ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ท้าวสักกเทวราช มาขอฟันหลวงตา-มหาบัว ไปบูชา​

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
..​

เอ้อ มันแปลกประหลาดยังไงก็ไม่รู้ เมื่อวานได้พูดอยู่ ได้สองสามคืนผ่านมานี้ มันแปลก ไม่ใช่นั่งภาวนานะ เราหลับ ปรากฏว่าท้าวสักกเทวราชมาขอฟัน ฝันนะไม่ใช่นั่งภาวนา เรานอนหลับฝัน ฝันว่าท้าวสักกเทวราชลงมา เป็นหัวหน้าบริษัทบริวารลงมา คำฝันมันชัดเจนมากนะ แต่ฝันไม่ใช่ภาวนา มาขอฟันเราไปกราบไหว้บูชา ให้ทวยเทพทั้งหลายได้กราบไหว้บูชา นี่คำฝันนะ ถ้าคำฝันโกหกเราก็โกหกด้วย เพราะฝันอย่างนั้นจริงๆ ถึงท้าวสักกเทวราช แต่ในใจของเราก็ปลงใจให้นะ ปลงใจให้ฟัน มันมีฟันอันหนึ่งที่มันโยกคลอนอยู่ยังไม่ถอน ปล่อยมันไว้นั้นละ​

<O</O​

พอดีท้าวสักกเทวราชมาขอฟัน เราในความรู้สึกในความฝันว่าได้ปลงใจให้ท้าวสักกเทวราช ฟันซี่นี้นะ พอตื่นเช้ามาฟันนี้หายเลย อันนี้เราก็อัศจรรย์เหมือนกัน ฟันที่ว่านี้มันโยกคลอนหายเลย ไม่ทราบหายไปไหน หลังจากฝันมาแล้วหายเลย นี่เป็นเองนะ เราเป็นเอง ฝันเองจริงๆ ท้าวสักกเทวราชมาขอฟันนั้น คำฝันไม่ใช่ภาวนา มาขอฟันเราก็ปลงใจให้ท้าวสักกเทวราช พอตื่นนอนขึ้นมาฟันซี่นั้นหายจริงๆ ไม่มีเหลือเลย ที่มันโยกคลอนมันจะหลุดอยู่ จะปล่อยให้มันหลุดเองเราว่างั้น พอดีท้าวสักกเทวราชมาขอไป คำฝันก็สดๆ ร้อนๆ พอตื่นขึ้นมาฟันหาย หายจริงๆ​

มันก็แปลกนะ เป็นจริงๆ ก็มันเป็นกับเราเอง เราไม่ได้โกหกใคร โฮ้ เป็นอย่างนี้ก็เป็น พอตื่นนอนขึ้นมาฟันนี้หายแล้วไม่ทราบหายไปไหน คงเป็นท้าวสักกเทวราชเอาไป เอ้า ผิดก็ผิดผิดในคำฝันเป็นอะไรไป เราไม่ได้โกหก มันฝันว่างั้นเราก็พูดตามความฝัน พอท้าวสักกเทวราชมาขอฟันเราปลงใจให้นะ พอตื่นนอนขึ้นมาฟันซี่นี้หายเลย ที่มันโยกคลอนหาย หายเงียบเลย ได้สองสามวันนี้ เอ้อ อันนี้ก็แปลกอยู่

<O</O​

มันแปลกเราก็บอกว่าแปลก มันฝันไปอย่างนั้น ฝันว่าท้าวสักกเทวราชพร้อมกับบริษัทบริวารมา ไม่ใช่เรานั่งภาวนานะ ปรากฏมาจริงๆ คล้ายกับภาวนา แต่เวลานั้นมันฝันไม่ใช่ภาวนา มาขอฟัน พอตื่นนอนขึ้นมาฟันซี่นี้หายเลย หายเงียบ แต่คืนวันนั้นละ ไม่ทราบหายไปไหน คงไปแล้วละในคำฝันเรา ถ้าคำฝันโกหกเราก็โกหก พวกนี้ก็หูโกหกไปด้วยกันหมด มันแปลกอยู่นะ ตกลงฟันเราก็หายแต่คืนนั้นละ หายเงียบเลย ไม่ทราบไปไหน (งั้นเข้าใจแล้วเจ้าค่ะว่าที่พระพุทธเจ้าขึ้นไปจำพรรษาบนดาวดึงส์ได้ ที่มีอยู่พรรษาหนึ่งที่พระพุทธเจ้าไปโปรดพุทธมารดาบนดาวดึงส์) พูดกับคนหูหนวกมันไม่ได้เรื่องนะ มันต้องเอาแบบเณรน้อยกับหลวงตานั่นซีมันถึงจะเข้าใจ เณรน้อยองค์นี้มันก็ดื้อเหมือนกัน​

........​

http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=4438&CatID=0<O</O

 

จาก... http://www.readypremium.com/ecommerce/tsunamithai/ArticleDisplay.asp?urlID=29


Tsunami คลื่นซึนามิ: คลื่นในทะเลที่มีช่วงคลื่นยาวประมาณ 80 ถึง 200 กม.เกิดจากความสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวหรือแผ่นดินถล่ม หรือภูเขาไฟระเบิดที่พื้นท้องมหาสมุทรซึ่งห่างจากตำบลที่เกิดเป็นพัน ๆ กิโลเมตร โดยไม่มีลักษณะผิดสังเกต เพราะมีความสูงเพียง 30 ซม. เคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 600 ถึง1,000 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง


วิเคราะห์เหตุการณ์

1. ระยะทาง กทม.- นครสวรรค์ เพียง 200 กม. ดังนั้น หากเป็นคลื่นซึนามิแท้ๆจะใช้เวลา 20 นาที เท่านั้น

ใน MSN แจ้งว่าใช้เวลา 8 ชม. แสดงว่า...คลื่นยักษ์สูง 75 ม. มันวิ่งด้วยความเร็ว 200กม./8ชม. = 25 กม./ชม.

2. นครสวรรค์ในที่ลุ่มสูง 23 ม. ในที่ดอนสูง 40-50 เมตร ดังนั้น...หากเจอคลื่นสูง 75 ม. นครสวรรค์ไม่รอดครับ

พิษณุโลกในเขตเมือง 40-50 เมตร ในเขตภูเขา 200 ม. ดังนั้นในที่สูง ในเขตภูเขา รอดครับ


3. ข้อมูลของท่านที่คุย MSN นั้นอาจมีตัวเลขที่คลาดเคลื่อนครับ

3.1 บริเวณปลอดภัยของคลื่นสูงระดับ 75 เมตรไม่ใช่นครสวรรค์ แต่เป็น...อุตรดิตถ์

3.2 ความเร็วของคลื่นยักษ์น้อยกว่าซึนามิมาก...เพียง 25กม./ชม.....แต่โอกาสรอด ก็ยังน้อย...เมื่อความเร็วของมันต่ำกว่าซึนามิ แสดงว่า...ต้นเหตุไม่ได้เกิดขึ้นแบบซึนามิ...(แผ่นดินไหว) แต่น่าจะเกิดจากน้ำทะเลค่อยๆมีระดับสูงขึ้น เพราะน้ำแข็งในแถบยุโรป และซีกโลกเหนือมีมากขึ้น เพราะน้ำกลายเป็นน้ำแข็งครึ่งค่อนโลก เรียกว่า ยุคน้ำแข็ง

และเนื่องจากปัจจุบันข้อมูลข่าวสารเร็วมาก...ทำให้เรารู้ตัวครับว่า...ประเทศใดกลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว หรือว่ายังไม่โดน...

เช่น...ใช้ภาพถ่ายดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งภาพถ่ายดังกล่าวสามารถรับได้ทุกที่ เพียงท่านมีเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม และเล็งไปยังดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา ข้อมูลนี้ไม่เป็นความลับแต่อย่างใดครับ

ดังนั้นหากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้...จะมีสัญญาณเตือนดังนี้

A. น้ำทะเลค่อยๆสูง...และสามารถคำนวณอัตราความสูงของน้ำทะเลได้...จนกระทั่งระดับอันตราย...กลายเป็นคลื่นยักษ์...ค่อยๆท่วม...ในเวลา 8 ชม.จึงไปถึงนครสวรรค์ (และหยุด ? หรือไปต่อ ?) หากคลื่นสูง 75 ม. จะท่วมไปอีกจนถึง...อุตรดิตถ์

B. ที่ระดับน้ำ 75 ม. แนะนำให้ไปในที่สูงเช่น...ภาคอีสาน ภาคเหนือ หรือเทือกเขาในภาคตะวันออก แล้วออกไปภาคอีสาน

ให้เลยสระบุรีไปทางปากช่อง หรือโคราช มากๆ หรือไปเพชรบูรณ์ก็ได้ครับ

สรุปว่า...ไม่ใช่การท่วมแบบฉับพลันครับ ทำให้พอมีเวลาหนีได้บ้าง (ใช้ข้อมูลที่บอกมาเป็นตัววิเคราะห์)

 

ถ้าเราทราบความเร็วของคลื่นซึนามิ ย่อมทำให้สามารถคาดหมายระยะเวลาที่คลื่นใช้ในการเดินทางถึงชายฝั่ง ตัวแปรที่ใช้ในการหาความเร็วได้แก่ความลึกของทะลกับอัตราเร่งอันเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก โดยที่

เมื่อ v เป็นความเร็วของคลื่นซึนามิ h เป็นความลึกของทะเล และ g เป็นอัตราเร่งอันเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก ตารางต่อไปนี้แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างความลึกของทะเลและความเร็วของคลื่นซึนามิ
ตาราง ความสัมพันธ์ระหว่างความลึกของทะเลและความเร็วของคลื่นซึนามิ
ความลึก (เมตร) ความเร็ว (กิโลเมตร/ชั่วโมง)
10 36.60
20 50.35
30 61.66
40 71.20
50 79.61
100 112.58
200 159.22
400 225.17
800 318.43
1000 356.02
1500 436.03
2000 503.49
2500 562.91
3000 616.64
3500 666.05
4000 712.04
4500 755.23
5000 796.08
5500 834.94
6000 872.06
6500 907.67
7000 941.93
7500 975.00
8000 1006.97
8500 1037.96
9000 1068.05
9500 1097.32
10000 1125.83




จาก... http://www.readypremium.com/ecommerce/tsunamithai/ArticleDisplay.asp?urlID=29






วิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติม

อ่าวไทยมีความลึก 80 ม. จากตาราง...หากเกิดซึนามิในอ่าวไทยจะมีความเร็วคลื่นประมาณ 100 กม./ชม. และ สามารถไปถึงนครสวรรค์ได้ในเวลาเพียง 2-3 ชม. นับจากขึ้นฝั่งครับ

 

โอ้โห! แม่เจ้า พูดเป็นเล่นไป!! 2-3 ชม.!!!! อย่างงี้มันจะรอดกันมั้ยเนี่ย อย่างงี้ถ้าเกิดจริงๆ แล้วประกาศให้อพยพผู้คนไปที่สูง ผมว่ายังไงมันก็ไม่ทัน
เวรกรรมชาวโลก เฮ้อ! ถึงเวลานั้นคงวิ่งหนีตายกันน่าดู เวทนาจริงๆ
กรรมใคร กรรมมัน แล้วขอให้มันเบาๆหน่อยเถอะ ไม่ต้องแรงมาก ไม่อยากให้เกิดเลย

 

ครับ...ไม่น่าจะทัน....แต่

ก่อนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงจะมีสัญญาณเตือนคือ...

1. มีการไหวถี่ๆแถบรอยเลื่อนระหว่างรอยต่อของทวีป หรือรอยต่อของแผ่นดิน อ่าวไทยไม่มีรอยเลื่อน ยกเว้นแนวใกล้ๆประเทศพม่า ซึ่งทำให้เกิแผ่นดินไหวมาจากฝั่งอันดามัน เช่น ที่หัวเกาะสุมาตรา ทำให้เกิดซึนามิเมื่อครั้งก่อน

ดังนั้น...การเกิดซึนามิในอ่าวไทย เพราะรอยเลื่อนของรอยต่อทวีปในอ่าวไทยไม่มี หรือไม่น่าจะเกิดโดยเราไม่รู้ตัว

2. หากซึนามิมาจากฝั่งแปซิฟิค ทะเลจีน อันนี้ไม่สามารถโจมตีเข้าถึงอ่าวไทยได้เพราะ อินโดเนเซีย ฟิลิปปินส์ จะบล๊อกป้องกันเราไว้ ดังนั้นในแง่การเกิดซึนามิอ่าวไทยปลอดภัยครับ

3. หากเป็นระดับน้ำขึ้นสูงฉับพลัน ด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. และท่วมไปเรื่อยๆจนถึงนครสวรรค์นั้น เราจะทราบเหตุการณ์ก่อนครับ ให้สังเกตุสภาพอากาศทั่วโลกไว้ครับ หากยุโรปและซีกโลกทางเหนือโดยโจมตีด้วยอากาศเย็นและกลายเป็นน้ำแข็ง ให้รีบอพยพทันทีครับ

ในหนังเขาอพยพลงซีกโลกใต้แต่ประเทศไทยคงต้องไปภาคอีสาน ภาคเหนือครับ เตรียมเครื่องกันหนาวไว้มาก เสบียงด้วย และอย่ารั้งรอ ท่านจะสามารถรอดได้ครับ

 

ถ้าจะใกล้ถึงเวลานั้น ขอเสนอให้มีเตรียมการแจ้งเตือนให้กลุ่มพลังจิต ทั้งทางมือถือ ,วิทยุสื่อสาร,e-mail และกระจายข่าวให้ทราบต่อๆ กันไป รวมทั้งกำหนดจุดหมาย/เส้นทางที่ปลอดภัยและสะดวกรวดเร็วที่สุด ที่จะใช้ในการเดินทาง

 

สิ่งคัดกรอง... คือ "สัจจะ"
.....ทำ...กับ ยังไม่ได้ทำ
เชื่อ...กับ....ไม่เชื่อ.......ว่า "สัจจะ มีผลตอบแทน "

บัญชีรายชื่อถูกกำหนดไว้แล้ว... คือ "สัมมะโนประชากรโลก ที่หลักโลกุตตระ"
ผู้ใดเชื่อ ปฏิบัติใน "สัจจะ"...ชื่อจะปรากฏที่ หลักโลกุตตระ.......ชั่วกัปชั่วกัลป์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ถ้าหากว่าเกิดอย่างฉับพลันจริงผมคงไม่รอดครับ แต่อยากรู้ครับว่า
พวกอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ พอจะมีแรงต้าน พอที่จะชลอความเร็ว
หรือลดระยะทางของคลื่นได้หรือเปล่า อีกอย่างหนึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ
ว่าโดยปกติระยะทางของสึนามิ พอขึ้นฝั่งแล้วจะยังไปต่ออีกกี่กิโลเมตร

 

หมอลักษณ์ ฟันธง นายกมากับภัยพิบัติ
​

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2549 ที่ผ่านมานั้น อาจารย์ลักษณ์ เรขานิเทศ ได้ออกรายการหนึ่งในช่วง บางกอกซีน ทางช่อง ITV ได้ทำนายดวงเมืองเอาไว้ว่า

 

ผมมีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟัง เมื่อเช้าวันที่ 7 พค.2550 เวลาประมาณ03.50น. ผมฝันว่า

"ตัวเองกำลังยืนอยู่บนสะพานลอยเชื่อมระหว่างอาคาร (ไม่แน่ใจว่าเป็นห้างสรรพสินค้า โรงแรม หรือมหาวิทยาลัย) ตอนนั้นคิดว่าสะพานก็สูงเราก็เจ็บเข่าจะลงได้อย่างไร ระหว่างนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวทำให้สะพานลอยเอียงเทไปยังอาคารฝั่งตรงข้าม ผมตัดสินใจวิ่งและกระโดดไปยังอาคารนั้น โชคดีที่รอด พร้อมกับช่วยฉุดผู้หญิงอีกสองคนขึ้นมาจากสะพานได้ จากนั้นสะพานก็หล่นลงพื้นเบื้องล่าง ไม่เห็นผู้เสียชีวิต แต่รู้สึกได้ว่าคงตายกันมาก

จากนั้น ภาพก็ตัดมาที่ ผมกับครอบครัวทานอาหารกลางแจ้ง ใกล้ๆกันมีคนจับกลุ่มคุยกันถือเรื่องดังกล่าว แล้วภาพก็ตัดมาที่ พวกเรากับกลุ่มคนจำนวนหนึ่งกำลังนั่งอยู่กลางลานซึ่งมีอาคารอยู่ใกล้ๆประมาณสองอาคาร ในฝันก็คิดอยู่ว่าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ทำไมจึงมีคนกล้าที่จะอาศัยบนอาคารดังกล่าวอีก
สักพักก็เกิดแผ่นดินไหวอีก คราวนี้เห็นเศษกระจก เศษอาคาร ร่วงลงมาแต่อาคารไม่ถล่ม ส่วนบริเวณลานที่ผมอยู่ ต้นไม้ใหญ่ก็ล้มลง ต่างคนต่างหลบกันจ้าละหวั่น พร้อมๆ กันนั้นบนท้องฟ้าเกิดพายุและเมฆก่อตัวสีดำคล้ายกับที่เกิดพายุเมื่อเย็นวันที่ เมษายน 2550 แต่ในฝันเกิดขึ้นเร็วและรุนแรงกว่ามาก เท่านั้นไม่พอ ผมเห็นน้ำไม่ทราบมาจากไหนไหลบ่าเข้ามาเหมือนซึนามิ เต็มไปหนด พวกเราวิ่งขึ้นบนอาคารที่อยู่บริเวณนั้น มองจากอาคารลงมาน้ำเวิ้งว้างเต็มไปหมด โชคดีที่รอดอีกครั้ง
จากนั้นภาพตัดมาที่ ผมกับผู้คนจำนวนหนึ่งกำลังอยู่บนยานพาหนะที่ใหญ่แต่เก่าวิ่งไปบนน้ำ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเรือหรือรถโดยสารขนาดใหญ่ที่วิ่งบนถนนที่น้ำท่วม ความรู้สึกขณะนั้นคือรู้สึกว่ามีความอัตคัดมาก ลำบากมาก แต่ละคนนุ่งห่มเสื้อผ้าที่เก่าและไม่ได้ซักกันเลย ความรู้สึกในขณะนั้นบอกว่ากำลังอยู่ในท้องที่อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น (เป็นความฝันที่ละเอียดมาก)

จากนั้นภาพตัดมาที่ อาคารแห่งหนึ่งน่าจะเป็นอาคารสนามบินในต่างจังหวัด ผู้คนวุ่นวายไปหมด ผมก็โทรศัพท์หาเพื่อนคนหนึ่งเพื่อสอบถามและเตือน ปรากฎว่าในฝันเพื่อนไม่เชื่อแถมพูดทำนองเราตื่นตูมเกินเหตุ ช่วงนั้นก็มีเสียงของเด็กหนุ่มสองคน(นั่งตรงพื้นพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าหนึ่งใบ)พูดกับผมว่า นี่แม่กับน้องชายผม พร้อมกับยื่นหนังมือมนุษย์ที่น่าจะลอกจากคนตายส่งให้ผม เป็นนัยว่าเค้าคือผู้สูญเสียและเหตุการณ์ที่เกิดนี้ของจริง แล้วเค้าก็พูดว่า ใครที่ไม่เชื่อก็ต้องปล่อยเค้าไป
ผมก็ถามเค้าว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อใช่มั้ย เค้าทำหน้างง และพยักหน้าสรุปคือใช่ "

จากนั้นผมก็ตื่นทันที ความฝันนี้มีรายละเอียดเยอะมาก ชัดเจน และมีลำดับขั้นตอน ผมก็นึกทบทวนว่าเป็นเพราะเราคิดอะไรมากไปหรือเปล่า ทำไมฝันอย่างนี้ และคิดว่าหากเกิดเหตุจริงจะทำอย่างไร ซึ่งผมก็ได้จดบันทึกไว้สามหน้ากระดาษ(กระดาษโน๊ต)

ก็ถือว่าเป็นเรื่องเล่าให้ฟังเล่นๆ และขออย่าให้เกิดจริงเลย มันน่ากลัวมากครับและตอนนี้รู้สึกสบายใจแล้วที่ได้เล่าให้คนอื่นฟัง

 

***

เมื่อมี 666 ...
"สัจจะ" 777.... จะเกิดขึ้น ในวันพฤหัสบดีที่ ๗ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๗

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

คุณปกรณ์ครับ ช่วยนำความฝันที่ได้จดบันทึกเอาไว้ 3 หน้า นำลงให้หน่อยครับ ขอแบบละเอียด ไม่ต้องตัดออกครับ

เผื่อเพื่อนๆจะได้ช่วยกันถอดรหัสบางอย่างที่แฝงเร้นอยู่ครับผม

 

*** ย้ายเมืองหลวง ****

 

ชีวิตประชาชน...สำคัญกว่า การลงทุน ผลกำไร

 

ด้วยความยินดีครับคุณคณานันท์ แต่ตอนนี้บันทึกอยู่ที่บ้านครับไว้ผมจะนำมาลงให้นะครับ

ผมไม่แน่ใจจะมีความสำคัญมากหรือไม่ครับ แต่ที่แน่ๆ มันเป็นความฝันที่เป็นเรื่องเป็นราวชัดเจน ใจความสำคัญใหญ่ๆจะเป็นดังที่ลงไว้ แต่รายละเอียดปลีกย่อยที่ข้ามไป จะเป็นเรื่องสถานที่ บุคคล คำพูด เป็นต้นครับ

ถ้าความฝันนี้มีความสำคัญ กรุณาแจ้งให้ผมทราบถึงความสำคัญดังกล่าวด้วยครับ

ขอบคุณครับ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ kananun
คุณปกรณ์ครับ ช่วยนำความฝันที่ได้จดบันทึกเอาไว้ 3 หน้า นำลงให้หน่อยครับ ขอแบบละเอียด ไม่ต้องตัดออกครับ

เผื่อเพื่อนๆจะได้ช่วยกันถอดรหัสบางอย่างที่แฝงเร้นอยู่ครับผม


</TD></TR></TBODY></TABLE>


อยากให้คุณคณานันท์ นำความฝันที่เคยว่ายน้ำหนีน้ำท่วม มาลงอีกครั้งด้วยนะครับ จะได้เห็นภาพจำลองที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ

 

คลื่นยักษืเมื่อขึ้นฝั่งจะลงความเร็วลงแน่ๆครับ...ปัจจัยอยู่ที่

1. ปริมาณน้ำ หากปริมาณน้ำมากๆก็ไม่ค่อยจะลดความเร็วเท่าไหร่
2. สิ่งกีดขวาง

อย่าตกใจครับ

คลื่นน้ำนั้นเราหนีไม่ทันแต่....ก่อนเกิดคลื่นจะมีสัญญาณเตือนมากมาย....ไม่ต้องกล้วครับ...หูไวตาไว

ลองคิดง่ายๆครับ...หากระดับน้ำ 75 เมตร แสดงว่า...มันท่วมทั่วโลก (หนังของอัลกอร์ก็แสดงว่าเป็นเช่นนั้น) และมีการแจ้งเตือนทั่วโลกแน่นอน...เพราะเราดูข่าวได้ทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง

ดังนั้น...เตรียมทางหนีไว้ให้ดีครับ...กะเวลาให้แม่นๆ ไปก่อนสักนิด...รถจะได้ไม่ติด...

อย่างไรเสีย..ก้จะมีการเตือนผ่านเวปนี้แน่นอน...

 

จับตา

 

วิเคราะห์การแตกของเขื่อนศรีนครินทร์และผลกระทบต่อกรุงเทพ




จากภาพแสดงแนวเทือกเขและภูมิประเทศ จ. กาณจนบุรี และภาคกลาง เขื่อนศรีนครินทร์อยู่มุมบนซ้าย...ที่เห็นเป็นทะเลสาบ (สีเหลืองๆ)

ผมเชื่อว่า...หากเกิดแผ่นดินไหวแรงๆเขื่อนศรีอาจแตกได้แต่มีปัจจัยหลายอย่างดังนี้...

1. เขื่อนศรีนครินทร์เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนกลางเป็นดินเหนียว...แสดงว่า...มีความสามารถรับแรงแผ่นดินไหวได้พอควร เพราะเขื่อนดินสามารถ...ให้ตัว...ได้มากกว่าคอนกรีต...เช่น...เขื่อนภูมิพลทำด้วยคอนกรีตทั้งหมด

ส่วนจะรับได้กี่ริคเตอร์..นั้นไม่ทราบ ?

2. ด้านใต้เขื่อนศรีนครินทร์ เป็นแนวเขา หากเขื่อนแตกน้ำจะพุ่งมายังตัวเมืองกาญจนบุรี และกระจายออกไป ตามรอยต่อของภูเขา และไหลออกมาทางภาคกลางจำนวนหนึ่ง โดยจะเต็มลำแคว...แล้วจึงเอ่อล้นออกมาโดยรอบลำน้ำ



3. หากเปรียบเทียบขนาดของอ่างเก็บน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ กับพิ้นที่ของภาคกลาง และพื้นที่รอบๆกรุงเทพ...จะเห็นว่า ปริมาณน้ำจะสามารถท่วมพื้นที่ได้มากและกระจายไปทั่ว...แต่จะเป็นไปในลักษณะ...น้ำท่วมแล้วผ่านไปอย่างรวดเร็ว...น้ำแรงเหมือนน้ำป่า ในช่วงต้นๆและเบาลงในช่วงท้ายๆ

4. เมื่อน้ำมาถึงเขตกรุงเทพ จะลดกำลังลงมากแล้ว แรงน้ำจะลดกำลังลง เพราะน้ำมันกระจายไปทั่ว...แต่ก็ท่วมเป็นบริเวณกว้างมากกว่าที่เคยเห็นมาก่อน

5. จังหวัดที่เสี่ยงภัยเขื่อนแตก...เรียงตามลำดับความรุนแรง...คือ

5.1 กาญจนบุรี...ไหลมาตามลำน้ำแคว
5.2 ราชบุรี
5.3 นครปฐม...แม่น้ำท่าจีน สามารถกั้นน้ำไว้ส่วนหนึ่ง...ให้เข้า กทม. ได้น้อยลง
5.4 สมุทรสาคร... แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง สามารถกั้นน้ำไว้ส่วนหนึ่ง...ให้เข้า กทม. ได้น้อยลง
5.5 สมุทรสงคราม... แม่น้ำแม่กลอง สามารถกั้นน้ำไว้ส่วนหนึ่ง...ให้เข้า กทม. ได้น้อยลง
5.6 นนทบุรี...คลองต่างๆบล๊อกน้ำไว้ด้วย
5.7 กรุงเทพ...ก่อนเข้ากรุงเทพจะมี คลองดำเนินสะดวก ซึ่งเป็นคลองที่มนุษย์ขุดขึ้น จากราชบุรีเป็นแนวยาวมาถึงดาวคะนอง ฝั่งธนบุรี ขวางทางน้ำทางฝั่งตะวันตกเอาไว้ ไม่ให้เข้า กทม.ชั้นใน ได้ง่ายๆ

สรุปว่า

...เขตอันตรายทีสุด...จะอยู่ตัวเมืองกาญจนบุรีมากที่สุด รองลงมาคือราชบุรี ส่วนกทม. จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ร้ายแรงกว่าที่เคยเป็น...

...แต่หากมีแผ่นดินไหวร่วมด้วยจะคาดคะเนปัญหาได้ยากมาก...กทม.และปริมณฑล จะอันตรายมาก เพราะ...พิ้นดินเป็นดินโคลน..ไม่ใช่พื้นแข็ง...

ท่านที่อยู่ในเขต กทม. ควรระวังแผ่นดินไหว...ซึ่งจะทำให้...เกิดภัยพิบัติรูปแบบที่กล่าวมา

 

เขื่อนศรีนครินทร์ สัญญาณเตือนภัย วัวหายอย่าได้ล้อมคอก
ชัยยุทธ ชินณะราศรี และสมกิตติ์ กิตติโศภิษฐ์ - [ 1 ม.ค. 13, 07:00 น. ] ​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>โดย ผศ.ดร.ชัยยุทธ ชินณะราศรี และ สมกิตติ์ กิตติโศภิษฐ์

ภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

​

ปัจจุบันนี้ปัญหาในการวางแผนความปลอดภัยของเขื่อนกำลังเป็นประเด็นที่สำคัญ เนื่อง จากเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อาศัย อยู่ด้านท้ายเขื่อนโดยตรง จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าเขื่อนจำนวนกว่า 2,000 เขื่อน ทั่วโลกได้เกิดการวิบัติลง และจากการสำรวจความมั่นคง ของตัวเขื่อนพบ ว่ามี จำนวน มากกว่า 150,000 เขื่อน ทั่วโลกที่มีความเสี่ยงต่อการวิบัติ​

จากการศึกษาถึงการวิบัติที่เกิดขึ้นกับตัวเขื่อนที่ผ่านมาพบว่า มีสาเหตุมาจากหลาย ประการ โดยเฉพาะในเขื่อนที่มีการออก แบบและก่อสร้างมานานหลายสิบปีที่ใช้ สมมติ ฐานและหลักเกณฑ์ในการออกแบบยังไม่ก้าวหน้ามากนักดังเช่นในปัจจุบัน​

การที่จะพิจารณา เลือกชนิดและการออกแบบเขื่อนในเชิงวิศวกรรมจะ ขึ้นอยู่กับ ปัจจัยต่างๆ หลายประการ เช่น คุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมของ วัสดุที่จะนำมา ใช้ใน การก่อสร้างลักษณะทางธรณีวิทยาของดินและฐานรากบริเวณที่จะทำการ​

ก่อสร้าง สภาพทางภูมิประเทศ สภาพทางอุทกวิทยา และอิทธิพลจากการเกิดแผ่นดินไหว นอกจากนี้แล้วยังต้องคำนึงถึงการควบคุมปริมาณการรั่วซึมผ่านตัวเขื่อน การป้องกันและการลดการกัดเซาะจากกระแสน้ำที่อาจไหลล้นสันเขื่อน พฤติกรรมและกระบวน การการเกิดช่องแตกของเขื่อน ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วมัก จะไม่ได้ พิจารณากันอย่างจริงจัง จึงอาจเป็นสาเหตุเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการวิบัติของเขื่อนได้​

โดยทั่วไปการวิบัติของเขื่อนอาจจะเกิดขึ้นจากสาเหตุดังต่อไปนี้คือ ​

1.การเสื่อมตัวของเขื่อนตามอายุการใช้งาน
2.ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ คือ ฝนตกหนักทำให้เกิด น้ำท่วมฉับพลัน และการเกิดแผ่นดินไหว
3.การทรุดตัวของฐานรากที่ไม่เท่ากัน
4.การเคลื่อนตัวของเขื่อนจากแกนเดิม
5.ปัญหาจากการกัดเซาะที่เกิดขึ้นบนตัวเขื่อนเนื่องจากน้ำไหลล้นข้ามสันเขื่อน
6.ปัญหาจากการรั่วซึมของน้ำผ่านตัวเขื่อน
7.การควบคุมการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน
8.รูที่เกิดขึ้นจากการขุดของสัตว์ ดังนั้นในการที่จะวางแผนความปลอดภัยของตัวเขื่อนจึงจำเป็นที่จะต้องเข้าใจถึงสาเหตุต่างๆ ที่จะมีผลต่อการวิบัติของ เขื่อนเพื่อ ใช้เป็น แนวทางในการวางแผนป้องกันต่อไป ​

ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการวิบัติของเขื่อนศรีนครินทร์​

ลุ่มน้ำแม่กลองจัดได้ว่าเป็นลุ่มน้ำขนาดใหญ่ของประเทศไทย ตั้งอยู่ ณ บริเวณภาคตะวันตกของประเทศ ประกอบด้วยลำน้ำสาขาต่างๆ ได้แก่ ลำน้ำแควน้อยและ แควใหญ่ไหลมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำแม่กลองที่จังหวัดกาญจนบุรี และไหลทอดตัวยาวลงสู่อ่าวไทยที่จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งในบริเวณลุ่มน้ำนี้ได้มีการ ก่อสร้าง เขื่อนที่สำคัญไว้ในลำน้ำต่างๆ อันได้แก่ เขื่อนท่าทุ่งนาและเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งตั้งอยู่บนแม่น้ำแควใหญ่ เขื่อนเขาแหลมตั้งอยู่บนแม่น้ำแควน้อย และเขื่อน วชิรา ลงกรณ์ตั้งอยู่บนแม่น้ำแม่กลอง ​

สำหรับเขื่อนศรีนครินทร์นั้นเป็นเขื่อนหินทิ้ง (Rockfill Dam) มีแกนเป็นดินเหนียว เป็นเขื่อนที่มีขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนแม่น้ำแควใหญ่ ตำบลท่ากระดาน อำเภอ ศรีสวัสดิ์ ทางด้านทิศเหนือของจังหวัดกาญจนบุรี ​

โดยมีระยะห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 86 กิโลเมตร ตัวเขื่อนมีความสูง 135 เมตร และมีความยาวของสันเขื่อน 610 เมตร สามารถกักเก็บน้ำได้ประมาณ 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตร มีวัตถุประสงค์หลักในการผลิตกระแสไฟฟ้า อยู่ในความรับผิดชอบและการดูแลของการ ไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)​

จากการตรวจสภาพเขื่อนศรีนครินทร์พบว่ามีการทรุดตัวของสันเขื่อนมาโดยตลอดในช่วงระยะเวลายี่สิบปีที่เขื่อนเริ่มเก็บกักน้ำ แม้ว่าค่าการทรุดตัว ที่ตรวจพบนี้ยัง อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ในทางวิศวกรรม กล่าวคือในการออกแบบได้ยอมให้เกิดการทรุดตัวได้ถึง 150 เซนติเมตร อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ควรที่จะละเลยที่จะทำ การตรวจ สอบดูแลและทำการบำรุงรักษาให้ตัวเขื่อนอยู่ในสภาพที่มั่นคงแข็งแรงอย่างสม่ำเสมอ และไม่ให้เกิดช่องโหว่ภายในตัวเขื่อนที่มาจากสาเหตุการทรุดตัวไม่เท่ากัน เพราะไม่เช่นนั้นก็อาจจะมีผลทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงกับตัวเขื่อนตามมาได้ ถ้าพิจารณาถึงกรณีที่เลวร้ายที่สุด สมมุติว่าเขื่อนทรุดตัวมากขึ้นประกอบ กับน้ำในอ่างเก็บน้ำมีระดับที่สูงขึ้นอย่างฉับพลันจากสาเหตุที่ฝนตกหนักติดต่อกัน น้ำในอ่างจะเริ่มไหลล้นสันเขื่อน ณ จุดที่เกิดการทรุดตัวมาก ความแรงของน้ำจะพัด พาก้อนหินที่ประกอบขึ้นเป็นตัวเขื่อน จากนั้นจะก่อให้เกิดเป็นช่องแตกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นๆ ที่บริเวณนี้ ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านช่องแตกนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนใน ที่สุดปริมาณน้ำที่ถูกเก็บกักไว้ในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนที่มีปริมาณอย่างน้อย 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตรจะไหลผ่านช่องแตกดัง กล่าวแล้วหลากไหลไป ตามพื้นที่ทาง ด้าน ท้ายเขื่อนที่เป็นแหล่งชุมชนต่างๆ ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นตัวเมืองกาญจนบุรี อำเภอบ้านโป่ง จนไปถึงตัวจังหวัดราชบุรีหรืออาจจะครอบคลุมถึงแหล่งชุมชนต่างๆ ที่อยู่ บริเวณใกล้เคียง ​

นอกจากนี้ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลนี้ยังอาจจะส่งผลกระทบให้เกิดการวิบัติของเขื่อนที่ตั้งอยู่ด้านท้ายน้ำอีกด้วยเช่นกัน ซึ่งได้แก่ เขื่อนท่าทุ่งนา และเขื่อนวชิราลงกรณ์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการวิบัติของเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งเหตุการณ์วิบัติในลักษณะพังอย่างต่อเนื่องนี้ ได้มีกรณีตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้น ในต่างประเทศ ดังเช่น เขื่อน Euclides Da Cunha ในประเทศบราซิล ที่ได้เกิดการวิบัติแล้วส่งผลทำให้ปริมาณน้ำได้ไหลหลากไปสู่ตัวเขื่อน Salles Oliveira ที่ตั้งอยู่ทางด้านท้ายน้ำและในที่สุดปริมาณน้ำดังกล่าวได้ส่งผลให้เขื่อน Salles Oliveira เกิดการวิบัติตามมา หรือกรณีตัวอย่างเขื่อน Coedty ในประเทศอังกฤษ ที่ได้เกิดการวิบัติเนื่องจากน้ำส่วนเกินจากการเก็บกักได้ไหลล้นข้ามสันเขื่อนและเกิดการกัดเซาะตัวเขื่อนจนเกิดการวิบัติในที่สุด ซึ่งปริมาณน้ำส่วนเกินนี้มีผลมาจากคลื่น น้ำท่วมจากกรณีการวิบัติของเขื่อน Eigiau ที่ตั้งอยู่ด้านเหนือน้ำของเขื่อน Coedty เป็นต้น​

จากการศึกษาถึงผลกระทบในกรณีที่เขื่อนศรีนครินทร์เกิดการวิบัติ โดย พีระวุฒ พุ่มทอง (วิทยานิพนธ์ : สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย พ.ศ.2528) ได้กล่าวถึงปริมาณ น้ำที่จะไหลออกจากเขื่อนตามลักษณะรูปร่างของช่องแตกที่อาจจะเกิดขึ้น สามารถกล่าวโดยรวมว่า ภายในเวลาไม่กี่วินาทีที่เกิดช่องแตกบนเขื่อน ​

ปริมาณน้ำในอ่าง เก็บน้ำจะไหลผ่านช่องแตกและจะเกิดคลื่นน้ำท่วมขนาดใหญ่เคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองกาญจนบุรี ด้วยความเร็วเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วนี้ จะค่อยๆ ลดลงตามระยะทางที่มันเคลื่อนตัวไป ภายในเวลา 3 ถึง 4 ชั่วโมง ​

คลื่นน้ำท่วมจะไหลเข้าสู่ตัวเมืองกาญจนบุรี โดยที่เวลาประมาณ 14 ชั่วโมง ปริมาณน้ำ ที่ไหล เข้าเมืองจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นเวลาที่ตัวเมืองกาญจนบุรีจะกลายสภาพเป็นเมืองใต้บาดาล ประชาชนที่อพยพไม่ทันรวม ถึงทรัพย์สินต่างๆ จะถูกน้ำพัดพาไปตามเส้นทางที่คลื่นน้ำท่วมเคลื่อนที่​

หลังจากเขื่อนเกิดการวิบัติ ภายในเวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง คลื่นน้ำท่วมนี้จะไหลเข้าสู่ตัวเมืองราชบุรีซึ่งอยู่ห่างจากเขื่อนเป็นระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร ​

หลัง จากนั้น 3 วัน ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเมืองจะอยู่ที่ประมาณ 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งมากพอที่จะทำให้น้ำท่วมตัวเมืองราชบุรีทั้งเมือง ​

สรุป
จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าเขื่อนศรีนครินทร์เกิดการทรุดตัวอย่างมากประกอบกับในเวลาเดียวกันเกิดปริมาณ ฝนตกหนักที่ บริเวณเหนือเขื่อน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบ ดูแลและบำรุงรักษาเขื่อนให้ถูกต้องตามหลักวิชาการอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนั้นแล้วยังอาจต้อง มีการศึกษา เพื่อหาวิธีป้องกันและลดอัตราการแตกของเขื่อน รวมถึงการศึกษาหาวิธีลดปริมาณคลื่นน้ำท่วมเพื่อลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ​

ปัจจุบันเรามีความพร้อมในแผนการป้องกัน การเตือนภัย การอพยพ การบรรเทาทุกข์ และการกู้ภัยไว้อย่างไรบ้าง สามารถที่อพยพประชาชนภายใน ระยะเวลาเพียง ไม่กี่ชั่วโมง ได้จริงหรือไม่ ได้มีการซักซ้อมแผนดังกล่าวและพร้อมที่จะนำมาใช้ในทางปฏิบัติไว้บ้างหรือเปล่า ​

ดังนั้นหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง นักวิชาการที่มีความรู้ ตลอดจนองค์กรอิสระต่างๆ จึงควรจะให้ความสนับสนุนและร่วมมือกันในการวางแผน การทำให้เกิดผล จริงใน ทางปฏิบัติในด้านความปลอดภัยของเขื่อนที่มีอยู่มากมายในประเทศไทยก่อนที่จะได้ยินคำสุภาษิตที่ว่า "วัวหายแล้วล้อมคอก" อีกครั้ง ​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=2>Prasittiporn KAN-ONSRI (NOI.)

Adviser of Assembly of the Poor.​

E-mail : thaipoor@ksc.th.com ,fopthai@hotmail.com

http://www.thai.to/aop​

​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>