นก็จะสลายตัวไปในอากาศอย่างรวดเร็ว

    อย่างไรก็ตาม ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัย และฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลก แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวถึงปรากฏการณ์พายุงวงช้างว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวส่วนใหญ่มักจะเกิดในน้ำ โดยเฉพาะในทะเลจะเห็นบ่อยกว่าในน้ำจืด สำหรับประเทศไทยเคยเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น แต่ไม่บ่อยนัก และไม่เป็นอันตราย เพราะมีขนาด 1% ของพายุทอร์นาโด
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    BPLcRmOCMAIu4vM.jpg
    ข้อมูลจากเว็บภัยพิบัติ ภาพการปะทุของภูเขาไฟตุนกูราฮัว (Tungurahua) ของเอกวาดอร์ 18:47 วานนี้ pic.twitter.com/ypqjsLeGoP
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข้อมูลวันที่ 15 กรกฎาคม 2556
    Kp.gif

    solarpic.gif
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข้อมูลจาก tv5.co.th คืบหน้าไต้ฝุ่นซูลิกในจีน
    Post : Monday 15 July 2013-16:49:50
    ไต้ฝุ่นซูลิกที่พัดถล่มภาคตะวันออกของจีนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน และประชาชนอีก 5 แสนคน ต้องอพยพ
    image.jpg
    ประชาชนในภาคตะวันออกของจีนต้องเผชิญกับกระแสลมแรงและฝนที่ตกลงมาอย่างหนักอันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นซูลิก ไต้ฝุ่นลูกที่ 7 ที่พัดถล่มจีน โดยพายุลูกนี้พัดเข้าจีนบริเวณมณฑลฝูเจี้ยนและอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน แต่ก็ยังทำให้หลายพื้นที่ของจีนมีฝนตกหนัก ทางการจีนได้เสริมกำลังทหาร 5 พัน 5 ร้อยนายเข้าไปเตรียมช่วยเหลือผู้ประสบภัย หลังต้องอพยพประชาชนราว 5 แสนคนออกจากพื้นที่ พร้อมสั่งให้เรือประมงกว่า 3 หมื่นลำกลับเข้าฝั่ง และยกเลิกเที่ยวบิน 20 เที่ยว โดยก่อนหน้านี้พายุไต้ฝุ่นซูลิกได้พัดถล่มไต้หวัน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 2 คน และบาดเจ็บนับร้อยคน
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    image.jpg
    เกิดอะไรขึ้นในยุคพระพุทธเจ้ากัสสปะ (มหาภัยพิบัติ) คัดจากพระไตรปิฎก เล่ม 33

    " ในกัปที่ ๙๑ แต่ภัทรกัปนี้ พระนายก พระนามว่า วิปัสสี ผู้มีพระเนตรงาม ทรงเห็นแจ้งธรรมทั้งปวง ได้เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว เราเป็นผู้มีจิต
    ขัดเคือง ได้พูดตู่สาวกของพระพุทธเจ้าผู้คงที่พระองค์นั้น ผู้สิ้นอาสวะทั้งปวงแล้ว

    ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ และเราจับสลากแล้วถวายข้าวสุกที่หุงด้วยน้ำนม แก่พระเถระทั้งหลายผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ผู้เป็นสาวกของพระผู้แกล้วกล้ากว่านรชนพระองค์นั้นแหละ

    ในภัทรกัปนี้ พระพุทธเจ้าผู้เป็นพงศ์พันธุ์ของพรหม มีพระยศใหญ่ประเสริฐกว่านักปราชญ์ พระนามว่ากัสสป ได้เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว พระองค์ทรงยังศาสนธรรมให้รุ่งโรจน์ ข่มขี่เดียรถีย์ผู้หลอกลวงเสียทรงแนะนำเวไนยสัตว์แล้ว เสด็จปรินิพพานพร้อมทั้งพระสาวก

    ครั้นเมื่อพระโลกนาถพร้อมทั้งพระสาวกปรินิพพานแล้ว ครั้นเมื่อ
    พระศาสนธรรม กำลังจะสิ้นศูนย์อันตรธาน ทวยเทพและมนุษย์พากันสลดใจ สยายผม มีหน้าเศร้า คร่ำครวญว่า ดวงตาคือธรรมจัก
    ดับแล้ว เราจักไม่ได้เห็นท่านที่มีวัตรดีงามทั้งหลาย เราจักไม่ได้ฟังพระสัทธรรม น่าสังเวช เราเป็นคนมีบุญน้อย

    ครั้งนั้น พื้นปฐพีทั้งหมดนี้ ทั้งใหญ่ทั้งหนา ได้ไหวสะเทือน สาครสมุทรพูดได้ แม่น้ำร้องอย่างน่าสงสาร

    อมนุษย์ตีกลองดังทั่วทั้งสี่ทิศ อสนีบาตอันน่ากลัว ตกลงไปรอบๆ อุกกาบาตตกจากท้องฟ้า

    ดาวหางปรากฏเกลียวแห่งเปลวไฟมีควันพวยพุ่ง หมู่มฤคร้องครวญครางอย่างน่า
    สงสาร

    ครั้งนั้น เราทั้งหลายเป็นภิกษุรวม ๗ รูปด้วยกัน ได้เห็นความอุบาทว์อันร้ายแรง แสดงเหตุว่าพระศาสนาจะสิ้นสูญ จึงเกิดความสังเวช คิดกันว่า เว้นพระศาสนาเสีย ไม่ควรที่เราจะมีชีวิตอยู่

    เราทั้งหลายจึงเข้าไปสู่ป่าใหญ่แล้วจะบำเพ็ญเพียรตามคำสอนของพระชินสีห์เจ้า ครั้งนั้น เราทั้งหลายได้พบภูเขาหินในป่าสูงลิ่ว เราไต่มันขึ้นทางพะอง แล้วผลักพะองให้ตกลงเสีย

    ครั้งนั้น พระเถระได้ตักเตือนเราว่า การอุบัติแห่งพระพุทธเจ้าหาได้ยาก อีกประการหนึ่งความเชื่อที่บุคคลได้ไว้ ก็หาได้ยากและพระศาสนายังเหลืออีกเล็กน้อย ผู้ที่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเสียจะต้องตกลงไปในสาคร คือความทุกข์อันไม่มีที่สิ้นสุด

    เพราะฉะนั้น พวกเราควรกระทำความเพียร ตลอดเวลาที่พระศาสนายังดำรงอยู่เถิด ดังนี้ ครั้งนั้น พระเถระนั้นเป็นพระอรหันต์ พระอนุเถระได้เป็นพระอนาคามี พวกเราที่เหลือจากนี้ เป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ประกอบความเพียร

    จึงได้ไปยังเทวโลก องค์ที่ข้ามสงสารไปได้ปรินิพพานแล้ว อีกองค์หนึ่งเกิดในชั้นสุทธาวาส

    เราทั้งหลาย คือ ตัวเรา ๑ พระปุกกุสาติ ๑ พระสภิยะ ๑ พระพาหิยะ ๑ พระกุมารกัสสป ๑ เกิดในที่นั้นๆ อันพระโคดมบรมศาสดา ทรงอนุเคราะห์ จึงหลุดพ้นไปจากเครื่องจองจำ คือสงสารวัฏได้ "

    จากบทความนี้ มีคนที่วิเคราะห์กันว่า ในยุคของพระพุทธเจ้ากัสสปะ คงจะมีภัยธรรมชาติรุนแรง ขนาดดาวหางชนโลก จนเกิดแผ่นดินไหว คลื่นสึนามิ จนถึงน้ำท่วม

    www.topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2007/12/X6116960/X6116960.html

    ประวัติพระพุทธกัสสป
    พระกัสสปะพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าในภัทรกัปป์นี้ ทรงจุติลงมาในโลกมนุษย์หลังจากสิ้นสุดศาสนาของพระโกนาคมพุทธเจ้าแล้ว

    โดยนับตั้งแต่อายุมนุษย์ลดลงจากสองหมื่นปีเหลือ 10 ปี แล้วเพิ่มขึ้นจนถึงสองหมื่นปีอีกครั้ง พระองค์จึงเสด็จลงมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

    พระองค์เกิดในตระกูลพราหมณ์ บิดานามว่าพรหมทัต มารดานามว่าธนวดี มเหสีนามว่าสุนันทา มีโอรสชื่อว่าวิชิตเสน ทรงเป็นฆราวาสอยู่ 2,000 ปี เมื่อเห็นเทวทูตทั้งสี่ จึงออกผนวช บำเพ็ญเพียรอยู่ 7 วันก็ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

    พระอัครสาวกของพระองค์คือพระติสสเถระและพระภารทวาชเถระ พระอัครสาวิกาคือพระอนุลาเถรีและพระอุรุเวลาเถรี อัครอุบาสกคือ สุมงคลอุบาสกและฆฏิการอุบาสก อัครสาวิกาคือวิชิตเสนาอุบาสิกาและภัททาอุบาสิกา พระกายสูง 20 ศอก

    รัศมีพระกายเหมือนจันทร์ทรงกลด มีพระชนมายุได้สองหมื่นปี พระศาสนาของพระองค์อยู่ได้สองหมื่นปี

    ในสมัยพุทธกาลนี้ พระโคตมพุทธเจ้าได้เกิดเป็นโชติปาลมานพ สหายของฆฏิการอุบาสก ได้ฟังธรรมแล้วมีจิตเลื่อมใสจึงออกบวช

    และได้รับพุทธพยากรณ์ว่าต่อไปภายหน้า โชติปาลภิกษุ จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป

    ขอให้ข้าพเจ้าบรรลุพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...