ติดตามสถานะการณ์

'ไข่ไก่ไทย' ขาดตลาด แต่ไปโผล่สิงคโปร์ 3 แสนฟอง?!


26 มีนาคม 2563 | โดย กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ในช่วงที่ไข่ไก่ในไทยเริ่มขาดตลาด ก็มีรายงานว่าสิงคโปร์ได้รับไข่ไก่นำเข้าจากไทย 3 แสนฟอง ซึ่งเป็นล็อตก่อนรัฐบาลไทยสั่งห้ามส่งออก ขณะที่รัฐบาลแดนลอดช่องกำลังเพิ่มการนำเข้าไข่ไก่และอาหารจากประเทศอื่น ๆ

เว็บไซต์สเตรทไทม์ส รายงานว่า วานนี้ (25 มี.ค.) ชาน ชุน ซิง รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ เดินทางไปที่สนามบินชางงีเพื่อรับ “สินค้านำเข้าพิเศษ” คือไข่ไก่ราว 3 แสนฟองจากไทยที่ส่งมากับเครื่องบินขนส่งสินค้าของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส

ชานระบุว่า ประมาณ 1 ใน 4 ของไข่ไก่ที่บริโภคในสิงคโปร์ผลิตเองในประเทศ และอีกจำนวนมากนำเข้ามาจากมาเลเซีย

รายงานระบุว่า ราว 70% ของไข่ไก่ในสิงคโปร์นำเข้ามาจากมาเลเซีย ซึ่งประกาศมาตรการล็อกดาวน์เมื่อวันพุธ ทำให้บางส่วนกังวลว่าปริมาณไข่ไก่ในสิงคโปร์อาจไม่เพียงพอกับความต้องการ

“อย่างไรก็ตาม เรายังมีอีกหลายประเทศในการนำเข้าไข่ไก่ ซึ่งเราก็พึ่งพามาแล้วหลายปี และสามารถสั่งนำเข้าได้ทันทีเมื่อมีความต้องการเพิ่มขึ้น” ชานเผย “ไม่ใช่แค่ไข่ไก่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าจำเป็นอื่น ๆ”

นอกจากไทยแล้ว รัฐบาลสิงคโปร์ยังนำเข้าไข่ไก่จากญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

• ไข่ไก่ไทยกับการส่งออก

ไข่ไก่ส่งออกไปสิงคโปร์จำนวน 3 แสนฟองดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประกาศห้ามส่งออกเพื่อควบคุมการขาดตลาดของไข่ไก่ โดยจะออกประกาศห้ามการส่งออกไข่ไก่ออกนอกราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น มีผลตั้งแต่วันนี้ (26 มี.ค.) เป็นต้นไป


รัฐบาลจะทดลองมาตรการนี้เป็นเวลา 7 วันก่อนและจะประเมินสถานการณ์ว่าดีขึ้นหรือไม่ หากพบว่าไม่ดีขึ้นจะมีการพิจารณาอีกครั้งโดยอาจจะมีการขยายเวลาประกาศดังกล่าว



จุรินทร์ เสริมว่า ปกติ ประเทศไทยผลิตไข่ไก่เฉลี่ยวันละประมาณ 40 ล้านฟอง ส่วนใหญ่จะบริโภคในประเทศเป็นหลัก ซึ่งบางช่วงอาจจะล้นหรือขาดตลาด เช่น ปีที่ผ่านมาล้นตลาดจนรัฐบาลต้องช่วยส่งออกอุดหนุนฟองละ 40 สตางค์ แต่ในช่วงเวลาปัจจุบันมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการที่เข้มข้นขึ้นของรัฐบาลทำให้ประชาชนเป็นกังวล

"จากการสำรวจความต้องการพบว่าเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า และพบว่าในห้างสรรพสินค้ามีการจำหน่ายจาก 100 ส่วน ขาย 3 วันเป็น 1 วันหมด ทำให้ไข่ไก่ขาดตลาดในบางช่วงบางเวลา" รัฐมนตรีพาณิชย์เผย

• โควตาส่งออกสิงคโปร์พุ่ง

วันนี้ ประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ผลผลิตไข่ไก่ในประเทศอยู่ที่ปีละกว่า 15,000 ล้านฟอง หรือประมาณวันละ 41 ล้านฟอง ในจำนวนนี้ 95% ใช้บริโภคภายในประเทศ หรือวันละประมาณ 39 ล้านฟอง เหลือสำหรับส่งออกวันละ 1-2 ล้านฟอง

https://www.bangkokbiznews.com/news...cations&utm_campaign=3&utm_content=&utm_term=

 

ราคาน้ำมันดิ่งหนักหลังสหรัฐพับแผนซื้อน้ำมันใส่คลังสำรอง

27 มีนาคม 2563
วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพฤหัสบดี(26มี.ค.) ดิ่งลงกว่า 7% หลังมีข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐยุติแผนซื้อน้ำมันกักเก็บในคลังสำรอง เนื่องจากสภาคองเกรสไม่อนุมัติงบประมาณ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 1.89 ดอลลาร์ หรือ 7.7% ปิดที่ราคา 22.60 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 1.01 ดอลลาร์ หรือ 3.69% ปิดที่ราคา 26.43 ดอลลลาร์/บาร์เรล

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐประกาศยุติแผนการซื้อน้ำมันเพื่อกักเก็บในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (เอสพีอาร์) เนื่องจากสภาคองเกรสไม่อนุมัติงบประมาณในการดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งอาจสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ โดยเมื่อวันที่ 19 มี.ค. กระทรวงพลังงานสหรัฐแถลงว่า กระทรวงฯจะเข้าซื้อน้ำมันจำนวน 30 ล้านบาร์เรลเพื่อกักเก็บในเอสพีอาร์

การดำเนินการดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าจะดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตน้ำมันสหรัฐที่ได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของราคาน้ำมันในระยะนี้ โดยรัฐบาลสหรัฐ มีแผนที่จะซื้อน้ำมันดังกล่าวจากผู้ผลิตขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยจะซื้อทั้งน้ำมันดิบแบบ sweet และ sour

สหรัฐ กักเก็บน้ำมันสำรองในเอสพีอาร์ที่อยู่ในรัฐเท็กซัส และหลุยเซียนา โดยเอสพีอาร์จะสามารถกักเก็บน้ำมันได้อีก 77 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งการทำสงครามราคาระหว่างซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย

ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบีย ประกาศทำสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ต้องการให้ผู้ผลิตน้ำมันลดกำลังการผลิตอีก 1.5 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ โดยรัสเซีย ยืนยันจุดยืนเดิมที่ต้องการให้ผู้ผลิตน้ำมันปรับลดกำลังการผลิตตามโควตาเดิมในขณะนี้ต่อไปจนถึงสิ้นสุดไตรมาส 2

https://www.bangkokbiznews.com/news...ce=slide_topnews&utm_medium=internal_referral

 

Too Young to Die
ภาพจากดาวเทียม แสดงถึงมลพิษที่ลดลง หลังการปิดโรงงาน ลดการคมนาคมเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโคโรนาไวรัส

ภาพจากดาวเทียม ESA’s Sentinel -5P แสดงให้เห็นถึงช่วงเวลา 6 อาทิตย์ที่ผ่านมา ปริมาณ NO2 ทั่วเมืองและย่านอุตสาหกรรมในเอเชียและยุโรปลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับปี 2019

NO2 มาจากเครื่องยนต์รถ โรงงานอุตสาหกรรม เตาปฏิกรณ์ต่างๆ ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์ อีกทั้งยังเป็นก๊าซเรือนกระจก ที่เพิ่มความร้อนให้กับโลกทุกวันนี้

Paul Monks , Professor ด้านมลพิษทางอากาศจาก University of Leicester กล่าวว่า “ นี่เป็นการสำรวจที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา และนี่อาจจะเป็นบทเรียนที่เราควรทบทวนใหม่ว่า อนาคตเราจะสามารถปรับปรุงเศรษฐกิจไปในทิศทางlow carbon ได้หรือไม่ เพื่อความอยู่รอดในอนาคต “

การลดมลพิษ สามารถช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตแก่ประชาชน มลพิษจะทำให้ผู้คนติดเชื้อไวรัสง่ายขึ้น จากกลไกการอักเสบของร่างกายและภูมิคุ้มกันที่ลดลง องค์กร World Health Organization กล่าวว่า ถ้าค่าความเข้นข้น NO2 สูงกว่า 200 microgram /m3 จะทำให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินหายใจอย่างมีนัยสำคัญ ขณะนี้ WHO กำลังตรวจสอบว่า NO2 สัมพันธ์กับการเร่งการแพร่กระจายของ covid-19 หรือไม่

https://www.theguardian.com/…/coronavirus-pandemic-leading-…

 

“การเปลี่ยนแปลงของระเบียบโลก” และ “3 คำถามทีต้องตอบให้ได้ในเวลานี้” ในมุมมองของ Ray Dalio
.

#ลงทุนนอกโลก โดยเพจ #ถามอีกกับอิก
.
ช่วงนี้ให้ความรู้กันรัวๆมากครับ ยาวมากแต่อ่านแล้วช่วยเสริมมุมมองและจะเข้าใจเลยว่าทำไมเฮีย ถึงทำผลตอบแทนได้ดีเสมอมา
.
ไปลุยอ่านกันเลยครับ
.
ปล.ถ้าชอบเนื้อหาของ เพจ “ถามอีก กับอิก” ฝากกด Like กด share และกด See First จะได้ไม่พลาดทุกข้อมูลที่พวกเราตั้งใจทำให้ครับ
.
================
.
มาลุยภาพรวมกันก่อนครับ
.
1.”ผมเชื่อว่า อนาคตจะแตกต่างจากช่วงเวลาที่เราเคยผ่านในอดีต จะไม่มีวันเหมือนเดิมแล้วถึงแม้ว่าจะมีส่วนที่คล้ายกับประวัติศาสตร์อยู่บ้าง” เฮีย Ray Dalio เกริ่นมาซะน่าสนใจเชียวครับ
.
2.สิ่งที่ คุณ Ray มองเห็นว่ามันกำลังมาบรรจบกันพอดิบพอดี มีอยู่ สาม เรื่องด้วยครับ
.
เรื่องแรก คือ ภาวะที่ภาระหนี้สินเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดๆ ทำให้เป็นข้อจำกัดความสามารถของธนาคารกลางในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้น้อยลง
.
เรื่องที่สอง คือ ความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่ง และการเมือง ในประเทศ (กำลังเกิดขึ้นในหลายประเทศ)
.
เรื่องที่สาม คือ การท้าทายความเป็นมหาอำนาจโลกของจีนที่กำลังท้าชิง มหาอำนาจกับสหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย
.
3.เหตุการณ์ตอนนี้คล้ายกับช่วงปี 1930-1945 มากๆ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เฮีย Ray กังวลครับ
.
4.”ผมได้ศึกษาประวัติศาสตร์แล้ว ผมเห็นว่าเหตุการณ์ที่มาบรรจบกันแบบนี้ มักจะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านกินเวลาประมาณ 10-20 ปี” และเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของทั้งเศรษฐกิจและการเมืองที่ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นทุกๆ 50-100 ปี
.
5.เฮีย อธิบายต่อว่า ทุกๆครั้งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของวัฏจักรครั้งใหญ่จะเกิดการเปลี่ยนไป เปลี่ยนมาหลายอย่าง
.
เช่น อย่างแรก คือ อารมณ์ความรู้สึกที่มีความสุข ชื่นมื่นกับช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ เพราะเป็นช่วงที่ร่ำรวย และสร้างผลิตภาพได้มาก
.
สลับกับช่วงที่มันโหดร้าย หดหู่ และเป็นช่วงที่มีการต่อสู้ระหว่างความร่ำรวยและความเป็นมหาอำนาจ ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง และทำให้ผลิตภาพสะดุดลง และหลายครั้งก็นำไปสู่การปฏิวัติ หรือสงคราม
.
6.ช่วงเวลาที่ย่ำแย่นี้ เปรียบเสมือนกับการกำจัดจุดอ่อน และสิ่งที่มันเกินมากเกินความจำเป็นเช่น ภาระหนี้สินในระบบที่มากเกินไป
.
การกลับคืนสู่สามัญในแง่ปัจจัยพื้นฐาน (แม้ว่าจะเป็นกระบวนการที่แสนจะเจ็บปวดก็ตาม)
.
”สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการปรับตัว ซึ่งในท้ายที่สุดก็จะทำให้เกิดความแข็งแรงมากขึ้น”
.
7.การที่จะตอบปัญหาเหล่านี้ได้ คือการศึกษากลไกที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ระหว่างช่วง 1930-1945, รวมถึงช่วงรุ่งเรืองและตกต่ำของอาณาจักรอังกฤษ และเนเธอร์แลนด์
.
และช่วงรุ่งเรืองและตกต่ำของอาณาจักรจีน
.
การศึกษาสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ และอะไรคือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
.
================
.
วิธีการศึกษาตามสไตล์ของ Ray Dalio
.
1.แกออกตัวก่อนครับว่า จริงๆแล้วเป็นสิ่งที่แปลกเหมือนกันสำหรับผู้จัดการกองทุนที่ต้องตัดสินใจลงทุนในระยะสั้น แต่กลับต้องให้ความสนใจในประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในอดีต
.
2.แต่จุดที่น่าสนใจคือ วิธีการศึกษาแบบนี้กลับทำให้ผลตอบแทนของ Bridgewater ดีเสมอมา
.
3.”ข้อผิดพลาดมากที่สุดของผมตลอดการทำงานที่ผ่านมา มาจากการตกรถรอบใหญ่” แต่จริงก็ยังไม่เคยเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของแก แต่เกิดขึ้นหลายครั้งในอดีตครับ
.
4.ข้อผิดพลาดเหล่านี้ได้สอนเฮีย Ray Dalio ว่าจำเป็นต้องเข้าใจว่ากลไกเศรษฐกิจและกลไกตลาดว่าทำงานอย่างไรตลอดในอดีตที่ผ่านมา
.
แกจะศึกษากลไกในอดีตชนิดที่ย้อนกลับไปในอดีตแบบไม่กำหนดเวลา และจะพัฒนาหลักการการรับมือกับเหตุการณ์เหล่านั้นในอนาคตแบบไม่กำหนดเวลาเช่นกัน
.
5.”เหตุการณ์ที่สร้าง surprise ครั้งใหญ่ ที่เป็นครั้งแรกที่ผมเคยเจอ คือช่วง 1971” ตอนนั้นเป็นช่วงที่เค้าอายุ 22 ปีครับ และกำลังทำงานเป็นเสมียนอยู่ที่ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก
.
6.วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม 1971 ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อประธานาธิบดี Nixon ที่ประกาศว่าสหรัฐจะไม่รักษาคำมั่นสัญญาโดยได้ยกเลิกการผูกเงินดอลลาร์กับทองคำสำรองของสหรัฐ
.
ตอนนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ค่าเงินร่วงดำดิ่งเลยครับ
.
“ตอนที่ผมฟังคำแถงของ คุณ Nixon ผมมองว่าการที่รัฐบาลสหรัฐผิดสัญญา และมองว่าค่าเงินดอลลาร์น่าจะถึงจุดจบ” ตอนนั้นคุณ Ray คิดว่า ไม่น่าจะดีแน่
.
7.”สิ่งที่ผมทำ ตอนเช้าวันจันทร์คือเดินไปที่ ตลาดหลักทรัพย์ และคาดหวังว่า น่าจะเห็นความโกลาหล” แต่ปรากฏว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยนะครับ
.
แต่แทนที่ตลาดจะร่วงดำดิ่งไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ตลาดหุ้นกลับเด้งขึ้น 4% “ผมรู้สึกช็อคมากๆ ผิดคาดแบบสุดๆ”
.
8.เหตุผลเพราะ ตัวเค้าเองก็ยังไม่ได้เจอปัญหาการอ่อนค่าของค่าเงินมาก่อน ก็เลยไม่คิดว่าผลจะออกมาแบบนี้
.
9.หลังจากเฮีย Ray Dalio ก็เข้าไปดูประวัติศาสตร์และก็เห็นเลยครับว่ามีหลายครั้งที่เกิดการอ่อนค่าเงิน แล้วก็เกิดผลกระทบต่อตลาดหุ้นที่คล้ายๆกัน
.
10.ถ้าเกิดเหตุการณ์ครั้งใหญ่และครั้งสำคัญเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เช่น เหตุการณ์ the Great depression
.
“ผมไม่สามารถบอกได้หรอกครับว่า มันจะไม่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นผมต้องศึกษาว่ากลไกของมันคืออะไร และเตรียมตัวที่จะรับมือกับเหตุการณ์เหล่านั้น”
.
11.หลักๆแล้วจะทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทำความเข้าใจความสัมพันธ์ของสาเหตุและผลลัพธ์
.
“สิ่งที่ผมทำคือ ใช้รูปแบบ if/then” ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แล้วเข้าไปลงทุนอันนี้ ผลลัพธ์จะเป็นยังไง
.
“ผมทำแบบนี้อย่างเป็นระบบ ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้น เราก็จะลงทุนตามสิ่งที่ได้ศึกษามา” แต่ถ้าผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างจากสิ่งที่เราคิด เราก็จะหาคำตอบให้ได้ว่าเพราะอะไร
.
12.วิธีการของคุณ Ray ไม่ได้เป็นเชิงวิชาการครับ แต่เป็นสิ่งที่สามารถเอาไปใช้ได้จริง และนี่คือวิธีที่เค้าสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีเสมอมา
.
13.ความสามารถที่จะคาดการณ์และรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จำเป็นต้องเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลลัพธ์ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้น
.
14.และยังต้องเข้าใจด้วยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลลัพธ์ ในอดีตเป็นยังไง
.
================
.
วิธีการศึกษาส่งผลต่อมุมมองของเฮีย Ray Dalio ยังไง?
.
เป็นคำถามที่น่าสนใจมากครับเพราะปกติเราจะเห็นว่าเฮียแกมองอะไร ก็ทะลุปรุโปร่ง และมีมุมมองที่ลึกกว่าคนอื่นเสมอ
.
1.วิธีการศึกษาแบบนี้ช่วยทำให้คุณ Ray มองเห็นสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นได้ลึกมากขึ้น
.
“เหมือนกับนักชีววิทยาแหละครับ ที่ต้องบอกได้ว่า สัตว์เป็นสปีชีย์ไหน” และศึกษาเพิ่มเติมว่าแต่ละสปีชีย์ทำงานยังไง
.
2.วิธีการศึกษาแบบนี้ทำให้เปลี่ยนมุมมองของแกไปเยอะครับ ทำให้เห็นรูปแบบการเปลี่ยนแปลงในช่วงที่ผ่านมา
.
ทำให้เข้าใจว่าแต่ละอย่างมีอิทธิพล และส่งผลกระทบกันอย่างไร เช่น วงจรเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อการเมือง, แล้วเศรษฐกิจกับการเมืองมีผลต่อกันและกันยังไงในระยะยาว
.
3.การที่เข้าใจรูปแบบและความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลลัพธ์ ที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์นั้นๆ ทำให้คุณ Ray เห็นภาพใหญ่มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็เข้าใจภาพในรายละเอียดไปพร้อมๆกัน
.
เพราะเป็นการทำความเข้าใจระหว่างสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ยาวนานมากๆ
.
4.การทำความเข้าใจในสิ่งเหล่านี้จะต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ
.
5.ยกตัวอย่างเช่นเมื่อเวลาผ่านไป คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้น เพราะเราเรียนรู้มากขึ้น ก็จะทำให้เกิดผลิตภาพมากขึ้น
.
แต่เหตุผลที่เรายังเห็นว่าเศรษฐกิจมีขึ้น มีลง เพราะว่าปัญหาวงจรหนี้สินนี่แหละครับ ที่ทำให้เกิดกิจกรรมเศรษฐกิจ ขึ้นๆลงๆ
.
6.เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ พลาดโอกาสใหญ่ๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเพราะว่าพวกเราส่วนใหญ่มีประสบการณ์เพียงแค่น้อยนิดกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
.
“พวกเราเหมือนเป็นแค่มด ที่มัวแต่ทำงาน แบกเศษเล็กๆไปมา ในช่วงชีวิตของเรา” เพราะฉะนั้นแทนที่เราจะมองเห็นภาพใหญ่ทั้งในมุมของรูปแบบที่เกิดขึ้น กับวงจรที่เกิดขึ้น (เรามัวแต่ดูภาพเล็กๆ ทำให้ไม่เข้าใจภาพทั้งหมด)
.
7.สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจคือ ความสัมพันธ์แบบไหนที่ผลักดันให้เกิดเหตุการณ์เหล่านั้น และตอนนี้พวกเราอยู่ตรงจุดไหนของวัฏจักรนั้นๆ และอะไรบ้างที่เกิดขึ้นบ้าง
.
8.”ผมเชื่อว่าคนเรามีบุคคลิกไม่กี่แบบ ซึ่งจะนำไปสู่เส้นทางไม่กี่เส้นทางของชีวิต” และก็จะนำไปสู่สถานการณ์ไม่กี่อย่าง และนำไปสู่เรื่องราวไม่กี่เรื่อง ซึ่งก็จะฉายหนังซ้ำไปซ้ำมา
.
“สิ่งที่เปลี่ยนไปมีเพียงแค่เสื้อผ้าของตัวละครที่สวมใส่ และเทคโนโลยีที่พวกเค้าใช้ก็เท่านั้น”
.
เป็นปรัชญาที่เอาไปใช้ได้กับทุกเรื่องเลยครับ
.
================
.
ผลลัพธ์จากการศึกษาเป็นอย่างไร?
.
1.การศึกษาวัฏจักรเงินและวงจรสินเชื่อในอดีตที่ผ่านมาทำให้ ระมัดระวังวงจรหนี้ระยะยาว ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นทุกๆ 50-100 ปี
.
ตรงนี้จะทำให้เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
.
2.ยกตัวอย่าง เช่น ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยจะลดลงเหลือ 0% และกรณีที่ธนาคารกลางพิมพ์เงินออกมา และเข้าซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน ในช่วงวิกฤตการเงินปี 2008-2009 และเมื่อวิเคราะห์วิกฤตปี 1930 ก็ยิ่งทำให้เข้าใจวิกฤตมากขึ้น
.
3.และนี่คือสิ่งที่ทำให้เค้าเข้าใจว่า ธนาคารกลางทำไมถึงต้องออกมาตรการ เพื่อผลักดันให้สินทรัพย์ทางการเงินและเศรษฐกิจฟื้น
.
ซึ่งก็จะทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการเงิน และนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้ง และเป็นยุคของประชานิยม
.
นั่นเป็นสิ่งที่เราเห็นในยุคหลังปี 2009
.
4.”ในช่วงปี 2014 ผมต้องการอยากคาดการณ์ตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในหลายประเทศ เพราะมันเกี่ยวกับการตัดสินใจว่าจะลงทุนยังไง” และก็นำไปวิเคราะห์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจในช่วง 10 ปีข้างหน้า
.
5.กระบวนวิเคราะห์แบบนี้ทำให้คุณ Ray สามารถทำความเข้าใจได้ลึกมากขึ้นว่าทำไม บางประเทศถึงมีเศรษฐกิจดี แต่บางประเทศกลับแย่
.
หลังจากนั้นเค้าก็จะเอาปัจจัยเหล่านี้เข้าไปในสมการ เพื่อวิเคราะห์คาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วง 10 ปีข้างหน้า มากกว่า 20 ประเทศ
.
6.สิ่งที่เจ๋งคือ การศึกษาแบบนี้ทำให้คุณ Ray เห็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจที่สำคัญที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า เช่น คุณภาพของการศึกษา และระดับของการเป็นหนี้
.
“ปัจจัยเหล่านี้ในสหรัฐเริ่มแย่ลงเมื่อเทียบกับ จีน และอินเดีย”
.
7.หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในปี 2016 และใช้มาตรการประชานิยมมากขึ้นในประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นสิ่งที่เห็นจนแทบจะกลายเป็นเรื่องธรรมดา
.
ซึ่งนโยบายประชานิยม ก็ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมและการเมืองเหมือนกับช่วงปี 1930 คล้ายกับเหตุการณ์ปัจจุบันเลยครับ
.
8.จากการศึกษาและสังเกตอย่างหนักจะเห็นว่า อเมริกาเจอปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างหนักมากครับ ทำให้เกิดปัญหาช่องว่างทางเศรษฐกิจ
.
================
.
3 คำถามชวนคิดที่ต้องการคำถามอย่างเร่งด่วน
.
.
เริ่มจาก “วงจรเงินระยะยาวและหนี้ระยะยาว”
.
1.แทบจะไม่เคยมีช่วงไหน ในชีวิตของเราที่อัตราดอกเบี้ยต่ำมากๆและติดลบ ในบางประเทศ ในขณะที่มีหนี้มากมายขนาดนี้
.
2.นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 จะเห็นว่ามีหนี้สินมากถึง 10 ล้านล้านเหรียญที่มีอัตราดอกเบี้ยติดลบอยู่ครับ และไม่ใช่เหตุการณ์ปกติที่หนี้ก้อนใหม่จะถูกนำมาขาย เพื่อชดเชยการขาดดุลครับ
.
3.และเป็นช่วงที่กำลังเกิดปัญหาที่กองทุนบำเหน็จบำนาญ และเงินด้านสาธาณสุข จะถึงกำหนดที่จะต้องจ่าย
.
4.ตรงนี้ทำให้เกิดคำถามที่น่าสนใจคือ จะมีใครต้องการถือตราสารหนี้ที่ให้อัตราดอกเบี้ยติดลบ และอัตราดอกเบี้ยจะติดลบได้อีกมากแค่ไหน
.
และเศรษฐกิจและตลาดจะเป็นอย่างไร ถ้าอัตรดอกเบี้ยไม่ต่ำไปมากกว่านี้ และมาตรการของธนาคารกลางจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงภาวะตกต่ำครั้งต่อไปได้อย่างไร
.
5.ธนาคารกลางจะพิมพ์เงินออกมามากขึ้นหรือไม่ แล้วจะทำให้มูลค่าเงินลดลงหรือป่าว แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าค่าเงินร่วงลง ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำขนาดนี้
.
6.สกุลเงินสำรอง เป็นเงินที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกในการทำธุรกรรมและการออมเงิน
.
7.ประเทศที่สามารถพิมเงินที่เป็นสกุลเงินหลัก (ตอนนี้คือสหรัฐ) ก็จะอยู่ในสถานะที่ได้รับสิทธิประโยชน์และมีอิทธิพลมาก
.
8.คำถามคือ เมื่อไหร่แล้วเพราะอะไรที่สกุลเงินดอลลาร์จะเริ่มร่วงลง และสูญเสียตำแหน่งของการเป็นสกุลเงินสำรอง
.
และจะเปลี่ยนโลกที่เรารู้จักอย่างไร
.
================
.
คำถามถัดมาคือ วงจรความมั่งคั่งและวงจรของอำนาจ
.
1.ความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่ง, คุณค่า และการเมืองตอนนี้มีช่องว่าง มากขึ้นมากกว่าที่ตัวของคุณ Ray เคยเห็นมาทั้งชีวิตครับ
.
2.จากการที่ศึกษาในช่วงปี 1930 และยุคก่อนหน้านี้ จะพบว่าฝ่ายไหนที่ชนะการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายซ้ายหรือฝ่ายขวาก็จะมีผลต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นครั้งใหญ่
.
3.ผมสงสัยว่า ความเหลื่อมล้ำเหล่านี้จะนำไปสู่เรื่องไหน และผลลัพธ์จะเป็นยังไง
.
ผลลัพธ์คือ เศรษฐกิจขาลงครับ และจะมีปัญหาความขัดแย้งระหว่างกันว่า จะแบ่งเค้ก แบ่งผลประโยชน์กันยังไง
.
4.ประชาชนและผู้กำหนดนโยบายจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร ถ้าเกิดเศรษฐกิจตกต่ำ
.
ตอนนี้เฮีย Ray Dalio เริ่มกังวลครับ โดยเฉพาะประเด็นที่ความสามารถในการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ
.
5.นอกจากนี้นโยบายการเงินก็เริ่มไม่ได้ผล เช่นการพิมพ์เงินแล้วก็เข้าซื้อสินทรัพย์ หรือที่เรียกว่า QE และดันไปเพิ่มความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่งอีก
.
เพราะยิ่งเข้าซื้อสินทรัพย์การเงินก็ยิ่งทำให้ราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้นซึ่งนั่นก็จะทำให้คนรวยที่ถือสินทรัพย์การเงินได้ประโยชน์มากกว่าคนที่มีรายได้น้อย
.
================
.
คำถามที่ 3 คือ วงจรความมั่งคั่งและอำนาจระดับนานาชาติ
.
1.นับเป็นครั้งแรกในชีวิตของเฮีย Ray Dalio ที่สหรัฐกำลังเจอความท้าทายจากประเทศอื่นในการเป็นมหาอำนาจ
.
2.จีนก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงคนสำคัญในหลายด้าน และกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วกว่าสหรัฐ ซึ่งถ้ายังเป็นแบบนี้อีกจีนก็จะแข็งแรงกว่าสหรัฐ
.
3.”ผมเห็นความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะด้านการค้า เทคโนโลยี ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์, เงินทุน, เศรษฐกิจ, การเมือง, แนวความคิดทางสังคม”
.
4.คุณ Ray เองก็สงสัยว่าความขัดแย้งเหล่านี้ จะเปลี่ยนระเบียบโลกอย่างไร
.
และจะมีผลกระทบอะไรกับพวกเราบ้าง
.
5.คุณ Ray เชื่ออยู่แล้วครับว่าในท้ายที่สุดปัญหาเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ขาลงจะเกิดขึ้นแน่ๆ แต่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดจากโรคระบาด
.
6.สิ่งที่เฮียให้ความสำคัญในการวิเคราะห์มากๆ คือ สหรัฐ, ค่าเงินดอลลาร์, ปอนด์ และอังกฤษ, เนเธอร์แลนด์ เพราะเคยเป็นมหาอำนาจมาก่อน
.
7.แต่สิ่งที่ให้ความสำคัญรองลงมากคือ เยอรมนี, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, ญี่ปุ่น, จีนและอินเดีย
.
8.แต่ถ้าให้เลือก 6 ประเทศ ก็จะเลือกดูที่จีน และดูย้อนกลับไปหลายร้อยปีที่แล้ว เพราะเป็นช่วงที่จีนมีความสำคัญมากๆ ตอนนี้ก็มีความสำคัญและอนาคตเองก็เช่นกัน
.
9.ข้อสังเกตคือ มหาอำนาจโลกมักจะรุ่งเรืองประมาณ 250 ปี ซึ่งการศึกษาแบบนี้ทำให้เค้าคุณ Ray เข้าใจประวัติศาสตร์ทำให้การลงทุนได้ผลตอบแทนที่ดีมากขึ้นในระยะยาวครับ
.
========
.
เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต
.
อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย
.
ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE
คลิกเลย

 

#ข่าวเช้าตรู่ส่งถึงมือคุณ! โดยเพจ "ถามอีก กับอิก"
.
========

1.จีนประกาศห้ามไม่ให้ต่างชาติเข้าประเทศ เริ่มวันเสาร์นี้ หลังมีผู้ติดเชื้อจากต่างชาติเข้าจีนจำนวนมาก
.
#ถันอี้ #谈亿 #ถามอีกกับอิกเรื่องลงทุนจีน
.
จีนประกาศว่าวันเสาร์นี้จะเริ่มปิดกั้น ไม่ให้ต่างชาติเกือบจะทุกประเทศเข้าประเทศจีน หลังจากที่จีนคุมอัตราการติดเชื้อประเทศได้อยู่หมัดแล้ว แต่กลับมีต่างชาติแห่เข้าไปจีนแล้วติดเชื้อจำนวนมากครับ
.
ทั้งนี้คนต่างชาติติดเชื้อเพิ่มขึ้นในจีนอย่างก้าวกระโดดครับ ล่าสุด 67 รายภายในวันเดียว และยังมี 58 รายที่มีแนวโน้มติดเชื้อเพิ่มเติมที่กำลังรอผลการตรวจอยู่ครับ นั่นเลยเป็นที่มาของการประกาศมาตรการนี้ออกมา
.
“ต่างชาติจะไม่สามารถเข้าประเทศได้ แม้ว่าจะมีวีซ่า และใบอนุญาตทำงาน” รัฐมนตรีต่างประเทศจีนบอกครับ
.
โดยบอกว่านี่เป็นมาตรการที่จำเป็นและเป็นมาตรการชั่วคราวเท่านั้น�.
แต่มาตรการนี้จะยกเว้นท่านทูต หรือใครที่จะมาคุยเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เช่น เศรษฐกิจ, การค้า, วิทยาศาสตร์, มนุษยชน
.
ก่อนหน้านี้จีนเองก็เริ่มใช้มาตรการคุมเข้มไปบ้างแล้วเหมือนกันครับ เช่น การกักตัว 14 วันของคนที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการติดเชื้อสูง
.
========
.
2.ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในสหรัฐรวมใจกัน เปลี่ยนไลน์การผลิตสินค้า มาเป็นการผลิตหน้ากาก เสื้อกาวน์ และอุปกรณ์การแพทย์ให้กับบุคคลากรทางการแพทย์
.
ตอนนี้ขาดแคลนทั่วโลกเลยครับ เพราะคาแรคเตอร์ของโรคโควิด 19 คือ ติดง่ายและแพร่กระจายได้เยอะมากๆ ทำให้อุปกรณ์การแพทย์ไม่พอเลยครับ
.
แต่เรื่องที่น่ายินดีคือ บรรดายักษ์ใหญ่ค้าปลีก ก็เริ่มปรับเปลี่ยนไลน์การผลิตสินค้าเช่น จากการผลิตเสื้อผ้า มาผลิตหน้ากากผ้า และเสื้อกาวน์ สำหรับคุณหมอ
.
แต่จะว่าไปก็ต้องเร่งมือหน่อยครับ เพราะตอนนี้จำนวนผู้ป่วยในสหรัฐพุ่งสุดๆครับ มากถึง 17,057 ราย เพิ่มมาเป็น 85,268 ราย (เป็นกลยุทธ์ของสหรัฐ ที่เร่งตรวจให้เจอเร็วที่สุด จะได้กักตัวและรักษาให้หาย เพื่อหยุดวงจรการแพร่ระบาด)
.
ตัวอย่างแบรนด์ชื่อดัง คือ Ralph Lauren ครับที่เพิ่มกำลังการผลิตหน้ากาก 2.5 แสนชิ้น และเสื้อกาวน์ 25,000 ชุดในโรงงานสหรัฐ
.
ไม่ใช่แค่นี้ครับ แบรนด์ Canada Goose ก็ผลิตเสื้อกาวน์มอบให้กับหมอแบบฟรีๆ
.
และยังมี Hanesbrands ที่แจ้งว่าจะผลิตหน้ากากสัปดาห์ละ 1.5 ล้านชิ้น เพื่อให้ชาวอเมริกันได้ใช้อย่างเพียงพอ
.
Gap เองก็เป็นอีกแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่เพิ่มกำลังการผลิต 2 เท่าเพื่อช่วยเหลือบุคคลากรทางการแพทย์เพื่อรับมือกับโควิด
.
ส่วนร้านค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่าง Target ก็พร้อมจะปรับไลน์การผลิตเพื่อทำหน้ากากสำหรับคุณหมอ
.
ส่วน Lowe’s ก็บริจาคเงิน 10 ล้านเหรียญสำหรับซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์
.
และ Home Depot เองก็จัดหนักเร่งผลิตอุปกรณ์การแพทย์ให้กับบุคคลากรด่านหน้าที่ต้องรับมือกับโควิด รวมถึงโรงพยาบาล
.
========
.
3.สิงคโปร์เตรียมจัดหนัก อัดมาตรการมูลค่า 3.32 หมื่นล้านเหรียญรับมือโควิด 19
.
ตอนนี้สิงคโปร์สำรองเงินมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านบาทเอาไว้สนับสนุนธุรกิจและครัวเรือนเพื่อรับมือกับการหดตัวทางเศรษฐกิจที่มากกว่าคาดในไตรมาสแรกของปีนี้ละครับ
.
เม็ดเงินก้อนนี้เป็นส่วนเพิ่มเติมจากมาตรการก่อนหน้านี้มูลค่า 4.4 พันล้านเหรียญ
.
“เม็ดเงินที่จะเอามาใช้ จะมาจากเงินสำรองของประเทศครับ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังสิงคโปร์บอกครับ ซึ่งจุดที่น่าสังเกตคือนี่เป็นการใช้เงินสำรองของประเทศครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ครับ
.
ครั้งแรกที่ใช้คือ ช่วงปี 2009 ครับ ช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ
.
เบื้องต้นมาตรการที่จะเข้าช่วยเหลือ คือ ชดเชยค่าแรงเพื่อช่วยให้เจ้าของธุรกิจยังไม่เลิกจ้างพนักงาน, การเลื่อนการจ่ายภาษี และการมอบเงินบางส่วนให้กับชาวสิงคโปร์
.
นอกจากนี้กำลังพิจารณาให้เงินช่วยเหลือ กับอุตสาหกรรมต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดครับ เช่น การบิน, การท่องเที่ยว, การเดินทาง และศิลปะ วัฒนธรรม
.
โดยกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับเงินอุดหนุนมากที่สุดคือ การบินครับ หลังจากที่สายการบินอย่าง Singapore Airlines ส่งสัญญานไม่ดีเลยครับ เมื่อประกาศหยุดเส้นทางการบิน 96% ของทั้งหมด ไปจนถึงสิ้นเดือน เมษายน
.
ทำให้ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ประกาศหยุดการซื้อขายไป
.
========
.
4.ตกลงแล้วมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งโลก อันไหนจะเวิร์ค?
.
ถามทันที กับพี่ออสติน ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยการลงทุน สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์
.
คลิกเลย
.
========
.
5.ทำไมกองทุนตราสารหนี้ถึงประกาศปิดตัว? แล้วผลกระทบยจะเป็นอย่างไร?
.
ถามทันที กับ พี่วศิน วณิชย์วรนันต์ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน และ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย
.

.
========
.
6.มาอัพเดทตลาดกันหน่อยครับ
.
สหรัฐ บวก 6.38%
.
เยอรมนี บวก 1.28%
.
ทองคำ 1636 เหรียญ เริ่มร่วง
.
น้ำมัน 23.08 เหรียญ เริ่มร่วง
.
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Fox, CNN, Yahoo Finance
.
========
.
เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต
.
อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย
.
ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE
คลิกเลย

 

รายงานตัวด่วน คนในงานแต่ง หลังสาวร้อยเอ็ดพาโควิด-19 มาจากกทม.
เปิดไทม์ไลน์ ผู้ป่วย โควิด-19 รายที่ 3 ของจ.ร้อยเอ็ด เป็นหญิง อายุ 34 ปี ทำงานสถานบันเทิงย่านสุขุมวิท กลับบ้านมาร่วมงานแต่งในอ.โพนทอง ก่อนไปรพ.ตรวจพบว่าติดเชื้อ ผวจ.สั่งคนในงานแต่ง..
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline



https://www.thairath.co.th/news/loc...3eACJF-nFKyB2EOTDLkHVsjT_BmK_3orWvbOAp5DmVB-g

 

กักกัน / ปฏิเสธการเข้าประเทศ

เพิ่มประเทศที่จะถูกกันที่บ้าน / โรงแรม และให้หลีกเลี่ยงการใช้รถสาธารณะเป็นเวลา 14 วัน  (เหมือนที่ไทยคือกักกันตัวเองค่ะ )
รวมประเทศไทยด้วย
- เริ่ม 28 มีนา (พรุ่งนี้) เที่ยงคืนไป (คืนนี้ตอนเที่ยงคืนนั่นเอง)
- กรุณาเตรียมวิธีกลับเอง (ที่ไม่ใช่รถสาธารณะ)

□ Even without symptoms of illness, be sure to stay at a place designated by the Chief of the Quarantine Station, such as your homes, for 14 days counting from the day after arrival, and DO NOT use public transportation for any purpose, including transport from airports, etc.
□ Be sure to arrange an accommodation and means of private transportation from the airport to the accommodation in Japan. (DO NOT use public transportation.)
□ Upon entry, a quarantine officer will register your whereabouts for the 14-day period mentioned above and means of private transportation, at the quarantine station.

In addition, regardless of the date added as an area subject to strengthened quarantine, all persons who have visited any of the epidemic areas designated by immigration restrictions under the Immigration Control Act (※2), are subjected to the PCR test and periodic health check by Public Health Centers.

ข้อมูล: สธ. ญี่ปุ่น

ปฏิเสธการเข้าประเทศของชาวต่างชาติที่มาจากประเทศเหล่านี้ (ไปอยู่ภายใน 14 วันก่อนเข้าประเทศญี่ปุ่น) ได้แก่
- ยุโรป 21 ประเทศ + อิหร่าน
- เริ่มแล้ววันนี้

 #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

 

ญี่ปุ่นทำการทดสอบโดยใช้กล้องพิเศษจับละอองฝอยที่กระจายออกจากปากคนจามเพียง 1 คน แค่ครั้งเดียว

สามารถปล่อยละอองฝอยออกมาประมาณ 1 แสนอนุภาค

และจำลองภาพให้เห็น จะเห็นได้ว่าภายในเวลาเพียง 12 นาที ละอองฝอยก็กระจายทั่วห้องแล้ว

ส่วนการพูดคุยธรรมดาระยะห่าง 1-2 เมตรก็ไม่รอดเช่นกัน ละอองฝอยที่มองไม่เห็นสามารถออกจากปากเราได้ แม้เพียงพูดคุยกัน

สถานที่ปิดทุกแห่งจึงเสี่ยงมากๆ

 

China Report ASEAN - Thailand

โควิด-19 อาจระบาดระลอกใหม่ ในจีน

1.แม้ว่าตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่จะเป็นศูนย์ แต่ยังคงมีรายงานตัวเลขผู้ป่วยใหม่เพิ่มในจีน ทั้งหมด มาจากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
.
2.เรื่องนี้ ทำให้รัฐบาลจีนกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนัก ในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสระลอก 2 ที่อาจเกิดขึ้น เพราะใน 23 มณฑล พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น จากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งสิ้น
.
3.คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนแถลง พบผู้ติดเชื้อจากกลุ่มนี้แล้ว 541 ราย ทำให้ต้องเตรียมการป้องกันเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในระยะยาว
.
4.หนึ่งในมาตรการที่เพิ่งประกาศออกมาคือ 28 มีนาคมเป็นต้นไป จีนจะไม่อนุญาตให้คนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ ยกเว้นทูตหรือกรณีพิเศษอื่นๆ เพื่อไม่ให้โรคระบาดกลับมาระบาดซ้ำ
.
5.เรื่องนี้สอดคล้องกับที่ คุณหมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวไว้ใน Facebook ของคุณหมอ (FB: ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha) ว่า จีนกำลังเผชิญ After Shock Scenario โรคระบาด อาจกลับมาระบาดซ้ำ
.
6.คุณหมอบอกว่า จีนอาจจะเกิดการระบาดระลอกใหม่ จากผู้คนที่ติดเชื้อ แล้วเดินทางมาจากต่างประเทศเข้ามายังจีน แล้วกระจายอยู่ทั่วจีนแผ่นดินใหญ่
.
7.ผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้อาจจะรักษายากกว่าธรรมดา เพราะไวรัสมีการปรับตัว เพราะไวรัสที่แพร่ในพื้นที่อื่นๆนอกจีนในระยะเวลาที่แตกต่างกัน จะแสดงหน้าตาในรูปแบบที่เปลี่ยนไป
.
8.ดังนั้น ยาฟาวิพิราเวียร์(Favipiravir) ที่เคยใช้อยู่เดิมเพียงอย่างเดียว น่าจะเอาไม่อยู่ เพราะไวรัสมีการพัฒนาตัวเองเพื่อการอยู่รอด

 

ด่วน! สธ.แถลงพบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 91ราย เสียชีวิตอีก 1

27 มีนาคม 2563

สธ.แถลงพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 91 ราย เสียชีวิตอีก 1 ราย เสียชีวิตรวม 5 ราย ยอดสะสม 1,136 ราย

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 63 นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ว่า วันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่ 91 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รักษาหายแล้ว 97 ราย กำลังรักษาอยู่ 953 ราย เสียชีวิตรวม 5 ราย ยอดสะสม 1,136 ราย

https://www.bangkokbiznews.com/news...ions&utm_campaign=91 1&utm_content=&utm_term=

 

Environman


#ขอร้องหน่วยงานช่วยดูแล! เพจขยะมรสุมร้องวอนขอ อย่าจับหอยมือเสือ! หลังพบคนจับที่หาดในภูเก็ต
หวั่นถูกจับไปกินเพิ่ม! เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามล่า-มี-ขาย
•
27 เพจขยะมรสุมเผยถึงการพบคนจับหอยมือเสือ ในชายหาดแห่งหนึ่งในภูเก็ต เนื่องจากสถานการณ์ในช่วงนี้ ทำคนออกมาจับปู ปลา กิน โดยมีเนื้อหาดังนี้

"❌อย่าจับหอยมือเสือผมกราบขอร้อง❌ถึงพรุ่งนี้ถ้าไม่มีใครทำอะไรจะต้องเสียหอยอีกเป็นร้อยตัว

เหตุการณ์ที่เกาหลีเอาขึ้นมาตัวเดียววันก่อน เด็กๆเลยครับ

ผมแอดมินเพจขยะมรสุม กราบขอร้องหน่วยงาน ช่วย มาดูแล หน่อย ช่วงนี้เกิดไวรัสระบาด สิ่งที่ตามมาคือคนตกงาน บางคนออกมาหาของกินจับปู จับปลา. แต่. ❌วันนี้เจอคนจับหอยมือเสือ ❌

ให้ผมกราบเท้าใครก็ได้ ช่วยผมหน่อยเถอะ ช่วยดูแล ติดป้ายบอก หรือถ้า ให้ผมทำป้ายเองก็ได้
เราต้องบอกให้เค้ารู้ ❌วันนี้ผมขอคืนมาได้ 8 ตัว บางตัวคงต้องตาย ❌

หอยมือเสือ" เป็น "สัตว์ป่าคุ้มครอง" จัดอยู่ในบัญชีสัตว์สงวนและคุ้มครองประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 คือ "ห้ามล่า ห้ามมี และห้ามซื้อขาย ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท / เปลือกของหอยมือเสือถือเป็นซากสัตว์ป่า เช่นเดียวกับปะการัง ที่ห้ามซื้อขาย รวมทั้งห้ามนำมาวางประดับ ใช้เป็นที่เขี่ยบุหรี่"
•
ด้าน Facebook Romklao Chooklin เผยว่า

"เห็นคนเอามีดมางัดแงะตามหินปะการัง เลยเข้าไปดูกันเจอคนมาแงะหอยมือเสือไปในถังประมาณ8ตัว หนึ่งในนั้นตัวใหญ่มาก เท่าฝ่ามือใหญ่ๆมาวางเรียงกันสองอัน น่าจะมีสิบปีขึ้น ได้ไปขอคืนไปปล่อย ไม่รู้จะรอดไหมเพราะมันต้องเกาะในหินปะการังอยู่ ภาวนาให้รอดนะ

ขอความร่วมมือใครที่ไปหาของกิน เจอหอยแบบในภาพที่ถ่ายมา อย่าไปแงะนะ มันไม่อร่อยหรอก และเป็นสัตว์ที่ติดไซเตสด้วย ใกล้สูญพันธุ์แล้ว ค่าปรับหลายหมื่นต่อตัว แค่ครอบครองเปลือกโดยไม่ได้รับอณุญาตก็ผิด ที่สำคัญ มันโตช้ามาก"

ที่มา

https://www.facebook.com/khayastom/ — ที่ ภูเก็ต

 

ไม่กี่วันมานี้ หลายเมืองมีกรณีผู้ที่ต้องกักตัวเพื่อสังเกตอาการในบ้าน แอบหลบหนีออกจากบ้าน จนถูกตำรวจจับและลงโทษปรับ เพราะฉะนั้นเพื่อช่วยเพิ่มการป้องกันการแพร่ระบาด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำระบบแจ้งเตือนมาใช้ แต่กระนั้นตำรวจทางหลวงยังสามารถจับกุมผู้ที่ต้องกักตัวในบ้านได้บนทางด่วนเขตพื้นที่เมืองจางฮั่ว เนื่องจากผู้ขับขี่ไม่คุ้นชินเส้นทาง ขับรถส่ายไปมาเจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพบว่า ผู้ขับขี่ควรต้องกักตัวเองอยู่ในบ้านที่นครเกาสง แต่แอบหลบหนีออกมา โดยทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ที่บ้าน



https://news.pts.org.tw/article/471...0Cil-HqZ8mHFPP0kv8HUZbxLTVx0Xjf3IqVAZkN8rh0Po

 

Watchers

#ข่าวภัยพิบัติ #mudslides
// ดินถล่มรุนแรง ปาปัวนิวกินี เสียชีวิต10ราย จาก ฝนตกหนัก //
26/03/20

ดินโคลนถล่มรุนแรงที่ในจังหวัด Tambul-Nebilyer ใน ประเทศปาปัวนิวกินีใน Western Highlands
เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม 2020.
มีคนถูกฝังอยู่ 12 คนในจำนวน 10 คนถูกขุดขึ้นในวันจันทร์ที่ 23 มีนาคมในขณะที่อีกสองคนหายไป .
ผู้คนหลายพันคนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้เนื่องจากมีการทำลายบ้านเรือนและพืชผลหลายแห่ง โคลนถล่มมากขึ้น มีความกลัวที่จะตีพื้นที่เนื่องจากฝนที่คาดว่าจะตกต่อเนื่องในวันถัดไป

เมื่อวันที่ 21 มีนาคมเกิดเหตุฝนตกหนักจาก Tendepo ในเขต Tambul-Nebilyer ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนและทำลายบ้าน 13 หลัง

ฟิลลิปทัลปา ผู้ดูแล กล่าวว่ามีการส่งรถขุดและรถพยาบาลไปยังพื้นที่ทันทีพร้อมความช่วยเหลือจากตำรวจและชุมชนท้องถิ่น

ห้าศพถูกขุดขึ้นมาในขั้นต้นรวมถึงเด็กวัยหัดเดิน เมื่อดำเนินการกู้ภัยต่อจึงนับรวมเป็น 10 ราย
https://www.thenational.com.pg/five-bodies-found-after-lan…/

นาย Benjamin Yanga อาจารย์ใหญ่ในโรงเรียนประถมศึกษา Yombikul กล่าวว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้ไม่คาดฝันเนื่องจากพื้นที่ไม่ได้เป็นเนินเขา "คนที่ตื่นขึ้นมาในเวลานั้นได้ยินเสียงดังและพบว่ามันเป็นดินถล่ม"

“ เรารู้สึกตกใจในเวลานั้นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคนจะตายแบบนั้นใน หมู่บ้านชาว Tendepo ของเรา” Yanga กล่าว

ประชาชนราว 1 พันคนได้รับผลกระทบจากดินโคลนถล่มจากการถูกทำลายบางส่วนหรือเกือบทั้งหมดของบ้าน และพืชผลและรวมทั้งการบาดเจ็บ

ผู้ประสานงานด้านภัยพิบัติประจำจังหวัด Robin Yakamb กล่าวกับรัฐบาลท้องถิ่นหลังจากเหตุการณ์กล่าวว่าการระดมทุนและการสนับสนุนควรจะพร้อมเพราะภัยธรรมชาติจะยังคงเป็นภัยคุกคามต่อเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
คาดว่าจะมีฝนตกต่อเนื่องในเวลาถัดไป
Image credit: Jux Ablis
#Watchers

 

Watchers

#ข่าวภัยพิบัติ #น้ำท่วม
26/03/20
#เอเดน #เยเมน
คลิปเหตุการณ์ : น้ำท่วมทำลายล้าง
น้ำท่วมฉับพลันทำลายเมืองเอเดน เมืองหลวงของเยเมน

เมื่อวันพุธที่ 25 มีนาคม 2020
เปลี่ยนถนนให้กลายเป็นแม่น้ำที่โหมกระหน่ำและ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย2ราย ได้รับบาดเจ็บ อย่างน้อย 4 คนคาดว่าจะมีฝนตกหนักในวันนี้เพิ่มอีก (วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนา )
Via: Office for the Coordination of Humanitarian Affairs (OCHA) in Yemen.
CR clip: Nawaljameel2, RetajF21
News: https://www.arabnews.com/node/1647146/middle-east
#Watchers

 

Watchers

#ข่าวภัยพิบัติ #สภาพอากาศโลก
26/03/20
#พายุลูกเห็บ ตกแบบไม่ตั้งตัว ในฤดูใบไม้ผลิของประเทศเม็กซิโก ณ เมืองหลวงของเม็กซิโก
เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม 2020
พายุลูกเห็บตกรุนแรง ส่งผลให้เกิดการถล่มของตลาดกลางขายส่งอาหาร De Abasto ทำให้มีคนติดอยู่ใต้ซาก 6 คนและได้รับบาดเจ็บ 5 คน ตลาดขายส่งนี้เป็นตลาดหลักซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาล Iztapalapa จัดหาอาหารประมาณร้อยละ 80 ของประเทศ

Cr clip: @ El_Universal_Mx
https://www.eluniversal.com.mx/metr...gV3dQ8iAVkNfjb2Xxt3cKjxU6Kni34tiHc05rV1KEG-ac

 

เป็น 3 วันที่บวกแรงที่สุดในรอบ 90 ปี!!

เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งต่ออีกวัน Dow Jones ปิดบวกได้ถึง +1,351.62 จุด หรือคิดเป็น +6.38% หนุนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ น่าจะมีแรงซื้อตามมาอีกวัน อะไรเป็นสิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเทรดวันนี้ ไปดูกัน

1. ดัชนี S&P 500 บวก +154.51 จุด หรือ +6.24% ขณะที่ NASDAQ บวกขึ้นมา +413.24 จุด หรือ +5.60% ขณะที่ VIX Index ค่อยๆปรับลดลงต่อเนื่อง ล่าสุด อยู่ที่ 61 จุด

2. ตลาดมี Bear Market Rally รอบนี้ ปัจจัยสนับสนุนหลักๆมาจากมาตราการกระตุ้น และเสริมสภาพคล่อง ทั้งจากที่เฟด ทำ Unlimited QE และ จ่อรอกม.กระตุ้นจากฝั่งการคลังวงเงิน 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังผ่านวุฒิสมาชิกไปเรียบร้อย รอเข้าคองเกรสคืนนี้

3. กม.นี้ ครอบคลุมการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยา 1,200 ดอลลาร์/คน ให้กับชาวอเมริกันที่บรรลุนิติภาวะและมีรายได้ไม่เกิน 75,000 ดอลลาร์ และได้รับเพิ่มอีกตามจำนวนบุตร 500 ดอลลาร์/คน

4. แถมด้วย Allocate งบประมาณไปช่วยเหลือ SME เพื่อการจ่ายค่าจ้างให้กับพนักงานและรักษาสภาพคล่อง รวมถึงงบประมาณสำหรับ Fed ในการอัดฉีดเม็ดเงิน เพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาดเงิน และสร้างแรงจูงใจในการปล่อยสินเชื้อให้กับภาคธุรกิจของสหรัฐด้วย

5. แต่เอาจริงๆ Bear Market Rally อาจยังไปได้ไกลกว่านี้ JP Morgan รายงานว่า สิ้นไตรมาส 1/20 นี้ เหล่า Wealth Management และ Pension Funds จะต้องเข้ารอบการ Re-Balance Portfolio หรือ การปรับสัดส่วนพอร์ต ซึ่งจากการคำนวน น่าจะมีวงเงินจากสินทรัพย์อื่น ไหลกลับเข้าหุ้นทั่วโลกราวๆ $800 - $900 billion เนื่องจาก ตลาดหุ้นปรับฐานรุนแรงจนสัดส่วนหุ้นในพอร์ตลดลงมาอย่างมีนัยสำคัญ และต้องปรับเพิ่มน้ำหนักตามกลยุทธ์ระยะยาว

6. ซึ่งถ้ามองด้วยเหตุผลแบบข้อ 5. ในภาพยาวๆ ก็เป็นเรื่องที่น่าจะถูกต้อง เพราะ ล่าสุด ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลก็แทบจะไม่เหลือ ขณะที่ตราสารหนี้ภาคเอกชน ก็มีความเสี่ยงจากการที่ต้อง Lockdown ทั่วโลก และยังไม่รู้ว่า สายป่านของใครยาวพอจะผ่านวิกฤต Covid-10 ไปได้บ้าง

7. มุมมองส่วนตัว มองว่า ตลาด Overact บวกแรงเกินไปนะครับ เพราะตัวเลข Initial Jobless Claims ของสหรัฐฯ สัปดาห์ที่ผ่านมา พุ่งขึ้นเป็นถึง 3.28 ล้านตำแหน่ง แน่นอนว่า เดี๋ยวตัวเลข Unemployment Rate จะดีดไปแถวๆ 10% แต่ตลาดไม่สนใจ เพราะมองว่า คองเกรสจะผ่านสภา และการ Lockdown จะไม่ยืดเยื้อ (ซึ่งจริงหรอ อันนี้เราต้องพิจารณาดีๆ)

8. กลับมาที่บ้านเรา นอกจาก 2 กองทุน TMBUSB และ TMBABF จะประกาศยกเลิกโครงการไป เช้านี้มีประกาศยกเลิกโครงการกองทุนตราสารหนี้อีก 2 กองคือ TMBTHANAPLUS และ TMBBF สะท้อนว่า สถานการณ์ Outflow จากกองทุนตราสารหนี้ในไทยยังคงไม่น่าไว้ใจนะครับ

9. เช้านี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ เปิดบวกได้สีเขียวเข้มๆ คาดว่า วันนี้ตลาดหุ้นไทยจะเปิดเหนือ 1,100 จุด ถ้าปิดได้เหนือ 1,127 จุดเลย สัปดาห์หน้า แรง Rebound ก็น่าจะยังมีให้เห็นอีก

10. สุดท้าย ใครเป็นแรงงาน ลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 อย่าลืม เข้าไปลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน) ได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์ เราไม่ทิ้งกัน นะครับ

Mr.Messenger รายงาน

 

ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 43 รายวานนี้ รวมยอดสะสม 453 ราย

เมื่อวานนี้ฮ่องกงมีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 43 ราย โดยมี 29 รายที่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ และอีก 14 ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่ติดเชื้อก่อนหน้านี้

4 รายที่ติดเชื้อเพิ่มวานนี้ เป็นนักดนตรีที่เล่นอยู่ที่ Insomnia, All Night Long และ Dusk Till Dawn ซึ่งเป็นร้านที่พบผู้ติดเชื้อแล้วก่อนหน้านี้ รวมทั้งมีผู้ที่แวะไปร้านเหล่านี้แล้วติดเชื้ออีก 4 ราย

Dr Chuang Shuk-kwan หัวหน้าสาขาโรคติดต่อของศูนย์คุ้มครองสุขภาพ เผยว่า “เราต้องแกะรอยหาผู้ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ แล้วส่งพวกเขาไปกักกันเชื้อ”

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***
https://www.facebook.com/119537452088669/posts/494989721210105/?d=n

Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong/article/3077086/coronavirus-hong-kong-finance-chief-says-tougher-steps-enforce?

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP

ใครที่ยังสงสัยว่าทาง FED ได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าไปช่วยตลาดมากขนาดนี้แล้ว ถ้าเศรษฐกิจยังแย่หรือไวรัสยังระบาดรุนแรงจะทำอย่างไร ?

#ไม่ต้องสงสัยอีกต่อไปแล้วนะครับ เพราะประธาน FED นาย Jorome Powell เพิ่งออกมาลั่นว่า "Fed Is Not Going to Run Out of Ammunition" หรือกระสุนอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐนั้นยังมีอีกเยอะ ไม่มีวันหมดแน่ๆ !

เป็นคำพูดที่ทำให้นักลงทุนมีความ #มั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมเลย ! และเป็นเหตุผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐที่เปิดตลาดที่ -2% เพราะตัวเลขตลาดแรงงานงานสหรัฐออกมาแย่ที่สุดในรอบ 40 ปี โดยเพียงอาทิตย์เดียวมีคนตกงานถึง 3.28 ล้านคน ! นั้นดีดกลับมาได้แรงขึ้นอีกครั้งเป็น 6% แล้วตอนนี้

ใน 3 วันที่ผ่านมานั้นตลาดหุ้นสหรัฐได้ดีดขึ้นมา 15% โดยรวมแล้วหลังจากที่ทางรัฐบาลสหรัฐอนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และทาง FED เองก็ไม่ได้น้อยหน้าเพราะเพิ่งประกาศปล่อยคลื่นกระตุ้นเศรษฐกิจลูกที่ 2โดยการทำ Unlimited QE หรือการ #ซื้อพันธบัตรแบบไม่จำกัดจำนวน เพื่อเป็นการช่วยธนาคารให้กระจายสภาพคล่องในการกู้ยืมไปสู่ผู้ประกอบการและหน่วยงานต่างๆในสหรัฐที่กำลังได้รับผลกระทบหนักจากภาวะไวรัสระบาดนี้

หลังจากที่ FED ได้ปล่อยไพ่ตายนี้ออกมา ซึ่งยังไม่เคยมีการการันตี QE ที่ไม่มีจำนวนจำกัดแบบนี้มาก่อน หรือกลายเป็นการออกมาประกันให้กับธนาคารในสหรัฐต่างๆว่าจะไม่มีความเสี่ยงเรื่องหนี้เสียแล้ว เพราะ FED จะคอยให้กู้ได้เรื่อยๆ

หลายคนก็มีคำถามว่า - ถ้ามาตรการนี้ยังไม่ได้ผลล่ะ ? เราจะทำอย่างไรต่อไป ? FED คงหมดวิธีแล้ว ?

วันนี้ทาง Jerome Powell ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านช่อง NBC ว่า

"“When it comes to this lending we’re not going to run out of ammunition. That doesn’t happen." Powell กล่าว "This is a unique situation, this is not a typical downturn. At a certain point we will get the spread of the virus under control and at that time confidence will return. Businesses will reopen again, people will come back to work.”

ถ้าเป็นเรื่องของการกู้ยืมนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ทาง FED จะไม่มีวันหมดกระสุนแน่ เรื่องนั่นจะไม่เกิดขึ้น " Powell กล่าว "นี่เป็นสถานการณ์ที่เราไม่เคยเจอมาก่อน แต่วันนึงการแพร่กระจายของไวรัสจะอยู่ภายใต้การควบคุมและในเวลานั้นธุรกิจต่างๆจะกลับมาเปิดอีกครั้งและผู้คนจะกลับมาทำงานเป็นปกติ ขอให้มั่นใจได้เลย”

นักลงทุนได้ยินอย่างนี้แล้วจะรออะไร ทุกคนก็เร่งเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงจนเกลี้ยง คืนนี้ Dow Jones บวกไป 6% แล้ว

ทางเราได้เขียนบทความอธิบายไปแล้วนะครับ ว่าตลาดโลกอาจจะ #เริ่มถึงจุดกลับตัวแล้ว โฟกัสไม่ใช่เรื่องมาตรการกระตุ้นอีกต่อไปแต่จัเป็นเรื่องของตัวเลขไวรัส เทคนิคการเทรดให้ใช้ระดับราคาที่ต่ำที่สุดของวันจันทร์เป็นเป้าแนวรับในการลงทุน ใครสนใจในรายละเอียดลองอ่านดูได้ในโพสต์ที่คอมเม้นท์ครับ

⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาด ให้กดไลค์ที่โพสต์หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ได้เลยนะครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ที่อัพเดทใหม่ที่ทันตลาด ⛔️

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

⚠️ ด่วน ⚠️ สัญญาณแรกของวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐได้ออกมาแล้วคืนนี้ ตลาดแรงงานงานสหรัฐออกมาแย่ที่สุดในรอบ 40 ปี ! อาทิตย์เดียวมีคนตกงานถึง 3.28 ล้านคน !

ตัวเลขเศรษฐกิจที่นักลงทุนทุกท่านจับตามอง เพราะว่าจะได้นำมาวัดผลกระทบทางเศรษฐกิจของสหรัฐได้เป็นครั้งแรกนั้นออกมาแล้วออกมาแล้วนะครับ

โดยยอดผู้ขอรับ #สวัสดิการว่างงาน ใหม่ของสหรัฐอยู่ที่ 3.28 ล้านคนในอาทิตย์ที่ผ่านมา หรือแปลง่ายๆว่าเพิ่งมีคนตกงาน 3.28 ล้านราย แย่กว่าตลาดคคาดไว้ที่ 1.65 ล้านคน (แย่กว่า 2 เท่า) และเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1982 ที่ปีนั้นมีผู้มาขอรับสวัสดิการว่างงานใหม่ของสหรัฐอยู่ที่ 6.95 แสนคนในอาทิตย์นั้น

ทำไมตัวเลขนี้ถึงเป็นสัญญาณสำคัญ ?

เพราะว่าที่ผ่านมานั้นเราจะได้ยินถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อ ตัวเลขผู้เสียชีวิต ตัวเลขของเม็ดเงินอัดฉีด โดยที่จริงๆแล้วยังไม่มีใครในตลาดทราบว่าผลกระทบของไวรัสระบาดต่อเศรษฐกิจนั้นจะมีมากน้อยเพียงใด ที่ผ่านมาทุกฝั่งได้แต่ประเมินการณ์ วันนี้การที่ได้เห็นตัวเลขคนว่างงานนั้นจริงๆ จะได้ทำให้นำไปประเมินถึงผลกระทบได้ใกล้เคียงขึ้น

ตอนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง Dow Jones และ S&P ต่างปรับตัวลดลงมากันอย่างละ -1 ถึง -2% ในคืนนี้ หลังจากที่เพิ่งปิดบวกได้สองวันติดกันเป็นครั้งแรกของเดือนหลังจากได้รับยากระตุ้นเม็ดใหญ่จากทั้งรัฐบาลและทาง FED ไป

โดยตอนนี้ตัวเลขต่อไปที่ทั้งตลาดสหรัฐจะติดตามมองต่อก็คือตัวเลข % การว่างงานที่จะออกมาในศุกร์หน้าพร้อมกับตัวเลข Nonfarm Payrolls (การจ้างงานนอกภาคเกษตร)

ตัวเลขการจ้างงาน บ่งบอกถึงสภาพเศรษฐกิจอย่างไร ?

ถ้ามีการจ้างงานเยอะขึ้นก็แปลว่าเศรษฐกิจกำลังโต ธุรกิจต่างๆกำลังดำเนินไปได้ดี แต่ละบริษัทมีการขยายธุรกิจ มีการจ้างพนักงานมากขึ้น อีกทั้งการที่คนมีงานเพิ่ม ก็จะทำให้มีการใช้จ่ายในประเทศที่สูงขึ้น และเงินที่ใช้มากขึ้นก็ยิ่งกลับไปส่งเสริมให้เศรษฐกิจและธุรกิจอื่นๆดีขึ้น วนเป็นลูกโซ่เช่นนี้เรื่อยๆ

และในทางตรงข้ามหากการจ้างลดลง ก็แปลว่าธุรกิจต่างๆกำยังแย่ มีการจ้างน้อยลงเพื่อลดต้นทุนบริษัท การผลิตที่ลดลงก็จะบ่งบอกถึงเศรษฐกิจที่กำลังแย่ และคนที่ตกงานก็จะไม่มีเงินใช้จ่าย ทำให้สภาพเศรษฐกิจขาดสภาพคล่องจากการใช้จ่ายและแย่ลงไปเรื่อยๆ

ดังเช่นในวิกฤตครั้งนี้ที่หลายๆบริษัทที่ต้องปิดหรือหยุดการดำเนินธุรกิจเพราะว่าไวรัสก็ต้องยกเลิกการจ้างงานเป็นอย่างแรก และตัวเลขนี้ก็จะออกมาให้เราเห็น #เร็วที่สุด เทียบกับตัวเลขอื่นๆ

แต่ตัวเลขตลาดแรงงานนี้มันน่าสนใจยังไง ? ในเมื่อเราก็มีข้อมูล GDP , Import/Export ให้ติดตามอยู่แล้ว ?

นอกจากการที่ตัวเลขการจ้างงานนั้นจะเป็นตัวเลขที่เก็บข้อมูลได้เร็วกว่า GDP แล้ว การจ้างงานยังเป็น Leading Indicator หรือดัชนีชี้วัดที่สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคตอีกด้วย

ผลของมันจะบอกถึงสภาพเศรษฐกิจที่อาจจะเป็นในอนาคต ในขณะที่ GDP นั้นจะบอกถึงผลเศรษฐกิจที่ผ่านมา หากเรารอให้ตัวเลข GDP ประกาศออกมา มันจะต้องมาจากการรวมข้อมูลหลายๆด้านมากๆ และตัวเลขที่ออกมาก็เป็นเพียงตัวเลขที่เกิดขึ้นในอดีต (Lagging Indicator)

ในฐานะนักลงทุนและเทรดเดอร์ เราต้องการจะรู้สภาพเศรษฐกิจในอนาคตให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะในวิกฤตโควิดแบบนี้ที่ข้อมูลของผลกระทบยังน้อย หากมัวแต่รอตัวเลข GDP ให้ออกมาป่านนั้นตลาดได้ขยับไปนานแล้ว จะทำให้เราขยับตัวไม่ทัน

⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาด ให้กดไลค์ที่โพสต์หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ได้เลยนะครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ที่อัพเดทใหม่ที่ทันตลาด ⛔️

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

คำแนะนำสำหรับชาวไทยกรณีวีซ่าญี่ปุ่นกำลังจะหมดอายุ

สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้สายการบินหลายสายยกเลิกเที่ยวบิน ส่งผลให้ผู้ถือวีซ่าพำนักระยะสั้น (อาทิ ท่องเที่ยว นักเรียน) รวมถึง ผู้ที่เดินทางเข้ามาโดยได้รับการยกเว้นวีซ่า 15 วัน ไม่สามารถเดินทางกลับได้ตามกำหนดและประสบปัญหาวีซ่าหมดอายุ

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้ผู้ที่วีซ่ากำลังจะหมดอายุติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ใกล้ที่พำนักเพื่อยื่นคำร้องขอต่ออายุวีซ่า ก่อนที่วีซ่าเดิมจะหมดอายุ 1-2 วัน และการพำนักในญี่ปุ่นโดยไม่มีวีซ่า ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่เป็นการทำผิดกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่น

โดยขอให้เตรียมเอกสารยื่น ดังนี้
- หนังสือเดินทางที่มีอายุ

- บัตรโดยสารเครื่องบินที่ระบุวันกลับใหม่ (พิจารณาจองตั๋วกลับกับบริษัทท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น)

- เอกสารรับรองฐานะทางการเงิน (หรือจดหมายรับรองการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายระหว่างการรอเดินทางกลับจากบุคคลที่มีถิ่นพำนักอยู่ในญี่ปุ่นพร้อมเอกสารประจำตัวของบุคคลนั้น เช่น สำเนาหนังสือเดินทางหรือสำเนาใบขับขี่ญี่ปุ่น)

- เอกสารรับรองที่พักระหว่างการรอเดินทางกลับประเทศไทย เช่นเอกสารการจองที่พัก (หรือจดหมายรับรองจากบุคคลที่มีถิ่นพำนักอยู่ในญี่ปุ่นพร้อมเอกสารประจำตัวของบุคคลนั้น เช่น สำเนาหนังสือเดินทางหรือสำเนาใบขับขี่ญี่ปุ่น)

- เอกสารระบุเหตุผลที่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ (เช่นบัตรโดยสารเครื่องบินที่ถูกยกเลิก หรือจดหมายอธิบายเหตุผล)

- ค่าธรรมเนียม

* ทั้งนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอาจขอเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติม
สามารถตรวจสอบสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองใกล้ถิ่นที่พักได้ที่
http://www.immi-moj.go.jp/english/info/index.html