น่าเป็นห่วง หลักสูตรพุทธศาสนา จากบางอาจารย์ สอนตายแล้วสูญ ( หลักสูตร ม.1- ม.6)

คิดว่าเมื่อกลับมาต่อใหม่ก็เป็นพระ
เราไม่รู้ว่าช่วงไหนเป็นพระ
ไปปรามาสก็เป็นความเสี่ยงต่อเรา
ส่วนกรรมของท่านเราจะไปเพิ่มหรือลดก็ไม่ได้
พูดปรามาสไปก็มีแต่เราเป็นผู้รับผล
เพราะทุกคนย่อมมีกรรมเป็นของตน

หากเราได้พบพระเถรีผู้ใหญ่ซึ่งมีศีลบริบูรณ์
เราย่อมกราบท่าน
แต่ท่านเหล่านั้นยังต้องกราบภิกษุบวชใหม่อยู่เลย

 

กลับไปศึกษามาใหม่นะครับ
กลับมาบวชได้จริง (จะอีกกี่อสงไขย)
แต่ไม่ได้มรรคผลใดๆ

ปรามาสหรือไม่ปรามาส ผมรู้อยู่ครับ

 

ตลกน่ะ!...พระเถรีผู้ใหญ่กราบภิกษุบวชใหม่
อีกหน่อยบวชเสร็จอุปัชฌาย์ต้องกราบลูกศิษย์มั้ง...???

 

หว๋ายยย ใช้ความ "ปราณี" มาเฆียนกันยังกะ "วัชระ" เลยนะ
เอาก็ได้ว่ะ เล่นด้วยคน แต่ขอตั้งตัวก่อนนา มันไถลไปยาวเยย


เอ? คนเรานิรมาณกายด่าตัวเองไม่บาปใช่ป่ะ? ท่านเตชปญฺโญ ภิกขุ
อิๆๆๆ

 

???...???...???

 

ท่านเทวทัตสอนให้พระเจ้าอชาตศัตรูฆ่าบิดา
เป็นปาราชิก
และจะมาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคตกาล

 

เอ? เกิดไปเจอพระที่ทำลายพระศาสนาอยู่เราควรทำอย่างไรดีอ่ะขอรับ?

 

พระพุทธเจ้าท่านบอกนี่ฮะ

 

หลีกเลี่ยงไม่สมาคม
และไม่ไปทำบุญกับท่าน

 

เอ? ใครตอบได้บ้าง่า "พระปัจเจกพุทธะ" นี่ดีไหมหนอ?
ให้เลือกเป็นระหว่างพระอรหันต์ธรรมดากะพระปัจเจกฯ
แบบไหนน่าสน?


แล้วทำไมหนอ? พระพุทธองค์จึงทรง ทำนายว่าพระเทวทัต
ที่ก่อกรรมขนาดจะฆ่าพระพุทธเจ้า และทำสงฆ์แตกแยก จึง
จะได้เป็นพระปัจเจกพุทธะ โอ้วว กรรมนี้หนักเหลือหลาย


ใครอยากเป็นพระปัจเจกพุทธะยกมือขึ้นจ๊ะ

อิๆๆๆ (หนูหดหัวทันทีค่ะ)

 

ถ้าคุณว่าอย่างนี้ คุณก็น่าจะพอรู้นะครับ
ว่ากรรมของพระเทวทัต มีที่มาที่ไปอย่างไร
ซึ่งกรรมอันเกี่ยวข้องกับพระสมณโคดม

ให้เริ่มนับจากวันนี้บาปของเทวทัตยังเหลือ
อีกไม่รู้กี่อสงไขย

 

แหม ก็หนู๋เห็นคนในเว็บนี้ หย๋ากกก หยาก เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
ที่มีนามห้อยท้ายว่า "พุทธเจ้า" กันเหลือเกิร์ล นะค่ะ


เลยสงกะส่ายยยย กะสัย ว่าทำไมหนอเขาอย๋ากกกก ได้ชื่ออันไพเราะ
แต่ไม่ดูเคราะห์กรรมกันเร้ยยน่ะคะ


อิๆๆๆ (ใครอยากเป็นขอให้ได้สมใจหย๋ากนะคะ 5555555)

 

เรื่องภิกษุณีนั้น ตอนแรกท่านไม่อยากให้มี
ท่านจึงกําหนดกฎที่เคร่งครัดมากกว่าภิกษุ
(คิดดูว่าสมัยพุทธกาลผู้หญิงไปอยุ่ป่าตาม
ลําพังจะอันตรายขนาดไหน และผู้หญิงยัง
จะมาอยู่ใกล้พระอีกพระใหม่จะเป็นอย่างไร)
เหตุผลที่ยกมาท่านกําหนดให้ภิกษุณีนี่ครับ
ก็ถูกแล้ว

 

เห็นด้วยจ้า ขอเสริม
......................

ศีลของพระสงฆ์พระพุทธองค์ไม่ได้ตรามาทีเดียวพร้อมกันหมดครับ ค่อยๆ พัฒนาไป เช่น เมื่อเกิดเหตุภิกษุนอนกลางวันไม่ได้ปิดประตู ลมพัดทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว (อ่ะ ทำได้ด้วยดีจัง?) มีอุบาสีกามาคร่อมสำเร็จความใคร่ ท่านจึงต้องห้ามเปิดประตูนอนกลางวันก็มีอ่ะ แบบที่มีพระสงฆ์อาพาธต้องกินเนื้อ โยมเลยเฉือนเนื้อขามาให้กิน ท่านเลยบัญญัติห้ามทำบุญด้วยเนื้อบางประเภทก็มีอ่ะ


ของแบบนี้มันก็ต้องค่อยๆ สร้างกันไป บ่ได้เพอร์เฟคทันทีทันใด
เหนื้อยเหนื่อยแสนยาก ไม่น่าอยากเปงเร้ยยย แต่... ช่างเถอะ อิๆๆ

 

ตอบข้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

เจริญพรมายังคุณโยม Mr Kebab<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
***ความเข้าใจกับคำว่า อารมณ์บัญญัติ กับอารมณ์ปรมัตถ์ นั้นคงต่างกัน ซึ่งคำๆนี้ดูว่าจะเรียกกันขึ้นมาใหม่ ไม่ควรสนใจ ะทำให้สับสนไปเสียเปล่า<o></o>
***ธรรมะนั้นควรใช้ภาษาที่พื้นๆเข้าใจง่ายๆ ที่เราสามารถเห็นได้จริงในปัจจุบัน พวกภาษาสูงๆเข้าใจยากๆหรือเข้าใจไม่ได้นั้นมันไม่ใช่ธรรมะที่เราจะเห็นได้เอง มันเป็นการพูดโอ้อวดว่าตนเองรู้จากตำราเสียมากกว่า<o></o>
***สิ่งที่ควรสนใจก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นมานั้นมันเป็นของจริงหรือไม่? พิสูจน์ได้หรือไม่?<o></o>
***ฝรั่งเขาก็เห็นผี หรือเทวดา นรก-สวรรค์ตามทัศนคติของเขา คือเขาคิดว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตามค่านิยมหรือสภาพภูมิประเทศของเขา เป็นต้น ใครเชื่ออย่างไรก็จะมีทัศนคติตามความเชื่อของตนเอง โดยจุดสำคัญจะอยู่ที่ว่านรกจะต้องน่ากลัว ส่วนสวรรค์จะต้องน่าพอใจ เพื่อเอาไว้ให้คนกลัวการทำชั่ว และอยากทำความดี อย่างนี้จะเรียกว่ากุศโลบายก็ได้ <o></o>
***ถ้ามองอย่างเป็นรูปธรรม(วัตถุ) ก็แน่นอนว่านรก-สวรรค์ หรือผีเป็นต้นก็ย่อมจะแตกต่างกัน แล้วก็เข้ากันไม่ได้ ทำให้เกิดความแตกแยกเป็นลัทธิศาสนาขึ้นมามากมาย ซึ่งเป็นปัญหาอยู่ทั่วโลก<o></o>
***แต่ถ้ามองอย่างนามธรรม(ความรู้สึก)ก็จะทำให้เห็นว่า มันอันเดียวกัน คือทำชั่วแล้วทุกข์ใจ(ผลที่ไม่ดี) แต่ถ้าทำดีแล้วสุขใจ(ผลดี) แล้วก็จะทำให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ปัญหาความแตกต่างก็จะหมดไป<o></o>
***พวกผี สาง เทวดา ที่เป็นรูปธรรมตามที่เขาเชื่อกันนั้น มันมีกี่ขันธ์? หรือมีขันธ์อะไร? เกิดมาจากอะไร? ใครสร้าง?เป็นต้น ถ้าสมมติว่ามันมีมันก็ต้องไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัวตนอยู่อีกนั่นเอง เหมือนกับขันธ์ ๕ ของเราในปัจจุบัน <o></o>
**แต่ถ้ามันไม่มีจริงมันก็เป็นแค่ความเชื่อกันว่ามีเท่านั้น ส่วนที่ใครบอกว่าเห็นเองก็ต้องตามพิสูจน์ดูให้แน่ว่ามันเป็นของหลอก หรือของจริง จับต้องได้ใหม? เหมือนเดิมทุกครั้งหรือไม่? อยู่ที่ไหน? ใครสร้าง? ถ้ามีจริงแล้วทำไมไม่เหมือนกับของศาสนาอื่น? หรือทำไมเทวดาไม่มาดลใจให้คนทำความดี? หรือผีทำไม่มาหลอกคนเลวให้เขากลัวจะได้ไม่ทำชั่ว? หรือทำไมยมบาลหรือเทวดาไม่พาคนที่ทำชั่วไปชมนรก เพื่อเขาจะได้เชื่อและกลัวจะได้ไม่ทำชั่ว? เพื่อโลกจะได้มีศาสนาเดียวและมีแต่สันติภาพที่ถาวร? เป็นต้น(ไม่อยากถามให้มากกว่านี้เดี๋ยวบางคนก็โกรธเอาอีก

 

ผมมีปัญหาถามอ่ะครับคุณครู จขกท.

ครือ ทำไงดีผมไม่ห่มเหลืองแต่ดพสธรรมไม่มีคนสนใจเลย
ทำให้ง่ายๆ ก็ไม่สนใจ ทำให้พิสดารก็ไม่นับถือ ขนาดโอ้อวด
ว่าพระมาเลย ข้าแน่น่ะโว้ยย ก็ยังมีคนไปสนใจธรรมที่ท่าน
ไปนิพพานไปแล้ว กลับมาอธิบายไม่ได้อ่ะ ทำไมคนยังมีชีวิต
เขาไม่สนใจเรยอ่ะ

ผมไม่อยากรู้มากเก่งมาก แต่ผมอยากเทศน์ให้คนง่ายๆ ไปได้เยอะๆ อ่ะคับ

ทำไงดีคับคุณครู?

 

แล้วหนู๋อยากอุดxxxxมารอ่ะค่ะ คือ มันมีคนที่เป็นมิจฉาฑิฐิกันเยอะมาก
แบบที่คิดว่าแน่ว่าเก่ง ฉันไม่เคยผิด ฉันไม่ต้องฟังใคร ฉันดีแล้ว แต่ยัง
ไม่นิพพานนี่สิ จะโดยมารครอบงำ แล้วไปเกิดเป็นมารเอา จะช่วยเขา
ได้ไงอ่ะ

 

อ่านตั้งหลายรอบก็ยังขําอยู่เลยครับ คุณ สัปเหร่อ

ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า... อุด xxxx
ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า... คิดได้งัย

 

สวัสดีครับ ผมสมาชิกใหม่ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ

ว่าแต่ คุณคนที่ตั้งกระทู้ที่ชื่อ Websnow ทำไมหน้าตาดูรั่ว ๆ จังอ่ะครับ