ปกิณณกะธรรม

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย กระร่อน, 22 กรกฎาคม 2020.

  1. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    ผมไม่สนใจผู้ชายหลอกครับ555
     
  2. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
  3. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
  4. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
  5. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,216
    กระทู้เรื่องเด่น:
    252
    ค่าพลัง:
    +23,809
    … ก็ไม่รู้สินะ… ขงเบ้งได้เขียนถึงวิธีการหยั่งรู้ใจคนไว้ในบทที่ 3 ของ ตำราพิชัยสงครามขงเบ้ง ตำราวิชาการทหารเล่มสำคัญ ที่ขงเบ้งมอบให้แก่เกียงอุยนายทหารเอก และตำราเล่มนี้ยังคงสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน ซึ่งในบทๆ นี้มีใจความสำคัญว่า


    “อันการหยั่งรู้ ดูอุปนิสัยใจคอคนนั้นเป็นเรื่องยาก คนมีดีชั่วแตกต่าง นิสัยใจคอหาใช่จะสัมพันธ์กับรูปลักษณ์ภายนอก บางคนหน้าซื่อแต่ใจกลับคิดคด บางคนสุภาพอ่อนหวานแต่กลับมีจิตใจเลวทราม บางคนเกรี้ยวกราดห้าวหาญแต่กลับขี้ขลาดตาขาว บางคนมีมานะแข็งขันแต่กลับกลิ้งกลอกหาความสัตย์มิได้ ใจคนนั้นแม้นจะดูยาก แต่ก็พอมีโอกาสหยั่งถึง”



    วิธีที่จะหยั่งรู้จิตใจมนุษย์นั้น มีอยู่ด้วยกัน 7 ประการดังนี้

    1. ลองใจด้วยความผิดและถูก เพื่อหยั่งรู้คติธรรม ลองใจด้วยปัญหาทางศีลธรรม สอบถามประเด็นทางการเมือง เพื่อทดสอบจุดยืน ความคิดจิตใจ ทัศนคติ รวมทั้งความปรารถนาลึกๆ ภายในจิตใจ
    2. โต้แย้งให้จนมุม เพื่อดูปฏิภาณ หาปัญหาต่างๆ มาซักไซ้ไล่เลียง ยั่วยุให้เขาโกรธ เพื่อทดสอบการควบคุมอารมณ์ ไหวพริบปฏิภาณ
    3. ซักถามด้วยกลอุบาย เพื่อดูสติปัญญา ปรึกษาแผนการ เรื่องราวต่างๆ กับเขาเพื่อทดสอบภูมิความรู้ สติปัญญา และความเข้าใจ
    4. แจ้งภัยให้รู้ เพื่อดูความกล้า แจ้งเขาให้ทราบว่า ภัยอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามาหาตัว เพื่อพิจารณาให้เห็นความกล้าหาญและความอดทน
    5. มอมเมาด้วยสุรา พิจารณานิสัย จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ให้เพียบพร้อมด้วยสุรายาเมา เพื่อดูอุปนิสัยใจคอในยามขาดสติ รวมทั้งวินัยในการควบคุมตน
    6. สรรเสริญด้วยลาภยศ เพื่อดูความสุจริต ใช้ผลประโยชน์ทั้งลาภ ยศ และคำสรรเสริญเข้าล่อใจ เพื่อทดสอบความซื่อสัตย์สุจริต
    7. มอบงานให้ทำ เพื่อดูความรับผิดชอบ มอบหมายงานให้เขาทำ เพื่อทดสอบว่ามีความรับผิดชอบ น่าไว้วางใจ สามารถทำงานได้ถูกต้อง ครบถ้วนและตรงต่อเวลาหรือไม่ อย่างไร

    สรุปการดูคนมีอยู่ 7 วิธี คือ

    1. ยุแหย่ด้วยเรื่องร้ายดีแล้วสังเกตูซึ่ง “ปณิธาน” (ความตั้งมั่นในร้าย/ดี)
    2. ติเตียน/กล่าวโทษให้อับจนแล้วสังเกตดูซึ่ง “ปณิภาณ (ไหวพริบ การเอาตัวรอด)
    3. สอบถามซึ่งกลยุทธ์แล้วสังเกตดูซึ่ง ปัญญา”
    4. บอกกล่าวซึ่งเคราะห์ภัยแล้วสังเกตดูซึ่ง ความกล้า”
    5. มอมเมาด้วยสุราแล้วสังเกตซึ่ง “อุปนิสัย”
    6. ผูกมัดด้วยอามิสสินจ้างแล้วสังเกตซึ่ง ความสุจริต”
    7. มอบหมายภาระกิจให้จัดการในเวลาอันจำกัดแล้วสังเกตซึ่ง สัจจะ”

    “จิตมนุษย์ใช่ว่าสุดจะหยั่งคาด สรรพสิ่งสามารถค้นศึกษาได้
    เพราะมนุษย์มีอุตตะมะปัญญา ต่างจากสัตว์สาราโดยทั่วไป
    อยากรู้ว่าบ้ายึดในอำนาจ ลองให้อำนาจก็สิ้นซึ่งสงสัย
    อยากรู้จิตคิดโลภประการใด พอให้ต้องเงินตราก็รู้กล
    อยากรู้ว่ามั่นคงในศักดิ์ศรี ให้ใกล้ชิดสตรีก็เห็นผล
    ใคร่รู้ว่าจิตใจใช่หรือคน กล่อมสุราและจะดลให้เห็นจริง
    ใคร่รู้น้ำใจซื่อหรือว่าคด ให้ลองบทพนันเล่นเห็นทุกสิ่ง”


    5 ประการกลหยั่งใจได้ตามจริง รู้ให้ยิ่งกระจ่างไว้เพื่อใช้คน

    สร้างสถานการณ์ หวังดูคน

    ไกล แสร้ง ใกล้
    ใกล้ แสร้ง ไกล

    ชาย แสร้ง ตุ๊ด
    พิเคราะห์นรลักษณ์ ดูจิตใจพิเคราะห์ท่าทาง ดูความสง่า พิเคราะห์วาจา ดูคุณธรรม
    • หยั่งปฎิธาน ดูความคิด
    • หยอกล้อ ดูความหนักแน่น
    • ยั่วยุ ดูความตั้งมั่น
    • เยินยอ ดูสติ
    • นิ่งเฉย ดูความเคลื่อนไหว
    โปรด อย่า คลิ๊กกดเข้าไปดู… ถ้าหากคุณใจไม่แข็งพอ… มันเป็นกับดัก… ผมเตือนคุณแล้วนะครับ
    ตายแล้ว.gif
    ผมขออนุญาตบังอาจตั้งข้อสังเกต ณ จุดๆนี้ ในประเด็นนี้นิดนึงนะครับ… ลองคิดพิจารณาตามผมช้าๆนะครับ ทำไม วิศวกรหนุ่มใหญ่ (อายุน่าจะประมาณ 42 +) ที่เพียบพร้อมสมบูรณ์ทุกเรื่องทั้งในเรื่องฐานะ และ ขนาดของอวัยวะ มีความพร้อมทุกอย่างจึงยังไม่มีแฟน และ ยังไม่เคยเข้าพิธีมงคลสมรสครับ?
    ขำมาก.gif
     
  6. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    ไม่เคยสนใจ จริยาใคร
    แค่ป้องกันไม่ให้ภัยถึงตัวพอ
    เก็าสนแต่หัวใจเค้าเองจุบุ๊จุบุ๊
     
  7. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    unnamed (1).gif

    คุณการ้องอายุ 42 หรอครับ วัยกำลังมีสาวแก่แม่หม้ายมาติดเลยนะฮับ:rolleyes:

    #เผือกด้วยคน
     
  8. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    เป็นคู่ต้องอยู่กะแฟน
    เป็นโสดได้อะไรฝากให้คิด555
     
  9. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,216
    กระทู้เรื่องเด่น:
    252
    ค่าพลัง:
    +23,809
    1.gif
     
  10. I sea you

    I sea you Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2020
    โพสต์:
    639
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,115
    _.gif

     
  11. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    เคล็ดลับมีน้ำกินตลอดปี
    เป็นน้ำเต็มแก้วกินเท่ารัยกะไม่ยุบ555
     
  12. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    “วันมาฆบูชา” ตรงกับวันเพ็ญเดือนมาฆะ (วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓)

    “สรุปเรื่องสำคัญเนื่องในวันมาฆบูชา”

    “มาฆบูชา” ย่อมาจาก “มาฆปูรณมีบูชา” หมายถึงการบูชาวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะ ตามปฏิทินของอินเดีย หรือเดือน ๓ ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ซึ่งมักจะตรงกับเดือนกุมภาพันธ์หรือเดือนมีนาคม วันมาฆบูชาเป็นเสมือนวันประชุมกันเป็นพิเศษแห่งพระอรหันตสาวก โดยมิได้มีการนัดหมายล่วงหน้าซึ่งได้มีขึ้น ณ บริเวณเวฬุวันวรมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ หลังจากที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้เป็นเวลานับได้ ๙ เดือน วันนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “วันจาตุรงคสันติบาต” (มาจากศัพท์บาลี คือ จตุ+องค+สนนิปาต+ แปลว่า การประชุมอันประกอบด้วยองค์ประกอบทั้ง ๔ ประการ) เนื่องจากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างประจวบเหมาะ ๔ ประการ คือ

    ๑. วันที่พระสงฆ์ทั้งหมดมาชุมนุมกันนี้ ตรงกับวันเพ็ญเดือนมาฆะ (วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓)

    ๒. พระภิกษุ ๑,๒๕๐ รูป มาชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมาย

    ๓. พระภิกษุ เหล่านั้นทั้งหมด ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง (เอหิภิกขุอุปสมปทา)

    ๔. พระภิกษุทั้งหมดล้วนเป็นพระอรหันต์ ประเภทฉฬภิญญา คือ ได้อภิญญา ๖
    พระพุทธเจ้าจึงทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ เป็นพระพุทธพจน์ ๓ คาถา ซึ่งถือได้ว่า เป็นหัวใจของพระศาสนา มีใจความดังนี้

    พระพุทธพจน์คาถาแรก ทรงกล่าวถึง พระนิพพาน ว่าเป็นจุดมุ่งหมายหรืออุดมการณ์อันสูงสุดของบรรพชิตและพุทธบริษัท อันมีลักษณะที่แตกต่างจากศาสนาอื่น ดัง พระบาลีว่า “นิพพานัง ปรม วทนติ พุทธ” แปลว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่า พระนิพพานเป็นบรมธรรม

    พระพุทธพจน์คาถาที่ ๒ ทรงกล่าวถึง "วิธีการอันเป็นหัวใจสำคัญเพื่อเข้าถึงจุดมุ่งหมายของพระพุทธศาสนาแก่พุทธบริษัททั้งปวง โดยย่อดังพระบาลีว่า “สพพปาปสส อกสรณ กุสลสสูปสมปทา สจิตตปริโยทปเน เอต พุทธานสาสนฯ” คือ การไม่ทำชั่วทั้งปวง การบำเพ็ญแต่ความดี และการทำจิตของตนให้ผ่องใสเป็นอิสระจากกิเลสทั้งปวง ส่วนนี้เองของโอวาทปาฏิโมกข์ที่พุทธศาสนิกชนมักท่องจำกันไปปฏิบัติ ซึ่งเป็นเพียงคาถาใน ๓ คาถากึ่งของโอวาทปาฏิโมกข์เท่านั้น

    ส่วนพระพุทธพจน์คาถาสุดท้าย ทรงกล่าวถึงหลักการปฏิบัติของพระสงฆ์ผู้ทำหน้าที่เผยแผ่พระศาสนา ๖ ประการ คือ การไม่กล่าวร้ายใคร ,การไม่ทำร้ายใคร ,การมีความสำรวมในปาฏิโมกข์ทั้งหลาย ,การเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหารและการรู้จักที่นั่งนอนอันสงัด

    ไม่ว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ใดก็ตาม เมื่อได้มาตรัสรู้และประกาศคำสอนแล้ว ก็จะประกาศหัวใจของศาสนาด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งมีหัวข้อสำคัญอยู่ ๓ หัวข้อด้วยกันคือ ๑. ละเว้นจากการทำบาปทั้งปวง ๒. ทำกุศลทั้งหลายให้ถึงพร้อม ๓. ชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ กำจัดความโลภ ความโกรธ ความหลงให้หมดสิ้นไปจากจิตจากใจ

    นี่คือหัวใจของพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ที่อุบัติขึ้นมาในอดีตก็ดี หรือจะมาตรัสรู้ในภายภาคหน้าก็ดี ก็จะสอนเหมือนกันทั้งนั้น เพราะคำสอนนี้เป็นเหตุที่จะนำสัตว์โลกไปสู่ความสุข ความเจริญแคล้วคลาดปลอดภัยจากทุกข์ภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวง เพราะสัตว์โลกทั้งหลายทั้งแต่ท้าวมหาพรหมลงมาจนถึงสัตว์นรก ก็ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น คือ “กฎของเหตุและผล” เหตุก็คือการกระทำ ผลก็คือความสุขความเจริญ หรือความทุกข์ความเสื่อม ก็จะตามมาไม่ยกเว้นใครทั้งสิ้น ถ้าทำเหตุที่ดีตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ทำทั้ง ๓ ประการ ก็จะได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในที่สุด ถ้ายังไม่ได้บรรลุก็จะได้เป็นเทพ เป็นพรหม เป็นมนุษย์ไปก่อน จนกว่าจะทำภารกิจให้เสร็จสิ้นไป ก็จะได้กลายเป็นพระอรหันต์ กลายเป็นพระพุทธเจ้า ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป ถ้ายังไม่ถึงขั้นพระอรหันต์ก็จะเวียนว่ายอยู่ในภพที่ดี อยู่ในสุคติ เกิดเป็นมนุษย์บ้าง เป็นเทพบ้าง เป็นพรหมบ้าง แล้วในที่สุดก็จะได้เป็นพระอรหันต์ ไม่ต้องไปเกิดอีกต่อไป ได้ไปอยู่ในพระนิพพาน อันเป็นดินแดนที่มีแต่ความสุขมีแต่ความเจริญโดยฝ่ายเดียว ปราศจากความทุกข์ต่างๆ

    การกำจัดความโลภความโกรธความหลง ด้วยการสร้างปัญญาให้เกิดขึ้น สอนตนเองว่าไม่มีอะไรในโลกนี้เที่ยงแท้แน่นอน ที่เป็นของเราอย่างแท้จริง ที่จะอยู่กับเราไปตลอด ที่จะให้ความสุขไร้ความทุกข์ เมื่อต้องพลัดพรากจากกัน ก็จะต้องปล่อยวาง เตรียมตัวเตรียมใจว่า สักวันหนึ่งจะต้องจากกันไป จะได้รู้สึกเฉยๆ ไม่เดือดร้อน ไม่ทุกข์ เพราะเดือดร้อนไปทุกข์ไป ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้เกิดขึ้นได้ เมื่อถึงเวลาจะต้องตายจากกัน จะทุกข์หรือไม่ทุกข์ก็ต้องตายจากกันเหมือนกัน แต่คนที่ไม่ทุกข์ เป็นคนฉลาด เพราะใจสบาย คนที่ทุกข์เป็นคนโง่ ต้องแบกความทุกข์ ความเศร้าโศกเสียใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะไม่สร้างปัญญามาทำลายความหลงนั่นเอง นี้ก็คือการกำจัดความโลภความโกรธความหลงในจิตใจ เพื่อที่จะทำให้ไม่ต้องไปเกิดอีกต่อไป

    ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนา ชุด กำลังใจ ๓๑

    เรื่อง “วันมาฆบูชา” กัณฑ์ที่ ๓๐๒
    วันที่ ๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐

    พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
    วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี

    “ข้อมูลจากหนังสือ ป้ายบอกทาง”

    ขอบคุณภาพโดย: Dean Moriarty จาก Pixabay
     
  13. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2021
  14. I sea you

    I sea you Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2020
    โพสต์:
    639
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,115
    ลุงกาเสม คนชื่ออนัตตา หรืออีกะร่อน หรือใครๆ ก็ตาม ไม่ใช่อีชั้นนะเจ้าคะ ..ทำไมหล่อนถึงระแวงมากมายขนาดนี้หรอ

    ถ้าความกลัว ทำให้ตัวเองเสียศูนย์ขนาดนี้ ก็อย่าไปอ่านไปสนใจอะไรคนอื่นเขาเลย สนใจแต่ครอบครัวตัวเองไปเถอะ
     
  15. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    ไม่ต้องห่วงเค้ามีตัวตนเดียว55
    แค่ทีเป็นอยู่ทุกวันนี้กะปวดหัวตัวเองจะแย่ละ55
     
  16. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    กะหาที่พึ่งศีลธรรมงัย
    ไม่ต้องกังวลอะไรดี
    ใครจะดีใครจะเลวกะฮา55
     
  17. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    มาม่าอะไรกันแต่เช้าฮับ
     
  18. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    รู้เฉยๆมั้ง55
    อืมรู้ละประมาณนี้มั้ง55
     
  19. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    ไอ้เราฤึกะอุสาสอนง่าย55
     
  20. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    มาม่าเรื่องเดิมอีกแล้ว55
    #วันนี้ไม่ไปเที่ยวรึครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...