ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เตือนหนาวนอนคลุมโปง อาจขาดอากาศหายใจได้ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>19 มกราคม 2554 15:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>สธ.เผยไทยมีผู้เสียชีวิตจากภัยหนาว 2 ราย เตือนประชาชนระวัง 6 โรคที่มากับภัยหนาว พร้อมดูแลร่างกายให้อบอุ่น จิบน้ำอุ่นแทนการดื่มเหล้า อย่านอนคลุมโปง หรือก่อไฟผิง อาจทำให้ขาดอากาศหายใจได้

    วันนี้ (19 ม.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข ดร. พรรณสิริ กุลนาถศิริรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ภัยหนาว ว่า ขณะนี้ประเทศไทยประกาศพื้นที่ภัยพิบัติทั้งหมด 33 จังหวัด 475 อำเภอ 3,837 ตำบล 47,272 หมู่บ้าน อยู่ในส่วนของภาคเหนือ 14 จังหวัด ตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด มีผู้ที่เสียชีวิตจากภัยหนาวทั้งหมด 2 ราย ที่จังหวัดกาฬสินและจังหวัดสุรินทร์ จากผู้เสียชีวิต 27 ราย

    ดร.พรรณสิริ กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนให้ระวังโรคที่จะขึ้นตามมา ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม หัด หัดเยอรมัน อีสุกอีใส และอุจจาระร่วง พร้อมกันนี้ ต้องดูแลร่างกายตนเองให้อบอุ่นหากหนาวมากให้จิบน้ำอุ่นแทนการดื่มสุรา สำหรับพื้นที่ที่หนาวมากและมีเด็กเล็กอาศัยอยู่ขอให้ระวังเรื่องการนอนคลุมโปง การก่อไฟผิงอย่าให้ลุกลาม รวมถึงภาคเหนือที่มีหมอกควัน เพราะอาจทำให้ออกซิเจนน้อยลงจนขาดอากาศหายใจส่งผลเสียต่อร่างกายได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000007672

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>โสมขาวหวั่นขาดแคลนไฟฟ้า สั่งห้างร้าน-สนง.ปิดเครื่องทำความร้อนแม้อากาศหนาวจัด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>19 มกราคม 2554 13:09 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>น้ำในแม่น้ำฮันกลายเป็นน้ำแข็งเนื่องจากอุณหภูมิหนาวจัดในกรุงโซล

    เอเอฟพี - ทางการเกาหลีใต้มีคำสั่งให้ห้างสรรพสินค้า สำนักงาน และโรงแรมต่างๆ ลดการใช้เครื่องทำความร้อน ท่ามกลางความกังวลว่าจะขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า เนื่องจากช่วงเวลาหนาวจัดยืดเยื้อยาวนาน

    กระทรวงเศรษฐกิจโสมขาวเผยว่า ตั้งแต่วันจันทร์หน้า (24) เป็นต้นไป อุณหภูมิภายในอาคาร 441 แห่ง ซึ่งมีการใช้พลังงานเป็นปริมาณมาก จะต้องจำกัดอุณหภูมิภายในให้อยู่ที่ 20 องศาเซลเซียส คำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้ไปจนถึง 18 กุมภาพันธ์ และครอบคลุมตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า ห้างร้าน โรงแรม สำนักงาน และโรงเรียนต่างๆ โดยผู้ที่ฝ่าฝืนจะต้องถูกปรับเป็นเงินไม่เกิน 3 ล้านวอน หรือราว 93,000 บาท

    ก่อนหน้านี้ กระทรวงดังกล่าวได้ออกคำสั่งให้บรรดาข้าราชการรักษาอุณหภูมิภายในอาคารที่ทำการให้อยู่ต่ำกว่า 18 องศาเซลเซียส และสนับสนุนให้พวกเขาใส่ชุดชั้นในทำความร้อนเพื่อต่อสู้กับความหนาว “เนื่องจากคาดว่าราคาน้ำมันยังจะสูงขึ้นไปตลอดช่วงหน้าหนาว และปริมาณความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าก็เพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่ จึงต้องมีความเข้าใจร่วมกันว่าจำเป็นต้องใช้มาตรการเพื่อลดปริมาณดังกล่าวให้รุนแรงขึ้น” กระทรวงเศรษฐกิจชี้แจงบนเว็บไซต์

    ในสัปดาห์ที่แล้ว ชเว คยอง ฮวาน รัฐมนตรีเศรษฐกิจแดนกิมจิได้ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ที่ไฟจะดับ หลังความต้องการใช้ไฟฟ้าทะยานสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในฤดูหนาวนี้ สำหรับอุณหภูมิในกรุงโซลเมื่อวันอาทิตย์ (16) ที่ผ่านมา ตกลงถึง -17.8 องศาเซลเซียส ซึ่งต่ำสุดในรอบ 10 ปี และในวันนี้ (19) มีการพยาการณ์ว่าอากาศหนาวจัดผิดปกติเช่นนี้ยังจะยืดเยื้อยาวนานต่อไปจนถึงสิ้นเดือน

    ด้านหนังสือพิมพ์โคเรียไทมส์ตำหนิคำสั่งดังกล่าวว่าเป็นนโยบายด้านพลังงานที่ผิดพลาด ซึ่งต้องการให้ค่าไฟฟ้าต่ำกว่าราคาเชื้อเพลิงอื่นๆ เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000007528
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เครื่องแปลงไฟรถยนต์เป็นไฟบ้าน
    จากไฟ 12 V เป็นไฟ 220 V(1200 W)

    [​IMG]

    [​IMG]

    สินค้า : Power inverter เครื่องแปลงไฟรถ 12 Vเป็นไฟบ้าน 220 V (1200 W)
    รหัสสินค้า :</B> 00163
    อายุการใช้งาน : สินค้าใหม่
    ราคา : 1,700 บาท

    รายละเอียด :
    Power inverter เครื่องแปลงไฟรถยนต์เป็นไฟบ้าน จากไฟ 12 V เป็นไฟ 220 V เป็น อุปกรณ์เพื่อแปลงไฟรถยนต์ให้เป็นไฟบ้าน และสามารถใช้กับอุปกรณ์ที่ใช้ไฟบ้านได้ เวลาเดินทาง ท่องเที่ยว ปิคนิกหรือ ค้าขายนอกบ้าน จะไปไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าไม่มีไฟฟ้าใช้

    1. เสียบใช้กับโน้ตบุ้ค ในการทำงานนอกบ้าน
    2. ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัทพ์มือถือ กล้อง
    3. ใช้เปิดโคมไฟ หรือไฟส่องสว่าง
    4. ใช้เปิดทีวี ดีวีดี วิทยุ พัดลม อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ในการออกไปปิคนิกนอกสถานที่
    5. หรือท่านที่ค้าขายตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่มีไฟฟ้า เช่น ตลาดนัด ก็สามารถนำไปต่อกับแบตเตอรี่ ใช้แทนไฟบ้านได้เลย เช่นเปิดไฟนีออน เปิดพัดลม เปิดเครื่องปั่่นน้ำผลไม้

    มีเสียงเตือนเมื่อ แบตเตอรี่ท่านไฟใกล้จะหมด เพื่อให้ท่านสามารถสตาร์ทรถยนต์ได้ มีระบบ ป้องกันโวล์ทเกิน วัตต์เกิน ต่อขั้วแบตเตอรี่ผิด ไฟฟ้าช็อต มีพัดลมระบายความร้อน..

    การคำนวณ : อินเวอร์เตอร์จะกินไฟฟ้าแบตเตอรี่เท่าไร ดังนี้
    อุปกรณ์ไฟฟ้า 12 วัตต์ จะกินไฟฟ้าแบตเตอรี่ 1 A. ในระยะเวลา 1 ชั่วโมง

    ตัวอย่าง
    มี หลอดนีออน 12 วัตต์ ใช้กับแบตเตอรี่ 1 A. จะใช้ได้นาน 1 ชั่วโมง
    มีหลอด นีออน 12 วัตต์ ใช้กับแบตเตอรี่ 100 A. จะใช้ ได้นาน 100 ชั่วโมง
    มี หลอดนีออน 120 วัตต์ ใช้กับแบตเตอรี่ 100 A. จะใช้ ได้นาน 10 ชั่วโมง
    ดู หลังเครื่องไฟฟ้าท่าน จะมีสติกเกอร์บอก วัตต์ ( W.) ของเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆว่ากินไฟฟ้ากี่วัตต์ แล้วท่านก็หาอินเวอร์เตอร์ที่วัตต์สูงกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆมาต่อพ่วงกับ แบตเตอรี่ตรงขั้ว + -

    ขนาด กว้าง 3.9" ยาว 6.6" สูง 5.3" ราคา 1,700 บาท ค่าจัดส่ง : 60 บาท ติดต่อเป้ โทร 081-361-3351 อีเมล์ ozoneshop1@gmail.com

    หมายเหตุ

    คราวก่อนผมแนะนำเครื่องแปลงไฟแบบ 500 w ซึ่งเป็นรุ่นเก่าที่มีราคาแพง แต่ตอนนี้มีรุ่นใหม่ 1200 w ออกมาแล้วซึ่งมีราคาถูกกว่า ผมจึงขออนุญาตนำมาแนะนำให้ท่านที่สนใจเป็นการเพิ่มเติม เพราะเหมาะที่จะใช้กับกะทะไฟฟ้า กาต้มน้ำไฟฟ้า และใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นๆ ที่มีวัตต์ (W.) ไม่เกิน 1200 วัตต์ได้ครับ

    ผมไม่ได้ต้องการจะมาโฆษณาสินค้าให้กับใครนะครับ เพียงแต่ผมคิดว่าในช่วงที่มีการอพยพเพื่อหนีภัยกันนั้น รถยนต์จำนวนมากคงต้องจอดทิ้งไว้ตามท้องถนนหนทางต่างๆ เพราะแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก หรือแผ่นดินยุบ คงทำให้ถนนหนทางพังทลายไปด้วย แต่ถ้าเรามีเครื่องแปลงไฟฟ้านี้ติดกับรถยนต์ของเรา ก็สามารถเอาไปใช้กับแบตเตอรี่ในรถคันอื่นๆ ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนไปได้มากในช่วงเวลาคับขันเช่นนั้น เช่นอาจต้มน้ำร้อนชงโอวัลติน หรือต้มบะหมีกึ่งสำเร็จรูป ไปแจกจ่ายให้กับคนอื่นๆ ในช่วงเวลานั้นได้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1283534785_01.jpg
      1283534785_01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.1 KB
      เปิดดู:
      3,498
    • feat_eq1.jpg
      feat_eq1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.7 KB
      เปิดดู:
      3,560
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2011
  3. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    19 ม.ค. 54
    ขอขอบคุณ คุณเกษม ที่ช่วยนำบทความเกี่ยวกับเรื่องน้ำบาดาลมาลงให้ได้อ่าน


    k_isara

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    จารึกบนโล่ไม้ไวกิ้ง กลียุคกำลังมา! คนทั่วโลกแย่งชิง น้ำ,อาหาร

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Lukhgai<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4280676", true); </SCRIPT> สมาชิก

    พบจารึกบนโล่ไม้โบราณ อายุกว่า 1,000 ปี ของชาวไวกิ้ง ระบุประเทศมหาอำนาจของโลก จะพลิกคว่ำล้มละลาย จากวิกฤติการณ์ทางการเงิน ผู้คนต่างพากันบุกปล้นชิงอาหารและทรัพย์สินเพื่อความอยู่รอด เกิดเหตุจราจลที่เมืองใหญ่ทั่วโลก

    เหตุการณ์ดังกล่าวนี้จารึกบนโล่ไม้ กำหนดไว้ในปี ค.ศ. 2011 หรือปีนี้เอง การขุดค้นแหล่งโบราณคดี ที่ประสาทโบราณเก่าแก่แห่งหนึ่งบริเวณ ชานกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงเดนมาร์ค ซึ่งเมื่อพันปีก่อนดินแดนแถบนี้เป็นที่อยู่ชนเผ่าไวกิ้ง นักรบผมขาวผิวขาว ตาสีฟ้า และชอบสวมหมวกมีเขาบนหัว 2 เขา คล้ายเขาวัวกระทิง

    ภายในประสาทเก่าแก่ นักโบราณคดีที่มีศาสตราจารย์อูลไรด์สเตนสการ์ด ผู้เชี่ยวชาญการศึกษาวิจัยชนเผ่าไวกิ้ง ได้พบโล่ทำจากไม้เนื้อแข็ง กว้าง 32 นิ้ว บนแผ่นโล่ไม้นี่เองมีอักษรจารึกเป็นภาษารูน เป็นภาษาของชาวสแกนดิเนเวีย ใช้กันเมื่อหลายพันปีก่อน ผู้จารึกข้อความเอาไว้เป็นชาวนอร์ส หรือชาวนอร์เวย์ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นลูกหลานโดยสายเลือดของชาวไวกิ้ง

    ในอดีตชาวนอร์ส หรือนักรบไวกิ้งนี่เอง กรีฑาทัพบุกโจมตีคนผิวขาวทั้งที่เกาะ อังกฤษ และในทวีปยุโรปในยุคกลางหรือ 500 ปีที่ผ่านมาชาวไวกิ้ง คือชนเผ่ามหาอำนาจแห่งสแกนดิเนเลียน นักโบราณคดีได้ถอดความจารึก บนโล่ไม้ได้ความว่า...เป็นคำพยากรณ์เมื่อ 1,500 ปีก่อน ถึงโลกในปัจจุบัน

    “ระบบการเงินการคลังของโลก จะแห้งเหือดหายไปทีละนิด ซื้อขายโดยใช้ ธนบัตรจะหมดคุณค่าลงในฉับพลันทันที ธนบัตรมีค่าเท่ากับกระดาษแผ่นเดียวคนไม่มีงานทำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับภาวะขาดแคลนอาหารลุกลามไปทั่วโลก เมื่อน้ำจืดหาได้ยากและเกิดการแย่งชิงกันขึ้น”

    “จากคำพยากรณ์ระบุว่าระบบธนาคาร ในประเทศมหาอำนาจจะล้มคลืนลงมาก่อน จากนั้นกลายเป็นสถาบันการเงินอื่น ล้มตามเหมือนทฤษฎีโดมิโน่”

    “เงินหายไปจากตลาดเงิน เงินเป็นสิ่งหาได้ยาก แต่เมื่อได้มาแล้วมีคุณค่าน้อยนิด เช่นเดียวกันราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าอาหารแพงขึ้นหลายเท่าตัว”

    “พยากรณ์บนโล่ไม้บอกอีกว่า ผู้คนออกจากบ้านที่อยู่อาศัยเพราะไม่มีอาหาร น้ำและเครื่องสาธารณูปโภค มาชุมนุมตามท้องถนน แล้วก่อการจราจลเผาบ้าน เผาเมือง ปล้นจี้ชิงทรัพย์เพื่อเอาชีวิตรอด จากวิกฤติการณ์” ศาสตราจารย์อูลไรด์กล่าว

    “ทรัพย์สินที่ชาวบ้านนำไปจำนำจำนอง เพื่อแลกเป็นเงินเพื่อใช้ซื้อข้าวของเลี้ยงชีวิตจะถูกยึดถูกริบ เพราะไม่มีปัญญาหาเงินมาไถ่คืนไปได้” และในที่สุดชาวเมืองพากันบุกเข้าปล้นแหล่งอาหาร อย่างไม่มีทางเลือกเป็นอื่นไปได้”

    “วิกฤติการณ์เช่นนี้เหมือนกับ นักรบไวกิ้งได้กระทำมาแล้วเมื่อหลายพันปีก่อน โดยการปล้นจี้ตีชิงอาหาร และทรัพย์สินจากคนรวย มาแบ่งให้คนจนได้ประทังชีวิตรอดในยามเกิดวิกฤติการณ์ไปได้”

    “อีกฝ่ายยกพวกปล้นชิงอีกฝ่าย ตั้งกองกำลังป้องกันตัวเอง การฆ่าฟันเกิดขึ้น จากเมืองใหญ่แพร่ไปยังเมืองเล็ก เลือดจะไหลรินท่วมถนนเป็นท้องธาร” ศาสตราจารย์ อูลไรด์กล่าว

    “จารึกบนโล่ไม้ระบุไว้ว่า ปลายปี 2011 จะเกิดสงครามแย่งชิงอาหารและน้ำดื่มกันขึ้น เป็นสงครามใหญ่ที่มีผู้เสียชีวิตหลายสิบล้านคน และจบลงด้วยการพังพินาศของระบบเศรษฐกิจโลกทั้งระบบ”

    “แต่ไม่นานระบบเศรษฐกิจใหม่ ระบอบการเมืองใหม่จะอุบัติขึ้นมา ซึ่งระบบ ใหม่นี้ สามารถจัดระเบียบทำให้ผู้คน แต่ละชนชาติอยู่ร่วมโลก กันด้วยสันติสุข ไปอีกระยะหนึ่ง จากนั้นก็เกิดสงครามขึ้นอีก เพราะความโลภ ความไม่พอเพียงซึ่งเป็น ธาตุแท้ดั้งเดิมของมนุษย์ทุกคน”

    “และสิ่งแน่นอนที่สุดเมื่อเกิดการ ฆ่าฟันเพื่อแย่งอาหารแย่งน้ำกัน ถึงเวลานั้น กติกาของสังคม กฎหมายและความศรัทธา จะพังทะลายลง ผู้คนสวมหัวใจสัตว์เดรัจฉาน จับอาวุธฆ่าฟันกันอย่างกระหายเลือด โดยไม่เลือกพี่เลือกน้อง ชนเผ่าและสายเลือดเดียวกันหรือไม่?

    “ในกลียุคที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ผู้คนใช้อาวุธทำลายล้างกันอย่างเชี่ยวชาญ ตรงข้ามกับระดับจิตใจ ตกต่ำลงถึงขีดสุด” นักโบราณคดีชาวเดนมาร์กกล่าว

    “สิ่งที่ประวัติศาสตร์มนุษยชาติ จะได้เห็นกันอีกครั้งคนจะอยู่รวมกันอย่างไม่ละอายต่อบาป เพื่อให้ได้ปัจจัย 4 มาเป็นของตัวเอง สามารถฆ่าได้แม้เป็นผู้มีพระคุณเคยช่วยชีวิตตนเองมาก่อน”

    “คุณค่าของคนและชีวิตของคน ลดค่าเท่ากับศูนย์เพราะคนเราจะหันมา บูชาเงินเป็นพระเจ้า”

    ศาสตราจารย์ อูลไรด์ ตั้งข้อสังเกตอีกว่า การพังพินาศระบอบเศรษฐกิจทั่วโลก อาจเป็นลางร้าย บอกล่วงหน้าว่าโลกกำลังมาถึงยุคการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง เป็นการเปลี่ยนแหล่งจากยุคแสวงหาสัจธรรมในยุคที่ 3 มาเป็นกลียุคในยุคที่ 4 กลียุคจะเกิดขึ้นบนโลกหรือไม่? ก็ขอใช้คำเดิม ๆ ...ถ้าไม่เชื่อกรุณาอย่าลบหลู่

    จาก "นิตยสารแปลกทะลุโลก" กับ "นกรู้ดอทคอม"

    ที่มา http://palungjit.org/threads/จารึกบนโล่ไม้ไวกิ้ง-กลียุค-กำลังมา-คนทั่วโลกแย่งชิง-น้ำ-อาหาร.276344/
    <!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • List-of-viking-gods.jpg
      List-of-viking-gods.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.5 KB
      เปิดดู:
      86
    • pic1.jpg
      pic1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      17.4 KB
      เปิดดู:
      80
    • vikings3.jpg
      vikings3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.7 KB
      เปิดดู:
      1,086
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2011
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เศรษฐกิจโลก 2011 เผชิญความเสี่ยงสูง “สหรัฐ-จีน” แบ่งขั้วแก้ปัญหาคนละทาง

    [​IMG]

    โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์

    บีบีซี นิวส์ - นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังจากหลายสำนักมองภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปี 2011 ว่า กำลังเผชิญกับภยันตรายที่สำคัญ นั่นก็คือ ความไม่ลงรอยในการกำหนดทิศทางของระบบการเงินโลก ทั้งนี้สืบเนื่องจากความแตกต่างคนละขั้วของภาวะการฟื้นตัวและปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ระหว่างพวกประเทศร่ำรวยที่เกิดภาวะเงินฝืด กับกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่เกิดภาวะเงินเฟ้อ ตลอดจนการเปลี่ยนถ่ายพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจโลกมาสู่กลุ่มหลังที่ไม่ทันท่วงที นอกจากนี้ วิกฤตในยุโรปก็ยังจะเป็นปัญหาท้าทายสำหรับปีนี้ต่อไป

    รอเบิร์ต วอร์ด ผู้อำนวยการอีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (EIU) ให้สัมภาษณ์บีบีซี นิวส์ ชี้ว่า แนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังสวนทิศทางกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่กำลังผงาดขึ้น โดยเฉพาะจีน กับเศรษฐกิจกลุ่มประเทศตะวันตกที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง โดยเฉพาะสหรัฐฯ จะนำมาซึ่งการไม่อาจบรรลุฉันทามติในการกำหนดทิศทางของระบบการเงินโลกต่อจากนี้

    ทั้งนี้ สองมหาอำนาจเศรษฐกิจเบอร์หนึ่งและสองของโลก ยังมีข้อแตกต่างประการสำคัญ นั่นก็คือ พญามังกรจะควบคุมระบบเศรษฐกิจอย่างเคร่งครัดโดยภาครัฐ ซึ่งตรงกันข้ามกับพญาอินทรีที่ชื่นชอบระบบตลาดแบบเสรีสุดๆ โดยปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามหลักกลไกตลาด ด้วยเหตุนี้ความสับสนอลหม่านจึงเกิดขึ้นจากจุดนี้

    วอร์ด ชี้ว่า ความแตกต่างแปลกแยกข้างต้นนำมาซึ่งการก่อสงครามค่าเงินระหว่างกัน โดยที่พวกประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วพยายามหาทางลดค่าเงินของตน เพื่อจะกระตุ้นความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลกและแก้วิกฤตเงินฝืด ดังจะเห็นได้ชัดจากการที่ธนาคารกลางของสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศพิมพ์ธนบัตรจำนวนมหาศาลเป็นประวัติการณ์โดยการจะรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น หรือที่เรียกว่ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณครั้งที่ 2 (QE2) โดยที่ประเทศเล็กๆ ก็ตอบโต้ด้วยการควบคุมค่าเงินของตนไม่ให้แข็งค่าขึ้นมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่อ่อนยวบลง

    นอกจากนี้ วอร์ด ยังกล่าวต่อไปว่า กระบวนการเปลี่ยนถ่ายพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจโลกจากมือของกลุ่มประเทศตะวันตกไปสู่ตะวันออกในจังหวะฝีก้าวที่ช้าเกินไปนั้นกำลังนำมาซึ่งอันตรายอันใหญ่หลวงสำหรับเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ด้วยเช่นกัน

    นอกเหนือจากภยันตรายข้างต้นแล้ว ยังมีความเสี่ยงจากภาวะแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในจีนและหลายประเทศในเอเชียด้วย โดย วอร์ด ทำนายว่า ภาวะเงินเฟ้อในจีนจะรุนแรงจนรัฐบาลคุมไม่อยู่ ขณะที่ เอ็ดเวิร์ด เมียร์ นักวิเคราะห์อาวุโสแห่งเอ็มเอฟ โกลบอล ก็มองว่า เงินเฟ้อจะเป็นภัยคุกคามทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย พร้อมกับเตือนด้วยว่าธนาคารกลางต่างๆ โดยเฉพาะในเอเชีย ควรเพิ่มความเข้มงวดเชิงนโยบายอย่างเร่งด่วนเพื่อที่จะขจัดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

    ส่วน แคปปิตัล อีโคโนมิกส์ ที่ปรึกษาค้นคว้าด้านเศรษฐกิจมหภาค ระบุว่า เป้าหมายสำคัญของทั้งจีนและประเทศที่เหลือในเอเชีย ก็คือ การควบคุมภาวะเงินเฟ้อไม่ให้รุนแรงจนเกินไป และทำให้แน่ใจว่ากระแสเงินร้อนที่ไหลทะลักเข้าอย่างรวดเร็วนั้น จะไม่ทำให้เศรษฐกิจระดับมหภาคเกิดความไร้สมดุล และ/หรือเกิดภาวะฟองสบู่ในภาคสินทรัพย์ซึ่งจะสั่นคลอนเสถียรภาพทางการเงิน

    วอร์ด ชี้แจงว่า รัฐบาลปักกิ่งอาจจำเป็นที่จะต้องคุมภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะเป็นตัวบ่อนทำลายฐานะทางการเงินของบรรดาชนชั้นกลางในแผ่นดินมังกร เขาระบุว่า หากคุมภาวะเงินเฟ้อด้วยมาตรการเพิ่มรัดกุมในด้านนโยบายการเงิน ผลที่จะได้รับก็คือการลดความร้อนแรงเกินไปของเศรษฐกิจจีนซึ่งส่งผลกระทบเชิงลบต่อประเทศอื่นๆ

    สำหรับเศรษฐกิจยุโรปในปี 2011 ถูกมองว่า อาจบังเกิดเรื่องเลวร้ายต่างๆ ตามมาอีก โดยเฉพาะปัญหาการขาดดุลงบประมาณในสเปนที่อาจเลวร้ายลงเรื่อยๆ นอกเหนือจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการแก้วิกฤตของโปรตุเกสโดยปราศจากความช่วยเหลือของสหภาพยุโรปหรือองค์การนานาชาติ หลังจากก่อนหน้านี้ กรีซ และไอร์แลนด์ เป็นสองประเทศแรกที่ได้รับความช่วยเหลือด้านเงินกู้เป็นมูลค่าหลายพันล้านยูโรเพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจ

    “วิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปก็เป็นอีกหนึ่งความหวาดวิตกของพวกเรา” เมียร์ กล่าว โดยที่ วอร์ดเองก็เห็นด้วย

    เมียร์ กล่าวต่อไปว่า “สเปนมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ และก็กำลังล้มป่วยเช่นกัน”

    “หากเศรษฐกิจสเปนซวนเซ และพังพินาศลง มันจะเป็นข่าวร้ายมากสำหรับทุกๆ คน ไม่ใช่แค่เพียงของยุโรปเท่านั้น แต่เป็นของทั่วโลกเลยทีเดียว” พร้อมกับเตือนด้วยว่า มันอาจทำให้เงินสกุลยูโรถึงคราวอวสานเลยก็เป็นได้

    “ถ้าหากยูโรล่มสลายแล้วล่ะก้อ มันจะทำให้การล้มละลายของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ เลห์แมน บราเธอร์ส ก่อนหน้านี้ กลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไปเลย” เพราะมันจะทำให้ประเทศยูโรโซนทั้งหมดเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ

    ที่มา http://www.taradthong.com/news/935
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • flood10.jpg
      flood10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.3 KB
      เปิดดู:
      1,052
  6. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    ยังไม่ใช่กาลนี้ ที่โลกจะแตกดับ

    แต่เป็นกาลนี้ ที่โลกกำลังเปลี่ยน ด้วยแรงจากธรรมชาติ
     
  7. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    เวลาใช้ inverter ต้องสต๊าทรถยนต์ไว้ด้วยนะครับ เดี๋ยวไฟ จะหมด รถสต๊าทไม่ติดได้ นะครับ
     
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]

    Mthai News : บีบีซีเปิดเผยภาพสุดประหลาดนี้ โดยรายงานว่า นาย Kanchana Kumara Ariyadasa ชาวบ้านศรีลังกาถ่ายรูปนี้ได้ หลังจากเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นภาพซากช้างตายติดอยู่บนต้นไม้สูง ใกล้แม่น้ำ Galoya ซึ่งตอนนั้นน้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นกว่า 5.5 เมตร
    จากระดับน้ำปกติ
    นาย Ariyadasa เปิดเผยว่า เขาถ่ายภาพมากว่า 10 ปี ภาพนี้เป็นภาพที่แปลกประหลาดที่สุดที่เคยถ่ายได้ ซึ่งเขาบอกว่า ภาพนี้ยืนยันได้ถึงหายนะที่เกิดจากอุทกภัยครั้งนี้ได้อย่างชัดเจน
    ภาพจาก BBC
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News
    [​IMG]
    <LI class=news_src_item>[​IMG]

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากอินเตอร์เนตไม่เกี่ยวข้องกับข่าว

    เมื่อคืนที่ผ่านมา(19มกราคม) เกิดเหตุคนร้ายกว่า 10 คน พร้อมอาวุธสงครามครบมือ บุกเข้าไปยิงถล่มฐานปฏิบัติการ ร้อย ร.1512 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 38 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ก่อนเกิดการปะทะ เบื้องต้นมีทหารได้รับบาดเจ็บ 6 ราย เสียชีวิต 6 ราย

    ทั้งนี้คนร้ายกระจายเข้ามาจากทางด้านหลังฐานและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ก่อนเกิดการยิงปะทะกันนานกว่า 30 นาที แม้เจ้าหน้าที่จะขอกำลังเสริมเข้ามาสมทบ แต่ไม่สามารถเดินทางเข้ามาเสริมยังฐานที่ตั้งได้ เนื่องจากกลุ่มคนร้าย ได้ตัดต้นไม้ขวางถนน และโรยตะปูเรือใบสกัดกั้นตามเส้นทางต่างๆ จึงต้องประสานเฮลิคอปเตอร์กองทัพภาคที่ 4 เดินเข้าไปในพื้นที่เพื่อรับผู้บาดเจ็บ โดยสามารถรับตัวทหารซึ่งได้รับบาดเจ็บเพื่อส่งต่อโรงพยาบาลระแงะได้แล้ว
    (MCOT)พบมีทหารเสียชีวิต 6นาย คือ ร้อยเอกกฤช คัมภีรญาณ ผบ.ร้อย ร. 1 5121 สิบเอกอับดุลเลาะ กาหยี ส่วนอีก 4นาย ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบชื่อ
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News
    <LI class=news_src_item>[​IMG]

    [​IMG]
    ราคาขายกิโลกรัมละ 50-52 บาท ชี้ช่วยประชาชนลดรายจ่าย 2-3 บาท พร้อมแก้ดปัญหาถูกโกงเบอร์ไข่ หลังขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าควบคุม
    19 ม.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 18 ม.ค.หลังจากที่ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) มีมติให้นำสินค้าไข่ไก่ และบริการรับฝากและเช่าสินค้า เช่น คลังสินค้า เพิ่มเข้าในบัญชีสินค้าและบริการควบคุม ส่งผลให้รายการบัญชีสินค้าและบริการควบคุมเพิ่มจาก 39 ราย เป็น 41 รายการ เพื่อติดตามการดูแลราคาสินค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นนั้น
    ต่อมา เมื่อวันที่ 19 ม.ค. นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า ที่ประชุมหารือแนวทางการจำหน่ายไข่ไก่เป็นกิโลกรัม ร่วมกับทางสมาคมผู้ค้าไข่ไก่ ชมรมผู้เลี้ยงไก่ไข่มีมติเริ่มทดลองจำหน่ายไข่ไก่เป็นกิโลกรัมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะตามตลาดสด อาทิ ตลาดยิ่งเจริญ ตลาดมีนบุรี ตลาดรังสิต
    ทั้งนี้ ร้านค้าจำหน่ายไข่ไก่ในตลาดสดจะขายไข่ไก่ใน 2 ทางเลือก ทั้ง จำหน่ายแบบแยกเบอร์ และจำหน่ายแบบเป็นกิโลกรัม โดย 1 กิโลกรัมขนาดไข่ไก่เบอร์ 2 จะอยู่ที่ประมาณ 16 ฟอง และไข่ไก่เบอร์ 3 จะอยู่ที่ประมาณ 16-17 ฟอง
    สำหรับรูปแบบนี้จะมีเริ่มทดลองตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2554 นี้เป็นต้นไป เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการพิจารณาและจะใช้เวลาทดลองประมาณ 3 เดือน ก่อนจะกลับมาทบทวนว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ต่อไป โดยการกำหนดขายไข่ไก่เป็นกิโลกรัม ซึ่ง 1 กิโลกรัมได้มีการคิดคำนวณถึงต้นทุน ขณะที่ราคาขายไข่ไก่หน้าฟาร์มคละจะอยู่ที่ ประมาณ 45 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อนำมาขายปลีกให้กับประชาชนจะเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัม 50-52 บาท และการจำหน่ายไข่เป็นกิโลกรัมจะมีราคาถูกลงฟองละ 10-20 สตางค์ ทำให้ผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่าย 2-3 บาทต่อ 1 กิโลกรัม
    นอกจากนี้ ยังช่วยให้ประชาชนไม่ถูกโกงเบอร์ไข่อีกต่อไป โดยหากโครงการนี้ได้รับการตอบรับดีก็จะเร่งกระจายไปยังตลาดสด ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาครวมทั้งห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ทั่วประเทศต่อไป
    โดย Mthai News
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ออสเตรเลียเตือนประชาชนเร่งอพยพหนีน้ำท่วม

    [​IMG]

    ออสเตรเลีย 20 ม.ค. - เจ้าหน้าที่ในรัฐวิกตอเรียของออสเตรเลีย เตือนให้ประชาชนละทิ้งบ้านเรือน เพื่อหนีภัยน้ำท่วม

    ชาวบ้านกว่า 1,500 คน ในเมืองเคแรง แถบชนบททางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ ได้รับคำสั่งให้อพยพฉุกเฉินก่อนรุ่งเช้าวันนี้ และให้เตรียมสำรองอาหารสำหรับ 3 วัน ก่อนที่น้ำในเขื่อนกั้นน้ำและตามแหล่งน้ำต่าง ๆ จะเอ่อล้นเข้าท่วมซ้ำอีก ทางการเตือนว่า บ้านเรือนประชาชน 1,500 หลัง ในเมืองเคแรง จะได้รับผลกระทบทันที หากน้ำในแม่น้ำลอดเดนเพิ่มระดับสูงขึ้นอีก

    ทั้งนี้ นับแต่รัฐวิกตอเรียเผชิญน้ำท่วมตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องอพยพประชาชนไปแล้วกว่า 3,500 คน และเมือง 51 แห่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 30 คน. - สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 20 ม.ค. 2554

    เผยผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมและโคลนถล่มในบราซิลจะถึงพันคน

    [​IMG]

    รีโอเดจาเนโร 20 ม.ค.-เหตุดินถล่มครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีที่บราซิล ยังคงมีประชาชนอย่างน้อย 207 คนสูญหาย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดในเขตภูเขาเพิ่มขึ้นเป็น 741 คนแล้ว

    สำนักงานอัยการของรัฐรีโอเดจาเนโรเปิดเผยจำนวนผู้สูญหายอย่างเป็นทางการครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดหายนะภัยเมื่อ 1 สัปดาห์ที่แล้ว โดยคาดว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดน่าจะใกล้เคียง 1,000 คน ผู้สูญหายจำนวนมากคาดว่าถูกฝังอยู่ใต้กองโคลนและซากปรักหักพังของบ้านเรือนหลายร้อยหลังที่เกิดจากน้ำท่วมฉับพลัน

    จำนวนผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถเดินทางเข้าไปถึงเขตพื้นที่ห่างไกลและเริ่มขุดหาซากศพที่ฝังอยู่ใต้โคลนและซากบ้านเรือน เจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังคงมีประชาชนอีกหลายร้อยคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงเกิดโคลนถล่มครั้งใหม่ บางส่วนถูกตัดขาดจากความช่วยเหลือเพราะถนนและสะพานถูกตัดขาด ขณะที่บางคนปฏิเสธที่จะย้ายออกจากบ้านเรือนเพราะเกรงว่าจะถูกโจรกรรม

    เจ้าหน้าที่บราซิลกล่าวว่าเหตุน้ำท่วมและโคลนถล่มที่รุนแรงเช่นนี้ส่งผลให้สภาพทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่บริเวณนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างลึกซึ้ง และประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตภูเขาไม่ปลอดภัยอย่างที่เคยคิดกันอีกต่อไป ขณะที่รัฐบาลกลางของบราซิลให้คำมั่นว่าจะตั้งระบบการเตือนภัยล่วงหน้าแห่งชาติ ซึ่งสามารถแจ้งเตือนชุมชนให้รู้ล่วงหน้าถึงอันตรายจากภัยธรรมชาติ .-สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 20 ม.ค. 2554

    อัตราการเสียชีวิตจากอหิวาต์ในเฮติชะลอตัว ขณะที่ยอดใกล้แตะ 4,000 คน
    [​IMG]
    ปอร์โตแปรงซ์ 19 ม.ค. – กระทรวงสาธารณสุขเฮติแถลงว่า อัตราการเสียชีวิตจากโรคอหิวาต์ที่แพร่ระบาดนานหลายเดือนชะลอตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา

    โดยยอดผู้เสียชีวิตนับแต่พบการระบาดในเดือนตุลาคมปีที่แล้วจนถึงวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 3,889 คน โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 51 คนใน 5 วันสุดท้ายก่อนเผยแพร่ตัวเลข ​

    ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 194,000 คน ในจำนวนนี้รวมทั้งประชาชนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 109,000 คน สถิติของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า อัตราการเสียชีวิตโดยเฉลี่ยระหว่างวันที่ 12-16 มกราคม อยู่ที่วันละ 8 คน นับเป็นช่วงเวลาที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดนับตั้งแต่อหิวาต์เริ่มแพร่ระบาด และเมื่อวันที่ 15 มกราคม มีผู้เสียชีวิตเพียง 3 คนเท่านั้น นับเป็นยอดผู้เสียชีวิตรายวันที่ต่ำที่สุด ก่อนหน้านี้อัตราการเสียชีวิตโดยเฉลี่ยต่อวันที่ต่ำที่สุดในช่วงเวลา 1 สัปดาห์ อยู่ระหว่างวันที่ 1-7 มกราคม ซึ่งมีผู้เสียชีวิตเพียง 17 คนต่อวัน และวันที่ 19 ธันวาคมปีที่แล้ว เป็นวันที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดถึงกว่า 105 คน -สำนักข่าวไทย​

    วันพฤหัสบดี ที่ 20 ม.ค. 2554

    คณะสงฆ์เกาหลีใต้ทำพิธีสวดให้กับสัตว์ที่ถูกฆ่าทิ้งเกือบ 2 ล้านตัว

    [​IMG]

    โซล 19 ม.ค. - คณะสงฆ์ในเกาหลีใต้กว่า 300 รูป ขอทำพิธีสวดทางศาสนาให้กับหมูและสัตว์อื่น ๆ เกือบ 2 ล้านตัว ที่ถูกฆ่ากำจัดทิ้งเพื่อป้องกันการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยครั้งรุนแรงที่สุดของเกาหลีใต้ในวันนี้

    คณะสงฆ์และเหล่าพุทธศาสนิกชนมาร่วมกันจัดพิธีสวดทางศาสนาที่วัดโช-กเย ซึ่งเป็นวัดพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ กระทรวงบริหารสาธารณะและความมั่นคงเกาหลีใต้ รายงานว่า สัตว์กว่า 1.93 ล้านตัวต้องถูกฆ่ากำจัดทิ้งนับตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่มีรายงานการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อย. - สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 20 ม.ค. 2554

    ยูเอ็นสั่งเพิ่มทหารรักษาสันติภาพอีก 2,000 นาย ในไอวอรีโคสต์

    [​IMG]

    สหประชาชาติ 20 ม.ค.-คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติเป็นเอกฉันท์ส่งทหารรักษาสันติภาพเข้าไปประจำการในไอวอรี โคสต์อีก 2,000 นาย เพื่อค้ำจุนการปฏิบัติหน้าที่รักษาสันติภาพจากการถูกโจมตีโดยกองกำลังที่จงรักภักดี นายโลรองต์ บักโบ ที่ไม่ยอมสละตำแหน่งประธานาธิบดี

    คณะมนตรีความมั่นคงยังได้มีมติให้ขยายเวลาประจำการชั่วคราวทหารรักษาสันติภาพจำนวน 400 นาย และตำรวจ 100 นาย ออกไปจากเดิมที่จะถึงกำหนดวันที่ 31 มีนาคมเป็น 30 มิถุนายน และยังได้สั่งเสริมกำลังเฮลิคอปเตอร์ทหาร 3 ลำ จากไลบีเรียมายังไอวอรี โคสต์ โดยให้ประจำการเป็นเวลา 4 สัปดาห์

    รายงานแจ้งว่า การสั่งประจำการทหารรักษาสันติภาพอีก 2,000 นาย ในไอวอรีโคสต์จะทำให้ทหารในกองกำลังรักษาสันติภาพยูเอ็นมีจำนวนเพิ่มเป็น 11,800 นาย ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังคงตึงเครียดเนื่องจากนายโลรองต์ บักโบ ยังคงยึดทำเนียบประธานาธิบดี ในขณะที่นายอลาสซาน วัตตารา ผู้นำฝ่ายค้านซึ่งนานาชาติรับรองว่าเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ก็ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยมีทหารสหประชาชาติประมาณ 800 นายคุ้มกัน อีกทั้งนำกระสอบทราย ลวดหนามและรถเกราะมาคุ้มครองความปลอดภัยอย่างเต็มที่

    คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แสดงความวิตกที่ยังเกิดความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่องในไอวอรีโคสต์ โดยเฉพาะการทำร้ายทหารรักษาสันติภาพของยูเอ็นและพลเรือน ขณะที่ความพยายามครั้งล่าสุดเพื่อแก้ปัญหาการเมืองก็ยังคงล้มเหลว โดยนายกรัฐมนตรีไรลา โอดินกา แห่งเคนยา ซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้เจรจาไกล่เกลี่ยของสหภาพแอฟริกัน กล่าวยอมรับหลังจากเยือนไอวอรีโคสต์เป็นเวลา 2 วันว่า ไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขข้อพิพาท

    นายกรัฐมนตรีของเคนยา กล่าวว่า นายโลรองต์ บักโบ ไม่ได้ทำตามสัญญาว่าจะยกเลิกการปิดล้อมโรงแรมที่นายวัตตารา ใช้เป็นฐานบัญชาการ ซึ่งการใช้กำลังทหารแก้ไขปัญหาอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทางด้านนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ เตือนว่า สถานการณ์ในขณะนี้อาจย่ำแย่ลงกลายเป็นความขัดแย้งอย่างกว้างขวาง โดยมีรายงานว่าผู้ที่จงรักภักดีต่อนายโลรองต์ บักโบ ได้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของทหารสหประชาชาติในการคุ้มครองความปลอดภัยของพลเรือน เลขาธิการยูเอ็นได้วิจารณ์การใช้สื่อโดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลเป็นกระบอกเสียงยั่วยุให้เกิดการต่อต้านทหารสหประชาชาติ.-สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 20 ม.ค. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2011
  10. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width=227 align=left><TBODY><TR><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>ภัยหนาวจัดคร่าชีวิตพระมรณภาพ
    ภัยหนาวคร่าชีวิตพระภิกษุรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 19 ม.ค. พ.ต.ท.ประวิทย์ จันทนา สวญ.สภ.คลองน้ำใส จ.สระแก้ว รับแจ้งมีพระภิกษุมรณภาพที่วัดผ่านศึก ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จึงรีบไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในกุฏิพบศพพระครูเกษม ธรรมาภิยุต วัย 86 ปี เจ้าอาวาสนอนอยู่บนเตียง ตรวจสอบตามร่างกายไม่มีบาดแผล คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง โดยที่ข้างศพมีสุนัขพันธุ์อัลเซเชียน สีดำ ชื่อ "เจ้าโดโด้" อายุ 8 ปี นอนเฝ้าอยู่ไม่ห่าง

    จากการสอบสวนพระลูกวัด ทราบว่า พระครูเกษม เป็นพระนักวิปัสสนาที่ชาวบ้านให้ความเคารพอย่างมาก เพราะตลอดระยะเวลา 37 ปี ที่เป็นเจ้าอาวาส ไม่เคยสร้างปัญหา ใช้ชีวิตอยู่อย่างสมถะ ไม่เคยสร้างวัตถุมงคลให้ใครหลงใหลบูชา แต่กลับพยายามสั่งสอนให้ชาวบ้านศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยเน้นให้ทุกคนเชื่อในการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว จนได้สมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นเอก ทั้งยังชอบเลี้ยงสุนัข โดยเฉพาะเจ้า "โดโด้" ที่มักจะไปไหนมาไหนกับเจ้าอาวาสเป็นประจำ โดยก่อนเกิดเหตุประมาณ 04.30 น. พระครูเกษม ได้ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นเดินกลับเข้ากุฏิ แล้วเงียบหายไป จนเมื่อถึงเวลาทำวัตรเช้ายังไม่ลงจากกุฏิ พระลูกวัดจึงเดินขึ้นไปตามก็พบว่ามรณภาพแล้ว

    เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเกิดจากอากาศที่หนาวเย็นทำให้โรคประจำตัวกำเริบ จึงมรณภาพ โดยหลังชาวบ้านทราบข่าวการละสังขารของพระเกษม ต่างรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้จะมีการตั้งบำเพ็ญกุศล 9 วัน และขอพระราชทานเพลิงศพต่อไป

    ด้าน นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. 2553 ถึง 9 ม.ค.นี้ มีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินหรือภัยหนาว รวม 35 จังหวัด 489 อำเภอ 3,930 ตำบล 49,135 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน ลำพูน เชียงราย เพชรบูรณ์ ตาก ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร สุโขทัย พิจิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี สกลนคร เลย ขอนแก่น นครพนม หนองคาย กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม บุรีรัมย์ อุบลราชธานี หนองบัวลำภู ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ นครราชสีมา ภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี

    นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือทาง ปภ.ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว ปี 2553-2554 ที่ ปภ. จังหวัด ปภ. อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกแห่ง เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว สำหรับการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติให้จังหวัดใช้รายงานการคาดหมายลักษณะอากาศ 7 วันเป็นรายจังหวัดของกรมอุตุนิยมวิทยาและมีสภาพอากาศหนาวหรือ 8.0-15.9 องศาเซลเซียส ถึงหนาวจัดหรือต่ำกว่า 8.0 องศาเซลเซียส เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา เพื่อให้สามารถนำงบประมาณในอำนาจของผู้ว่าฯ มาใช้ได้อย่างรวดเร็ว โดยจากการตรวจสอบพบว่ามีความต้องการเครื่องห่มกันหนาวสูงถึง 7,442,594 ชิ้น

    ส่วนที่ศาลาผูกเสี่ยวหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานรับมอบผ้าห่ม 3,790 ผืนจากภาคเอกชน เพื่อนำไปมอบต่อให้ชาวบ้านในพื้นที่ 10 อำเภอที่กำลังประสบความเดือดร้อนจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น

    โดย นายสมบัติ กล่าวว่า ขอนแก่นประสบปัญหาภัยหนาวที่หนักที่สุดในรอบ 30-40 ปี จากการตรวจสอบพบว่ามีชาวบ้านที่ต้องการเครื่องกันหนาวมากกว่า 2 แสนกว่าครัวเรือน ซึ่งทางจังหวัดกำลังเร่งให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้ประกาศในขอนแก่นเป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยหนาว) จำนวน 26 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง บ้านไผ่ พล น้ำพอง ชุมแพ ภูเวียง มัญจาคีรี หนองเรือ กระนวน หนองสองห้อง ชนบท สีชมพู แวงน้อย อุบลรัตน์ บ้านฝาง พระยืน เขาสวนกวาง แวงใหญ่ เปือยน้อย ภูผาม่าน ซำสูง โคกโพธิ์ไชย บ้านแฮด หนองนาคำ โนนศิลาและเวียงเก่า

    ด้าน นพ.วุฒิไกร ศักดิ์สุรกานต์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในช่วงนี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย จึงขอแนะนำให้ประชาชนทราบถึงการป้องกันภัยสุขภาพจากอากาศตามหลัก 3 กลุ่มเสี่ยง 4 ควรทำ 5 ควรเลี่ยง โดย 3 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค อาทิ เด็กเล็ก กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ส่วน 4 ควรทำ เช่น รักษาความอบอุ่นของร่างกายหรือเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สำหรับ 5 สิ่งควรเลี่ยง ได้แก่ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ อาทิ ดื่มสุรา นอนในที่แจ้งหรือคลุกคลีกับผู้ป่วย แต่หากเลี่ยงไม่ได้ควรล้างมือบ่อย ๆ หรือสวมหน้ากากอนามัย.
     
  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เหนือ-อีสานอากาศยังหนาวเย็น หมอกหนา เตือนระวังเรื่องการสัญจร กทม.เย็นสุด20องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 20 มกราคม 2554 ดังนี้


    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย

    ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ
    มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในหลายพื้นที่
    ตอนบน: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
    ตอนล่าง: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศา
    สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด
    อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
    ตอนบน: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
    ตอนล่าง: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศา
    สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา
    กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-21 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป: มีฝนเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศา
    โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น และมีหมอกในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2011
  12. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792

    แผนสร้างหมายเลขประจำตัวบนโลกไซเบอร์ เพื่อยกระดับความปลอดภัยการใช้งานอินเทอร์เน็ต ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กับมุมมองของผู้เชี่ยวชาญคนไทย กับการเปลี่ยนผ่านสู่การออนไลน์ที่ปลอดภัย...

    หลังจากประธานาธิบดีบา รัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ มีแผนช่วยป้องกันภัยจากโลกไซเบอร์ ด้วยการสร้างระบบหมายเลขประจำตัวบนอินเทอร์เน็ต "Internet ID"สำหรับชาวสหรัฐฯ ซึ่งระบบดังกล่าวจะภายใต้การควบคุมดูแลโดยกระทรวงพาณิชย์

    แนวคิด เรื่อง "เลขประจำตัวบนโลกไซเบอร์" ถูกชูขึ้นโดยนายฮาเวิร์ด ชมิดท์ เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว ว่าระบบดังกล่าวจะช่วยในการระบุตัวตนบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดของรัฐบาล หลังจากก่อนหน้านี้ มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับการแก้ปัญหาดังกล่าวมาก่อน โดยเป็นการทำงานร่วมกันของหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงความมั่นคง ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพ โดยสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริงหากโครงการนี้ถูกผลักกันสำเร็จ คือ รัฐบาลจะสามารถกำหนดตัวตนของผู้ใช้งานได้ รัฐบาลจะเป็นผู้ออกรหัสประจำตัวนั้นๆ แก่ประชาชน และประชาชนใช้เพียง 1 ล็อกอินก็สามารถใช้งานบริการและ ธุรกรรมออนไลน์ได้หมด ทั้งนี้มีเอกชนโดนเข้าร่วมสนับสนุนโครงการนี้แล้ว คือ เวอไรซอน กูเกิล เพย์พาล ไซแมนเทค และ เอทีแอนด์ที


    เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทีมงานไอทีไดเจสท์ ไทยรัฐออนไลน์ จึงได้สอบถามไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ และผู้ที่อยู่ในวงวงพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เกี่ยวกับเรื่องการที่สหรัฐ มีแนวคิดที่จะให้คนอเมริกัน มีหมายเลขประจำตัวอินเทอร์เน็ต ว่าเขามีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร บ้าง

    นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทตลาดดอทคอม จำกัด และผู้เชี่ยวชาญด้านอี-คอมเมิร์ซ ให้ความเห็นว่า สำหรับเรื่องหมายเลขประจำตัวอินเทอร์เน็ต ที่เป็นเรื่องฮือฮาในหมู่ผุ้ใช้งานอินเทอร์เน็ต และอีคอมเมิร์ซในสหรัฐอเมริกา ในมุมมองของผู้ประกอบการถือว่าจะเป็นตัวช่วยส่งเสริมการค้าขายออนไลน์ได้ อย่างมาก เพราะจะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือทั้งผู้ที่ขายสินค้าออนไลน์ และผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ สามารถตรวจสอบตัวตนได้ อันจะส่งผลให้กระตุ้นให้วงการอีคอมเมิร์ซเติบโต เนื่องจากข้อมูลของการศื้อขายที่อยู่อย่างกระจัดกระจาย จะถูกรวบรวมมารวมไว้ที่ศูนย์กลางอย่างเป็นระบบ


    ผู้เชี่ยวชาญด้านอี-คอมเมิร์ซ ให้ความเห็นต่อว่า แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ยังมีความกังวลใจ กับความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ที่ถูกจัดเก็บหากเก็บโดยองค์กร หรือหน่วยงานที่ไม่เป็นกลาง ข้อมูลผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเหล่านี้ จะเป็นข้อมูลที่มีมูลค่ามหาศาลหากปล่อยออกสู่ตลาดมืด จึงต้องตืดตามดูว่าหากมีการบังคับใช้งานจริง ทางรัฐบาลสหรัฐฯ โดยกระทรวงพาณิชย์ จะมีการกับกับดูแลในเรื่องนี้อย่างไร และเชื่อว่าสินค้าที่หมิ่นเหม่ต่อศีลธรรม เช่น หนังโป๊ หรือ เซ็กส์ช็อป คงจะไม่เข้าร่วมอยู่ในระบบแน่นอน เพราะคนที่ซื้อคงไม่มีใครอยากให้รัฐบาลรู้ว่าพวกเขาซื้อสินค้าเหล่านี้

    นาย ภาวุธ กล่าวเสริมว่า และเมื่อมีการบังคับใช้ Internet ID ในสหรัฐฯ ผู้ใช้งานที่อยู่ในเมืองไทยก็ย่อมต้องได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ แน่นอน เนื่องจากธุรกรรมด้านอีคอมเมิร์ซของสหรัฐมากกว่าครึ่ง มาจากต่างประเทศ ดังนั้นคงต้องรอดูความชัดเจนว่าทางสหรัฐฯ จะมีข้อกำหนด หรือ ระเบียบที่ออกมาเสริมในจุดนี้อย่างไรบ้าง แต่เชื่อได้ว่า เรื่องนี้คงจะเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงของรอยต่อทางเทคโนโลยีด้านอี-คอม เมิร์ซ ที่เดิมที่การซื้อขายไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้มากนัก ก็จะมีความชัดเจน คุณภาพการซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์จะดีขึ้น


    ส่วน มุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต อย่าง นายปริญญา หอมอเนก ให้ความเห็นว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้มีการเสนอ และดำเนินการ มานานแล้วแต่เป็นโครงการลับๆ พอมาถึงรัฐบาลของบารัค โอบามา จึงอยากทำให้เรื่องนี้กลายเป็น โครงการใหญ่ที่เปิดเผยเอามาอยู่บนดิน ด้วยการจะเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคนอเมริกัน แต่เรื่องนี้เท่าที่รับฟังมาจากชาวสหรัฐฯ จะถูกด่าถูกว่ามากว่า เพราะ Internet ID ไม่เหมือนกับการออกเลขประจำตัวประชาชน เพราะโครงการนี้ทางรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ มาทำร่วมกับเอกชน โดยให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนพัฒนาระบบ แล้วรัฐบาลจะเป็นคนเก็บข้อมูล

    ผู้ เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ กล่าวอีกว่า ในวงการความปลอดภัยด้านไอทีคาดว่าในอีก 1-2 ปีจากนี้ ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวบนโลกไซเบอร์จะเป็นเรื่องที่สวนทางกัน เพราะรัฐบาลต้องการความปลอดภัยในระดับชาติ แต่ตัวผู้ใช้งานต่างต้องการความเป็นส่วนตัว ยกตัวอย่างที่ชัดเจน คือ การที่ รัฐบาลบางประเทศ ต่อต้้านบริการแบล็กเบอร์รี่ เพราะตัวรัฐบาลไม่สามารถเก็บข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ไว้ได้เอง ทำให้ไม่สามารถรู้ได้ว่าใครสนทนาอะไร ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ส่วนประเทศไทย ระบบอะไรที่มีการป้องกัน มึีความปลอดภัยอย่างดีก็ไม่ชอบ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องรอดูตอนจบว่าจะออกมาเป็นอย่างไร


    นายปริญญา กล่าวด้วยว่า เหตุผลที่สหรัฐฯ ต้องมีการพูดถึงแนวคิด Internet ID เนื่องจากพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ต และการใช้บัตรเครดิตของชาวอเมริกันที่ค่อนข้างหล่ะหลวม ปล่อยปละละเลยความปลอดภัย ทำให้เกิดความเสียหาย จากการตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่ประสงค์ดี ขโมยความเป็นตัวตน และข้อมูลบัตรเครดิตไป สร้างความเสียหายต่อสถาบันการเงิน จนขณะนี้ เลยมีการหันมาใช้บัตรเครดิตแบบพรีเพด เพื่อใช้ซื้อสินค้าเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงการซื้อของภายในเกมที่เล่นบนเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ อย่างเฟซบุ๊ก เป็นต้น

    วันนี้เรื่อง Internet ID ยังเป็นสิ่งที่ไกลตัวคนไทย แต่ภัยคุกคามด้านความปลอดภัยกลับอยู่ใกล้เราแค่ตรงข้างหน้ากับอีก 1 มือคลิกเมาส์ เท่านั้น คงต้องมาตามดูว่าแนวคิดเรื่องนี้จะสามารถถูกผลักดันให้เกิดขึ้นมาบังคับใช้ ได้จริงๆ หรือ ไม่ แล้วเมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว คนไทยจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง ตามติดตามรอดูกันไปยาวๆ ดีกว่า

    ไอทีไดเจส ไทยรัฐออนไลน์
     
  13. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    Toey Chuntarica
    เพื่อน ของ ณ (ลูกชายฝน) อยู่จิตรลดา ป.3 ป่วยเป็นไขกระดูกฝ่อ ต้องเปลี่ยนเกล็ดเลือดทุก 2 วัน ใครบริจาคเลือดได้ ช่วยหน่อยนะคะ กรุ๊ปอะไรก็ได้ บริจาคได้ที่ ร.พ. ศิริราช ศาลา 100 ปี หรือที่สภากาชาด โปรดระบุชื่อผู้รับ มล. อธิวัฒน์ ยุคล รพ ศิริราช HN 52-778444 นะคะ รบกวนด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ




    ------------------------------------------------

    โรคภัยไข้เจ็บมากขึ้นเรื่อยๆครับ รักษาสุขภาพกันเอาไว้ด้วย ช่วงสามวันก่อนมีปริมาณเชื้อโรคมาในลมฟ้าอากาศ มาก จนหลายคนป่วยครับ
     
  14. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    สาละวินโพสต์รายงาน หิมะตกหนักที่ "รัฐคะฉิ่น" ชายแดนด้านเหนือของ "พม่า"



    [​IMG]




    [​IMG]




    เว็บไซต์นิตยสารสาละวินโพสต์ (สาละวินโพสต์แบ่งปันความเข้าใจสู่เพื่อนบ้าน) รายงานว่า หิมะที่กำลังตกหนักตรงบริเวณหุบเขาปันวา ในรัฐคะฉิ่น ใกล้กับชายแดนจีน กำลังส่งผลกระทบให้อาคารบ้านเรือน รวมถึงสำนักงานศุลกากรของทางการพม่าพังเสียหายหลายหลัง และทำให้การเดินทางสัญจรไปมาเป็นไปอย่างยากลำบาก

    "เราไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน หิมะตกอย่างกับฝนตกหนัก นั่นจึงทำให้อาคารหลายหลังพังเสียหายลงมา แม้จะยังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่ก็มีการปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเดินทางเข้าออกตรงบริเวณที่เกิดเหตุแล้ว" ชาวบ้านในพื้นที่กล่าว

    ขณะที่การเดินทางสัญจรไปมาในเมืองชีพวย เมืองที่อยู่ถัดไปก็เป็นไปอย่างทุลักทุเลเช่นกัน เนื่องจากตามถนนเต็มไปด้วยหิมะและลูกเห็บ มีรายงานเช่นกันว่า ผู้สูงอายุเป็นจำนวนมากในเมืองบ่าหม่อเกิดอาการช็อก เป็นเพราะอุณหภูมิที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

    ด้านนายทุน ลิน จากกรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาในย่างกุ้งรายงานเมื่อต้นเดือนนี้ว่า มวลอากาศเย็นจะปกคลุมทางตอนเหนือของรัฐคะฉิ่นอย่างต่อเนื่องระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม โดยอุณหภูมิในพื้นที่จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ขึ้นอยู่กับความเร็วลมและทิศทางลมจากพื้นที่สูงในประเทศจีน

    มีรายงานเช่นเดียวกันว่า นับตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้วถึงเดือนมกราคม พื้นที่สูงทางภาคตะวันตก ภาคเหนือและภาคตะวันออกของพม่ามีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง โดยในเมืองฮักคา เมืองมินดาด ในรัฐชิน เมืองหลอยแหลมและเมืองป๋างโหลง ทางใต้ของรัฐฉานพบว่ามีอุณหภูมิติดลบในตอนกลางคืนด้วยเช่นกัน



    สาละวินโพสต์รายงาน หิมะตกหนักที่ "รัฐคะฉิ่น" ชายแดนด้านเหนือของ "พม่า" : มติชนออนไลน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2011
  15. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>จับเจ้าอาวาสวัดดังลำปาง สึกบกเที่ยวโอเกะ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    คมชัดลึก :ตำรวจรวบเจ้าอาวาสวัดดัง คาร้านคาราโอเกะ กลางเมืองลำปาง หลังสึกบกจ้างคนสนิท ขับเก๋งมาส่ง นั่งซดเบียร์ หน้าแดงกล่ำ สารภาพเป็นเจ้าอาวาส มาแล้วเที่ยวหลายครั้ง




    เมื่อเวลา 22 .30 วันที่ 20 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจสภ.เมืองลำปาง รับแจ้งจากพลเมืองดี ทาง 191 ว่า พบชายหัวล้าน คล้ายพระสงฆ์ เข้าไปนั่งดื่มสุรา ที่ร้านอาหารโพธิ์เงิน คาราโอเกะ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังสถานีโทรทัศน์ ช่อง 11 ลำปาง เขตเทศบาลนครลำปาง หลังจากนั้น จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึง ที่โซฟา ภายในร้าน เจ้าหน้าที่พบ ผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 50 ปี สวมเสื้อยืดแขนยาวทับด้วยเสื้อหม้อฮ่อมสีน้ำเงินกางเกงสีเทา ศรีษะโล้น กำลังนั่งดื่มเหล้า หน้าตาแดงกล่ำ กับผู้ชายอีกคน พอเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบถาม และมีกลิ่นเบียร์ คละคลุ้งไปทั่ว และพูดจาวกไปวนมา เมื่อเจ้าหน้าที่เค้นถามความจริง ชายคนดังกล่าว จึงยอมรับสารภาพว่า ตนเองคือ พระอธิการยงยุทธ ปัญญาวะโร อายุ 52 ปี ตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดดอนมูล ซึ่งอยู่ในพื้นที่อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง



    จาการสอบสวนนายสุพรรณ ศูนย์กลาง อายุ 52 ปี ซึ่งนั่งดื่มสุราอยู่กับพระอธิการยงยุทธ กล่าวว่า รู้จักกับพระอธิการยงยุทธ และในวันนี้ ได้จ้างให้ตนขับรถเก๋งทะเบียน กข 4963 ลำปาง ซึ่งเป็นรถของวัดดอนมูล โดยได้ค่าจ้างมาส่งเที่ยวที่ร้านคาราโอเกะ แห่งนี้ ในราคา 200 บาท ซึ่งก่อนที่จะมาที่ร้านได้สึกบก เปลี่ยนชุดเป็นชุดฆารวาส โดยเอาจีวรซ่อนในรถ และเพิ่งมาถึงร้าน และพระได้สั่งเบียร์ทานไป 1 ขวดและสั่งกับแกล้มเป็นยำวุ้นเส้น 1 จาน นั่งทานได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็มีลูกค้าที่มาใช้บริการในร้านคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกค้า ขาประจำ ได้มาเที่ยวหลายครั้งแล้ว และเกิดความสงสัยและมองหน้าหลายครั้งว่า คนที่นั่งกับตน มีลักษณะคล้ายพระสงฆ์ เพราะทุกครั้งที่มาเจอกัน พระอธิการยงยุทธ มักจะสวมใส่หมวกไหมพรมและไม่มีคิ้ว ทุกครั้งมาเที่ยวร้าน คิดว่าคงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว จากการตรวจสอบภายในรถเก๋งคันดังกล่าว จึงทราบว่ารถคันนี้ยังเป็นรถของเจ้าอาวาส


    นอกจากนี้ยังพบกระป๋องเบียร์เปล่าวางอยู่ที่ คอลโซล 1 กระป๋อง และที่ใต้เบาะผู้โดยสารฝั่งซ้ายพบจีวรพระยัดอยู่ใต้เบาะรถอีก 1 ผืนเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานพอจนมุมต่อหลักฐาน พระอธิการยงยุทธ ได้โวยวาย ท้าทายนักข่าวบอกว่า ไม่กลัวถ่ายได้เต็มที่ทุกช่องเลยเพราะอยากดังอยู่แล้ว ซึ่งกว่าจะยอมออกจากร้านใช้เวลานับชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไป สภ.เมืองลำปาง เพื่อสงบสติอารมณ์ ไม่นานนักได้มี นาง สุกัญญา ค้าคำตัน อายุ 32 ปี เป็นเจ้าของร้าน คาราโอเกะ โพธิ์เงิน ก็ได้เข้ามาแจ้งความว่า เพราะว่าพระอธิการยงยุทธ ยังไม่ได้จ่ายเงิน ค่าเบียร์ และค่าเด็กนั่งดริ้งค์ กับยำวุ้นเส้นอีก 1 จาน รวมเป็นเงิน 270 บาท


    ขณะเดียวกัน พระอธิการยงยุทธ ยังหยิบหวยชุดมาคุยกับตำรวจว่าตนเองซื้อหวยทุกงวด งวดละ หลายชุด ถูกหวยมา 4 งวดซ้อนแล้ว และมีเงินมาเที่ยวอย่างสบาย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินคดี และจะได้ควบคุมตัวพระดังกล่าวไปทำการสึก กับรองเจ้าคณะจังหวัดลำปาง ต่อไป





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ความกดอากาศสูงจากจีนปกคลุมอีสาน ตอนบนหนาวเย็นต่อ หมอกหนา กทม.เย็นสุด19องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 21 มกราคม 2554 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ในวันนี้ (21 ม.ค.54) ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีกกับมีหมอกหนาในบางพื้นที่

    สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะมีกำลังแรงขึ้นในวันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.54) ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้นและคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในหลายพื้นที่
    ตอนบน: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
    ตอนล่าง: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศา
    สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกในตอนเช้า
    ตอนบน: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา
    ตอนล่าง: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศา
    สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศา กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป: มีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น และมีหมอกในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>รวบพระปลอมออกบิณฑบาตแถวชลบุรี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 มกราคม พ.ต.อ.สุกิตติ ไสวเกียรติ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี แถลงข่าวการจับกุมพระอาทิตย์ ซอนซี อายุ 20 ปี พระลูกวัดผาสุข ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี อยู่บ้านเลขที่ 114/27 หมู่ 7 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี และนายอนุวัฒน์ นาชกิตติศักดิ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ต.พนัสนิคม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี และสามเณรสมพงษ์ อินทะ พระลูกวัดผาสุข ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี ขณะเดินบิณฑบาตอยู่บริเวณหน้าวัดกลาง ต.มะขามหย่ง อ.เมือง จ.ชลบุรี
    เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนมาว่า มีพระปลอมออกบิณฑบาตทุกเช้า จึงได้ให้ตำรวจเฝ้าดูพฤติการณ์จนกระทั่งพบว่าเป็นความจริง จึงได้จับกุมพระอาทิตย์ซึ่งเป็นพระปลอม และสามเณรสมพงษ์ไปตรวจปัสสาวะพบว่ามีสีม่วง และรับสารภาพว่าเสพยาบ้าก่อนออกบิณฑบาต จึงได้จับสึกพร้อมทั้งดำเนินคดีในข้อหาแต่งกายเลียบแบบพระและเสพยาเสพติด

    จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ว่าจ้างให้นายเฉลิม หนูเสริม อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/1 หมู่ 3 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี ขับรถยนต์อีซูซู สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน 2ท 9556 ชลบุรี มารับ ได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท ค้นในรถพบปืนขนาด 9 มม. พร้อมกระสุน 20 นัด จึงได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>จับสึก! สามเณรแต๋วโชว์คลิป วัดดัง"มหาสารคาม"แจ้งความทำเสียชื่อเสียง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เมื่อวันที่ 20 มกราคม นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีคลิป "เรื่องลับๆ ของเธอ The Show" และ "เรื่องลับๆ ของเธอ The Show 2"

    ซึ่งเป็นภาพเคลื่อนไหวของเด็กชายลักษณะโกนศีรษะ นุ่งผ้าคล้ายสบง และห่มผ้าคล้ายจีวร คล้ายสามเณร กำลังเต้นรำ พูดคุย และโชว์หน้ากล้องด้วยอากัปกิริยากระตุ้งกระติ้งคล้ายกะเทย ว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) มหาสารคาม ว่า ผู้ที่ปรากฏในคลิปเป็นสามเณร 4 รูปที่บวชในวัดบรบือสราราม จ.มหาสารคาม ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ปี 2553 ได้ร่วมกระทำพฤติกรรมดังกล่าวจริง และได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ แต่สามเณร 2 ใน 4 รูปนั้นมีนิสัยเกเรไม่ยอมจำวัดและไปจำวัดที่อื่น บางครั้งแต่งชุดฆราวาสไปเที่ยว ดังนั้นสามเณร 2 รูปที่เหลือจึงไปฟ้องเจ้าอาวาส ทำให้สามเณร 2 รูปที่กระทำความผิดเลยแก้แค้นโดยนำคลิปดังกล่าวมาโพสท์บนเว็บไซต์ ขณะนี้ตรวจสอบเบื้องต้นสามเณร 2 รูปที่นำคลิปดังกล่าวไปโพสท์ 1 รูป อยู่ที่ อ.โกสุมพิสัย ส่วนอีก 1 รูปยังอาศัยอยู่ที่วัด


    "ขณะนี้สามเณร 2 รูปที่อยู่ที่วัดนั้น ทางวัดลงโทษให้สึกแล้ว ส่วนอีก 2 รูปที่นำวีดีโอไปโพสท์ ทางวัดได้ให้สึกและแจ้งความดำเนินคดี ฐานทำให้วัดเสียชื่อเสียงเช่นกัน" นายนพรัตน์กล่าว





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พศ.เอาจริงจัดการพระธุดงค์ปลอม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    พศ.สั่งฟันพระธุดงค์ปลอม เจอจับส่งตำรวจ แนะพระธุดงค์จริงต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าคณะปกครองในพื้นที่

    จากกรณีประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับ มีพระธุดงค์ระบาดออกเรียไร่ บิณฑบาตเก้าโมงเช้ายันเที่ยง หวั่นเป็นมิจฉาชีพนั้น เมื่อวันที่ 20 ม.ค. นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวภายหลังการประชุมมส.ว่า ขณะนี้พศ.ได้ส่งส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา ออกตรวจตามที่พื้นที่ที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามา ซึ่งหากพบพระธุดงค์ ก็จะมีการตรวจสอบว่ ได้มีการขออนุญาตเจ้าคณะปกครองว่ามีจุดหมายปลายทางที่ไหน แล้วได้รายงานให้เจ้าคณะปกครองในพื้นที่ทราบหรือยัง หากพบว่า ไม่ได้ขออนุญาต ถือว่ามีความผิด และเมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีใบสุทธิ เป็นพระปลอม พศ.จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ถือว่าเป็นมิจฉาชีพออกหลอกลวงประชาชน

    นายนพรัตน์ กล่าวต่อไป ตนอยากให้สังเกตพฤติกรรมของพระธุดงค์ หากเป็นพระธุดงค์จริง จะไม่อยู่ในพื้นที่นานเป็นสัปดาห์ โดยจะเข้าเมืองมาบิณฑบาตเพียงชั่วคราวเท่านั้น จะไม่อยู่นานเช่นนี้

    ซึ่งขณะนี้ตนได้รับทราบจากประชาชนว่า พระเหล่านี้ ไม่มีพฤติกรรมเหมือนกันพระธุดงค์ที่อยู่ในสมณสารูป มีจริยาที่เหมาะสม นอกจากนี้ พศ.กำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลของพระทั่วประเทศ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบประวัติ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้ว 80 % ในขณะเดียวกัน ตนได้มีนโยบายการเก็บรวบรวมข้อมูลพระสงฆ์ที่บวชตั้งแต่ 3 พรรษาขึ้นไปก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการจัดเก็บ เนื่องจากปัจจุบันมีพระที่บวชชั่วคราวเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดปัญหาในการจัดเก็บข้อมูล ดังนั้น จึงให้เริ่มเก็บพระที่มีพรรษา 3 พรรษาขึ้นไปก่อน จากนั้นค่อยมาเก็บไล่ลงมาที่ 2 พรรษา 1 พรรษา ตามลำดับ

    “หากเราตรวจสอบว่า เป็นพวกมิจฉาชีพ เราจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับพวกที่มาใช้ศาสนาหากินกับประชาชนและทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมจะต้องจับส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

    แต่ถ้าเป็นพระจริง ก็จะให้พระวินยาธิการดำเนินการ ตักเตือนและลงโทษตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ผมหวังว่า เมื่อระบบจัดเก็บข้อมูลพระสงฆ์เสร็จ จะทำให้การตรวจสอบข้อมูลพระสงฆ์ที่กระทำผิดง่ายขึ้น แต่ยอมรับว่า ปัญหาเหล่านี้คงไม่หมดไป เพราะมิจฉาชีพมักจะหาวิธีการใหม่ๆมาหลอกลวงประชาชน ดังนั้น ผมเน้นย้ำว่า เมื่อเห็นพระธุดงค์มีพฤติกรรมน่าสงสัย เราไม่ควรไปใส่บาตร เพื่อเป็นการตัดช่องทางทำมาหากินหากเป็นมิจฉาชีพ”ผอ.พศ.กล่าว




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ตื่น..หิมะตกที่พม่า-คาดกระทบช่วงตรุษจีน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    อากาศหนาวจัดและหิมะตกหนัก ในจีน กระทบคนเดินทางกลับบ้านช่วงตรุษจีน แตกตื่นหิมะตกที่ภาคเหนือพม่า

    วันนี้ 21 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศหนาวจัดและหิมะตกหนักทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของจีน ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่เตรียมเดินทางกลับบ้านในเทศกาลตรุษจีน สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี รายงานว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากหิมะตกหนักและสภาพอากาศหนาวเย็น คือ มณฑลเหอหนาน ยูนนาน และอานฮุย ซึ่งหิมะตกหนักต่อเนื่อง จนทางการท้องถิ่นต้องประกาศปิดสถานศึกษาอย่างไม่มีกำหนด เที่ยวบินจำนวนมากที่สนามบินหลายแห่งในเมืองหางโจว รวมถึงเทศบาลนครฉงชิ่ง ต้องเลื่อนหรือยกเลิกการเดินทาง ทำให้ผู้โดยสารตกค้างหลายพันคน คาดว่าปีนี้จะมีผู้คนเดินทางกลับบ้านเกิดร่วม 230 ล้านคน ซึ่งเท่ากับจำนวนประชากรทั้งประเทศของอินโดนีเซีย

    ขณะที่หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของจีน คาดว่าจะยังคงมีหิมะตกหนักและอากาศหนาวต่อไปจนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนต้นเดือนหน้า ทำให้เชื่อว่าประชาชนจำนวนมากจะได้รับผลกระทบจากการเดินทางกลับบ้าน

    ล่าสุด หิมะได้ตกหนักทางตอนเหนือของประเทศพม่า สร้างความแตกตื่นต่อผู้พบเห็น และสร้างความเสียหายกับบ้านเรือนประชาชน

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    19 ม.ค. 54


    SuperMan

    ในภาพผมได้เข้าไปโรงภาพยนต์เพื่อจะชมภาพยนต์เรื่อง SuperMan เมื่อเข้า
    ไปแทนที่จะเป็นภาพยนต์เรื่อง ซุปเปอร์แมน กลับเป็นเสียงเพลงสรรเสริญพระ
    บารมีแทน เมื่อเพลงจบ(ภาพยนต์) เพลงสรรเสริญพระบารมีที่จะมีปิดท้ายเมื่อ
    ภาพยนต์จบลงก็ดังขึ้น(อีกครั้ง)

    ผมคงตีความหมายตอนนี้ไม่ได้(ความจริงพอจะรู้)ขอให้เรื่องเกิดตามสัญญาณ
    แล้วค่อยเปิดเผยความหมายทีหลัง




    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คำทำนายเหตุการณ์ดีร้ายจากวันสงกรานต์

    [​IMG]

    คำทำนายเหตุการณ์ดีร้าย

    สงกรานต์วันอาทิตย์ ผลผลิตทุกอย่าง ได้แสนโสภางค์ ออกผลมากมาย ของมิสูงแพง มิแล้งรู้หมาย ตามคำทำนาย บ่งไว้เช่นนี้ หมายถึง ผลผลิตต่างๆดี ข้าวของไม่แพง

    สงกรานต์วันจันทร์ รู้มั่นเชิงมี ข้าลากมากชี้ ช่องแพ้ ท้าวพระยา อีกเสนาบดี เด่นดีนักหนา จงทราบกิจจา ข้อเค้ากล่าวไว้ หมายถึง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ตลอดจนคุณหญิงคุณนายจะเรืองอำนาจ

    สงกรานต์วันอังคาร และวันเสาร์ ผ่านเข้าเสาร์นัย ระวังเจ็บไข้ ขโมยมากมี แถมพระเพลิงร้อน ห่อนได้หลีกหนี เข้าบุกคลุกคลีแก่เหล่าอาณา หมายถึง โจรผู้ร้ายจะชุกชุม เกิดการเจ็บไข้ร้ายแรง

    สงกรานต์วันพุธ สุดแสนเปรมปรา ลาภยุคท้าวพระยา มาจากต่างเมือง ลูกอ่อนก่อเหตุ อาเพศขุ่นเคือง มักจะเกิดเรื่อง ให้เร่งระวัง หมายถึง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะได้รับการยกย่องจากต่างประเทศ

    สงกรานต์วันพฤหัสบดี เรื่องขัดข้องตั้ง แพ้ท้าวพระยา หวังล้วนไม่สู้ดี พระสงฆ์ทรงศีล ถูกปีนป่ายชี้ เดือดร้อนเหลือที่ ให้ตั้งทางธรรม หมายถึง ผู้น้อยจะแพ้ผู้เป็นใหญ่และเจ้านาย

    สงกรานต์วันศุกร์ ทุกข์หมดปลดช้ำ ข้าวปลาเหลือล้ำ อุดมสมบูรณ์ ระวังเจ็บตา ฝนพายุพูน เด็กล้วนประมูล มากโทษให้แล หมายถึง พืชพันธ์ธัญญาหารจะอุดมสมบูรณ์ แต่ฝนชุกพายุพัดแรง ผู้คนจะเป็นโรคตาและเจ็บไข้กันมาก

    นอกเหนือไปจากคำทำนายข้างต้น อันเน้นเรื่องวันที่ ที่พระอาทิตย์ยกสู่ราศีเมษที่เรียกว่า “วันมหาสงกรานต์” ว่าตรงกับวันใด มีคำนายว่าอย่างไรแล้ว ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ยกเข้าสู่ราศีเมษ ก็มีคำนายไว้ด้วยเช่นกัน โดยกำหนดเป็นอิริยาบถที่นางสงกรานต์ขี่พาหนะมา มีอยู่ ๔ ท่า ซึ่งตามความเชื่อโบราณบอกไว้ว่า ดังนี้

    คำทำนายเหตุการณ์ดีร้าย

    ๑. ถ้าพระอาทิตย์ยกสู่ราศีเมษ ในระหว่างเวลารุ่งเช้าจนถึงเที่ยง นางสงกรานต์จะยืนบนพาหนะ และถ้ายืนมา มีความเชื่อว่า ปีนั้น คนจะเกิดความเดือดร้อนเจ็บไข้

    ๒. ถ้าพระอาทิตย์ยกสู่ราศีเมษ ในระหว่างเที่ยงจนถึงค่ำ นางสงกรานต์จะนั่งบนพาหนะ ถ้านั่งมา มีความเชื่อว่า ปีนั้น จะเกิดความเจ็บไข้ ผู้คนล้มตายและเกิดเหตุเภทภัยต่างๆ

    ๓. ถ้าพระอาทิตย์ยกเข้าสู่ราศีเมษ ระหว่างค่ำไปจนถึงเที่ยงคืน นางสงกรานต์จะนอนลืมตาบนพาหนะ ถ้านอนลืมตา มีความเชื่อว่า ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข

    ๔. ถ้าพระอาทิตย์ยกเข้าสู่ราศีเมษ ระหว่างเที่ยงคืนไปจนถึงรุ่งเช้า นางสงกรานต์จะนอนหลับตาบนพาหนะ ถ้านอนหลับตา มีความเชื่อว่า พระมหากษัตริย์จะเจริญรุ่งเรืองดี

    ที่มา http://www.mahamodo.com/knowledge/water_festival.aspx

    ประกาศวันสงกรานต์ ปีพุทธศักราช ๒๕๕๔

    [​IMG]
    นางสงกรานต์ชื่อกิริณีเทวี เสด็จนั่งมาบนหลังช้าง

    ปีเถาะ ตรีศก จันทรคติเป็นปกติมาส ปกติวาร สุริยคติเป็นปกติสุรทิน วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๔ เมษายน เวลา ๑๓ นาฬิกา ๓๓ นาที ๓๖ วินาที ตรงกับเวลา ๑๓ นาฬิกา ๕๑ นาที ๓๖ วินาที (เวลามาตรฐานประเทศไทย)

    นางสงกรานต์นามว่า กิริณีเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่วงา หัตถ์ขวาทรงขอช้าง หัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จนั่งมาเหนือหลังกุญชร(ช้าง)เป็นพาหนะ

    เกณฑ์พิรุณศาสตร์ปีนี้ พุธ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก ๖๐๐ ห่า ตกในเขาจักรวาล ๒๔๐ ห่า ตกในป่าหิมพานต์ ๑๘๐ ห่า ตกในมหาสมุทร ๑๒๐ ห่า ตกในโลกมนุษย์ ๖๐ ห่า เกณฑ์นาคราชให้น้ำปีเถาะ นาคราชให้น้ำ ๒ ตัว

    ที่มา http://www.myhora.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 550000004247301.jpg
      550000004247301.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53 KB
      เปิดดู:
      1,448
    • images.jpg
      images.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.5 KB
      เปิดดู:
      4,592
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2011
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,700
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** อย่าลืม สัจจะ ****

    สัจจะ มีผลตอบแทน
    ถ้าขาดสัจจะ ก็ไม่มีแก่นสารติดตัว

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คำทำนายดวงเมืองปี พ.ศ.2554
    จาก อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ

    [​IMG]

    อ.ภิญโญ เตือนจับตาต้นปี "4 ม.ค.54" เป็นต้นไป เค้าลางความวุ่นวายจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปถึงพฤษภาคม ปีนี้มีอุปราคาเกิดขึ้นถึง 6 ครั้ง ให้ระวังปัญหาไฟไหม้ครั้งใหญ่ การวางเพลิง การก่อกวน คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ภัยสงคราม โรคระบาดใหม่ และการสูญเสียบุคคลสำคัญในระดับสูง ดินฟ้าอากาศแปรปรวน แล้ง-ท่วม หนักกว่าปี 2553

    เกิดสุริยุปราคา 6 ครั้ง
    สูญเสียผู้นำศาสนา-อุบัติภัย

    อาจารย์ "ภิญโญ พงศ์เจริญ" ผู้บุกเบิกการทำนายชะตาด้วยโหราศาสตร์ไทยผนวกกับการเกิดอุปราคาในบอกว่าปี 2554 นี้จะเกิดปรากฏการณ์ "อุปราคา" ถึง 6 ครั้ง แต่ละครั้งจะส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับน้ำและไฟ ปัญหาอุบัติเหตุหมู่ โดยเฉพาะการเกิดอุปราคาในครั้งแรกวันที่ 4 ม.ค.54 จะเป็นการเกิดอุปราคาเป็น "สุริยุปราคา" จะเริ่มเห็นเค้าลางไม่ดี เช่นจะมีเหตุการณ์การเกิดการสูญเสียผู้นำในวงการศาสนา เกิดปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับนิกายต่างๆ เกิดพายุครั้งใหญ่ เกิดมีอุบัติเหตุครั้งสำคัญ มีอุบัติภัยทางทะเลและทางอากาศ บังเกิดความยุ่งยากจากต่างประเทศและมีปัญหาเกี่ยวกับดินแดนอาณาเขตที่มีแนวโน้มจะบานปลาย"

    บ้านเมืองไม่สงบตั้งแต่ต้นปี

    ดวงชะตาบ้านเมืองในปี 2554 จะเกิดปัญหาบ้านเมืองไม่สงบ เกิดปัญหาการนัดหยุดงาน เกิดการประท้วง ตั้งแต่ต้นปี ไปจนถึงปลายเดือนเมษายน 2554 จากนั้นเมื่อดาวพฤหัสฯ ย้ายออก บ้านเมืองจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติในเดือนพฤษภาคม แต่จะต้องจับตาว่าวงการการเมืองจะรัฐบาลจะสามารถ "กุมอำนาจ" ได้ต่อไปหรือไม่ เพราะหากหาทางออกที่ดีได้บ้านเมืองจะก้าวเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ก็กินเวลาเพียงแค่ 4 เดือนคือตั้งแต่เดือนมิถุนายน " สิงหาคม 2554

    เกิดพายุหมุน

    เมื่อก้าวเข้าสู่เดือนตุลาคม 2554 รัฐบาลหรือผู้เกี่ยวข้องต้องเตรียมพร้อมเรื่องสาธารณภัยเพราะปีนี้จะเกิดปัญหาภัยธรรมชาติครั้งใหญ่และจะมีความรุนแรงกว่าปีที่แล้วมาก โดยเฉพาะปัญหาการเกิดพายุหมุน พายุขนาดใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นจะมีให้เห็นในปีนี้

    เกิดปัญหาน้ำท่วมทั่วประเทศ ซึ่งในปีที่ผ่านมาถือว่าท่วมหนักกว่าปี 2553 และจะเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลจะต้องมีการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับเรื่องไฟและน้ำในโครงการต่างๆ และมีการจัดเก็บภาษีอากรเพิ่มขึ้น จะกระทบกระเทือนการดำรงชีวิตของประชาชน

    โรคระบาดหนักปลายปี

    ผลจากปัญหาภัยธรรมชาตินี้จะเริ่มปรากฏชัดเจนตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมไปจนถึงปลายปี ยังเป็นสาเหตุของการเกิดโรคทางปากและทางเท้า จะเกิดโรคภัยไข้เจ็บระบาด มีเชื้อโรคใหม่เกิดขึ้น ประชาชนจะเจ็บป่วย มีโรคภัยไข้เจ็บแพร่หลายเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลและผู้นำระดับสูงจะออกมาแสดงบทบาทให้ความช่วยเหลือประชาชนไม่เช่นนั้นจะถูกชุมนุมกดดันประท้วงอย่างหนัก

    ระวัง มิ.ย. อุบัติภัยรุนแรง

    แม้ประเทศไทยจะตั้งอยู่บนรอยเลื่อนหลายแห่ง แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศที่ดีทำให้เหตุการณ์แผ่นดินไหวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตมากนัก แต่คนที่อยู่ทางภาคเหนือ ภาคตะวันตกและภาคกลางบางส่วนต้องระวัง จะพบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะจากการโคจรของดวงจันทร์ที่จะเกิดจุดจันทร์ดับในวันที่ 2 มิถุนายน เวลา 04.03 น.ถือเป็นสุริยุปราคา จะก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับความเสียหายเกี่ยวกับแผ่นดิน การสูญเสียที่ดิน แผ่นดินไหว แผ่นดินทรุดและถล่ม อาคารตึกรามบ้านช่องสิ่งก่อสร้างพังทลาย พืชผลทางการเกษตรเสียหาย ดินแดนอาณาเขตมีปัญหา รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับน้ำ ใช้ในการอุปโภคบริโภค การเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตรที่ต้องแก้ไข

    เกิดโรคภัยระบาดมีคนล้มตายเพิ่มขึ้น บุคคลสำคัญของประเทศถึงแก่กรรม เกิดการฉกฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบเกิดขึ้นทั่วไป จนทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างชนชั้นมากขึ้น เกิดปัญหาว่างงาน การประท้วง นัดหยุดงานครั้งใหญ่ ธุรกิจและการงานประสบกับปัญหา เช่น การขาดทุน งานบริการที่เคยโดดเด่นกลับทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด

    ภัยทะเล-อากาศ

    ที่ต้องต้องระมัดระวังเป็นพิเศษสำหรับการเกิดอุปราคาครั้งนี้ คือจะมีอุบัติภัยทางทะเลและทางอากาศ อากาศยานตกได้รับความเสียหาย บังเกิดความยุ่งยากจากต่างประเทศแดนไกลและดินแดนอาณาเขต เนื่องจากเป็นจันทรุปราคาในเรือนศุภะ จึงควรดูแลสุขภาพอนามัยของผู้นำทางจิตวิญญาณและสตรีผู้สูงศักดิ์ให้ดี เพราะจะเจ็บป่วยหรือสูญเสีย นำความเศร้าโศกมาสู่ประชาชนได้

    สูญเสียบุคคลสำคัญการเงิน

    สุขภาพของประชาชนและโครงการเกี่ยวกับสุขภาพของประชาชนถูกกระทบกระเทือน รัฐบาลอับโชค นายกรัฐมนตรี รัฐบุรุษ และผู้นำในระดับสูง รวมไปถึงผู้ปกครองที่ดำรงอำนาจอยู่จะเกิดอันตราย บุคคลที่มีชื่อเสียงจะป่วยหนักหรือถึงแก่กรรม การเงินของประเทศจะถูกกระทบกระเทือนได้รับความเสียหาย บังเกิดความล้มเหลวทางการเงินและการค้าครั้งใหญ่ อาจเกิดขึ้นส่งผลกระทบไปทั่ว ธนาคารและสถาบันทางการเงินตกอยู่ในฐานะคับขัน เกิดความผันแปรในทางภาษีอากร นายธนาคารหรือนักการเงินผู้มีอิทธิพลถึงแก่กรรม

    พฤศจิกายน ระวังน้ำท่วมใหญ่

    เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงเดือนตุลาคมจะมีเหตุการณ์น้ำท่วม จะหนักกว่าปี 2553 พอย่างสู่เดือนพฤศจิกายนเหตุการณ์น้ำท่วมจะยังคงมีอยู่และจะท่วมหนักกว่าเดิมเนื่องจากในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2554 เวลา 13.10 น จะเกิดสุริยุปราคาอีกครั้ง โดยบังเกิดขึ้นในราศีพิจิกรูปแมงป่อง เวลากลางวัน ราศีพิจิกเป็นราศีชั้น 2 ชนิดสถิตราศี มีผลคงอยู่ได้นาน จะส่งผลทำให้เกิดภัยพิบัติใหญ่โต เกิดโรคภัยระบาด มีคนล้มตายเพิ่มขึ้น บุคคลสำคัญของประเทศถึงแก่กรรม

    เจอสึนามิ

    อุปราคาเกิดขึ้นในราศีพิจิกซึ่งเป็นธาตุน้ำ ก่อเกิดปัญหาวาตภัยและอุทกภัยที่รุนแรง ในเดือนนี้ประเทศไทยอาจจะพบกับ "สึนามิ" เกิดพายุหมุนและฝนฟ้าคะนองอย่างรุนแรง บางพื้นที่เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมสร้างความเสียหายให้กับประชาชนจำนวน เกิดอุบัติภัยในแม่น้ำทะเลมหาสมุทร รัฐบาลประสบปัญหาอย่างรุนแรงขาดแคลนน้ำที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค ภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม อาชีพเกี่ยวกับน้ำ น้ำเมา ของเหลวมีปัญหา โรคภัยไข้เจ็บยังระบาดอย่างหนักทำให้คนตายเพิ่มขึ้นจากโรคภัยที่มาจากน้ำและของเหลว การค้าและเกษตรกรรมเสียหาย

    อาถรรพ์หมายเลข 8

    ที่สำคัญการเกิด อุปราคาในครั้งนี้เกิดขึ้นในภพที่ 8 ของดวงเมือง หมายถึง การตาย ดังนั้น เมื่อเกิดอุปราคาในภพที่ 8 จะบังเกิดความอับโชคแก่ผู้นำ ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และรัฐบาล ถ้าเป็นสุริยุปราคาจะส่งผลให้บุคคลสำคัญบางคนจะถึงแก่กรรมหรือไม่ก็เป็นผู้อยู่ในราชตระกูล ชนชั้นสูง ถ้าเป็นจันทรุปราคาจะเกิดการตายในหมู่ชนสามัญหรือสตรีผู้มีชื่อเสียง สุขภาพของประชาชนของประเทศเสื่อมโทรม เกิดโรคระบาด ประชาชนเจ็บไข้ เกิดอาชญากรรมร้ายแรง เกิดความปั่นป่วนในวงการเงินโดยเฉพาะอย่างยิ่งมรดก กฎหมายมรดก ความสัมพันธ์ทางการเงินกับต่างประเทศ ความลับของรัฐบาลจะถูกเปิดเผย

    จับตาอุปราคาครั้งสุดท้าย ครั้งที่ 6 เกิดในวันที่ 1ธันวาคม 2554 เวลา 21.38 น.จะส่งต่อการเกิดภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับดิน การสูญเสียที่ดิน แผ่นดินทรุด แผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม การพังทลายของดิน อาคารตึกรามบ้านช่องสิ่งก่อสร้างพังทลาย ดินแดนอาณาเขตมีปัญหา การค้าขาย การเกษตรกรรม พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินและน้ำอุปโภคบริโภค น้ำที่ใช้ในการเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตรยังเป็นปัญหาหลักที่ต้องแก้ไข เกิดการฉกฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบเกิดขึ้นทั่วไป

    เกิดเหตุเศร้าโศก
    บันเทิงสะดุด

    แต่อุปราคาครั้งนี้มีดาวหนุนส่งการติดต่อค้าขายระหว่างถิ่น มีคนไปมาหาสู่มากมายมิได้ขาด เช่น เปิดโรงมหรสพ สถานเริงรมย์ บาร์ ไนต์คลับ โรงแรม สโมสร ภัตตาคาร คอฟฟี่ช็อป สถานบริการ อาบอบนวด ธุรกิจการบันเทิง โรงภาพยนตร์ ศิลปิน นักแสดง ตลาด ศูนย์การค้า เปิดกิจการนำเที่ยว

    แต่เมื่อเกิดอุปราคาขึ้นในฤกษ์นี้ งานบริการงานรื่นเริงบันเทิงใจที่เคยโดดเด่นกลับทรุดลง และเกิดปัญหาขาดทุน ทั้งในกิจการศูนย์การค้า ภัตตาคาร โรงแรม สถานบริการอาบอบนวด ภาพยนตร์ วิดีโอ ร้านเสริมสวย เครื่องสำอาง หยุดชงัก เกิดความความสูญเสียบุคคลในวงการบันเทิง ประชาชนจะลุ่มหลงในอบายมุขตามการโฆษณาชวนเชื่อ ทำเกิดให้เกิดปัญหาสังคมเกิดขึ้นตามมามากมาย

    เดือนมกราคม

    เกิดอุปราคาในวันที่ 4 มกราคม ทำให้ทั้งเดือนมีแต่ความยุ่งยากสลับซับซ้อน เกิดความยุ่งยากเกี่ยวกับเรื่องกรรมกรผู้ใช้แรงงาน มีการนัดหยุดงาน เป็นห้วงเวลาที่เกิดการประท้วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง การติดต่อสื่อสาร การขนส่ง เช่น กระทรวงคมนาคม กรมกองต่างๆ การขนส่ง การสื่อสาร การรถไฟ เป็นต้น

    เดือนกุมภาพันธ์

    เกิดอุปราคาในช่วงต้นปียังส่งผลอยู่ จะทำให้ผู้ปกครองประเทศปวดหัวกับปัญหา อาชญากรรมที่เกิดขึ้น รวมไปถึงโรคภัยไข้เจ็บในคนและสัตว์ระบาดอย่างหนัก เกิดความยุ่งยากในวงการศาสนา วงการการศึกษา กฎหมาย และการแพทย์ รวมไปถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการเดินทางท่องเที่ยวทั้งทางทะเล ทางพื้นดินและทางอากาศ ดังนั้นการเดินทางจึงควรระมัดระวังอย่างยิ่ง

    เดือนมีนาคม

    จะเกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างฉับพลัน ทำให้เกิดลมพายุทำลายล้างที่รุนแรง หนาวจัด การเดินทาง การขนส่ง การติดต่อสื่อสาร การบินเกิดปัญหา รัฐสภาจะตกต่ำถูกครอบงำโดยผู้มีอิทธิพลและผลประโยชน์ มีปัญหายุ่งยากในการร่างกฎหมาย กฎหมายหลายฉบับมีปัญหา คณะพรรคการเมืองมีการแตกแยกอย่างชัดเจน

    เดือนเมษายน

    ปัญหาความขัดแย้งจะเกิดขึ้นกับรัฐบาล ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายตรงข้าม และนำความยุ่งยากให้กับผู้นำ บุคคลสำคัญ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาล ตลอดจนประชาชน ในเดือนนี้ทำให้เกิดความผันแปรครั้งสำคัญทางการเมือง มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และการค้าได้รับผลกระทบกระเทือน

    เดือนพฤษภาคม

    เป็นเดือนที่เกิดความยุ่งยากอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ ทำให้เกิดปัญหาเรื่องที่ดินทำกินและน้ำอุปโภคบริโภค น้ำที่ใช้ในการเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตร โลกธุรกิจถูกก่อกวนหรือถูกกระทบกระเทือน รัฐบาลมีคะแนนนิยมตกต่ำลงเพราะปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลังสุขภาพของประชาชนและโครงการเกี่ยวกับสุขภาพของประชาชนถูกกระทบกระเทือน อำนวยความอับโชคให้กับรัฐบาล นายกรัฐมนตรี รัฐบุรุษ และบางครั้งกับผู้นำในระดับสูง

    เดือนมิถุนายน

    มีอุปราคาถึง 2 ครั้ง ระวังจะเกิดไฟไหม้ครั้งสำคัญ มีเรื่องทำให้จิตใจของพวกผู้ชายวุ่นวาย เกิดเหตุฆาตกรรมสำคัญ บางครั้งเกิดการปะทะของกองกำลังต่างๆ อาจเกิดภัยสงคราม เกิดการตายของประชาชนและบุคคลสำคัญในระดับสูง อากาศยังร้อนจัด ฝนแล้ง มีการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับเรื่องไฟและน้ำในโครงการต่างๆ และมีการจัดเก็บภาษีอากรเพิ่มขึ้น ประชาชนถูกกระทบกระเทือนในการดำรงชีวิต

    เดือนกรกฏาคม

    กฎหมายหลายฉบับมีปัญหา พรรคการเมืองเกิดการแตกแยกอย่างชัดเจน มีปัญหายุ่งยากกับประเทศเพื่อนบ้าน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถูกรบกวนและผันแปร เกิดปัญหาเกี่ยวกับสนธิสัญญาหรือพันธไมตรีกับมิตรประเทศ ผู้ปกครองที่ดำรงอำนาจอยู่จะเกิดอันตราย บุคคลที่มีชื่อเสียงจะป่วยหนักหรือถึงแก่กรรม

    เดือนสิงหาคม

    ปัญหาทางด้านการเมืองระหว่างประเทศ ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับต่างประเทศ การคมนาคม การติดต่อสื่อสารจะยังคงมีปัญหา ส่วนกองทัพกองกำลังมีการเคลื่อนไหวอย่างเห็นได้ชัด จะมีปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงเกิดขึ้น หรือเกิดอุบัติเหตุทำให้มีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน นำความอับโชค ความเศร้าโศก ความเสื่อมโทรมมาสู่สังคม โรงพยาบาล โรงงาน สถานการกุศล อาจถูกกระทบกระเทือน มีอาชญากรรมลึกลับซับซ้อนเกิดขึ้น

    เดือนกันยายน

    เกิดปัญหาและความยุ่งยากเกี่ยวกับการการเงิน ธนาคาร การส่งออกจะมีปัญหา และในช่วงนี้อาจจะมีข่าวดีเกี่ยวกับการค้นพบขุมทรัพย์ใต้ดินโดยบังเอิญ

    เดือนตุลาคม

    การเดินทาง การติดต่อ การขนส่ง การสื่อสาร และจะเกิดปัญหาความยุ่งยากในวงการสื่อสารมวลชน การขนส่งมวลชน วงการการศึกษา หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ นักเขียน ผู้พิมพ์โฆษณาและนักจัดรายการทางสื่อมวลชนต่างๆ ซึ่งคนในวงการที่กล่าวมาแล้วให้ระวังจะอุบัติเหตุ

    เดือนพฤศจิกายน

    เดือนนี้จะเกิดวิวาทะ มีความคิดเห็นที่รุนแรง พร้อมกับการใช้กำลังอาวุธ มีปัญหาด้านการเงินและความรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของความศรัทธา ความคิด เกิดการเป็นปฏิปักษ์ต่อวงการศาสนา ปรัชญา นักบวชเกิดการแตกแยก เป็นต้น

    เดือนธันวาคม

    คนวงการบันเทิง ศิลปินมีปัญหา เกิดการสูญเสียบุคคลสำคัญในวงการ ธุรกิจและการงานด้านบันเทิงประสบกับการขาดทุน งานบริการ งานรื่นเริงบันเทิงใจที่เคยโดดเด่นกลับทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด เกิดปัญหาค่าครองชีพ มีการแตกต่างชนชั้น มีการนัดหยุดงาน คนว่างงานมากขึ้น ประชาชนจะลุ่มหลงในอบายมุขตามการโฆษณาชวนเชื่อ ทำเกิดให้เกิดปัญหาสังคมเกิดขึ้นตามมามากมาย

    รู้เท่าทันเพื่อรับมือ

    อาจารย์ภิญโญ กล่าวทิ้งท้ายว่า การรู้อนาคตจึงมีประโยชน์ ทำให้สามารถเตรียมพร้อมทั้งกายใจในการรับมือกับอนาคต จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของอนาคต คือรับมือได้ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี สิ่งที่ไม่ดีจะได้เตรียมพร้อมในการป้องกันแก้ไขและลดโอกาสความล้มเหลวอันไม่ พึงประสงค์ สิ่งที่ดีจะได้ช่วยเพิ่มโอกาสให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ เมื่อสำเร็จแล้วจะได้ใช้ความสุขุมรอบคอบในการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เกิดขึ้น ในอนาคตได้อย่างชาญฉลาด

    ขอขอบคุณ : อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ ,
    เว็บ www.positioningmag.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • index.jpg
      index.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.8 KB
      เปิดดู:
      1,371
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...