ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สื่อฝรั่งเศสเผยรถถังเวียดนามเข้าเขมร

    [​IMG]
    (แฟ้มภาพ) รถถังพีที-76 ของเวียดนามเข้าสู่กรุงพนมเปญเมืองหลวงของกัมพูชา ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากชาวกัมพูชาในฐานะผู้ขับไล่เขมรแดง

    (18 ก.พ.54) เว็บไซต์ เค-ไอ มีเดีย รายงานอ้างข้อความที่แปลจากภาษาฝรั่งเศสในหนังสือพิมพ์ เลอ กรองด์วิลยาจว่า รถถังหลายลำของเวียดนาม ได้แล่นข้ามเข้าไปในดินแดนประเทศกัมพูชา เพื่อมุงหน้าสู่พื้นที่บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย และในขณะที่สหประชาชาติ กำลังผลักดันให้มีการเจรจาภายใต้กรอบการทำงานขอสมาคมอาเซียนนั้น ก็ดูเหมือนจะมีฝ่ายสนับสนุนที่พร้อมรบเช่นกัน

    เค-ไอ มีเดีย ระบุว่า เป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่งสำหรับผู้เห็นเหตุการณ์ ที่รถถังเวียดนามหลายคันแล่นเข้าไปในดินแดนของกัมพูชา ซึ่งเมื่อ 20 ปีก่อน ก็มีคนเคยเห็นรถถังเวียดนามแล่นเข้าไปปลดปล่อยกัมพูชาจากการปกครองของเขมรแดงมาแล้ว แต่ในยุคนั้น เวียดนามเข้ายึดพื้นที่และปล้นเอาความมั่งคั่งไปจากกัมพูชา ที่สร้างความเจ็บปวดให้อย่างแสนสาหัส

    ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกด้วยว่า เขาเกือบตายเพราะความกลัว ตอนที่เห็นรถถังของเวียดนามแล่นเข้ามาในเส้นทางเดียวกันกับเมื่อ 20 ปีก่อน ด้วยข้ออ้างที่ว่าไปช่วยกัมพูชา และครั้งนี้ก็เช่นกัน รถถังเหล่านี้ ถูกส่งเข้ามาด้วยเจตนาที่จะข่มขวัญประเทศไทย และถ่วงดุลย์การเจรจา แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า เวียดนามก็เหมือนกับจีน ที่จะต้องได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อการช่วยเหลือ

    นอกจากความพยายามขยายอิทธิพลเข้าไปในอาเซียน ในช่วงที่ไทยสูญเสียความน่าเชื่อถือแล้ว เวียดนามกับจีน ยังมีเป้าหมายสำคัญในการตักตวงผลประโยชน์จากกัมพูชา ซึ่งก็คือ น้ำมันที่เพิ่งพบเมื่อไม่นานมานี้ ยิ่งไปกว่านั้น เวียดนามยังเสนอจะช่วยเหลือในการจัดหาน้ำมันให้กับกัมพูชา ในช่วงที่กำลังรอการขุดเจาะน้ำมันของตัวเองขึ้นมาใช้ อันเป็นการแลกเปลี่ยนกับสิทธิในการสำรวจแหล่งทรัพยากรน้ำมันของกัมพูชาในอนาคต

    ความรุนแรงที่ขยายขึ้น และการเตรียมพร้อมในการทำสงคราม ได้สร้างความวิตกให้กับกลุ่ม NGO ในกัมพูชา และยังได้เตือนไปยังชาติอื่น ถึงความเสี่ยงที่จะเกิดความยุ่งยากซับซ้อนในภูมิภาคที่มีขนาดเล็กแต่มีความสำคัญอย่างแท้จริง

    เลอ กรองด์ วิลยาจ ระบุด้วยว่า ชาติบรรดามหาอำนาจทั้งในระดับภูมิภาค และนานาชาติ จะไม่มีวันยอมให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องวุ่นวายจากการสู้รบกันอย่างเด็ดขาด ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ในประเด็นอ่อนไหวนั้น ภูมิภาคแห่งนี้ เป็นแหล่งผลประโยชน์อันมหาศาล และดึงดูดสหรัฐ จีนและอินเดีย ไม่มีมหาอำนาจชาติไหนอยากเห็นสงครามระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือแม้แต่สมาชิกในอาเซียนเองก็ไม่อยากเห็นเช่นกัน มีเพียงไทยเท่านั้น ที่ต้องการสงครามเพื่อเรียกคะแนนนิยมที่สูญหายไปในช่วงวิกฤติการประท้วงของคนเสื้อแดง

    เค-ไอ มีเดีย ระบุว่า ไม่อาจยืนยันรายงานของเลอ กรองด์ วิลยาจ ได้ แต่ก็ระบุว่า เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีรถหุ้มเกราะของเวียดนาม ที่ผลิตในยุคโซเวียต ถูกส่งข้ามชายแดนเข้าไปยังกัมพูชา ที่บริเวณจังหวัดกัมปง ธม ที่เป็นเส้นทางไปยังพระวิหาร

    ที่มา http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=156379.0

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>โรคเท้าปากคร่าวัวควายในลาวใต้ไปกว่า 2,000 ตัว </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>18 กุมภาพันธ์ 2554 17:34 น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    การระบาดของโรคเท้าปากในภาคใต้ของลาวทำให้วัวควายตายไปมากกว่า 2,000 ตัว ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา (ภาพ: travbuddy)

    ซินหัว - สำนักข่าวเวียงจันทน์ไทม์ส ของลาว รายงานวานนี้ (17 ก.พ.) ว่า แขวงสาละวัน และแขวงจำปาสัก มีวัวควายตายด้วยโรคเท้าปากมากกว่า 2,000 ตัว ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา

    “สำนักงานได้ติดต่อกับกรมปศุสัตว์และประมง เพื่อขอความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์และวัคซีน” นายบุนเลียง เวียงมะนี รองหัวหน้าสำนักงานปศุสัตว์และประมงประจำแขวง กล่าว

    เจ้าหน้าที่แขวงเรียกร้องให้สัตวแพทย์ประจำหมู่บ้าน ดำเนินการฉีดวัคซีนและรักษาสัตว์ป่วย รวมทั้งให้ความรู้แก่เกษตรกรในการกำจัดฝัง หรือเผาสัตว์ที่ตายด้วยโรคดังกล่าว แทนการนำเนื้อมาทาน และหลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายสัตว์ออกนอกพื้นที่แพร่ระบาด

    หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทม์ส รายงานว่า ในแขวงสาละวัน มีวัวตายด้วยโรคเท้าปากมากกว่า 500 ตัว ขณะที่แขวงจำปาสักมีวัวควายตายไปมากกว่า 1,600 ตัว และว่า เจ้าแขวงจำปาสักอนุมัติเงินจำนวน 100 ล้านกีบ (ประมาณ 380,000 บาท) ซื้อวัคซีนและอุปกรณ์เพิ่มเติมในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในอนาคต

    การระบาดของโรคเท้าปากมักเกิดขึ้นเป็นประจำโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาว เนื่องจากลาวเป็นเส้นทางสัญจรหลักสำหรับการเคลื่อนย้ายสัตว์ข้ามพรมแดน และการแพร่ระบาดในลาวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากโรคเท้าปากแพร่ระบาดในเกาหลีใต้เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา

    ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9540000021939
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • k198943.jpg
      k198943.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55 KB
      เปิดดู:
      1,821
    • 554000002338601.jpg
      554000002338601.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.5 KB
      เปิดดู:
      1,948
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อนาคตเลี้ยงสาหร่ายสกัดไบโอดีเซล

    [​IMG]

    ปตท.นำร่องอีก 5 ปี ผลิตใช้ได้ พืชที่ให้พลังงาน อย่างมันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด ผ่านการคิดค้นวิจัยออกมาเป็นพลังงานที่ใช้ในรูปแบบแก๊สโซฮอล์อย่างแพร่หลายแล้ว สาหร่าย เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่กำลังเป็นเรื่องท้าทายนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ว่าจะสกัดน้ำมันออกมาใช้อย่างไรจึงจะคุ้มค่าสูงสุด ในเรื่องของการลงทุนที่สูงมาก สาหร่ายนำมาสกัดน้ำมันได้เรียกว่า จุลสาหร่าย (Microalgae) เป็นคนละชนิดกับสาหร่าย ที่ใช้เป็นอาหาร ที่เรียกว่าสาหร่ายขนาดใหญ่ หรือ (Macroalgae)

    จุลสาหร่ายเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กคล้ายแบคทีเรีย แต่สามารถสังเคราะห์แสงเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นอาหารของตัวเองได้ จะเห็นจุลสาหร่ายและจำแนกชนิดได้เมื่อมองผ่านกล้องจุลทรรศน์เท่านั้น ปัจจุบันเริ่มนำเอาจุลสาหร่ายมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรม ต่าง ๆ เช่น การนำสาหร่ายมาใช้บำบัดน้ำเสีย การกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นของเสียหลักของโรงงานอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีบริษัทผู้ผลิตจุลสาหร่ายไม่ต่ำกว่า 130 บริษัททั่วโลก รวมทั้งการเลี้ยงสาหร่ายในพื้นที่ทะเลทรายขณะนี้เกิดขึ้นแล้ว บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ได้ทดลองเลี้ยงจุลสาหร่ายที่มีแหล่งกำเนิดในเมืองไทยมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว โดยเลี้ยงในท่อขนาดใหญ่ซึ่งใช้เทคโนโลยีการเลี้ยงในท่อปฏิกรณ์แสง ซึ่งมีความจุน้ำสูงสุดถึง 3,000 ลิตร ในบริเวณพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด

    [​IMG]

    ดร.ชญาน์ จันทวสุ ผู้จัดการฝ่ายหน่วยงานนวัตกรรมและเทคโนโลยี บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยใช้น้ำมันดีเซลอยู่ประมาณ 50 ล้านลิตรต่อวัน นำมาผลิตเป็นไบโอดีเซลที่อยู่ในรูปของบี 2 ประมาณ 1 ล้านลิตร และในปี 2511 รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะใช้ไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ และเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ในปี 2512 แนวโน้มที่จะใช้ไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น จะมีผลต่อพื้นที่ปลูกพืชอาหาร ซึ่งมีอยู่จำกัด ถ้าจำเปต้องใช้ไบโอดีเซล สาหร่ายเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เพราะไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เพาะปลูกสูง อีกทั้งมีศักยภาพทดแทนน้ำมัน และเป็นพืชที่มีประสิทธิภาพในการสังคราะห์แสงได้ทุกเซลล์ ในขบวนการการสังเคราะห์แสงสาหร่าย ใช้คาร์บอนไดออกไซด์มาเปลี่ยนเป็นน้ำมันใช้กระบวนการนี้ในการจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สามารถพึ่งพิงกระบวนการสังเคราะห์แสงของสาหร่ายในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

    เท่ากับว่าสาหร่ายเป็นพืชที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกจุดที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ในพื้นที่อุตสาหกรรม ซึ่งมีพื้นที่จำกัด และมีราคาสูง วิธีที่บริษัททำคือเปลี่ยนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เก็บไว้ในรูปแบบเป็นคาร์บอเนตที่อยู่ในรูปของเกลือ สาหร่ายจะกินและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออก ไซด์ในรูปแบบที่ต่างกัน ซึ่งจะทำให้ได้ผลิตสารเติมแต่งอาหาร ดร.ชญาน์ บอกว่า รูปแบบการเลี้ยงสาหร่ายของบริษัทในเบื้องต้น เพื่อผลิตสารเติมแต่งอาหาร ซึ่งมีราคาสูงกว่าเป็นหมื่นเท่า หากเทียบกับการผลิตให้ไบโอฟีล หรือการแปรรูปเป็นพลังงาน

    ยกตัวอย่างเช่นสารเติมแต่งอาหารที่ได้จากจุลสาหร่าย นำไปเลี้ยงปลาแซลมอน เพื่อให้เนื้อปลาออกมาเป็นสีส้ม ซึ่งราคาต่อกิโลกรัม 300,000 บาท ในทางกลับกันถ้านำสาหร่ายมาแปรรูปเป็นไบโอดีเซลจะขายได้ลิตรละ 20 กว่าบาท ซึ่งความคุ้มค่าในตลาดตอนนี้ยังไม่มี แต่ต้องทำการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีในการเลี้ยงในระบบต่าง ๆ เพื่อไว้เป็นพลังงานทดแทนในอนาคต และรักษาพื้นที่เพาะปลูกทางอาหารไว้ ขณะเดียวกันในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกยังไม่มีประเทศใดที่นำสาหร่ายมาผลิตเป็นน้ำมันแล้วได้ความคุ้มทุนเมื่อเทียบกับน้ำมันที่ใช้อยู่ ซึ่งในเมืองไทยยังไม่มีการผลิตสาหร่ายในเชิงพาณิชย์ทั้งในรูปสารเติมแต่งผลิตภัณฑ์อาหารและไบโอดีเซล ปตท. มองว่าน่าจะพัฒนาเป็นยูนิตเล็ก ๆ เพื่อศึกษาดูว่าสาหร่ายสายพันธุ์ในประเทศใช้ได้หรือไม่

    [​IMG]

    คาดว่าภายใน 2-3 ปี การเลี้ยงสาหร่าย ในระบบท่อของบริษัท จะผลิตในเชิงพาณิชย์ขายในรูปของสารเติมแต่งอาหาร ขณะที่การผลิตออกมาเป็นไบโอฟีลหรือน้ำมันจะทำได้อีก 5-6 ปี คิดว่าเมื่อถึงเวลานั้นน้ำมันจะปรับราคาขึ้นซึ่งจะมีความคุ้มทุน ขึ้นอยู่กับว่าราคาน้ำมันสูงแค่ไหน ถ้าราคา 70-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลขณะนี้ถือว่าไม่คุ้ม ดร.ชญาน์ กล่าว

    จุลสาหร่ายมีอัตราการเจริญเติบโตได้รวดเร็วเทียบได้กับแบคทีเรียโดยมีการเพิ่ม 1 เท่าตัวในทุก 4 ชั่วโมง จุลสาหร่ายเป็นพืชที่ชอบแสงแดดจึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเลี้ยงในประเทศเมืองร้อนอย่างบ้านเราที่มีแสงแดดเหลือเฟือ ขณะเดียว กัน ในระบบท่อที่ทดลองทำอยู่เป็นการลงทุนที่สูงมาก โดยใช้พลาสติกอย่างดีที่ทำไฟฟ้าหน้ารถยนต์มาทำเป็นท่อเลี้ยง เพราะมีคุณสมบัติทนต่อแสงยูวี และไม่ดูดความร้อน ซึ่งสาหร่ายเป็นพืชที่ชอบแสงแดดแต่ไม่ชอบความร้อน การเลี้ยงต้องควบคุมอุณหภูมิในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งการเลี้ยงสาหร่ายเพื่อผลิตน้ำมันต้องทำสเกลที่ใหญ่ขึ้น การเลี้ยงในปริมาณที่สูงขึ้น สามารถต่อยอดเรื่องของการเคลมคาร์บอนเครดิต ว่าสาหร่ายช่วยลดภาวะโลกร้อน

    ปัจจุบัน ในหน่วยงานสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยให้ความสนใจเลี้ยงสาหร่ายในห้องทดลอง แต่ยังไม่มีการสเกลที่ใหญ่ขึ้น คิดว่าถ้าภาครัฐและเอกชนมาร่วมมืออย่างจริงจัง จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งของแหล่งพลังงานทดแทนที่สร้างขึ้นเองได้ในประเทศ

    ผู้สนับสนุนเนื้อหา เดลินิวส์

    ที่มา http://campus.sanook.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 05933_004.jpg
      05933_004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.2 KB
      เปิดดู:
      1,755
    • 05933_002.jpg
      05933_002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51 KB
      เปิดดู:
      1,810
    • 05933_003.jpg
      05933_003.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.7 KB
      เปิดดู:
      1,767
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,700
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** กรรมมา นิสัยมี ****

    อย่ามัวเสียดายสมบัติ จะหนีไม่ทัน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เกิดแผ่นดินไหวขนาดกลางในเมืองบาเกียวของฟิลิปปินส์

    [​IMG]

    บาเกียว, ฟิลิปปินส์ 18 ก.พ.-เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.0 ริกเตอร์ ที่เมืองบาเกียวของฟิลิปปินส์ วันนี้ ทำให้ประชาชนหลายร้อยคนแตกตื่นออกมารวมตัวกันบนท้องถนน แต่ไม่มีรายงานความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สิน

    สถาบันภูเขาไฟและแผ่นดินไหววิทยาของฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวดังกล่าวอยู่นอกเมืองบาเกียว ลึกลงไปใต้ดินเพียง 14 กม. แรงสั่งสะเทือนดังกล่าวทำให้ประชาชนแตกตื่นออกมารวมตัวกันบนท้องถนนจนกระทั่งแผ่นดินไหวสงบลง อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังคงหวาดวิตก จนกระทั่งนายกเทศมนตรีเมืองบาเกียวออกประกาศทางวิทยุว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใด ๆ และนักแผ่นดินไหววิทยาของทางการคาดว่า จะไม่เกิดอาฟเตอร์ช็อกหรือแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหวตามมา.-สำนักข่าวไทย

    วันศุกร์ ที่ 18 ก.พ. 2554

    บางพื้นที่ของทิเบตกำลังเผชิญกับพายุหิมะที่พัดถล่มอย่างหนัก

    [​IMG]

    18 ก.พ. - บางพื้นที่ของทิเบตกำลังเผชิญกับพายุหิมะที่พัดถล่มอย่างหนัก ส่งผลให้การจราจรกลายเป็นอัมพาต

    เขตอาลีและทางใต้ของเขตซิกาเซ ในเขตปกครองตนเองทิเบต ต้องอยู่ในสภาพจมอยู่ใต้กองหิมะ โดยในบางพื้นที่มีปริมาณหิมะสูงถึง 1 เมตร หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้ทางหลวงสายซินเจียง-ทิเบต ถูกตัดขาดทำให้การเดินทางระหว่างทิเบตกับเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ กลายเป็นอัมพาต เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ ต้องให้การช่วยเหลือประชาชน 23 คน ที่ติดค้างอยู่ในรถยนต์นานถึง 5 ชั่วโมง ท่ามกลางหิมะและช่วยเปิดเส้นทางให้สามารถสัญจรได้อีกครั้ง. -สำนักข่าวไทย

    วันศุกร์ ที่ 18 ก.พ. 2554

    เมืองภูเขาไฟญี่ปุ่นเตือนอันตรายจากโคลนถล่ม

    [​IMG]

    โตเกียว 17 ก.พ. - ประชาชนกว่า 2,500 คนที่อาศัยอยู่ใกล้ภูเขาไฟที่เริ่มปะทุมาตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้วได้รับคำแนะนำให้อพยพออกจากบ้านเรือน ขณะที่มีฝนตกจนอาจทำให้เกิดโคลนถล่มจากเถ้าถ่านที่กองสุมกัน

    เมืองมิยะโคโนะโจ ในจังหวัดมิยาซากิออกประกาศเตือนดังกล่าวขณะที่มีฝนตกมาตั้งแต่วันพุธ ทำให้น้ำท่วมสูงเกือบนิ้วในพื้นที่ดังกล่าว แต่ในบ่ายวันนี้ประชาชนเกือบ 100 คนต้องย้ายไปยังที่พักชั่วคราวซึ่งตั้งอยู่ตอนล่างของภูเขาไฟชินโมเอดาเกะสูง 1,421 เมตรที่เคยเป็นฉากในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ "You Only Live Twice" 2510 ซึ่งยังคงปะทุอย่างต่อเนื่องโดยเริ่มการปะทุครั้งใหญ่ในรอบ 52 ปีเมื่อปลายเดือนมกราคม.-สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 17 ก.พ. 2554

    ไซโคลนคาร์ลอสอ่อนกำลังลงแล้วหลังพัดถล่มเมืองดาร์วิน

    [​IMG]

    ซิดนีย์ 17 ก.พ.- พายุไซโคลนคาร์ลอสที่พัดถล่มทางตอนเหนือของออสเตรเลีย อ่อนกำลังลงกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว หลังพัดผ่านใกล้เมืองดาร์วินวันนี้ โดยอิทธิพลของพายุทำให้เกิดลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก

    พายุคาร์ลอส ซึ่งมีความรุนแรงระดับ 1 จาก 5 ระดับ อ่อนกำลังลงแล้ว หลังพัดขึ้นฝั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ต้นไม้และเสาไฟฟ้าโค่นทับขวางถนนและบ้านเรือน และทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันทั่วเมืองดาร์วิน เจ้าหน้าที่ของเมืองดาร์วินเปิดเผยว่า ท่าอากาศยานดาร์วิน ซึ่งปิดให้บริการเพราะพายุลูกดังกล่าว มีกำหนดจะเปิดอีกครั้งในวันนี้ แต่โรงเรียนและบริการอื่นๆ ยังคงปิดต่อไป

    สำนักงานอุตุนิยมวิทยารายงานว่า พายุคาร์ลอสอาจทวีกำลังแรงกลายเป็นไซโคลนอีกครั้งในวันเสาร์นี้ ขณะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เขตรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ส่วนพายุไซโคลนอีกลูก ซึ่งก่อตัวขึ้นนอกชายฝั่งเขตพิลบารา จะทวีกำลังแรงขึ้นขณะเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ และคาดว่าจะกลายเป็นพายุระดับ 3 ภายในวันเสาร์นี้ แต่มีแนวโน้มว่า จะไม่พัดถล่มออสเตรเลีย.-สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 17 ก.พ. 2554

    ฝรั่งเศสเตือนราคาอาหารโลกที่แพงขึ้นอาจก่อให้เกิดวิกฤตครั้งใหม่

    [​IMG]

    สหประชาชาติ 18 ก.พ. – นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของฝรั่งเศสเตือนวานนี้ว่า มีความเสี่ยงเกิดวิกฤตทางอาหารครั้งใหม่ทั่วโลก อันเป็นผลมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์แพงขึ้น

    นายเลอ แมร์เปิดเผยหลังพบปะหารือกับนายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติว่า หลายฝ่ายวิตกกังวลอย่างหนักเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤตอาหารโลก และราคาสินค้าเกษตรทั่วโลกที่สูงขึ้นอย่างผันผวน โดยชี้ว่า ราคาข้าวโพดเพิ่มจากตันละ 100 -115 ยูโร (ประมาณ 4,166 - 6,250บาท) ในเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว เป็นกว่าตันละ 260 ยูโร (ประมาณ 10,832 บาท) ในขณะนี้ และว่า ทั่วโลกจำเป็นต้องหาทางออกในเชิงรูปธรรมอย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เพื่อต่อสู้กับความเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤตทางอาหารและลดปัญหาขาดแคลนอาหารทั่วโลก แต่ถ้าเราไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพแล้ว ทั่วโลกอาจจะเผชิญกับวิกฤตอาหารครั้งใหม่

    ทั้งนี้ ในระหว่างที่ฝรั่งเศสดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่จี 20 ฝรั่งเศสพยายามผลักดันข้อเสนอมากมาย เช่น การรื้อฟื้นการลงทุนในภาคเกษตรกรรม สร้างความโปร่งใสในสินค้าเกษตรทั่วโลก และสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ .-สำนักข่าวไทย

    วันศุกร์ ที่ 18 ก.พ. 2554

    น้ำมันดิบเบรนต์สูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง เพราะเหตุตึงเครียดอิสราเอล-อิหร่าน

    [​IMG]

    นิวยอร์ก 17 ก.พ.- น้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือ ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีครึ่ง เมื่อวานนี้เพราะเหตุตึงเครียดครั้งใหม่ระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน เพิ่มแรงกดดันต่อตลาดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุไม่สงบในตะวันออกกลางอยู่แล้ว

    นายอะวิกดอร์ ลีเบอร์แมน รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เรือรบอิหร่าน 2 ลำ เตรียมแล่นผ่านคลองสุเอซไปยังซีเรีย ถือเป็นการกระทำยั่วยุ ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น ต่อมาหนังสือพิมพ์อิสราเอลรายงานว่า เรือดังกล่าวเป็นเรือฟรีเกตและเรือสินค้า ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่ออิสราเอล

    น้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดที่บาร์เรลละ 104.52 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดที่บาร์เรลละ 103.78 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.14 ดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2551 ส่วนน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดเพิ่มขึ้น 67 เซนต์ ที่บาร์เรลละ 84.99 ดอลลาร์สหรัฐ.- สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 17 ก.พ. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2011
  5. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ไทยตอนบนอากาศร้อนมีพายุฝนฟ้าคะนอง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>วันนี้ (19ก.พ.) กรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04.00น. ว่า บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้แล้ว

    คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ. 54) ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนในตอนกลางวันลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นโดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออกก่อน ส่วนบริเวณอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 20-22กุมภาพันธ์นี้ไว้ด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00น.วันนี้ถึง 06.00น.วันพรุ่งนี้


    ภาคเหนือ
    อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและอากาศจะร้อนขึ้นในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-37 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
    อากาศเย็นทางตอนบนของภาค กับมีหมอกในตอนเช้าและมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง
    มีหมอกในตอนเช้าและมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก
    มีหมอกบางในตอนเช้าและอากาศจะร้อนขึ้นในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ฝั่งตะวันออก
    มีเมฆบางส่วนและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีเมฆบางส่วน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้าและอากาศจะร้อนขึ้นในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>แจกภาพเยาวชนหญิงมุสลิมฝึกอาวุธ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    หน่วยข่าวชายแดนใต้เร่งแกะรอยหาเยาวชนหญิงมุสลิมหัวรุนแรง ถูกส่งไปฝึกอาวุธสงคราม เพื่อกลับมาก่อเหตุในพื้นที่


    เมื่อวันที่ ( 18 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยข่าวที่เกาะติดสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้นำภาพถ่ายเยาวชนหญิงมุสลิมอายุประมาณ 17-20 ปี ที่กำลังฝึกการใช้อาวุธปืนสงครามในท่าเตรียมพร้อมแจกจ่ายไปตามหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ให้ตรวจสอบหาเบาะแสของบุคคลที่ปรากฏอยู่ในภาพดังกล่าวเพื่อเตรียมการป้องกันการก่อเหตุ

    ทั้งนี้หน่วยงานแจ้งว่า กลุ่มเยาวชนหญิงถูกชักจูงให้เข้าไปร่วมขบวนการเพื่อส่งไปฝึกการใช้อาวุธในต่างประเทศ ก่อนกลับมาปฏิบัติงานในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ผ่านการฝึกแล้วหลายรุ่น ประกอบกับการก่อเหตุซุ่มยิงจุดตรวจในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และพื้นที่ จ.ปัตตานี กลุ่มคนร้ายได้แต่งกายคล้ายสตรีมุสลิมเข้ามาก่อเหตุหลายครั้ง จึงต้องกระจายข่าวให้ทุกหน่วยเฝ้าระวัง





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฮ่องกงสังเวยไข้หวัด09อย่างน้อย12ราย </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    โฆษกสำนักงานสาธารณสุข เขตปกครองพิเศษฮ่องกงของจีน แถลงว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 12 ราย จากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในฮ่องกง ในเวลาไม่ถึง 1 เดือน

    โดยเหยื่อ 2 รายล่าสุด รายแรกเป็นคนชรา แพทย์ยืนยันเสียชีวิตจากไข้หวัด 2009 ส่วนอีกรายเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของไข้หวัด 2009 จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัด 2009 ที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทางการฮ่องกงประกาศเพิ่มการเฝ้าระวัง เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนับตั้งแต่นั้น มีผู้ป่วยติดเชื้อ และเสียชีวิตจากโรคนี้ในฮ่องกงอย่างน้อย 12 รายแล้ว

    ฮ่องกง ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็ก แต่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นถึง 7 ล้านคน ทำให้เจ้าหน้าที่วิตกหนักเกี่ยวกับโรคติดเชื้อ หลังการแพร่ระบาดของโรคซาร์สในปี 2546 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตทั่วโลกราว 800 ราย โดย 300 รายในจำนวนนี้ อยู่ในฮ่องกง ส่วนการแพร่ระบาดของไข้หวัด 2009 ที่เริ่มจากประเทศเม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา ในเดือน เม.ย.2552 คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกมากกว่า 18,400 ราย และมีผู้ป่วยติดเชื้อทุกภูมิภาคของโลก.





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>คาดเกิดประท้วงใหญ่ หลายเมืองหลวงประเทศอาหรับวันนี้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เว็บไซท์หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน ของอังกฤษ รายงานว่า คาดว่าจะเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงตามเมืองหลวงของประเทศอาหรับต่อไปอีก หลังจากมีผู้ประท้วงถูกสังหารไป 4 คน ในบาห์เรน และอีก 15 คน ในลิเบีย

    ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ความไม่สงบในภูมิภาคลุกลามออกไปหลังเกิดการลุกฮือประท้วงโค่นล้มรัฐบาลในอิยิปต์และตูนิเซีย โดยคาดว่า จะมีการประท้วงเกิดขึ้นอีกในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ชาวมุสลิมทำละหมาดใหญ่ ทั้งในกรุงมานามา เมืองหลวงของบาห์เรน , ในกรุงไคโร ของอิยิปต์ ที่จะมีการเฉลิมฉลองครบรอบจากการลงจากตำแหน่งของประธานาธิบดีฮอสนีย์ มูบารัค เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และที่กรุงซาน่า เมืองหลวงของเยเมน และอาจจะมีที่อื่นเพิ่มขึ้นด้วย

    <DD>
    อังกฤษได้ประกาศจะทบทวนใบอนุญาตส่งออกอาวุธให้บาห์เรน ที่อาจจะนำไปสู่การเพิกถอนถ้าพบว่า มีการละเมิดบรรทัดฐานการนำไปใช้งาน หลังจากพบว่า ประเภทของอาวุธที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อควบคุมฝูงชน มีความคล้ายคลึงกับอาวุธที่ถูกนำไปใช้กวาดล้างผู้ประท้วงอย่างหนักหน่วง และที่สำคัญคือซื้อมาจากบริษัทของอังกฤษ และแม้ว่านักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนจะแสดงความวิตกต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนในบาห์เรน แต่เมื่อปีที่แล้ว บริษัทอาวุธในอังกฤษก็ยังได้รับใบอนุญาตให้ส่งออกอาวุธที่ใช้ควบคุมฝูงชนไปยังบาห์เรน ที่อาจถูกนำไปใช้ในทางรุนแรงได้ จากข้อมูลของกระทรวงต่างประเทศอังกฤษ และกลุ่มรณรงค์ต่อต้านการค้าอาวุธ ระบุว่า อังกฤษส่งออกอาวุธแบบเดียวกันให้ลิเบีย และกระสุนที่ใช้กับอาวุธชนิดนี้ให้กับบาห์เรน
    <DD>
    นางฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้โทรศัพท์สายตรงถึงรัฐมนตรีต่างประเทศของบาห์เรน แสดงความรู้สึกวิตกต่อการที่ตำรวจปราบจลาจล ลุกเข้าไปในพื้นที่ของผู้ประท้วงในกรุงมานามา สังหารผู้ประท้วงไป 4 คน อีกอย่างน้อย 300 คน ได้รับบาดเจ็บ มีหลายคนที่อาการสาหัส ศัลยแพทย์คนหนึ่งของโรงพยาบาลวัลมานิยา ต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู หลังจากถูกทำร้ายที่วงเวียนไข่มุก ถูกสวมกุญแจมือและถูกเตะที่ศีรษะซ้ำแล้วซ้ำอีก




    </DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ชวนคนไทยนั่งสมาธิต้านสารพัดโรค</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    สธ.ชวนคนไทยใช้ฤกษ์ “วันมาฆบูชา” ฝึกทำสมาธิต่อต้านโรค คลายเครียด ไมเกรน ความดันโลหิตสูง


    เมื่อวันที่ 18 ก.พ. นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้วิถีการดำเนินชีวิตของคนไทยกำลังเข้าสู่กระแสวัตถุนิยมอย่างมาก ชีวิตมีแต่ความเร่งรีบ อีกทั้งต้องประสบกับความกดดันต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และครอบครัว ทำให้เกิดความตึงเครียด และวิตกกังวลได้ หากประชาชนคนใดที่ปรับตัวไม่ได้ อาจเกิดปัญหาลูกโซ่ต่าง ๆ ตามมา อาจกลายเป็นคนที่มีความเครียดสูง และเป็นโรคเรื้อรังทางกายตามมาอีก โรคที่มักมาคู่กับความเครียด เช่น ไมเกรน โรคความดันโลหิตสูง โดยเมื่อร่างกายมีความดันโลหิตสูงอยู่เป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของหลอดเลือดแดง โดยเฉพาะหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง อาจทำให้แตก หรือตีบตัน นอกจากนั้น ยังทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น เกิดปัญหาหัวใจโต กล้ามเนื้อหัวใจหนา ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว หรือหัวใจวายเสียชีวิตได้

    นพ.สุพรรณ กล่าวต่อว่า ในวันมาฆบูชานี้ เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา หรือวันพระใหญ่ ชาวไทยทุกคนนอกจากจะไปทำบุญตักบาตร ได้รับบุญอิ่มอกอิ่มใจแล้ว ในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขขอเชิญชวนประชาชนนั่งสมาธิ เนื่องจากการนั่งสมาธิเป็นการดูแลสุขภาพวิธีหนึ่ง เป็นเทคนิคของการผ่อนคลายความเครียดที่ลึกซึ้งที่สุด เพราะทำให้จิตใจสงบ ปลอดจากความคิดที่ซ้ำซาก ฟุ้งซ่าน วิตกกังวล ความเศร้าโศก ความโกรธ โดยทำให้เกิดสติปัญญาในการแก้ไขปัญหา หากฝึกสมาธิเป็นประจำจะทำให้จิตใจเบิกบาน อารมณ์เย็น สมองแจ่มใส หายเครียด นอกจากนี้ การทำสมาธิจะช่วยให้คลื่นสมองไม่ยุ่งเหยิง สมองสามารถหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphine) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น มีภูมิต้านทานโรคที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย

    ทั้งนี้ หลักของการทำสมาธิ คือ การเอาใจไปจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว โดยจากผลวิจัยทางการแพทย์พบว่า ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มีการฝึกทำสมาธิโดยการหายใจช้า และลึก วันละประมาณ 15 นาที ติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือน ค่าความดันโลหิตลดลงมากกว่าผู้ป่วยกลุ่มที่ไม่ได้เข้ารับการฝึกทำสมาธิ กระทรวงสาธารณสุขจึงสนับสนุนให้คนไทยทุกคนหันมานั่งสมาธิ และควรทำต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน เริ่มจากวันละ 5 นาที เพิ่มเป็น 10 นาทีในวันต่อไป และเพิ่มเป็น 15 นาทีขึ้นไปเรื่อย ๆ.





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คำพยากรณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นจริง !!!
    โดย Mr. Warning

    [​IMG]

    เมื่อประมาณต้นปี พ.ศ.2549 ผู้ทรงความวิเศษ ได้บอกไว้ว่า:-

    "พวกเจ้า ต่อไปในภายภาคหน้า ไม่ไกลจากนี้นัก "ทองคำ" จะมีราคาแพงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน (ณ ตอนนั้นราคาบาทละ 9,500.- บาท) พวกเจ้าถ้ามีเงิน จงพากันซื้อเก็บไว้"

    "พวกเจ้าจงดู ในระยะอันใกล้ๆกัน ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นหลายจุดบนโลกใบนี้ แต่นั่นยังไม่ไช่สิ่งที่เจ้าพึงระวัง ของที่จำเป็นต้องกินต้องใช้ จะขาดแคลนกันไปทั่วโลก ประเทศไทยเรานั้นป็นผู้ผลิตก็จริงแหล่ แต่ก็จะได้รับผลด้วยเช่นกัน "

    "ผู้ทีสละแล้ว จะหวังประโยชน์อันใดอีกเล่า มีแต่เมตตากับศิษย์ที่ให้ความเคารพรัก แต่ในเมื่อเจ้าต้องมีชีวิตต้องกินต้องใช้ ข้าได้ชี้ทางให้พวกเจ้าแล้ว โดยไม่ได้ฝืนกฏของธรรมชาติ จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่เจ้า สิ่งที่กล่าวไปแล้วทั้งหมดเป็นแค่เพียงสัญญาณบอกเหตุเท่านั้นเอง"

    "ณ เวลาใดก็ตาม มีการประท้วง ก่อเหตุจราจล ขัดแย้ง เพิ่มขึ้นหลายๆจุด ณ บนโลกใบนี้ พวกเจ้าจงเตรียมตัวเตรียมใจไว้ว่า โลกกำลังจะเข้าสู่ยุคสงคราม"

    พวกเราชาวพุทธ หมั่นให้ทาน รักษาศีล ภาวนา มีศีล 5 พวกเราจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี คงอีกไม่นาน...ผม Mr. Warning ผมเตือนคุณแล้ว

    18-02-2011, 07:48 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/คำพยากรณ์___ที่จะเกิดขึ้นจริง.280303/<!-- google_ad_section_end -->

    ลงทุนซื้อทองแท่งจะดีไหม?

    [​IMG]

    [​IMG]
    แก้ว

    อนาคตราคาทองคำจะขึ้นสูงอีกภายใน 1-2 ปีข้างหน้า?

    [​IMG]
    NUI

    เหตุผลที่สนับสนุนให้พิจารณาการลงทุนทองแท่ง ก็คือ

    1. ปัจจุบันทองคำแท่งไม่มีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หลังจากที่ภาครัฐได้ยกเลิกมาตรการดังกล่าวไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้การซื้อขายทองคำแท่งทำได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังไม่ต้องเสียค่ากำเหน็จด้วย

    2. ทองคำยังเป็นแหล่งที่พึ่งพิงสุดท้ายของคนเราเวลาตกทุกข์ได้ยาก ข้อนี้หลายท่านคงเห็นด้วยว่า เวลาที่เราขาดเงินนั้น ถ้าไม่ไปกู้คนอื่นเสียดอกเบี้ยแพงๆ เราก็มักจะใช้สมบัติเก่านี่ละ เอามาแปรสภาพเป็นเงินสดประทังความทุกข์ยากชั่วคราว

    3. การลงทุนด้วยทองแท่ง ไม่เสี่ยงเท่าวิธีลงทุนแบบอื่นๆ เพราะมูลค่าของทองยังคงอยู่ ซื้อง่ายขายคล่อง การลงทุนแบบอื่นๆ ก็ยังต้องศึกษาปัจจัยที่อาจจะเข้ามากระทบ เช่นเศรษฐกิจไม่ดี เกิดสงคราม ราคาหุ้นก็อาจจะวูบไหวไปมา หรือนำเงินฝากธนาคารหวังกินดอกเบี้ย ดอกก็ไม่งามเท่าไหร่ ซื้อที่ดินตุนไว้ หากทำเลไม่เป็นที่นิยมหรือดีจริงๆ ก็ทำให้ขายได้ยาก หรืออาจต้องยอมขาดทุนด้วยซ้ำ

    ยิ่งในปัจจุบันหลายท่านอาจจะต้องใช้สอยอย่างประหยัด คิดหน้าคิดหลังให้ถ้วนถี่ จะลงทุนอะไรก็ต้องแน่ใจว่าได้คืนและมีกำไรติดปลายนวมนิดๆหน่อยๆ ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวของทองคำนี่แหล่ะ จะทำให้ท่านทั้งหลายลงทุนแบบไม่เสี่ยง แถมเหมือนมีเงินออมติดบ้านอยู่ตลอดเวลาด้วยค่ะ

    [​IMG]
    Nicky

    ถ้าไม่กู้หนี้ยืมสินมาซื้อ และไม่คิดจะเล่นแบบเล่นหุ้น คือซื้อขายตามราคาผันแปร ควรซื้ออย่างยิ่งค่ะ เพราะทองราคาไม่ตก ซื้อง่ายขายคล่อง แต่หาที่เก็บดีๆ ถ้ามีจำนวนเยอะ ควรเช่าตู้นิรภัยของแบงค์เก็บปลอดภัยที่สุด อย่าเก็บไว้ที่บ้าน อาจไม่เหลือร่องรอยได้

    [​IMG]
    Morakot

    ดีหรือไม่ดี ก็อยู่ตรงที่ เรายอมรับความเสี่ยงได้ไหม เพราะการลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง (กล้าได้กล้าเสียว่างั้น) ถ้ายอมรับได้ ยอมรับได้แค่ไหน หมายถึงว่าหากเกิดผิดพลาดขึ้นมา เราจะยังคงอยู่ได้ ไม่ถึงขั้นต้องสิ้นเนื้อประดาตัวนั่นเอง ขอให้โชคดีค่ะ

    ที่มาhttp://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20090820224924AA5A4qx

    หมายเหตุ

    เมื่อเกิดศึกสงครามทั้งในประเทศและต่างประเทศ ราคาทองคำแท่ง จะพุ่งขึ้นไปมากกว่าบาทละ 30,000.-บาทอย่างแน่นอน ที่ผมแนะนำให้ซื้อเป็นทองคำแท่ง เพราะสะดวกในการนำไปแลกเปลี่ยนเป็นอาหาร และสิ่งของเครื่องใช้ในยามที่จำเป็นได้ทันที ไม่ยุ่งยากเหมือนทองรูปพรรณ(สร้อย แหวน กำไล) เพราะคนทั่วไปอาจไม่แน่ใจว่าเป็นของจริงหรือของปลอม

    การเก็บทองคำแท่งไว้ในบ้านเป็นจำนวนมากๆ ย่อมไม่ปลอดภัยแน่นอน ควรเช่าตู้นิรภัยของธนาคารที่อยู่ตามต่างจังหวัด และไม่ควรเป็นจังหวัดตามชายแดนด้วยเพราะไม่ปลอดภัย ยิ่งเป็นตู้นิรภัยของธนาคารในกรุงเทพฯและตามหัวเมืองใหญ่ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะถ้าเกิดศึกสงครามหรือเกิดการจราจลขึ้นมาจริงๆ ธนาคารในหัวเมืองใหญ่ๆ เหล่านี้ย่อมต้องถูกบุกเข้าทำลายเพื่อรื้อค้นทรัพย์สินเงินทอง ทองคำแท่งที่ฝากเอาไว้ตามตู้นิรภัยของธนาคารเหล่านี้ก็จะถูกปล้นเอาไปด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2011
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    หนังดีที่น่าดู....

    [​IMG]

    นักฆ่าดาบเทวดา

    เป็นหนังกำลังภายในที่ดูสนุกที่สุดในปีนี้(2010) แถมยังแฝงคติธรรมซ่อนอยู่ภายใต้เนื้อเรื่องอันเข้มข้น กระชับชวนติดตาม เตือนสติเรื่องการทำกรรม ในแง่ของการทำชั่วแล้ว "กลับใจ"ได้ นั้นดีอย่างไร? แต่ผลวิบากกรรมย่อมเวียนกลับมาสนองเราในไม่ช้า ถึงจะปิดบังหลบหลีกซ่อนตัวยังไง ก็หนีไม่พ้น ส่วนพวกที่ทำชั่วจนเคยชินเป็นนิสัย นั้นเปลี่ยนยากแน่ ที่เปลี่ยนยากไม่ใช่เพราะไม่ได้รับโอกาส แต่เป็นเพราะตัดสินใจผิด หรือไม่ก็ถูกชักพาไปในทางที่ถลำลึกยิ่งขึ้น เพราะขาดกัลยาณมิตร(มิตรที่ดี)ช่วยชี้แนะสั่งสอน

    ในอีกส่วนหนึ่งของเนื้อหาสาระนั้น เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลง รูปโฉม ซึ่งสมัยนี้เป็นเอามากทั้งหญิงและชาย ซึ่งในหนังกล่าวถึงอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมว่า ต้องการแปลงโฉม(ศัลยกรรม)เพื่ออะไร? ฟังดูมีเหตุมีผลดี จริงรึเปล่า? หรือว่าเป็นเหมือนคนในสังคมยุคนี้ ที่อยากจะทิ้งอดีตของหน้าเดิมจึงปรับเปลี่ยนยกเครื่องหน้า ถึงหน้าตาจะเปลี่ยนไปแต่ที่เปลี่ยนกันไม่ได้จริงคือนิสัยเดิมที่ย่อมจะทิ้งร่องรอยให้สืบพบจนได้ กระทั่งบุคคลิกภาพแม้ว่าจะเปลี่ยนไป แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่ามันจะเปลี่ยนลงสู่จิตใจได้ก็หาไม่

    ดังนั้นในเรื่องของภาพลักษณ์ อาชีพ จึงเป็นเสมือน "หน้ากาก" ให้ตัวละครแทบจะทุกตัวในเรื่องปิดบังอำพรางตัวตนที่แท้จริง เพื่อให้ผู้คนเหล่านี้สมหวังในสิ่งที่ตนต้องการ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทว่าภาพลักษณ์อันเราจงใจปั้นแต่งนั้นหาได้นำพาชีวิตไปถึงฝั่งฝันได้จริง หากผู้นั้นมิได้มีความจริงใจและซื่อตรงต่อการกระทำใดๆของตัวเองนับตั้งแต่บัดนี้ไป(ในหนังหมายถึงการกลับใจ การยอมรับผลกรรม) ความสุขอันพึงมีพึงได้ก็จะเป็นเพียง ภาพเงาของความสุขอันฉาบฉวยชั่วคราว ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้จริง

    480P โพสต์เมื่อ 29-11-2010 13:10

    ที่มา http://webcache.googleusercontent.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ส่งเอฟ16บินโฉบเขาพระวิหาร </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>“นายกฯมาร์ค” โว สัมพันธ์ 2 ประเทศดีขึ้นแล้ว การเจรจาขอให้เป็นไปตามขั้นตอน ประเด็นช่วย “วีระ-ราตรี” ทำเต็มที่แต่ต้องรอจังหวะที่เหมาะสม ด้าน “กษิต” ทวีต แจ้ง “ไทย-เขมร” ดีขึ้นแล้ว รอบริษัทถ่ายภาพทางอากาศมาคลี่คลายปัญหา “สุเทพ” ติง “ฮุนเซน” ยื่นขอคำอธิบายเขตแดนจากศาลโลก แนะปฏิบัติตามมติยูเอ็นดีกว่า ส่วนชายแดน “ไทย-กัมพูชา” ยิงปะทะต่อเนื่อง สองฝ่ายเสริมกำลังประชิดแนว “ไทย” ส่งเอฟ 16 บินโฉบเขาพระวิหารนานกว่า 5 นาที สื่อกัมพูชา ตีข่าว “ฮอร์นัมฮง” จ่อฟ้อง “ไทย” บนเวทีอาเซียน ละเมิดมติยูเอ็น ด้านเครือข่ายประชาชนฯ วุ่น ไล่ส่งทนายความ ด้าน “การุณ” ย้ำ คำสั่งเสีย “วีระ” ให้สู้ถึงที่สุด 25 ก.พ.นี้ เตรียมเข้าเยี่ยมที่เรือนจำ ตำรวจ จ้องฟ้องหมิ่นพิธีกรพันธมิตรฯ กล่าวหาใช้แก๊สจีนสลายม็อบ ยัน เจ้าหน้าที่ไม่ใช้อาวุธ ทำทุกอย่างตามหลักสากล

    เกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา บริเวณเขาพระวิหาร พื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังมีเหตุปะทะของกำลังทหารทั้งสองฝ่ายจนเกิดความสูญเสียกันไป จนมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) และได้ข้อตกลงให้ทั้งสองประเทศหยุดยิง แต่ในพื้นที่ชายแดนกลับมีกำลังทหารกัมพูชายิงอาวุธหนักและเบาใส่ฐานทหารไทยอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ทหารไทยยิงตอบโต้ต่อเนื่อง ขณะเดียวกันนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งมีการเสนอแผนยุติปัญหาให้นำคนกลางมาเจรจากัน นอกจากนี้ยังมีปัญหาของนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ 2 คนไทยที่ถูกศาลกัมพูชาสั่งจำคุก ที่ต้องถูกควบคุมตัวก่อน 2 ใน 3 ของโทษที่ได้รับ จึงจะขอพระราชทานอภัยโทษได้นั้น

    เขมรถล่มฐานทหารไทย

    ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 01.30 น. ทหารกัมพูชา กองร้อยสนับสนุนที่ 111 กองพลน้อยสนับสนุนที่ 11 กองทัพภูมิภาคที่ 4 ของพล.ต.เยือง โซ๊ะคน พร้อมทหารหน่วยรบพิเศษ 911 กองบัญชาการทหารสูงสุด ที่มี พล.ท.จาบ เพียกะเด็ย เป็นผู้ผบ. กว่า 2 กองร้อย ได้เคลื่อนพลเข้าประชิดฐานปฏิบัติการทหาร หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 กองกำลังสุรนารี ที่ตั้งอยู่บริเวณพลาญอินทรีย์บนภูมะเขือ เทือกเขาพนมดงรัก ในเขตพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร ต.รุง อ.กันทรลักษ์ พร้อมกับเปิดฉากยิงปืนอาก้า เอเค 47 และยิงปืนกลรัวเข้าใส่ฐานทหารไทย ทำให้ทหารไทยซึ่งเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ยิงตอบโต้ด้วยปืนเอ็ม 16 และเอชเค 33 โดยพล.ต.ชวลิต ชุนประสาน ผบ.กองพลทหารราบที่ 6 ได้ส่งกำลังหน่วยลาดตระเวนทหารราบ ที่อยู่บริเวณภูมะเขือ เคลื่อนพลไปสนับสนุน กระทั่งผ่านไปประมาณ 30 นาที ทหารกัมพูชาได้ถอยกลับฐานที่ตั้งโดยไม่มีรายงานความสูญเสียแต่อย่างใด

    เคลื่อนกำลังประชิดแนว

    แหล่งข่าวทหารกัมพูชา รายงานว่า หน่วยบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพแห่งชาติกัมพูชา ประจำพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ได้มีวิทยุสั่งการให้กำลังพลในสังกัด หน่วยภูมิภาคทหารที่ 4 กองพลสนับสนุนที่ 3 และกำลังเสริมจากกองทัพบกกัมพูชา เคลื่อนพลสลับฐาน เข้าประจำการที่ฐานทัพผลาญหินแปดก้อน ฐานทัพช่องอานม้า ฐานทัพช่องตาเฒ่า ฐานทัพบ้านสวายจะรุม ฐานทัพซ่องคำผกา ฐานทัพช่องซำแต ฐานทัพช่องโพย และฐานเบาะสะเบา โดยเช้ามืดรถถังรุ่นที 55 ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 100 มม. ผลิตในสหภาพโซเวียต 10 คัน ได้เคลื่อนเข้าประจำการ ตามถนนสาย อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ไป อ.ตะแบงมีชัย จ.พระวิหาร เลาะเลียบแนวเทือกเขาพนมดงรัก สบทบกับกองทัพรถถังกัมพูชาแล้ว โดยเริ่มจากฐานทัพโอทะมอร์ ฐานทัพโอกะยุง ฐานทัพช่องเขาขาด บ้านโอกะกีกันดาร อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ฝั่งตรงกันข้ามกับ ด่านผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ จนถึงฐานทัพบ้านโกมุย ต.กันตร๊วจ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ฝั่งตรงกันข้ามกับอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์

    F16บิน2ลำโฉบพระวิหาร

    วันเดียวกัน เวลา 10.50 น. ชาวตำบลเมือง อ.กันทรลักษ์ ได้พบเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 เอดีเอฟ ของกองทัพอากาศไทย 2 ลำ ที่อยู่ในระหว่างฝึกซ้อมรบคอปบร้าโกลด์บินโฉบลงต่ำเหนือน่านฟ้า บริเวณถนนวิหาร เส้นทางไปปราสาทพระวิหาร โดยบินวนเลาะเลียบ ตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา อยู่ประมาณ 5 นาที ได้บินลับหาย มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก ซึ่งสร้างความแตกตื่น ให้กับชาวกันทรลักษ์เป็นอย่างมาก เพราะเกรงทหารกัมพูชาจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการบินยั่วยุ จนเกิดการปะทะรอบใหม่ได้
    พ.ต.ท.เปียว ทองแก้ว สว.สส.สภ.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า แม้ว่าจะเกิดเสียงปืนดัง บริเวณภูมะเขือทุกคืน แต่ก็เป็นเพียงปืนเล็กยาวเท่านั้น ไม่ได้มีการยิงปืนใหญ่ ซึ่งชาวบ้านชายแดนส่วนใหญ่ก็เริ่มที่จะชินชากับเสียงปืนแล้ว และบางคนก็เริ่มก่อสร้างบังเกอร์ส่วนตัว ต่อสายไฟฟ้า ติดตั้งหลอดไฟส่องสว่างและพัดลม ไว้ภายในเขตรั้วบ้านตนเอง หากเกิดเหตุการณ์ปะทะรุนแรง จะได้วิ่งเข้าหลบภัยได้ทัน ส่วนในเวลากลางคืน ชุดปฏิบัติการร่วมตำรวจทหาร ได้ลาดตระเวนตรวจตรา รักษาความสงบเรียบร้อย ให้กับชาวบ้านอยู่แล้ว

    ชาวบ้านวอนเหตุสงบ

    ส่วนบรรยากาศที่วัดชายแดนทั้ง 6 แห่ง ประกอบด้วย วัดภูมิซรอล วัดบ้านภูมิซรอล วัดบ้านชำเม็ง วัดเสาธงชัย วัดป่าภูแหลม ต.เสาธงชัย และวัดบ้านตาแท่น ต.บึงมะลู และที่พักสงฆ์อีก 1 แห่ง คือ ธุดงค์สถานวิหารเพชร พระสงฆ์ได้เริ่มทยอยเดินทางกลับวัด เพื่อประกอบพิธีเวียนเทียน เนื่องในวันมาฆบูชา โดยนางคูณ คงสิม อายุ 45 ปี กล่าวว่า ในวันนี้ประชาชนตามแนวชายแดน ได้พากันนำข้าวต้ม ขนมเทียน มาร่วมทำบุญที่วัดกันอย่างคึกคัก ตามประเพณี พร้อมกับรดน้ำขอพร ให้ชายแดนสงบ ภาวนาอย่าไม่มีการสู้รบ

    สื่อตีข่าวฮอร์นัมฮงฟ้องไทย

    ที่จ.สระแก้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกอรัญประเทศ มีคนกัมพูชาจำนวนมากจากฝั่งปอยเปต เดินทางข้ามมาประกอบอาชีพในตลาดโรงเกลือตามปกติ ขณะเดียวกันชาวกัมพูชาติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้นจากสื่อต่างๆใกล้ชิด ซึ่งหนังสือพิมพ์เกาะสันติภาพและอีกหลายฉบับเสนอข่าวนายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศกัมพูชา จะนำเรื่องกรณีไทยได้ละเมิดคำแถลงการณ์ยูเอ็นเอสซี โดยทหารไทยทำการโยนระเบิดและยิงปืนใหญ่ข้ามมาฝั่งประเทศกัมพูชาทุกคืน เสนอเข้าที่ประชุมอาเซียน ที่กรุงจากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ เพื่อให้ผู้สังเกตการณ์อาเซียนได้รับทราบข้อเท็จจริง ส่วนการเจรจาแบบทวิภาคีนั้นกัมพูชาไม่ต้องการ เพราะกัมพูชามีจุดประสงค์ต้องการเจรจาแบบไตรภาคี โดยมีสมาชิกอาเซียนเป็นคนกลางเข้ามาทำการไกล่เกลี่ย

    แนะฮุนเซนทำมติยูเอ็น

    ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสมเด็จฮุนเซน เตรียมจะยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ศาลโลก) เพื่อให้พิจารณาอธิบายคำพิพากษาในคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 ให้มีความชัดเจนเรื่องเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ว่า เราต้องติดตามต่อไปว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาประกาศมานั้นทำได้หรือไม่ และไม่ขอวิจารณ์หรือแสดงท่าทีหักล้าง เพราะไม่ต้องการให้รู้สึกว่าเป็นการยั่วยุท้าท้าย เมื่อในชั้นนี้ ยูเอ็นเอสซี ให้ทั้งสองประเทศเจรจาโดยให้อาเซียนเข้ามาช่วย ควรเดินในแนวทางนี้ อยากเรียกร้องให้ผู้นำกัมพูชาพิจารณาเพราะเมื่อเป็นผู้นำเรื่องนี้ไปสู่ยูเอ็นเอสซีเอง เมื่อมีมติอย่างไรปฏิบัติตามมติจะดีกว่า
    นายสุเทพ กล่าวว่า การช่วยเหลือนายวีระ และน.ส.ราตรี อยู่ที่ครอบครัวของทั้ง 2 คน ฝ่ายรัฐบาลพยายามที่จะเข้าไปช่วยเท่าที่เราดำเนินการได้ ซึ่งในช่วงต้นนายวีระ เลือกที่จะต่อสู้คดีเอง คงจะต้องรอดูว่าหากนายวีระและน.ส.ราตรียื่นขอพระราชทานอภัยโทษแล้วทางกัมพูชาจะว่าอย่างไรและคงต้องขอให้ทางกัมพูชาพิจารณา การที่สมเด็จฮุนเซ็น บอกให้จำคุกก่อนเป็นไปตามขบวนการ เมื่อถามว่ามีการเปรียบเทียบกับกรณีนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ว่าไม่ได้รับโทษตามขั้นตอนแต่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ รัฐบาลจะหาทางช่วยเหลืออย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เราต้องหาทางและต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไรนัก มีความตึงเครียดเรื่องอื่นอยู่ด้วย จังหวะไม่ค่อยดี ต้องพูดคุยกับกัมพูชาแยกแยะเรื่องออกจากกัน ยืนยันว่ารัฐบาลช่วยเหลือทุกช่องทางทั้งของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม โดยพยายามให้ดีที่สุด

    รอจังหวะช่วยวีระ-ราตรี

    ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จ.ราชบุรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ต้องการให้นายวีระ และน.ส.ราตรี ถูกจำคุก 2 ใน 3 ของโทษก่อนที่จะรับอนุญาตให้ยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ ว่า เราพยายามดำเนินการ ต้องดูว่าช่องทางมีอะไรบ้าง ขณะเดียวกันเข้าใจว่ายังไม่ได้มีการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งเป็นจุดที่ตนได้คุยกับครอบครัวของนายวีระ และทนายความ ให้ตัดสินใจให้ดี และจะต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเสนอ เราต้องยอมรับว่าบรรยากาศความตึงเครียดบริเวณชายแดนย่อมมีผลด้วย ดังนั้นการเลือกทำอะไรในจังหวะเวลาอะไร เราจึงต้องระมัดระวังด้วย

    สัมพันธ์ไทย-เขมรดีขึ้น

    นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พานิชย์ ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากกัมพูชา เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็แจ้งว่าคลี่คลายไประดับหนึ่ง เพราะนิทรรศการแสดงสินค้าไทยและการประชุมทางธุรกิจที่กัมพูชานั้นบรรยากาศของประชาชนทั้ง 2 ประเทศไม่เป็นปัญหา และนายไตรรงค์ ที่ไปร่วมงานด้วย ก็บอกว่าบรรยากาศทั่วไปเป็นไปอย่างที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาระบุว่าพยายามจำกัดประเด็นปัญหา ซึ่งอย่างน้อยก็ดีที่ไม่ลุกลามออกมา แต่เราต้องทำงานต่อ เพราะถ้าต้องการช่วยนายวีระ และน.ส.ราตรี ออกมา แล้วต้องทำให้พื้นที่ที่เกิดปัญหากลับสู่ภาวะปกติ โดยไม่กระทบสิทธิของเรา” นายกรัฐมนตรี กล่าว
    เมื่อถามว่าหลังการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ อาจจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องแบบนี้เราไม่ควรจะไปพูดอะไรล่วงหน้า แต่เราจะมีการประสานงานกันเพื่อประเมินอย่างใกล้ชิด เมื่อถามต่อว่าฝ่ายบริหารของทั้ง 2 ประเทศ สามารถพูดคุยกันเพื่อช่วยเหลือนายวีระได้เร็วขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าว ต้องทำให้ได้ แต่จังหวะเวลานั้นก็ต้องประเมิน เพราะการเมืองในประเทศกัมพูชา ก็เชื่อมโยงมาถึงการเมืองในประเทศเราด้วย เราควรแยกแยะว่าสิ่งที่ทำเพื่อช่วยนายวีระและน.ส.ราตรีนั้น ไม่ควรกระทบภาพใหญ่ของประเทศ ซึ่งทั้ง 2 คนน่าจะเห็นด้วย ตนพยายามเรียกร้องว่าไม่ว่าผู้ที่เคลื่อนไหว มีเจตนาเป็นอย่างไร แต่เมื่อเกิดปัญหาความยุ่งยากซับซ้อนขึ้น ผลร้ายตกอยู่กับคนอื่น

    ปัดเขมรขอกำลังอาเซียน

    เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประกาศว่าการเจรจาแบบทวิภาคีระหว่างไทยและกัมพูชาจบไปแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่จะพูด แต่ประเด็นหลักคือ 2 ประเทศจะต้องพูดคุย ตัดสินใจ และเจรจาระหว่างกัน ส่วนจะมีผู้อื่นมาเป็นพยานหรือช่วยจัดเวทีให้ ก็อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อถามต่อว่ากัมพูชาร้องขอให้อาเซียนส่งกองกำลังเข้ามาป้องกันการปะทะกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีหรอก

    ทวิตไทย-กัมพูชาคุยกันดีขึ้น


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้เขียนข้อความลงในทวิตเตอร์ Twitter โดยใช้ชื่อ @kasitpirom มีเนื้อหาว่า “ตอนนี้กลับมาถึงเมืองไทยแล้ว ขอย้ำยูเอ็นเอสซี ขอให้เป็นเรื่อง 2 ฝ่าย ให้เจรจากันต่อไป การเจรจาเป็นท่าทีของไทยมาโดยตลอด และเรามีกลไกทั้งสองฝ่ายดำเนินการอยู่ และมีความคืบหน้ามาโดยตลอด โดยทั่วไปก็มีเจซี (คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือ) นอกจากนั้นเรื่องเขตแดนก็มี เจบีซี (คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม) จีบีซี (คณะกรรมการชายแดนทั่วไป) อาร์บีซี (คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค) เช่น เรื่องเสาเขตแดน ก็ทำกันอยู่ เสาหลักเขต 73 เสา ก็ค้นไปได้ 40-50 เสาแล้ว และทั้งสองฝ่ายกำลังตกลงคัดเลือกบริษัทเพื่อทำการถ่ายภาพทางอากาศ ขอย้ำทุกอย่างมีกลไกการทำงานรองรับอยู่

    ม็อบสู้คดีช่วยถึงที่สุด

    บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ได้แถลงถึงท่าทีประจำวัน โดยนายการุณ ใสงาม แกนนำ กล่าวว่า ในประเด็นเรื่องการอุทธรณ์คดีของนายวีระ และ น.ส.ราตรี เครือข่ายฯในฐานะคณะที่ปรึกษาทางกฎหมายได้รับมอบหมายเป็นคำสั่งเสียอย่างชัดเจน ก่อนถึงวันพิพากษาว่า ทั้งสองคนยืนยันจะสู้คดีถึงที่สุด และจะสู้ในรูปแบบการต่อสู้ของสถาบันอื่นๆ เช่น สถาบันระหว่างประเทศ สหประชาชาติ ซึ่งนายวีระยืนหยัดต่อสู้ได้ในเรือนจำ ส่วนกระแสข่าวที่ว่า ครอบครัวของทั้ง 2 คน จะขออภัยโทษนั้น เป็นความเห็นและความต้องการของครอบครัว ทางเราจะไม่ก้าวล่วง ซึ่งการจะช่วยนายวีระและ น.ส.ราตรีได้เร็วที่สุด ต้องมีรัฐบาลที่เข้าใจปัญหา แต่นายอภิสิทธิ์ ไม่เหมาะกับการทำหน้าที่นี้ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลนี้ออกไป อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 25 ก.พ.นี้ เครือข่ายอาจมีโอกาสได้เข้าเยี่ยมนายวีระและ น.ส.ราตรี
    นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานเครือข่าย กล่าวว่า จากกรณีที่เครือข่ายได้ฟ้องร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เรื่องมติของรัฐบาลที่ได้ใช้มาตรการตามพ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลา 21.20 น. ว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า มาตรการที่รัฐบาลออก เป็นการออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติ ไม่อยู่ในอำนาจของศาลปกครอง มีคำสั่งไม่รับฟ้อง ดังนั้นเครือข่ายฯจะยกร่างคำฟ้องฟ้องศาลยุติธรรมในวันที่ 21 ก.พ.นี้

    ม็อบไล่ทนาย-โต้กันเละ


    นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ คณะกรรมการเครือข่าย กล่าวว่า เราฟ้องศาลปกครองสูงสุด เพื่อให้ศาลเพิกถอนมติ ครม. เมื่อศาลเห็นว่า เป็นอำนาจศาลยุติธรรม ก็จะไปฟ้องศาลยุติธรรม ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณาพฤติกรรมของนายณฐพร โตประยูร ที่ปรึกษากฎหมายเครือข่ายฯ ในหลายกรณี และเรามีมติเอกฉันท์ให้คนๆนี้พ้นจากหน้าที่ เพราะพฤติกรรมล่าสุด เห็นแล้วว่า ไม่ควรทำงานร่วมกันต่อไป
    นายณฐพร โตประยูร ที่ปรึกษาทนายความของนายวีระและน.ส.ราตรี กล่าวถึงกรณีที่โดนถอดออกจากทนายความเครือข่ายว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆกับคณะกรรมการ ซึ่งการแถลงข่าวเรื่องการขออภัยโทษให้นายวีระ และ น.ส.ราตรี นั้นทำให้คณะกรรมการเครือข่ายฯ เห็นว่าตนมีแนวทางการต่อสู้ไม่เหมือนกับทางกลุ่ม ขอยืนยันว่า ในช่วงที่ผ่านมาตนไม่เคยทำงานเป็นทนายความให้กับกลุ่มเครือข่ายฯ และไม่เคยได้รับเงินเดือน หรือผลประโยชน์ใดๆ แต่เคยยื่นเรื่องขอประกันตัวให้นายไชยวัฒน์ และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ เท่านั้น ส่วนกรณีนายวีระ และ น.ส.ราตรี ได้รับมอบหมายจากบุคคลทั้งสองให้เป็นทนายความ และถ้าจะถูกถอดออกก็ต้องมาจากอำนาจของบุคคลทั้งสอง โดยในวันที่ 19 ก.พ. อาจจะมีการแถลงข่าวจากครอบครัวของนายวีระ ในประเด็นเกี่ยวกับการขออภัยโทษ

    ตร.ขู่ฟ้องพิธีกรพธม.

    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกศอ.รส. แถลงว่า กรณีนายอมร อมรรัตนานนท์ แกนนำพันธมิตร พูดบนเวทีมีข้อความตอนหนึ่งกล่าวหาตำรวจว่าตำรวจจะสลายการชุมนุมโดยใช้วิธีแบบอียิปต์ และนำแก๊สน้ำตาจากประเทศจีนมาใช้เพื่อให้เกิดเหตุการณ์เหมือนกับวันที่ 7 ต.ค.51 ทางศอ.รส. ขอยืนยันกับประชาชนว่ากำลังตำรวจที่ใช้ดูแลการชุมนุมไม่มีอาวุธ นอกจากมีอุปกรณ์ป้องกันตัว ส่วนแก๊สน้ำตาที่ใช้ก็ผลิตจากประเทศอเมริกา ไม่มีชิ้นส่วนของระเบิด ใช้วิธีการดึง และโยน ไม่มีการยิง มีความร้อนเท่านั้น
    สำหรับการซักซ้อมของหน่วยปราบปรามจลาจลที่บริเวณศาลายา จ.นครปฐมนั้นเป็นการซักซ้อมเพื่อปรับยุทธวิธีให้เป็นไปตามขั้นตอนของยูเอ็น มีสื่อมวลชนไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย หากมีการสงสัย ยินดีให้สื่อมวลชนตรวจสอบได้ จึงอยากจะฝากไปยังพิธีกรที่พูดพาดพิงถึงตำรวจให้เสียหาย ขอร้องว่าอย่ากระทำ ขณะที่ได้นำเทปบันทึกคำปราศรัยของนายอมรให้ยังกองคดี ตรวจสอบแล้วเพื่อดำเนินการฟ้องร้องต่อไป

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. GoonS

    GoonS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +2,682
    อาจารย์ผมบอกว่า หัวหน้าฝ่ายฆราวาสก็ป่วย ฝ่ายสงฆ์ก็ป่วย ต่อไป.. หมาก็จะเเย่งเเผ่นดิน
    วันที่ 17 กรกฎา 2555 คนไทยทั้งประเทศจะต้องร้องไห้
    ผมก็ยังไม่มั่นใจ100%ว่าเรื่องอะไร
    เพราะอาจารท่านก็พูดมาเเค่นี้ ผมเลยพูดตามที่ได้ยิน
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เหตุประท้วงทั่วอาหรับ

    [​IMG]

    สถานการณ์การเมืองในโลกอาหรับได้ทวีความรุนแรงและร้อนระอุต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นบาห์เรน, ลิเบียและเยเมน โดยเมื่อค่ำวานนี้ได้มีการปะทะกันใน 3 ประเทศทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพิ่มมากขึ้น

    เริ่มที่บาห์เรน ล่าสุดกษัตริย์ฮาหมัดได้ทรงสั่งให้เจ้าฟ้าชายซาลมาน มกุฎราชกุมาร เปิดเจรจากับทุกฝ่ายเพื่อยุติวิกฤติการณ์ทางเมืองที่กำลังบานปลาย ซึ่งเจ้าชายซาลมาน็ได้ทรงออกแถลงผ่านทางโทรทัศน์บาห์เรนเมื่อวานนี้แสดงความเสียพระทัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่าประเทศบาห์เรนแห่งนี้เป็นของชาวชีอะห์และสุหนี่ ทั้งสองกลุ่ม การออกมาแถลงของเจ้าชายมีขึ้นกองกำลังความมั่นคงได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนที่ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลใกล้จัตุรัสเพิร์ล ในกรุงมานาม่า ก่อนเปิดฉากยิงด้วยกระสุนจริง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 120 คน

    การปะทะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังผู้ชุมนุมมาร่วมพิธีฝังศพผู้เสียชีวิตส่วนหนึ่งจากการสลายการชุมนุมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 คน ทางการยังได้ส่งรถถังและกำลังทหารเข้าประจำตามจุดยุทธศาสตร์สำคัญ การสลายกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงของบาห์เรน ถูกตำหนิจากหลายฝ่ายรวมถึงกลุ่มสิทธิมนุษยชน ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ผู้นำสหรัฐได้โทรศัพท์พูดคุยกับกษัตริย์ฮาหมัดขอให้ทรงใช้ความอดกลั้น และล่าสุดสหรัฐกับอังกฤษได้เตือนพลเมืองให้ยกเลิกเดินทางไปบาห์เรนแล้วหากไม่จำเป็น

    ที่ลิเบีย มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 35 คน จากเหตุปะทะระหว่างกองกำลังรักษาความมั่นคง กับกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ของพันเอก มูอามาร์ อัล-กัดดาฟี่ ขณะเดินขบวนไปยังบ้านพักของกัดดาฟี่ที่เมืองเบงกาซี เพื่อประท้วงการกวาดล้างอย่างรุนแรงก่อนหน้านี้ หลังจากที่เมื่อวานนี้ ประชาชนออกมาชุมนุมเป็นจำนวนมากทั้งที่กรุงทริโปลี และเบงกาซี

    ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนรายงานว่า มีคนเห็นหน่วยแม่นปืนประจำอยู่บนหลังคาอาคาร ในเขตอัล-ไบดา ทางตะวันออกของเมืองเบนกาซี ซึ่งมีรายงานผู้เสียชีวิตมากถึง 13 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน ฝ่ายรัฐบาลได้ใช้หลายวิธีจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม มีทั้งการส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือเตือนประชาชนไม่ให้ออกมาชุนนุมเพิ่ม การประกาศผ่านโทรโข่งว่าจะจ่ายเงินให้ผู้ชุมนุมที่ยอมเปลี่ยนใจกลับบ้าน รวมถึงจัดม็อบสนับสนุนออกมาชนม็อบ โดยมีการว่าจ้างผู้อพยพชาวแอฟริกาและตูนิเซียเข้ามาปะปนด้วย

    ขณะที่เยเมน ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีอาลี อับดุลลาห์ ซาเล่ห์ มานานถึง 32 ปี ก็ยังตกอยู่ในสถานการณ์ความรุนแรงเช่นกัน ประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลได้ออกมาชุมนุมประท้วงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 แล้ว เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีลงจากตำแหน่ง โดยมีการจัดชุมนุมประท้วงในหลายเมืองทั่วประเทศ

    โดยที่เมืองทาเอซ ได้เกิดเหตุโจมตีด้วยระเบิดมือ ขณะที่ผู้ชุมนุมหลายร้อยคนรวมตัวกันหลังพิธีสวดมนต์เย็นวันศุกร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 28 คน ส่วนที่กรุงซาน่า เกิดเหตุม็อบชนม็อบ ระหว่างกลุ่มสนับสนุนและต่อต้านรัฐบาล ทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 4 คน

    ขณะที่มีรายงานผู้สื่อข่าวถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 4 คน ส่วนเมืองเอเดน เมืองท่าสำคัญของเยเมน ได้เกิดเหตุปะทะระหว่างกลุ่มต่อต้านรัฐบาลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงตลอด 9 วัน เพิ่มเป็น 5 คน บาดเจ็บอีก 57 คน

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1298094823.jpg
      1298094823.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.6 KB
      เปิดดู:
      2,960
  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ข้าวราคาตก-ม็อบชาวนาขู่บุก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่บริเวณลานชุมชน ม.6 ต.บ้านเกาะ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา

    กลุ่มชาวนาใน 16 อำเภอ ของจ.พระนครศรีอยุธยา ประมาณ 300 คน ร่วมประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาราคาข้าวที่กำลังตกต่ำ โดยใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง พร้อมเปิดเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล หลังไม่สามารถแก้ปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำได้

    นายวิเชียร พวงลำเจียก อุปนายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า แนวทางการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ชาวนา ในจ.พระนครศรีอยุธยา

    ประสานงานกับกลุ่มชาวนาในอีก 22 จังหวัด เพื่อเคลื่อนไหวให้รัฐบาลหามาตรการอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่จะแก้ไขปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำอย่างมาก โดยในวันที่ 22 ก.พ.นี้ จะส่งตัวแทนเข้าไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี และให้ชาวนาแต่ละจังหวัดชุมนุมอยู่ในพื้นที่ หากไม่เป็นผลในการเรียกร้อง ชาวนาทั้งหมดจะเคลื่อนเข้ามาชุมนุมรวมกันที่ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    ด้านนายขวัญชัย มหาชื่นใจ ผู้ประสานงานผู้ปลูกข้าวเขตภาคกลาง กล่าวว่า การรวมตัวหาข้อกำหนดเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลครั้งนี้

    ชาวนาทั้งหมดมาด้วยความสมัครใจ ต้องการให้รัฐบาลปรับราคาประกันราคาข้าวจาก 10,000 บาท เป็น 14,000 บาท และเพิ่มโควตาจาก 25 ตัน เป็น 40 ตัน ซึ่งหากการยื่นหนังสือไม่ได้รับคำตอบ กลุ่มชาวนาทั้งหมดจะมีวิธีกดดันรัฐบาลที่เข้มข้นขึ้น โดยอาจจะเคลื่อนตัวเข้ากรุงเทพฯ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    หนังตัวอย่าง

    ผู้ขับขี่รถยนต์หลายคันวิ่งตกลงไปในร่องถนนเลียบคลองชลประทาน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ทรุดตัวเป็นทางยาวเกือบ 100 ม.ลึกกว่า 2 ม.คาดเหตุจากชาวนาเร่งสูบน้ำทำนาปรังจนแห้งขอด

    เมื่อกลางดึกวานนี้ (19 ก.พ.) เกิดเหตุถนนลียบคันคลองชลประทาน ในโครงการทางหลวงชนบท เชื่อมระหว่างตำบลบางปะหัน กับตำบางเดื่อ อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วง กม. 6 ม. ซึ่งเป็นถนนลาดยาง ผิวการจราจรกว้าง 6 เมตร ได้ทรุดตัวลึกจมลงไปประมาณ 2 เมตร เป็นระยะทางยาวเกือบ 100 เมตร


    สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้าน ที่แห่เดินทางมาดูและวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนาๆ ครั้งแรกคิดว่าเกิดจากแผ่นดินไหว หรือเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งถนนสายดังกล่าวชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางสัญจรมานานหลายสิบปี เป็นเหตุให้เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา มีผู้ไม่ทราบเหตุ ขับรถวิ่งฝ่าพุงตกถนนหลายคัน แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือถึงแก่ชีวิต

    นายอำนาจ จรัสเพ็ชร อายุ 57 ปี กำนันตำบลบางเดื่อ อำเภอบางปะหัน เล่าเหตุการณ์ระทึกขวัญเกือบเอาชีวิตไม่รอดว่า เมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 22.00 น. ขับรถอีซูซู กระบะ 4 ประตู สีเขียว หมายเลขทะเบียน อห 5633 กทม. เดินทางกลับจากงานเลี้ยง ต้องสะดุ้งสุดขีดเมื่อไฟหน้ารถส่องไปไม่พบผิวจราจร เพียงเสี้ยวนาทีรถกะบะได้พุ่งทะยานลงสู่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว หน้ารถกระแทกพื้นพังเสียหาย เครื่องแรถยนต์ตก


    และรถเสียหลักตกอยู่ข้างถนนด้านล่าง แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนักเนื่องจาคาดเข็มขัดนิรภัย นอกจากนี้ยังพบรถ จยย. ของชาวบ้านอีก 3 คัน วิ่งตามมาพุ่งตกลงตามไปด้วย พอได้สติจึงรีบออกจากรถ ลากกิ่งไม้ทำสัญญานให้รถได้ทราบว่าข้างหน้ามีอันตรายถนนทรุดตัว และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบ

    อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ว่าสาเหตุถนนทรุด เกิดจากชาวนาสูบน้ำออกจากบ่อน้ำริมถนนขึ้นไปทำนาจนน้ำแห้งขอด ทำให้ไหล่ถนนที่อุ้มน้ำรับน้ำหนักไม่เป็นเหตุให้ถนนทรุด ทั้งนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าเกิดจากอะไรกันแน่ต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบรายละเอียดก่อน

    ที่สำคัญถนนเส้นเกิดเหตุ กรมทางหลวงชนบทได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนรับเหมาเข้ามาซ่อมสร้างทั้งสายยาวกว่า 7 กิโลเมตร และเพิ่งส่งมอบเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และยังอยู่ช่วงระยะเวลาการรับประกันงาน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    เครดิต....... [​IMG]
     
  13. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    มะนาว​
    <!--sizec--><!--/sizec--><!--colorc--><!--/colorc-->


    [​IMG]


    <!--coloro:#996633--><!--/coloro--><!--sizeo:2--><!--/sizeo-->ชื่อพื้นเมืองอื่นๆ <!--sizec--><!--/sizec--><!--colorc--><!--/colorc-->

    ส้มมะนาว (ทั่วไป)
    โกรยชะม้า (เขมร-สุรินทร์)
    ปะนอเกล มะนอเกละ มะเน้าด์เล (กระเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
    ปะโหน่งกลยาน (กระเหรี่ยง-กาญจนบุรี)
    ลีมานีปีห์ (คาบสมุทรมาเลย์)
    หมากฟ้า (ชาน-แม่ฮ่องสอน)


    <!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#3366FF--><!--/coloro-->ลักษณะทั่วไปของมะนาว<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec-->

    ลำต้น
    มะนาวเป็นไม้ผลยืนต้นขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นทรงพุ่ม มีความสูงเฉลี่ย 10-20 ฟุต ลำต้นมีลักษณะโค้งงอไม่ค่อยแข็งแรง เปลือกของลำต้นมีสำน้ำตาลปนเทา กิ่งอ่อนของมะนาวมีสีเขียวอ่อน เมื่อแก่ สีจะเข้มขึ้นจนเป็นสีน้ำตาล ส่วนกิ่งที่แก่มากจะเป็นสีเทา การออกของกิ่งก้านไม่ค่อยเป็นระเบียบ บนลำต้นและกิ่งก้านจะมีหนาม หนามมีลักษณะแหลม มีทั้งหนามสั้นและหนามยาว มีสีเขียวเข้มและสีเขียวอมเหลือง ส่วนบริเวณปลายหนามมีสีน้ำตาล เมื่อแก่ขึ้นหนามจะแห้งตายไป

    ใบ
    ใบของมะนาวมีลักษณะเป็นใบเดี่ยว คือมีแผ่นใบอันเดียว ใบมีขนาดเล็กกว้างประมาณ 3-6 ซม. ยาวประมาณ 6-12 ซม. รูปร่างเป็นแบบรีหรือทรงไข่ ฐานใบมีลักษณะกลม ปลายใบมีรูปแหลม ป้าน ขอบใบเป็นคลื่น หรือเป็นหยักละเอียด ก้านใบสั้น และมีปีกใบแคบหรืออาจไม่มีปีกใบก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์มะนาว ใบอ่อนมีสีเขียวจางเกือบเป็นสีขาว ใบแก่มีสีเขียวเข้ม ผิวใบด้านบนละเอียดเป็นมัน ส่วนผิวใบด้านล่างค่อนข้างหยาบและมีสีจางกว่า เมื่อทำการขยี้ใบจะมีกลิ่นแรง


    ดอก
    ดอกมะนาวอาจเกิดเป็นดอกเดี่ยวหรือช่อก็ได้ มีทั้งที่เป็นดอกสมบูรณ์และไม่สมบูรณ์ ดอกจะออกบริเวณซอกใบและปลายกิ่ง ดอกมะนาวมีขนาดเล็ก ดอกที่ตูมจะมีขนาดความยาว 1-2 ซม. กลีบเลี้ยงมีสีเขียว ส่วนกลีบดอกมีสีขาว และด้านท้องกลีบดอกอาจมีสีม่วงอมแดงเจืออยู่ด้วย กลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปถ้วย มีจำนวน 4-5 อัน จำนวนกลีบในและกลีบนอกมีจำนวนเท่าๆกัน แต่ละกลีบมีขนาด 0.8-1.2 ซม. ดอกมะนาวมีเกสรตัวผู้มากมายถึง 20-40 อัน เชื่อมติดกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-8 อัน เกสรตัวเมียมีรังไข่รูปร่างเป็นทรงกระบอก ใน 1 ดอก จะมีรังไข่ประมาณ 9-12 อัน


    ผล
    ผลมะนาวมีรูปร่างแตกต่างกันไปตามชนิดของพันธุ์ มีทั้งรูปร่างยาวรี รูปไข่ และรูปร่างกลม ที่ก้นผลมีลักษณะเป็นจุกหรือปุ่มเล็กๆ ผลโดยทั่วไปมีขนาดความยาว 3-12 ซม. เปลือกมีลักษณะขรุขระ และมีต่อมน้ำมันที่เปลือกผิว ผิวเปลือกเมื่อยังอ่อนจะมีสีเขียว เมื่อสุกจะมีสีเหลืองหรือสีทอง ใน 1 ผลจะมีกลีบอยู่ 8-10 กลีบ ในกลีบจะมีถุงน้ำที่มีลักษณะเล็ก หัวท้ายแหลม บรรจุอยู่เป็นจำนวนมาก เนื้อมะนาวมีสีเหลืองอ่อน มีรสเปรี้ยวและมีกลิ่นหอม


    <!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#996633--><!--/coloro-->ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์ของมะนาว<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec-->


    มะนาวมีถิ่นกำเนิดที่ไหนยังไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัด บางคนกล่าวว่าเป็นพืชพื้นเมืองของอินเดีย และประเทศในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ แต่บางคนกล่าวว่ามะนาวเป็นพืชพื้นเมืองของหมู่เกาะอินเดียตะวันออก แล้วได้แพร่กระจายพันธุ์เข้าสู่แผ่นดินใหญ่ของทวีปเอเชีย อย่างไรก็ตามมะนาวก็ได้แพร่กระจายพันธุ์ไปยังส่วนต่างๆของโลก โดยเฉพาะในเขตร้อนและกึ่งร้อนอย่างกว้างขวาง และได้มีผู้สันนิษฐานไว้ว่า ชาวอาหรับเป็นผู้นำมะนาวจากอินเดียไปปลูกในปาเลสไตน์ เปอร์เซีย อียิปต์ และยุโรป หลังจากนั้นมะนาวก็ได้แพร่กระจายไปยังหมู่เกาะอินเดียตะวันตกและอเมริกา ตั้งแต่ คริสต์ศตวรรษที่ 16 โดยนักสำรวจชาวสเปนและโปรตุเกสนำไปปลูก


    สำหรับประเทศไทยนั้นเชื่อว่าการปลูกมะนาวมีมาก่อนสมัยรัตนโกสินทร์ และได้มีการปลูกติดต่อกันมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน ในสมัยก่อนมักมีการปลูกมะนาวไว้ในสวนหลังบ้าน เพื่อนำผลมาใช้ประกอบอาหารในครัวเรือนเท่านั้น โดยจะปลูกกันเกือบทุกครอบครัว แต่ยังไม่มีใครคิดจะปลูกมะนาวเป็นการค้าอย่างจริงจัง ต่อมาบ้านเมืองเจริญขึ้น ทำให้พื้นที่ทำการเกษตรมีน้อยลง เนื่องจากนำพื้นที่ไปใช้ในอุตสาหกรรม และด้านอื่นๆ ประกอบกับจำนวนพลเมืองที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ความต้องการมะนาวไปใช้ประกอบอาหารในครัวเรือน และใช้มะนาวในอตสาหกรรมต่างๆมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ดังนั้นจึงมีผู้หันมาปลูกมะนาวในเชิงการค้า โดยใช้พื้นที่ปลูกมากๆ มีการปฏิบัติดูแลรักษาที่ถูกต้อง มีการปรับปรุงระบบการปลูก และวิธีเพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ซึ่งในประเทศไทยมีแหล่งปลูกที่สำคัญๆ ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี อยุธยา ราชบุรี และนครปฐม


    <!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#3366FF--><!--/coloro-->ประโยชน์ของมะนาว<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec-->


    [​IMG]


    มะนาวเป็นผลไม้พื้นๆที่ใช้บริโภคกันในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่ามะนาวลูกเล็กๆนั้น มีประโยชน์ในการรักษาโรคต่างๆได้มากมายหลายโรคด้วยกัน ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่ใช้มะนาวรักษาโรค ประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย จีน และอินเดีย เขาก็ใช้มะนาวกัน ประเทศเพื่อนบ้านที่ไกลออกไป เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และประเทศแถบอเมริกาตะวันตกก็ใช้มะนาวแก้ไอและรักษาโรคอื่นๆเช่นเดียวกัน ประโยชน์ของมะนาวในแง่การนำมาใช้เป็นสมุนไพร มีดังนี้

    หมายเหตุ บางข้อควรใช้วิจารณญาณ

    1. แก้ไอออกเลือด (ไอมีเลือดปน)
    - ใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา มะนาว 4 ลูก เกลือ 1 ช้อน หรือประมาณ 3-4 เม็ด ผสมให้เข้ากันดี ให้มีรสเปรี้ยวเค็มหวาน ใช้จิบทุกครั้งที่ไอ
    -.ใช้มะนาว 108 ใบ เบี้ยจั๊กจั่น 11 ตัว ปูนขาวหนักประมาณ 4 บาท
    วิธีทำ คั้นน้ำมะนาว ใส่เบี้ยจั๊กจั่นและปูนขาวปนกัน ดองประมาณ 3 คืน รับประทานครั้งละจอกชา แก้ไอออกเลือดดี


    2. ต่อมทอนซิลอักเสบ
    - เอาน้ำมะนาว น้ำผึ้งและปูนขาวผสมดื่ม แก้ทอนซิลอักเสบ


    3.แก้ซาง,ตุ่มในคอเด็ก,เสมหะ
    - เมล็ดมะนาวขับเสมหะแก้โรคซางของเด็ก แก้เม็ดยอดในปากโดยเอาเม็ดมะนาวเผาไฟ บดให้ละเอียด ใช้น้ำมะนาวหรือรากของมะนาวฝนกันน้ำเป็นกระสาย ผสมเข้าด้วยกัน แล้วกวาดซางเด็ก
    - ให้เอาน้ำมะนาว 1 ช้อนชา แล้วเอารากมะนาวฝนให้ข้นดี แล้วจึงเอาไปล้วงคอเด็กสัก 2-3 ครั้งก็หาย
    - ใช้เม็ดมะนาวเคี้ยวกิน ขับเสมหะ ใช้ติดต่อกัน 7 วัน ได้ผลดี


    4. แก้เสียงแหบแห้ง
    - มะนาวทำให้เสียงไม่แหบแห้ง ตื่นตอนตอนเช้าทุกครั้งให้ผ่ามะนาวครึ่งหนึ่ง จิ้มเกลือบีบน้ำลงคอกลืนกิน ทำทุกเช้าทุกวัน ทำให้เสียงไม่แหบแห้ง


    5. ก้างติดคอ
    - เมื่อก้างปลาติดคอ เอามะนาว 1 ลูกคั้น เอาแต่น้ำ เติมเกลือ น้ำตาลนิดหน่อยกรอกลงไปให้ตรงก้างที่ติดคอ อมไว้สักครู่ แล้วจึงค่อยกลืน ก้างจะอ่อนตัวหลุดลงไปในกระเพาะ
    - ก้างปลาติดคอซึ่งเป็นชิ้นเล็กๆ เมื่อกลืนน้ำลายจะทำให้รำคาญเท่านั้น ให้ผ่ามะนาวแล้วนำมาอมไว้ในปาก อมจนรู้สึกรสเปรี้ยวของมะนาวเจือจางสัก 2-3 หน จะทำให้ก้างหลุดออกไปได้


    6. แก้ไข้
    - นำใบมะนาวมาหั่นฝอยๆ ชงด้วยน้ำเดือด ดื่มแบบน้ำชาจะช่วยลดไข้และใช้อมกลั้วคอฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย
    - ประเทศในทวีปอาฟริกาตะวันตกนิยมใช้เปลือกรากมะนาวต้มเป็นยาแก้ไข้อย่างดี และใช้ใบทำเป็นยาชงกินแก้ไข้ที่มีอาการตัวเหลืองเล็กน้อย นอกจากนี้ยังใช้น้ำมะนาวดื่มแก้กระหายน้ำ แก้ไข้อีกด้วย
    - ที่ประเทศอินเดีย ถ้าเป็นไข้หวัดใหญ่ นิยมรักษาโดยดื่มน้ำมะนาวแล้วพักผ่อน ถ้าเป็นไข้หวัดธรรมดา จะรับประทานผลอินทผลัมและดื่มน้ำมะนาวรักษา


    7. แก้ไข้ทับระดู
    - เอาใบมะนาว 100 ใบ มาต้มกินแล้วหาย


    8. แก้ปวดศีรษะ
    - เอามะนาวมาฝานเป็นซีกบางๆ แล้วเอาปูนที่กินกับหมาก ละเลงด้านหน้าของซีกมะนาวนั้นบางๆ แล้วปิดตรงขมับ ทำอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ อาการปวดก็ค่อยหายดีขึ้นทุกวัน
    - ใช้น้ำมะนาวผสมกับน้ำตาลสัก 1 แก้ว ดื่มตอนเช้า ช่วยให้หายจากโรควิงเวียนและปวดหัว
    - ชาวมาเลเซีย ใช้ใบมะนาวผสมกับน้ำมะนาว บดทำเป็นยาใส่ผมแก้ปวดศีรษะ
    - ประเทศในทวีปอาฟริกาตะวันตก ใช้ใบมะนาวตำให้ละเอียดถูศีรษะหรือเคี้ยวรากมะนาวแก้ปวดศีรษะ


    9. แก้เลือดออกตามไรฟัน
    - เกิดจากการขาดวิตามินซี ทำให้เหงือกบวมและมีเลือดออกตามไรฟันเป็นประจำ หรือมีเลือดออกได้ง่าย เช่น มีเลือดกำเดาไหล มีจุดพรายย้ำขึ้นตามผิวหนัง อาจมีเลือดออกจนซีดได้ ถ้าอาการรุนแรง จะมีอาการปวดน่อง ข้อเท้าบวม การรักษาให้กินมะนาวหรือผลไม้เปรี้ยวๆ เช่น ส้ม จะแก้ได้
    - แก้โรคลักปิดลักเปิดหรือเลือดออกตามไรฟัน ใช้มะนาวถูฟันสักพักเลือดก็จะหยุด


    10. แก้เหงือกบวม
    - ใช้ลำสีชุบมะนาวเช็ดที่เหงือกวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น


    11. แก้ลิ้นเป็นฝ้า
    - ใช้ลำสีชุบมะนาวเช็ดที่ลิ้นวันละ 3ครั้ง


    12. ขจัดคราบบุหรี่
    - ใช้มะนาวถูฟันที่มีคราบบุหรี่จับ เมื่อใช้มะนาวถู คราบนั้นจะหาย ถ้าฟันผู้ที่รับประทานหมากต้องถูกบ่อยๆ ถ้าจับมากหลายวันแล้วต้องถอดฟันแช่น้ำมะนาวไว้ค้างคืน ( หมายถึงผู้ใส่ฟันปลอมนะ) ฟันจะขาวสะอาดเงางาม


    13. ยาบ้วนปาก
    - บีบน้ำมะนาวลงในแก้วสัก 2-3 หยดเท่านั้น บ้วนปากได้สะอาดยอดเยี่ยม


    14. แก้เป็นลมวิงเวียน อยากอาเจียน
    - ใช้มะนาวผ่าซีก โรยเกลือป่น เหยาะน้ำตาลทรายขาวสักนิดบีบกินลงไปพักเดียวหายเป็นปลิดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้จากการตั้งครรภ์ เมารถ แพ้อากาศ มะนาวช่วยคุณได้
    - ใช้มะนาวจิ้มเกลืออมไว้ในปากสักครูจะรู้สึกสดชื่นจากการเป็นลมวิงเวียน หน้ามืดได้
    - ใช้เปลือกมะนาวแกะออกแล้วบีบหรือดมใกล้จมูก แก้เป็นลม วิงเวียน หน้ามืดตาลาย
    - ด้านประเทศฟิลิปปินส์และประเทศจีน ใช้เปลือกลูกมะนาวขยี้ใก้ดมแก้คลื่นไส้หรือเป็นลม หมอพื้นเมืองชาวอินเดีย นิยมใช้น้ำมะนาวแก้อาเจียน


    15. แก้วิงเวียนเมื่อคลอดบุตร
    - เอามะนาวปอกใส่ภาชนะ 2-3 ลูก เพื่อให้คนที่คลอดบุตรนั้นกินแก้วิงเวียน หน้ามืด ตาลาย
    - เอามะนาว 3 ผล เกลือป่นและพริกไทยป่นพอควร ละลายด้วยน้ำร้อน แทรกเหล้าโรงประทาณให้ได้สักครึ่งถ้วยชา เวลาตกฟากรับประทาน 1 ครั้ง หรือรับประทาณต่อไปอีกก็ได้


    16. แก้เมาเหล้า เมายา
    - ดื่มน้ำมะนาวหรืออมกับเกลือ สำหรับคนเมาเหล้าหรือวิงเวียนจะเป็นลม


    17. แก้ลมเงียบ
    - เอาใบมะนาวมาต้มกินกับยาหอมประมาณ 1 อาทิตย์


    18. แก้ตาแดง
    - เอามะนาวผ่า แล้วเอาเมล็ดในออกให้หมด แล้วก็บีบเอาน้ำมะนาวหยอดลงในตกทั้ง 2 ข้างหลายๆหยด สัก 1-2 นาที พอหายแสบแล้วล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด เช็ดหน้าเรียบร้อยแล้วก็สบาย และใช้มะนาวต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะหายตาแดง


    19. บำรุงตา
    - ใช้มะนาวสดทั้งลูกฝานตามที่เห็นสมควร แล้วบีบใส่ตาประจำ ประมาณเดือนหรือสองเดือนครั้งก็ใช้ได้ ( เนื่องจากตาเป็นอวันวะที่บอบบางมาก และน้ำมะนาวนั้นหยอดลงไปแล้วจะรู้สึกแสบตา ดังนั้น เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นจึงไม่ควรใช้น้ำมะนาวนี้หยอดตา)


    20. บำรุงผิว
    - เอาเปลือกที่บีบเอาน้ำออกแล้ว นำมาทาบริเวณข้อศอก คาง เข่า ฝ่าเท้า ส้นเท้า ช่วยให้ส่วนเหล่านั้นนุ่มนวลได้อย่างดี


    21. แก้ผิวแตก
    - ใช้มะนาวทาผิวหนังทำให้ชุ่มชื้น ไม่แตกกร้านในช่วงอากาศแห้ง


    22. แก้สิวฝ้า
    - ในกรณีที่สิวไม่มีการอักเสบติดเชื้อเป็นหนอง การรักษาอย่างง่ายที่ถูกวิธี คือ การทำความสะอาดใบหน้า เพื่อลดไขมันและกำจัดสิ่งอุดตันตามรูขุมขนบนใบหน้า หรือบริเวณอก คอ ที่มีสิวขึ้น ฉะนั้นมะนาวจะช่วยรักษาสิงให้ลดน้อยลงได้ เพราะน้ำมะนาวมีสภาวะเป็นกรดอ่อนๆจะทำให้เนื้อเยื่อที่ตามแล้วหลุกออกไป ทำให้ลดการอุดตันของรูขุมขน กรดอ่อนๆจะช่วยกำจัดเชื้อโรคและช่วยกำจัดไขมันได้บ้าง
    วิธีใช้ คือ ล้างหน้าด้วยสบู่ธรรมดาให้สะอาดแล้วผ่ามะนาวทาบริเวณที่มีสิวขึ้นให้เปียกชุ่มจนทั่ว
    ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จึงล้างออกด้วยสบู่อีกครั้ง ทำเช่นนี้วันละ 1-2 ครั้ง เช้าและเย็น
    - ใช้แป้งดินสอพองกับน้ำมะนาวทาบริเวณที่เป็นสิวก่อนนอนทุกวัน สิวจะค่อยๆยุบหายไปในที่สุด
    - ใช้น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ไข่ขาว 1 ช้อนชา ผสมกันให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเอาไปแต้มที่ตุ่มสิว หรือผู้ที่ไม่มีสิว ใช้ทาบางๆทั่วไปประมาณ 30 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสบู่ หน้าจะนิ่มนวลอยู่เสมอ


    23. ลบรอยแผลเป็น
    - รอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุ ใช้น้ำมะนาวผสมดินสอพองทาบริเวณที่เป็น ทำให้หน้าไม่ดำ หรืออาจใช้ใบมะลิสดตำผสมเพิ่มเข้าไปอีกก็ได้


    24. แก้ขาลาย
    - คนที่มีขาลายเป็นจุดด่างดำเม็ดเล็กๆนั้น แก้ได้โดยเอาน้ำมะนาวบีบใส่ดินสิพองหมาดๆ แล้วทาทุกๆคืนก่อนนอน พอรุ่งเช้าก็ล้างออก ทำอย่างนี้ทุกวัน ไม่นานวันรอยด่างดำก็ลบหายไปเอง


    25. แก้น้ำเหลืองเสีย
    - ใช้ใบมะนาว 108 ใบกับเกลือหรือดีเกลือ 2 บาท หรือประมาณ 3 ช้อนคาวรวมกัน ต้มรับประทานเป็นยาระบายถ่ายน้ำเหลืองเสีย รับประทานครั้งละครึ่งถ้วยแก้วกลาง วันละ 1 ครั้งก่อนเข้านอน


    26. แก้ส้นเท้าแตก
    - เอามะนาวสดผ่าซีกแล้วบีบมะนาวให้หยดลงบนบริเวณที่เป็นแผลนั้น เพียงวันละ 2-3 ครั้ ภายใน 7 วัน โรคส้นเท้าแตกจะหายไปเอง


    27. ดับกลิ่นเต่า
    - ใช้น้ำมะนาวทารักแร้ป้องกันกลิ่นเต่า


    28. แก้โรคผิวหนัง
    - ประเทศแถบทวีปอาฟริกาตะวันตกและประเทศอินเดีย ใช้น้ำมะนาวทาแก้โรคผิวหนัง แต่ของอินเดีย เวลาอาบน้ำ ห้ามฟอกสบู่บริเวณที่เป็น


    29. แก้กลาก เกลื้อน หิด
    - นำกำมะถันตำให้ละเอียดบีบมะนาวใส่พอสมควร ทาบริเวณที่เป็นเกลื้อนหลังอาบน้ำและก่อนนอน เคยใช้กับญาติโยมหลายราย ผลออกมาแล้วหายเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์
    - ใช้มะนาวผ่าซีกแตะผงกำมะถันแล้วมาถูบริเวณที่เป็นหิด กลากเกลื้อนจะกายในเร็ววัน


    30. แก้หูด
    - เอาเปลือกมะนาวหมักกับน้ำส้มสายชู 2 วัน ตัดเปลือมะนาวมาปิดที่หูด ปิดทับด้วยพลาสเตอร์ค้างคืนไว้ รุ่งเช้าจึงเอาออก ให้ทำเช่นนี้นาน 2 อาทิตย์


    31. แก้พุพอง
    - ใช้รากมะนาวฝนกับน้ำซาวข้าว ทาแก้พุพอง แสบร้อน


    32. แก้น้ำกัดเท้า
    - ใช้มะนาวทาที่เป็นตุ่มคัน น้ำกัดเท้า ทาแล้วทิ้งให้แห้ง ล้างออกด้วยน้ำสบู่ ให้ผ้าเช็ดให้แห้ง แล้วเอาแป้งทา ตุ่มคันก็จะหาย


    33. แก้ปูนซีเมนต์กัด
    - เวลาถูกปูนซีเมนต์กัดตามมือ เท้า เอามะนาวมาตัดกลางลูก แล้วบีบน้ำมะนาวตรงที่ปูนกัดก็จะหาย


    34. แก้คัน
    - ใช้มะนาวตัดกลางลูกรมไฟพออุ่น ถูทาตามที่คันภายใน 2-3 วัน จะหาย
    - เรื่องแก้คันนี้ในประเทศอินเดีย ใช้มะนาวผสมน้ำผึ้ง ทาบริเวณที่คันและเวลาอาบน้ำ อย่าฟอกสบู่บริเวณที่คัน ใช้ทาทุกครั้งเมื่อรู้สึกคัน


    35. แก้หนอนคัน
    - แถวชนบทมีตัวหนอนหลายชนิด เมื่อเราไปถูกมันเข้าจะทำให้เนื้อตรงบริเวณนั้นคันมาถึงกับเน่าเปื่อยก็มี ถ้าไปถูกตัวหนอนแล้วคันแต่ยังไม่เปื่อยเป็นแผล ให้เอามะนาวผ่าซีกถูตรงที่คันนั้น แต่ถ้าเปื่อยเป็นแผลแล้ว ให้เอาบานไม่รู้โรยมาตำกับปูนที่กินกับหมากผสมน้ำเล็กน้อย ทาตรงแผยเปื่อยรับรองหาย


    36. แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย
    - ใช้ระงับความเจ็บปวดจากพิษแมลงได้ โดยใช้มะนาวพอกบริเวณปากแผลทิ้งไว้ 2-3 นาทีแล้วเปลี่ยนใหม่ทำดูจะหายปวด
    - ในประเทศจีน ใช้ผลสดคั้นเอาน้ำ ทาบริเวณที่ถูกตะขาบกัด แมลงป่องต่อยทันทีจะแก้ได้


    37. แก้สังคัง
    - ใช้มะนาวผ่าซีก ทาก่อนนอนและหลังตื่นนอน เพียงไม่กี่วันก็หาย


    38. ใช้สระผม แก้คันศีรษะ
    - ใช้น้ำมะนาวสระผมทำให้ผมสะอาด หอม
    - ถ้าคันศีรษะบ่อย ใช้น้ำมะนาวนวดศีรษะให้ทั่วสักครู่ก่อนสระผมจะแก้ได้


    39. แก้หัวโน
    - ใช้แป้งดินสอพองผสมน้ำมะนาว ทาตรงที่ช้ำบวมสักพักใหญ่ๆ อาการปวดบวม ปูด ก็จะยุบ หมั่นทาวันละ 1-2 ครั้ง ภายใน 2 วันก็จะหายไปเอง


    40. แก้ผิวหนังฟกช้ำ
    - ผสมน้ำมะนาวกับดินสอพองข้นๆ ทาบริเวณที่มีอาการผิวเนื้อถูกกระแทกเขียวฟกช้ำ หรือบวมโน จะหายเป็นปกติ


    41.แก้หนามปัก
    - แก้หนามปักคา ใช้มะนาวกับน้ำมันตับปลา ใส่ที่แผลจะดูดหนามออกมาได้


    42. แก้เล็บขบ
    - เอามะนาวมาผ่าตรงส่วนหัวออกขนาดพอสอดนิ้วเข้าไปได้ ใช้มีดคว้านเอาเนื้อข้างในออกเล็กน้อย เสร็จแล้วเอาปูนทาบางๆ แล้วเอานิ้วสอดเข้าไป แล้วทิ้งไว้ ทำดังนี้ 2-3 ครั้ง อาการเล็บขบจะหายไป


    43. แก้ปลาดุกยัก
    - ใช้มะนาวผ่าซีกแล้วกดหรือถูครงรอยปลาดุกยักสักพักหนึ่ง จะหายปวดภายใน 4-5นาที


    44. แก้งูกัด
    - แก้งูกัดให้ปฏิบัติดังนี้
    1. ให้คนเจ็บนอนราบๆ เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนทั่วร่างกายช้าลง และพิษงูจะได้แผ่ซ่านช้าลงด้วย
    2. ถ้าถูกงูพิษกัดที่แขนและขา ให้เอาเชือกรัดเหนือแผลหน่อย กะให้รัดอยู่ในระหว่างแผลกับหัวใจของคนเจ็บ การรัดให้รัดพอให้เลือดตรงผิวหนังนั้นหยุดไหลเพื่อกันไม่ให้พิษผ่านเข้าเส้นโลหิตดำเ
    ท่านั้น ไม่ต้องรัดแน่นมากจนหลอกเลือดที่อยู่ลึกลงไปพลอยหยุดไหลไปด้วย ถ้ารัดพอดีๆจะสังเกตเห็นน้ำเหลืองไหลซึมออกจากแผลอยู่เรื่อยๆ
    3. ใช้ใบมีดโกนที่สะอาดและฆ่าเชื้อแล้ว กรีดลงบนแผลเป็นรูปกากบาท ลึกสัก 1 ใน 8 นิ้ว ยาว สัก 1 ใน 4 นิ้ว ทั้ง 2 เขี้ยว อย่าตกใจว่าจะเสียเลือด เพราะมันจะช่วยล้างพิษออกด้วย ให้ใช้ปากดูดพิษออกมาจากแผลที่กรีด พิษงูจะไม่เป็นอันตรายเมื่อเข้าไปอยุ่ในปาก นอกจากจะมีแผลในปากหรือฟันผุเท่านั้น เมื่อดูดพิษออกมาให้รีบบ้วนทิ้ง แล้ววางน้ำแข็งที่แผลสลับกับการดูดช่วยด้วย และระวังให้แขน ขาที่ถูกงูกัดให้อยู่ต่ำๆไว้
    หมายเหตุ ถ้าฟันผุหรือมีแผลในปาก ใช้ขวดอุ่นให้ร้อน (ระวังแตก) เอาปากขวดทาบกับแผล เพื่อช่วยดูดเลือดออกจากแผลแทน
    4. ให้กินน้ำมะนาว ขนาดผลโตๆสัก 1 ผล น้ำมะนาวจะไปทำปฏิกิริยากับพิษงูที่แล่นเข้าสู่กระเพาะอาหาร สักครูก็จะอาเจียนออกมา มีเลือดปนเล้กน้อย ซึ่งแสดงว่าพิษงูได้หมดฤทธิ์แล้ว
    5.คนเจ็บจะเกิดความมั่นใจและค่อยหายกลัว ให้เขาดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มร้อนๆได้ แต่อย่าให้กินเหล้า
    พิษงูมันเดินเข้าหัวใจอย่างช้าๆ แต่หลังจากที่ถูกงูกัด อาจปวดมากจนถึงกับช็อค ให้คนเจ็บอยู่เงียบๆ เพราะถ้าไปทำอะไรเข้า จะเป็นการเร่งพิษเดินทางเข้าสู่หัวใจเร็วเข้าอีก ให้ใช้น้ำแข็งหรือผ้าชุบน้ำแข็งวางที่แผล จะช่วยบรรเทาอาการปวดลงได้ และรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาล


    45. ป้องกันงู
    - เมื่อใช้มะนาวคั้นเอาน้ำหมดแล้ว เอาเปลือกวางท้องเอาไว้ใกล้ๆที่นอน จะทำให้งูไม่มารบกวน เพราะได้กลิ่นมะนาว


    46. แก้แมงคาเรืองเข้าหู
    - นำน้ำมะนาวอย่างเดียว กรองด้วยผ้า ใช้หยอดหู แก้แมงคาเรืองเข้าหู ถ้าตัวยังไม่ตายจะหนีออกมา ถ้าไม่หนีออกมาตัวจะตายในหู


    47. แก้ฝี
    - แก้ปวดฝีใช้รากสดฝนกับเหล้าทา
    - ขูดเอาผิวมะนาว ผสมกับปูนแดงปิด ฝีจะหาย


    48. แก้ฝีมะตอย
    - เอามะนาวทั้งลูก มาคว้านไส้ในออกให้เอานิ้วเข้าไปได้ แล้วเอาปูน(กินหมาก)ทาเข้าไปในลูกมะนาวเล็กน้อย แล้วสวมเข้านิ้วที่มีฝีขึ้น


    49. แก้แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
    - ให้เอาน้ำมะนาวมาชะโลมบริเวณที่ถูกไฟไหม้หรือถูกน้ำร้อนลวก มีสรรพคุณดับพิษปวดแสบแวดร้อนได้ผล


    50. แก้บาดทะยัก
    - เมื่อดถูตะปูตำ หนามเกี่ยว หรือถูกของที่มีคม เอาน้ำมะนาวบีบใส่แผลที่เป็น จะป้องกันบาดทะยักได้


    51. แก้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ
    - แก้อาการปวดท้อง แน่นท้อง เอาผลมะนาวครึ่งผล บีบเอาน้ำมะนาวใช้กินกับน้ำอ้อย หรือน้ำตาล แก้อาการนี้ได้
    - เด็กท้องอืดร้องกวนในเวลากลางคืน เอาปูนเคี้ยวหมากขยี้ลงบนฝ่ามือ บีบน้ำมะนาวคลุกให้ทั่ว แล้วทาท้องด็ก สักครู่เด็กจะผายลม 2-3 ครั้ง แล้วหยุกร้องไห้ หลับสบายตลอดคืน เพราะน้ำมะนาวทำปฏิกิริยากับปูน ให้ความร้อนเกิดความอบอุ่น


    52. รักษาโรคกระเพาะ
    - เปลือกผลมะนาว ใช้ชงกับน้ำอุ่ม ดื่มเป็นยาขับลมและแก้โรคกระเพาะได้


    53. แก้ท้องผูก
    - ใช้มะนาว ประมาณค่อนแก้วกาแฟ ใส่เกลือเล็กน้อย ให้เค็มพอประมาณ ดื่มทุกวันเป็นยาระบายได้ดี ทำให้เจริญอาหาร


    54. แก้ท้องร่วง
    - ประเทศอินเดีย ใช้น้ำมะนาวกับน้ำสะอาดดื่มแก้ท้องร่วง


    55. แก้อาหารเป็นพิษ
    - น้ำมะนาว น้ำปูนใส เติมเกลือให้มีรสเค็ม กินครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ แก้อาหารเป็นพิษ


    56. แก้ผิดสำแลง
    - รากมะนาว ฝนกับน้ำซาวข้าวรับประทานแก้ผิดอาหาร ถ้าได้รากมะนาวหวานยิ่งดี
    - เอามะนาวบีบเอาน้ำใส่ถ้วย แล้วเอาปูนกินหมากมาแช่น้ำ แล้วเอาน้ำใสๆของปูนมาผสมน้ำมะนาว แล้วรับประทานแก้กินของผิดได้เป็นอย่างดี


    57. แก้บิด
    - ใช้มะนาวกับน้ำผึ้งเอาเท่าๆกัน กินครั้งละ 1 ถ้วยตะไล สัก 2-3 ถ้วย แก้บิดได้ หรือจะผสมน้ำปูนใส อย่างละเท่าๆกัน ก็ได้ผลเช่นกัน
    - ชาวมาเลเซียใช้รากมะนาวต้มกินแก้บิด


    58. ขับพยาธิไส้เดือน
    - ชาวอินเดียใช้น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้งดื่มขับพยาธิไส้เดือน


    59. แก้นิ่ว
    - เอามะนาวมา บีบมะนาวแช่หินปูน หากหินปูนละลาย ก็เอารากมะนาวนั้นมาต้มกิน แล้วนิ่วก็คือหินปูนในกระเพาะปัสสาวะจะอยู่ได้อย่างไรก็ต้องละลายออกมาหมดอย่างแน่นอ
    น หากนิ่วก้อนใหญ่ก็ต้องใช้เวลาหน่อย


    60. แก้ปัสสาวะกระปริบกระปรอย
    - ใช้ใบมะนาวสดต้มกินกับน้ำตาลแดง ประมาณ 2-3 วันก็หาย


    61. แก้ระดูขาว
    - น้ำมะนาว 2 ช้อน เกลือ น้ำตาลนิดหน่อย ผสมน้ำสุก ใส่น้ำแข็งรับประทานแก้และรักษาสตรีมีระดูขาวมากๆ


    62. ฟอกโลหิต
    - ใช้ใบมะนาว 7 ใบ ต้มผสมกับน้ำ กินครั้งละ 3 ถ้วยชา วันละ 3 เวลา ได้ผลดี


    63. แก้โลหิตจาง
    - ให้เอาผลมะนาวผ่าซีก บีบเอาเฉพาะน้ำ ผสมกับน้ำหวานแล้วปรุงด้วยเกลือทะเลพอสมควร ใส่น้ำแข็ง ใช้รับประทานบ่อยๆ เป็นยาบำรุงโลหิต แก้โลหิตจาง และทำให้มีฟิวพรรณผุดผ่องมีน้ำมีนวล


    64. แก้เหน็บชา
    - ให้เอาลูกมะนาวเท่าอายุคนป่วย ใช้มีดบางคมๆ ผ่าสองเอาหนึ่ง ส่วนที่ไม่เอาแล้วแต่เราจะเอาไปทำอะไร ให้เอาน้ำตาลทรายขาว 1 ลิตร เกลือ 1 ลิตร เอาน้ำ 4 ลิตร ต้มให้เดือด ยกลง พอเย็นหน่อยก็เทใส่ไห แล้วจึงเอามะนาวส่วนที่เอาเทลงดองไว้ในไห ปิดปากไห ไปฝังไว้ในข้าวเปลือก 7 วัน แล้วเอาน้ำมากินให้หมด แล้วเอากากไปตำตากแดดให้แห้ง เอามากินให้หมด โรคเหน็บชาจะหายไป


    65. แก้ร้อนในกระหายน้ำ
    - มะนาวสามารถแก้ความกระหายได้ดี กินน้ำมะนาวใส่น้ำแข็งแล้ว จะรู้สึกชุ่มคอ


    66. แก้อ่อนเพลีย
    - ใช้มะนาว 1 ผลครึ่ง บีบเอาแต่น้ำใส่แก้ว แล้วใส่น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำให้ได้ประมาณครึ่งแก้ว กะให้หวานพอดี ดื่มให้หมด จะรู้สึกกระชุ่มกระชวยดี
    - เวลาฟื้นจากไข้ทานอาหารไม่อร่อยหรือไม่อยากทานอะไรเลยต้องแก้ด้วยอาหารที่มีรสเปรี้ย
    ว ใส่มะนาวหรือชงน้ำมะนาวดื่ม หรือกินมะนาวจิ้มยาหอม หรือกินมะนาวจิ้มเกลือ


    67. เป็นยาอายุวัฒนะ
    - ใช้มะนาว 1 ลูกผ่าออกเอาเม็ดท้อง แล้วคั้นเอาน้ำชงกับน้ำตาล 2 ช้อน และน้ำร้อนพอควร ทำให้แข็งแรงและชุ่มชื่นในลำคอ
    - ใช้มะนาว 50 ผล น้ำผึ้ง 1 ขวดขาว พริกไทยร่อนครึ่งลิตรเล็ก ตำพริกไทยให้ป่น ใส่ผ้าขาวบางห่อ ใส่โหลดองรวมกันประมาณ 3 วัน นำมากินได้เป็นยาอายุวัฒนะ


    68.ยาเจริญอาหาร
    - เอามะนาว 30 ลูกผ่าซีกทั้งเปลือกแล้วเอายาดำหนัก 5 บาท ใส่ดีเกลือเล็กน้อย หร้อมกับเกลือแกงอีกพอประมาณจนรู้สึกว่ามีรสเค็ม เอายาทั้งหมดใส่ขวดโหลดองไว้ประมาณ 3 คืน รับประทานมีสรรพคุณทำให้เป็นยาระบายถ่ายพยาธิ และเจริญอาหาร


    69. แก้ความดัน
    - เอาใบมะนาว 108 ใบ ต้มรับประทานแก้โรคความดันต่ำและสูง


    70. แก้ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ (โรครูมาติซั่ม)
    - ให้ดื่มน้ำมะนาว ดังนี้
    วันที่ 1 ให้ดื่มน้ำมะนาว 2 ผล
    วันที่ 2 ให้ดื่มน้ำมะนาว 4 ผล แบ่งให้วันละ 2 ครั้ง
    วันที่ 3 ให้ดื่มน้ำมะนาว 6 ผล แบ่งให้วันละ 3 ครั้ง
    ให้เพิ่มมะนาวเรื่อยๆจนถึงวันที่ 10 ซึ่งใช้มะนาว 20 ผล แบ่งให้วันละ 5 ครั้ง
    วันที่ 11 ให้ดื่มน้ำมะนาวใหม่ 2 ผล
    วันที่ 12 ให้ดื่มน้ำมะนาวใหม่ 4 ผล แบ่งให้วันละ 2 ครั้ง
    ให้เพิ่มมะนาวเรื่อยๆจนถึงวันที่ 20 ซึ่งใช้มะนาว 20 ผล แบ่งให้วันละ 5 ครั้ง


    71. ลดความอ้วน
    - การดื่มเครื่องดื่มต้องใส่น้ำตาลน้อยที่สุด และควรดื่มวันละ 8-10 แก้วทุกวัน ตื่นเช้าควรดื่มน้ำมะนาว 1 ผล ในน้ำอุ่นและขนมปังไม่เกิน 1 แผ่น ก่อนอาหารทุกมื้อควรดื่มน้ำมะนาวครึ่งผลผสมน้ำเย็น ก่อนอาหารกลางวันและอาหารเย็นจะช่วยให้อิ่ม อย่าให้ดื่มขณะที่ทานอาหาร ถ้ารู้สึกหิวก่อนเวลาอาหารไม่ว่ามื้อใด ให้รับประทานอาหารที่มีรสเปรี้ยว หรือน้ำส้ม น้ำมะนาวสักแก้ว


    ใช้ในครัวเรือน

    72. หุงข้าวให้ขาวและอร่อย บีบน้ำมะนาว 2-3 ช้อนในข้าว แล้วนำไปซาวข้าว เมื่อหุงเสร็จข้างจะขาว สะอาด กินอร่อย ไม่ออกรสมะนาวเลย
    73. นิ้วมือเวลาเด็ดผักหรือหั่นผัก เนื้อใกล้ๆเล็บมือจะเป็นสีดำมองดูน่าเกลียด ใช้มะนาวถูจะแก้ได้
    74. เวลาใช้มีดผ่าปลีกล้วย มีดจะเป็นสีม่วงคล้ำ ใช้มะนาวผ่าซีกถูตามใบมีด มีดจะสะอาดดังเดิม
    75. ทอดไข่เจียวให้ฟูและนิ่ม ขณะตีไข่ให้ใส่มะนาว 4-5 หยด ไข่จะฟูและนิ่ม
    76. การเชื่อมกล้วยหักมุกให้น่ารับประทาน พอน้ำตาลเดือดเป็นยางมะตูม ให้บีบมะนาวครึ่งซีกตาม แต่กล้วยมากหรือน้อยจะช่วยให้กล้วยใสน่าทาน
    77. ถ้าต้มปลาสด ต้องการให้ปลาคงรูปไม่เละ ไม่มีกลิ่นคาว ควรบีบมะนาวลงไปสักนิดหน่อย
    78. ใช้มะนาว 2-3 ผล แทรกไว้ในข้าวสาร จะช่วยป้องกันมอดได้
    79. เปลือกมะนาวใช้เช็ดภาชนะ ทองเหลือง ทองแดง เครื่องเงิน เครื่องนาค เครื่องเงินจะใหม่ เงางามสุกใสขึ้น
    80. ฝานมะนาวเป็นชิ้นบางๆ 2-3 ลูกใส่ในน้ำเย็น 1 ป๋อง ประมาณ 10 ลิตร เติมการบูร 2 แท่ง ตั้งทิ้งไว้ในห้องที่ทาสีใหม่ๆ ปิดประตู หน้าต่างให้หมด น้ำมะนาวและการบูรจะช่วยดูดกลิ่นสีได้อย่างดี
    81. ผ้าที่เปื้อนน้ำหมาก เปื้อนหมึก ใช้น้ำตาลทรายเล็กน้อย โรยตรงรอยเปื้อนหยดน้ำลงไปพอชุ่ม แล้วถูด้วยมะนาวจะลบรอยเปื้อนได้
    82. เตารีดร้อนจัดรีดผ้าขาวจะทำให้ผ้าเหลือง ให้เอาน้ำมะนาวทาที่เตารีด ก่อนรีดผ้าจะแก้ได้
    83. ต้มผ้าให้สะอาด ฝานมะนาว 2-3 ชิ้น ใส่ด้วย ช่วยให้ผ้าสะอาด
    84. ใช้มะนาว เกลือป่น ถูบริเวณที่เสื้อขาวเปื้อนเลือด ซักด้วยน้ำเย็นจะออกหมด
    85. เครื่องใช้ที่เป็นหนังทิ้งไว้นานหลายปีทำให้แข็งกระด้าง เอาน้ำมะนาวขัดถู ทำให้หนังนิ่มแล้วใช้ยาขัดอีกที จะทำให้ดูใหม่ขึ้น




    <!--sizeo:1--><!--/sizeo-->ขอขอบคุณ
    images.thaiza
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เกาหลีเหนือเตรียมการทดสอบนิวเคลียร์

    [​IMG]

    โซล 20 ก.พ. – เกาหลีเหนือเริ่มขุดอุโมงค์ในพื้นที่ทดลองนิวเคลียร์ อาจเป็นสัญญาณเตรียมการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 3

    สำนักข่าวยอนฮัพรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่า เกาหลีเหนือเริ่มขุดอุโมงค์อย่างน้อย 2 ที่เมืองพุงกเย-รี ที่จังหวัดฮัมกยองเหนือทางตะวันออกเฉียงเหนือ อันเป็นหลักฐานบ่งชี้การเตรียมการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 และเกาหลีเหนือสร้างอุโมงค์หลายแห่ง เพื่อใช้เป็นตัวเลือก เนื่องจากอุโมงค์ที่ผ่านการทดสอการทดสอบรอบนี้อาจใช้วัตถุดิบจากคลังสำรองพลูโตเนียมของเกาหลีเหนือ ตามที่เกาหลีใต้และสหรัฐคาดว่าน่าจะมีปริมาณเพียงพอสำหรับผลิตระเบิดนิวเคลียร์ 6-8 ลูก

    สถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคเริ่มเป็นที่วิตกหลังเกาหลีเหนือเปิดให้คณะเจ้าหน้าที่สหรัฐเข้าชมโรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมเมื่อพฤศจิกายนปีก่อน แม้ทางการเปียงยางยืนยันว่า มีเป้าหมายด้านการพัฒนาพลังงานเพื่อสันติ แต่ผู้เชี่ยวชาญวิตกว่าอาจเป็นช่องทางให้เกาหลีเหนือแอบผลิตระเบิดนิวเคลียร์ และความวิตกยิ่งเพิ่มสูงขึ้น หลังภาพถ่ายดาวเทียมพบแท่นปล่อยจรวดที่เสร็จสมบูรณ์แล้วบริเวณชายฝั่งตะวันตก ซึ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือกำลังเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธที่อาจมีพิสัยทำการไกลถึงสหรัฐ.- สำนักข่าวไทย

    วันอาทิตย์ ที่ 20 ก.พ. 2554

    สื่ออิหร่านเผยเรือรบแล่นผ่านคลองสุเอซแล้ว

    [​IMG]

    เตหะราน 20 ก.พ.- สถานีโทรทัศน์ภาษาอาหรับของอิหร่าน รายงานว่า เรือรบอิหร่าน 2 ลำ ได้แล่นผ่านคลองสุเอซ ของอียิปต์ เพื่อมุ่งหน้าไปยังท่าเรือของซีเรียแล้ว แต่เจ้าหน้าที่สำนักงานคลองสุเอซว่า เรือรบอิหร่านจะแล่นผ่านในวันจันทร์

    แหล่งข่าวในกองทัพอียิปต์เผยเมื่อวันศุกร์ว่า กองทัพซึ่งบริหารประเทศนับตั้งแต่ นายฮอสนี มูบารัค ลงจากอำนาจเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ได้อนุญาตตามคำขอของอิหร่านที่ต้องการแล่นเรือรบผ่านคลองสุเอซ นับเป็นครั้งแรกหลังการปฏิวัติอิสลามที่อิหร่านส่งเรือรบผ่านเส้นทางน้ำสำคัญสายนี้ คำขอนี้สร้างความลำบากใจให้แก่รัฐบาลรักษาการของอียิปต์ เพราะอียิปต์เป็นพันธมิตรของสหรัฐ และลงนามสนธิสัญญาสันติภาพกับอิสราเอลในปี 2522 ทำให้ความสัมพันธ์กับอิหร่านตึงเครียด เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วันอิหร่านได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน

    ก่อนหน้านี้ นายอะวิกดอร์ ลีเบอร์แมน รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ระบุว่า การกระทำของอิหร่านจะถือเป็นการยั่วยุ ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานคลองสุเอซ เผยว่า เรือรบอิหร่านจะแล่นถึงทางเข้าในค่ำวันนี้ และแล่นผ่านคลองในวันจันทร์.-สำนักข่าวไทย

    วันอาทิตย์ ที่ 20 ก.พ. 2554

    กลุ่มผู้นำมุสลิมลิเบียเรียกร้องทหารหยุดการสังหารหมู่

    [​IMG]

    ตริโปลี 20 ก.พ. – กลุ่มผู้นำมุสลิมลิเบียเรียกร้องเจ้าหน้าที่ความมั่นคงหยุดการสังหารประชาชน ท่ามกลางตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการประท้วงที่ยังสูงขึ้นต่อเนื่อง

    สถานการณ์การประท้วงต่อต้านพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ซึ่งลุกลามจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากส่งผลให้กลุ่มผู้นำมุสลิมราว 50 คน ร่วมกันออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงในฐานะที่เป็นชาวมุสลิมด้วยกันหยุดการเข่นฆ่าพี่น้องประชาชน โดยชี้ว่าการสังหารผู้บริสุทธิ์เป็นบาป และขอให้เจ้าหน้าที่ยุติการสังหารหมู่ทันที

    ด้านหนังสือพิมพ์อินดิเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุจลาจลในเมืองเบงกาซี อันเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของลิเบียอาจสูงถึง 200 รายแล้ว สอดคล้องกับรายงานจากสำนักข่าวอัลจาซีรา ซึ่งชี้ว่าสถานการณ์ยังคงอยู่ในภาวะรุนแรง อย่างไรก็ดี ยังไม่อาจยืนยันสถานการณ์ที่แน่ชัดเนื่องจากเจ้าหน้าที่ห้ามผู้สื่อข่าวต่างชาติเข้าประเทศนับตั้งแต่เกิดเหตุประท้วง เช่นเดียวกับนักข่าวท้องถิ่นที่ไม่สามารถเข้าไปรายงานข่าวในเมืองเบงกาซี ขณะที่สัญญาณโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตไม่สามารถสื่อสารได้

    ด้านผู้สังเกตการณ์มองว่า การประท้วงที่ลิเบียอาจไม่ลุกลามทั่วประเทศจนสามารถโค่นล้มผู้นำเหมือนการประท้วงที่อียิปต์ เนื่องจากพันเอกกัดดาฟี ซึ่งครองอำนาจติดต่อกันมาถึง 4 ทศวรรษมีทุนรอนจากธุรกิจน้ำมันสำหรับใช้คลี่คลายปัญหาสังคม ทั้งยังเป็นที่ยอมรับจากประชาชนส่วนใหญ่.- สำนักข่าวไทย

    วันอาทิตย์ ที่ 20 ก.พ. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    จอมเผด็จการครอบงำตะวันออกกลาง?

    [​IMG]

    คำพยากรณ์ที่ 9-10 : จอมเผด็จการครอบงำตะวันออกกลาง

    II entera vilain, mechant, infame,
    Tyrannisant la Mesopotamie :
    Tous amis fait d’adulterine dame,
    Terre horrible noir de physionomie. (VIII,70)
    Le Prince Arabe Mars, Sol, Venus, Lion,
    Renge d’Eglise par mer succombera :
    Devers la Perse bien pres d’un million,
    Bisance, Egypte, ver serp invadera. (V,25)

    คำแปล

    จะมีบุรุษผู้น่าเกลียดชั่วร้ายเลวทรามผู้หนึ่งก้าวขึ้นสู่อำนาจ เขาจะปฏิบัติการก่อกรรมทำเข็ญประเทศทั้งหลายในลุ่มแม่น้ำเมโสโปเตเมีย เขาจะสร้างมิตรโดยวิธีการหลอกลวง ดินแดนทั้งหลายจะถูกทำลายล้างจนกลายเป็นเถ้าถ่าน และต่อมาจอมเผด็จการผู้นี้จะได้เป็นผู้นำของชาติอาหรับทั้งหมด เมื่อดาวอังคาร ดาวอาทิตย์และดาวศุกร์โคจรมาอยู่ในราศีสิงห์ จอมเผด็จการผู้นี้จะโจมตีนักบวชนิกายโรมันคาทอลิกในทะเล นอกจากนั้นก็จะใช้กำลังทหารจำนวนหนึ่งล้านคนบุกโจมตีประเทศอิหร่าน ตุรกีและอียิปต์

    ตีความและวิเคราะห์


    ในขณะที่พื้นที่ในตะวันออกไกลกำลังประสบกับความหายนะ อันสืบเนื่องมาจากอุกกาบาตตกลงมา และจากความไม่แน่นอนทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิบัติการของพวกขยายดินแดนในตะวันออกไกล ก็จะมีการเคลื่อนไหวที่สำคัญเกิดขึ้นอีก โดยนอสตราดามุสพยากรณ์ว่า จะมีผู้นำอาหรับผู้หนึ่งก้าวขึ้นสู่อำนาจ ผู้นำผู้นี้จะเสริมสร้างกำลังทางการเมืองของเขา ด้วยการใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามชาติอื่น ๆ ​

    โดยเริ่มแรกจะรุกรานประเทศซีเรีย อิรัก และจอร์แดน (ดินแดนเดิมของเมโสโปเตเมียโบราณ) จากนั้นจะใช้กำลังทหารจำนวนหนึ่งล้านคนบุกโจมตีอิหร่าน ตุรกี และอียิปต์ ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง จอมเผด็จการอาหรับผู้นี้จะใช้กำลังทางเรือโจมตีนักบวชในนิกายโรมันคาทอลิก นอสตราดามุสไม่ได้ปิดบังอำพรางเกี่ยวกับวันเดือนปีของการโจมตีนักบวชคริสต์ครั้งนี้ เขาได้คำนวณโดยวิธีการทางดาราศาสตร์ว่า จะเกิดขึ้นในวันที่ 2 สิงหาคม อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการโจมตีนักบวชคริสต์ดังกล่าว​

    จากที่เราได้เอาลงมานี้ จะเป็นเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่อาจจะเกิดจริงหรือไม่จริงยังไงก็ตามแต่ เราใคร่ขอเตือนคนทุกคนว่าไม่ว่า โลกจะเกิดอะไรขึ้น จงอยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด หมั่นถามตัวเองว่า วันนี้ทำดีพอแล้วหรือยัง คิดถึงความตายทุกวินาทีที่เราหายใจ ไม่ใช่คิดว่าจะตายในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ และใคร่ขอเสริมว่า จงหมั่นทำบุญเร่งสะสมบารมีเพื่อจะได้มีชีวิตที่ดีในภพภูมิข้างหน้า

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2011
  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือนหลายพื้นที่อากาศร้อนตอนกลางวัน ลมกระโชกแรง กทม.ร้อนสุด 35 องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554 ดังนี้


    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้แล้ว และในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้น จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 21-22 ก.พ. นี้ไว้ด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
    โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 15-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-38 องศา
    ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.


    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
    โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
    และลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
    อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคกลาง มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ
    ร้อยละ 30 ของพื้นที่และลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศา
    ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคตะวันออก อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40
    ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรีและตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
    โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค
    อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค
    อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร


    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้าและมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
    โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา
    ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เผยฮุนเซนปลื้มลูกชายดังใหญ่รบกับไทย เจ้าหน้าที่ชี้ผงาดเป็นนายพลหนุ่มที่สุดของโลก </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top>สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ว่า นายกรัฐมนตรีฮุนเซน แสดงความประทับใจต่อกรณีพลโทฮุน มาเนท ลูกชาย วัย 33 ปี

    ได้แสดงความสามารถในการรบกับไทย กรณีความขัดแย้งประสาทเขาพระวิหาร โดยผู้นำกัมพูชา ได้กล่าวในแถลงการณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า พลโทฮุน มาเนท เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์สู้รบชายแดนไทยกัมพูชา และการเจรจากับเจ้าหน้าที่กองทัพไทย ระบุว่า "ขณะนี้ ฮุน มาเมท กำลังโด่งดังในไทยมาก พร้อมทั้งกล่าวว่า ในขณะที่ผู้รุกรานสาบแช่งคุณ จงสู้ต่อไป ลูกชาย เพราะพ่อเอาใจช่วยคุณอยู่


    ด้านผู้บัญชาการภาคสนามรายหนึ่งเปิดเผยว่า พลโทฮุน มาเนท ได้เดินทางและเยี่ยมและปลอบขวัญทหารกัมพูชาถึงแนวรบ

    นอกจากนี้ เขายังให้คำแนะนำแก่ทหารของเราเกี่ยวกับแนวทางต่อสู้และการป้องกันตัวเอง ขณะที่เจ้าหน้าที่รายอื่นระบุว่า การเยือนดังกล่าวดูเหมือนจะเพื่อแสดงศักยภาพว่า ฮุน มาเนท ได้ทำสงครามกับไทยอย่างแท้จริง และวีรกรรมนี้จะช่วยทำให้หลายฝ่ายยอมรับบทบาทของเขาอย่างเป็นทางการ ในฐานะนายพลหนุ่มที่สุดของโลก


    นอกจากนี้ หลายฝ่ายยังวิเคราะห์ถึงประเด็นการขึ้นสืบอำนาจแทนนายฮุนเซน

    ระบุว่า พลโทฮุน มาเนท ไม่น่าจะขึ้นมาเป็นผู้นำกัมพูชาแทนสมเด็จฮุนเซนในเร็วๆ นี้ เพราะยังคงมีกระแสไม่เห็นด้วยในพรรครัฐบาลซีพีพี และหากพลโท ฮุน มาเนท จะก้าวขึ้นสู่เก้าอี้ผู้นำกัมพูชาจริง เขาอาจต้องรออีกนาน เพราะก่อนหน้านี้ ฮุนเซน ได้ประกาศแล้วว่า เขาจะดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำกัมพูชาจนถึงอายุ 90 ปี ซึ่งปัจจุบันฮุนเซนมีอายุ 60 ปี


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ผู้นำสูงสุดอิหร่านขอให้ชาวมุสลิมช่วยกันกำจัดสหรัฐออกจากโลกมุสลิม

    [​IMG]

    เตหะราน 21 ก.พ.- อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน เรียกร้องชาวมุสลิมให้ช่วยกันกำจัดสหรัฐออกจากโลกมุสลิม

    คาเมเนอี กล่าวต่อนักวิชาการชีอะห์ และสุหนี่ ในการประชุมระหว่างประเทศเรื่องอิสลามที่กรุงเตหะรานว่า ปัญหาหลักในโลกมุสลิมคือ การปรากฏอยู่ของสหรัฐ จึงจำเป็นต้องแก้ไขด้วยการขจัดสหรัฐออกไป ขณะนี้สหรัฐซึ่งเป็นปรปักษ์ตัวฉกาจของอิหร่านเริ่มอ่อนแอลงแล้ว คาเมเนอี เรียกร้องชาวมุสลิมทั่วโลกช่วยกันปกป้องการเคลื่อนไหวของประชาชนชาวอียิปต์เพราะเป็นหน้าที่ของชาวมุสลิม ชาติอาหรับและชุมชนมุสลิมทั้งปวง

    ผู้นำสูงสุดอิหร่านย้ำว่า ศัตรูพยายามบอกว่าการเคลื่อนไหวของประชาชนในโลกอาหรับขณะนี้ไม่ใช่สิ่งที่เป็นอิสลาม แต่แท้จริงแล้วใช่และจะต้องได้รับการส่งเสริมให้แข็งแกร่ง รวมทั้งขอให้ชาวมุสลิมต่อต้านการสุมหัวของกลุ่มปรปักษ์ที่พยายามสร้างความแตกแยกระหว่างมุสลิมชีอะห์และสุหนี่.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

    ต้นคริสต์มาสประจำชาติของสหรัฐ ถูกกระแสลมแรงจัดพัดจนโค่นล้ม

    [​IMG]

    สหรัฐ 20 ก.พ.-ต้นคริสต์มาสประจำชาติของสหรัฐ ถูกกระแสลมแรงจัดพัดจนโค่นล้ม ขณะที่ทางการเตรียมหาต้นใหม่มาปลูกทดแทนแล้ว

    ต้นคริสต์มาสประจำชาติของสหรัฐความสูงเกือบ 13 เมตร ซึ่งปลูกอยู่ในสวนสาธารณะดิ เอลิปซ์ ทางใต้ของทำเนียบขาว ถูกกระแสลมแรงจัดพัดจนหักโค่นลงมา โฆษกอุทยานแห่งชาติสหรัฐเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางการได้มีการคัดเลือกต้นคริสต์มาสต้นใหม่ที่จะนำมาปลูกแทนต้นเก่าแล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยถึงแหล่งที่มา สำหรับต้นคริสต์มาสที่เพิ่งล้มไปนั้นได้มาจากการบริจาคของสามีภรรยาจากรัฐเพนซิลเวเนีย ถูกนำมาปลูกไว้ที่สวนสาธารณะดิ เอลิปซ์ ตั้งแต่ปี 2521.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

    เกิดเหตุวุ่นวายในเมืองหลวงของลิเบีย

    [​IMG]

    ตริโปลี 21 ก.พ.-ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ได้ยินเสียงปืนยิงรุนแรงบริเวณใจกลางกรุงตริโปลีของลิเบียและพื้นที่ใกล้เคียงเมื่อค่ำวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น

    ชาวบ้านคนหนึ่งเผยว่า ได้ยินเสียงผู้ประท้วงขับไล่รัฐบาลและเสียงเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายฝูงชน ส่วนชาวต่างชาติที่ทำงานในลิเบียเผยว่า ผู้ประท้วงตามท้องถนนพากันขว้างปาก้อนหินใส่ป้ายรูปภาพขนาดใหญ่ของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาไปทั่วทุกแห่งและมีบางส่วนกระเด็นเข้าไปในบ้านเรือนประชาชน ด้านกลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์ในสหรัฐประเมินว่า เหตุปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจในลิเบียตลอด 4 วันที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 233 คน แหล่งข่าวในเมืองเบงกาซี เมืองใหญ่อันดับสองของลิเบีย เผยว่ามีผู้ถูกสังหาร 60 คน เมื่อวานนี้

    หัวหน้าเผ่าอัลซูเวย์ยา ทางตะวันออกของลิเบีย ขู่ผ่านสถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา ว่าจะระงับการส่งออกน้ำมันไปยังประเทศตะวันตกภายใน 24 ชั่วโมง หากทางการไม่ยุติการปราบปรามผู้ประท้วง อัลจาซีรารายงานด้วยว่า ผู้แทนลิเบียประจำสันนิบาตอาหรับได้ยื่นหนังสือลาออกเพื่อประท้วงการปราบปรามใช้กำลังกับผู้ประท้วง.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

    เหตุปะทะรุนแรงในลิเบีย ประชาชนต้องหนีภัยไปอียิปต์

    [​IMG]

    ลิเบีย 21 ก.พ.- เหตุประท้วงปะทะรุนแรงในลิเบีย ทำให้ประชาชนต้องอพยพหนีภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หลายคนเผยว่าทหารฆ่าประชาชนจำนวนมาก

    ในขณะที่การปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับกองกำลังทหารตำรวจยังดำเนินต่อไปอย่างรุนแรง ในพื้นที่ตอนเหนือของลิเบีย ชาวบ้านต่างพากันอพยพหนีตายเข้าไปยังอียิปต์ ประเทศเพื่อนบ้าน ผู้อพยพหลายคนเผยว่า ประชาชนในเมืองเบงกาซีจำนวนมากถูกทหารยิงเข้าที่ศีรษะ หรือหน้าอก อย่างไม่เลือกหน้า ทั่วเมืองเต็มไปด้วยศพ เกลื่อนกลาด ขณะที่บางคนเผยว่ารัฐบาลงดจ่ายน้ำและไม่มีอาหารยังชีพ

    ด้านสำนักข่าวอนาโตเลีย รายงานว่า ชาวตุรกีเกือบ 300 คน ซึ่งอยู่ในลิเบีย ต่างพากันอพยพกลับบ้านเกิดด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ โดยเที่ยวบินแรกถึงนครอิสตันบูล เมื่อวันอาทิตย์.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

    ผู้นำลิเบียปรากฏตัวทางทีวี ท่ามกลางสถานการณ์ประท้วง

    [​IMG]

    ลิเบีย 21 ก.พ.-ผู้นำลิเบียปรากฏตัวทางโทรทัศน์ ท่ามกลางการชุมนุมของผู้สนับสนุนในหลายจุดทั่วกรุงตริโปลี

    สถานีโทรทัศน์ของทางการลิเบีย เผยแพร่ภาพของ พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ของลิเบีย รวมไปถึงภาพกลุ่มผู้สนับสนุนนายกัดดาฟีตามสถานที่ต่าง ๆ การเผยแพร่ภาพดังกล่าวมีขึ้นหลังกองทัพลิเบียใช้ปืนกลสาดกระสุนเข้าใส่ชาวลิเบียที่มาร่วมขบวนพิธีศพผู้ที่เสียชีวิตในการประท้วงต่อต้านกัดดาฟีในเมืองเบงกาซี ทางตะวันออกของประเทศ

    ทั้งนี้ การประท้วงต่อต้านผู้นำลิเบียตลอดช่วง 6 วันที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 200 คน ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการใช้กำลังปราบปรามอย่างรุนแรงของทางการ.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

    ชาวบาห์เรนกลับไปชุมนุมใจกลางเมืองหลวง

    [​IMG]

    มานามา 20 ก.พ.-ชาวบาห์เรนจำนวนมากกลับไปปักหลักชุมนุมใจกลางกรุงมานามาอีกครั้ง บางคนเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงการเมืองทันที ขณะที่บางคนหวังว่าจะมีการเจรจาแก้ไขวิกฤติในขณะนี้

    ชาวบาห์เรนเริ่มเรียกวงเวียนไข่มุกว่า วงเวียนพลีชีพ เพื่อรำลึกถึงผู้ประท้วง 4 คนที่ถูกสังหารเมื่อตำรวจปราบจลาจลบุกสลายผู้ชุมนุมเช้ามืดวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผู้ประท้วงกลับไปปักหลักที่วงเวียนอีกครั้งตั้งแต่ค่ำวานนี้ หลังจากมกุฎราชกุมารเชค ซัลมาน บิน ฮาหมัด อัล คาลิฟา สั่งให้ทหารและยานยนต์หุ้มเกราะถอนกำลังออกมา และจะทรงเป็นผู้นำการเจรจาหลังเกิดเหตุไม่สงบมาหลายวัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คน

    แหล่งข่าวฝ่ายค้านเผยว่า ฝ่ายค้านจะยื่นข้อเรียกร้องต่อมกุฎราชกุมารในวันนี้ เรื่องการปกครองระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งรัฐบาลโดยตรง การถอนกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคง การปล่อยตัวนักการเมือง และการเจรจาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

    กระแสประท้วงไล่รัฐบาลลามไปจิบูตี

    [​IMG]

    จิบูตี 21 ก.พ.-กระแสประท้วงขับไล่รัฐบาลยังคงลุกลามทั้งในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ล่าสุดเกิดขึ้นที่ประเทศจิบูตี

    ช่างภาพมือสมัครเล่นได้นำวิดีโอการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในจิบูตีมาเผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูบ โดยผู้ประท้วงหลายร้อยคนได้ออกมารวมตัวกันในกรุงจิบูตี เรียกร้องให้ประธานาธิบดีของประเทศก้าวลงจากตำแหน่ง หลังไม่พอใจที่อัตราการว่างงานของประเทศพุ่งสูงถึงร้อยละ 60 กลุ่มผู้ประท้วงยังปะทะกับตำรวจปราบจลาจลที่ใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วงที่หวังโค่นล้มผู้นำอย่างที่เกิดขึ้นในอียิปต์และตูนิเซีย ขณะที่ผู้นำการเมืองฝ่ายค้านคนสำคัญของจิบูตี 3 คน ถูกตำรวจจับกุมในข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

    จีนจับนักเคลื่อนไหวที่พยายามใช้เน็ตปลุกระดมต้านรัฐบาล

    [​IMG]

    จีน 21 ก.พ.-จีนจับกุมนักเคลื่อนไหวที่พยายามใช้อินเทอร์เน็ตปลุกระดมให้ผู้คนออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเหมือนในตะวันออกกลาง

    ทางการจีนได้จับกุมกลุ่มนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย และเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยตามท้องถนน รวมทั้งตัดสัญญาณการส่งข้อความสั้นผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ และตรวจสอบการโพสต์ข้อความทางอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด หลังมีการใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือเรียกร้องให้ชาวจีนออกมาชุมนุมปฏิวัติโค่นล้มรัฐบาลเหมือนกับประเทศต่าง ๆ ในตะวันออกกลาง ซึ่งข้อความที่โพสต์ลงอินเทอร์เน็ตได้เรียกร้องให้ชาวจีนออกมาชุมนุมประท้วงกันในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และเมืองสำคัญอื่น ๆ อีก 11 เมืองในเวลา 13.00 น.ของวานนี้ อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลจีนดังกล่าวไม่ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไป.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

    สื่ออังกฤษเผยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้รับเชิญร่วมงานแต่งเจ้าชายวิลเลียม

    [​IMG]

    ลอนดอน 20 ก.พ.- สื่อในอังกฤษรายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทย สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น และสมาชิกราชวงศ์หลายประเทศ ทรงได้รับเชิญร่วมงานฉลองมงคลสมรสของเจ้าชายวิลเลียม พระโอรสในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารอังกฤษกับ น.ส.เคท มิดเดิลตัน พระคู่หมั้น

    สำนักพระราชวังอังกฤษเริ่มส่งบัตรเชิญในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ตั้งแต่วันพุธและวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเชิญแขกผู้มีเกียรติ 1,900 คน ไปร่วมงานฉลองมงคลสมรสของพระราชนัดดา ในวันที่ 29 เมษายนนี้ที่มหาวิหารเวสต์มินเตอร์ เวลา 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น แม้ไม่มีการเปิดเผยรายชื่อแขก แต่สื่อในอังกฤษเผยว่า เดวิด แบ็กแฮม และภรรยา เป็นหนึ่งในคนดังไม่กี่คนที่ได้รับเชิญ เจ้าชายวิลเลียม ทรงเคยร่วมงานกับอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษผู้นี้ ในการรณรงค์ให้อังกฤษได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 แต่ไม่สำเร็จ

    รายงานระบุว่า ผู้นำหลายประเทศไม่ได้รับเชิญ เนื่องจากเจ้าชายวิลเลียม ไม่ใช่มกุฎราชกุมาร แต่อยู่ในลำดับที่ 2 ของการสืบสันตติวงศ์ สมาชิกราชวงศ์อังกฤษได้รับเชิญ 50 พระองค์ ยกเว้น ฟาราห์ เฟอร์กูสัน ดัชเชสแห่งยอร์ค อดีตพระชายาในเจ้าชายแอนดรูว์ ดยุคแห่งยอร์ค พระราชโอรสองค์ที่ 2 ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ส่วนแขกสมาชิกราชวงศ์ต่างประเทศมี 40 พระองค์ แขกจากมูลนิธิการกุศลของเจ้าชายวิลเลียม 80 คน แขกจากรัฐบาล รัฐสภาและการทูต 200 คน ข้าหลวงใหญ่และนายกรัฐมนตรีประเทศเครือจักรภพ 60 คน และแขกจากกองทัพอังกฤษ 30 คน

    สื่ออังกฤษเผยด้วยว่า เจ้าชายวิลเลียม และ น.ส.มิดเดิลตัน ต่างเชิญอดีตคนรักมาร่วมงาน รวมไปถึงพระญาติของเจ้าหญิงไดอานาผู้ล่วงลับ แต่แขกที่ได้รับเชิญร่วมพระกระยาหารเที่ยงกับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่พระราชวังบักกิงแฮม จะมีเพียง 600 คน และแขกที่ได้รับเชิญร่วมพระกระยาหารค่ำและงานเลี้ยงเต้นรำกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ จะมีเพียง 300 คน.- สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ยักษ์นอกศาสนาจะฆ่ากัน
    (สงครามศาสนาจะกลับมาอีกครั้ง)

    [​IMG]

    พระฯ ท่านพยากรณ์ว่า:-

    "พวกเปรตอสุรกายที่แฝงกายอยู่ในคราบนักบุญและนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ของโลก จะถือเอาเหตุปัจจัยความแตกต่างทางศาสนาและนิกาย มาเป็นเครื่องยุยงให้ชาวโลกแตกออกเป็นสองฝ่าย และก็จะเริ่มค่อยๆ ประหัตประหารไปทีละจุด ๆ ในที่สุด (ความขัดแย้งในเรื่องลัทธิ นิกาย และศาสนาจะบานปลายเป็นสงครามใหญ่ภายหลัง) เพราะกิเลสในใจผู้นำของแต่ละศาสนามีมาก" (อย่ามองข้ามเหตุที่เกิดในประเทศไทย เพราะในเมืองไทยก็เป็นชนวนใหญ่เช่นกัน)

    พระพุทธพจน์ทำนาย (ต้นฉบับดั้งเดิม)

    คณะธรรมทูตผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระศรีมหาโพธิ์ที่ประเทศอินเดียเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้คัดลอกพระพุทธพจน์ทำนายจากศิลาจารึกเขตมหาวิหารในสวนมฤคทายวัน แปลได้ดังนี้

    สาธุ อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระเมตตากรุณาแก่สัตว์โลก ซึ่งเกิดมาล้วนแต่ลำบากยิ่งนัก ในคราวที่พระองค์ไกล้ถึงพระชนมายุย่างเข้าพระปรินิพานตามกาลเวลา จึงตรัสแก่พระอานนท์ผู้ศิษย์อันสนิทพากเพียรพยาบาลว่า

    " ดูกรอานนท์ สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดมาล้วนแต่ลำบากทุกชาติ ทุกศาสนา ตามธรรมชาติที่หมุนเวียนของโลก โลกหมุนไปใกล้ความแตกทำลายจนถึงสมัยที่อาตมานิพพานไปแล้วได้ ๕,๐๐๐ ปี เมื่อโลกไปใกล้กึ่งจำนวนที่อาตมาทำนายไว้ (๒,๕๐๐ ปี) มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทิศเสียครึ่งหนึ่ง ในระยะ ๓๐ ปี สิ่งที่ศาสนิกชนไม่เคยพบเห็น ยักษ์หินที่ถูกสาปให้หลับก็กลับคื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งหนัก

    เมื่อใกล้กึ่งศาสนาของอาตมา ก็ทวีภัยใหญ่ขึ้นทุกทิพาราตรี และมนุษย์นอกศาสนาก็จะมารบราฆ่าฟันกัน ถึงเลือดนองแผ่นดินและแผ่นน้ำ แม้ในอากาศก็มี อำนาจภัยจากฟ้าทุกทิศานุทิศ ไฟจะลุกลามเผาผลาญมนุษย์ไม่ขาดระยะ ต่างฝ่ายต่างทำลายกันย่อยยับเหมือนยักษ์กระหายเลือด แผ่นดินแผ่นน้ำจะเดือดเป็นไฟ และตายกันไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรา ต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกันตามวิสัยของยักษ์ร้ายนอกศาสนา ซึ่งกำเนิดมาจากสัตว์ป่าอำมหิต

    ส่วนศาสนิกชนผู้ขวนขวายในทางบุญตามเดิมวัจนะของอาตมา ก็จะสามารถระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านใดที่เคารพสักการะพระศรีมหาโพธิ์และกาสาวพัสตร์จะได้รับวิบัติเบาบางลง แต่จะหนีธรรมชาติไม่พ้น

    เริ่มแต่ศาสนาอาตมาล่วงมาได้ ๒๔๘๕ ปี เป็นต้นไป ไฟจะลุกมาทางทิศตะวันออกไหม้วัดวาอาราม สมณชีพราหมณ์จะอดอยากยากเข็ญ คนบ้านจะเข้าป่า สัตว์ป่าจะเข้ากรุง เมืองหลวงจะร้อนเป็นไฟ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทรจะชอกช้ำ สงครามจะทั่วทิศ ศึกจะติดเมือง ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง ปราชญ์เปรื่องจะสิ้นสูญ ราชตระกูลอำมาตย์

    ราษฎรทุกคนจะพากันถืออำนาจไม่เป็นธรรม ไม่เคารพหลักธรรม โดยปรวนแปรนิยมเชื่อถือถ้วยคำของคนโกง คนกล่าวคำเท็จ คนประจบสอพลอย่อมได้รับการเชื่อถือในท่ามกลางสังคมสันนิบาต ผู้ดีมีศีลธรรมประพฤติชอบไม่มีเสียง (อธรรมพูดจ้อ แต่ธรรมเป็นใบ้) จะเกิดการจลาจลวุ่นวาย ลูกจะพลัดแม่ แม่จะพลัดจากลูก โคกจะเป็นน้ำ ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมืองทรงเมืองจะเข้าไพร เทวดาจะเรียกแมลงบี้เหล็กโกฏิหนึ่งผีเสื้อแสนหนึ่งมาปล่อยแสนหนึ่งมาปล่อยไข้เป็นไฟผลาญ

    เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล ล่วงได้ ๒๕๑๒ (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ บุคคลเจริญด้วยเมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียนข่มเหงอิจฉาพยาบาทและไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม และยึดถือคาถาของอาตมาจะพ้นภัยพิบัติ ให้เจริญภาวนาดังนี้

    " หิตะชิราทัน มันกะโลอังคะ ศิลากะละสา สาสะสะติ โหตะถิ โหคะหะคะเน "

    ให้ท่องบ่นภาวนาเป็นนิจ ให้จดอักษรใส่กระดาษหรือผ้าขาวปิดไว้หน้าบ้าน หัวนอน หรือพันศรีษะไว้ สารพัดภัยพินาศ สันติประสิทธิ์ ดูกรอานนท์ อาตมาสงสารสัตว์โลกเป็นล้นพ้นที่มีอายุขัยอยู่ได้ใกล้ยุคกึ่งยุคลลาย

    เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๑๒ (ปีจอ) พระจันทร์จะเริ่มเปล่งแสงฉายโลก ครั้นล่วงได้ ๒๕๑๕ (ปีชวด) นับพ้นระยะปี ๓๐ ปี พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไปเพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก อธรรมแพ้ในที่สุด ครุฑจะบินกลับถิ่นสถาพร คนที่จรจะกลับเข้ากรุงบำรุงธรรม ธรรมจะชนะ พระจะอยู่บ้านเมืองต่อไป

    การงานของมนุษย์จะสำเร็จด้วยอริยศาสตร์ซึ่งไม่ต้องเบียดเบียนแรงผู้ใด ทุกคนจะสมบูรณ์ด้วยศีลธรรมและชีวิตผาสุก มหากษัตริย์ธรรมิกราชผู้เป็นพระโพธิสัตว์ องค์หนึ่งจะเกิดภายในความอุปภัมถ์ของพระมหาเถระโพธิสัตว์ทั้งสององค์นั้น จะจัดการบำรุงศาสนาของอาตมาในระยะนี้เป็น "ยุคศิวิไล" พระมหาเถระโพธิสัตว์ จะเกิดในสมัย ของอาตมาล่วงมาแล้ว ๒๔๕๔ ปี

    เมื่อล่วงได้ ๒๔๖๗ ถึง ๒๔๘๖ พระมหากษัตริย์ธรรมิกราชจะมาเกิด ทั้งสองพระองค์นั้นสถิตอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ ระหว่างปีจอปีกุน เมื่อศักราช ๒๕๑๓ กับ ๒๕๑๔ ผู้มีบุญทั้งสองพระองค์นั้นจะเสด็จเข้าบำรุงศาสนาให้เที่ยงแท้ สมณชีพราหมณ์จะเสด็จมา ๘๔,๐๐๐ รูป

    ดูกรอานนท์ อาตมาสงสารสัตว์ เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที คำทำนายของอาตมานี้ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อ หรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อๆไป นับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลา ผู้ใดปรารถนาจะได้เห็นหรือทันมีบุญ ให้รักษาศีลห้าประการหนึ่ง ยำเกรงบิดา มารดา รู้จักบุญคุณท่านผู้มีคุณหนึ่ง ให้เจริญภาวนาในพรหมไตรสภาพหนึ่ง คาถาว่าดังนี้

    " พุทธิทุกขัง อนิจจัง อนัตตา นโมสัพพราชา ขัตติโย อิติปารมิตา ตึสา อิติ สัพพัญญุมาคตา อิติ โพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จ เต นโม "

    รู้แล้วอย่าประมาท ให้ท่องบ่นภาวนารักษาศีล

    ********************************************************
    * หมายเหตุ * คัดจากหนังสือ " พระพุทธพจน์ทำนาย วิบากกรรมของประเทศ และชี้จุดบอดจุดแก้ของสังคม " โดย : สุริยัน โรหติเสถียร รวบรวม หน้า ๖-๑๐ โครงการธรรมไมตรี จัดพิมพ์ : พิมพ์ที่ พี อาร์ ออฟเซ็ทปี ๒๕๓๘

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2011
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ภูเขาไฟฟิลิปปินส์ปะทุพ่นเถ้าถ่านปกคลุมเมือง

    [​IMG]

    มะนิลา 21 ก.พ. - เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์กล่าวว่า ภูเขาไฟฟิลิปปินส์ปะทุขึ้นในวันนี้พ่นเถ้าถ่านปกคลุมทั่วทั้งเมือง แต่ยังไม่มีรายงานทรัพย์สินเสียหายหรือผู้บาดเจ็บ

    เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันภัยพลเรือนรายงานว่า ภูเขาไฟบูลูซานสูง 1,559 เมตร ปะทุพ่นเถ้าถ่านครั้งใหญ่ปกคลุมเมืองไอโรซินที่มีประชากร 46,000 คน ทำให้ทัศนวิสัยลดลงเหลือศูนย์ ขณะเดียวกันคณะเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสภาพความเสียหาย แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมทั้งยังไม่มีคำสั่งอพยพหลังภูเขาไฟปะทุเมื่อเวลาประมาณ 09.12 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 08.12 น.ตามเวลาในไทย ภูเขาไฟบูลูซาน เป็นภูเขาไฟลูกหนึ่งในจำนวน 23 ลูก ที่ยังคงคุกรุ่นในฟิลิปปินส์ตั้งอยู่บนแนววงแหวนไฟในมหาสมุทรแปซิฟิก.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

    ชาวฟิลิปปินส์หลายพันต้องอพยพ หลังภูเขาไฟบูลูซานปะทุอีกครั้ง

    [​IMG]

    ฟิลิปปินส์ 22 ก.พ.-ชาวบ้านในฟิลิปปินส์หลายพันคนต้องอพยพออกจากหมู่บ้านทางตอนกลางของประเทศ หลังภูเขาไฟบูลูซานปะทุรุนแรงอีกครั้ง

    การปะทุของภูเขาไฟบูลูซานเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการปะทุครั้งที่ 13 แล้วนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน ส่งกลุ่มควันและเถ้าถ่านขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงกว่า 2 กิโลเมตร ชาวบ้านนับร้อย ๆ ครอบครัวในหมู่บ้านเลกาซปีต้องอพยพออกจากพื้นที่อีกครั้ง ไปอาศัยตามศูนย์ช่วยเหลือชั่วคราว โดยมีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคอยอำนวยความสะดวก และสั่งห้ามชาวบ้านกลับเข้าพื้นที่ จนกว่าจะได้รับการประกาศว่าเป็นเขตปลอดภัย

    ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวยืนยันว่า ยังไม่มีสัญญาณว่าภูเขาไฟบูลูซานจะเกิดการระเบิดรุนแรง หรือปะทุลาวาออกจากปากปล่องในระยะเวลาอันใกล้นี้ ขณะที่คาดว่าการปะทุย่อย ๆ จะเกิดขึ้นต่อไปอีกหลายสัปดาห์.-สำนักข่าวไทย

    วันอังคาร ที่ 22 ก.พ. 2554

    เกิดแผ่นดินไหว 6.2 ริกเตอร์บริเวณชายฝั่งตะวันออกของรัสเซีย

    [​IMG]

    มอสโก 21 ก.พ.- ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.2 ริกเตอร์บริเวณคาบสมุทรคัมชัตกา ชายฝั่งด้านตะวันออกของรัสเซียเมื่อเช้าตรู่วันนี้ แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย

    ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐรายงานว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.43 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 04.43 น. ตามเวลาไทย บริเวณชายฝั่งคาบสมุทรคัมชัตกา ห่างจากเมืองเปโตรพาฟลอฟสก์-คัมซัตกา ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 400 กม. และอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 9.3 กม. ด้านโฆษกหญิงกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของดินแดนคัมชัตกาเปิดเผยว่า ไม่พบรายงานความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหวดังกล่าว ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากทางตอนใต้ของหมู่บ้านอุสต์-คัมชัตสก์ 50 กม.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

    แผ่นดินไหวรุนแรง 6.3 ริคเตอร์ที่นิวซีแลนด์

    [​IMG]

    เวลลิงตัน 22 ก.พ.-เกิดแผ่นดินไหว 6.3 ริคเตอร์ที่เมืองไครส์เชิร์ท เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเคยเกิดแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก

    ภาพทางโทรทัศน์แสดงความตื่นตระหนกของผู้ที่กำลังทำงานอยู่ตามอาคารต่าง ๆ หลังจากเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่าเกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.51 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 06.51 น. ตามเวลาประเทศไทย

    แรงสั่นสะเทือนได้สร้างความเสียหายแก่ถนนหลายสายและอาคารหลายหลังพังถล่ม โดยที่แผ่นดินไหวเกิดขึ้นห่างจากเมืองไครส์เชิร์ท 5 กิโลเมตร และที่ระดับความลึกเพียง 4 กิโลเมตร

    ท่าอากาศยานเมืองไครส์เชิร์ทถูกปิด และตำรวจกำลังอพยพประชาชนออกจากศูนย์กลางเมือง มีรายงานว่า ด้านหน้าของอาคารที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งที่แล้วได้พังถล่มลงมาบนถนน มีผู้เห็นว่ามีคนถูกทับติดอยู่ภายในด้วย แต่ยังไม่มีรายงานที่ยืนยันการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

    วันอังคาร ที่ 22 ก.พ. 2554

    ฮ่องกงมีคนตายเพราะไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อีก 3 ราย

    [​IMG]

    ฮ่องกง 21 ก.พ.- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฮ่องกงแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตเพราะไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อีก 3 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมเป็น 17 คนนับตั้งแต่เดือนก่อน

    เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เพิ่มการเฝ้าระวังไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ตั้งแต่ปลายเดือนก่อนเมื่อพบว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากโรคนี้ ผู้เสียชีวิตล่าสุดเป็นสตรีชราวัย 64 ปี ชายชราวัย 71 และ 83 ปี หลังจากเกิดการระบาดใหญ่เมื่อ 18 เดือนที่แล้ว ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 80 คน เจ้าหน้าที่เผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงที่ฤดูไข้หวัดใหญ่ระบาดสูงสุด จึงคาดว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะระบาดจนถึงกลางเดือนหน้า แต่ไม่คิดว่าจะมีผู้เสียชีวิตในวงกว้าง เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าเชื้อได้กลายพันธุ์เป็นเชื้อดื้อยาแล้ว

    ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า นับตั้งแต่พบไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ครั้งแรกในเม็กซิโกและสหรัฐเมื่อเดือนเมษายน 2552 จนถึงขณะนี้ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 18,400 คน และได้ประกาศเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อนว่าโรคไม่แพร่ระบาดแล้ว.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

    วาฬนำร่อง 107 ตัวเกยตื้นตายที่ชายหาดในนิวซีแลนด์

    [​IMG]

    เวลลิงตัน 21 ก.พ. – กรมอนุรักษ์ธรรมชาติของนิวซีแลนด์เปิดเผยว่า พบฝูงวาฬนำร่องจำนวน 107 ตัวตาย หลังเกยตื้นบนชายหาดทางตอนใต้ของนิวซีแลนด์เมื่อวานนี้ ในจำนวนดังกล่าววาฬ 48 ตัวถูกฉีดยาเพื่อให้ตายอย่างสงบ

    กรมอนุรักษ์ธรรมชาติออกแถลงการณ์ว่า นักปีนเขากลุ่มหนึ่งพบฝูงวาฬดังกล่าวเกยตื้นบนชายหาดเกาะสจ๊วต โดยเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุแล้ว และพบว่าวาฬเหล่านั้นกำลังจะตายหรือตายแล้ว หลังขึ้นมาเกยตื้นบนชายหาด แต่ระดับน้ำได้ลดลง ทำให้วาฬเหล่านั้นไม่สามารถมีชีวิตรอดรอจนเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางมาถึง ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงฉีดยาให้วาฬ 48 ตัวตายอย่างสงบ เพื่อไม่ให้พวกมันต้องทรมานมากไปกว่านี้ ทั้งนี้ วาฬมักขึ้นมาเกยตื้นบนชายฝั่งของนิวซีแลนด์ โดยเมื่อเดือนที่แล้วพบวาฬ 24 ตัวตาย หลังเกยตื้นบนเกาะเหนือของนิวซีแลนด์ -สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2011
  20. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    นักวิจัยไทยประสบความสำเร็จ พัฒนาวัคซีนไข้เลือดออกได้ครั้งแรกของโลก พร้อมส่งต่อให้เอกชนนำไปปรับปรุงให้สามารถนำมาใช้รักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดตัววัคซีนลูกผสมเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ป้องกันไข้เลือดออกที่นักวิจัยไทย สามารถพัฒนาได้เป็นผลสำเร็จครั้งแรกของโลก โดยนายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยปี 2553 มีผู้ป่วยกว่า 1 แสนราย และเดือนมกราคม 2554 มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้วประมาณ 1,200 ราย
    นพ.สุธี ยกส้าน อาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และคณะ ร่วมกันพัฒนาวัคซีนลูกผสมเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ ครบ 4 ซีโรทัยป์ โดยดัดแปลงสารพันธุกรรมให้อ่อนฤทธิ์เป็นฐาน ตัดต่อกับโปรตีนโครงสร้างที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคไข้เลือดออกจากไวรัสสาย พันธุ์ปัจจุบัน ซึ่งหวังว่าวัคซีนที่ผลิตได้นั้นจะป้องกันได้ดียิ่งขึ้น ขณะนี้ได้จับมือภาคเอกชนนำไปพัฒนาให้สามารถใช้รักษาผู้ป่วยได้จริง และลดปัญหาโรคไข้เลือดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
    สำนักข่าวไทย
     

แชร์หน้านี้

Loading...