ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวต
    ที่ ๑๗/๒๕๖๓
    เรื่อง มาตรการของทางการคูเวตสืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19
    -----------------------------------
    สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียนว่า เมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๓ คณะรัฐมนตรีคูเวตได้มีมติเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการของทางการคูเวตในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ในคูเวต ดังนี้
    ๑. คณะรัฐมนตรีคูเวตมีมติให้ดำเนินการตามแผนการมาตรการผ่อนปรนของรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับไปใช้ชีวิตโดยปกติ เข้าสู่ระยะที่ ๓ ตั้งแต่วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
    ๒. ยกเลิกมาตรการห้ามไม่ให้ประชาชนออกนอกเคหสถาน/ที่พักอาศัย ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
    ในเขต Farwaniya ตั้งแต่เวลา ๐๕.๐๐ น. ของวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
    ๓. ปรับเปลี่ยนช่วงเวลาในการห้ามไม่ให้ประชาชนออกนอกเคหสถาน/ที่พักอาศัย (partial curfew) ในทุกพื้นที่ เป็นระหว่างเวลา ๒๑.๐๐ - ๐๓.๐๐ น. ตั้งแต่วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓
    ๔. โดยที่คูเวตยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุดเมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓ มีผู้ติดเชื้อจำนวน ๖๘๔ ราย และเสียชีวิต ๔ ราย ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสสะสมในคูเวต รวมทั้งสิ้น ๖๓,๓๐๙ ราย สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอให้ชุมชนคนไทยในคูเวตมีมาตรการในการป้องกันตนเอง โดยปฏิบัติ ดังนี้
    ๔.๑ รักษาความสะอาดและสุขอนามัย โดยหมั่นล้างมือด้วยเจลหรือสบู่อย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการชุมนุมและเดินทางไปยังสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากเคหสถาน ตลอดจนไปพบแพทย์ทันทีที่มีอาการป่วย
    ๔.๒ ปฏิบัติตามมาตรการการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล (Social Distancing)
    ๔.๓ ติดตามและปฏิบัติตามมาตรการที่ออกโดยทางการคูเวตอย่างเคร่งครัด
    ทั้งนี้ หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทางหมายเลขฉุกเฉิน +๙๖๕ ๖๐๗๑ ๙๘๘๘ และ +๙๖๕ ๖๐๗๑ ๘๘๘๙ หรือติดต่อกระทรวงสาธารณสุขคูเวตได้ที่หมายเลขฉุกเฉิน ๑๕๑
    จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน

    สถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวต
    ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันนี้มีรายงานจากสื่อต่างประเทศว่า นายกรัฐมนตรี Jean Castex ของฝรั่งเศส แถลงว่า ทางการจะตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่เดินทางมาจาก 16 ประเทศที่ยังพบการแพร่ระบาดรุนแรง รวมทั้งสหรัฐฯ
    .
    โดยผู้ที่เดินทางมาถึงสนามบิน หรือท่าเรือต่างๆ ในฝรั่งเศส จะต้องเข้ารับการตรวจ หากผลตรวจออกมาเป็นบวก ก็จะต้องถูกแยกตัวเพื่อกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน แผนการนี้จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้
    .
    ทั้งนี้ ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นถึง 66% ทำให้รัฐบาลต้องตัดสินใจบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากในที่สาธารณะที่มีลักษณะปิดทุกแห่ง ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดอยู่ที่กว่า 180,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตกว่า 30,000 ราย
    .
    นอกจากนี้นาย Jean Castex เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า มาตรการนี้จะบังคับใช้เฉพาะกับพลเมืองฝรั่งเศส ซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศดังกล่าว หรือผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเหล่านั้น ซึ่งเป็นผู้ที่มีถิ่นที่อยู่ในฝรั่งเศส โดยรัฐบาลฝรั่งเศสได้วางแผนที่จะสร้างความปลอดภัยด้านสุขภาพบริเวณชายแดน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่โรคโควิด-19 จะกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง
    .
    สำหรับประเทศที่มีความเสี่ยงสูงดังกล่าวได้แก่ สหรัฐฯ, บราซิล, อินเดีย, อัลจีเรีย, บาห์เรน, อิสราเอล, แอฟริกาใต้, คูเวต, กาตาร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรต, โอมาน, ปานามา, เปรู, เซอร์เบีย, ตุรกี และมาดากัสการ์

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.france24.com/en/2020072...ountries-where-coronavirus-circulating-widely

    http://www.xinhuanet.com/english/2020-07/25/c_139238555.htm

    https://www.thansettakij.com/conten...m_medium=internal_referral&utm_campaign=world

    https://www.mcot.net/viewtna/5f1bfddee3f8e40aef468097
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวโดยระบุว่า จากที่ได้มีการประกาศใช้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคม
    .
    โดยให้หน่วยงานเสนอโครงการผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบนั้น กระทรวงมหาดไทยได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 2 โครงการ ภายใต้แผนงานส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือน ได้แก่ 1.โครงการอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง วงเงินไม่เกิน 1,080.59 ล้านบาท
    .
    โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดำเนินการจ้างงานเพื่อปฏิบัติงานเป็นอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น ระยะเวลา 12 เดือน รวม 15,548 คน อัตราเดือนละ 5,000 บาท โดยดำเนินการตั้งแต่เดือนก.ค.63 – ก.ย.64 ซึ่งจะทำให้เกิดการส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นการกระจายรายได้ให้ประชาชน และเกิดนักบริบาลที่เป็นอาชีพใหม่ในท้องถิ่น ซึ่งในระยะยาวจะเป็นอาชีพที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน และ 2.โครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ (Tambon Smart Team) วงเงินไม่เกิน 2,701.87 ล้านบาท
    .
    โดยกรมการปกครอง ดำเนินการจ้างงานเพื่อปฏิบัติงานเก็บข้อมูลรายเดือน จำนวน 12 เดือน จำนวน 7,255 ตำบล ตำบลละ 2 คน รวม 14,510 คน อัตราเดือนละ 15,000 บาท ดำเนินการตั้งแต่เดือนส.ค.63 - ก.ย.64 ซึ่งจะทำให้เกิดการส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือน เกิดการจ้างงานในทุกตำบล อำเภอทั่วประเทศ และจะเกิดการจัดทำฐานข้อมูลแบบบูรณาการ (Database) ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการวางแผนพัฒนาพื้นที่ในทุกระดับ
    .
    “กระทรวงมหาดไทยพร้อมที่จะช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ด้วยการจ้างงานเพื่อกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคครัวเรือนและชุมชนไปพร้อมกับการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) เพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้มีอาชีพ มีรายได้ และผมได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานดำเนินโครงการด้วยความโปร่งใส ให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดินอย่างคุ้มค่า” รมว.มหาดไทย กล่าว

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.naewna.com/politic/507592
    -------------------------------

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ประกาศผลการจัดอันดับชาติที่บริหารจัดการโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)ได้ดีที่สุด ไต้หวันคว้าอันดับที่ 1 ตามด้วย บอตสวานา อันดับที่ 2 และเกาหลีใต้ อันดับที่ 3 ส่วนไทยติดอันดับที่ 4
    .
    เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา บลูมเบิร์ก สำนักข่าวยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน เผยผลการสำรวจเรื่องการบริหารจัดการโควิด-19 ของ 75 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ และประกาศผลการจัดอันดับประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่บริหารจัดการโควิด-19 ดีที่สุดในโลก โดยมาตรฐานการจัดอันดับประกอบด้วย อัตราการติดเชื้อโควิด 19 ต่อจำนวนประชากรในช่วง 30 วันที่ผ่านมา กิจกรรมทางเศรษฐกิจและขีดความสามารถในการดำเนินนโยบาย (policy space) ซึ่งปรากฏว่าไต้หวันคว้าอันดับที่ 1 อันดับที่ 2 คือบอตสวานา อันดับที่ 3 คือเกาหลีใต้ พร้อมกันนี้ยังระบุว่า 3 อันดับแรกนี้ สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้แล้ว กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชนกลับคืนสู่สภาพปกติ
    .
    สำหรับประเทศไทยติดอันดับที่ 4 ขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่อยู่ในอันดับที่ 5 ส่วน 3 อันดับสุดท้ายได้แก่ เอลซัลวาดอร์ เอกวาดอร์ และโบลีเวีย
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    - https://www.brighttv.co.th/news/social/bloomberg-thai-top5-covid19
    - https://th.rti.org.tw/news/view/id/2002913
    -------------------------------

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ครม.อนุมัติแล้ว! จ้างงานใหม่ทุกตำบล รวมกว่า 4 หมื่นคน ให้เงินเดือนสูงสูด 15,000 บาท
    #รอประกาศหลักเกณฑ์และเปิดรับสมัครเร็วๆนี้ #โควิด19
    .
    .
    1.โครงการอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง จำนวน 15,548 คน (ยังไม่ทราบค่าจ้าง) ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2563 – กันยายน 2564

    2.โครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการทุกตำบล ตำบลละ 2 คน รวมจำนวน 14,540 คน อัตราค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท ระหว่างเดือน สิงหาคม 2563 – กันยายน 2564

    3.โครงการเฝ้าระวังสร้างแนวกันไฟ สร้างรายได้ชุมชน จำนวน 9,137 คน อัตราค่าจ้าง 300 บาทต่อวัน เฉลี่ย 30 วันต่อเดือนต่อคน ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2563 - พฤษภาคม 2564

    ทั้งนี้ รายละเอียดโครงการจ้างงาน เพิ่มรายได้จะทยอยเข้าสู่การพิจารณาของครม.และประกาศให้ทราบต่อไป โดยจะมีการจัดทำแพลตฟอร์มแรงงาน เพื่อบันทึกข้อมูลการจ้างงานของโครงการต่างๆ ภายใต้พ.ร.ก.เงินกู้ เพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อนของผู้เข้าร่วมโครงการ

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อาร์เจนตินา ถูกแช่แข็ง เสาไฟแรงสูงอย่างน้อย 37 ต้น ในเส้นทางระหว่าง Madryn เชื่อมต่อ Futaleufu
    Cr. Fabrizio Petrakosky, el 23.07.2020.

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โควิดเป็นเหตุ จากดราม่าจีนปล่อยไวรัส สู่การบอยคอต โอลิมปิกฤดูหนาว ณ ปักกิ่ง นำทีมโดย อเมริกา เจ้าเดิม
    .
    ตามกำหนดการณ์เดิม ทัพนักกีฬาจาก 100 ประเทศทั่วโลก คงกำลังอยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อชิงชัยในการแข่งขันกันกีฬาโอลิมปิก TOKYO2020 แต่เมื่อเกิดโรคระบาดโควิด ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขันไปเป็นปีหน้าหรืออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นอีก หากสถานการณ์แพร่ระบาดทั่วโลกยังไม่ดีขึ้น
    .
    อย่างไรก็ตามผลกระทบจากโควิดไม่ได้ส่งผลต่อแค่การจัดแข่งขันโอลิมปิกที่โตเกียว แต่ยังส่งผลต่อโอลิมปิกฤดูหนาว ณ กรุงปักกิ่ง ที่ตามกำหนดต้องมีขึ้นในปี 2022 อีกด้วย ตามการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ
    .
    ทำไมถึงส่งผลต่อโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ? การแพร่ระบาดยังคงต่อเนื่องไปอีก 2 ปีจากนี้ อย่างนั้นหรือ?

    ถ้ามองกันตามข้อมูลจริง โควิดเป็นเพียงตัวกระตุ้นให้ปัญหาที่หลายประเทศมีต่อประเทศจีน เจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 เกิดขึ้นมาอีกครั้ง
    .
    ตั้งแต่เกิดเหตุโรคระบาด หลายประเทศโดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งข้อสงสัยว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจเป็นไวรัสที่มีการทดลองในห้องวิจัยประเทศจีน แต่เกิดหลุดออกมา ดังนั้น ประเทศจีนต้องรับผิดชอบ และด้วยเหตุนี้นำมาซึ่งความขัดแย้งจีนอเมริกาปะทุอีกระลอก และประเด็นการเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกฤดูหนาวของจีน ที่เคยเป็นปมปัญหาตั้งแต่จีนได้รับคัดเลือกใหม่ๆ ก็ถูกยกขึ้นมาอีกครั้ง
    .
    อเมริกาและหลายประเทศยุโรปมีความคิดเห็นว่า ปักกิ่งไม่สมควรได้เป็นผู้จัดงาน เพราะแม้ปักกิ่งเป็นเมืองที่มีอากาศหนาวจัดในช่วงฤดูหนาวแต่หิมะตกน้อยมาก และอีกเหตุผลหลักมาจากประเด็นการเมือง การปิดกั้นเสรีภาพของสื่อ และด้านสิทธิเสรีภาพ จากตัวอย่างที่เกิดขึ้นตอนปักกิ่งเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก 2008
    .
    ณ ขณะนี้ มี5 ประเทศที่กำลังบอยคอต หรือแบนปักกิ่ง คาดว่าไม่เข้าร่วมการแข่งขันในปี 2022 ประกอบด้วย อเมริกา แคนาดา เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และนอร์เวย์ แม้ว่าจะยังมีเพียงไม่กี่ประเทศ ไม่เหมือนตอนที่อเมริกานำทีม 60 ประเทศบอยคอตโอลิมปิกที่กรุงมอสโก สหภาพโซเวียต ปี 1980 จากกรณีบุกอัฟกานิสถาน แต่ทั้ง 5 ประเทศที่กล่าวมา เป็นประเทศหลักที่ได้เหรียญรางวัลการแข่งขันฤดูหนาวปีล่าสุด (2018) โดยจีนได้อันดับ 14

    ดังนั้น การที่ 5ประเทศหลักบอยคอต ส่งผลโดยตรงต่อความน่าสนใจของการแข่งขัน และนำพามาซึ่งผลกระทบต่อการหาสปอนเซอร์หรือผู้สนับสนุนการแข่งขันอย่างแน่นอน มันจึงมีแนวโน้มสูงมากที่จีนได้รับผลกระทบหนักจากครั้งนี้
    .
    อ้างอิงจาก:

    https://www.bloomberg.com/amp/opini...-19-isn-t-the-only-crisis-facing-the-olympics

    #OnUFO #Beijing2022 #WinterOlympics #COVID19

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    • เขื่อนฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ของเอธิโอเปีย (Grand Ethiopian Renaissance Dam) เป็นเขื่อนที่เอธิโอเปียภาคภูมิใจมากเพราะเมื่อสร้างเสร็จแล้วจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา แต่เขื่อนนี้ตั้งอยู่ในแม่น้ำบลูไนล์ (Blue Nile) ซึ่งเป็นหนึ่งในสองสาขาของแม่น้ำไนล์ ทำให้เพื่อนบ้านไม่พอใจอย่างมาก เพราะกลัวว่าปริมาณน้ำที่ใต้เขื่อนจะไม่พอใช้

    • เอธิโอเปียต้องขัดแย้งกับเพื่อนบ้านใต้เขื่อนมาตลอดนับตั้งแต่เริ่มโครงการ (ซึ่งรับเหมาก่อสร้างโดยบริษัทจากจีน) นั่นคือซูดานและอียิปต์ ทั้ง 3 ประเทศพยายามเจรจาหาจุดร่วมแต่ไม่ค่อยจะได้ผล โดยเฉพาะอียิปต์คิดจะใช้วิธีการรุนแรงเพื่อทำลายโครงการนี้มาแล้ว เนื่องจากอียิปต์ต้องพึ่งพาน้ำจืดจากแม่น้ำไนล์ถึง 90%

    • สถานการณ์มาถึงจุดพีคในปี 2556 เมื่อนายโมฮัมหมัด มอร์ซี ประธานาธิบดีอียิปต์เสนอวิธีการในการทำลายเขื่อนรวมถึงการสนับสนุนกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาลเอธิโอเปียลงมือทำลายเขื่อน ทว่าเขาไม่รู้ว่าเป็นการพูดในที่ประชุมซึ่งมีการถ่ายทอดสด ระหว่างการสนทนา ทำให้เอธิโอเปียรู้แผนการนี้พร้อมกับคนทั่วโลก

    • รัฐบาลเอธิโอเปียขอให้เอกอัครราชทูตอียิปต์อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้ช่วยประธานาธิบดีอียิปต์จึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องขอโทษกับเรื่องน่าละอายครั้งนั้น ส่วนคณะรัฐมนตรีอียิปต์ได้ออกแถลงการณ์เพื่อปลอบใจอีกฝ่ายว่าทั้งสองประเทศเป็น "เพื่อนบ้านที่ดีเคารพซึ่งกันและกันและการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกันโดยไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำร้ายอีกฝ่าย"

    • แต่ผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีเอธิโอเปียไม่อยากจะรับฟังและกล่าวหาอียิปต์ว่าได้แต่ฝันกลางวันและยังลำเลิกเรื่องในอดีตที่อียิปต์พยายามสั่นคลอนเสถียรภาพของเอธิโอเปียมาแล้ว

    • ผลก็คือประธานาธิบดีโมฮัมหมัด มอร์ซีของอียิปต์เลิกคิดที่จะร่วมมือกับเอธิโอเปียและบอกว่าอียิปต์พร้อมจะใช้ทุกวิถีทางเพราะไม่สามารถปล่อยให้ความมั่นคงทางน้ำของอียิปต์ถูกละเมิดได้ และย้ำว่าไม่ได้เรียกร้องให้ทำสงคราม แต่เขาจะไม่ยินยอมให้แหล่งน้ำของอียิปต์ถูกคุกคาม

    • หลังจากนั้นมาอียิปต์ก็ออกจากการเจรจาและใช้วิธีการทางการทูตเพื่อจะทำลายโครงการเขื่อนแห่งนี้ให้ได้ด้วยการพยายามชวนประเทศต่างๆ ในแอฟริกาที่ร่วมใช้แม่น้ำไนล์มาเป็นพันธมิตร และโน้มน้าวจีนในฐานะนายทุนด้วย ส่วนซูดานพยายามวางตัวเป็นกลางแม้ว่าจะเป็นประเทศที่อยู่ใต้เขื่อนก็ตาม

    • เอธิโอเปียก็ยอมหักไม่ยอมงอ ในเดือน ต.ค. 2562 นายอาบี อาเหม็ด นายกรัฐมนตรีเอธิโอเปียเตือนว่า "ไม่มีอำนาจใดสามารถหยุดเอธิโอเปียจากการสร้างเขื่อน หากมีความจำเป็นต้องทำสงคราม เราก็พร้อมระดมกำลังคนนับล้านคน"

    • ในเดือน ก.พ. 2563 สหรัฐอเมริกาเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยและมีแถลงการณ์ว่าเอธิโอเปียไม่ควรกักน้ำในเขื่อนจนว่าจะเจรจาได้ผลกับทุกฝ่าย แต่เอธิโอเปียไม่ยอมคุยด้วย และชาวเอธิโอเปียได้แสดงความโกรธเคืองโดยติดแฮชแท็กในโซเชียลเน็ตเวิร์กว่า #itismydam (มันคือเขื่อนของฉัน) และกล่าวหาว่าอเมริกากับธนาคารโลกเข้าข้างอียิปต์

    • ล่าสุดอียิปต์สามารถดึงจีนเข้ามาร่วมเป็นฝ่ายเดียวกับตัวเอง แม้ว่าบริษัทจากจีนจะรับเหมาโครงการสร้างเขื่อนและจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของเอธิโอเปีย แต่อาจเพราะเหตุผลทางการเมืองจึงแสดงความกังวลร่วมกับอียิปต์ว่าเอธิโอเปียไม่ควรเดินหน้าโครงการฝ่ายเดียว เพราะจะกระทบต่อส่วนแบ่งแหล่งน้ำในภูมิภาค

    • ตอนนี้เอธิโอเปียเดินหน้าเติมน้ำในเขื่อนแล้วโดยอ้างว่าเจรจากับอียิปต์แล้ว แต่แหล่งข่าวบางแห่งบอกว่าอียิปต์ยังไม่ยอม 100% และก็ยังมีการพูดถึงเรื่องที่อียิปต์อาจใช้กองทัพเข้ามาทำลายโครงการอยู่ ซึ่งบางคนบอกว่าอาจไม่ถึงขั้นนั้น แต่เพราะความจำเป็นอย่างมากของอียิปต์ที่ต้องพึ่งน้ำจากแม่น้ำไนล์ ซึ่งสถานการณ์ดุเดือดอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดฝัน

    ข้อมูลจาก
    • "Caught on tape, Egyptian lawmakers plot Nile dam sabotage". New York Amsterdam News. 6 June 2013.
    • "Ethiopia summons Egypt's ambassador over Nile dam attack proposals". Washington Post. 6 June 2013.
    • "Ethiopia: Egypt Attack Proposals 'Day Dreaming'". Ya Libnan. 5 June 2013.
    • "Egyptian warning over Ethiopia Nile dam". BBC News. 10 June 2013.
    • "Ethiopia's Abiy Ahmed issues warning over Renaissance Dam". Al Jazeera. 22 October 2019.
    ภาพจาก Hailefida (CC BY-SA 4.0)

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ❗️#แม่ตื่นแล้ว!
    กฎใหม่ ฮ่องกงจำกัดพื้นที่ลูกเรือห้ามเข้าชุมชน
    .
    หลังจากโควิดระลอก 3 ในฮ่องกงผ่านไป 3 สัปดาห์ พร้อมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 1,247 ราย (เฉพาะติดเชื้อในฮ่องกงเพิ่มขึ้น 1,071 ราย)
    .
    รัฐบาล(เพิ่ง)มีประกาศวันนี้ เรื่อง #กฎใหม่ควบคุมการเข้าเมืองของลูกเรือ ค่ะ
    .
    =============
    ที่ผ่านมา รัฐบาลถูกกดดันให้ทบทวนมาตรการ #ยกเว้นกักตัวให้ลูกเรือ เนื่องจากหลายฝ่ายตั้งสมมติฐานว่า การระบาดของโควิดในระลอก 3 นี้ อาจมาจากการรับเชื้อจากต่างประเทศผ่านกลุ่มลูกเรือฯ
    .
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง #ลูกเรือเดินสมุทร ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางมาเปลี่ยนกะในฮ่องกงได้แถมยังไม่ต้องกักตัว
    (ปล. ตรงนี้ พี่แป๋วไม่ยืนยัน แต่เข้าใจว่า ฮ่องกงเป็นเมืองเดียวในเอเชียที่ตอนนี้อนุญาตให้เปลี่ยนกะแบบนี้ได้)
    .
    ซึ่งในเดือน มิย ที่ผ่านมา เกิดตัวอย่างเคสเรือขนส่งสินค้าจากฮ่องกงขึ้นฝั่งที่ Ning Po ในจีนแผ่นดินใหญ่
    โดยจีนฯ ตรวจพบลูกเรือติดเชื้อราว 10 ราย หลายรายเป็นลูกเรือที่บินมาจากยุโรปและเปลี่ยนกะในฮ่องกง ซึ่งลูกเรือเหล่านี้ได้รับยกเว้นกักตัวในฮ่องกงด้วย และเข้าพักโรงแรมในเมือง
    .
    แม้ในช่วงต้นของการระบาดระลอก 3 รัฐบาลยังคงยืนยันยกเว้นกักตัวลูกเรือเช่นเดิม ที่เพิ่มเติมเพียงจับลูกเรือตรวจหาเชื้อเมื่อมาถึงฮ่องกง
    .
    แต่ก็ไม่เพียงพอ เมื่อยังคงพบเคสจากต่างประเทศเป็นลูกเรือแทบทุกวัน มิหนำซ้ำ ยังพบกรณีลูกเรือที่ไม่มีวินัย หลบมาใช้ชีวิตปะปนกับคนในเมือง
    .
    และขณะนี้ ก็มีเรือขนส่งสินค้าอีก 6 ลำ ที่ลอยลำอยู่ใกล้เกาะลัมมะ ไม่ได้รับอนุญาตให้เทียบท่าเนื่องจากพบลูกเรือติดเชื้อ
    .
    ===============
    ข้างต้น พี่แป๋วด้นเองด้วยความอึดอัดใจ ตอนนี้ค่อยโล่งใจ เมื่อรัฐบาล(เพิ่งตื่น)ออกประกาศวันนี้ และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธนี้ 29 กค เป็นต้นไปค่ะ
    .
    #ลูกเรือเดินสมุทร
    (1) เมื่อมาถึงฮ่องกง อนุญาตให้ลูกเรือฯ เดินทางโดยตรงระหว่างเรือและสนามบินเท่านั้น และบริษัทต้นสังกัดจะเป็นผู้จัดหายานพาหนะดังกล่าว
    (2) การเปลี่ยนกะ อนุญาตเฉพาะเรือนำส่งสินค้ารายวันเข้าฮ่องกง
    .
    #ลูกเรือทางอากาศ
    (1) ต้องมีผลตรวจไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนเข้าฮ่องกงว่าปลอดโควิด หรือ เข้ามาตรวจที่ศูนย์ Asia World Expo เมื่อมาถึงฮ่องกง
    (2) หากตรวจที่ศูนย์ Asia World Expo ต้องรอผลตรวจอยู่ที่ศูนย์ หรือ แยกตัวเองในสถานที่ที่จัดไว้ให้
    (3) สายการบินต้องจัดยานพาหนะรับส่งลูกเรือไปสู่บ้านพักหรือโรงแรม
    .
    กฎดังกล่าว บังคับใช้กับผู้ที่ได้รับยกเว้นกักตัวอื่นๆ ในกรณีที่คล้ายกันด้วย
    .
    Source:
    https://news.rthk.hk/rthk/en/component/k2/1539931-20200726.htm
    .
    #eatlike852 #covid19hongkong

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ เปิดเผยผลการวิจัยล่าสุดซึ่งได้รับการเผยแพร่ลงบนวารสารทางการแพทย์ JAMA Internal Medicine บ่งชี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในสหรัฐฯ อาจสูงกว่าตัวเลขที่มีการรายงานจริง 6-24 เท่า | ที่มาภาพ: AFP (อ้างใน VOA) https://bit.ly/39wnhmz

    อ่านเพิ่มเติม 'จับตา: สถานการณ์ COVID-19 ประจำสัปดาห์ 19-25 ก.ค. 2020' https://www.tcijthai.com/news/2020/7/watch/10715

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กปน. ประกาศแจ้งเตือนหลายพื้นที่น้ำประปาไหลอ่อนถึงไม่ไหลชั่วคราว ช่วงคืนวันที่ 29-30 ก.ค.2563นี้ บางจุดดำเนินการถึงช่วงเช้ามืด

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประปานครหลวง (กปน.) ออกประกาศแจ้งเตือนผู้ใช้น้ำ เรื่องน้ำประปาไหลอ่อนถึงไม่ไหลชั่วคราว ในวันพุธที่ 29 และวันพฤหัสบดีที่30 ก.ค. 2563 โดยมีรายละเอียดพื้นที่ ดังนี้

    วันพุธที่ 29 ก.ค. 2563

    กปน. มีความจำเป็นต้องบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า ณ โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ตั้งแต่เวลา 23.00 - 02.00 น. ของวันรุ่งขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการน้ำประปาอย่างเพียงพอและทั่วถึง โดยระหว่างดำเนินการ ส่งผลให้น้ำประปาไหลอ่อน

    วันพฤหัสบดีที่ 30 ก.ค. 2563

    กปน. มีความจำเป็นต้องซ่อมท่อประธานขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1,500 มิลลิเมตร บริเวณคลองตาหนัง ถนนลาดพร้าว ตั้งแต่เวลา 22.00 - 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้นโดยระหว่างดำเนินการส่งผลให้น้ำประปาไหลอ่อนถึงไม่ไหล ในพื้นที่ดังต่อไปนี้

    ถนนลาดพร้าว ฝั่งเลขคู่ ตั้งแต่ซอยลาดพร้าว 144 ถึงซอยลาดพร้าว 150ถนนลาดพร้าว ฝั่งเลขคี่ ตั้งแต่ซอยลาดพร้าว 115 ถึงซอยลาดพร้าว 127ถนนแฮปปี้แลนด์สาย 1 ถนนแฮปปี้แลนด์สาย 2ซอยนวมินทร์ 1ถนนเสรีไทย ฝั่งเลขคี่ ตั้งแต่ซอยเสรีไทย 1 ถึงซอยเสรีไทย 7ถนนเสรีไทย ฝั่งเลขคู่ ตั้งแต่แยกบางกะปิ ถึงคลองพิชัย (ซอยเสรีไทย 2)

    และในวันเดียวกัน กปน. ก็มีความจำเป็นต้องซ่อมท่อประธานขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1,200 มิลลิเมตร บริเวณคลองเจ้าเมือง ถนนเลียบทางด่วนกาญจนาภิเษกด้านใต้ (วงแหวนใต้) ในคืนวันที่ 30 ก.ค. 2563 ตั้งแต่เวลา 23.00 - 03.00 น. ของวันรุ่งขึ้นโดยระหว่างดำเนินการส่งผลให้น้ำประปาไหลอ่อน ในพื้นที่ดังนี้

    ถนนกาญจนาภิเษก(วงแหวนใต้) ทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่ถนนประชาอุทิศ ถึงถนนสุขสวัสดิ์ถนนสุขสวัสดิ์ทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่ถนนกาญจนาภิเษก ถึงถนนคลองสรรพสามิต

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภูเก็ต ในวันที่ดีมานก์การท่องเที่ยวน้อยกว่าซัพพลาย
    ต่างชาติหาย คนไทยบ่นของแพง กิจการเจ๊ง ผู้ค้าขาดทุน
    .
    ภูเก็ตซบเซาเงียบเหงาหนัก ร้านเจ๊งยับ ขาดทุน แม่ค้านั่งตบยุง เป็นสิ่งที่ผู้เขียนเห็นการนำเสนอข่าวและการตั้งโพสต์ในกลุ่มต่าง ๆ ในช่วง 2 – 3 วันมานี้ และกลายเป็นประเด็นการโต้เถียงกันระหว่างคนท้องถิ่นที่กำลังเจอปัญหา กับคนต่างถิ่นที่ทั้งเคยประสบพบเจอกับประสบการณ์การเดินทางไปเยือนภูเก็ตทั้งในด้านบวกและด้านลบ
    .
    โดยคนในท้องก็แสดงความเห็นว่า มาเที่ยวภูเก็ตไปกินอาหารตามร้านค้าในแหล่งท่องเที่ยวก็ต้องแพงเป็นธรรมดา อาหารราคาถูกที่คนท้องถิ่นกินกันก็มีทำไมไม่ไป ในขณะที่ผู้มาเยือนต่างถิ่นก็โต้กลับว่า การเที่ยวภูเก็ตถ้าไม่ขับรถไปเอง ก็เจอกับค่าโดยสารที่แพง โดนเหมา โดนโขกสับราคาตั้งแต่ก้าวเท้าออกมาจากสนามบิน นักท่องเที่ยวไม่รู้เหรอว่าคนในท้องถิ่นกินตรงไหน เพราะไปเที่ยวมันก็ต้องกินอะไรที่หาได้ง่ายและสะดวก ด้วยเวลาที่จำกัดทำให้การไปเสาะหาที่กินตามคนท้องถิ่นคงไม่ใช่เรื่องง่าย มันอาจจะมีแต่ในราคาโดยเฉลี่ยแล้วมันไม่ควรสูงเกินไป ยิ่งเป็นจังหวัดที่เป็นเกาะ ทะเลล้อมรอบ อุดมสมบูรณ์แต่อาหารทะเลกลับแพงอย่างหน้าประหลาดใจ
    .
    ไม่ใช่แค่เรื่องอาหารการกิน แต่ก็เถียงกันเรื่องราคาที่พัก ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ค่าเดินทาง และอื่น ๆ อีกมากมายว่า เป็นราคาที่คนไทยทั่วไป หรือแม้แต่ต่างชาติเองเห็นแล้วก็อาจสะดุ้งได้
    .
    ยิ่งตอนนี้ตลาดนักท่องเที่ยวหลักอย่างชาวต่างชาติไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ ยิ่งส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อภาคการท่องเที่ยวของภูเก็ต เพราะเม็ดเงินมหาศาลที่เคยได้ในสัดส่วนที่มากกว่านักท่องเที่ยวไทยครึ่งต่อครึ่งได้หายไป มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ธุรกิจทุกแห่งจะอยู่รอด
    .
    ในปี 2019 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาประเทศไทย 39.7 ล้านคน และนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 10.6 ล้านคน คือตัวเลขของจังหวัดภูเก็ตจังหวัดเดียว คิดเป็น 22% ของรายได้จากการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยทั้งหมด และเป็น 70% ที่รายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัดมากจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
    .
    จากประชากรตามทะเบียนราษฎร์ราว 416,582 (พ.ศ. 2562) นั่นหมายความว่าทั้งปีมีนักท่องเที่ยวเข้าสู่ภูเก็ตมากกว่าประชากรทั้งจังหวัดมากกว่า 10 เท่า
    .
    เชื่อว่าในสายตาคนต่างพื้นที่ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยว เวลาไปเที่ยวภูเก็ตสิ่งแรกที่คิดได้ในหัวคือ “แพง” อันนี้ออกตัวและขออภัยไว้ก่อนหากการแสดงความเห็นนี้อาจจะทำให้ชาวภูเก็ตขุ่นข้องใจ แต่มันคือทัศนะจากนักเดินทางที่พบเจอกันจริง ๆ
    .
    แม้คนพื้นที่จะบอกว่าไม่ได้แพงทั้งหมด ของถูก ๆ ก็มี แต่คนต่างถิ่นเขาก็ไม่รู้เหรอกว่าตรงไหนถูก และมาตรฐานความถูกของแต่ละคนก็คงจะไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ยังหาของถูกกินได้ทั่วไปในราคา 35 - 45 บาท หรือทานร้านอาหารแล้วสั่งเป็นกับข้าวเริ่มต้นที่ 70 บาทได้
    .
    แต่สำหรับภูเก็ต กระบี่ และสมุย ที่นับว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ หรือจะของโลกเลยก็ว่าได้ ภาพในหัวที่หลายคนคิดคือ ทุกอย่างแพง และต้องใช้เงินเพื่อการท่องเที่ยวมาก ไหนระบบขนส่งมวลชนไม่เอื้อต่อการเดินทางเอง ค่าเดินทางแพง และไม่ครอบคลุม การจะไปเที่ยวแต่ละทีต้องรวมตัวไปกับเพื่อนแล้วเช่ารถขับหารกันถึงจะคุ้มค่า
    .
    อีกทั้งสถานการณ์ในปัจจุบันคือ ผู้คนในวัยทำงานรายได้ลดลง และมีคนตกงานไม่มีกำลังซื้อ ไม่มีกะจิตกะใจจะเที่ยว หรือถ้าจะเที่ยวก็คงเลือกจังหวัดที่มีทะเลใกล้ ๆ เมืองกรุงฯ เช่น ชลบุรี ระยอง จันทร์บุรี หัวหิน และชะอำ ซึ่งใช้เวลาเดินทางไปกลับสบาย ๆ โดยการขับรถไปเอง แต่ถ้าจะลงใต้ไกล ๆ หลายคนจะเริ่มคิดแล้วว่ามันจะมีค่าใช้จ่ายงอกออกมาอีกไม่น้อย บางครั้งเงินที่ใช้ในทริบสำหรับจังหวัดท่องเที่ยวอาจสูงเท่ากับการไปเที่ยวต่างประเทศใกล้ ๆ ได้เลย ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านนานักท่องเที่ยวคนไทยคือกลุ่มนักท่องเที่ยวชนชั้น 2 เพราะตลาดนักท่องเที่ยวในภูเก็ต กระบี่ และสมุย เจาะกลุ่มไปที่ชาวต่างชาติมีกำลังซื้อเป็นหลักมาตลอด ดังนั้นราคาที่พบเจอมันเลยเป็นราคาที่คนไทยรู้สึกว่ามันสูงกว่าความคุ้มค่า
    .
    อีกประการหนึ่งที่นับว่าเป็นปัญหาทางโครงสร้างทางสังคมและเศรษฐกิจในเมืองท่องเที่ยวก็คือ การที่ผู้คนต่างถิ่นซึ่งเดินทางมาหางานทำ ประกอบธุรกิจในจังหวัด มันก็มีผลข้างเคียงที่ตามมาก็คือมูลค่าต้นทุนการประกอบกิจการที่สูงเกินจริง เช่น ค่าเช่าพื้นที่ร้านค้า ค่าเช่าแผงค้า ที่ปรับสูงขึ้นในทำเลต่าง ๆ อย่างไร้การควบคุม บางพื้นที่เซ้งต่อ ๆ กันมาเป็นทอด ๆ จนแทบไม่รู้ว่าใครคือมือที่ 1 ยิ่งทำให้ค่าที่แพงขึ้นเมื่อถึงมือผู้เช่าปัจจุบัน จนต้องทำให้มีการบวกราคาเข้าไปในสินค้าและบริการจนสูงเกินความเป็นจริง ซึ่งตรงนี้คือเป็นความบิดเบี้ยวของโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่พบเห็นได้ทั่วไป
    .
    บางแผงค้าเล็ก ๆ เพียงไม่กี่ตารางเมตรในย่านท่องเที่ยวดัง ๆ กลับมีค่าเช่าแผงหลักแสนต่อเดือน ซึ่งสูงพอ ๆ กับการเช่าพื้นที่ทำร้านดี ๆ ร้านหนึ่งในห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ เลย
    .
    หากจะดึงคนไทยไปเที่ยว ก็อาจต้องแก้ไขที่การเปลี่ยนมุมมองของคนไทยก่อนเลยว่ามาภูเก็ตไม่แพง เดินทางสะดวก ไม่โดนแท็กซี่โขกค่าโดยสาร ไม่โดนให้เหมารถแพง ๆ อย่างเดียว ซึ่งถ้าแก้ไขไม่ได้ก็ต้องยอมรับสภาพจริง ๆ
    .
    เรื่องของจำนวนประชากรในประเทศก็มีส่วน เพราะไทยมีประชากรแค่ 66 ล้าน โดยมีประชากรวัยทำงานที่มีกำลังซื้อจริง ๆ แค่ 25 ล้านคน ยังไม่รวมที่ต้องตกงานไปในช่วงนี้อีก 6 ล้านคน แต่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาในแต่ละปีสูงถึง 33 ล้านคน ซึ่งมันคือครึ่งหนึ่งของประชากรประเทศ ฉะนั้นเราอาจพึ่งพาตัวเองได้แค่บางส่วน เพราะดีมานด์ในประเทศไม่ได้ใหญ่เท่ากับซัพพลายที่มีที่สร้างเอาไว้ การพึ่งพาตัวเองมันทำได้ไม่ทั้งระบบ เพราะซัพพลายส่วนเกินมันสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับตลาดอื่น ๆ ด้วย
    .
    และหากเราลดพึ่งพาจากภายนอก เพื่อพึ่งพากำลังซื้อภายในที่มีเพียงแค่หยิบมือ ที่ทุกภาคส่วนต่างรุมทึ้งกำลังซื้อเพียงน้อยนิดนี้ ผลที่ตามมาคือ ล้มทั้งระบบ เพราะอย่าลืมว่าเค้กมีก้อนเดียว แต่คนต้องการส่วนแบ่งมีเป็นร้อย มันคงไม่สามารถยืนหยัดได้นานนัก ธุรกิจที่สร้างขึ้นจากดีมานด์ภายนอกที่เกิดจากการท่องเที่ยวของต่างชาติ มันจึงล้มเพราะสิ่งที่มีอยู่มันเกินความต้องการในปัจจุบันนั่นเอง
    .
    มันคงเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับว่า จะมีธุรกิจที่เกียวข้องกับการท่องเที่ยวอีกไม่น้อยในภูเก็ต กระบี่ สมุย พัทยา ระยอง หรือเชียงใหม่ ต้องปิดตัว เพราะในเวลานี้โครงสร้างการบริการเพื่อการท่องเที่ยวที่มีมันเกินความต้องการ และผู้คนต่างพยายามลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลงเนื่องจากความมั่นคงทางรายได้ที่ลดลง อะไรตัดได้ตัด ประหยัดได้ประหยัด ยิ่งการท่องเที่ยวถือว่าเป็นสิ่งที่ตัดง่ายที่สุด ทำให้หลายคนเลือกที่จะลดครอสตัวเองลงโดยการเที่ยวใกล้ ๆ ไปเองได้ แบบประหยัด ๆ
    .
    ถ้ามีคำถามตามมาว่า ลดค่าบริการ ค่าอาหาร ค่าโรงแรมลงมา จะมีคนไทยมาเที่ยวเพิ่มขึ้นหรือไม่? คำตอบก็อาจจะมีทั้งมาเพิ่ม และไม่เพิ่มก็ได้ เพราะอย่างที่บอกคือ ทุกอย่างผูกพันธ์อยู่ที่รายได้ของคน ถ้ารายได้ลดลง ความมั่นคงก็ลดตาม ความอยากในการเดินทางก็จะถูกหักห้ามด้วยใจตัวเองง่ายขึ้น สุดท้ายแล้วเมื่อดีมานด์กับซัพพลายมันไม่สมดุลกัน การกำจัดซัพพลายส่วนเกินจึงเกิดขึ้นตามธรรมชาติ นำไปสู่การปิดกิจการต่าง ๆ อย่างที่เห็น
    .
    นับเป็นโจทย์ยากที่ถามไปยังผู้บริหารจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดท่องเที่ยวอื่น ๆ ด้วยว่า ได้พยายามสร้างแคมเปญอะไรเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยหรือยัง หรือรอแค่ส่วนกลางป้อนเพียงอย่างเดียว เช่น ร่วมมือกับเอกชนผู้ประกอบการลดราคาที่พัก จัดระบบรถโดยสารที่ราคาเป็นธรรม หรือเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ภูเก็ตเป็นสถานที่เหมาะแก่การพักผ่อนแบบสงบเงียบในช่วงนี้ ทำอย่างไรก็ได้เพื่อล้างภาพภูเก็ตของแพง โขกราคา หรือว่าวุ่นวายไม่เป็นมิตรกับคนไทยกันเอง มันอาจจะทำกำไรได้น้อยหรือไม่ทำกำไรเลย แต่มันก็ยังดีกว่าขาดทุนหนัก ๆ ต่อเนื่อง ซึ่งไม่ลองทำก็คงไม่รู้ เพราะเวลานี้มันคงต้องถึงเวลาเปลี่ยนแปลงบางอย่าง และหันมามองตลาดคนไทยที่เคยถูกเมินมาตลอดแล้วหรือยังนั่นเอง
    .
    เพราะไม่ว่าจะดีจะร้าย ไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากคนไทยช่วยกันเอง แต่คนไทยเองก็คงช่วยได้เท่าที่ช่วย เพราะตอนนี้หลายล้านชีวิตก็ไม่ได้มีกำลังซื้ออีกแล้ว

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมื่อ CNN จุดประเด็นคดี “บอส อยู่วิทยา”
    ข้อสงสัยในความตรงไปตรงมาการรายงานการทำคดี?
    .
    นี่ไม่ใช่การจับผิด แต่เป็นการตั้งคำถามถึงข้อสงสัยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นถึงคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทกระทิงแดง ที่ขับรถหรูชนตำรวจ สน.ทองหล่อเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งข่าวนี้เงียบหายไปจากหน้าสื่อมาพักใหญ่ ๆ แต่ก็จะมีโผล่มาบ้างเป็นครั้งคราว
    .
    จนกระทั่งเมื่อวานนี้ สำนักข่าวของไทยได้พบเนื้อหาข่าวของสำนักข่าว CNN ที่ระบุว่าสำนักงานอัยการสูงสุดสั่งยกฟ้องนายบอส และคณะกรรมการตำรวจนำโดยผู้บัญชากรตำรวจแห่งชาติ ไม่คัดค้านการตัดสินใจนี้ และจะดำเนินการยกเลิกหมายจับต่อไป ซึ่งคำสั่งดังกล่าวลงวันที่ 18 มิถุนายน 2563
    .
    คำถามที่ผุดขึ้นในหัวก็คือ คดีสำคัญที่ประชาชนติดตามให้ความสนใจตลอดทุกครั้งที่มีการนำเสนอข่าว ทำไมพอเมื่อถึงวันสำคัญทางกฎหมายในคดีนี้ ถึงไม่มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการจากทั้งสำนักงานอัยการสูงสุด หรือจากตำรวจก่อนที่จะเป็นข่าวบนสื่อของต่างประเทศ
    .
    จากประสบการณ์การทำข่าวของผู้เขียนและนักข่าวหลาย ๆ ท่านเองคงทราบว่าข่าวใหญ่ ๆ สำคัญ ๆ ก่อนข่าวจะเผยแพร่ออกมานั้น จะต้องผ่านโต๊ะแถลงอย่างเป็นทางการเสียก่อน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงกันพร้อมกัน ไม่คลาดเคลื่อน
    .
    แต่ในคดีดังกล่าวนี้กลับมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข่าวกับสำนักข่าวก่อนนานเป็นเดือน ๆ แล้ว และไม่มีการจัดโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงเลยให้สาธารณะชนได้รับทราบ กลายเป็นว่าสำนักข่าวของไทยไปพบข่าวนี้บนเว็บไซต์ข่าวของ CNN ว่าทั้งตำรวจและรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดได้ให้สัมภาษณ์คนละรอบ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา
    .
    ซึ่งจะมาบอกว่าเอกสารยังไม่ชัวร์เลยไม่จัดแถลงข่าวก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าไม่ชัวร์จะไม่มีการให้ข่าวใด ๆ แล้วมันก็กลายเป็นเรื่องจริงซึ่งตรงกับที่เอกสารออกมาตามที่ CNN รายงาน จนเป็นประเด็นข่าวไปเมื่อวานหลังจากให้สัมภาษณ์ไว้แล้วเกือบ 1 เดือน ถึงจะออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวในวันนี้เพราะสังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์กดดัน
    .
    สิ่งที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะคิดเหมือนผู้เขียนก็คือ ถ้าเรื่องนี้ไม่เป็นข่าวขึ้นมา คดีนี้จะหายเงียบไปแบบเนียน ๆ ใช่หรือไม่? อีกทั้งพอเป็นข่าวออกมาแบบนี้สำนักข่าวอิศราเลยยกหูโทรศัพท์ไปหาอัยการสูงสุดเพื่อถามถึงข้อเท็จจริง กลายเป็นว่าทางฝั่งอัยการสูงสุดบอก ยังไม่ได้รับรายงาน ซึ่งตามประสบการทางการข่าว การให้สัมภาษณ์ว่า “ยังไม่ทราบเรื่อง” เป็นการเลี่ยงตอบแบบปัดไปก่อน ซึ่งจริง ๆ หนังสือออกจากอัยการสูงสุดไปแล้วจะไม่ทราบไม่ได้ และการที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อนั้น ส่วนใหญ่สื่อจะติดต่อไปที่แหล่งข่าวโดยตรงไม่ก็ติดต่อกับเลขาฯ ส่วนตัวเพื่อขอคิวสัมภาษณ์ นัดวัน เวลา สถานที่ แล้วถึงจะได้สัมภาษณ์กับกับแหล่งข่าว
    .
    แต่หากแหล่งข่าวที่เป็นระดับบัญชาการสูงสุดไม่สะดวก ก็จะมอบหมายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาระดับรองลงมา ซึ่งในที่นี้อาจเป็นรองอัยการสูงสุดเป็นผู้ให้สัมภาษณ์เอง เพราะตามระบบราชการแล้วจะสัมภาษณ์ใครในเรื่องอะไร จะต้องติดต่อไปยังตัวท็อบสุดของหน่วยงานก่อน แล้วจึงค่อยมอบหน้าที่ลงมาตามแต่สมควรหาตัวท็อบไม่ว่างหรือไม่สะดวก
    .
    ดังนั้นการบอกว่าไม่ทราบเรื่องที่ CNN ขอสัมภาษณ์เรื่องคดีนี้ จึงฟังดูแล้วย้อนแย้งต่อกระบวนการขั้นตอนพอสมควร
    .
    อย่างไรก็ตามคดีนี้ประชาชนเองอาจไม่ได้มุ่งหวังว่าผู้กระทำความผิดนั้นจะถูกดำเนินคดี เพราะถ้าจะดำเนินคดีก็คงทำได้ไปนานแล้ว แต่ประชาชนหรือสื่อมวลชนเองตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่มุบมิบทำมากกว่า ซึ่งที่ผ่านมาก็คงจะพอทราบได้ว่าการทำคดีนั้นตรงไปตรงมามากน้อยหรือไม่ และไม่ใช่คดีนี้คดีเดียวแต่รวมถึงหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญ ผู้มีชื่อเสียง หรือมหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลบนโลกธุรกิจ มันสะท้อนไปยังเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบว่า ทำตามกระบวนการอย่างตรงไปตรงมาจริงหรือไม่? เพราะเชื่อว่าประชาชนสงสัยมาตลอด แม้ปากจะบอกว่าทำอย่างตรงไปตรงมา แต่กระบวนการที่มองเห็นได้มันคือคำตอบที่ชัดเจนที่สุดแล้ว

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไทยป่วยโควิดเพิ่ม 9 ราย กลับจาก 6 ประเทศ จากฟิลิปปินส์ บาห์เรน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ อียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย พบ 4 รายมีอาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ป่วยสะสม 3,291 ราย เหลือรักษาใน รพ.124 ราย

    อ่านต่อ > https://news1live.com/detail/9630000076544
    ...........................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา EU ขยายระยะเวลาการงดเว้นการเก็บภาษีศุลกากรสำหรับการนำเข้าและภาษีการขายของหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่น ๆ ไปจนถืงสิ้นเดือน ต.ค. 2020 เพื่อช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลน ในขณะที่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปกำลังเผชิญกับปัญหาการระบาดของเชื้อ COVID-19 | ที่มาภาพ: Reuters https://reut.rs/2ZUzWMW

    อ่านเพิ่มเติม 'จับตา: สถานการณ์ COVID-19 ประจำสัปดาห์ 19-25 ก.ค. 2020' https://www.tcijthai.com/news/2020/7/watch/10715

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ออสเตรเลีย รัฐวิกตอเรียซึ่งกำลังต่อสู้เพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 และเพิ่งมีผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุด จะส่งทหารไปสอบถามผู้ที่ถูกตรวจพบว่ามีผลบวกต่อเชื้อ COVID-19 มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียระบุว่า นี่คือขั้นตอนพิเศษเพื่อให้แน่ใจได้ว่าทางการไม่ได้แค่ใช้โทรศัพท์ติดตามได้เท่านั้น แต่ยังสามารถติดต่อกับผู้ติดเชื้อ และสัมภาษณ์ได้จนเสร็จ และสามารถเริ่มกระบวนการตามรอยผู้ติดต่อกับผู้ติดเชื้อ ทั้งนี้โดยหากเคาะประตูแล้วไม่อยู่บ้าน ทั้งที่ต้องกักตัวก็จะต้องถูกปรับ | ที่มาภาพ: The Australian https://bit.ly/30WZdWj

    อ่านเพิ่มเติม 'จับตา: สถานการณ์ COVID-19 ประจำสัปดาห์ 19-25 ก.ค. 2020' https://www.tcijthai.com/news/2020/7/watch/10715

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โรงภาพยนตร์หลายร้อยแห่งในหลายเมืองของจีนกลับมาให้บริการอีกครั้ง หลังจากปิดไปนาน 6 เดือนทั่วประเทศเพราะ COVID-19 แต่ทั้งนี้ยังมีข้อจำกัดในการเปิดหลายอย่าง | ที่มาภาพ: Yang Hui/GT

    อ่านเพิ่มเติม 'จับตา: สถานการณ์ COVID-19 ประจำสัปดาห์ 19-25 ก.ค. 2020' https://www.tcijthai.com/news/2020/7/watch/10715

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวอิสราเอลชุมนุมประท้วงหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี ในนครเยรูซาเลม หลังไม่พอใจการรับมือกับการแพร่ระบาด COVID-19 ของรัฐบาล | ที่มาภาพ: Ammar Awad/Reuters (อ้างใน Al Jazeera) https://bit.ly/3eMuGzb

    อ่านเพิ่มเติม 'จับตา: สถานการณ์ COVID-19 ประจำสัปดาห์ 19-25 ก.ค. 2020' https://www.tcijthai.com/news/2020/7/watch/10715

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บอร์ด สช. เดินหน้า ‘คุ้มครองเด็ก’ จากอีสปอร์ต พร้อมหนุนจัดสมัชชาสุขภาพ กทม. ครั้งแรก

    ที่ประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) รับทราบความคืบหน้าแผนปฏิบัติการ และร่างกฎหมายสร้างความรับผิดชอบร่วมทางสังคมเกี่ยวกับอีสปอร์ตต่อเด็ก ไฟเขียว! หนุนจัดสมัชชากรุงเทพมหานครครั้งแรกปลายปีนี้ และเตรียมออกประกาศยกระดับสมัชชาสุขภาพทุกจังหวัด หวังหยิบปัญหาของพื้นที่พัฒนาเป็นนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมของแต่ละจังหวัดเพื่อขับเคลื่อนต่อ

    https://www.tcijthai.com/news/2020/7/current/10685

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    25 ก.ค.63 - พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 1599 กรณีมีผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบผ่านเฟสบุ๊คและไลน์ ใช้ชื่อว่า “FAST LOAN” โดยมีการระบุหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ 099-2127629 และ ID Line : fastloan เพื่อใช้ในการโฆษณาแก่ประชาชนทั่วไปที่มีความเดือดร้อนเรื่องการเงินและเป็นช่องทางในการติดต่อระหว่างลูกหนี้และผู้ปล่อยเงินกู้ ในการส่งหลักฐานการกู้ยืมเงิน หลักฐานการโอนเงิน รวมถึงการทวงถามหนี้ด้วย
    .
    จึงได้สั่งการให้ บก.ปอศ. ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว เนื่องจากผู้ร้องเรียนซึ่งเป็นลูกหนี้รายหนึ่งได้กู้เงินจากเจ้าหนี้ผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ ชื่อ “FAST LOAN" โดยหากกู้เงินเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท ผู้กู้ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ยโดยมีเงื่อนไขต้องชำระคืนภายใน 7 วัน เป็นจำนวนเงิน 2,500 (ดอกเบี้ย 500 บาท ต่อ 7 วัน คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 25 ต่อ 7 วัน หรือร้อยละ 100 ต่อเดือน ) หากชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนดจะถูกปรับเป็นเงิน 100 บาทต่อครั้ง ผู้กู้ได้กู้เงินเป็นจำนวนหลายครั้ง ไม่เคยขาดส่งแต่เนื่องจากเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำให้ผู้กู้หาเงินมาชำระหนี้ไม่ได้ตามกำหนด จึงขอผ่อนผันกับผู้ให้กู้ แต่ผู้ให้กู้ก็ยังใช้การข่มขู่ผ่านทางเฟสบุ๊คและทางไลน์ โดยใช้ถ้อยคาหยาบคาย รุนแรง และขู่ว่าจะใช้กำลัง โดยโพสรูปภาพข่มขู่ลูกหนี้ลักษณะจะใช้ความรุนแรงกับลูกหนี้
    .
    พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ. , พ.ต.อ.สมพล อิสสระเสรี รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. รวบรวมพยานหลักฐานขยายผลจนกระทั่งขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับนายเอกราฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1106/2563 ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 ในข้อหา “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราโดยให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราร้อยละ 15 ต่อปี และมีพฤติการณ์ประกอบธุรกิจทวงหนี้ถามหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ”
    .
    จากการสืบสวนทราบว่า นายเอกราฐ (สงวนนามสกุล) บุคคลตามหมายจับดังกล่าวข้างต้น ก่อนจะมาเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ เมื่อต้นปี 2562 เคยเป็นผู้จัดการฝ่ายเร่งรัดหนี้สินของกลุ่มเครือข่ายเงินกู้นอกระบบแอพลิเคชั่น BathLoan ซึ่ง กก.5 บก.ปอศ. ได้ตรวจค้นจับกุมไปก่อนหน้าหนี้แล้ว แต่ต่อมา นายเอกราฐ ได้ออกจากบริษัทดังกล่าวและผันตัวเองมาปล่อยเงินกู้นอกระบบผ่านแอพลิเคชั่นเฟสบุ๊ค และไลน์ ใช้ชื่อว่า “FAST LOAN” เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่พื้นที่ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขออำนาจศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นจับกุมบ้านพักพบผู้ต้องหาตามหมายจับและพบพยานหลักฐาน เอกสารการกู้ยืมเงินของลูกหนี้ บัญชีธนาคาร โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและของกลางที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิดอีกจำนวน 10 รายการ จึงได้ทำการตรวจยึดและจับกุมตัวผู้ต้องหานำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    - https://www.thaipost.net/main/detail/72495
    -------------------------------


     

แชร์หน้านี้

Loading...