ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความร้อนมากขึ้น? คลื่นความร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิกที่ใหญ่เป็นอันดับสองตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ โดย Ben Gutierrez | 22 กันยายน 2019 เวลา 16:06 น. HST - อัปเดต 22 กันยายนเวลา 17:11 น
    afe_image.php?d=AQC7RHGdtQTcQvxr&w=476&h=249&url=https%3A%2F%2Fbuffer-media-uploads.s3.amazonaws.jpg
    HONOLULU, Hawaii (HawaiiNewsNow) - หลายคนพยายามที่จะเอาชนะความร้อนในฤดูร้อนของฮาวายโดยมุ่งหน้าไปที่ชายหาด

    น่าเสียดายที่ตอนนี้มีเครื่องทำความร้อนอยู่ในน่านน้ำของมหาสมุทรแปซิฟิก

    นักวิจัยจาก NOAA ซึ่งกำลังตรวจสอบคลื่นความร้อนที่ยืดจากแคลิฟอร์เนียถึงอลาสกาและลงไปยังฮาวาย

    แผนที่แสดงอุณหภูมิของน้ำที่สูงกว่าปกติ 3 องศารอบ ๆ ฮาวาย

    “ ออกจากฮาวายนี่เป็นเหตุการณ์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองที่คุณมีในรอบ 40 ปีดังนั้นมันจึงเหมือนกับในแคลิฟอร์เนีย” Andrew Leising นักวิจัยสมุทรศาสตร์ของ NOAA ในลองบีชกล่าว

    “ เหตุการณ์นี้คือมหาสมุทรกว้างใหญ่และมันใหญ่มาก” เขากล่าวเสริม
    คลื่นความร้อนทางทะเลมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2014 ถึง 2016 มันถูกเรียกว่า "หยด" เนื่องจากพื้นที่ขนาดใหญ่ของสีแดงและสีส้มเข้มที่ปรากฏบนแผนที่อุณหภูมิพื้นผิวมหาสมุทร

    คลื่นความร้อนในมหาสมุทรทำให้เกิดการฟอกสีปะการังที่สำคัญของแนวปะการังฮาวายในปี 2558 ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ของปะการังฟอกขาวของเกาะใหญ่เสียชีวิต

    คลื่นความร้อนทางทะเลยังนำสูงกว่าอุณหภูมิปกติบนบกในปี 2558

    “ 71 เปอร์เซ็นต์ของแผ่นดินถูกปกคลุมด้วยน้ำ และถ้านั่นคือความอบอุ่นเราอาจจะอบอุ่น "Chevy Chevalier นักอุตุนิยมวิทยาบริการสภาพอากาศแห่งชาติกล่าว
    ในช่วงฤดูร้อนนี้มีอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์เกือบ 200 ครั้งและอุณหภูมิเหล่านี้สัมพันธ์กับคลื่นความร้อนในมหาสมุทร

    และถ้าคุณคิดว่าฤดูร้อนนี้ร้อนแรง มันก็จะร้อนขึ้นอีก

    “ ฉันไม่ได้บอกว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ถ้าเหตุการณ์ในปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไปและเป็นไปตามการติดตามของเหตุการณ์ล่าสุด อุณหภูมิที่อุ่นกว่าจะเป็นปีหน้าในช่วงฤดูร้อน” Leising กล่าว

    "แผ่นดินนั้นร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เย็นลงและน้ำใช้เวลาในการทำให้ร้อนขึ้นและเย็นลงโดยเฉพาะในระดับความลึกดังนั้นจึงต้องใช้เวลาสักครู่ก่อนที่เราจะออกจากความร้อนนี้" Chevalier กล่าว .
    .....
    .....
    อย่างไรก็ตามไม่ทราบแน่ชัดว่าคลื่นความร้อนในปัจจุบันจะคงอยู่นานแค่ไหน แต่นักวิทยาศาสตร์มั่นใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้น

    “ มันเริ่มร้อนขึ้น” Chevalier กล่าว“ นักภูมิอากาศผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรวิทยาสมุทรศาสตร์คุณรู้ไหมทุกคนยอมรับว่ามันร้อนขึ้นและนั่นก็เป็นเพราะมันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”
    “ เราอาจต้องเปลี่ยนวิธีการคำนวณและพูดว่าอะไรคือคลื่นความร้อนเพราะในบางครั้งด้วยภาวะโลกร้อนนี้ในที่สุดทุกอย่างก็จะอบอุ่นกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว” Leising กล่าว “ ทุกสิ่งตลอดเวลาจะนับเป็นคลื่นความร้อนที่ไม่ต้องพูด ดังนั้นเราอาจต้องเปลี่ยน แม้แต่คำจำกัดความของเราว่าคลื่นความร้อนคืออะไร”

    https://www.hawaiinewsnow.com/2019/..._IozuqqhNvOSSq_BmftIK5IaTCDhGZW-KlyVSOQNS6WsM
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวช่องวัน

    ชุดสืบสวนเผย ผลชันสูตร 'ลัลลาเบล' เสียชีวิตจากการดื่มสุรา โดยพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 418 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย และไม่พบยีนหรือโครโมโซม หรือ สายดีเอ็นเอของผู้อื่นในร่างกาย #ข่าวช่องวัน


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jenna Hodgson
    เราเป็นพยานของสัญญานที่สองในสวรรค์ในวันที่ 23 กันยายน 2019 จากคัมภีร์ไบเบิล12:3 และหมายสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็ปรากฏในสวรรค์ นี่แน่ะ มีพญานาคสีแดงตัวใหญ่ตัวหนึ่ง มันมีเจ็ดหัวและสิบเขา และบนหัวทั้งเจ็ดมีมงกุฎเจ็ดอัน 4และหางของพญานาคตวัดดวงดาวหนึ่งส่วนสามในท้องฟ้า แล้วทิ้งลงมาบนแผ่นดินโลก และพญานาคตัวนั้นก็ยืนอยู่ข้างหน้าหญิงที่กำลังจะคลอดบุตร เพื่อจะกินบุตรของนางทันทีที่บุตรนั้นคลอดออกมา 5แล้วนางก็คลอดบุตรชาย ผู้ที่จะครอบครองประชาชาติทั้งหมดด้วยคทาเหล็ก แต่บุตรของนางถูกนำตัวไปเฝ้าพระเจ้ายังพระที่นั่งของพระองค์ 6และหญิงคนนั้นก็หนีเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร ที่นั่นนางมีสถานที่ซึ่งพระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ เพื่อนางจะได้รับการเลี้ยงดูตลอดหนึ่งพันสองร้อยหกสิบวัน
    7ขณะนั้นเกิดสงครามขึ้นในสวรรค์ มีคาเอล กับบรรดาทูตสวรรค์ของท่านต่อสู้กับพญานาค และพญานาคกับบริวารของมันก็ต่อสู้ 8แต่มันพ่ายแพ้และพบว่าไม่มีที่อยู่สำหรับพวกมันในสวรรค์อีกต่อไป 9พญานาคใหญ่ตัวนั้นคืองูดึกดำบรรพ์ ที่เขาเรียกกันว่ามารและซาตานผู้ล่อลวงมนุษย์ทั้งโลก มันถูกโยนลงมาที่แผ่นดินโลก และเหล่าบริวารของมันถูกโยนลงมากับมันด้วย

    ดวงจันทร์อยู่ในตำแหน่งฝาแฝดในวันนั้น ซึ่งคำปรากฏมีเพียงหนึ่งเดียวในไบเบิล หลังจากอ่านส่วนนี้แล้วคุณจะเข้าใจสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในตอนนี้และใครจะได้รับการบันทึกไว้ ฝาแฝดหมายถึงดีและเลว, รักและเกลียด, ชีวิตและความตาย

    โรมัน 9: 6 แต่ไม่ใช่ว่าพระวจนะของพระเจ้าได้ล้มเหลวไป เพราะว่าไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมาจากอิสราเอลนั้น เป็นคนอิสราเอลแท้ 7และไม่ใช่ทุกคนที่เป็นลูกของอับราฮัมเป็นเชื้อสายแท้ของท่าน แต่ว่าเขาจะเรียกเชื้อสายของท่านทางสายอิสอัค 8หมายความว่าคนที่เป็นลูกของพระเจ้านั้นไม่ใช่ลูกของเนื้อหนัง แต่เป็นลูกของพระสัญญา จึงจะถือว่าเป็นผู้สืบเชื้อสายได้ 9เพราะพระสัญญามีว่าดังนี้“เราจะมาตามฤดูกาล และนางซาราห์จะมีบุตรชาย” 10และไม่ใช่เท่านั้น แต่ว่านางเรเบคาห์ก็ได้มีบุตรสองคนจากสามีคนเดียวคืออิสอัคบรรพบุรุษของพวกเรา 11แม้ก่อนบุตรนั้นเกิดมา และยังไม่ได้ทำดีหรือชั่ว (เพื่อพระประสงค์ของพระเจ้าในการทรงเลือกนั้นจะตั้งมั่นคงอยู่ 12ไม่ใช่ตามการประพฤติ แต่ตามซึ่งพระองค์ทรงเรียก) พระองค์จึงตรัสแก่นางนั้นว่า “พี่จะปรนนิบัติน้อง” 13ตามที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “ยาโคบนั้นเรารัก แต่เอซาวเราชัง” 14ถ้าอย่างนั้น เราจะว่าอย่างไร? พระเจ้าไม่ทรงยุติธรรมหรือ? เปล่าเลย 15เพราะพระองค์ตรัสกับโมเสสว่า “เราประสงค์จะกรุณาใคร เราก็จะกรุณาคนนั้น และเราจะเมตตาใคร เราก็จะเมตตาคนนั้น” 16เพราะฉะนั้น ทุกสิ่งจึงไม่ขึ้นกับความตั้งใจหรือความมานะของมนุษย์ แต่ขึ้นอยู่กับพระเมตตาของพระเจ้า 17เพราะมีข้อพระคัมภีร์ที่กล่าวแก่ฟาโรห์ว่า “เพราะเหตุนี้เองเราจึงได้ตั้งเจ้าขึ้น เพื่อเราจะสำแดงฤทธานุภาพของเราให้ปรากฏทางตัวเจ้า และเพื่อให้นามของเราประกาศไปทั่วโลก” 18เพราะฉะนั้นพระองค์จะทรงพระเมตตาใคร ก็จะทรงพระเมตตาคนนั้น และพระองค์จะทรงให้ใครมีใจแข็งกระด้าง ก็จะทรงให้คนนั้นมีใจแข็งกระด้าง พระพิโรธและพระเมตตาของพระเจ้า 19แล้วท่านก็จะพูดกับข้าพเจ้าว่า “ถ้าอย่างนั้น ทำไมพระองค์ยังทรงติเตียน? ใครจะขัดขืนพระประสงค์ของพระองค์ได้?” 20มนุษย์เอ๋ย ท่านเป็นใครที่จะโต้ตอบกับพระเจ้า? สิ่งซึ่งถูกปั้นจะกล่าวแก่ผู้ปั้นได้หรือว่า “ทำไมท่านจึงปั้นข้าพเจ้าอย่างนี้?” 21ส่วนช่างปั้นหม้อ ไม่มีสิทธิเอาดินก้อนเดียวกัน มาปั้นเป็นภาชนะที่ใช้ในโอกาสพิเศษอันหนึ่ง และทั่วๆ ไปอีกอันหนึ่งหรือ? 22เป็นไปได้ไหมที่พระเจ้าทรงประสงค์จะแสดงพระพิโรธ และให้ฤทธิ์เดชของพระองค์ปรากฏ แต่พระองค์ทรงอดทนมากต่อคนเหล่านั้นที่เป็นภาชนะแห่งพระพิโรธ ซึ่งเตรียมไว้สำหรับความพินาศ? 23เพื่อจะได้ทรงให้ศักดิ์ศรีอันอุดมของพระองค์ปรากฏแก่บรรดาผู้ที่เป็นภาชนะแห่งพระเมตตา ซึ่งพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้ก่อนให้สมกับศักดิ์ศรีนั้น? 24คือเราที่พระองค์ได้ทรงเรียกมาแล้ว ไม่ใช่จากพวกยิวเท่านั้น แต่จากพวกต่างชาติด้วย 25ดังที่พระองค์ตรัสไว้ในพระคัมภีร์โฮเชยาว่า “เราจะเรียกเขาเหล่านั้นว่าเป็นชนชาติของเรา ซึ่งเมื่อก่อนเขาไม่ได้เป็นชนชาติของเรา และจะเรียกเขาว่าเป็นที่รัก ซึ่งเมื่อก่อนเขาไม่ได้เป็นที่รัก 26 และในสถานที่ซึ่งทรงกล่าวแก่เขาว่า ‘เจ้าทั้งหลายไม่ใช่ชนชาติของเรา’
    ในที่นั้นเองเขาทั้งหลายจะได้ชื่อว่า บุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ” 27และท่านอิสยาห์ได้ร้องประกาศเรื่องพวกอิสราเอลว่า “แม้พวกอิสราเอลจะทวีมากขึ้นเหมือนเม็ดทรายที่ทะเล แต่ผู้ที่จะรอดนั้นมีน้อย 28เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้า จะทรงให้เป็นไปตามพระดำรัสของพระองค์โดยเร็วพลันบนแผ่นดินโลก” 29และตามที่ท่านอิสยาห์ได้กล่าวไว้ก่อนว่า “ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าจอมทัพไม่ได้ทรงเหลือพงศ์พันธุ์ไว้ให้เราบ้าง เราก็จะเป็นเหมือนเมืองโสโดม และเมืองโกโมราห์”

    c_oc=AQkCBfSEpaB27vC-DfVQJgidKA9vEPZ0c8bnE3_p1cXiwmBjDgJ4_P7LWuWJxCPPVeQ&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg

    We are witnesses of the second sign in the heaven on September 23 2019 from the Bible Revelation 12 : 3 "Then another sign appeared in heaven: an enormous red dragon with seven heads and ten horns and seven crowns on its heads. 4 Its tail swept a third of the stars out of the sky and flung them to the earth. The dragon stood in front of the woman who was about to give birth, so that it might devour her child the moment he was born. 5 She gave birth to a son, a male child, who “will rule all the nations with an iron scepter.” And her child was snatched up to God and to his throne. 6 The woman fled into the wilderness to a place prepared for her by God, where she might be taken care of for 1,260 days. 7 Then war broke out in heaven. Michael and his angels fought against the dragon, and the dragon and his angels fought back. 8 But he was not strong enough, and they lost their place in heaven. 9 The great dragon was hurled down—that ancient serpent called the devil, or Satan, who leads the whole world astray. He was hurled to the earth, and his angels with him".
    The Moon is in TWINS position at that day, which word appears only ones in the Bible. After reading this part you'll understand what is going to happen now and who will be saved. TWINS means GOOD and BAD, LOVE and HATE, LIFE and DEATH.
    Romans 9 : 6 "It is not as though God’s word had failed. For not all who are descended from Israel are Israel. 7 Nor because they are his descendants are they all Abraham’s children. On the contrary, “It is through Isaac that your offspring will be reckoned.” 8 In other words, it is not the children by physical descent who are God’s children, but it is the children of the promise who are regarded as Abraham’s offspring. 9 For this was how the promise was stated: “At the appointed time I will return, and Sarah will have a son.” 10 Not only that, but Rebekah’s children were conceived at the same time by our father Isaac. 11 Yet, before the TWINS were born or had done anything good or bad—in order that God’s purpose in election might stand: 12 not by works but by him who calls—she was told, “The older will serve the younger.” 13 Just as it is written: “Jacob I loved, but Esau I hated.” 14 What then shall we say? Is God unjust? Not at all! 15 For he says to Moses, “I will have mercy on whom I have mercy, and I will have compassion on whom I have compassion.” 16 It does not, therefore, depend on human desire or effort, but on God’s mercy. 17 For Scripture says to Pharaoh: “I raised you up for this very purpose, that I might display my power in you and that my name might be proclaimed in all the earth.” 18 Therefore God has mercy on whom he wants to have mercy, and he hardens whom he wants to harden. 19 One of you will say to me: “Then why does God still blame us? For who is able to resist his will?” 20 But who are you, a human being, to talk back to God? “Shall what is formed say to the one who formed it, ‘Why did you make me like this?’”21 Does not the potter have the right to make out of the same lump of clay some pottery for special purposes and some for common use? 22 What if God, although choosing to show his wrath and make his power known, bore with great patience the objects of his wrath—prepared for destruction? 23 What if he did this to make the riches of his glory known to the objects of his mercy, whom he prepared in advance for glory— 24 even us, whom he also called, not only from the Jews but also from the Gentiles? 25 As he says in Hosea: “I will call them ‘my people’ who are not my people; and I will call her ‘my loved one’ who is not my loved one,” 26 and, “In the very place where it was said to them, ‘You are not my people,’ there they will be called ‘children of the living God.’” 27 Isaiah cries out concerning Israel: “Though the number of the Israelites be like the sand by the sea, only the remnant will be saved. 28 For the Lord will carry out his sentence on earth with speed and finality.” 29 It is just as Isaiah said previously: “Unless the Lord Almighty had left us descendants, we would have become like Sodom, we would have been like Gomorrah.”




    ttps://www.facebook.com/photo.php?fbid=951126705236949&set=a.178953582454269&type=3&theater
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2019
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘เลขาฯยูเอ็น’สวมบทเข้มเตรียมเปิดประชุม‘ซัมมิตภูมิอากาศ’วันจันทร์ ขณะรายงานฉบับใหม่ชี้ รอบ 5 ปีมานี้‘ร้อนที่สุด’เป็นประวัติการณ์
    เผยแพร่: 23 ก.ย. 2562 00:41 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000009439201.jpg

    อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ พูดกับสื่อมวลชนเรื่องโลกร้อน ขณะเข้าร่วมการประชุมซัมมิตกลุ่ม จี7 ที่เมืองเบียร์ริตซ์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ทั้งนี้เขาจะเป็นประธานการประชุม “ซัมมิตเพื่อการปฏิบัติการด้านภูมิอากาศ” ที่สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ ในนิวยอร์ก วันจันทร์ (23 ก.ย.) นี้

    เอพี/เอเจนซีส์ – เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตียร์เรส ประกาศว่า มนุษยชาติกำลังสงครามกับดาวเคราะห์ดวงนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีแผนจะปล่อยให้ผู้นำโลกคนไหนก็ได้ขึ้นพูดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ณ การประชุมพิเศษที่เป็น “ซัมมิตเพื่อการปฏิบัติการ” ในวันจันทร์ (23 ก.ย.) นี้

    เฉพาะผู้ที่มีแผนการใหม่ๆ, เฉพาะเจาะจง, และห้าวหาญเท่านั้น จึงจะมีสิทธิได้ขึ้นเวที และได้รับความสนใจจากโลกที่กำลังร้อนขึ้นทุกทีได้ กูเตียร์เรส บอก

    ดังนั้น ได้โปรดนั่งลงเถอะบราซิล นั่งลงเถอะ ซาอุดีอาระเบีย แล้วก็นั่งลงเถอะ โปแลนด์

    “คนที่สามารถขึ้นพูดได้ ก็เฉพาะถ้าพวกเขามาพร้อมกับขั้นตอนต่างๆ ในเชิงบวก นี่เหมือนกับเป็นตั๋วสำหรับขึ้นเวทีอย่างหนึ่ง” เลขาธิการใหญ่ยูเอ็น กล่าว “สำหรับข่าวร้ายๆ นั้น อย่ามาเลย”

    ราวกับว่าเป็นการตอกย้ำความสาหัสร้ายแรงของปัญหานี้ องค์การอุตุนิยมโลก ซึ่งเป็นองค์กรชำนัญพิเศษสังกัดสหประชาชาติ ได้เผยแพร่รายงานทางวิทยาศาสตร์ฉบับหนึ่งในวันอาทิตย์ (22) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ในช่วง 5 ปีที่สิ้นสุดปี 2019 ทั้งการที่อุณหภูมิสูงขึ้น, ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น, และมลพิษคาร์บอน ล้วนแล้วแต่เพิ่มทวีขึ้นทั้งนั้น

    ข้อเสนอของบราซิล, ของโปแลนด์, และของซาอุดีอาระเบีย ในเรื่องการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ยังไม่เพียงพอ ดังนั้นพวกเขาจะไม่ถูกบรรจุเอาไว้ในกำหนดการประชุมซัมมิตของวันจันทร์ (23) สำหรับสหรัฐฯนั้นยิ่งถึงขนาดไม่ได้มายุ่งเกี่ยวอะไรด้วย ทั้งนี้ตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ยูเอ็นผู้หนึ่ง ซึ่งพูดโดยขอให้สงวนนาม

    อย่างไรก็ดี มาตรฐานขนาดนี้ใช่ว่าจะสูงมากจนปีนข้ามกันไม่ไหว เพราะยังคงมีพวกผู้นำจาก 64 ชาติ, สหภาพยุโรป, บริษัทและแบงก์จำนวนสิบกว่าแห่ง, นครและรัฐบางแห่ง จะมาเสนอแผนการของพวกเขา ณ การประชุมซัมมิตเพื่อการปฏิบัติการด้านภูมิอากาศ” (Climate Action Summit) ของเลขาธิการใหญ่ยูเอ็นคราวนี้

    กูเตียร์เรสต้องการให้ชาติต่างๆ มีสถานะเป็นกลางในเรื่องคาร์บอนภายในปี 2050 --พูดง่ายๆ ก็คือ ชาติเหล่านี้จะไม่เพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจก (ที่เป็นตัวจับความร้อนให้อยู่ในบรรยากาศของโลก) ให้มากเกินกว่าปริมาณก๊าซเรือนกระจกซึ่งต้นไม้พืชพรรณทั้งหลาย และบางทีอาจจะเทคโนโลยีด้วย สามารถขจัดได้ในแต่ละปี ทั้งนี้ในวันอาทิตย์ (22) มี 87 ประเทศทั่วโลกให้คำมั่นสัญญาที่จะลดปริมาณคาร์บอนลงเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องเช่นนี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายด้านอุณหภูมิโลกที่เข้มงวดกวดขันที่สุดของประชาคมระหว่างประเทศ

    เลขาธิการใหญ่ยูเอ็น ยังต้องการให้ประเทศต่างๆ ให้คำมั่นสัญญาที่จะไม่สร้างโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินแห่งใหม่ๆ อีกภายหลังปี 2020 แล้ว และลดปริมาณมลพิษคาร์บอนลงให้ได้ 45% ภายในศตวรรษหน้า ขณะที่วัตถุประสงค์ของการประชุมซัมมิตในปีนี้ ก็คือให้มีข้อเสนอสีเขียวฉบับใหม่ออกมา 1 ปีก่อนหน้าปี 2020 ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายตามที่ระบุเอาไว้ในข้อตกลงภูมิอากาศปารีสปี 2015

    562000009439202.jpg

    ก้อนหินถูกนำมาเรียงเป็นตัวอักษร RIP (rest in peace สู่สุคติ) ระหว่างพิธีรำลึกซึ่งจัดขึ้นต่อหน้าธารน้ำแข็ง “ที่กำลังตาย” ของภูเขาปิโซล ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันอาทิตย์ (22 ก.ย.) พิธีนี้มีองค์การต่างๆ หลายหลากเข้าร่วม เพื่อเน้นย้ำถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และธารน้ำแข็งแห่งต่างๆ ที่กำลังละลายเนื่องจากโลกร้อนขึ้น

    บรรดาผู้นำทั่วโลกได้เคยตกลงกันไว้ในปี 2009 ที่จะรักษาไม่ให้อุณหภูมิของโลกสูงเกิน 2 องศาเซลเซียส เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้าโลกก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม จากนั้นในปี 2015 พวกเขาได้เพิ่มเป้าหมายขั้นที่สองซึ่งทำได้ยากเย็นยิ่งขึ้นไปอีก ตามคำเรียกร้องรบเร้าของพวกชาติที่เป็นหมู่เกาะขนาดเล็กๆ นั่นคือ รักษาไม่ให้อุณหภูมิของโลกสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส

    อย่างไรก็ดี รายงานฉบับใหม่ล่าสุดขององค์การอุตุนิยมโลกแสดงให้เห็นว่า เวลานี้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นไปแล้ว 1.1 องศาเซลเซียส ดังนั้นจึงหมายความว่า เป้าหมายต้องอยู่ที่การจำกัดไม่ให้สูงขึ้นไปเกินกว่าปัจจุบัน 0.9 องศาเซลเซียส หรือหากจะทำให้ได้ตามเป้าหมายขั้นที่สอง ก็ต้องไม่ให้สูงขึ้นไปเกิน 0.4 องศาเซลเซียส

    ความพยายามในการลดมลพิษคาร์บอน ก็จำเป็นจะต้องเพิ่มทวีขึ้น 3 เท่าตัว จึงจะสามารถประคับประคองไม่ให้อุณหภูมิสูงเกินขีด 2 องศาเซลเซียส และจะต้องเพิ่มทวีขึ้นเป็น 5 เท่าตัวทีเดียวจึงจะสามารถทำไม่ให้เกินขีด 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนหน้าโลกเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ตามรายงานขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก

    รายงานฉบับนี้ยังบอกด้วยว่า ช่วง 5 ปีหลังสุด (ปี 2015-2019) คือช่วง 5 ปีที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกเก็บสถิติกันมา และกระทั่งร้อนขึ้น 0.2 องศาเซลเซียส จากระยะครึ่งแรกของทศวรรษนี้ (ปี 2011-2015) ซึ่งต้องถือเป็นการพุ่งพรวดขึ้นไปมากทีเดียวในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปีเช่นนี้

    “มีการยอมรับกันมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า ผลกระทบต่างๆ ในเรื่องภูมิอากาศกำลังปรากฏให้เห็นอย่างหนักหน่วงยิ่งกว่า และรวดเร็วยิ่งกว่าการประเมินทางภูมิอากาศครั้งก่อนๆได้บ่งชี้เอาไว้ แม้กระทั่งการประเมินเพียงเมื่อ 1 ทศวรรษก่อนหน้านี้” รายงานความยาว 28 หน้าฉบับนี้บอก

    ถ้าโลกสามารถรักษาให้อุณหภูมิสูงขึ้นตามเป้าหมาย 1.5 องศาเซลเซียส แทนที่จะเป็นไปตามเป้าหมาย 2 องศาเซลเซียสแล้ว ก็จะมีผู้คนจำนวนน้อยลง 420 ล้านคนที่จะต้องเผชิญกับคลื่นความร้อน และจะมีผู้คนจำนวนน้อยลง 10 ล้านซึ่งจะเผชิญความเสี่ยงจากการที่ระดับน้ำทะเลขึ้นสูง ซินเธีย โรเซนสเวก นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศขององค์การนาซา พูดเมื่อวันอาทิตย์ (22) ณ การประชุมวาระหนึ่งของยูเอ็น

    ยังจะมีรายงานระหว่างประเทศฉบับใหญ่กว่านี้ ซึ่งพิจารณาเรื่องการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและมหาสมุทรตลอดจนธารน้ำแข็ง โดยมีกำหนดเผยแพร่ออกมาในวันพุธ (25) นี้ ซึ่งคณะผู้เขียนคือ คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change)

    “รายงานฉบับใหม่ขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความก้าวหน้าให้มากขึ้นอีกในเรื่องการลดไอเสียของคาร์บอนไดออกไซด์” นาตาลี มาโฮวัลด์ นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศขอมหาวิทยาลัยคอร์เนล กล่าว “หวังใจว่า การประชุมซัมมิตภูมิอากาศยูเอ็นครั้งล่าสุดนี้ จะกระตุ้นให้เกิดการปฏิบัติการเพิ่มมากขึ้นอีก”

    https://mgronline.com/around/detail...BfK2YglCoTb0uNDyfiswcYdrRd3t1qafQKrPhg_Mq6fKA
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    InPics&Clip: ดับ 5 รายในรัฐเทกซัส ท่วมหนักแทบมิดหลังคารถ สังเวย “โซนร้อนอีเมลดา” เผยแพร่: 22 ก.ย. 2562 13:45 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000009420401.jpg

    เอเจนซีส์ - ประชาชนในเมืองฮูสตันและทางใต้ของรัฐเทกซัสต้องเป็นครั้งที่ 2 ในรอบหลายปีที่รอให้น้ำท่วมสูงฉับพลันให้ลดระดับในวันศุกร์(20 ก.ย)เพื่อประเมินความเสียหายทรัพย์สิน หลังจากมีจำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 5 รายจากพายุโซนร้อนอีเมลดา

    NBC NEWS รายงานเมื่อวานนี้(21 ก.ย)ว่า มีหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากพายุโซนร้อนอีเมลดา (Tropical Storm Imelda) เป็นต้นว่ามีดินถล่มใน ฟรีพอร์ต(Freeport)วันอังคาร(17)และทำให้เกิดฝนตกอย่างหนัก

    สื่อสหรัฐฯรายงานว่า ในขณะที่ระดับน้ำท่วมสูงเริ่มที่จะลดในวันศุกร์(20)ในบางพื้นที่ของรัฐเทกซัส ทางเจ้าหน้าที่ได้รายงานมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอย่างน้อย 2 ราย ในเมืองโบมอนต์(Beaumont)และใกล้เคียง

    ซึ่งเมืองแห่งนี้มีประชากรอาศัยราว 118,000 คน ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองฮูสตัน รัฐเทกซัส

    การค้นพบล่าสุดในคลองของตัวเมืองและที่ถนนระหว่างเส้น I-10 ในเจฟเฟอร์สัน เคาน์ตี (Jefferson County)ส่งผลทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนทั้งหมด 5 ราย

    อีเมลดาได้ขึ้นฝั่งมาตั้งแต่วันอังคาร(17) และทำให้เกิดฝนตกหนักร่วมฟุตในบางพื้นที่ ส่งผลทำให้ต้องมีการช่วยเหลือประชาชนนับร้อยรายจากน้ำท่วมสูง

    มัลคอล์ม ฟอสเตอร์(Malcolm Foster) วัย 47 ปี ถูกพบเสียชีวิตภายในรถโตโยต้าพริอุสของตัวเองภายในลำคลองหลังจากระดับน้ำท่วมสูงเริ่มลดในเมืองโบมอนต์วันศุกร์(20) เมืองกล่าวผ่านแถลงการณ์

    ในค่ำวันพฤหัสบดี(19)บนถนนระหว่างรัฐเส้น I-10 ห่างจากเมืองไปทางตะวันตกราว 3 ไมล์ เจ้าหน้าที่ถูกเรียกตัวไปที่จุดเกิดเหตุและพบรถพร้อมศพอยู่ด้านในเป็นร่างของ มาร์ค ดูคาจ( Mark Dukaj) วัย 52 ปี แผนกความปลอดภัยสาธารณะประจำรัฐเทกซัส(Texas Department of Public Safety)กล่าวผ่านแถลงการณ์

    โดยเชื่อว่ารถปิคอัพได้หยุดลงระหว่างเกิดน้ำท่วมครั้งร้ายแรงในพื้นที่

    ด้านโฆษกประจำสำนักงานจัดการฉุกเฉินของฮูสตันเปิดเผยว่า พบว่าน้ำท่วมได้ลดระดับวันศุกร์(20) และมีการแจ้งเหตุเข้ามาทางหมายเลข 911 น้อยลง อ้างอิงรายงานจากเอพี

    แต่ถึงแม้ว่าพายุจะมีความร้ายแรงน้อยลงแต่ทางเจ้าหน้าที่แฮร์ริส เคาน์ตี (Harris County)เตือนว่า บางส่วนของประชากรทั้งหมด 4.7 ล้านคนอาจจะยังไม่เห็นระดับน้ำท่วมสูงลดในชุมชนของตัวเองจนกว่าจะถึงช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ไปแล้ว

    ผู้เสียชีวิตอีก 3 รายจากเหตุพายุโซนร้อนอีเมลดาเป็นต้นว่า ฮันเตอร์ มอร์ริสสัน(Hunter Morrison)วัย 19 ปีระหว่างที่พยายามจะย้ายม้ามายังพื้นที่สูง ทางครอบครัวกล่าวว่า เขาถูกไฟฟ้าช็อตและจมน้ำตาย

    พายุลูกนี้ถูกขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในพายุหมุนเขตร้อนที่ร้ายแรงในสหรัฐฯ และได้ทำให้เกิดฝนตกหนักกว่า 40 นิ้วใกล้บริเวณพรมแดนรัฐลุยเซียนา เอพีรายงาน มีคำจำนวนหลายร้อยต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

    วันพฤหัสบดี(19) ผู้ว่าการรัฐเทกซัส เกร็ก แอบบ็อตต์(Greg Abbott)ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทางภัยพิบัติใน 13 เคาน์ตี ได้แก่ บราโซเรีย(Brazoria) แชมเบอร์(Chambers) กัลเวสตัน( Galveston)ฮาร์ดิน(Hardin) แฮร์ริส( Harris) แจสเปอร์( Jasper)เจฟเฟอร์สัน(Jefferson) ลิเบอร์ตี( Liberty) มาทากอร์ดา(Matagorda)มองต์โกเมอรีย์(Montgomery) นิวตัน( Newton) ออเรนจ์ (Orange ) และ ซานฮาซินโต(San Jacinto)

    และมีรายงานว่าระดับน้ำในเมืองฮูสตันเริ่มลดลงแต่ยังพบการเตือนระดับน้ำท่วมสูงยังคงอยู่ที่แม่น้ำทางทิศตะวันออกของเมืองต่อไป รวมไปถึงพื้นที่เมืองโบมอนต์คืนวันศุกร์(20) อ้างอิงจากสำนักงานบริการสภาพอากาศสหรัฐฯ




    562000009420402.jpg

    562000009420403.jpg


    562000009420404.jpg


    562000009420405.jpg


    562000009420406.jpg


    562000009420407.jpg


    562000009420408.jpg


    562000009420409.jpg

    https://mgronline.com/around/detail/9620000091330
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คอลัมน์นอกหน้าต่าง: แม้การผลิตของซาอุดีฯป่วนหนักจากการถูกโจมตี แต่โลกไม่น่าต้องเจอปัญหาน้ำมันขาดแคลนและแพงลิ่ว
    เผยแพร่: 22 ก.ย. 2562 21:41 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000009428201.jpg

    ภาพถ่ายเมื่อวันศุกร์ (20 ก.ย.) ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นส่วนหนึ่งของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโรงกลั่นน้ำมันอับกอยก์ ของซาอุดีอาระเบีย ภายหลังถูกโจมตีในตอนเช้ามืดวันที่ 17 ก.ย. ทั้งนี้การถูกโจมตีคราวนี้ ทำให้การผลิตของซาอุดีอาระเบียลดลงไปราวครึ่งหนึ่ง และส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งพรวด

    ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งพรวดขึ้นมาอย่างฉับพลันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้หลายคนนึกคิดไปถึงภาวะการขาดแคลนเชื้อเพลิงซึ่งเป็นเสมือนฝันร้ายสยดสยองอย่างที่ได้เคยเกิดขึ้นมาสองสามครั้งในอดีต แต่สำหรับคราวนี้พวกนักวิเคราะห์บอกว่า เราไม่น่าจะได้เห็นภาพรถยนต์ในที่ต่างๆ ทั่วโลกต้องเข้าคิวเป็นแถวยาวเหยียดเพื่อเติมน้ำมันหรอก

    ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็คือ การถล่มโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำมันซึ่งทรงความสำคัญยิ่งในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันที่ 14 กันยายน ทำให้ประเทศที่เป็นซัปพลายเออร์หลักของโลกแห่งนี้ ผลิตน้ำมันออกมาได้เพียงแค่ราวครึ่งเดียวของปริมาณปกติของตน

    ข่าวนี้ส่งผลให้น้ำมันดิบชนิด “เบรนต์” เหินฟ้ามีราคาสูงขึ้นถึง 15% ในเวลาชั่ววันเดียว

    ต่อจากนั้นราคาก็มีการขยับลดต่ำลงมาบ้าง จนถึงเมื่อวันศุกร์ (20 ก.ย.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการซื้อขายในสัปดาห์ที่แล้ว ราคาอยู่แถวๆ บาร์เรลละ 65 ดอลลาร์

    พิจารณาจากเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันซึ่งกำลังอยู่ในอาการชะลอตัว ขณะที่น้ำมันดิบซึ่งผลิตกันออกมาทั่วโลกก็ยังคงมีปริมาณเหลือล้น ดังนั้นลู่ทางโอกาสที่มันจะไต่ขึ้นไปถึงบาร์เรลละ 100 ดอลลาร์ จึงดูไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่างน้อยที่สุดเมื่อดูจากในเวลานี้

    แฮร์รี ชีลินกุยเรียน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ ของธนาคาร บีเอ็นพี ปาริบาส์ อธิบายว่า โลกในเวลานี้ โดยสาระสำคัญแล้วมีการเตรียมตัวที่ดีขึ้นมากมายในการรับมือกับภาวะช็อกในเรื่องน้ำมัน เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงทศวรรษ 1970

    ทั้งนี้ เมื่อครั้งปี 1973 หลังจากองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันปิโตรเลียม (โอเปก) ประกาศมาตรการห้ามส่งออกให้แก่พวกชาติพันธมิตรของอิสราเอล ในระหว่างที่กำลังเกิด “สงครามยมคิมปูร์” ระหว่างบรรดาชาติอาหรับกับอิสราเอล และเมื่อครั้งปี 1979 ภายหลังจากการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน ปรากฏว่าราคาน้ำมันดิบกระโจนขึ้นโด่งทะลุฟ้าภายในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือน ทำให้เศรษฐกิจของพวกประเทศพัฒนาแล้วทางโลกตะวันตก รวมทั้งประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ซึ่งไม่ได้มีทรัพยากรน้ำมันของตนเอง ต่างย่ำแย่ไปตามๆ กัน

    562000009428202.jpg

    ภาพถ่ายเมื่อวันศุกร์ (20 ก.ย.) ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นส่วนหนึ่งของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ่อน้ำมันและโรงแปรรูปน้ำมันคูไรส์ ของซาอุดีอาระเบีย ภายหลังถูกโจมตีในตอนเช้ามืดวันที่ 17 ก.ย.

    พึ่งพาอาศัยน้ำมันลดน้อยลง

    “ปัจจุบัน ภาวะช็อกทางด้านน้ำมัน ยากนักหนาที่จะสามารถส่งผลกระทบซึ่งสร้างความวิบัติในระดับเดียวกันนั้นขึ้นมาอีก” เนื่องจากประเทศต่างๆ ต่างมีประสบการณ์ต่างมีความคุ้นเคยกับเหตุการณ์แบบนี้แล้ว ทีมนักเศรษฐศาสตร์ที่ธนาคารคอมเมอร์ซแบงก์ อธิบายเอาไว้ในรายงานสั้นฉบับหนึ่งที่ส่งถึงลูกค้า

    ขณะเดียวกัน “พวกธนาคารกลางจะไม่แสดงปฏิกิริยาตอบโต้ภาวะช็อกจากการขาดแคลนซัปพลายเช่นนี้ ด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากมาย เพราะคิดไปว่าจะต้องสู้รบปรบมือกับอัตราเงินเฟ้อที่กำลังสูงขึ้นเสียก่อน” รายงานสั้นชิ้นนี้ระบุ

    อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญที่สุดอยู่ที่ว่า เศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในเวลานี้ยังพึ่งพาอาศัยน้ำมันลดน้อยลงกว่าในอดีต

    ตัวอย่างเช่น การบริโภคน้ำมันในสหรัฐฯ ได้เพิ่มสูงขึ้นจาก 17.3 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อปี 1973 เป็น 20.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2018 เท่ากับว่าเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 18% แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริง (จีดีพีหักอัตราเงินเฟ้อ) ของประเทศนี้มีการขยายตัวเติบโตพรวดพราดถึง 230%

    ในเยอรมนีก็ทำนองเดียวกัน เมื่อถึงปี 2018 ครัวเรือนต่างๆ ใช้จ่ายในเรื่องเชื้อเพลิงคิดเป็นอัตราส่วนแค่ 2.6% ของรายรับของพวกเขาเท่านั้น

    ประเทศจำนวนมากทีเดียว ยังได้ก้าวไปไกลแล้วจากสภาพที่เดิมเคยบริโภคน้ำมันอย่างมากมาย เรื่องนี้ต้องขอบคุณทั้งการขนส่งและอุตสาหกรรมมากแขนงซึ่งมีการปรับปรุงยกระดับการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ เวลาเดียวกันก็มีแหล่งพลังงานตัวเลือกอื่นๆ ที่มีบทบาทเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่น แก๊สธรรมชาติ หรือพวกพลังงานหมุนเวียนทั้งหลาย

    กระทั่งเมื่อตอนที่ราคาน้ำมันขึ้นไปสูงจนอยู่เหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอยู่นาน ในช่วงระหว่างปี 2011 ถึง 2014 มันก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจตามที่ต่างๆ ของโลกพังทลายลงมา นอกจากนั้นแล้ว โลกในเวลานี้ยังได้ลดการพึ่งพาอาศัยเหล่าผู้ผลิตรายยักษ์เพียงไม่กี่รายอีกด้วย

    562000009428203.jpg

    ป้ายขนาดใหญ่แสดงราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในเมืองวาเลนซุเอลา ซึ่งเป็นชานเมืองทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันอังคาร (17 ก.ย.) ทั้งนี้ราคาน้ำมันโลกได้พุ่งพรวดตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันและบ่อน้ำมันในซาอุดีอาระเบียในวันเดียวกันนั้น

    ตั้งแต่วิกฤตการณ์น้ำมันครั้งแรกในปี 1973 แล้ว มันก็ได้นำไปสู่การจัดตั้งสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ขึ้นเมื่อปี 1974 ซึ่งได้ตั้งเงื่อนไขข้อกำหนดให้บรรดาประเทศสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) ทั้งหลาย จะต้องสำรองน้ำมันเอาไว้ให้ได้อย่างน้อยที่สุดเท่ากับปริมาณการนำเข้าสุทธิน้ำมันดิบของตนในระยะเวลา 90 วัน

    ชิลินกุยเรียนชี้ว่า ในอีกด้านหนึ่ง เวลานี้การผลิตน้ำมันของโลกยังได้กระจายออกไปยังภูมิภาคอื่นๆ นอกเหนือจากตะวันออกกลาง เป็นต้นว่า การผลิตน้ำมันในทะเลเหนือซึ่งกระทำมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980, การสำรวจหาแหล่งน้ำมันใต้ทะเลลึกบริเวณนอกชายฝั่งแอฟริกาตะวันตกและบราซิล, และการสกัดเอาน้ำมันดิบจากแหล่งทรายน้ำมันในแคนาดา

    สหรัฐฯ ซึ่งเคยต้องพึ่งพาน้ำมันนำเข้าอย่างมหาศาลมาเป็นเวลายาวนาน บัดนี้ได้กลายเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกรายใหญ่รายหนึ่ง โดยที่สำคัญต้องขอบคุณความสามารถในการสกัดเอาน้ำมันดิบจากแหล่งหินน้ำมัน ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ

    ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ล้วนมีส่วนช่วยทำให้สิ่งต่างๆ ยังคงสามารถเดินหน้าไปอย่างราบรื่น ถึงแม้เกิดเหตุการณ์ซึ่งเป็นตัวก่อกวนใหญ่ต่อการผลิตน้ำมัน อย่างการโจมตีสิ่งปลูกสร้างสำคัญทางด้านน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย

    อลัน เกลเดอร์ ผู้ชำนาญการเรื่องผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นแล้ว ของ วู้ด แมคเคนซี ถึงขั้นมองว่า จากสภาพที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ประเทศเฉกเช่นซาอุดีอาระเบีย บางทีอาจจะไม่ตัดสินใจระงับการส่งออกน้ำมันของตนโดยสมัครใจอีกแล้ว “เนื่องจากตนเองอาจสูญเสียฐานะในการเป็นซัปพลายเออร์ที่ไว้วางใจได้ไปเลย” หากกระทำเช่นนั้น

    อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ภาวะช็อกด้านน้ำมันที่ก่อให้เกิดผลพวงในทางวิบัติหายนะติดตามมา ไม่น่าที่จะเกิดขึ้นได้อีกแล้ว แต่ แอนดรูว์ เลโบว์ ผู้ชำนาญการตลาดน้ำมันของกลุ่มวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ “คอมโมดิตี้ รีเสิร์ช กรุ๊ป” ก็เตือนว่า เราไม่สามารถพูดได้หรอกว่าความเสี่ยงในเรื่องนี้อยู่ในระดับเหลือเท่ากับศูนย์แล้ว

    “โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเกิดสงครามใหญ่ระเบิดขึ้นมาซึ่งมีการปิดช่องแคบฮอร์มุซ” เขาบอกโดยย้ำว่า ช่องแคบฮอร์มุซเป็นช่องทางเดินเรือทะเลที่ผลิตภัณฑ์น้ำมันปิโตรเลียมซึ่งขนส่งทางทะเลถึงจำนวนราวหนึ่งในสามของทั้งหมดทีเดียว จะต้องแล่นผ่าน

    ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของคอมเมอร์ซแบงก์ กล่าวเตือนทำนองเดียวกันว่า “ไม่ควรประมาณการให้ต่ำเกินไป” เกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้จากภาวะช็อกด้านน้ำมัน

    พวกเขาชี้ว่า เราต้องไม่ลืมว่า ปัจจุบันประเทศต่างๆ จำนวนมากกำลังต้องต่อสู้ดิ้นรนกับปัญหาต่างๆ มากมายอยู่แล้ว เวลาเดียวกันพวกธนาคารกลางทั้งหลายก็แทบไม่เหลือช่องทางสำหรับการยักย้ายถ่ายเทใดๆ นัก ในการเข้าช่วยเหลือประคับประคองพวกประเทศที่เศรษฐกิจจะถูกกระทบหนักจากภาวะช็อกด้านน้ำมัน

    (เก็บความจากเรื่อง Despite Saudi turmoil, new oil shock unlikely
    ของสำนักข่าวเอเอฟพี)

    https://mgronline.com/around/detail/9620000091449
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MGROnline Live
    พัทยา-นาจอมเทียน เสี่ยงสังเวยโปรเจกต์ยักษ์ “สุริยะ” สั่งถมทะเลแหลมฉบังสนองทุนต่างชาติ

    อะไรจะเกิดขึ้นหากถมทะเล 3,000 ไร่ ที่แหลมฉบัง!? นักวิชาการสิ่งแวดล้อม ชี้พัทยา-นาจอมเทียน เสี่ยงสิ้นสภาพ ทรัพยากรชายฝั่ง อาชีพประมงที่สืบทอดกันมาชั่วลูกชั่วหลาน ล่มสลายไม่มีพื้นที่ทำกินในทะเลเหลือ

    คลิก>>https://mgronline.com/local/detail/9620000091514
    562000009443601.jpg
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปศุศาสตร์ นิวส์ : Magazine Online ด้านปศุสัตว์


    โรค ASF ในสุกร ที่เป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้ “ไม่ติดต่อสู่คน” เฉพาะในสุกรเท่านั้น วอนชาวโซเชี่ยลแชร์อย่างมีสติ
    D8DA7EFA-39E1-4DB0-AA24-59F8EB487130-1210x642.jpg
    #หมูกินได้ปลอดภัย
    #ASF #หมู #สุกร #ปศุศาสตร์นิวส์

    http://pasusart.com/asf-ไม่ติดต่อสู...p0FiqHAg_CCitqd_awLK2MbHl_eESjTHWnu2ll6E-4xwE
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผลกระทบ "ภาวะโลกร้อน" รุนแรงขึ้น
    12:49 | 23 กันยายน 2562 |

    G0DL5oPyrtt5HBAi4oAgjAT8h2JkN1eWXCewsXxeYM64A5Nw3HTNY1.jpg

    หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาขององค์การสหประชาชาติเผยแพร่รายงานชี้ชัดว่าผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้นำโลกร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

    เมื่อวานนี้ (22 ก.ย. 2562) องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization-WMO) เผยแพร่รายงานทางวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าปัญหาภาวะโลกร้อน, ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นและการปล่อยแก๊สเรือนกระจก เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมาจนถึงในปีนี้

    TSNBg3wSBdng7ijM75P8btWjebjgHdUNyQZCJjmBS0j.jpg

    รายงานฉบับดังกล่าว ระบุว่านานาชาติต้องเพิ่มความพยายามขึ้นเป็น 3 เท่า ในการควบคุมไม่ให้อุณหภูมิสูงถึง 2 องศาเซลเซียสและเพิ่มความพยายามอีก 5 เท่า ในการควบคุมไม่ให้อุณหภูมิเกิน 1.5 องศาเซลเซียส

    การเผยแพร่รายงานฉบับดังกล่าวเป็นการส่งสารไปถึงการประชุมสมัยพิเศษว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ของผู้นำจาก 60 ประเทศทั่วโลก ที่นครนิวยอร์กในวันนี้ เพื่อแสดงจุดยืนในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

    ขณะที่อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เรียกร้องให้ผู้นำแต่ละประเทศนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว ตลอด 10 ปีข้างหน้าอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อปูทางไปสู่ภาวะปลอดคาร์บอน ในปี 2593

    โดยผู้นำจีน อินเดีย ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ รวมทั้งเกรตา ทุนเบิร์กจะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่ผู้นำสหรัฐอเมริกา บราซิล ซาอุดิอาระเบีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลียไม่ได้ร่วมกล่าวสุนทรพจน์แต่อย่างใด


    https://news.thaipbs.or.th/content/...OEaJxOU7va84L3THeWwwtSVlpANCDUsDrlTIQuGsK0_5k
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    WisdomNews
    #ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น บริเวณท่าน้ำหลังวัดท่าเรือ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี น้ำจากแม่น้ำแม่กลองเอ่อล้นเข้าท่วมบนถนนเลียบชายน้ำ และมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีฝนตกตลอดทั้งวัน

    #เพจวัดท่าเรือท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี

    c_oc=AQmx-GLTJLVsO667WVAAvTQTrZsb570qiJSzv6mc4Yz0fo4vDoqOZHPNHhwFjzfxn3I&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg

    c_oc=AQlekd0C44wxPq1DnVlfUj1p1_6sEdwQQ5yua7stmA2hijCfZcWk7VvTATW7CwiqjqM&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg

    c_oc=AQklXLZ5eI-BCVbu6kZbDwQs8Bo2FL-w0SwQcpZlco8sWD_8hDUlWfxwHqRYv-rn8l8&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chanwis Winthasiri

    ระดับน้ำแม่น้ำมูล เวลา 14:00น. 144.63ม.(รทก.) น้ำยังทรงตัวอยู่ครับ
    c_oc=AQmgsXQ7Tj8G5vVuiKmKq1PUelQfrvuH1_PtzYhTiKKkF8Q-GozA02g47YkXghimV2Y&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ekarat Chuanchoomchun

    c_oc=AQmC_W7OzJcPaqmy-ESHKGtzTYTyOqsNhOgOYpqz7VUk0Xdsw_Hzkt72mHKVxrvbPVc&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg


    เมื่อเวลา08.00น. วันนี้23 กันยายน พ.ศ.2562
    อาสา.สมาคม วี.อาร์กู้ชีพสุรินทร์ จุด อ.ปราสาท ได้รับแจ้งจาก”พี่ทอง”กู้ชีพโชคนาสาม อ.ปราสาท ถึงสถานการณ์น้ำท่วมและระดับน้ำยังคงไหลท่วมพื้นที่ไร่นาของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดถนนเส้นบ้านมะเมียงใต้ ม.12 มุ่งหน้าผ่านหน้าวัดตะเพรา ม.8 ณ.ตอนนี้รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ในพื้นที่ระดับน้ำไหลผ่านท่วมถนนสูงขึ้นระดับประมาณ1.เมตร จึงประสานมาทาง อาสา วีอาร์กู้ชีพ จุด อ.ปราสาท ขอทีมพร้อมเรือท้องแบนเข้าสนับสนุนประชาชนและนักเรียนที่ต้องสัญจรใช้เส้นทางดังกล่าวในพื้นที่ เด็กนักเรียนต้องเดินทางไปโรงเรียนต้องเบี่ยงใช้เส้นทางสายอื่นระยะทางอ้อมกว่า10กิโล

    เมื่อบ่ายโมงวันที่ 22/9/62 บ.ตะเพรา ม.8 บ.มะเมียงใต้ ม.12 ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าเทือกเขาพนมดงรักไหลลงฝายกังเก็บน้ำห้วยมะเมียงใต้ เอ่อล้นทำให้พนักกั้นน้ำเริ่มผุพังและมีน้ำไหลเข้าท่วมถนนเส้นหลักและไหลเข้าท่วมพื้นที่ไร่นาของชาวบ้าน จากเมื่อตอนบ่ายระดับน้ำท่วมถนนรถยนต์สามารถสัญจรผ่านได้อย่างต่อเนื่องและ ณ.เวลานี้ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำให้รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรใช้เส้นทางดังกล่าวได้

    จึงขอความอนุเคราะห์เรือท้องแบนลำใหญ่จากสมาคมวีอาร์สุรินทร์ และมอบหมายงานให้ทีมอาสา.สมาคม วี.อาร์กู้ชีพสุรินทร์ จุด อ.ปราสาท พร้อมทีมกู้ชีพทางน้ำ อาสา.วีอาร์ จุด อ.ปราสาท พร้อมทีมกู้ชีพโชคนาสาม เข้าสนับสนุนช่วยเหลือในพื้นที่พร้อมติดตามการรายงานสถานการณ์น้ำอยู่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามบ้านเรือนประชาชนยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด.ที่ได้รับผลกระทบคือพื้นที่ไร่นาและถนนเส้นหลักที่ชาวบ้านในชุมชนใช้สัญจรเป็นประจำ
    ข้อมูลภาพข่าว//พิราบ39.
    ทีมข่าว33.สุรินทร์ รายงาน

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MOREMOVE

    #มอร์มูฟสาระ เรื่องต้องรู้!!! หากคุณเป็นคนที่ต้องทำงานอยู่แต่ในตึกสูงหรืออาคารที่เปิดเครื่องปรับอากาศทั้งวัน อย่าคิดว่าปลอดภัย-ไม่เสี่ยง เพราะการที่ต้องทำงานอยู่ในสภาวะเช่นนั้นนานๆ อาจก่อให้เกิดภาวะสุขภาพที่เรียกว่า Sick Building Syndrome (SBS) หรือ 'อาการแพ้ตึก' อนึ่ง องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ผู้ที่ทำงานในสำนักงาน อาคารเก่า หรือสร้างมานาน จะมีโอกาสเกิดอาการมากกว่าคนที่ทำงานในอาคารใหม่ถึงร้อยละ 30 ซึ่ง WHO ระบุให้โรคนี้เป็นภาวะคุกคามสุขภาพคนทำงานที่รุนแรง โดยอาการแพ้ตึกจะมีอาการไล่เรียงตั้งแต่ไม่สบายตัว เวียนศีรษะ ปวดหัว แสบตา ระคายเคืองจมูกและคอ ไอแห้งๆ หายใจลำบาก อาเจียนและอ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งอาการ SBS ส่งผลต่อผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ และระบบประสาท หากคุณมีโรคทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด เมื่อมีอาการ SBS อาการประจำตัวของคุณจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น

    สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ตึก คือ 1) การระบายอากาศไม่ดี - การที่ตึกมีการปิดประตูและหน้าต่างมิดชิดโดยเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ทำให้การถ่ายเทอากาศมีน้อย ส่งผลให้ภายในห้องขาดอากาศบริสุทธิ์ 2) เชื้อโรค - การที่มีคนแออัดอยู่รวมกันในสถานที่เดียวกันเป็นเวลานานๆ เป็นเรื่องง่ายที่ทำให้เกิดโรคติดต่อจากการไอ จาม ส่งผลให้เชื้อโรควนเวียนกระจายอยู่ทั่วตึก และ 3) ภัยจากอุปกรณ์ภายในห้อง - เครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ ม่าน เพดาน พรม ที่มีความสกปรกไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างถูกสุขอนามัย ก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่พบว่า ผู้ที่ทำงานในกรุงเทพมหานครซึ่งอยู่ในอาคารสูงปิดทึบ มีระบบปรับอากาศและระบายอากาศที่ไม่ดี ทำให้พบอาการ SBS ปรากฏขึ้นทุกสัปดาห์ถึงร้อยละ 20.
    --------------------------------------------
    อ่านต่อ : https://www.facebook.com/futuretrends.th/photos/a.472084116491372/926694561030323/?type=3&theater

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวกบินทร์บุรี

    ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
    "สภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 26 กันยายน 2562) "
    ฉบับที่ 16 ลงวันที่ 22 กันยายน 2562

    c_oc=AQlPRZ7XPYJuTCGiahigQaQ7RUnhnPgsjHcCAKt_iVByXLQb9AjCnegs1EFBl0OOCLk&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวอินโดนีเซียที่ประสบปัญหาระบบทางเดินหายใจจากไฟป่าเกือบ 1 ล้านคน โดยที่มาเลเซียสิงคโปร์ ไทย และฟิลิปปินส์ได้รับผลกระทบเช่นกัน

    Indonesians suffering respiratory problems from wildfires reaches almost 1 million with Malaysia Singapore Thailand and the Philippines affected too

     

แชร์หน้านี้

Loading...