ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    6C789FC2-A0F1-44DA-BD1E-184FE92343EA.jpeg
    (Jun 4) เตือนศึกอ่าวฯดันน้ำมันเกิน100$ - อิหร่านเตือน เรือรบสหรัฐในอ่าวอยู่ภายในพิสัยมิสไซล์ของอิหร่าน ชี้ศึกในอ่าวเปอร์เซียปะทุเมื่อไหร่น้ำมันพุ่งเกิน 100 ดอลลาร์/บาร์เรลแน่ ขณะสื่อญี่ปุ่นเผย "ชินโซ อาเบะ" เตรียมเยือนกรุงเตหะรานกลางเดือนนี้ หวังทำหน้าที่กาวใจระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน



    รอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2562 สำนักข่าวฟาร์สของอิหร่านอ้างคำกล่าวของยะห์ยา ราฮิม ซาฟาวี ผู้ช่วยด้านการทหารของอยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เตือนถึงการเผชิญหน้าระหว่างอิหร่านกับสหรัฐที่เขม็งเกลียวมากขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมาว่า พวกอเมริกันตระหนักดีว่ากองกำลังทางทหารของพวกเขาในภูมิภาคนี้อยู่ภายในพิสัยของมิสไซล์อิหร่าน และกองทัพเรือของสหรัฐและกองทัพเรือต่างชาติทั้งหมดในอ่าวเปอร์เซียก็อยู่ภายในพิสัยของมิสไซล์ชนิดยิงจากพื้นสู่ทะเลของกองทัพพิ ทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน



    "กระสุนนัดแรกที่ยิงในอ่าว เปอร์เซียจะดันให้ราคาน้ำมันพุ่งเกิน 100 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นเรื่องเกินทานทนสำหรับอเมริกา, ยุโรป และชาติพันธมิตรของสหรัฐ อย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้" ฟาร์ส อ้างคำกล่าวของราฮิม ซาฟาวี



    การคุมเชิงระหว่างสหรัฐและอิหร่านทวีความตึงเครียดขึ้น หลังจากปีที่แล้วรัฐบาลของประ ธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนตัวจากความตกลงปี 2558 ที่อิหร่าน ลงนามไว้กับกลุ่มชาติมหาอำนาจ แล้วจากนั้นสหรัฐได้รื้อฟื้นมาตร การคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้งและ บังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบเมื่อเดือน พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อบังคับให้ ทุกประเทศยุติการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน



    เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน สหรัฐ ยังแสดงท่าทีพร้อมเผชิญหน้าทางทหารกับอิหร่านด้วยการส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีและเครื่องบินทิ้งระเบิดหลายลำ มาประจำการในภูมิภาคตะวันออก กลาง อ้างว่าเพื่อป้องปรามภัยคุก คามจากอิหร่าน



    อย่างไรก็ดี เมื่อวันเสาร์ ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่าน ชี้ช่องว่า อิหร่านอาจพร้อมพูดคุยกับสหรัฐ หากสหรัฐให้ความเคารพต่ออิหร่าน แต่อิหร่านจะไม่เจรจาต่อรองเพราะโดนกดดัน



    วันเดียวกัน สำนักข่าวเอ เอฟพีรายงานอ้างข่าวของหนังสือ พิมพ์ไมนิจิ ชิมบุง ว่านายกรัฐ มนตรีชินโซ อาเบะ เตรียมจะเดินทางเยือนกรุงเตหะรานของ อิหร่านอย่างเป็นทางการ ระหว่าง วันที่ 12-14 มิถุนายนนี้ และตามหมายกำหนดการนั้น อาเบะจะได้พบปะกับคาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน และประธานาธิบดีโรฮานี คาดว่าผู้นำญี่ปุ่นจะทำหน้า ที่คนกลางสานสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐ



    ไมนิจิอ้างคำกล่าวของแหล่ง ข่าวในรัฐบาลหลายรายที่ไม่เปิดเผยนามว่า การพบกันระหว่างอาเบะกับคาเมนีจะเป็นการพบเจรจากันครั้งแรกระหว่างนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกับผู้นำสูงสุดของ อิหร่าน แต่ก่อนการพบกับคาเมนี นั้น อาเบะจะได้พบกับประธานา ธิบดีโรฮานีก่อน



    ระหว่างการเยือนญี่ปุ่นเมื่อ สัปดาห์ที่แล้ว ดูเหมือนประธานา ธิบดีทรัมป์จะเปิดไฟเขียวสำหรับแผนการทำหน้าที่กาวใจอาเบะ โดยกล่าวว่า เขายังคงเปิดทางสำหรับการเจรจากับอิหร่าน แม้ ว่าก่อนการเดินทางมากรุงโตเกียว รัฐบาลของเขาเพิ่งประกาศส่งทหาร มาเสริมกำลังในภูมิภาคตะวันออก กลางอีก 1,500 นาย เพิ่มเติมจากการส่งกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีและเครื่องบินบี-52 และ ทรัมป์เองยังเคยขู่ว่า หากอิหร่านโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐ จะเป็น "จุดจบอย่างเป็นทางการ" ของอิหร่าน



    แต่ที่กรุงโตเกียวเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ทรัมป์เสนอหลักประ กันแก่อิหร่านว่าสหรัฐไม่ได้ต้อง การเปลี่ยนแปลงระบอบ สิ่งที่ตัว เขาใส่ใจมีแค่อิหร่านต้องไม่มีอาวุธ นิวเคลียร์



    ก่อนหน้านี้ คาเมนีปฏิเสธการเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ที่เขา ระบุว่าเหมือนยาพิษ เพราะ "พวกนั้นไม่เข้าใจอะไรเลย" ที่ถอนตัว จากความตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งจำกัด โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านแลกกับการยกเลิกคว่ำบาตรของนานาชาติ


    Source: Thaipost


    - Iran warns any clash in the Gulf would push oil prices above $100 : https://www.reuters.com/article/us-...would-push-oil-prices-above-100-idUSKCN1T306X
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    16C244C3-AC0E-4645-A851-3F0D56630AC3.jpeg
    (Jun 4) Federal Trade Commission (FTC) ซึ่งเป็นหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคและต่อต้านการผูกขาดตลาดของสหรัฐฯ กำลังสืบสวนกรณีผูกขาดการค้าของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Facebook, Amazon, Alphabet และ Apple หลังจากที่สภาครองเกรสกดดันให้เริ่มสืบสวนพฤติกรรมการผูกขาดการค้าในธุรกิจออนไลน์มาตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากในธุรกิจออนไลน์มีบริษัทขนาดใหญ่ที่อาจนำไปสู่การบิดเบือนกลไกการแข่งขันทางการค้าและสร้างอำนาจในการผูกขาดการค้าได้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อทั้งผู้เล่นรายใหม่และผู้บริโภค


    ที่ผ่านมา FTC ได้สืบสวนการควบรวมบริษัทในธุรกิจออนไลน์เพื่อหาแนวโน้มพฤติกรรมการผูกขาดตลาดดังกล่าว ซึ่งนักวิเคราะห์คาดกันว่า Facebook อาจถูก FTC สืบสวนอีกครั้งแม้ว่าจะได้รับอนุญาตให้ซื้อกิจการ Instagram และ Whatsapp ไปแล้วก็ตาม ขณะที่ Google ก็เข้าข่ายที่จะถูกสอบสวนมากที่สุด เนื่องจาก Google ดำเนินธุรกิจออนไลน์หลักหลายอย่าง เช่น Online advertisement, Internet browser, ระบบปฏิบัติการมือถือ รวมไปถึงการให้บริการ e-mail ซึ่งที่ผ่านมา Google ได้สร้าง advertisement ecosystem อย่างเช่น search advertisement, advertisement spot ใน Youtube รวมทั้งการใช้ข้อมูลจากการเข้าถึง non-google website ของผู้ใช้งานอีกด้วย


    ในส่วน Amazon มีแนวโน้มเข้าข่ายถูกสืบสวนจากการใช้ข้อมูลของ 3rd party seller ที่ขายสินค้าบน Amazon เพื่อประโยชน์ในการขายสินค้าของ Amazon เอง อย่างไรก็ดี ยังไม่มีแผนการในการดำเนินการสืบสวนที่ชัดเจนจาก FTC ณ ตอนนี้


    Source: BOTSS


    - Alphabet, Apple, Amazon and Facebook are in the crosshairs of the FTC and DOJ: https://techcrunch.com/2019/06/03/a...ook-are-in-the-crosshairs-of-the-ftc-and-doj/


    - Facebook tumbles on antitrust concerns : https://www.cnbc.com/2019/06/03/ama...e-stocks-stumble-over-antitrust-concerns.html
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    C24FD71F-667D-4164-B322-E3DAC172655F.jpeg
    (Jun 4) บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีดิ่งต่ำสุด 20 เดือน ผวาสงครามการค้าฉุดศก.โลก - อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 เดือน จากความกังวลที่ว่า การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก


    ณ เวลา 23.47 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.112% หลังจากดิ่งแตะระดับ 2.071% ในช่วงแรก ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2560 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.562%


    นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 เดือนอยู่ที่ระดับ 2.344% ในวันนี้ ซึ่งสูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และทำให้เกิดภาวะ inverted yield curve ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว และเป็นการส่งสัญญาณถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต


    ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน


    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากเม็กซิโกในอัตรา 5% ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. โดยปธน.ทรัมป์มีเป้าหมายที่จะกดดันให้รัฐบาลเม็กซิโกสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายที่ข้ามพรมแดนเข้าสู่สหรัฐ


    ปธน.ทรัมป์ยังเตือนว่า สหรัฐจะเพิ่มภาษีนำเข้าขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายจากเม็กซิโกจะได้รับการแก้ไข

    นอกจากนี้ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในเดือนที่แล้ว โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.


    สหรัฐยังได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐ และสหรัฐยังได้เตรียมพิจารณาเพิ่มบัญชีรายชื่อบริษัทจีนที่จะถูกขึ้นบัญชีดำ โดยปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณาที่จะขึ้นบัญชีดำบริษัทจำหน่ายกล้องวงจรปิดรายใหญ่ 5 รายของจีน ซึ่งรวมถึงบริษัท Hikvision Digital Technology และ บริษัท Dahua Technology ด้วยข้อหากระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน


    ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.5 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552 จากระดับ 52.6 ในเดือนเม.ย.


    การร่วงลงของดัชนี PMI ได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ส่งผลให้คำสั่งซื้อใหม่ปรับตัวลง ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.2552 และการจ้างงานมีการขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2560 ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในกลางปี 2555


    ส่วนผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 52.1 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต.ค.2559 และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดัชนีจะดีดตัวสู่ระดับ 53.0 จากระดับ 52.8 ในเดือนเม.ย.


    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ


    เพิ่มเติม

    Here’s why bond yields are falling and why the rout won’t end anytime soon : https://www.cnbc.com/2019/06/03/her...g-and-why-the-rout-wont-end-anytime-soon.html


    - ราคาทองพุ่งกว่า 1% นิวไฮ 9 สัปดาห์ กังวลสงครามการค้ากระทบเศรษฐกิจโลก : https://www.ryt9.com/s/iq31/2997836


    - น้ำมันลง4วันติด,ทองพุ่ง$16กังวลสงครามรีดภาษี หุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสาน: https://mgronline.com/around/detail/9620000052990
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    3987E204-DF13-48B1-A76E-0CEEE95220EC.jpeg
    (Jun 3) จีนเตือนอเมริกาสู้รบกันคือหายนะโลก ย้ำพร้อมคุยแต่ถ้าอยากบู๊ก็จะลุยถึงที่สุด - รัฐมนตรีกลาโหมจีนชี้หากเกิดสงครามกับอเมริกาจะทำให้เกิดหายนะสำหรับโลก เตือนวอชิงตันอย่าก้าวก่ายข้อพิพาทด้านความมั่นคงเกี่ยวกับไต้หวันและทะเลจีนใต้ ย้ำปักกิ่งจะสู้จนถึงที่สุดในสงครามการค้าหากอเมริกาต้องการต่อสู้ และพร้อมเจรจาหากอเมริกาต้องการหารือ



    จีนไม่พอใจอย่างมากที่คณะบริหาร ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เพิ่มการสนับสนุนไต้หวันเมื่อเร็วๆ นี้ที่รวมถึงการส่งเรือแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันที่ขวางกั้นระหว่างเกาะมังกรน้อยกับจีนแผ่นดินใหญ่



    ในวันอาทิตย์ (2 มิ.ย.) เว่ย เฟิ่งเหอ รัฐมนตรีกลาโหมจีน กล่าวในงานแชงกรี-ลา ไดอะล็อกที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นงานประชุมสุดยอดด้านกลาโหมสำคัญของเอเชีย โดยระบุว่า ปักกิ่งจะ "สู้จนถึงที่สุด" หากมีใครพยายามแทรกแซงความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวัน ซึ่งปักกิ่งถือเป็นมณฑลขบถที่พร้อมใช้กำลังเข้าผนวกถ้าจำเป็น



    เว่ย ซึ่งเป็นรัฐมนตรีกลาโหมจีนคนแรกที่ขึ้นปราศรัยในงานประชุมนี้นับจากปี 2011 ยืนยันว่า ปฏิบัติการทางทหารของปักกิ่งในเอเชียมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันตนเองเป็น หลัก แต่จีนจะไม่ลังเลที่จะตอบโต้หากถูก โจมตี ความพยายามในการแบ่งแยกไต้หวันจากจีนไม่มีทางสำเร็จ และกองทัพจีนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต่อสู้ไม่ว่าต้องสูญเสียเท่าใดก็ตาม



    เว่ยสำทับว่า จีนและอเมริกาควรตระหนักว่า ความขัดแย้งหรือสงครามระหว่างกัน จะสร้างหายนะให้ทั้งสองฝ่าย รวมถึงต่อโลก ซึ่งระหว่างปราศรัย เว่ยอ้างอิงถึงอเมริกาอย่างชัดเจนว่า บางประเทศนอกภูมิภาคพยายามแสดงแสนยานุภาพในทะเลจีนใต้โดยอวดอ้างเสรีภาพในการเดินเรือบังหน้า ทั้งนี้ อเมริกาไม่มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับไต้หวัน เช่นเดียวกับประเทศส่วนใหญ่ แต่เป็นผู้สนับสนุนและแหล่งอาวุธสำคัญของไทเป



    เมื่อวันเสาร์ (1 มิ.ย.) แพทริก ชานาแฮน รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในเวทีเดียวกันว่า อเมริกาจะไม่หลีกเลี่ยงการ เผชิญหน้าเกี่ยวกับพฤติกรรมของจีนในเอเชียอีกต่อไป ทั้งนี้ ความสัมพันธ์อเมริกา-จีนบาดหมางกันอย่างหนักจากสงครามการค้า การที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนไต้หวัน และ การเพิ่มประจำการทางทหารของปักกิ่งในทะเลจีนใต้ ซึ่งวอชิงตันส่งเรือลาดตระเวน เพื่อส่งเสริมเสรีภาพในการเดินเรือบ่อยครั้ง



    เมื่อเดือนพฤษภาคม เดวิด ลี ผู้อำนวยการด้านความมั่นคงแห่งชาติของไต้หวัน พบกับจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการพบกัน ครั้งแรกของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูง ของไต้หวันและอเมริกา ขณะเดียวกัน ไต้หวันกำลังจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีใน เดือนมกราคมปีหน้า และประธานาธิบดี ไช่ อิง-เหวิน กล่าวหาปักกิ่งซ้ำๆ ว่าพยายามบ่อนทำลายประชาธิปไตยของไต้หวัน รวมทั้งประกาศปกป้องประเทศและเสรีภาพของประชาชน



    นอกจากนั้น สัปดาห์นี้ยังเป็นวาระครบรอบ 30 ปีการปราบปรามผู้ประท้วงบนจัตุรัสเทียนอันเหมินในปักกิ่ง ซึ่งทำให้เสียงวิจารณ์เกี่ยวกับแนวทางการจัดการภัยคุกคามด้านความมั่นคงของจีนกลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง เว่ยตอบคำถามผู้เข้าร่วมประชุมโดยปกป้องวิธีการจัดการเหตุการณ์ดังกล่าวของรัฐบาลในสมัยนั้นว่า เป็นการกระทำที่เด็ดขาดเพื่อหยุดยั้งสถานการณ์วุ่นวาย ซึ่งทำให้จีนมีเสถียรภาพจนถึงขณะนี้



    ส่วนประเด็นสงครามการค้าที่เขย่าตลาดการเงินทั่วโลก เว่ยประกาศว่า จีนจะ "สู้จนถึงที่สุด" หากอเมริกาต้องการต่อสู้ และพร้อมเจรจาหากอเมริกาต้องการหารือ ทั้งนี้ ความขัดแย้งทางการค้าปะทุรุนแรงในเดือนที่ผ่านมา หลังจากคณะบริหารของทรัมป์กล่าวหาจีน ผิดสัญญาในการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติทางเศรษฐกิจ และขึ้นภาษีศุลกากร 25% กับสินค้าจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้ปักกิ่งลุกขึ้นมาตอบโต้ในรูปแบบเดียวกัน



    ที่ปักกิ่ง หวัง ชูเหวิน รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์จีนและเป็นส่วนหนึ่งในทีมเจรจาการค้า กล่าวในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นอย่างเร่งด่วน ว่า การกล่าวหาของอเมริกาเป็นการขาดความรับผิดชอบ และอเมริกาจะต้องผิดหวัง หากคิดว่า การเพิ่มความกดดันจะทำให้จีน ยอมอ่อนข้อ .


    Source: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา


    ********************

    เจพีมอร์แกน-มอร์แกน สแตนลีย์ฟันธงสหรัฐ VS จีนวืดทำข้อตกลงการค้าในเวที G20


    นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน และมอร์แกน สแตนลีย์กล่าวว่า ไม่มีแนวโน้มที่สหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าในการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในเดือนนี้


    "ความเห็นส่วนตัวของผมคือ ไม่มีการทำข้อตกลงในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งถ้าคุณดูจุดยืนของสหรัฐยังคงก้าวร้าวมาก ไม่เพียงแต่มาจากประธานาธิบดี แต่ยังรวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนในรัฐบาล จึงทำให้เป็นเรื่องยากที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าในระยะสั้น" นายเจมส์ ซัลลิแวน หัวหน้าฝ่ายวิจัยหุ้นของเจพีมอร์แกน กล่าว


    ทางด้านนายโจนาธาน การ์เนอร์ นักวิเคราะห์ตลาดเกิดใหม่ของมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวเช่นกันว่า เขามองว่ามีโอกาสสูงที่จะไม่มีการทำข้อตกลงการค้าในการประชุม G20


    นายการ์เนอร์ยังระบุว่า ทั้งสหรัฐและจีนจะได้รับผลกระทบ หากการทำสงครามการค้ามีความรุนแรงขึ้น ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางของทั้งสองประเทศผ่อนคลายนโยบายการเงิน


    มอร์แกน สแตนลีย์ยังระบุว่า หากสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าทั้งหมดจากจีน สหรัฐก็จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในเวลา 3 ไตรมาส


    ส่วนนายซัลลิแวนเตือนว่า ความไม่แน่นอนของการทำสงครามการค้าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการใช้จ่าย และความสามารถในการทำกำไรของภาคธุรกิจทั่วโลก


    ทั้งนี้ นายหวัง โส่วเหวิน รมช.พาณิชย์จีน กล่าวว่า สหรัฐจะไม่สามารถใช้แรงกดดันมาบีบบังคับให้จีนทำข้อตกลงการค้า

    "สหรัฐพูดจากลับกลอกไปมา เมื่อพวกเขาได้คืบ ก็จะเอาศอก" นายหวังกล่าว


    นอกจากนี้ นายหวังยังปฏิเสธที่จะกล่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะพบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์นอกรอบการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในเดือนนี้เพื่อเจรจาคลี่คลายความขัดแย้งทางการค้าหรือไม่


    นายหวังกล่าวแต่เพียงว่า จีนจะส่งผู้แทนเข้าประชุมสุดยอด G20

    การประชุมสุดยอด G20 จะมีขึ้นที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 28-29 มิ.ย.


    ทั้งนี้ กลุ่ม G20 ประกอบด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล สหราชอาณาจักร แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหรัฐ และสหภาพยุโรป


    การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในเดือนที่แล้ว โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.


    นอกจากนี้ สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐ และสหรัฐยังได้เตรียมพิจารณาเพิ่มบัญชีรายชื่อบริษัทจีนที่จะถูกขึ้นบัญชีดำ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังพิจารณาที่จะขึ้นบัญชีดำบริษัทจำหน่ายกล้องวงจรปิดรายใหญ่ 5 รายของจีน ซึ่งรวมถึงบริษัท Hikvision Digital Technology และ บริษัท Dahua Technology ด้วยข้อหากระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน


    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ


    เพิ่มเติม

    - The true cost of trade wars : https://ftalphaville.ft.com/2019/06/03/1559545796000/The-true-cost-of-trade-wars/


    - JPMorgan Says Markets Have Yet to See Full Impact of Trade War : https://www.bloomberg.com/news/arti...mpact-of-trade-war-jwghgw2x?srnd=premium-asia
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_2787.JPG
    (Jun 3) FTA ไทย-'อียู'ยื้อ เวียดนามชิงธงการ์เมนต์สูญ3หมื่นล้าน : การ์เมนต์หวั่นการเมืองไม่เสถียร เจรจา FTA ไทย-อียูส่อดีเลย์ ผวา เสียเปรียบเวียดนามหนัก หลังบรรลุข้อตกลง FTA กับอียูตัดหน้าไทย ม.หอการค้าไทยชี้ 3 ปีจากนี้ทุบส่งออกการ์เมนต์ไทยวูบกว่า 3 หมื่นล้าน อีกด้านได้อานิสงส์เทรดวอร์ส่งออกไปสหรัฐฯ 4 เดือนแรกโต 10%



    จากสถานการณ์ทางการเมืองไทยที่ยังไม่มีเสถียรภาพ จากยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้ อีกด้านหนึ่งเวียดนามคู่แข่งรายสำคัญของสินค้าเครื่องนุ่งห่ม (การ์เมนต์) ไทยได้บรรลุข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับสหภาพยุโรป (อียู) แล้ว คาดความตกลงจะมีผลบังคับใช้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ยิ่งทำให้สินค้าจากเวียดนามชิงได้เปรียบสินค้าไทยมากขึ้นจากอัตราภาษีนำเข้าที่จะลดต่ำลง



    นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า หากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีความล่าช้า หรือไม่มีเสถียรภาพจะกระทบต่อความมั่นใจของลูกค้าจากอียูในการสั่งซื้อสินค้า จากเดิมคาดหวังว่ารัฐบาลใหม่ของไทยจะรื้อฟื้นการเจรจาเอฟทีเอกับอียูในเร็ววัน หลังจากว่างเว้นมานานกว่า 5 ปี อาจมีผลให้ลูกค้าหันไปนำเข้าสินค้าจากเวียดนามมากขึ้น เนื่องจากภาษีนำเข้าสินค้าเครื่องนุ่งห่มจากเวียดนามในตลาดอียูจากอัตราเดิม 12% จะถูกปรับลดลงเหลือ 3.5% และเหลือ 0.5% ในปี 2563 ขณะที่สินค้าไทยยังเสียภาษีนำเข้าเฉลี่ยที่ 12% เช่นเดิม ยิ่งทำให้เสียเปรียบในการแข่งขันมากขึ้น



    "ไทยส่งออกการ์เมนต์ไปอียูคิดเป็นเกือบ 30% หรือสัดส่วน 1 ใน 3 ของการส่งออกไปทั่วโลก (ปี 2561 ไทยส่งออก การ์เมนต์ไปทั่วโลก 7.9 หมื่นล้านบาท) ซึ่งลูกค้าอียูส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่าที่มีศักยภาพ หากไทยไม่มีเอฟทีเอคงได้รับผลกระทบจากสินค้าเวียดนามที่จะส่งไปอียูได้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันผู้ส่งออกการ์เมนต์รายใหญ่สุดไปอียูคือจีน รองลงมาได้แก่ เวียดนาม อินเดีย บังกลาเทศ ปากีสถาน กัมพูชา และอินโดนีเซีย ส่วนไทยอยู่อันดับ 10 กว่า"



    ด้านสถานการณ์ส่งออกเครื่องนุ่งห่มของไทยช่วง 4 เดือนแรกปีนี้มีมูลค่า 789 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ในรูปเงินบาท 25,193 ล้านบาท) ขยายตัวเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกไปสหรัฐฯซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 (สัดส่วน 36%) ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการส่งออกไปตลาดจีนซึ่งเป็นคู่สงครามการค้ากับสหรัฐฯเป็นตลาดอันดับ 5 เพิ่มขึ้น 53%



    สำหรับการส่งออกไปตลาดสหรัฐฯที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10% ส่วนหนึ่งจากสงครามการค้ามีผลให้คำสั่งซื้อของผู้นำเข้าสหรัฐฯส่วนหนึ่งย้ายจากจีนมาไทยเพิ่มขึ้น ส่วนการส่งออกไปจีนที่เพิ่มขึ้นถึง 53% ผลจากฐานตัวเลขส่งออกไทยไปจีนช่วงเดียวกันของปีที่แล้วต่ำ ขณะที่ผ่านมาจีนเริ่มมีการนำเข้าเสื้อผ้าจากไทยมากขึ้น จากฐานผลิตในจีนมีต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้น และผลจากมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น และชื่นชอบในแบรนด์และคุณภาพสินค้าไทย ทำให้มีการซื้อกลับไปหรือสั่งนำเข้าเพิ่มขึ้น



    "การ์เมนต์ไม่อยู่ในกลุ่มสินค้าที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าจีนเป็น 25% แต่มีสินค้ากลุ่มสิ่งทอบางหมวดถูกขึ้นภาษี อย่างไรก็ดีสินค้าการ์เมนต์จีนมีแนวโน้มจะถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษีในล็อต 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่สหรัฐฯขู่ไว้ ดังนั้นจึงมีผลให้ผู้นำเข้าการ์เมนต์ของสหรัฐฯ เริ่มย้ายคำสั่งซื้อจากจีนไปที่อื่นเพิ่มขึ้นซึ่งรวมทั้งไทย แต่ผู้ที่ได้อานิสงส์มากสุดคือเวียดนาม อย่างไรก็ดีทางสมาคมยังคาดการณ์ส่งออกเครื่องนุ่งห่มของไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ที่ 5%"



    ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานผลการศึกษาผลกระทบด้านการส่งออกของไทยจากที่เวียดนามได้บรรลุข้อตกลงการค้าเสรี (FTA)กับสหภาพยุโรป(อียู) โดยระบุสินค้าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของไทยจะได้รับผลกระทบจากมูลค่าการส่งออกจะลดลงมากที่สุด (กราฟิกประกอบ) โดยในไตรมาส 3-4 ปี 2562 จะส่งออกได้ลดลง 343.3 ล้านดอล ลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 10,865 ล้านบาท คำนวณที่ 31.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) และมูลค่าระหว่างปี 2563-2564 จะลดลง 615.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 19,483.7 ล้านบาท หรือรวม3 ปีกว่า 3 หมื่นล้านบาท)


    Source: ฐานเศรษฐกิจ
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students


    (Jun 3) อย่าเพิ่งเหนื่อย เรา IMG_2788.JPG ยังต้องทำงานกันไปอีกนาน!!! PIER Statistics วันนี้ขอนำเสนอข้อมูล "โครงสร้างประชากรจำแนกตามสถานะการทำงาน"


    กราฟแสดงจำนวนประชากรจำแนกตามสถานะการทำงาน ได้แก่ อาชีพอิสระ ลูกจ้าง นายจ้าง ผู้ว่างงาน และผู้อยู่นอกกำลังแรงงาน


    ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2528 ถึง 2561 พบว่า อายุเฉลี่ยของแรงงานเพิ่มขึ้นเกือบ 10 ปี อีกทั้งจำนวนแรงงานไทยเริ่มลดลงตั้งแต่ปี 2556 มีผู้ที่เกษียณอายุและออกจากกำลังแรงงานเพิ่มสูงขึ้น แรงงานใหม่เข้าสู่ตลาดช้าลง นอกจากนี้ สัดส่วนของผู้ทำงานเป็นลูกจ้างเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะแรงงานอายุน้อย และในแทบทุกช่วงอายุมีผู้หญิงที่อยู่นอกกำลังแรงงานมากกว่าผู้ชาย


    ที่มา: Labor Force Survey (NSO)


    สามารถติดตามข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ https://www.pier.or.th/pier_stats/
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    9AA25470-E6D1-491D-90B7-4988AB0424F9.jpeg
    (Jun 3) หวั่นโดนหางเลขศึกการค้า! ศธ.จีนเตือน “นักศึกษา-นักวิชาการ” เสี่ยงถูกเตะถ่วง-ปฏิเสธวีซ่า - เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กระทรวงการศึกษาของจีนออกโรงเตือนนักศึกษาและนักวิชาการชาวจีนว่าให้ประเมินความเสี่ยงให้ดีในการที่จะเดินทางไปศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากอาจถูกเตะถ่วงหรือถูกปฏิเสธวีซ่าเข้าประเทศจากสหรัฐได้ ท่ามกลางภาวะสงครามการค้าและข้อพิพาทขัดแย้งอื่นๆที่ทำให้บรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติตึงเครียดหนักอยู่ในขณะนี้


    แถลงการณ์ของกระทรวงการศึกษาของจีนเรียกร้องให้นักศึกษาชาวจีนประเมินความเสี่ยงและเตรียมความพร้อมที่เกี่ยวข้อง หากจะเดินทางไปประเทศสหรัฐ โดยชึ้ว่านักศึกษาและนักวิชาการชาวจีนมีประสบการณ์เรื่องการถูกเข้มงวดในการขอวีซ่า การออกวีซ่าให้ล่าช้าและการให้วีซ่าพำนักในระยะเวลาสั้นๆมาแล้ว


    คำเตือนนี้ของกระทรวงการศึกษาของจีน ยังมีขึ้นหลังจากเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ ออกมากล่าวหาว่ารัฐบาลปักกิ่งได้ใช้นักศึกษาและนักวิจัยชาวจีนเป็นเครื่องมือในการสอดแนมข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สภาคองเกรสสหรัฐยังได้เสนอร่างกฎหมายที่พุ่งเป้าห้ามออกวีซ่าให้กับนักวิทยาศาสตร์ของกองทัพจีนที่จะเข้ามาศึกษาหรือทำงานในสหรัฐด้วย


    ทั้งนี้จีนถือเป็นแหล่งนักศึกษาต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่สุดในสถานศึกษาของสหรัฐ ซึ่งในปีที่แล้วมีนักศึกษาชาวจีนที่ร่ำเรียนอยู่ในประเทศสหรัฐมากถึง 360,000 คน หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของนักศึกษาชาวต่างชาติในสหรัฐ


    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

    https://www.prachachat.net/world-news/news-333848


    ********************

    จีนเตือนนักเรียนที่จะไปศึกษาต่อในสหรัฐ หลังสหรัฐออกกฎวีซ่าใหม่:


    กระทรวงศึกษาธิการของจีนออกโรงเตือนนักเรียนและนักวิชาการที่จะเดินทางไปศึกษาต่อในสหรัฐ โดยขอให้ประเมินความเสี่ยงและเตรียมความพร้อม หลังจากที่สหรัฐได้ออกกฎระเบียบการขอวีซ่าใหม่


    การประกาศเตือนของกระทรวงศึกษาธิการจีนในวันนี้มีขึ้น หลังจากที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่า ขณะนี้สหรัฐได้กำหนดให้ผู้ขอวีซ่าเกือบทุกคนต้องยืนยันข้อมูลโซเชียลมีเดียของตนเองในขั้นตอนตรวจสอบความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวหรือผู้อพยพ


    สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข้อมูลเพิ่มเติมที่ใช้สำหรับการตรวจสอบประวัติโดยละเอียด เช่น ชื่อบัญชีโซเชียลมีเดีย อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ผู้ขอวีซ่ายังต้องรายงานสถานะการเดินทางระหว่างประเทศและสถานะการถูกเนรเทศระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวด้วย รวมถึงข้อมูลว่าสมาชิกครอบครัวเคยเกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้ายหรือไม่


    กระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า "ความปลอดภัยของประเทศคือความสำคัญใหญ่สุดของเรา เมื่อพิจารณาคำร้องขอวีซ่า และนักท่องเที่ยวและผู้อพยพทุกคนที่ต้องการเข้าสู่สหรัฐต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เรากำลังทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อหากลไกที่จะพัฒนาขั้นตอนการตรวจสอบของเราเพื่อปกป้องพลเมืองสหรัฐ ขณะเดียวกันก็สนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างถูกกฎหมายมายังสหรัฐ"


    Source -อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท


    - China warns students, academics of risks of studying in U.S.

    https://www.reuters.com/article/us-...ics-of-risks-of-studying-in-u-s-idUSKCN1T40RT
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    เหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงที่เกิดขึ้นกับสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ กลาง-เดือนมีนาคม พ.ศ.2562 เกิดขึ้นในสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังเรียกว่าฤดูเพาะปลูกล่าช้าครั้งประวัติศาสตร์ สถานการณ์กำลังส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แต่เต็มขอบเขตจะได้รับการรับทราบอย่างเต็มที่ในช่วงปลายปีและในการเพาะปลูก ปี พ.ศ.2563
    city-of-bellevue-flood-2019.jpg corn-planted-us-may-26-2019.jpg corn-emerged-by-may-26-2019.jpg soybeans-planted-us-may-26-2019.jpg soybeans-emerged-by-may-26-2019.jpg rice-planted-emerged-condition-by-may-26-2019.jpg
    Catastrophic floods affecting the United States since mid-March 2019 are resulting in what experts are calling historically delayed planting season. The situation is already having a big impact on commodity prices but the full extent will be known by the end of the year and into 2020 planting

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แพทย์หญิงจากชนเผ่าด้อยโอกาสในอินเดีย ต้องจบชีวิตตัวเอง หลังทนรับสภาพการถูกรุ่นพี่ในที่ทำงานกลั่นแกล้งไม่ไหว – BBCไทย

    AACdJJV.jpeg

    แพทย์ 3 คน ถูกจับกุมตัวแล้วในนครมุมไบของอินเดีย ท่ามกลางข้อกล่าวหาที่ว่า พวกเธอรุมกลั่นแกล้งเพื่อนร่วมงานรุ่นน้อง จนทำให้เธอต้องฆ่าตัวตาย จันฮาวี มูเล และปราวิน ตาเคร จากบีบีซี ภาคภาษามาราที รายงาน
    “ฉันเคยบอกว่า ฉันเป็นแม่ของหมอปายัล แล้วตอนนี้ล่ะ ฉันจะบอกว่า ยังไง?” อาเบดา ทัดวี บอกทั้งน้ำตา
    ปายัล ลูกสาววัย 26 ปีของเธอ ฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากถูกก่อกวนจากเรื่องชนชั้นของเธอมานานหลายเดือน เธอมาจากชนเผ่าด้อยโอกาส (Scheduled Tribe) ซึ่งเป็นสถานะที่มอบให้แก่ชนเผ่าด้อยโอกาสทางประวัติศาสตร์
    ครอบครัวของปายัล กล่าวหาว่า รุ่นพี่ที่วิทยาลัยแพทย์ 3 คนของปายัล ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด กลั่นแกล้งเธอเป็นเวลานานหลายเดือน จนนำไปสู่การเสียชีวิตของเธอ
    อภินาช คุมาร รองผู้บัญชาการตำรวจ บอกกับ บีบีซี ว่า ตำรวจได้จับกุมหญิงที่ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (21 พ.ค.) และกำลังสอบสวนเรื่องดังกล่าว ขณะที่สำนักข่าวเอเอ็นไอ รายงานแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาของพวกเธอ โดยระบุว่า พวกเธอถูกกล่าวหา “อย่างไม่เป็นธรรม” และเรียกร้องขอ “การไต่สวนอย่างเป็นธรรม” และ “ความยุติธรรม”
    ก่อนที่จะมีการจับกุม ทางโรงพยาบาลไนเออร์ (Nair hospital) ซึ่งพวกเธอทำงานอยู่ ได้พักงานพวกเธอ ทางวิทยาลัยแพทย์ก็ได้สั่งให้มีการสอบสวนข้อกล่าวหาดังกล่าวเช่นกัน
    การเสียชีวิตของปายัล ทำให้เพื่อน ๆ และเพื่อนร่วมงานของเธอตกตะลึงอย่างมาก พวกเขาได้มาประท้วงที่หน้าโรงพยาบาล และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเธอ เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ยังคงมีการเลือกปฏิบัติทางชนชั้นเกิดขึ้นในสถานที่ที่ไม่ควรเกิด อย่าง วิทยาลัยในนครมุมไบ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงิน และดูเหมือนจะเป็นเมืองที่ทันสมัยที่สุดของอินเดีย
    ปายัลมาจากเมืองจูลกาวน์ (Jalgaon) ทางตอนเหนือของรัฐมหาราษฏระ ซึ่งเป็นที่ตั้งของนครมุมไบ เธอแต่งงานกับ ซัลมาน ทัดวี ซึ่งเป็นแพทย์ในนครมุมไบ และย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้เพื่อศึกษาปริญญาโทด้านการแพทย์
    เธอกำลังเรียนเพื่อที่จะเป็น นรีแพทย์ (gynaecologist) ที่วิทยาลัยแพทย์โทปิวาลา (Topiwala Medical College) สถานที่เสียชีวิตของเธอ อาเบดา แม่ของเธอบอกว่า เธออยากเป็นหมอมาโดยตลอด ความฝันของเธอคือการพัฒนาการดูแลสุขภาพให้แก่ผู้คนในชนเผ่าที่ยากจนต่าง ๆ
    เธอมาจากชนเผ่าทัดวีบิล (Tadvi Bhil) หนึ่งในชนเผ่าด้อยโอกาสมากกว่า 700 เผ่าในอินเดีย จากการทำสำมะโนประชากรครั้งล่าสุดในปี 2011 สมาชิกของชนเผ่าเหล่านี้ ซึ่งมีอยู่ราว 8 ล้านคน ได้รับ “การสงวนสิทธิ์” หรือ โควตา เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดในการแบ่งลำดับชนชั้นที่คงอยู่ตลอดไปของอินเดีย
    ปายัล ได้เข้าเรียนที่วิทยาลัยแห่งนี้ภายใต้โควตาของชนเผ่าด้อยโอกาส อาเบดา กล่าวว่า เธอภูมิใจในตัวลูกสาวมาก ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งที่พวกเธอมีสถานะทางชนชั้นดังกล่าวและยากจนอย่างมาก
    “พวกเขาเหน็บแนมเธอในเรื่องไม่เป็นเรื่อง“
    อาเบดา กล่าวว่า ปายัล เล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับการล่วงละเมิดที่เธอเผชิญจากรุ่นพี่ทั้ง 3 คน
    “เธอกล่าวว่า พวกนั้น เหน็บแนมเธอต่อหน้าคนไข้ในเรื่องไม่เห็นเรื่อง พวกเขาดูถูกเธอด้วยการทำเสียงล้อเลียน โยนแฟ้มเอกสารใส่หน้าเธอ เธอบอกว่า คนเหล่านั้นไม่ยอมแม้กระทั่งให้เธอได้กินข้าวอย่างเป็นสุข”
    มีรายงานว่า พวกเขายังข่มขู่ว่าจะไม่ให้เธอฝึกหัดทางการแพทย์ด้วย
    อาเบดา ซึ่งกำลังรักษาโรคมะเร็ง จะต้องไปโรงพยาบาลไนเออร์อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นที่ที่ปายัลเรียนและฝึกหัดอยู่ เพราะโรงพยาบาลแห่งนี้ร่วมมือกับวิทยาลัยของเธอ
    อาเบดา กล่าวว่า เธอแทบไม่ได้พบลูกสาวเลย เพราะลูกยุ่งอยู่ตลอดเวลา อาเบดาก็เลยคอยมองดูลูกสาวอยู่ห่าง ๆ
    “ฉันได้เห็นว่า ลูกได้รับการปฏิบัติอย่างไร เลยตัดสินใจจะร้องเรียน แต่ปายัลห้ามฉันไว้” เธอเล่า
    ปายัล กลัวว่า การร้องเรียนแบบนั้น จะทำส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานของรุ่นพี่ผู้หญิงทั้ง 3 คนดังกล่าว และนั่นจะยิ่งทำให้คนเหล่านั้นมาตามราวีเธอมากขึ้น
    แต่ในเดือน ธ.ค. 2018 ในที่สุด อาเบดา และซัลมาน ก็พูดคุยเรื่องที่ปายัลถูกก่อกวนกับรุ่นพี่คนอื่น ๆ และบรรดาอาจารย์=
    พวกเขาเรียกร้องขอให้ย้ายปายัลไปทำงานกับทีมอื่น อาเบดาบอกว่า ลูกสาวได้รับการย้ายไปทำงานกับอีกทีมหนึ่ง และดูเหมือนเธอจะผ่อนคลายลงหลังจากนั้น
    แต่อาเบดาบอกว่า การก่อกวนก็กลับมาเกิดขึ้นอีกหลังจากนั้นไม่นาน โดยช่วง 10-12 พ.ค. อาเบดาเองได้ยื่นข้อร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษร “แต่ครั้งนี้ พวกเขาไม่ได้รับมันไว้อย่างจริงจัง” เธอ กล่าว
    10 วันต่อมา ปายัลก็ฆ่าตัวตาย
    ‘มันน่าเศร้าและน่าสลดใจ‘
    การเสียชีวิตของเธอ ทำให้ผู้คนหันมาสนใจการกลั่นแกล้งที่มีอยู่อย่างดาษดื่นในโรงเรียนและวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศอินเดีย “การล้อเลียน” ซึ่งเป็นคำที่เพราะขึ้นมาหน่อยของการกลั่นแกล้ง ถูกห้าม แต่มันก็ยังเกิดขึ้น นักเรียนจากชนชั้นที่ต่ำกว่ามักจะเผชิญกับการกลั่นแกล้งที่รุนแรง
    นายแพทย์ราเมช เบอร์มาล คณบดีวิทยาลัยโทปิวาลา (Topiwala college) บอกกับบีบีซีว่า โรงพยาบาลไนเออร์ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวนข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้ว และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในอีกไม่นานนี้
    “มันน่าเศร้าและน่าสลดใจ เราตกใจมาก เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เราทำอะไรไปบ้าง เราควรทำอะไรตอนนี้ เรื่องนี้ควรจะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้” เขากล่าว
    ซัลมาน กล่าวว่า เขาได้พบกับนายแพทย์เบอร์มาล ซึ่งถามเขาว่า ทำไมไม่มีใครมาพบเขา ซัลมานบอกกับเขาว่า พวกเขาได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่แผนกของปายัลแล้ว และพวกเขาได้ทำตามขั้นตอนแล้ว
    “ทำไมพวกเขาไม่ทำอะไรล่ะ” เขาถาม
    อาเบดามีคำถามเดียวกัน “เราควรทำอะไรอีก พวกเขาไม่รู้หรือว่า เกิดอะไรขึ้นในวิทยาลัย นี่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา พวกเขาน่าจะเข้าไปตรวจสอบ”
    นายแพทย์เบอร์มาล กล่าวว่า ทางวิทยาลัยและโรงพยาบาลมีระบบในการจัดการกับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการล่วงละเมิด รวมถึงการให้คำปรึกษากับนักศึกษาใหม่ การตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อร้องเรียน และให้หัวหน้างานสุ่มตรวจสอบ
    “ผมไม่รู้ ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้น อาจจะมีการดำเนินการที่เหมาะสม และเรื่องนี้…อาจหลีกเลี่ยงได้” เขากล่าวเพิ่มเติม
    ‘เธอเป็นเสาหลักของฉัน‘
    ที่บ้านในเมืองจูลกาวน์ ซึ่งเป็นที่ที่ปายัลเติบโตมา ญาติและเพื่อนบ้านกำลังอาลัย พวกเขายินดีที่จะเล่าเรื่องปายัลให้ฟัง ภาพของเธอในความทรงจำของพวกเขาคือ ผู้หญิงที่ฉลาด, ทะเยอทะยาน และทำงานหนัก
    พวกเขากล่าวว่า เธอมีแรงบันดาลใจที่จะเป็นหมอ จากการที่น้องชายของเธอเกิดมามีร่างกายที่พิการ ทำให้เขาเดินไม่ได้ และเธอต้องการจะช่วยเหลือผู้คน
    อาเบดา บอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับปายัล ทำให้เธอนึกถึง นักเรียนอีกจำนวนมากจากชนชั้นที่ต่ำกว่า ที่ต้องไขว่คว้าหาอนาคตที่ดีขึ้น
    เธอนึกไปถึงหลาน ๆ ของเธอ และเด็กคนอื่น ๆ จากชนเผ่าของเธอ
    “พ่อแม่ของพวกเขามาหาฉันและถามว่า พวกเขาควรขอให้ลูกอยู่ที่บ้านดีไหม เพราะพวกเขาไม่เชื่อมั่นที่จะให้สถาบันต่าง ๆ ดูแลลูก” อาเบดากล่าว
    “เธอเป็นเสาหลักของฉัน เธอเป็นเสาหลักของทั้งชุมชน เธอคงจะได้เป็นแพทย์หญิงคนแรกจากชนเผ่าของเรา แต่ความฝันนี้ยังคงต้องรอต่อไป”
    https://www.msn.com/th-th/news/worl...ในที่ทำงานกลั่นแกล้งไม่ไหว/ar-AACdOpv?ocid=sf
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “อนาคตใหม่” ยื่นเรื่องปธ.สภาฯ ส่งคำร้องต่อศาลรธน. ให้วินิจฉัย 30 ส.ส. “พปชร–ประชาชาติไทย–ประชาภิวัฒน์–ชาติพัฒนา” ถือหุ้นสื่อ พร้อมชงญัติขอตรวจสอบ ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ
    #อนาคตใหม่ #ถือหุ้นสื่อ #BrightTV20
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    น้ำท่วมที่รุนแรงถึงตายในกานา ทำให้เมืองแฝดสองเมืองได้แก่ Sekondi / Takoradi ไม่มีพลังงานใช้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คนหลังจากเกิดฝนตกหนักในกานา เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมและ 1 มิถุนายน 2562 เมืองหลวง Sekondi / Takoradi หลายแห่งในภาคตะวันตกถูกน้ำท่วมทำให้เกิดไฟฟ้าดับรวม ฝนตกหนักและน้ำท่วมยังกระทบเมืองหลวง Acra, ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยหนึ่งคน
    PSX_20190604_170434.jpg
    Deadly floods hit Ghana, leave twin-city metropolis Sekondi/Takoradi without power. At least 10 people have been killed after a new wave of heavy rain hit parts of Ghana on May 31 and June 1, 2019. Many parts of the Western Region's capital Sekondi/Takoradi were flooded, resulting in total power outage. Heavy rain and floods also hit capital Acra, leaving at least one person dead.

    https://watchers.news/2019/06/03/de...ity-metropolis-sekondi-takoradi-without-power/

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    มันเป็นฤดูเพาะปลูกที่ฝนตกชุกที่สุดที่ชาวอเมริกันจำได้ - และฤดูน้ำท่วมไม่ใกล้จะจบลงด้วยสโนว์แพ็ค (ก้อนหิมะ) ของโคโลราโด 437% ของสภาพปกติ ไม่เคยมีฤดูเพาะปลูก ฤดูใบไม้ผลิเช่นนี้ แม่น้ำล้นบนฝั่งของพวกเขา เขื่อนถูกทำให้มีช่องโหว่ ทุ่งที่เต็มไปด้วยน้ำและโคลน และฝนก็ตก

    “ คุณได้ยินคำศัพท์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” เชอร์แมน นิวลิน,เกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าวโพดและถั่วเหลืองในรัฐอิลลินอยส์กล่าว "นั่นคือทั้งหมดที่เป็นจริง"
    PSX_20190604_171551.jpg
    It’s the wettest planting season American farmers can remember – And the flood season isn’t coming close to an end with Colorado’s snowpack being 437% of normal. There has never been a spring planting season like this one. Rivers topped their banks. Levees were breached. Fields filled with water and mud. And it kept raining.

    “You hear words like biblical, unprecedented,” said Sherman Newlin, a corn and soybean farmer in Illinois. “That’s all true.”

    http://strangesounds.org/2019/06/us...ollapse-colorado-snowpack-abnormal-video.html

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    3 มิถุนายน 2019 หลุมลูกเห็บที่ผิดฤดูกาลและสุดขั้วฝัง Puglia ทางใต้ของอิตาลีในน้ำแข็งขนาด 6 นิ้ว

    PSX_20190604_172117.jpg

    June 3, 2019 Unseasonal and extreme hailstorm buries Puglia, southern Italy in 6 inches of ice.

    http://strangesounds.org/2019/06/hailstorm-puglia-italy-italia-video-pictures.html

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    อินเดีย
    ลมแรงและฝนที่พัดถล่ม Talminadu, อินเดีย ในวันที่ 2 มิถุนายน
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    อินเดีย
    หลังจากลมแรงที่เกิดขึ้นในวันที่ 2 มิถุนายน ในวันถัดไปก็ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง เนื่องจากพายุรุนแรงในอินเดีย ในวันที่ 3 มิถุนายน
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    สหรัฐอเมริกา
    พายุทอร์นาโดฝุ่นถูกพบใน Dixie Union, Georgia, 3 มิถุนายน
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    อัฟริกา
    พายุทอร์นาโดฝุ่นใน Samburu ประเทศเคนยา เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    เซอร์เบีย
    ขยะจำนวนมากที่ลอยอยู่ในกระแสน้ำที่ไหลท่วม เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สงสารน้อง ยีนที่ตัดต่อสามารถต้านเอชไอวีได้ แต่ดันทำให้ต้านโรคอื่นๆ ทั่วๆ ไปยาก ต้องเลือกเอาว่าจะต้านอะไร

    "ลู่ลู่" และ "น่าน่า" ทารกฝาแฝดชาวจีนคู่แรกที่เกิดจากการตัดต่อยีนเพื่อให้มีภูมิต้านทานเชื้อเอชไอวีแต่แรกเกิด มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอายุสั้นและติดเชื้อไวรัสบางชนิดได้ง่าย ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่นักวิทยาศาสตร์ผู้ทำการตัดต่อยีนให้เด็กทั้งสองไม่ได้คาดคิดมาก่อน

    เมื่อหลายเดือนก่อน ศาสตราจารย์เฮ่อ เจี้ยนขุย นักวิทยาศาสตร์จากเมืองเซินเจิ้นของจีนประกาศว่า สามารถใช้เทคนิคการตัดต่อพันธุกรรมแบบคริสเปอร์-แคสไนน์ (CRISPR-Cas9) กำจัดยีน CCR5 ซึ่งเป็นช่องทางที่ไวรัสเอชไอวีใช้ผ่านเข้าสู่เซลล์ในร่างกายมนุษย์ออกไป ทำให้ตัวอ่อนในครรภ์มารดาที่ได้รับการตัดต่อยีนมีภูมิต้านทานเชื้อเอชไอวีได้

    ผู้ป่วยมะเร็งชาวอังกฤษ 'ปลอด' จากเชื้อเอชไอวี หลังจากได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์
    เซ็กส์ครั้งแรกในชีวิตทำผมติดเอชไอวี
    "พีท คนเลือดบวก" กับเป้าหมายยุติปัญหาเอดส์ภายในสองปี
    แต่ทว่าผลการวิจัยล่าสุดของทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเบิร์กลีย์ของสหรัฐฯ พบว่าคนส่วนใหญ่จากกลุ่มตัวอย่าง 410,000 คน ซึ่งมีพันธุกรรมเหมือนกับทารกฝาแฝดดังกล่าวโดยธรรมชาติ มีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร หรือเสียชีวิตก่อนจะมีอายุถึง 78 ปี สูงกว่าคนทั่วไปถึง 21% ทั้งยังติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อันตรายหลายชนิดได้ง่าย ซึ่งรวมถึงเชื้อไข้สมองอักเสบจากไวรัสเวสต์ไนล์ (West Nile Virus - WNV) อีกด้วย

    ศาสตราจารย์ราสมัส นีลเซน ผู้นำทีมวิจัยดังกล่าวซึ่งเผยแพร่ผลการศึกษาในวารสาร Nature Medicine บอกว่า ยีน CCR5 นั้นมีบทบาทสำคัญในสมอง ทั้งช่วยต่อต้านการติดเชื้อในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อไข้หวัดใหญ่หลายชนิด

    ศาสตราจารย์เฮ่อ เจี้ยนขุย ผู้ทดลองตัดต่อยีนทารกให้มีภูมิต้านทานเชื้อเอชไอวี
    "การที่คนเราไม่มียีน CCR5 อีกต่อไป แม้จะทำให้ต้านทานเอชไอวีได้ แต่ผลเสียที่ตามมานั้นไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง คนส่วนใหญ่คงไม่อยากจะทำการดัดแปลงพันธุกรรมในลักษณะนี้" ศ. นีลเซนกล่าว

    https://www.bbc.com/thai/international-48508187?ocid=socialflow_facebook

     

แชร์หน้านี้

Loading...