ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ต่างประเทศ ARGENTINA | 10.03.2021
    เกิดไฟป่าใน Chubut และ RioNegro ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ El Hoyo, Lago Pueblo, El Maitén, El Bolson และ Cholula
    200หลังคาเรือนได้รับผลกระทบ
    7คนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
    ผู้อพยพหลายร้อยคนและมีผู้สูญหายหลายคน

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ต้นกำเนิดไวรัส โควิด-19 (ตอนที่ 1)

    ไทยรัฐ สุขภาพหรรษา หมอดื้อ

    ถึงวันนี้คงไม่ต้องรอให้องค์การอนามัยโลกหรือผู้เชี่ยวชาญที่ไหนมาบอกเรา เราก็คงรู้กันแล้วว่า โควิด-19 คงอยู่กับเราไปอีกนานมากหรือหลายปี

    ทั้งนี้จะอยู่แบบควบคุมได้ให้โผล่ได้กะปริบกะปรอย หรือจะแบบโผล่มาทีเป็นกระจุกใหญ่ๆแพร่ไปทั่ว จะเป็นแบบไหนขึ้นอยู่กับลักษณะของเชื้อ การปฏิบัติตัวของมนุษย์ ว่าระวังตัวกันแค่ไหนเพราะถ้าปล่อยให้มีการติดและแพร่เชื้อกระเจิดกระเจิงจะถือว่าเป็นการสมยอมให้ไวรัสมีการพัฒนาตนเองในทางเก่งกาจขึ้นไปอีก และขึ้นกับวัคซีนว่าจะตามทันการวิวัฒนาการของไวรัสหรือไม่

    ซึ่งนาทีนี้ ในวันวาเลนไทน์พอดี วัคซีนที่ว่าเก่งแสนดีประสิทธิภาพเกือบเต็ม 100 แต่เมื่อเจอกับกลุ่มผ่าเหล่าผ่ากอ หรือวาเรียนท์ (variants) เชื้อสายแอฟริกาหรือเชื้อสายผู้ดีอังกฤษ


    ปรากฏว่าเป็นง่อยกันทั้งหมด และมีทีท่าว่าเชื้อสายอังกฤษจะงอกเงยในอเมริกาอย่างแพร่หลาย นัยว่า ผู้ติดเชื้อสายอังกฤษทวีจำนวนขึ้นเป็นสองเท่าทุกๆ 10 วัน และต่อไปจะมีเชื้อสายหน้าตาผิดเพี้ยนอีกมากมายแค่ไหน (เรื่องทิศทางที่มาของสายวาเรียนท์ต่างๆ อ่านง่ายๆในหนังสือพิมพ์ นิวยอร์กไทม์ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564)

    ทั้งนี้รหัสพันธุกรรมที่ผันแปรไป จะกำหนดรูปร่างของโปรตีนซึ่งมีส่วนอย่างมากในการเกี่ยวข้องกับการเกาะติดกับเซลล์มนุษย์ว่าทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้นไปอีกหรือไม่และในส่วนอื่นของไวรัสจะกำหนดให้เก่งกาจแค่ไหนในการเพิ่มจำนวน

    และขณะนี้เป็นที่ทราบแล้วว่าไวรัสสามารถเข้าไปรบกวนระบบพลังงานของเซลล์ที่เกี่ยวพันกับสภาพเครียดอีอาร์ (ER stress) และไมโตคอนเดรีย

    ซึ่งไวรัสทุกเชื้อสามารถประพฤติปฏิบัติในลักษณะนี้รวมทั้งไวรัสโคโรนาตัวก่อนหน้าโควิด-19 ด้วยซ้ำ แต่โควิด-19 ดูจะเก่งที่สุดและเป็นข้ออธิบายว่าทำไมคนที่ติดเชื้ออ่อนเพลีย ป้อแป้ หมดกำลังวังชาและแม้จะรักษาจนเชื้อหายไปหมด

    แต่ก็ยังมีสุขภาพทรุดโทรมไปแทบทุกอวัยวะหรือไม่ก็ยังมีอาการต่อเนื่องไปอีก แม้ว่าจะหายแล้วเป็นเวลานานกว่าสองสามเดือนแล้วก็ตาม ถ้ารักษาช้าไป


    กลับมาที่ต้นตอของโควิด-19 ความจริงเป็นที่ระแคะระคายว่าจะเกิดตัวใหม่นี้ตั้งแต่ประมาณปี 2003 และ 2004 โดยนักวิทยาศาสตร์ประเทศจีนเข้าไปสำรวจค้างคาวที่แพร่เชื้อซาร์ส ปรากฏว่าค้างคาวเหล่านี้มีไวรัสหน้าตาคล้ายซาร์สอยู่หลายตัว และเป็นที่กริ่งเกรงว่าน่าจะมีการควบรวมประกอบร่างกลายเป็นตัวใหม่ขึ้นมาอีก

    การศึกษาในประเทศเขมร โดยนักวิทยาศาสตร์สถาบันปาสเตอร์ โดยดูเชื้อไวรัสจากค้างคาวมงกุฎ (Rhinolo phus) ที่สะสมได้ในปี 2010 พบว่า ค้างคาว R.shameli ก็มีเชื้อไวรัสที่มีลักษณะเป็นแม่พิมพ์หรือจะเรียกว่าเป็นตัวปั๊มของโควิด-19 และรายงานนี้ตีพิมพ์ในปี 2020

    ในปี 2012 ในประเทศจีนมีคนงานในเหมืองทองแดงเสียชีวิตด้วยปอดบวมสามราย ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร แต่คณะนักวิทยาศาสตร์เข้า ไปสำรวจแล้วพบว่ามูลของค้างคาวที่ชื่อ R.affinis มีเชื้อคล้ายคลึงกับโควิด-19 มากที่สุดโดยมีส่วนที่สามารถจับกับตัวรับในเซลล์ของมนุษย์ได้

    ไวรัสตัวนี้จะเรียกเป็นตัวแม่ของโควิด-19 ก็ว่าได้ และตั้งชื่อเป็น RaTG13 ตามชื่อสายพันธุ์ของค้างคาว และตามสถานที่เมืองที่พบ (Tongquan) ตามด้วยเวลา

    เช่นกัน ตัวอย่างที่ได้จากสัตว์ต่างๆ และมูลค้างคาวที่เก็บในช่วงปี 2013 ถึง 2014 และได้ตีพิมพ์ในปี 2020 จากการสำรวจ 70 แห่งทางตอนใต้ของประเทศเวียดนามพบไวรัสโคโรนา ที่ไม่ใช่โควิด-19 แต่เป็นไวรัสทั้งในกลุ่มอัลฟ่า เบต้าและแกมมา โดยพบได้ 58 จาก 70 แห่ง


    ทั้งนี้ในที่มีการขายหนูเป็นอาหารครบทั้ง 24 แห่งที่ตรวจและในสถานที่ที่เลี้ยงสัตว์ป่าประเภทสัตว์ฟันแทะ จะพบ 17 ใน 28 แห่งและในที่ที่มีค้างคาวและเก็บมูลมาทำปุ๋ยครบ 16 ใน 17 แห่ง
    ซึ่งเป็นเครื่องแสดงว่ามีไวรัสโคโรนาที่แม้ไม่ใช่ โควิด-19 แต่เตรียมพร้อมที่จะรับไวรัสโคโรนาที่เป็นแม่พิมพ์จากค้างคาวเข้ามาผสมควบรวมประกอบร่างใหม่ได้

    และในปี 2020 ในประเทศจีนก็ยืนยันว่ามีไวรัสที่เป็นแม่พิมพ์หรือตัวปั๊มในค้างคาวมงกุฎ R malayanus และตั้งชื่อว่า RmYN02 จากมณฑลยูนนาน

    นอกจากนั้นก็พบว่าไวรัสในตัวลิ่นหรือตัวนิ่ม ก็มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับไวรัสที่พบในค้างคาว ในขณะเดียวกันก็ยังพบเชื้อไวรัสที่คล้ายคลึงใกล้เคียงกับโควิด-19 มากที่สุดโดยมีท่อนที่สามารถจับกับตัวรับและเข้ามาติดเชื้อในมนุษย์ได้คือ RmTG13และในปี 2020 รายงานจากญี่ปุ่นเอง ก็พบไวรัสที่เหมือน YN02 จากค้างคาว R.cornatus.

    หมอดื้อ

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ประมวลข่าว 10 มีนา 2021: พรุ่งนี้ครบรอบ 10 ปีแผ่นดินไหวใหญ่ 3.11

    #ไวรัสสายกลายพันธุ์
    (1) การพบไวรัสสายกลายพันธุ์ในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะ บราซิล อังกฤษ แอฟริกาใต้ ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เฉพาะวันนี้เจอไป 63 ราย

    พบคลัสเตอร์ 13 รายที่ซัปโปโร
    พบ 50 รายที่ โอซาก้า

    นับจากวันที่ 5 ถึงวันนี้ผ่านมา 5 วัน
    จาก 20 จังหวัด 251 ราย → 23 จังหวัด 352 รายแล้ว

    ซึ่งในช่วง 1 อาทิตย์นี้ พบไวรัสสายกลายพันธุ์ 75 ราย จากผู้ติดเชื้อโควิด 7,402 ราย หรือ คิดเป็น 1% (การตรวจเป็นการสุ่มตรวจ ของจริงอาจเยอะกว่านี้)

    อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ยังไม่ทราบ (เนื่องจากมีเคสคลัสเตอร์ในโรงเรียน) แต่สายกลายพันธุ์ติดในเด็กมากกว่าสายพันธุ์ที่ผ่านมา ซึ่งจากสถิติพบว่าสายกลายพันธุ์ติดง่ายในเด็กมากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม

    ⚠️อย่างไรก็ดียังไม่มีใครอาการหนัก

    ✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

    #วัคซีนไฟเซอร์
    (2) ข่าวดีก็คือวัคซีนไฟเซอร์ ออกประกาศผลการทดลองใหม่ว่าวัคซีนใช้ได้ผล กับ สายพันธุ์อังกฤษ บราซิล และ แอฟริกาใต้

    ✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

    #ยอดโควิด
    ยอดผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มวันนี้:
    ยอดเพิ่มวันนี้ +1,316 ราย รวมสะสม 443,018 ราย
    เสียชีวิตเพิ่ม +54 ราย รวมสะสม 8,419 ราย
    คนอาการหนัก 364 ราย (-17)
    หายแล้วสะสม 421,421 ราย

    จังหวัดที่เกินร้อย
    โตเกียว 340 ราย
    ไซตามะ 135 ราย
    คานางาวะ 124 ราย
    ชิบะ 106 ราย

    ✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

    #ข่าวส่งท้าย ทีวีเสนอ Bakery Square ศูนย์รวมขนมปังเปิดใหม่ มีถึง 40 แบรนด์ 500 ชนิด ที่โยโกฮามะทาคาชิมายะ

    หิวเลยค่าาาาาา

    เครดิต:
    NHK https://www3.nhk.or.jp/news/special/coronavirus/data/

    TV: TVAsahi

    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกิดภัยพิบัติน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่รัฐฮาวาย ของสหรัฐฯ ทำให้สำนักงานด้านสภาพอากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ต้องออกคำเตือนหลายฉบับ ให้ประชาชนหลายพื้นที่ระวังภัยน้ำท่วมฉับพลัน
    .
    เจ้าหน้าที่เตือนว่า วันนี้ พื้นที่น้ำท่วมจะขยายวงกว้าง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ขอให้ประชาชนที่ในพื้นที่ใกล้เคียงจุดน้ำท่วมเตรียมหาที่สูงเพื่อหลบภัย
    .
    ด้านนายเดวิด อิเกะ ผู้ว่าการรัฐฮาวาย กล่าวว่า เขาได้เซ็นประกาศฉุกเฉินเพื่อรับมือภัยพิบัติแล้ว โดยคาดว่าหลังฝนหยุดตกและภัยน้ำท่วมหมดไป จะมีทั้งพื้นที่ของรัฐบาลและเอกชนเสียหายอย่างมากทั่วทั้งเกาะ การเซ็นประกาศดังกล่าวจะช่วยให้นำเงินออกมาช่วยเหลือและบรรเทาภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม คาดว่าสภาพอากาศรุนแรงจะเป็นไปถึงวันศุกร์นี้
    .
    วานนี้ พื้นที่ตอนเหนือของเมืองโฮโนลูลู เมืองใหญ่ที่สุดของฮาวาย ได้สั่งให้ประชาชนอพยพแล้ว ขณะที่บนเกาะเมาวี ทซึ่งเผชิญกับฝนตกต่อเนื่องยาวนานก็ได้รับผลกระทบหนัก มวลน้ำซัดทำลายบ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีรายงานสะพาน 2 แห่งที่เสียหายหนัก และสะพานแห่งหนึ่งถล่มลงมา ล่าสุด ได้ออกคำเตือนให้ประชาชนระวังภัยดินถล่มที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ด้วย

    #ข่าวต่างประเทศ #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

    #น้ำท่วม #ดินถล่ม #ภัยพิบัติ #ฮาวาย #สหรัฐ #อเมริกา

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซีย : ภูเขาไฟ ภูเขาไฟ Klyuchevskaya Sopka เป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดบนคาบสมุทรคัมชัตกาของรัสเซียได้ปะทุขึ้นลาวาจำนวนมากไหลลงมาจากเนินเขาขณะที่มีควันพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า คาบสมุทรคัมชัตกาทางตะวันออกไกลของรัสเซียมีภูเขาไฟมากกว่า 300 ลูกซึ่ง 29 ลูกยังคุกรุ่นอยู่ขณะนี้
    : the Siberian Timeseasons Coffee Innovation Capital

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หลังจากที่รัฐบาลเยอรมันประกาศผ่อนคลายมาตรการลง

    ซึ่งในตอนแรกอาจจะดูเหมือนเป็นสัญญาณที่ดีขึ้น หากแต่ว่าในทางปฏิบัติแล้วก็

    "โกลาหลไม่น้อยเลยเช่นกัน"

    เพราะด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิดทำให้ร้านค้าต่างๆ แทบจะเตรียมตัวไม่ทันในการเปิดร้านหรือเพราะต้องศึกษาหรือเตรียมของตามนโยบายต่างๆ ที่จะเป็นเงื่อนไขในการเปิดร้านของในบางกิจการ

    นอกจากนั้นด้วยความที่ประชาชนและร้านค้านั้นอาจจะอัดอั้นจากที่ร้านปิดมานานมาก ร้านค้าที่กลับมาเปิดนั้นก็แห่กันจัดโปรโมชั่นลดกระหน่ำ(ส่วนนึงคือโละของ)

    และคนก็อยากที่จะซื้อของอยู่แล้วจึงแห่กันออกมาเต็มเมือง จนมีภาพเข้าคิวยาวเหยียด ในหลายๆ พื้นที่จน

    "เจ้าหน้าที่ต้องออกมาสั่งปิดร้านค้าชั่วคราว"

    เพราะด้วยความกังวลในเรื่องของการเว้นระยะห่างที่ไม่เพียงพอ และมีคนรวมกันอยู่เป็นจำนวนมากเกินไป

    ซึ่งพ่อบ้านมองว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หากแต่ว่าร้านค้าต่างๆ หลายร้านก็ได้รับทราบและพยายามที่จะปรับระบบในการจัดการคนให้ดียิ่งขึ้นเพื่อป้องกันตัวเลขที่จะเพิ่มขึ้นจนจะทำให้มีการปรับเพิ่มมาตรการ

    ซึ่งเรียกได้ว่านาทีนี้ทุกคนต้องช่วยกัน เช่น

    - ร้านค้าต้องช่วยกันดูแลไม่ให้คนเข้าร้านมากเกินไปและตรวจสอบมาตรการของร้านตัวเองให้ดีที่สุดตาทที่รัฐกำหนด

    - ประชาชนก็อาจจะเลือกช้อปทางออนไลน์ หรืออาจจะไปในเวลาที่คนไม่เยอะ อาจจะไปเดินเล่นแทนถ้าเห็นคนเยอะ หรือรออาทิตย์ถัดไปแล้วค่อยไป และอย่าลืมที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการ (แต่ถ้าคนไม่เยอะก็ลัลล้ากันได้จ้า)

    - เรื่องการเยี่ยมเยียนก็ทำได้เลยตามปกติตามที่รัฐกำหนด แต่อย่าเพิ่งจัดปาร์ตี้ หรืออะไรที่รวมคนกันเยอะๆ เน้อ

    ทั้งนี้เพื่อไม่ให้คลื่นลูกที่ 3 กลับมาและจะทำให้พวกเราสามารถเดินทางกันได้อย่างอิสระและมีความสุขมากขึ้น

    และนอกจากนี้ความโกลาหลดังกล่าวยังไม่นับกับเหตุการณ์ที่การปลอมแปลงเอกสารหรือเหตุการณ์การทุจริตของนักการเมืองในกรณีหน้ากากอนามัยซึ่งเรียกได้ว่าล้วนเป็นเรื่อง

    "ที่ทำให้ปวดหัวเพิ่มขึ้นไม่น้อย"

    แต่ข่าวดีแทรกเข้ามาก็คือวัคซีนนั้นมีปริมาณการผลิตและขนส่งอย่างสม่ำเสมอจนเรียกได้ว่าปัญหามนเรื่องขาดแคลนน่าจะน้อยลงไป และเร็วๆ นี้ก็จะสามารถฉีดกับหมอบ้านของคุณได้แล้วครับ

    "ย้ำนะครับว่า นาทีนี้พวกเราต้องช่วยกัน"

    #พ่อบ้านเยอรมัน #german #เยอรมนี #เยอรมัน

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไฟไหม้พื้นที่ป่าทางด้านทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเพท-ปุย เขตบ้านปางยาง ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ พบว่าทิศทางลมดึงไฟป่าให้ลุกลามขึ้นดอยสุเทพ บางส่วนลุกลามเข้าใกล้เขตชุมชน โดยดับเพลิงและกู้ภัย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ส่งทีมดับเพลิงกู้ภัยพร้อมกับพนักงานจิตอาสา ร่วมกับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่เสือไฟ รวมแล้วกว่า 200 นาย เข้าสนับสนุนช่วยดับไฟป่าจนถึงช่วงดึก แต่ไฟยังคงลุกลามเป็นวงกว้าง

    ขณะ เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ได้โปรยดับไฟไปจำนวน 19 เที่ยว รวมปริมาณน้ำ 57,000 ลิตร ควบคุมไฟให้อยู่ในวงจำกัดได้ประมาณร้อยละ 50 ก่อนจะยุติภารกิจเนื่องจากเข้าสู่ช่วงค่ำ คาดเสียหายแล้วหลายร้อยไร่ มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชายต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ลักลอบเผาป่าได้ 1 คน จากการสอบสวน เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ

    #ไฟป่าเชียงใหม่ #เชียงใหม่
    #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    # รัสเซีย | ภูเขาไฟ Klyuchevskaya Sopka บนคาบสมุทรคัมชัตกา ตื่นขึ้น

    โดย Notes Of The Slav เมื่อ 10.03.2021
    # ภูเขาไฟ # กูนุง #zabedrosky

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดาวเทียมตรวจจับภัยแล้ง
    --------
    @ด้วยเทคนิคการศึกษาความสมบูรณ์พืชหรือที่เรียกว่า Normalized Difference Vegetation Index (NDVI)
    @การเปลี่ยนแปลงความชื้นในดิน Normalized Difference Water Index (NDWI)
    @ดัชนีอุณหภูมิพื้นผิวดิน หรือ Land Surface Temperature (LST)
    ------------------------------------
    ปี 2564 มีการคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีปริมาณฝนมากและมาเร็วกว่าสองปีที่ผ่านมา เนื่องจากไทยกำลังได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ลานีญาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 แต่ก็จะมีบางภูมิภาคที่ปริมาณฝนน้อยประกอบกับฝนที่อาจมีการทิ้งช่วง ทำให้ในบางพื้นที่ของประเทศไทยยังคงต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคกลางที่อาจประสบภัยแล้งต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ต่อจากปี 2562 และปีที่ผ่านมา
    .
    ดาวเทียมสามารถมองเห็นและแยกแยะสิ่งต่างๆบนพื้นโลกโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เริ่มต้นเดินทางจากดวงอาทิตย์กระทบกับพื้นผิวของโลกและสะท้อนไปยังเซนเซอร์ของดาวเทียม ด้วยสัดส่วนการสะท้อนกลับที่แตกต่างกันของสิ่งต่างๆบนพื้นผิวโลกจึงทำให้ดาวเทียมสามารถแยกแยะวัตถุต่างออกจากกันได้ และยังรวมถึงสามารถแยกแยะพืชที่อุดมสมบูรณ์และพืชไม่สมบูรณ์ออกจากกันได้ ซึ่งรวมถึงพืชที่กำลังขาดแคลนน้ำในภาวะภัยแล้งเช่นนี้
    .
    ด้วยหลักการที่ว่ามานั้นภาพถ่ายจากดาวเทียมจึงเป็นหนึ่งในหลักฐานที่ทำให้นักภูมิสารสนเทศใช้เพื่อหาพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง แต่ทว่าความเสียหายจากภัยแล้งจะไม่ปรากฏให้เห็นได้ชัดเจนได้ในเวลาอันสั้นเหมือนกับภัยอื่นๆ เช่น น้ำท่วม ไฟป่า เป็นต้น ดังนั้นการศึกษาหาพื้นที่ประสบภัยแล้งด้วยภาพถ่ายจากดาวเทียมจึงต้องอาศัยการติดตามการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ของปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง
    .
    หนึ่งในเทคนิคการตรวจวัดหาพื้นที่ประสบภัยแล้งด้วยภาพถ่ายจากดาวเทียมนั่นก็คือการศึกษาความสมบูรณ์พืชหรือที่เรียกว่า Normalized Difference Vegetation Index (NDVI) ภายใต้สมมุติฐานที่ว่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบภัยแล้งก็คือพื้นที่ฝนทิ้งช่วงทำให้ขาดแคลนน้ำ ส่งผลให้ต้นไม้พืชพรรณที่เติบโตในบริเวณนั้นไม่สมบูรณ์ไปด้วย

    Normalized Difference Vegetation Index (NDVI) หรือ ดัชนีความแตกต่างพืชพรรณ เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ถึงพื้นที่ภัยแล้งที่ได้มาจากการคำนวณค่าการสะท้อนในภาพถ่ายจากดาวเทียม ซึ่ง NDVI นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายจากพื้นฐานความสัมพันธ์ที่ว่า “บริเวณที่เกิดสภาวะภัยแล้ง มักจะส่งผลต่อความสมบูรณ์ของพืช”

    ปฏิกิริยาธรรมชาติของพืชหรือต้นไม้ที่มีต่อคลื่นแสงหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ดาวเทียมสามารถมองเห็นและแยกแยะสิ่งต่างๆบนผิวโลกได้ ปกติแล้วคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีความถี่และความยาวคลื่นแตกต่างกัน แบ่งออกเป็น คลื่นอัลตราไวโอเลต คลื่นแสงที่ตามองเห็น (แบ่งย่อยเป็นคลื่นแสงสีน้ำเงิน สีเขียว และสีแดง) คลื่นอินฟราเรด คลื่นไมโครเวฟ และคลื่นวิทยุ เป็นต้น

    เมื่อคลื่นเหล่านี้ตกกระทบลงบนใบไม้ คลอโรฟิลล์ในใบไม้จะคอยดูดซับคลื่นแสงที่ตามองเห็น โดยเฉพาะช่วงคลื่นแสงสีน้ำเงินและแสงสีแดง เพื่อกระบวนการสังเคราะห์แสงผลิตเป็นอาหารหล่อเลี้ยงให้แก่ต้นพืช (ใบไม้ส่วนมากจะสะท้อนแสงสีเขียวออกมา จึงทำให้เราเห็นใบไม้เป็นสีเขียว) ส่วนคลื่นอินฟราเรดจะถูกส่วนประกอบอื่นๆภายในโครงสร้างเซลล์ของใบไม้สะท้อนออกมา ในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูงมาก พืชต่างชนิดกัน มีองค์ประกอบเซลล์ต่างกัน ก็สะท้อนคลื่นในสัดส่วนที่ต่างกัน ส่วนพืชชนิดเดียวกัน แต่มีอายุหรือความสมบูรณ์ที่แตกต่างกัน ก็สะท้อนคลื่นในสัดส่วนที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน

    พืชที่สมบูรณ์ คือ พืชที่ได้รับน้ำและสารอาหารเพียงพอต่อการเติบโต มักจะมีค่าสะท้อนในช่วงคลื่นอินฟราเรดสูงกว่าช่วงคลื่นแสงสีแดง (ในกลุ่มคลื่นแสงที่ตามองเห็น) และสำหรับพืชที่ไม่สมบูรณ์จะมีค่าสะท้อนในช่วงคลื่นอินฟราเรดใกล้เคียงหรือต่ำกว่าช่วงคลื่นสีแดง จากการสะท้อนที่แตกต่างกันนี้ จึงนำมาสู่การคำนวณสัดส่วนความแตกต่างระหว่าง 2 ช่วงคลื่นดังกล่าว ทำให้เราแยกพื้นที่ระหว่างพืชที่สมบูรณ์กับพืชที่ไม่สมบูรณ์ออกจากกันได้ ซึ่งเราเรียกว่า ดัชนีความแตกต่างพืชพรรณ หรือ NDVI ที่ได้เกริ่นเอาไว้ตอนต้นนั่นเอง

    สิ่งที่เราจำเป็นต้องเข้าใจอีกอย่างก็คือ ค่า NDVI ที่คำนวณได้จะมีค่าตั้งแต่ -1 ถึง 1 แบ่งเป็น บริเวณพืชที่สมบูรณ์ ค่า NDVI ที่คำนวณได้จะมีค่าใกล้เคียง 1 คือยิ่งมีค่าใกล้เคียง 1 เท่าไรพืชยิ่งมีความสมบูรณ์สูง ส่วนบริเวณพืชไม่สมบูรณ์หรือบริเวณที่เกิดความแห้งแล้ง ค่า NDVI ที่คำนวณได้จะมีค่าใกล้เคียง -1 คือ ยิ่งใกล้เคียง -1 มากเท่าไรหมายถึงแห้งแล้งมาก พืชทิ้งใบไม้ หรือเป็นพื้นที่ที่ไม่มีต้นไม้เลย มาถึงตรงนี้เราก็สามารถอนุมานได้ว่าบริเวณที่ปรากฏพืชที่ไม่สมบูรณ์ก็คือบริเวณที่กำลังประสบภัยแล้งนั้นเอง เพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้นทุกท่านสามารถตรวจสอบแผนที่ NDVI ของประเทศไทยทั้งรายวันและรายสัปดาห์ ได้ที่ http://droughtv2.gistda.or.th/ หรือ http://drought.gistda.or.th/

    ตัวอย่าง เช่น สมมุติว่า นายดำ เกษตรกรหัวใจไฮเทคมีแปลงข้าวโพดอยู่ 2 แปลง ซึ่ง แปลง ก. อยู่ใกล้แหล่งน้ำ ส่วนแปลง ข. อยู่ห่างแหล่งน้ำออกไป ในกลางเดือนกุมภาพันธ์ย่างเข้าสู่หน้าแล้งฝนทิ้งช่วงมาก็นานแล้วแบบนี้ นายดำ จึงได้ใช้เครื่องมือตรวจสอบการสะท้อนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปตรวจสอบกับต้นข้าวโพดของเขาในทั้งสองแปลง เพื่อจะได้ทราบว่าแปลงใดที่กำลังเจอกับปัญหาภัยแล้ง แปลง ก. วัดค่าเฉลี่ยการสะท้อนในช่วงคลื่นอินฟราเรด(NIR) ได้ 0.5 และคลื่นแสงสีแดง(RED) ได้ 0.08 ส่วนแปลง ข. วัดค่าเฉลี่ยการสะท้อนในช่วงคลื่นอินฟราเรด(NIR) ได้ 0.4 และคลื่นแสงสีแดง(RED) ได้ 0.3

    เมื่อนำมาเข้าสมการ NDVI ที่ว่า NDVI = (NIR – RED)/(NIR + RED) แปลง ก. ก็จะได้ค่า NDVI เท่ากับ 0.72 ส่วนแปลง ข. ได้ค่า NDVI เท่ากับ 0.14 นั่นหมายความในบริเวณพื้นที่แปลง ข. เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของพืช หนึ่งในนั้นอาจจะเป็นเพราะการขาดน้ำของต้นข้าวโพด เพราะที่ตั้งของแปลงอยู่ไกลจากแหล่งน้ำทำให้ความชื้นในดินลดต่ำลงไปตามระยะทาง

    สาเหตุที่มีการวิเคราะห์ค่า NDVI ทั้งรายวันและรายสัปดาห์ก็เนื่องมาจาก ข้อมูลรายวันนั้นรวดเร็วต่อการอัพเดทสถานการณ์ความแห้งแล้งแต่บางพื้นที่ถูกบดบังด้วยเมฆ จึงทำให้ขาดข้อมูล NDVI ตรงส่วนนั้นไป สำหรับข้อมูลรายสัปดาห์ ก็คือการรวมข้อมูลรายวันทั้ง 7 วันเข้าด้วยกันเนื่องจากระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ พื้นที่ภัยแล้งมักจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก อีกทั้งเพื่อเติมเต็มข้อมูลบางส่วนที่ถูกเมฆบังไปในข้อมูลรายวันนั้นเอง

    ทั้งนี้ การวิเคราะห์ภัยแล้งจากการตรวจสอบค่า NDVI ด้วยข้อมูลชุดเดียว (1 วัน หรือ 1 สัปดาห์) สามารถบอกพื้นที่แห้งแล้งได้ระดับหนึ่งแต่ไม่สมบูรณ์นัก หากเราต้องการผลที่แม่นยำขึ้นจำเป็นต้องเปรียบเทียบกับข้อมูล NDVI ในอดีตเป็นช่วงเวลายาวๆ โดยเฉพาะหากเปรียบเทียบแนวโน้มของภัยแล้งเทียบกับดัชนีตัวอื่นๆ เช่น NDWI, VCI, TCI, VHI เป็นต้น ในช่วงเวลาเดียวกันก็จะยิ่งทำให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับสภาวะภัยแล้งในพื้นที่มากยิ่งขึ้น

    จะเห็นได้ว่าการตรวจสอบภัยแล้งด้วยดาวเทียมนั้น ดาวเทียมไม่สามารถตรวจวัดพื้นที่ประสบภัยแล้งได้โดยตรง เช่นเดียวกับพื้นที่น้ำท่วม พื้นที่ไฟป่า และพื้นที่เผาไหม้จากไฟป่า ที่มีขอบเขตความเสียหายที่ชัดเจน ดังนั้นการตรวจวัดพื้นที่ภัยแล้งจำเป็นต้องอาศัยความสัมพันธ์ทางธรรมชาติในหลายมิติ ซึ่ง NDVI เป็นเพียงมิติความสัมพันธ์ระหว่างความสมบูรณ์ของพืชกับความแห้งแล้งเท่านั้น ยังมีอีกหลายดัชนีที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย อาทิเช่น ความชื้น อุณหภูมิพื้นผิว ไฟป่า และปริมาณน้ำฝน เป็นต้น และควรนำมาวิเคราะห์ร่วมกัน

    นอกจากความสมบูรณ์ของพืชแล้ว การเปลี่ยนแปลงความชื้นในดินที่ลดลงในยามที่ภัยแล้งมาเยือนนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งดัชนีที่สามารถระบุพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งได้ด้วยภาพถ่ายจากดาวเทียม ซึ่งวิธีนี้เรียกว่า Normalized Difference Water Index (NDWI)

    อุณหภูมิพื้นผิวดิน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีนำมาศึกษาด้วยเหตุที่ว่าหากอุณภูมิสูงก็ยิ่งเร่งให้การระเหยของน้ำในดินให้หายไปเรื่อยๆ ซึ่งเราเรียกดัชนีที่ได้จากวิธีนี้ว่า ดัชนีอุณหภูมิพื้นผิวดิน หรือ Land Surface Temperature (LST)
    ดัชนีที่กล่าวมาข้างต้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของดัชนีที่ใช้ตรวจวัดความแห้งแล้งบนภาพภ่ายจากดาวเทียมที่นิยมใช้กันในปัจจจุบัน หากนำมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลอุตุนิยมวิทยา เช่น ดัชนีปริมาณน้ำฝนมาตราฐาน หรือ Standardized Precipitation Index (SPI) ก็จะสามารถนำมาวิเคราะห์หาพื้นที่ประสบภัยแล้งได้อย่างใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด เพื่อนำไปสู่มาตราการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งจริง

    ------------------------------------------------------------------
    #ดาวเทียม #Gistda #ภัยแล้ง #NDVI #waterfocus
    เรียบเรียงข้อมูล
    https://www.gistda.or.th/main/en/no...mSbCunI1McUsHRoGaPkjCqYElJCvEbfh0Mz007vj1hWDA
    http://drought.gistda.or.th/

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศูนย์วิจัยกสิกร คาดภัยแล้งปี64 ไม่รุนแรง ประเมินราคาข้าวนาปรังปรับตัวลดลง คาดการณ์เฉลี่ย 8,800-9,000 บาทต่อตัน
    -------------------
    @ผลผลิตข้าวนาปรัง ปี 64 4.4-4.7 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5-5.5
    @ ภัยแล้งกระทบผลผลิตในวงจำกัด
    @การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้สินค้าเกษตรอยู่ในภาวะที่เติบโตได้ไม่ดีเท่าที่ควร

    สถานการณ์ภัยแล้งในปี 2564 (มกราคม–เมษายน 2564) นับว่าไม่รุนแรง และน่าจะมีความรุนแรงน้อยกว่าปี 2563 พิจารณาจากปริมาณน้ำในเขื่อนที่ลดลงเพียงร้อยละ 7.3 (YoY) ซึ่งเป็นการลดลงเฉพาะในภาคตะวันตกเท่านั้น ขณะที่ภาคอื่นๆ ยังมีปริมาณน้ำในเขื่อนมากกว่าปีก่อน

    ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า จากภาวะภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ในบางพื้นที่จนต่อเนื่องไปถึงเดือนเม.ย. น่าจะไม่กระทบต่อผลผลิตพืชเกษตรฤดูแล้งหลักอย่างข้าวนาปรังอย่างมีนัยสำคัญ หรือมีผลกระทบอยู่ในวงจำกัด และเป็นผลกระทบแค่ในระยะสั้นเท่านั้น โดยคาดว่า ผลผลิตข้าวนาปรังน่าจะขยับขึ้นได้เล็กน้อย (เมื่อเทียบจากฐานที่ต่ำในปีก่อน) ไปอยู่ที่ราว 4.4-4.7 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5-5.5

    ขณะที่ในแง่ของราคาคาดการณ์เฉลี่ยข้าวนาปรังอาจอยู่ที่ 8,800-9,000 บาทต่อตัน หรือลดลงร้อยละ 1.5-3.7 (YoY) นอกจากนี้ มูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจอาจไม่เกิดขึ้นหากเป็นกรณีปริมาณน้ำฝนคาดการณ์มาตามปกติ ขณะที่หากเป็นกรณีปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ก็อาจทำให้มูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นน้อยกว่า 1,000 ล้านบาท

    จากการที่ไทยได้เข้าสู่ปรากฎการณ์ลานีญากำลังอ่อนตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ทำให้เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่องทั่วทุกภาคของประเทศ และได้ส่งอานิสงส์ไปยังปริมาณน้ำในเขื่อนให้เพิ่มขึ้นด้วย ต่อเนื่องมาในปี 2564 ที่แม้ไทยจะยังไม่ได้มีประกาศเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ แต่ก็เริ่มสัมผัสได้ถึงอากาศที่ร้อนอบอ้าวมากขึ้น ทั้งนี้ หากพิจารณาปริมาณน้ำในเขื่อน พบว่า ภาพรวมระดับน้ำในเขื่อน ณ 23 กุมภาพันธ์ 2564 มีปริมาตรน้ำใช้การได้ในเขื่อนทั้งประเทศอยู่ที่ 15,294 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือลดลงเพียงร้อยละ 7.3 ซึ่งเป็นการลดลงเฉพาะในภาคตะวันตกเท่านั้น ขณะที่ในภาคอื่นอย่างภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ยังมีปริมาตรน้ำใช้การได้มากกว่าปีก่อน จึงคาดว่า สถานการณ์ภัยแล้งในปี 2564 น่าจะมีความรุนแรงน้อยกว่าปีก่อน เนื่องจากเกษตรกรยังสามารถพึ่งพาน้ำในเขื่อนเพื่อการเกษตรได้ในระดับหนึ่ง

    ข้าวนาปรัง เป็นพืชที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในช่วงฤดูแล้ง (ม.ค.-เม.ย.) เนื่องจากเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่เกษตรกรปลูกในฤดูแล้ง และต้องอาศัยน้ำในเขื่อนเป็นหลัก อีกทั้งยังตรงกับฤดูกาลเก็บเกี่ยวซึ่งมีสัดส่วนผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าร้อยละ 72.3 ของผลผลิตข้าวนาปรังทั้งปี และข้าวนาปรังยังคิดเป็นผลผลิตราวร้อยละ 14.4 ของผลผลิตข้าวทั้งประเทศ โดยหากพิจารณาปริมาณน้ำในเขื่อนที่มีแนวโน้มมากกว่าปีก่อนจากอิทธิพลของปรากฎการณ์ลานีญา ประกอบกับเป็นช่วงที่เกษตรกรได้ผ่านพ้นช่วงการเพาะปลูกข้าวนาปรังไปหมดแล้ว (ช่วงที่ใช้น้ำเยอะในการเพาะปลูก) ทั้งในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเหลือแค่เพียงรอการเก็บเกี่ยวผลผลิต (ช่วงที่ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมากนัก) จำนวนมากในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.เท่านั้น

    หมายความว่า ณ เดือนก.พ.เกษตรกรได้มีการปลูกข้าวนาปรังไปหมดแล้ว แต่ยังไม่มีการเก็บเกี่ยว เมื่อผนวกกับการคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนในระยะ 2 เดือนข้างหน้านี้ (มี.ค.-เม.ย.) ที่คาดว่าจะมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งประเทศส่วนใหญ่สูงกว่าค่าปกติราวร้อยละ 20 ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำฝนมากในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. และอาจเกิดพายุฤดูร้อนเข้ามาในปีนี้ถึง 4 ลูก ทำให้ความเสี่ยงด้านการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรจนทำให้ผลผลิตเสียหายน่าจะอยู่ในวงจำกัด

    ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า จากภาวะภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ในบางพื้นที่ ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนเม.ย. น่าจะไม่กระทบต่อผลผลิตพืชเกษตรฤดูแล้งหลักอย่างข้าวนาปรังอย่างมีนัยสำคัญ หรือมีผลกระทบอยู่ในวงจำกัด และเป็นผลกระทบแค่ในระยะสั้นเท่านั้น โดยคาดว่า ผลผลิตข้าวนาปรังน่าจะขยับขึ้นได้เล็กน้อยไปอยู่ที่ราว 4.4-4.7 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5-5.5 (YoY) จากอิทธิพลของปรากฎการณ์ลานีญา (เมื่อเทียบจากฐานที่ต่ำในปีก่อน) ที่จะส่งผลให้มีน้ำฝนเข้ามาเติมน้ำในเขื่อนได้ในเดือนมี.ค.-เม.ย. ทำให้เอื้อต่อการทำการเกษตร

    อย่างไรก็ดี ระดับปริมาณผลผลิตคาดการณ์ข้าวนาปรังนี้ ก็ยังเป็นระดับที่นับว่าน้อยเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต (ปี 2559-2563) ที่ราว 5.6 ล้านตัน แม้จะมีปริมาณน้ำในเขื่อนที่ดีขึ้นและแรงจูงใจจากมาตรการภาครัฐในปีนี้ที่ทำให้เกษตรกรยังคงปลูกข้าวนาปรังต่อไป เช่น นโยบายประกันรายได้เกษตรกร หรือเงินค่าบริหารและพัฒนาคุณภาพข้าวไร่ละ 500 บาท เป็นต้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้ผลผลิตข้าวนาปรังกลับไปสู่ค่าเฉลี่ยในอดีตได้ โดยในปี 2564 จะเป็นปีที่กำลังปรับฐานผลผลิตข้าวนาปรังให้ทยอยเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่วงรอบของลานีญา ขณะที่ในแง่ของราคาคาดการณ์เฉลี่ยข้าวนาปรัง อาจอยู่ที่ 8,800-9,000 บาทต่อตัน หรือลดลงร้อยละ 1.5-3.7 (YoY)

    สำหรับผลกระทบต่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจในช่วงภัยแล้งในฤดูกาล (ม.ค.-เม.ย.2564) โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า มูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจอาจไม่เกิดขึ้นหากเป็นกรณีปริมาณน้ำฝนคาดการณ์มาตามปกติ ขณะที่หากเป็นกรณีปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ก็อาจทำให้มูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นน้อยกว่า 1,000 ล้านบาท เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อผลผลิตข้าวนาปรังบางส่วน ซึ่งนับว่ายังเป็นผลกระทบในวงจำกัดเท่านั้น ทั้งนี้ คงต้องติดตามระยะเวลาและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นระยะ และต้องติดตามสภาพภูมิอากาศในช่วงระยะ 2 เดือนข้างหน้า เนื่องจากยังไม่สิ้นสุดฤดูแล้งและยังอาจมีพายุฤดูร้อนเพิ่มเติมเข้ามาได้อีก

    อย่างไรก็ตาม แม้การประเมินผลกระทบจากภัยแล้งจนถึงขณะนี้ว่ายังไม่มีผลกระทบต่อผลผลิตพืชเกษตรหลักของไทยอย่างข้าวนาปรังอย่างมีนัยสำคัญ แต่ในระดับภูมิภาค ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือย่อมส่งผลกระทบค่อนข้างมากต่อคนในท้องที่ที่เดิมครัวเรือนส่วนใหญ่ก็เผชิญความยากลำบากอยู่ก่อนแล้ว จากปัญหารายได้เกษตรกร การมีงานทำ ปัญหาในภาคธุรกิจ SMEs นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่สิ้นสุด จะยิ่งเป็นปัจจัยฉุดรั้งให้ภาพรวมความต้องการสินค้าเกษตรอยู่ในภาวะที่เติบโตได้ไม่ดีเท่าที่ควร

    #ข้าวนาปรัง #ราคาข้าวนาปรัง #ภัยแล้ง #ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #เกษตกร #ราคาพืชผลทางการเกษตร #ผลผลิต #นโยบายประกันรายได้ #waterfocus
    ---------------
    ภาพ นาข้าว จากเฟชบุ๊กกรมทรัพยากรน้ำ
    ข้อมูลจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-econ/business/Pages/Drought-z3192.aspx๑
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯวิตกกังวล จีนอาจรุกรานไต้หวัน ด้วยกองกำลังทหาร ภายใน 6 ปี นับจากนี้
    .
    1/ อังคารที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา มีการประชุมคณะกรรมาธิการด้านอาวุธของวุฒิสภาสหรัฐฯ ช่วงหนึ่งของการประชุม พล.ร.อ.ฟิล เดวิดสัน ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก พูดถึงสถานการณ์ความมั่นคงของไต้หวันในเชิงวิตกกังวลว่า ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงสูง
    .
    2/ “ไต้หวันอาจถูกโจมตี อาจถูกรุกรานจากทหารจีนภายในระยะเวลาอีก 6 ปีข้างหน้า นั่นคือภายในปี 2027” พล.ร.อ.ฟิล เดวิดสัน กล่าว (ภาพ พล.ร.อ.ฟิล เดวิดสัน อยู่ในคอมเมนต์แรกครับ)
    .
    3/ ที่กล่าวเช่นนี้ พล.ร.อ.ฟิล เดวิดสัน ให้เหตุผลว่า เป็นเพราะจีนเดินหน้าความใฝ่ฝันของตนเองในการแทนที่สหรัฐฯ มีบทบาทสำคัญต่อโลกแทนสหรัฐฯให้ได้ภายในปี 2050
    .
    4/ นอกจากจีนจะมีเป้าหมายที่ไต้หวันแล้ว พล.ร.อ.ฟิล เดวิดสัน บอกด้วยว่า เกาะกวม หนึ่งในดินแดนของสหรัฐฯก็มีแนวโน้มเป็นเป้าหมายทางทหารของรัฐบาลจีนเช่นกัน
    .
    5/ ที่กล่าวเช่นนี้ เพราะกองทัพจีนเคยเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วว่า ฝูงเครื่องบินจะทะยานขึ้นจากรันเวย์ เพื่อยิงขีปนาวุธทำลายเป้าหมาย
    .
    6/ พล.ร.อ.ฟิล เดวิดสัน บอกว่า เป้าหมายนั้นมีลักษณะตรงทุกประการกับฐานทัพอากาศแอนเดอร์เซนของสหรัฐฯที่ตั้งอยู่บนเกาะกวม
    .
    7/ ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯมีขึ้นในห้วงเวลาที่จีนมีการประชุมสองสภา ประจำปี 2021 ประเด็นใหญ่ของการประชุมคือ รัฐบาลจีนโดยนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของจีน ย้ำว่า จีนยึดหลักการจีนเดียว เป็นเส้นตายที่เปลี่ยนไม่ได้อย่างเด็ดขาด
    .
    8/ หวัง อี้ ระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเกี่ยวกับไต้หวันหรือฮ่องกง จะไม่มีการเจรจาใดๆทั้งสิ้น
    .
    9/ รัฐบาลจีนจึงขอย้ำเตือนไปยังรัฐบาลสหรัฐฯชุดใหม่ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่า ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับไต้หวันและฮ่องกง มีความละเอียดอ่อนสูง สหรัฐฯไม่ควรเดินบนเส้นทางอันตราย สหรัฐฯไม่ควรล้ำเส้นอย่างที่โดนัลด์ ทรัมป์ เคยทำมาก่อน
    .
    ที่มา:
    -China could invade Taiwan in next six years, top US admiral warns | www.theguardian.com/world/2021/mar/10/china-could-invade-taiwan-in-next-six-years-top-us-admiral-warns
    .
    -Wang Yi briefs media on China's foreign policy, diplomatic relations | https://news.cgtn.com/news/2021-03-...oreign-policy-relations-Yr4rDiIBby/index.html
    .
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ตั้งแต่ปี 2542 ถึง 2555 พบว่ามลพิษทางอากาศจากไฟป่ามีผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่ามลพิษจากแหล่งอื่นๆ ถึง 10 เท่า โดยฤดูไฟป่าปี 2563 เป็นฤดูที่เลวร้ายที่สุดของแคลิฟอร์เนีย มีพื้นที่ไฟไหม้ 4.1 ล้านเอเคอร์และไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่สุด 5 ใน 6 ครั้งที่มีการบันทึกไว้
    .
    "ชาวอเมริกัน 1 ใน 7 ต้องเผชิญกับมลพิษในระดับอันตรายเป็นเวลาอย่างน้อย 1 วันและควันไฟจากไฟไหม้ครั้งใหญ่ 20 ครั้งทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีส้ม และมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก ระบุ ซึ่งงานวิจัยชิ้นที่ตีพิมพ์ในวาสรสาร Nature Communications เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมานี้
    .
    การศึกษาวิจัยครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่แคลิฟอร์เนียตอนใต้ พวกเขาพบว่าการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากปัญหาระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืดและโรคปอดบวมเพิ่มขึ้น 10% ในช่วงที่ควันจากไฟป่าปกคลุม ขณะที่ระดับมลพิษใกล้เคียงกันมาจากสาเหตุอื่นๆ มีการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 1%
    .
    ก่อนหน้านี้เคยมีการศึกษาผลกระทบของควันจากไฟป่าเกิดขึ้นแล้ว และได้คำตอบที่บ่งชี้ว่า มลพิษ PM2.5 ของควันไฟป่านั้นอันตรายกว่ามลพิษจากแหล่งอื่นๆ ไม่ว่าจากยานพาหนะหรือโรงงานอุตสาหกรรม แต่ที่ผ่านมาเป็นเพียงการศึกษาภายในห้องแล็บ ตรงกันข้ามกับการศึกษาใหม่นี้ที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากสภาพแวดล้อมจริง
    .
    งานวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อเดือนที่แล้วก็แสดงให้เห็นว่ามลพิษที่เกี่ยวข้องกับไฟป่าคิดเป็นครึ่งหนึ่งของ PM2.5 ทั่วสหรัฐอเมริกาทางตะวันตกและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เพิ่มความเสี่ยงไฟป่าในสหรัฐอเมริกามากขึ้น และขยายฤดูไฟป่าของแคลิฟอร์เนียมากขึ้น ซึ่งจะต้องหันมาควบคุมไฟหรือนำการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในอดีตมาใช้แก้ปัญหา

    อ้างอิง
    March 9, 2021 "Wildfire Smoke Is More Damaging to Respiratory Health Than Other Sources of Air Pollution". [SMITHSONIANMAG]
    March 5, 2021 "Wildfire smoke impacts respiratory health more than fine particles from other sources: observational evidence from Southern California". [Nature Communications]

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เฮลิคอปเตอร์ KA-32 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขึ้นบินโปรยน้ำดับไฟป่าอย่างเร่งด่วนหลังได้รับแจ้งจากนายอำเภอหางดง จ.เชียงใหม่ ว่าเกิดไฟป่าบริเวณ บ้านปางยาง ต.บ้านปง อ.หางดง ทางด้านทิศใต้ของดอยสุเทพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับไฟภาคพื้นดินไม่สามารถเข้าระงับไฟจุดดังกล่าวได้ และไฟเริ่มขยายวงกว้างมาทางดอยสุเทพ ในเบื้องต้นพบว่า จุดเกิดไฟป่าลุกลามเป็นบริเวณกว้างและอยู่ใกล้กับชุมชน

    ที่มา : Kowit Boondham
    ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก บก.คฟป.ทภ.3 สน.

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วอชิงตันรับกำลังคุยปักกิ่งนัดประชุมระดับจนท.อาวุโส ด้านผบ.มะกันชี้จีนตรียมบุกไต้หวันใน6ปี

    เจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารของไบเดนแย้ม สหรัฐฯกำลังคุยกับจีนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายสัปดาห์นี้ตัวไบเดนเองมีกำหนดประชุมทางไกลกับอีก 3ผู้นำของ “กลุ่มคว็อด” ที่มีเป้าหมายในการต่อต้านการแผ่ขยายอิทธิพลของพญามังกร ขณะที่ปักกิ่งโต้คำแถลงของนายพลอเมริกันซึ่งระบุว่าจีนอาจบุกไต้หวันภายใน 6 ปี โดยชี้เป็นแค่ข้ออ้างของวอชิงตันในการเพิ่มงบประมาณกลาโหม ขยายกองกำลัง และแทรกแซงกิจการภายในของเอเชีย

    เมื่อวันอังคาร (9 มี.ค.) ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวคนหนึ่งว่า อเมริกาและจีนกำลังหารือกันเกี่ยวกับการประชุมกันที่รัฐอะแลสการะหว่างแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กับหยาง เจียฉี สมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่เป็นมือวางสูงสุดด้านการต่างประเทศของปักกิ่งในเวลานี้ ซึ่งจะถือเป็นการนัดหารือครั้งแรกนับจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม

    วันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งในคณะบริหารของไบเดนยอมรับกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า อเมริกากำลังหารือกับจีนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสระดับสูงมากในเร็วๆ นี้ แต่จะไม่ใช่ระดับประธานาธิบดี

    ด้านเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว ตอบคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่การประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่อะแลสกาว่า คณะบริหารหารือโดยตรงกับจีน และขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดขั้นสุดท้ายหรือมีการยืนยันใดๆ ออกมา

    ทั้งนี้ คณะบริหารของไบเดนประกาศทบทวนองค์ประกอบต่างๆ ในนโยบายต่อจีน ขณะที่สัมพันธ์ระหว่างกันได้ตกต่ำสุดขีดในยุคอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    เดือนที่แล้ว หวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ได้ออกมาเรียกร้องปรับความสัมพันธ์กับอเมริกา และเร่งเร้าให้วอชิงตันหยุด “ป้ายสี” พรรคคอมมิวนิสต์และเลิกแทรกแซงกิจการภายในของจีน ซึ่งกระตุ้นให้กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมากกล่าวหาว่า ปักกิ่งพยายามปัดความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติต่อมุสลิมอุยกูร์ในมณฑลซินเจียงที่วอชิงตันระบุว่าเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”

    คณะบริหารของไบเดนยังส่งสัญญาณว่า จะคงการกดดันจีนเรื่องแนวทางปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมด้านการค้าต่อไป

    นอกจากนั้น ไบเดนยังมีนัดประชุมออนไลน์กับผู้นำกลุ่มคว็อดอีก 3 ประเทศคือ อินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลียในวันศุกร์นี้ (12) เพื่อส่งเสริมแนวทางการทูตในเอเชียและต่อต้านการแผ่ขยายอิทธิพลของพญามังกร

    เกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้า ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันพุธ (10) ว่า กลุ่มคว็อดควรดำเนินการสอดคล้องกับแนวโน้มพัฒนาการอย่างสันติและการร่วมมือที่ส่งผลดีต่อทุกฝ่าย

    เจ้ายังตอบโต้คำแถลงของ พลเรือเอกฟิลิป เดวิดสัน ผู้บัญชาการของกองบัญชาการทหารอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ ซึ่งไปให้ปากคำที่วุฒิสภาในวันอังคาร (9) ว่า จีนอาจบุกไต้หวันภายใน 6 ปี เพื่อเร่งรัดเป้าหมายในการแย่งชิงตำแหน่งมหาอำนาจทางทหารในเอเชียจากอเมริกาภายในปี 2050 โดยโฆษกของปักกิ่งผู้นี้บอกว่า นี่เป็นการกุเรื่องเพื่อโหมกระพือคำกล่าวหาเกี่ยวกับการคุกคามทางทหารของปักกิ่ง อีกทั้งยังเป็นข้ออ้างในการเพิ่มงบประมาณกลาโหม ขยายกองกำลัง และแทรกแซงกิจการภายในของเอเชีย

    ทั้งนี้ ในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการการทหารวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร เดวิดสันสำทับว่า เกาะกวมของอเมริกากำลังเป็นเป้าหมายการโจมตีของจีน โดยอ้างอิงวิดีโอที่กองทัพจีนเผยแพร่ก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นภาพการจำลองการโจมตีฐานทัพบนเกาะแห่งหนึ่งที่คล้ายฐานทัพอเมริกันในดิเอโก การ์เซีย และกวม

    เดวิดสันเรียกร้องให้รัฐสภาอนุมัติงบประมาณสำหรับการติดตั้งระบบขีปนาวุธป้องกันทางอากาศยาน “เอจิส อะชอร์” ซึ่งสามารถสกัดขีปนาวุธทรงพลังที่สุดของจีน ขึ้นที่บนเกาะกวม เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการคุกคามในอนาคต

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชัยชนะของไบเดน!สภาคองเกรสเห็นชอบขั้นสุดท้ายแพ็คเกจเยียวยาโควิด$1.9ล้านล้าน

    สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯในวันพุธ(10มี.ค.) เห็นชอบขั้นสุดท้ายหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ไฟเขียวร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ มอบชัยชนะครั้งสำคัญหนแรกแก่ประธานาธิบดีโจ โบเดน

    พวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่า มาตรการนี้ซึ่งจะจัดสรรเงิน 400,000 ดอลลาร์ สำหรับจ่ายเงินโดยตรงสู่อเมริกันชนส่วนใหญ่รายละ 1,400 ดอลลาร์ และ 350,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับช่วยเหลือรัฐบาลรัฐต่างๆและรัฐบาลท้องถิ่น เช่นเดียวกับขยายมาตรการลดหย่อนภาษีบุตร และเพิ่มเงินทุนสำหรับโครงการแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 จะช่วยเติมพลังครั้งมหาศาลแก่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

    "ความช่วยเหลืออยู่นี่แล้ว" ไบเดน เขียนบนทวิตเตอร์หลังจากการโหวต ในขณะที่ทำเนียบขาวเผยว่าประธานาธิบดีรายนี้มีแผนลงนามในร่างดังกล่าววันศุกร์(12มี.ค.)

    มติเห็นชอบ 220 ต่อ 211 เสียง ในสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯที่เดโมแครตครองเสียงข้างมาก เกิดขึ้นโดยไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากรีพับลิกันเลยแม้แต่คนเดียว ตามหลังการโต้เถียงกันแบบแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในสภาคองเกรสนานหลายสัปดาห์ โดยพรรคเดโมแครตให้คำจำกัดความร่างกฎหมายนี้ ว่าเป็นการตอบสนองที่สำคัญยิ่งต่อโรคระบาดใหญ่ ซึ่งคร่าชีวิตอเมริกันชนไปแล้วมากกว่า 528,000 ราย และหลายล้านคนต้องตกงาน

    สมาชิกรีพับลิกันมองว่ามาตรการนี้ใช้งบประมาณสูงเกินไป เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ได้มีการอนุมัติเงินแพ็กเกจ 9 แสนล้านดอลลาร์ไปแล้ว และเต็มไปด้วยลำดับความสำคัญที่เปล่าประโยชน์ พร้อมระบุว่าระยะเลวร้ายที่สุดของวิกฤตสาธารณสุขครั้งหนักหนาที่สุดในรอบกว่าศตวรรษ ส่วนใหญ่ผ่านพ้นไปแล้ว และเศรษฐกิจกำลังมุ่งหน้าสู่การฟื้นตัว

    พรรคเดโมแครตกระตือรือร้นผลักดันร่างกฎหมายสุดท้ายสู่โต๊ะทำงานของไบเดน เพื่อให้เขาลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายก่อนวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานในปัจจุบันจะหมดอายุลง

    แม้สมาชิกรีพับลิกันจำนวนมากสนับสนุนแผนเยียวยากระทบโควิด-19 ภายใต้รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่กลับไม่มีสมาชิกรีพับลิกันรายใดเลยที่ลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวในสภาผู้แทนราษฏรหรือวุฒิสภา

    อย่างไรก็ตามร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชน โดยผลสำรวจความคิดเห็นทั่วประเทศที่จัดทำโดยรอยเตอร์สและอิปซอส ระหว่างวันที่ 8-9 มีนาคม พบว่ามีชาวอเมริกาถึง 70% ที่สนับสนุนมาตรการนี้ ในนั้นรวมถึงเสียงส่วนใหญ่ของเดโมแครตและรีพับลิกัน โดยในหมู่ชาวรีพับลิกัน พบว่ามี 5 จาก 10 คนที่สนับสนุนแผนนี้ ส่วนชาวเดโมแครต สนับสนุนแพ็คเกจดังกล่าวถึง 9 ใน 10 คน

    ร่างกฎหมายนี้อาจเป็นการวางเดิมพันขั้นสูงสำหรับทั้งสองพรรค โดยหากประสบความสำเร็จในการกระตุ้นเศรษฐกิจ มันก็น่าจะช่วยเพิ่มความรุ่งเรืองทางการเมืองแก่พรรคเดโมแครต ในขณะที่พวกเขาพยายามรักษาเสียงข้างมากปริ่มน้ำในสภาคองเกรสไปจนถึงศึกเลือกตั้งกลางเทอมปี 2022

    ทั้งนี้มีสมาชิกเดโมแครตรายเดียว นั่นก็คือ จาเรด โกลเดน จากรัฐเมน ที่โหวตคัดค้านแพ็คเกจเยียวยา โดยเขาระบุว่างบประมาณที่ค่อนข้างสูงจะก่ออันตายต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

    ด้วยที่เดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฏร 221-211 เสียง พวกเขาจึงยังสามารถสูญเสียคะแนนเสียงของสมาชิกพรรคบางส่วน และไม่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากรีพับลิกัน ในการผ่านร่างกฎหมาย

    เวอร์ชันที่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา ในศึกอภิปรายแบบมาราธอนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ถอนข้อเสนอปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแก่พนักงานของรัฐบาลกลางเป็น 15 ดอลลาร์ตต่อชั่วโมงภายในปี 2025 ยกระดับความเข้มงวดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือโดยตรง 1,400 ดอลลาร์ กำหนดเพดานสูงสุดไว้ที่บุคคลที่มีรายได้ต่ำกว่า 80,000 ดอลลาร์ต่อปี ปรับลดวงเงินเพิ่มสวัสดิการว่างงานจาก 400 ดอลลาร์ เหลือ 300 ดอลลาร์ และเล็งเป้าช่วยเหลืออย่างเจาะจงแก่รัฐบาลรัฐและรัฐบาลท้องถิ่นบางแห่ง ไปจนถึงเหล่าชุมชนขนาดเล็ก

    ประกอบกับความพยายามยกระดับโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้เร็วขึ้นและอัตราผู้ติดเชื้อกำลังชะลอตัวลง การใช้จ่ายเงินครั้งมโหฬารนี้จึงถูกมองในฐานะตัวขับเคลื่อนหลัก สำหรับผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐฯสู่แนวโน้มที่สดใสอย่างรวดเร็ว

    ด้วยเวลานี้ร่างเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ผ่านพ้นไปแล้ว ความสนใจจึงหันไปสู่กฎหมายสำคัญต่างๆนานาที่ไบเดนวางเป้าหมายผลักดันผ่านความเห็นชอบ ในนั้นรวมถึงการลงทุนครั้งใหญ่ในโครงสร้างพื้นฐาน ปฏิรูปคนเข้าเมืองและประเด็นโลกร้อน

    (ที่มา:รอยเตอร์ส)

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผลกระทบจากการโดนจีนสั่งห้ามนำเข้า ทำให้สับปะรดไต้หวันกลายเป็นที่ต้องการของตลาดในหลายประเทศทันที

    วันที่ 10 มี.ค. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ผู้บริโภคหลายชาติในเอเชียเพิ่มยอดการสั่งซื้อสับปะรดจากไต้หวัน เพื่อเป็นการตอบโต้มาตรการกีดกันทางการค้าของจีน ที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์

    จีนประกาศสั่งห้ามไม่ให้นำเข้าสับปะรดจากไต้หวันโดยให้เหตุผลว่า มีการตรวจพบศัตรูพืชในสินค้าที่ส่งมา ขณะที่หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นเหตุผลด้านการเมืองระหว่างประเทศที่ต้องการทำให้ไต้หวันได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมากกว่า

    หลังจากมีคำประกาศออกมา ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ของไต้หวันได้เริ่มแคมเปญรณรงค์ให้ชาวไต้หวันหันมาสนับสนุนสินค้าชนิดนี้ทันที เพื่อเป็นการสนับสนุนเกษตรกรภายในประเทศ ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่าผู้บริโภคในญี่ปุ่น ฮ่องกง ออสเตรเลีย รวมถึงนักธุรกิจชาวไต้หวันในสิงคโปร์ ตัดสินใจสั่งซื้อสับปะรดจำนวนมากเพื่อแสดงออกถึงการสนับสนุนไต้หวัน

    ปีที่แล้ว ไต้หวันส่งออกสับปะรดไปยังจีนราว 40,000 ตัน นับเป็นสัดส่วน 95% ของการส่งออกสับปะรดทั้งหมด แต่ภายในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์หลังจากที่จีนประกาศแบน ผู้ปลูกสับปะรดในไต้หวันได้รับยอดสั่งซื้อไปแล้วเกือบ 48,000 ตัน โดย 10,500 ตันมาจากลูกค้าในต่างประเทศ

    เหตุการณ์นี้มีความคล้ายคลึงกับกรณีที่จีนเคยแบนการนำเข้าไวน์ออสเตรเลียเมื่อปีที่แล้ว ครั้งนั้น หลายชาติในยุโรปและเอเชียต่างเพิ่มยอดการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ที่โดนรัฐบาลจีนขึ้นบัญชีดำเช่นเดียวกัน

    ที่มา: https://www.bloomberg.com/news/arti...up-taiwan-pineapples-in-defiance-of-china-ban

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบชาวต่างชาติ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลังได้รับวัคซีนโควิด BioNTech วันแรก

    โดยชาวต่างชาติวัย 39 ปี เริ่มป่วย และได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล Queen Mary หลังจากที่ได้รับวัคซีนโควิด BioNTech วันแรก ที่ Sun Yat Sen Memorial Park Sports Centre ย่าน Sai Ying Pun และล่าสุดเขามีอาการคงที่

    หนึ่งในผู้สูงอายุที่จองคิวฉีดวัคซีนวันนี้ ได้เปิดเผยว่าเขาเลือก BioNTech เนื่องจาก คิวของ Sinovac เต็มหมด และถึงแม้จะมีคิวของ Sinovac เขาก็จะไม่เลือกฉีด เนื่องจากมีข่าวเกี่ยวกับผลข้างเคียงและมีการเสียชีวิตหลังฉีด Sinovac

    พลเมือง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐอีกรายให้ความเห็นว่า เขาไม่มีความมั่นใจในวัคซีนจาก Sinovac เนื่องจากมีข้อมูลการเผยแพร่น้อยเกินไป อีกทั้ง WHO (องค์การอนามัยโลก) ก็ยังไม่ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนนี้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

    ณ ปัจจุบัน มีศูนย์ฉีดวัคซีน 7 แห่งที่ให้บริการฉีดวัคซีน BioNTech คือ Sai Ying Pun, Sai Wan Ho, Kowloon Tong, Kwun Tong, Lai Chi Kok, Sheung Shui และ Yuen Long ซึ่งขณะนี้ให้บริการเฉพาะกลุ่ม priority

    ข้อมูลเพิ่มเติมการฉีดวัคซีน https://www.covidvaccine.gov.hk/en/
    สถานที่ๆ ฉีดวัคซีน https://www.covidvaccine.gov.hk/pdf/List_of_CVC_Venues.pdf

    ***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


    Source : https://www.thestandard.com.hk/brea...talized-on-first-day-of-BioNTech-inoculation?

    #ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช่วงที่ผ่านมาผู้ป่วยโควิด-19 จากต่างประเทศ ที่รักษาตัวหายแล้วมีผลตรวจเป็นลบ เมื่อมาถึงไต้หวันกลับมีกรณีตรวจพบเชื้อซ้ำอีก ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคระบาดไต้หวันกล่าวว่า ตอนนี้เกณฑ์มาตรฐานการยกเลิกกักตัว เมื่อรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้วจำเป็นต้องมีค่า CT มากกว่า 34 ถึง 2 ครั้ง หรือมีค่า PCR เป็นลบ 1 ครั้ง กับค่า CT มากกว่า 34 หรือมีค่า PCR เป็นลบ 2 ครั้ง แต่ในอนาคตการประเมินผลรายการตรวจสอบของต่างประเทศ หากมีค่า CT มากกว่า 34 และพบว่าแอนติบอดีเป็นบวก ก็อาจจะอนุญาตให้คนไข้ออกจากโรงพยาบาลหรือยกเลิกการกักตัวได้

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โรคหัวใจถามหาคนชอบกินเนื้อ อาหารเสริม

    ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    Talk of the town มติชน
    2556

    เป็นที่สงสัยกันมานานแล้วว่าทำไมคนชอบบริโภคเนื้อแดง สเต็ก เนื้อบด เบอร์เกอร์แทนที่จะกินปลา ผัก กลับตายหรือต้องบอลลูนใส่ขดลวดถ่างเส้นเลือดหัวใจกันเต็มไปหมด ทั้งๆที่ ปริมาณไขมัน โคเลสเตอรอลและไขมันอิ่มตัวในเนื้อก็ไม่ได้สูงมากนัก รายงานในวารสารชั้นนำ เนเจอร์ (Nature Medicine) 7 เมษายน 2556 โดย Koeth และคณะจากคลิฟแลนด์คลินิค สหรัฐฯพบว่า การกินเนื้อซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญ คือ แอล-คาร์นิทีน (L-carnitine) จะถูกเปลี่ยนโดยจุลินทรีย์ในลำไส้ให้กลายเป็น trimethylamine-N-oxide (TMAO) โดยที่ TMAO จะเป็นตัวเร่งให้เกิดเส้นเลือดตัน ทั้งนี้ไม่เพียงแต่คาร์นิทีนอย่างเดียว การกินโคลีน (choline) และ เลซิติน (lecithin หรือ phosphatidylcholine) มากไปจากอาหารเสริมโดยคิดว่าช่วยอัลไซเมอร์ ก็จะถูกย่อยให้เกิด trimethylamine (TMA) และในที่สุดก็จะกลายเป็น TMAO ตามมา (Wang และคณะ วารสาร Nature 2554) ชึ่งได้รับการพิสูจน์ล่าสุด โดย Tang และคณะ (วารสารนิวอิงแลนด์เจอนัล 25 เมษายน 2556) ว่าสัมพันธ์กับเส้นเลือดตันในหัวใจเช่นกัน

    Catherine Collins นักโภชนวิทยาได้ให้ความเห็นในเว็บของข่าว BBC (สืบค้น 10 เมษายน 2556) ว่าการใช้อาหารเสริมที่มี แอล-คาร์นิทีน (L-carnitine) เป็นส่วนประกอบด้วย (นัยว่าทำให้สัดส่วนกระชับ ลดน้ำหนัก ผิวสวย เพื่อที่จะเพิ่มการเผาผลาญเมทาบอลิซึม) และยังมี เลซิติน (lecithin) โคลีน (choline และ phosphatidylcholine) และbetaine นัยว่าเพื่อป้องกันอัลไซเมอร์ หรือเพิ่มสติปัญญาจากอาหารเสริมดังกล่าว (แต่อาจไม่มีหลักฐานชัดเจน) ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ยกเว้นแต่ว่าเป็นมังสวิรัติเท่านั้น

    ทั้งนี้ แอล-คาร์นิทีน เป็นสารประกอบแอมโมเนียม (quaternary ammonium) ซึ่งเกิดจากการสังเคราะห์ของกรดอะมิโนไลซีน (lysine) และเมไธโอนีน (methionine) แอล-คาร์นิทีน มีบทบาทในการเคลื่อนกรดไขมัน จากการย่อยสลายไขมันภายในเซลล์เข้าสู่ตัวไมโทคอนเดรียเพื่อสร้างเป็นพลังงาน ในส่วนของการใช้ แอล-คาร์นิทีนเพื่อลดน้ำหนักยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชัดเจน (สืบค้นวิกิพีเดีย 10 เมษายน 2556) แต่มีรายงานว่าอาจช่วยผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกจากเส้นเลือดหัวใจตีบให้มีอาการน้อยลงบ้าง และอาจช่วยคนเป็นหมันโดยเพิ่มคุณภาพของสเปิร์ม แอล-คาร์นิทีน มีมากในเนื้อวัว (95 มก./100 กรัม) เนื้อบด (94 มก./100 กรัม) เนื้อหมู (27.7 มก./100 กรัม) เบคอน (23.3 มก./100 กรัม) ในขณะที่ปลา ไก่ ไอศกรีม และนมจะมีปริมาณต่ำกว่ามาก (3-5 มก./100 กรัม) พืช ผัก ไข่ ผลไม้ น้ำส้ม จะมีขนาดต่ำกว่า 0.2 มก./100 กรัม

    ในการบริโภคอาหารประจำวันจะได้ แอล-คาร์นิทีน ในขนาด 20-200 มก. แต่ในคนที่กินมังสวิรัติจะเหลือเพียง 1 มก./วัน นอกจากที่คนชอบกินผักจะได้ แอล-คาร์นิทีนน้อยกว่าแล้ว ยังพบว่าจุลินทรีย์ในลำไส้ของคนชอบกินผักจะเป็นชนิดที่ไม่เปลี่ยนแอล-คาร์นิทีนเป็นสารพิษ TMAO สำหรับเลซิตินนั้นคนเราได้ประจำอยู่แล้วจากไข่แดง นม ตับ ปลา ไก่ ถั่วต่างๆ และจากการตรวจผู้ป่วย 2595 คนที่ได้รับการประเมินสภาพทางหัวใจ พบว่าคนที่มีระดับแอล-คาร์นิทีนร่วมกับ TMAO สูงจะมีความเสี่ยงสูงของการเกิดเส้นเลือดหัวใจตีบตัน อัมพฤกษ์ และเสียชีวิต เช่นเดียวกับผู้ป่วย 4007 คนจากการศึกษาในเรื่องของเลซิตินก็ได้ผลว่ามีเส้นเลือดตีบตันสูงเช่นกัน และยืนยันจากการทดลองในหนูโดยให้แอล-คาร์นิทีนไปนานๆจะ เกิดเส้นเลือดตีบมากขึ้น ทั้งนี้อธิบายจากการที่จุลินทรีย์ในลำไส้เปลี่ยนแอล-คาร์นิทีน เลซิติน ไปจนทำให้เกิดการสร้าง TMA และ TMAO สูงขึ้น

    เพราะฉะนั้นการกินอาหารครบหมู่คละกันไปโดยเน้นผัก ผลไม้ โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มด้วยอาหารเสริมซึ่งแม้ว่าจะเลือกสารที่ว่าเป็นประโยชน์ต่อเซลล์ ร่างกาย และเนื้อเยื่อ ดังเช่นแอล-คาร์นิทีน เลซิติน แต่ถ้ามากเกินไปจะเกิดการปรับเปลี่ยนจุลินทรีย์ในลำไส้และเปลี่ยนกลับเป็นของเสียซึ่งมีพิษ และทำให้ที่ว่าดีกลายเป็นร้ายไปเสียอีก ทั้งนี้ปริมาณแอล-คาร์นิทีน ในอาหารเสริม 1 เม็ดอาจมีปริมาณมากกว่า 500-800 มก. (เลซิตินอาจมากกว่า 1000 มก.) และสุดท้ายความเชื่อทางศาสนา และเคร่งครัดในการละการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต บริโภคมังสวิรัติแต่โบราณกาลเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผ่านมาเกือบ 10 ปีนับตั้งแต่เกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหวใหญ่ คลื่นยักษ์สึนามิ และอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ในระหว่าง 10 ปีนี้ NHK ดำเนินการสำรวจเป็นวงกว้างเกี่ยวกับผู้คนในพื้นที่ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื้อหาในครั้งนี้เป็นการนำเสนอตอนแรกของการประมวลคำตอบจากประชาชน 1,805 คน ที่แสดงทัศนะเกี่ยวกับการฟื้นฟูบูรณะ

    เมื่อถามว่า รู้สึกว่า ณ 10 ปี นี่เป็นจุดที่ก้าวข้ามความเสียหายจากภัยพิบัติครั้งนั้นหรือไม่ ร้อยละ 44.5 ตอบว่ารู้สึก หรือรู้สึกเล็กน้อย แต่ร้อยละ 31 ตอบว่าไม่รู้สึก หรือไม่ค่อยรู้สึกเช่นนั้น

    เมื่อถามว่า คิดว่านี่เป็นโอกาสของการตั้งหลักได้อย่างเป็นอิสระหรือไม่ ร้อยละ 33.8 ตอบว่าคิด หรือคิดเล็กน้อย ขณะที่ร้อยละ 30.5 ตอบว่าไม่ หรือไม่ค่อยคิดอย่างนั้นเท่าไร

    คำตอบเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ความรู้สึกของผู้ตอบไม่เป็นไปในทางเดียวกัน และแบ่งออกเป็นขั้วต่าง

    คุณฟูรูดาเตะ โชโซ จากเมืองมิยาโกะ ในจังหวัดอิวาเตะ อายุ 85 ปี เป็นคนหนึ่งที่ตอบว่า ณ เวลา 10 ปีไม่ใช่จุดแบ่งของการก้าวข้ามสำหรับตน เมื่อมองย้อนไปยังแบบสอบถามในอดีตที่ผ่าน ตอนนั้นคือ 6 ปีหลังเกิดภัยพิบัติ คุณฟูรูดาเตะกล่าวว่าเขามีความสุขที่ได้เห็นว่าบ้านกำลังได้รับการสร้างขึ้นใหม่ทีละน้อย แต่เมื่อผ่านมา 8 ปีหลังภัยพิบัติ เขาตอบว่าตนไม่แน่ใจว่าจะอธิบายอย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นกับการฟื้นฟูบูรณะ ในปีที่ 9 เขากล่าวว่าเขาทำงานหนักเพื่อการฟื้นตัวของชุมชน แต่ความรู้สึกว่าทำไปก็ไร้ประโยชน์นั้นยังคงตกค้างอยู่ และความสงสัยของเขาได้เปลี่ยนมาเป็นความผิดหวัง

    จากนั้นเมื่อมาถึงปีนี้ คุณฟูรูดาเตะเขียนในคำตอบของตนว่าเมืองได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่ตามแผนการฟื้นฟูบูรณะ เขากล่าวว่ามีการคาดการณ์ตั้งแต่ต้นแล้วว่าประชากรจะลดลง แต่ก็นึกไม่ถึงว่าจะลดลงมาจนถึงจุดนี้ และกล่าวอีกด้วยว่าเมืองได้ปรับสภาพมาเป็นที่ที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น และสิ่งที่จะทำจากนี้ไปคือการทำให้เมืองมีความคึกคักด้วยกิจกรรม อีกทั้งกล่าวด้วยว่า ผ่านมา 10 ปี แต่เขาก็ยังพูดได้ไม่เต็มปากว่า นี่เป็นจุดแบ่งที่เด่นชัดของช่วงเวลานับตั้งแต่เกิดภัยพิบัติครั้งนั้น

    ข้อมูลเหล่านี้ยืนยันถูกต้อง ณ วันที่ 9 มีนาคม

    ท่านสามารถรับชมข้อมูลนี้ได้ทางเว็บไซต์ของ NHK World Japan และสื่อสังคมออนไลน์ช่องทางอื่นของ NHK

    ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
    https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

     

แชร์หน้านี้

Loading...