ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    PSX_20200729_215917.jpg

    (Jul 28) “โควิด” ตัวเร่งดิจิทัลเพย์เม้นต์ ธปท. ลุยยกระดับสังคมไร้เงินสด : บริการ “พร้อมเพย์” ถือเป็นตัวเบิกทางสำคัญ “ระบบการชำระเงินไทย” ในการก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (cashless society) แม้ว่าช่วงแรกกระแสความนิยมยังไม่มากนัก แต่เริ่มเห็นพัฒนามากขึ้นเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อยู่ระหว่างต่อยอดตามโรดแมป “ดิจิทัลเพย์เมนต์” ส่วนความคืบหน้า และทิศทางข้างหน้าจะเดินต่อไปอย่างไร “สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา” ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธปท. ที่เป็นหัวหอกคนสำคัญ จะมาเล่าให้ฟัง

    “โควิด” ดันพร้อมเพย์พุ่ง

    โดย “สิริธิดา” เริ่มจากฉายภาพให้ฟังว่า ในช่วงโควิด-19 ระบาด ทำให้พร้อมเพย์เติบโตสูงขึ้น สะท้อนว่าพร้อมเพย์เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการโอนเงินให้กับประชาชน ซึ่งได้ผลตอบรับค่อนข้างมาก ผ่านตัวเลขลงทะเบียน 55 ล้านเลขหมายปริมาณธุรกรรม 13.5 ล้านรายการ มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้ 34 ล้านเลขหมาย เป็นการลงทะเบียนผ่านบัตรประชาชน และหากดูตัวเลขตั้งแต่สิ้นปี 2562 ถึง พ.ค. มียอดลงทะเบียนเพิ่มขึ้นถึง 4 ล้านเลขหมาย ผลักดันยอดธุรกรรม digital payment เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 157 ครั้งต่อคนต่อปี จากปี 2562 อยู่ที่ 101 ครั้งต่อคนต่อปี

    “พร้อมเพย์สะท้อนความสำเร็จได้จากตัวเลขการใช้ที่เพิ่มขึ้น และใช้กันอย่างกว้างไกล เห็นได้จากจำนวนจุดวางคิวอาร์โค้ด ที่ปัจจุบันมีอยู่ถึง 6 ล้านจุด จากตอนแรกที่ริเริ่มโครงการมีเพียงแค่ 1 ล้านจุด ดังนั้น นับจากเราเปิดบริการพร้อมเพย์ ไล่มาตั้งแต่บริการโอนเงินระหว่างประชาชน จากนั้นก็มีเรื่องคิวอาร์โค้ดมาตรฐาน ซึ่งทำให้เราต่อยอดบริการหลายอย่าง โดยในระยะต่อไปสิ่งที่เรากำลังพัฒนา คือ ISO20022 เป็นมาตรฐานด้านชำระเงินสากล จะช่วยเชื่อมต่อกับประเทศต่าง ๆทำได้ง่ายขึ้นและส่งเสริมการชำระเงินภาคธุรกิจ”

    ดึงดาต้าต่อยอดทำนโยบาย

    ตอนนี้ ธปท.อยู่ระหว่างหารือกับภาคธนาคาร เพื่อรวบรวมข้อมูลทางด้านการชำระเงิน ในลักษณะรายการ รายโปรดักต์ แบบบูรณาการ จากเดิมจะเก็บข้อมูลแบบกระจัดกระจายอยู่กับบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ (ITMX) และแบงก์ ซึ่งจะช่วยทำให้ ธปท.สามารถทำนโยบายการเงิน และระบบการชำระเงินได้ดีขึ้น โดยสามารถนำข้อมูลมาประเมินผลด้านเศรษฐกิจได้ด้วย ขณะที่ผู้ให้บริการก็สามารถตอบโจทย์การให้บริการที่ลูกค้าต้องการได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ จะเริ่มทำโครงการนำร่องภายในสิ้นปี 2563 นี้

    “เราจะนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในมิติต่าง ๆ ดูว่าสามารถนำไปใช้อะไรได้บ้าง เช่น การวิเคราะห์เรื่องพื้นที่ เราสามารถรู้ได้ว่าพื้นที่ใดเข้าถึงบริการทางการเงิน หรือจุดใดที่เข้าไม่ถึง ซึ่งจะช่วยการทำนโยบายระบบการชำระเงินมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยลดเวลาการทำนโยบายของ ธปท.ได้ เพราะเดิมเวลาทำนโยบาย จะต้องออกสำรวจพื้นที่ ออกแบบชุดคำถาม เก็บข้อมูล และรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์ ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนานเป็นปี แต่หาก ธปท.สามารถนำข้อมูลจากการชำระเงินมาใช้ ก็จะลดขั้นตอนและดำเนินนโยบายได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ภาคธนาคารก็สามารถนำข้อมูลการชำระเงินเหล่านี้ต่อยอดไปสู่การปล่อยสินเชื่อโดยใช้ข้อมูลทางการเงิน (information based lending) ได้”

    เชื่อมเพย์เมนต์ข้ามแดน

    สำหรับแผนงานที่สำคัญในปีนี้ “สิริธิดา” บอกว่า คือการพัฒนาคิวอาร์เพย์เมนต์ โดยขยายการเชื่อมต่อบริการไปยังประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน (QR cross border) โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เชื่อม “ไทย-สปป.ลาว” แล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีเชื่อมกับกัมพูชา และตามแผนที่วางไว้จะเชื่อมต่อกับสิงคโปร์ ผ่านระบบ “switch to switch” เป็นการเชื่อมระหว่างระบบกลางชำระเงินเข้าด้วยกัน ซึ่งตั้งเป้าจะเปิดให้บริการภายในต้นไตรมาส4 ปี 2563 นี้ ขยับไปจากแผนการเดิมที่จะเปิดบริการได้ภายในไตรมาส 2 เนื่องจากเกิดโควิด-19

    “ระหว่างนี้ เราก็มีการพูดคุยกับทางมาเลเซีย ญี่ปุ่น แล้วก็เวียดนาม โดยมาเลเซียและญี่ปุ่น จะเชื่อมต่อแบบ switch to switch เช่นเดียวกัน ส่วนเวียดนามจะเป็นการเชื่อมแบบ sponsoring เนื่องจากเวียดนามยังไม่มีระบบกลางการชำระเงิน”

    ป้องกันภัยไซเบอร์

    “สิริธิดา” กล่าวถึงการสร้างความแข็งแกร่ง และการป้องกันภัยไซเบอร์ว่า ธปท.มีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยดำเนินการ 4 ด้าน ได้แก่ 1.การป้องกัน 2.การตรวจจับ 3.ตอบสนองหลังจากการตรวจจับเจอความผิดปกติ และ 4.กู้ความเสียหายกลับมาโดยเร็ว รวมถึงออกหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ในการบริหารความเสี่ยงด้านไอที ทั้งในเรื่องโมบายแบงกิ้ง และไซเบอร์ไอที เพื่อเป็นแนวปฏิบัติขั้นต้นที่จะให้ผู้ให้บริการทั้งธนาคารพาณิชย์ และผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (น็อนแบงก์) ที่ให้บริการทางด้านระบบการชำระเงิน

    แก้ปมโมบายแบงกิ้งล่ม

    “ที่ผ่านมา แบงก์ก็เตรียมการเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน จะเห็นว่าระบบโมบายแบงกิ้งล่มน้อยลง แม้ว่าจะมีสะดุดบ้าง แต่ถือว่าทุกแบงก์เตรียมความพร้อมรองรับได้ดีขึ้น และเราก็มีการประชุมระหว่างหัวหน้าไอทีของแบงก์ทุกเดือน ซึ่งจะมีการชี้แจงถึงสาเหตุที่ระบบล่ม และแนวทางการป้องกัน รวมถึงมองไปข้างหน้าเพื่อรองรับการใช้บริการของลูกค้าที่จะมีมากขึ้น โดยระยะหลังจะเน้นการตอบสนองและกู้ภัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการซักซ้อมในด้านนี้เป็นประจำทุกปี ทั้ง ธปท. แบงก์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และประกัน รวมถึงร่วมมือกับศูนย์ประสานงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคธนาคาร (TB-CERT) เรื่องภัยไซเบอร์ต่าง ๆ”

    ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธปท.กล่าว

    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
    https://www.prachachat.net/finance/news-497190
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สะพานกระจกข้ามหุบเขา บนดินแดนไร้มลภาวะ
    .
    1/ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน อยู่ที่เมืองตันตง มณฑลเหลียวหนิง ครับ
    .
    2/ ที่นี่คือ อุทยานเทียนเฉียวโกว เดิมเคยเป็นสถานที่ล่าสัตว์ของเชื้อพระวงศ์ในสมัยราชวงศ์ชิง ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติของจีนแล้วตั้งแต่ปี 2535
    .
    3/ ราวปี 2547 จีนมีการจัดเกรดสถานที่ท่องเที่ยวออกเป็น 5 ระดับ คือ A (1A) ไปจนถึง AAAAA (5A) ซึ่งเป็นระดับสูงสุด อุทยานเทียนเฉียวโกวได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญระดับ 4A
    .
    4/ จุดเด่นของอุทยานฯคือ สะพานกระจกข้ามหุบเขา ได้รับการขนานนามว่า เป็นสะพานกระจกที่น่าหวาดเสียวที่สุดของเมืองตันตง เสียงที่สุดของมณฑลเหลียวหนิง และเสียวที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
    .
    5/ สะพานกระจกที่นี่มีความยาว 268 เมตร สูงจากพื้นดิน 108 เมตร ความกล้างของทางเดิน 3 เมตร
    .
    6/ หากใครได้ไปเที่ยวมาแล้ว มาบอกกันบ้างนะครับ ว่าหวาดเสียวจริงมั้ย ^^
    .
    7/ มาพูดถึงอุทยานเทียนเฉียวโกวกันต่อดีกว่าครับ อุทยานฯแห่งนี้ได้รับการยกย่องจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Program: UNDP) ให้เป็น 1 ใน 6 พื้นที่ไร้มลภาวะของโลก
    .
    8/ นอกจากนี้ ภายในอุทยานฯยังมีใบเมเปิ้ลที่งดงามที่สุดในจีน ได้รับการชื่นชมและยกย่องโดยนิตยสาร Traveler อีกด้วยครับ
    .
    9/ ชมความสวยงามของ ‘อุทยานฯและสะพานกระจกข้ามหุบเขา’ ได้ที่นี่ครับ

    .
    ขอขอบคุณ China Xinhua News ครับ
    .


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐบาล #ญี่ปุ่น พยายามสร้างแบบอย่างการรับมือ #โควิด โดยไม่ต้องชัตดาวน์เมือง ทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ พร้อมประคับประคองการระบาดไม่ให้มีผู้เสียชีวิตมาก แต่ “#เจแปนโมเดล” กำลังถูกท้าทายจากการจู่โจมของโควิดระลอก 2
    ตั้งแต่ที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 เมื่อเดือนเมษายน รัฐบาลระบุชัดเจนว่าจะไม่มีการชัตดาวน์ปิดเมืองเหมือนในต่างประเทศ เพียงแต่จะขอความร่วมมือให้ประชาชนงดการเดินทางและออกนอกบ้านที่ไม่จำเป็น หลังจากบังคับใช้ภาวะฉุกเฉินที่ไม่มีมาตรการลงโทษนานกว่า 1 เดือน ญี่ปุ่นก็ยกเลิกภาวะฉุกเฉินเมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงมาก รองนายกฯ ทาโร อาโซ ถึงกับประกาศว่า นี่คือความสำเร็จของ “เจแปนโมเดล”
    .
    ถึงแม้ขณะนี้ ญี่ปุ่นจะเผชิญการระบาดระลอก 2 จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงยิ่งกว่าช่วงประกาศภาวะฉุกเฉิน แต่รัฐบาลญี่ปุ่นก็ไม่หันหลังกลับไปใช้มาตรการคุมเข้ม แถมยังเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศอีกด้วย
    .
    ผู้เชี่ยวชาญในคณะที่ปรึกษาของรัฐบาลระบุว่า นี่เป็นโมเดลที่สร้างขึ้นตามวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น และประสบความสำเร็จจากความร่วมมือของประชาชนชาวญี่ปุ่น
    “เจแปนโมเดล” ใช้มาตรการหลัก 3 ด้าน คือ ลดการติดเชื้อแบบกลุ่ม, พิทักษ์ระบบสาธารณสุข และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คน
    .
    การลดการติดเชื้อแบบกลุ่ม หน่วยด้านสาธารณสุขพบว่าไวรัสโควิดมีการระบาดในสถานที่ลักษณะเฉพาะ จึงเตือนให้หลีกเลี่ยงสถานที่อากาศไม่ถ่ายเท, ผู้คนหนาแน่น และติดต่อใกล้ชิดกัน สถานที่เสี่ยง 3 ลักษณะนี้ถูกยึดเป็นคัมภีร์ถึงขนาดที่รัฐมนตรีของญี่ปุ่นประกาศว่า “การท่องเที่ยวไม่ทำให้ติดโควิด ถ้าไม่ได้ไปในสถานที่ลักษณะ 3 ประการดังกล่าว”
    ญี่ปุ่นปฏิเสธโมเดลของเกาหลีใต้ที่ตามหาตัวผู้ติดเชื้อโดยใช้สัญญาณโทรศัพท์มือถือและข้อมูลการใช้บัตรเครดิต รวมทั้งไม่ปิดเมือง ห้ามผู้คนออกนอกบ้านเหมือนในหลายประเทศ
    .
    ด้านระบบสาธารณสุข ญี่ปุ่นมั่นใจว่ามีระบบรักษาพยาบาลคุณภาพสูง แม้จะรองรับผู้ป่วยได้จำนวนน้อยก็ตาม แต่ญี่ปุ่นไม่เคยเผชิญโรคระบาดร้ายแรง เช่น ไวรัสซาร์สในจีนและไต้หวัน และไวรัสเมอร์สในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญในการรับมือภับพิบัติต่าง ๆ จึงถึงกับ “ไปไม่เป็น” เมื่อต้องเผชิญกับภัยโควิด ที่เสี่ยงจะทำให้สถานพยาบาล อุปกรณ์ รวมทั้งแพทย์พยาบาลไม่เพียงพอ
    .
    ด้านการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คน ญี่ปุ่นใช้การ “ขอร้อง” ไม่ใช่การ “บังคับ” และ “ลงโทษ” ธุรกิจที่ปิดกิจการชั่วคราวหรือลดเวลาทำการก็เพราะได้รับเงินช่วยเหลือจากทางการท้องถิ่นต่าง ๆ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าประวัติศาสตร์สงครามโลกทำให้ชาวญี่ปุ่นไม่ต้องการมีผู้นำที่เข้มงวด สาธารณชนจะร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติตัวเพื่อให้ส่วนร่วมอยู่รอด และไม่สร้างภาระให้กับผู้อื่น โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยที่ช่วยรักษาชีวิตของชาวญี่ปุ่นได้อย่างมาก
    **** อัตราตายต่ำ แม้ผู้ติดเชื้อพุ่งสูง ****
    .
    ปัจจัยที่ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นยังมั่นใจใน “เจแปน โมเดล” ก็คือ อัตราการเสียชีวิตและจำนวนผู้ป่วยหนักที่น้อยมากเมื่อเทียบกับสหรัฐและยุโรป ซึ่งน่าจะเป็นเพราะชาวญี่ปุ่นมีสิ่งแวดล้อมที่ดี และการใช้ชีวิตที่มีสุขอนามัย
    .
    รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งกฎเกณฑ์ในการตรวจหาเชื้อที่ยุ่งยาก ตรวจเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงและอาการหนักเท่านั้น ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อน้อยกว่าความเป็นจริงมาก แต่การ “ซุกผู้ติดเชื้อ” เช่นนี้ ก็เพื่อไม่ให้ผู้คนแห่กันไปที่โรงพยาบาลจนรองรับไม่ไหว หรือเกิดติดเชื้อแบบกลุ่มที่โรงพยาบาล ยิ่งเมื่อผู้ติดเชื้อในระลอกใหม่ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่อาการไม่หนักด้วยแล้ว รัฐบาลจึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องกลับไปใช้มาตรการควบคุมอีก
    **** วัดใจใครยืนระยะได้นานกว่า ****
    .
    “เจแปน โมเดล” คือ การยืดระยะเวลาออกไปโดยประคับประคองสถานการณ์ ไม่ใช่การจัดการให้อยู่หมัดในทีเดียว การทำเช่นนี้ทำให้ประชาชนไม่ต้องเผชิญความเครียดมาก ธุรกิจต่าง ๆ ยังขับเคลื่อนได้
    .
    แต่จุดอ่อนก็คือ ยิ่งสถานการณ์ยืดเยื้อ ความร่วมแรงร่วมใจของประชาชนก็จะยิ่งลดน้อยถอยลง มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมแทบจะทำไม่ได้ในญี่ปุ่นที่มีพื้นที่แออัด การลดการติดต่อระหว่างกันให้ได้ร้อยละ 80 หรือให้ทำงานจากที่บ้านก็ทำได้ยากในบริบทของญี่ปุ่น ขณะที่ธุรกิจหลายแห่งก็พบว่า การเปิดร้านแต่ไม่มีลูกค้ามากพออาจต้องแบกรับต้นทุนมากกว่าการปิดร้านไปเลย
    .
    นอกจากนี้ “เจแปน โมเดล” ที่ไม่อาศัยผู้นำที่เข้มแข็ง แต่พึ่งพาความร่วมมือของประชาชน ยังพบกับความย้อนแย้งเมื่อรัฐบาลกลางและท้องถิ่นต่าง ๆ มีมาตรการสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ถึงกับเอ่ยปากว่า “โตเกียวเหยียบเบรก แต่รัฐบาลเหยียบคันเร่ง” การทำงานที่ไม่สอดประสานกันทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา จนกลายเป็นความเหนื่อยหน่ายที่จะร่วมมือกับภาครัฐ
    หาก “เจแปน โมเดล” เอาชนะโควิดได้ ญี่ปุ่นก็จะเป็นต้นแบบของโลกเหมือนช่วงที่ฟื้นฟูประเทศหลังพ่ายแพ้สงครามโลก แต่หากเป็นในทางตรงกันข้าม ไม่ใช่ไวรัสโควิดจะเป็นผู้ชนะ แต่ประชาชนชาวญี่ปุ่นจะเป็น #คนแพ้ที่ไม่มีน้ำตา.

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ขบวนรถไฟนำศพ โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี (RFK Funeral Train) -
    .
    พอล ฟัสโค (Paul Fusco) ช่างภาพขบวนรถไฟนำศพ โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี (Robert F. Kennedy) เสียชีวิตแล้วในวัย 89 ปี
    .
    โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี หรือที่รู้จักในชื่อ "บ็อบบี" และ อาร์เอฟเค (RFK) เป็นนักการเมืองอเมริกัน และเป็นน้องชายของจอห์น เอฟ เคนเนดี ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เขาดำรงตำแหน่งเป็นอัยการสูงสุดแห่งสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1961 ถึง 1964 และเป็นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965 จนกระทั่งถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1968 ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเพื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
    .
    พอล ฟัสโค เป็นช่างภาพให้ทั้งนิตยสาร Look Magazine และ Magnum Photos Agency ในงานชุดขบวนศพนั้น ได้ถ่ายภาพเอาไว้หลายพันภาพ แต่มีเพียงหนึ่งภาพที่ได้ลงนิตยสาร ซีรีย์ภาพถ่ายนี้ของเขาไม่เป็นที่รู้จักมากนักในช่วงแรก
    .
    งานของ Fusco ไม่ใช่เพียงบันทึกเหตุการณ์งานขบวนศพเท่านั้น แต่ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของความเป็นมนุษย์ที่มีต่อเหตุการณ์อันเป็นโศกนาฎกรรมครั้งนั้น
    .
    พอล ฟัสโค เสียชีวิตด้วยอาการแทรกซ้อนจากภาวะสมองเสื่อมในวัย 89 ปี เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Parasite in Business : ชนชั้นปรสิตในธุรกิจ

    Parasite ก็คงเป็นคำเปรียบเปรยรูปแบบหนึ่งกับกลุ่มคนที่อาศัยผลประโยชน์จากคนอื่น เพื่อผลประโยชน์คนตนเอง เราอาจจะเจอกันได้หลากหลายรูปแบบในชีวิตของเรา

    ตั้งแต่เด็กสมัยทำงานกลุ่ม ผมว่าถึงคนคงเจอกับเพื่อนที่อาจจะไม่ได้ทำงานใดๆ ไม่ได้ออกไปพรีเชนต์หน้าชั้น แต่ก็มีรายชื่อรับคะแนนของกลุ่ม บางสายอาชีพก็จะเรียกว่า Free Rider นั้นเอง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นมาในสังคมไทย

    หากแต่ความหมายในมุมธุรกิจล่ะ...

    ในมุมมองผมที่อยากจะแชร์ในวันนี้ ผมอุทิศเรื่องจริงผ่านจอประสาทตา และหูของผม ที่ได้พบกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เป็นเคสหายาก ที่สุดยอดที่สุดในชีวิตผมเลยที่ได้ผมเจอมา (35 ปี)

    เหตุการณ์แรก : เทงานเพื่อนทั้งกลุ่ม
    เป็นเหตุการณ์เล็กๆ ที่ไม่น่าจะมีอะไร แต่พอย้อนกลับมานั่งคิดดูแล้ว ทำไมเราไม่ฉุกคิดเลย
    เป็นเหตุการณ์ที่เค้ารับผิดชอบงานกลุ่มแต่เพียงผุ้เดียว เพราะเนื่องจากมีรายงานหลายวิชาทำให้ต้องมีการแบ่งงานกันรับผิดชอบ และพอจะถึงวันพรีเชนต์งานได้เดินมาบอกเพื่อนในกลุ่มว่าตนจะลาออกแล้วก็เทงานพรีเซนต์ไปเลย ทำให้วันรุ่งขึ้น เพื่อนๆ ต้องไปสารภาพบาปกับอาจารย์ว่าความเป็นจริงเป็นอย่างไร

    เหตุการณ์สอง : ก๊อปปี้คนสำเร็จ...จริงๆนะ
    เป็นสิ่งที่ผมย้อมรับว่าตอนแรกก็โดน Inception ไปว่าไม่ผิดหรอก สิ่งที่เค้าทำก็โอเคไม่ได้ผิดอะไร เป็นเหตุการณ์ที่เค้าสนิทกับพี่คนนึงที่ได้ทำ แอปพลิเคชั่นนึงประสบความสำเร็จมาก มีคนดาว์นโหลดเยอะติดอันดับโลกเลย ปรสิตได้เค้าไปตีสนิท ขอความรู้ แนวความคิด คอยเยินยอชื่นชมเสมอๆ ....สุดท้ายแล้วก็ทำแอปพลิเคชั่นก๊อปปี้ของพี่เค้าออกมาแล้วตัดราคาด้วยคำว่า Free

    เหตุการณ์ที่สาม : เพื่อนรักจ๋าลาก่อน
    เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เพื่อนๆผมรู้สึกตัวเลย มันเกิดจากการที่หลังๆ ปรสิตได้เข้ามามีส่วนรวมในการบริหารงานบริษัทและช่วยแก้ปัญหา และเริ่มปฏิบัติการกินเต็มเอารายได้เข้าบริษัทตนเองมากกว่าบริษัทร่วม และเริ่มโทษทีมงานบริษัทร่วมว่าทำงานผิดพลาดต้องให้ทีมงานบริษัทตนเองแก้ไข และเริ่มสะสมปัญหากับเพื่อนของปรสิต สุดท้ายแล้วเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนได้ออกไปประชุมกับลูกค้า ระหว่างนั้นปรสิตได้ให้คนเข้ามาทำงานแทนที่และนั่งทำงานแทนในโต๊ะของเพื่อนปรสิต และให้น้องๆ มาย้ายของลับหลังโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้าซักคำ สุดจริงๆ ครับ

    เหตุการณ์สี่ : คำพูดที่จริงคือคำพูดในความคิดปรสิตเท่านั้น
    เรื่องนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ ตลอด เนื่องจากพอมีปัญหาการดำเนินธุรกิจก็ต้องมีการประชุมเพื่อแก้ปัญหา มีการตกลงบางสิ่งบางอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาและเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไป แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเคยตกลง เซ็นสัญญาอะไรกันไว้ ปรสิตก็จะบอกว่าไม่รู้ เค้าพูดแบบนี้ (ตามผลประโยชน์ตนเอง) หรือก็จะกล่าวอ้างไปที่ลูกน้องว่าไม่ยอมกระทำ (ตามสัญญา) และก็ตีเนียนจนผู้ติดตามเลิกล้มไปเอง

    เหตุการณ์ห้า : สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย
    เรื่องนี้พอผมทราบเรื่องนี้แอบอึ้งเลยว่า สุดยอดจริงๆ กล้าทำเนอะ
    ปรสิตได้เข้าไปเป็นทีม Management ของบริษัทลูกค้าที่เคยร่วมงานด้วย แล้วเค้ากำลังจะพัฒนาทีม Tech จึงชักชวนให้ปรสิตไปเป็นทีมผู้บริหาร พอเข้าไปได้ประมาณ 1 ปี ภาพที่สร้างไว้เลยมลาย ผลงานไม่ออก เอางบการตลาดเข้าบริษัทตนเอง ... สุดท้ายก็ลาออกโดยที่บอกกล่าวกับผู้ใหญ่ว่าจะไปทำงานเพื่อสังคมไม่ได้เซ็นสัญญาว่าจะไม่ได้ทำแข่ง ปรสิตแจ้งว่าเค้าเป็นลูกผู้ชาย คำพูดเค้าคือ Gentleman Agreement ผลปรากฏว่าอาทิตย์ถัดไปเปิดตัวเป็นทีมผู้บริหารของคู่แข่ง

    เหตุการณ์หก : ผลประโยชน์เท่านั้นที่พี่ต้องการ
    ต่อเนื่องมากับบริษัทใหม่ พอเค้าไปก็ใช้นิสัยปรสิตแบบเดิมคือ กินเต็ม (ไปทำงานบริษัทตัวเองภายในเวลาบริษัทใหม่) ก๊อปปี้ (กลยุทธ์ธุรกิจ แนวคิดการทำ) ทั้งหมดของบริษัทเดิมมาขายและทำกับบริษัทใหม่ อีกทั้งยังความจำสั้นเข้ามาขอพรีเชนต์เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทนึง จนบริษัทนั้นถามตรงๆ แบบไม่รู้ว่า แล้วที่เก่าไม่โกรธเหรอทำแบบนี้ จนทำให้ปรสิตทนไม่ได้รีบปิดสไลด์พรีเชนต์ และก็เลิกติดต่อกับบริษัทนั้นไปเลย

    จริงๆ ยังมีเหตุการณ์อีกมากมายที่เกิดขึ้นกับคนรอบตัวได้เล่าให้ฟัง เพียงแต่ผมอาจจะไม่ได้รับรู้โดยตรง เลยไม่ได้ยกมาทั้งหมด หากยกมาทั้งหมดคงไม่เขียนไม่ไหว LoL
    .
    .
    มุมมองการวิเคราะห์ของผม
    1. เค้ามีการ Inception ตัวเอง / หลอกตัวเองว่าสิ่งที่เค้าทำไม่ได้ผิด เค้ากระทำดี มีความเพียรเปรียบดั่งพระมหาชนกที่ว่ายยังไม่ถึงฝั่งฉันใดฉันนั้น
    2. เอาผลประโยชน์ตนเองเป็นที่ตั้งไม่สนใจว่าใครจะกระทบอย่างไร ตัดช่องน้อยแต่พอตัว เอาตัวเองรอดเพียงเท่านั้น
    3. ไม่มี Commitment หรือรักษาคำพูดแต่อย่างใด สัจจะไม่มีในหมู่โจร อย่างใดอย่างนั้น
    4. ไม่สนใจว่าสิ่งที่กระทำนั้นผิดมารยาทอย่างไร พยายามหาเหตุผลประกอบว่าสิ่งที่เค้าทำมิได้ผิด แต่ถ้าหากมองอย่างเป็นกลางจริงๆ ก็คงจะรู้ล่วงหน้าแล้ว

    บทความนี้เป็นบทความที่แชร์การเรียนรู้เพื่อประโยชน์ของคนทั่วไป ให้ได้รับรู้ เรียนรู้และไม่ผิดซ้ำ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาโนวน้ามให้เชื่อหรือเข้าใจผิดแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง เป็นวิจารณณานของบุคคลเอง

    เพื่อนๆพี่ๆ มีความคิดเห็นอย่างไรแชร์กันได้นะครับ

    Cr : Proudputtเพื่อนรวยสอนพ่อ
    #ParasiteInBusiness #ปรสิตในธุรกิจ

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ลูกไฟ ดาวตก ถูกพบว่าระเบิดเมื่อคืนที่ผ่านมาในโคโลราโดและนิวเม็กซิโก AMS ได้รับรายงานมากกว่า 50 รายการเกี่ยวกับกิจกรรมนี้

    Fireball meteor caught exploding last night over Colorado & New Mexico. AMS received more than 50 reports so far about this event.

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ท้องฟ้าที่ซันติอาโก, ประเทศชิลี 25 กรกฎาคม 2020

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อุกกาบาตผ่านท้องฟ้าของรัฐแอริโซนาสหรัฐอเมริกา
    แบ่งปันใน YouTube 27 กรกฎาคม 2020

    La Humanidad Perfecta / Channel


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    * TROPICAL CYCLONE NINE * เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการทางตะวันออกของ Lesser Antilles คำเตือนพายุโซนร้อนมีผลบังคับใช้สำหรับบางส่วนของหมู่เกาะ Leeward, Virgin Islands และ Puerto Rico วันพุธถึงวันพฤหัสบดี

    รายละเอียดการพยากรณ์อากาศ: https://www.severe-weather.eu/tropical-weather/tropical-storm-isaias-mk/
    FB_IMG_1596036017410.jpg
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นอกจากคลื่นความร้อนทำลายสถิติจากไซบีเรียไปยังมหาสมุทรอาร์กติกเมื่อต้นฤดูร้อนนี้ยังมีพายุไซโคลนที่ลึกมากในเขตโบฟอร์ตในสัปดาห์นี้ ด้วยแรงกดตรงกลางที่ต่ำกว่า 970 เอ็มบาร์นี่เป็นพายุฤดูร้อนที่ต่ำที่สุด (แรงกดตรงกลาง) เป็นอันดับสองในบันทึก

    Besides the record-breaking heatwave from Siberia into the Arctic ocean earlier this summer, there is a very deep cyclone ongoing in the Beaufort Sea this week. With its central pressure below 970 mbar, this was the 2nd lowest summer Arctic storm on record.

    https://www.severe-weather.eu/global-weather/arctic-cyclone-mk/

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ Ray Dalio เตือนว่า #สงครามการเงิน ที่กำลังอาจเกิดขึ้นระหว่างสหรัฐและจีนจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง เสียความน่าเชื่อถือและ #สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

    Ray Dalio ผู้ก่อตั้งกองทุนเก็งกำไร (Hedge Fund) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Bridgewater Associates ได้ออกมาให้ความเห็นเรื่องตลาดในยามวิกฤตไวรัสโควิดหลายครั้งแล้ว หลักๆคือ 3 เรื่องนี้

    1️⃣ #ให้กระจายการลงทุนออกไปให้มากที่สุด

    ไม่ว่าจะเป็นกระจายไปในหลายๆประเทศหรือในหลายๆกลุ่มธุรกิจ (Sectors) Ray ได้ออกมาแนะนำตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคมในช่วงไวรัสยังระบาดไม่หนัก โดยการที่ Ray แนะนำเช่นนี้เพราะเราไม่รู้เลยว่าไวรัสนั้นจะกระจายไปในภูมิภาคไหนบ้าง ? และภาคธุรกิจไหนอาจโดนกระทบหนักหรือเบากว่ากัน ? เพราะในเวลานั้นเพิ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ "New Normal"

    ถือเป็นคำแนะนำที่ดีเพราะในวันนั้น หลายๆฝ่ายคงไม่มีใครคาดคิดเลยว่าไวรัสจะยังคงระบาดอยู่เมื่อเวลาผ่านไปแล้วถึง 6 เดือน และประเทศสหรัฐผู้ดูมีความเพียบพร้อมและเป็นประเทศที่พัฒนามากที่สุด กลับกลายเป็นประเทศที่ติดเชื้อมากที่สุดในโลกจนถึงทุกวันนี้

    2️⃣ #เงินสดนั้นจะกลายเป็นขยะ

    "Cash is Trash" คำกล่าวอันเป็นที่คุ้นหูขึ้นมาของ Ray ในช่วงปลายเดือนมีนาคมหลังจากที่ FED ได้ออกมาประกาศ Unlimited QE หรือการอัดฉีดสภาพคล่องแบบไม่มีลิมิทครั้งแรกของ FED

    ซึ่งทาง Ray ได้ให้เหตุผลว่าใครที่ยังคงถือเงินสดเป็นสกุลดอลล่าร์สหรัฐอยู่นั้นคงต้องกล้ามากๆ เพราะด้วยการอัดฉีดเงินเข้าตลาดมากมายขนาดนี้ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่ 0% กำลังจะทำให้เงินสดด้อยค่าลงเมื่อเทียบกับราคาหุ้นและสินทรัพย์อื่นๆ

    และทาง Ray ก็พูดถูกอีกครั้ง เพราะล่าสุดนั้นทาง US Dollar Index หรือดัชนีที่วัดมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินต่างๆทัวโลก ยังคงปรับตัวอ่อนค่าลงมาเรื่อยๆ มาอยู่ที่ระดับ 93 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีเลยทีเดียวแล้ว

    3️⃣ ตลาดหุ้นใน 10 ปีข้างหน้านี้ #อาจไม่เติบโตขึ้นเท่าที่คิด !

    "Lost Decade" หรือทศวรรษที่สูญหาย ทาง Ray ได้ออกมาเตือนนักลงทุนว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าเพราะโลกาภิวัตน์ (Globalization) ของโลกที่อาจจะหดตัวลง อาจทำให้ตลาดหุ้นไม่โตเท่าที่คิด

    จากที่โลกาภิวัตน์เคยเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกที่ใหญ่ที่สุดในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา แต่บทบาทกำลังอาจลดลงในอนาคต เพราะเพราะโรคระบาดที่รุนแรงทั่วโลกกำลังเร่งให้มีการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตเป็นครั้งใหญ่ บริษัทและประเทศต่างๆกำลังเร่งจัดห่วงโซ่อุปทานในธุรกิจต่างๆโดย มุ่งเน้นไปที่ความมั่นคงของประเทศและธุรกิจมากกว่าแค่เรื่องต้นทุนที่ถูกกว่าเป็นหลัก

    ทำให้ธุรกิจในหลายๆแห่งในโลกอาจยอมรับกำไรที่น้อยลงเพื่อแลกกับเสถียรภาพของประเทศตัวเอง และถึงแม้เวลาจะเพิ่งผ่านมาได้เพียงแค่ 2 เดือนจากที่ Ray เล่าให้ฟัง เราก็เริ่มเห็นตลาดหุ้นทั่วโลกโดยเฉพาะในสหรัฐราคาเริ่มตันๆแล้ว

    คงจะเร็วไปที่บอกว่า Ray กล่าวถูกอีกครั้ง และการโตในอีก 10 ปีข้างหน้าจะชะลอลงจริงหรือไม่ ? คงต้องติดตามกันต่อไป

    ทาง Ray ได้ออกมาให้คำแนะนำที่ 4

    หลังจากที่ได้ให้คำแนะนำมา 3 ครั้งแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ทาง Ray ได้ออกมาเตือนนักลงทุนทั่วโลกอีกครั้งผ่านการสัมภาษณ์กับ Fox News ว่า #ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน กำลังอาจขยายตัวไปสู่สงครามการเงิน (Capital War) ที่น่ากลัวได้

    "We are in conflict with China. You can call it a war. There's a trade war, there's a technology war, there is a geopolitical war and there could be a capital war," Ray said.

    Ray กล่าวว่า ตอนนี้เรากำลังมีปัญหากับจีนอยู่คุณจะเรียกมันว่าเป็นสงครามก็ได้ โดยมีทั้งหมด 3 ศึก

    1️⃣ #สงครามการค้า

    2️⃣ #สงครามเทคโนโลยี

    3️⃣ #สงครามการเมือง

    แต่ในอนาคตกำลังอาจจะมีสงครามที่ 4️⃣ #สงครามทุน เกิดขึ้นได้

    "If you say, by law, don't invest in China or even possibly withholding the payment of bonds that the United States owes payment on in China, these things are possibilities and they have big implications such as for the value of the dollar because investors, premarket investors, are not used to having those things dictated by the government," Ray said.

    ถ้าหากรัฐบาลสหรัฐสั่งห้ามการลงทุนในประเทศจีนหรือระงับการจ่ายหนี้พันธบัตรสหรัฐที่จีนเป็นเจ้าของหนี้อยู่ จะส่งผลกระทบเชิงลบหนักให้กับค่าเงินดอลลาร์และเสถียรภาพของสถานะสกุลเงินสำรองของโลกจะเริ่มลดลงแน่ๆ เพราะนักลงทุนในตลาดไม่เคยชินกับการที่รัฐบาลเข้ามากำหนดทิศทางของค่าเงินมากขนาดนี้มาก่อน

    การเตือนของ Ray นั้นคล้ายๆกับที่ Goldman Sachs ออกมาเตือนเมื่อวานนี้

    ทางเราได้เขียนไปเมื่อวานนี้ว่า Goldman Sachs ได้ออกรายงานมาชี้ว่าราคาทองจะขึ้นไปแตะ 2,300 เหรียญต่อออนซ์ หรือยังบวกอีกเกือบ +20% ภายในปีหน้า หลักๆเพราะค่าเงินสหรัฐจะอ่อนค่าลงไปเรื่อยๆและขาดเสถียรภาพในการเป็นสกุลเงินสำรองของโลก ทำให้ทองคำเป็นทางเลือกสุดท้ายของนักลงทุนและประเทศต่างๆที่จะเก็บเข้าสำรองแทนดอลล่าร์

    อย่างไรก็ตามทาง Ray นั้นจะเน้นย้ำไปในแนว #การเป็นห่วงเศรษฐกิจสหรัฐมากกว่า หากสงครามระหว่างสหรัฐและจีนผันไปเป็นสงครามเงินทุน ค่าเงินสหรัฐจะอ่อนลงและเศรษฐกิจสหรัฐจะโดนกระทบแน่ๆ

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาด แนะนำให้กดตั้งค่า “#รายการโปรด” หรือ "#Favourites" ที่เมนูมุมขวาบนของเพจใน Facebook ตรงปุ่ม [...] และกด #เปิดกระดิ่ง ไว้ได้เลยครับนะครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารของทางเพจเรา

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเราฝาก Like และ Share เป็นกำลังใจให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากๆครับ

    #ทันโลกกับTraderKP


     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    LSE แจ้งเตือนอังกฤษ ‘เศรษฐกิจทรุด’ เจอปัญหาสองเท่า ‘Brexit’ และ ‘โควิด’ นำเข้า-ส่งออก และธุรกิจบริการเจอหนัก
    .
    Brexit การแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ของสหราชอาณาจักร หรืออังกฤษ เป็นคำที่เป็นที่สนใจของคนทั่วโลกในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา และกลับมาเป็นกระแสโลกอีกครั้งช่วงต้นปีนี้ 2020 เมื่ออังกฤษได้ออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ ซึ่งแน่นอนว่าหลังการแยกตัว ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะผลกระทบทางเศรษฐกิจ
    .
    วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน (LSE) วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจของอังกฤษกำลังได้รับผลกระทบหนักแบบสองเท่าตัว เพราะมีทั้งผลจาก Brexit และ วิกฤติการแพร่ระบาด COVID-19 ที่ทำให้ภาวะเศรษกิจถดถอย เนื่องจากมีหลายธุรกิจที่เริ่มแย่จากการออก EU ของอังกฤษ ซึ่งทำให้เกิดอุปสรรคเมื่อต้องดีลกับประเทศใน EU อย่างการเสียสิทธิประโยชน์บางอย่างที่เคยได้รับ โดยเฉพาะธุรกิจส่งออกและนำเข้าสินค้า โดยมาโดนกระหน่ำเพิ่มอีก เมื่อต้อง Lockdown หนีโควิด
    .
    สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักจากทั้งสองปัจจัย Brexit และ COVID-19 ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจบริการและต้องติดต่อพบปะกับผู้คนเป็นหลัก อาทิ ธุรกิจส่งออก โรงแรมที่พัก ธุรกิจการบิน ร้านอาหาร ท่องเที่ยว และสิ่งบันเทิง (รวมโรงภาพยนตร์ การจัดการแสดงต่างๆ) ในขณะที่ธุรกิจประเภทอื่นๆ อย่าง อุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี งานกฎหมาย บัญชี และสื่อ ได้รับผลกระทบน้อยกว่า เพราะสามารถให้พนักงานทำงานที่บ้าน หรือ WFH ได้
    .
    บริษัทและผู้ประกอบการในอังกฤษ ล้วนได้รับผลกระทบดังกล่าว ไม่เว้นแม้แต่บริษัทใหญ่ในอังกฤษ เช่น บริษัทโทรคมนาคม Vodafone บริษัทยา GlaxoSmithKline (GSK) บริษัทยานยนต์ชื่อดัง Rolls-Royce
    นอกจาก LSE ยังมีหลายหน่วยงาน เริ่มออกมาเตือนผู้ประกอบการ และส่งเสียงไปยังรัฐบาลอังกฤษ ถึงการแจ้งเตือนวิกฤติแบบ ‘สองเท่า’ ที่กำลังจะส่งผลอย่างใหญ่หลวงในอีกไม่นานต่อจากนี้ อย่างยิ่งเมื่อการเยียวยาธุรกิจจากรัฐบาลสิ้นสุดลง
    .
    อ้างอิงจาก:
    https://amp.theguardian.com/politic...e-shock-to-uk-economy-study-finds-coronavirus

    #OnUFO #UK #England #Brexit #COVID19 #Economy
    #LondonSchoolofEconomics #LSE

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    SpaceX ปล่อยคลิปเบื้องหลังพัฒนา ‘ชุดอวกาศสุดล้ำ’ สำหรับยาน Dragon ในโอกาสที่ยานกำลังจะกลับสู่โลกต้นสิงหานี้
    .
    SpaceX ของ Elon Musk มหาเศรษฐีนักธุรกิจผู้สร้างนวัตกรรมใหม่ให้โลกตะลึงอยู่เสมอ ได้พัฒนายาน Dragon ส่งBob Behnken และ Doug Hurley สองนักบินอวกาศ NASA ไปสู่สถานีอวกาศนานาชาติเป็นผลสำเร็จเมื่อ 31 พฤษภาคม และมีแพลนออกจากสถานีอวกาศนานาชาติวันที่ 1 สิงหาคม และคาดว่าถึงโลกในวันที่ 2 แต่ก็ต้องดูสภาพอากาศด้วยว่าเอื้ออำนวยหรือไม่
    .
    นอกจากภารกิจส่งนักบินอวกาศไปกับยานที่พัฒนาโดย SpaceX ร่วมมือกับ NASA สู่อวกาศในรอบ 9 ปี จะเป็นที่สนใจจากทั่วโลก ยังมี ‘ชุดนักบินอวกาศ’ เป็นอีกหนึ่งสิ่งซึ่งถูกพูดถึงอย่างมาก เพราะดีไซน์ไม่เหมือนชุดนักบินอวกาศที่เคยมีมาก่อน และเหมือนหลุดออกมาจากในหนัง Sci-Fi มากกว่า
    .
    โดยนักออกแบบชุดของ SpaceX ได้ออกแบบและพัฒนาชุด ตั้งแต่ตัวชุด หมวกนักบินอวกาศ และถุงมือ ให้สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ภายในยาน Dragon และมีฟีเจอร์การทำงานที่จำเป็นสำหรับนักบินอวกาศ เช่น ระบบรักษาระดับความดันอากาศ ระบบติดต่อสื่อสารของนักบิน และการควบคุมระบบภายในยานโดยสามารถใส่ถุงมือกดสั่งการที่หน้าจอได้เลย ซึ่ง SpaceX เผยว่า ออกแบบชุดโดยยึดความปลอดภัยของตัวนักบินเป็นหลัก
    .
    หากใครอยากเห็นเบื้องหลังและแนวคิดการพัฒนาชุดนักบินอวกาศสุดล้ำ ตอนนี้ SpaceX ได้ปล่อยคลิปออกมาให้เราได้ชม สามารถดูได้ที่

    .
    อ้างอิงจาก:
    https://techcrunch.com/2020/07/28/s...reated-its-futuristic-dragon-space-suits/amp/
    #OnUFO #SpaceX #Dragon #Spacecraft #SpaceSuit
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นอนหลับฝันดีครับ
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หมู Angry Birds อายุ 3,200 ปี
    .
    กลายเป็นหนึ่งในภาพที่ถูกส่งต่อมากที่สุดภาพหนึ่งในจีนช่วงนี้ เป็นภาพของเจ้าหมู "bad piggy"ใน Angry Birdsโดยเป็นตัวดินเผาซึ่งถูกพบในพื้นที่โบราณคดี Sanxingdui ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยเจ้าเซรามิคหมูตัวนี้มีอายุทั้งสิ้น 3,200 ปี (ตัวโบราณคดีแห่งนี้ย้อนไปได้ 5,000 ปี)และกลายเป็นภาพน่ารักที่สุดต่อกัน

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นอนดึกตื่นสายเป็นเรื่องธรรมชาติ แล้วแต่นาฬิกาชีวิตของแต่ละคน วิจัยชี้ มีแนวโน้มสร้างสรรค์กว่าตื่นเช้า
    .
    เรามักรู้สึกและเชื่อว่าการนอนตื่นเช้าเป็นนิสัยของผู้บริหารและมหาเศรษฐีซึ่งจะทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิต อย่าง Tim Cook ตื่นเวลา 03.45 น. ซีอีโอ Pepsi ตื่นตีสี่ ซีอีโอ Disney ตีสี่ครึ่ง และผู้บริหารอีกรายคนที่เป็นผู้ได้ชื่อว่าตื่นเช้ามาก ดังนั้นหากเราต้องการสำเร็จในหน้าที่การงานและรวยบ้าง เราต้องตื่นเช้า?
    .
    มันไม่ใช่เช่นนั้นเสมอไป เพราะนักวิทยาศาสตร์พบว่า ร่างกายของเราทุกคนมีนาฬิกาชีวิตที่ทำงานแตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งได้เป็นสองแบบหลักๆ ได้แก่ แบบนกตื่นเช้า และ นกฮูกนอนดึกตื่นสาย นั่นหมายถึงว่า เราอาจไม่ใช่คนที่มีนิสัยขี้เกียจ หรือชอบนอนดึก แต่ร่างกายของเราเป็นเช่นนั้นเอง
    .
    ปกติแล้ว Biological clock หรือนาฬิกาชีวภาพ ซึ่งเรารู้จักในชื่อ นาฬิกาชีวิต จะมีรอบการเดินรอบละ 24.2 ชั่วโมง แต่สำหรับหลายคน รอบการเดินของนาฬิกาชีวิตในร่างกาย จะยาวนานกว่า 24.2 ชั่วโมง ทำให้รู้สึกง่วงช้า เข้านอนดึกกว่าคนทั่วไปและตื่นสายกว่าด้วยนั่นเอง โดยเราไม่ได้เป็นคนกำหนดและเลือกด้วยตนเองว่า เราจะเป็นคนตื่นเช้า หรือเป็นคนนอนดึกตื่นสาย ร่างกายของเราต่างหากที่กำหนดมาตั้งแต่เราเกิด
    .
    สำหรับลักษณะนิสัยและผลลัพธ์การทำงานรวมถึงประเด็นความสำเร็จในชีวิตของคนตื่นเช้าและนอนดึกตื่นสาย มีงานวิจัยหลายชิ้นศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ อาทิ งานวิจัย ‘Relationship between chronotype and temperament/character among university students’ ตีพิมพ์ใน Psychiatry Research วารสารวิชาการด้านจิตเวช เมื่อปี 2017 ระบุว่า คนตื่นเช้า เป็นคนที่ชอบจัดระเบียบในชีวิต เป็นนักวางแผน ทำอะไรก็ต้องมีเป้าหมายและกำหนดทิศทางไว้อย่างชัดเจน ขณะที่คนนอนดึกตื่นสายหรือเป็นแบบวิถีนกฮูก จะเป็นคนคิดไว มีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนอื่น
    .
    และอยู่สิ่งหนึ่งค่อนข้างขัดกับความเชื่อที่เราเคยมีมาก่อนหน้านี้ เมื่องานวิจัย ‘Larks and owls and health, wealth, and wisdom’ เผยแพร่ใน The BMJ วารสารการแพทย์ เมื่อปี 1998 กลับพบ ‘คนแบบนกฮูก มีแนวโน้มประสบความสำเร็จทางการเงินมากกว่าคนตื่นเช้า อยู่บ้างเล็กน้อย’
    .
    สรุปแล้ว เราควรเป็นคนแบบไหน? อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ร่างกายของเรากำหนดมาตั้งแต่ต้นสำหรับรูปแบบนาฬิกาชีวิต แต่ในการเลือกใช้ชีวิตและการทำงานของเรา รวมถึงการจัดการกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น เราสามารถเลือกได้ด้วยตัวเราเอง และการประสบความสำเร็จในบางสิ่งบางอย่างมันไม่ได้อยู่ที่ว่า ตื่นหรือนอนเวลาไหนเพียงอย่างเดียว ขอแค่เข้าใจในการทำงานร่างกายของตนเอง ว่าเป็นคนแบบไหน
    หากตื่นเช้าเป็นปกติ แสดงว่าร่างกายเราเป็นแบบคนตื่นเช้า แต่ถ้ามักง่วงตอนดึก และตื่นสายหน่อย นั่นคือเราเป็นวิถีนกฮูก ก็ให้เราจัดการกับสิ่งที่เราเป็นอย่างเหมาะสม ‘อย่าฝืนร่างกายและธรรมชาติของเรา จนเกินไป’
    .
    โดย Adam Grant นักจิตวิทยาและศาสตราจารย์ชื่อดังแห่งโรงเรียนธุรกิจวอร์ตัน มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย (Wharton School of University of Pennsylvania) กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า
    ‘บุคคลผู้ประสบความสำเร็จมากที่สุดของโลก ไม่ได้สนใจเวลาตื่นนอนของคนอื่น แต่พวกเขาตื่นนอนและทำงานตามตารางชีวิตตามแบบของพวกเขาเอง’
    .
    อ้างอิงจาก:
    https://www.inc.com/jeff-haden/if-y...uroscience-says-please-stop-trying-to-be.html

    #OnUFO #Neuroscience #MorningPerson #NightOwl #BiologicalClock

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    July 30, 2020 เตือนซีเรียส ปล่อยให้ติดเชื้อเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ WHO ชี้ยอดตายทั่วโลกจะพุ่งน่ากลัว

    องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เปิดเผยว่า ได้แนะนำให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลในประเทศที่ใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ หรือ Heard Immunity โดยการปล่อยให้เกิดการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แพร่กระจายในชุมชน ที่สุดจะส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 เป็นจำนวนมากมายในโรงพยาบาล และทำลายชีวิตมนุษย์เป็นจำนวนมาก

    WHO กล่าวว่า นักระบาดวิทยา ยืนยันว่าภาวะภูมิคุ้มกันหมู่เป็นสิ่งที่จำเป็นในการควบคุมเชื้อไวรัส ภาวะดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีจำนวนมนุษย์มากพอระดับหนึ่งที่ได้รับวัคซีน หรือสามารถอยู่รอดจากไวรัสได้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้มนุษย์เกิดการสร้างภูมิต้านทาน หรือแอนตี้บอดี้ขึ้นในร่างกายที่จะต่อสู้กับไวรัส และไวรัสดังกล่าวไม่สามารถที่จะสร้างพาหะในการแพร่กระจายเชื้อได้มากพออีกต่อไป

    นายไมค์ ไรอัน กรรมการผู้อำนวยการ WHO เปิดเผยว่า แม้นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่จะประเมินว่า 60% ถึง 80% ของจำนวนประชากรจำเป็นต้องได้รับวัคซีน หรือมีภูมิต้านทานธรรมชาติ ที่จะนำไปสู่การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่นั้น ไม่ว่าตัวเลขดังกล่าวจะเป็นอย่างไร ก็ยังไม่สามารถจะเข้าใกล้ความคาดหวังได้ ดังนั้นการรอคอยให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันหมู่เป็นอันตราย

    กรรมการผู้อำนวยการ องค์การอนามัยโลก เปิดเผยต่อไปว่า คนหนุ่มสาวที่ได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือติดโรคโควิด-19 ซึ่งผ่านการรักษาจนมีสุขภาพดีออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว จะเผชิญกับปัญหาการเจ็บป่วยอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไป 10-15 สัปดาห์ โรคระบาดโควิด-19 ไม่ใช่เป็นเพียงโรคระบาดตามฤดูกาล แต่เป็นภาวะระบาดระลอกใหญ่

    #โควิด19 #องค์การอนามัยโลก #WHO #misterban

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หลายๆท่านที่ติดตามข่าวคงจะทราบแล้วว่าตอนนี้
    ที่เวียดนามกำลังเสี่ยงจะเจอกับการระบาดของ
    Covid-19 รอบใหม่ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน
    (สามวันก่อนเพิ่ม 2 ราย เมื่อวาน 11 ราย และวันนี้ 15 ราย)
    แต่ในขณะเดียวกัน กว่าทางการของเวียดนามจะรู้ตัว
    ว่าต้นตอของการระบาดน่าจะมาจากการลักลอบเข้าเมือง
    อย่างผิดกฎหมาย ความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาด
    ก็ได้กระจายไปยังจุดต่างๆของประเทศแล้ว
    และแน่นอนว่าการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย
    นั้น ย่อมไม่มีการตรวจโรค หรือการกักกันโรคใดๆ
    ดังนั้นหากคนที่ลักลอบเข้ามามีเชื้ออยู่ สุดท้ายก็จะนำไปสู่
    การระบาดระลอกใหม่ได้นั่นเอง
    .
    หันกลับมามองประเทศไทย แล้วปัญหาการลักลอบ
    เข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายของเราล่ะ ตอนนี้เป็น
    อย่างไร ?
    .
    ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว ตำรวจตรวจ
    คนเข้าเมืองได้เปิดเผยว่า มีแรงงานต่างด้าวไม่ต่ำกว่า
    3,000 คน ที่ลักลอบเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย
    และถ้านับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมาจนถึงเดือนมิถุนายน
    มีบุคคลที่ถูกจับกุมในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองมากถึง
    12,000 ราย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนี่คือจำนวน “คนที่ถูกตรวจพบ”
    แล้วกลุ่มคนที่ “ไม่ถูกตรวจพบ” ล่ะ จำนวนเท่าไหร่
    เราไม่อาจทราบได้ เพราะพวกเขาไม่ถูกจับได้ พวกเขาอาจ
    เล็ดรอดเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ณ จุดใดจุดหนึ่ง
    ของชายแดนประเทศไทยก็ได้ ซึ่งที่ผ่านมาในกลุ่มประเทศ
    ที่มีการลักลอบเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น พม่า ลาว
    หรือกัมพูชา ประเทศเหล่านี้มีการรายงานการติดเชื้อ
    Covid-19 อยู่ในระดับที่ต่ำมากๆ จึงทำให้ที่ผ่านมา
    หากมีกลุ่มคนที่ลักลอบเข้าประเทศไทยได้สำเร็จจริงๆ
    ความเสี่ยงที่พวกเขาเหล่านั้นจะเข้ามาพร้อมกับเชื้อ
    ก็น้อยตามไปด้วย
    .
    แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นที่เวียดนามตอนนี้นั้น อาจะส่งผลกระทบ
    ต่อไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าไทยและเวียดนาม
    สองประเทศนี้จะไม่ได้มีดินแดนติดต่อกันก็ตาม แต่ในกลุ่ม
    ประเทศที่มีการเคลื่อนย้ายของแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก
    ระหว่างกัน คือ พม่า ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม
    อยู่เป็นประจำในทุกๆปี ทำให้ในกลุ่ม 5 ประเทศนี้
    หากไม่สามารถป้องกันการลักลอบเข้าประเทศ
    อย่างผิดกฎหมายได้ ก็มีโอกาสที่จะเกิดการระบาด
    รอบใหม่ขึ้นด้วยกันทั้งหมด
    .
    เวียดนามกำลังทำทุกวิถีทางที่จะหยุดการแพร่ระบาด
    ระลอกใหม่นี้ให้ได้มากที่สุด แต่ถ้าเราดูจากไทม์ไลน์
    ที่เกิดขึ้น ผู้ที่พบเชื้อระลอกใหม่คนแรกๆนั้น กว่าจะ
    ตรวจพบ และรู้ตัวว่าตัวเองเป็น ก็ได้ผ่านไปหลายวัน
    แล้ว ไม่รู้ว่าเขาติดมาจากที่ไหน เวลาใด หรือในช่วงที่
    ติดนั้น เขาได้แพร่เชื้อให้ใครไปแล้วบ้าง นั่นเท่ากับว่า
    ในตอนนี้เวียดนามเองก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมีจำนวน
    ประชากรของตัวเองติดเชื้อไปแล้วเท่าไหร่ จำนวน
    มากน้อยแค่ไหน หรือหากเลวร้ายกว่านั้น ในกลุ่มคน
    ที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัวไปแล้ว ได้เข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
    เช่น ประเทศลาวหรือประเทศกัมพูชาแล้วหรือยัง
    หากเข้าไปแล้วอะไรจะเกิดขึ้นตามมา หรือจริงๆ
    เชื้อ Covid-19 ได้มาประชิดชายแดนไทยแล้ว
    .
    นี่คือจุดสุ่มเสี่ยงอย่างมาก หากไทยยังเจอกับการ
    ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าว
    และไม่สามารถทำการตรวจพบและจับกุมได้
    แรงงานต่างด้าวที่นำเชื้อเข้ามา อาจนำไปสู่
    การระบาดครั้งใหม่ของประเทศไทยได้ในที่สุด
    .
    หากเราย้อนไปก่อนหน้านี้ที่ประเทศไทยเจอกับเคสของ
    ทหารอียิปต์หรือเคสคณะ VIP เราจะเห็นได้อย่างชัดเจน
    ว่าอย่างน้อยเคสเหล่านั้น เรายังรู้ที่มาที่ไป รู้ว่าเขาเป็นใคร
    ไปที่ไหน ในเวลาใดบ้าง จนสามารถติดตามเข้าควบคุม
    จุดเสี่ยงได้ทัน แต่ในกรณีของการลักลอบเข้าเมือง
    คือสิ่งที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า
    คนเหล่านั้นได้อยู่ในประเทศของเราแล้ว ไปที่ไหน เวลาใด
    ไม่มีใครทราบ หากมีเชื้อจริง จะทราบอีกทีก็เมื่อมีการ
    ระบาดเกิดขึ้นไปแล้ว
    .
    กรณีศึกษาที่เวียดนามในตอนนี้ ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า
    ปัญหาการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย
    ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกมีการแพร่ระบาดแบบนี้นั้น
    มีความอันตรายมากแค่ไหน คนลักลอบเพียงไม่กี่คน
    กำลังจะทำให้สิ่งที่เวียดนามทำสำเร็จมาตลอดหลายเดือน
    พังทลายลงได้อย่างง่ายดายเพียงไม่กี่วัน
    .
    ดังน้ันสิ่งที่เกิดขึ้นในเวียดนามตอนนี้ จึงน่าเป็นห่วง
    อย่างมากว่า หากเวียดนาม “เอาไม่อยู่” ลาวและกัมพูชา
    ที่มีดินแดนติดกับเวียดนามจะ “เอาอยู่” หรือไม่
    เพราะถ้า “เอาไม่อยู่” ท้ายที่สุดโดมิโน่จะล้มมาหาไทย
    และชายแดนของเราจะกลายเป็นปราการด่านสุดท้าย
    ในการป้องกันการระบาดของ Covid-19 นั่นเอง
    .
    เพื่อให้ท่านไม่พลาดทุกสิ่งที่น่าสนใจ
    จากเพจ Thailand State Like เพจ
    และตั้งค่า See First ⭐️ เพื่อติดตามข้อมูลดีๆได้เลยครับ
    .
    Source : https://e.vnexpress.net/news/life/trend/vietnamese-brace-for-second-covid-19-wave-4137429.html
    .
    https://e.vnexpress.net/news/news/t...g-chinese-nationals-into-vietnam-4137482.html
    .
    https://www.benarnews.org/thai/news/TH-COVID-migrants-07082020173545.html
    .
    https://www.posttoday.com/world/629...fj1d6vX9fS43K9qIn-h7nUtQ6cWtuhC2G7dyJ-S5mUU_g
    .
    https://www.nationtv.tv/main/content/378784679/
    .
    #ThailandState #ThailandStateCaseStudy

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    July 30, 2020 ตอกหมุดดอกเบี้ยต่ำประวัติการณ์ต่อ ศก.สหรัฐขยับขึ้นบ้างแต่ยังต่ำกว่าก่อนเกิดโควิดอีกมาก

    ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด เสร็จสิ้นการประชุมรวม 2 วัน มีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยการประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0-0.25% ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง หลังจากที่อัตราดังกล่าวถูกปรับลดลงตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมปีนี้เป็นต้นมา เพื่อรับมือกับวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐ สำหรับอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะยังคงที่จนกระทั่งธนาคารกลางมีความมั่นใจว่า ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐสามารถปรับสภาพและฝ่าสถานการณ์เศรษฐกิจไปได้ และอยู่ในแนวทางที่นำไปสู่การจ้างงานที่สูงสุด และเข้าเป้าหมายที่มีภาวะเงินเฟ้ออย่างมีเสถียรภาพ

    นายเจอร์โรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ แถลงว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างรุนแรง กิจกรรมต่างๆในระบบเศรษฐกิจ และการจ้างงานได้ปรับตัวกระเตื้องขึ้นในช่วงหลายเดือนผ่านมา แต่ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับช่วงต้นปีนี้ นอกจากนี้ ความต้องการที่อ่อนแรงอย่างมาก ประกอบกับราคาน้ำมันที่ตกต่ำอย่างมาก ทั้งหมดฉุดภาวะเงินเฟ้อ

    เฟดเปิดเผยต่อไปว่า ในภาพรวมแล้ว สภาวะการเงินปรับปรุงดีขึ้นในช่วงหลายเดือนผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการของเฟดที่ออกมาสนับสนุนระบบเศรษฐกิจสหรัฐ และการเคลื่อนไหวของสินเชื่อเข้าไปสู่ครัวเรือนและภาคธุรกิจ นอกจากนี้ เฟดยืนยันขยายมาตรการเข้าซื้อตราสารหนี้ มาตรการอัดฉีดสินเชื่อ และมาตรการเสริมสภาพคล่องทุกอย่างที่ได้ประกาศมาก่อนหน้านี้ไปถึง 31 มีนาคม 2564

    ทั้งนี้ ในการประชุมคืนที่ผ่านมา เฟดไม่ได้ปรับเปลี่ยนตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐแต่อย่างใด หากย้อนกลับไปติดตามตัวเลขดังกล่าวในวาระการประชุมเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จะพบว่า เศรษฐกิจสหรัฐปีนี้จะอยู่ที่ -6.5% ในปี 2021 จะมีตัวเลขจีดีพีขยายตัวขึ้นเป็น 5% และชะลอตัวลงเหลือ 3.5% ในปี 2022 ซึ่งอยู่บนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นคงที่ไปตลอดถึงปี 2022

    #เฟด #แบงก์ชาติสหรัฐ #ดอกเบี้ย #btimes #fed

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,977
    ค่าพลัง:
    +97,150
    July 30, 2020 บราซิลตายทะลุ 90,000 คน ดันยอดตายโควิด-19 ทั่วโลกทะลุกว่า 668,000 คน The Covid-19 infected globally toll surpassed 17 million

    เวลา 5.55 น. รายงานสถานการณ์จำนวนผู้ติดโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก เพิ่มเป็น 17,146,653 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรกของโลก คือ สหรัฐอเมริกา 4,554,185 ราย บราซิล 2,553,265 ราย อินเดีย 1,584,384 ราย รัสเซีย 828,990 ราย แอฟริกาใต้ 471,123 ราย เม็กซิโก 402,697 ราย เปรู 395,005 ราย ชิลี 351,575 ราย สเปน 329,721 และสหราชอาณาจักร 301,455 ราย

    สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 668,740 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 153,409 ราย บราซิล 90,134 ราย สหราชอาณาจักร 45,961 ราย เม็กซิโก 44,876 ราย อิตาลี 35,129 ราย อินเดีย 35,003 ราย ฝรั่งเศส 30,238 ราย สเปน 28,441 ราย เปรู 18,612 ราย และอิหร่าน 16,343 ราย

    ในส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในอาเซียน และเสียชีวิต(ตัวเลขในวงเล็บ) พบว่า อินโดนีเซีย 104,432 ราย(4,975) ฟิลิปปินส์ 85,486 ราย(1,962) สิงคโปร์ 51,531 ราย(27) มาเลเซีย 8,956 ราย(124) ไทย 3,298 ราย(58) เวียดนาม 450 ราย เมียนมา 351 ราย(6) กัมพูชา 226 ราย บรูไน 141 ราย(3) และลาว 20 ราย

    #ไวรัสโคโรนา #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #โควิด19 #covid19 #Misterban #btimes
     

แชร์หน้านี้

Loading...