ติดตามสถานะการณ์

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

แผ่นดินไหว 5.5 ในประเทศญี่ปุ่น # 24 มิถุนายน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

แผ่นดินไหว ขนาด 5.6 แคลิฟอร์เนีย #23 มิถุนายน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

เศษซากปลิวไปทุกหนทุกแห่ง ซึ่งเป็นผลมาจากพายุทอร์นาโด ในรัฐอินเดียนา # วิดีโอ #สหรัฐอเมริกา # 24 มิถุนายน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ทอร์นาโดทางใต้ของรัฐอินเดียนาอีกวิดีโอ # 24 มิถุนายน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

คลังแสงได้ระเบิดในคาซัคสถาน เมืองอาริเอสที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งมีประชากรประมาณ 44,000 คน กำลังอพยพออกอย่างสมบูรณ์ # 24 มิ.ย.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ลมพายุเฮอริเคนและฝนตกกระทบ Khuzadar , Balochistan ประเทศ ปากีสถาน # 24 มิ.ย.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

แผ่นดินไหวขนาด 7.5 ที่พบบนชายฝั่งของติมอร์ตะวันออกและอินโดนีเซีย รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนได้ในเมืองดาร์วิน ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ด้วยขนาด 7.2 # 24 มิถุนายน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ถนน บ้านเรือน รถยนต์ ถูกน้ำท่วม หลังจากพายุเข้าในเบลเกรด ไซบีเรีย # 23 มิ.ย.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ปรากฏการณ์ที่เหลือเชื่อ แต่แปลกในเนเธอร์แลนด์ (ท้องฟ้า)# 24 มิถุนายน

Increíble pero extraño fenómeno en Holanda #24jun

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

พายุฟ้าคะนองในสหราชอาณาจักร # 23 มิ.ย.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ภาพแรกของภูเขาไฟ Raikoke ปะทุ# 23 มิถุนายน

Rusia Primeras imágenes de la Erupción del volcán Raikoke #23jun

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

พระอาทิตย์ตกในบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย # 21 มิ.ย.
Atardecer en Bali Indonesia #21jun

 

John Traczyk

เมฆฝุ่น Noctilucent อวกาศหายาก สีแดง
Noctilucent clouds ควรจะเป็นสีน้ำเงินไฟฟ้า แม้ในช่วงที่มีการระบาดรุนแรงผู้สังเกตการณ์บางคนในยุโรปเห็นสีที่แตกต่าง: สีแดง
ถ่ายโดย Sebastian Voltmer เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2562 Spicheren ฝรั่งเศส



Rare Red Noctilucent Space Dust Clouds.
Noctilucent clouds are supposed to be electric blue, yet during this extreme outbreak some observers in Europe saw a different color: red.
Taken by Sebastian Voltmer on June 21, 2019. Spicheren, France.

 

Bank of Thailand Scholarship Students



(Jun 24) ปลาป่นไทยป่วน! จีน-เวียดนามลดซื้อ กดราคาต่ำสุดรอบ7ปี : สต๊อกปลาป่นล้นโลก กดราคาภายในของไทยต่ำสุดรอบ 7 ปี หลังจีน-เวียดนามตลาดนำเข้าใหญ่สุดอันดับ 1 และ 2 ยังเผชิญปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรระบาดหนัก ลดนำเข้าผลิตอาหารสัตว์ กุ้งไทยราคาตกต่ำทุบซ้ำเกษตรกรลดเลี้ยง ลุยหาตลาดใหม่ช่วยชีวิต เป้าทั้งปี 1.2 แสนตันยังต้องลุ้น

นับตั้งแต่ไทยมีการจัดระเบียบการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายขาดการรายงานและไร้การควบคุม (ไอยูยู) ส่งผลให้ปริมาณเรือและปลาสดที่จับได้ลดน้อยลง จากปี 2557 จากที่จับปลาได้กว่า 4.2 ล้านตัน แต่นับจากปี 2558 ที่ไทยถูกใบเหลืองไอยูยู ทำให้ปริมาณปลาที่จับได้ลดลง อย่างไรก็ดีจากเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2558 ไทยสามารถปลดใบเหลืองได้สำเร็จ สถานการณ์จับปลาทะเลของไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น

ในส่วนของสถานการณ์อุตสาหกรรมปลาป่น (ซึ่งใช้ปลาเป็ด และปลาเล็กปลาน้อยที่จับจากทะเลมาผลิตป้อนให้โรงงานอาหารสัตว์) ณ ปัจจุบันถือว่าไม่สดใส

นายอำนวย เอื้ออารีมิตร นายกสมาคมผู้ผลิตปลาป่นไทย เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงสถานการณ์อุตสาหกรรมปลาป่นของไทยซึ่งมีตลาดส่งออกหลักที่จีนว่า เวลานี้จีนยังมีสต๊อกจำนวนมากบวกกับสินค้าปลาป่นจากต่างประเทศ ซึ่งรวมสินค้าจากไทยยังตกค้างที่ท่าเทียบเรือของจีนจำนวนมาก เนื่องจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรในจีนยังไม่คลี่คลาย ทำให้ยอดการใช้ปลาป่นของจีนเพื่อใช้ผลิตอาหารสัตว์ในปีนี้คาดจะลดลงจากปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3 แสนตัน เช่นเดียวกับตลาดเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดรองของไทย ก็ยังมีปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกาเช่นเดียวกัน ทำให้สุกรตายครึ่งประเทศ ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ส่งผลให้ไทยส่งออกปลาป่นได้ลดลง ขณะที่เงินบาทแข็งค่า จากระดับ 32 บาทเป็น 31.2 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้สินค้าไทยราคาสูงขึ้นและแข่งขันยาก

"คาดปีนี้วัตถุดิบปลาป่นของไทยจะอยู่ที่ประมาณ 3.8-3.9 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว10-15% ซึ่งปริมาณที่เพิ่มขึ้นก็ต้องพยายามส่งออกให้มากขึ้นด้วย เพราะตลาดภายในใช้ปลาป่นในการผลิตอาหารสัตว์คงที่ ส่วนหนึ่งจากกุ้งราคาตกต่ำมากไม่จูงใจเกษตรกรเลี้ยง การซื้ออาหารกุ้งก็ลดลง อีกด้านหนึ่งผู้ประกอบการอาหารสัตว์ก็ต้องการลดต้นทุน หันไปนำเข้าปลาป่นจากเพื่อนบ้านที่ราคาถูกกว่าไทยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาปลาป่นในประเทศของไทยขณะนี้ต่ำสุดรอบ 7 ปี โดยราคาปลาป่นขายส่ง โปรตีน 60% ขึ้นไป เบอร์ 1 อยู่ที่ 32 บาทต่อกิโลกรัม จากที่เคยสูงสุด 37-38 บาทต่อกิโลกรัม"

สำหรับจีน ซึ่งเป็นตลาดปลาป่นใหญ่สุดของโลกในปีที่ผ่านมามีการนำเข้า 1.2 ล้านตัน ปีนี้ประเมินแล้วน่าจะอยู่ที่ประมาณ 8-9 แสนตัน ผู้ประกอบการปลาป่นไทยต้องการให้รัฐบาลเข้ามาดูแลค่าเงินให้อยู่ที่ 32-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันส่งออกสินค้าไทยได้มาก จากปัจจุบันไทยเสียเปรียบคู่แข่ง ค่าเงินแข็งค่าเป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาค"

อย่างไรก็ตามผู้ส่งออกปลาป่นพยายามหาตลาดใหม่ๆ ชดเชยหรือทดแทนตลาดจีนเพิ่มขึ้น เช่น บังกลาเทศ และศรีลังกา ที่มีการขยายตัวของการเลี้ยงสัตว์ ล่าสุดการส่งออกปลาป่นของไทยช่วง 5 เดือนครึ่งของปีนี้ (ม.ค.-15 มิ.ย.62) ส่งออกปริมาณ 5.6 หมื่นตัน จากเป้าทั้งปีตั้งไว้ที่ 1.2 แสนตัน จากปีที่แล้วส่งออก 1.01 แสนตัน (กราฟิกประกอบ) เมื่อพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ แล้วหากไทยส่งออกปลาป่นปีนี้ได้ต่ำกว่า 1 แสนตันเดือดร้อนแน่ เพราะผลผลิตเพิ่มขึ้น จะยิ่งซ้ำเติมราคาในประเทศให้ต่ำลงอีก

ขณะที่สถานการณ์ปลาป่นต่างประเทศเวลานี้ก็ยังย่ำแย่ โดยเปรู ผู้ผลิตรายใหญ่ ในครอปแรกของปีนี้ประกาศผลโควตาออกมาอยู่ 2.1 ล้านตัน จับปลาไปแล้วกว่า 80% ของโควตาที่ได้ เหลืออีก 20% ยังมีเวลาจับไปถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม ยกเว้นอากาศแปรปรวน ส่วนครอปที่ 2 จะประกาศในเดือนพฤศจิกายนคาดเดายากว่าจะประกาศโควตาจับปลาเท่าไร
Source: ฐานเศรษฐกิจ

 

Bank of Thailand Scholarship Students



(Jun 24) คอลัมน์ บางขุนพรหมชวนคิด: "Libra" เงินสกุลใหม่ของโลก? "เฟซบุ๊ก" โซเชียลมีเดียอันดับ 1 เพิ่งประกาศการสร้างสกุลเงินดิจิทัลใหม่ล่าสุดของโลกที่มีชื่อว่า "ลิบร้า (Libra)" ไปสดๆร้อนๆ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (18 มิ.ย.) สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการการเงินโลกอีกครั้ง นับตั้งแต่การเปิดตัวของสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโทเคอร์เรนซีสกุลแรกของโลก คือ บิทคอยน์ (Bitcoin) ที่ราคายังผันผวนอย่างหนักมาถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีคำถามสำคัญว่าลิบร้าจะสามารถบรรลุเป้าหมายความเป็น "เงิน" ดังที่หวังไว้ได้หรือไม่ บางขุนพรหมชวนคิดวันนี้จึงขอชวนทุกท่านมาทำความรู้จักลิบร้าและตอบคำถามนี้กัน

ตามเอกสารที่อธิบายหลักการและเหตุผลของการสร้างลิบร้า หรือที่เรียกว่า white paper ซึ่งมีความยาวทั้งหมด 12 หน้า (เทียบกับ white paper ของบิทคอยน์ที่มีความยาว 9 หน้า) สามารถสรุปได้โดยสังเขปว่า จุดประสงค์สำคัญของการสร้างและออกใช้ลิบร้าคือ "การเป็นสกุลเงินของโลก (global currency)" (ไม่แตกต่างจากจุดประสงค์ของการสร้างบิทคอยน์) โดยลิบร้าจะดำเนินงานอยู่บนระบบบล็อกเชนที่สามารถรองรับผู้ใช้งานที่ตั้งเป้าไว้ถึงระดับพันล้านคนได้ และหนุนหลังมูลค่าลิบร้าด้วยเงินสำรอง ซึ่งเป็นตะกร้าของสินทรัพย์ในสกุลเงินต่างๆที่มีความเสี่ยงต่ำ (ยังไม่ได้ประกาศในรายละเอียด แต่แตกต่างจากบิทคอยน์ที่ไม่มีเงินสำรอง) รวมทั้งกำกับดูแลโดยหน่วยงานอิสระที่มีชื่อเหมือนกับสกุลเงินตนเองว่า Libra Association ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกถึง 28 หน่วยงานยักษ์ใหญ่ในหลายกลุ่มธุรกิจ (รวมเฟซบุ๊ก) อาทิ การชำระเงิน เทคโนโลยี และองค์กรไม่แสวงหากำไร

จะเห็นได้ว่า ลิบร้าถูกสร้างและออกใช้โดยหน่วยงานกลาง (ในที่นี้คือ Libra Association ซึ่งเปรียบเสมือนธนาคารกลางในประเทศต่างๆ ที่ออกใช้เงินแต่ละสกุลของตน) มีสินทรัพย์หนุนหลัง (ในที่นี้คือตะกร้าของสินทรัพย์ในสกุลเงินต่างๆ ที่มีความเสี่ยงต่ำ) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะทำให้ลิบร้ามีมูลค่าในตัวเอง (intrinsic value) และมีจุดประสงค์ในการสร้างและออกใช้ที่ชัดเจนโดยเฉพาะ นั่นคือการมุ่งเป็นสกุลเงินของโลก

อย่างไรก็ตาม การจะเข้าข่ายความเป็น "เงิน" ที่ใช้ได้อย่างแพร่หลายตามวัตถุประสงค์นั้น ลิบร้าจำเป็นต้องมีคุณสมบัติทั้งหมด 3 ประการ ได้แก่
1) เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน (medium of exchange)
2)เป็นที่เก็บรักษามูลค่า (store of value) หรือการมีมูลค่าไม่ผันผวน และ
3) มีหน่วยวัดทางบัญชี (unit of account) หรือพูดง่ายๆคื อมีการคิดราคาสินค้าและบริการเป็นหน่วยสกุลลิบร้าหรือไม่ ดังนั้น คงจะเป็นการด่วนสรุปเกินไป หากจะตัดสินในตอนนี้ว่าลิบร้ามีหรือไม่มีคุณสมบัติของความเป็นเงินอย่างครบถ้วน เพราะมองไปข้างหน้า ยังคงมีคำถามอีกมากมายที่ลิบร้าต้องตอบและรอการพิสูจน์ในประเด็นดังต่อไปนี้

1.การเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน : ลิบร้าจะต้องเป็นที่ยอมรับในวงกว้างเพื่อเป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ และจะต้องสามารถใช้ชำระหนี้ได้จริงตามกฎหมาย คำถามสำคัญที่ตามมาคือ ภาครัฐในแต่ละประเทศจะยอมประกาศให้ลิบร้าสามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายหรือไม่? (ล่าสุดเริ่มมีทางการจากหลายประเทศ รวมทั้งสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ เริ่มแสดงท่าทีต่อต้านลิบร้า)

2.การเก็บรักษามูลค่า : ลิบร้าจะต้องมีมูลค่าไม่ผันผวนจนเกินไปจึงจะสามารถเก็บรักษามูลค่าหรือความมั่งคั่ง (wealth) ของผู้ถือลิบร้าได้ ทำให้มีคำถามว่า การมีสินทรัพย์หนุนหลังจะช่วยให้ลิบร้ามีความน่าเชื่อถือและทำให้มูลค่ามั่นคงมากน้อยเพียงใด? หน่วยงานที่กำกับดูแลจะมีการทำงานอย่างรัดกุมแค่ไหน?

3.การเป็นหน่วยวัดมูลค่า : การตั้งราคาสินค้าและบริการจะต้องใช้ลิบร้าเป็นหน่วยวัดมูลค่า เช่น ร้านอาหารพิมพ์เมนูโดยใช้หน่วยลิบร้าเป็นตัววัดมูลค่า (menu cost) คำถามที่ตามมาคือ ลิบร้าจะได้รับความไว้วางใจ (trust) จากร้านค้าและผู้บริโภคมากเพียงพอที่จะนำลิบร้ามาเป็นหน่วยวัดมูลค่าโดยตรงหรือไม่?

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องติดตามพัฒนาการของลิบร้าต่อไปอย่างใกล้ชิด เพราะนอกจากเราจะ "ก้าวทัน" เทคโนโลยีในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแล้วเราจำเป็นต้อง "รู้ทัน" และทำความเข้าใจอย่างถูกต้องลึกซึ้งด้วยครับ!

โดย สุพริศร์ สุวรรณิก ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย
**บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของหน่วยงานที่ผู้เขียนสังกัด**
Source: ไทยรัฐ

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jun 24) “มหาธีร์”เตือนตึงเครียดสหรัฐ-อิหร่านอาจลามเป็นสงครามโลก: ผู้นำมาเลเซีย ตอบคำถามในประเด็นที่ว่า ฝ่ายไหนที่จะประเมินสถานการณ์ผิดพลาดว่า “เท่าที่ผมเห็นในขณะนี้ สหรัฐเป็นฝ่ายยั่วยุอิหร่านตลอด ตอนแรก สหรัฐถอนตัวจากสนธิสัญญานิวเคลียร์ ต่อมาก็ส่งเรือรบเข้าไปประจำการในอ่าวเปอร์เซีย และตอนนี้กำลังดำเนินการด้านต่างๆเพื่อยั่วยุอิหร่าน”

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า สหรัฐจะใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติมในวันจันทร์ (24มิ.ย.)ที่จะถึงนี้
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและอิหร่านตึงเครียดยิ่งขึ้น หลังเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ครั้ง บริเวณช่องแคบฮอร์มุซ และกองทัพอิหร่านยิงขีปนาวุธใส่โดรนของกองทัพสหรัฐตก

ขณะที่เมื่อวานนี้ (23มิ.ย.)ทางการอิหร่านได้ประหารชีวิต นายจาลัล ฮาจี ซาวาร์ อดีตตัวแทนบริษัทรับเหมา ซึ่งเป็นคู่สัญญากับสำนักงานด้านอากาศยานของกระทรวงกลาโหมอิหร่าน ฐานจารกรรมข้อมูลลับทางราชการให้กับรัฐบาลวอชิงตันและสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ)
คำพิพากษาประหารชีวิตเป็นไปตามการชี้ขาดของศาลทหาร โดยนายซาวาร์ ถูกประหารที่เรือนจำราจายี ชาห์ ในเมืองคารัจ แต่ไม่ได้ระบุว่าเกิดขึ้นเมื่อใด และไม่ระบุด้วยว่าถูกจับกุมเมื่อใด แต่มีข้อมูลว่ารัฐบาลเตหะรานเพิกถอนใบอนุญาตของซาวาร์เมื่อ 9 ปีที่แล้ว และอดีตภรรยาของซาวาร์รับโทษจำคุก 15 ปี ฐานสมคบคิดในข้อหาเดียวกัน

Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/838689

- Miscalculations in the US-Iran conflict could lead to a ‘world war,’ says Malaysia’s Mahathir: https://www.cnbc.com/2019/06/22/us-iran-conflict-could-lead-to-world-war-malaysia-pm-mahathir.html

 

Chalee Na Roied

ตอนนี้มีกระแสข่าว รายงานว่า สาเหตุใดที่ โดนัล ทรัมส์ เปลี่ยนใจนาทีสุดท้าย ก่อนใช้ปฏิบัติทางโจมตีอิหร่าน เพื่อตอบโต้ในกรณี อิหร่านยิงโดรนราคาแพง ซึ่งสหรัฐอ้างว่า บินอยู่เหนือน่านฟ้าสากล ซึ่งคำสั่งยกเลิกดังกล่าวมีขึ้น หลังจากนายทหารระดับสูงรายงานว่า อาจจะส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิต 150 คน นั้น น่าจะเป็นการแก้ตัวมากกว่านะครับ


เพราะถ้าสหรัฐตัดสินใจโจมตี อิหร่านในคืนนั้น ผลที่ตามมาอะไรจะเกิดขึ้น แน่นอนว่าอิหร่านนั้น ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว เพราะกำลังถูกสหรัฐคว่ำบาตร รวมถึงเตรียมการทำสงคราม แต่การตอบโต้ของอิหร่าน จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐมากมายมหาศาล เพราะแค่อิหร่านปิดช่องแคบ ฮอร์มุซที่อยู่ตรงข้ามกับโอมาน ทำให้ปริมาณการขนส่ง น้ำมันกว่า 1 ใน 3 ของโลกแทบจะหยุดชะงัก ราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจจะพุ่งทะยานถึง 200$ ,300$,500$ หรือ 1,000 $ สหรัฐต่อบาเรลล์ ตามการคาดการณ์ของ โกลแมน แซค


อย่าลืมว่า 45% ของ จีดีพีโลก มาจากตลาดการซื้อขายพลังงานในตะวันออกกลาง และเศรษฐกิจสหรัฐและ เศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน อยู่ได้ด้วยมาตรการ QE ซึ่งตลาดอนุพันธ์ที่เป็นสัญญาซื้อขายกันล่วงหน้า เป็นมูลค่า $1.2 quadrillion รวมถึงสถาบันการเงินซึ่งมีมูลค่า 80 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ย่อมได้รับผลกระทบ ซึ่งแน่นอนว่าไม่เฉพาะธนาคารกลางของสหรัฐและยุโรปเท่านั้น ยังรวมถึงธนาคารกลางเพื่อการชำระหนี้(BIS)ที่ เมืองบาเซิล สวิสเซอร์แลนด์ ที่ผมเคยพูดถึงก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน


นอกจากนี้ฐานทัพของสหรัฐทั้งหมด ในตะวันออกกลาง รวมถึงซาอุดีอาระเบีย และอิสราเอล จะตกเป็นเป้าหมายของขีปนาวุธของอิหร่าน รวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐ ในอ่าวเปอร์เซียก็จะตก เป็นเป้าหมายของขีปนาวุธของอิหร่าน ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกันกับของรัสเซีย ที่ใช้โจมตีเรือรบและเรือบรรทุกเครืองบิน ซึ่งสหรัฐไม่สามารถป้องกันได้ ยังไม่นับผลประโยชน์อื่นๆของสหรัฐทั้งในและนอกสหรัฐ



อย่าลืมว่าในสหรัฐเอง มีเครือข่ายชาวมุสลิมผิวสี ที่แฝงตัวในสหรัฐจำนวนมากด้วยเช่นกัน ซึ่งไม่แน่ว่าเครือข่ายชาวมุสลิมเหล่านี้ อาจจะเชื่อมโยงกับ กองกำลังปฏิวัติอิหร่าน(IRGC)ที่ สหรัฐระบุว่าเป็นเครือข่ายก่อการร้าย และยังไม่นับ จีนและรัสเซีย ที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลืออิหร่านในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เพราะสหรัฐเองยังคาดไม่ถึง ที่ก่อนหน้านั้นระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่าน สามารถตรวจจับและยิงทำลายโดรน ที่มีราคาแพงและติดตั้งเทคโนโลยี ที่ถือว่าก้าวหน้ามากที่สุด ในบรรดาอากาศยานไร้คนขับ ที่สหรัฐมีในครอบครอง


เพราะฉะนั้นนี่"อาจะ"เป็นอีกเหตุผล ที่บรรดาคนที่อยู่เบื้องหลัง โดนัล ทรัมส์ ต้องกลับมาประเมินสถานการณ์และผลกระทบ ก่อนที่จะตัดสินใจโจมตีอิหร่านนั่นเอง



https://www.strategic-culture.org/news/2019/06/20/iran-goes-for-maximum-counter-pressure/

 

ภาพของคุณ Daniela Si Daniel

 

แดง วงศ์ทวิชาติ


กระแสน้ำสามารถกระตุ้นการเกิดแผ่นดินไหวได้อย่างไร

โดย ทะเลอีเจียนโพไซดอน - 7 มิถุนายน 256217461 0


จากการค้นพบข้อมูลใหม่ เผยให้เห็นการทำงานภายในของแผ่นดินไหวที่เกิดจากน้ำขึ้นน้ำลงและพบว่าแม้แต่ความกดดันเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้เกิดการสั่นสะเทือนได้


กระแสน้ำกำลังกลายเป็นภารกิจในการไขปริศนาเรื่องแผ่นดินไหว


หลายปีที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์ตระหนักว่าการเกิดแผ่นดินไหวตามแนวสันกลางมหาสมุทรซึ่งเป็นแนวใต้น้ำที่ขอบแผ่นเปลือกโลกนั้นเชื่อมโยงกับกระแสน้ำ แต่ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไมแรงสั่นสะเทือนเพิ่มขึ้นในช่วงน้ำลง


"ทุกคนงงงวยเพราะตามทฤษฎีทั่วไปแผ่นดินไหวเหล่านี้ควรเกิดขึ้นในช่วงน้ำขึ้นน้ำลง" คริสโตเฟอร์ชูโคลซ์นักสำรวจแผ่นดินไหวที่หอดูดาวโลก Lamont-Doherty จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียอธิบาย


ในการศึกษาที่ตีพิมพ์ในNature Communicationsวันนี้ เขาและเพื่อนร่วมงานของเขาค้นพบกลไกสำหรับความขัดแย้งที่เห็นได้ชัดนี้และมันลงมาสู่แมกมาที่อยู่ใต้สันเขากลางมหาสมุทร


“ มันเป็นห้องแมกมาที่หายใจขยายและหดตัวเนื่องจากกระแสน้ำซึ่งทำให้ความผิดพลาดเกิดขึ้น” Scholz ผู้เป็นผู้นำการศึกษาพร้อมกับนักศึกษาปริญญาโท Lamont-Doherty นักศึกษา Yen Joe Tan กล่าว


https://www.alertageo.org/2019/06/07/resuelto-como-las-mareas-pueden-desencadenar-terremotos/

 

แผ่นดินไหว ขนาด 5.9 ภูมิภาค หมู่เกาะ KERMADEC , นิวซีแลนด์ วันที่ 2019-06-24 เวลา 18: 34: 08.1 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่ตั้ง 30.93 S; 177.37 W ความลึก 10 กม



Magnitude 5.9

Region KERMADEC ISLANDS, NEW ZEALAND

Date time

2019-06-24 11:34:08.1 UTC

Location

30.93 S ; 177.37 W

Depth 10 km


Distances


1107 km S of Nuku‘alofa, Tonga / pop: 22,400 / local time: 00:34:08.1 2019-06-25


936 km NE of Whakatane, New Zealand / pop: 18,700 / local time: 23:34:08.1 2019-06-24


https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=773112