ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เฟซบุ๊กเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ version2 by kim” โพสต์ภาพและข้อความจากหนุ่มคนหนึ่ง หลังไปเจอหมึก บลูริง เสียบไม้ย่างขายในตลาด

    โดยมีข้อความว่า “มันคือหมึกบลูริงใช่ไหม ขอผู้มีความรู้ เราเจอที่ตลาดมีคนขาย เราถามพ่อค้าบอกลูกปลาหมึก 11 มีนาคม 64 เราเตือนพ่อค้าแล้วแต่เขาจะขายทำไงได้ ตลาดตรงพื้นที่นี้ครับ ผมไม่ได้ซื้อมานะครับ เพราะผมไม่มีความรู้เคยเห็นผ่านๆ เลยได้แต่บอกพ่อค้า”

    หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไปก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก รวมทั้งระบุว่าในจำนวนหมึกที่นำมาย่างขายนั้น มีหมึกบลูริง ปะปนมาด้วย

    สำหรับ หมึกสายวงน้ำเงิน หรือ หมึกบลูริง มีจุดเด่น คือสีสันตามลำตัวที่เป็นจุดวงกลมคล้ายแหวนสีน้ำเงินหรือสีม่วง ซึ่งสามารถเรืองแสงได้เมื่อถูกคุกคาม แลดูสวยงามมาก แต่ทว่า หมึกสายวงน้ำเงินนั้น มีพิษที่ผสมอยู่ในน้ำลายที่มีความร้ายแรงมาก ซึ่งร้ายแรงกว่างูเห่าถึง 20 เท่า นับเป็นหนึ่งในสัตว์น้ำที่มีพิษร้ายแรง มากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก

    ด้าน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า คำตอบคือหมึกบลูริงครับ เห็นลายชัดเจน หมึกชนิดนี้มีพิษรุนแรง และเป็นพิษที่ไม่สลายในความร้อนในระดับย่าง/ปิ้ง หรือการประกอบอาหารใดๆ เพราะฉะนั้น หลีกเลี่ยงที่จะนำมาขาย หรือเจอก็เตือนกันไว้ และไม่ควรบริโภคโดยเด็ดขาด

    #หมึกบลูริง
    #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จากกรณี ไฮโซหนุ่มนำรถหรู ฟอร์ด มัสแต มาสแตง 5.0 สีเหลือง มาจอดที่จอดคนพิการ บนอาคารจอดรถยนต์โซน3ชั้น3 สนามบินสุวรรณภูมิ และเดินอย่างสบายใจ ทั้งที่มีป้ายบอกอย่างชัดเจนและเจ้าหน้าที่ดูแลพื้นที่ได้แจ้งแล้วว่าจอดที่คนพิการไม่ได้ ให้ไปจอดที่จอดปกติ แต่ไฮโซหนุ่มไม่สนใจ เดินจากไป

    นายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระบุว่า รถคันสีเหลือง เข้ามาจอดเวลา 14.00น. วันที่ 8 มี.ค. 2564 แล้วเดินทางออกจากพื้นที่ ประมาณ 22.30 น. วันที่ 10 มี.ค.2564 จ่ายค่าปรับในราคา 500 บาท และจ่ายค่าอาคารจอดรถยนต์ เรียบร้อย ถูกต้องทุกอย่าง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นอยากจะสะท้อนว่ามันเป็นเรื่องของจิตสำนึกของคนมาก ระเบียบต่างๆมีระเบียบให้หมด แต่ท่านเคารพในระเบียบของสังคมและเตรียมพื้นที่เอาไว้สำหรับคนพิการ ต่อให้ไม่มีรถจอดในพื้นที่คนพิการที่เตรียมไว้ก็ไม่รู้สิทธิเอารถไปจอด เพราะไม่ใช่ผู้พิการ จึงอยากบอกสังคมว่า ค่าปรับสำหรับคนจำพวกนี้ไม่ได้สะทกสะท้านในค่าปรับ หรือไม่ให้ความสำคัญกับค่าปรับแต่อย่างใด มันเป็นเรื่องของจิตสำนึกของคน และขอบคุณผู้ที่ประสบเหตุแล้วก็ไม่ได้นิ่งเฉย พบคนที่ไม่เคารพต่อกฎกติกาของสังคมทำผิดแล้วก็แจ้งเจ้าหน้าที่

    #สนามบินสุวรรณภูมิ #จอดรถคนพิการ
    #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “จีน” เปลี่ยนกฎ “เลือกตั้งฮ่องกง” ต้องการให้แต่พวกโปรปักกิ่งคุมสภา
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์/เอเอฟพี/รอยเตอร์ – เมื่อวานนี้(11 มี.ค)สภาประชาชนแห่งชาติจีน (National People's Congress)ซึ่งเป็นสภาตรายางของปักกิ่งโหวตสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งฮ่องกง รวมถึงอำนาจในการวีโต้ผู้สมัคร เป็นการถางทางที่จะทำให้มั่นใจว่าสภานิติบัญญัติฮ่องกงจะยังคงอยู่ในมือของกลุ่มสนับสนุนปักกิ่ง
    .
    ว็อกซ์ สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(11 มี.ค)ว่า สภาประชาชนแห่งชาติจีน (National People's Congress)ลงมติเสียงเกือบเป็นเอกฉันท์ในการผ่านข้อกำหนดใหม่เพื่อเป็นกฎหมายของการประชุมสภาประจำปีสัปดาห์นี้
    .
    เอเอฟพีชี้ว่า การลงมติวันพฤหัสบดี(11)พบว่ามีสมาชิกแค่ 1 คนจากจำนวนทั้งหมด 2,896 คนเท่านั้นที่งดออกเสียง ซึ่งบรรดานักวิจารณ์กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งฮ่องกงนั้นกลายเป็นอีกหนึ่งเคลื่อนไหวในการตอกฝาโลงกลุ่มเรียกร้องเสรีภาพฮ่องกง
    .
    มติที่ออกมามีเป้าหมายเพื่อทำให้การบริหารฮ่องกงอยู่แต่ในมือของกลุ่มคนผู้รักชาติ นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เค่อเฉียง แถลงต่อนักข่าวหลังการลงมติ
    .
    ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงจีนได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า การจงรักภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนเท่านั้นจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะตัดสินหากว่า “ฮ่องกง” เป็นพวกรักชาติ
    .
    สื่อทางการของจีนรายงานในวันพฤหัสบดี(11)ได้แจกแจงมาตรการสำคัญของกฎหมายที่ยังจำเป็นต้องถูกร่างและถูกบังคับใช้เป็นกฎหมายภายใต้ระบบการเมืองที่ไม่โปร่งใสของประเทศ
    .
    คณะกรรมการเลือกตั้งที่ทรงอิทธิพลของฮ่องกงซึ่งจะเป็นผู้สรรหาผู้ว่าการเกาะฮ่องกง และในความเป็นจริงแล้วล้วนเต็มไปด้วยคนของรัฐบาลปักกิ่งนั้ยจะถูกเพิ่มจำนวนจากแต่เดิมมีทั้งหมด 1,200 ผู้แทนมาอยู่ที่ 1,500 ผู้แทน
    .
    และคณะกรรมการอีกชุดจะถูกตั้งขึ้นเพื่อสรรหาผู้สมัครจากการประเมินทัศนคติทางการเมือง และจำนวนสมาชิกสภานิติบัญญัตฮ่องกงจะเพิ่มจาก 70 คนมาอยู่ที่ 90 คน
    .
    เอเอฟพีชี้ว่าในเวลานี้มี จำนวนที่นั่งแค่ 35 ที่นั่งเท่านั้นที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงและยังไม่เป็นที่แน่ชัดถึงการสัดส่วนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
    .
    ด้านผู้ว่าการเกาะฮ่องกง แครี หล่ำ ออกแถลงการณ์วันพฤหัสบดี(11)ว่า การเป็น “กลุ่มคนรักชาติ” ไม่ได้หมายความว่าต้องรักพรรคคอมมิวนิสต์จีน
    ว็อกซ์ชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งฮ่องกงชี้ให้เห็นว่าจีนเรียนรู้จากบทเรียนจากการเลือกตั้งสภาเขตฮ่องกงที่มีสมาชิกกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยชนะถล่มทะลายเมื่อปี 2019 ซึ่งเป็นปีแห่งการประท้วงฮ่องกง
    .
    ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ดูเหมือนจีนยังคงเห็นความเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกงเป็นเสมือนภัยคุกคาม และนี่เป็นอีกหนึ่งความพยายามของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และของพรรคคอมมิวนิสต์ที่ต้องใช้ไม้แข็งและขยายอำนาจเหนือดินแดนฮ่องกง
    .
    ฌาคส์ เดลิส (Jacques deLisl) ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจีนและการเมืองประจำคณะกฎหมายแครีย์(Carey) ของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย กล่าวเพิ่มเติมว่า ดูเหมือนจีนจะหมดความสนใจต่อมุมมองการเข้าแทรกแซงในฮ่องกง “สีและบุคคลที่รายล้อมเขามีทัศนคติว่า “พวกเราเข้าควบคุมที่นี่ และเราจะยังคงยืนยันในอำนาจของพวกเรา พวกเรายังคงทำในแผ่นดินใหญ่ และแน่นนอนที่สุดพวกเราจะไม่ยอมผ่อนคลายเกี่ยวกับสิ่งที่ทำในฮ่องกง”
    .
    เอเอฟพีรายงานว่า อังกฤษและสหรัฐฯออกมาประณามการเคลื่อนไหวของจีนต่อฮ่องกงล่าสุด ชี้เป็นการบั่นทอนความมั่นใจและความเชื่อมั่นต่อจีนในความรับผิดชอบในประชาคมโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการทำลายเศรษฐกิจทางโตรง เสรีภาพและกระบวนการทางประชาธิปไตยฮ่องกง
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “จีน” เปลี่ยนกฎ “เลือกตั้งฮ่องกง” ต้องการให้แต่พวกโปรปักกิ่งคุมสภา
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์/เอเอฟพี/รอยเตอร์ – เมื่อวานนี้(11 มี.ค)สภาประชาชนแห่งชาติจีน (National People's Congress)ซึ่งเป็นสภาตรายางของปักกิ่งโหวตสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งฮ่องกง รวมถึงอำนาจในการวีโต้ผู้สมัคร เป็นการถางทางที่จะทำให้มั่นใจว่าสภานิติบัญญัติฮ่องกงจะยังคงอยู่ในมือของกลุ่มสนับสนุนปักกิ่ง
    .
    ว็อกซ์ สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(11 มี.ค)ว่า สภาประชาชนแห่งชาติจีน (National People's Congress)ลงมติเสียงเกือบเป็นเอกฉันท์ในการผ่านข้อกำหนดใหม่เพื่อเป็นกฎหมายของการประชุมสภาประจำปีสัปดาห์นี้
    .
    เอเอฟพีชี้ว่า การลงมติวันพฤหัสบดี(11)พบว่ามีสมาชิกแค่ 1 คนจากจำนวนทั้งหมด 2,896 คนเท่านั้นที่งดออกเสียง ซึ่งบรรดานักวิจารณ์กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งฮ่องกงนั้นกลายเป็นอีกหนึ่งเคลื่อนไหวในการตอกฝาโลงกลุ่มเรียกร้องเสรีภาพฮ่องกง
    .
    มติที่ออกมามีเป้าหมายเพื่อทำให้การบริหารฮ่องกงอยู่แต่ในมือของกลุ่มคนผู้รักชาติ นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เค่อเฉียง แถลงต่อนักข่าวหลังการลงมติ
    .
    ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงจีนได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า การจงรักภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนเท่านั้นจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะตัดสินหากว่า “ฮ่องกง” เป็นพวกรักชาติ
    .
    สื่อทางการของจีนรายงานในวันพฤหัสบดี(11)ได้แจกแจงมาตรการสำคัญของกฎหมายที่ยังจำเป็นต้องถูกร่างและถูกบังคับใช้เป็นกฎหมายภายใต้ระบบการเมืองที่ไม่โปร่งใสของประเทศ
    .
    คณะกรรมการเลือกตั้งที่ทรงอิทธิพลของฮ่องกงซึ่งจะเป็นผู้สรรหาผู้ว่าการเกาะฮ่องกง และในความเป็นจริงแล้วล้วนเต็มไปด้วยคนของรัฐบาลปักกิ่งนั้ยจะถูกเพิ่มจำนวนจากแต่เดิมมีทั้งหมด 1,200 ผู้แทนมาอยู่ที่ 1,500 ผู้แทน
    .
    และคณะกรรมการอีกชุดจะถูกตั้งขึ้นเพื่อสรรหาผู้สมัครจากการประเมินทัศนคติทางการเมือง และจำนวนสมาชิกสภานิติบัญญัตฮ่องกงจะเพิ่มจาก 70 คนมาอยู่ที่ 90 คน
    .
    เอเอฟพีชี้ว่าในเวลานี้มี จำนวนที่นั่งแค่ 35 ที่นั่งเท่านั้นที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงและยังไม่เป็นที่แน่ชัดถึงการสัดส่วนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
    .
    ด้านผู้ว่าการเกาะฮ่องกง แครี หล่ำ ออกแถลงการณ์วันพฤหัสบดี(11)ว่า การเป็น “กลุ่มคนรักชาติ” ไม่ได้หมายความว่าต้องรักพรรคคอมมิวนิสต์จีน
    ว็อกซ์ชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งฮ่องกงชี้ให้เห็นว่าจีนเรียนรู้จากบทเรียนจากการเลือกตั้งสภาเขตฮ่องกงที่มีสมาชิกกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยชนะถล่มทะลายเมื่อปี 2019 ซึ่งเป็นปีแห่งการประท้วงฮ่องกง
    .
    ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ดูเหมือนจีนยังคงเห็นความเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกงเป็นเสมือนภัยคุกคาม และนี่เป็นอีกหนึ่งความพยายามของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และของพรรคคอมมิวนิสต์ที่ต้องใช้ไม้แข็งและขยายอำนาจเหนือดินแดนฮ่องกง
    .
    ฌาคส์ เดลิส (Jacques deLisl) ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจีนและการเมืองประจำคณะกฎหมายแครีย์(Carey) ของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย กล่าวเพิ่มเติมว่า ดูเหมือนจีนจะหมดความสนใจต่อมุมมองการเข้าแทรกแซงในฮ่องกง “สีและบุคคลที่รายล้อมเขามีทัศนคติว่า “พวกเราเข้าควบคุมที่นี่ และเราจะยังคงยืนยันในอำนาจของพวกเรา พวกเรายังคงทำในแผ่นดินใหญ่ และแน่นนอนที่สุดพวกเราจะไม่ยอมผ่อนคลายเกี่ยวกับสิ่งที่ทำในฮ่องกง”
    .
    เอเอฟพีรายงานว่า อังกฤษและสหรัฐฯออกมาประณามการเคลื่อนไหวของจีนต่อฮ่องกงล่าสุด ชี้เป็นการบั่นทอนความมั่นใจและความเชื่อมั่นต่อจีนในความรับผิดชอบในประชาคมโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการทำลายเศรษฐกิจทางโตรง เสรีภาพและกระบวนการทางประชาธิปไตยฮ่องกง
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไม่หวั่น!ออสเตรเลีย-แคนาดาเดินหน้าฉีดวัคซีน'แอสตร้าเซเนก้า' แม้หลายชาติกังวลด้านความปลอดภัย

    แคนาดาและออสเตรเลีย ระบุวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้ามีความปลอดภัย และจะเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนต่อไป แม้เดนมาร์กและนอร์เวย์ระงับใช้วัคซีนของบริษัทแห่งนี้ชั่วคราว ท่ามกลางรายงานข่าวที่ระบุพบก่อการตัวของลิ่มเลือดในประชาชนบางรายที่ได้รับวัคซีนดังกล่าว

    กระทรวงสาธารณสุขแคนาดาระบุในถ้อยแถลงว่า "สาธารณสุขแคนาดาทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์อาการไม่พึงประสงค์ในยุโรป หลังฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนก้าแล้ว และอยากรับประกันกับชาวแคนาดาทุกคนว่า ประโยชน์ของวัคซีนจะยังคงมีน้ำหนักเหนือกว่าความเสี่ยงทั้งหลายจากวัคซีน"

    "ในเวลานี้ ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่า วัคซีนเป็นสาเหตุของอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้" ถ้อยแถลงของกระทรวงสาธารณสุขแคนาดาระบุ

    แคนาดาได้รับวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้าที่ผลิตโดยสถาบันเซรัมแห่งอินเดีย จำนวน 500,000 โดสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และคาดหมายว่าจะไดรับวัคซีนเพิ่มเติมอีก 1.5 ล้านโดสในช่วงเดือนพฤษภาคม

    "จนถึงตอนนี้กระทรวงสาธารณสุขแคนาดาหรือสำนักงานสาธารณสุขแห่งแคนาดา ยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์อาการไม่พึงประสงค์ใดๆที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้า ในแคนาดาเลย" ถ้อยแถลงกล่าว

    รัฐบาลกลางแคนาดา สั่งซื้อวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้าทั้งหมด 20 ล้านโดส และมีกำหนดรับมอบผ่านโครงการโคแว็กซ์ 1.9 ล้านโดส

    แม้แคนาดาสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ในจำนวนโดสต่อประชากร มากกว่าประเทศไหนๆในโลก แต่เบื้องต้นการแจกจ่ายเป็นไปอย่างล่าช้า ส่วนหนึ่งสืบเนื่องจากปัญหาความวุ่นวายในการส่งมอบที่เกิดขึ้นกับวัคซีนของไฟเซอร์ อิงค์ และโมเดอร์นา อิงค์

    อีกด้านหนึ่ง ออสเตรเลีย เปิดเผยในวันศุกร์(12มี.ค.) ว่าจะยังคงเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้า ด้วยไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับภาวะลิ่มเลือด แม้ชาติในยุโรปบางประเทศตัดสินใจระงับใช้เป็นการชั่วคราว

    เดนมาร์ก นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ เมื่อวันพฤหัสบดี(11มี.ค.) ระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้า หลังมีรายงานพบการก่อตัวของลิ่มเลือดในประชาชนบางรายที่ได้รับวัคซีน

    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลออสเตรเลียระบุว่าในขณะที่คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านยาของประเทศ จะคอยสังเกตอาการเคสต่างๆเหล่านี้ จะไม่มีการระงับการแจกจ่ายวัคซีนแต่อย่างใด "เราจะเดินหน้าวัคซีน เราจะเดินหน้าแจกจ่ายวัคซีน" ไมเคิล แม็คคอร์มัค รองนายกรัฐมนตรีบอกกับพวกผู้สื่อข่าวในเมลเบิร์น

    พอล เคลลีย์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของออสเตรเลีย ระบุไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าวัคซีนก่อให้เกิดลิ่มเลือด "เราจริงจังกับมันและทำการสืบสวน" เคลลีในระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านอีเมล อ้างถึงรายงานเกี่ยวกับการก่อตัวของลิ่มเลือด

    ออสตรเลีย จัดซื้อวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้าจำนวน 54 ล้านโดส ซึ่งทาง เบรนแดน เมอร์ฟี รัฐมนตรีสาธารณสุขให้คำจำกัดความเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ว่าเป็นวัคซีนขุมกำลังเพื่อออสเตรเลีย เนื่องจากในนั้น 50 ล้านโดสจะเป็นการผลิตในประเทศ

    โครงการแจกจ่ายของวัคซีนเพิ่งเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้รัฐบาลอนุรักษ์นิยมตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเกี่ยวกับความล่าช้าของโครงการฉีดวัคซีน

    นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลียเปิด เชื่อโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ภายในเดือนตุลาคมนี้ แม้ว่าออสเตรเลียกำลังประสบปัญหาล่าช้าในขั้นต้นของการฉีดวัคซีนก็ตาม

    จนถึงตอนนี้มีประชาชนแค่ราวๆ 150,000 คนที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังพอควบคุมได้อยู่ โดยออสเตรเลียไม่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเหมือนประเทศอื่นๆ ไม่พบผู้ติดเชื้อในชุมชนมานานเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว

    นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น ยอดติดเชื้อสะสมของออสเตรเลีย เวลานี้อยู่ที่ราวๆ 29,000 คน ในนั้นเสียชีวิต 909 ราย น้อยกว่าประเทศพัฒนาแล้วชาติอื่นๆค่อนข้างมาก ผลจากมาตรการปิดชายแดนระหว่างประเทศ ล็อกดาวน์และกำหนดมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มข้น

    (ที่มา:รอยเตอร์ส)
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หนีกระเจิง!โดนพนักงานสาวเมิน หนุ่มหื่นช่วยตัวเองเคืองบุกช็อปมือถือ(ชมคลิป)

    ภาพเหตุการณ์หนึ่งจากกล้องวงจรปิดกำลังเป็นคลิปไวรัลบนสื่อสังคมออนไลน์ ชายคนหนึ่งสวมแต่เสื้อยืดสีส้มไม่ใส่กางเกงใน ยืนช่วยตัวเองอยู่บริเวณด้านนอกร้านขายโทรทัศน์มือถือแห่งหนึ่งในมาเลเซีย แต่พอพนักงานสาวๆแสร้งทำเป็นไม่สนใจ หนุ่มรายนี้ก็บุกราวีเข้าไปในร้าน ทำเอาพนักงานปีนตู้กระจกหนีกันไปคนละทิศละทาง

    คลิปวิดีโอความยาว 1 นาที ถูกอัพโหลดลงบน Info Roadblock เพจเฟซบุ๊กมาเลเซียเมื่อวันพฤหัสบดี(11มี.ค.)

    สื่อมวลชนท้องถิ่นเชื่อว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันพุธ(10มี.ค.) ที่ร้านขายโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่ง ในศูนย์การค้าปันไตติมอร์ ในเมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ของมาเลเซีย

    ในภาพพบเห็นชายคนดังกล่าวกำลังช่วยตัวเองล่วงละเมิดพนักงานสาวอยู่นอกร้าน แต่พอถูกสาวๆแสร้งเมิน มันกระตุ้นให้เขาพยายามปีนข้ามเคาน์ตี ก่อนตัดสินใจเดินอ้อมไปอีกทาง

    พนักงานสาว 3 คนที่อยู่หลังเคาน์เตอร์เห็นท่าไม่ดี จึงพากันปีนเคาน์ตีหลบหนีออกจากร้านกันไปคนละทิศละทาง โดยระหว่างนั้นพบเห็นชายคนดังกล่าวพยายามวิ่งเข้ามาหา ก่อนขึ้นยืนมองไปบนเก้าอี้ พร้อมกับมือขว้างหนึ่งสัมผัสกับผวัยวะเพศของตนเอง

    ในช่วงท้ายของวิดีโอ พบเห็นชายอีกคนสวมหมวกกันน็อคสีแดงเดินเข้ามาภายในห้างฯ แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้สนใจชายที่เปลือยท่อนล่างแต่อย่างใด ทั้งนี้ไม่นานหลังจากนั้น ชายผู้ก่อเหตุก็ปีนเคาน์ตีหนีไปจากจุดเกิดเหตุ

    จนถึงตอนนี้สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่ายังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    (ที่มา:เอเจนซี)

    ชมวิดีโอที่นี่ : https://mgronline.com/around/detail/9640000023923
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วนจี๋!ไบเดนลงนามแล้วงบเยียวยาโควิด$1.9ล้านล้าน วาระ1ปีล็อกดาวน์สกัดไวรัส
    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ บังคับใช้เป็นกฎหมายในวันพฤหัสบดี(11มี.ค.) ระลึกวาระครบรอบ 1 ปี ที่อเมริกาล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ด้วยมาตรการที่ออกแบบมาเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของอเมริกันชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ
    สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯที่นำโดยเดโมแครตลงมติขั้นสุดท้ายเห็นชอบแพ็คเกจดังกล่าวเมื่อวันพุธ(10มี.ค.) มอบชับชนะครั้งสำคัญแก่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ในเดือนแรกๆของวาระการดำรงตำแหน่ง
    "นี่คือกฎหมายประวัติศาสตร์ ที่เกี่ยวกับการฟื้นฟูกระดูกสันหลังของประเทศแห่งนี้" ไบเดนกล่าวก่อนลงนาม
    ไบเดน ลงนามในร่างกฎหมาย ก่อนที่เขาจะมีกำหนดปราศรัยช่วงเวลาไพร์มไทม์ หลังจากนี้ในวันพฤหัสบดี(11มี.ค.) ในวาระครบรอบ 1 ปีของมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยเขาจะเรียกร้องให้อเมริกันชนยังคงระแวดระวัง ในขณะที่โรคระบาดใหญ่ยังระบาดไม่หยุด พร้อมกับมอบความหวัง ท่ามกลางจำนวนประชาชนที่เข้ารับวัคซีนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทั่วประเทศ
    การลงนามในร่างกฎหมายนี้ของไบเดน ซึ่งเรียกว่าแผนช่วยเหลือชาวอเมริกัน (American Rescue Plan) เบื้องต้นกำหนดไว้ในวันศุกร์(12มี.ค.) แต่ รอน เคลน หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว เผยว่ามันถูกร่นขึ้นมา หลังจากสภาคองเกรสส่งร่างกฎหมายดังกล่าวมายังทำเนียบขาวในคืนวันพุธ(10มี.ค.)
    "เราต้องการเดินหน้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" เคลนโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ อย่างไรก็ตามเขาเผยว่าการฉลองร่วมกับเหล่าผู้นำในสภาคองเกรสจะยังคงมีขึ้นในวันศุกร์(12มี.ค.)
    แพกเกจนี้ถือเป็นหนึ่งในแพกเกจเยียวยาสู้วิกฤตที่มีมูลค่าสูงสุดของสหรัฐฯ มีเนื้อหาครอบคลุมการจ่ายเงินโดยตรงให้แก่พลเมืองอเมริกันส่วนใหญ่คนละ 1,400 ดอลลาร์, การให้ความช่วยเหลือรัฐบาลท้องถิ่นและมลรัฐ 350,000 ล้านดอลลาร์, การขยายเครดิตภาษีสำหรับผู้มีบุตร และเพิ่มเงินทุนสำหรับโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19
    ไบเดน ซึ่งหาเสียงด้วยคำสัญญาว่าจะหาทางสกัดโรคระบาดใหญ่ในแนวทางที่มีประสิทธิภาพมากกว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำคนก่อน เคยเตือนอเมริกันชนมาตั้งแต่เมื่อครั้งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมว่า การเสียชีวิตและความเจ็บปวดจากโควิด-19 ยังรออยู่เบื้องหน้าอีกมาก
    ด้วยโครงการฉีดวัคซีนประชาชนยังเป็นไปด้วยความล่าช้า ไบเดนพยายามส่งสารแห่งความหวัง แต่ขณะเดียวกันเขาก็เร่งเร้าให้ประชาชนยังต้องระแวดระวังต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้การแพร่ระบาดของไวรัสยกระดับความรุนแรงไปมากกว่านี้
    มีรายงานว่า ไบเดนและบรรดาผู้ช่วยระดับสูง กำลังวางแผนเดินทางทัวร์ทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่อเมริกันชนต่อผลประโยชน์ที่จะได้รับจากร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ในนั้นรวมถึงเพนซินเวเนียในวันอังคารหน้า(16มี.ค.) และ แอตแลนตา ในวันที่ 19 มีนาคม
    เวลานี้มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯแล้วราวๆ 530,000 ราย และมีอเมริกันชนประมาณ 10% ที่ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว
    ไบเดนเผยเมื่อวันพุธ(10มี.ค.) ว่าาเขาจะใช้การปราศรัยในตอนเวลา 20.00น.วันพฤหัสบดี(ตรงกับเมืองไทย 08.00น.วันศุกร์) พูดเกี่ยวกับ "สิ่งที่ประเทศแห่งนี้ต้อเผชิญเมื่อปีที่แล้ว และพูดถึงกรอบคร่าวๆเกี่ยวกับแนวทางตอบสนองโควิด-19 ขั้นต่อไปของรัฐบาล"
    คาดหมายว่าประธานาธิบดีรายนี้จะเตือนอเมริกันชนที่เหนื่อยหน่ายกับข้อจำกัดโรคระบาดใหญ่ อย่าได้คืนสู่พฤติกรรมปกติเร็วเดินไป ขณะเดียวกันไบเดนจะเรียกร้องให้สวมหน้ากาก เว้นระยะห่างทางสังคมและปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยต่อไป รวมถึงไม่สนับสนุนให้เมืองหรือรัฐต่างๆผ่อนปรนกรอบคำแนะนำด้านการรวมกลุ่มของประชาชน
    (ที่มา:รอยเตอร์ส)

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พม่าไม่สนอเมริกาแซงก์ชันลูกมินอ่องหล่าย ปราบม็อบต่อตายอีก8-กล่าวหาอองซานซูจีทุจริต
    กองทัพพม่าไม่สนมติประณามของยูเอ็น รวมทั้งมาตรการลงโทษล่าสุดของอเมริกาที่พุ่งเป้าลูก 2 คนของพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย โดยในวันพฤหัสฯ (11 มี.ค.) ยังคงปราบปรามด้วยความรุนแรงจนมีผู้ประท้วงเสียชีวิตอีก 8 คน พร้อมกันนี้ยังมีการกล่าวหาโดยไม่แสดงหลักฐานว่าอองซานซูจีและสมาชิกคณะรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลชุดที่แล้วคอร์รัปชัน
    เจ้าหน้าที่กู้ภัยเผยว่า มีผู้ประท้วงถูกยิงเสียชีวิต 6 คน และบาดเจ็บ 8 คนจากการปราบปรามของกองกำลังความมั่นคงในเมืองมไยง์ ทางภาคกลางของประเทศ โดยผู้เสียชีวิต 5 คนถูกยิงที่ศีรษะ
    ขณะที่พยานผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 1 คน ใน อ.ดากองเหนือ ของนครย่างกุ้ง รูปถ่ายที่โพสต์บนเฟซบุ๊กยังเผยให้เห็นชายคนหนึ่งนอนคว่ำอยู่บนถนนมีเลือดไหลออกจากบาดแผลที่ศีรษะ และมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 คนในเมืองมัณฑะเลย์
    นอกจากนั้นเมื่อคืนวันพุธ (10) ตำรวจทหารของพม่ายังบุกค้นหาอาวุธที่อ้างว่าหายไป ในอพาร์ตเมนต์หลายแห่งในเขตซานชองของเมืองย่างกุ้ง
    จากข้อมูลล่าสุดจนถึงวันพุธของสมาคมให้ความช่วยเหลือนักโทษการเมืองระบุว่า มีผู้ประท้วงเสียชีวิตกว่า 60 คน และถูกควบคุมตัวราว 2,000 คนนับจากที่กองทัพพม่ายึดอำนาจและควบคุมตัวอองซานซูจี พร้อมผู้นำคนอื่นๆ ของรัฐบาลพลเรือน เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์
    ทางด้านองค์การนิรโทษกรรมสากล แถลงกล่าวหาว่า กองทัพพม่าใช้อาวุธร้ายแรงที่ใช้ในสงคราม เข้าปราบปรามผู้ประท้วง และการสังหารผู้ประท้วงหลายคนที่มีวิดีโอบันทึกไว้เข้าข่ายการวิสามัญฆาตกรรมและการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
    ในวันพุธ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ออกคำแถลงประณามการปราบปรามผู้ประท้วง และเรียกร้องให้กองทัพพม่าใช้ความอดกลั้น ซึ่งถือเป็นคำแถลงประณามครั้งที่ 2 ในรอบหนึ่งเดือน อย่างไรก็ดี คณะมนตรีไม่สามารถตกลงกันได้และต้องตัดข้อความประณามการยึดอำนาจ รวมทั้งการขู่ออกมาตรการลงโทษกองทัพพม่าเพิ่มเติม เนื่องจากถูกคัดค้านจากจีน รัสเซีย รวมทั้งอินเดีย และเวียดนาม
    อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการยูเอ็น แสดงความหวังว่า คำแถลงของคณะมนตรี จะทำให้กองทัพพม่าตระหนักว่า จำเป็นต้องปล่อยผู้ถูกควบคุมตัวทั้งหมดและเคารพผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
    ด้าน จาง จุน เอกอัครราชทูตจีนประจำยูเอ็น แถลงว่า ถึงเวลาแล้วที่จะยุติความรุนแรง และแก้ปัญหาด้วยแนวทางทางการทูตและการเจรจากันระหว่างฝ่ายต่างๆ
    แต่สำหรับอเมริกา กระทรวงการคลังได้ประกาศลงโทษคว่ำบาตร อ่อง ปแย โซน และ น.ส. ขิ่น ธิรี เธต โมน บุตรวัยผู้ใหญ่ของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำคณะทหาร รวมทั้งบริษัท 6 แห่งที่คนทั้งคู่ควบคุม
    คำแถลงของกระทรวงการคลังสหรัฐฯระบุว่า คนทั้งคู่มีธุรกิจมากมายซึ่งล้วนได้ประโยชน์โดยตรงจากตำแหน่งหน้าที่และอิทธิพลของผู้เป็นพ่อ โดยกระทรวงจะอายัดทรัพย์สินของทั้งสองคนที่อยู่ในอเมริกา
    แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังแถลงประณามกองกำลังความมั่นคงของพม่าที่ปฏิบัติการภายใต้คำสั่งของบรรดาผู้นำกองทัพ ในการโจมตีผู้ประท้วงอย่างสันติด้วยความโหดร้ายรุนแรงนับจากการรัฐประหาร และสำทับว่า มาตรการแซงก์ชันล่าสุดมีจุดประสงค์เพื่อลงโทษผู้ก่อรัฐประหารและผู้ที่ได้ประโยชน์ทางการเงินจากการมีสายสัมพันธ์กับรัฐบาลทหาร
    ขณะเดียวกัน ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ประกาศระงับการให้ทุนสนับสนุนโครงการในพม่า เพื่อรอให้นานาชาติประเมินสถานการณ์ในประเทศดังกล่าว
    ทั้งนี้ กองทัพพม่าอ้างลอยๆ ว่า การเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของซูจีชนะขาดลอย มีการโกงอย่างกว้างขวาง จึงจำเป็นต้องเข้ายึดอำนาจ
    ในวันพฤหัสฯ พลจัตวาซอ มิน ตุน โฆษกของสภาบริหารแห่งรัฐ ซึ่งฝ่ายทหารจัดตั้งขึ้นภายหลังเข้ายึดอำนาจ แถลงว่า นานาชาติไม่จำเป็นต้องกังวลกับสถานการณ์ในพม่า และสำทับว่า สมมติฐานของชาติตะวันตกไม่ถูกต้อง
    เขายืนยันว่า กองกำลังความมั่นคงมีระเบียบวินัยและใช้กำลังเมื่อจำเป็นเท่านั้น แต่ยอมรับว่า อาจมีการต่อยตีกันบ้างแต่ก็เป็นการกระทำจากทั้งสองฝ่ายและเกิดขึ้นจากการยั่วยุ
    โฆษกสภาบริหารแห่งรัฐย้ำว่า รัฐบาลทหารเคารพความคิดเห็นของประเทศเพื่อนบ้านและนานาชาติ แต่จะเดินหน้าตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ตอนที่เข้ายึดอำนาจคือ จัดการเลือกตั้งและส่งมอบอำนาจให้พรรคที่ชนะ
    นอกจากนั้น รัฐบาลทหารพม่ายังกล่าวหาว่า ซูจีแอบรับเงิน 600,000 ดอลลาร์และทองคำขณะเป็นรัฐบาล เช่นเดียวกับประธานาธิบดีวิน มิ้น และรัฐมนตรีอีกหลายคนที่ล้วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต
    ก่อนหน้านั้นไม่นาน เดอะ มิเรอร์ หนังสือพิมพ์ของทางการพม่า รายงานว่า รัฐบาลได้ยกเลิกสถานะองค์กรก่อการร้ายของกองทัพอารากัน (เอเอ) ที่ต่อสู้เพื่ออำนาจการปกครองตนเองของชนกลุ่มน้อยชาวยะไข่แล้ว
    เฮิร์ฟ เลมาฮิว ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับพม่าจากสถาบันโลวีของออสเตรเลีย เชื่อว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสืบเนื่องมาจากกองทัพพม่าต้องการยุติการต่อสู้กับเอเอ เพื่อให้สามารถโฟกัสกับการจัดการผู้ประท้วงได้อย่างเต็มที่

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สภาล่างมะกันผ่านงบเยียวยาโควิด$1.9ล้านล้าน ส่วนออสเตรีย-เกาหลีใต้หมดข้อสงสัยวัคซีนแอสตราฯ
    สภาล่างสหรัฐฯ อนุมัติขั้นสุดท้ายแผนเยียวยาโควิดมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของไบเดนและยังเป็นความหวังในการส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเมริกา ขณะเดียวกัน วัคซีนแอสตราเซเนกาผ่านด่านทดสอบสำคัญอีกครั้ง หลังยุโรปออกมารับรองว่า กรณีที่มีผู้เสียชีวิตและมีภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดที่ออสเตรียไม่ใช่ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนของบริษัทนี้ และล่าสุดเกาหลีใต้อนุมัติให้ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกากับกลุ่มคนอายุ 65 ปีขึ้นไปได้แล้ว
    เนื่องจากวุฒิสภาสหรัฐฯได้แก้ไขร่างของสภาผู้แทนราษฎร และจากนั้นก็โหวตผ่านแพกเกจเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ฉบับนี้ไปก่อนแล้ว ดังนั้นเมื่อสภาล่างลงมติในวันพุธ (10 มี.ค.) ยินยอมตามร่างที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ จึงหมายความว่าได้ผ่านขั้นสุดท้ายของกระบวนการในรัฐสภา ต่อไปคือการยื่นให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามบังคับใช้
    แพกเกจนี้ถือเป็นหนึ่งในแพกเกจเยียวยาสู้วิกฤตที่มีมูลค่าสูงสุดของสหรัฐฯ มีเนื้อหาครอบคลุมการจ่ายเงินโดยตรงให้แก่พลเมืองอเมริกันส่วนใหญ่คนละ 1,400 ดอลลาร์, การให้ความช่วยเหลือรัฐบาลท้องถิ่นและมลรัฐ 350,000 ล้านดอลลาร์, การขยายเครดิตภาษีสำหรับผู้มีบุตร และการอัดฉีดกองทุนสำหรับการฉีดวัคซีนเพิ่ม
    ด้านประธานาธิบดีไบเดน ทวิตข้อความว่า “ความช่วยเหลืออยู่ที่นี่แล้ว” และทำเนียบขาวแถลงว่า ไบเดนจะลงนามรับรองร่างกฎหมายนี้ในวันศุกร์ (12)
    สภาล่างที่ควบคุมโดยพรรคเดโมแครตผ่านกฎหมายนี้ด้วยคะแนนเฉียดฉิว 220-211 โดยที่ไม่มีสมาชิกพรรครีพับลิกันยกมือสนับสนุนแม้แต่คนเดียว โดยพวกเขาโจมตีว่า เป็น “วาระสังคมนิยม” มีมูลค่าสูงเกินไป และกว่า 90% ของงบประมาณนี้ไม่ได้ใช้เพื่อต่อสู้กับโควิดโดยตรง ขณะที่ช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดของวิกฤตไวรัสผ่านพ้นไปแล้ว และเศรษฐกิจกำลังเดินหน้าฟื้นตัว
    ท่าทีคัดค้านของรีพับลิกันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับความคิดเห็นของคนอเมริกัน โดยผลสำรวจของรอยเตอร์-อิปโซสที่จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 ที่ผ่านมาพบว่า คนอเมริกัน 70% ทั้งฝ่ายสนับสนุนเดโมแครตและรีพับลิกัน สนับสนุนมาตรการเยียวยานี้
    ด้านเดโมแครตประกาศว่า กฎหมายนี้เป็นมาตรการสำคัญในการรับมือวิกฤตโควิดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 528,000 คนในอเมริกา ไม่รวมถึงคนตกงานอีกนับล้าน
    รัฐมนตรีคลัง เจเน็ต เยลเลน แถลงว่า การผ่านกฎหมายฉบับนี้เป็นวันที่ดีสำหรับเศรษฐกิจอเมริกาที่จะสามารถฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น
    ขณะเดียวกัน ที่ยุโรป องค์การยาแห่งยุโรปแถลงเมื่อวันพุธว่า ไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกากับการป่วยของชาวออสเตรีย 2 คน ซึ่ง 1 ในนั้นเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน 10 วัน และทำให้ออสเตรียประกาศระงับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาล็อตเดียวกันนั้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7)
    ผู้เสียชีวิตดังกล่าวได้รับการวินิจฉัยว่า มีอาการลิ่มเลือดอุดตัน ส่วนอีกคนถูกนำส่งโรงพยาบาลจากภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด
    เช่นเดียวกับเกาหลีใต้ที่ประกาศเมื่อวันพฤหัสฯ (11) ว่า จะขยายโครงการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาครอบคลุมประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไป
    เกาหลีใต้เริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนตั้งแต่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ โดยเริ่มจากกลุ่มผู้สูงวัยและบุคลากรทางการแพทย์ แต่ยกเว้นผู้พักฟื้นในบ้านพักคนชราที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปจำนวนกว่า 370,000 คน เนื่องจากขาดข้อมูลการทดลองทางคลินิกในประชากรกลุ่มวัยนี้
    อย่างไรก็ดี ขณะนี้มีข้อมูลการใช้จริงจากอังกฤษที่พบว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกา และไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค มีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการป่วยรุนแรงจากโควิดจนถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล สำหรับผู้ที่อายุ 80 ปีขึ้นไปจากการฉีดเพียงเข็มเดียว
    ศูนย์ควบคุมโรคแห่งเกาหลีเผยว่า จนถึงวันพุธได้ฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาหรือไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคให้ประชาชนแล้ว 500,635 คน และในวันเดียวกันนั้นพบผู้ติดเชื้อใหม่ 465 คน รวมยอดสะสม 94,198 คน และเสียชีวิต 1,652 คน
    #บรรยายภาพ
    แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครต นำขบวน ส.ส. ของพรรคลงมติผ่านร่างกฎหมายแพกเกจเยียวยาโควิดมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อวันพุธ (10 มี.ค.) โดยที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกจะรีบเซ็นเพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    26c8.png มูลนิธิสภาเตือนภัย ฟังข้อมูลภัยรอบด้าน วันวานคุยกัยดร.สุทัศน์ วีสกุล เดือนเมย.นี้น้ำจะท่วมภาคใต้เหมือนปี 54 ไหม ?? ตอบว่า ฝนดีแต่ไม่ถึงกับท่วมรุนแรง !!! ถามว่าปีนี้น้ำมากช่วงไหน ตอบว่า ให้เฝ้าระวังเดือนกันยายน !!!
    " ปรากฎการณ์ลานีญาในครั้งนี้จะมีผลต่อสภาวะอากาศในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 เป็นอย่างมาก อุณหภูมิผิวน้ำทะเลทั้ง 3 ตัว คล้ายกับปี 2539 ทำให้ฝนที่จะเกิดขึ้นในปี 2564 จะมีแนวโน้มคล้ายกับปี 2539 เพราะมีอุณหภูมิน้ำทะเลคล้ายกัน นั่นก็คือ #จะมีน้ำมากมีภาวะฝนตกหนัก #แต่ไม่ทุกพื้นที่ "
    1f4fb.png ติดตามรายละเอียดทั้งหมด รายการ"ชั่วโมงเตือนภัย" 12.00-13.00น. เครือข่ายสถานีวิทยุลูกทุ่งเน็ตเวิร์ก และเครือข่ายสถานีวิทยุบิ๊กเอฟเอ็ม ทั่วประเทศ !!!
    26c8.png วันนี้ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ต้องเฝ้าระวังฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ภาพรวมถือว่าอากาศร้อน !!! อยู่ที่ไหน ฝนตกแดดออก บอกต่อข้อมูลกันได้นะครับ ขอบคุณทุกข้อมูลข้อคิดเห็น ขอบคุณที่ติดตาม..สวัสดี ขอรับ กระผ้ม !!!

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    1f1f9_1f1ed.png สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ (ระลอกใหม่)

    foabuiXuOiJvhsIKWGTgy3soHihW96HEXUuOzV_0rgw&_nc_ohc=z9TFigU-JvIAX_Et8aI&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    1f5d3.png ข้อมูลวันที่ 15 ธันวาคม 2563 - 12 มีนาคม 2564
    1f616.png ผู้ป่วยรายใหม่ 81 ราย
    1f637.png ผู้ป่วยยืนยันสะสม 22,442 ราย
    1f642.png หายป่วยแล้ว 21,879 ราย
    1f62d.png เสียชีวิตสะสม 25 ราย
    ข้อมูล ณ วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2564 1f55b.png เวลา 00.00 น.
    #ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19
    #ศูนย์ข้อมูลCOVID19
    #หยุดโควิดแต่ไม่หยุดเศรษฐกิจไทย
    #NewNormalชีวิตวิถีใหม่
    #สมดุลชีวิตวิถีใหม่
    #รวมไทยสร้างชาติ
    #ไทยรู้สู้โควิด
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พยากรณ์หิมะ ' เป็นประวัติศาสตร์ ' อย่างแน่นอน ' สําหรับสุดสัปดาห์นี้

    Jmiks4cExpFInOGNuihiv0Y50m3WE7GNB0FLpJMgudU&_nc_ohc=HjAIQXLbVK0AX8e7C7S&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    พายุหิมะใหญ่กําลังเคลื่อนตัวและมันจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อส่วนของโคโลราโด ไวโอมิง เนบราสกา และเซาท์ดาโกต้า สุดสัปดาห์นี้ มากจนทําให้การบริการสภาพอากาศแห่งชาติใน Cheyenne, Wyoming มีคําที่กล้าหาญในเช้านี้: ′′ หิมะตกหนักในปัจจุบันเป็นประวัติการณ์อย่างแท้จริง ′′

    ผู้คนเกือบ 5 ล้านคนในภูมิภาคนี้อยู่ภายใต้นาฬิกาพายุฤดูหนาวซึ่งมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นคําเตือนเนื่องจากพายุก้าวหน้า

    โมเดลสภาพอากาศล่าสุดแสดงให้เห็นถึงพื้นที่หิมะสะสมลึก 2-6 ฟุตตามเชิงเขาและระยะด้านหน้าจากเดนเวอร์ จนถึงเชเยนน์

    https://kdvr.com/weather/weather-fo...s0zoPf1F9BkqZ4PNHGmEFym6pSFWAdM_FqQj5N4APnIkw

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jetstream ทั้งหมดมีพฤติกรรมผิดปกติ

    1f6a8.png 1f6a8.png เตือนภัยขั้นสูง 1f6a8.png 1f6a8.png 1f6a8.png
    ความผิดปกติที่แปลกประหลาดเหนือขั้วโลกเหนือ และวงกลมอาร์กติก ขณะที่ Jet Stream ได้เคลื่อนย้ายโดยตรงจากส่วนกลางของวงกลม นี่มันผิดปกติจริงๆ

    เท็กซัสฟรีซ 2021 1f32c.png 1f4a8.png 1f976.png เป็นเพียงตัวอย่างตอนนี้หนังเริ่มขึ้นแล้ว

    รูปแบบระบบอากาศที่ผิดปกติอย่างแน่นอน...

    มนุษยชาติที่หยิ่งยโสบาปสามารถเยาะเย้ยพระเจ้าและลูกของพระเจ้าได้แต่พวกเขาจะหนีไปที่ไหนด้วยการตัดสินเนื่องในโอกาส 1f64f.png
    #POLESHIFT #CoreExoansion #propehcybeingfulfilled #marianprophecies #endtimegospel #LaSaletteFrance #emperoremmanuel #JudgementTimes #judgementday #ProphecyFulfilled #JudgementDayIsComing 1f55a.png 1f30d.png 1f55b.png 1f468_200d_2696.png 2696.png
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อ๊ะมันบานปลายอย่างรวดเร็ว ...
    ฉันได้เห็นวิดีโอมากมายเกี่ยวกับภูเขาไฟในสัปดาห์นี้
    อันนี้เป็น IMO ที่ดีที่สุด
    หลุมดำ

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภายหลังการทำรัฐประหารของนายพล “มิน อ่อง หล่าย” ประเทศเมียนมายังคงมีความวุ่นวายและเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    .
    ล่าสุดรัฐบาลทหารของเมียนมาได้ทำการถอดชื่อกลุ่มกบฏอาระกัน (Arakan Army หรือ AA) ออกจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเคยถูกขึ้นบัญชีดำในสมัยรัฐบาลของนาง “ออง ซาน ซูจี”
    .
    อย่างไรก็ตามการถอดถอนดังกล่าวมีสาเหตุมาจากที่กลุ่ม AA ได้ยุติการโจมตีกองทัพเมียนมา ซึ่งทางรัฐบาลทหารได้อ้างว่า “ต้องการสร้างสันติภาพตราบชั่วนิรันดร์ในประเทศเมียนมา”
    .
    และแม้ว่าจะมีการทำรัฐประหารเกิดขึ้นในเมียนมา แต่กลุ่ม AA ก็ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ที่ไม่มีท่าทีแสดงออกทางการเมืองต่อสถานการณ์ภายในเมียนมา รวมถึงไม่มีการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารในกรุงเนปิดอว์เลย ทั้งนี้สมาชิกในกลุ่มส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และอาศัยอยู่ในรัฐยะไข่
    .
    เมื่อย้อนกลับไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่ม AA นั้นถือเป็นหนึ่งในกองกำลังที่น่ากลัวและสร้างความยำเกรงต่อกองทัพเมียนมามากที่สุด โดยการถอดชื่อกลุ่ม AA ออกจาก “กลุ่มผู้ก่อการร้าย” ก็ถือเป็นการกำจัดอุปสรรคอย่างหนึ่งที่อาจจะมีผลต่อการยึดอำนาจในการทำรัฐประหารของกองทัพเมียนมา
    .
    นาย “Herve Lemahieu” ผู้อำนวยการโครงการศักยภาพของเอเชียและการทูตของสถาบัน Lowy ในออสเตรเลียได้กล่าวว่า “การถอดชื่อดังกล่าวอาจเป็นเพราะทางกองทัพเมียนมาต้องการยุติความว้าวุ่นใจในการต่อสู้กับกลุ่ม AA” พร้อมกล่าวเสริมว่า “กองทัพเมียนมามีศัตรูจำนวนมาก พวกเขาคงไม่ต้องการปฏิบัติการในแนวราบในเวลาเดียวกันหรอก”
    .
    และจากท่าทีล่าสุดนี้ หลายฝ่ายก็ได้วิเคราะห์กันว่าทั้งคู่อาจถึงขั้นหันมาจับมือกันเพื่อสยบความวุ่นวายในประเทศ และทางรัฐบาลทหารเมียนมาอาจพยายามเดินหน้าเจรจากลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆเพื่อให้หันมาร่วมมือด้วยเช่นกัน ผ่านการตกลงแบ่งสรรปันส่วนเรื่องผลประโยชน์ของแต่ละฝ่าย
    .
    เพื่อให้ท่านไม่พลาดทุกสิ่งที่น่าสนใจจากเพจ Thailand State กด Like 1f44d.png เพจและตั้งค่า See First 2b50.png เพื่อติดตามข้อมูลดีๆได้เลยครับ
    .
    Source : t.ly/VF94
    .
    #ThailandState #ThailandStateUpdate
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กองทัพพม่าถูก KIA ตีค่ายแตกกระเจิงในคะฉิ่น "เจ้ายอดศึก" ยันอยู่ข้างประชาชน
    .
    .
    MGR Online - กองทัพคะฉิ่นบุกโจมตีค่ายทหารราบพม่าบริเวณรอยต่อกับภาคสะกายแต่เช้ามืด รบยาว 2 ชั่วโมง ฝ่ายพม่าถอยกระเจิง ค่ายถูกเผา ยึดอาวุธ-กระสุนปืนได้ไปจำนวนมาก มีรายงานผู้เสียชีวิตกว่า 20 นาย ด้านเจ้ายอดศึกประชุมผู้นำ 10 กองกำลังที่เซ็นได้ NCA แล้ว รอบ 2 หลังรัฐประหาร ยัน PPST อยู่ข้างประชาชน
    .
    เวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 11 มีนาคม ทหารกองพลที่ 9 กองทัพคะฉิ่นอิสระ (Kachin Independent Army : KIA) ได้บุกเข้าโจมตีค่ายทหารพม่า หน่วยที่ 119 สังกัดกองพลทหารราบที่ 33 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านแซซิน ทางทิศตะวันตกของอำเภอผากั้น จังหวัดโมญิน ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างรัฐคะฉิ่นกับภาคสะกาย
    .
    ชาวบ้านรายหนึ่งบอกกับสำนักข่าว Kachin News Group ว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นตั้งแต่ตอนตี 3 จากนั้นมีเสียงสู้รบต่อเนื่องยาวนานกว่า 2 ชั่วโมง จนประมาณตี 5 เสียงปืนจึงสงบลง ชาวบ้านส่วนหนึ่งได้เดินไปดูยังค่ายแห่งนี้ตอนฟ้าสาง พบว่า ค่ายถูกเผาจนราบเรียบ พบรอยเลือด และไม่มีทหารพม่าเหลืออยู่แม้แต่คนเดียว
    ..
    เพจ Kachin Liberation Media มีรายงานในตอนบ่ายวานนี้ (11 มี.ค.) ว่า การบุกโจมตีค่ายทหารพม่าของ KIA ครั้งนี้ มีทหารพม่าเสียชีวิตมากกว่า 20 นาย
    .
    KIA เป็นกองกำลังติดอาวุธเก่าแก่ที่มีประวัติการก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ.2504 เพื่อเคลื่อนไหวต่อต้านกองทัพพม่า ถือเป็นกองทัพที่น่าเกรงขามและขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมมากกองทัพหนึ่ง โดยพื้นที่ปฏิบัติการของ KIA อยู่ในรัฐคะฉิ่นและบางส่วนในภาคเหนือของรัฐชาน
    .
    แม้ว่า KIA ได้เซ็นสัญญาสงบศึกกับกองทัพพม่าไปแล้วตั้งแต่ปี 2537 แต่ทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังมีการปะทะกันโดยตลอดในหลายพื้นที่ ซึ่งมีทหารของแต่ฝ่ายเคลื่อนไหวทับซ้อนกัน
    .
    KIA เป็นสมาชิกของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า Myanmar Peace Commission and Federal Political Negotiation Consultative Committee หรือ FPNCC ที่มีกองทัพสหรัฐว้า (UWSA) เป็นแกนนำ สมาชิกในกลุ่มนี้เป็นกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ 7 กลุ่มที่ไม่ได้ลงนามในสัญญาหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) กับรัฐบาลพม่า ประกอบด้วย
    .
    - กองทัพสหรัฐว้า (UWSA)
    - กองทัพคะฉิ่นอิสระ (KIA)
    - พรรคก้าวหน้ารัฐชาน (SSPP/SSA)
    - กองทัพตะอั้ง (TNLA)
    - กองทัพโกก้าง (MNDAA)
    - กองทัพเมืองลา (NDAA)
    - กองทัพอาระกัน (AA)
    .
    KIA เป็นผู้ฝึกทหารให้แก่กองทัพอาระกัน ที่กองทัพพม่าเพิ่งถอนชื่อออกจากบัญชีกลุ่มก่อการร้ายเมื่อวานนี้ และ KIA ยังได้ร่วมกับกองทัพอาระกัน กองทัพตะอั้ง และกองทัพโกก้าง รวมตัวเป็นกลุ่มย่อยในนามพันธมิตรภาคเหนือ เคลื่อนไหวต่อสู้กับกองทัพพม่ามาตั้งแต่ปลายปี 2559 และกำลังเตรียมจัดประชุมเพื่อเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลพม่า แต่เกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ขึ้นมาเสียก่อน
    .
    หลังการรัฐประหาร กองทัพพม่าได้มีการสู้รบกับ KIA บ่อยครั้งขึ้น โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่างรัฐคะฉิ่นกับภาคเหนือของรัฐชาน โดยเฉพาะในอำเภอน้ำคำ และบริเวณบ้านน้ำกุ๋ม หม้อตอง มานห้อง อำเภอหมู่เจ้ จังหวัดหมู่เจ้
    .
    ก่อนค่ายทหารที่แซซินถูกบุก ทหารพม่าได้เข้าโจมตี KIA ที่บ้านน้ำกุ๋ม อำเภอหมู่เจ้ ตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนช่วงค่ำของวันที่ 7 มีนาคม ชาวบ้านใกล้เคียงได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นถึง 4 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตถูกเผยแพร่ออกมา
    .
    เขตแซซิน ในรัฐคะฉิ่น นับเป็นพื้นที่ลำดับที่ 3 หลังการรัฐประหารที่กองทัพพม่าได้เปิดหน้าศึกสู้รบอย่างรุนแรงกับกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ โดยก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน กองทัพพม่าได้เปิดศึกกับกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ในพื้นที่จังหวัดพะอัน จังหวัดผาปูน รัฐกะเหรี่ยง และเปิดศึกกับกองทัพสภาเพื่อการกอบกู้รัฐชาน (RCSS/SSA) ในจังหวัดจ๊อกแม ลางเคอ และดอยแหลม ของรัฐชาน
    .
    สถานการณ์ทั้งในรัฐกะเหรี่ยง รัฐชาน และรัฐคะฉิ่นขณะนี้ ความตึงเครียดทางทหารยังคงปรากฏอยู่ในหลายพื้นที่
    .
    เมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) พล.อ.เจ้ายอดศึก ประธาน RCSS ในฐานะรักษาการประธานคณะทำงานกระบวนการสันติภาพ (Peace Process Steering Team : PPST) ซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วยกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ 10 กลุ่มที่ได้เซ็น NCA กับรัฐบาลพม่าไปแล้ว ได้จัดการประชุม PPST ผ่านระบบออนไลน์ขึ้น เป็นการประชุมอย่างเป็นทางการครั้งที่ 2 นับแต่เกิดการรัฐประหาร หลังประชุมครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 19-20 กุมภาพันธ์
    .
    การประชุมครั้งนี้เป็นไปตามข่าวก่อนหน้า ซึ่งคนใกล้ชิดเจ้ายอดศึกเคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Shan News ว่า PPST ต้องมาตกลงกันก่อนว่าจะมีท่าทีอย่างไรต่อ “คณะกรรมาธิการตัวแทนรัฐสภาพม่า” (Committee Reptrsenting Pyidaungsu Hluttaw : CRPH) ที่สมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ได้รวมตัวกันเพื่อเป็นตัวแทนรัฐบาลและรัฐสภาพม่า ในการติดต่อสัมพันธ์กับประชาคมโลก แทนที่สภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ที่ถูกแต่งตั้งขึ้นโดยคณะรัฐประหาร
    .
    พล.อ.เจ้ายอดศึก ได้กล่าวเปิดประชุม โดยยืนยันว่า PPST ยืนอยู่ฝั่งเดียวกับประชาชน สมาชิกทุกกลุ่มได้หยุดการเจรจากับตัวแทนกองทัพพม่าไปแล้ว และการประชุมกันครั้งนี้ จะเป็นการพูดคุยกันถึงปัญหาและอุปสรรคทางการเมืองที่กำลังเผชิญอยู่ โดยจะพยายามหาทางออก และวางแนวทางที่จะดำเนินการต่อไปในอนาคต
    .
    คาดว่าช่วงบ่ายวันนี้ (12 มี.ค.) หลังเสร็จสิ้นการประชุมวันที่ 2 PPST จะมีแถลงการณ์ท่าทีที่ชัดเจนออกมา.
    .
    .
    https://mgronline.com/indochina/detail/9640000023914

    =AT3WBoi7mBsFuB0Vxqjz569KliGj09fH4Z2Ikk3goZip06pHc6RPNio94xYvScIt72X2XNbGEfhmOfh22XvxG3eoNUjJs8yTaWZffxCMZqMlZtwH7ekPRqETGwnzxiuW4l49_9LvzJwBaAco4S9MGIT8L_2iN-WeJp6AQKT0MVzTt_-hxHEfp1VsyJLIhXhIuFEBuwZksMgaUNzH0_prS0Uv0hKvL2EwfNtzcdi1Rg9zfs-3kFtCU_fEJN4MaABAmDJc3qKnIvN3Pg'] DBlM5CaA1kM0&w=500&h=261&url=https%3A%2F%2Fmpics.mgronline.com%2Fpics%2FImages%2F564000002457501.jpg
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘จีน’ตั้งเป้าอัตราเติบโตเอาไว้‘ต่ำ’ เนื่องจาก‘สงครามเทค’กับสหรัฐฯกำลังเป็นตัวฉุดรั้ง
    โดย เดวิด พี. โกลด์แมน
    การที่สหรัฐฯแบนการส่งออกพวกชิปคอมพิวเตอร์ไฮเอนด์ให้แก่จีน กำลังกลายเป็นภัยคุกคามที่จะชะลอแผนการสร้างเครือข่าย 5จี มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ของปักกิ่ง และน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญซึ่งทำให้รัฐสภาจีนตั้งเป้าหมายการขยายตัวของจีดีพีปี 2021 นี้อยู่ที่ 6% ต่ำกว่าอย่างฮวบฮาบทีเดียวจากระดับ 8 -9 % ที่ฝ่ายตะวันตกคาดหมายกันเอาไว้
    จีนตั้งเป้าหมายอัตราเติบโตในปี 2021 เอาไว้แค่พอประมาณ นั่นคือเพียง 6% ต่ำกว่าเยอะทีเดียวจากคำพยากรณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งให้ถึง 8.1% เรื่องนี้ดูแล้วน่าจะเพราะปักกิ่งคำนึงถึงปัจจัยผลกระทบต่างๆ จากต้นทุนค่าใช้จ่ายอันมหึมามโหฬารที่จะต้องเกิดขึ้น สืบเนื่องมาจากต้องใช้พวกตัวทดแทน ในเมื่อส่วนประกอบสำคัญๆ ถูกสกัดขัดขวางเอาไว้โดยคณะบริหารประธานาธิบดีโจ ไบเดน
    เวลานี้เหล่าผู้นำจีนกำลังวางเดิมพันอนาคตทางเศรษฐกิจของประเทศชาติเอาไว้กับผลิตภาพที่จะพุ่งพรวดขึ้นมา ด้วยแรงขับดันจากบรอดแบนด์เคลื่อนที่ 5จี และบรรดาแอปพลิเคชั่นปลายน้ำของ 5จี แต่จากการที่วอชิงตันสั่งห้ามการส่งออกพวกชิปคอมพิวเตอร์ระดับไฮเอนด์ไปยังแดนมังกร กำลังคุกคามที่จะชะลอการก่อสร้างและการใช้งานโครงข่าย 5จีทั่วประเทศตามที่จีนวางแผนเอาไว้ โดยคาดกันว่ามีมูลค่าสูงถึง 200,000 ล้านดอลลาร์
    พวกนักวิเคราะห์ฝ่ายตะวันตกมีความคิดเห็นแตกแยกกันไปคนละทิศละทางชนิดไกลสุดกู่ทีเดียว ในการประมาณการว่าจีนจะทำได้รวดเร็วแค่ไหนในการสร้างตัวทดแทนแบบโฮมเมดทำเองภายในประเทศ เพื่อใช้แทนที่ประดาเซมิคอนดักเตอร์ประณีตซับซ้อน ซึ่งสหรัฐฯตั้งแต่สมัยคณะบริหารโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ระงับยับยั้งไม่ให้มาถึงมือจีนได้ ด้วยการนำระเบียบกฎเกณฑ์ขึ้นบัญชีดำของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ที่เรียกกันว่า “entity list” มาบังคับใช้นับจากปีที่แล้ว ทั้งนี้ความล้มเหลวที่เกรียวกราวโด่งดังมากบางอย่างบางประการระยะหลังๆ มานี้ของจีน เป็นต้นว่า การระงับโครงการโรงงานผลิตชิปมูลค่า 18,500 ล้านดอลลาร์ที่เมืองอู่ฮั่นเอาไว้ก่อนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าเส้นทางของจีนในการก้าวไปสู่การพึ่งพาตนเองทางเซมิคอนดักเตอร์ให้ได้นั้น อย่างน้อยที่สุดก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายอันสูงลิ่ว
    เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ จีนจึงดูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการการโยกย้ายทรัพยากรต่างๆ เข้าสู่การลอกเลียนศักยภาพความสามารถทางอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งอันที่จริงมีอยู่พรักพร้อมแล้วในไต้หวันและเกาหลีใต้ ทว่าถูกวอชิงตันประกาศใช้ข้อจำกัดควบคุมกีดกันไม่ให้บริษัทอุปกรณ์การสื่อสารโทรคมนาคมรายยักษ์ๆ ทั้งหลายของจีนเข้าถึง เพราะโรงงานผลิตของไต้หวันและเกาหลีใต้เหล่านี้ใช้อุปกรณ์ด้านทุนของอเมริกันและทรัพย์สินทางปัญญาของอเมริกัน
    ปัจจุบันมีเพียง ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง คอร์เปอเรชั่น (Taiwan Semiconductor Manufacturing Corporation หรือ TSMC) และ ซัมซุง ของเกาหลีใต้ เพียงแค่ 2 บริษัทเท่านั้นที่สามารถผลิตพวกชิปเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ซึ่งมีความกว้างของทรานซิสเตอร์ เกต (transistor gate) ระดับเพียงแค่ 3 นาโนเมตร ถึง 5 นาโนเมตร ชิปไฮเอนด์เหล่านี้แหละที่ใช้ในการให้พลังบรรดาสมาร์ตโฟน 5จี และพวกเครื่องเซิร์ฟเวอร์ความเร็วสูงลิบลิ่วทั้งหลาย
    จีนนั้นได้ว่าจ้างวิศวกรผลิตชิปชาวไต้หวันเอาไว้เป็นจำนวนหลายร้อยคน โดยเพิ่มเงินเดือนผลตอบแทนต่างๆ แบบลิ่วๆ ทีเดียว และเวลานี้กำลังว่าจ้างแรงงานประเภทนี้เอาไว้ระหว่าง 10 ถึง 20% ของที่มีอยู่ในตลาด ทั้งนี้ตามการประมาณการของบางเจ้าบางสำนัก ขณะเดียวกันแดนมังกรได้เพิ่มการนำเข้าพวกเครื่องจักรอุปกรณ์สำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์สูงขึ้นราว 1 ใน 5 เมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งยังกำลังซื้อหาอุปกรณ์มือสองและบางครั้งกระทั่งอุปกรณ์ที่ล้าสมัยแล้วจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้อีกด้วย
    ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯได้พึ่งพาอาศัยเนเธอร์แลนด์ในการขัดขวางไม่ให้จีนสามารถซื้อหาเครื่องจักรซึ่งใช้พิมพ์ลายเซอร์กิตลงบนแผ่นซิลิคอนเวเฟอร์ (chip lithography machines) ที่เป็นระดับท็อปออฟเดอะไลน์ จาก เอเอสเอ็มแอล (ASML) --บริษัทเดียวของโลกในเวลานี้ซึ่งผลิตเจ้าเครื่องระดับนี้ได้ ถึงแม้ เอเอสเอ็มแอล ยังคงขายอุปกรณ์ใช้พิมพ์ลายเซอร์กิตที่เป็นเครื่องเจเนอเรชั่นก่อนๆ ให้จีนอยู่ก็ตาม
    แม้กระทั่งว่าสามารถหาพวกเครื่องจักรอุปกรณ์ตลอดจนซอฟต์แวร์ออกแบบชิปที่ถูกต้องเหมาะสมมาได้ทั้งหมด พวกบริษัทจีนก็ยังต้องเจอความท้าทายอันลำบากยากยิ่งอยู่ดีในการผลิตชิประดับประณีตซับซ้อนที่สุดออกมาให้สำเร็จ โดยที่การผลิตชิปประเภทนี้จำเป็นต้องทำกระบวนการทางอุตสาหกรรมมากกว่า 100 กระบวนการทีเดียว อินเทล (Intel) บริษัทอเมริกันที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้ผลิตชิปรายท็อปของโลก เมื่อปีที่แล้วได้ตัดสินใจละทิ้งแผนการในการตั้งโรงงานทำชิประดับ 7 นาโนเมตร ซึ่งเวลานี้ก็ล้าหลังชิปของไต้หวันไปแล้ว 2 เจเนอเรชั่น เมื่ออินเทลคำนวณดูแล้วว่าตนประสบความล้มเหลวไม่สามารถได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าเชิงพาณิชย์ได้
    จีนก็กำลังประสบกับความล้มเหลวที่เกรียวกราวใหญ่โตจำนวนหนึ่ง ในนี้ก็รวมถึงการต้องปิดบริษัท อู่ฮั่น หงซิน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (Wuhan Hongxin Semiconductor Manufacturing) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทนี้ต้องยุติการดำเนินงานหลังจากมีการลงทุนซึ่งตามโครงการวางเอาไว้ที่ 18,500 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้หงซินซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่นของอู่ฮั่น วางแผนจะผลิตชิปขนาด 7 นาโนเมตร
    ในโลกตะวันตก การผลิตชิปเป็นธุรกิจที่เรียกได้ว่าไม่ยอมอดทนอดกลั้นต่อความผิดพลาดใดๆ เลย เฉพาะ TSMC ของไต้หวันเพียงรายเดียวก็ต้องลงทุนกันอย่างมโหฬารปีละประมาณ 25,000 ล้านดอลลาร์ โดยที่โรงงานผลิตชิประดับท็อปออฟเดอะไลน์แค่โรงเดียวก็อาจมีต้นทุนสูงถึงขนาดนั้นแล้ว เทคโนโลยีในด้านนี้ยังกำลังเปลี่ยนแปลงกันอย่างรวดเร็วเหลือเกิน จนกระทั่งการลงทุนแทบทั้งหมดจะเสื่อมค่าไปภายในเวลา 5 ปีเท่านั้น การดำเนินงานอย่างชนิดไร้พลาดและได้อัตราผลตอบแทนดีที่สุด จึงกลายเป็นสิ่งซึ่งจะต้องทำให้ได้ ถ้าหากต้องการมีความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์
    ถึงแม้ด้วยเหตุผลทางด้านความมั่นคงแห่งชาติ จีนน่าจะยังคงเดินหน้าผลิตเซมิคอนดักเตอร์ต่อไป ด้วยต้นทุนที่สูงกว่าปกติอย่างลิบลิ่ว ทั้งนี้ต้นทุนเช่นว่านี้ อย่างน้อยที่สุดก็ในระยะเริ่มต้นแหละ น่าที่จะมากกว่าปกติอย่างลิบลิ่วจริงๆ เสียด้วย
    พวกผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมบอกว่า โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร 5จี ของจีน เวลานี้วางอยู่บนชิประดับ 12 นาโนเมตร หรือล้าหลังอยู่ 2 เจเนอเรชั่นจากพวกชิปใหม่สุดซึ่งไต้หวันและเกาหลีใต้สามารถผลิตนำออกมาขายกัน แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังเป็นความท้าทายสำหรับจีนอยู่ดี ในเรื่องที่จะต้องผลิตชิปล้าสมัยเหล่านี้ให้ได้ปริมาณมากเพียงพอแก่การใช้งาน
    ในปี 2020 เม็ดเงินราวๆ 36,000 ล้านดอลลาร์ (228,000 ล้านหยวน) ถูกนำไปลงทุนในกิจการชิปแห่งต่างๆ ของจีน ทั้งนี้ตามรายงานของ เทคโหนด (Technode ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://technode.com/.../where-china-is-investing-in.../

    ) ซึ่งรวบรวมตัวเลขข้อมูลจากแหล่งที่มาหลายๆ แห่ง เป็นต้นว่า จากพวกรัฐบาลระดับมณฑล, กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลกลางจีนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเรื่องเซมิคอนดักเตอร์นี้อย่างเฉพาะเจาะจง, พวกข้อเสนอเข้าลงทุนในกองทุนเวนเจอร์แคปิตอล และข้อเสนอขายหลักทรัพย์ ขณะที่การลงทุนสะสมในภาคนี้นับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมาน่าจะเลยหลัก 150,000 ล้านดอลลาร์ไปแล้ว
    ความคิดเห็นเกี่ยวกับช่องทางโอกาสของจีนในปริมณฑลนี้ อยู่ในลักษณะกระจัดกระจายไปกันคนละทิศละทางอย่างห่างไกลกันมาก โดยที่วารสารเชิงนโยบายฉบับสำคัญๆ ทุกๆ ฉบับ ล้วนแล้วแต่มีการประเมินเกี่ยวกับเรื่องนี้ในลักษณะใดลักษณะหนึ่งกันทั้งนั้น สิ่งซึ่งอ่านได้อย่างชัดเจนที่สุดเท่าที่ผมสามารถแกะออกมาจากพวกแหล่งข่าววงการอุตสาหกรรมนี้ของแผ่นดินใหญ่ ก็คือ จีนจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสร้างเครือข่าย 5จี ของตนต่อไป หลังจากที่เวลานี้ได้ติดตั้งสถานีฐานประมาณ 70% ของที่ใช้งานกันอยู่ทั่วโลกไปแล้ว อย่างไรก็ดี ต้นทุนค่าใช้จ่ายจะสูงลิ่วจนเจ็บปวดยิ่งนัก
    คณะผู้นำของจีนดูเหมือนยินยอมให้อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจลดต่ำลง สืบเนื่องจากการต้องเข้าลงทุนอย่างมหาศาลในสิ่งซึ่งให้ผลิตภาพที่ต่ำลง ในโลกของความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ ตามหลักทฤษฎีของ เดวิด ริคาร์โด (Ricardian comparative advantage) จีนควรจะนำเข้าชิปจากไต้หวันและเกาหลีใต้ ขณะรวมศูนย์งบประมาณการลงทุนของตนไปที่การพัฒนาพวกแอปพลิเคชั่นปลายน้ำของ 5จี ซึ่งส่งเสริมเพิ่มพูนผลิตภาพ อย่างเช่น เรื่องเมืองอัจฉริยะ, หุ่นยนต์ทางอุตสาหกรรมที่สามารถตั้งโปรแกรมให้ตนเองได้, โทรเวชกรรม (telemedicine), พวกแอปพลิเคชั่นปัญญาประดิษฐ์ของการวิจัยด้านยา, ยานยนต์อัตโนมัติ, ฟาร์มการเกษตรแบบจัดระเบียบตนเองได้ซึ่งได้พลังจากเครือข่าย 5จี เป็นต้น
    แต่สงครามเทคที่ทำกับสหรัฐฯอยู่ บังคับให้จีนต้องหันเหงบประมาณของตนเป็นจำนวนมากมาย รวมทั้งผู้มีความรู้ความสามารถที่หาได้ยากอยู่แล้ว ไปในเรื่องการลอกเลียนแบบการผลิตซึ่งคนอื่นๆ ก็ทำได้เป็นอย่างดีมากอยู่แล้ว
    ความขึงตึงเพิ่มเติมขึ้นมาอีกประการหนึ่งก็คือ จีนยังกำลังมีความต้องการที่จะลดการพึ่งพาอาศัยเงินกู้ของทุกๆ ภาคส่วนลงมา จีนนั้นหลีกหนีจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกของปี 2009 มาได้ก็ด้วยการขยายสินเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอสังหาริมทรัพย์ สินเชื่อโดยรวมของภาคเศรษฐกิจที่อยู่นอกภาคการเงินไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ จากประมาณเท่ากับ 120% ของจีดีพีเมื่อตอนต้นทศวรรษ 2000 กลายเป็น 300% ของจีดีพีในปี 2020 พูดกันเป็นตัวเลขคร่าวๆ ก็คืออยู่ระดับเดียวกันกับสหรัฐฯเลย
    การที่ภาคบริษัทของจีนมียอดเงินกู้สะสมเพิ่มพูนขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่รัฐวิสาหกิจรุ่นเก่าและไม่ค่อยมีประสิทธิภาพทั้งหลาย คือสิ่งที่น่าเป็นห่ว ง เคียงข้างไปกับหนี้สินของรัฐบาลระดับท้องถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นหนี้ที่ผูกพันอยู่กับอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่อสังหาริมทรัพย์ก็เป็นแหล่งที่มาแห่งรายได้ซึ่งสำคัญที่สุดของพวกรัฐบาลท้องถิ่น ทั้งนี้เมื่อดูจากดัชนีหุ้นคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Composite Index) ของพวกหุ้นบริษัทบนแผ่นดินใหญ่แล้ว หนี้สินสุทธิเพิ่มสูงขึ้นมาจนอยู่ในระดับเกือบๆ 4 เท่าตัวของรายรับก่อนหักภาษีทีเดียว ถึงแม้มีการลดลงมาพอประมาณในระหว่างปี 2020 ก็ตาม
    พวกผู้นำของจีนตระหนักเป็นอย่างดีว่า พวกเขาไม่สามารถซ้ำรอยการขยายสินเชื่ออย่างมโหฬารแบบที่เคยทำเมื่อทศวรรษ 2010 สำหรับในครั้งนี้จีนต้องการที่จะใช้วิธีดำเนินการลงทุนเพื่อเพิ่มผลิตภาพ แต่แล้วก็กลับมีความจำเป็นที่จะต้องเข้าดำเนินการลงทุนที่มีผลิตภาพต่ำอย่างกว้างขวางไปด้วย เพื่อทดแทนชดเชยผลกระทบอันเกิดจากการบอยคอตต์ทางเทคโนโลยีของฝ่ายอเมริกัน นี่แหละคือเหตุผลที่สามารถใช้อธิบายได้ ถึงความแตกต่างไม่ลงรอยกัน ระหว่างการที่สภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติของจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตในปีนี้เอาไว้ที่ 6% ขณะที่ฉันทามติในโลกตะวันตกพยากรณ์ว่าแดนมังกรจะเติบโตขยายตัวในระดับ 8-9% ทีเดียวในปี 2021 นี้
    (จากเรื่อง China’s low growth target reflects tech war drag
    by David P. Goldman ใน เอเชียไทมส์ WWW.asiatimes.com

    )
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 12 , 2021 ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’เผยมี 8 สายการบินอาการหนัก จี้ส่งแผนธุรกิจภายใน มี.ค.นี้ หากไม่ผ่านเกณฑ์จะไม่จัดสรรเส้นทางบินเพิ่มให้ - ห้ามขายตั๋ว
    .
    นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงผลประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน ว่าที่ประชุมยังมีมติรับทราบผลการประกอบกิจการประจำปี 2562 และการจัดกลุ่มระดับสุขภาพทางการเงินขอสายการบินเชิงพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย
    .
    โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ (1) ระดับอันตราย จำนวน 8 บริษัท (2) ระดับเฝ้าระวัง จำนวน 3 บริษัท และ (3) ระดับปลอดภัย (ไม่มี)
    .
    โดยกบร. มีมติให้ กพท. เชิญ 8 สายการบินที่อยู่ในกลุ่มระดับอันตราย เข้ามาชี้แจงแผนฟื้นฟูธุรกิจ ภายในเดือน มี.ค. เพื่อประเมินสถานะทางการเงินว่าจะสามารถอยู่รอดได้หรือไม่ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า หากสายการบินแก้ปัญหาไม่ได้ กพท. จะไม่จัดสรรเส้นทางบินเพิ่มเติม ไม่ให้เพิ่มเครื่องบิน และจำกัดเวลาในการจำหน่ายบัตรโดยสารล่วงหน้า เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้โดยสาร
    .
    ส่วนสายการบินกลุ่มเฝ้าระวัง กรณีที่อยู่ในระดับเฝ้าระวัง กพท. จะสั่งให้ส่งข้อมูลการคาดการณ์สถานะทางการเงินในช่วง 12 เดือนข้างหน้า พร้อมข้อสมมติในการคาดการณ์ และ กพท. ดำเนินการตรวจสอบความสมเหตุสมผลของข้อสมมติที่สำคัญกับแหล่งข้อมูลจากหน่วยงานทั้งภายในและภายนอก
    .
    นอกจากนั้น ให้ กพท. ศึกษาและทบทวนแบบจำลองการจัดกลุ่มตามระดับสุขภาพทางการเงินของผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนเพื่อให้มีแบบจำลองที่เหมาะสมที่สุดกับบริบทของประเทศไทย
    .
    นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ กพท. ประสานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อจัดให้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่บุคลากรทางการบิน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดทำการบินระหว่างประเทศและเพื่อให้ไทยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางเศรษฐกิจผ่านระบบการขนส่งทางอากาศได้
    .
    สำหรับ 8 สายการบิน ที่ถูกจัดกลุ่มในอยู่ระดับอันตราย ประกอบด้วย สายการบินไทย ,สายการบินไทยสมายล์ , สายการบินนกแอร์ ,สายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ,สายการบินเวียดเจ็ท ,สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ , สายการบิน เอเชีย แอทแลนติกแอร์ไลน์ และซิตี้ แอร์เวย์
    .
    #8สายการบิน #อาการหนัก #โคม่า #เศรษฐกิจ #Misterban
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 12 , 2021 องค์การยาแห่งสหภาพยุโรปยืนยันไม่พบข้อบกพร่องวัคซีนโควิดแอสตร้าเซเนก้า ที่ส่งผลให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
    .
    องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ยืนยันว่าไม่พบข้อบ่งชี้ว่าวัคซีนต้านโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้า (AstraZeneca) เชื่อมโยงกับการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ได้รับวัคซีน
    .
    หลังจากที่หลายประเทศแห่ระงับการใช้วัคซีนดังกล่าว เนื่องจากพบว่าประชาชนจำนวนหนึ่งเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังได้รับวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้า และยังมีรายงานว่าชาวอิตาลีวัย 50 ปีเสียชีวิตจากภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำหลังได้รับวัคซีน
    .
    โดย EMA ระบุว่ายังไม่พบข้อบ่งชี้ว่าภาวะลิ่มเลือดอุดตันเป็นผลข้างเคียงมาจากการฉีดวัคซีน และประโยชน์ของวัคซีนยังมีมากกว่าความเสี่ยง และยืนยันว่าวัคซีนดังกล่าวยังสามารถใช้งานต่อไปได้ แต่กำลังเร่งตรวจสอบกรณีของอาการลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดขึ้น
    .
    โดยวัคซีนดังกล่าวได้รับการศึกษาทดลองโดยมั่นใจว่ามีมาตรฐานด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยซึ่งได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และชาวยุโรป ทั้งหมด 5 ล้านคนที่ได้รับการฉีด มีเพียง 30 คนเท่านั้นที่เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
    .
    #ยุโรป #วัคซีน #Covid #โควิด #Misterban
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 12 , 2021 ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ไทยยังฉีดวัคซีนซิโนแวคตามแผนเดิม ส่วนแอสตร้าเซเนก้าให้ชะลอไว้ก่อนเพื่อรอผลการสอบสวน เพราะความปลอดภัยของประชาชนต้องมาก่อน
    .
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ความปลอดภัยของประชาชน ต้องมาก่อน การเลื่อนฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ให้แก่นายกรัฐมนตรีวันนี้ เป็นไปตามการวินิจฉัยของคณะแพทย์ เนื่องจากมีการรายงานผลข้างเคียง หรือ อาการไม่พึงประสงค์ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับการฉีดวัคซีน มาก่อน และมีการชะลอการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ในบางประเทศเพื่อรอผลการสอบสวน และสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม
    .
    ข้อมูลนี้เพิ่งได้รับรายงานเมื่อค่ำวานนี้ และคณะแพทย์ได้พิจารณากันอย่างจริงจัง ตามข้อมูลที่ได้รับจากต่างประเทศ จนได้ข้อสรุป ว่า จะชะลอการฉีดวัคซีนแอซตราเซนเนกา ไว้ระยะหนึ่ง เพื่อรอผลการสอบสวนอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้น อย่างละเอียด ก่อน
    คณะแพทย์ ยืนยันว่าวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า เป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัย และได้รับมาตรฐานจากองค์การอนามัยโลก ฉีดไปแล้วมากกว่า 30 ล้านโดส และมีการสั่งซื้อมากกว่า 3,000 ล้านโดส
    .
    คณะแพทย์ยึดหลักความปลอดภัยของประชาชนที่จะได้รับวัคซีน สูงสุด จึงให้ชะลอไว้ก่อน แม้ว่าวัคซีนที่ใช้ในยุโรป กับ วัคซีนที่ส่งมาประเทศไทย เป็นคนละล็อต และมาจากคนละโรงงาน แต่เมื่อมีรายงานอาการที่ไม่พึงประสงค์ แม้จะยังไม่ยืนยันว่าเป็นผลจากวัคซีน โดยตรงก็ตาม
    .
    การชะลอ หรือ หยุดฉีดวัคซีน ชั่วคราว เพื่อสอบสวนหาข้อมูลเป็นเรื่องปกติทางการแพทย์ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนใหม่ และ การฉีดวัคซีนในวงกว้างระดับประเทศ และระดับโลก ซึ่งการฉีดวัคซีนโควิด อื่นๆ ในบางประเทศ ก็เคยหยุด หรือ ชะลอ เพื่อรอผลการสอบสวนมาแล้ว ก่อนจะกลับมาฉีด เมื่อมีความมั่นใจในผลการสอบสวนว่า ไม่ใช่ผลจากวัคซีน
    .
    นี่เป็นเหตุผลหนึ่งของการใช้วัคซีนแบบสถานการณ์ฉุกเฉิน หากมีอาการไม่พึงประสงค์ แม้จะไม่ชัดเจนว่ามาจากวัคซีนหรือไม่ คณะกรรมการบริหารจัดการวัคซีน ของรัฐบาล จะมีคำสั่งให้หยุดการฉีดวัคซีน ไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน
    นายกรัฐมนตรี ในฐานะประชาชน ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของคณะกรรมการฯ เช่นเดียวกัน
    .
    วันนี้ จึงยังไม่มีการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าในประเทศไทย จนกว่าจะมีผลการสอบสวนชัดเจนว่า มีความปลอดภัย หรือ หากมีผลข้างเคียง จะมีแนวทางแก้ไข ป้องกัน อย่างไร จึงปลอดภัยสูงสุดสำหรับประชาชน
    .
    คาดว่าการสอบสวนในยุโรป จะใช้เวลาประมาณ 2สัปดาห์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะรายงานให้ประชาชน ทราบต่อไป แต่ในช่วงนี้ ยังมีการฉีดวัคซีนซิโนแวคตามแผนเดิม
    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...