ติดตามสถานะการณ์

ชาวบ้าน งง! เขตบางแค ทดลองแบ่งทางเท้าให้ จยย.วิ่ง แก้ปัญหาขับย้อนศร-ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
.
ปัญหานักบิดวิ่งบนทางเท้า เพื่อไม่ต้องไปกลับรถไกล ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุชนคนเดินเท้านั้น ล่าสุดกลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังเขตบางแค ทดลองโครงการแบ่งพื้นที่ทางเท้า ให้มอเตอร์ไซค์สามารถขับขี่สัญจรได้ เพื่อลดปัญหาการขับย้อนศร
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา สำนักงานเขตบางแค เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ได้ทำการทดลองติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ด้วยการติดตั้ง Ride Guard หรือเสาป้องกันการขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า บริเวณซอยเพชรเกษม 65/1 จนถึงหน้าบิ๊กซีเพชรเกษม ให้เฉพาะรถจักรยานและประชาชนคนเดินทางเท้าสามารถสัญจรผ่านไปมาได้
.
ขณะเดียวกัน ยังได้ทำการแบ่งพื้นที่ทางเท้าขนาดใหญ่ บริเวณซอยเพชรเกษม 63/4 ถึงซอยเพชรเกษม 65/1 ให้เป็นพื้นที่สำหรับรถจักรยานยนต์สัญจรไปมา เพื่อลดปัญหาการวิ่งย้อนศร และทำพื้นที่สำหรับคนเดินเท้าและรถเข็น เป็นการทดลองใช้ทางเท้าร่วมกัน
.
ทั้งนี้ จะทำการประชาสัมพันธ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยให้ร่วมตอบแบบสอบถามและเลือกว่าวิธีการที่เหมาะสมที่สุดต่อไป
.
ล่าสุดวันนี้ (9 มี.ค. 2564) ทีมข่าว Mono29 ลงพื้นที่สำรวจ พบว่าในจุดที่มีการติดตั้ง Ride Guard เสาป้องกันรถจักรยานยนต์บนทางเท้า ยังพบนักบิดขึ้นมาขับขี่บนทางเท้าเช่นเดิม ซึ่งบริเวณนี้มีผู้สูงอายุปั่นจักรยานไปซื้อของ และออกกำลังกาย อยู่เป็นประจำ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ทางเท้าได้
.
จากการสอบถามประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ พวกเขาเล่าว่าจุดนี้ มีคนเดินทางค่อนข้างเยอะ เมื่อมอเตอร์ไซค์ขึ้นมาวิ่งบนทางเท้า มักบีบแตรไล่ ที่ผ่านมาจึงร้องเรียนไปยังสำนักงานเขตอยู่บ่อยครั้ง
.
#ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29
#ขับรถบนทางเท้า #ฟุตบาท #สำนักงานเขตบางแค

 

⚠️[BREAKING]⚠️ แมงเม่า GameStop ใกล้หลุดดอยแล้ว ! หลังเพื่อนๆ ช่วยกันดันราคาหุ้นขึ้นมารับคืนนี้หุ้นบริษัทเกมส์ใกล้ล้มละลายพุ่งทะลุ 200 เหรียญอีกครั้งแล้ว !

แต่... จะมีเม่ากลุ่มใหม่เข้าไปแทนที่ไหมนะ ?

GameStop ยังไม่ Stop จริงๆครับ ! อย่างที่เคยเรียนไว้ว่าสมรภูมิ GameStop คงยังไม่จบง่ายๆ เพราะมันยังมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่เยอะไม่ว่าจะเป็นรายย่อยเจ้าเก่า รายย่อยเจ้าใหม่ หรือทั้งกองทุน Wall Street ทั้งเจ้าเก่าและเจ้าใหม่

ตอนนี้ราคาหุ้น GameStop นั้นกลับกลายเป็น #คาสิโน ย่อมๆที่นักลงทุนต่างพยายามเข้ามาใช้เงินทุนรุมกดดันราคาฝั่งตรงข้ามกันอย่างดุเดือน ตอนนี้ถึงแม้ว่าทางแมงเม่า Wall Street Bets ใน Reddit ยังคงเชียร์ให้เพื่อนดันราคาหุ้น แต่เราก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าจริงๆแล้วคนที่ช่วยดันราคาขึ้นมาจริงๆอาจจะเป็นกองทุนกลุ่มอื่นอีกเข้าผสมโรงหรือหรือไม่ ?

เป็นไปได้ไหมที่ #การดันราคาขึ้นครั้งนี้อาจเป็นแผนของกองทุนเพื่อล่อให้เม่ากลุ่มใหม่เข้ามาติดดอยขึ้นอีก

ราคาและความเคลื่อนไหวของหุ้น GameStop

ราคาดอยที่สูงที่สุดของ GameStop เมื่อต้นปีคือราคา 400 เหรียญกว่าๆ และถึงแม้ราคาหุ้นจะเคยโดนเทขายลงไปต่ำกว่า 50 เหรียญไปแล้วหลังจากนั้น แต่คืนนี้ราคากลับฟื้นขึ้นมา 230 เหรียญอีกครั้ง ! เรียกได้ว่าเข็นขึ้นอีกไม่ไกลเหล่าแมงเม่าที่เคยติดดอยอยู่ก็จะสามารถลงได้แล้ว !

ถึงแม้ช่วงนี้เงินกำลังไหลเข้าสู่หุ้นกลุ่มพื้นฐานและดันให้ Dow Jones เกือบทะลุ All Time High และถึงแม้ทางบริษัทขายเกมส์อย่าง GameStop จะอยู่ในข่ายหุ้นกลุ่มนี้ แต่คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าราคาระดับนี้ไม่ได้ขึ้นมาเพราะปัจจัยพื้นฐานแน่ๆ

ประกอบกับถึงแม้ทาง Ryan Cohan ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ GameStop จะพยายามเข้ามาช่วยพลิกธุรกิจของบริษัทใหม่ให้ดีขึ้นหลังจากได้ที่นั่งของบอร์ดเพิ่มขึ้น แต่ลำพังก็คงไม่สามารถทำให้ราคาหุ้น GameStop ดีดขึ้นมาได้หลายเท่าขนาดนี้

อยากลงทุนกับหุ้นหลายเด้งแบบ GameStop อยากอยู่ข้างแมงเม่า Wall Street Bets แต่ไม่มีเวลาติดตาม Reddit... ควรจะทำอย่างไร ?

อย่างที่ทางเพจได้เคยเขียนอัพเดทไปว่า เรื่องนี้จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป !

เพราะกองทุน Buzz - VanEck Vectors Social Sentiment ETF เป็นกองทุน ETF น้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อิาทิตย์ที่ผ่านมา และคอนเซ็ปต์ของกองนั้นก็ตรงไปตรงมามากๆ "ซื้อหุ้นตามแมงเม่า Wall Street Bets"

โดย Buzz จะซื้อหุ้น 75 ตัวแรกที่มีการพูดถึงกันมากที่สุดในโลกอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นใน Reddit, Twitter, Facebook หรือ Social Media platform ไหนก็ตาม ! โดยจะใช้ AI เป็นตัวค้นหาว่าหุ้นไหนที่กำลังเป็นที่คุยกันมากที่สุด

อย่างที่แอดเคยบอกว่าเทรนด์ในการซื้อหุ้นโดยที่รายย่อยมารวมตัวกันวิเคราะห์ ไม่ใช่แค่เพียงว่าหุ้นตัวไหนมีพื้นฐานดี แต่หุ้นตัวไหนที่อาจจะมีโอกาสในการฌก็งกำไรที่ดี อาจมีการ Short Sell หนักเกินไปจากเหล่ากองทุน Wall Street อาจจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่แห่งการลงทุนขึ้นมา

นักลงทุนท่านใดสนใจในการเข้ามาร่วมกลุ่ม #LINE เพื่อติดตามกระแสหุ้นใน Reddit หรือ Wall Street Bets โดยเฉพาะ ทางเราได้ตั้งกลุ่ม Wall Street Bet Thailand ขึ้นมา

เพียงแค่เลือกแชร์โพสต์เรา 3 โพสต์ลงใน Facebook แล้วส่ง Inbox - Screenshot รูปที่แชร์ทั้งหมดเข้ามา พร้อมกับอกว่าอยากเข้ากลุ่ม #WallStreetBetThailand เดี๋ยวทางเราจะ Invite เข้าไปให้ครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากครับ

#ทันโลกกับTraderKP

 

ยูโรยังคงมีแนวโน้มไปทางเหนือโดยมีการสะสมของหิมะที่ตกหนักที่สุดในตอนนี้ไปยังเขต NE Panhandle , WY ทางตะวันออก, SD ทางตะวันตกเฉียงใต้สุด แต่ด้วยที่ Denver และ CO Foothills ยังคงได้รับความเสียหายจากหิมะ 20+ "WY / NE swath รวม 6-10" จากรอบแรก วันพุธ. Pivotal Weather

สถานที่บางแห่งใน NE Panhandle ไปทางทิศตะวันออกของ WY อาจมีหิมะตก 40 นิ้วระหว่างพายุขนาดเล็กครั้งแรกและที่ใหญ่กว่าในสุดสัปดาห์นี้

อัปเดตสดเกี่ยวกับสภาพอากาศเลวร้ายและหิมะที่กำลังจะมาเร็ว ๆ นี้จัดทำโดยกลุ่มผู้สนับสนุน FB ที่นี่:

Euro continues to trend north with heaviest snow accumulations now into the NE Panhandle, eastern WY, far southwest SD, but with Denver and CO Foothills still getting blasted by 20+" of snow. WY/NE swath includes 6-10" from first round Wednesday. Pivotal Weather

Some locations in NE Panhandle into eastern WY could get 40" inches of snow between the initial smaller storm and the bigger one this weekend.

Live update on the severe weather and the snow coming soon, made possible by FB supporter group here:

 

มีเจ้าหน้าที่รัฐประมาณ 200 คน ปฏิเสธการสาบานตนหรือลงนามแสดงความจงรักภักดี
.
1/ ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน กำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนกล่าวคำสาบานตน หรือ ลงนามแสดงความจงรักภักดี 2 ครั้ง
.
2/ การปฏิบัติเช่นนี้ เพื่อเป็นการรับรองว่า เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนจะรักษากฎหมายของฮ่องกง จงรักภักดีต่อฮ่องกง มีความรับผิดชอบต่อรัฐบาลฮ่องกงตามกฎหมายฮ่องกงและกฎหมายสาธารณรัฐประชาชนจีน
.
3/ ล่าสุด จันทร์ที่ 8 มีนาคม แพทริก เนี่ย หัวหน้าสำนักงานพลเรือนประจำรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน เปิดเผยว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐไม่สาบานตน หรือ ไม่ลงนามแสดงความจงรักภักดี ประมาณ 200 คน
.
4/ ทั้ง 200 คนนั้น จะถูกเรียกร้องให้ยุติการทำงาน และลาออกจากตำแหน่ง ตามกลไก ตามขั้นตอน
.
5/ รัฐบาลฮ่องกงยืนยันว่า การปฏิเสธการสาบานตนหรือลงนามแสดงความจงรักภักดี รัฐบาลฮ่องกงอาจสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวบุคคลคนนั้น
.
6/ รัฐบาลฮ่องกงจะเริ่มดำเนินตามขั้นตอนภายใต้คำสั่งฝ่ายบริหารต่อ 200 บุคคลนั้นต่อไป
.
ที่มา: Civil servants in Hong Kong refusing to take oath to be demanded to resign | http://www.xinhuanet.com/english/2021-03/08/c_139795044.htm
.

 

ขยายกลุ่มฉีดวัคซีนเพิ่มในฮ่องกง อีก 1.3 ล้านคน

ฮ่องกงได้เปิดให้อีก 7 กลุ่มจาก priority เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด อีกราว 1.3 ล้านคน รวมกับกลุ่มที่อนุญาตก่อนหน้านี้เป็น 3.7 ล้านคนแล้วที่ได้รับอนุญาตให้ฉีดวัคซีนโควิด

กลุ่มที่ได้รับอนุญาตให้ฉีดวัคซีนเพิ่ม รวมถึงพนักงานร้านอาหาร,รับจัดเลี้ยง,พนักงานส่งอาหาร, พนักงานขับรถสาธารณะ, ขับรถรับ-ส่ง, คนงานก่อสร้าง, พนักงานรักษาความปลอดภัยและพนักงานทำความสะอาดที่ตลาด, ครู, ผู้ที่ทำงานด้านการท่องเที่ยวที่ต้องพบปะผู้คน, ผู้ให้บริการฟิตเนสและสถานเสริมความงาม

ปัจจุบันมีศูนย์ฉีดวัคซีน Sinovac 8 แห่ง และศูนย์ฉีดวัคซีน BioNTech 7 แห่ง ทั้งนี้จะมีการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีน BioNTech เพิ่มอีก 12 แห่ง

ข้อมูลเพิ่มเติมการฉีดวัคซีน https://www.covidvaccine.gov.hk/en/
สถานที่ๆ ฉีดวัคซีน https://www.covidvaccine.gov.hk/pdf/List_of_CVC_Venues.pdf

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


Source : https://hongkongfp.com/2021/03/08/j...pen-to-1-3-million-more-hongkongers-from-tue/

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

วันนี้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย
และสูญหายหลายราย
จากเหตุอุทกภัยครั้งร้ายแรง
ในประเทศ...แอลจีเรีย

CR: @AlertaCambio
·

 

ข่าวดี!!

สมาคมศูนย์ชุมชนชาวไทยในเบอร์ลิน (Thailändischer Verein in Berlin e.V.)

"ได้รับเลือกจากรัฐบาลเบอร์ลินให้เป็นผู้ดูแลบริหารไทยปาร์ค (Marktbetreiber) อย่างเป็นทางการ"

โดยเมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา กลุ่มแม่ค้าพ่อค้าไทยปาร์ครวมตัวกันและส่งใบสมัครในนามสมาคมThailändischer Verein in Berlin e.V. เพื่อขอดูแลบริหารไทยปาร์ค โดยส่งใบสมัครไปที่สำนักงานเขต Charlottenburg-Wilmersdorf von Berlin ซึ่งเป็นเขตที่ดูแลรับผิดชอบไทยปาร์ค

ในการสมัครครั้งนี้ทางสมาคมฯ ต้องเขียนแรงจูงใจ วิสัยทัศน์ และส่งแผนการเงินเพื่อบริหารไทยปาร์ค หลังจากนั้นมีการสัมภาษณ์สองครั้งและการส่งข้อมูลอีกหลายครั้ง

และเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางเขตฯ ตัดสินใจเลือกสมาคมฯ เนื่องจากเป็นสมาคมของคนไทยที่มีมาช้านาน เป็นการรวมตัวกันของแม่ค้าพ่อค้าชาวไทยที่ไทยปาร์คจริง

เห็นความตั้งใจของสมาคมและต้องการให้ตัวแทนชุมชนชาวไทยได้ดูแลบริหารไทยปาร์คต่อไป ทั้งนี้สมาคมอีกแห่งที่สมัครเช่นกัน คือ สมาคมที่ทำงานกับคนต่างชาติจากเอเชียในเบอร์ลิน ไม่ใช่สมาคมของคนไทยแต่อย่างใด

จากแนวคิดการบริหารจัดการไทยปาร์คแบบใหม่ ทางเขตฯกำหนดโครงสร้างองค์กรใหม่ขึ้นมาเพื่อบริหารจัดการและสามารถติดตามการทำงานของผู้ดูแลบริหารไทยปาร์คได้อย่างใกล้ชิด

และกำหนดให้ผู้ประกอบการขายอาหารไทยในไทยปาร์คต้องขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง ข้อดีการได้สมาคมไทยมาดูแลไทยปาร์คในครั้งนี้ คือ จะทำให้เข้าใจและสามารถอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ประกอบการขายอาหารไทยและลูกค้าและผู้มาใช้ไทยปาร์คได้ดียิ่งขึ้น

อีกทั้งสมาคมตั้งใจจัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมของชาวไทยที่ไทย-ปาร์คอย่างต่อเนื่อง

ขณะนี้สมาคมและเขตฯกำลังเจรจาเพื่อตกลงในรายละเอียด ซึ่งหากการเจรจาผ่านไปด้วยดีและมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโคโรน่า ก็หวังว่าในฤดูร้อนนี้ทุกคนจะได้กลับมาเที่ยวไทยปาร์คได้เหมือนเดิม

ขอขอบคุณข้อมูลจากทางสมาคมมา ณ ที่นี้ครับ

"กรี้ดดด พ่อบ้านรู้แล้วว่าจะไปเที่ยวไหนดีถ้าวิกฤตไวรัสผ่านพ้นไป"

"ยิ่งเค้าจะมีการจัดการไทยปาร์คอย่างเป็นระบบ ระเบียบแบบนี้ยิ่งน่าเที่ยวแน่นอน"

"เจอกันนะ ไทยปาร์ค"

ที่มาของข้อมูล:

(ได้มาจากทางสมาคมโดยตรงเลยจ้า)

#พ่อบ้านเยอรมัน #เยอรมนี #เยอรมัน #germany #thaipark

 

1) รับแสงแดดให้เพียงพอในตอนเช้าอย่างน้อย 30 นาที
2) นอนงีบในเวลากลางวัน ไม่ควรเกิน 30 นาที
3) ออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอ
4) หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน หรืออาหารมื้อหนักอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนนอน
5) หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนนอน
6) เข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลาทุกวัน
7) ห้องนอนมีอุณหภูมิที่เหมาะสม เตียงที่นอนต้องสบาย
8) ผ่อนคลาย ไม่วิตกกังวลก่อนนอน
9) ใช้ห้องนอนเพื่อนอนเท่านั้น
10) หากนอนไม่หลับภายใน 30 นาที ให้อ่านหนังสือหรือฟังเพลงเบา ๆ

 

เมื่อไม่นานนี้ คณะนักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจพบสัญญาณวิทยุแบบฉับพลัน หรือ คลื่นเอฟอาร์บี (FRB) จำนวน 3 คลื่น ถูกส่งมาจากในอวกาศ

ข้อมูลบ่งชี้วา คลื่นเอฟอาร์บีที่พบ เกิดขึ้นเมื่อหลายพันล้านปีก่อนเมื่อจักรวาลยังอยู่ในยุคแรกเริ่ม

 

สตาร์ตอัปด้านอาหารจากสิงคโปร์ เตรียมเปิดตัวเนื้อไก่ที่ทำจากพืช
.
นอกจากแมลงที่จะกลายเป็นแหล่งโปรตีนสำหรับอนาคตแล้ว อาหารจากพืช (Plant-Based Food) ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของการเป็นอาหารแห่งอนาคตเช่นกัน บริษัทสตาร์ตอัปด้านอาหารในประเทศสิงคโปร์ เตรียมเปิดตัวเนื้อไก่ที่ทำจากพืช เพื่อสร้างทางเลือกทางด้านอาหารให้กับผู้บริโภค
.
บางคนเรียกรูปแบบการผลิตอาหารแบบนี้ว่า “เนื้อไร้เนื้อ” คือการผลิตอาหารให้มีหน้าตาเหมือนเนื้อสัตว์ แต่ไม่ได้ผลิตจากเนื้อสัตว์ ซึ่งวัตถุดิบหลักที่นำมาใช้ในการผลิตทำจากพืช โดยผลลัพธ์ที่ได้จากการผลิตนั้น ไม่เพียงแต่ได้อาหารจากพืชที่มีหน้าตาเหมือนเนื้อสัตว์โดยทั่วไป แต่ยังให้รสชาติที่ไม่ต่างกันอีกด้วย
.
บริษัทสตาร์ตอัปผู้ผลิตอาหารจากพืชในประเทศสิงคโปร์ เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ที่ทำจากพืช ซึ่งได้เลียนแบบทั้งหน้าตาและรสชาติของเนื้อไก่ โดยรสชาติที่ได้นั้นจะคล้ายกับเนื้อไก่ส่วนสะโพก และผู้ผลิตได้เตรียมจัดจำหน่ายให้กับร้านอาหารที่อยู่ในเครือข่าย เพื่อปรุงเป็นอาหารให้กับผู้บริโภคได้ทดลองต่อไป
.
อุตสาหกรรมการผลิตอาหารในประเทศสิงคโปร์ ได้เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก เห็นได้จากบริษัทสตาร์ตอัปหลาย ๆ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทางอาหาร ได้ให้ความสำคัญกับการผลิตเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ความตื่นตัวของการผลิตอาหารที่มีมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการสนับสนุนของรัฐบาลประเทศสิงคโปร์ ทำให้เกิดการผลักดันให้มีการผลิตเนื้อสัตว์ทางเลือกให้มีมากขึ้นอีกทางหนึ่ง
.
ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ที่พัฒนาขึ้น มีรสชาติคล้ายเนื้อไก่ส่วนสะโพก โดยผลิตขึ้นมาจากน้ำ ถั่วเหลือง แป้ง ไฟเบอร์จากข้าวโอ๊ต น้ำมันมะพร้าว โดยหัวใจสำคัญที่ทำให้ส่วนผสมจากพืชเหล่านี้มีรสชาติคล้ายเนื้อไก่นั้น คือ ไขมันที่มาจากพืช ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันดอกทานตะวัน และรสชาติต่าง ๆ ที่ได้จากธรรมชาติ ที่ทำให้เกิดเป็นรสชาติที่ใกล้เคียงกับเนื้อไก่มากขึ้น
.
การผลิตเนื้อสัตว์ทางเลือกจากพืชนั้น ได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากเทคโนโลยีการผลิตอาหารแล้ว การสร้างอาหารทางเลือกเช่นนี้ ยังเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนเนื้อสัตว์ในอนาคตอีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มทางเลือกในการรับประทานอาหารของผู้บริโภคให้มีมากขึ้น
.
--------------------------
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ #ThaiPBSSciAndTech #ThaiPBS

 

การประสานงานกันระหว่างพื้นที่สมุทรสาครกับศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ โรคอุบัติใหม่
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาสภากาชาดไทย

โรงงานแห่งหนึ่งที่สมุทรสาคร bubble and seal ผล ยังมีการแพร่กันต่อได้

ตรวจครั้งแรกวันที่ 27 มกรา 2200 คน มีเชื้อ จาก แยงจมูก 300 คน ค้ดออก ที่เหลือ 1,900 คน ทำงานต่อ ที่โรงงาน
ตรวจหลังจากนั้น
ครั้งที่ 1 : 14/2/64
มี เลือด บวก 283 และในจำนวนนี้ยังปล่อยเชื้อได้ 148 คน

ตรวจครั้งที่ 2 : 5/3/64 มีเลือดบวก 538 ราย และเป็นคนที่เลือดบวกทั้งครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง 230 ราย แสดงว่ามีผู้ที่ติดเชื้อใหม่อีก

การที่เลือดเป็นบวกและมีภูมิคุ้มกันจนกระทั่งถึงระดับมีภูมิที่ยับยั้งไวรัสได้ ไม่ได้หมายความว่า “ไม่มีเชื่อไวรัสออกมา” ทั้งนี้ โดยมีจำนวนมากที่ไม่สามารถเรียกว่าเป็น ซากเชื้อ

 

ฝุ่นจิ๋วพิษเจอไม่นาน...หัวใจวาย

ไทยรัฐ สุขภาพหรรษา หมอดื้อ

เจอฝุ่นจิ๋วพิษ 2.5 และจิ๋วใหญ่ PM 10 กับ ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) เพียงแค่วันถึงสองวันโอกาสเสี่ยงตายสูงจากเส้นเลือดหัวใจตัน (acute MI)
เป็นการรายงานในวารสารของสมาคมโรคหัวใจ (Journal of American College of Cardiology) วันที่ 26 มกราคม 2021 นี่เอง รวมทั้งบทบรรณาธิการ

ทั้งนี้ ทุก ๆ ปริมาณของฝุ่นเล็กจิ๋ว และจิ๋วใหญ่ที่เพิ่มขึ้น 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จนกระทั่งถึงระดับ 33.3 และ 57.3 ตามลำดับ จะเสี่ยงตายต่อโรคหัวใจ สูงขึ้น และเช่นเดียวกันกับความเข้มข้นของไนโตรเจนไดออกไซด์

เป็นการศึกษาในประเทศจีนในช่วงปี 2013 ถึง 2018 แต่ประเทศจีนมีการปรับตัว เตรียมการจัดการกับฝุ่นจิ๋วเหล่านี้ ตั้งแต่ปี 2011 ถึง 2012 และประสบผลสำเร็จ ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ โดยเริ่มมีการติดตั้งเครื่องวัดทุก ๆ 1 ตารางกิโลเมตรโดยจะมีเครื่องวัดหนึ่งเครื่อง คอยเตือนและคอยจัดการกำจัดมลพิษเหล่านี้ ตามนโยบายเด็ดขาด จนมีความสำเร็จอยู่บ้าง

การศึกษานี้เป็นการพิสูจน์ตอกย้ำ ข้อสังเกตก่อนหน้านี้ ที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างฝุ่นจิ๋วพิษ ที่ไม่ได้ทำร้ายปอดอย่างเดียว แต่มีผลต่อหัวใจในลักษณะเฉียบพลันด้วย และไม่ใช่เป็นในลักษณะที่เป็นผลเรื้อรังเท่านั้นแบบที่เข้าใจกัน

ภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นและทำให้เกิดความพินาศต่อสภาพแวดล้อมส่งผลต่อสมดุลของสิ่งมีชีวิต จนกระทั่งมีการยักย้ายถ่ายเทการเคลื่อนตัวของสัตว์ป่า มีการย้ายถิ่น และโดยที่สัตว์ตามธรรมชาติเหล่านี้เป็นตัวซ่องสุมของเชื้อโรค (โดยไม่มีอาการ) ทั้ง พาราสิต แบคทีเรีย และ โดยเฉพาะไวรัสเช่น โควิด-19 ทำให้เชื้อโรคจากสัตว์ป่ากระจายไป จนกระทั่งในที่สุดเข้าสู่มนุษย์ และมีวิวัฒนาการในทางการแพร่กระจายและเข่นฆ่ามนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทั้งหมดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่นไฟไหม้ป่า พายุทราย ภูเขาไฟระเบิด การจงใจเผาป่าเพื่อประโยชน์ทางเกษตรกรรมอย่างอื่น และมลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้น จากการต้องการพลังงานจากการเผาถ่านหินฟอสซิล เหล่านี้เป็นตัวการสำคัญในการเกิดฝุ่นจิ๋วพิษ 2.5
และผลกระทบจากการเผาฟอสซิล เพื่อพลังงานอย่างเดียว เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างน้อย 12% ทั่วโลกและถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญอันดับสี่ ในการเสียชีวิตทั้งบุรุษและสตรี และมากกว่าปัจจัยอื่นที่เกี่ยวกับไขมันสูง ระดับน้ำตาล ความอ้วน การไม่ออกกำลัง หรือภาวะไตแปรปรวนด้วยซ้ำ

การที่ต้องเผชิญกับมลภาวะเช่นนี้ ทุกนาทีทุกวันต่อเนื่องทั้งชีวิต และมลพิษที่ยังถูกปลดปล่อยออกมา จากเครื่องยนต์ จากรถ จากโรงงาน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำร้ายสุขภาพ และฝุ่นจิ๋วพิษเหล่านี้ทำให้เสียชีวิตจากโรคทางหัวใจและเส้นเลือดมากกว่า 50% ทั้งนี้ เกิดขึ้นได้แม้ว่าระดับฝุ่นพิษเหล่านี้จะต่ำกว่าระดับมาตรฐานที่กำหนดตามขององค์การอนามัยโลกหรือตามมาตรฐานของประเทศต่าง ๆ

ประชากรโลกมากกว่า 92% จะอยู่ในพื้นที่ ที่ค่าฝุ่นพิษและมลภาวะทางอากาศ เกินมาตรฐานองค์การอนามัยโลกมาตลอด โดยมีการประเมินว่าต้องเสียงบประมาณในการรักษาเยียวยาบำบัด สวัสดิการ เป็น ล้านล้านดอลลาร์ ที่เกี่ยวเนื่องกับการเสียชีวิตจากมลภาวะทางอากาศเหล่านี้

มลภาวะทางอากาศเหล่านี้ ทราบกันดีมานานว่า เกี่ยวข้องกับฝุ่นพิษจิ๋วเล็กและใหญ่รวมกระทั่งถึง ซัลเฟอร์ออกไซด์ และไนโตรเจนออกไซด์ และมีการศึกษาความเชื่อมโยงกับสาเหตุการตาย โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและระบบเส้นเลือดในประเทศทางฝั่งตะวันตกแต่ยังมีข้อจำกัดในการระบุระดับ และชนิด และขนาดของฝุ่น และผลกระทบระยะเวลาที่ส่งผลกับการตายเฉียบพลัน

การศึกษาที่มีการรายงานครั้งนี้ มาจากพื้นที่มณฑล หูเป่ย์ และมีเมืองหลวงก็คืออู่ฮั่น ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการระบาด โควิด-19 นั่นเอง ทั้งนี้เป็นพื้นที่ที่มีมลภาวะทางอากาศเข้มข้น และทำให้สามารถทำการศึกษาจากคนที่ตายจากโรคหัวใจและเส้นเลือดจำนวน 151,608 ราย ค่าเฉลี่ยรายวันของฝุ่นเล็กจิ๋ว 2.5 ในมณฑลนี้ และในหลายพื้นที่ของประเทศจีนและอินเดียอยู่ที่ 63.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และการที่ได้รับฝุ่นพิษจิ๋วเล็ก 2.5 และจิ๋วใหญ่ขึ้นขนาด 10 ไมครอนภายในหนึ่งวัน หรือในวันนั้นเองจะส่งผลกับการตายอย่างมีนัยยะสำคัญ

ผลที่ได้จากการศึกษานี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทุก ๆ ปริมาณที่เพิ่มขึ้น10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรของฝุ่นจิ๋ว 2.5 จะเพิ่มความเสี่ยงของการตาย 4.14% และสำหรับไนโตรเจนไดออกไซด์เพิ่มความเสี่ยงในลักษณะเดียวกันโดยมีอัตราเพิ่มขึ้นอีก 1.3%
จากการวิเคราะห์ในเชิงลึกในรายงานนี้ ไม่พบความสัมพันธ์ชัดเจนกับระดับของโอโซน แต่การที่ไนโตรเจนไดออกไซด์มีส่วนในการตายทำให้มีการเพ่งเล็งถึงมลพิษ ที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากเครื่องยนต์ของรถเป็นพิเศษ

ทั้งนี้แน่นอน คนสูงวัยอายุตั้งแต่ 75 ปีขึ้นไปตายเยอะกว่าคนหนุ่มสาวและคนที่อายุน้อยกว่า 70 ปี แต่การตายที่ไม่สมควรเหล่านี้ พบได้ในทุกกลุ่มอายุ

การระบาดของ โควิด-19 ปรากฏผลชัดเจน จากการที่แทบไม่มีการใช้รถยนต์และเครื่องบินโดยสาร และมีผลต่อการที่มลภาวะฝุ่นจิ๋วเล็กเหล่านี้หายไปมาก

ทั้งนี้เป็นความฝันของมวลมนุษย์ชาติที่จะเห็นท้องฟ้าสีน้ำเงิน โดยเทคโนโลยีจะเป็น ซีโร่ อีมิสชั่น (zero emission) ปล่อยก๊าซเป็นศูนย์
การทำลายธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ต้องไม่ลืมว่าไม่ได้เกิดมลพิษอย่างเดียว แต่สร้างไวรัสที่น่าสะพรึงกลัว ตัวแล้วตัวเล่าและไวรัส โควิด-19 อาจจะไม่ใช่ตัวสุดท้ายที่จะต้องเจอะเจอ

 

... "ตลาดการเงิน อัตราตอบแทนพันธบัตรสูง ยังหวั่นเฟดรีบขึ้นดอกเบี้ย"

... "ตลาดการเงิน" , กำลังเครียดกับความคาดหวังของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจซึ่งบังคับให้นักลงทุนต้องประเมินการถือครองพันธบัตรอีกครั้ง

... ความสอดคล้องของตลาดเป็นผลโดยตรงจากการพัฒนาหลายประการที่ชี้ให้เห็นถึง "แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดูสดใส จากข่าวการขายและฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น"

... "ยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรม" มีความแข็งแกร่งอย่างน่าตกใจ, และสิ่งที่จะอาจสำคัญที่สุดฝ่ายบริหารของ Biden คาดว่าจะผลักดันพิมพ์เงินอีกแล้ว, "แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์" ผ่านสภาคองเกรสในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

... เนื่องจากอเมริกาไม่เคยอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขนาดนี้มาก่อน "ตลาดกำลังตั้งคำถามว่าผลที่ตามมาโดยไม่ได้ตั้งใจจะเป็นอย่างไร?”

... ผลลัพธ์ที่ชัดเจนประการหนึ่งคือการเติบโตที่แข็งแกร่ง นักเศรษฐศาสตร์ในวอลล์สตรีทคาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 5 ในปี 2021, การเติบโตที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดสำหรับเศรษฐกิจนับตั้งแต่ปี 1984 "ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับหุ้น"

... ท้ายที่สุดเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทำให้ บริษัทต่างๆสามารถเพิ่มยอดขายและผลกำไรได้ง่ายขึ้นเนื่องจากการจ้างงานเพิ่มขึ้นและผู้บริโภคมีเงินใช้จ่ายมากขึ้น

... แต่ "การเติบโตขึ้น" ทำให้เกิดความเป็นไปได้ที่ "อัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้น" ซึ่งอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางอเมริกา หรือ "เฟด" ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและนั่นคือสิ่งที่นักลงทุนตอบสนองโดยมีผลกระทบที่แตกต่างกันสำหรับ "ตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร"

... เมื่อการระบาดใหญ่เริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม 2020 ในอเมริกา , ทำให้เกิด "ความตื่นตระหนก" ในวงกว้างซึ่งทำให้ S&P 500 สูญเสียมากกว่าหนึ่งในสามของมูลค่าภายในไม่กี่สัปดาห์ , เฟดได้เคลื่อนไหวแก้ไขเพื่อบรรเทาตลาดและป้องกันไม่ให้ลงสู่จุดต่ำสุด โดย "ลดอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ใกล้ศูนย์" และส่งสัญญาณว่าจะทำให้พวกเขาอยู่ที่ระดับนั้น

... นอกจากนี้ยังเริ่ม "อัดฉีดปั๊มเงินหลายพันล้านเข้าสู่ตลาดทุกเดือน" ด้วยการพิมพ์ดอลลาร์เป็นหลักและใช้เพื่อกลับมาซื้อพันธบัตรรัฐบาล นโยบายการเงินที่เรียกว่า "เงินง่ายๆ" เหล่านี้ทำให้ S&P 500 อก้ปัญหานักลงทุนไหลออก โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม เมื่อหุ้นถูกงัดออกจากหลุมจากจุดต่ำสุด เมื่อไม่นาน

... “ส่วนหนึ่งของการเกิดความกระตือรือร้นในตลาดรอบใหม่คือเฟดกำลังจะรักษาฉีดโคเคนรักษาตลาดต่อไป”

... “สิ่งที่ดีกว่าและดีกว่าคือ เหตุผลที่เฟดมีน้อยลงเรื่อย ๆ ในการรักษาอัตราที่เป็นศูนย์”

... การเคลื่อนไหวของเฟดยังส่งผลกระทบต่อ "ตลาดตราสารหนี้" โดยปกติจะเป็นผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นและลดลง โดยทั่วไปอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล - ซึ่งส่วนหนึ่งกำหนดโดยอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดยเฟด สะท้อนมุมมองของนักลงทุนในวงกว้างว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป

*** ... 1) เมื่อ "การเติบโตของเศรษฐกิจอ่อนแอ" 'อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล' Bond Yield มักจะอยู่ในระดับต่ำ แค่ราคาจะสูงเพราะเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยกว่าในหลุมหลบภัย(เมื่อปีที่แล้วเมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ อัตราผลตอบแทนพวกเขาแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ) แต่เมื่อการเติบโตของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างสูงและรวดเร็ว 'ผลตอบแทนพันธบัตร' เหล่านั้นก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น ราคาต่ำลง ไม่น่าสนใจ, เพราะนักลงทุนจะเทไปหาตลาดหุ้นแทน

... 2) ขณะนี้นักลงทุนกังวลว่า "การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะทำให้เกิดเงินเฟ้อ" ( ยิ่งมีข่าวลุงไบเดนจะพิมพ์เงินอีก 1.9 ล้านๆดอลล่าร์ ) ปัจจุบันมีนักเศรษฐศาสตร์บางส่วนที่คิดว่าจะมีความเสี่ยงอย่างสูงของอัตราเงินเฟ้อที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่นักลงทุนกล่าวว่าความเป็นไปได้ที่คล้ายการเติบโตของราคาคล้ายปี 1970 ที่หนักหนา และอาจผลักดันให้ "เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย" เพื่อลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจลง

...3) และถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ย นั่นจะไม่ดีสำหรับ "เจ้าของพันธบัตร หากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย" เพื่อลดเงินร้อน นักลงทุนจะไม่สนใจตลาดพันธบัตร , ผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้ bond yield ก็จะเพิ่มขึ้น จากนั้น 'ราคาของพันธบัตร' ที่นักลงทุนถืออยู่ในปัจจุบันจะต้องลดลงองลดลงเพราะไร้แรงดึงดูด, จนกว่าพวกเขาจะให้ผลตอบแทนที่เทียบเท่ากับอัตราใหม่ที่สูงกว่าในตลาด

... 4) ด้วยความคาดหวังว่านักลงทุนจะต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้นในขณะนี้ในรูปแบบของผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากพันธบัตรของพวกเขา เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นมาตรการที่ตลาดพันธบัตรรัฐบาลจับตามองมากที่สุดเพิ่มขึ้นเป็น 1.60% ในบางครั้ง ( สิ่งที่นักลงทุนกลัวคือ เฟดจะรีบขึ้นดอกเบี้ยเร็วเดินไป เขาต้องการได้บอนด์ยีลด์สูงๆไปนานๆงๆไปนานๆและเฟดรักษาอัตราดอกเบี้ยต่ำๆไว้ )

... 5) ตลาดสำหรับฟิวเจอร์สอัตราดอกเบี้ย ที่ซึ่งนักลงทุนคาดเดาว่าอัตราดอกเบี้ยจะไปที่ใดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ระบุระยะเวลาที่นักลงทุนคิดว่าสิ่งนี้อาจเกิดขึ้น ขณะนี้ราคา "มีโอกาสสูงขึ้นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสแรกของปี 2023" เร็วกว่าที่ธนาคารกลางกำหนด

... 6) และเนื่องจากเฟดได้แนะนำว่ามีแผนที่จะชะลอองค์ประกอบอื่น ๆ ของนโยบายการพิมพ์เงินให้ใช้เงินง่ายๆดอกเบี้ยต่ำๆ, ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนจึงคาดว่าธนาคารกลางจะเริ่มลดความช่วยเหลือหรืออัดฉีดการเงินสำหรับตลาดในปีหน้า 2022,

... 7) แม้ว่าประธานธนาคารกลางอเมริกา ลุงเจอโรม พาวเวลล์และเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่น ๆ เพิ่งพูดถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดการสนับสนุนเศรษฐกิจในเร็ว ๆ นี้ แต่ผลตอบแทนของธนบัตร 10 ปียังคงอยู่เหนือ ระดับ 1.40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าจุดที่สิ้นสุดปี 2020 ซึ่งอยู่ที่ 0.92 เปอร์เซ็นต์ ( เฟดยังต้องการให้นักลงทุนมาตอมตลาดพันธบัตรต่อไปก่อน )

... 8) แต่หลังจากปี 2022 หรือ 2023 ที่คาดหมายว่า เฟดจะลดเงินเฟ้อโดยกลับมาขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น อาจเป็นปัญหาต่อผลการดำเนินงานของ "ตลาดหุ้น" เหตุผลหนึ่งก็คืออัตราดอกเบี้ยที่สูงทำให้ "การเป็นเจ้าของพันธบัตรมีความน่าสนใจมากขึ้น"

... อย่างน้อยก็มีดอลลาร์ไหลออกจากตลาดหุ้นมากขึ้น เพราะอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจทำให้การกู้ยืมเงินมาของนักลงทุนมีราคาแพงขึ้นสำหรับ บริษัท โดยเฉพาะบริษัท ขนาดเล็กที่มีศักยภาพ แต่ขาดประวัติความสามารถในการทำกำไร

... 9) แล้วนักลงทุนควรทำอย่างไร? นักวิเคราะห์แนะนำให้พวกเขาซื้อหุ้นของ บริษัท ที่พร้อมที่จะได้รับประโยชน์จาก "การเติบโตของเศรษฐกิจในระยะสั้น" หุ้นประเภทนี้รู้จักกันในชื่อ“ วัฏจักร” ได้แก่ "ธนาคารและ บริษัทพลังงาน" ซึ่งผลกำไรมักจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีการเติบโตเร็วขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและราคาที่สูงขึ้น

... 10) และนั่นเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหุ้นที่ทำได้ดีที่สุดในปีนี้ ตัวอย่างเช่น "หุ้นพลังงาน S&P 500" เพิ่มขึ้นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ในปี 2021 และการเงินมีรายได้มากกว่า 14 เปอร์เซ็นต์ สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนกำลังเตรียมพอร์ตการลงทุนเพื่อรับประโยชน์จาก "เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมากขึ้น" ( จากข่าววัคซีนเป็นหลัก ) แทนที่จะเพียงแค่ขี่คลื่นเกาะกระแสของเงินง่ายๆที่ไหลออกจากเฟดซึ่งหลายคนเชื่อว่าจะสิ้นสุดลงในเร็ววัน

...“คุณไม่สามารถมีเค้กและกินมันได้เช่นกัน... และในบางกรณีคุณไม่จำเป็นต้องอยู่ใน I.C.U. ถ้าคุณหายเป็นปกติ”

.

.

... https://www.nytimes.com/2021/03/03/business/stock-market-bond-yields.html

 

มหาสมุทรและระบบนิเวศชายฝั่งของโลกสามารถกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ในปริมาณที่น่าทึ่ง ดูดซับได้เร็วกว่าป่าฝนประมาณ 30 เท่า และยังปล่อยก๊าซจำนวนมหาศาลกลับสู่ชั้นบรรยากาศได้

1 > รายงานฉบับนี้ทำขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อค้นหาแหล่งกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์โดยมหาสมุทรหรือที่เรียกว่าบลูคาร์บอนทั่วทั้ง 50 แหล่งมรดกโลกทางทะเลขององค์การยูเนสโก โดยการร่วมมือกันระหว่างองค์การสหประชาชาติและผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลของ Edith Cowan University (ECU)

2 > รายงานพบว่าแหล่งมรดกโลกทางทะเลของออสเตรเลียทั้ง 6 แห่ง ถือเป็นแหล่งบลูคาร์บอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสามารถกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 5,000 ล้านตัน หรือร้อยละ 40 ของปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่บลูคาร์บอนทั้งหมดในแหล่งมรดกโลกทางทะเลขององค์การยูเนสโกสามารถกักเก็บได้

3 > หนึ่งในจำนวนแหล่งบลูคาร์บอนที่ใหญ่ที่สุดในโลกของออสเตรเลียมีก็คือพื้นที่เกรต แบร์ริเออ ร์รีฟ (Great Barrier Reef) ชายฝั่งนินการู (Ningaloo) และ ชาร์คเบย์ (Shark Bay)

4 > แม้ระบบนิเวศบลูคาร์บอนนี้จะครอบคลุมพื้นที่มหาสมุทรทั่วโลกน้อยกว่า 1% แต่ความสามารถในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์มากราวครึ่งหนึ่งที่มหาสมุทรทั่วโลกสามารถดูดซับได้ นอกจากนี้บลูคาร์บอนยังดูดซับได้เร็วกว่าป่าฝนประมาณ 30 เท่า

5 > แม้ว่าระบบนิเวศคาร์บอนจะเป็นแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ดีเยี่ยม แต่หากได้รับความเสียหายหรือถูกคุกคามจากมนุษย์หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ก็สามารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมหาศาลที่เก็บไว้ในชั้นบรรยากาศได้นานนับพันปี

7 > ตัวอย่างเช่น ในปี 2554 ทุ่งหญ้าทะเลในพื้นที่มรดกโลกชาร์คเบย์ ออสเตรเลียตะวันตกได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่กักเก็บไว้มากถึง 9 ล้านตัน หลังจากเกิดคลื่นความร้อนทางทะเลจนทำลายทุ่งหญ้าทะเลกว่า 1,000 ตาราง กม. ดังนั้นระบบนิเวศของ Shark Bay และ Great Barrier Reef จึงมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาของมนุษย์

อ้างอิง
(Mar 2, 2021) UNESCO reveals largest carbon stores found in Australian World Heritage Sites. [physic]

 

1 > มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Facebook กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ภายในปี 2030 (พ.ศ. 2573) ผู้คนสามารถใช้แว่นตาอัจฉริยะขั้นสูงในการ "เทเลพอร์ต" หรือเคลื่อนย้ายตัวเองแบบเสมือนจริงไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น การประชุมแบบตัวต่อตัวหรือไปเยี่ยมบ้านของคนอื่น ซึ่งมันจะทำให้ชีวิตสะดวกขึ้นและยังช่วยลดภาวะโลกร้อนได้

2 > ซักเคอร์เบิร์กให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ The Information โดยพูดถึงแก็ตเจ็ตในอนาคตที่เป็น AR (ความเป็นจริงเสริม) เป็นชุดเฮดเซ็ตหรือแว่นตาที่สร้างภาพเสมือนจริงแบบที่เราใช้เล่นเกมส์ในตอนนี้ แต่ในอนาคตแว่นตาแบบนี้จะใช้สร้างภาพเสมือนจริงแบบเรียลไทม์ พาเราไปสู่ที่ไหนก็ได้เหมือนการเคลื่อนย้ายร่างกายไปจริงๆ หรือ เทเลพอร์ต

3 > ที่เขาพูดถึงแว่น AR อาจเป็นเพราะว่า Facebook วางแผนที่จะเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะคู่กับ Ray-Ban ในปลายปีนี้ ซักเคอร์เบิร์กบอกว่ามันจะยังไม่เป็น AR เต็มรูปแบบ แต่ทางบริษัทจะปล่อยแว่นตาความจริงเสมือนแบบนี้มาเรื่อยๆ เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น หมายความว่าซักเคอร์เบิร์กจริงจังกับเรื่องนี้พอสมควร

4 > เขสบอกอีกว่าข้อดีอย่างหนึ่งของ “เทเลพอร์ต” ที่ขับเคลื่อนด้วย AR คือสามารถลดเวลาในการเดินทางหรือเดินทางได้ โดยที่ AR สามารถช่วยให้คนงานสามารถใช้ชีวิตในที่ที่พวกเขาต้องการจะไป เช่น อาจไปอยู่ในแถบที่บ้านราคาไม่แพงแล้วค่อยเทเลพอร์ตตัวเองเวลาต้องไปทำงาน ซึ่งก็คือนั่งทำงานที่บ้านแต่ AR จะเคลื่อนย้ายตัวเสมือนจริงเราไปออฟฟิศ

5 > การทำงานที่บ้านเริ่มจริงจังขึ้นหลังจากการระบาดของโควิด-19 และการล็อคดาวน์ทำให้การขนส่งลดลลงซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงไปด้วย บางทีวิสัยทัศน์ของซักเคอร์เบิร์กอาจช่วยทำให้โลกของเรารอดพ้นจากวิกฤตโลกร้อน เมื่อทุกคนทำงานจากที่ไหนก็ได้ เพียงแค่สวมแว่นตา AR

6 > เขาบอกว่า “เราเคยพูดคุยกันแค่เล็กน้อยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก่อนที่มันจะมีความสำคัญมาก ผู้คนต้องการที่จะเดินทางน้อยลงในอนาคต และเดินทางน้อยลงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถไปสถานที่ต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางหรือเดินทางไกล”

7 > ดูเหมือนว่าซักเคอร์เบิร์กจะเป็นคนแรกๆ ที่ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของ AR กับการลดการคมนาคมเพื่อสภาพภูมิอากาศโลกที่ดีขึ้น ซึ่งคงเป็นเพราะเขามองเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากการทำงานแบบ Work from Home แต่เรื่องนี้เป็นประเด็นถกเถียงกันมาตั้งแต่ตอนที่เริ่มมีการระบาดใหม่ๆ ว่าการทำงานที่บ้านเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจริงหรือเปล่า?

8 > เช่น งานวิจัยของบริษัท WSP UK ที่บอกว่าการทำงานจากบ้านจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมก็ต่อเมื่ออยู่ในช่วงฤดูร้อน เพราะใช้พลังงานน้อยกว่า ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาวจะต้องให้ความอุ่นในบ้านเพิ่มขึ้นเป็นการใช้พลังงานมากขึ้น หมายความว่าการปล่อยก๊าซก็จะยิ่งมากขึ้น ซึ่งนี่เป็นกรณีของอังกฤษ ถ้าเป็นประเทศไทยฤดูที่ใช้พลังงานน้อยคือหน้าหนาว ส่วนฤดูร้อนต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศมากขึ้น

10 > WSP บอกว่าการจัดการพลังงานในอาคารสำนักงานมีประสิทธิภาพมากกว่าบ้านเดี่ยว อย่างในอังกฤษคนที่ทำงานที่บ้านแต่ละคนจะเปิดเครื่องทำความร้อนสำหรับคนๆ เดียว แต่อาจมีแนวโน้มที่จะเปิดเพื่อทำให้ให้บ้านทั้งหลังอุ่นขึ้นซึ่งสิ้นเปลืองมาก ส่วนเมืองไทยก็อาจจะเปิดแอร์ไปทั้งบ้านเหมือนกัน ดังนั้นการทำงานในอาคารสำนักงานที่เดียวจึงมีผลกระทบต่อโลกน้อยกว่า แม้จะรวมเอาการเดินทางเข้ามาคำนวณแล้วก็ยังน้อยกว่าการทำงานระยะไกล

ข้อมูลจาก
Kif Leswing. (8 Mar 2021). "Facebook’s Mark Zuckerberg thinks smart glasses could help combat climate change". CNBC
Meredith Turits. (21 Feb 2020). "Why working from home might be less sustainable". BBC.
ภาพ Oculus Quest 2 / Facebook

 

เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ และจิตอาสาดับไฟป่าภาคเหนือ
.
ไฟป่ายังโหมกระหน่ำเข้ามา ช่วยเป็นกำลังให้กับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการป้องกันไฟป่า และเครือข่ายราษฎรจิตอาสา "หยุดเผา หยุดทำลายธรรมชาติ"
.
ภาพเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่จาก #อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย
.
https://www.facebook.com/wiangkosai.np/

 

เสือไฟโชว์ตัวหน้ากล้องถ่ายสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากรมหลวงชุมพรทิศเหนือ (ตอนบน) "ขอให้เจ้าอยู่ในผืนป่าอย่างปลอดภัย และมีความสุข เราจะดูแลบ้านให้เจ้าเอง"
.
เสือไฟ Asian Golden Cat เป็นแมวป่าขนาดกลาง มีขนาดเล็กกว่าเสือลายเมฆ แต่ใหญ่กว่าแมวลายหินอ่อน แม้จะมีลายน้อย แต่รูปแบบของลายของเสือไฟก็ดูคล้ายกับลายของแมวดาว ลักษณะที่เด่นชัดคือ แต้มสีขาวกับขีดดำบริเวณแก้ม และเส้นจากหัวตาไปถึงกระหม่อม ด้านล่างลำตัวและขาด้านในมีสีขาว
.
มันมีการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ เอเชียตะวันออก, ภาคเหนือของเอเชียใต้ จนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ ภาคใต้และภาคตะวันออกของจีน, เนปาล, ภูฏาน, พม่า, ไทย, ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, มาเลเซียและอินโดนีเซีย
.
เสือไฟ สามารถปรับตัวให้อยู่ในป่าได้ทุกสภาพ เช่น ป่าดิบแล้ง, ป่าดิบชื้น, ป่าเบญจพรรณ สามารถปีนต้นไม้ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่จะล่าเหยื่อบนพื้นดินมากกว่าล่าบนต้นไม้
.
สถานะอนุรักษ์ของเสือไฟนั้น เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เสือไฟประสบปัญหาถูกคุกคามจากภัยหลายด้าน ภัยที่ร้ายแรงที่สุดคือการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย และรองลงมาคือการล่าเพื่อเอาหนังและกระดูก
.
ซึ่งการพบเสือไฟในครั้งนี้เป็นผลมาจากการลาดตระเวนเชิงคุณภาพที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างเข้มข้น นอกจากการลาดตระเวนเพื่อป้องกันการกระทำความผิดแล้วยังมีการติดตั้งกล้องดักถ่ายในพื้นที่อีกด้วย
.
ที่มา ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยาน เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน)

https://bit.ly/2PD6sAr

https://m.facebook.com/prhotnews02/

https://www.iucnredlist.org/species/4038/97165437

https://www.researchgate.net/publication/290428931_IUCN_Redlist_Assessment_of_Asiatic_Golden_Cat

 

PLANT: เนเธอร์แลนด์ลองใช้ไฟ LED ช่วยให้พืชเติบโตดีขึ้น
.
ที่เห็นมีแสงระยิบระยับนี้ ไม่ใช่แท่งไฟในงานคอนเสิร์ตที่ไหน มันคือกระเทียมต้น (Leek) ที่ถูกติดตั้งด้วยแสงไฟให้ส่องแสงยามค่ำคืน
.
ผลงานชิ้นนี้เป็นของนักออกแบบชาวเนเธอร์แลนด์ Dann Roosegaarde เขาได้ร่วมงานกับนักพฤกษศาสตร์ นำศิลปะมาผสมผสานกับวิทยาศาสตร์ และออกแบบ “Grow” โดยการใช้สูตรแสงที่ประกอบด้วยแสงสีแดงและสีน้ำเงินของไฟ LED และรังสี UV มาทำกระเทียมต้นนี้มีแสงไฟส่องสว่างกว่า 20,000 ตารางเมตร
.
งานนี้ไม่ได้มีดีที่ความสวยงามที่ดึงดูดให้คนกลับมาสนใจฟาร์มกระเทียมต้นอย่างเดียว Roosegaarde มีเป้าหมายที่จะช่วยให้ผลผลิตของพืชเติบโตมากขึ้นด้วย และลดการใช้ยาฆ่าแมลงลง 50%
.
เขาไปศึกษาเรื่องการผสมผสานแสงไฟต่าง ๆ เข้าด้วยกัน จึงพบว่า ไฟ LED สีน้ำเงินและแดงที่เดิมใช้ในบ้านเรือนกระจก และในฟาร์มแนวตั้งสามารถนำมาทำให้เกิดประโยชน์กับพืชในเนเธอร์แลนด์ เพื่อส่งผลกระทบในวงกว้างได้ เนื่องจากเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่ส่งออกพืชผักและผลไม้ อันดับต้น ๆ ของโลก รองลงมาจากสหรัฐอเมริกา
.
แสง LED จึงถูกติดตั้งที่สวน และช่องแสงไปที่พืชมากมายดังในภาพ ซึ่งมันจะไม่ได้ให้ซีนที่สวยงามเหมือนพืชกำลังเต้นรำกลางคอนเสิร์ตเท่านั้น มันจะช่วยเข้าไปกระตุ้นการเผาพลาญของพืช ทำให้มันสามารถดูดรับแสงในตอนกลางวันได้มากขึ้น เพิ่มผลผลิตของพืชได้ในระยะยาว
.
ส่วนเรื่องแมลง เขานำแสง UV มาส่องในขั้นตอนแรก ๆ เพื่อกระตุ้นเมล็ดพันธุ์พืชและกลไกการทำงานด้านในของมัน เพราะ UV ช่วยกระตุ้นระบบการป้องกันตัวเองของพืชได้ เมื่อมีแสง UV ยาฆ่าแมลงที่สร้างมลพิษให้กับคน และสภาพแวดล้อมมหาศาลก็จะถูกนำมาใช้น้อยลง
.
“ชาวนาต้องการวิธีที่หลากหลายเพื่อเพิ่มผลผลิต พลังงานที่สะอาดนี้สามารถช่วยลดความจำเป็นในการใช้สารเคมีที่ทั้งแพง ใช้เวลาเยอะในการพัฒนา และก่อมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมได้” ศาสตราจารย์ Jason Wargent นักพฤกษศาสตร์ที่ร่วมงานกับ Roosegaarde เผย
.
แผนของ Roosegaarde คือนำผลงานนี้ไปใช้กับฟาร์มในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยช่วยให้พืชผลประจำชาติของแต่ละประเทศเพิ่มขึ้น และไฟที่นำไปติดก็จะปรับให้เข้ากับพืชผลแต่ละชนิดด้วย
.
“ฉันต้องการให้งานของฉันทำให้คนสงสัยเกี่ยวกับอนาคต ไม่เศร้าหรือเกรี้ยวกราดไปกับมัน และแสงคือภาษาของฉัน มันไม่ใช่ของตกแต่ง แต่มันแสดงถึงการเคลื่อนไหวและการสื่อสาร” Roosegaarde เผย
.
Source
1. https://www.dezeen.com/2021/01/18/daan-roosegaarde-grow-light-installation-sustainable-agriculture/ (ข่าว)

2. https://www.weforum.org/agenda/2021/01/light-led-crops-pesticides-sustainable-agriculture/ (ข่าว)

3. https://www.theguardian.com/environ...nts-farming-in-a-new-light-to-boost-crops-aoe (ข่าว)

4. https://mymodernmet.com/daan-roosegaarde-grow/ (ภาพ)

 

ANIMAL: พบกับ Spider-tailed horned viper
งูที่ใช้หางปลอมเป็นแมงมุมเพื่อล่อเหยื่อให้ติดกับ มีพิษร้ายแรง
.
ทุกท่านคงเคยได้ยิน และรู้จักงูหางกระดิ่งที่ปลายหางของมันสามารถสั่น และส่งเสียงได้นั่นว่าแปลกแล้ว ใครจะคิดว่าจะมีแปลกกว่านี้อีกคือ งูไวเปอร์หางแมงมุม
.
งูไวเปอร์หางแมงมุมเป็นงูที่มีพิษร้ายแรง พบเจอได้ตามเทือกเขา และหุบเขาในประเทศอิหร่าน อาวุธสุดพิเศษของมันคือหางที่สามารถปลอมตัวและทำพฤติกรรมเลียนแบบแมงมุม โดยลักษณะหางของมันจะเป็นเหมือนปล้องและมีหนามด้านข้างคล้ายกับตัวแมงมุมและขาด้านข้างของมัน
.
นอกจากจะเหมือนแมงมุมแล้ว มันยังขยับและเคลื่อนไหวเหมือนแมงมุมกำลังวิ่งไปวิ่งมา โดยอาวุธนี้จะใช้เป็นกับดักเหยื่อล่อนกหรือสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่กินแมงมุมหรือสนใจอาหารปลอมนี้ อีกทั้งตัวของมันนั้นสามารถพรางไปกับลายก้อนหินได้อย่างแนบเนียน (สามารถรับชมการล่าของมันได้ทางลิงก์ด้านล่าง)
.
เมื่อเหยื่อสนใจกับดักนี้เช่น นก นกจะเข้ามาจิกแมงมุมปลอม เพราะนึกว่าเป็นอาหาร และตัวงูที่ซุ่มอยู่ได้ทำการโจมตีอย่างทันที เอาจริง ๆ ตอนแรกผมเห็นแค่แมงมุมปลอมวิ่งไปวิ่งมาจนกระทั่งนกมา ผมถึงตระหนักขึ้นได้ว่า “เย้ย! งูอยู่ตรงนี้เลยนี่นา!”
.
ธรรมชาติช่างร้ายกาจ ไม่ว่าจะทั้งหางที่เป็นแมงมุมปลอมหรือลักษณะร่างกายที่พรางตัวได้อย่างแนบเนียน แถมยังมีพิษอีก นั่นแหละคือวิวัฒนาการที่ต้องต่อสู้กันเพื่อความอยู่รอดจากสิ่งมีชีวิตหนึ่งสู่อีกสิ่งมีชีวิตหนึ่งไปอีกนานเท่านาน
.
Source :
1. https://www.discovermagazine.com/.../meet-the-snake-that...

2. วีดีโอการล่าของงู : https://youtu.be/uxCMNWXoATU

เรียบเรียง : Witit

 

SPACE: พบน้ำและสารอินทรีย์! บนดาวเคราะห์น้อยอิโตกะวะ จากตัวอย่างเก็บโดยยานฮายาบูซะ นำไปสู่การเข้าใจใหม่ของนักวิทยาศาสตร์
.
นักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์ตัวอย่างจากดาวเคราะห์น้อย Itokawa ที่ถูกเก็บมาโดยยาน Hayabusa ซึ่งเดินทางกลับถึงโลกในปี 2010 โดยรายงานล่าสุดที่ได้ตีพิมพ์ในวันที่ 4 มีนาคม 2021 กล่าวไว้ว่า พวกเขาได้พบน้ำและสารอินทรีย์ในตัวอย่างเหล่านั้น
.
ยาน Hayabusa นั้นถูกพัฒนาโดยองค์กรอวกาศญี่ปุ่นหรือ JAXA มันถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ในการสำรวจแถบดาวเคราะห์น้อยในระบบสุริยะโดยจะทำการเก็บและวิเคราะห์ตัวอย่างเพื่อหาองค์ประกอบของดาวเคราะห์น้อยนั้น และนำมันกลับโลก JAXA นั้นได้พัฒนายาน 2 ลำคือ Hayabusa 1 และ 2 ซึ่งประสบความสำเร็จในการเดินทางไป และกลับได้อย่างสวยงาม Hayabusa 2 นั้นเดินทางกลับถึงโลกในวันที่ 6 ธันวาคม 2020 ที่ผ่านมา
.
ดาวเคราะห์น้อย Itokawa นั้นเป็นดาวเคราะห์น้อยใกล้โลกซึ่งอยู่ในแถบดาวเคราะห์น้อยที่อยู่เลยถัดไปจากดาวอังคาร (ที่เป็นดาวเคราะห์ชั้นใน) และก่อนถึงดาวพฤหัส (ที่เป็นดาวเคราะห์ชั้นนอก) มันเป็นดาวเคราะห์น้อยประเภท S-type คือเป็นประเภทที่มีธาตุซิลิเกตเป็นหลัก
.
ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ต่างโฟกัสในการหาสารอินทรีย์จากดาวเคราะห์น้อยประเภท C-type เป็นหลัก (ธาตุคาร์บอน) การค้นพบนี้จึงเปลี่ยนแปลงความเชื่อของต้นกำเนิดสิ่งมีชีวิต
.
ในการค้นพบสารอินทรีย์จากตัวอย่างที่มีชื่อเล่นว่า Amazon สารอินทรีย์ตัวอย่างที่นักวิทยาศาสตร์พบนั้นมีสองแบบคือ Primitive (ที่ไม่ได้รับความร้อน) และ Processed (ได้รับความร้อนแล้ว) เมื่อวิเคราะห์ลึกลงไป พวกเขาพบว่าตัวอย่าง Processed (ที่ได้รับความร้อนแล้ว) นั้นเคยได้รับความร้อนสูงถึง 600 องศาเซลเซียสในอดีต
.
โดยพวกเขาคาดการณ์ว่า Itokawa นั้นอาจถูกชน หรือมันอาจเกิดจากกระบวนการสร้างดาวกฤษ์หรือดาวเคราะห์จนทำให้เกิดความร้อนสูงขนาด 600 องศาเซลเซียส ซึ่งนั่นหมายความว่าสาร Processed นั้นอยู่บนผิวดาวเคราะห์น้อยนี้อยู่แล้ว ในขณะที่สาร Primitive (ที่ไม่ได้รับความร้อน) นั้นอาจจะตามมาทีหลังตอนที่ Itokawa ได้มีอุณหภูมิเย็นลงแล้วจากที่ใดสักที่และวิธีการใดสักวิธีหนึ่ง
.
การค้นพบนี้จึงสำคัญเพราะมันได้เปลี่ยนความเชื่อที่ว่า สารอินทรีย์หรือสารที่กำเนิดชีวิตนั้นน่าจะอยู่บนดาวเคราะห์น้อยประเภท C-type มากกว่า แต่กลับพบในประเภท S-type (เพราะคาร์บอนนั้นจับคู่กับอะตอมธาตุอื่นได้ง่ายและชีวิตบนโลกทั้งหมดประกอบไปด้วยโครงสร้างโมเลกุลของคาร์บอน นักวิทยาศาสตร์จึงสนใจ C-type มากกว่า)
.
และมันยังได้ให้มุมมองใหม่ว่าชีวิตบนโลกอาจเกิดจาก “เมล็ดพันธุ์ชีวิต” ที่มาจากนอกโลก รวมไปถึงแถบดาวเคราะห์น้อยในระบบสุริยะอาจเต็มไปด้วย “เมล็ดพันธุ์ชีวิต” หากนักวิทยาศาสตร์พบสารอินทรีย์อีกจากดาวเคราะห์น้อย Ryugu และ Bennu ที่ถูกเก็บตัวอย่างโดยยาน Hayabusa 2 (กลับมาโลกแล้วในปี 2020) และ OSIRIS-REx ที่กำลังปฏิบัติภารกิจ
.
ไม่ว่าชีวิตจะมีจุดกำเนิดเช่นไร ทุกอย่างที่เป็นปัจจัยจะต้องเกิดขึ้นอย่างกับคล้ายความบังเอิญ ที่หลายสิ่งหลายอย่างบรรจบกันได้อย่างสวยงามและสมบูรณ์แบบ ชีวิตจึงสวยงามเช่นเดียวกับความหลากหลายบนโลกใบนี้
.
Source :
1. https://www.nature.com/articles/s41598-021-84517-x

2. https://www.techexplorist.com/water-organic.../38139/...

เรียบเรียง: Witit