นิพพานธาตุ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 30 มิถุนายน 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๑
    [๓๕๖] อนุปุพพนิโรธ ๙ อย่าง
    ๑. กามสัญญาของท่านผู้เข้าปฐมฌานย่อมดับไป
    ๒. วิตกวิจารของท่านผู้เข้าทุติยฌานย่อมดับไป
    ๓. ปีติของท่านผู้เข้าตติยฌานย่อมดับไป
    ๔. ลมอัสสาสะและปัสสาสะของท่านผู้เข้าจตุตถฌาน ย่อมดับไป
    ๕. รูปสัญญาของท่านผู้เข้าอากาสานัญจายตนะสมาบัติ ย่อมดับไป
    ๖. อากาสานัญจายตนสัญญาของท่านผู้เข้าวิญญาณัญจายตนสมาบัติย่อมดับไป
    ๗. วิญญาณัญจายตนสัญญาของท่านผู้เข้าอากิญจัญญายตนสมาบัติย่อมดับไป
    ๘. อากิญจัญญายตนสัญญาของท่านผู้เข้าเนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติย่อมดับไป
    ๙. สัญญาและเวทนาของท่านผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธย่อมดับไป ฯ
     
  2. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ผู้เข้าฌาน ๔ ระลึกชาติได้ ลมหายใจเข้าและออกย่อมดับไป ท่าน oatthidet เก่งมากครับ ไม่ได้ ฌาน ๔ ยังมีลมหายใจ จิตยังปรุงแต่ง มีวิตกวิจาร ยังกลัวตาย แต่สามารถระลึกชาติได้หลายๆ ชาติ...
     
  3. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผิดแล้ว ผมไม่ได้กลัวตายครับ แต่กลัวหลังจากตายแล้วต่างหาก เพราะตายแล้วเกิดเลย

    แต่จะเกิดเป็นอะไรนั้น สุดแล้วแต่บุญกรรมนำแต่ง ผมกลัวการเกิดต่างหากครับ

    ตายเกิดมาหลายชาติแล้ว จนเห็นมาหลายครั้งแล้ว ไม่กลัวได้อย่างไร คุณคงเข้าใจผิด

    สาธุครับ
     
  4. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒
    อาลัย ๑ ก. ห่วงใย, พัวพัน, ระลึกถึงด้วยความเสียดาย. น. ความห่วงใย, ความพัวพัน, ความระลึกถึงด้วยความเสียดาย. (ป., ส. อาลย).
    อาลัยอาวรณ์ ก. ระลึกถึงด้วยใจผูกพันไม่อยากจากกัน. น. ความ ระลึกถึงด้วยใจผูกพันไม่อยากจากกัน.
    อาลัย ๒ น. ที่อยู่, ที่พัก, เช่น ชลาลัย = ที่อยู่แห่งนํ้า หมายถึง ทะเล แม่น้ำ เป็นต้น หิมาลัย = ที่อยู่แห่งหิมะ เป็นชื่อของเทือกเขาสูงอยู่ทาง ทิศเหนือของอินเดีย ยอดเขามีหิมะปกคลุมตลอดปี.

    อาวรณ์ [V] cling, See also: be concerned about, care, Syn. ห่วงใย, อาลัย, Thai definition: คิดกังวลถึง, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
    อาวรณ์ [N] shelter, See also: protection, fence, Syn. เครื่องกั้น, เครื่องกำบัง

    ผมแปลกคำว่า "อาลัยอาวรณ์" ผิดเอง ท่านไม่ได้กลัวความตาย แค่เสียดายชีวิต ห่วงใย อาลัย ผูกพัน คิดกังวลถึงชีวิต แสดงว่าท่านยังไม่รู้จักอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ครับ
     
  5. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมอธิบายสิ่งที่ชักจูงให้มาเกิดครับ การอาลัยอาวรณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อกำลังจะหมดลมหายใจครับ

    ซึ่งเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งที่หมดลมหายใจ และ เกิดขึ้นมามีชีวิตอีกเพราะความอาลัยอาวรณ์

    เป็นการวนเวียนอยู่อย่างนี้นานแสนนานแล้วครับ เกิดมาใช้ชีวิตอยู่ในโลก ตราบจนหมดลมหายใจ

    ในขณะใช้ชีวิตก็มีอาการเจ็บป่วยสารพัด และ ยังมีความแก่ชราที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

    ในคำอธิบายนี้บ่งบอกให้เห็น ความไม่เที่ยงแท้แน่นอน มีแต่ความเป็นทุกข์ ไขว่ขว้าอะไรไม่ได้เลย

    เป็นไปตามกระแสแห่งกาลเวลา ที่พัดผ่านไปโดยไม่เคยหยุดลง มนุษย์ก็ลุ่มหลงไหลไปตามกระแส

    หากคุณยังไม่เข้าใจ ไม่ต้องเดาครับ ถามได้เลยครับ ไม่ใช่มาเดาเอาเองแบบนี้ครับ

    สาธุครับ
     
  6. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    รู้สึกเสียดาย อาลัยอาวรณ์ต่อการมีชีวิต มีลมหายใจ มีอาลัยอาวรณ์ แต่ระลึกชาติได้ ไปคุยที่อื่นเถอะครับ
     
  7. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    งั้นคุณอธิบายอาการก่อนที่จะหมดลมหายใจสิครับ ว่าเป็นอย่างไร

    ผมได้อธิบายถึงอาการของการปรุงแต่ง ในขณะที่จะหมดลมหายใจแล้ว

    ผมไม่ได้หมายถึงในขณะปัจจุบันที่ยังมีลมหายใจอยู่ ผมอธิบายนี้คงเข้าใจนะครับ

    หากยังไม่เข้าใจอีก ผมก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดีแล้วครับ

    ระลึกชาติไปขณะที่กำลังจะหมดลมหายใจดูสิครับ แล้วจะเข้าใจที่ผมอธิบาย

    ถึงคำว่า อาลัยอาวรณ์ เสียดายต่อการมีชีวิต ว่าเป็นอย่างไร หากทำไม่ได้

    ต่อให้ผมอธิบายมากกว่านี้ คุณก็ไม่เข้าใจครับ เหมือนคนที่ทำงานไม่เป็น

    ไปบอกว่าทำแบบนี้แล้วจะเป็นอย่างนี้ จะรู้ต่อเมื่อตนเองทำได้อย่างนั้นแล้วเท่านั้นเอง

    สาธุครับ
     
  8. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ยังมีวิตกวิจาร มีลมหายใจ บอกว่าระลึกชาติได้ไปคุยที่อื่นครับ
     
  9. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    คุยกับคนชอบเดานี่ คุยลำบากจัง เดาแล้วได้อะไรครับ มัวแต่ยึดอะไรอยู่

    ผมถามคุณนะ คุณระลึกชาติได้ไหม ถ้าได้ตอบด้วยครับว่า ในขณะที่กำลังหมดลมหายใจ

    มีอาการของการปรุงแต่งอย่างไร แล้วผมจะเข้ามาอ่านคำตอบครับ ตรงๆแบบลูกผู้ชายครับ

    สาธุครับ
     
  10. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    หวังว่าคงจะกล้าสนทนาแบบเปิดอกหมดเปลือกนะครับ ไม่ต้องการ การเดาสุ่ม

    สาธุครับ
     
  11. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๖ หน้าที่ ๒๐๗/๒๘๘
    ๙. ฌานาภิญญาสูตร
    [๔๙๗] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
    เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม แล้วเข้าถึงปฐมฌาน มีวิตก
    มีวิจาร มีปีติและสุข อันเกิดแต่วิเวกอยู่ได้เท่าใด แม้กัสสปก็หวังสงัดจากกาม สงัดจาก
    อกุศลธรรม แล้วเข้าถึงปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกอยู่ได้เท่านั้น
    เหมือนกัน ฯ
    [๔๙๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังเข้าถึงทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน
    เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไปมีปีติและสุขอันเกิด
    แต่สมาธิอยู่ได้เท่าใด แม้กัสสปก็หวังเข้าถึงทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน
    เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิ
    อยู่ได้เท่านั้นเหมือนกัน ฯ
    [๔๙๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังเป็นผู้มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะและเสวยสุข
    ด้วยนามกายเพราะปีติสิ้นไป เข้าถึงตติยฌาน ที่พระอริยเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้
    เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุขได้เท่าใด แม้กัสสปก็หวังเป็นผู้มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ
    และเสวยสุขด้วยนามกาย เพราะปีติสิ้นไป เข้าถึงตติยฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่า
    ผู้ได้ฌานนี้เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุขได้เท่านั้นเหมือนกัน ฯ
    [๕๐๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังเข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์
    และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ได้เท่าใด
    แม้กัสสปก็หวังเข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุขเพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ
    ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ได้เท่านั้นเหมือนกัน ฯ

    ผู้ที่ระลึกชาติได้ หนึ่งชาติบ้าง สองชาติบ้าง ฯลฯ ต้องได้จตุตถฌานครับ

    คำพูดของท่าน oatthidet

    " แต่ที่ผมรู้ คือ หากว่างเปล่าจากการปรุงแต่งโดยสิ้นเชิง
    ก็จะไม่กลับมาเกิดอีก เพราะในขณะที่กำลังจะตาย จิตจะปรุงแต่ง นึกถึงอดีตที่ผ่านไปแล้ว
    และ รู้สึกเสียดาย อาลัยอาวรณ์ต่อการมีชีวิต จะเป็นเหตุให้กลับมาเกิดอีกในชาติภพต่อไป
    ผมเห็นมาเช่นนั้นครับ ทุกครั้งที่กำลังจะสิ้นลมหายใจ ผมเห็นแต่การปรุงแต่งที่มีเกิดขึ้น"

    ผมไม่อยากรู้ว่าท่านได้ฌานไหน ท่านรู้ของท่านเอง ตรวจสอบกับพระสูตรเอาครับ พระพุทธเจ้าทรงบอกว่าการคิดเรื่องฌานวิสัยของผู้ได้ฌาน เป็นอจินไตย เป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้าครับ
     
  12. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    สามครั้งที่คุณกล่าว ไม่ตรงกันเลย ผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้านั้น ต้องมีการยึดติดเป็นที่ตั้ง

    การยึดติดเป็นการปรุงแต่ง ผมได้บอกกล่าวไว้หลายครั้งแล้วว่า ความว่างเปล่าจากการปรุงแต่งโดยสิ้นเชิง

    การปรุงแต่งนั้น มีการนึกคิดเป็นส่วนหนึ่ง และ การนึกคิดนี้มีใครที่ไม่นึกคิดเข้าข้างตนเองบ้าง

    การนึกคิดเข้าข้างตนเองนั้น จะเรียกว่าอย่างไร มีความหมายอย่างไร คุณยังมัวแต่นึกคิดเอาเอง

    คาดเดาอยู่เสมอ เมื่อไหร่จะเข้าใจในความเป็นจริงครับ ความเป็นจริงมีเหตุ และ ผล อยู่ในตัวมันเองตลอด

    "หยุด" ลองหยุดดูครับ แล้วจะเข้าใจในการมีชีวิต การใช้ชีวิต การดำเนินชีวิต

    สาธุครับ
     
  13. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ขอบคุณที่ยกคำกล่าวของผมมาครับ จึงต้องการถามคุณว่า คุณอ่านแล้วไม่เข้าใจจริงๆหรือครับ

    ผมได้อธิบายถึงจิตที่ปรุงแต่งในขณะที่จะหมดลมหายใจ และ ผมถามคุณ คุณก็ไม่สามารถตอบได้

    ความไม่คงที่ของคุณ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนครับ จึงต้องการถามว่า คุณยังปกติอยู่เสมอไหมครับ

    จิตสั่นไหวอยู่ไหมครับ จิตสับส่ายอยู่ไหมครับ หากเป็น ใช่การดิ้นรน การปรุงแต่งไหมครับ

    สาธุครับ
     
  14. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ตัวอย่าง มีเรื่องราวการหลอกปล้นรถยนตร์ โดยมีหญิงสาวเป็นเหยื่อ ออกอากาศทางทีวี

    เหตุเกิดขึ้นโดยที่หญิงสาวได้รู้จักกับชายวัยกลางคน ที่ดูสุภาพเรียบร้อย ดูดีมีฐานะ

    เหตุเกิดในขณะที่ฝ่ายหญิงจะนำรถของตนเองไปรับการซ่อมบำรุง ด้วยรถมีอาการไม่ปกติ

    ชายวัยกลางคนจะอาสาไปเป็นเพื่อน และ พาไปทานอาหาร โดยนำรถที่มีราคาแพงในการเดินทางมาหา

    ชายวัยกลางคนจึงจอดรถเอาไว้ และ ได้เดินทางไปด้วยรถของหญิงสาว ครั้นทานอาหารเสร็จสิ้น

    ชายวัยกลางคนได้อาสาว่าจะนำรถไปเข้าอู่ให้ และ จะนำรถของตนเองมารับ โดยให้เงินไว้กับฝ่ายหญิงสาว

    เป้นจำนวนเงิน 2,000 บาท ให้ฝ่ายหญิงสาวได้เดินช๊อปปิ้ง แต่เวลาได้ผ่านไปเนินนาน

    ฝ่ายหญิงจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกเสียแล้ว และ รู้ได้ทันทีว่ารถได้ถูกขโมยไปแล้วจึงแจ้งความ

    ผู้ที่นั่งดูทีวีอยู่ในขณะนั้น ได้พูดต่อว่าฝ่ายหญิงสาวว่าโง่ ที่ให้เขาหลอกได้ แค่คบกันได้ไม่กี่วัน

    ตัวอย่าง มีหมู่บ้านอยู่ หมู่บ้านหนึ่ง ในหมู่บ้านแห่งนั้น มีคนที่มีฐานะดีอยู่หลังหนึ่ง ได้ซื้อรถยนตร์มาหนึ่งคัน

    และ ล้างทำความสะอาดอยู่ทุกวัน คนที่อยู่ข้างบ้านคนที่มีฐานะดี นินทาลับหลังว่า บ้าเห่อของใหม่

    ล้างอยู่ได้ทุกวัน ทำยังกับคนไม่เคยมีรถ แต่พอไม่นานคนที่นินทาคนมีฐานะดี ได้มีโอกาสซื้อรถยนตร์

    ตนเองก็ล้างทำความสะอาดอยู่ทุกวันเช่นกัน โดยไม่ได้มองเห็นการกระทำในวันเก่าๆ

    สาธุครับ
     
  15. somchai_eee

    somchai_eee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +413
    ขอโทษที่ สอด เข้ามา นะครับ

    ผมว่าท่าน อุรุเวลา หยุด ตามที่ท่าน oatthidet บอกดีกว่ามั้ยครับ
    ผมแค่ตามอ่านก็เหนื่อยแทน ท่าน อุรุเวลา แล้ว ช่างมันบ้างก็ดีนะ อุเบกขา นะ [​IMG][​IMG]
     
  16. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    หากคุณจะตอบแทนก็ได้นะครับ ไม่ได้รังเกียจครับ เพราะวาจาที่กล่าวมานั้น

    บ่งบอกในสิ่งที่ต้องการแสดง จะได้ไม่เหนื่อยแทนผู้อื่นครับ

    สาธุครับ
     
  17. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๑ หน้าที่ ๗๙/๒๔๐
    อจินติตสูตร
    [๗๗]ดูกรภิกษุทั้งหลาย อจินไตย ๔ ประการนี้ อันบุคคลไม่ควรคิด
    เมื่อบุคคลคิดพึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้า เดือดร้อน อจินไตย ๔ ประการเป็นไฉน
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    พุทธวิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ๑
    ฌานวิสัยของผู้ได้ฌาน ๑
    วิบากแห่งกรรม ๑
    ความคิดเรื่องโลก ๑
    ดูกรภิกษุทั้งหลายอจินไตย ๔ ประการนี้แล ไม่ควรคิด เมื่อบุคคลคิด พึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้า เดือดร้อน ฯ

    ----
    พระสูตรเกี่ยวกับผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้าครับ ตรงกับที่ผมพูดไว้ทุกประการ พระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องความว่าง ความว่างเปล่าไว้แล้ว ท่านแยกความว่างกับความว่างเปล่าไม่ออก วาง "ฌาน" ไว้ก่อนครับ หยุดปฏิบัติกลับไปปริยัติก่อนครับ
     
  18. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๖ หน้าที่ ๒๐๗/๒๘๘
    ๙. ฌานาภิญญาสูตร
    [๔๙๗] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
    เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม แล้วเข้าถึงปฐมฌาน มีวิตก
    มีวิจาร มีปีติและสุข อันเกิดแต่วิเวกอยู่ได้เท่าใด แม้กัสสปก็หวังสงัดจากกาม สงัดจาก
    อกุศลธรรม แล้วเข้าถึงปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกอยู่ได้เท่านั้น
    เหมือนกัน ฯ
    [๔๙๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังเข้าถึงทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน
    เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไปมีปีติและสุขอันเกิด
    แต่สมาธิอยู่ได้เท่าใด แม้กัสสปก็หวังเข้าถึงทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน
    เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิ
    อยู่ได้เท่านั้นเหมือนกัน ฯ
    [๔๙๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังเป็นผู้มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะและเสวยสุข
    ด้วยนามกายเพราะปีติสิ้นไป เข้าถึงตติยฌาน ที่พระอริยเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้
    เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุขได้เท่าใด แม้กัสสปก็หวังเป็นผู้มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ
    และเสวยสุขด้วยนามกาย เพราะปีติสิ้นไป เข้าถึงตติยฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่า
    ผู้ได้ฌานนี้เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุขได้เท่านั้นเหมือนกัน ฯ
    [๕๐๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังเข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์
    และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ได้เท่าใด
    แม้กัสสปก็หวังเข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุขเพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ
    ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ได้เท่านั้นเหมือนกัน ฯ

    ---
    จิตท่าน oatthidet ยังปรุงแต่งครับ ศึกษาเรื่อง "ฌาน" ครับ
     
  19. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งเหตุและผล ทุกอย่างเกิดขึ้นก็เพราะกรรม หนังตัวอย่าง เรื่องเพ้อเจ้อ ไร้สาระ ไม่มีประโยชน์ ผมไม่ตอบครับ
     
  20. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ผมอุเบกขาตามที่ท่าน somchai_eee แนะนำ อนุโมทนาครับ (y)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...