ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

วีดีโอนี้ เป็นภาพการลอยตัวพลิกกลับในสภาพไร้น้ำหนัก สิ่งของทุกอย่างลอยขึ้นมา มันไม่น่าจะสื่อถึงเรื่องแผ่นดินไหวเลยนี่ครับ มันเหมือนกับโลกเราไม่มีแรงดึงดูด ทุกสิ่งทุกอย่างไร้น้ำหนักไปชั่วขณะ ไม่รู้หมายถึงแกนโลกหยุดหมุนหรือเปล่านะครับ ชั่วขณะแล้วกลับมาหมุนใหม่ แต่ระหว่างนั้นจะเกิดอะไรบ้างไม่รู้
แต่เดาว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ เพราะบอกให้เตรียมชุดยังชีพไว้

ก็เลยสงสัยว่าวีดีโอนี้ทำขึ้นและเผยแพร่จากรัฐบาลอเมริกาจริงหรือไม่ ไงครับ...

ถ้าใช่ ก็เตรียมตัวให้พร้อมเถอะครับ พี่น้อง ... เพราะพวกนี้ไม่ค่อยบอกอะไรง่าย ๆ หรอกครับ ยกเว้นจวนตัวจริง ๆ เท่านั้น

 

แผ่นดินไหวจีน ตาย 16 บาดเจ็บกว่า 150 คน​

​

เกิดเหตุแผ่นดินไหวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ใกล้พรมแดนติดพม่าในวันนี้ มีผู้เสียชีวิต 16 คนบาดเจ็บกว่า 150 คน

เว็บไซด์สถานีตรวจจับแผ่นดินไหวรัฐบาลจีนรายงานว่า ขนาดของแผ่นดินไหววัดได้ 5.8 ริคเตอร์ลึก 10 กิโลเมตร ขณะที่สำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐฯวัดได้ 5.4 ริคเตอร์ลึก 35 กิโลเมตร แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 13 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น หรือ เที่ยงวันตามเวลาประเทศไทย ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่เขตหยิงเจียง มณทลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ติดกับพรมแดนพม่า-มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คนบาดเจ็บ 157 คน บ้านเรือนหลายหลัง รวมทั้งโรงแรมแห่งหนึ่งและซุปเปอร์มาร์เก็ตได้รับความเสียหายพังถล่มลงมา

ขณะที่กรมอุตุนิยมพม่าก็ออกแถลงการณ์เกิดแผ่นดินไหวทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ หรือความเสียหายจากแผ่นดินไหว

วันพฤหัสบดี ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

กองกำลังกัดดาฟี่เริ่มโจมตีจุดยุทธศาสตร์น้ำมัน​

​

สถานการณ์ในลิเบียยังทวีความรุนแรงมากขึ้น ล่าสุดกองกำลังที่ภักดีต่อพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี่หันไปโจมตียุทธศาสตร์น้ำมันในประเทศ ขณะที่กระแสเรียกร้องให้มีการกำหนดเขตห้ามบินในลิเบียเริ่มมีมากขึ้น

การโจมตีทางอากาศเมื่อวานนี้กองกำลังของกัดดาฟี่ทิ้งระเบิดโจมตีเมืองราส รานุฟ เมืองยุทธศาสตร์น้ำมันของประเทศ รายงานระบุว่า แหล่งน้ำมัน 3 แห่งถูกโจมตี และมีการสู้รบกันอย่างหนัก โดยกลุ่มต่อต้านพยายามยิงปืนโจมตีเครื่องบินของกองกำลังกัดดาฟี่ มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บด้วย นอกจากที่เมืองราส รานุฟแล้ว กองกำลังกัดดาฟี่ยังโจมตีแหล่งน้ำมันในเมืองซิ-ดราห์ด้วย

สถานีโทรทัศน์ลิเบียรายงานว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธที่เครือข่ายอัล กออิดะห์ให้การสนับสนุน ขณะที่กลุ่มต่อต้านกัดดาฟี่ในเมืองเบงกาซี่บอกว่า กัดดาฟี่กำลังเล่นสกปรก ด้วยการโจมตีท่อส่งน้ำมัน เมื่อวานนี้กองกำลังที่ภักดีกับกัดดาฟี่ยังอ้างด้วยว่า สามารถยึดเมืองซาวิยาห์คืนจากกลุ่มกบฏที่กลุ่มอัล กออิดะห์สนับสนุนด้วย

การโจมตีทางอากาศที่หนักหน่วงมากขึ้นทำให้กลุ่มต่อต้านกัดดาฟี่เรียกร้องอีกครั้งให้ยูเอ็นเร่งกำหนดเขตห้ามบิน ซึ่งล่าสุดผู้นำออสเตรเลียก็ออกมาให้การสนับสนุนยูเอ็นให้มีการเจรจาในเรื่องนี้เพื่อคุ้มครองพลเรือนในลิเบีย ผู้นำออสเตรเลียแถลงเรื่องดังกล่าว หลังจากพูดคุยกับนายบัน คีมุน เลขาธิการยูเอ็น

ขณะที่เบลเยี่ยมการหารือกันระหว่างนาโต้และอียูได้เริ่มขึ้นแล้วในวันนี้ โดยเรื่องที่หารือมีทั้งความเป็นไปได้ในการกำหนดเขตห้ามบินในลิเบียไปจนถึงแนวทางที่อียูจะให้การสนับสนุนการถ่ายโอนอำนาจทางการเมืองในประเทศต่างๆในแอฟริกาเหนือทั้งอียิปต์ ตูนีเซีย รวมไปถึงการใช้มาตรการคว่ำบาตรกดดันกัดดาฟี่

สำหรับการกำหนดเขตห้ามบินก็มีมาตรการหลายอย่างตั้งแต่ใช้ปฏิบัติการทางทหารในการยิงเครื่องบินลิเบียทุกชนิดที่ละเมิดคำสั่ง รวมไปถึงการใช้เครื่องบินสอดแนมและดาวเทียมเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ไม่ให้มีการละเมิดเขตห้ามบินตลอดจนการส่งข้อมูลต่างๆไปยังศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ

วันพฤหัสบดี ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

พายุฤดูหนาวถล่มตะวันออกแคนาดาและกรีซ​

​

พายุหิมะที่พัดกระหน่ำภาคตะวันออกของแคนาดาทำให้เกิดหิมะตก,ฝนกระหน่ำและพายุน้ำแข็ง ขณะที่กรุงเอเธนส์ของกรีซก็ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะเช่นกัน

พายุหิมะและพายุน้ำแข็งพัดกระหน่ำหลายพื้นที่ในเมืองบรั๊นส์วิค เกาะ ปริ๊นซ์ เอ็ดเวิร์ด และควีเบค ทางภาคตะวันออกของแคนาดา ทำให้หลายพื้นที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะที่ถูกปกคลุมหนาเกือบ 2 ฟุตครึ่ง ขณะที่ประชาชนเกือบ 23,300 ครัวเรือนต้องอยู๋โดยไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากสายไฟฟ้าขาดเพราะน้ำแข็งเกาะหนา เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินต้องเร่งฟื้นฟูกระแสไฟฟ้าและกวาดหิมะออกจากถนนสายหลัก โดยเฉพาะที่เขตเค้นท์ ในนิวบรั๊นส์วิค เจ้าหน้าที่และคนงานของบริษัท NB Power ต้องเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูกระแสไฟฟ้าสำหรับประชาชนเกือบ 2 พันครัวเรือนในพื้นที่ดังกล่าว

ส่วนที่กรุงเอเธนส์ของกรีซก็มีสภาพไม่แตกต่างกัน พายุหิมะที่พัดกระหน่ำทำให้วิหารพาร์เทน่อน,อะโครโพลิสและวิหารเทพเจ้าซุสถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ขณะที่พายุหิมะซึ่งเริ่มพัดกระหน่ำไปทั่วกรีซตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาเคลื่อนตัวไปถึงเกาะครีตที่อยู่ทางภาคใต้ซึ่งโดยปกติอากาศจะสบายๆไม่หนาดจัด รายงานแจ้งว่าอุณหภูมิทางภาคเหนือของประเทศติดลบ 5 องศาเซลเซียส ขณะที่กรุงเอเธนส์อุณหภูมิลดลงเหลือ 1 องศา โรงเรียนหลายแห่งต้องหยุดการเรียนการสอนและถนนในหลายพื้นที่ต้องปิดการจราจร ไฟฟ้าถูกตัดขาดและต้นไม้หักโค่นจากพายุหิมะที่กระหน่ำอย่างหนัก และคาดว่ากรีซจะต้องเผชิญกับสภาพอากาศเช่นนี้ต่อไปอีกสองวัน

วันพุธ ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

ยามใกล้ภัยหนักทางธรรมชาติ มนุษย์จะปรากฏอาการไม่สบายเนื้อตัว

อย่างมิใช่จากเหตุปกติ

 

ขอบคุณนะ Falkman
เหนื่อยหน่อยนะช่วงนี้...สู้ๆละ

 

ทุกๆสิ่งเกิดขึ้นและเป็นไปตามผลกรรมรวมแห่งสรรพสัตว์สิ่งที่เราทำได้คือเตรียมพร้อมเตรียมถึงปกป้องสิ่งที่เราเราสามารถปกป้องได้
..ช่วงนี้อากาศแปนปรวน แดดร้อน เหมือนไฟนรกแตก ดูแลสุขภาพผู้สูงวัยข้างตัวด้วยนะครับ

 

ทุกๆสิ่งเกิดขึ้นและเป็นไปตามผลกรรมรวมแห่งสรรพสัตว์สิ่งที่เราทำได้คือเตรียมพร้อมเตรียมถึงปกป้องสิ่งที่เราเราสามารถปกป้องได้
..ช่วงนี้อากาศแปนปรวน แดดร้อน เหมือนไฟนรกแตก ดูแลสุขภาพผู้สูงวัยข้างตัวด้วยนะครับ

 

ทุกๆสิ่งเกิดขึ้นและเป็นไปตามผลกรรมรวมแห่งสรรพสัตว์สิ่งที่เราทำได้คือเตรียมพร้อมเตรียมถึงปกป้องสิ่งที่เราเราสามารถปกป้องได้
..ช่วงนี้อากาศแปนปรวน แดดร้อน เหมือนไฟนรกแตก ดูแลสุขภาพผู้สูงวัยข้างตัวด้วยนะครับ

 

เมื่อโลกหยุดหมุนรอบตัวเอง จะมีผลต่อแรงโน้มถ่วงอย่างไร?​

​

รบกวนนักฟิสิกส์ทุกท่านครับ ผมอยากรู้จริงๆนะครับ ว่าถ้าวันนั้นมาถึง มันจะมีผลอย่างไรบ้าง อย่างน้อยก็มันวิทยาทานกับท่านสมาชิกคนอื่นๆนะครับ

เอ๊าะ โค้กไทย 24 มี.ค. 2552

เราจะรู้สึกว่าทุกอย่างหนักขึ้นอย่างมาก เพราะเราสูญเสียแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ไป เราอาจเดินไม่ไหว ต้องนอนกลิ้งเอาถึงจะไปได้ ปลาคงจมน้ำหมดแน่ นกก็บินไม่ไหวมั้ง ค่า จี10 ไม่รู้จะไปอยู่ที่เ่ท่าไรไม่อย่ากคิดเลย....คงต้องย้ายที่อยู่กันด้วย เพราะด้านสว่าง คงร้อนจนไม่มีอะไรอยู่ได้อีก...ส่วนอีกด้านก็หนาวจนมีแต่หิมะเต็มไปหมด มนุษย์คงต้องอาศัยอยู่ ตามตะเข็บรอยต่อแสงอาทิตย์ เฮ่อจะอยู่ได้ไหมเนี่ย

ทศสุธา 24 มี.ค. 2552

ถ้าโลกหยุดหมุนกระทันหัน น้ำทะเลน่าจะได้รับแรงเฉี่อย จากการหมุนของโลก น่าจะมีคลื่นยักษ์ ซัดในแนวเดียวกับที่โลกหมุน คือโลกหมุนไปทางตะวันออก ถ้าหยุดปุ๊บ น้ำทะเลน่าจะซัดเข้าหาชายฝั่งด้านทิศตะวันตกของทวีป

นายสติ 25 มี.ค. 2552

สิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะต้อง หัดเคลื่อนที่ในรูปแบบใหม่ รวมทั้งมนุษย์ เราจะไม่สามารถ เดินแบบปกติได้ เราอาจจะต้องใช้มือช่วยเดิน ระบบการทรงตัวทุกอย่างในโลกต้องเปลี่ยนใหม่ รวมทั้งกฏฟิสิกส์แทบทั้งหมด ต้องคำนวนใหม่ ถ้ายังมีสิ่งมีชีวิตหลงเหลือนะ

Joedocg 25 มี.ค. 2552

หนักขึ้นครับ และกลางวันกลางคืนจะนานขึ้นอย่างมาก เพราะไม่หมุนรอบตัวเอง แต่หมุนรอบดวงอาทิตย์อยู่

data2342 25 มี.ค. 2552

ที่มา http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=103d806be0ce994a

แรงโน้มถ่วงของโลกเกิดจากอะไร?

แรงโน้มถ่วง คือแรงที่เกิดจากการเคลื่อนที่ หรือแรงเหวี่ยงหรือแรงที่โลกหมุนรอบตัวเอง หรือระบบสุริยะหรือดาวทั้งหมดที่โคจรรอบกาแลกซี่ โดยมีจุดศูนย์กลางของการเหวี่ยงคือใจกลาง... ตามธรรมชาติถ้าวัตถุอยู่นิ่งๆจะไม่เกิดแรงโน้มถ่วง แต่ยังคงมีแรงดืงดูด (ความจริงแล้วมันไม่ดึงดูดแต่มันเหมือน แต่ขอใช้คำว่าแรงดึงดูด เพราะเราจะพูดคำอื่นคนในที่นี้จะไม่รู้ว่าพูดถึงอะไร)

ต้องแยกแรง 2 แรงนี้ก่อน...ส่วนแรงดึงดูดของโลกหรือวัตถุต่างๆ ดึงดูดซึ่งกันและกันจริง แต่ดวงดาวทั้งหมดในจักรวาลจะไม่ดึงดูดกันและกันตลอดเวลา ดาวหรือวัตถุในจักวาลจะดึงดูดกัน ก็ต่อเมื่อมันโคจรหรืออยู่ใกล้พอที่จะส่งผลซึ่งกันและกันเท่านั้น ส่วนว่าทำไม่วัตถุจึงตกลงสู่พื้นพร้อมกันแม้มีน้ำหนัก(มวล)ต่างกัน นั้นความจริงนั้นแสนจะเข้าใจยากสักหน่อย..

ความจริงแล้วจักวาลมีพลังชนิดหนึ่ง คอยส่งพลังงานให้กับสสารทุกชนิดมากน้อยขึ้นอยู่กับมวลของสสาร แล้วสสารจะส่งพลังงานนี้ สวนกลับออกมาในรูปแบบพลังงานของมวลนั้นๆ จึงหักล้างกัน ส่งผลให้วัตถุที่ตกอยู่ในอำนาจพลังงานของมวลที่มากกว่า(ดาว) จึงหักล้างกันพอดี ไม่ว่าจะมีน้ำนักตางกันก็ตาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นวัตถุทั้งเอกภพล้วนตกอยู่ในอำนาจของแรงโน้มถ่วงทั้งสิ้น

ที่มา http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=60d2a88f2d164ae8

 

ปีมะโรง(พ.ศ.๒๕๕๕)
"คนจะเปลี่ยนสภาพจากเดินเป็นคลาน"​

​

จากคำถามที่ว่า เมื่อโลกหยุดหมุนรอบตัวเอง จะมีผลต่อแรงโน้มถ่วงอย่างไร?​

คำตอบ:- สิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะต้อง หัดเคลื่อนที่ในรูปแบบใหม่ รวมทั้งมนุษย์เรา จะไม่สามารถเดินแบบปกติได้ เราอาจจะต้องใช้มือช่วยเดิน ระบบการทรงตัวทุกอย่างในโลกต้องเปลี่ยนใหม่ รวมทั้งกฏฟิสิกส์แทบทั้งหมด ต้องคำนวนใหม่ ถ้ายังมีสิ่งมีชีวิตหลงเหลือนะ

โพสต์โดยคุณ Joedocg 25 มี.ค. 2552

ที่มา http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=103d806be0ce994a

ถ้าเรานำข้อมูลจากพุทธทำนาย และข้อมูลเรื่องของดาวนิบิรุที่กำลังโคจรมาใกล้โลก มาวิเคราะห์และประมวลเหตุการณ์เข้าด้วยกันแล้ว ก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่ในปีมะโรง พ.ศ.2555 ที่จะถึงนี้ "คนจะเปลี่ยนจากสภาพเดินเป็นคลาน" เพราะแรงดึงดูดอันมหาศาลของดาวนิบิรุ ที่กระทำต่อโลกนั้นอาจทำให้โลกหมุนช้าลง ทำให้คนบนโลกถูกแรงดึงดูดของโลกมากขึ้น จนไม่สามารถจะเดินแบบปกติได้

และเมื่อนำคำทำนายของหลวงปู่สรวง(เทวดาเล่นดิน) เรื่องพญานาคจะกวาดหางนำน้ำทะเลขึ้นมาล้างโลกในปี พ.ศ.2555 ก็จะเข้ากันได้พอดีกับเรื่องดาวนิบิรุโคจรมาใกล้โลกนี้ จนสามารถดึงดูดน้ำทะเลให้ขึ้นสูงอย่างมากมาย ถึงกับมากวาดล้างโลกนี้ได้ครับ

หลวงปู่สรวง (เทวดาเล่นดิน) พูดถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้น

ถาม - ที่ หลวงปู่สรวง พูดหมายความว่ายังไงครับ ?
ตอบ - แปลว่า ไม่ต้องกลัว 2555 นางนาค เป่าน้ำ ท่วมทั้งน้ำทั้งดิน ตายวอดวาย คนที่ไม่ดีตายหมด ...

 

คนเปลี่ยนสภาพจากเดินเป็นคลาน


www.sil5.net/index.asp?contentID=10000006&bid=361&title=%BE%D8%B7%B8%BE%A8%B9%EC%B7%D3%B9%D2%C2&keyword=






สาธุ อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกที่เกิดมาแล้ว ซึ่งล้วนแต่ลำบากยิ่งนัก ในคราวที่พระองค์มีพระชนม์มายุย่างเข้าใกล้ปรินิพพาน ตามกาลเวลาอันควร จึงตรัสแก่พระอานนท์พระอุปัฎฐากผู้สนิทพากเพียรพยาบาลอยู่ใกล้ว่า

"ดูก่อนอานนท์...สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดมาแล้วนั้นล้วนแต่ลำบากกันทุกถ้วนหน้าทุกชาติทุกศาสนา ตามกฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติ หมุนเวียนคล้อยตามโลกไป ในขณะที่โลกหมุนไปใกล้ความแตกทำลาย จนเวลาล่วงเลยมา ถึงสมัยที่ตถาคตได้เสด็จปรินิพพานไปแล้ว ได้ 5,000 ปี

เมื่อโลกหมุนไปใกล้ครึ่งจำนวนปี ที่ตถาคตทำนายไว้ 2,500 ปีโดยประมาณ มวลมนุษย์และสรรพสัตว์ จะได้รับภัยพิบัติสารพัดพิษ ทั่วทุกทิศเสียครั้งหนึ่ง ในช่วงระยะ30 ปี สิ่งที่ศาสนิกชนไม่เคยพบ ไม่เคยเห็น ยักษ์หินที่ถูกสาปให้หลับอยู่(ภูเขาไฟขนาดมหึมาระเบิด?) ก็จะตื่นขึ้นมาอาละวาด

เมื่อถึงกึ่งศาสนาของตถาคต ก็จะยิ่งทวีภัยขึ้นทุกทิพาราตรีกาล แล้วมนุษย์นอกศาสนาของตถาคต (กลุ่มที่ชอบจัดกิจกรรมก่อการร้ายบ่อยครั้ง?) ที่รบราฆ่าฟันกัน ถึงเลือดนองแผ่นดิน และแผ่นน้ำ แม้บนอากาศก็มีอำนาจภัยจากฟ้า ทั่วทิศานุทิศไฟจะลุกลามเผ่าผลาญมนุษย์ไม่ขาดระยะ ต่างฝ่ายต่างทำลายกันย่อยยับเหมือนยักษ์กระหายเลือด

แผ่นดินแผ่นน้ำจะเดือดเป็นไฟ แล้วตายไปฝ่ายละครึ่ง จะเลิกลาต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกันไปในที่สุด ตามวิสัยของยักษ์ร้ายนอกศาสนา ที่ถือกำเนิดมาจากสัตว์ป่าอำมหิต

ส่วนพุทธศาสนิกชนผู้ขวนขวายในทางบุญการกุศล เดินตามพุทธธรรมของตถาคตก็สามารถจะระงับดับร้อนได้ ไม่รุนแรงเลือดพล่านตามกระแสโลก กลุ่มชนใดที่สักการะบูชาพระศรีมหาโพธิ์และกาสาวพัสตร์ ก็จะได้รับความวิบัติเบาบางตามกำลังแห่งกุศล

แต่จะหนีจากกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติไปคงไม่พ้นแน่ เริ่มแต่ศาสนาของตถาคตล่วงไปได้2,485 ปี เป็นต้นไป ไฟจะลุกลามมาทางทิศตะวันออก (ทวีปเอเชีย?) ไหม้วัดวาอาราม สมณะชีพรามหณ์จะอดอยากยากเข็ญ

คนบ้านจะเข้าป่า สัตว์ป่่าจะเข้ากรุง เมืองหลวง จะร้อนเป็นไฟ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ (ลาวา หรือลูกไฟอุกาบาต?) เหล็กกล้าจะทะยานจะทะยานขึ้นจากน้ำ (เรือดำน้ำ?) มหาสมุทรจะชอกช้ำ สงครามจะเกิดทั่ว

ทุกทิศ ศึกจะติดบ้าน ทหารจะเป็นเจ้า (เกิดการยึดอำนาจ หรือปฏิวัติ?) ข้าวจะขาดแคลนทั่วแว่นแคว้นจะอดอยาก พูลหมากจะหมดเปลือก (เศรษฐกิจล่มสลาย?)

ปราชญ์จะสิ้นสูญราช ตระกูลอำมาตย์ราษฎรทุกคน จะพากันถืออำนาจว่าเป็นธรรม ไม่เคารพธรรม โลกแปรปรวน นิยมเชื่อถ้อยคำของคนโกง คนกล่าวเท็จ

คนประจบสอพลอจะได้รับการเชื่อถือ ในท่ามกลางสังคมสันนิบาต คนดีผู้มีศีลประพฤติตรงประพฤตชอบ ไม่มีเสียง

จะเกิดจราจลวุ่นวาย ลูกพลัดพรากจากแม่ แม่จะพลัดพรากจากลูก ผีโขมดป่าจะเข้าเมืองพระเสื้อเมืองพระทรงเมือง จะเข้าไพร เทวดาจะเรียกแมลงบี้เหล็กโกฏิหนึ่ง ผีเสื้อเหล็กแสนหนึ่ง ให้มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ (โรคระบาดร้ายแรง?)

เมื่อศาสนาของตถาคตล่วงได้ 2,507 ปี มะโรง คนเปลี่ยนสภาพจากเดินเป็นคลาน (โลกเกิดภาวะไร้แรงโน้มถ่วง?)

ล่วงได้ 2,508 ปี มะเส็งตลิ่งจะพัง แผ่นดินอธรรมจะถล่มเป็นทะเล (ประเทศใหญ่ที่ชอบเอาเปรียบประเทศด้อยกว่า จะเจอแผ่นดินไหว หรือเมกาสตรอมเซิร์จ?)

ล่วงได้ 2,512 ปี ระกา เมืองมนุษย์จะมืด 7 วัน 7คืน โลกดิ่งลงสู่ความหายนะ (หมอกนิวเคลียร์ หรือม่านควันจากภูเขาไฟบังแสงอาทิตย์?)

บุคคลใดที่เจริญด้วยเมตตากรุณาไม่เบียดเบียน ข่มเหงอิจฉาริษยาพยาบาท ไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม และยึดถือคาถาของตถาคต ก็จะพ้นภัยพิบัติ

ให้เจริญภาวนาตามพระคาถาว่า "หิตะชิราทน มันทะโลอังคะ ศิลากะละสา สาสะละติ โหตะนิ โหคะหะ คะเน"

ให้ท่องบทภาวนาอยู่เป็นนิจ เขียนอักษรใส่กระดาษหรือผ้าขาวปิดไว้ข้างหัวนอนหรือพันศีรษะไว้ สารพัดภัยจะพินาศ สันติประสิทธิ์

ดูกร อานนท์...ตถาคตสงสารสัตว์โลกเป็นล้นพ้น ที่มีอายุขัยอยู่ได้ ใกล้ยุคกึ่งและยุคปลายเมื่อศาสนาของตถาคตล่วงได้ 2,513 ปี จอ พระจันทร์จะเริ่มเปล่งแสงฉายส่องโลก

ครั้นล่วงได้ 2,515 ปี ชวด นั้น เป็นพ้นระยะ 30 ปี พวกอธรรมคือ คนที่ไม่ตั้งอยู่่ในศีลในสัตย์ไร้ซึ่งคุณธรรมนั้น ก็จะหมดไปด้วยภัยพิบัติ

เครื่องเบียดเบียนชีวิตในสมัยวิทยาศาสตร์จะหมดไป เพราะมิจฉาทิฏฐิจะดับสูญไปจากโลก อธรรมแพ้ภัยในที่สุด

ครุฑ จะบินกลับกรุง บำรุงธรรมจะชนะ พระจะอยู่คู่บ้านคู่เมืองต่อไป การงานของมนุษย์จะสำเร็จด้วยอริยศาสตร์ ซึ่งไม่ต้องเบียดเบียนผู้ใด ทุกคนจะสมบูรณ์ด้วยศีลธรรม และมีชีวิตอันผาสุข

พระมหากษัตริย์ธรรมมิกราช ผู้เป็นพระโพธิสัตว์องค์ จะเกิดภายในอุปถัมภ์ของพระมหาโพธิสัตว์ทั้งสององค์นั้น จะจัดการสถาปนาบำรุงศาสนาของตถาคต

ในระยะนี้เป็น "ยุคศรีวิไล" พระมหาเถระโพธิสัตว์จะเกิดในสมัยนั้น เมื่อศาสนาของตถาคตล่วงแล้ว 2,455 ปี

เมื่อล่วงได้ 2,457 ปี พระมหากษัตริย์ธรรมมิกราช จะมาเกิด ทั้งสองพระองค์นั้นจะสถิตอยู่ ณ เบื้องตะวันออก ของมัชฌิมประเทศ ระหว่างปีจอกับปีกุน

เมื่อพุทธศักราช 2,513 กับ 2,514 ผู้มีบุญทั้งสองพระองค์นั้น จะเสด็จเข้ามาบำรุงศาสนาของตถาคตอย่างเที่ยงแท้ สมณะชีพราหมณ์จะตามเสด็จมา 84,000 รูป

ดูกร อานนท์ ตถาคตสงสารสัตว์ เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที คำทำนายของตถาคตนี้ เพื่อยังสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท

ผู้ใดรู้แล้ว ไม่เชื่อไม่บอกเล่าให้ผู้อื่นรักษาต่อไป นับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ ต่างก็จะสิ้นสุดลงด้วยตามกาลเวลา ผู้ใดปรารถนาจะได้พบเห็น หรือทันผู้ที่มีบุญ ก็ให้รักษาศีลห้าประการหนึ่ง เคารพยำเกรงบิดามารดา ประการหนึ่ง รู้จักคุณท่านผู้มีพระคุณประการหนึ่ง ให้เจริญภาวนาในพระพรมหไตรลักษณ์ ประการหนึ่ง"

โดยมีพระคาถาว่า "พุทธิ ทุกขัง อนิจจัง อะนัตตา, นะโม สัพพะราชา ชะติโยโมเตโย, สัพพะนิภะตะราสะ สัพพะทุกขา สุโขโห, อิติสัพพัญญู นะมาคะตาอิตโพธิมะนุ, ปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม"

เมื่อรู้แล้ว ก็จงอย่าประมาท หมั่นทองบ่นภาวนารักษาศีลอยู่ประจำ ทุกวันคืนอย่าได้ขาด

 

ที่ไหนทำบาปมาก เบียดเบียนกันมาก ดาบนั้นจะคืนสนอง

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ฆ่าแม่พรากลูก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>11 มีนาคม 2554 00:47 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9540000031471&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=444><TBODY><TR><TD vAlign=top width=444 align=center> </TD></TR><TR><TD class=ecxImage vAlign=baseline align=left>
เจ้าตัวเล็กยังคงกอดอกแม่เอาไว้แน่น โดยไม่รู้ว่าแม่ได้สิ้นลมไปแล้ว ขณะพยายามอย่างสุดฤทธิ์ต่อสู้เพื่อปกป้องมันให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกมนุษย์ใจโหดเกินพิกัด ด้วยความรักลูกอย่างสุดใจ แต่แม่ไม่ประสบความสำเร็จ.. ภาพนี้สะเทือนจิตใจและกระทบความรู้สึกของชาวเวียดนามนับล้านๆ.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>Photos by Saigon Thiep Thi</CENTER>

ภาพนักล่าสัตว์ป่าในเวียดนามที่สื่อนำออกเผยแพร่สัปดาห์นี้ กลายเป็นภาพสะเทือนใจผู้คนทั้งประเทศ เป็นการฆ่าที่โหดร้ายและไร้สิ้นซึ่งคุณธรรมเพื่อแลกกับเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพลูกลิงกอดอกแม่เอาไว้แน่น โดยไม้รู้ว่าแม่ลิงเคราะห์ร้ายได้สิ้นลมไปแล้ว ขณะต่อสู้สุดฤทธิ์เพื่อปกป้องลูกน้อย

หนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนเถียบถิ (Sài Gòn Tiếp Thị) ที่เผยแพร่ข่าวกับภาพเหล่านี้ ไม่ได้เปิดเผยให้สาธารณชนได้ทราบว่า การลักลอบล่าลิงฝูงนี้เกิดขึ้นที่ใด แต่เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบข้อมูลต่างๆ ไปทั้งหมดแล้ว ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากสังคมให้รัฐบาลเพิ่มโทษ การลักลอบล่าสัตว์ให้หนักหน่วงรุนแรงยิ่งขึ้น

ผู้สื่อข่าวที่รายงานเรื่องนี้กล่าวว่า "เสียงร้องด้วยความตกใจของฝูงลิงกับเสียงร้องโหยหวนของลิงตัวที่กำลังจะสิ้นใจ เป็นเสียงที่ทำให้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ปวดร้าวหัวใจยิ่งนัก"

การดักจับลิงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพรานป่า และเชื่อกันว่าในปัจจุบันไม่เพียงแต่ลิงหางสั้นทั่วไปเท่านั้นที่ถูกล่า ลิงหางยาวรวมทั้งพวกค่างที่ใกล้สูญพันธ์ชนิดต่างๆ ในเวียดนามก็กำลังตกเป็นเหยื่อเช่นกัน

การล่าเริ่มด้วยการเข้าป่าสังเกตดูว่า บริเวณใดมีฝูงลิงอยู่บ้าง โดยสังเกตจากร่องรอยการโหนกิ่งไม้ หรือ จากอุจจาระของพวกมันตามพื้นดิน จากนั้นพรานป่าจะเริ่มนำอาหารที่ลิงชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลไม้ที่มีกลิ่นแรงกับข้าวโพดย่างทั้งฝัก ไปแขวนไว้ตามพุ่มไม้เตี้ยๆ ให้ลิงลงไปกิน

"เหยื่อล่อ" ชุดครั้งแรกผ่านไป พรานป่าก็จะนำเหยื่อล่อชุดที่ 2 ไปวางอีกเพื่อให้ลิงทั้งฝูงตายใจ เขาอาจจะให้อาหารพวกนี้ถึง 3 ครั้งในช่วง 2 สัปดาห์ จนลิงเชื่อสนิทว่าไม่มีอันตราย การสร้างกับดักตาข่ายจึงเริ่มขึ้น

พรานพวก 2-3 คน จะช่วยกันถางป่าออกให้ได้พื้นที่ประมาณ 50 ตางรางเมตร เหลือพุ่มไม้เอาไว้ตรงกลางสำหรับแขวนเหยื่อล่อชุดต่อไป จากนั้นวางข่ายเป็นวงสูงจากพื้นประมาณ 2 เมตร ปักเสาให้แน่นหนา และทำสะพานจากต้นไม้ทอดลงไปยังที่แขวนเหยื่อล่อ เพื่อให้ลิงทั้งฝูงไต่ลงไปกินเหยื่อ

ส่วนพวกพรานจะขุดหลุมทำเป็นโพรงปิดบังให้มิดชิดด้วยกิ่งไม้และใบไม้เพื่อสังเกตการเคลื่อนไหว

และวันแห่งการพิพากษาก็มาถึง ..

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=490><TBODY><TR><TD vAlign=top width=490 align=center> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>2 </CENTER>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=490><TBODY><TR><TD vAlign=top width=490 align=center> </TD></TR><TR><TD class=ecxImage vAlign=baseline align=left>
และแล้ววันพิพากษาก็มาถึง พรานป่านำผลไม้กับข้าวโพดย่างที่ลิงชอบมัดให้แน่นแล้วแขวนไว้ตาม "สะพาน" ที่ทำจากไม้รวกกับกิ่งไม้ขัดกันเอาไว้หลวมๆ พร้อมที่จะกระชากให้หลุดจากกันเพื่อให้ลิงทั้งฝูงตกลงไปยังเบื้องล่าง. </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>3 </CENTER>

เป็นธรรมเนียมของลิง จ่าฝูงจะเป็นตัวแรกที่ลงไปกินเหยื่อจนอิ่มหนำ จากนั้นก็จะขึ้นต้นไม้ส่งสัญญาณให้ลูกฝูงลงไปกิน ซึ่งจะเป็นช่วงที่พรานป่าจะกระชากเชือกให้หลุดเพื่อให้ "สะพาน" ล้ม และลิงทั้งฝูงตกลงไปในวงล้อมตาข่าย รวมทั้งแม่ลิงที่กำลังให้นมลูกอ่อนซึ่งตลาดร้านอาหารสัตว์ป่าให้ความนิยมมาก และขายได้ราคาดีที่สุด

ขั้นตอนต่อไปพรานป่าจะเข้าไปในวงตาข่ายใช้แหหว่านจับลิงที่กำลังวิ่งพล่านด้วยความตกอกตกใจสุดขีด ทุกครั้งจะจับลิงได้ทั้งฝูงระหว่าง 20-30 ตัว น้อยนักที่มีโอกาสเล็ดลอดหลบหนีไปได้ หลังจากนั้นพวกเขาจะใช้ปืนยิงลิงตัวโตที่ดุร้าย หรือใช้ดาบฟันให้ตาย และ จับเป็นๆ พวกที่ยังเล็กเพื่อส่งตลาด

พวกพรานป่าทำเงินได้ดีมาก นอกเหนือจากแม่ลิงแล้ว ลิงตัวเล็กที่น้ำหนักไม่ถึง 2 กก.ได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันกล่าว

เมนูยอดนิยมแต่ราคาแพงลิบลิ่วก็คือ สมองสดๆ ของลิง ร้านอาหารจะมัดลิงเป็นๆ ให้แน่นหนา ปิดปากสนิทไม่ให้ส่งเสียงใดๆ นำมันวางไว้ใต้โต๊ะที่มีรูเจาะตรงกลาง โผล่ขึ้นมาเพียงส่วนหัว จากนั้นก็จะใช้มีดคมกริบ กรีดรอบเป็นวงเพื่อเปิดกะโหลก ให้มันสมองของเจ้าจ๋อเคราะห์ร้ายโผล่ออกมา

นักนิยมยาอายุวัฒนะจะใช้เครื่องเทศหรือเครื่องปรุงรสที่ร้านจัดหาไว้ให้ เหยาะลงก่อนจะใช้ช้อนตักเนื้อสมองนุ่มๆ รับประทานทีละส่วนๆ จนหมด ส่วนอื่นๆ ของลิงจะถูกนำไปทำเมนูอื่นต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ลิงตุ๋นยาจีนหับลิงต้มซุป

ลิงจำนวนไม่น้อยถูกลักลอบส่งข้ามแดนเข้าไปจำหน่ายในจีน โดยผ่านขบวนการค้าสัตว์ป่าที่ใหญ่โต โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมอยู่ด้วย ไซ่ง่อนเถียบถิกล่าว.

<CENTER>ปฏิบัติการบาป </CENTER>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=490><TBODY><TR><TD vAlign=top width=490 align=center> </TD></TR><TR><TD class=ecxImage vAlign=baseline align=left>
เป็นธรรมเนียม.. จ่าฝูงจะต้องอิ่มเป็นตัวแรกและรอดเงื้อมมือพรานไปได้เสมอ จริงๆ แล้วตลาดก็ไม่ได้ต้องการลิงแก่สักเท่าไร.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>4 </CENTER>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=490><TBODY><TR><TD vAlign=top width=490 align=center> </TD></TR><TR><TD class=ecxImage vAlign=baseline align=left>
สนุกกับการได้กิน แต่นาทีชีวิตก็ใกล้เข้ามา. </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>5 </CENTER>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=490><TBODY><TR><TD vAlign=top width=490 align=center> </TD></TR><TR><TD class=ecxImage vAlign=baseline align=left>
ลิงแม่ลูกอ่อน สินค้าที่ขายได้ราคาดีที่สุด. </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>6 </CENTER>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=490><TBODY><TR><TD vAlign=top width=490 align=center> </TD></TR><TR><TD class=ecxImage vAlign=baseline align=left>
โชคดีที่ไม่หลงใหลไปกับการกิน จึงได้เป็นประจักษ์พยานของปฏิบัติการโหดไร้วิญญาณในครั้งนี้. </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>7 </CENTER>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=435><TBODY><TR><TD vAlign=top width=435 align=center> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>8 </CENTER>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=490><TBODY><TR><TD vAlign=top width=490 align=center> </TD></TR><TR><TD class=ecxImage vAlign=baseline align=left>
ไร้สิ้นซึ่งความปราณี เจ้าตัวที่ดุจัด เขี้ยวยาวโง้ง หลังถูกจับได้ก็จะถูกถอนฟันหรือตัดด้วยคีม ด้วยกรรไกร หรืออะไรก็แล้วแต่. </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>9 </CENTER>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=490><TBODY><TR><TD vAlign=top width=490 align=center> </TD></TR><TR><TD class=ecxImage vAlign=baseline align=left>
ตกใจและเศร้าสลด ไม่เคยพบเคยเห็นสิ่งโหดร้ายสุดๆ แบบนี้มาก่อนในชีวิต. </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>10 </CENTER>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=490><TBODY><TR><TD vAlign=top width=490 align=center> </TD></TR><TR><TD class=ecxImage vAlign=baseline align=left>
รอดชีวิตเพราะความเป็นผู้นำ แต่สีหน้าบ่งบอกให้รู้ว่า มันรู้สึกช็อกเพียงใดกับเหตุการณ์เบื้องล่าง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือน13-15มี.ค. ไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลูกเห็บตก กทม.วันนี้ร้อนสุด35องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 11 มีนาคม 2554 ดังนี้

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย และอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงวันที่ 11-12 มีนาคม นี้ไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 13-15 มีนาคม 2554 จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ
ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา
อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อนทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ
ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศา
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา :ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป : ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร


ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
กัดดาฟี

ขู่ ลิเบียแตก คนผิวสีจะทะลักไปยุโรป
10 มี.ค. รายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศแจ้งว่า พันเอกมัวอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียให้ กล่าวทางสถานีโทรทัศน์ทีอาร์ที เติร์ก ของทางการตุรกีว่า การที่ชาติตะวันตกใช้มาตรการแข็งกร้าว และประกาศเขตห้ามบินในลิเบีย แสดงว่าต้องการควบคุมน้ำมัน เสรีภาพ ดินแดน รวมถึงประชาชนลิเบียทำให้คนลิเบียลุกขึ้นมาถืออาวุธต่อสู้
ทั้งนี้ กัดดาฟี ยืนยันว่า ตนจะอยู่กับชาวลิเบียในประเทศ ไม่จำเป็นต้องหนีไปไหน เนื่องจากตนไม่ใช่ประธานาธิบดี หรือนายกรัฐมนตรีที่ต้องลาออก
อย่างไรก็ตาม ไม่มีเหตุผลที่ต่างชาติจะเข้ามาแทรกแซงลิเบีย เพราะลิเบียต่อสู้แต่กับกลุ่มอัลไกด้าในอัฟกานิสถานและปากีสถานเท่านั้น ซึ่งถ้าอัลไกด้าเข้ามาในลิเบียจะทำให้เกิดหายนะ โดยหากความมีเสถียรภาพในลิเบียหมดไปจะมีชาวแอฟริกันผิวสีหลายล้านคนอพยพหนีเข้าไปในอิตาลี ฝรั่งเศสและอีกไม่นานทั่วทั้งทวีปยุโรปจะกลายเป็นสีดำ

โดยMthainews

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ภาพเด็ด! กบฎลิเบีย ปะทะ กองกำลังกัดดาฟี
<SMALL></SMALL>ที่เมืองราส ลานูฟ ในทะเลทรายทางตะวันออกของลิเบีย

 

เปรียบเทียบแรงG กับแรงดึงดูดของโลก

​

ในการเลี้ยวของเครื่องบิน จะเกิดแรงกระทำกับตัวเครื่องบิน ที่เรียกว่าแรงสู่ศูนย์กลางหรือ centrifugal force แรงนี้ทำให้เครื่องบินไม่หลุดออกจากวงเลี้ยว แรงที่เกิดขึ้นนี้มีผลทำให้นักบินหน้ามืดได้ เนื่องจากมันมีผลทำให้เลือดในร่างกายไหลจากศีรษะลงไปสู่เท้า ลองนึกถึงเวลาเรานำกระป๋องใส่น้ำมาผูกเชือกแล้วแกว่งเป็นวงกลมเหนือศีรษะ น้ำจะไม่หกออกจากกระป๋องแต่จะถูกแรงกดไว้ให้ติดอยู่กับก้นกระป๋อง

เมื่อสมองขาดเลือดก็จะหน้ามืด โดยเฉพาะถ้าการเลี้ยวเป็นไปอย่างรุนแรงมาก เช่นความเร็วสูง หรือเลี้ยววงแคบ ก็อาจถึงขั้นหมดสติได้ แรงนี้มีหน่วยวัดเป็นอัตราส่วนเทียบกับแรงดึงดูดของโลก คือ 1G ถ้าเราทำท่าทางการบินด้วยแรง 5G นั่นคือมีแรงมากระทำที่เครื่องบินและตัวเราคิดเป็น ๕ เท่าของแรงดึงดูดของโลก ถ้าปกติเราหนัก ๕๐ กิโล เวลาเราบินที่ 5G เราก็จะหนักถึง ๒๕๐ กิโลกรัม การขยับแขนขาเพื่อบังคับเครื่องบินก็จะกระทำได้ลำบาก เนื่องจากกล้ามเนื้อของเราแข็งแรงไม่พอนั่นเอง

ลองนึกถึงเครื่องบิน F-16 ที่ทำท่าบินได้ด้วยแรงถึง 9G ร่างกายนักบินจะเป็นอย่างไรบ้าง นักบินเรียกแรงนี้เป็นภาษาง่ายๆ ว่า "แรงจี" แรงจีบวกจะทำให้เลือดไหลลงเท้า แรงจีลบทำให้เลือดไหลขึ้นหัว มีผลกับร่างกายคนเราทั้งสองแบบ อยากลองดูว่าแรงจีบวกและจีลบเป็นอย่างไรเชิญได้ที่ Dream World ก็จะได้รับรสชาติของแรงจีแบบเบา ๆ

ที่มา http://www.asa.rtaf.mi.th/pilot/03.php<!-- google_ad_section_end -->

 

ภัยพิบัติล้างโลก 2012....
(ข้อมูลนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาน)
​

อาจารย์ สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญไฮโดรเจน จากองค์การนาซ่า และเป็นผู้บุกเบิกรถยนต์ Hydrogen ในประเทศไทย ด้วยวิธีการใช้ไฟฟ้าแยกน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง

​

​

"อาจารย์ สุมิตร" ทำงานในองค์การ NASA ในสายงานคือ ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก เพื่อสร้างยานอวกาศ เพื่ออพยพผู้คนจาก อุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 (แต่รู้ในวงจำกัด)

"อาจารย์ สุมิตร" ยืนยันว่าอีก 2 ปี ข้างหน้านี้ โลกกำลังจะเกิดหายนะขึ้นจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 แน่นอน และคนในองค์การ NASA ทุกคนทราบเรื่องนี้มานานแล้ว แล้วได้สร้างยานอวกาศเพื่ออพยพผู้คนจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 ใกล้เสร็จแล้ว (แต่ "อาจารย์ สุมิตร" ไม่ได้บอกว่าสร้างไว้กี่ลำ)

​

​

"อาจารย์ สุมิตร" ยังยืนยันด้วยว่า มนุษย์ต่างดาวนั้นมีจริง ปัจจุบันมีมนุษย์ต่างดาวมาทำงานร่วมกับองค์การ NASA โดยสื่อสารทาง "โทรจิต" ในการถ่ายทอดความรู้ทางเทคโนโลยี เพื่อช่วยมนุษย์จากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 (มนุษย์บางคนเท่านั้นที่ถูกเลือกให้รอด)

"อาจารย์ สุมิตร" ยังยืนยันด้วยว่าโลกมนุษย์เรา ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ในจักรวาลอื่นๆ ก็มีมนุษย์ต่างดาวประมาณ 200 จักรวาล ซึ่งโลกของเราเป็นเพียงจักรวาลเล็กๆ 1 จักรวาล เท่านั้น เราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวหรอกนะ

​

​

"อาจารย์ สุมิตร" บอกว่า มนุษย์โลกสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวมานานแล้วโดยทาง "โทรจิต" แต่ทาง "สหรัฐอเมริกา" นั้นค่อนข้างปกปิด เรื่องนี้ ทำให้คนส่วนมากในโลกไม่รู้ ในเมื่อไม่รู้ ก็จะมองว่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวเป็นเรื่องเหลวไหล

"อาจารย์ สุมิตร" เป็นนักวิทยาศาสตร์องค์การ NASA มาหลายปีแล้ว ท่านเคยไปบอกให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ของไทย ควรเร่งสร้างยานอวกาศ เพื่ออพยพคนไทยจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 โดยเร็ว เพราะ "คุณสุวิช" มีเทคโนโลยีในการสร้างแล้ว ขาดก็แต่งบประมาณเท่านั้น แต่กลับไม่มีใครเชื่อ แถมมองว่าท่านเป็นบ้าอีกด้วย พวกฝรั่งเขารู้กันมานาน เขาสร้างยานอวกาศเพื่ออพยพผู้คนจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 เกือบเสร็จแล้ว แต่คนไทยยังไม่เชื่อ จะจมน้ำตายกันอยู่แล้ว ไม่รู้วันๆ คนไทยทำอะไรกันอยู่ น่าสงสารคนไทยจริงๆ

"อาจารย์ สุมิตร" ยืนยันว่าอีก 2 ปี ข้างหน้านี้ โลกกำลังจะเกิดหายนะขึ้นจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 แน่นอน นี่เป็นเรื่องจริง ที่ฝรั่งเค้าตื่นตัวกันมาก โดยเฉพาะในหมู่นักวิทยาศาสตร์อวกาศ แต่คนไทยเกือบทั้งหมดยังไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ น่าสงสารคนไทยจริงๆ

​

​

"อาจารย์ สุมิตร" กล่าวว่า คนไทยน่าจะเลิกทะเลาะกันได้แล้ว อีก 2 ปี ได้จมน้ำตายแน่ๆ เพราะอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 นั้นเป็นวันหายนะที่ร้ายแรงมาก ร้ายแรงขนาดล้างโลกเลยทีเดียว ไม่งั้นมนุษย์ต่างดาวเค้าคงไม่มาทำงานร่วมกับองค์การ NASA เพื่อช่วยในการสร้างยานอพยพผู้คนในครั้งนี้เป็นแน่

นี่เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล เพราะ อาจารย์ สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นนักวิทยาศาสตร์องค์การ NASA จริง มีตัวตนจริงๆ ลองหาข้อมูลของ อาจารย์ สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา ใน Google ดูนะ

ที่มา http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=223731.0​

 

======================================


10 มี.ค. 54


น้ำท่วมดีกว่าฝนแล้ง

ในภาพนิมิตเช้านี้ผมได้เห็นน้ำท่วมสูงสองเมตร ต่อมาก็เห็นอดีตผู้ว่ากรุงเทพฯ
(จำลอง)ท่านเดินลุยน้ำมา สักพักน้ำก็แห้งลง ภาพได้ฉายไปที่เครื่องสูบน้ำ

ภาพจะสื่อถึง น้ำจะท่วมสองเมตร ท่านจำลองจะสื่อถึงกรุงเทพฯและน้ำจะแห้ง
ลงเมื่อเร่งสูบน้ำออก สาเหตุมาจากฝนตกหนักหรือเขื่อนแตก





องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สมเด็จวัดชนะสงครามละสังขารแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
คมชัดลึก :สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงครามฯ มรณภาพลงอย่างสงบภายในกุฏิ ด้วยโรคชรา รวมอายุ 88 ปี โดยมีศิษยานุศิษย์เข้าเคารพศพอย่างต่อเนื่อง



มีรายงานว่า สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสฺสโร) วุฒิการศึกษา น.ธ.เอก, ป.ธ. 9 กรรมการมหาเถรสมาคมและเจ้าอาวาสวัดชนะสงครามได้ละสังขารแล้วเมื่อเวลา 01.00น.วันที่ 11 มีนาคมนี้ ที่วัดชนะสงคราม

สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสฺสโร) เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าอาวาสวัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร ปัจจุบันได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนกลาง และเป็นคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดฯ สถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏ เมื่อปี พ.ศ. 2535 มีนามตามจารึกในสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระมหาธีราจารย์ พรหมวิหารวราธิมุต วิสุทธศีลาจารนิวิฐ พิพิธกิจจานุกิจโกศล วิมลหิตานุหิตดิลก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี



สมเด็จพระมหาธีราจารย์นามเดิมว่า นิยม นามสกุล จันทนินทร เกิด วันจันทร์ที่ 11 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2466 ตรงกับ วันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 3 ปีกุน ณ บ้านท่าหิน อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นามบิดา นายโหร่ง จันทนินทรนามมารดา นางฮิ่ม จันทนินทร

บรรพชาสามเณร ณ วัดกระสังข์ ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2479 โดยมีพระเทพวงศาจารย์ (ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระครูโบราณคณิสสร) วัดตองปุ เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อ อายุได้ 14 ปี


อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดพระญาติการาม ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2487 โดยมีพระเทพวงศาจารย์ (ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระโบราณคณิสสร) วัดพนัญเชิง ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสาธุกิจการี (ขม) วัดประดู่ทรงธรรม ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูอุทัยคณารักษ์ (ใหญ่) วัดสะแก ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ฐานิสฺสโร”

เมื่ออายุได้ 7 ขวบ เรียนหนังสือวัด ประถม ก กา และมูลบทบรรพกิจ ในสำนักเจ้าอธิการอุ่น วัดหันตรา ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยาอายุ 13 ปี เรียนนักธรรมบาลี ณ สำนักเรียนวัดตองปุ ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา





</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</CENTER>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

ภาพเด็ด เกิดปรากฏการณ์ ซันด็อก รูปร่างประหลาด
Mthai news: นายอดัม เกสสัน ช่างภาพวัย 30 ปีจากกมืองบริสโทล ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ สามารถบันทึกภาพแสงประหลาดที่ปรากฎบนท้องฟ้า ท่ามกลางผู้ที่พบเห็นต่างฉงนใจว่า สิ่งที่เห็นเป็นอะไรกันแน่
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ เรียกว่า ซันด็อก ที่เกิดจากการหักเหของแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบกับเกล็ดน้ำแข็งในชั้นบรรยากาศ จนสะท้อนเป็นภาพสีรุ้ง ซึ่งปกติแล้วจะเห็นเป็นดวงอาทิตย์สามดวง แต่ครั้งนี้แปลกกว่าที่เคย เพราะมันมีรูปร่างคล้ายกับยานชนิดหนึ่งพุ่งไปข้างหน้า

นายอดัมกล่าวว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นาภาพที่สวยงาม ไม่เหมือนที่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งระหว่างทีเขาเหลือบไปเห็นบนท้องฟ้า ตอนแรกคิดว่ามันอาจจะเป็นยูเอฟโอ แต่จากนั้นประมาณ 20 นาที ภาพที่เห็นเริ่มสว่างและเกิดสีสันที่สวยงาม
โดย Mthai news

 

ข่าวด่วน!! ญี่ปุ่นแผ่นดินไหว 8.8 ริกเตอร์-สึนามิสูง 4 เมตรซัดเมืองชายฝั่ง <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td valign="middle"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">11 มีนาคม 2554 14:02 น.</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td>
</td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="550"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="550"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5"></td> </tr> </tbody></table> เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นรายงานความเสียหายล่าสุดในจังหวัดมิยะงิ โดยระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว 8.8 ริกเตอร์ ทำให้เกิดคลื่นสึนามิความสูง 4 เมตร ซัดเข้าใสชายฝั่งด้านแปซิฟิก ในวันนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="550"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="550"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5"></td> </tr> </tbody></table>

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="550"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="550"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5"></td> </tr> </tbody></table>

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

<OBJECT id=mthai_player data="http://video.mthai.com/Flash_player/flowplayer/flowplayer-3.1.5.swf" width=480 height=372 type=application/x-shockwave-flash><embedtype="application/x-shockwave-flash" width="480" height="372" src="http://video.mthai.com/Flash_player/flowplayer/flowplayer-3.1.5.swf" allowscriptaccess="always" flashvars="config=http://video.mthai.com/get_config_event.php?id=1299828908" allowfullscreen="true"></embed></OBJECT>
แผ่นดินไหวแรงกว่า 8.8 ริกเตอร์ ที่ญี่ปุ่น – ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


<EMBED height=390 type=application/x-shockwave-flash width=480 src=http://www.youtube.com/v/y1f7r45ofaw?fs=1&hl=th_TH allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>
ตึกสูงโตเกียวไฟไหม้ โรงงานนิวเคลียร์หยุดผลิตไฟฟ้า นํ้าท่วมเมือง เสียชีวิตหลายราย
11 มี.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า เกิดแผ่นดินไหว 8.8 ริกเตอร์ ในเขตมิยากิ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของญี่ปุ่น แรงสั่นสะเทือน สามารถรับรู้ได้ถึงกรุงโตเกียวโดยต่อมาสถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่นรายงานว่า เกิดคลื่นสึนามิในเมืองโอนาฮามะ ในเขตฟูกุชิมะแล้ว หลังเกิดแผ่นดินไหว
ทั้งนี้ โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ในเขตมิยากิของญี่ปุ่น ได้หยุดการผลิตทันที ส่วนรถไฟชินกันเซนระงับการให้บริการชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นอีก สนามบินนาริตะปิดบริการ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นรายงานความเสียหายล่าสุดในจังหวัดมิยะงิ ระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว 8.8 ริกเตอร์ ทำให้เกิดคลื่นสึนามิความสูง 4 เมตร ซัดเข้าใส่ชายฝั่งด้านแปซิฟิก กวาดรถยนต์ บ้านเรือนประชาชน จนนํ้าเข้าท่วมเมืองหลายเมือง ไฟฟ้าหลายพื้นที่ใช้การไม่ได้ และยังคงมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง
ขณะที่ ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก ประกาศเตือนสึนามิในรัสเซีย เกาะกวม ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และฮาวาย หลังเกิดแผ่นดินไหว
รายงานข่าวแจ้งว่า ตอนนี้มีคนไทย 42,000 คนที่ญี่ปุ่น ทั้งนักเรียน ทำงาน ท่องเที่ยว โดนมีคนไทยอยู่ใกล้พื้นที่สึนามิประมาณ 300 คน
อนึ่ง คนไทยที่ต้องการติดต่อญาติที่ญี่ปุ่น ใหห้ติดต่อผ่านกรมการกงศุล หมายเลข 02 575 1046 -9 นอกเวลาราชการ 02 643 50000 สำหรับจุดที่เกิดแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น ห่างจากชายฝั่งทะเลประจวบคีรีขันธ์ 5,566 กิโลเมตร

ล่าสุด มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตที่ญี่ปุ่นแล้ว 3 ราย

เรียบเรียงข่าวMthainews


















ข่าวที่เกี่ยวข้อง
19 มี.ค.ดวงจันทร์ใกล้โลกมากที่สุด ชี้ อาจเกิดผลกระทบต่อโลก
<SMALL></SMALL>เชื่อว่าจะเกิดผลกระทบกับโลกเช่น แผ่นดินไหว การปะทุของภูเขาไฟ และระดับน้ำทะเลที่อาจก่อให้เกิดคลื่นสึนามิได้

<LI class=news_src_item>

 

สมิทธ ธรรมสโรช





อุตุฯสหรัฐอเมริกา เตือน นราธิวาส ระวังสึนามิ
11 มี.ค. รายงานข่าวจาก ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแผ่นดินไหว ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เนชั่นแชลแนลถึงเหตุแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น ว่า ถึงไต้หวัน ฟิลิปปินส์ เกาะกวม หมู่เกาะฮาวาย มีผลกระทบ ตอนเหนือ นิวซีแลนด์ ทางตะวันออกของเกาะชวาได้ชายฝั่งทะเลหลายประเทศ
ทั้งนี้ ประเทศไทยเองก็ต้องระวังผลกระทบ เนื่องจากมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในหลายประเทศ ต้องรอหลายชั่วโมง กว่าจะคลื่นจะซัดไปถึง แม้แต่ทางเมืองไทยต้องเฝ้าระวัง อย่างใกล้ชิดเพราะห่างไม่มากนัก
ล่า สุด กรมอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ ประกาศเตือนภัยสึนามิที่เกิดทางตอนเหนือของญี่ปุ่น โดยเครื่องตรวจวัดจากเครื่องตรวจวัดสึนามิพบว่า คลื่นมีความสูง 4 เมตร ซึ่งจังหวัดนราธิวาส ของไทย จะได้รับผลกระทบครั้งนี้จากคลื่นสูงไม่เกิน 1 เมตร ในเวลาประมาณ 05.00 น.พรุ่งนี้ (12 มี.ค.)

โดยMthainews
<li class="news_src_item">
MThai SMS News : ข่าวด่วนถึงมือคุณ ทันทุกเหตุการณ์ ไม่พลาดทุกข่าวร้อน
สนใจรับข่าวกด *48259080066 แล้วโทรออก ทดลองใช้ฟรี 15 วัน
สอบถามเพิ่มเติมโทร 02-1007000