ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

รวมบทความข่าวสารการเตือนเรื่องของภัยพิบัติ
โดยอาจารย์มงคล กริชติทายาวุธ​

​

เว็บไซต์ http://mongkoldham.com/<!-- google_ad_section_end -->นี้ เปิดบริการให้ประชาชนพลเมืองโลกที่อ่านภาษาไทยได้ เปิดอ่านบทความต่างๆ ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และไม่ต้องสมัครเป็นสมาชิกครับ

เดิมอาจารย์มงคล กริชติทายาวุธ ในช่วงที่เป็นประธานชมรมศาสนาและการกุศล บมจ.ธนาคารกรุงไทย ได้เขียนและเรียบแรียงบทความ จัดพิมพ์แจกจ่ายให้แก่ผู้สนใจครั้งละประมาณ 3,000 - 4,000 ฉบับ ระหว่างปี 2534 - 2548 (ก่อนหน้าจะดำรงตำแหน่งประธานชมรมศาสนาและการกุศล เคยเป็นสาราณียกร หนังสือสาสน์ยุวพุทธ ของสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย ตั้งแต่ปี 2505 ได้เขียนบทความต่างๆ ทางศาสนาตลอดเวลาที่ผ่านมา ต่อมาได้ทำหน้าที่เป็น เจ้าของ บรรณาธิการ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์ 2 ฉบับ ตามใบอนุญาตการพิมพ์ จากเจ้าพนักงานการพิมพ์ กองบังคับการตำรวจสันติบาล เลขทะเบียนที่ 55/2524 ถึง 58/2524 ก็เขียนบทความในลักษณะดังกล่าวเช่นเดียวกัน)

ในปี 2548 เปลี่ยนจากการจัดพิมพ์บทความลงในกระดาษ A 4 แจกจ่าย เป็นการส่งบทความให้อ่านในระบบ Intranet ภายในสาขาและทุกหน่วยงานของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย

ในวันที่ 12 สิงหาคม 2549 เพิ่มจากระบบ Intranet เป็นการเผยแพร่ในระบบสากล Internet ในชื่อ mongkoldham.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ส่วนตัวของอาจารย์มงคลฯ

เนื่องจากอาจารย์มงคลฯ เกษียณอายุงาน จากผู้บริหารธนาคาร ในระดับ SENIOR VICE PRESIDENT (SVP) (เป็น VICE PRESIDENT ตั้งแต่ 2529 - 2541 และ SVP ปี 2542 - 2550) และมิได้ทำหน้าที่ประธานชมรมศาสนาและการกุศลฯ แล้ว บทความต่างๆ ก็ไม่มีผู้ใดสานต่อ อีกทั้งธนาคารฯ ไม่มีนโยบายรับบุคคลภายนอกเป็นสมาชิกฯ

ดังนั้น ผู้สนใจในการอ่านบทความ ก็เปิดอ่านบทความได้ โดยไม่สงวนลิขสิทธิ์ และไม่ต้องสมัครเป็นสมาชิกครับ หากต้องการติดต่ออาจารย์มงคลฯ ให้ติดต่อผ่านที่ e-mail:mkrichti_999@yahoo.com เท่านั้นครับ

ที่มา http://mongkoldham.com/

 

ลุงคนเชียงใหม่
สมาชิก



วันที่สมัคร: Nov 2004
ข้อความ: 92
Groans: 1
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 110
ได้รับอนุโมทนา 1,942 ครั้ง ใน 86 โพส
พลังการให้คะแนน: 213


<center>Re: แจ้งนิมิตของผมครับ

</center>
<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> สวัสดีครับพี่คณานันท์

วันนี้ผมไปกราบครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนผมมา
ในเรื่องการทำกรรมฐาน และการถอดอทิสมานกาย
พระอาจารย์ท่านปราฎกถึงบาปกรรมอันที่จะเกิดกับประเทศไทย
ภาพสงครามที่กำลังจะปรากฏขึ้น
จำนวนผู้คนจำนวนมากมายที่จะต้องเสียชีวิตอีก
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประเทศไทย

ก่อนเปลี่ยนปี53 ย่างเข้าสู่ปี 54
สงครามความขัดแย้งบริเวณชายแดนจะ
เกิดขึ้นไฟสงครามลุกลามประทุไปทั่ว
ชนวนความขัดแย้งเกิดขึ้นทั่วถิ่นประเทศไทย
การฆ่าฟันกันของคนไทย จะบังเกิดขึ้นอีก

ภาพปรากฏความขัดแย้งที่ผ่านมาของคนไทย
และการฆ่ากันในระยะที่ผ่านมากลับกลายเป็นเพียง
ขนาดเล็กเมื่อเทียบกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้

เตรียมตัวรับกับสภาวะสงครามการไร้ขื่อแป
บ้านเมืองเต็มไปด้วยไฟสงครามด้วยครับ

ขอคุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครองทุกท่านด้วยครับ
หากเกิดสงครามชายแดนประทุขึ้น
แนะนำเหล่าผู้ปฏิบัติธรรม
ย้ายออกมาจากกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่

วิกรม
หลานพระคุณลุงครับ

 

การชาร์จไฟโทรศัพท์มือถือในชุมชน


<SCRIPT type=text/javascript src="http://ajax.googleapis.com/ajax/libs/jquery/1.2.6/jquery.min.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="/plugins/content/addsize15/js/addSizes.js"></SCRIPT>จากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นส่งผลให้กระแสไฟฟ้าในพื้นที่ถูกตัด และดับเป็นระยะเวลาอันยาวนาน ส่งผลให้การติดต่อสื่อสารขอรับความช่วยเหลือจากผู้ประสบภัยธรรมชาติ สู่บุคคล/องค์กรต่างๆ เป็นไปได้อย่างลำบาก สวทช. โดยเนคเทค ขอนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างง่าย โดยการนำแบตเตอรี่ ๑๒ โวลท์จากรถยนต์มาประยุกต์ใช้สร้างเป็นเครื่องชาร์จไฟโทรศัพท์ใช้กันเอง






การสร้างเครื่องชาร์จไฟโทรศัพท์จากแบตเตอรี่รถยนต์ทำได้โดย

1. เตรียมอุปกรณ์
   1. แบตเตอรี่ 12 โวลท์ จากรถยนต์
      
   2. อินเวอร์เตอร์แปลงแรงดันจาก 12 โวลท์ดีซี เป็น 220 โวลท์เอซี ขนาดของอินเวอร์เตอร์ในท้องตลาดมีตั้งแต่ขนาด 80 วัตต์ จนถึง 1000 วัตต์ ส่วนสายไฟสำหรับต่อกับแบตเตอรี่มักจะให้มากับอินเวอร์เตอร์ รูปด้านล่างเป็นขนาด 1000 วัตต์ครับ
      
   3. สายปลักต่อพ่วงเพื่อให้สามารถเสียบเครื่องชาร์จโทรศัพท์มือถือได้หลายๆ เครื่องพร้อมๆ กัน (สายต่อพ่วงที่ไม่มีคุณภาพ คือเสียบปลักแล้วไม่แน่นหลวม ติดๆ ดับๆ อาจทำให้ทั้งเครื่องชาร์จและอินเวอร์เตอร์เสียหายได้)
      
2. การต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน
   1. ต่อสายแบตเตอรี่สีแดงเข้าที่ขั้วบวก (+) และสายสีดาเข้าที่ขั้วลบ (-) ของทั้งฝั่งอินเวอร์เตอร์และแบตเตอรี่ดังรูป ตรวจสอบขั้วและสีสายให้ดี ถ้าต่อผิดหรือสลับขั้วอาจทำให้อินเวอร์เตอร์เสียหายถาวรได้ ควรต่อให้แน่น เพราะขณะอินเวอร์เตอร์จ่ายกระแสจะมีกระแสผ่านขั้วต่อต่างๆ สูง ถ้าต่อไม่แน่นจะทำให้ขั้วต่อร้อนจัด และทำความเสียหายได้
      
   2. เมื่อต่อสายเสร็จแล้วตรวจสอบการทำงานของอินเวอร์เตอร์ โดยการเปิดสวิชท์ที่อินเวอร์เตอร์ อินเวอร์เตอร์ส่วนใหญ่จะมีไฟบอกสถานะการทางาน ไฟจะติดสว่าง
      
   3. เสียบสายปลักต่อพ่วงแล้วต่อเครื่องชาร์จโทรศัพท์มือถือตามต้องการตามรูปด้านล่างนี้ครับ
      
   4. แบตเตอรี่ขนาด 12 โวลท์ 60 แอมแปร์-ชั่วโมงจะสามารถประจุแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือได้ประมาณ 100 เครื่อง อย่างต่อเนื่อง (ไม่ใช่เอาร้อยเครื่องมาเสียบพร้อมกันนะครับ) ถ้าคำนวณประสิทธิภาพพลังงานจะพบว่าต่ำมาก แต่ในยามคับขันถือว่ายอมรับได้ครับ
   5. อีกประการหนึ่งถ้าไม่มีการประจุแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือ ไม่ควรเสียบเครื่องชาร์จทิ้งไว้ในขณะที่อินเวอร์เตอร์เปิดอยู่ เพราะถึงแม้จะไม่มีการชาร์จโทรศัพท์ แต่เครื่องชาร์จก็กินพลังงานจากแบตเตอรี่ผ่านอินเวอร์เตอร์อยู่ดี
   6. ขณะปลัก 220 โวลท์ของอินเวอร์เตอร์ไม่มีอะไรเสียบอยู่ควรปิดอินเวอร์เตอร์ เพราะแม้อินเวอร์เตอร์ไม่จ่ายพลังงานแต่ตัวมันเองก็ใช้พลังงานส่วนหนึ่งจากแบตเตอรี่ ถ้าเปิดทิ้งไว้แบตเตอรี่จะหมดไปโดยเปล่าประโยชน์

การชาร์จไฟโทรศัพท์มือถือในชุมชน

kapook.com

 

สีเขียว VS สีเขียว​

​

สีเขียวเป็นสีที่มีอำนาจและพลังอันลี้ลับ...สีเขียวเป็นสีที่ดูแล้วสดชื่นสบายตา...สีเขียวบางครั้งก็ทำให้คนหวาดกลัว...ในขณะเดียวกันสีเขียวก็ให้ความอบอุ่นใจได้ในบางโอกาสเช่นกัน... “สีเขียว”ที่เคยรวมกันอยู่เป็นหมู่เหล่าเป็นกอไผ่...รักใคร่กลมเกลียวกันมาตลอดเวลา...บางครั้งพายุลมแรงพัดกระหน่ำก็ไหวเอนไปมาพร้อมๆกัน ดูเหมือนไปไหนไปด้วยพร้อมร่วมบรรเลงเสียงเพลงให้ฟัง... “เอี๊ยด...อ๊าด...เอี๊ยด...อ๊าด”​

แต่ในเร็วๆนี้อยากจะให้ระวัง.. “สีเขียวเสียดสี”...กันอย่างรุนแรงจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดและผลจากการเสียดสีกันในครั้งนี้จะเกิด “ประกายไฟ” ขึ้นอย่างน่ากลัว...บ้านเมืองคงต้องบอบช้ำที่เกิดจากการ “เสียดสี” กันของ “สีเขียว”...เศรษฐกิจช้ำหนักขึ้น...ตลาดหุ้นสะเทือนอย่างรุนแรง... “คนเป็นใหญ่”จะเสียชีวิต... “ตะขาบเหล็ก”จะวิ่งพล่านทั่วเมือง...เสียงปืนดังไปทั่ว...เสียงระเบิดเกิดขึ้นเป็นแห่งๆ กองกำลังไม่ปรากฏสัญชาติจะร่วมกับแดงไม่ธรรมดา...ผู้คนจะล้มตาย...บุคคลระดับ VIP จะบินออกนอกประเทศ...ความชุลมุนวุ่นวายจะเกิดไปทั่ว...มองหาคน “รูปหล่อ” ไม่เห็นไม่รู้ใครเป็นใคร...หากมัวแต่ทะเล่อทะร่าก็จบสิ้นทั้งอินทรีย์...ตาอินกะตานา...มัวแต่ทะเลาะกัน...ตาอยู่มาเดี๋ยวเดียวคว้าพุงปลาไปกิน​

คงต้องรอดูต่อไปสักระยะหนึ่งก่อนว่า...ลมจะพัดไปทางไหน...จะไปทางเหนือหรือจะลงไปใต้? เพราะจะมีผลต่อการเดินทางภายในประเทศเกิดขึ้นในอนาคตได้...เผลอๆอาจจะต้องขอ “วีซ่า” เข้าเมืองเหนือหรืออีสาน...รวมทั้งจะล่องใต้ก็ต้องมี “วีซ่า” อนุญาตให้เข้าเมืองไทย...เข้าไทย!? ย้ำขอดูทิศทางลมก่อน​

“โปรดฟังอีกครั้ง” เปิดทีวีไปช่องไหนก็เหมือนกันหมดทุกช่อง...ประเทศไทยจะคล้ายๆกับประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศ...นักลงทุนต่างชาติจะขยาด...สยามเมืองยิ้ม...จะมีเพียงไม่กี่คนที่ยิ้มร่า...บางกอกจะชอกช้ำถ้า “สีอ่อนซ้อม”...การเลือกตั้งจะยังไม่มีต้องหยุดปรับปรุงชั่วคราว... “สีเขียว” จะครองเมืองระยะหนึ่งก่อน...แต่ถ้า “สีเขียวเข้มแข็ง” ประเทศชาติพ้นภัย​

“คลื่นยักษ์” จะถล่มประเทศไทย “ภัยทางทะเล” ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจะสูญเสียใหญ่หลวง...เคราะห์ซ้ำกรรมซัด...กระหน่ำประเทศไทย! เจอแน่...เตรียมตัวระวังไว้! ​

ด้วยความเคารพ
หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)
18 พ.ค. 2552

ที่มา http://www.mornid.com/home.php

 

เหตุการณ์ในเดือน พฤศจิกายน - ธันวาคม 2553
ทำนายโดย โสรัจจะ นวลอยู่​

​

พฤศจิกายน 2553

จะเกิดภัยธรรมชาติครั้งรุนแรง แหล่งน้ำทั้งเล็กและใหญ่พังทลาย น้ำจะไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ เกิดไต้ฝุ่นเข้าถล่มภาคใต้ ที่ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี (หนักกว่าพายุเกย์)

นับเป็นเดือนวิปโยคที่แท้จริงสำหรับคนไทย หุ้นตกอย่างรุนแรงอีก การเมืองของไทยเต็มไปด้วยความผันผวน เผชิญกับวิกฤตการณ์อย่างหนัก ข้าวยากหมากแพง กลุ่มนักการเมืองร่วงหล่นเป็นแถวๆ ธนาคารล้ม ตลาดหลักทรัพย์ต้องปิดตัวลง พินาศย่อยยับ มีอุบัติภัยทางอากาศหลายครั้งในต่างประเทศ มีการประท้วงลุกลามกลายเป็นการชุมนุมใหญ่จากบุคคลทุกสาขา

วิกฤติทางภาคใต้ได้ลุกลามเข้ามาถึงกรุงเทพฯ มีผู้คนเสียชีวิตดินฟ้าอากาศวิปริต อาเพศไปทั่ว เดือนนี้สภาพภูมิอากาศหนาวจัดที่สุดในรอบร้อยปี มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก และเกิดผู้คนตกตะลึงกันไปทั่วโลก

ธันวาคม 2553

เป็นระยะที่ดาวเคราะห์เบียนหนัก การแตกแยกความสามัคคีภายในบ้านเมืองเรา ขัดแย้งเป็นปรปักษ์ทางการเมือง นำไปสู่การพิพาทที่สิ้นสุดมิได้ หุ้นเริ่มตกอย่างรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมา ธุรกิจสับสน กระแสเงินมีจุดเครียด เงินตึงตัว ไฟลุกโชติช่วงไปทุกหนทุกแห่ง การลอบวางเพลิง วางระเบิด การเมืองระส่ำระสาย องค์การศาสนาของเราสั่นสะเทือน หุ้นตก เศรษฐกิจล้มเหลว ในกรุงเทพฯ จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ สถานที่สำคัญเสียหายหนัก

การพยากรณ์ "ดวงเมือง" ปี 2553 นี้ แม้จะมีคำทำนายที่ค่อนข้างจะร้ายแรง แต่จะขอเตือนเหมือนปีก่อนว่า เราอย่าหลงเชื่อจนงมงาย เพราะวิชาโหราศาสตร์นั้นเป็นเพียงทฤษฎีที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นหลักในการให้คำพยากรณ์

การพยากรณ์เป็นเพียงความคาดคะเน ซึ่งอาจจะเกิดหรือไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ ที่สำคัญกว่านั้น คุณต้องยึดถือผลกรรมในภพชาติปัจจุบัน ยึดมั่นในผลของการกระทำกรรมดีและกรรมชั่ว เมื่อรู้ว่าคุณจะมีทุกข์เกิดขึ้น ก็ขอให้มุ่งสร้างแต่กรรมดี ละเว้นการกระทำชั่วเสีย อีกทั้งขอให้ยึดมั่นในคุณพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง ซึ่งจะอำนวยผลดีให้ แต่ถ้าหากคุณเป็นบุคคลประเภทที่คอยตั้งหน้าตั้งตาแต่จะกอบโกยความสุขเกษมเปรมปรีดิ์ให้กับตนเองแต่ฝ่ายเดียว โดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายซึ่งจะเกิดขึ้นต่อผู้อื่น ก็ขอให้พึงสังวรได้เลยว่า คุณจะต้องประสบกับความหายนะที่ไม่อาจแก้ไขหรือช่วยเหลือได้เลย ตัวคุณเท่านั้นที่จะช่วยตนเองได้ อีกนานไหม...กว่าคุณจะหลุดออกไปจากเขาวงกตนั้นได้?

โสรัจจะ นวลอยู่

ที่มา http://www.thaipost.net/x-cite/311209/15743

 

ขอบพระคุณ คุณเกษมมากค่ะ ที่กรุณาแนะนำ พี่ไปฟังมาด้วยค่ะ เปิดเข้าไปดูในweb ของอาจารย์มงคลแล้วประทับใจ ท่านรวบรวมความรู้ต่าง ๆ ไว้มากมาย สามารถเข้าไปดูได้ทั้งหมด ไม่หวง นับว่าเป็นการสร้างบุญอย่างหนึ่ง

ขอกราบอนุโมทนาแด่อาจารย์มงคลมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

 

​

.



[B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B]
[COLOR=#0000ff]เกาะติด น้ำท่วม 31 ตุลาคม 2553[/COLOR][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B]

กรมชลฯ 17.15 น. ระดมวางกระสอบทรายตลอดลำน้ำป่าสัก-ชัยนาท ป้องกันปริมาณน้ำเข้าท่วมในพื้นที่ลพบุรี-สิงห์บุรีซ้ำอีก ก่อนน้ำทะเลหนุนรอบ 2ในวันที่ 5-9 พ.ย. นี้ อีกทั้งเย็นนี้เตรียมเปิดประตูน้ำมโนรมย์ จ.ชัยนาท เพื่อตัดยอดให้น้ำเหนือลงคลองระพีพัฒน์บรรเทาอุทกภัยจ.ชัยนาท อยุธยาฯ สิงห์บุรี และอ่างทอง
บุรีรัมย์ 15.21 น. สถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.สตึก และ อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2-3 ซม. ส่วน อ.คูเมือง และพุทไธสง ระดับน้ำเริ่มทรงตัวแล้ว

สิงห์บุรี 12.05น. ผู้ว่าราชการจ.สิงห์บุรีเผยว่าขณะนี้แนวเขื่อนเจ้าพระยาบริเวณเขตเทศบาลเมืองมีรอยแตกทำให้น้ำได้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่แล้ว จนท.และชาวบ้านต่างไปช่วยกันเร่งอุดรอยรั่วเป็นการด่วน

อุบลราชธานี 12.00 น. ชาวบ้านในหลายพื้นที่ๆ ถูกน้ำท่วม ใน จ.อุบลราชธานี เริ่มประสบภัยหนาว ต้องออกหาเศษไม้แห้งก่อไฟผิง ขณะที่สถานการณ์ปริมาณน้ำท่วมยังทรงตัว แต่ยังคงความรุนแรงต้องอพยพสัตว์หนีน้ำ

มหาสารคาม 11.41 น. ระดับน้ำในลำน้ำชีที่ไหลผ่านจังหวัดมหาสารคามมีปริมาณเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละประมาณ 8-10 ซ.ม. มีปริมาณน้ำไหลผ่านวัดได้ 1,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะนาข้าวใน พื้นที่อำเภอโกสุมพิสัย เชียงยืน กันทรวิชัย และอำเภอเมืองมหาสารคาม มี 27 ตำบล 170 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน หนักกว่า 6,900 กว่าราย ซึ่งคาดว่าจะมีพื้นที่เสียหาย 54,000 ไร่

08.56 น. กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 17 ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่าบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งได้ เนื่องจากภาคใต้ของไทย จะมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในช่วงนี้
————————————————————————
[B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B]
เกาะติด น้ำท่วม 30 ตุลาคม 2553[/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B]

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 16.34 น. สถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร เพชรบูรณ์ ระยอง จันทบุรี ตราด ตาก ชลบุรี ลำพูน เชียงใหม่ สระแก้ว นครนายก กำแพงเพชร พิษณุโลก หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี และสมุทรปราการ
- ส่วนอีก 22 จังหวัดยังคงต้องติดตามดูสถานการณ์ คือ นครสวรรค์ อุทัยธานี นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุบลราชธานี หนองบัวลำภู ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม และฉะเชิงเทรา
[B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B]กรุงเทพมหานคร 15.26 น.[/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B]ปริมาณน้ำเหนือที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาลดระดับลงแล้ว คาดหากไม่มีฝนตกลงมาอีก ปริมาณน้ำเจ้าพระยาจะกลับสู่ภาวะปกติ แต่ระยะนี้ ชุมชนริมน้ำยังคงต้องหมั่นดูคันกั้นน้ำ ไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าหมู่บ้าน
[B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B]นครราชสีมา 15.05 น.[/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B] ขณะนี้ปริมาณน้ำยังเพิ่มขึ้น 10-15 ซม. ในเขต ต.ทุ่งสว่าง ต.นางรำ ต.ดอนมัน ต.โคกกลาง และ ต.ตลาดไทร อ.ประทาย ระดับน้ำอยู่ที่ประมาณ 1 ม. และ ต.เมืองยาง อ.เมืองยาง ปริมาณน้ำในลำสะแทด ลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำมูล มีระดับเพิ่มขึ้นอีก 5 ซม.ส่วนพื้นที่ที่ปริมาณน้ำลดลง คือ อ.พิมาย อ.จักราช อ.ชุมพวง อ.โนนสูง อ.คง อ.แก้งสนามนาง อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.ลำทะเมนชัย
สพฉ. 13.07 น. รายงานสรุปยอดผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 10 – 30 ตุลาคม พุ่งเป็น 100 รายแล้วโคราชครองแชมป์ เสียชีวิตมากที่สุด 18 ราย

[B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B]สุรินทร์ 11.45 น. [/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B]สถานการณ์น้ำยังคงไม่คลี่คลาย โดยเฉพาะ อ.ชุมพลบุรี น้ำท่วมหนักสุด โดยน้ำมูลไหลทะลักท่วมพื้นที่นาข้าวขยายวงกว้างเพิ่มกว่า 3 หมื่นไร่ ใน 62 หมู่บ้าน 9 ตำบล
[B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B]อุทัยธานี 11.12 น.[/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B]ระดับน้ำ ย่านธุรกิจการค้าเริ่มลด เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเร่งทำความสะอาด พื้นผิวจราจร เพื่อให้สภาพพื้นที่นี้กลับเข้าสู่สภาพปกติโดยเร็ว
[B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B]อุบลราชธานี 09.32 น. [/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B]ระดับน้ำทรงตัวอยู่ที่ 7.20 เมตร คาดว่าช่วงเย็นวันนี้ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยวันนี้ เวลา 13.30 น.จะมีการซ้อมแผนยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่บ้านคูเดื่อ ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และอำเภอที่ติดแม่น้ำมูล เช่น อ.วารินชำราบ อ.สว่างวีระวงศ์ และ อ.พิบูลย์มังสาหาร
————————————————————————

[B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B]เกาะติด น้ำท่วม 29 ตุลาคม 2553[/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B]

ชัยนาท 18.00น. เจ้าหน้าที่ร่วมกับอบต.และเกษตรกรในพื้นที่ช่วยกันทำทำนบกั้นปิดช่องขาดของคันคลอง ซ่อมบานที่ชำรุด กันนํ้าทะลัก
อยุธยา 17.00 น. วิกฤติหนัก นํ้าจ่อท่วมเข้าชั้นในตัวเมือง ใกล้ทะลักถึงวัดไชยวัฒนาราม โบราณสถานสำคัญ
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน 16.00 น. น้ำท่วมรวม 20 จังหวัด ตายแล้ว 94 ราย นครราชสีมามากสุด 18 ศพ
ลพบุรี 15.00 น. วิกฤติระดับนํ้ายังทรงตัวท่วมนานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว นํ้าเริ่มเน่าเสีย ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก
บุรีรัมย์ 14.30 น. สถานการณ์น้ำท่วมที่จ.บุรีรัมย์ โดยเฉพาะยังน่าเป็นห่วง หลังระดับน้ำในแม่น้ำมูลยังสูงขึ้นต่อเนื่อง อยู่ที่ระดับ 8.30 เมตร บ้านเรือนถูกน้ำท่วมขังร่วม 100 หลังคาเรือน นาข้าวจมน้ำเกือบ 30,000 ไร่
[B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][B][COLOR=#ff0000]สุรินทร์ 13.00 น.[/COLOR] [/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B][/B]ผู้ว่าเร่งให้ความช่วยพี่น้องประสบภัยพิบัติแล้ว โดยประชาชนที่ได้ประสบอุทกภัยมากที่สุดคือ อ.ท่าตูม และอ.รัตนบุรีคาดว่าพรุ่งนี้จะมีระดับสูงสุด หลังจากนั้นน้ำก็คงจะลดลง
กรมชลประทาน 12.00 น. เผยสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาเริ่มทรงตัวแล้ว เตรียมเร่งระบายน้ำ 1-2 พ.ย. ช่วงน้ำทะเลลดต่ำ
มหาสารคาม 11.00 น. นํ้าไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เกษตรของชาวบ้านเสียหายกว่า 24,000 ไร่
พิจิตร 10.00 น. ผู้ว่าฯเผย แม่น้ำยมระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 30 เซนติเมตร น้ำล้นตลิ่ง 1-2 เมตร ท่วมบ้านเรือนประชาชน
สิงห์บุรี 09.00 น. นํ้าไหลทะลักเข้าท่วมตัวเมือง หลังพนังกั้นนํ้าเจ้าพระยารั่ว ระดับนํ้าท่วมสูง ชาวบ้านขนข้าวของหนี
นนทบุรี 08.00 น. สถานการณ์ยังน่าห่วง บางแห่งนํ้าทะลักล้นคันกั้นนํ้าเข้าสู่ถนน เจ้าหน้าที่กับชาวบ้านต้องเร่งขนกระสอบทรายเสริม
ปทุมธานี 07.00 น. ผู้ว่าฯสรุปผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 27,326 ครัวเรือน อ.เมือง-สามโคกหนักสุดน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร
ขอนแก่น 06.00 น. นํ้าในแม่นํ้าล้นทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 3 ชั่วโมงสูงเกือบ 2 เมตร เดือดร้อนหนักขนข้าวของไม่ทัน เร่งอพยพประชาชน


31 ต.ค.53 รายงานข่าวแจ้งว่า เหตุการณ์พบตะขาบประหลาดครั้งนี้ เกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน ต.ตำแย อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ
โดยนายสุดตา แสงสิงห์ อายุ 63 ปี ผู้ถูกตะขาบยักษ์กัดกินเนื้อและดูดเลือด เล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยวันเกิดเหตุ ตนได้ออกไปเดินเล่นเพื่อพูดคุยกับเพื่อนบ้าน
เมื่อนั่งไป สักพักก็พบว่า มีเลือดไหลออกมาที่แขนซ้าย จึงให้เพื่อนบ้านช่วยดู ซึ่งเพื่อนบ้านเห็นว่าเป็นตะขาบตัวใหญ่ ตกลงมาจากเสื้อของตน
เมื่อเปิดเสื้อขึ้นดูก็พบว่า มีแผลที่หน้าอกด้านซ้าย และมีแผลเล็ก ๆ เต็มไปหมด ตนจึงไปตรวจที่ร.พ.ศรีสะเกษ แต่จากการตรวจหมอก็ได้บอกว่า แผลที่เกิดขึ้นไม่ใช่แผลที่เกิดจากตะขาบกัด เพราะปกติแล้ว ตะขาบจะไม่กัดกินเนื้อคน และยังหาว่าไปโดนแทงมาหรือเปล่า แต่ตนไม่ได้ไปมีเรื่องอะไรกับใคร
ทั้งนี้จากการเอ็กซเรย์ดูที่บริเวณแผล ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่เพื่อนบ้านบอกว่า เป็นตะขาบจากการถูกไสยศาสตร์นั้น ตนยอมรับว่า เมื่อสมัยเป็นหนุ่ม ตนเล่นของพวกไสยศาสตร์ แต่ได้เลิกไปนานแล้ว นายสุดตากล่าว

เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news

<LI class=news_src_item>

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฝนหนักน้ำป่าทะลักท่วมสงขลา </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ฝนถล่ม น้ำป่าทะลักท่วมสงขลา เร่งย้ายคนป่วยขึ้นชั้นสอง


เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีน้ำป่าจากเทือกเขาน้ำค้าง อ.นาทวี จ.สงขลา ไหลทะลักเข้าท่วมถนนสายนาทวี-ด่านประกอบ อย่างรวดเร็ว หลังเกิดฝนตกอย่างหนัก โดยระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร รถยนต์เล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้ ทั้งยังทำให้สถานที่ราชการได้รับผลกระทบหลายแห่ง อาทิ สำนักงานขนส่ง จ.สงขา สาขานาทวี โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนาทวี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำกระสอบทรายมากั้นวาง และเร่งย้ายผู้ป่วยกว่าร้อยชีวิตจากชั้นล่างขึ้นไปอยู่บนชั้น 2

ส่วนที่ อ.สะเดา จ.สงขลา น้ำได้หลากเข้าท่วมถนนกาญจนวนิช ในเขตเทศบาลเมืองสะเดา ทำให้รถเล็กไม่สามารถผ่านได้

เช่นเดียวกับที่เทศบาล ต.ปริก น้ำได้ไหลท่วมพื้นที่รอบนอกสูงประมาณ 60 เซนติเมตร บ้านเรือนได้รับความเดือดร้อนร่วม 200 หลังคาเรือน และจากการสำรวจล่าสุดพบว่า น้ำในคลองอู่ตะเภาตั้งแต่ อ.สะเดา จนถึง ต.พะตง อ.หาดใหญ่ ระดับน้ำสูงปริ่มตลิ่ง เจ้าหน้าที่จึงขอเตือนประชาชนในพื้นที่ให้เตรียมพร้อม.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>วันหวยออก ต้นมะพร้าวแทงยอดคล้ายรูปพญานาค ชาวบ้านไม่พลาดขอเลขเด็ด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

เว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 31ต.ค.53 ชาวบ้านในเขตอ.เมือง จ.ยโสธร ต่างพากันไปดูต้นมะพร้าวที่ปลูกไว้บริเวณหน้าบ้านของ นางปราณี ชูรัตน์ อายุ 34 ปี เลขที่ 134 ม.5 ต.สิงห์ ที่ปลูกไว้อายุประมาณ 2 ปี แทงยอดคล้ายหัวพญานาค โดยนางปราณี ชูรัตน์ และผู้เป็นสามีพบ หลังกลับจากไปทำบุญในวันออกพรรษาเมิ่อวันที่ 23 ต.ค.53 ที่ผ่านมา

ลักษณะของต้นมะพร้าวต้นดังกล่าวแตกก้านขนาดยาวขนาด 2 เมตร 4 ก้าน และที่ผู้คนสนใจตรงที่มะพร้าวต้นนี้แทงก้านยอดซ้อนบริเวณโคนต้น โผล่ขึ้นตรงกลางเรียงกัน 3 ก้าน ก้านแรกเป็นรูปคล้ายหัวพญานาค ก้านที่สองเป็นคล้ายลำตัวพญานาค ใต้ก้านใบยังมีรอยหยักคล้ายตัวยันต์นพเก้า ส่วนก้านที่สามมีรอยหยักกรีบใบแผ่วงกลมรีคล้ายหางพญานาค

ก่อนเดินทางกลับชาวบ้านที่มาไม่ลืมที่จะจุดเทียนธูป อฐิษฐานขอโชคลาภจากต้นมะพร้าว ซึ่งตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.เป็นต้นมาเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 100 คน และชาวบ้านที่มาต่างได้เลขเด็ดด้วยสายตาตนเอง ที่ทั้งขูดทั้งนั่งทางในนิมิตขอเลขเด็ดนำไปแทงหวยใต้ดิน ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.53 กันเป็นจำนวนมากและบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักทุกวัน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เหนือและอีสานอากาศหนาว อุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศา เฉลี่ย 12-16 องศา หนาวผิดปกติ เฝ้าระวังไฟป่า
รายงานข่าวแจ้งว่า นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพภูมิอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน ยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทย ในระยะ 2-3 วันนี้ ทำให้อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้ บริเวณยอดดอยและยอดภู จะมีอุณหภูมิ 6-12 องศาเซลเซียส โดยมีอุณหภูมิมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์ปกติในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 36 จังหวัด คือ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี พิษณุโลก ตาก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าน พะเยา และแพร่
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงประสานผู้ว่าราชการจังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 36 จังหวัด ให้เตรียมความพร้อมรับมือสภาพอากาศหนาว ติดตามการรายงานพยากรณ์อากาศ พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่นเสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน และเครือข่ายวิทยุสมัครเล่นสถานีโทรทัศน์และเคเบิลทีวี
ขณะเดียวกัน ขอฝากให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ระมัดระวังอันตรายจากภัยที่มักเกิดในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะเพลิงไหม้ และไฟป่า สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนให้เพิ่มความระมัดระวัง ในการขับผ่านเส้นทางที่มีหมอกลงจัด เนื่องจากทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ดี ถ้าประชาชนในพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
<LI class=news_src_item><LI class=news_src_item>
รื้อโครงสร้างแก้ปัญหาของแพง นโยบายตีนปลาย พูดง่าย..ทำยาก!!

เป็น ข่าวครึกโครมอีกแล้ว สำหรับคำประกาศของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี กรณีวันเลือกตั้งปีหน้า และคำกล่าวที่ว่า จะไม่ขอรับชัยชนะในการเลือกตั้ง หากเลือกได้ เพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข…!!
โดยในวันเดียวกันนั้นเอง บนเวทีสัมมนา “ความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยกับการเติบโตของจีดีพี ปี54” จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ “นายกฯ อภิสิทธิ์” ได้พูดถึงนโยบายที่จะเริ่มขับเคลื่อนในปลายปีนี้ ก่อนประกาศเป็นแผนดำเนินการปีหน้า 2 เรื่องสำคัญ
1 ใน 2 เรื่องนั้นคือ การแก้ปัญหาโครงสร้างราคาสินค้าและผลกระทบที่เกิดจากราคาพลังงาน โยงไปถึงการปฏิรูปโครงสร้างราคาพลังงานทุกชนิด
แม้จะดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่ค่อยเข้ากับคำประกาศ “ยอมแพ้” เลือกตั้ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้น่าสนใจไม่น้อย…
โดยเนื้อหาของนโยบายเกิดขึ้นจากความสงสัยของรัฐบาล ที่ต้องผจญกับการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง ทั้งในช่วงเศรษฐกิจขาลง เรื่อยมาจนถึงในภาวะเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น แต่ราคาสินค้าก็ยังคง “แพง” เช่นเดิม แถมยังมีแนวโน้มแพงขึ้นและแพงขึ้นไปอีก
นั่นเป็นเหตุให้ต้องมีการตั้งคณะทำงาน นำโดย “กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ” เลขาธิการนายกฯ ให้เข้าไปดูต้นตอโครงสร้างราคาสินค้า ซึ่งก็เป็นที่รู้ๆ กันดีอยู่ว่า…
ของ แพง.. เพราะผู้ประกอบการขึ้นราคา… แล้วบอกว่า… ต้นทุนสูง… เพราะค่าแรง ค่าวัตถุดิบ ค่าขนส่ง ฯลฯ และอีกจิปาถะที่แพงๆๆ ในขณะที่พอขึ้นราคาได้แล้วจะไม่มีการลด (ยกเว้นจัดช่วงโปรโมชั่น) จนกลายเป็นมาตรฐานของกลไกตลาดเมืองไทย ที่มีผู้ประกอบการเป็นใหญ่กว่าผู้บริโภค
หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นใหญ่กว่า รัฐด้วย โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์… ในช่วงเศรษฐกิจขาลง ต้องอาศัยการ “ขอความร่วมมือ” ในการ “ตรึง” ราคาสินค้าจากผู้ประกอบการ เป็นวาระๆ ไป รายปักษ์ รายเดือน รายไตรมาส ด้วยว่าหากจะไปกดดันหรือแทรกแซงราคาสินค้า ก็จะถูกคำขู่ เรื่องปลดคนงาน กิจการอาจไปไม่รอด ฯลฯ
ทั้งที่ในความเป็นจริง ภายใต้การตรึงราคานั้นเอง มีการเปลี่ยนคุณภาพไส้ในของสินค้าในกล่อง ปรับรูปแบบบรรจุภัณฑ์ ลดปริมาณของหรือลดขนาดแต่ราคาเท่าเดิม ฯลฯ อีกมากมายที่ภาคเอกชนพึงกระทำเพื่อเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคตาดำๆ
แต่ก็ด้วยความจำเจของเหตุผลกลไกที่เราๆ ท่านๆ ต่างก็รู้กันดีแบบนี้แหละ ที่ทำให้นโยบายใหม่ ช่วงตีนปลายของรัฐบาล “อภิสิทธิ์” น่าสนใจขึ้นเป็นกอง
เบื้องต้นมีการกำหนดกรอบระยะเวลา 6 สัปดาห์ในการเตรียมการ โดย “เลขาฯ กอร์ปศักดิ์” ลงไปดูโครงสร้างราคาสินค้า โดยเน้นสินค้าอุปโภค บริโภคจำเป็นในชีวิตประจำวัน เป็นหลัก ได้แก่ ไข่ หมู สบู่ ยาสีฟัน ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าราคาสินค้าเหล่านี้มีผลต่อภาวะจิตใจและเงินในกระเป๋าของผู้มีรายได้ประจำในชั้นปานกลาง จนถึงแรงงานหาเช้ากินค่ำทั่วประเทศ
ย้อนกลับมาตรงต้นเหตุปัญหาราคาสินค้าแพงนั้น เชื่อมโยงมาจาก “ราคาพลังงาน” เป็นหลัก
ถ้าเช่นนั้นแล้วสำหรับประชาชนอย่างเราจะคาดหวังได้มากน้อยแค่ไหน ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว… ดูจากผลงานการดูแลกลไกราคาน้ำมันที่ผ่านๆ มา ยกตัวอย่างช่วงเงินบาทแข็งค่า จากต้นปีจนถึงตอนนี้ คิดเป็นกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ราคาน้ำมันยังขึ้นมากกว่าลง ลดก็ไม่ได้ ทั้งที่มันสัมพันธ์กันโดยตรง

….เหล่านี้เป็นคำตอบได้ดี!!
โดย Mthai news

<LI class=news_src_item>

 

*** สีเขียว ****

จะมีอำนาจ
คนกลุ่มหนึ่งบริหารไม่ดีจนพัง
ภัยพิบัติลุมล้อม พี่น้องทะเลาะกัน
ภัยชายแดนรอบด้าน ประเทศเหลือกลมๆ
คนมีสัจจะเท่านั้นที่รอด

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อ่านแล้วฮา..ค่ะ
Falkman แกล้งปล่อยมุขอ่ะป่าว:d

 

การนอนในอาคารบ้านเรือนไร้ฉนวนกำแพงยามอากาศหนาว

ได้ไปถวายพระพุทธรุปที่อ.ลอง จ.แพร่ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
อากาศหนาวมาเยือนแล้ว แต่ชาวบ้านบอกหนาวที่สุดตั้งแต่เคยหนาวมา นี่เพิ่งเริ่มต้นหน้าหนาวเอง
กลางคืนนอนค้างในศาลาปฏิบัติธรรม ผ้านวมที่ใช้กันปรกติแทบไม่พอ ไม้กระดานปูเสื่อวางผ้าทับแล้วยังได้ไอเย็น

สงสัยว่าพระสงฆ์จะนอนอย่างไร เมื่อสวมเสื้อหนาวและ thermal innerware ไม่ได้ และอาคารที่พักในประเทศไทยไม่มีการบรรจุฉนวนในกำแพง อาคารวัดส่วนใหญ่เป็นทรงไทยหลังคาสูงอากาศ (ลมเย็นเยือก) เข้าได้ กลัวว่าเกจิและหลวงพ่อสูงอายุทั้งหลายจะลำบากมาก ถ้าร่างกายเสียความร้อนไปมากๆอาจหมดสติถึงแก่ความตายได้ กลางวันแดดออกยังพออุ่นสบาย

ฝรั่งแนะนำว่าให้ใช้ถุงนอนที่กันความหนาวได้ เนื่องจากมีให้เลือกซื้อหลายชนิด บุด้วยวัสดุหลากชนิดจึงไม่หนา คงจัดเข้าจำพวกเสนาสนะได้ (ไม่ใช่ที่นอนสูงใหญ่) แต่สงวนความร้อนไว้รอบตัวผู้นอน เพราะความเป็นฉนวนของวัสดุและเทคนิคการตัดเย็บ

ช่วงนี้เดอะมอลล์จำหน่ายถุงนอนหลากชนิดลดราคา แต่ของดีๆ (ทนหนาวได้อุณหภูมิต่ำๆ) ใกล้หมดสต็อคแล้ว เพราะนักแค้มป์ปิ้งซื้อเก็บเนื่องจากราคาเหมาะใจ

ถ้าใครได้ซื้อถวายพระที่ต่างจว. ในช่วงกฐินนี้ก็ขออนุโมทนาบุญค่ะ

 

ขอบพระคุณครับอาจารย์ หนาวเร็วจริงๆ ทั้งๆ ที่หนาวได้แค่วันสองวัน

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สังเวยน้ำป่าแล้ว 2 ศพ ทน.นครศรีธรรมราชใช้ไฮเทคเตือนภัยน้ำท่วม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 พฤศจิกายน 2553 19:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; OVERFLOW: hidden; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; BORDER-BOTTOM: medium none; HEIGHT: 35px" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000153964&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> นครศรีธรรมราช - น้ำป่าคร่าชีวิตคนคอนแล้ว 2 ศพ ด้านเทศบาลนครศรีธรรมราชงัดระบบไฮเทคส่งสัญญาณเตือนภัยน้ำท่วมเมืองมาใช้แล้ว หลังฝนกระหน่ำต่อเนื่องมาหลายวัน หวั่นสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะวิกฤตหนักขึ้นเรื่อยๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราชว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (1 พ.ย.) ฝนยังคงตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องทั่วพื้นที่ของจังหวัด โดยจุดที่น่าเป็นห่วงคือตัวเมืองชั้นในของ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ในความดูแลของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เพราะเป็นพื้นที่เปราะบางที่สุด เนื่องจากมีลำคลองสายหลักไหลผ่านตัวเมืองถึง 5 สายคือ คอลองราเมศวร์ คลองท่าเรียน คลองป่าเหล้า คลองสวนหลวง และคลองคูพาย ซึ่งเป็นลำคลองที่รองรับน้ำจากเทือกเขาหลวงตอนกลางของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยระดับน้ำล่าสุดนั้นในคลองท่าดี ซึ่งเป็นคลองสำคัญระดับอยู่ 170 ซ.ม. ปริมาตรน้ำฝนอยู่ที่ 0.40 ม.ม./ช.ม.

นายสมนึก เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เทศบาลได้รับการเตือนภัยจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติว่าจะมีพายุดีเปรสชั่น ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นจะพัดเข้าสูงภาคใต้ โดยเฉพาะสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราชและสงขลา ในส่วนของเขตเมืองนครศรีธรรมราชนั้น เทศบาลได้วางระบบจัดการน้ำอย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของเขื่อนกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าตัวเมืองชั้นใน และการผันน้ำด้วยวิธีการต่างๆ และสถานการณ์ทั้งหมดถูกติดตามตลอด 24 ช.ม.ด้วยระบบสกาด้า ซึ่งสามารถดูความเปลี่ยนแปลงได้ทุกวินาที และเมื่อน้ำในคลองท่าดีมีระดับวิกฤติเกิน 3.5 เมตร มวลน้ำจะไหลเข้าสูเขตเมืองชั้นในนครศรีธรรมราชในเวลา 5 ช.ม. สามารถเตือนภัยและอพยพได้ทัน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราชมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย โดยรายแรกเมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.อภิวิช เอี่ยมสุวรรณ พนักงานสอบสวนเวร สภ.พิปูน รับแจ้งเหตุคนถูกน้ำพัดสูญหายและพบศพในเวลาต่อมาที่บ้านเลขที่ 161 ม.3 ต.ควนกลาง อ.พิปูน จึงเข้าทำการตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตคือ นายสุรินทร์ ริยาพันธ์ อายุ 41 ปี อยู่ 119 ม.2 ต.ควนกลาง อ.พิปูน เบื้องต้นพบว่านายสุรินทร์มาลุยน้ำช่วยญาติขนของหนีน้ำที่บ้านเกิดเหตุ แต่ได้ก้าวพลาดถูกกระแสน้ำป่าที่ไหลบ่ามาพัดร่างไปจมน้ำเสียชีวิตทันที

ต่อมาในเวลาไล่เลี่ยกัน พ.ต.ท.จรวย ชูมณี พนักงานสอบสวนเวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เข้าทำการชันสูตรพลิกศพนายนิตย์ ชินวงศ์ อายุ 52 ปี อยู่ 51 ม.5 ต.ท่าไร่ อ.เมือง นครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจได้งมศพขึ้นมาจากลำคลองริมถนนสาย ม.5 ต.ท่าไร่ เบื้องต้นพบว่านายนิตย์ได้ถูกน้ำพัดจนช่วยตัวเองไม่ได้จมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หาดใหญ่เฝ้าระวังน้ำท่วมใจกลางเมืองคืนนี้ “ถาวร-ไพร” สั่งการป้องกันเต็มที่</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 พฤศจิกายน 2553 21:24 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; OVERFLOW: hidden; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; BORDER-BOTTOM: medium none; HEIGHT: 35px" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000154078&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=133 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width=133> </TD></TR><CAPTION align=bottom>นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่</CAPTION></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สถานการณ์น้ำท่วมของเมืองหาดใหญ่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดในคืนนี้ หวั่นน้ำท่วมใจกลางเมือง “ถาวร เสนเนียม” ลงหาดใหญ่ร่วมวางแผนป้องกันน้ำท่วมกับ “ไพร พัฒโน” โดยระดมเครื่องสูบน้ำระบายออกเต็มกำลัง ขณะที่กระสอบยกว่า 200,000 กระสอบแจกหมดแล้ว

สถานการณ์น้ำท่วมใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ยังน่าเป็นห่วง โดยวันนี้ (1 พ.ย.) เทศบาลนครหาดใหญ่ได้ประกาศป้ายเตือนสัญลักษณ์สีแดง ซึ่งหมายถึงการเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงอพยพข้าวของอยู่ในที่สูง พร้อมทั้งมีการเฝ้าระวังน้ำที่อาจจะเพิ่มระดับสูงขึ้นมาในคืนนี้ ขณะเดียวกันนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงมาประชุมร่วมดูแลการป้องกันน้ำท่วมเมืองหาดใหญ่ร่วมกับเทศบาลนครหาดใหญ่

โดยที่ย่านจันวิโรจนซึ่งอยู่ในเมืองหาดใหญ่นั้นได้ท่วมแล้ว ทำให้มีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะเป็นส้นทางที่น้ำจะไหลผ่านท่วมในใจกลางเมืองหาดใหญ่ ทั้งตลาดกิมหยง สันติสุข ถนนนิพัทธ์อุทิศ1-3 ประกอบกับระดับน้ำในคลองอู่ตะเภาสูงขึ้นชั่วโมงละ 10 ซ.ม. ในขณะที่ฝนยังไม่หยุดตก

ทั้งนี้ นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้มีการทำงานเพื่อเตรียมป้องกันน้ำท่วมตามแผนที่ได้วางไว้ โดยเฉพาะการแจกกระสอบทรายที่เตรียมไว้ 2 จุด คือ สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่และหลังสนามกีฬาจิระนคร ซึ่งได้มีประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่มารับไปหมดแล้วในวันนี้ นอกจากนี้ ยังมีการระดมเครื่องสูบน้ำราว 60 ตัวเพื่อเร่งสูบน้ำระบายออกแข่งกับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และจะหามาเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำป่าไหลทะลักจากเทือกเขาบรรทัดเข้าท่วม ชาวบ้านเร่งขนย้ายสิ่งของอลหม่าน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 พฤศจิกายน 2553 21:19 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; OVERFLOW: hidden; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; BORDER-BOTTOM: medium none; HEIGHT: 35px" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000154074&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>พัทลุง - น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้าน ชาวบ้านในพื้นที่ อ.กงหรา อ.ตะโหมด อ.ศรีบรรพต อ.ศรีนครินทร์ อ.ป่าบอน น้ำท่วมสูงกว่า 120 ซม.ประชาชนเร่งขนย้ายข้าวของกันอย่างอลหม่าน

วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า หลังจากที่ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ อ.กงหรา อ.ตะโหมด อ.ศรีบรรพต อ.ศรีนครินทร์ อ.ป่าบอน มีระดับน้ำท่วมสูง ถนนในหมู่บ้านหลายสายมีน้ำท่วมประมาณ 120 ซม.รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้

และล่าสุดเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดได้ไหลทะลักเข้าท่วมวัดตะโหมด และบ้านเรือนราษฎร ทำให้พระ และชาวนบ้านต้องเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงกันอย่างอลหม่าน ในขณะที่ชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลโคกสักอำเภอบางแก้วก็ต้องประสพปัญหาน้ำป่าเช่นกันต้องย้ายมาอาศัยศาลาหมู่บ้าน กว่า 10 ครัวเรือน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“นายกฯไพร” ประกาศชัก “ธงแดง” เตือนชาวหาดใหญ่อพยพหนีน้ำท่วม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 พฤศจิกายน 2553 19:30 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; OVERFLOW: hidden; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; BORDER-BOTTOM: medium none; HEIGHT: 35px" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000153990&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - "ไพร พัฒโน" ชัก "ธงแดง" ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่นครหาดใหญ่แล้ว เตือนให้ชาวหาดใหญ่อพยพหนีน้ำท่วม

เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (1 พ.ย.) นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 เรื่องรายงานสถานการณ์อุกทกภัยในพื้นที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยมีเนื้อหาประกาศภาวะฉุกเฉิน หรือธงแดง ให้ประชาชนเตรียมอพยพ

สำหรับสถานการณ์ฝนในขณะนี้พบว่า มีกลุ่มฝนเสริมเข้ามาในพื้นที่โดยตลอด ประกอบกับได้รับรายงานจากกรมชลประทานที่ 16 สงขลา เรื่องประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำของอ่างเก็บน้ำสะเดา ซึ่งขณะนี้ไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำที่มีอยู่จำนวนมากได้ เป็นเหตุให้เกิดภาวะน้ำล้นเข้าสู่คลอง ร.1 และคลองอู่ตะเภา ภายในคืนนี้เวลา 21.00 น. โดยประมาณ ซึ่งคาดว่าน้ำจากคลองอู่ตะเภาจะทะลักเข้าสู่พื้นที่เสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากคลองต่างๆ ข้างต้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาจึงได้อนุมัติให้เทศบาลนครหาดใหญ่ประกาศสภาวะฉุกเฉินและอพยพ ทำให้สถานการณ์โดยรวมในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ขณะนี้อยู่ในสภาวะอพยพ (ธงแดง) ทั้งนี้ขอให้ประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงและเตรียมอพยพเข้าอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในจุดเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมในกรณีเกิดเหตุน้ำล้นตลิ่งคลองอู่ตะเภา จึงขอแจ้งให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามข่าวสารสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่ต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ และให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่

ประชาชนสามารถสอบถามติดตามข้อมูลสภาพอากาศและข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้ทางสถานีวิทยุ FM 96.00 MHz. สายด่วนกุญชร 1559 เทศบาลนครหาดใหญ่ตลอด 24 ชั่วโมง หรือหมายเลขโทรศัพท์ 0-7420-0006-7 และ www.hatyaicity.go.th

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นายกเล็กโก-ลก เร่งอพยพ ปชช.ริมแม่น้ำโก-ลกหลังน้ำเข้าในระดับวิกฤติ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 พฤศจิกายน 2553 20:26 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; OVERFLOW: hidden; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; BORDER-BOTTOM: medium none; HEIGHT: 35px" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000154061&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> นราธิวาส - นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก เร่งอพยพราษฎรที่อาศัยอยู่ตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก ไปอยู่ในที่ปลอดภัย หลังระดับน้ำเริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤติแล้ว พร้อมเปิดโรงครัวทำอาหารแจกจ่ายแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อน

วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลกไปอาศัยอยู่ศูนย์อพยพผู้ประสบอุทกภัยชั่วคราวโรงเรียนเทศบาล 4 หลังระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบคือชุมชนหัวสะพาน ชุมชนบือเร็งใน บือเร็งนอก ชุมชนกือดาบารู ชุมชนท่าโรงเลื่อย ชุมชนโบฮงยามู ชุมชนท่าประปา ชุมชนท่ากอไผ่

ทั้งนี้ภายในคืนนี้คาดว่าประชาชน 40 หลังคาเรือน จำนวนกว่า 300 คน จะอพยพออกมาอยู่ในที่ปลอดภัยโดยเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกได้เปิดโรงครัว เพื่อทำอาหารแจกจ่ายแก่ราษฎรที่ประสบความเดือดร้อนวันละ 3 มื้อ ด้านนายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้เดินทางลงพื้นที่มาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พร้อมมอบเครื่องนอนแก่ราษฎรที่อพยพมาด้วย

อย่างไรก็ตามสำหรับในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่ได้เร่งนำเครื่องจักรกลเล็กออกไปขุดลอกคูระบายน้ำในเขตน้ำท่วมซ้ำซาก เพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังออกไปให้เร็วที่สุดพร้อมกันนี้ได้แจกจ่ายกระสอบทรายจำนวน 4,000 ถุง แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่ราบลุ่ม เพื่อป้องกันอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้หากพื้นที่ใดที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วม และยังไม่ได้รับความช่วยเหลือสามารถแจ้งผ่านผู้นำชุมชนมายังเทศบาลหรือผ่านกำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>