ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

พี่น้องทางอิสานยังต้องทำความสะอาดบ้านช่องและทำใจกับความสูญเสียและความเสียหายจากภัยพิบัติทางน้ำกันต่อไป พี่น้องชาวภาคใต้ก็ต้องมาประสบทุกข์ภัยและหนีเอาชีวิตรอดกันอีกในคืนนี้

และพี่น้องภาคเหนือที่ความหนาวเย็นมาเยือนแล้ว ขอให้รักษาสุขภาพกัน ห่มเสื้อผ้าอบอุ่นกันนะค่ะ

บุญกุศลใดที่ข้าพเจ้าได้สร้างสมมาทุกภพชาติขออุทิศให้ผู้ประสบภัยทั้งหมด และขอส่งกำลังใจมายังพี่น้องชาวไทยทุกคน ขอจงพ้นเคราะห์ภัยโดยเร็ววัน

บุญรักษาทุกท่าน

 

คืนนี้ขอเป็นกำลังใจให้ชาวใต้ครับ

เร่งอพยพกันก่อนได้ครับ ไม่ต้องรอให้ระดับน้ำสูงเพราะน้ำมาแน่แล้วครับ

ขณะเดียวกันวันนี้ไปดูน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ยังเหลือ อีก 1 เมตรจึงถึงแนวเขื่อน แต่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลแรงมากๆ

เรือชักจูงสินค้าปกติ ใช้เรือโยง 1-2 สองลำเต็มที่ ก็ต้องใช้ เรือโยงถึง 5 ลำ น้ำไหลแรงชนิดที่ว่ายน้ำไม่ได้ไหลเป็นน้ำป่าเลยครับ

 

ดูจากภาพดาวถ่ายดาวเทียมแล้ว น่าเป็นห่วง นอกจากที่กำลังเข้าทางใต้ขณะนี้ ก็ยังมีย่อมความกดอากาศบริเวณฟิลิปินส์ และบริเวณทางด้านใต้เวียดนามเยื้องไปทางทะเลจีนใต้ จะกลายพันธุ์อีกหรือเปล่า ท่านใดทราบโปรดให้ความรู้ด้วยครับ เพราะถ้าเป็นจริงก็น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะความกดอากาศสูงจากจีนอาจเป็นตัวแปรให้พายุเคลื่อนตัวในแนวระนาบ ไม่วกขึ้นเหนือเหมือนกับพายุชบา ไทยอาจโดน ผมว่าอีกวันสองวันน่าจะเห็นเป็นรูปเป็นร่าง

 

ภาพถ่ายทางดาวเทียมหลาย ๆ ดวงครับ

 

ประกาศเตือนภัย
"พายุดีเปรสชันในอ่าวไทย " ​

​

ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 01 พฤศจิกายน 2553

<DD>เมื่อเวลา 22.00 น. วันนี้ (1 พ.ย) พายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีศูนย์กลางห่างประมาณ 40 กิโลเมตร ทางตะวันออก ของจังหวัดสงขลา หรือที่ ละติจูด 7.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 100.6 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 15 กม./ชม. คาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งในแนวจังหวัดสงขลา และนครศรีธรรมราช โดยจะเคลื่อนผ่านบริเวณจังหวัดพัทลุง สตูล ตรัง กระบี่ ภูเก็ต และพังงา ในคืนนี้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ทั้งสองฝั่งตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป มีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ รวมทั้งคลื่นลมแรงโดยมีคลื่นสูง 3-5 เมตร <DD> <DD>ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่ทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง รวมทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออกระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าสู่ฝั่ง ชาวเรือควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ <DD> <DD>อนึ่ง ในระยะ 3-4 วันนี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง สำหรับภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภู อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส <DD> <DD>จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

<CENTER>ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ออกประกาศ เวลา 22.30 น.

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร</CENTER></DD>

 

*** กรรมย้อนคืน ****

วันนี้ ไม่มีสัจจะ
แล้วพรุ่งนี้ จะเป็นอย่างไร !!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

======================================


1 พ.ย. 53


ที่เก่าเวลาเดิม

หลังจากกลับจากฐานผาแบ่น ผมจะหาเวลานัดผู้ที่ยังไม่มีที่จะไป ถ้ารายใด
สนใจจะหลบภัยแถวอีสานเหนือก็คอยติดตามวันเวลาส่วนสถานที่ก็ที่เดิมคือ
หน้าสถานีรถไฟดอนเมืองฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ





องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน


======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->

 

ข่าวล่า
นักวิชาการคาดว่า อาจจะเป็นไปได้ที่ลักษณะของพายุลูกนี้สามารถเหนี่ยวนำให้เกิดพายุขึ้นอีกลูกได้ภายในปลายอาทิตย์นี้
จึงเฝ้าระวังอยู่ตลอดครับ

 

เดี่ยวนี้เอาอะไรแน่นอนไม่ได้กับธรรมชาตินะคะ ปรวนแปรเยอะมาก ที่เห็นในระยะหลายปีนี้ก็คือ เวลามีภัยอะไรก็จะหนักขึ้น บ่อยขึ้นค่ะ

 

ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. เวลา 08.30 น. – 1 พ.ย. เวลา 08.30 น. เกิดแผ่นดินไหว มีขนาด 4.8 ริกเตอร์ ในทะเลอ่าวไทย ที่ระดับความลึก 150 กิโลเมตรจากผิวโลก จำนวน 6 ครั้งและ ขนาด 5.1 – 6.0 ริกเตอร์ ซึ่งถือเป็นขนาดปานกลาง 4 ครั้ง แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย

 

ติดตามสถานะการณ์ออนไลน์ได้ที่
ฟังข่าวจาก FM 97ศูนย์ชาลี หาดใหญ่
สถานีวิทยุ 97.0 คลื่นมหาชน คนรักสงขลา
วิทยุ มอ เบอร์ติดต่อฉุกเฉิน | www.HDYFlood.com

 

วันที่ 01 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7277 ข่าวสดรายวัน


พลังงานใหม่-แปลง'แสง'เป็นไฮโดรเจน


<TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left><TBODY><TR bgColor=#400040><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
พลังงานแสงอาทิตย์ ถือเป็นพลังงานที่สะอาด ทว่ายังมีต้นทุนสูง และในทางเทคนิคนั้นถือว่ามีประสิทธิภาพต่ำอยู่ที่ราวร้อยละ 20-30 ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต่างเพียรพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น

ล่าสุด นายลอนนี่ จอห์นสัน นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเครื่อง ต้นแบบเจเท็ก หรือ "จอห์นสัน เทอร์โมอิเล็กทริก เอเนอร์จี คอนเวอร์ เตอร์" ซึ่งสามารถแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นกระแสไฟฟ้า ด้วยค่าประสิทธิภาพที่สูงเป็นสองเท่าของกระบวนการเซลล์พลังงานสุริยะในปัจจุบัน โดยไม่มีการใช้เครื่องกลเข้ามาเกี่ยวข้อง เทียบเท่าพลังงานไฟฟ้าจากความร้อนในการเผาถ่านหิน แต่ไม่มีมลพิษ

กระบวนการดังกล่าวใช้พลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โฟตอน ซึ่งทำให้เกิดความร้อนมาใช้กระตุ้นโมเลกุลไฮโดรเจน ให้แตกตัวออกเป็นไฮโดรเจนไอออน 2 อะตอม หรืออนุภาคโปรตอน 2 อนุภาค ให้อนุภาคอิเล็กตรอนออกมา 2 อนุภาคต่อหนึ่งโมเลกุล ซึ่งจะวิ่งออกไปสู่วงจรไฟฟ้าภายนอกก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าและกลับมารวมกับไฮโดรเจนไอออนที่ขั้วไฟฟ้าอีกขั้วหนึ่งเพื่อเข้าสู่กระบวนการเดิมต่อไป

นายลอนนี่ จอห์นสัน ทำงานด้านการวิจัยพลังงานสุริยะให้กับนาซ่า เคยมีส่วนร่วมในการพัฒนายานสำรวจกาลิเลโอ และกระสวยอวกาศแอตแลนติส



www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROMFpXTXdNakF4TVRFMU13PT0=&sectionid=TURNeU5nPT0=&day=TWpBeE1DMHhNUzB3TVE9PQ]

 

ภาพเหตุการณ์หนึ่งของน้ำท่วมที่สงขลา-หาดใหญ่ 1พ.ย.2553

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=hRSkJFtOQCc]YouTube - น้ำท่วมหาดใหญ่1-11-53[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=T56uFh2rOIQ&feature=mfu_in_order&playnext=1&videos=lrIvstx3h0A]YouTube - น้ำท่วมหาดใหญ่สงขลา01-11-53[/ame]

 

ขออนุญาติบอกบุญ(ด่วนมากๆ)



ร่วมบุญได้ที่
ชื่อบันชี..ธนนท์ คุณานพรัตน์ (คุณโต)
ธ.กรุงเทพ
2400652224 (ออม)
ปิดรับทำบุญวันที่6 พ.ย 2553 เดินทางไปถวายสังฆทาน10วัดถูกน้ำท่วม วันที่7 พ.ย 2553

รายชื่อวัด
1.วัดบ้านเลนสระกระจับ อ.บ้านโพ
2.วัดโพธิ์ อ.บ้านโพ
3.วัดโปรดสัตว์ อ.บ้านโพ
4.วัดบ้านพาสน์ อ.บ้านโพ(กฐิน)
5.วัดทำเลไทย อ.บ้านโพ
6.วัดทองบ่อ อ.บ้านโพ
7.วัดช่างทอง
8.วัดทรงกุศล
9.วัดแค"สุทาวาส"วัดหลวงปู่ทวดสมัยที่อยู่อยุธยา
10.วัดในตลาด<!-- google_ad_section_end -->

เนื่องจาก อ.บ้านโพ บางประอิน จ.อยุธยา ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก โดยในวันที่ 7 พ.ย 2553 ผมจะเดินทางไปช่วยวัดที่ถูกน้ำท่วมอย่างหนักของ อ.บ้านโพ และ วัดในเขตที่ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก ผมจึงขอเปิดร่วมบริจาคตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 6 พ.ย 2553 และขอกราบโมทนากับทุกๆท่านด้วย (ตอนนี้พระคุณเจ้ากำลังเดือดร้อนเราไปช่วยท่าน...บุญกุศลยิ่งใหญ่เหลือเกิน สาธุ ๆ ๆ)

"จะทอดกฐินวัดบ้านพาสก่อนหลังจากนั้นก็จะถวายสังฆทานทีเดียวทั้ง 10 วัดที่วัดบ้านพาส(นิมนเจ้าอาวาสทั้ง10วัดมารับที่วัดบ้านพาสน์) รวมความว่าได้ทั้งบุญ (กฐิน) และสังฆทาน-วิหารทานด้วย"
<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

หลวงพ่อโตจมน้ำ หลังคันดินต้านกระแสน้ำเชี่ยวไม่ไหวทะลักเข้าวัดบ้านเลน พระนครศรีอยุธยา

พระครูพิศาลปัญญาทร เจ้าอาวาสวัดบ้านเลนสระกระจับ ต.บ้านโพ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ว่าทางวัดได้ทำคันดินล้อมวัด แต่กระแสน้ำเชี่ยวกราดไหลแรงทำให้คลื่นกระแทกคันดิน จนน้ำไหลเข้าท่วมบริเวณวัดสูงกว่า 1 เมตร ส่งผลให้องค์หลวงพ่อโตที่สร้างอยู่หน้าศาลาการเปรียญ ถูกน้ำท่วมสร้างความสะเทือนใจต่อชาวบ้านเป็นอย่างมาก

มติชนรายวันออนไลน์
(จากกระทู้คุณหนูตา)

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทร.ส่งเรือหลวงจักรีนฤเบศร ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>2 พฤศจิกายน 2553 12:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (ศชอ.) กล่าวถึงการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในขณะนี้ว่า ในวันนี้ (2 พ.ย.) เวลา 16.00 น.ทางกองทัพเรือจะส่งเรือหลวงจักรีนฤเบศร ไปที่ จ.สงขลา เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยจะมีการรับฝากสิ่งของอุปโภคบริโภค ซึ่งหากองค์การหรือหน่วยงานใดต้องการจะฝากสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ภาคใต้สามารถนำมาฝากได้ที่ท่าเรือจุกเสม็ด อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทั้งนี้สามารถติดต่อได้ที่ นาวาเอกเชษฐา โทร. 081-8112688

ที่มา http://www2.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9530000154318

ทัพเรือ ส่งเรือหลวงจักรีนฤเบศร์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้

สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 พ.ย.) พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้จัดตั้งหมู่เรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล ประกอบด้วย เรือหลวงจักรีนฤเบศร และ เรือหลวงสุรินทร์ พร้อม เฮลิคอปเตอร์แบบ ซีฮอว์ค จำนวน 4 เครื่อง และรถสะเทินน้ำสะเทินบก พร้อมออกเรือเดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างเร่งด่วน จากฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ในเวลา 16.00 น.ของวันนี้ โดยจะใช้เป็นฐานบินลอยน้ำ โรงครัวเคลื่อนที่ รวมถึงโรงพยาบาล ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

อย่างไรก็ตาม พลเรือเอก กำธร กล่าวต่อว่า ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ สายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง และผู้ที่มีความประสงค์จะร่วมบริจาคเงินและสิ่งของจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สามารถติดต่อขอบริจาคได้ที่ กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2475-4960 และที่ฐานทัพเรือกรุงเทพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร หมายเลขโทรศัพท์ 0-2475-4943 ในวันและเวลาราชการ หรือจะนำไปร่วมบริจาคได้ที่ เรือหลวงจักรีนฤเบศร์ ท่าเรือจุกเสม็ด อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนเวลา 16.00 น.ของวันนี้

ทั้งนี้ พลเรือเอก กำธร เปิดเผยอีกว่า การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในทะเลครั้งนี้ นอกจากกองทัพเรือจะจัดส่งเรือหลวงจักกรีนฤเบศร เรือหลวงสุรินทร์ พร้อมเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 4 ลำ รถสะเทินน้ำสะเทินบก และชุดปฏิบัติการพิเศษทางทะเล ออกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลด้านอ่าวไทยตอนใต้ รวมทั้งได้ลำเลียงถุงยังชีพ น้ำดื่ม และการประกอบอาหารสดบนเรือ เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในจังหวัดชายฝั่งทะเล ตลอดจนลำเลียงเรือท้องแบน จำนวน 50 ลำ พร้อมเครื่องยนต์ติดท้าย จำนวน 23 เครื่อง ที่กองทัพเรือจัดสร้างและจัดหาให้แก่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รวมถึงเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ติดท้าย ในส่วนของกองทัพเรืออีก จำนวน 20 ลำ สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ภาคใต้เพิ่มเติมอีกด้วย

นอกจากนี้ พลเรือเอก กำธร กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลานั้น ทัพเรือภาคที่ 2 ได้จัดกำลังพล จำนวน 100 นาย รถบรรทุกขนาดใหญ่ จำนวน 8 คัน เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ติดท้าย จำนวน 22 ลำ เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนในอำเภอนาทวี เทพา จะแนะ และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นการเร่งด่วนก่อนหน้านี้แล้ว

หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อังคารที่ 2 พฤศจิกายน 2553 13:36:09 น

ที่มา http://www.ryt9.com/s/nnd/1018429

 

หาดใหญ่วิกฤตน้ำท่วมทั้งเมือง ตัองตัดน้ำ ตัดไฟ​

​

​

​

​

​

​

น้ำป่าทะลักเข้าท่วมเมืองหาดใหญ่ ตลาดการค้ากิมหยงถูกน้ำท่วมหมดสูงเกือบ 3 เมตร ขณะที่หลายอำเภอในจังหวัดสงขลามีน้ำท่วมสูงเช่นกัน ถนนสายหลักไม่สามารถใช้การได้ มีรายงานหญิงวัย 65 ปี ถูกน้ำพัดหายไปขณะออกไปซื้อเสบียงอาหาร

โดยน้ำได้ไหลเข้าท่วมตัวเมืองหาดใหญ่อย่างฉับพลัน เมื่อเวลา 23.30 น.คืนที่ผ่านมา ซึ่งน้ำที่ไหลหลากอยู่บริเวณพื้นที่รอบนอกของอำเภอหาดใหญ่ ได้ไหลทะลักเข้าท่วมในเขตย่านการค้าใจกลางเมืองแล้ว ตั้งแต่บริเวณถนนนิพันธ์อุทิศ 1 - 3 และถนนสายเสน่หานุสรณ์ โดยระยะเวลาเพียงไม่ถึง 20 นาที ระดับน้ำได้ท่วมถึงริมขอบฟุตบาท และยังคงทะลักเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บรรดาร้านค้าได้ทะยอยเก็บของหนีน้ำกันไปก่อนหน้านี้

บ้างแล้ว แต่ยังร้านค้าหลายแห่งซึ่งมีสินค้าจำนวนมากยังไม่สามารถขนสินค้าน้ำได้แล้วเสร็จ ซึ่งภาวะน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นภายในย่านการค้าใจกลางเมืองหาดใหญ่เป็นไปตามที่ทางเทศบาลนครหาดใหญ่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วจนยกระดับการเตือนภัยขั้นสูงสุด คือธงแดง ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เคลื่อนย้ายสินค้าไปยังที่ปลอดภัยก่อนหน้านี้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาวะน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นครั้งนี้ถึงแม้จะมีการประกาศเตือนภันล่วงหน้า และเตียมแผนรับมือเพื่อบรรเทาสาธาณภัยแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นไปอย่างทุลักทุเล ไม่สามารถให้การช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึงในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.นาทวี สะบ้าย้อย และอำเภอสะเดา ซึ่งถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่ระดับน้ำท่วมสูง 1.50 -2 เมตร และมีผู้ติดค้างอยู่ภายในบ้านเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็ก และคนชรา

ล่าสุดมีรายงานมีหญิงวัย 65 ปี ถูกกระแสน้ำพัดที่บริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระหว่างเดินทางกลับจากซื้อเสบียงกักตุนในช่วงน้ำท่วม แล้ว 1 คน

แจ้งประกาศสภาวะฉุกเฉินและอพยพตามการอนุมัติของผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ภายในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่อยู่ในสภาวะอพยพ (ธงแดงและไซเรน) เนื่องจากมีสถานการณ์น้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่

ขณะที่เทศบาลนครหาดใหญ่ได้ออกแถลงการณ์น้ำท่วมฉบับที่ 4 แจ้งให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เร่งอพยพเคลื่อนย้ายเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัย ซึ่งในขณะนี้เทศบาลนครหาดใหญ่ ได้กำหนดจุดอพยพไว้สำหรับพี่น้องประชาชน คือ บริเวณสำนักงานเทศบาลนครหาดใหญ่ สนามกีฬาจิระนครเทศบาลนครหาดใหญ่ และโรงยิมเนเซี่ยม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ซึ่งขณะนี้ได้มีรถช่วยเหลือผู้ประสบภัยของเทศบาลนครหาดใหญ่และทัพเรือภาคที่ 2 จังหวัดสงขลา เข้าช่วยเหลือประชาชนในบริเวณจุดวิกฤตโดยเร่งทำการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ พร้อมทั้งมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ลงประจำพื้นที่ต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนอย่างเต็มที่

จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทางคลื่นวิทยุ FM.96.0MHz. สายด่วนกุญชร1559 เทศบาลนครหาดใหญ่ ตลอด 24 ชั่วโมง หรือหมายเลขโทรศัพท์ 0-7420-0000 และ www.hatyaicity.go.th

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

แนะใส่ กกน.-กางเกงขายาวลุยน้ำท่วม ป้องกันปลิง

​

โฆษกสธ. แนะผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะจุดที่น้ำท่วมสูงถึงเอว หากต้องลุยน้ำให้ใส่กางเกงใน–กางเกงขายาว ป้องกันปลิงเข้าทวารหนัก อวัยวะเพศ (กระทรวงสาธารณสุข)

โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เตือนผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะในจุดที่มีน้ำท่วมขังสูงระดับเอว โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ชอบลงเล่นน้ำท่วม ระวังปลิงไชเข้ารูทวารหนัก อวัยวะเพศ และรูปัสสาวะ หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำควรแต่งกายให้มิดชิด สวมกางเกงในและกางเกงขายาว รัดข้อเท้าป้องกันปลิงดูดเลือด


จากกรณีที่มีข่าวผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ตำบลบางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ถูกปลิงควายขนาดใหญ่กัดและดูดเลือดที่ขา ขณะเดินลุยน้ำท่วมสูงประมาณต้นขานั้น นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงน้ำท่วมมักพบปลิงได้บ่อย ๆ โดยปกติปลิงมักจะอาศัยอยู่ในน้ำนิ่งตามแหล่งหนองน้ำ ลำธารทั่ว ๆ ไป แต่พอมีน้ำท่วมปลิงก็จะไหลไปตามน้ำท่วมได้ ดังนั้นจึงขอเตือนประชาชนทุก พื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะเด็ก ๆ ไม่ควรลงเล่นน้ำท่วม เพราะอาจถูกปลิงไชเข้าตามอวัยวะต่าง ๆ เช่นรูทวารหนักช่องคลอด รูปัสสาวะได้

​

ปลิงควาย​

นายแพทย์สุพรรณ กล่าวต่อว่า ปลิงเป็นสัตว์ที่ดูดเลือดสัตว์อื่นรวมทั้งเลือดคนเป็นอาหาร โดยจะจับแรงสั่นสะเทือนของสิ่งที่อยู่ในน้ำ แล้วตามไปเกาะที่ผิวหนัง แล้วค่อย ๆ ไต่หาที่ซ่อนตัว จากนั้นจะกัดและดูดเลือด พร้อมปล่อยสาร 2 ชนิด ได้แก่ สารฮีสตามีน (Histamine) ช่วยกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว และสารฮีรูดีน (Hirudin) มีคุณสมบัติต้านทานการแข็งตัวของเลือด ทำให้คนที่ถูกกัดเลือดไหลไม่หยุด และเสียเลือดเรื่อย ๆโดยมีการศึกษาทางห้องปฏิบัติการพบว่า ปลิงสามารถอดอาหารได้นานถึง 5เดือน และหากปลิงไชเข้าไปในลำไส้ใหญ่ และทะลุลำไส้ จะทำให้ช่องท้องอักเสบ แต่พบได้น้อยมาก นอกจากนี้มีรายงานพบปลิงเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ และทำให้เกิดเป็นก้อนนิ่วในภายหลังด้วย

นายแพทย์สุพรรณ กล่าวต่อไปว่า ในการป้องกันปลิงที่มากับน้ำท่วม หากเป็นไปได้ขอให้ผู้ประสบภัยเดินทางโดยเรือ แต่หากไม่มีเรือและจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ โดยเฉพาะจุดที่มีน้ำท่วมสูงระดับเอวขึ้นไป ขอให้แต่งตัวให้มิดชิด ควรใส่กางเกงใน สวมกางเกงขายาวและสวมถุงพลาสติกหุ้มเท้า และหุ้มปลายขากางเกงทั้ง 2 ข้าง แล้วรัดด้วยเชือก หรือยางเพื่อป้องกันไม่ให้ปลิงเข้าไปในกางเกงได้

ทั้งนี้ ปลิงมี 2 ชนิดคือ ปลิงควายและปลิงเข็ม โดยปลิงเข็มนั้น จะเข้าทางตา รูจมูก หรือปากได้จากการดื่มน้ำหรือล้างหน้าในลำธารที่มีปลิงอยู่ ปลิงจะเข้าสู่หลอดคอหลอดอาหาร หรือหลอดลมได้อย่างรวดเร็ว อาการที่ปรากฏคือ มีเลือดกำเดาออกไอหรืออาเจียนเป็นเลือด ทำให้เสียเลือดมาก ถ้าหากปลิงอยู่ในโพรงจมูกอาจทำให้ปวดศีรษะเป็นเวลานาน ถ้าอยู่ในกล่องเสียงจะทำให้ไอเป็นเลือด หายใจไม่ออก นอกจากนี้ปลิงยังอาจเข้าไปทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือท่อปัสสาวะของคนที่ลงอาบน้ำในลำธารได้




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

และกระปุกดอทคอม

 

ปัตตานี-ถูกน้ำท่วมทั้งจังหวัด​

​

​

​

จังหวัดปัตตานีถูกพายุถล่มจมบาดาลทั้ง 12 อำเภอ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ประชาชนที่ไม่ทันตั้งตัวได้รับความเดือดร้อนกว่า 1,000 คน ล่าสุดระดับน้ำในเขตเทศบาลเริ่มลดลงหลังระดมเครื่องสูบน้ำระบายน้ำลงแม่น้ำปัตตานี เหลือเพียงพื้นที่ลุมที่ยังมีน้ำท่วมขัง

โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานีและแม่น้ำสายบุรีขณะนี้ระดับน้ำได้เอ่อล้นตลิ่นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มแล้ว ทำให้บ้านเรือนประชาชน และพื้นที่การเกษตร โรงเรียน ถนนต่างๆถูกน้ำท่วมสูง และหลายพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร โดยเฉพาะที่ ม.1 ม.2 และ ม.8 ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี ขณะนี้กว่า 400 ครัวเรือนจมอยู่ใต้น้ำ ถนนเข้า-ออกหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูง รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ประชาชนต้องใช้เรือในการเดินทาง ทำให้ประชาชนกว่า 1,000 คน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากปีนี้น้ำท่วมเร็วมากอย่างไม่ทันตั้งตัว ข้าวของเครื่องใช้จมอยู่ใต้น้ำ มีเพียงบางส่วนที่สามารถขนของหนีน้ำนำไปไว้บนที่สูงได้ เบื้องต้นทาง อบต.ปะกาฮารัง ได้เร่งสร้างเต็นท์บนถนนเพื่อเป็นที่พักชั่วคราวและประสานไปทางจังหวัดให้เร่งนำถุงยังชีพเข้ามาให้ความช่วยเหลือแล้ว เช่นเดียวกับ ต.บาราเฮาะ อ.เมือง ถูกน้ำท่วมเช่นกัน ส่วนค่าเสียหายรวมไปถึงความเสียหายของแต่ละอำเภอนั้นขณะนี้งศูนย์บรรเทาและสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี ได้เร่งทำการตรวจสอบเพื่อดำเนินการช่วยเหลือแล้ว

ส่วนในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี หลังจากถูกฝนและพายุถล่มเมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้ทั้งเมืองจมอยู่ใต้น้ำนั้น ขณะนี้น้ำได้ลดลงแล้วมีเพียงพื้นที่ลุ่มยังมีน้ำท่วมขัง ซึ่งทางเทศบาลเมืองปัตตานีได้ระดมเครื่องสูบน้ำและขุดลอกคูระบายน้ำเพื่อให้น้ำไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานีและได้ทำความสะอาดขยะที่มากับน้ำ

ส่วนโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดปัตตานีทั้ง 3 เขตกว่า 200 โรง ขณะนี้ได้ประกาศหยุดเรียนชั่วคราวเนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

สตูล-7 อำเภออ่วม ชาวบ้านต้องการน้ำดื่ม​

​

​

​

จ.สตูล สรุปความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม มีน้ำท่วมหมดทั้ง 7 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนกว่า 9 แสนคน ขณะนี้ชาวบ้านต้องการน้ำดื่มมากที่สุด

โดยน้ำไหลเข้าท่วมใน 7 อำเภอ คือ อ.เมือง,ควนโดน ,ควนกาหลง,ท่าแพ,ละงู ,ทุ่งหว้า และ อ.มะนัง หนักสุดที่ อ.ควนโดน และอ.เมือง โดยเฉพาะ อ.เมือง น้ำจาก อ.ควนโดน ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เทศบาล ต.ฉลุง ทำให้ถนนหลายสายถูกตัดขาด ชาวบ้านต้องอพยพออกจากบ้านเรือนเดินลุยน้ำออกมาระยะทางไกลเป็นกิโลเมตร โดยเฉพาะเส้นทางฉลุง-ละงู กระแสน้ำไหลเชี่ยวแต่ชาวบ้านต้องเดินฝ่าสายน้ำออกมา ขณะที่เมื่อเวลา 10.00 น.ฝนได้หยุดตกแล้วแต่สภาพท้องฟ้ายังคงมืดครึ้ม ขณะที่น้ำไหลทะลักเข้ามาเรื่อยๆ ระดับน้ำสูงสุดเกือบ 2 เมตร ค่ายทหารร้อย ร.5021 บริเวณ ต.ควนขัน จมอยู่ใต้น้ำ

ขณะนี้ทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์อพยพที่บริเวณมัสยิดนูรุ้ลอิสลาม ชาวบ้านหลายพื้นที่บอกว่าสิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือ น้ำดื่มและยารักษาโรค ผู้เฒ่าผู้แก่บางคนบอกว่าชั่วอายุ 80-90 ปี ไม่เคยเห็นน้ำท่วมสูงขนาดนี้ ล่าสุดสรุปความเสียหาย มีน้ำท่วม 7 อำเภอ 21 ตำบล 163 หมู่บ้าน 23,131ครัวเรือน 92,016 คน

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ตรัง-น้ำท่วมแล้ว 5 อำเภอ ถนนตรัง-นาโยงถูกตัดขาด​

​

​

​

น้ำท่วมแล้วใน 20 ตำบล 5 อำเภอของจังหวัดตรัง โดยเฉพาะตลาดเทศบาลตำบลนาโยงเหนือระดับน้ำสูงมากจนถนนสายตรัง-นาโยงถูกตัดขาด

ผลจากฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมเป็นต้นมา ทำให้ระดับน้ำขึ้นสูงในแม่น้ำลำคลอง และที่ราบลุ่มต่างๆ ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมใน 5 อำเภอแล้ว ได้แก่ อำเภอเมือง มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 3 ตำบล อำเภอห้วยยอด มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 2 ตำบล อำเภอรัษฎา มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 2 ตำบล อำเภอย่านตาขาว มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 8 ตำบล และอำเภอนาโยง มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 5 ตำบล รวมประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วประมาณ 1,000 ครัวเรือน

ทั้งนี้ ทำให้บ้านเรือน สัตว์เลี้ยง และพื้นที่ทางการเกษตร ได้รับความเสียหายมากพอสมควร โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อำเภอนาโยง ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากน้ำที่เอ่อล้นลงมาจากเทือกเขาบรรทัด ได้ไหลลงมาเข้าท่วมถนนสายตรัง-พัทลุง ในหลายช่วง โดยเฉพาะที่บริเวณตลาดเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ ระดับน้ำสูงประมาณ 50-80 เซนติเมตร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ ทำให้การเดินทางไปมาระหว่างจังหวัดตรัง กับจังหวัดพัทลุง ต้องถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ส่งผลกระทบสถานที่ราชการ ร้านค้า และบ้านเรือนในชุมชนหลายแห่ง เจ้าหน้าที่ทางราชการการต้องระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com