นิมิต - กรรมฐาน

เขาฝึกกรรมฐานกัน ไม่ใช่เขามานั่งสมาธิ..โยมอย่าเข้าใจว่า การฝึกกรรมฐานคือ การนั่งสมาธิอย่างเดียว..ไม่ใช่นะ
กรรมฐานของพระพุทธเจ้า คือ อิริยาบถ ๔
ยืน เดิน นั่ง นอน หลับตา ลืมตา
• สมมติว่า โยมลืมตาอยู่ กำลังมองซากศพซักศพนึง แล้วก็มองว่า เอ๊ะ..นี่ตอนก่อนตายแกก็สวยดีนะ
เอ๊ะ..ทำไมตายแล้วแกสวยน้อยลง ถ้าตายไป ๓ วันนี่แกอ้วนปึ๊กเลย ตานี่ไม่ต้องกรีดเลย มันถลนออกมาแล้ว
ทีนี้นี่มองอย่างนี้มันก็เป็นกรรมฐานนะ...เป็นอสุภะ
• หรือโยมเดิน ๆ อยู่..โยมอาจจะนึกถึง พุทโธ ซักคำ..ก็ไม่แน่นี่
บางคนเดินทางเจอที่เปลี่ยว..บางคนนี่ถึงถึงพระก็ พุทโธ ขึ้นมา...ใจมันสบายก็เออ..รอดปลอดภัย มันก็เป็นกรรมฐานอย่างนึง เป็นสมถะ อย่างนี้เป็นต้นนะ
▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎
#พระธรรมเทศนา ณ บ้านสุขใจ จ.ระยอง
๒๒ มกราคม ๒๕๖๕ ตอนที่ ๑๐
#พระอาจารย์เอกลักษณ์ #ปญฺญาคโม
#วัดพุทธพรหมยาน

 

“ไม่ต้องเสียเวลา”
ขณะที่เรานั่งสมาธิ ถ้าอยากก้าวหน้า ขอให้พยายามจดจำอารมณ์ที่ดีที่สุด สูงที่สุดของครั้งที่แล้วไว้ หรือช่วงอารมณ์ไหนที่เรารู้สึกสบายที่สุด ให้จำอารมณ์นั้นให้ได้ เมื่อเราปฏิบัติต่อ ขอเพียงนึกถึงอารมณ์ที่สูงสุดนั้นไว้เป็นฐาน จิตจะเดินหน้าต่อไปจากฐานนั้นได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลามาเริ่มต้นใหม่
คำสอนของพระอาจารย์เอ

 

พอเราฝึกไปเรื่อย ๆ เมื่อไหร่เนี่ยะ ต่อมาพอเราหลับตาปุ๊ป...เห็นภาพพระพุทธเจ้าเลย
ทำอย่างนี้ให้ชิน เพราะว่าเป็นอารมณ์ฌานใน พุทธานุสสติกรรมฐาน
พออารมณ์เราเข้มแข็ง..เขาจะไม่ห่วงลมหายใจแล้ว เขาจะไม่สนลมหายใจแล้ว
แต่บางทีเราทำไป พอใจเราหย่อนลงมาหน่อยอีก ก็จะเห็นลมหายใจอีก พอภาพพระชัดลมหายใจก็หายไปอีก..ก็ไม่เป็นไรนะ
จับปุ๊ป เห็นพระเลย...(หมายถึง เอาใจนึกถึงภาพพระ) ทำอย่างนี้บ่อย ๆ ใจเราจะมีความสะอาดบริสุทธิ์และแจ่มใสไปเรื่อย
กิเลส ตัณหา อุปาทาน จะตายออกจากจิตของเราไป
ระหว่างที่เราพระชัดนะ กิเลส ตัณหา อุปาทาน ก็สลายตัวไป นิวรณ์ทั้ง ๕ ก็จะสลายตัวไป
ตอนนั้นเราก็มีความสุข พลังใจเราก็แจ่มใส เราก็สะสมพลังใจที่แจ่มใส ๆ ของเราอย่างนี้เรื่อย ๆ
เราเห็นพระพุทธเจ้าชัดขึ้นมาครั้งใด ก็ตั้งปรารถนาไปว่า
..."ขอให้กิเลส ตัณหา อุปาทาน ของข้าพเจ้าจงหมดจากกายจากจิตข้าพเจ้าโดยฉับพลัน ณ กาลเดี๋ยวบัดนี้เถิด
ขอให้ข้าพเจ้าได้ถึงพระนิพพานในชาตินี้ด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า"...
... นึกเบา ๆ อย่างนี้นะ ...
แล้วก็สบายใจทุกครั้งที่เห็นภาพพระพุทธเจ้าชัด เราก็ปรารถนาอย่างนี้
เมื่อเรามีอธิษฐานบารมีเกิดขึ้นแล้ว เขาก็ทำหน้าที่ไปตามที่เราตั้งปรารถนาเอาไว้
ต่อไปนี้พอเราจับภาพพระพุทธเจ้าชัดเมื่อไหร่..กิเลสก็โดนทุบไปที ตัณหาโดนทุบไปที อุปาทานก็โดนทุบไป ก็ตายไป..ตายไป..ตายไปเรื่อย ๆ นะ
▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎


#พระธรรมเทศนา ณ บ้านสุขใจ จ.ระยอง
๒๒ มกราคม ๒๕๖๕ ตอนที่ ๓๑
#พระอาจารย์เอกลักษณ์ #ปญฺญาคโม
#วัดพุทธพรหมยาน

 

⚜️ วิธีทำให้ถึงอรหันต์ สั้นที่สุด ง่ายที่สุด ⚜️
..เวลานั้นองค์สมเด็จพระทศพลเสด็จมาพอดี ทรงประทับยืนอยู่เหนือศีรษะด้านหน้า มีแสงสว่างมากแล้วท่านตรัส ท่านบอกว่า "คุณ คนที่ปฏิบัติอยู่แล้วทั้งหมดนี้กำลังใหญ่ คือเข้าถึงนิพพานทุกคน แต่ทว่าเพื่อความไม่ประมาทให้เขาทำอย่างนี้
วันหนึ่งจะใช้เวลาไหนก็ได้ เวลาที่ใจสบาย ถ้าเวลาอื่นมันติดงานมากก็เอาเวลานอน นอนก่อนจะหลับหรือว่าตื่นใหม่ๆ ใจสบาย เอาจิตใจจับนึกถึงท่าน (พระพุทธเจ้า) ถ้าบุคคลใดไม่ได้ทิพจักขุญานก็นึกภาพเอาเอง กำหนดภาพพระพุทธเจ้า หรือพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่ง ให้เป็นประกาย บังคับจิต ถ้าเห็นเป็นสีเหลืองก็บังคับให้เป็นสีแก้วให้ได้ทำอยู่อย่างนี้ไม่กี่วันหรอกก็เป็น ให้จิตมันเป็นฌาน ถ้านึกถึงเมื่อไรก็เห็นพระพุทธเจ้าเป็นสีแก้วเป็นประกายทุกวัน"
✨องค์สมเด็จพระทรงธรรม์ท่านบอกว่า ถ้าเขาทำอย่างนี้นะ ได้ทุกวันอย่าได้ขาด วันหนึ่งใช้เวลา 2-3 นาทีก็ไม่เป็นไร ฉันไม่จำกัดเวลาว่าจะใช้เวลานานหรือเวลาเร็ว ถ้าเขาทำอย่างนี้ได้ทุกวัน แล้วก็ทรงอารมณ์ตามที่บอกไว้คือ
1) นึกถึงความตายไว้ อย่าประมาทในชีวิต
2) เคารพในพระรัตนตรัย
3) ทรงศีล 5 บริสุทธิ์
4) จิตหวังพระนิพพานอย่างเดียว
ท่านบอกว่าเป็นอย่างนี้ละก็ ถ้าก่อนอายุขัยของเขา 7 วัน ท่านกำหนดให้เลยนะ ว่าก่อนอายุขัยอีก 7 วันต้องตายแน่อยู่ไม่ได้ ตอนนั้นกระแสจิตของเขาจะเห็นภาพในอากาศเต็มจักรวาล ทั้งพระพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันต์ก็ดี เทวดาก็ดี พรหมก็ดี แพรวพราวไปหมด และก็หลังจากนั้นไปเมื่อกำลังใจของตนจะพ้นกำหนดในการทรงสังขาร
✨สมเด็จพระพิชิตมารบอกว่าจะเข้าถึงอรหัตผลทันที
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีฯ) วัดท่าซุง
ที่มา : คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง39

 

พุทธนิมิตเพื่อพระนิพพาน : ตอนที่ ๔๘


องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทรงตรัสสอนพวกเราไปว่า...
ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเราเดินตามวิบากกรรมอย่างเดียว
เคยเถียงบิดามารดาไว้เพียงใด
• ก็จะมีคนมาเถียงเรา...ใครมีลูกก็สบายไปเลย
เคยเถียงไว้เท่าไหร่..? เอาคืนหลายเท่า
ยิ่งตอนใช้กรรมนะ...สาหัสเลย
บางคนรักลูกมากกว่าพ่อแม่อีก...ห่วงหนัก
❤ เวลาที่เรายังไม่รักใครมาก ๆ ยังไม่ผูกพันใครมาก ๆ...ยังไม่เห็นกรรมนั้น
เพราะว่า...กรรมจะมากับคนใกล้ตัว และคนที่มีความผูกพัน ซึ่งจะเเสดงผลได้เร็วและไว
ฉะนั้น ต้องระมัดระวังตัวเป็นที่สุด อย่าไปเผลอใจ
บางคนบอกว่า..ผมไม่เคยเสียใจกับใครทั้งนั้น
ในส่วนนี้ก็เป็นความจริง เพราะคุณยังไม่รู้จักความรัก ความผูกพันที่แท้จริง..!
ถ้ารู้สึกเมื่อไหร่ รักใครอย่างจริงจัง แสดงได้ว่า คุณมีกรรมกับเรื่องนี้
กรรมจะให้ผลทันที คุณจะเสียใจเจ็บปวดอย่างมหาศาล..
การที่มารจะทดสอบ หรือเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายจะเอาคืนเรานั้น
เขาจะเอาคืนอย่างแสนสาหัส
ถ้ายังไม่รักใครจนถึงที่สุดแล้ว...ก็ยังไม่เจ็บถึงที่สุด
เพราะเขารู้ว่า ทำอย่างไร หรือให้ผลตอนไหน เราจะทุกข์เป็นที่สุด..!
ถ้ารักและผูกพันกับใคร จะเจ็บปวดถึงที่สุด
ซึ่งจะเห็นทุกข์ ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอน
และถ้าเรากลับใจมาตั้งใจทำความดี เพื่อความเป็นผู้พ้นทุกข์
ท่านก็จะสามารถเข้าถึงพระธรรมคำสั่งสอนได้อย่างสมบูรณ์เลยทีเดียว
ตามที่พระองค์ทรงตรัสสอนไว้ว่า...
"บุคคลใดเห็นทุกข์...บุคคลนั้นเห็นธรรม"
บุคคลใดเห็นธรรม...บุคคลนั้นเห็นตถาคต"
⏳ฉะนั้น ใครที่ยังไม่ทุกข์ใจถึงที่สุด..ก็รอกันไป
ถ้าไม่ทำความดี...ผลกรรมมาถึงเมื่อไร..เราก็สาหัสเลย
หรือจะไม่รอ...ก็จงมุ่งมั่นทำคุณงามความดีให้ถึงซึ่งความเป็นผู้พ้นทุกข์ คือ พระนิพพานไปเลย
ด้วยพระพุทธนิมิตที่สอนอยู่นี้...
▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎‍♀️‍♂️
#พระธรรมเทศนา
#พุทธนิมิตเพื่อพระนิพพาน ตอนที่ ๔๘
#พระอาจารย์เอกลักษณ์ #ปญฺญาคโม
#วัดพุทธพรหมยาน
#ธรรมะลูกนอกวัง
#ลูกนอกวังวัดพุทธพรหมยาน
#พระพุทธศาสนาช่วยสังคม
#สมเด็จองค์ปฐมปางพระนิพพาน
#พระอุโบสถแก้ว
#ศิษย์ลูกนอกวัง
#ชาติ #ศาสนา #พระมหากษัตริย์
#พระคาถาเงินล้าน
#ติดตามอ่านทุกวันเสาร์และอาทิตย์
ขอขอบคุณข้อความจาก :
พระเอกณพัชร์ ศิษย์ลูกนอกวัง (พระรุ่ง)

 

“ต้องลองดู”
บทวิปัสสะนาภูมิปาฐะ หรือที่พระโบราณเรียกกันว่า บทปัญจักขันธาใหญ่ ในบทสวดพระอภิธรรม หลวงพ่อฤาษีฯ เล่าให้ฟังว่า แม้คนที่ไม่รู้ความหมาย แค่ชอบใจในเสียงสวด จนเกิดเป็นสมาธิเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าตายแล้วเกิดใหม่จะได้ทิพจักขุญาณทันที...อาตมาจึงคิดว่า ในเมื่อเรารู้แล้ว ก็ลองหาฟังหรือสวดเสียเองให้ชำนาญจนเป็นสมาธิ อาจมีส่วนช่วยทิพจักขุญาณของเราให้ชัดเจนแจ่มใสขึ้นมาได้ ของอย่างนี้ลองดูก็ไม่เสียหายนะ
คำสอนของพระอาจารย์เอ