ติดตามสถานะการณ์

ถือเป็นโครงการที่เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย เมื่อรัฐบาลสหราชอาณาจักรอนุมัติพร้อมสนับสนุนงบประมาณโครงการ Human Challenge Study ซึ่งเป็นงานวิจัยที่ทำการทดลองนำอาสาสมัครมารับเชื้อโควิดเพื่อศึกษาด้านต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโดยละเอียด
.
สื่อต่างประเทศรายวานว่า งานวิจัยดังกล่าวจะเริ่มต้นขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าโดยอาสาสมัครจำนวน 90 คนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนต้านโรคโควิดจะเดินทางมายังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในลอนดอนเพื่อฉีดละอองไวรัสโคโรนาเข้าไปในจมูก
.
โดยทีมวิจัยจะควบคุมปริมาณไวรัสและเฝ้าติดตามตั้งแต่วินาทีแรกที่รับเชื้อ โดยพวกเขาจะได้ค่าตอบแทนคนละ 4,500 ปอนด์ หรือประมาณ 187,000 บาท
.
เพื่อให้แน่ใจว่าอาสาสมัครจะไม่ป่วยหนักหรือมีอาการรุนแรง ทีมวิจัยจึงได้จำกัดเฉพาะอาสาสมัครในช่วงอายุ 18 ถึง 30 ปีที่มีสุขภาพแข็งแรงเท่านั้น โดยพวกเขาจะต้องถูกแยกตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลา 2 สัปดาห์หลังได้รับเชื้อ
.
ศาสตราจารย์ปีเตอร์ โอเพนชอว์ จาก อิมพิเรียลคอลเลจลอนดอน ซึ่งอยู่เบื้องหลังงานวิจัยนี้เผยว่าเราจะเรียนรู้มากมายเกี่ยวกับการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส และไม่เพียงแต่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคที่เกิดจากการติดเชื้อเท่านั้น แต่ยังเร่งการค้นพบวิธีการรักษาและวัคซีนใหม่ๆ ด้วย
.
ลอว์เรนซ์ ยัง ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสจากโรงเรียนแพทย์วอร์วิคกล่าวว่า นี่เป็นวิธีที่ดีที่จะทำความเข้าใจปฏิสัมพันธ์ของโฮสต์กับเชื้อโรค แม้ว่าจะมาพร้อมกับปัญหาทางจริยธรรมก็ตาม ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังการทดลองมองว่าการทดลองดังกล่าวจะช่วยให้พวกเขาสามารถศึกษาวิธีการรักษาใหม่ๆ ต่อไปได้
.
นักวิทยาศาสตร์หวังว่าหลังจากนี้จะสามารถนำอาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนแล้วเข้าร่วมการทดลองด้วยเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของวัคซีนระหว่างผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วและผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
.
โดยขณะนี้สวนเดียวของการศึกษาที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานกำกับดูแลในสหราชอาณาจักรคือการทดลองเพื่อหาปริมาณของไวรัสที่ต่ำที่สุดที่สามารถแพร่ระบาดสู่มนุษย์
.
อย่างไรก็ตามข้อจำกัดด้านอายุและปริมาณของอาสาสมัครผู้เข้าร่วมการทดลองอาจทำให้ผลการศึกษาไม่ครอบคลุมถึงกลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีอาการป่วยมาก่อน และยังไม่ชัดเจนว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประเมินผลลัพธ์จากการทดลองอย่างไรเมื่อมีข้อจำกัดดังกล่าว
.
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเคยมีการทดลองที่ให้อาสาสมัครสัมผัสกับเชื้อที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น อหิวาตกโรคและไทฟอยด์เพื่อทดสอบวัคซีน แต่โรคเหล่านั้นสามารถหายขาดได้ ขณะที่โรคโควิดยังไม่ทราบถึงผลข้างเคียงของโรคในระยะยาว

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://time.com/5940335/uk-challenge-trial-covid-19/

https://www.cbsnews.com/news/covid-human-challenge-study-united-kingdom/

https://www.posttoday.com/world/645731

-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

19.02.21

ค้นพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในนอร์เวย์ ที่มีความคล้ายคลึงกับ ไวรัสกลายพันธุ์ 2 สาย - สถาบัน FHI กำลังติดตามเรื่องนี้อย่างไก้ลชิด

1.ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีรายงานการค้นพบ ผู้ติดเชื้อ 10 ราย ที่เป็นเชื้อไวรัสตัวสายพันธุ์ใหม่มีชื่อ B.1.525 ใน ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการค้นพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ ใน สหราชอาณาจักร และ เดนมาร์ก ประมาณ 30 ราย และยังพบผู้ติดเชื้อใน สหรัฐอเมริกา อีกด้วย

2.Line Vold ผอ.แผนกโรคติดเชื้อจากสถาบัน FHI กล่าวว่า ขณะนี้เรายังไม่ทราบว่า เชื้อตัวนี้จะแพร่กระจายได้มากน้อยแค่ไหน - อาจมีความเป็นไปได้ แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้

3.ขณะนี้ ประเทศนอร์เวย์ เป็นหนึ่งใน 4 ของประเทศแรกๆในยุโรป รองจากสหราชอาณาจักร / เดนมาร์ก และ ไอซ์แลนด์ ที่ศึกษาวิจัยเพื่อค้นหาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม นอร์เวย์ จึงค้นพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆหลายชนิด โดย FHI ได้เน้นการตรวจสอบ ไวรัสกลายพันธุ์ 2 สายพันธุ์เป็นพิเศษ

4.ไวรัสกลายพันธุ์ของอังกฤษ เป็นส่วนหนึ่งของ วงจรการติดเชื้อในเมืองออสโล ที่ได้แพร่กระจายไปยังเขตเทศบาลอื่นๆ อีกหลายแห่ง จนถึงขณะนี้มี ผู้ติดเชื้อ ไวรัสกลายพันธุ์อังกฤษราว 700 ราย ไวรัสกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ 42 ราย และ นักวิจัยไม่แน่ใจว่าวัคซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อจาก 2 สายพันธุ์นี้ได้หรือไม่ ซึ่งกำลังติดตามผลอยู่ (หลักการฉีดวัคซีนคือ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงของกลุ่มเสี่ยง/สุขภาพอ่อนแอ ในกรณีที่ติดเชื้อค่ะ)

5.Line Vold กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าเป็นการนำเข้าเชื้อหรือไม่ และ FHI จะเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ใหม่ๆ เช่นเดียวกับ การกลายพันธุ์ชนิดอื่นๆ เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของการกลายพันธุ์ชนิดอื่นๆ ในนอร์เวย์ และ ไวรัสสายพันธุ์ใหม่กำลังแพร่กระจายอย่างต่อเนื่องไปทั่วโลก และนี่เป็นการ พัฒนาตามธรรมชาติ ของ ไวรัส ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

..............................

อ่านรวมข่าว & มาตรการโคโรนา ของ ประเทศนอร์เวย์
http://norgetiltak.blogspot.com

อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
https://www.blockdit.com/norwaystyle

อ่าน คำคมข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/norgeutrykk

#นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
.
แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

ผู้ทำข่าวต้นฉบับ :
Åse Marit Befring : Journalist

ข่าวต้นฉบับ NRK :
https://www.nrk.no/norge/en-ny-koronamutant-oppdaget-i-norge-1.15380874

 

ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อ ‘โควิด-19 กลายพันธุ์ตัวใหม่’ มากกว่า 90 ราย
.
หน่วยงานสาธารณสุขญี่ปุ่นเผยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ตัวใหม่ที่แตกต่างจากสายพันธุ์ในอังกฤษและแอฟริกาใต้พุ่งสูงกว่า 90 ราย และยังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นความท้าทายใหม่ที่รัฐบาลญี่ปุ่นต้องเผชิญในการยับยั้งโควิดระลอกที่ 3
.
คัตสึโนบุ คาโตะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ทางการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ ‘E484K’ จำนวน 91 รายในภูมิภาคคันโตทางตะวันออกของประเทศ และอีก 2 รายที่สนามบิน
.
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ยกระดับคำเตือนไวรัสกลายพันธุ์ตัวใหม่ซึ่งอาจต้านทานประสิทธิภาพของวัคซีนที่ญี่ปุ่นเริ่มฉีดให้แก่ประชาชนแล้วในสัปดาห์นี้
.
“ไวรัสกลายพันธุ์ตัวนี้อาจจะแพร่ได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม และหากยังคงมีการระบาดในประเทศ ก็อาจทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่งสูงขึ้นได้” คาโตะ กล่าว
.
สถาบันโรคติดต่อแห่งชาติญี่ปุ่น ระบุว่า เชื้อไวรัสกลายพันธุ์ตัวนี้แตกต่างจากไวรัสกลายพันธุ์ที่พบใน “อังกฤษ” และ “แอฟริกาใต้” แต่เชื่อว่าน่าจะถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศเช่นกัน
.
ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ, แอฟริกา และบราซิลแล้วทั้งสิ้น 151 รายตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศในขณะนี้พุ่งสูงกว่า 421,000 ราย เสียชีวิตแล้ว 7,294 ราย
.
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ 5 คนและชาวต่างชาติอีก 39 คนซึ่งถูกกักตัวอยู่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก
.
โฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองภูมิภาคโตเกียว (Tokyo Regional Immigration Bureau) ยืนยันว่า ชาวต่างชาติทั้ง 130 คนซึ่งถูกกักกันตัวอยู่ที่นั่นผ่านการตรวจคัดกรองโควิด-19 แล้ว โดยผู้ที่ติดเชื้อทุกคนอาการไม่รุนแรง และได้แยกห้องพักกับชาวต่างชาติที่ถูกกักกันตัวคนอื่นๆ
.
อย่างไรก็ตาม โฆษกปฏิเสธที่จะเปิดเผยสัญชาติของกลุ่มคนต่างด้าวที่ติดเชื้อ โดยอ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล
.
ที่มา: รอยเตอร์

 

บอยคอต “โรงสกัด” กดราคาปาล์มร่วง

ปาล์มใต้ เดือด ปลุกกระแสบอยคอต “โรงสกัด” ประกาศลั่นหยุดตัดปาล์ม 7 วัน “ชโยดม” แฉ อธิบดีกรมการค้าภายใน ต้นเหตุกดราคาปาล์มร่วงกว่า 1 บาท/กก. เล็งขับไล่ ขณะ “มนัส” เสียงแตก ราคาระดับนี้เกษตรกรพอใจแล้ว




สุวรรณ อ่องคณา

นายสุวรรณ อ่องคณา ประธานสมาคมปาล์มน้ำมันเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” วันนี้ราคาปาล์มขวด ขนาด 1 ลิตร ผู้ค้าสามารถขายได้ 49 บาท/กิโลกรัม เกือบเต็มเพดาน เพดานที่เปิดสูงจากเดิมขวดละ 42 บาท เป็น 49 บาท แล้วราคาสามารถที่จะเดินไปต่อได้ เพราะมีการประกาศลอยตัวราคาปาล์มขวด

ในเมื่อผู้ค้าปลายสุดของปาล์มสามารถขายได้ราคาสูงสุด ทำไมราคาปาล์มทะลายที่จะต้องตั้งต้นกลับมาถูกกดราคา หมายความว่าเมื่อวันก่อนที่คุณจะกดราคา ราคา 7.50 บาท/กิโลกรัม ก็สามารถขายปาล์มขวดที่ 49 บาท ได้ แต่วันนี้ราคาปาล์มก็ยังขายอยูที่ 49 บาท แต่ราคาวันนี้ปรับลงไป 2 วันติด รวมกัน 1 บาท/กิโลกรัมแล้ว เหลือ 6.50 บาท/กิโลกรัมทำไมเราต้องให้คุณทำกับเราฝ่ายเดียว ทำให้ขาดรายได้ไป 1 บาท/กิโลกรัม ในขณะที่คุณยังกำไรเท่าเดิม

นายสุวรรณ กล่าวว่า ถ้าเราไม่มีปาล์มให้คุณไปหีบ คุณก็จะไม่สามารถไปทำกำไรที่ 49 บาท/ขวดได้ นี่คือความคิดเห็นของเราว่าจำเป็นที่พวกเราจะรวมตัวไม่ส่งปาล์มไปให้โรงสกัดทำกำไร โดยที่เราไม่ได้รับความเป็นธรรม นี่คือประเด็นที่สำคัญ
“ทำไมวันนี้เราต้องโวย เพราะน้ำมันขวดคุณไปขายที่ 49 แล้ว แต่ทำไมจู่มาบอกว่าลดราคาซื้อปาล์มทะลาย ซึ่งเป็นการหากำไรโดยการกดราคาอีก ทำไมเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ไม่ปล่อยให้ระบบเดินไปด้วยกัน เกษตรกรไม่ได้เป็นลูกจ้างคุณเราทำของเราเอง วันนี้โรงสกัดคุยกับเรายากขึ้น”

ในอดีตโรงสกัดมีพื้นที่เช่า ใช้เงินทุนของบริษัท ไม่ต้องเอาปาล์มของเกษตรกร ใช้ปาล์มเช่า ก็ไม่เดือดร้อน แล้วมากดราคาปาล์มของเกษตรกรได้ทุกวัน แต่วันนี้ปาล์มเช่าของคุณไม่มี ก็ต้องอาศัยปาล์มของเกษตรกร ถ้าไม่ตัดก็เป็นของเรา จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่ให้ความเป็นธรรมกับพวกเราในระบบ

“ปาล์มไม่ตัดก็คือปาล์ม โรงไม่หีบ ก็คือ เศษเหล็ก” จะเห็นว่าบริบทเราต่างกัน

สอดคล้องกับนายชโยดม สุวรรณวัฒนะ ประธานชมรมคนปลูกปาล์มน้ำมัน จ.กระบี่ กล่าวถึงสถานการณ์ผลปาล์มผลผลิตเพิ่งเริ่มจะออก ปริมาณยังไม่มาก แต่อธิบดีกรมการค้าภายใน ออกมาพูดให้โรงสกัดกดราคาเกษตรกร ผมมองว่าเป็นอะไรที่ไม่เหมาะสม คำกล่าวที่ว่า “ให้ตรึงราคาปาล์ม” ชี้นำทำไม คุณเป็นข้าราชการจะต้องวางตัวเป็นกลาง ทำไมไปเข้าข้างพ่อค้า

“หากราคาปรับลดลง ตามกลไกตลาดยอมรับได้ ไม่ใช่คุณไปบิดเบือนกลไกตลาด ให้ตรึงราคาปาล์มไม่ให้ราคาแพง เดือนหน้าผลปาล์มจะออกมามากกว่าราคาตกแน่นอน เพราะแค่คำพูดนี้ ราคาปาล์มก็ตกลงมาพรวดเดียว กว่า 1 บาท/กิโลกรัม ก่อนให้ข่าวคุณต้องคิดก่อนพูด แต่ถ้าตาสีตาสาพูดให้ตายก็ไม่เกิดผลหรอก คำพูดนี้ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน”

นายชโยดม กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรงสกัดก็ไม่ได้ให้ราคาเป็นธรรมอยู่แล้ว หากออกมามาก ราคาจะยิ่งแย่กว่านี้ มองว่าโรงหีบ กดราคา เกิดจากอธิบดีออกมาพูด ไม่ชี้นำ แต่พอมาชี้โพรงให้กระรอก ฉวยโอกาสกดราคาทันที ทำตัวเป็นยี่ปั๊วใหญ่ค้าน้ำมันปาล์ม ดับฝันเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่กำลังได้ราคาดี ถ้าเป็นอย่างนี้พวกเราจะไม่ทน จะระดมเกษตรกรออกมาขับไล่ จะไม่ทนอีกต่อไป

อย่างไรก็ดีในวันนี้ เวลา 1 ทุ่มตรง จะมีไลฟ์สดปลุกระดมคนปลูกปาล์ม ทั่วประเทศ บอยคอตโรงหีบกดราคา ไม่ตัดปาล์ม 7 วัน ทั่วไทย

ด้านนายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อปาล์มสุก ถึงเวลา จำเป็นก็ต้องตัดขายโรงสกัด จะไปบอยคอตอะไรในเมื่อราคาผลปาล์มในระดับนี้เกษตรกรก็พอใจ ผู้บริโภครับได้ในราคา 49-50 บาท/กิโลกรัม ราคาจะต้องให้ทุกภาคส่วนอยู่ได้ทุกห่วงโซ่ แต่ถ้าภาครัฐจะนำเข้าผมก็ไม่เห็นด้วย เพราะโครงการช่วยเหลือผู้ส่งออกกิโลกรัมละ 2 บาท เพิ่งเริ่มส่งออก 3-4 เดือน แล้วจู่จะกลับลำมาให้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ ผมว่าภาครัฐไม่กล้าแน่นอน

https://www.thansettakij.com/content/Macro_econ/469354?as=

 

‘อิเหนา’ ขู่ปรับอ่วมกว่า 1 หมื่นบาท พวกปฏิเสธฉีด ‘วัคซีนโควิด-19'
.
กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย เตือนพลเมืองว่าการปฏิเสธฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะมีโทษปรับสูงสุดถึง 5 ล้านรูเปียะห์ หรือประมาณ 10,000 บาท นับเป็นบทลงโทษที่รุนแรงและมุ่งกระตุ้นให้ประชาชนยอมให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการต่อสู้โรคระบาดใหญ่
.
มาตรการที่ว่านี้เป็นไปตามคำสั่งของประธานาธิบดี โจโก วิโดโด ซึ่งประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ใครก็ตามที่ปฏิเสธวัคซีนจะถูกตัดสิทธิ์รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ หรือไม่ก็ต้องเสียค่าปรับ โดยมอบหมายให้หน่วยงานสาธารณสุขหรือฝ่ายบริหารท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการตามความเหมาะสม
.
อะหมัด ริซา ปาเทรีย รองผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำตามกฎ และบทลงโทษดังกล่าวจะเป็นมาตรการสุดท้ายที่ถูกนำมาใช้
.
เมืองหลวงของอินโดนีเซียมีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 สะสมราวๆ 1 ใน 4 จากทั้งหมดกว่า 1.2 ล้านคนทั่วประเทศ
.
“หากท่านไม่ยอมมาฉีดวัคซีน ผลที่จะได้รับมีอยู่ 2 อย่างคือ ไม่ได้รับความช่วยเหลือทางสังคมจากรัฐอีกต่อไป และจะถูกสั่งปรับด้วย” ริซา ให้สัมภาษณ์
.
ประชากรอิเหนาเสียชีวิตจากโควิด-19 ไปแล้วเกือบ 34,000 คน ขณะที่รัฐบาลได้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนเมื่อเดือนที่แล้ว โดยตั้งเป้าสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 ให้แก่ประชากร 181.5 ล้านคน จากทั้งหมด 270 ล้านคน ภายในระยะเวลา 15 เดือน
.
“การตัดสิทธิ์รับความช่วยเหลือถือเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะกระตุ้นให้ประชาชนร่วมมือ” ซีตี นาเดีย ตาร์มิซี เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย ระบุ พร้อมกับย้ำว่า “เป้าหมาย 181.5 ล้านคนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ”
.
ทั้งนี้ พลเมืองอิเหนาบางส่วนยังเคลือบแคลงสงสัยว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 นั้นปลอดภัย, มีประสิทธิภาพ รวมถึง “ฮาลาล” หรือเป็นที่อนุญาตตามหลักศาสนาอิสลามหรือไม่
.
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขหลายคนแสดงความเป็นห่วงว่าความไม่เชื่อมั่นในวัคซีนอาจกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขในจังหวัดชวาตะวันตกซึ่งเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุด รวมถึงจังหวัดนูซาเติงการาตะวันตก บอกกับรอยเตอร์ว่าพวกเขายังไม่มีแผนที่จะใช้บทลงโทษเหล่านี้
.
ผลสำรวจโดยสถาบันวิจัย ไซฟุล มูจานี เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้วพบว่า มีชาวอินโดนีเซียเพียง 37% จาก 1,202 คนที่ตอบแบบสอบถาม “เต็มใจ” เข้ารับวัคซีน ขณะที่ 17% ปฏิเสธการรับวัคซีน และอีก 40% ตอบว่ายังไม่แน่ใจ
.
อุสมาน ฮามิด ผู้อำนวยการองค์การนิรโทษกรรมสากลประจำอินโดนีเซีย ระบุว่า การบังคับฉีดวัคซีนไม่ใช่คำตอบ และยิ่งมีการออกบทลงโทษสำหรับผู้ที่ปฏิเสธด้วยแล้ว ยิ่งถือว่าเข้าข่าย “ละเมิดสิทธิมนุษยชน”
.
ที่มา: รอยเตอร์

 

วัฒนธรรมที่สูญหายจากแผ่นดินมังกร สู่การสืบทอดด้วยใจรักของชาวไทยเชื้อสายจีนไหหลำ ณ ดินแดนปากน้ำโพ

#ไทยคำจีนคำ #ปากน้ำโพ #นครสวรรค์ #การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย #ททท #239สวรรค์ใกล้กรุง #ไหหลำ #ไหหนำ #海南人 #ชาวไทยเชื้อสายจีน #ท่องเที่ยว #สืบสาน #วัฒนธรรม #ประเพณี

 

ปุ่มตกใจกลุ่มนั้นอยู่ที่ไหน เรามีเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นในอาร์กติกและฉันต้องการรับความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญของเรา การแช่แข็งในฤดูหนาวทำได้ค่อนข้างดีในช่วง 30 วันที่ผ่านมา แต่ตอนนี้โพลาร์วอร์เท็กซ์ได้ดูดความกดอากาศต่ำขนาดใหญ่เข้าสู่ทะเลกรีนแลนด์ ทำให้อากาศอุ่นและชื้น ขึ้นไปที่ขั้วโลกเหนือ แพ็คน้ำแข็งไม่เพียง แต่จะละลาย แต่ส่วนต่ำจะฉีกชั้นบาง ๆ หนา <1 ม. เมื่อเหลือเวลาอีกหนึ่งเดือนก่อนที่เราจะถึงจุดสูงสุดของ refreeze เหตุการณ์นี้มีศักยภาพที่จะเริ่มต้นฤดูกาลหลอมละลายได้เร็วขึ้น Sam Carana พวกเรากำลังดูงาน Blue Ocean ของเราหรือไม่?

 

คลิป ภูเขาไฟเอตนาในอิตาลี เกิดปะทุหนักพ่นเถ้าถ่านและลาวาขึ้นสูงกว่า 1 กิโลเมตร
Cr. Massimiliano Salfi เมื่อ 16/02/2021

 

#แผ่นดินไหว ในวันนี้ (19 ก.พ.) เวลาประมาณ 18:11 น. ตามเวลาในประเทศญี่ปุ่น เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดแรง M 3.9 // วัดแรงสั่นสะเทือนได้สูงสุด 4 ตามมาตราวัดญี่ปุ่น // มีจุดศูนย์กลางที่ในแผ่นดิน ทางตอนเหนือของจ. อิวาเตะ ความลึก 10 กม.

ไม่มีสึนามิ

✒️ตื้นค่ะ ดังนั้นน่าจะอยู่ในวงแคบ ๆ

✒️อันนี้เป็นตัวอย่างของแผ่นดินไหวที่แมกนิจูด ต่ำกว่า แรงสั่นตามมาตราญี่ปุ่นนะคะ (วัดคนละแบบ) แบบญี่ปุ่นจะวัดถึงความสั่นที่ส่งผลกระทบต่อเรา

✒️ที่เพจจะอัพเฉพาะเกิน 4 ตามมาตราวัดญี่ปุ่นนะคะ 
ภาพ Nerv防災 / Yahoo! Japan

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น 

 

ชั้นดินเยือกแข็งคงตัว : ระเบิดเวลาใต้แผ่นดินอาร์กติก
NGThai
24 ต.ค. 2019

ชั้นดินเยือกแข็งคงตัว: ระเบิดเวลาใต้แผ่นดินอาร์กติก
เซียร์เกย์ ซีมอฟ นักนิเวศวิทยา นั่งยองๆ อยู่ในแอ่งโคลนเลียบแม่น้ำโคลีมาอันกว้างใหญ่และเย็นเยียบ ใต้ผาชันที่มีดินร่วยซุย ไซบีเรียตะวันออกในยามนี้เป็นฤดูร้อน และอยู่ห่างจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลขึ้นมาไกลโข แม้จะไม่มีน้ำค้างแข็งหรือหิมะให้เห็นสักนิด ทว่าหน้าผาชื่อดูวานนียาร์แห่งนี้ก็ถูกแม่น้ำโคลีมากัดเซาะและเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่เบื้องล่าง เป็นพื้นดินแช่แข็งที่เรียกว่า ชั้นดินเยือกแข็งคงตัว หรือเพอร์มาฟรอสต์ (permafrost) อยู่ลึกลงไปหลายร้อยเมตรและกำลังอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังเปลี่ยนโฉมหน้าโลก ทั่วพื้นที่ทั้ง 23 ล้านตารางกิโลเมตรของจุดเหนือสุดของโลกแห่งนี้ ชั้นดินเยือกแข็งของอาร์กติกไม่ได้ละลายทีละน้อยอย่างที่นักวิทยาศาสตร์เคยทำนายไว้ ในทางภูมิศาสตร์ อาร์กติกกำลังหลอมละลายชนิดชั่วข้ามคืน และยังปลดปล่อยคาร์บอนมหาศาลที่ถูกกักเก็บอยู่ใต้ดินเยือกแข็งนานนับพันปีออกมา เมื่อก๊าซเข้าสู่บรรยากาศในรูปมีเทนหรือคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนจะเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเร็วขึ้น

ถ้าเราไม่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลลง ภายในไม่กี่สิบปีข้างหน้า ชั้นดินเยือกแข็งจะกลายเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกขนาดใหญ่พอๆ กับจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนสูงสุดของโลก ในปัจจุบัน คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือไอพีซีซี (Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC) เพิ่งรวมชั้นดินเยือกแข็งคงตัวไว้ในแผนงาน


ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า สัตว์กินหญ้าขนาดใหญ่ช่วยรักษาทุ่งหญ้าอาร์กติกไว้ได้ในยุคน้ำแข็ง เพราะช่วยให้ปุ๋ยแก่หญ้า พวกเขาหวังว่าจะนำทุ่งหญ้า สเตปป์กลับสู่อาร์กติกเพื่อชะลอการละลายของชั้นดินเยือกแข็งคงตัว โดยการนำม้าป่าและสัตว์กินหญ้าอื่นๆ มาปล่อยในพื้นที่อีกครั้ง
ในทางภูมิศาสตร์ อาร์กติกกำลังหลอมละลายชนิดชั่วข้ามคืน และยังปลดปล่อยคาร์บอนมหาศาลที่ถูกกักเก็บอยู่ใต้ดินเยือกแข็งนานนับพันปีออกมา เมื่อก๊าซเข้าสู่บรรยากาศในรูปมีเทนหรือคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนจะเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเร็วขึ้น

Advertisement

ชั้นดินเยือกแข็งคงตัว หรือพื้นดินที่แช่แข็งอยู่ตลอดทั้งปี มีดินและเศษพืชทับถมหนาได้ถึงสี่เมตร ชั้นที่เรียกว่า ช่วงชั้นดินเคลื่อน ที่ (active layer) เป็นดินที่ตามปกติจะละลายในทุกฤดูร้อนและจับตัวแข็งอีกครั้งในฤดูหนาวเพื่อปกป้องชั้นดินเยือกแข็งจากความร้อนที่เพิ่มขึ้นบนพื้นผิว

ทั่วโลกชั้นดินเยือกแข็งคงตัวกักเก็บคาร์บอนไว้ถึง 1,600 กิกะตัน หรือสูงกว่าที่อยู่ในบรรยากาศถึงสองเท่า ไม่มีใครคาดว่า ชั้นดินเยือกแข็งทั้งหมดหรือส่วนใหญ่นั้นจะละลายลง แต่เมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยเชื่อว่า ชั้นดินเยือกแข็งคงตัวจะเสียคาร์บอนไปมากสุดร้อยละ 10 ถึงอย่างนั้น มันก็น่าจะใช้เวลานานถึง 80 ปี

แต่เมื่อช่วงชั้นดินเคลื่อนที่หยุดแข็งตัวในฤดูหนาวเพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทุกอย่างก็จะยิ่งเกิดเร็วขึ้น ความอบอุ่นที่เพิ่มขึ้นทำให้จุลินทรีย์ยิ่งเขมือบอินทรีย์วัตถุในดิน แล้วปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ หรือมีเทนตลอดทั้งปี แทนที่จะเป็นเช่นนั้นในช่วงฤดูร้อนเพียงสองสามเดือน และเมื่อความอุ่นของฤดูหนาวแผ่ไปถึงชั้นดินเยือกแข็ง การละลายจะเร็วยิ่งขึ้น

ชั้นดินเยือกแข็งคงตัวมีอะไรซ่อนอยู่อีกมากที่ตามองไม่เห็น นักวิทยาศาสตร์ศึกษาแต่เพียงพื้นที่เล็กๆ ติดตามบริเวณอื่นๆจากทางไกล แล้วอนุมานเกี่ยวกับส่วนที่เหลือเอา ต่างจากน้ำแข็งทะเลอาร์กติกที่ตรวจวัดทั้งหมดได้จากดาวเทียม “เราเข้าอินเทอร์เน็ตและตามรอยได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้ำแข็งทะเล” ผู้เชี่ยวชาญด้านชั้นดินเยือกแข็งคนหนึ่ง บอกและเสริมว่า “แต่กับชั้นดินเยือกแข็ง เราดูไม่ออกเลย แทบไม่มีเครื่องมือพอให้ตรวจวัดได้เลยว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่”


แอ่งบาตาไกกาในไซบีเรียตะวันออกกว้างเกือบหนึ่งกิโลเมตรและยังขยายออกเรื่อยๆ เป็นหนึ่งในแอ่งขนาดใหญ่ที่สุดหลายแห่งในอาร์กติก เมื่อชั้นดินเยือกแข็งคงตัวละลาย ดินจะทรุดตัวลง ทำให้เกิดแอ่งและทะเลสาบขึ้น



มีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจกชนิดหนึ่ง ผุดจากพื้นดินที่กำลังละลายใต้ทะเลสาบทั่วอาร์กติก ในฤดูหนาว น้ำแข็งบนพื้นผิวจะกักเก็บก๊าซนี้ไว้ ที่บึงแห่งนี้ใกล้แฟร์แบงก์สในอะแลสกา นักวิทยาศาสตร์เจาะน้ำแข็งและจุดไฟเผามีเทนที่รั่วซึมออกมา
ในเดือนตุลาคม ปี 2018 ไอพีซีซีเปิดเผยรายงานใหม่เป็นแผนลดอุณหภูมิโลกให้ได้สององศาเซลเซียส อันมาจากการประชุมที่ปารีสในปี 2015 นับแต่ศตวรรษที่สิบเก้าเป็นต้นมา โลกเราร้อนขึ้นไปแล้วหนึ่งองศาเซสเซียส รายงานระบุว่า การลดภาวะโลกร้อนให้ได้ 1.5 องศาเซลเซียส แทนที่จะเป็นสององศา จะช่วยลดจำนวนผู้เผชิญกับคลื่นความร้อนสุดขั้วที่จะเกิดบ่อยครั้งได้ 420 ล้านคน และจะช่วยลดจำนวนพืชและสัตว์ที่ต้องสูญเสียถิ่นอาศัยได้ครึ่งหนึ่ง ทั้งยังอาจช่วยชั้นดินเยือกแข็งอีก 2,000,000 ตารางกิโลเมตรไม่ให้ละลายด้วย แต่การบรรลุเป้า 1.5 องศาเซลเซียสให้ได้นั้น ไอพีซีซีระบุว่า โลกจะต้องลดก๊าซเรือนกระจกลงอย่างน้อยร้อยละ 45 ภายในปี 2030 และต้องยุติการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดภายในปี 2050 ทั้งยังต้องพัฒนาเทคโนโลยีที่จะดูดก๊าซเรือนกระจกปริมาณมหาศาลออกจากบรรยากาศให้ได้อีกด้วย

เรื่อง เครก เวลช์

ภาพถ่าย เคที ออร์ลินสกี

*อ่านสารคดีฉบับเต็มได้ใน นิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย เดือนกันยายน 2562


https://ngthai.com/environment/25530/arctic-permafrost/

 

วันนี้ประธานาธิบดีมุนแจอินได้มีโอกาสไปเยี่ยมบริษัทผลิตหัวฉีดวัคซีนแห่งหนึ่งในกุนซานชี, จอนบุก (전북, 군산) โดยมีเยี่ยมชมการผลิตหลอดฉีดยา LDS (Low Dead Space) และได้แวะทักทายเพื่อกระตุ้นให้กำลังใจต่อพนักงานสายผลิต

เข็มฉีดยาตัวนี้มีความพิเศษไม่เหมือนกับเข็มฉีดยาทั่วไปที่ดูดฉีดวัคซีนปริมาณต่อ 5 คนได้ต่อขวด แต่เข็มฉีดแบบ LDS สามารถดูดวัคซีนขึ้นมาฉีดวัคซีนให้ได้ถึง 6 คนต่อขวด ซึ่งกลายเป็นการเพิ่มปริมาณวัคซีนได้ดีอีกด้วย

ปธน.มุนแจอินกล่าว
"ก่อนหน้านี้ก็มีการคิดค้นชุดตรวจวินิจฉัยหาเชื้อ COVID-19 แล้ว ตอนนี้เรากำลังแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของการกักกันโรคสไตล์ K-quarantine อีกครั้ง"

"การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด -19 ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 26 ก. พ. นี้จะนำไปสู่ความสำเร็จอย่างแน่นอน"

ทำเนียบประธานาธิบดีอธิบายว่าเข็มฉีดยา LDS ที่ผลิตโดยบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางของเกาหลีเริ่มได้รับออเดอร์จาก 20 ประเทศทั่วโลก รวมถึงได้รับการรับรองจาก FDA ของสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 22:30 น. เกิดเหตุไฟไหม้ป่าบนภูเขาในซาชอนรี, ยังยางอึบ, ยังยางกุน, จังหวัดคังวอนโด (강원도 양양군 양양읍 사천리) ไฟลามเผาป่าไปกว่า 6.5 เฮกตาร์ก่อนจะดับลงใน 6 ชั่วโมงให้หลัง

ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์รายงานว่า ไฟป่าเริ่มเมื่อเวลาประมาณ 22:17 น. จากโกดังในซาชอนรีด่อนจะกระจายไปตามแรงลมไปยังเนินเขาบริเวณใกล้เคียง

เจ้าหน้าที่เค้าควบคุมเพลิงไหม้ได้แล้ว เมื่อเวลา 04:15 น. โดยใช้รถสูบน้ำกว่า 60 คัน รวมทั้งอุปกรณ์และบุคลากร 1,028 คน

ไฟไหม้ทำให้ชาวบ้าน 84 คน ต้องอพยพไปที่ศาลากลางของหมู่บ้าน แต่ตอนนี้ส่วนใหญ่ได้กลับบ้านแล้วและยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ข้างต้น

 

Feb 19 , 2021 หัวเว่ยเล็งเปิดตัว AI สำหรับใช้ในฟาร์มหมู เพื่อทดแทนรายได้จากยอดขายสมาร์ทโฟนที่ลดลง
.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าบริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยี ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมและผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของจีนกำลังเปิดตัวโครงการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI สำหรับใช้ในฟาร์มหมูเพื่อมองหารายได้แหล่งอื่นๆ หลังยอดขายสมาร์ทโฟนลดลงภายใต้มาตรการคว่ำบาตรทางการค้าของสหรัฐ
.
เนื่องจากจีนมีอุตสาหกรรมฟาร์มหมูที่ใหญ่ที่สุดในโลก และหมูในประเทศจีนคิดเป็นถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนหมูทั้งโลก หัวเว่ยจึงหันมาผลิตเทคโนโลยีเพื่อช่วยปรับปรุงฟาร์มหมูให้ทันสมัย เช่น การนำ AI มาใช้ในการตรวจหาโรค ติดตามและจดจำใบหน้าหมู รวมถึงการตรวจสอบน้ำหนัก อาหาร และการออกกำลังกาย
.
โดยยอดขายสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยลดลง 42% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 ท่ามกลางปัญหาไมโครชิปที่มีอยู่อย่างจำกัด นอกจากนี้ยังถูกปิดกั้นการพัฒนา 5G ในหลายประเทศรวมถึงสหราชอาณาจักรท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ
.
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าหัวเว่ยจะลดการผลิตสมาร์ทโฟนลงถึง 60% ในปีนี้ หัวเว่ยจึงต้องมองหาแหล่งรายได้อื่นโดยหันไปสู่บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง ยานพาหนะอัจฉริยะ และเทคโนโลยีสวมใส่ ตลอดจนมีแผยที่จะสร้างรถยนต์อัจฉริยะด้วย
.
โดยเหริน เจิ้งเฟย ประธานกรรมการบริหารของหัวเว่ย กล่าวว่ายังสามารถอยู่รอดได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการจำหน่ายสมาร์ทโฟน ขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น เจดีดอทคอม เน็ตอีส และอาลีบาบาก็กำลังพยายามที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าสู่อุตสาหกรรมฟาร์มหมูเช่นเดียวกัน
.
#Huawei #AI #หมู #Misterban

 

Feb 19 , 2021 ศาลแขวงพระนครใต้ พิพากษาจำคุกดีเจมะตูม 2 เดือน ปรับ 20,000 บาท ละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จัดเลี้ยงฉลองวันเกิดฝ่าฝืนมาตรการคุมโควิด-19 รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 เดือน และปรับ 10,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี
.
ศาลแขวงพระนครใต้ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีศาลแขวง 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องด้วยวาจานายเตชินท์ พลอยเพชร หรือดีเจมะตูม อายุ 31 ปี ในฐานความผิดพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 4,5,7,9,18,19 และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ลงวันที่ 25 มี.ค. พ.ศ.2563 ประกาศเรื่องการขยายระยะเวลาการกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาญาจักร (คราวที่1) ลงวันที่ 28 เม.ย. พ.ศ. 2563 ,ประกาศฯ(คราวที่2) ลงวันที่ 26 พ.ค. พ.ศ.2563
.
ประกาศฯ(คราวที่3) ลงวันที่ 30 มิ.ย. พ.ศ.2563 , ประกาศฯ(คราวที่4) ลงวันที่ 29 ก.ค. พ.ศ.2563 , ประกาศฯ (คราวที่5) ลงวันที่ 28 ส.ค.พ.ศ.2563,ประกาศฯ(คราวที่6) ลงวันที่ 29 ก.ย. พ.ศ.2563 ประกาศฯ(คราวที่7) ลงวันที่ 28 ต.ค. พ.ศ.2563
ประกาศฯ (คราวที่8) ลงวันที่ 23 พ.ย. พ.ศ.2563 , ประกาศเรื่องการให้ข้อกำหนด ประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ ลงวันที่ 28 เม.ย. พ.ศ.2563 ,ข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (ฉบับที่ 15 ) ลงวันที่ 25 ธ.ค. พ.ศ.2563 ข้อ1 และ ข้อ 3
.
โดยอัยการยื่นฟ้องด้วยวาจาสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 9 ม.ค.64 เวลากลางคืน ถึง 10 ม.ค. 64 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน ซึ่งอยู่ในช่วงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรและประกาศดังกล่าวยังมีผลใช้บังคับอยู่ จำเลยกับนายพรศักดิ์ อัจฉริยะประดิษฐ์ ,นายจารุกิตติ์ ศรีสวัสดิ์ ,นายกิตติ์ธเนศ บุญยชัยธนรัตน์ , น.ส.ชุติมา สินวิโรจน์ ,นายกษิภัท ถิระวรรณธร กับน.ส.จิราภรณ์ มหาวัตรและพวกอีก 27 คน ซึ่งหลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันกินเลี้ยงฉลองวันเกิดของจำเลย ที่บริเวณห้องพัก โรงแรมบันยันทรี ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม.
อันเป็นการรวมกลุ่มกันของคนจำนวนมากถึง 34 คน ในห้องพักซึ่งเป็นห้องที่ปิดมิดชิด ทั้งยังมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งทำให้การควบคุมสติลดลง จนไม่มีการรักษาระยะห่างระหว่างกัน และไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย อันเป็นการร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกันในสถานที่แออัดในเขตพื้นที่ที่ได้มีการประกาศกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉินอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ต่อมาวันที่ 19 ก.พ. จำเลยเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ
.
อย่างไรก็ตาม จำเลยกระทำโดยรู้สำนึกในการกระทำ แต่ขาดความรับผิดชอบต่อส่วนรวมในการป้องกันและควบคุมมิให้โรคระบาดแพร่ออกไปในวงกว้างซึ่งหลังจากงานเลี้ยงวันเกิดของจำเลยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งสิ้น 9 คน รวมทั้งตัวจำเลยด้วย แต่คณะผู้สอบสวนโรค สำนักอนามัย ไม่ได้เปิดเผยชื่อผู้ติดเชื้อทั้งหมด เนื่องจากเป็นความลับตามกฏหมาย จึงขอให้ศาลลงโทษจำเลยสถานหนักเพื่อให้เข็ดหลาบ
.
ในชั้นสอบสวนจำเลยให้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนเริ่มพิจารณา ศาลได้สอบถามจำเลยเรื่องทนายความ จำเลยไม่มีและไม่ต้องการทนายความ จึงอ่านอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังและได้ดำเนินกระบวนการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โดยอธิบายสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ตลอดจนแนวทางทางในการบรรเทาความเสียหายแก่ผู้เสียหาย (ถ้ามี) ให้จำเลยทราบแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
.
จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯพ.ศ.2548 มาตรา 9,18 ประกอบมาตรา 83 จำคุก 2 เดือน ปรับ 20,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 เดือน และปรับ 10,000 บาท
.
แต่ไม่ปรากฎว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลย โดยจำเลยต้องมารายตัวต่อเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้งในกำหนด 1 ปี และห้ามมิให้จำเลยร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรม หรือมั่วสุมในสถานที่แออัดในลักษณะเช่นเดียวกับการกระทำความผิดในคดีนี้ ภายในกำหนด 3 เดือน
.
#ศาล #สั่งปรับ #จำคุก #ดีเจมะตูม #Covid #Misterban #โควิด

 

Feb 19 , 2021 บางจากขาดทุนปี 63 กว่า 6,900 ล้านบาท จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19
.
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานปี 2563 บางจากขาดทุนสุทธิ 6,967.07 ล้านบาท หรือขาดทุน -5.5% บาทต่อหุ้น ลดลง 502% จากปีก่อนมีกำไร 1,731.57 ล้านบาท หรือ 1.18 บาทต่อหุ้น ตามรายได้จากการขายและการให้บริการที่ลดลง 28% อยู่ที่ 136,450 ล้านบาท
.
ทั้งนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงมากจนถึงระดับที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงจากการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วโลกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
.
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยกดดันจากสงครามราคาน้ำมันของผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ระหว่างซาอุดีอาระเบีย กับ รัสเซีย ทำให้ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปปรับลดลงอย่างมาก โดยราคาน้ำมันดิบปี 2563 เฉลี่ยต่ำกว่าปี 2562 กว่า 30% ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันได้รับผลกระทบมากที่สุด
.
แม้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 เศรษฐกิจจะเริ่มมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศฟื้นตัวต่อเนื่องจากมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ความผันผวนของราคาน้ำมันและการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลก รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่งผลกระทบหนักสุดต่อธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2563
.
แต่จากการปรับโครงสร้างการลงทุน ใช้เครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสมในการบริหารจัดการ พร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปี 2564 ทำให้มีกระแสเงินสด ณ สิ้นปี 2563 ที่ 21,651 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ประเมินว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นหลังจากที่ประเทศไทยกำลังจะได้รับวัคซีนป้องกัน ถือเป็นปัจจัยบวกต่อการดำเนินธุรกิจของบางจาก หลังจากปรับโครงสร้าง เสริมสภาพคล่องให้แข็งแรง
.
#บางจาก #ผลประกอบการ #Misterban

 

Feb 19 , 2021 CPN รายงานผลประกอบการปี 63 มีกำไรสุทธิ 9,557 ล้านบาท ลดลง 19% จากปีก่อน
.
น.ส.นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)หรือ CPN เปิดเผยว่า ปี 2563 เป็นปีที่ท้าทายในการทำธุรกิจ เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่กระทบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเป็นวงกว้าง โดยบริษัทมีรายได้รวม 32,062 ล้านบาท ลดลง 17% และมีกำไรสุทธิ 9,557 ล้านบาท ลดลง 19% จากปีก่อน แม้ว่าผลการดำเนินงานจะมีรายการที่มิได้เกิดขึ้นเป็นประจำและผลกระทบจากมาตรฐานรายงานทางการเงินใหม่ แต่ในภาพรวมนั้นบริษัทได้บริหารจัดการอย่างสุดความสามารถ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจาก COVID-19 และดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือร้านค้าและผู้เช่าภายในศูนย์การค้า เพื่อร่วมกันเดินหน้าเศรษฐกิจของประเทศในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา
.
ขณะเดียวกันยังร่วมมือภาครัฐอย่างเต็มที่ในการเปิด-ปิดให้บริการศูนย์การค้าชั่วคราวเพื่อช่วยลดการแพร่ระบาด โดยศูนย์การค้าได้กลับมาเปิดให้บริการทุกแห่งตามปกติ ตั้งแต่ช่วงกลางไตรมาส 2 ปี 2563 เป็นต้นมา โดยบริษัทฯ เป็นผู้นำในการสร้างแผนแม่บทมาตรการเชิงรุกระดับปรระเทศ “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” อย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของทุกคนทั้ง พนักงาน ลูกค้า ซึ่งมาตรการสะอาดปลอดภัยเชิงรุกดังกล่าว สามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า ส่งผลให้จำนวนทราฟฟิกในสาขาส่วนใหญ่ฟื้นตัวได้ค่อนข้างเร็วและกลับมามากกว่า 90% จากช่วงสถานการณ์ปกติ แม้ว่าจะเกิดการระบาดของโควิด 19 ระลอกที่สองในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม 2563 และช่วงเดือนมกราคม 2564 แต่โดยรวมแล้วผลกระทบถือว่าไม่มากเท่าการระบาดรอบแรก และปัจจุบันเริ่มเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้นในหลายศูนย์การค้า
.
#CPN #เซ็นทรัล #Covid #โควิด #Misterban

 

Amazing India การลดลงของ คนไข้ COVID-19 ในอินเดีย
โดย นายแพทย์ ยงค์ศักดิ์ เลียงอุดม
Published 19/02/21

อินเดียประเทศใหญ่มีประชากร 1.3 พันล้านคน และอยู่กันหนาแน่น และมีสุขอนามัยที่ไม่ดี ทำให้การระบาดของ COVID-19 เป็นลำดับสองของโลก มีคนติดเชื้อ COVID-19 แล้ว 11 ล้านคน เสียชีวิตแล้ว 150,000 คน

ตัวเลขที่แท้จริงมากกว่านี้ จากการตรวจ antibody screening test ของกระทรวงสาธารณสุขอินเดียพบว่า คนอินเดียหนึ่งในห้าคนอาจติดเชื้อ COVID-19 แล้ว คิดเป็น 270 ล้านคน

แต่สิ่งที่แน่แปลกใจคือในขณะนี้จำนวนคนติดเชื้อ COVID-19 ลดลงอย่างมากในอินเดีย จากที่เคยมีผู้ติดเชื้อ 110,000 คนต่อวันเป็น 10,000 คนต่อวัน

ซึ่งคงจะไม่ใช้ผลจากการฉีดวัคซีนเหมือนที่อังกฤษและ อเมริกาซึ่งการลดลงของคนติดเชื้อ COVID-19 อธิบายได้จากการให้วัคซีน เพราะอินเดียเพิ่งเริ่มการฉีดวัคซีนให้ประชาชน

อะไรเป็นคำอธิบายสำหรับการลดลงของคนติดเชื้อ COVID-19 ในอินเดีย

สิ่งที่น่าจะอธิบายได้ก็คือ ในขณะนี้หลายๆชุมนุมใหญ่ๆในอินเดียมีคนติดเชื้อ COVID-19 จำนวนมากพอที่จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ herd immunity แล้ว

Herd immunity ซึ่งประเทศเล็กๆประชาชน 10 ล้านคน อย่าง Sweden ซึ่งมีระบบการแพทย์ที่ดีพยายามจะทำ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่อินเดียอาจทำได้ในหลายๆชุมชน เช่นสลัมในเมืองมุมไบ

มีคำอธิบายอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อินเดียจำนวนคนติดเชื้อ COVID-19 ลดลง ก็อาจมาจากการมีภูมิคุ้มกันข้ามสายพันธุ์ cross immunity เนื่องจากอินเดียมีสุขอนามัยที่ไม่ดี ทำให้มีโรคที่เกิดจาก Coronavirus อื่นๆจำนวนมาก จึงทำให้เกิดภูมิคุ้มกันข้ามสายพันธุ์ และการที่อินเดียมีโรคระบาด วัณโรค ไทฟอยด์ อหิวาต์ ทำให้คนอินเดียส่วนหนึ่งสร้างภูมิคุ้มกันที่แข้งแรงต่อ COVID-19

นักวิทยาศาสตร์จาก Oxford ซึ่งเคยทำงานอยู่ในเวียดนามถึง18ปี ได้อธิบายถึงภูมิคุ้มกันข้ามสายพันธุ์ในดินแดนอินโดจีน เวียดนามมีประชาชน 100ล้านคน มีดินแดนติดตอนใต้ของจีน แต่มีการระบาด Covid 19 ที่ไม่รุนแรง สิ่งที่น่าจะอธิบายได้ปัจจัยหนึ่งนอกจากการควบคุมดูได้ดีแล้วก็คือประชาชนเหล่านี้ เช่นเดียวกันกับประชาชนตอนใต้ของจีน มีภูมิคุ้มกันต่อ Covid 19 อยู่ในตัวอยู่แล้ว จาก cross immunity

ระบบภูมิคุ้มกันนี้เกิดได้อย่างไร มี Sars like virus อีกนับ 100 ชนิดที่เป็นญาติกับ Covid 19 ซึ่งอาจมีญาติใกล้ชิดมากๆ คือ sequence ของ genome ที่เหมือน Covid 19มาก อาจทำให้ประชาชนเหล่านี้รับเชื้อโดยข้ามสายพันธุ์มาจากค้างคาวหลากหลาย ที่มีอยู่ในอินโดจีนเเละตอนใต้ของจีน ไวรัสลึกลับตัวนี้ก็อาจอยู่ในคนเหล่านี้โดยไม่มีอาการ

อินเดียมีปัจจัยที่ดีกว่ายุโรปและอเมริกาก็คือสัดส่วนของประชากรหนุ่มสาวจะมีมากกว่า และคนสูงอายุมีสัดส่วนน้อยกว่า อายุเป็นปัจจัยสำคัญในการติดเชื้อ COVID-19 และความรุนแรงของการป่วยจาก COVID-19

แต่อินเดียและประเทศในเอเชียใต้จะมีปัจจัยทางกรรมพันธุ์ที่ทำให้เสียชีวิตได้ง่ายกว่า ซึ่งแม้แต่คนอินเดียที่อังกฤษเมื่อป่วยหนักจาก COVID-19 จะมีโอกาสตายมากกว่าคนยุโรป

สิ่งที่น่าสังเกตก็คืออินเดียถึงแม้จะมีคนติดเชื้อ COVID-19 เป็นจำนวนมากแต่ไม่มีข่าวเรื่องการกลายพันธ์ที่สำคัญเหมือนในอังกฤษ South Afarica หรือ บราซิล

การกลายพันธ์คงต้องมีในอินเดีย แต่สาเหตุที่ไม่มีการกลายพันธ์ที่สำคัญก็อาจจากการที่อินเดียไม่มีผู้ป่วย COVID-19 อาการเรื้อรัง อาการหนักที่มีภูมิคุ้มกันตำ่ นอนอยู่ใน ICU นานๆเหมือนในอังกฤษ ซึ่งเป็นสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการกลายพันธุ์ที่สำคัญ

แต่อย่างไรก็ตามถ้ามีการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ South Afarica มาที่อินเดีย และควบคุมไม่ได้ อินเดียอาจจะต้องกลับมาเผชิญปัญหาหนักเหมือนเดิม

รัฐบาลก็ตระหนักถึงภัยของไวรัสกลายพันธุ์ จึงบังคับให้มีการตรวจ sequencing gene ของคนที่ตรวจพบว่าติดเชื้อ COVID-19 ที่มาจาก อังกฤษ South Afarica และ บราซิล

เมื่อ 100 ปีที่แล้ว ทหารอินเดียกลับจากยุโรปนำ Spanish flu มาระบาดที่อินเดีย ในยุคที่ไม่มีวัคซีน ไม่มีการสื่อสารที่ดี การแพทย์ที่ล้าหลัง คนอินเดียตายไป 18 ล้านคน ก็เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ herd immunity โรคระบาดก็สงบ

การระบาดเริ่มที่เมืองท่า Bombay หรือ mombai เมืองที่มีประชาชนหนาแน่นที่สุด การระบาดครั้งนั้น คนอินเดีย 6% จำนวน 18 ล้านคนตาย ทุกบ้านใน Bombay มีคนป่วย ด้วยเหตุที่ประชาชนอยู่ หนาแน่น การแพทย์และสุขอนามัยไม่ดี เจ้าอาณานิคมชาวอังกฤษไม่สนใจดูแลคนอินเดีย คนตายใน Bombay นอนกองเป็นพเนิน ฟืนมีไม่พอจะเผาศพ

การระบาดเรื่มต้นในเดือน มิถุนายน 1918 ถึงต้นเดือน กรกฎาคม 1918 คนตายวันละ 230 คน ซึ่งเป็น 3 เท่าของคนตายในแต่ละวันในช่วงแรก เมื่อเทียบกับจำนวนคนตายในปลายเดือน มิถุนายน1918

จำนวนคนป่วยในอินเดียในปี 1919 มีมากกว่าประชาชนในยุโรปทั้งหมดรวมกัน

ในยุคสมัยปัจจุบัน การระบาดของ COVID-19 ในอินเดียก็รุนแรง แต่คนตายไป 150,000 คน อินเดียคงมีภูมิคุ้มกันหมู่ได้ด้วยแรงเสริมของการฉีดวัคซีน อินเดียเป็นประเทศผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก

อินเดียไม่หวังภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติอย่างเดียว อินเดียกำลังเริ่มโครงการฉีดวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดของโลก จะมีสถานีฉีดวัคซีน COVID-19 จำนวน 10,000 แห่งทั่วอินเดีย สามารถฉีดวัคซีนได้ 500,000 dose ต่อวัน

โดย นายแพทย์ ยงค์ศักดิ์ เลียงอุดม
เป็นความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับองค์กร

 

เวียดนามจะได้รับวัคซีนโควิด 60 ล้านโดสในปีนี้
.
ฮานอย 19 ก.พ. – เวียดนามจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จำนวน 60 ล้านโดสในปีนี้ โดยแบ่งเป็นวัคซีน 30 ล้านโดสจากโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ขององค์การอนามัยโลก และอีก 30 ล้านโดสจากแอสตราเซเนกา ในขณะที่เวียดนามกำลังเผชิญกับการระบาดระลอกรุนแรงที่สุดของประเทศ
.
นายเหงียน ถั่น ลอง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามกล่าวว่า เวียดนามพบการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษที่แพร่เชื้อได้รวดเร็วในจังหวัดหายเซือง ทางตอนเหนือของเวียดนาม ซึ่งถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ในการควบคุมการระบาด
.
เนื่องจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเดิมถึงร้อยละ 70 หากทางการไม่เร่งตรวจหาเชื้อโควิดในประชาชนท่ามกลางสถานการณ์ที่พบผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น ก็จะไม่สามารถควบคุมการระบาดได้
.
นายลองยังระบุด้วยว่า เวียดนามจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ราว 30 ล้านโดสในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ผ่านโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก และจะตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรงก่อน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ภาคเอกชนช่วยสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม
.
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเวียดนามได้ประกาศทำข้อตกลงซื้อวัคซีน 30 ล้านโดสจากแอสตราเซเนกา และระบุว่า จะได้รับวัคซีนล็อตแรกจำนวน 204,000 โดสในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ นอกจากนี้ เวียดนามยังคาดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผลิตขึ้นเองได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ขณะนี้ เวียดนามมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 2,437 คน และผู้เสียชีวิตเพียง 35 คน ซึ่งถือเป็นประเทศหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19.

 

วันนี้ นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวถึงการจัดส่งวัคซีนไวรัสโควิด-19
.
ซึ่งจะถึงไทยในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ ว่า เที่ยวบินของการบินไทย ทีจี 675 เส้นทางปักกิ่ง-กรุงเทพฯ จะเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามเวลาประเทศไทย 11.05 น. มีวัคซีนลอตแรกจำนวน 200,000 โดส จากบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค จำกัด ของจีน
.
โดยขณะนี้รัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้องค์การเภสัชกรรม สำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา(อย.) ด่านศุลกากร และคลังสินค้า หรือคาร์โก้ ของการบินไทย ในพื้นที่ เตรียมการรับมอบ และจัดเก็บ โดยทุกหน่วยงานได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว
.
ส่วนสถานการณ์การให้บริการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ ถือว่า ปรับตัวดีขึ้น หลังมีการผ่อนคลายมาตรการกักตัว 14 วันในหลายจังหวัด ทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 8,000- 12,000 คน
.
สำหรับ การปรับตัวของธุรกิจการบินของไทยหลังการมาถึงของวัคซีน ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระบุว่า ข้อมูลส่วนหนึ่ง ทราบว่า ในการเริ่มฉีดวัคซีนในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จะมีการฉีดวัคซีนจนครบ จะใช้เวลา 3 ปี ส่วนไทยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการฉีด ได้ครบ และติดตามผลประมาณ 2 ปี
.
ดังนั้นธุรกิจการบิน และธุรกิจท่องเที่ยว ต่อเนื่อง ก็คาดว่า จะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้เต็มที่ น่าจะเป็นในปี 2567 ส่วนการเดินทางในปีนี้ เมื่อเริ่มฉีดวัคซีนไปแล้ว จะปรับตัวดีขึ้นแค่ไหน คงต้องไปติดตามการจัดตารางการบินของสายการบินต่าง ๆ ในการบินช่วงฤดูหนาว หรือเดือนตุลาคมปีนี้
.
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยข้อมูลรับแจ้งจากสภาสมาคมท่าอากาศยานระหว่างประเทศ หรือ Airports Council International // ACI ว่า
.
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง ทอท. ได้รับการรับรองมาตรการด้านความปลอดภัยสุขอนามัย จากการเข้าร่วมโครงการ Airport Health Accreditation หรือ AHA Programme ตามที่ ทอท. ได้ให้ความสำคัญกับมาตรการด้านสุขอนามัย และความปลอดภัยภายในท่าอากาศยานครอบคลุมทุกด้าน
.
ทั้งด้านขั้นตอน การจัดสิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่ให้บริการผู้โดยสารที่ได้มีการทำความสะอาดพื้นที่ผิวสัมผัส การเว้นระยะห่าง เช่น
.
ทางเข้าอาคารผู้โดยสาร ห้องโถงเช็กอิน พื้นที่ตรวจค้นร่างกายก่อนขึ้นเครื่อง ประตูทางออกขึ้นเครื่อง ห้องรับรอง ร้านขายของ/ขายอาหาร และเครื่องดื่ม บันไดเลื่อน ลิฟต์ พื้นที่รับกระเป๋าสัมภาระ บริเวณทางออกจากห้องโถงผู้โดยสารขาเข้า เป็นต้น
.
รวมถึงการดูแลสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานในสนามบิน และการสื่อสารไปยังผู้โดยสาร

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://tna.mcot.net/business-640249
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

POLLUTION: เมืองใหญ่ทั่วโลกอ่วม PM2.5 ปีที่แล้วเสียชีวิตจากมลพิษกว่า 1.6 แสนราย อันตรายต่อสุขภาพ วอนรัฐเร่งแก้ไข
.
ถึงแม้ว่าในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา มลพิษทางอากาศจะดีขึ้นในบางเมือง เพราะว่าการล็อกดาวน์ กลุ่มนักวิจัยสิ่งแวดล้อมก็ยังคงชี้ว่ามลพิษทางอากาศส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตในเมืองใหญ่สูงขึ้นรวมเป็น 160,000 รายในปีที่แล้ว
.
เมืองใหญ่เหล่านั้นที่พูดถึงคือ 5 เมืองที่มีประชากรที่หนาแน่นที่สุดในโลก โดยที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น New Delhi เมืองหลวงของอินเดียที่ถือว่าเป็นเมืองหลวงที่มีมลพิษเยอะที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผยว่า น่าจะมีผู้เสียชีวิตประมาณ 54,000 ราย เพราะฝุ่น PM 2.5
.
เมืองหลวงของญี่ปุ่นอย่างโตเกียวก็มียอดเสียชีวิต 40,000 คน ส่วนอีก 3 เมืองที่เหลือก็มีเม็กซิโกซิตี้ เม็กซิโก, เซียงไฮ้ จีน และ เซาเปาโล บราซิล ทั้งหมดนี้ได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงทั้งนั้น
.
Avinash Chanchai นักรณรงค์ด้านสภาพอากาศของกรีนพีซอินเดียเผยว่า “เมื่อรัฐบาลเลือกถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซมากกว่าพลังงานสะอาด เราก็ต้องจ่ายค่าเสียหายด้วยสุขภาพของเรา”
.
และถ้าคิดเป็นเม็ดเงินจริง ๆ มลพิษทางอากาศที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงก็สร้างความเสียหายให้ทั่วโลกประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน
.
กลุ่มนักวิจัยนำข้อมูลคุณภาพอากาศจากการตรวจสอบ IQAir มารวมเข้ากับแบบจำลองความเสี่ยงทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนข้อมูลประชากรและสุขภาพ มันเป็นความร่วมมือระหว่างกรีนพีซ, IQ Air, และ Centre for Research on Energy and Clean Air
.
ซึ่งหลังจากที่ข้อมูลออกมา กรีนพีซก็เรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ให้การลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนเป็นหัวใจสำคัญของแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
.
ตัวเลขเหล่านี้ถือว่าเป็นการยืนยันสิ่งที่หลายคนอาจจะรู้กัน PM 2.5 ส่งผลต่อสุขภาพของเรามากมาย มันทำลายทั้งหัวใจ ปอด และเสี่ยงทำให้โรคหอบหืดกำเริบ
.
มีงานวิจัยที่ชี้ว่าผู้คนที่สูด PM 2.5 เข้าไปในร่างกายเสี่ยงติดโควิดมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนั้น น้องหมาน้องแมว สัตว์เลี้ยงของพวกเราก็เสี่ยงได้รับอันตรายจาก PM 2.5 ไม่แพ้กับมนุษย์เลย
.
Source
1. https://phys.org/news/2021-02-air-pollution-deaths-big-cities.html

2. https://phys.org/news/2020-02-air-pollution-trillion-year-ngo.html