ติดตามสถานะการณ์

ที่นี่ไม่ไช่ซีเรีย ไม่ไช่เยเมน ไม่ไช่ฉากในหนัง
...ที่นี่คือเมือง #พอร์ตแลนด์ สหรัฐ ที่เพิ่งมีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับฝ่ายตำรวจปราบจลาจลไปหมาดๆ

 

สหรัฐฯสั่งห้ามประชาชน นำ ‘เมล็ดพืชปริศนา’ เหล่านี้ ไปปลูก
.
1/ ชาวอเมริกันใน 31 รัฐของสหรัฐฯ ต่างได้รับพัสดุปริศนา และเมื่อแกะออกมาดูแล้ว ต้องแปลกใจ เมื่อพบว่าเป็นเมล็ดพืช แต่.....ส่งมาจากใคร? ไม่มีใครในบ้านหรือในครอบครัวสั่งซื้อเมล็ดพืชหนิ?
.
2/ ในแต่ละซอง เมล็ดพืชที่บรรจุมา มีหลากหลายชนิด หน้าซองระบุว่า ถูกจัดส่งโดยบริษัทไปรษณีย์จีนและมีตัวอักษรจีนอยู่ที่หน้าซองพัสดุ และมีข้อความภาษาอังกฤษว่า ภายในห่อพัสดุเป็นสินค้าประเภทของเล่นหรือเครื่องประดับ
.
3/ พัสดุปริศนาที่มาพร้อมเมล็ดพืชปริศนา ส่งไปถึงชาวอเมริกันจำนวนมากขนาดนั้น เรื่องจึงถึงทางการ
.
4/ และเมื่อทางการสหรัฐฯตรวจสอบแล้ว ออกประกาศเตือนชาวอเมริกันทั่วประเทศว่า ห้ามนำเมล็ดพืชนั้นไปปลูก เพราะหวั่นเกิดการรุกรานทางสายพันธุ์
.
5/ ทางการจีนทราบเรื่องนี้เช่นกัน นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนพูดถึงเรื่องนี้ระหว่างการแถลงข่าวประจำวันว่า รายละเอียดผู้ส่งบนห่อพัสดุเป็นข้อมูลเท็จ
.
6/ ทางการจีนโดยไปรษณีย์จีนได้ขอให้สหรัฐฯส่งห่อพัสดุกลับมาจีน เพื่อที่ทางการจีนจะได้สืบหาที่มาของพัสดุปริศนาและเมล็ดพืชปริศนาเหล่านั้น
.
7/ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ยืนยันว่า ไปรษณีย์จีนยึดถือกฎเกณฑ์ของสหภาพไปรษณีย์สากล (Universal Postal Union - UPU) อย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมไปถึงการส่งเมล็ดพันธุ์พืชข้ามประเทศ
.
8/ ด้านกรมตำรวจสหรัฐฯสันนิษฐานว่า พัสดุปริศนาพร้อมเมล็ดพืชปริศนาน่าจะเป็นฝีมือของผู้ประกอบการจีน
.
9/ ผู้ประกอบการจีนรายนี้สร้างคำสั่งซื้อปลอมบนแฟลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ แล้วส่งสินค้าไปให้ผู้รับ(ที่ไม่ได้สั่งซื้อ) จากนั้นจึงสวมรอยเป็นผู้ซื้อซะเอง และไปให้คะแนนความพึงพอใจในระดับสูง และเขียนรีวิวเชิงบวก เพื่อให้ธุรกิจของตนบนออนไลน์ได้รับความนิยม ได้รับความสนใจ
.
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก...www.foxnews.com/us/china-plant-seeds-mystery-us-homes
.

 

China Report ASEAN - Thailand

เผยความลึกลับดำมืด ศูนย์วิจัยไวรัสอเมริกัน
.
⚫️ ห้องแล็บลับ ‘ฟอร์ต เดทริก’ – ตอนที่ 1
.
1/ สถานวิจัยทางทหารด้านชีวภาพของสหรัฐฯแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ฟอร์ต เดทริก รัฐแมรี่แลนด์ (เรียกกันในชื่อ ห้องแล็บ ฟอร์ต เดทริก) กลับมาเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบอีกครั้งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังปิดไปตั้งแต่สิงหาคมปีที่แล้ว
.
2/ การกลับมาเปิด สร้างความสงสัยเป็นอย่างมาก ปิดไปเพราะเรื่องอื้อฉาว แต่กลับมาเปิดเมื่อไวรัสโควิด-19 ระบาดในสหรัฐฯ
.
3/ เรื่องอื้อฉาวที่ว่าคือ ที่นี่สะสมและผลิตอาวุธชีวภาพหลากหลายประเภท แต่การจัดการความปลอดภัยย่ำแย่ จนเกิดการรั่วไหลของเชื้อแอนแทรกซ์และไวรัสอีโบลา เป็นสาเหตุให้ผู้คนล้มตายมากมาย
.


ต้นกำเนิด ห้องแล็ป ฟอร์ต เดทริก
.
1/ ปี 1943 กองทัพสหรัฐฯตั้งห้องแล็บแห่งนี้ขึ้นในพื้นที่สนามบินเก่ารกร้างชื่อว่า เดทริก ฟิลด์ (ทีแรกตั้งชื่อว่า แคมป์ เดทริก ก่อนจะเปลี่ยนเป็น ฟอร์ต เดทริก) เพื่อให้เป็นศูนย์กลางวิจัยสงครามชีวภาพของสหรัฐฯ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
.
2/ ที่นี่พร้อมผลิตระเบิดเชื้อแอนแทรกซ์ 1 ล้านลูก ด้วยความทะเยอทะยานของสหรัฐฯในความต้องการเป็นเจ้าสมรภูมิสงครามชีวภาพ
.
3/ ความก้าวหน้าส่วนหนึ่งเกิดจากการที่สหรัฐฯได้ข้อมูลวิจัยอันล้ำค่าด้านอาวุธชีวภาพจากชิโร อิชิอิ (Shiro Ishii) ผู้พยายามหลบเลี่ยงการถูกพิจารณาคดีความหลังสงคราม แต่การมอบข้อมูลวิจัยทั้งหมด ก็เพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกจับกุมในข้อหาอาชญากรสงคราม
.
4/ จากนั้นมา ห้องแล็บมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ยกระดับโครงการอาวุธชีวภาพ เป็นความลับสุดยอดของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เดินหน้าการวิจัยชีวการแพทย์ เพื่อรักษาสถานะผู้นำของโลก
.
ขอบคุณภาพจาก...https://news.cgtn.com/news/2020-05-12/The-mind-blowing-history-at-Fort-Detrick-Qr1cLbK0dW/index.html



ห้องแล็บลับ ‘ฟอร์ต เดทริก’ – ตอนที่ 2
.
1/ หนึ่งในแผนการทดลองที่น่าขนพองสยองเกล้าคือ แนวคิดใช้เชื้อไวรัสไข้เหลืองทำลายประเทศศัตรู ด้วยการปล่อยฝูงยุงที่ติดเชื้อไวรัส จากเครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์ ด้วยความสามารถในการผลิต 130 ล้านตัวต่อเดือน
.
2/ ชาร์ลส์ เซนเซนีย์ (Charles Senseney) วิศวกรประจำกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยถึงการทดสอบอาวุธชีวภาพที่น่ากลัวหลายต่อหลายครั้ง
.
3/ เช่น แอบใส่สารบางอย่างลงไปในระบบน้ำของอาคารสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เพื่อทดสอบความเร็วของการทำลายล้าง รวมถึง การพัฒนายาควบคุมจิตใจมนุษย์ด้วยยาที่ชื่อ แอลเอสดี (LSD) ทำการทดลองกับเชลยศึก
.
4/ ความสามารถด้านอาวุธชีวภาพและผลิตภัณฑ์จากการวิจัย มีความก้าวหน้า แต่ความสามารถด้านความปลอดภัยไม่ดีพอ ทำให้เกิดการรั่วไหลของสารปนเปื้อน นำมาซึ่งการเสียชีวิตของสัตว์และเจ้าหน้าที่ และการอุบัติของโรคมะเร็งในผู้ที่อาศัยใกล้เคียงห้องแล็ป รวมถึงเจ้าหน้าที่ในห้องแล็ปเอง
.
5/ มีการปกปิดสาเหตุการเสียชีวิต ปลอมแปลงข้อมูลในมรณบัตร แต่การเสียชีวิตจากการรั่วไหลของอาวุธชีวภาพเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้สาธารณชนออกมากดดันอย่างหนัก
.
6/ ริชาร์ด นิกสัน ประธานาธิบดีสหรัฐฯในเวลานั้น ประกาศยกเลิกการใช้อาวุธชีวภาพและสั่งทำลายอาวุธชีวภาพทั้งหมดที่มีอยู่ ส่งผลให้เป้าหมายการวิจัยของฟอร์ต เดทริก เปลี่ยนไปเป็น ‘การวิจัยเพื่อการป้องกันตนเอง’
.
7/ หลายฝ่ายมองว่า ก็เหมือนเดิม เพราะจุดประสงค์ของห้องแล็บไม่เปลี่ยนจากเดิมมากนัก จึงเกิดการเรียกร้องให้เปลี่ยนห้องแล็บ ฟอร์ต เดทริก เป็นศูนย์สุขภาพโลก แต่ในท้ายที่สุด ห้องแล็บ ฟอร์ต เดทริก ถูกเปลี่ยนเป็นศูนย์วิจัยมะเร็ง เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 1971
.
ขอบคุณภาพจาก...www.preservationmaryland.org/the-role-of-the-old-line-state-in-vaccine-development/



ความสงสัยไม่เคยจางหาย
.
1/ เมื่อเป็นข่าวดัง การเค้นความลึกลับของห้องแล็บ ฟอร์ต เดทริก จึงไม่หยุดหย่อนว่าการวิจัยทางชีวภาพจะเดินหน้าหรือหยุดลง แม้ริชาร์ด บาร์ควิสต์ อดีตแพทย์ในห้องแล็บแห่งนี้ยืนยันว่า ‘สิ่งที่เราทำ เป็นเรื่องทางการแพทย์เพียงอย่างเดียว’
.
2/ คณะกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐฯพบ ‘ข้อบกพร่องร้ายแรง ระเบียบข้อบังคับไม่เพียงพอ การดูแลความปลอดภัยหละหลวม จนทำให้เชื้อแอนแทรกซ์ เชื้อแบคทีเรียอันตราย และสารพิษอื่นๆ สูญหายจากห้องแล็บฟอร์ต เดทริก
.
3/ ปี 2001 ชาวอเมริกันต้องตื่นตระหนกหลังเกิดเหตุโจมตีด้วยเชื้อแอนแทรกซ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 17 ราย มีผู้เข้ารับยาปฏิชีวนะมากถึง 20,000 คน เหตุการณ์ครั้งนี้ FBI สงสัยที่มาของคนร้ายและเชื้อร้านมาจากห้องแล็บฟอร์ต เดทริก
.
4/ ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ห้องแล็บ ต้องอยู่อย่างหวั่นกลัว แต่กองทัพสหรัฐฯยืนยันว่า ปลอดภัยและเป็นความวิตกกังวลที่มากเกินไป
.
5/ เพื่อความสบายใจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐแมรี่แลนด์ สถานที่ตั้งของห้องแล็บ ทำการศึกษาการอุบัติของโรคมะเร็งในพื้นที่ในระยะเวลา 20 ปี ผลการศึกษาระบุว่าไม่พบการปนเปื้อน ไม่พบประชาชนป่วยด้วยโรคมะเร็งเป็นกลุ่มก้อน
.
6/ แต่ประชาชนใกล้เคียงเสียชีวิตด้วยหลากหลายโรค ทั้งเนื้องอกในสมอง เนื้องอกในช่องท้อง มะเร็งเนื้อเยื่อไต มะเร็งผิวหนัง แพทย์ระบุว่า สาเหตุมาจากสภาพแวดล้อม
.
7/ มีการจ้างนักระบาดวิทยาและนักพิษวิทยาเฝ้าติดตามมลพิษในอากาศ ดิน และน้ำ ใกล้กับฟอร์ต เดทริก รวมถึงซักถามประวัติสุขภาพของประชาชน และตรวจเลือด
.
8/ เมื่อรวบรวมหลักฐานครบและแน่ใจแล้วว่า ห้องแล็บฟอร์ต เดทริก และพื้นที่ใกล้เคียง เป็นแหล่งมลพิษอันตราย จึงเดินหน้าฟ้องร้องครั้งใหญ่ เพื่อเรียกร้องรัฐบาลกลางจ่ายเงินชดเชยแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ เนื่องจากการรั่วไหลของสารปนเปื้อนจากฟอร์ต เดทริก
.
9/ ศาลในรัฐแมรี่แลนด์ปฏิเสธการรับฟ้องในปี 2016 โดยอ้างว่าไม่มีอำนาจพิจารณา ต่อมาปี 2017 ศาลอุทธรณ์กลางของสหรัฐฯไม่รับพิจารณาเช่นกัน สุดท้ายการฟ้องร้องเดินทางมาถึงทางตัน
.
ขอบคุณภาพจาก...www.politico.com/magazine/story/2019/09/15/cia-fort-detrick-stephen-kinzer-228109



ปิดแล้วเปิด เปิดแล้วปิด
.
1/ ในขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงกำลังวิตกกังวล รัฐบาลสหรัฐฯกลับวางแผนปรับปรุงสถานที่ ให้เป็นสถานวิจัยการป้องกันทางชีวภาพ ที่มีห้องปฏิบัติการภายใต้ความปลอดภัยทางชีวภาพระดับ 4 (BSL-4) ซึ่งเป็นระดับสูงสุด เพื่อรับมือกับอาวุธชีวภาพที่ร้ายแรง
.
2/ การดำเนินการครั้งนี้ จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนในทันที
.
3/ บรรดานักวิจารณ์มองว่า เป็นการสร้างภัยคุกคามต่อชุมชนรอบข้าง และทำให้ประเทศอื่นๆพากันสงสัยว่า สหรัฐฯตั้งใจสร้างอาวุธชีวภาพ
.
4/ กระแสเสียงคัดค้านมิอาจหยุดยั้ง ห้องแล็บฟอร์ต เดทริก กลับมาเปิดตัวอีกครั้งในปี 2008 ก่อนถูกสั่งปิดอย่างฉับพลันโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้วนี่เอง สาเหตุจากเกิดการปนเปื้อนในน้ำเสีย
.
5/ อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญคือ กองทัพสหรัฐฯไม่สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัยทางชีวภาพได้
.
6/ แต่การปฏิบัติงานของห้องแล็บฟอร์ต เดทริก ไม่ได้หยุดชะงักลงแบบถาวร และกลับมาเปิดอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2019 ก่อนที่การระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนต่อมา
.
7/ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล รายงานเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า ห้องแล็บฟอร์ต เดทริก กลับมาดำเนินการเต็มรูปแบบในวันที่ 27 มีนาคม ด้วยงบประมาณ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อพัฒนาวัคซีนโควิด-19
.
8/ จากสถานที่ที่มีความลึกลับดำมืดชวนสงสัย อาวุธชีวภาพร้ายแรงหลุดรั่วเปื้อนปนครั้งแล้วครั้งเล่า กลับกลายเป็นสถานที่ที่มีบทบาทสำคัญระดับแนวหน้าในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ของสหรัฐฯ
.
ขอบคุณภาพจาก...www.alaskapublic.org/inside-view-of-the-laboratory-where-anthrax-suspect-bruce-ivins-worked-fort-detrick/

 

ผู้ที่จบจาก 10 สาขานี้ ได้รับการจ้างงานสูงที่สุด
.
1/ MyCos หน่วยงานด้านการจัดการการศึกษา ผู้ให้บริการด้านข้อมูลและให้คำปรึกษาด้านการศึกษา เผยแพร่ข้อมูลการติดตามการจ้างงาน ‘บัณฑิตจีน’ จบใหม่ ปี 2562
.
2/ ข้อมูลที่ได้มาจากการสำรวจนักศึกษาจีนผู้สำเร็จการศึกษาจำนวน 126,000 คน และพบว่าผู้ที่จบการศึกษาจาก 10 สาขานี้ ได้รับการจ้างงานมากที่สุด
.
3/ และนี่คือ 10 อันดับแรกของอุตสาหกรรมที่จ้างงานนักศึกษาจบใหม่ในปี 2562 มากที่สุด ตามด้วยตัวเลขเปอร์เซ็นต์สัดส่วนการจ้างงานครับ
.
อันดับ 10 : ค้าปลีก 3.4%
อันดับ 9 : วัฒนธรรม กีฬา และนันทนาการ 4.6%
อันดับ 8 : ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็คทรอนิกส์ 5.7%
อันดับ 7 : การออกแบบและการให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ 5.8%
อันดับ 6 : การดูแลทางการแพทย์และการดูแลสังคม 6%
อันดับ 5 : หน่วยงานรัฐบาลและการบริหารราชการ 6%
อันดับ 4 : การเงิน 7.8%
อันดับ 3 : ซอฟต์แวร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ 8.9%
อันดับ 2 : การก่อสร้าง 8.9%
อันดับ 1 : การศึกษา 15.9%
.
4/ คาดการณ์ว่า ข้อมูลการจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ในปี 2563 อันดับอุตสาหกรรมในจีนที่มีอัตราจ้างงานมากที่สุดจะต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากแน่นอน เพราะวิกฤตโควิด-19 อาจทำให้นักศึกษาที่จบการศึกษาจากสาขาด้านการแพทย์ สุขภาพ ประกัน สาธารณสุข ได้รับการจ้างงานติดอันดับต้นๆ
.
China Report ASEAN – Thailand จะนำผลการสำรวจมารายงานกันอีกครั้ง ปีหน้านะครับ ^^
.
ขอบคุณภาพและข้อมูล จาก...www.chinadaily.com.cn/a/202007/23/WS5f18c040a31083481725b6ec_1.html

 

โควิด-19 รักษาหายได้ แต่ภัยเงียบหัวใจอาจอยู่ถาวร
นิวส์วีค สื่อต่างประเทศรายงาน (30 ก.ค.) - ผลการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ของวารสารโรคหัวใจ JAMA พบว่าร้อยละ 78 หรือราว 3 ใน 4 ของผู้ป่วยโควิด-19 ที่ผ่านการต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และรักษาโควิด-19 แม้หายแล้ว แต่มีผลกับหัวใจถาวร
การศึกษาจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแฟรงค์เฟิร์ตได้ทำการตรวจ MRI ของหัวใจและหลอดเลือดหัวใจของคน 100 คนที่หายจากโรคโควิด19 ภาพหัวใจแสดงให้เห็นว่าเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาโควิด-19 มีผลกระทบเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างต่อหัวใจของพวกเขา
(ลิงค์ - https://jamanetwork.com/journals/jamacardiology/fullarticle/2768915)
ผู้ป่วยร้อยละ 60 มีการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ (กล้ามเนื้อหัวใจ) อย่างต่อเนื่องแม้หลังจากการรักษาโควิด-19 หายแล้ว
ดร. วาเลนตินา พันท์แมนน ผู้อำนวยการศึกษาวิจัยฯ บอกกับ STAT ว่าแม้ว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะไม่เกี่ยวข้องกับอาการหัวใจอย่างรุนแรง แต่กล้ามเนื้อที่ปรากฏก็แสดงให้เห็นว่ามีบทบาทสำคัญของหัวใจหลังผ่านการต่อสู้กับไวรัสฯ
"ความจริงที่ว่าร้อยละ 78 ของ 'ผู้ป่วยที่รักษาหาย' มีหลักฐานผลกระทบของหัวใจอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่แม้ว่าตอนที่ป่วยนั้น หัวใจจะไม่ส่งอาการใดๆ รุนแรงนัก อาทิ อาการเจ็บหน้าอก" ดร. วาเลนตินา พันท์แมนน กล่าวและว่าในทัศนะของตนเอง การจัดการรักษาโควิด-19 ให้มีประสิทธิภาพเชิงรุก ควรมองหาการมีส่วนร่วมของหัวใจตั้งแต่ต้น
การศึกษาก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมีนาคม พบว่า 19% ของผู้ป่วยในโรงพยาบาลในอู่ฮั่น ประเทศจีน กลุ่มแรก ๆ มีอาการบาดเจ็บที่หัวใจ
สำหรับผลกระทบระยะยาวของไวรัสฯ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด การศึกษาเหล่านี้ เพิ่งชี้ให้เห็นว่า ไวรัสฯ มีผลเสียต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดแก่ผู้ติดเชื้อแม้หลังจากการฟื้นตัวหายแล้วก็ตาม
ผู้ที่มีภาวะสุขภาพอ่อนแอเป็นประชากรที่มีความอ่อนไหวในภาวะวิกฤตสุขภาพ ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือหัวใจล้มเหลวมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อฯ และเสียชีวิต
การศึกษาก่อนหน้านี้ระบุว่า ผลกระทบระยะยาวที่เป็นไปได้อื่น ๆ ของไวรัสอาจรวมถึงการแข็งตัวของเลือด ความเสียหายของปอดและอาการทางระบบประสาท เช่น สูญเสียกลิ่นหรือรสชาติ
ผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดของโควิด-19 คือต่อระบบทางเดินหายใจ ผู้ที่มีอาการรุนแรงของโรคนี้ ต้องเผชิญกับโรคปอดอักเสบ ที่คุกคามชีวิต ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ จำเป็นต้องรักษาในโรงพยาบาลเพื่อรักษาโรคปอดอักเสบ
ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาของโคลัมเบีย สตีเฟน มอร์ส บอกกับ นิวสวีคว่า ผลกระทบระยะยาวเหล่านี้อาจไม่น่าแปลกใจ
ผลการศึกษาใหม่ของวารสารโรคหัวใจ JAMA กล่าวว่า เราไม่ต้องการสร้างความวิตกกังวลเพิ่มเติม แต่เพื่อกระตุ้นให้มีการวิจัยข้อมูลที่มีอยู่ และรวบรวมข้อมูลใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประเมินติดตามระยะยาวในกลุ่มผู้รักษาหาย เพื่อป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลวและภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังอื่น ๆ
ตามข้อมูลจากตัวติดตามมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ณ วันพุธที่ 29 กรกฎาคม มีการรายงานผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลกมากกว่า 16 ล้านคนและในบรรดาผู้ติดเชื้อนั้น มีผู้รักษาหายแล้ว 9.8 ล้านคน
ในขณะที่ผู้ป่วยรายใหม่ ยังกลับเริ่มเพิ่มขึ้นอีกระลอก ในสเปน เบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ ยุโรป หลายประเทศในเอเชียได้เห็นการกลับมาของการติดเชื้อรอบสอง รอบสาม เมื่อวันพุธที่ผ่านมาจีน รายงานจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ จำนวนสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน
ด้าน สหรัฐอเมริกา ซึ่งยังคงอยู่เพียงช่วงแรกเริ่มของการแพร่ระบาดไวรัส หลายรัฐก็ได้กลายเป็นศูนย์กลางระบาดระดับโลก มีกรณีที่ยืนยันการติดเชื้อฯ มากกว่าประเทศอื่น ๆ
....
ข่าว / ภาพนิวส์วีค ผู้ป่วยโควิด-19 ที่หายแล้ว ขณะตรวจสอบการทำงานของหัวใจ ที่แผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟูของเจนัว เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่เมืองเจนัวประเทศอิตาลี การศึกษาใหม่พบว่ามากกว่าสามในสี่ของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยโควิด-19 มีผลกระทบกับหัวใจ
(MARCO DI LAURO / STRINGER)
https://www.newsweek.com/most-recovered-covid-19-patients-left-heart-damage-study-shows-1521456

 

ตามที่มีรายงาน พบผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ (COVID-19) สัญชาติไทย ในสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ นั้น
ในการนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียนข้อมูล ดังนี้
. เมื่อวันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม 2563 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อ COVID-19 จากผู้ที่จะเดินทางโดยเที่ยวบินพิเศษเส้นทางกรุงไคโร – กรุงเทพฯ ในวันพุธที่ 29 กรกฎาคม 2563 จำนวน 290 คน และผู้ที่รายชื่อสำรอง 35 คนที่สถานเอกอัครราชทูตฯ พบว่า มีผู้ที่ไม่ผ่านการคัดกรอง จำนวน 6 ราย ในการนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดำเนินการประสานกับบุคคลดังกล่าวและได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับสุขภาพของกลุ่มบุคคลดังกล่าวจากกระทรวงสาธารณสุขสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์อย่างใกล้ชิดต่อไป
. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดำเนินการฆ่าเชื้อโรคที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ภายหลังจากการตรวจหาเชื้อ COVID-19 เสร็จสิ้นแล้ว โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ เปิดให้บริการประชาชนได้ตามปกติ
. เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับแจ้งว่า มีคนสัญชาติไทย อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัย Al-Azhar มีอาการไม่สบายอย่างรุนแรง โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ให้บุคคลดังกล่าวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในวันเดียวกัน ทั้งนี้ ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับแจ้งว่า บุคคลดังกล่าว ได้เสียชีวิตลง เนื่องจากปอดอักเสบจากการติดเชื้อ COVID-19
. สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้ชุมชนไทยอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่มีคนไทยเสียชีวิต โดยขอให้ใช้ความระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวัน การรักษาระยะห่าง การหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านให้มากที่สุด รวมทั้งควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกไปยังที่สาธารณะ และหมั่นล้างมือเป็นประจำ
. สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังคงจัดเที่ยวบินพิเศษสำหรับคนไทยที่ประสงค์จะกลับไทยโดยเร่งด่วน จนกว่าคนที่ประสงค์กลับไทยได้เดินทางกลับครบแล้ว หรือจนกว่าสนามบินเปิดให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ ในขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังประสานรายละเอียดจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ การขออนุญาตบินเข้า-ออกประเทศ การยืนยันราคาค่าตั๋วเครื่องบิน การจัดแพทย์ตรวจ COVID-19 การประสานหน่วยงานต่าง ๆ ที่สนามบิน ฯลฯ โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ จะแจ้งรายละเอียดเที่ยวบินพิเศษเที่ยวถัดไปในโอกาสแรก
. สถิติการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 (สถานะ ณ วันที่ 28 กรกฎาคม 2563 เวลา 19.30 น.)
6.1 สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์มีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รวมทั้งสิ้น 92,482 ราย โดยรักษาหายแล้ว 34,838 ราย และเสียชีวิต 4,652 ราย ทั้งนี้ มีคนไทยติดเชื้อ 127 ราย โดยอยู่ระหว่างการรักษา 100 ราย รักษาหายแล้ว 26 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อคนไทยอยู่ในระหว่างการรักษา / กักตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสุขภาพของบุคคลดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
6.2 สาธารณรัฐซูดานมีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รวมทั้งสิ้น 11,496 ราย โดยรักษาหายแล้ว 6,001 ราย และเสียชีวิต 725 ราย
6.3 สาธารณรัฐจิบูตีมีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รวมทั้งสิ้น 5,059 ราย โดยรักษาหายแล้ว 4,992 ราย และเสียชีวิต 58 ราย
6.4 รัฐเอริเทรียมีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รวมทั้งสิ้น 265 ราย โดยรักษาหายแล้ว 191 ราย
อนึ่ง หากมีเหตุจำเป็น สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน ของสถานเอกอัครราชทูตฯ +201 0194 01243 หรือสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงคาร์ทูม ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน ของสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ฯ +249 12 345 5680 / +249 12 345 6222 / +249 12 345 6763 รวมทั้งขอให้ชุมชนไทยโปรดติดตามข่าวสารการแพร่ระบาดของโรคผ่านช่องทางทางการ อาทิ เว็บไซต์เกี่ยวกับเชื้อ COVID-19 ของสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ www.care.gov.eg เบอร์โทรศัพท์สายด่วนสำหรับคนต่างชาติของกระทรวงสาธารณสุขอียิปต์ (หมายเลขท้องถิ่น 105) เบอร์โทรศัพท์สายด่วนของกระทรวงสาธารณสุขซูดาน (หมายเลขท้องถิ่น 221) สื่อมวลชน และ/หรือสถานเอกอัครราชทูตฯ อย่างใกล้ชิดต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อให้ทราบโดยทั่วกัน
ประกาศ ณ วันที่ 28 กรกฎาคม 2563
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร

 

ถึงแม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะสูงเป็นประวัติการณ์ แต่นายโยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยืนยันชัดเจนว่า “เราไม่อยู่ในสถานการณ์ที่สามารถประกาศภาวะฉุกเฉินอีกครั้ง และลดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างเข้มงวด”

อ่านต่อที่ https://mgronline.com/japan/detail/9630000077725

 

พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 118 รายวานนี้ในฮ่องกง

เมื่อวานนี้ (29 ก.ค. 20) ได้มีรายงานมีผู้ติดเชื้อเพิ่มทั้งหมด 118 ราย โดยมี 113 ราย ซึ่งเป็นเคสติดเพิ่มจากในฮ่องกง รวมยอดสะสมทั้งหมด 3,003 ราย

นับเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันแล้วที่ฮ่องกงรายงานผู้ติดเชื้อเกิน 100 ราย โดย Dr Chuang Shuk-kwan หัวหน้าสาขาโรคติดต่อศูนย์คุ้มครองสุขภาพ เผยว่าในจำนวนเคสติดเชื้อในฮ่องกง มี 67 รายที่เกี่ยวเนื่องกับเคสก่อนหน้านี้ ส่วนอีก 46 รายตามแหล่งต้นตอไม่ได้

นอกจากนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก รวมทั้งหมด 24 ราย

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***
https://www.facebook.com/119537452088669/posts/494989721210105/?d=n

Source : https://www.thestandard.com.hk/breaking-news/section/4/151984/Virus-tally-passes-3,000-as-HK-reports-triple-digit-increase-in-daily-cases-for-eighth-straight-day, https://www.coronavirus.gov.hk/eng/index.html

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

รอยเตอร์ - การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในบราซิล ทุบสถิติรายวันทั้งในแง่จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในวันพุธ (29 ก.ค.) แต่กระนั้นมีข่าวว่าพวกเขาเตรียมแถลงกลับมาเปิดการสัญจรทางอากาศระหว่างประเทศต้อนรับชาวต่างชาติเร็วๆ นี้
.
ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขบราซิล ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 69,074 คน และเสียชีวิต 1,595 คน ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้เวลานี้ชาติที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักหน่วงที่สุดอันดับ 2 ของโลกเป็นรองเพียงสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็นมากกว่า 2.5 ล้านคน และเสียชีวิต 90,134 ราย เข้าใกล้หลักชัยอันน่าเศร้า 1 แสนศพทุกขณะ
.
เซาเปาลู รัฐที่มีประชากรมากที่สุดและได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดของบราซิล รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 26,000 คนในวันพุธ (29 ก.ค.)
.
ประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู แห่งบราซิล กดดันให้รัฐต่างๆ กลับมาเปิดเศรษฐกิจ ทำให้หลายเมืองต้องยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ แม้ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และในบางกรณี พบเห็นชาวบราซิลยังคงเบียดเสียดกันเข้าไปในบาร์ และรวมตัวกันจำนวนมากบริเวณจัตุรัสสาธารณะต่างๆ แถมบ่อยครั้งยังเพิกเฉยต่อกฎระเบียบที่กำหนดโดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นด้วย
.
ตั้งแต่บราซิลเริ่มเผชิญวิกฤตโรคระบาดใหม่ๆ ประธานาธิบดีขวาจัดรายนี้ ปฏิเสธความร้ายแรงของโควิด-19 มาตลอด และยังตำหนิผู้ว่าการรัฐต่างๆ ที่ออกคำสั่งล็อกดาวน์ปิดเมือง
.
นอกจากนี้แล้ว บ่อยครั้งที่ โบลโซนารู เพิกเฉยต่อคำแนะนำเกี่ยวกับการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยเดินออกไปยังลานกว้างของทำเนียบประธานาธิบดี เพื่อพบปะกับบรรดาผู้สนับสนุน และเขายังคงทำแบบนั้น แม้กระทั่งหลังจากผลการตรวจโควิด-19 ของเขาออกมาเป็นบวกเมื่อช่วงต้นเดือน
.
ผู้นำฝ่ายขวารายนี้โต้แย้งว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจจากมาตรการล็อกดาวน์นั้นเลวร้ายกว่าตัวไวรัสเองเสียอีก ในขณะที่เขาเคยปฏิสธความรุนแรงของโควิด-19 โดยบอกว่ามันเป็นแค่ไข้หวัดเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถรักษาหายได้ด้วยวิธีการต่างๆ ที่ยังไม่ผ่านการพิสูจน์ ในนั้นรวมถึงการใช้ยาต่อต้านมาลาเรีย “ไฮดรอกซีคลอโรควิน”
.
แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตรายวันทุบสถิติสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดในวันพุธ (29 ก.ค.) แต่สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าววงใน 2 คน คาดหมายว่า บราซิลเตรียมแถลงกลับมาเปิดการสัญจรทางอากาศระหว่างประเทศต้อนรับนักเดินทางจากต่างชาติเร็วๆนี้ หลังจากมันถูกแบนมาตั้งแต่เดือนมีนาคม สืบเนื่องจากวิกฤตโควิด-19
.
แหล่งข่าวคาดหมายว่า รัฐบาลกลางจะเผยแพร่คำสั่งประกาศยกเลิกมาตรการห้ามเดินทาง แต่จะยังคงข้อจำกัดบางอย่างเอาไว้
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://mgronline.com/around/detail/9630000077717
-------------------------------

 

สื่อต่างประเทศรายงานว่า พบหญิงชาวเบลเยียมรายหนึ่ง ที่คิดว่าตัวเองเป็นไก่ และมักชอบออกไปขันในสวนภายในบ้าน พร้อมทำท่าทางเลียนแบบไก่ จนญาติเห็นท่าไม่ดีต้องนำส่งโรงพยาบาล
.
รายงานระบุว่า หญิงคนดังกล่าวยืนยันกับแพทย์ว่า เธอรู้สึกตัวเองเป็นไก่ โดยสัมผัสได้ถึงความรู้สึกพิเศษบริเวณขา แต่ก็ยอมรับว่า จำช่วงเวลาที่ตัวเองแสดงอาการประหลาดไม่ได้มากนัก ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เธอไม่ได้มีประวัติติดสุรา หรือยาเสพติดแต่อย่างใด
.
ด้านทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย KU Leuven ในเบลเยียม ศึกษากรณีที่เกิดขึ้น และเขียนบทความลงในวารสารทางการแพทย์โดยชี้ให้เห็นว่า กรณีดังกล่าวน่าจะเป็นภาวะ “zoanthropy” ซึ่งผู้ป่วยจะคิดว่าตัวเองเป็นสัตว์ และถือเป็นอาการหายาก โดยทีมเปิดเผยว่าตั้งแต่ปี 2393-2555 เคยพบผู้ป่วยลักษณะนี้เพียง 56 รายเท่านั้น โดยคนกลุ่มนี้จะมีความคิดว่าตัวเองเป็นสุนัข, แมว, งู, ผึ้ง ไปจนถึงจระเข้
.
นักวิจัยเชื่อว่า อาการของหญิงชาวเบลเยียมรายนี้ น่าจะมีผลมาจากภาวะซึมเศร้าที่เธอเคยประสบมาหลังสูญเสียญาติ ส่วนอาการที่เธอรู้สึกบริเวณขาน่าจะเป็นผลจากภาวะทางสมองสร้างขึ้นมา สำหรับความผิดปกติลักษณะนี้ นักวิจัยชี้ว่าเป็นความผิดปกติทางจิตวิทยาในลักษณะเดียวกับอาการไบโพลาร์ โดยผู้ป่วยอาจมีอาการคิดว่าเป็นสัตว์เพียงช่วงสั้นๆ แค่ 1 ชั่วโมง หรืออาจจะเรื้อรังนานหลายสิบปี
.
ขณะเดียวกันงานวิจัยยังพบว่า ภาวะที่คิดว่าตัวเองเป็นสัตว์จะพบบ่อยในพื้นที่ชนบทหรือพื้นที่ที่ไม่ใช่เขตอุตสาหกรรม

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.theguardian.com/world/2020/jul/28/case-of-belgian-women-who-thought-she-was-a-chicken-linked-to-depression

https://www.journalpioneer.com/news/canada/belgian-woman-who-thought-she-was-a-chicken-suffered-from-rare-depression-linked-disorder-study-478933/

https://www.thairath.co.th/news/foreign/1898936
-------------------------------

 

แบ่งปันจากมาร์ค เอลคิน "นี่คือการจัดแนวพื้นโลกกับระบบดาวแคระน้ำตาลนั่นหมายความว่าโลกอยู่ที่จุดตัดขวางที่ใกล้ที่สุดของปีในความสัมพันธ์กับตำแหน่งของระบบดาวแคระน้ำตาล"
ระหว่าง Capricornus และSagittarius.
นี่เป็นรายงานของเขาตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2020 ฉันไม่รู้ว่างานวิจัยของเขาเปลี่ยนไปหรือไม่ตั้งแต่นั้นมา

Sharing form Mark Elkin, "This is Earths frontside alignment with the brown dwarf system. This means Earth is at its closest crossing point of the year in relation to the position of the brown dwarf system."
Between Capricornus and Sagittarius.
This was his report from March 26, 2020. I don't know if his research has changed since then.
https://www.patreon.com/posts/full-report-27th-35289411

 

Gill Broussard

วิดีโอของดร. Robert Harrington ไม่เห็นด้วยกับวงโคจร3,600 ปี ที่เสนอ ของ Steichen กับขนาดของดาวพฤหัสบดี สิ่งเดียวที่พวกเขาเห็นด้วย คือว่าดาวเคราะห์เข้าใกล้ ฉัน รวมดร. Harrington "ประมาณการ" จากรายงานกระดาษสีขาวของเขา ด้วยข้อมูลล่าสุดที่ฉันสามารถค้นหาวงโคจรของ P-X นั้นใกล้เคียงกับ 360 ปี

Video of Dr. Robert Harrington disagreed with Steichen's proposed 3,600-year orbits with the size of Jupiter. The only thing they were in agreement with was, that there is an intruder planet approach. I include dr. Harrington "Estimates" from his white paper report. With the latest data that I was able to find the orbit of P-X is closer to 360-yr.
https://www.youtube.com/watch?v=HpHU36uJnMc

 

เดนมาร์ก หนึ่งในผู้นำแห่งพลังงานลมของโลก /โดย ลงทุนแมน
พลังงานทดแทน กำลังเป็นแหล่งพลังงานที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ของโลก
เหตุผลเนื่องจากพลังงานเชื้อเพลิงที่มาจากฟอสซิลนั้น เป็นต้นกำเนิดที่ก่อปัญหามลพิษให้แก่โลกในอดีตและปัจจุบัน

ปี 2008 มีประเทศที่ออกนโยบายสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนอยู่ 79 ประเทศ ซึ่งจำนวนนี้ได้เพิ่มถึง 169 ประเทศ ในปี 2018

แต่มีอยู่ประเทศหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการหันมาใช้พลังงานทดแทน
โดยเฉพาะพลังงานลม
ประเทศนั้นคือ เดนมาร์ก..

เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เดนมาร์ก เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป โดยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศนอร์ดิก (Nordic Countries) หรือกลุ่มประเทศแถบสแกนดิเนเวีย (Scandinavia) ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็น

ปัจจุบัน เดนมาร์กมีมูลค่า GDP เท่ากับ 11.1 ล้านล้านบาท ใหญ่เป็นอันดับที่ 37 ของโลก
มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรเท่ากับ 1.9 ล้านบาท สูงเป็นอันดับที่ 9 ของโลก

เดนมาร์กมีจำนวนประชากรเท่ากับ 5.8 ล้านคน อยู่อันดับที่ 114 ของโลก

เนื่องด้วยทำเลที่ตั้งของเดนมาร์ก ที่เป็นศูนย์กลางส่งสินค้าเข้าสู่กลุ่มประเทศนอร์ดิก เพราะมีเส้นทางคมนาคมขนส่งระหว่างเดนมาร์ก-สวีเดน-นอร์เวย์หลายเส้นทาง เดนมาร์กจึงมีบทบาทในสถานะที่เป็น สถานีการค้าในภูมิภาคยุโรปเหนือ

ในด้านของการใช้พลังงานในอดีตนั้น เดนมาร์กมีการพึ่งพาการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงที่มาจากฟอสซิลในระดับสูง

รู้ไหมว่า เมื่อ 50 ปีที่แล้ว 90% ของการบริโภคพลังงานของเดนมาร์กนั้นคือ น้ำมัน ซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างปี 1970-1979 โลกได้เกิดวิกฤติพลังงานขึ้น 2 ครั้ง

ปี 1973 วิกฤติราคาน้ำมันเกิดขึ้น
เมื่อกลุ่มโอเปกประกาศลดการผลิตและลดการส่งออกน้ำมัน เรื่องนี้ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นจาก 4 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 12 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือ 3 เท่า ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือน
จนส่งผลทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงัก เพราะน้ำมันคือปัจจัยพื้นฐานทางการผลิตที่สำคัญ

ปี 1979 วิกฤติราคาน้ำมันเกิดขึ้นอีกครั้ง
ซึ่งเกิดปัญหาการปฏิวัติในอิหร่าน ทำให้การผลิตน้ำมันของโลกลดลงไป 4% ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นจาก 16 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ประมาณ 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในเวลา 12 เดือน

แน่นอนว่าทั้ง 2 ครั้ง สร้างผลกระทบต่อประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมัน ซึ่งรวมถึงเดนมาร์ก จนส่งผลเสียต่อภาคเศรษฐกิจและครัวเรือนของเดนมาร์กอย่างมาก

โดยเฉพาะวิกฤติราคาน้ำมันครั้งที่ 2 ที่ทำให้ GDP ของเดนมาร์กนั้น ลดลงติดต่อกันถึง 3 ปี ตั้งแต่ปี 1980-1982

ขณะที่เรื่องนี้ ถึงขนาดสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากไม่สามารถใช้เครื่องทำความร้อน (Heater) เพื่อทำให้บ้านอบอุ่นได้

พอเรื่องเป็นแบบนี้ รัฐบาลของเดนมาร์กในสมัยนั้น จึงประกาศว่า “Things would have to change” หรือ หลายสิ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลง

พวกเขาตัดสินใจพึ่งพาพลังงานทดแทน ซึ่ง “พลังงานลม” คือ ทางออกของเรื่องนี้..

โดนรัฐบาลเดนมาร์กมีการสนับสนุนงบประมาณแก่ทีมวิศวกร ในการพัฒนากังหันลมแห่งแรกของประเทศในปี 1979 ต่อมาในปี 1991 เดนมาร์กก็ประสบความสำเร็จในการสร้างกังหันลมนอกชายฝั่งเพื่อผลิตไฟฟ้าแห่งแรกของโลก ในโครงการที่ชื่อว่า Vindeby Offshore Wind Farm

รู้ไหมว่า วันนี้กว่า 40% ของพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตในเดนมาร์กนั้นมาจากพลังงานลม โดยมี 425,000 ครัวเรือนที่ใช้พลังงาน

เรื่องนี้ไม่เพียงแค่ช่วยลดภาระของประเทศ สำหรับค่าใช้จ่ายในการนำเข้าน้ำมัน แต่ยังช่วยลดมลภาวะอันเกิดจากการใช้น้ำมันด้วย

ที่สำคัญ ในช่วงระหว่างปี 1990-2015 ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ของเดนมาร์กลดลงถึง 36%

การเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงานลม ยังช่วยให้เดนมาร์กกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งออกเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม รวมทั้งการผลิตอุปกรณ์สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมรายใหญ่รายหนึ่งของโลก

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ปัจจุบัน เดนมาร์กมีบริษัท Vestas Wind Systems A/S ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตกังหันลมสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก

ในปี 2019 Vestas มีรายได้เท่ากับ 438,000 ล้านบาท กำไร 25,000 ล้านบาท ซึ่งหุ้นของ Vestas ก็จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โคเปนเฮเกน

ปัจจุบัน Vestas มีมูลค่าบริษัท สูงถึง 774,000 ล้านบาท ซึ่งถ้า Vestas อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของไทย จะมีมูลค่าใหญ่เป็นอันดับ 3 เป็นรองเพียง PTT และหุ้น AOT เท่านั้น..
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook -
ลงทุนแมน

Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)
-https://en.wikipedia.org/wiki/Denmark
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)_per_capita
-World Economic Forum, this is how Denmark turned away from fossil fuels to become a renewable energy champion
-https://en.wikipedia.org/wiki/1970s_energy_crisis
-https://data.worldbank.org/country/Denmark
-https://en.wikipedia.org/wiki/Vindeby_Offshore_Wind_Farm
-https://en.wikipedia.org/wiki/Vestas
-https://finance.yahoo.com/quote/VWS.CO/
-https://en.wikipedia.org/wiki/World_energy_consumption

 

ผลออกแล้ว ผู้เกี่ยวข้องกับแรงงานไทยที่ติดเชื้อทั้งหมด 189คน “ไม่พบเชื้อ”

ไม่มีการพบเชื้อติดโควิดกับคนที่เกี่ยวข้องกับแรงงานไทยที่ติดเชื้อ และคนในโรงงานเดียวกันก็ไม่พบเชื้อด้วย ส่วนผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ทางกรมควบคุมโรคได้พยายามตามว่าก่อนหน้านี้14วันได้ไปที่ไหนมาบ้างและจะพยายามตามรอยให้ได้เยอะที่สุด

 

ชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจพร้อมชื่นชม นายอนุกูล นายอำเภอเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา หลังเป็นประธานจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 68 พรรษา และฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่นางรำต้องรำต่อ นายอำเภอจึงนั่งชมกลางสายฝนเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ


.
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000077438
#MGROnline #Hotshare #รำถวายพระพร #ฝนตก
.

 

ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ชี้ การปรากฏตัวของสหรัฐในภูมิภาคเอเชียตะวันตก รังแต่จะสร้างความเสียหายต่อประเทศในภูมิภาคนี้



เราถือว่าประเทศมุสลิมทั้งหมดเป็นพี่น้องของเรา และคนต่างศาสนิกที่ไม่ได้เข้าร่วมในแกนกลุ่มต่อต้านนั้น เราจะปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเมตตาและความยุติธรรม เราถือว่าความเศร้าโศกและความทุกข์ทรมานของชาวมุสลิมนั้นเป็นความทุกข์ของเราเช่นกัน และเราพยายามที่จะเยียวยาและช่วยเหลือพวกเขา
เรามีความห่วงใยและจะช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ที่ถูกกดขี่อย่างต่อเนื่อง เรามีความเห็นอกเห็นใจแล้วต่อชาวเยเมนที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บและมีความกังวลต่อชาวมุสลิมที่ถูกกดขี่ทั่วทุกแห่งหนในโลก คิดว่ามันเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องกล่าวตักเตือนบรรดาผู้นำประเทศมุสลิมบางประเทศ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลผู้ซึ่งแทนที่จะเป็นที่พึ่งพาอาศัยให้กับพี่น้องชาวมุสลิมด้วยกัน พวกเขากลับเข้าไปหลบภัยอยู่ในอ้อมแขนของเหล่าศัตรู และเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวเพียงไม่กี่ชั่วยาม พวกเขายอมอดทนต่อความอัปยศและการบีบบังคับของศัตรูและพวกเขาได้ขายศักดิ์ศรีและความเป็นอิสรภาพของประเทศของตน
เราถือว่า การปรากฏตัวของสหรัฐในภูมิภาคเอเชียตะวันตก นั้น ก่อให้เกิดความเสียหายของประเทศในภูมิภาคนี้ และก่อให้เกิดความไม่มั่นคง การทำลายล้างและความล้าหลังของประเทศต่างๆ ในขณะเดียวกันสถานะที่มั่นคงของเราคือการอยู่เคียงข้างประชาชน และประณามพฤติกรรมที่โหดร้ายของรัฐบาลเหยียดผิวของประเทศนั้น
พฤติกรรมและการปฏิบัติต่อประเทศที่อ่อนแอของอเมริการวมถึงโฉมหน้าที่โหดร้ายในเรื่องนี้ที่แสดงให้เห็น คือพฤติกรรมของตำรวจที่ใช้เข่ากดทับไปที่คอของชายผิวสีที่ไร้ทางสู้ และกดทับเขาจนเสียชีวิต นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของสถานการณ์ที่โหดร้ายครั้งนี้
เราขอเตือนบรรดาผู้ที่ยอมรับการดำรงอยู่ของระบอบการปกครองแบบเผด็จการและกดขี่ยิวไซออนนิสต์และจับมือกันเป็นมิตรทั้งในที่ลับและเปิดเผย และเราขอย้ำเตือนพวกเขาถึงผลที่จะตามมาของพฤติกรรมเช่นนี้
บางช่วงบางตอน สาส์นฮัจญ์ปีนี้ (1441) จากผู้นำสูงสุดอิหร่าน
ข่าวโลกที่3
https://farsi.iranpress.com/iran-i186598

 

ระเบิดรายวัน!!!



เกิดเหตุระเบิดที่โรงงานอุตสาหกรรมในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
แหล่งข่าวรายงานการระเบิดที่โรงงานก๊าซธรรมชาติในรัฐเท็กซัสสหรัฐอเมริกา
ตามรายงานการระเบิดเกิดขึ้นเวลา 16:45 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันพุธ (เช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาเตหะราน) และยังไม่ทราบสาเหตุ
สถานที่เกิดเหตุตามที่มีการกล่าวถึงคือ ในเขตอุตสาหกรรม "Mont Bloiv"ห่างจากเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในเมืองเท็กซัสของฮูสตัน 30 ไมล์
ผู้เห็นเหตุการณ์บางคนอธิบายว่ามีการระเบิดที่รุนแรงและเกิดที่บริษัท Lone Star NGLซึ่งเป็น บริษัท โฮลดิ้งและดำเนินธุรกิจด้านก๊าซอุตสาหกรรม
ข่าวโลกที่3
https://www.farsnews.ir/news/13990509000052/%D8%A7%D9%86%D9%81%D8%AC%D8%A7%D8%B1-%D8%AF%D8%B1-%DB%8C%DA%A9-%D9%85%D8%AC%D9%85%D9%88%D8%B9%D9%87-%D8%B5%D9%86%D8%B9%D8%AA%DB%8C-%D8%AF%D8%B1-%D8%A7%DB%8C%D8%A7%D9%84%D8%AA-%D8%AA%DA%AF%D8%B2%D8%A7%D8%B3-%D8%A2%D9%85%D8%B1%DB%8C%DA%A9%D8%A7

 

สาส์น การซ้อมรบครั้งใหญ่ของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซีย ภายใต้รหัส “ศาสดามุฮัมหมัดผู้ยิ่งใหญ่”
การซ้อมรบครั้งใหญ่ของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซีย ภายใต้รหัส “ศาสดามุฮัมหมัดผู้ยิ่งใหญ่” ครั้งที่14โดยมีการขนอาวุธล้ำสมัยนานาชนิดแสดงแสนยานุภาพทางกองทัพทั้งอาวุธภาคพื้นดิน ทางอากาศและทางเรือ อย่างยิ่งใหญ่...



- สิ่งที่เห็นชัดแบบง่ายๆที่สุดจากสาส์นการซ้อมรบครั้งนี้ คือ การซ้อมรบครั้งนี้ได้โชว์อาวุธประเภทต่าง ๆ ที่ล้ำสมัยที่ผลิตในอิหร่านซึ่งหมายความว่าแม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะประสบความสำเร็จในการขยายการห้ามส่งอาวุธให้กับอิหร่านในฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมา แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะลดความกล้าหาญและแสนยานุภาพทางทหารของอิหร่านและมือที่เหนือกว่าในภูมิภาค
-การทดลองด้วยอาวุธอิหร่านบางอย่างที่ไม่เหมือนใครในโลกเช่น การแสดงศักยภาพในการยิงจรวดออกมาจากใต้ดิน ซึ่งศัตรูไร้ความสามารถในการตระหนักถึงความสามารถของพลังของชนพื้นเมืองในการผลิตอาวุธอิหร่านแบบปัญญาประดิษฐ์
- พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ของการซ้อมรบมีข้อความว่าอิหร่านไม่รู้จักเส้นแดงใด ๆ ในการรักษาอ่าวเปอร์เซียและช่องแคบฮอร์มุซ
- การจำลองเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันและกำหนดเป้าหมายที่ความสำเร็จเป็นการส่งข้อความไปยังกองกำลังต่างชาติที่ประจำการอยู่ในอ่าวเปอร์เซียซึ่งหมายความว่าการรักษาความปลอดภัยของอ่าวเปอร์เซียเป็นเพียงปรากฏการณ์ภายในและในเวลาเดียวกันการรุกรานใด ๆ จะได้รับการจัดการและตอบโต้โดยไม่ต้องพิจารณาใด ๆ
ข่าวโลกที่3
https://fa.alalamtv.net/news/5073206/%D8%B1%D8%B2%D9%85%D8%A7%DB%8C%D8%B4-%D9%BE%DB%8C%D8%A7%D9%85%D8%A8%D8%B1%D8%A7%D8%B9%D8%B8%D9%8514%D8%9B-%D9%BE%DB%8C%D8%A7%D9%85%D9%87%D8%A7

 

ค้นพบอวัยวะของมนุษย์ในที่หลบซ่อนตัวของผู้ก่อการร้ายทางตอนใต้ของ Idlib ประเทศซีเรีย
กองทัพซีเรียพบตู้ภาชนะหลายสิบชิ้นที่บรรจุอวัยวะมนุษย์ในที่ซ่อนตัวของผู้ก่อการร้ายในจังหวัด Idlib ทางตอนใต้ของซีเรีย



กองทัพซีเรียร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ได้ค้นพบอวัยวะมนุษย์จำนวนมากภายในที่ซ่อนตัวของผู้ก่อการร้ายในหมู่บ้าน al-Ghadifa ในพื้นที่ Ma'ra al-Nu'man ทางตอนใต้ของ Idlib ซึ่งอาวัยวะดังกล่าวได้เก็บไว้ในคลอโรฟอร์ม (Cholroform)
สำนักข่าวทางการของซีเรีย (SANA) หลังจากที่เข้าไปบุกค้นในหมู่บ้าน Al-Ghadfa ทางตะวันออกของ Ma'ra al-Nu'man ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกควบคุมโดยกลุ่มก่อการร้ายได้พบภาชนะบรรจุใสจำนวนหลายสิบใบ ซึ่งเป็นที่เก็บอวัยวะของร่างกายมนุษย์รวมถึงดวงตา หัว หัวใจ ปอดตับไต ฯลฯ จะถูกเก็บไว้ในสารละลายคลอโรฟอร์ม
เขียนชื่อเพศชายหรือหญิงลงบนฝาภาชนะดังกล่าว และพบสมุดบันทึกอยู่ในบ้านซึ่งเขียนชื่อคนที่มีสถานะสุขภาพและข้อมูลส่วนบุคคลอีกด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ก่อการร้ายจะทำการลักลอบค้าอวัยวะของมนุษย์ซึ่งมันเป็นวิธีหนึ่งในการหาเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมการก่อการร้าย
ข่าวโลกที่3
https://www.farsnews.ir/news/13990508000959/%DA%A9%D8%B4%D9%81-%D8%A7%D8%B9%D8%B6%D8%A7%DB%8C-%D8%A8%D8%AF%D9%86-%D8%A7%D9%86%D8%B3%D8%A7%D9%86-%D8%AF%D8%B1-%DB%8C%DA%A9-%D9%85%D8%AE%D9%81%DB%8C%DA%AF%D8%A7%D9%87-%D8%AA%D8%B1%D9%88%D8%B1%DB%8C%D8%B3%D8%AA%E2%80%8C%D9%87%D8%A7-%D8%AF%D8%B1-%D8%AC%D9%86%D9%88%D8%A8-%D8%A7%D8%AF%D9%84%D8%A8-%D8%B3%D9%88%D8%B1%DB%8C%D9%87

 

เกิดเหตุระเบิดและไฟไหม้รถไฟขบวนบรรทุกสินค้า ในรัฐอาริโซน่า อเมริกา
آتش‌سوزی در قطار باری آمریکایی به ریزش پل منجر شد
خروج یک قطار باری از ریل به آتش‌سوزی در این قطار و ریزش بخشی از پل دریاچه مصنوعی «تمپ تاون» در ایالت «آریزونا» آمریکا منجر شده است.
@akharinkhabar