ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    (Mar 13) ยูจีน กู๊ดแมน วีรบุรุษรัฐสภาสหรัฐ: จุดเด่นในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 46 ของ โจ ไบเดน เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2021 คือช่วงเวลาที่พิธีกรกล่าวแนะนำ ยูจีน กู๊ดแมน (Eugene Goodman) นายตำรวจประจำรัฐสภาสหรัฐ ผู้ทำหน้าที่อารักขาว่าที่รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ขณะเดินเข้าสู่ปะรำพิธี พร้อมเสียงปรบมืออย่างกึกก้องยาวนานจากผู้เข้าร่วมงาน เพื่อแสดงความชื่นชมต่อการกระทำที่ได้รับการยกย่องว่า มีความกล้าหาญเยี่ยงวีรบุรุษเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
    ย้อนกลับไปในวันที่ 6 มกราคม 2021 วุฒิสภาสหรัฐกำลังมีการประชุมเพื่อลงมติรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเสนอชื่อ นายโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี อย่างเป็นทางการ
    ในเวลาเดียวกัน ภายนอกบริเวณหน้ารัฐสภามีกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงผลการเลือกตั้งจำนวนหลายพันคนมารวมตัวกันอยู่ ทั้งหมดเป็นคนผิวขาวที่มีแนวคิดนิยมขวาจัด แต่งตัวแสดงลักษณะเหยียด
    คนผิวดำว่า เป็นพลเมืองชั้นสอง
    พร้อมโบกธงสมาพันธรัฐ (confederate flag) ยุคสมัยสงครามกลางเมืองคริสต์ศตวรรษที่ 19 และแล้วเหตุการณ์รุนแรงที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น หลังจากได้ฟังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวปราศรัยปลุกระดมด้วยวาทะที่กล่าวหาว่าตนเองถูกโกงการเลือกตั้ง
    กลุ่มผู้ประท้วงเกิดความฮึกเหิมวิ่งกรูบุกเข้าไปภายในรัฐสภา บางคนถึงกับปีนป่ายกำแพง และด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภาที่มีจำนวนน้อยกว่า ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงสามารถพังประตูหน้าเข้าไปภายในได้
    ตำรวจรัฐสภาต่างพากันหนีกระเจิง ปล่อยให้ ยูจีน กู๊ดแมน นายตำรวจผิวดำอยู่ประจันหน้ากับฝูงชนที่กำลังบ้าคลั่งเพียงลำพัง
    ผู้บุกรุกทุกคนมีสีหน้าดุดัน ส่งเสียงตะโกนเรียกร้องให้วุฒิสมาชิกยุติการประชุม พร้อม ๆ กับประณามรองประธานาธิบดี ไมเคิล เพนซ์ (Michael Pence) พรรครีพับลิกัน ผู้ทำหน้าที่ประธานการประชุม ว่าเป็น “ไอ้คนทรยศ” ดังไปทั่ว
    ในช่วงนาทีเดียวกันนี้ กู๊ดแมนค่อย ๆ เดินถอยหลังมาทีละก้าว ผลักอกดัน ดักส์ เจนเซน (Doug Jensen) ผู้นำกลุ่มผู้ประท้วง เพื่อชะลอการคืบมาข้างหน้า ตัวเจนเซนเองก้าวร้าวมาก ใส่เสื้อลัทธิ “คิวอะนอน” (QAnon) ที่มีความเชื่อว่า มีกลุ่มคนพยายามจะโค่นล้มประธานาธิบดีทรัมป์ ด้วยการทำพิธีบูชายัญ
    นาทีต่อมา กู๊ดแมนตัดสินใจวิ่งขึ้นบันไดไปชั้นสอง โดยฝูงชนตามขึ้นไปติด ๆ ในช่วงเวลานั้น กู๊ดแมนตะโกนผ่านวิทยุที่ซ่อนอยู่ในเครื่องแบบให้พรรคพวกได้ทราบว่า ฝูงชนขึ้นมาบนชั้นสองแล้ว
    และเมื่อถึงบันไดขั้นสูงสุด กู๊ดแมนหยุดเอนตัวเหลือบตาไปมองทางห้องโถงด้านซ้ายมือว่ามีคนอยู่หรือไม่ ก่อนที่จะดันตัวเจนเซนไว้ พร้อมจ้องมองตาถลึงเพื่อให้ตัวเองตกเป็นเป้าสายตาแต่เพียงผู้เดียว ก่อนหันตัวเดินไปห้องโถงทางขวามือ โดยที่ผู้บุกรุกเดินตามไปติด ๆ และไปเผชิญหน้ากับตำรวจรัฐสภาที่รออยู่
    ในช่วงเวลานั้น ฝูงชนไม่ทราบว่า มีกำลังตำรวจเข้ามาปะทะแล้ว และได้มีการคุ้มกันนำวุฒิสมาชิกทั้งหมดในห้องประชุมให้ออกจากพื้นที่ไปได้แล้ว ที่สำคัญ พวกเขากำลังถูกหลอกล่อจากกู๊ดแมนให้เข้ามาติดกับดัก
    เพราะถ้าหากเดินไปทางห้องโถงด้านซ้าย ก็จะเป็นประตูทางเข้าห้องประชุมวุฒิสมาชิก เหตุการณ์ต้องบานปลาย และจะเกิดการสูญเสียอย่างประเมินมิได้ ในขณะที่เหตุการณ์บุกรุกสภาครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 5 คน รวมตำรวจ 1 นาย
    และมีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บกว่า 70 นาย ภาพเหตุการณ์การเผชิญหน้าระหว่างกู๊ดแมน กับกลุ่มผู้ประท้วง ถูกเผยแพร่ออกไปทางโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่นาทีมีผู้เข้าชมร่วม 10 ล้านคน และต่อมาได้มีภาพจากวงจรปิดขยายความว่า ก่อนเหตุการณ์ดังกล่าวเพียงไม่กี่นาที
    ขณะที่กู๊ดแมนกำลังวิ่งอยู่ได้ไปพบวุฒิสมาชิก มิตต์ รอมนีย์ (Mitt Romney) จากพรรครีพับลิกัน ที่เป็นคู่อริของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังเดินเข้ามา เขาจึงรีบพาวุฒิสมาชิกรอมนีย์ วิ่งย้อนทางไปสู่ที่ปลอดภัย ก่อนที่ฝูงชนที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างเข้ามาในบริเวณนั้นเพียงไม่กี่อึดใจ
    ยูจีน กู๊ดแมน วัย 41 ปี เป็นทหารผ่านศึก ผ่านการรบในสงครามอิรัก ในช่วงปี 2002-2006 ก่อนมาสมัครเป็นตำรวจประจำรัฐสภา เพื่อน ๆ ของเขาไม่แปลกใจต่อปฏิภาณไหวพริบ และความมีสติของกู๊ดแมน ในช่วงภาวะคับขัน
    คอลัมน์ นอกรอบ: รณดล นุ่มนนท์
    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
    https://www.prachachat.net/columns/news-626518
    261&url=https%3A%2F%2Fwww.prachachat.net%2Fwp-content%2Fuploads%2F2021%2F03%2F%E0%B8%99%E0%B8%B3.jpg
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    (Mar 13) ไฟแนนซ์เข้มเช่าซื้อรถยอดปฏิเสธพุ่งเท่าตัว : สมาคมเช่าซื้อคาด ภาพรวมตลาดปี 64 โต 20% ตามยอดขายรถยนต์ ที่จะมี 8 แสนคัน จากปีก่อนที่หดตัวถึง 20% เผยช่วง 3 เดือนแรกของปี ยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่งเท่าตัว ทั้งรถใหม่ รถมือสอง จากความกังวลการระบาดโควิดรอบใหม่ เหตุสถาบันการเงินเข้ม เน้นมนุษย์เงินเดือนที่มีประวัติเครดิตดี
    TMB Analytics คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2564 จะอยู่ที่ 8.35-8.50 แสนคัน หรือขยายตัว 5.5-7.3% จากภาคการส่งออกที่ดีขึ้นและภาคเกษตรที่ทยอยฟื้นตัว โดยประเมินว่า ช่วงไตรมาสแรก ยอดขายมีทิศทางชะลอตัวลง
    เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการระบาดของโควิด-19 เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ยอดขายจะทยอยปรับตัวเข้าสู่ระดับปกติอีกครั้ง หลังจากปี 2563 ยอดขายรถยนต์ในประเทศหดตัวถึง 21.4% หรือ 792,146 คัน สาเหตุหลักจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวในช่วงต้นปี ประกอบกับช่วงเมษายน-มิถุนายน ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกแรก
    อย่างไรก็ตาม แม้หลังผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์แล้ว จะทำให้ยอดขายรถยนต์ในภาพรวมค่อยๆ ฟื้นตัว โดยครึ่งปีหลัง หดตัวลดลงเหลือ -4.2% ซึ่งดีกว่าครึ่งปีแรกที่หดตัวกว่า -37.3% และเมื่อมาพิจารณาดูประเภทของรถยนต์พบว่า ยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์ครึ่งปีหลังมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น
    นายวิสิทธิ์ พึ่งพรสวรรค์ ประธานสมาคมเช่าซื้อไทยเปิดเผยว่า บรรยากาศธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ปล่อยสินเชื่อได้น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากเดือนมกราคมตลาดได้รับผลกระทบจากการกลับมาระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่บวกกับอัตราการปฏิเสธลูกค้าที่สูงขึ้นเท่าตัว โดยรถเก่าอัตราปฏิเสธเพิ่มขึ้นเป็น 25-30% จากเดิมอยู่ที่ 15% ส่วนรถใหม่ ยอดปฏิเสธปรับเพิ่มเป็น 15-20% จากเดิมเคยอยู่ที่ 10% และทุกสถาบันการเงินหันมาเน้นกลุ่มลูกค้ามนุษย์เงินเดือนและมีประวัติเครดิตบูโรที่ดี
    สำหรับแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ภาพรวมปัจจุบันยังทรงๆตัวอยู่ที่ 1.5-2.5% ของสินเชื่อรวม ซึ่งเป็นผลจากการที่สถาบันการเงินมีการพักชำระหนี้และปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยสมาชิกของสมาคมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อชะลอการเพิ่มขึ้นของยอดหนี้ค้างชำระ อย่างไรก็ตาม หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาพักหนี้แล้ว หากเศรษฐกิจหลักของประเทศยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวแนวโน้มเอ็นพีแอลอาจเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนอกจากปัจจัยเงินในกระเป๋าของผู้บริโภคแล้วผู้ประกอบการบางส่วนใช้กลยุทธ์ดาวน์ต่ำทำให้เกิดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
    ส่วนภาพรวมตลาดเช่าซื้อปี 2564 นายวิสิทธิ์กล่าวว่า แนวโน้มน่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่า จะเติบโตที่ระดับ 10-20 % ทั้งสินเชื่อรถใหม่และสินเชื่อรถเก่า(มือสอง) ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มตามยอดขายรถยนต์ที่คาดว่า จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ถ้าเศรษฐกิจไม่เลวร้ายไปกว่าที่คาด โดยยอดขายรถยนต์จะมีจำนวน 8 แสนคันจากสิ้นปีก่อนราว 7.7 แสนคัน ซึ่งยอดขายรถยนต์ใหม่ปรับตัวลดลงราว 20% ลดลงมากกว่ารถมือสองที่มีความต้องการซื้อดีขึ้น เพราะราคาเฉลี่ย 3 แสนบาทต่อคัน อัตราผ่อนชำระ 4,000-5,000 บาท/เดือน
    "ปีนี้ยอดขายรถน่าจะแตะ 8 แสนคัน จากปีก่อนอยู่ที่กว่า 7 แสนคัน ซึ่งส่วนใหญ่ 80% ยังมีการใช้สินเชื่อเช่าซื้อ ทำให้ปีนี้โอกาสของสินเชื่อเช่าซื้อทั้งรถใหม่และรถเก่า ภาพรวมน่าจะเติบโต 10-20% แต่ถ้ามีการระบาดของโควิดรอบ 3 ก็ต้องมาพิจารณากันใหม่" นายวิสิทธิ์กล่าว
    ขณะที่ภาพรวมสินเชื่อเช่าซื้อในปี 2562 อยู่ที่จำนวน 2.2 ล้านล้านบาท แต่ปี 2563 ลดต่ำลง อาจได้อานิสงส์ของธุรกิจคาร์ฟอร์แคช ทำให้ยอดรวม พอร์ตการให้สินเชื่ออาจต่ำกว่า 2.2 ล้านล้านบาทเล็กน้อย
    ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ทิศทางตลาดรถยนต์ทยอยฟื้นตัวขึ้นของยอดขายรถใหม่ที่คาดว่า อาจโตได้ในช่วง 7-11% จากช่วงเดียวกันปีก่อนเป็นประมาณ 8.26-8.55 แสนคัน หลังปรับฐานหดตัวลงกว่า 20% ในปี 2563 คงหนุนการเติบโตของยอดคงค้างสินเชื่อเช่าซื้อปี 2564 ให้เติบโตได้ในกรอบประมาณ 3.7-4.5% เทียบกับปี 2563 ที่คาดว่า จะจบปีที่ประมาณ 3.7% แต่เอ็นพีแอลของสินเชื่อเช่าซื้ออาจเพิ่มขึ้นในกรอบที่ไม่สูงนัก เนื่องจากยังมีมาตรการผ่อนปรนการจัดชั้นหนี้ของธปท. ช่วยอยู่ โดยภาวะการแข่งขันคาดว่า จะกลับมารุนแรงขึ้น โดยเฉพาะตลาดลูกค้าศักยภาพที่มีขนาดเล็กลง หลังผ่านพ้นช่วงโควิด-19 และปัจจัยดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ
    ด้านนางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยาหรือกรุงศรีออโต้กล่าวว่า ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2563 กรุงศรีออโต้ได้ดำเนินการพักชำระหนี้ให้ลูกค้าเกือบ 9,000 ราย โดยมีมาตรการช่วยเหลือที่ครอบคลุมถึงการปรับโครงสร้างหนี้ ลดค่างวดผ่อนชำระสูงสุด 30% ของค่างวดเดิม ช่วยให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ที่ควบคุมสูงสุดตามประกาศของรัฐบาลและการพักชำระค่างวดสูงสุด 3 เดือนครอบคลุมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยรวมถึงสินเชื่อจำนำทะเบียนที่พักชำระเฉพาะเงินต้น
    นอกจากนั้น ยังได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบตามสภาพการณ์และความจำเป็นเป็นรายกรณี อาทิ การให้พักชำระหนี้หรือการปรับโครงสร้างหนี้ เป็นต้น
    Source: ฐานเศรษฐกิจออนไลน์
    https://www.thansettakij.com/content/money_market/471831
    dBJ&w=500&h=261&url=https%3A%2F%2Fmedias.thansettakij.com%2Fimages%2F2021%2F03%2F12%2F1615518925.jpg
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    (Mar 13) ที่ดินไร้สิทธิ์เฮ ได้โฉนด 5 ล.ไร่ ราคาขยับ100 เท่า เปลี่ยน น.ส.3-น.ส.3ก 3 ล้านแปลง: กรมที่ดินลุยออกโฉนดล้านแปลง เฉลี่ย 5 ล้านไร่ ทั่วไทย ให้กลุ่มไร้เอกสารหลักฐาน ส.ค.1-น.ส.3 มีเพียง “ชื่อ-นามสกุล” แจ้งทำประโยชน์ เงื่อนไข ห้ามโอน 10 ปี เริ่มปีงบ 65 ใช้เวลา 10 ปี ดันราคาที่ดินพุ่ง 100 เท่า นิพนธ์ บุญญามนี สั่งประชาชนทั่วประเทศต้องการมีเอกสารสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
    แต่ปัจจุบันกลับพบว่าผู้ครอบครองทำประโยชน์จำนวนไม่น้อย ไร้เอกสารหลักฐานการได้มาของที่ดิน แม้แต่ ใบแจ้งการครอบครองที่ดิน(ส.ค.1) หรือหนังสือรับรองทำประโยชน์ที่ดิน (น.ส.3-น.ส.3ก) เพียงแต่รับทราบภายในชุมชนว่าเป็นมรดกตกทอดสืบต่อกันมานับแต่บรรพบุรุษ สะท้อนว่า คนกลุ่มดังกล่าวอาจอยู่ห่างไกลความเจริญ ไม่สามารถเข้าถึงข่าวสารการประชาสัมพันธ์โครงการเดินสำรวจออกโฉนดของกรมที่ดินหรือไม่ก็ที่ดินอาจตั้งอยู่ในเขตป่าที่ดินรัฐที่กำลังเป็นข้อพิพาท
    อย่างไรก็ตาม นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดินได้รับมอบหมายจากกระทรวงมหาดไทย ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนให้ทัดเทียมเสมอภาคลดเหลื่อมลํ้า ให้มีเอกสารสิทธิ์เป็นของตนเอง นอกเหนือไปจากกลุ่มที่มีหลักฐานประเภท ส.ค.1น.ส.3 และน.ส.3ก ที่มีหลงเหลือไม่น้อยกว่า3ล้านแปลง ขณะเป้าหมายระยะยาวที่ดินทุกแปลงต้องเป็นโฉนดเท่านั้นล้านแปลงไร้หลักฐานแหล่งข่าวจากกรมที่ดิน เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากการตรวจสอบที่ดินทำประโยชน์ประชาชนพบว่า มีกลุ่มตกหล่น ไม่มีเอกสารหลักฐานใดมากถึง 1,000,000แปลง ทั่วประเทศเฉลี่ยแปลงละ 5 ไร่ หรือประมาณ 5ล้านไร่ ทั้งนี้ข้อมูลมาจากการแจ้งเบาะแสของเจ้าของที่ดินที่ต้องการออกโฉนดซึ่งมีเพียงซื่อ ที่ตั้งหมู่บ้าน จังหวัดและบัตรประชาชน นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เท่านั้น ขณะเดียวกันอีกส่วนหนึ่งมาจากสำนักงานที่ดินแต่ละจังหวัดสำรวจส่วนใหญ่ พบมากทางจังหวัดภาคอีสานที่ดินมีรอยต่อคาบเกี่ยวกับ ที่ดินรัฐเขตป่า และ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง ชายแดนภาคใต้ มีความเสี่ยงต่อภัยความมั่นคงเจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความยากลำบาก ส่วนพื้นที่ใดที่เป็นภูเขาจะยกเว้นไว้ก่อน หาทางพิสูจน์สิทธิ์ในภายหลัง
    เป้า10ปีออกโฉนดอย่างไรก็ตามเพื่อลดความเหลื่อมลํ้าทางสังคมประชาชนมีความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินกรมที่ดินจึงจัดทำแผน 10 ปีออกโฉนดให้กับที่ดินตกหล่นทุกแปลงนับจากปีงบประมาณปี 2565เป็นต้นไปโดยเฉลี่ยจะออกโฉนด ปีละ100,000 แปลง ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับงบประมาณ หาก ถูกปรับลด อาจต้องลดปริมาณงานลงตามไปด้วย การดำเนินงานแบ่งออกเป็น 2โครงการ ได้แก่ โครงการเดินสำรวจออกโฉนด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่ง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือเรียกโดยย่อว่า ศอ.บต. เป็นผู้สำรวจมีจำนวน 400,000 แปลงและมีความประสงค์ให้กรมที่ดินออกโฉนดให้ แต่ในจำนวนนี้อาจร่วมน.ส.3ติดมาด้วยซึ่งปีงบ ประมาณ 2565 กรมที่ดินขอจัดสรรงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท รวมค่าอุปกรณ์ เงินเดือนเจ้าหน้าที่ ออกโฉนด 85,000 แปลง โดยส่วนของจังหวัดชายแดนใต้ได้รับงบประมาณ 73 ล้านบาทเดินสำรวจออกโฉนด 15,000 แปลงเข้าระบบ“บอกดิน”สแกนทั้งนี้ทั้งนั้นที่ดินทุกแปลงต้องนำเข้าระบบ “บอกดิน” เพื่อตรวจสอบ หาพิกัดยังที่ตั้งแปลงที่ดินหากพบอยู่ในเขตป่าเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) ป่าสงวนที่ดินรัฐ จะถูกจำหน่ายออกไปแต่หาก ทับที่ดินรัฐบางส่วน จะใช้วิธีแยกพื้นที่รัฐออกไป อย่างไรก็ตามประเมินว่า ที่ดินหลายแปลงอาจเป็นที่ดิน สปก. เพราะบางแปลงที่ยื่นขอออกโฉนดเข้ามามีพื้นที่ 20-30 ไร่ซึ่ง แปลงขนาดใหญ่ลักษณะนี้ ไม่ควรตกสำรวจ
    ห้ามโอน10ปีขณะเดียวกันหากเอกสารสิทธิ์ที่จะได้รับคือโฉนดซึ่งสำนักงานที่ดินจะสลักหลังโฉนดห้ามโอนกรรมสิทธิ์ เป็นเวลา 10 ปี แต่หากจะซื้อขายกัน ต้องรอให้พ้น 10 ปีไปก่อน แต่ทั้งนี้มูลค่าที่ดินขยับขึ้น ทันที 10-100 เท่า โดยเฉพาะหากเป็นที่ดินในจังหวัดหัวเมืองใหญ่เมืองท่องเที่ยว สำคัญหากมีโครงการสาธารณูปโภคเข้าพื้นที่ราคายิ่งปรับเพิ่มมท.2แจก3ล้านแปลงนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2)ระบุว่าในปีงบประมาณ2564 มีเป้าหมายรังวัดออกโฉนดที่ดินแจกประชาชน สำหรับกลุ่มที่มีหลักฐานแจ้งการครอบครอง 50 จังหวัด 122,400 แปลงทั่วประเทศและมอบหมายให้กรมที่ดินไปแปลงส.ค.1 น.ส.3 และน.ส.3ก ไปเป็นโฉนด 3 ล้านแปลงเพื่อสามารถใช้เป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินกับธนาคารได้นายนิพนธ์กล่าวว่า รู้สึกยินดีและชื่นชมอย่างจริงใจที่กรมที่ดินได้เดินหน้าขับเคลื่อนงานในภารกิจมาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง โดยจากผลการปฏิบัติงานของกรมที่ดินเป็นระยะเวลายาวนานถึง 120 ปี จะเห็นได้ว่ากรมที่ดินได้มุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้มีความเจริญก้าวหน้าในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านเทคโนโลยีและด้านการบริการต่างๆ ที่มีคุณภาพสอดคล้องรองรับกับความเจริญทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้เป็นที่ยอมรับของสังคมทั้งภาครัฐและเอกชน ที่จะใช้ประโยชน์จากที่ดินในการพัฒนาประเทศ รวมทั้งได้มีการขับเคลื่อนงานตามนโยบายต่างๆ ทั้งของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยอย่างจริงจัง โดยมีการสร้างการรับรู้ และทำความเข้าใจแนวทางนโยบายที่ถูกต้องชัดเจน สามารถขับเคลื่อนงานได้อย่างเป็นรูปธรรม ตอบสนองความต้องการหรือความคาดหวังของประชาชนที่จะได้รับการบริการที่ดี มีคุณภาพ เกิดความเป็นธรรมในสังคม และเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่าง
    Source: ฐานเศรษฐกิจออนไลน์
    https://www.thansettakij.com/content/property/471830
    jT4&w=500&h=261&url=https%3A%2F%2Fmedias.thansettakij.com%2Fimages%2F2021%2F03%2F12%2F1615518858.jpg
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    (Mar 12) แก้กม.แพ่งและพาณิชย์ ลดดอกเบี้ยเหลือ 3-5% ช่วยปลดหนี้ง่ายขึ้น : วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทำให้คนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมา โดยเฉพาะคนที่เป็นหนี้ยิ่งลำบาก เพราะเมื่อรายได้ลดลง หรือหายไป เนื่องจากตกงาน หรือชั่วโมงทำงานลง อาจกระทบต่อความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ กล่าวคือ ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามกำหนด ทำให้ผิดนัดชำระหนี้ ก็จะถูกซ้ำเติมจากดอกเบี้ยปรับ หรือดอกเบี้ยเพิ่ม ยิ่งทำให้มีภาระจ่ายดอกเบี้ยจ่ายหนักกว่าเดิม บางรายต้องแบกรับภาระหนี้สูงกว่าเงินต้น กลายเป็นปัญหาหนี้เรื้อรัง และอาจรุนแรงถึงขั้นดำเนินคดีฟ้องร้องกัน
    ดังนั้นหากสามารถลดภาระดอกเบี้ย โดยเฉพาะดอกเบี้ยผิดนัดชำระ น่าจะช่วยแก้ปัญหาให้ลูกหนี้ได้ทางหนึ่ง ซึ่งปลายปีที่ผ่านมา ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับเกณฑ์เรื่องนี้ไปแล้ว และล่าสุดจะมีการแก้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ. 2468 ซึ่งบังคับใช้มา 95 ปี ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ยผิดนัดชำระด้วย ซึ่งสอดคล้องกับที่ธปท.ดำเนินการ
    การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ลูกหนี้และเจ้าหนี้ จะมีส่วนได้ ส่วนเสีย อย่างไรบ้าง เศรษฐกิจอินไซต์ จะพูดคุยกับผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย คุณธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

    Source: TNN
    ?d=AQG4vCMlq63y-PqY&w=500&h=261&url=https%3A%2F%2Fi.ytimg.com%2Fvi%2FZX4RfaQ9F0o%2Fmaxresdefault.jpg
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    (Mar 12) วิกฤตเมียนมาป่วนทุนไทย ระบบแบงก์เดี้ยง-มาม่าปิดโรงงาน : เมียนมาวิกฤต การเมืองลามทุบเศรษฐกิจเดี้ยง ห้าง ร้านค้า สถาบันการเงินกระทบหนักแห่หยุดทำการ ธุรกิจแสนล้านชะงัก ธุรกรรมมีปัญหา การโอนเงินถูกตัดขาด โลจิสติกส์ การขนส่งสินค้าทั้งระบบล่าช้า สหพัฒน์หยุดไลน์ผลิตโรงงานมาม่าในย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ คาราบาว กรุ๊ป ชี้ยอดหด 30% สั่งชะลอแผนบุก แบงก์กรุงเทพ-SCB งัดแผนฉุกเฉินสู้ ด้านทูตพาณิชย์แนะทุนไทยเตรียมรับมือมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก
    สถานการณ์ทางการเมืองในเมียนมาหลังรัฐประหารเข้าใกล้วิกฤตมากขึ้น เพราะแม้กองทัพจะใช้มาตรการขั้นเฉียบขาดกวาดล้างจับกุมประชาชนที่ร่วมชุมนุมในหลายเมือง แต่การต่อต้านกองทัพกับทางการเมียนมาขยายวงกว้างมากขึ้น ทั้งยังเกิดเหตุการณ์รุนแรงมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
    ขณะที่ผู้ประกอบธุรกิจทั้งชาวเมียนมา ชาวต่างชาติต่างได้รับผลกระทบ ร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สถาบันการเงิน ฯลฯ พากันทยอยปิดสถานประกอบการไม่มีกำหนด เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน การเดินทางสัญจร การขนส่งสินค้าเริ่มมีปัญหา กระทบต่อเนื่องถึงภาคเศรษฐกิจโดยรวมของเมียนมา
    ในส่วนของธุรกิจไทยที่เข้าไปลงทุนในเมียนมา แม้ก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่ขอรอดูสถานการณ์ แต่หลังสถานการณ์บานปลายไม่มีแนวโน้มว่าจะยุติ ทำให้หลายรายได้รับผลกระทบจากยอดขาย รายได้ที่ลดลงอย่างมาก
    อย่างไรก็ตาม ที่กำลังเป็นปัญหาและกระทบต่อภาคธุรกิจอย่างหนักคือ การทำธุรกรรมทางการเงินที่สะดุดหยุดลง เนื่องจากสถาบันการเงิน หน่วยงานราชการจำนวนมากหยุดทำการ
    “สหพัฒน์” หยุดไลน์ผลิตมาม่า
    นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภค เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้กลุ่มธุรกิจของสหพัฒน์ในเมียนมามีความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองอย่างมากจากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นหลายพื้นที่
    โดยเฉพาะในส่วนของโรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่าแห่งที่ 1 ในกรุงย่างกุ้ง ล่าสุด ไลน์การผลิตได้รับผลกระทบไม่สามารถเดินเครื่องผลิตต่อได้ เนื่องจากพนักงานไม่มาทำงาน
    ทั้งนี้ จากที่ได้มีการพูดคุยกับคู่ค้า รวมทั้งชาวเมียนมาเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ พบว่าคนเมียนมาส่วนใหญ่มีความกังวลเรื่องประชาธิปไตย ทำให้การจับจ่ายสินค้าลดลง ยอดขายก็ลดลงตามไปด้วย
    ธุรกรรมการเงินเดี้ยงทั้งระบบ
    ขณะเดียวกัน จากที่ช่วงก่อนหน้านี้กลุ่มสหพัฒน์ได้ทยอยเข้าไปลงทุนตั้งฐานผลิตและโรงงานต่าง ๆ ในเมียนมา ส่วนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง คือ โรงงานมาม่าแห่งที่ 2 ที่มัณฑะเลย์ ซึ่งขยายลงทุนตั้งแต่ปี 2562 และตามแผนจะเดินสายผลิตในปีนี้ ต้องหยุดไว้ก่อน
    ส่วนด้านกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภคที่ส่งออกจากไทยไปขายในเมียนมา เรื่องการขนส่งสินค้าข้ามชายแดนมีปัญหาเรื่องความล่าช้า จึงต้องชะลอไว้ก่อน เพราะสินค้าส่วนหนึ่งจำเป็นต้องรักษาคุณภาพให้สดใหม่ และอีกด้านที่เป็นกังวลอย่างมากคือ ธนาคารปิดให้บริการ ส่งผลต่อระบบการเงิน เริ่มมีปัญหา ตั้งแต่สถานการณ์รุนแรงขึ้น ทุกอย่างเดินหน้าต่อไม่ได้เลย แม้แต่รายได้ก็แทบเป็นศูนย์ จึงต้องรอให้สถานการณ์คลี่คลายขึ้น
    คาราบาวยอดหด-ขนส่งมีปัญหา
    นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์คาราบาว เปิดเผยว่า สถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมากระทบการส่งออกสินค้าทั้งระบบ สินค้าของบริษัทก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ตั้งแต่ช่วงที่มีการชุมนุมพบว่ายอดขายในเมียนมาลดลง 30%
    ขณะที่การทำธุรกรรมทางการเงินไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติ จากที่ธนาคาร และหน่วยงานราชการประกาศหยุดทำการ ช่วงที่เกิดการประท้วงใหญ่ ทำให้บริษัทโอนเงินไม่ได้เลย ทั้งในส่วนของการจัดส่งและซื้อสินค้า
    นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องของการขนส่งสินค้าที่ล่าช้ามากขึ้น ทำให้แผนงานหลายอย่างไม่เป็นไปตามเป้าที่กำหนดไว้ บางแผนงานก็ต้องชะลอไว้ก่อน
    เบรกแผนลงทุนหวั่นยืดเยื้อ
    “นักธุรกิจที่เข้าไปทำตลาดในเมียนมาช่วงนี้ต่างเจอปัญหาจากสถานการณ์ความไม่สงบ ต้องรอพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องภายในหลายประเด็น ในส่วนของบริษัทขณะนี้ได้ชะลอแผนงานในเมียนมาไว้ก่อน ขอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง เพราะหลังยึดอำนาจแรก ๆ ประชาชนและผู้ลงทุนรอดูสถานการณ์ แต่หลังประชาชนลุกฮือขึ้นมาประท้วงยังประเมินไม่ได้ว่าเหตุการณ์จะจบลงเมื่อไร”
    ส่วนจะส่งผลต่อภาพรวมที่กลุ่มทุนต่างชาติจะเข้าไปลงทุนหรือไม่นั้น คงต้องรอดูว่าสถานการณ์จะจบอย่างไรและตรงไหน สุดท้ายแล้วความขัดแย้งหากจบลงที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะ ก็ย่อมส่งผลต่อนโยบายต่าง ๆ ในอนาคต
    การผลิต-การค้าชะลอ
    ด้าน นายกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางการเมืองในเมียนมากระทบการประกอบธุรกิจเป็นอย่างมาก ขณะนี้หลายธุรกิจเริ่มชะงัก ร้านค้า ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งปิดทำการ การขนส่ง โลจิสติกส์ก็มีปัญหา ภาคการผลิตและการค้าเริ่มชะลอตัว
    หากสถานการณ์ยืดเยื้อ 6 เดือนขึ้นไป ธุรกิจในเมียนมาอาจปิดกิจการมากขึ้น โดยเฉพาะในเมืองใหญ่หรือเมืองธุรกิจ จะทำให้มีคนตกงานมากขึ้น กระทบต่อรายได้และกำลังซื้อของประชาชน
    ส่วนผลกระทบระยะยาว หากสถานการณ์ยังไม่ได้รับการแก้ไขจะมีผลต่อความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างประเทศที่จะเข้าไปลงทุนในเมียนมา สะท้อนให้เห็นว่าเม็ดเงินที่จะเข้าไปลงทุนในเมียนมาจะลดลง การผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าจะลดลง การถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างชาติจะหายไป
    ทุนไทยรอเหตุการณ์สงบ
    “ผู้ประกอบการไทย หรือคนไทยในเมียนมา ขณะนี้ทางสถานทูตไทยประจำเมียนมาได้ช่วยเหลือให้นักธุรกิจที่ตกค้างแจ้งความจำนงเดินทางกลับไทย ในวันที่ 12 และ 16 มี.ค.นี้ เชื่อว่าจะมีผู้ที่ต้องการเดินทางกลับไทยจำนวนหนึ่ง แต่ยังคงเหลืออีกบางส่วน สำหรับการย้ายฐานธุรกิจหรือโรงงานของนักลงทุนไทยออกจากเมียนมาแบบถาวรเท่าที่ทราบยังไม่มี”
    สำหรับการค้าระหว่างไทย-เมียนมา มูลค่าประมาณ 1 แสนกว่าล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นมูลค่าการค้าจากชายแดน ซึ่งปัจจุบันยังสามารถส่งสินค้าเข้าไปได้ตามปกติ เพียงแต่ตลาดภายในของเมียนมาหยุดดำเนินการ ทำให้การส่งออกและนำเข้าสินค้าลดลง
    “หากความไม่สงบยุติลงอย่างสันติวิธี เชื่อว่าการค้าจะกระเตื้องขึ้นเร็ว เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้การค้าถูกอั้นไว้ ถ้าปลายทางเปิดจะทำให้กำลังซื้อที่ถูกอั้นเปิด ค้าขายได้มากขึ้น ความต้องการสินค้า การบริโภคจะกลับมา”
    กรุงเทพ-SCB งัดแผน BCP
    นายไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ รองผู้จัดการใหญ่ กิจการธนาคารต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ธนาคารติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิด ระหว่างนี้การบริหารจัดการและการทำธุรกรรมของสาขาธนาคารมีอุปสรรคค่อนข้างเยอะ แต่จะให้ความสำคัญ 2 เรื่อง
    1.ความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน โดยการเปิดสาขาจะใช้รูปแบบทำงานอยู่ที่บ้าน (work from home) ลดความเสี่ยงพนักงานในการเดินทาง ให้พนักงานมาทำงานที่สาขาน้อยที่สุด และการเปิดสาขาจะไม่เปิดตามปกติทั่วไป โดยให้ลูกค้าใช้บริการแบบจำกัดและนัดหมายล่วงหน้า
    อย่างไรก็ดี เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าธุรกิจ ปริมาณการทำธุรกรรมจึงไม่สูงมาก นอกจากนี้ด้านทรัพย์สินก็มีมาตรการดูแลป้องกันด้วย
    หากสถานการณ์มีความรุนแรงจนทำให้สาขาย่างกุ้งไม่สามารถดำเนินการได้ มีแผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP) โดยเตรียมพื้นที่สำรอง 2 แห่ง นอกเหนือจากสาขาไว้รองรับการบริการ แต่เป็นการบริการที่จำกัด โดยให้พนักงานทำงานที่บ้านและสแตนด์บายไว้
    2.ในเชิงธุรกิจ หากดูฐานลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งระหว่างนี้ปริมาณธุรกรรมจะลดลง จะระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ และการติดตามความสามารถในการชำระหนี้ลูกค้าใกล้ชิด ซึ่งจากการประเมินพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ทำธุรกิจหลายด้าน และสายป่านค่อนข้างยาว โดยภาพรวมยังไม่มีผลกระทบต่อพอร์ตสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นจะมีมาตรการดูแลเพิ่มเติม
    นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยในทำนองเดียวกันว่า ได้ดำเนินการตามแผนการดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง (BCP) ดูแลพนักงานให้มีความปลอดภัย โดยส่วนใหญ่ให้ทำงานที่บ้าน ส่วนในเชิงธุรกิจเนื่องจากสาขาเพิ่งเริ่มดำเนินการต้นปี 2564 ปริมาณธุรกรรมธุรกิจและจำนวนฐานลูกค้ายังไม่มาก จึงไม่ได้รับผลกระทบ แต่จะติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
    แบงก์ปิดกระทบธุรกิจ
    นายภาสกร หงษ์หยก ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เมียนมา อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ ลิมิเต็ด (MIH) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในเมียนมา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ผ่านสายไฟเบอร์ออปติกในเมืองย่างกุ้งของบริษัทยังคงดำเนินการได้ และมีการใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ที่ภาครัฐมีมาตรการเคอร์ฟิว เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ทำให้บริษัทต่าง ๆ มีนโยบายทำงานที่บ้านหรือเวิร์กฟรอมโฮม เช่นกันกับการเรียนก็มีเรียนที่บ้านเพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการในการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นด้วย
    ขณะที่ในแง่การทำงาน มีการแบ่งทีมทำงานที่บ้านอยู่แล้ว จึงยังดำเนินธุรกิจได้ แต่มีผลกระทบในส่วนของการซ่อมบำรุง กรณีที่บริการมีปัญหา ทั้งจากการเดินทางเข้าพื้นที่ไม่ได้ เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย รวมถึงการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ เนื่องจากธนาคารส่วนใหญ่ปิดดำเนินการมากว่า 1 เดือนแล้ว เนื่องจากพนักงานประท้วงหยุดงานทำให้บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องตุนกระแสเงินสดของตนเองเพื่อไว้ใช้จ่าย
    “การใช้อินเทอร์เน็ตสูงขึ้น เพราะคนติดตามข่าวสาร เนื่องจากสื่อสิ่งพิมพ์ปิดไปก่อนตั้งแต่มีโควิด ส่วนสื่อทีวี ภาครัฐก็เพิ่งประกาศยกเลิกใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์หลายแห่ง ในแง่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เปรียบเสมือนบริการน้ำและไฟที่หยุดไม่ได้ แต่ภาครัฐก็เข้ามาควบคุม โดยในช่วงที่มีการยึดอำนาจใหม่ ๆ ให้ปิดบริการในช่วงตีหนึ่ง-9 โมงเช้า และปัจจุบันขยับมาเป็นปิดตี 1-06.30 น. เราก็ปฏิบัติตามคำสั่ง ที่น่าห่วงเรื่องกระแสเงินสด ทำยังไงจะมีเงินสดให้อยู่ให้นานที่สุด ทั้งเราเองก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้เมื่อไร”
    ทูตพาณิชย์แนะเตรียมรับมือ
    ขณะที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา (ทูตพาณิชย์เมียนมา) ออกประกาศเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2564 แนะนำภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการไทยว่า จากแนวโน้มที่เมียนมาอาจมีโอกาสถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกและชาติพันธมิตร ภาคธุรกิจไทยจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือ และประเมินสถานการณ์ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว และจากที่นานาชาติมีแนวโน้มออกมาตรการกดดันต่าง ๆ เพิ่มขึ้น อาจกระทบภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในเมียนมาในอนาคต
    ชาติตะวันตกคว่ำบาตร
    สำหรับความเคลื่อนไหวของนานาชาติ รอยเตอร์สรายงานว่า สถานการณ์ประเทศเมียนมาที่ยังคงรุนแรงหลังการรัฐประหารเมื่อ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา จากการชุมนุมต่อต้านและถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเกิน 60 ราย ผู้ถูกจับกุมอีกเกือบ 1,800 ราย ทั้งนี้ วันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา สหภาพแรงงานในเมียนมา 9 แห่ง ได้เรียกร้องให้สมาชิกยกเลิกกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง
    ขณะที่สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร (ยูเค), สหภาพยุโรป (อียู), แคนาดา และนิวซีแลนด์ ออกมาตรการคว่ำบาตรผู้นำระดับสูงในกองทัพเมียนมา อาทิ การแบนการเดินทางเข้าประเทศ, อายัดสินทรัพย์, ยกเลิกโครงการช่วยเหลือกิจการทหารเมียนมา เป็นต้น
    โดยอียูกำลังประชุมหารือเพื่อวางมาตรการเพิ่ม โดยอาจสั่งห้ามนักลงทุนและสถาบันการเงินอียูไม่ให้ทำธุรกิจกับบริษัท “เมียนมา อีโคโนมิก โฮลดิงส์ ลิมิเต็ด” (MEHL) และ “เมียนมา อีโคโนมิก คอร์ปอเรชั่น” (MEC) 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ของผู้บัญชาการทหารเมียนมาที่ทำการค้าทั่วโลก
    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
    https://www.prachachat.net/marketing/news-627113
    8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2-1.jpg
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    e5r0xEP5-RANTZi7YbpaOSHUZ0inFt2KdqsbtVdvL9I0DmFAzW6V9Zjg0YcFnQ4THku19Ze&_nc_ht=scontent.fbkk12-4.png


    (Mar 12) หากไทยพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 จะสร้างรายได้กว่า 6.4 หมื่นล้านบาท : นับแต่เริ่มมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มแรกเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน ทั่วโลกมีจำนวนวัคซีนที่ถูกฉีดไปแล้วกว่า 250 ล้านโดส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัคซีนที่ถูกฉีดในสหรัฐอเมริกามากถึง 31% ของสถิติทั้งหมด รองลงมาเป็นจีนที่ 19% สหภาพยุโรป 14% และอังกฤษ 8% ขณะที่กลุ่มอาเซียนมีสัดส่วน 1.5% โดยเกือบทั้งหมดเป็นของอินโดนีเซีย จึงถือว่าการฉีดวัคซีนในภูมิภาคอาเซียนโดยรวมยังมีน้อยมากเมื่อเทียบกับทั้งโลก

    ทั้งนี้ การเริ่มฉีดวัคซีนในต่างประเทศถือว่ามาเร็วกว่าที่คาดไว้ (เดิมคาดว่าจะเป็นกลางปี 2564) ประกอบกับข้อมูลแผนการจัดหาวัคซีนของประเทศต่าง ๆ พบว่า กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ ทั้งยุโรป สหรัฐฯ จะสามารถฉีดวัคซีนให้ประชากรได้ถึงร้อยละ 70 ซึ่งเป็นระดับที่ก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd immunity) ในช่วงกลางปี 2564 ซึ่งสามารถกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ใกล้เคียงกับภาวะปกติ โดยเฉพาะการเดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศภายในภูมิภาคได้ตั้งแต่กลางปี 2564 และจะทยอยออกเดินทางเพื่อท่องเที่ยวต่างภูมิภาคได้ตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/2564

    ขณะที่ฝั่งเอเชียตะวันออกบางประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฮ่องกง จะสามารถฉีดวัคซีนได้ในระดับเดียวกันในช่วงต้นไตรมาส 4/2564 และจะเริ่มกลับมาเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศนับแต่ไตรมาส 4/2564 เป็นต้นไป

    สำหรับกรณีของไทยที่สามารถควบคุมการระบาดระลอกใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การฉีดวัคซีนให้ถึงระดับภูมิคุ้มกันหมู่ยังดำเนินการได้อย่างล่าช้า ทำให้ความสามารถของไทยในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะกลับมาในปี 2564 นั้น ตั้งอยู่บนเงื่อนไขที่สำคัญ คือ 1) ไม่มีการระบาดรอบใหม่ในช่วงที่เหลือของปี 2564 2) มีการฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง และประชาชนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยวได้ตามเป้าหมายที่ร้อยละ 70 ในไตรมาส 4/2564 3) ไทยผ่อนคลายมาตรการกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วเหลือ 1-3 วัน ในไตรมาส 4/2564

    TMB Analytics จึงประเมินว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะกลับเข้ามาเที่ยวไทยในครึ่งปีหลังจะมาได้จากทั้ง 2 กลุ่ม คือ

    1.กลุ่มพำนักระยะยาว (มีระยะเวลาพำนักเฉลี่ย 2 สัปดาห์) เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีโอกาสจะทยอยกลับเข้าท่องเที่ยวไทยได้เป็นกลุ่มแรก เนื่องจากมาจากกลุ่มประเทศที่มีภูมิคุ้มกันหมู่ในช่วงกลางปี 2564 ซึ่งจะเริ่มเข้ามาได้ตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/2564 เป็นต้นไป ทั้งนี้ โครงสร้างสถิตินักท่องเที่ยวปี 2562 ก่อนมีระบาดของโรคโควิด-19 พบว่า สหราชอาณาจักร เยอรมัน ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ เป็นตลาดหลักของไทยในกลุ่มนี้ ซึ่งเดิมมีจำนวน 1 ล้านคนต่อไตรมาส (คิดเป็น 41% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดในกลุ่มระยาวทั้งหมดซึ่งอยู่ที่ไตรมาสละ 2.5 ล้านคน) และมีค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวเฉลี่ยอยู่ที่ 66,700 บาทต่อคนต่อทริป โดยคาดว่าในครึ่งปีหลังนี้ หากสามารถกลับเข้ามาได้ 15% ในไตรมาส 3/2564 และ 50% ในไตรมาส 4/2564 จะทำให้มีนักท่องเที่ยวจากกลุ่มนี้รวม 6.5 แสนคน และมีเม็ดเงินในระบบเพิ่มขึ้น 3.9 หมื่นล้านบาท โดย 5 จังหวัดหลักที่นิยมเข้ามาพำนักอยู่มากที่สุดเป็น กรุงเทพฯ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ชลบุรี และเชียงใหม่

    2.กลุ่มพำนักระยะสั้น (มีระยะเวลาพำนักเฉลี่ย 1 สัปดาห์) : จากข้อมูลล่าสุดพบว่า ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดหลักของไทยในกลุ่มพำนักระยะสั้น จะมีระดับภูมิคุ้มกันหมู่ได้ในช่วงปลายไตรมาส 3/2564 นี้ และพร้อมออกท่องเที่ยวต่างประเทศได้ในไตรมาส 4/2564 ซึ่งจากข้อมูลในปี 2562 พบว่ามีนักท่องเที่ยวจาก 3 ประเทศนี้อยู่ที่ 1.2 ล้านคนต่อไตรมาส (คิดเป็นสัดส่วน 15.8% ของนักท่องเที่ยวในกลุ่มพำนักระยะสั้นซึ่งมีอยู่ที่ไตรมาสละ 7.5 ล้านคน) มีค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวเฉลี่ยอยู่ที่ 40,600 บาทต่อคนต่อทริป ซึ่งหากกลับเข้ามาได้ 50% จะทำให้มีนักท่องเที่ยวจากกลุ่มนี้ 6 แสนคน และมีรายได้ราว 2.5 หมื่นล้านบาท โดย 5 จังหวัดที่เข้ามาพำนักอยู่มากที่สุดเป็น กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์

    ดังนั้น หากรัฐและเอกชนประชาสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นให้กับท่องเที่ยวต่างชาติที่พร้อมเดินทางทั้ง 2 กลุ่มให้กลับเข้ามาในไทยได้เร็ว จะช่วยให้ครึ่งหลังของปี 2564 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางกลับเข้ามาไทยได้อย่างน้อย 1.25 ล้านคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยวหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 6.4 หมื่นล้านบาท

    นอกจากนี้ ไทยยังอาจจะได้รับปัจจัยบวกเพิ่ม ได้แก่
    1) นักท่องเที่ยวจีนที่ปัจจุบันมีความต้องการมาเที่ยวไทย ซึ่งปัจจุบันยังรอพัฒนาด้านการรับวัคซีนของคนในประเทศ และนโยบายที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

    2) การวางแผนด้านการตลาดเชิงรุกของไทยได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงภาคส่วนต่าง ๆ กลับมาพร้อมอย่างเต็มที่ในการเปิดกิจกรรมเศรษฐกิจ เพื่อจะช่วยทำให้การท่องเที่ยวกลับมาได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน

    Source: การเงินธนาคารออนไลน์
    https://www.moneyandbanking.co.th/a...YgLHODrRtKj9-BHfwPpv-cG39-dvqz4CFd6bH7gsRN310
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    (Mar 12) สำรวจใครทำเงินจากวัคซีนโควิด : หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน สำรวจ รายได้จากการขายวัคซีนต้านไวรัสโควิดของผู้พัฒนาวัคซีนตั้งแต่ไฟเซอร์ไปจนถึงโมเดอร์นา ว่าใครเป็นคนเงินไว้ในรายงานข่าว From Pfizer to Moderna: who’s making billions from Covid-19 vaccines?
    การเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ทำให้ชีวิตของผู้คนกลับมาเป็นปกติมากขึ้น ขณะเดียวกันสร้างยอดขายรายปีให้กับบริษัทยาบางแห่งทั่วโลกมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์
    ในบรรดาผู้ที่ทำเงินมากสุดได้แก่ โมเดอร์นา(Moderna) และ ไฟเซอร์(Pfizer) ทั้งสองบริษัททำเงินมากกว่า 30 ดอลลาร์ต่อคนสำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 2 โดส แต่บริษัทยาในสหรัฐอเมริกา 2 รายนี้แตกต่างกันมาก โดยโมเดอร์นาก่อตั้งขึ้นเมื่อ 11 ปีที่แล้วไม่เคยทำกำไรได้เลย และจ้างพนักงานเพียง 830 คนก่อนเกิดการระบาด ด้านไฟเซอร์มีฐานธุรกิจตั้งแต่ปี 1849 ในปีที่แล้วมีกำไรสุทธิ 9.6 พันล้านดอลลาร์ และมีพนักงานเกือบ 80,000 คน
    ส่วนผู้ผลิตยารายอื่นเช่น แอสตราเซเนก้า(AstraZeneca) ของอังกฤษ – สวีเดน และจอห์นสันแอนด์จอห์นาัน บริษัทยาของสหรัฐอเมริกา ได้ให้คำมั่นที่จะส่งมอบวัคซีนโควิด โดยไม่หวังผลกำไรจนกว่าการระบาดจะยุติลง
    กระแสเงินตลาดจะยังสะพัดต่อไปหรือไม่ในอนาคต ขึ้นอยู่กับว่า วัคซีนโควิดจะฉีดเพียงครั้งเดียวเหมือนกับโรคหัด หรือจำเป็นต้องฉีดวัคซีนโควิดเป็นประจำเหมือนไข้หวัดใหญ่ อยางไรก็ตามในอนาคตอันใกล้นี้ ก็ยังคว้าผลตอบแทนทางการเงินได้จำนวนมาก
    เรามาดูกันว่าใครได้รับผลกำไรที่มากสุด – และผู้ถือหุ้นของบริษัทไหนโกยเงินกันบ้าง
    1. ไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเท็ค(Pfizer/BioNTech)
    ผลิตเอ็มอาร์เอเอ็นวัคซีน(mRNA vaccine)
    วัคซีนของไฟเซอร์ที่ชื่อว่า Comirnaty พัฒนาโดยไบโอเอ็นเท็ค แห่งเยอรมนี โดยใช้เทคนิค mRNA คือ ฉีดพันธุกรรมโมเลกุลที่เรียกว่า mRNA เข้าไปในร่างกาย แล้วให้ร่างกายเป็นเครื่องจักรผลิตวัคซีนโปรตีนเพื่อกระตุ้นภูมิต้านทาน และเป็นวัคซีนแรกที่ได้รับการรับรองให้ใช้แต่ต้องเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่ำมาก (-70 องศาเซลเซียส) รัฐบาลหลายประเทศได้สั่งซื้อไปแล้วประมาณ 780 ล้านโดส ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา (200 ล้านโดสในราคา 3.9 พันล้านดอลลาร์) และคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป (300 ล้านโดส) ในขณะที่อีก 40 ล้านโดสจะส่งไปยังประเทศที่มีรายได้ต่ำผ่าน โครงการ Covax
    การฉีดวัคซีนนี้สองโดสมีต้นทุนที่ราคา 39 ดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา หรือ 28 ปอนด์ และประมาณ 30 ยูโรในสหภาพยุโรป ทั้งนี้คาดว่าจะมียอดขายในปี 2021 ราว 15-30 พันล้านดอลลาร์
    ไฟเซอร์ซึ่งแบ่งต้นทุนและอัตรากำไรเท่ากันกับ BioNTech คาดว่าจะมียอดขาย 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 จากข้อตกลงปัจจุบัน ตัวเลขสุดท้ายอาจสูงเป็น 2 เท่า เพราะไฟเซอร์กล่าวว่าสามารถส่งมอบได้ 2 พันล้านโดสในปีนี้ คาร์เตอร์ โกลด์ นักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์คาดการณ์ว่าจะมียอดขาย 21.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 ส่วนปีหน้าจะมียอดขาย 8.6 พันล้านดอลลาร์และ 1.95 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 บนสมมติฐานในระยะต่อไปจะฉีดวัคซีนเพียงเข็มเดียว
    ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นไฟเซอร์เพิ่มขึ้น 1.8% ส่วนราคาหุ้นไบโอเอ็นเท็คเพิ่มขึ้น 156%
    ผู้ก่อตั้งไบโอเอ็นเท็ค สองสามีภรรยา อูกูร์ ซาฮิน และอุซเล็ม ตุเรซี ซึ่งเป็นดอกเตอร์ทั้งคู่ กลายเป็นเศรษฐีพันล้านในปีที่แล้ว หลังจากการค้นคว้าวิจัยวัคซีนมีความเป็นไปได้และการทำข้อตกลงกับไฟเซอร์ ส่งผลให้ราคาหุ้นสูงขึ้น
    2. โมเดอร์นา(Moderna)
    ผลิตเอ็มอาร์เอเอ็นวัคซีน
    วัคซีนที่ผลิตโดย บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐอเมริกาซึ่งตั้งอยู่ในแมสซาชูเซตส์รายนี้ ต้องเก็บไว้ที่อุณหภูมิติดลบ 20C องศา สหราชอาณาจักรได้สั่งซื้อแล้ว 17 ล้านโดสสหภาพยุโรปซื้อ 310 ล้านโดส พร้อมเงื่อนไขให้ซื้อเพิ่มได้อีก 150 ล้านโดสในปี 2022 ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯสั่งซื้อ 300 ล้านโดส ญี่ปุ่นซื้อ 50 ล้านโดส ต้นทุนการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาสองโดสอยู่ที่ 30 ดอลลาร์ในสหรัฐฯและ 36 ยูโรในสหภาพยุโรป
    คาดว่าโมเดอร์นาจะมียอดขายในปี 2021 ราว 18-20 พันล้านดอลลาร์
    โมเดอร์นาคาดว่าจะมียอดขายในปี 2021 จำนวน 18.4 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนา หวัง นักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์ประเมินยอดขายไว้ที่ 19.6 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ และ 12.2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 ส่วนนปี 2คาดยอดขายไว้ที่ 11.4 พันล้านดอลลาร์ บนสมมติว่าต้องฉีดสองเข็ม
    ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นโมเดอร์นาเพิ่มขึ้น 372%
    กลุ่มนักลงทุนที่ให้การสนับสนุน บริษัทเมื่อเริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2010 จะได้รับผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำ ผู้บริหารระดับสูงสเตฟาน บันเซล ผู้บริหารชาวฝรั่งเศสวัย 48 ปีถือหุ้น 9% รวมมูลค่าเกือบ 5 พันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
    3. จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน(Johnson & Johnson)
    ผลิตอะดีโนไวรัสวัคซีน(Adenovirus vaccine)
    วัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เป็นวัคซีนโควิด-19 ชนิดที่ใช้เพียงโดสเดียวตัวแรกของโลก ได้รับการพัฒนาโดยแจนเซ่น บริษัทลูกในเบลเยียม โดยใช้อะดีโนไวรัสสายพันธุ์ Ad26 ซึ่งเป็นไวรัสหวัดที่หายาก ได้รับการรับรองในสหรัฐอเมริกาเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์และสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิมาตรฐานได้อย่างน้อย 3 เดือน ทั้งนี้คำสั่งซื้อจำนวนมากมาจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรซึ่งสั่งซื้อ 30 ล้านโดสและซื้อเพิ่มได้อีก 22 ล้านโดส สหภาพยุโรปซึ่งได้สูงสุด 400 ล้านโดสและประเทศสมาชิกโครงการ Covax อีก 500 ล้านโดส ตลอดทั้งปี 2022
    คาดยอดขายของปี 2021 ไว้สูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์
    บริษัทฯตั้งเป้าที่จะส่งมอบอย่างน้อย 1 พันล้านโดสในปี นี้ซึ่งจะสร้างรายได้ 10 พันล้านดอลลาร์ รัฐบาลสหรัฐฯได้สั่งซื้อ 100 ล้านโดส และสามามารถซื้อเพิ่มอีก 200 ล้านโดส โดยจ่ายเงิน 10 ดอลลาร์ต่อการฉีดหนึ่งครั้ง
    ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันเพิ่มขึ้น 7.7%
    4. แอสตราเซเนก้า(AstraZeneca)
    ผลิตอะดีโนไวรัส เวกเตอร์ วัคซีน(Adenovirus vector vaccine)
    วัคซีนที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด โดยใช้ไวรัสหวัดลิงชิมแปนซีและสามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิตู้เย็นได้ วัคซีนเวกเตอร์ไวรัสใช้ไวรัสที่ไม่เป็นอันตรายในการส่งรหัสพันธุกรรมไปยังเซลล์ ได้คำสั่งซื้อจำนวนมากมาจากสหราชอาณาจักร 100 ล้านโดส สหภาพยุโรปซึ่งสูงถึง 400 ล้านโดส สหรัฐอเมริกา 300 ล้านโดส และญี่ปุ่น 120 ล้านปอนด์
    คาดยอดขายของปี 2021 ไว้ที่ 2-3พันล้านดอลลาร์
    นักวิเคราะห์ของ SVB Leerink คาดการณ์ยอดขาย 1.9 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้และ 3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 และตัวเลขปี 2021 อาจสูงกว่านี้มากหากแอสตราเซเนก้าบรรลุเป้าหมายซึ่งตั้งไว้สูงที่ 3 พันล้านโดส บริษัทฯได้ให้คำมั่นที่จะส่งมอบวัคซีนโดยไม่แสวงหาผลกำไรในช่วงการระบาด และคิดค่าวัคซีน 4.30-10 ดอลลาร์ สำหรับการฉีดสองโดส
    ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นแอสตราเซเนก้าลดลง 8.6%
    5. ซิโนแวค(Sinovac)
    ผลิตวัคซีนจากเชื้อตาย(Inactivated virus vaccine)
    วัคซีนโคโรนาแวค(CoronaVac) ได้มีการใช้ในกรณีฉุกเฉินในหลายเมืองของจีนตั้งแต่ฤดูร้อนที่แล้ว และได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของจีน เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซิโนแวคซึ่งตั้งอยู่ในปักกิ่งได้ทำข้อตกลงกับบราซิล ชิลี สิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ขณะที่ในเดือนมกราคม ตุรกีและอินโดนีเซีย เริ่มรณรงค์การฉีดวัคซีนด้วยการ ซิโนแวคยังวางแผนที่จะส่งมอบวัคซีน 10 ล้านโดสให้กับประเทศสมาชิกโครงการ Covax
    คาดยอดขายของปี 2021 ไว้หลายพันล้านดอลลาร์ แต่ยังไม่ชัดเจน
    ซิโนแวคระบุว่า สามารถผลิตได้มากกว่า 1 พันล้านโดสในปีนี้ วัคซีนนี้มีราคาอยู่ที่ 60 ดอลลาร์สำหรับการฉีด 2 ครั้งในบางเมืองของจีน ไบโอ ฟาร์มา(Bio Farma) ซึ่งเป็นพันธมิตรของซิโนแวคในอินโดนีเซียสั่งซื้ออย่างน้อย 40 ล้านโดสระบุว่า ราคาในอินโดนีเซียจะอยู่ที่ 27.20 ดอลลาร์สำหรับการฉีดสองเข็ม
    ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นซิโนแวคลดลง 21.6%
    6. สถาบันกามาเลย่า/รัสเซีย ไดเร็ค อินเวสเม้นท์ฟันด์(Gamaleya Institute/Russian Direct Investment Fund)
    ผลิตอะดีโนไวรัสวัคซีน
    แม้ว่าจะยังไม่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหภาพยุโรป แต่ฮังการี และสโลวาเกียได้ซื้อวัคซีนสปุตนิก V.(Sputnik V.) ของรัสเซีย โดยรวมแล้วมากกว่า 50 ประเทศรวมถึงอิหร่าน แอลจีเรียและเม็กซิโกที่ได้สั่งซื้อ นอกจากนี้แอสตราเซเนก้ากำลังทดสอบการฉีดวัคซีนแบบ 2 โดสร่วมกับสปุตนิก
    คาดยอดขายของปี 2021 ยังไม่ชัดเจน แต่น่าจะหลายพันล้านดอลลาร์
    ผู้พัฒนาวัคซีนกำลังเร่งที่จะผลิตสปุตนิกให้มากขึ้นในรัสเซีย แต่ RDIF ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติเปิดเผยกับไฟแนนเชี่ยลไทมส์เมื่อเดือนที่แล้วว่า ได้เซ็นสัญญากับผู้ผลิต 15 รายใน 10 ประเทศเพื่อผลิตวัคซีน 1.4 พันล้านโดส นอกจากนี้ผู้พัฒนาวัคซีนได้ระบุว่า ราคาวัคซีนสองโดสจะอยู่ที่ 20 ดอลลาร์หรือต่ำกว่านั้นสำหรับวัคซีนสองเข็มในต่างประเทศ แต่ให้ฟรีในรัสเซีย
    7. โนวาแวกซ์(Novavax)
    ผลิตรีคอมบิแนนท์ โปรตีนวัคซีน(Recombinant protein vaccine)
    วัคซีนของโนวาแวกซ์ใช้ชิ้นส่วนเล็กๆของสไปก์โปรตีนของไวรัสซาร์ส-โควี-2(Sars-CoV-2) ที่ผลิตในห้องปฏิบัติการ บริษัทสหรัฐฯรายนี้คาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทได้ทำการวิจัยวัคซีนมากว่า 30 ปีและไม่เคยมีวัคซีนตัวไหนที่ได้รับการรับรองก่อนหน้านี้
    บริษัทฯได้ตกลงที่จะส่งมอบวัคซีน 300 ล้านโดส ให้สหราชอาณาจักร (60 ล้านโดส) สหภาพยุโรป แคนาดาและออสเตรเลีย รวมทั้งคาดหวังว่าจะผลิตได้ 150 ล้านโดสต่อเดือน และคาดว่าจะมีราคาถูกกว่าคู่แข่ง ไฟแนนเชี่ยลไทมส์รายงานว่าบริษัทฯได้ตกลงที่คิดเงินเพียง3 ดอลลาร์สำหรับการฉีดวัคซีนในอัฟริกา
    คาดยอดขายของปี 2021 หลายพันล้านดอลลาร์
    จากข้อตกลงกับประเทศต่างๆ โนวาแวกซ์ระบุว่า “มีศักยภาพที่จะสร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า” ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากโนวาแวกซ์คาดว่าจะสามารถผลิตได้ 2 พันล้านโดสต่อปีภายในกลางปี 2021 ด้วยความร่วมมือกับสถาบันเซรุ่มอินเดีย (Serum Institute of India)
    ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นโนวาแวกซ์เพิ่มขึ้น 1,128%
    ผลกำไรทางการเงินที่มากที่สุดจะตกเป็นของผู้จัดการกองทุน เช่น แวนการด์(Vanguard) และแบล็คร็อค(BlackRock) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด
    8. เคียวร์แวค
    ผลิตเอ็มอาร์เอเอ็นวัคซีน
    เคียวร์แวค บริษัทจากเยอรมนีคาดว่าจะเผยแพร่ ผลทดสอบระยะสุดท้ายสำหรับวัคซีน CVnCov ในเดือนเมษายน และหวังว่าจะได้รับการอนุมัติจากสหภาพยุโรปภายในเดือนมิถุนายน สหภาพยุโรปได้สั่งซื้อล่วงหน้า 225 ล้านโดสพร้อมซื้อเพิ่มได้อีก 180 ล้านโดส ที่แตกต่างจากวัคซีน mRNA อื่นๆ คือ วัคซีนเคียวร์แวคสามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิตู้เย็นได้ เคียวร์แวคได้ร่วมกับจีเอสเค(GSK) ซึ่งถือหุ้นเกือบ 10% ในบริษัทฯพยายามที่จะพัฒนาวัคซีนรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันไวรัสที่กลายพันธ์หลายสายพันธ์ได้ในนึ่งโดส
    คาดยอดขายของปี 2021 ยังไม่มีชัดเจน ราคายังไม่เปิดเผย แต่เป็นราคาที่ทำกำไรได้
    บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่จดทะเบียนในตลาดแนสแด็กรายนี้ ตั้งเป้าที่จะผลิตได้มากถึง 300 ล้านโดสในปีนี้และ 600 ล้านถึง 1 พันล้านโดสในปี 2022 เคียวร์แวคกล่าวว่า วัคซีนของบริษัทฯใช้ส่วนผสมที่สารออกฤทธิ์น้อยกว่าคู่แข่ง แต่ยืนยันว่าไม่สามารถตั้งราคาในราคาทุนได้เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังผลตอบแทน
    ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นเคียวร์แวคเพิ่มขึ้น 45.5%
    ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดคือมหาเศรษฐีชาวเยอรมัน ดีทมาร์ ฮอปป์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทซอฟต์แวร์ SAP ซึ่งถือหุ้นเคียวร์แวคมากกว่า 80% และตอนนี้มีมูลค่ามากกว่า 12 พันล้านเหรียญ
    Source: ThaiPublica
    https://thaipublica.org/2021/03/who...CN46OV8FhxYGDlw1kxZssqdmVdLzf9L-nsN4OvOY5MmCE
    =AT0Z0Zar_xi-KUr6JCTHAjfQTnQ2zpRnyGEB15K48o16bEooxCdwaXP6Z9yg37_wJMaUflfDxPoqzMaHAsEr6X--2NLwfltWQOVZM3Fnd6vfOYzHsqwAm5H1wXnVm2hAmz3AsYZjw5H3ZMi8TVioYeRJajeQH448iMzd4dvNo2bgHJnruhO-F5nSJUopal7nyWsLJY1tOuNtpnkZwcPYa2Za-haOjEyUcOa6vJSOoPnN8mdVhD5niiPwMpxOjhBOWvcgigWKBVm5aQ'] UX&w=500&h=261&url=https%3A%2F%2Fthaipublica.org%2Fwp-content%2Fuploads%2F2021%2F03%2Fthegardian.jpg
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การเมืองเมียนมาดุเดือดขึ้นทุกขณะ มีการใช้ยุทธการตาต่อตาฟันต่อฟัน-ยิงมายิงกลับ-ฆ่ามาฆ่ากลับกันเลยทีเดียวในตอนนี้ เมื่อล่าสุดกองทัพคะฉิ่นอิสระ (Kachin Independent Army : KIA) ได้เปิดฉากโจมตีและทำลายค่ายทหารของกองทัพพม่า เพื่อตอบโต้หลังจากที่รัฐบาลทหารยิงและสังหารผู้ประท้วงที่ชุมนุมอย่างสันติในเมือง Myitkyina เมืองหลวงของรัฐคะฉิ่น จนมีทหารพม่าเสียชีวิตมากกว่า 20 ศพ
    .
    ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา เวลาตี 03.00 น. กองทัพคะฉิ่น (KIA) ได้บุกจู่โจมเข้าโจมตีค่ายทหารพม่าสังกัดกองพลทหารราบที่ 33 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณบ้านแซซิน รอยต่อระหว่างรัฐคะฉิ่นกับเขตสะกาย
    .
    ชาวบ้านคนหนึ่งผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า “พวกเราเริ่มได้ยินเสียงปืนดังสนั่นตอนตี 3 แล้วหลังจากนั้นเสียงปืนก็ดังอย่างต่อเนื่องยาวนานจนถึงตี 5”
    .
    และหลังจากที่เสียงปืนสงบลงก็มีชาวบ้านบางส่วนเดินเข้าไปดูในค่ายทหารซึ่งพบว่าในค่ายถูกเผาราบเป็นหน้ากลอง นอกจากนี้ยังพบรอยเลือดเต็มทางเดินภายในค่าย ทั้งนี้มีรายงานว่ามีจำนวนผู้เสียชีวิตในค่ายทหารมากกว่า 20 นาย ส่วนทหารพม่าที่รอดชีวิตต่างพากันหนีเอาตัวรอดและทิ้งค่ายไป ตามรายงานของเพจ Kachin Liberation Media
    .
    อย่างไรก็ตามยังคงมีชาวบ้านผู้อยู่ในเหตุการณ์คนอื่นได้กล่าวเสริมอีกว่า “ในเวลาตี 5 ได้เห็นกลุ่ม KIA ร้องเพลงอย่างรื่นเริง ‘พร้อมกับชูสามนิ้ว’ ซึ่งดูเหมือนกับว่าพวกเขาจะยอมรับและใช้สัญลักษณ์จากภาพยนตร์เรื่อง Hunger Games เป็นสัญลักษณ์แห่งการประท้วงในพม่า” เหมือนกับการประท้วงในประเทศไทย
    .
    ในสัปดาห์นี้กองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลทหารพม่าได้ทำการยิงผู้ประท้วงเสียชีวิต 2 คนในเมือง Myitkyina จนเป็นที่มาของการตอบโต้ดังกล่าว
    .
    กองทัพ KIA นั้นถือเป็นกองกำลังติดอาวุธเก่าแก่ที่มีความน่าเกรงขามและโหดเหี้ยมมากที่สุดกองทัพหนึ่ง ซึ่งแม้ว่า KIA จะเคยทำสัญญาสงบศึกกับกองทัพพม่าเมื่อปี 2537 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องปะทะกันอยู่บ่อยครั้งอันเนื่องมาจากผลประโยชน์ที่ทับซ้อนกันในพื้นที่
    .
    และเมื่อไม่กี่วันก่อน กองทัพพม่าเพิ่งถอดชื่อกลุ่มกองทัพอาระกัน (Arakan Army, AA) ออกจาก “บัญชีกลุ่มผู้ก่อการร้าย” ซึ่งกลุ่มดังกล่าวก็เคยเข้ารับการฝึกทางทหารกับกลุ่ม KIA อีกด้วย
    .
    เพื่อให้ท่านไม่พลาดทุกสิ่งที่น่าสนใจจากเพจ Thailand State กด Like 1f44d.png เพจและตั้งค่า See First 2b50.png เพื่อติดตามข้อมูลดีๆได้เลยครับ
    .
    Source : t.ly/1gHM
    .
    #ThailandState #ThailandStateUpdate
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กองทัพคะฉิ่นยังได้ยึดอาวุธของทหารพม่าอีกเป็นจำนวนมาก

    FdWrQ5lzOyxZoKVUDlhGvmeQn9cM9E45gFD6WWjza7i&_nc_ohc=PNJKDcE9DVoAX-m8WcG&_nc_ht=scontent.fbkk13-1.jpg

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักฟิสิกส์เยอรมันพบวิธีใหม่สร้าง "วาร์ปไดรฟ์" ข้ามจักรวาลด้วยความเร็วเหนือแสง
    _117546169_speedoflightgettyimages.jpg
    ที่มาของภาพ,GETTY IMAGES

    นักฟิสิกส์ชาวเยอรมันเผยวิธีใหม่ในการสร้าง "วาร์ปไดรฟ์" (warp drive) หรือเครื่องยนต์ที่สามารถบิดงอปริภูมิ-เวลา (space-time) ให้เราเดินทางข้ามจักรวาลได้ในพริบตา ซึ่งเครื่องยนต์นี้สามารถเร่งความเร็วให้เหนือแสงได้ โดยไม่ละเมิดกฎเกณฑ์ในทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์แต่อย่างใด

    ดร. อีริก เลนท์ซ จากมหาวิทยาลัยเกิตทิงเงน (Göttingen University) ของเยอรมนี ตีพิมพ์ผลการศึกษาข้างต้นในวารสาร Classical and Quantum Gravity ฉบับล่าสุด โดยระบุว่าได้พบวิธีคำนวณสมการของไอน์สไตน์ในแบบที่ทำให้เกิดฟอง (bubble) ชนิดพิเศษมาห่อหุ้มเครื่องยนต์วาร์ปไดรฟ์ ซึ่งภายในฟองนี้ปริภูมิ-เวลาจะขยายตัวด้วยความไวยิ่งกว่าแสง เหมือนกับเอกภพส่วนที่เราไม่สามารถสังเกตเห็นได้กำลังขยายตัวด้วยอัตราเร่งเดียวกันในปัจจุบัน

    ก่อนหน้านี้ แนวคิดการสร้างวาร์ปไดรฟ์ที่เดินทางเร็วกว่าแสงไม่อาจจะเป็นไปได้ เพราะผิดกฎธรรมชาติตามทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป หากต้องการจะเดินทางได้เร็วกว่าแสง ก็ต้องแก้สมการของไอน์สไตน์ให้เกิดผลเป็น "พลังงานลบ" (negative energy) หรือพลังงานที่มีความหนาแน่นต่ำกว่าความว่างเปล่าของห้วงอวกาศเสียก่อน

    แม้พลังงานลบนี้อาจเกิดขึ้นได้ในการทดลองเชิงฟิสิกส์ควอนตัม แต่ก็ยังไม่สามารถรวมตัวกันมากพอที่จะเกิดเป็น "มวลลบ" (negative mass) ซึ่งนำมาใช้งานจริงสำหรับการสร้างวาร์ปไดรฟ์ได้

    _117546172_bubblemorphologiese.lentz.jpg
    ที่มาของภาพ,E.LENTZ

    คำบรรยายภาพ,
    ฟองของโซลิตอนที่เป็นไปได้สำหรับวาร์ปไดรฟ์แบบต่าง ๆ

    อย่างไรก็ตาม ดร. เลนท์ซได้เสนอวิธีคำนวณที่จะทำให้เกิดฟองของ "โซลิตอน" (Soliton) หรือคลื่นเดี่ยวทรงสภาพแบบที่มีความเร็วสูงอย่างยิ่ง มาห่อหุ้มเครื่องยนต์วาร์ปไดรฟ์เอาไว้ ซึ่งคลื่นนี้จะสามารถคงรูปร่างและพลังงานของมันเอาไว้ได้ ขณะเคลื่อนตัวด้วยความเร็วคงที่แบบเหนือแสง

    การใช้ประโยชน์จากโซลิตอนทำให้วาร์ปไดรฟ์ไม่ต้องพึ่งพาพลังงานลบที่ยังค้นหาไม่พบ นอกจากนี้ ฟองของโซลิตอนยังทำหน้าที่เป็นเกราะปกป้องยานอวกาศจากแรงไทดัลมหาศาลที่จะต้องเผชิญขณะเดินทางข้ามห้วงจักรวาลอีกด้วย

    เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ที่ใช้เดินทางข้ามห้วงอวกาศแบบอื่น ๆ วาร์ปไดรฟ์ความเร็วเหนือแสงจะเดินทางจากดวงอาทิตย์ไปถึงพร็อกซิมา เซนทอรี ดาวฤกษ์นอกระบบสุริยะที่ใกล้ที่สุดได้ภายในเวลาไม่ถึง 4 ปี ในขณะที่เครื่องยนต์ขับดันพลังนิวเคลียร์จะใช้เวลาราว 100 ปี และจรวดขับดันด้วยเชื้อเพลิงเคมีจะต้องใช้เวลายาวนาน 50,000 - 70,000 ปี

    _117546174_traveltimecomparisone.lentz.jpg
    ที่มาของภาพ,E.LENTZ

    คำบรรยายภาพ,
    แผนภาพเปรียบเทียบเวลาที่ใช้เดินทางของเครื่องยนต์แบบต่าง ๆ จากดวงอาทิตย์สู่พร็อกซิมา เซนทอรี

    "พลังงานที่ใช้สำหรับวาร์ปไดรฟ์ซึ่งเร็วเหนือแสงนี้ หากยานอวกาศมีรัศมีกว้างราว 100 เมตร จะต้องใช้เชื้อเพลิงมหาศาลในอันดับหลายร้อยเท่าของมวลดาวพฤหัสบดี" ดร. เลนท์ซ กล่าว

    "เราจึงจะต้องทำให้วาร์ปไดรฟ์นี้ประหยัดพลังงานลงมาได้อีกราว 30 อันดับขนาด เพื่อให้อยู่ในระดับเดียวกับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบฟิชชันสมัยใหม่"

    งานวิจัยนี้ได้รับการเผยแพร่ในเวลาใกล้เคียงกับต้นแบบวาร์ปไดรฟ์ที่มีความเป็นไปได้ทางกายภาพชิ้นแรก ซึ่งนำเสนอโดย ดร.อเล็กซี บอบริก นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยลุนด์ของสวีเดน เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในวารสาร Classical and Quantum Gravity เช่นเดียวกัน โดยต้นแบบวาร์ปไดรฟ์ที่สร้างได้จริงดังกล่าวมีความเร็วต่ำกว่าแสง และอาศัยพลังงานจากสนามความโน้มถ่วงแรงสูง

    ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์เจ้าของแนวคิดใหม่ทั้งสองคนได้ติดต่อกัน เพื่อร่วมมือกันพัฒนาวาร์ปไดรฟ์ความเร็วเหนือแสงที่สร้างขึ้นได้จริงแล้ว

    ดร. เลนท์ซ กล่าวทิ้งท้ายว่า "ข้อเสนอของผมทำให้การเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสงออกห่างจากการเป็นแค่ทฤษฎี แล้วขยับเข้าใกล้ความเป็นจริงทางวิศวกรรมมากขึ้น ขั้นต่อไปคือหาทางลดระดับพลังงานมหาศาลที่ต้องใช้ ให้ลงมาอยู่ในระดับเดียวกับที่เทคโนโลยีปัจจุบันสามารถผลิตได้"


    https://www.bbc.com/thai/internatio...g45kd5ROfiHnVFCoNw6UtJdDwFVDCrCuK7hXt6JGPMFq0
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #อัพเดทข่าววัคซีนโควิดในฮ่องกง
    ผู้มีอาการรุนแรงหลังฉีดวัคซีนโควิด มีเพียง 0.076%
    .
    เมื่อวานนี้ (12 มีค) สธ มีรายงานสำรวจความปลอดภัยของผู้ได้รับวัคซีนโควิดในฮ่องกง สรุปดังนี้ค่ะ
    (ข้อมูล ณ วันที่ 7 มีค หรือ 10 วันหลังเริ่มโครงการฉีดวัคซีน)
    .
    (1) ผู้รับวัคซีนทั้งหมด 93,025 ราย; แบ่งเป็น
    - Sinovac 91,818 ราย
    - BioNTech 1,207 ราย
    .
    (2) พบอาการรุนแรงหลังจากได้รับวัคซีนทั้งหมด 71 คน (หรือ 0.076%); แบ่งเป็น
    - Sinovac 69 คน (0.075%)
    - BioNTech 2 คน (0.166%)
    .
    (3) จากอาการรุนแรง 71 คน
    - ต้องนำส่ง รพ 47 คน
    - เสียชีวิต 2 คน
    (หมายเหตุ: ณ วันที่ 12 มีค เสียชีวิตเพิ่มเป็น 4 คน)
    .
    (4) เคสที่ต้องนำส่ง รพ (47 คน)
    - ชาย 30 คน, หญิง 17 คน
    - อายุ 30-90 ปี
    - อาการส่วนใหญ่: รู้สึกไม่สบายบริเวณหน้าอก เจ็บหน้าอก ท้องเสีย วิงเวียน มีไข้ ปวดศีรษะ คลื่นเหียน ชาตามร่างกาย ใจสั่น ผื่นขึ้น หายใจติดขัด หัวใจเต้นแรง อาเจียน อ่อนเพลีย
    (หมายเหตุ: อาการเหล่านี้ อาจไม่เกี่ยวข้องกับการได้รับวัคซีน)
    - อาการที่พบมากที่สุด จากผู้ได้รับวัคซีน Sinovac คือ ปวดศีรษะ วิงเวียน ผื่นขึ้น
    - อาการที่พบมากที่สุด จากผู้ได้รับวัคซีน BioNTech คือ ปวดท้อง ท้องเสีย ชาตามร่างกาย
    .
    (5) เคสที่ต้องเข้า ICU (2 คน)
    #1
    - ชายวัย 80 ปี
    - โรคประจำตัว: เบาหวาน, หลอดเลือดแข็ง (carotid atherosclerosis), ความดันโลหิตสูง, หลอดเลือดในสมอง
    - วัคซีนที่ได้รับ: Sinovac
    - เริ่มอาการหลังจากรับวัคซีน: 5 วัน
    - อาการ: เจ็บหน้าอก
    - ผลการวินิจฉัย: หัวใจขาดเลือดฉับพลัน
    - หมายเหตุ: พิจารณาเบื้องต้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการฉีดวัคซีน
    .
    #2
    - หญิงวัย 72 ปี
    - โรคประจำตัว: เบาหวาน, ไขมันในเลือดสูง, ความดันโลหิตสูง, ไทรอยด์ (hypothyroidism)
    - วัคซีนที่ได้รับ: Sinovac
    - เริ่มอาการหลังจากได้รับวัคซีน: 1 วัน
    - อาการ: วิงเวียน จึงงดฉีดอินซูลินสำหรับโรคเบาหวานตามกำหนด
    - ผลการวินิจฉัย: เกิดจากโรคเบาหวาน ซึ่งมีระดับน้ำตาลในเลือดมากเกินไป (hyperosmolar hyperglycemic state) อันเนื่องมาจากการงดฉีดอินซูลินตามกำหนด
    - หมายเหตุ: พิจารณาเบื้องต้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการฉีดวัคซีน
    .
    (6) เคสอาการรุนแรงอื่นๆ
    #1
    - ใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก จากความผิดปกติของเส้นประสาทในสมอง (Bell’s Palsy)
    - ชาย วัย 69 ปี
    - โรคประจำตัว: ความดันโลหิตสูง
    - วัคซีนที่ได้รับ: Sinovac
    - เริ่มอาการหลังจากได้รับวัคซีน: 2 ชม
    - อาการ: ไม่สบายตาข้างซ้าย ปิดตาข้างซ้ายไม่สนิท
    - ผลการวินิจฉัย: Bell’s Palsy
    - หมายเหตุ: แอดมิท 1 วัน ออกจาก รพ แล้ว
    .
    #2
    - โรคหลอดเลือดในสมอง (stroke)
    - หญิง อายุ 72 ปี
    - โรคประจำตัว: เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ไทรอยด์
    - วัคซีนที่ได้รับ: Sinovac
    - เริ่มอาการหลังจากฉีดวัคซีน: 6 วัน
    - อาการ: ร่างกายซีกซ้ายอ่อนแรง ลิ้นแข็ง
    - ผลการวินิจฉัย: stroke
    - หมายเหตุ: ยังแอดมิทใน รพ แต่อาการทรงตัว
    .
    (7) เสียชีวิต (จำนวน 2 คน ณ รายงานวันที่ 7 มีค)
    #1
    - ชาย วัย 63 ปี
    - โรคประจำตัว: เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน (สันนิษฐานว่า)กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด สูบบุหรี่จัด
    - วัคซีนที่ได้รับ: Sinovac
    - เริ่มอาการหลังฉีดวัคซีน: 2 วัน
    - อาการ: หายใจติดขัดฉับพลัน ไอ
    - ผลการวินิจฉัย: หลอดเลือดหัวใจอุดตันอย่างรุนแรง
    - หมายเหตุ: เสียชีวิตในวันเดียวกับที่เริ่มเกิดอาการ พิจารณาเบื้องต้น ไม่พบความสัมพันธ์โดยตรงจากการฉีดวัคซีน
    .
    #2
    - หญิงวัย 55 ปี
    - โรคประจำตัว: ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
    - วัคซีนที่ได้รับ: Sinovac
    - เริ่มอาการหลังฉีดวัคซีน: 3 วัน
    - อาการ: เส้นเลือดสมองอักเสบฉับพลัน (acute stroke)
    - ผลการวินิจฉัย: (เบื้องต้น) หลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด (aortic dissection)
    - หมายเหตุ: เสียชีวิตหลังจากเริ่มมีอาการ 1 วัน พิจารณาเบื้องต้น ไม่พบความสัมพันธ์โดยตรงจากการฉีดวัคซีน
    .
    ===================
    อื่นๆ (นอกเหนือจากรายงาน)
    - เป็นทึ่สังเกตว่า ผู้เสียชีวิตและมีอาการวิกฤตในฮ่องกง ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว
    - สธ ฮ่องกงให้ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ฉีดวัคซีนของ Sinovac ได้ ซึ่งต่างจากไทย
    - ส่วนผู้มีโรคประจำตัว สธ ฮ่องกงและไทย มีความเห็นดังนี้
    (ฮ่องกง) หากมีโรคประจำตัวเรื้อรัง ควรชะลอการฉีด จนกว่าจะได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ และไม่ควรฉีดหากมีโรคประจำตัวเรื้อรังและควบคุมไม่ได้
    (ไทย) คำแนะนำสำหรับวัคซีน Sinovac: ผู้มีโอกาสเกิดโรครุนแรง เช่น ทางเดินหายใจเรื้อรัง หอบหืดที่ควบคุมไม่ดี ฯลฯ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรัง หลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวาน ควรได้รับการฉีด
    .
    เครดิตภาพ: South China Morning Post
    .
    Source:
    https://www.covidvaccine.gov.hk/pdf...itoring_COVID19_vaccines_in_Hong_Kong_ENG.pdf
    .

    .
    #eatlike852 #covid19hongkong

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ❗️ #โควิดฮ่องกงวันนี้ (13 มี.ค.)
    ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด +47, ติดในฮ่องกง +43
    .
    วันนี้ ตัวเลขลดลง แต่ยังคงสูง
    .
    ข้อมูลสถานที่ที่ผู้ติดเชื้อทำงาน ร้านอาหาร สถานที่ที่ผู้ติดเชื้อเคยไป ดูแล้วเครียดนิดนึง
    เพราะตระเวณกันกระหน่ำมาก และเป็นที่ที่พี่แป๋วคุ้นเคยแทบทั้งนั้น โดยเฉพาะร้านอาหาร
    .
    cluster คราวนี้ มาจากฟิตเนสที่มี expat, banker, lawyer ทำงานกันค่อนข้างเยอะ
    ผู้ติดเชื้อเลยจะอยู่ในพื้นที่ elite หน่อย เช่น ทำงานแถว Central บ้านอยู่ Mid-Levels ฯลฯ
    (รายชื่อ สถานที่ของผู้ติดเชื้อ พี่แป๋วจะลิสท์ให้ด้านล่างค่ะ)
    .
    แต่ถ้ามองในมุมที่กำลังลุ้นกันอยู่ว่าจะเกิดเวฟ 5 มั้ย
    พี่แป๋วดูตัวเลขพวกติดแบบ preliminary หรือติดแบบไม่ทราบต้นตอ พี่แป๋วว่า มันไม่สูงนะ
    ตอนนี้ ก็ลุ้นว่า ขอให้คุมได้เหมือนเคสร้านอาหารที่ K11 MUSEA
    .
    ปล. Cluster Ursus Fitness (Sai Ying Pun) วันนี้ พุ่งไปที่ 99 คนแล้ว (แต่รอยืนยันผลเหลือไม่เกิน 10 คน)
    .
    ====================
    #เคสต่างประเทศ (4 คน)
    ปากีสถาน(2)
    เนเธอร์แลนด์(1)
    อัลบาเนียผ่านดูไบ(1) - พบเชื้อตอนกักตัววันที่ 12
    .
    เชื้อกลายพันธุ์ - พบในฮ่องกง 75 คน
    สายพันธุ์อังกฤษ 37 คน
    สายพันธุ์แอฟริกาใต้ 8 คน
    สายพันธุ์บราซิล 5 คน
    ระบุสายพันธุ์ไม่ได้ 25 คน
    .
    ==================
    #เคสในฮ่องกง (43 คน)
    เชื่อมโยงเคสเก่า 39 คน, ไม่ทราบต้นตอ 4 คน
    .
    #ตัวอย่างผู้ติดเชื้อ
    - 10+ คน ติดเชื้อแบบรอผลยืนยัน (preliminary) - 7 คน เกี่ยวโยงกับ Ursus Fitness
    - 35 คน cluster Ursus Fitness (Sai Ying Pun) (รวม 99 คน; พนักงาน 7 คน สมาชิก 75 คน คนใกล้ชิด 17 คน)
    - 1 คน เจ้าหน้าที่แผนกซ่อมบำรุง รพ Sanatorium (Happy Valley)
    - 1 คน เทรนเนอร์ @ One Personal Training (ตึก H Code, Central)
    - 1 คน ตำรวจหญิง เพิ่งคลอดบุตรเมื่อต้นเดือนนี้ เคยตรวจวันที่ 28 กพ ไม่พบเชื้อ แต่ตรวจอีกครั้ง วันที่ 9 มีค พบเชื้อแล้ว
    - (ติดแบบ preliminary) พนักงาน VIP lounge ที่สนามบิน, นร อนุบาลใน Yuen Long, นร ประถมใน Kowloon Tong ฯลฯ
    .
    อื่นๆ
    - รักษาหาย 27 คน
    - ไม่มีผู้เสียชีวิต
    - สถานที่ทำงานของผู้ติดเชื้อ
    1. Shearman & Sterling, 21/F, Gloucester Tower, The Landmark, 15, Queen’s Road Central, Central
    2. BGL HK Limited, 4/F, Hilltop Plaza, 49-51 Hollywood Road, Central
    3. April Hong Kong Limited, 9/F, Chinachem Hollywood Centre, 1-13, Hollywood Road, Central
    4. Eaton Partners, Room 1501, 15/F, New World Tower I, 16-18 Queen’s Road Central, Central
    5. Vivin HK Ltd, Room 303, 3/F, Fu Fai Commercial Centre, 27 Hillier Street, Sheung Wan
    6. HSBC, 17/F & 22/F, HSBC Main Building, 1 Queen’s Road Central, Central
    7. York Capital Management Asia (HK) Advisors Limited, Suites 809-910, 8/F, Chater House, 8 Connaught Road Central, Central
    8. Tapfin: Manpower Solutions Company, 3/F, Harcourt House, 39, Gloucester Road, Wan Chai
    9. Credit Suisse AG, 88/F, International Commerce Centre, Union Square, 1 Austin Road West, Yau Tsim Mong
    10. Date by Tate, G/F, 210 Hollywood Road, Sheung Wan
    11. Tate Dining Room, 1/F, 210 Hollywood Road, Sheung Wan
    12. H&M Hennes & Mauritz Ltd., 21/F – 22/F, Tower 6, China Hong Kong City, 33 Canton Road, Yau Tsim Mong
    13. Allen & Overy (Hong Kong) Limited, 9/F, Three Exchange Square, 8 Connaught Place, Central
    14. Herbert Smith Freehills, 23/F, Gloucester Tower, 15 Queen’s Road Central, Central
    15. Bloomberg LP, 25/F, Cheung Kong Center, 2 Queen’s Road Central, Central
    16. BNP Paribas, 63/F, Two International Finance Centre, 8 Finance Street, Central
    17. Asia Pacific Loan Market Association, 32/F, Jardine House, 1 Connaught Place, Central
    18. Ernst & Young HK OTP Financial Service, 32/F, One Taikoo Place, 979 King’s Road, Quarry Bay
    19. Lunar Capital Management Limited, 4/F, St. George’s Building, 2 Ice House Street, Central
    20. Zurich Insurance Company Ltd, 25/F – 26/F, One Island East, 18 Westlands Road, Quarry Bay
    21. GBC International Holdings Limited, Room 1309, 13/F, Fat Lee Industrial Building, 17 Hung To Road, Kwun Tong
    22. CBRE Group, Inc., Room 1903, 19/F, International Trade Tower, 348 Kwun Tong Road, Ngau Tau Kok
    23. Tech Data Computer Service (Hong Kong) Limited, Room 2001, 20/F, Tower 2, Enterprise Square Five, 38 Wang Chiu Road, Kowloon Bay
    24. The Frozen Exhibition, G35, G/F, Park Central, 9 Tong Tak Street, Tseung Kwan O
    25. BNY Mellon, 26/F, Three Pacific Place, 1 Queen’s Road East, Wan Chai
    26. Express Rail Link West Kowloon Control Point, Hong Kong West Kowloon Station, 3 Austin Road West, Yau Tsim Mong
    27. Ogilvy, 15/F, K11 Atelier, 728 King’s Road, Quarry Bay
    28. Onshorer, Room 826, 8/F, Ocean Centre, Harbour City, 5 Canton Road, Yau Tsim Mong
    29. Ashurst (Hong Kong) Services Limited, 11/F, Jardine House, 1 Connaught Place, Central
    .
    - ร้านอาหารที่ผู้ติดเชื้อเคยไป
    1. Mandarin Grill and Bar, 1/F, Mandarin Oriental, 5 Connaught Road, Central
    2. SOMM, 7/F, The Landmark Mandarin Oriental
    3. DarkSide, Rosewood Hong Kong Victoria Dockside, 18 Salisbury Road, Tsim Sha Tsui.
    4. Winstons Coffee, Shop 4, G/F Rich Court, 213 Queen’s Road West, Sai Ying Pun
    5. R&R Bagels, 28 Li Yuen Street West, Central.
    6. ChaosHotpot, 22 Wun Sha Street, Tai Hang
    7. Mama Malouf, G/F, 93 Catchick Street, Kennedy Town
    8. Chako, Shop 13, 2/F, J Senses, 18 Ship Street, Wan Chai
    9. Five Guys, 60 Johnston Road, Wan Chai
    10. sen-ryo, Shop 2002, ELEMENTS, 1 Austin Road West, West Kowloon
    11. Fuel Espresso, Landmark, Central
    12. Joy Cuisine, Shop 220, 2/F, Choi Ming Shopping Centre, 1 Choi Ming Street, Tiu Keng Leng, Tseung Kwan O
    13. Busan Azumma Korean Restaurant, G/F, 5A Humphreys Avenue, Tsim Sha Tsui
    14. El Charro Mexican Cantina, The Arcade, 100 Cyberport Road, Pok Fu Lam.
    15. Hong Kong Day, Shop N10-12, G/F, Mei Foo Sun Chuen, 1-15, 2-24 Nassau Street, Mei Foo
    16. ANA Gura, Shop UG35, Festival Walk, 80 Tat Chee Avenue, Kowloon Tong
    17. Hoi Fa Kit Guo, Shop 2A, Block B, Wing Kut Industrial Building, 608 Castle Peak Road, Lai Chi Kok
    18. Little Vietnam, Shop 37, G/F, 5G Glee Path, Mei Foo Sun Chuen, Mei Foo
    19. Gold Garden Cafe, 314 Castle Peak Road, Cheung Sha Wan.
    20. Saizeriya Italian Restaurant, Shop L207, AEON Supermarket, 2/F, Tseung Kwan O Plaza, 1 Tong Tak Street, Tseung Kwan O
    21. Nabe Urawa, Shop No. 140-141, 1/F, Park Central, 9 Tong Tak Street, Tseung Kwan O
    22. Super Super Congee & Noodles at Shan King Commercial Centre, Tuen Mun
    23. New City Restaurant, Shop 102, 1/F, Mei Tin Shopping Centre, Tai Wai
    .
    - ฟิตเนสอื่นๆ ที่ผู้ติดเชื้อเคยไป (ไม่ใช่รายชื่อทั้งหมด) ตัวอย่างเช่น
    1. Pure Fitness สาขา One Hennessy (Wan Chai), Kinwick Centre (Central)
    2. Pure Yoga สาขา Lincoln House(Quarry Bay), Centrium(Central)
    3. My Fitness Yoga (Jordan)
    .
    =================
    #สถิติภาพรวม
    .
    #ฮ่องกง
    ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 11,258 (+47)
    เสียชีวิต 203 (1.80%)
    รักษาหาย 10,738 (95.38%)
    .
    #ไทย
    ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 26,757 (+78)
    เสียชีวิต 86 (0.32%)
    รักษาหาย 26,086 (97.49%)
    .
    #ทั่วโลก
    ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 119,692,742 (+503,272)
    เสียชีวิต 2,653,382 (2.22%)
    รักษาหาย 96,316,941 (80.47%)
    .
    #eatlike852 #covid19hongkong

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ENERGY: เครื่องเก็บพลังงานลมไซส์มินิ สร้างไฟฟ้า ติดตั้งในเมือง-พื้นที่จำกัดได้
    .
    เห็นเล็กแบบนี้ แต่ก็สามารถเป็นนวัตกรรมที่ดีสำหรับบ้านของคุณเลยนะ! เพราะนี่คือเครื่องเปลี่ยนพลังงานลมเป็นไฟฟ้า หรือกังหันลมไซส์คอมแพค “PowerPod” ที่เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์เมืองที่มีพื้นที่จำกัด
    .
    มันทำงานเหมือนกังหันลมทั่วไปที่รับพลังงานจลน์จากการเคลื่อนที่ของลมและเปลี่ยนให้เป็นพลังงานกล และนำพลังงานกลมาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า แต่ที่ต่างออกไปคือขนาดที่เล็กลง และความสามารถที่จะผลิตพลังงานแม้ในที่ที่ลมไม่แรง
    .
    ขนาดของมันจะเท่ากับถังขนาดใหญ่น้ำทั่วไป สามารถตั้งในที่ไหนก็ได้ที่มีพื้นผิวเรียบ ทั้งบนหลังคา บนตึก อาคร ข้างรั้ว หรือแม้กระทั่งบนหลังรถบ้าน ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะแบบกังหันลมแบบธรรมดา
    .
    แต่จะเรียกมันว่ากังหันก็อาจจะไม่ถูกซะทีเดียว เพราะมันไม่มีใบพัดด้านนอก การทำงานทุกอย่างจะอยู่ด้านในที่มีฝาปิดไว้อีกที ดังนั้นมันจะปลอดภัยเมื่อตั้งในที่แจ้งด้วย สัตว์น้อยใหญ่จะไม่ถูกใบพัดกังหันทำอันตราย
    .
    มาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่ามันทำงานอย่างไร? ลมในเมืองจะผลิตไฟได้หรอ เพราะมันไม่ค่อยแรงและมาอย่างไม่แน่นอน
    .
    ทางสตาร์ทผู้ผลิต Halcium จากสหรัฐที่ผลิตเจ้าเครื่อง PowerPod นี้ชี้ว่า เครื่องนี้ถูกออกแบบมาให้ทำงานในเมืองโดยเฉพาะ และรับลมประเภทที่อยู่ในเมืองจากหลายทิศทาง หรือแม้กระทั่งรับจากทุกทิศทางในเวลาเดียวกัน จุดที่จะทำให้มันผลิตพลังงานได้ดีคือใบพัดด้านในที่ออกแบบให้หมุนเร็วกว่ากังหันลม 40% ซึ่งจะทำให้เครื่อง PowerPod ผลิตพลังงานได้ 1 กิโลวัตต์ มีประสิทธิภาพ และก็ใช้วัสดุในการผลิตน้อย
    .
    ซึ่งทางแบรนด์ก็เคลมว่า เครื่องนี้จะจะสามารถแข่งกับแผงโซลาร์เซลล์ที่ตั้งไว้ในสถานที่ที่ได้รับแสงแดดน้อยกว่า 300 วันได้เลย
    .
    โดยเครื่อง PowerPod สามารถตั้งไว้เดี่ยว ๆ เพื่อกักเก็บพลังงาน หรือติดตั้งพ่วงไปกับแผงโซลาร์เซลล์ก็ได้ เพราะมันเป็นระบบผลิตไฟฟ้าแบบ Off-gris หรือเป็นระบบที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาระบบพลังงานไฟฟ้าจากส่วนกลางเพื่อจ่ายหรือใช้พลังงาน
    .
    ทางผู้ผลิตหวังว่าจะนำ PowerPod นี้ให้กระจายไปทั่วโลก โดยสามารถให้บริษัท หรือกลุ่มคนในท้องถิ่นสามารถนำไปต่อเองได้ เราอาจจะต้องคอยดูต่อไปว่าในอนาคตมันจะแพร่หลายมากแค่ไหน แต่เท่าที่ดู ถ้าใช้ได้จริงก็น่าสนใจเลย เพราะมันก็ไซส์พอ ๆ กับโอ่งบ้านเรา ติดตั้งได้สบาย
    .
    Source
    1. https://www.halcium.com (เว็บไซต์ของแบรนด์)

    2. (วิดีโอ)

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    11.03.21

    FHI และ Legemiddelverket ตัดสินใจหยุดการฉีดวัคซีน AstraZeneca ไว้ชั่วคราว หลังจากที่มีรายงานจาก คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติเดนมารก์ (Sundhedsstyrelsen) เกี่ยวกับ ผู้ป่วยที่เกิดอาการลิ่มเลือดอุดตัน โดยขณะนี้ สำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) กำลังสอบสวน รายงานที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตในเดนมาร์ก - #ในปัจจุบันยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างผลของวัคซีน กับ ลิ่มเลือดอุดตัน

    ฝั่ง เดนมาร์ก (แปลจากต้นฉบับภาษาเดนิช)

    1.จากความกังวล ที่เกิดขึ้น สำนักงานยา และ คณะกรรมการฯ เดนมาร์ก (lægemiddelmyndighederne - Sundhedsstyrelsen)ได้เลือกที่จะหยุดการฉีดวัคซีน AstraZeneca ให้กับประชการไว้ชั่วคราว เป็นเวลา 14 วัน สนง.ยา และ คณะกรรมการฯ ร่วมมือกับ หน่วยงานด้านการแพทย์ของเดนมาร์ก จะทำการประเมินใหม่ในสัปดาห์ที่ 12 ขณะนี้ หน่วยงานด้านเภสัชกรรมของเดนมาร์กและ ยุโรป กำลังติดตามผลของวัคซีน ทั้งในด้านของ ผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง ซึ่งพบได้บ่อย และ ผลข้างเคียงที่พบได้ไม่บ่อยนัก แต่ร้ายแรง

    2.Søren Brostrøm ผู้อำนวยการ คณะกรรมการฯ กล่าวว่า การหยุดพักชั่วคราวหมายถึง จะยังไม่มีการฉีดวัคซีนเพิ่มให้ใครส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีน AstraZeneca โดสแรกไปแล้ว และ รอฉีด โดสที่ 2 จะต้องรอไปก่อน แม้จะมีหลักฐานที่สนับสนุนว่า วัคซีน มีความปลอดภัยและ มีประสิทธิภาพ แต่หน่วยงานด้านการแพทย์ของเดนมาร์ก ต้องตรวจสอบต่อรายงานผลข้างเคียงที่ร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งในประเทศเดนมาร์กเอง และ ประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปอื่นๆ

    3.การหยุดพักนี้ หมายความว่า ผู้ที่จะรับวัคซีน ต้องรอจนกว่าจะถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือ ต้นฤดูร้อน ก่อนที่จะฉีดวัคซีน ได้ครบ สำหรับผู้ที่จองเวลาฉีดวัคซีนไว้ จะถูกยกเลิก และ สามารถทำนัดใหม่ได้ในภายหลัง
    ..............................................

    ฝั่ง นอร์เวย์

    4.สืบเนื่องจากรายงานของ คณะกรรมการฯ แห่งเดนมาร์ก ทำให้ FHI และ Legemiddelverket ตัดสินใจ หยุดการฉีดวัคซีนไว้ชั่วคราวจนกว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องของผลข้างเคียง แม้จะยังไม่ได้ข้อสรุปว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างการฉีดวัคซีนและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดนมาร์ก แต่ตามหลักปลอดภัยไว้ก่อน จึงเลือกที่จะหยุดฉีดวัคซีนชั่วคราว

    5.มีรายงานบางกรณีที่ เกิดลิ่มเลือดอุดตัน หลังจากฉีดวัคซีนใน นอร์เวย์ ที่ส่วนใหญ่ เกิดในกลุ่ม ผู้สูงอายุซึ่งมักจะมีโรคประจำตัวอื่นอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ขณะนี้ FHI กำลังทำการวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีน AstraZeneca กับสภาวะการแข็งตัวของเลือดต่างๆเช่น โรคหลอดเลือดสมอง และ ลิ่มเลือดในปอด กระบวนการเหล่านี้เป็นการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลาพอสมควร

    6.Geir Bukholm ผอ.ฝ่ายควบคุมโรคติดเชื้อจากสถาบัน FHI กล่าวว่า การหยุดฉีดวัคซีนชั่วคราวนี้ไม่ได้หมายควมว่า จะไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีน AstraZeneca ในอนาคต หากมีความชัดเจนที่เพียงพอ ขณะนี้ ผู้ที่จองคิวฉีดวัคซีนของ AstraZeneca จะถูกยกเลิก หรือ เสนอให้ฉีดวัคซีน mRNA ของ Pfizer /BioNTech และ Moderna แทน

    7.ใน ประเทศนอร์เวย์ มีผู้ได้รับวัคซีน AstraZeneca ไปแล้วทั้งสิ้น 121,820 คน #ขอให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่ากังวลโดยไม่จำเป็น หากมีการพิสูจน์แล้วว่ามีความเป็นไปได้ของ ความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนกับลิ่มเลือด ก็จะเป็นผลข้างเคียงที่หายากมากเช่นกัน

    ----------------------------

    รายงานจาก VG

    8.เทศบาลหลายแห่งในนอร์เวย์ ได้แก่ Bergen, Trondheim, Stavanger, Tromsø, Fredrikstad, Bodø , Kristiansand , Ålesund หยุดฉีดวัคซีน AstraZeneca ชั่วคราวจนกว่าจะได้ข้อสรุปจากสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติและหน่วยงานด้านยาของนอร์เวย์

    บ้านพักคนชราในออสโล หยุดการฉีดวัคซีน ชั่วคราวจนกว่าจะมีประกาศแจ้งให้ทราบ

    นอกจากนี้ ประเทศออสเตรีย, เอสโตเนีย, ลิทัวเนีย, ลัตเวีย และ ลักเซมเบิร์ก ได้หยุดการฉีดวัคซีนไว้ชั่วคราวด้วยเช่นกัน

    9.นับตั้งแต่ วัคซีนของ AstraZeneca ได้รับการรับรองให้ใช้ใน ประเทศนอร์เวย์ Legemiddelverk ได้รับรายงานเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่น่าสงสัย 394 รายการ และมี 15 รายการที่เป็นผลข้างเคียงที่ร้ายแรง (ข่าวไม่ไดบอกรายละเอียดว่าเป็นผลข้างเคียงแบบไหนค่ะ)

    10.EMA ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์เมื่อวานนี้ว่า ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในออสเตรียเกี่ยวข้องกับวัคซีน และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่ามี การอุดตันลิ่มเลือดในผู้ป่วยที่ได้รับการฉีดวัคซีน

    .........................

    อ่านรวมข่าว & มาตรการโคโรนา ของ ประเทศนอร์เวย์
    http://norgetiltak.blogspot.com

    อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
    https://www.blockdit.com/norwaystyle

    อ่าน คำคมข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/norgeutrykk
    #นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
    .
    แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

    อ้างอิง คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติเดนมาร์ก
    https://www.sst.dk/da/Nyheder/2021/...a-AstraZeneca-saettes-paa-pause-indtil-videre

    อ้างอิงการตัดสินใจของ FHI :
    https://www.fhi.no/nyheter/2021/vaksinasjon-med-astrazeneca-vaksinen-mot-covid-19-settes-pa-pause

    ข่าว หลายเทศบาลหยุดการฉีดวัคซีนชั่วคราว :
    https://www.vg.no/nyheter/i/39Rb8v/danmark-setter-astrazeneca-vaksine-paa-vent

    ข่าวจาก EMA :
    https://www.ema.europa.eu/en/news/c...suggests-no-specific-issue-batch-used-austria

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    12.03.21

    (สรุป) แถลงข่าว เรื่อง สถานการณ์โคโรนาไวรัส ใน ประเทศนอร์เวย์ และ กฏการเดินทางในช่วง Påske

    วันศุกร์ที่ 12.03.21 เวลา 13.00 น. มีผู้เข้าร่วมการแถลงข่าว 4 ท่านคือ

    ▪รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม Monica Mæland
    ▪รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข Bent Høie
    ▪ผู้อำนวยการสถาบัน FHI Bjørn Guldvog
    ▪Line Vold จากสถาบัน FHI

    1.รมต.ยธ กล่าวว่า ผู้ที่เดินทางไป ท่องเที่ยวพักผ่อน ในต่างประเทศโดยไม่จำเป็น จะต้องอยู่ในโรงแรมกักกันเมื่อกลับเข้ามาใน นอร์เวย์ นอกจากนี้จะมี การขยายเวลาข้อจำกัด การเดินทางเข้าประเทศที่เข้มงวด ไปจนถึงวันที่ 07.04.21

    *เนื่องจาก กฏการกกักกันโรงแรมยาวมาก แอด ขอแปลแยกออกไปอีกโพสต์หนึ่งค่ะ

    2.Helsedirektoratet แนะนำให้คงข้อ จำกัดการเดินทางเข้าประเทศนอร์เวย์ ไว้อย่างเข้มงวดจนถึง กลางเดือนเมษายน หรือ จนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง (รอประกาศ)

    3.วันนี้เป็นวันครบรอบ 1 ปี ที่ ประเทศนอร์เวย์ ใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส

    คำแนะนำสำหรับ เทศกาล Påske

    ❤สำหรับทุกคน

    อยู่บ้านถ้าคุณป่วย หรือ มุสุขภาพอ่อนแอ และ ทดสอบตัวเองโดยเร็วที่สุดหากคุณมีอาการเข้าข่ายเป็นผู้ติดเชื้อ

    การเดินทางท่องเที่ยว

    ▪ไม่แนะนำให้เดินทางไปต่างประเทศ ทุกกรณี เว้นแต่จำเป็นอย่างยิ่ง
    ▪หลีกเลี่ยงการเดินทางภายใน ประเทศนอร์เวย์ โดยไม่จำเป็น
    ▪การเดินทางไปยังสถานที่พักผ่อนหย่อนใจต่างๆ ( บ้านตากอากาศของตัวเอง / ยืม / เช่า) ยังคงทำได้หากคุณระมัดระวังเป็นพิเศษ ในเรื่องการควบคุมการติดเชื้อ ทั้งระหว่างการเดินทาง และ เมื่อเข้าที่พัก
    ▪ควรเดินทางกับ คนที่คุณอาศัยอยู่ด้วยกัน หรือ ครอบครัวเดียวกัน
    ▪ควรซื้อสินค้าก่อนออกเดินทาง แล ะรักษาระยะห่างจากผู้อื่น
    ▪ตรวจสอบว่ามาตรการใดที่ใช้ในเขตเทศบาลท้องถิ่นที่คุณจะเดินทางไป ผ่านทาง เว็บไซต์ ของ เทศบาล หรือ helsenorge.no
    ▪หากคุณเดินทางไปยัง เขตเทศบาล ที่มีมาตรการเข้มงวดน้อยกว่า เทศบาลบ้านของคุณ คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ของเจตเทศบาลของคุณ
    ▪หากคุณถูกกักบริเวณ หรือ รอผลการทดสอบ คุณไม่ควรเดินทางไปไหน แม้แต่ เดินทางไปที่บ้านพักตากอากาศของคุณเอง
    ▪หากคุณอยู่ที่บ้านพักตากอากาศ และ เกิดเจ็บป่วย กระทันหัน คุณควรกลับบ้าน หรือ คุณถูกกักกัน คุณควรกลับบ้านทันที
    ▪คุณสามารถเดินทางไปพักยัง โรงแรมภายในประเทศ ได้ แต่ควรรักษาระยะห่างจากแขกคนอื่นๆ และ จำกัด การเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลาง
    ▪หากคุณมาจากพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และ มีมาตรการในท้องถิ่นที่เข้มงวด คุณไม่ควรเดินทางไปยังโรงแรม หรือ ที่พักที่มีผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกัน
    ▪ไม่แนะนำ ให้เดินทางจากบ้านพักตากอากาศหนึ่ง ไปยัง บ้านพักตากอากาศ อีกที่หนึ่ง เนื่องจากมีความเสี่ยงอย่างมากต่อการแพร่กระจายของเชื้อ
    ▪หากต้องใช้ บ้านพักตากอากาศ ที่ไม่มีคนดูแลควรจองล่วงหน้าเพื่อไม่ให้มี ครอบครัวอื่นๆ / เพื่อนร่วมเดินทาง ที่ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน มาพักในเวลาเดียวกัน
    ▪หาก บ้านพักตากาอกาศ เข้าถึงได้ยาก (เดินทางลำบาก) และยากลำบากที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปช่วยเหลือใน การกักกัน / การทดสอบ อาจนำไปสู่ความยากลำบากสำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เทศบาล ควรพิจารณาว่า สมควรจะปิดบ้านพักตากอากาศ ดังกล่าวหรือไม่
    ▪ในกรณีของการเดินทางไปต่างประเทศที่จำเป็น (เช่น เด็กที่จะไปเยี่ยมพ่อแม่ที่อาศัยอยู่ในประเทศอื่นๆ) จะต้องระมัดระวังในการเดินทาง และ ปฏิบัติตามกฎระเบียบการกักกัน และ ข้อกำหนดสำหรับการทดสอบเมื่อกลับมา ที่ประเทศนอร์เวย์
    ▪นักเดินทาง ควรพิจารณา จำกัดการเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ในโรงแรม เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ เพื่อให้ ปฏิบัติตามคำแนะนำในการควบคุมการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

    ‍♀️‍♂️การพบปะทางสังคม

    ▪คุณควรหลีกเลี่ยงการติดต่อกับคนแปลกหน้า และ ไม่ครวรเกินกว่า 10 ครั้ง ต่อสัปดาห์
    ▪คุณควรหลีกเลี่ยง การมีแขกมาเยี่ยมบ้านของคุณเอง เกินกว่ากว่า 5 คน หาก เทศบาลในเขตของ คุณแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเยี่ยมบ้าน ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำนี้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่บ้านของตัวเอง ที่ บ้านพักตากอากาศ หรือ ที่อื่นๆ
    ▪หากคุณมาจากพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และ มีมาตรการในท้องถิ่นของคุณเองที่เข้มงวดกว่า ไม่แนะนำให้มาค้างคืนในช่วงเทศกาล Påske
    ▪เด็กและเยาวชน ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ที่อยู่กับครอบครัวเดียวสามารถไปค้างคืนกับเพื่อน 1-2 คนได้
    ▪ควรเลือกทำกิจกรรมกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมากรวมตัวกัน และ สถานที่ที่ไม่สามารถรักษาระยะห่าง เช่น ร้านอาหาร / เลานจ์สกี / ห้องซาวน์น่า / สนามเด็กเล่น / สวนน้ำ และอื่น ๆ
    ▪คุณสามารถไปเที่ยวที่ สกีรีสอร์ท ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการรวมตัวกับฝูงชน

    เกี่ยวกับพิธีทางศาสนา และ งานเฉลิมฉลองอื่นๆ

    ▪ในงานพิธีทางศาสนาอื่นๆ และ การชุมนุมทางศาสนาในเทศกาล Påske จะมีการบังคับใช้กฎและคำแนะนำสำหรับกิจกรรมต่างๆ คุณไม่ควรเข้าร่วมการชุมนุมดังกล่าวนอกเขตเทศบาลของคุณเอง

    --------

    4.รมต.สธ กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อใน ประเทศนอร์เวย์ ยังไม่คงที่และในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อเเป็นจำนวนมาก เรามีความกังวลเกี่ยวกับผลที่ตามมาหาก ผู้คนออกเดินทางไปในหลายสถานที่ และ พบปะผู้คนจำนวนมากในช่วงเทศกาล Påske

    Credit @bent Høie
    ↔️↔️ Holde avstand - รักษาระยะห่าง
    Holde deg hjemme hvis du er syk - อยู่บ้านเมื่อคุณป่วย
    Holde hendene rene - ล้างมือบ่อยๆ
    Holde nede antall personer du møter - หลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนจำนวนมาก
    ➖➖➖➖➖➖➖➖

    ⏪สรุปแถลงข่าว ย้อนหลัง
    https://norgetiltak.blogspot.com

    อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
    https://www.blockdit.com/norwaystyle

    อ่าน คำคมข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/norgeutrykk

    #นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
    .
    แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

    ที่มา เวปไซต์รัฐบาล Regjeringen /NRK :
    https://www.nrk.no/norge/regjeringen-legger-fram-sine-paskerad-1.15414084
    https://www.regjeringen.no/no/aktuelt/slik-kan-pasken-tilbringes/id2838494/

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    13.03.21

    รัฐบาล ประกาศมาตรการระดับภูมิภาค 10 เทศบาลใน Nordland เนื่องจากการแพร่ระบาดของ ไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์แอฟริกาใต้ ในเขตเทศบาลเมือง Bodø ที่มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และ ไม่ทราบแหล่งที่มาของการติดเชื้อ

    มีผลตั้งแต่ 00.00 น. วันที่ 13 - 19.03.21 (จะมีการประเมินใหม่ก่อนมาตรการหมดอายุ)

    ✴Nordland

    1. Tiltaksnivå A : Særlig høyt tiltaksnivå - มาตรการเข้มงวดระดับสูงเป็นพิเศษ

    ◧เทศบาลที่ถูกจัดให้อยู่ใน Tiltaksnivå A คือ :

    1.Bodø

    2.Tiltaksnivå C : Ganske høyt tiltaksnivå - มาตรการเข้มงวดค่อนข้างสูง

    ◧เทศบาลที่ถูกจัดให้อยู่ใน Tiltaksnivå C คือ

    1.Beiarn / 2.Fauske / 3.Gildeskål / 4.Hamarøy / 5.Meløy / 6.Rødøy / 7.Saltdal / 8.Steigen / 9.Sørfold

    ⭐Vestfold og Telemark

    มีผลตั้งแต่ 00.00 น. วันที่ 11 - 16.03.21 (จะมีการประเมินใหม่ก่อนมาตรการหมดอายุ)

    1. Tiltaksnivå A : Særlig høyt tiltaksnivå - มาตรการเข้มงวดระดับสูงเป็นพิเศษ

    ◧เทศบาลที่ถูกจัดให้อยู่ใน Tiltaksnivå A คือ :

    1.Færder / 2.Tønsberg / 3. Holmestrand (ใหม่)

    2.Tiltaksnivå B : Høyt tiltaksnivå - มาตรการเข้มงวดระดับสูงสุด

    ◧เทศบาลที่ถูกจัดให้อยู่ใน Tiltaksnivå B คือ :

    1.Holmestrand / 2.Horten / 3. Larvik / 4.Sandefjord

    ⭕สามารถอ่านรายละเอียดว่า สถานที่ใดปิด/เปิดบริการอยู่บ้างได้จากเวปไซต์คอมมูลต่างๆค่ะ
    .
    ⭕Kai Brynjar Hagen หัวหน้าแพทย์ประจำเทศบาลฯ ยืนยันว่า ไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษ ได้เดินทางมาถึงเขตเทศบาลเมือง Bodø แล้ว เทศบาลมีความกังวลว่ามันอาจไปเสริมกำลังของ ไวรัสกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ ดังนั้นเทศบาลเมือง Bodø จึงได้ตัดสินใจนำมาตรการเข้มงวดมาใช้ เพื่อควบคุมการระบาดในครั้งนี้

    .............................

    อ่านรวมข่าว & มาตรการโคโรนา ของ ประเทศนอร์เวย์
    http://norgetiltak.blogspot.com

    อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
    https://www.blockdit.com/norwaystyle

    อ่าน คำคมข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/norgeutrykk

    #นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
    .
    แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

    รายชื่อเทศบาล 10 เขต ใน Nordland
    https://www.regjeringen.no/no/aktuelt/innforer-regionale-tiltak-i-ti-kommuner-i-nordland2/id2838586

    มาตรการระดับภูมิภาคที่เข้มงวดขึ้นใน Holmestrand
    https://www.regjeringen.no/no/aktue...onale-tiltak-i-holmestrand-kommune/id2838090/

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    13.03.21

    องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้อนุมัติวัคซีน Johnson & Johnsons เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน

    วัคซีน J&J ได้รับการอนุมัติ จาก สหภาพยุโรป เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สำหรับใช้ใน สหภาพยุโรป รวมถึง นอร์เวย์ ด้วย ก่อนหน้านี้ วัคซีนของ Johnson & Johnsons ได้ อนุมัติให้ใช้ ในสหรัฐอเมริกา โดยจะได้รับ วัคซีน 100 ล้านโดส ภายในเดือนมิถุนายน

    วัคซีน J&J นั้นแตกต่างจากวัคซีนชนิดอื่นๆ คือ ใช้เพียงโดสเดียว โดยจะฉีดให้กับผู้ที่มีอายุระหว่าง 45 - 60 ปี ตามแผนการจัดส่ง นอร์เวย์ ควรจะได้รับวัคซีน 900,000 โดสในช่วงไตรมาสที่สอง แต่จนถึงขณะนี้ บริษัท ยังพยายามแก้ปัญหาด้านการผลิต เช่นเดียวกับ บริษัทผู้ผลิตวัคซีนอื่นๆอาจทำให้ สหภาพยุโรป ได้รับการส่งมอบล่าช้าได้

    ทางด้าน บริษัทผู้ผลิตวัคซีน ได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะส่งมอบวัคซีน Janssen Covid-19 จำนวน 200 ล้านโดสไปยังสหภาพยุโรป ภายในช่วงระหว่างปี 2021

    ที่มา :
    https://www.nrk.no/urix/fhi-urolige...-ikke-noe-informasjon-om-tidspunkt-1.15411187

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    13 มีนาคม 2564 รัฐบาลส่งสัญญาณถึงความพยายามที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ นอกจากไทยมีการลดจำนวนวันกักตัวลงแล้ว ในพื้นที่เป้าหมาย 7 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฏร์ธานี (เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน) ชลบุรี(พัทยา) เชียงใหม่ กทม. ยังมีการมองถึงการไม่กักตัวนักท่องเที่ยว ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 สำหรับกลุ่มประเทศเป้าหมายที่มีความเสียงต่ำ เช่น เยอรมัน, อิตาลี, อังกฤษ, สหรัฐ อเมริกา, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อินเดียและประเทศที่มีความเสี่ยงปานกลาง

    นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ย้ำว่าขณะนี้กระทรวงฯอยู่ระหว่างวางไทม์ไลน์ของการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในลักษณะ Open System ทั้งการลดจำนวนวันกักตัวนักท่องเที่ยวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2564 โดยนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ Area Quarantine ที่ผ่านเกณฑ์

    ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้ว 2 โดสจะกักตัวอยู่ในภายในโรงแรม 7 วัน ถ้าไม่ได้รับวัคซีนจะกักตัว 10 วัน ยกเว้นผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ยังต้องกักตัว 14 วันเท่าเดิม ซึ่งไม่จำเป็นต้องกักตัวอยู่แต่ในห้องพัก แต่สามารถใช้ชีวิตในโรงแรมได้โดยมีการควบคุมกิจกรรมต่างๆก็จะช่วยผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวได้ระดับหนึ่ง โดยในขณะนี้มีโรงแรมแสดงความสนใจเข้าร่วมโครงการ Area Quarantine แล้วกว่า 2,752 ห้อง

    ไปจนถึงสิ้นปีที่จะทำในลักษณะที่เรียกว่าแซนด์บ็อกซ์ Sandbox คือจะเป็นการเจรจาระหว่างไทยกับประเทศต่างๆ ในลักษณะเมืองต่อเมือง จังหวัดต่อจังหวัด หรือเกาะต่อเกาะ เพื่อทำ Travel bubble ระหว่างกัน เพื่อดึงนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วเข้าไทย แต่จะใช้มาตรการป้องกันควบคู่กัน เช่น วัคซีน Certificate- ระบบติดตามตัว ซึ่งจะมีการนำเสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) อีกครั้งในวันที่ 19 มี.ค.นี้

    “การทำเรื่อง Area Quarantine ไปจนถึงการเปิดประเทศรับต่างชาติแบบไม่กักตัว จะทำได้ตามแผนต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขประชากรในพื้นที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วกว่า 70% ควบคู่กับการที่บุคคลากรด้านการท่องเที่ยวที่เข้าร่วม Area Quarantine จะได้รับการฉีดวัคซีน”เฉพาะในส่วนของบุคลากรท่องเที่ยวที่ร่วม Area Quarantine เบื้องต้นมีการขอฉีดวัคซีนไว้ให้ที่ภูเก็ตแล้ว 1 หมื่นคน และต่อไปก็จะขอให้จังหวัดเป้าหมายที่จะนำร่องใน 6 จังหวัดแรกก่อน คือภูเก็ต กระบี่ สุราษฏร์ธานี(เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน) ชลบุรี(พัทยา-จอมเทียน) เชียงใหม่ จังหวัดละ 1 หมื่นคน และจะเพิ่มที่ พังงา (เขาหลัก) ขึ้นมาอีก เนื่องจากได้รับการเรียกร้องจากนักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางเข้ามา

    ส่วนการทำ Sandbox ตามไทม์ไลน์ที่รัฐวางไว้ว่าจะเป็นช่วงตั้งแต่ต.ค.นี้ แต่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะหารือเพิ่มเติม เพื่อเร่งให้เปิดรับต่างชาติเร็วขึ้นเป็นเดือนก.ค. หรือส.ค.นี้ โดยขณะนี้ได้หารือกับ 3 เมืองท่องเที่ยวอันดามัน ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา ที่ทั้ง 3 เมืองต้องไปกำหนดพื้นที่ ที่จะทำ Travel bubble กับประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำและความเสี่ยงกลาง

    การไม่ต้องกักตัวต้องสัมพันธ์กับวัคซีนที่พื้นที่จะต้องได้รับด้วย ซึ่งผมจะหารือกับกระทรวงสาธารณสุขถึงการขอวัคซีนให้ทาง 3 จังหวัดอันดามัน เพื่อให้ประชากร 70% ได้รับการฉีดวัคซีน โดยภูเก็ตมีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการในลักษณะนี้ได้เป็นจังหวัดแรก เพราะกระทรวงท่องเที่ยวจะหารือกับกระทรวงสาธารณสุขในสเต็ปต่อไปที่จะขอให้มีการฉีดวัคซีนให้คนภูเก็ตให้ได้ 70% ของประชากรก่อนเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ก่อน

    การทำ Sandbox ไม่ใช่แค่การเดินทางมาเที่ยวไทยเท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวไทยดังกล่าว ก็สามารถเดินทางเข้าไปในพื้นที่ของเมืองหรือจังหวัดที่มีการทำ bubble ร่วมกันโดยไม่ต้องถูกกักตัวด้วยเช่นกัน

    การที่เราโฟกัสที่ 3 จังหวัดอันดามันก่อน เนื่องจากทั้ง 3 จังหวัดนี้มีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมกันมากถึง 6 แสนล้านบาท เป็น 1 ใน5 ของรายได้จากการท่องเที่ยวในปี62 หรือคิดเป็นกว่า 20% โดยภูเก็ต 4.7 แสนล้านบาท กระบี่ 1 แสนกว่าล้านบาท และพังงา 4.5 หมื่นล้านบาท” นายพิพัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

    นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต มีความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่การเปิด Quarantine ในหลายรูปแบบแต่ยังต้องกักตัวอยู่ 14 วัน ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพียง 200 กว่าคนเท่านั้น จากปีหนึ่งมีนักท่องเที่ยว 10 ล้านคน ทำให้ภูเก็ตกระทบหนักมาก ระยะสั้นตั้งแต่มี.ค.-ก.ย.เราเน้นตลาดในประเทศ ตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้จะเป็นการรุกตลาดต่างประเทศเต็มตัว เพราะถ้าภูเก็ตรอดประเทศก็รอดด้วย

    ทั้งนี้ในระยะแรกภูเก็ตมีแผนฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 68,000 โดส (34,000 คน) ตั้งแต่มี.ค.-พ.ค.นี้ และคาดหวังว่าทั้งภูเก็ตจะปลอดภัยจากโควิด เมื่อฉีดวัคซีนครบ 70% ของประชากรทั้งหมดที่มีอยู่ 410,000 คน

    #roundtablethailand
    roundtablethailand.com

    ที่มา https://www.thansettakij.com/content/business/471832

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “นาซา” จับตาดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ เข้าใกล้โลก 21 มีนาคมนี้
    มีนาคม 13, 2021

    This NASA photo released on March 11, 2021 shows the view from inside the dome of NASA’s Infrared Telescope Facility as the 3.2-meter telescope atop Hawaii’s Mauna Kea will be used to measure the infrared spectrum of asteroid 2001 FO32.

    องค์การนาซา เผยดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ จะโคจรเข้าใกล้โลกในระยะเพียง 1.25 ล้านไมล์ หรือประมาณ 2 ล้านกิโลเมตร ในวันที่ 21 มีนาคมนี้ พร้อมเปิดโอกาสให้นักดาราศาสตร์ได้สำรวจดาวเคราะห์น้อยนี้อย่างใกล้ชิด

    ดาวเคราะห์น้อย ชื่อว่า 2001 FO32 ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3,000 ฟุต หรือ 915 เมตร ถูกค้นพบโดยนาซาเมื่อ 20 ปีก่อน ทางนาซายืนยันว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีระยะโคจรที่แม่นยำและไม่มีทางเคลื่อนที่เข้าใกล้โลกกว่าระดับ 1.25 ล้านไมล์อย่างแน่นอน

    ทั้งนี้ ดาวเคราะห์น้อย 2001 FO32 อยู่ในระยะที่ไกลว่าระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์ราว 5.25 เท่า แต่ถือว่าใกล้พอที่ทำให้ดาวเคราะห์น้อยด้วงนี้ ถูกจัดให้เป็น "ดาวเคราะห์น้อยที่อาจเป็นอันตราย" จากที่ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะโคจรผ่านโลกด้วยความเร็วประมาณ 77,000 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่าดาวเคราะห์น้อยส่วนใหญ่ที่เข้าใกล้โลก

    นาซา ยืนยันว่า นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักดาราศาสตร์ทั่วโลกในการศึกษาดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ จากที่กว่า 95% ของดาวเคราะห์น้อยใกล้โลกที่มีขนาดเท่ากับ 2001 FO32 หรือใหญ่กว่าที่อยู่ในการบันทึกของนาซา ไม่มีดาวเคราะห์ดวงใดที่มีโอกาสส่งผลกระทบต่อโลกของเราได้ภายในศตวรรษหน้า

    ทั้งนี้ นักดาราศาสตร์มือสมัครเล่น ที่อยู่แถบซีกโลกใต้และเขตละติจูดต่ำของซีกโลกเหนือจะมีโอกาสสังเกตหรือศึกษาดาวเคราะห์น้อย 2001 FO32 โดยดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะสว่างที่สุดเมื่อโคจรผ่านท้องฟ้าทิศใต้ และว่าต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดกลางที่มีรูรับแสงอย่างน้อย 8 นิ้ว ในคืนที่ดาวเคราะห์น้อยเข้าใกล้โลกที่สุด และอาจต้องใช้แผนภูมิดวงดาวในการค้นหา

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,776
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภูเขาไฟเอตนา ภูเขาไฟที่ยังไม่ดับขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป ปะทุขึ้นเมื่อเช้าวันศุกร์ ทำให้เกิดควันหนาสูง 4 กิโลเมตรปกคลุมท้องฟ้าเหนือภูเขาไฟ และทำให้ลาวาไหลจากปล่องภูเขาไฟด้านตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงเช้า ก่อนจะหยุดในช่วงกลางวันโดยไม่ได้สร้างความเสียหายต่อหมู่บ้านในบริเวณนั้นแต่อย่างใด

    ภูเขาไฟเอตนาเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับลูกใหญ่ที่สุด ในบรรดาภูเขาไฟสามลูกของอิตาลี โดยภูเขาไฟอีกสองลูกคือ ภูเขาไฟสตรอมโบลิบนเกาะสตรอมโบลิ แคว้นซิซิลี และภูเขาไฟวิซสุเวียส ใกล้เมืองเนเปิลส์ ที่ปะทุครั้งสุดท้ายเมื่อปีค.ศ. 1944

    ติดตามเราได้ทางเว็บไซต์ www.voathai.com
    #VOA #VOATHAI #VOANEWS #WORLDNEWS

     

แชร์หน้านี้

Loading...