ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ขออนุญาตโพสต์สักครั้งนะคะ ก้อยอยู่อเมริกาทราบเรื่องที่หลวงพ่อท่านเตือนลูกหลานที่อยู่ต่างประเทศมานาน และเชื่อท่านด้วย และเชื่อทุกท่านที่ออกมาเตือนด้วย แต่คิดหลายรอบแล้วโอกาสที่จะได้อพยพกลับบ้าน กลับประเทศไทยที่รัก มีน้อยมาก เพราะเงินที่ได้จากการทำงานที่นี่ ส่วนหนึ่งต้องส่งไปเลี้ยงครอบครัวพ่อ ส่วนสามีต้องเลี้ยงพ่อแม่พี่น้องเค้า หลายปากหลายท้องรอเงินจากเราสองคนอยู่ จะทำใจหนีเอาตัวรอดคนเดียวก็ทำไม่ลง คิดว่าคงต้องเสียสละอยู่ทางนี้ถ้ายังไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้ต้องหัดเตรียมตัวตายแล้วล่ะค่ะ หลังชนฝาแล้ว

จริงๆ ถ้าตายก็คงจะดี แต่ถ้ารอดแล้วเคว้งคว้างอยู่ต่างประเทศ จะทำยังไงดีคะ มีข้อคิดให้นำไปใช้ในกรณีที่ถ้าบังเอิญรอดแล้วเคว้งคว้างอยู่ต่างประเทศใหมคะ

 

ถ้าตายซะก่อน.....ก็คงไม่ได้ทำงาน ก็ไม่มีเงิน
ถ้าตายแล้วใครจะดูแลครอบครัว
เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้ (แต่มันหายาก)

 

======================================


19 มี.ค. 54


ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราๆท่านๆได้พบได้เห็นได้รับรู้ในยุคนี้ ถือว่าเป็นยุคสุดท้าย
ของคนในปัจจุบัน ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่คนเราคิดว่าเกิดจากธรรมชาติที่
เราได้ทำลายธรรมชาติ ธรรมชาติก็ย้อนกลับมาทำลายคน ความคิดนี้มีส่วน
ถูกอยู่บ้างแต่ไม่ทั้งหมด เพราะเหนือธรรมชาติก็ยังมีผู้ควบคุมดูแลอยู่อีกชั้นหนึ่ง
ถ้าเป็นคนธรรมดาพูดคุยกันเขาก็จะอ้างอิงถึงเรื่องของวิทยาศาสตร์ต้องพิสูจน์
ได้ แต่กับคนที่มีสัมผัสที่หกเขาจะคุยกันในทางตรงกันข้ามเป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้
เฉพาะตัวบุคคลเท่านั้น

ภัยพิบัติที่จะเกิดในอนาคต ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จะมีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เพื่อเตือนให้ผู้มีบุญทั้งหลายรีบเตรียมความพร้อมหนีไปอยู่ในพื้นที่ๆปลอดภัยที่
ได้กำหนดไว้ให้ซึ่งผู้มีหน้าที่เป็นผู้นำจะทราบดีว่าที่ๆท่านจะนำผู้คนไปอยู่จะเป็น
ที่ใด เมื่อกลุ่มต่างๆได้ไปอยู่ในที่อันควรแล้ว เมื่อนั้นการกวาดล้างครั้งใหญ่ถึง
จะอุบัติขึ้น




องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"

 

ช่วงนี้ดูทีวีช่อง NHK บ่อย ได้รับรู้สถานการณ์ของญี่ปุ่นแล้วสงสารจริงๆ

เค้าประมวลภาพให้ดูตั้งแต่แผ่นดินไหวเลย
ลองคิดดูสิคะ แผ่นดินไหวอย่างหนัก ผู้คนก็วุ่นวายโกลาหล
ไม่ทันไร ก็มีสัญญาณเตือนซึนามิ ไม่มีเวลาได้หิ้วอะไรติดมือเลย
ไปแต่ตัวจริงๆ พวกที่หนีทันขึ้นไปบนเขาแล้ว มองลงมาเห็น
พวกที่กำลังวิ่งหนี โดนน้ำกลืนไปต่อหน้าต่อตา
น้ำเข้าโรงพยาบาล เตียงคนป่วยก็ลอยไปกับน้ำ ทั้งคนทั้งเตียง
พวกที่หนีได้ ไม่ทันไร พายุหิมะกระหน่ำ เสื้อกันหนาวก็ไม่มี
พวกที่อยู่ใก้ลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จู่ๆเช้าวันนึง เค้าก็สั่งอพยพด่วน
ก็ขับรถออกเมืองไป ไร้จุดหมายปลายทาง เค้าบอกว่า ไม่รู้จะไปไหน

ได้ฟังอย่างนี้แล้ว คิดว่าเราต้องเตรียมตัวยังงัยบ้างมั้ยคะ

 

อังกฤษเปิดฉากโจมตีลิเบียทางอากาศ​

​

ลอนดอน 20 มี.ค. - พลตรีจอห์น ลอริเมอร์ โฆษกกองทัพอังกฤษแถลงว่า กองทัพอากาศ (อาร์เอเอฟ) ได้ส่งฝูงบินทอร์นาโด จีอาร์ 4 ยิงจรวดมิสไซล์ สตอร์ม ชาโดว์ โจมตีเป้าหมายในลิเบีย

โดยฝูงบินดังกล่าวประจำการอยู่ที่ฐานทัพอาร์เอเอฟมาร์แฮมทางตะวันออกของอังกฤษ อย่างไรก็ดีทางกลาโหมอังกฤษยังคงปฏิเสธให้รายละเอียดว่าเป้าหมายการโจมตีในภารกิจครั้งนี้อยู่ในพื้นที่ใด

ด้าน นายเลียม ฟ็อกซ์ รมว.กลาโหม ระบุว่า อังกฤษยังได้ส่งเรือฟริเกต เอชเอ็มเอส เวสต์มินสเตอร์ และ เอชเอ็มเอส คัมเบอร์แลนด์ ประจำการอยู่นอกชายฝั่งลิเบีย และเตรียมพร้อมเครื่องบินรบไต้ฝุ่นคอยให้การสนับสนุน ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าประชาคมโลกไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ที่ใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามชาวลิเบีย อนึ่ง อังกฤษ สหรัฐ และฝรั่งเศสผนึกกำลังโจมตีลิเบียตามแผนบังคับใช้มาตรการเขตห้ามบินของสหประชาชาติ รวมทั้งยับยั้งไม่ให้ผู้นำลิเบียใช้กำลังเข้าบดขยี้ฝ่ายต่อต้าน.- สำนักข่าวไทย

วันอาทิตย์ ที่ 20 มี.ค. 2554

กัดดาฟี ส่งจดหมายถึงผู้นำสหรัฐและพันธมิตรยุติสนับสนุนฝ่ายต่อต้าน​

​

ตริโปลี 20 มี.ค. – พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ส่งจดหมายถึงผู้นำสหรัฐและชาติพันธมิตรเรียกร้องยุติมาตรการแทรกแซงทางทหารและสนับสนุนฝ่ายต่อต้าน

พ.อ.กัดดาฟี กล่าวในจดหมายถึง ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐระบุว่า เขารักประธานาธิบดีโอบามา เปรียบเสมือนลูกชายคนหนึ่งและไม่ต้องการที่จะขัดแย้งกับผู้นำสหรัฐ และว่า ชาวลิเบียทุกคน ต่างร่วมเป็นน้ำหนึ่งในเดียวกับเขาและพร้อมจะสละชีวิตต่อสู้กับกลุ่มอัลกออิดะห์ ซึ่งกำลังก่อความวุ่นวายในลิเบียและหลายประเทศในภูมิภาค พร้อมกันนี้ยังตั้งคำถามถึงประธานาธิบดีโอบามา ว่าจะใช้มาตรการใดหากตกอยู่ในสถานการณ์กลุ่มติดอาวุธใช้กำลังเข้ายึดครองเมืองเช่นเดียวกับตน

พ.อ.กัดดาฟี ยังได้ส่งจดหมายไปถึง ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ผู้นำอังกฤษ และนายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ มีใจความว่า ประเทศลิเบียเป็นของประชาชนชาวลิเบีย ซึ่งการที่คณะมนตรีความมั่นคงมีมติคว่ำบาตรลิเบียนั้นถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในอย่างรุนแรง และประกาศว่า ไม่มีผู้ใดมีสิทธิเข้ามาก้าวก่ายเรื่องภายในของลิเบีย และผู้ที่กล้าเข้ามาแทรกแซงจะต้องเสียใจภายหลัง.- สำนักข่าวไทย

วันอาทิตย์ ที่ 20 มี.ค. 2554

จีนเสียใจพันธมิตรปูพรมลิเบีย​

​

ปักกิ่ง 20 มี.ค. –กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงแสดงความเสียใจหลังพันธมิตรส่งกำลังโจมตีลิเบียทางอากาศ พร้อมแสดงจุดยืนคัดค้านการใช้กำลัง

แถลงการณ์ชี้ว่า จีนได้ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดในลิเบียและมีความเสียใจที่พันธมิตรใช้กำลังทหารเข้าโจมตีลิเบีย อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ไม่ได้เรียกร้องให้มีการหยุดยิง โดยระบุเพียงว่า จีนเคารพในอธิปไตยเอกราช ตลอดจนเอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดนของลิเบีย และหวังว่าลิเบียจะสามารถฟื้นฟูเสถียรภาพเร็วที่สุด รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตของประชาชนอันเนื่องมาจากการปะทะกันด้วยอาวุธ

ฝรั่งเศสและอังกฤษจับมือกันยิงจรวดทางอากาศและทางทะเลโจมตีลิเบียตามแผนบังคับใช้มาตรการเขตห้ามบินของสหประชาชาติและปกป้องฝ่ายต่อต้านจากการปราบปรามโดยกองกำลังของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย แต่จีนไม่ได้คัดค้านมติสหประชาชาติที่อนุมัติการโจมตีดังกล่าว โดยงดออกเสียงระหว่างการหารืออนุมัติโจมตีในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคง.-สำนักข่าวไทย

วันอาทิตย์ ที่ 20 มี.ค. 2554

ยอดผู้เสียชีวิตและสูญหายในญี่ปุ่นเกิน 20,000 คนแล้ว​

​

คิตาคามิ 20 มี.ค.- เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นหาทางระบายความร้อนให้แก่เตาปฏิกรณ์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะด้วยการพยายามทำให้มีไฟฟ้าใช้ได้บางส่วนในวันนี้ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตและสูญหายจากแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อสัปดาห์ก่อนสูงเกิน 20,000 คนแล้ว

ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วอยู่ที่ 8,133 คน สูญหาย 12,272 คน เฉพาะจังหวัดมิยากิแห่งเดียวยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยัน 4,882 คน ขณะที่นายตำรวจของจังหวัดเผยในที่ประชุมคณะทำงานว่าต้องหาสถานที่เก็บศพมากกว่า 15,000 ศพ

ด้านเจ้าหน้าที่ในชุดกันรังสีกำลังหาทางทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะโรงที่ 1 มีไฟฟ้าใช้บางส่วนหลังต่อสายไฟแรงสูงจากสายไฟหลักเข้าไปในพื้นที่แล้ว แต่บริษัทไฟฟ้าโตเกียว (เทปโก) เจ้าของโรงไฟฟ้ายอมรับว่า คงไม่สามารถจ่ายไฟให้แก่ระบบระบายความร้อนของเตาปฏิกรณ์ 2 เตาที่เสียหายหนักได้ภายในวันอาทิตย์นี้ และว่าการใช้ท่อดับเพลิงแรงดันสูงฉีดน้ำระบายความร้อนทำให้การต่อไฟฟ้าลำบากขึ้น

ขณะเดียวกันสำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์ เผยว่าตัวครอบภายในเตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 มีแรงดันสูงขึ้น เทปโกอาจต้องเปิดวาล์วระบายแรงดันซึ่งอาจทำให้มีสารกัมมันตรังสีรั่วไหลเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สำนักงานยังไม่คิดจะขยายพื้นที่อพยพรอบโรงไฟฟ้าจาก 20 กิโลเมตรในขณะนี้ ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงฉีดน้ำระบายความร้อนให้แก่เตาปฏิกรณ์และบ่อเก็บแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้ว.-สำนักข่าวไทย

วันอาทิตย์ ที่ 20 มี.ค. 2554

ญี่ปุ่นเริ่มสร้างที่พักอาศัยชั่วคราวให้ผู้ไร้ที่อยู่อาศัยจากแผ่นดินไหว​

​

ริคุเซนทากาตะ 20 มี.ค.- คนงานชาวญี่ปุ่นเริ่มภารกิจสร้างที่พักอาศัยชั่วคราวให้แก่ผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิจำนวนหลายแสนคนที่แออัดอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวท่ามกลางสภาพอากาศหนาวจัด

นายฟูโตชิ โทบะ นายกเทศมนตรีเมืองริคุเซนทากาตะ กล่าวว่า บ้านพักอาศัยชั่วคราวดังกล่าวมีพื้นที่ราว 30 ตารางเมตร อยู่ได้ 2-5 คน คาดว่า โครงการแรกจะแล้วในราวปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้า และจะจัดสรรให้ตามความจำเป็น โดยผู้สูงอายุและเด็กเล็กจะได้รับการจัดสรรก่อน ทั้งนี้ คาดว่ามีประชาชนถึง 500,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนในช่วงที่เกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิและปัญหาที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกุชิมะ

โฆษกของบริษัทก่อสร้างไดวาเฮาส์ กล่าวว่าการก่อสร้างบ้านสำเร็จรูป 200 หลังแรกเริ่มขึ้นเมื่อวานนี้ที่โรงเรียนในเมืองริคุเซนทากาตะ โดยภายในบ้านจะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเหมือนบ้านทั่วไป ทั้งห้องน้ำ ระบบน้ำ และอุปกรณ์ให้ความอบอุ่น .-สำนักข่าวไทย

วันอาทิตย์ ที่ 20 มี.ค. 2554

เทปโกยอมรับแจ้งเท็จผลตรวจตราโรงไฟฟ้าก่อนเกิดเหตุ​

​

โอซากา 20 มี.ค.- บริษัทไฟฟ้าโตเกียว (เทปโก) ยอมรับว่า แจ้งรายงานเท็จเกี่ยวกับผลการตรวจตราโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ โรงที่ 1 ต่อหน่วยงานกำกับดูแลนิวเคลียร์สิบวัน ก่อนเกิดแผ่นดินไหว 11 มีนาคม

เทปโกยอมรับว่า ไม่ได้ตรวจสอบอุปกรณ์ 33 ชิ้น ในโรงไฟฟ้าดังกล่าว ซึ่งมีอายุการใช้งานมานาน ขณะที่แผงจ่ายไฟฟ้าให้แก่วาล์วควบคุมอุณหภูมิของเตาปฏิกรณ์ตัวหนึ่ง ก็ไม่ได้รับการตรวจมานานถึง 11 ปี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเขียนรายงานเท็จให้ดูเหมือนว่ามีการตรวจตราอย่างละเอียด ทั้งที่จริงแล้วทำอย่างขอไปทีเท่านั้น นอกจากนี้การตรวจสอบซึ่งเป็นเรื่องที่ดำเนินการโดยสมัครใจ ยังไม่ครอบคลุมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบระบายความร้อน อันประกอบด้วย มอเตอร์ปั๊มน้ำ และเครื่องปั่นไฟดีเซล

เจ้าหน้าที่เทปโกส่งรายงานดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เนื่องจากสำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์สั่งให้ตรวจดูว่ามีการตรวจตราอย่างเหมาะสมหรือไม่ สำนักงานสรุปผลในอีก 2 วันหลังจากนั้นว่า ไม่มีแผนตรวจตราระยะยาวและการซ่อมบำรุงอย่างเพียงพอ การตรวจตราไร้ประสิทธิภาพ และสั่งให้เทปโกร่างแผนแก้ไข ภายในวันที่ 2 มิถุนายน แต่ได้เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรง 9 ริกเตอร์ ขึ้นก่อน คลื่นยักษ์สึนามิสูง 10 เมตร ทำให้เครื่องปั่นไฟที่จ่ายไฟให้แก่ระบบหล่อเย็นไม่ทำงาน

เทปโกเคยมีประวัติไม่ดีเรื่องความปลอดภัยมาก่อน โดยเมื่อปี 2545 ยอมรับว่า รายงานเท็จเรื่องความปลอดภัยทำให้ทางการสั่งปิดเตาปฏิกรณ์ทั้งหมด 17 เตา เพื่อตรวจสอบ ประธานบริษัทและประธานกรรมการในขณะนั้นต้องลาออก ครั้งหลังสุดเกิดแผ่นดินไหวปี 2551 ทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์คาชิวาซากิ-คาริวะ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกไม่ทำงาน มีสารกัมมันตรังสีรั่วไหลมากกว่าที่เทปโกยอมรับในเบื้องต้น

ศูนย์ข่าวสารนิวเคลียร์ของประชาชนซึ่งตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ระบุว่า ผู้คนไม่เชื่อเทปโกอีกแล้ว และไม่คิดว่าบริษัทนี้จะพูดความจริง ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 11 มีนาคม มูลค่าบริษัทของเทปโกหายไปแล้ว 1.93 ล้านล้านเยน (ราว 714,100 ล้านบาท).-สำนักข่าวไทย

วันอาทิตย์ ที่ 20 มี.ค. 2554

ที่มา http://www.mcot.net

 

" คนจะลอยเคว้งคว้างไปทั่ว บ้างหาที่เกาะแต่เกาะไม่อยู่ "


ภาพ พระอาจารย์รัตน์ แห่งสมาธิหมุน​

คืนหนึ่งภายหลังจากการฝึกสมาธิหมุนจบสิ้นลง หลวงพ่อมักจะ เปิดโอกาสให้ถามคำถามต่าง ๆ ที่ผู้มาฝึกเกิดสงสัยขึ้น หากไม่มีคำถามหลวงพ่อก็มักจะเล่าประสบการณ์ของท่านให้ฟังกัน คืนนั้นท่านพูดถึงการขึ้นไปเผยแพร่ธรรมะบนดอยของท่าน รวมไปถึงการประกอบพิธีสมโภชพระธาตุที่สร้างขึ้นบนดอย ซึ่งขณะที่กำลังบรรจุพระธาตุเข้าองค์เจดีย์นั้น ฟ้าที่ขมุกขมัวก็เปิดเป็นแสงสว่างจ้าส่องลงมาเป็นลำ สร้างความแปลกใจแก่คนที่อยู่ในพิธี หลวงพ่อบอกว่า ท่านถึงกับขนลุก ซึ่งผมเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ยังอดแปลกใจไม่ได้

จาก นั้นท่านเล่าว่า ขณะที่ท่านจะแผ่เมตตานั้น ท่านไม่สามารถที่จะทำได้ เพราะว่าวิญญาณบนดอยไม่ยอมรับการแผ่เมตตานั้น เนื่องจากถึง เวลาที่พวกเขาจะได้ลงมาเกิดแล้ว ท่านได้อธิบายต่ออย่างละเอียดว่า แต่เดิมชาวเขาไม่ได้อยู่บนดอย แต่อยู่ในที่ลุ่มเป็นเจ้าแผ่นดินเดิม พระของพวกเขาจะกินเจคล้าย ๆ กับพระจีน แต่เมื่อพุทธศาสนาลังกาวงศ์เข้ามาสู่ประเทศไทยสมัยสุโขทัย พระของลัทธิลังกาวงศ์นั้น ฉันเนื้อได้ และมีลักษณะเหมือนพระในปัจจุบัน พวกเจ้าถิ่นเดิมก็ถูกทำลายล้าง จนต้องหนีขึ้นไปอยู่บนดอยนับตั้งแต่นั้นจนเหลือชาวเขา ในปัจจุบัน ซึ่งบัดนี้วิญญาณที่ถูกทำลายล้างไปนั้น ได้เวลาที่จะกลับลงมาแล้ว พวกเขาจึงไม่ยอมรับการแผ่เมตตาที่ได้แผ่ไปให้

" มันเป็นกรรมของพวกเขา เคยทำอย่างไรกับพวกเขาก็จะต้องโดนกลับคืนบ้าง อีกหน่อยพระทั้งหลายจะต้องถูกยึดเงินจนหมด และก็ไม่สามารถอยู่ในสภาพพระเช่นนี้ได้ เมื่อเรื่องพระหมดไปหลังจากนั้นอีกประมาณปีครึ่งก็จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 "

ผมถึงกับตะลึงที่ท่านพูดถึง เรื่องนี้ออกมาโดยไม่มีใครถามท่านเลย และเป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินกับหูที่ท่านได้พูดถึงเรื่องอนาคต ท่านบอกว่า จริง ๆ แล้วไม่ค่อยอยากเล่านัก เพราะจะทำให้คนตื่นกลัวกัน แต่ที่ท่านเล่าให้ฟังก็เพื่อไม่ให้พวกเราประมาท และเรื่องราวต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นนั้นอยู่ในวิสัยของท่านที่จะรู้ได้

" โยมก็จำเอาไว้เล่น ๆ ก็แล้วกัน ถ้าหากเหตุการณ์เหล่านี้มันเกิดขึ้นก็จะนึกได้ว่า อ๋อ หลวงพ่อเคยพูดไว้ "

ท่านกล่าวอย่างติดตลก ใน คืนถัดมาเมื่อผมได้มีโอกาสซักถามกับท่านโดยตรง ท่านได้เล่าเกี่ยวกับรายละเอียดของเรื่องที่จะเกิดขึ้นอย่างชัดเจน มีการระบุถึงบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วย แต่ผมคงจะขอข้ามส่วนนี้ไป เพราะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยเกินไป และโดยส่วนตัวแล้ว ผมสนใจในภาพรวมที่จะเกิดขึ้นมากกว่า

" ถ้าเกิดสงครามโลกแล้วเราจะทำอย่างไรดีครับ ? " มีคนถามขึ้น

" ไม่ต้องกลัวหรอกโยม " ท่านตอบ

แต่แทนที่คำตอบของท่านจะทำให้หายกลัว สำหรับผมแล้วกลับตะลึงหนักเข้าไปอีก เพราะท่านได้พูดต่อว่า

" ไม่รู้ว่าพวกเราจะได้อยู่ทันดูสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือเปล่า "

หลาย คนอาจดีใจว่า สงครามโลกอาจจะใช้เวลาอีกนานกว่าจะเกิดซึ่งตัวเองก็คงตายไปเสียก่อนอะไร ทำนองนั้น แต่ในความคิดของผม คนเราอาจมีสิทธิ์ตายจากภัยพิบัติอย่างอื่นได้ก่อนเกิดสงคราม ซึ่งหลังจากนั้นหลวงพ่อได้เล่าต่อไปว่า การใช้น้ำมันอย่างสิ้นเปลืองจะทำให้ ธาตุต่าง ๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นโลกแปรปรวนในแกนกลางของโลกซึ่งเอียงอยู่ประมาณ 23 องศาครึ่ง จะมีมโนธาตุมากขึ้น คือมันจะกลวง และเบาขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดมันจะพลิกตัวลงอย่างกระทันหัน (หลวงพ่อทำมือให้ดู)

"ทำให้เกิดภัยพิบัติอย่างรุนแรงแก่มนุษย์ทั้งหลาย คนจะลอยเคว้งคว้างไปทั่ว บ้างหาที่เกาะแต่ไม่อยู่"

คนที่จะรอดได้ก็คือคนที่สามารถตัด " จิตใจ " ออกจากร่างกายที่เจ็บปวดได้เท่านั้น (ท่านยกตัวอย่างคนที่ถูกผ่าตัดแล้วไม่เจ็บ) และท่านยังบอกว่าการทดลองนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส จะทำให้เหตุการณ์นั้นเกิดเร็วยิ่งขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าที่ท่านบอกว่าแกนโลกจะพลิกนั้นเป็นอย่างเดียว ' Pole Shift ' หรือเปล่า ?

หลวง พ่อท่านกล่าวต่ออีกว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติจะมากขึ้น อากาศแปรปรวน แผ่นดินไหว น้ำท่วมจะรุนแรงขึ้นตามลำดับ (จากกรุงเทพ ฯ ถึงนครสวรรค์จะจมน้ำหมด และศูนย์กลางจะย้ายมาอยู่ที่ลำพูน)

สำหรับสงครามโลกครั้งที่ 3 นั้น ท่านบอกว่าอาวุธนิวเคลียร์จะไม่น่ากลัวเท่า " อาวุธแสง " ซึ่งขณะนี้นักวิทยาศาสตร์สหรัฐที่ได้รับรางวัล โนเบลในปี ค.ศ. 1995 ได้ค้นพบอนุภาคที่เป็นต้นกำเนิดของอาวุธแสงแล้ว เพียงแต่เขายังไม่รู้ว่ามันสามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้เท่านั้นเอง ซึ่งอนุภาคตัวนี้หลวงพ่อท่านบอกว่าเป็นตัวที่ทำให้แรงชนิดที่ 6 (พระพุทธเจ้าบอกไว้ว่าแรงมี 7 ชนิด) ซึงสามารถทะลุทะลวงผ่านทุกสิ่งไปได้ ตัวอนุภาคนี้เองที่เป็นตัวเดียวกับที่หลวงพ่อเรียกว่า "เส้นแสง" ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของจักรวาล

ท่านยังให้ข้อ สังเกตว่า 1 ปีก่อนเกิดสงครามโลก คนสามารถขึ้นไปสร้างบ้านเรือนอยู่บนอวกาศและสามารถทำกลางคืนให้เป็นกลางวัน ได้ คู่สงครามที่จะเกิดในครั้งนี้คือเอเชีย (จีน ?) กับยุโรป การทำลายล้างนั้นจะใช้อาวุธแสงยิงมาจากอวกาศ ไล่ยิงกันเป็นแนวไปสิ้นสุดที่พีรามิด บรรยากาศหลังจากที่หลวงพ่อพูดจบ มันเงียบอย่างบอกไม่ถูก จนหลวงพ่อต้องถามขึ้นว่า

" ใครอยากช่วยไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้ (ภัยธรรมชาติ) เกิดขึ้นบ้าง? ถ้าไม่อยากให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ก็ต้องเลิกใช้นำมันกันให้หมดจะทำได้ไหมล่ะ ? "

ไม่มีใครตอบท่านเลย ... สิ่ง สำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือสัญญาณเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์เหล่านั้น ซึ่งพอสรุปได้ว่าก่อนเกิดสงครามโลก 1 ปีถึง 1 ปีครึ่งจะมีเหตุการณ์ เหล่านี้เป็นสัญญาณคือ ... ในไทยพระจะถูกยึดเงิน ในระดับโลกจะมีการสร้างบ้านเรือนบนอวกาศ แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติจะเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ซึ่งมีทางเป็นไปได้ โดยตรรกะว่าเมิ่อเกิดภัยธรรมชาติจะเกิดความแร้นแค้น ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งต่าง ๆ อันจะเป็น ชนวนให้เกิดสงครามขึ้นมาได้ แต่ที่สำคัญก็คือระยะเวลาเหลืออีกเท่าไร เดือนสิงหาคใมใช่หรือไม่ ? หลวงพ่อท่านบอกว่าระบุไม่ได้ ขนาดนั้น ผมจึงต้องถามท่านใหม่ว่า

" อีกประมาณ 4 - 5 ปีข้างหน้านี้ใช่ไหมครับ " ท่านตอบว่า " ประมาณนั้น "

เช้า วันรุ่งขึ้น หลังการฝึกในช่วงเช้ามืดจบลง หลวงพ่อท่านได้บอกเคล็ดลับของการฝึกสมาธิหมุนให้แก่ผู้อบรมที่ยังเหลืออยู่ จากนั้นท่านก็ให้พรและกล่าวลากับทุกคน ผมจากวัดของหลวงพ่อมาหลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ ริม 2 ข้างทางนั่นสงบเงียบเหลือเกิน แต่ในจิตใจของผมล่ะ ...

ผม เองไม่รู้สึกตื่นกลัวมากนัก ถ้าหากเหตุการณ์ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นจริง อาจเป็นเพราะผมเองก็มีภาพเหล่านั้นอยู่บ้างแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะร้าย แรง และรวดเร็วอย่างที่หลวงพ่อท่านบอก โดยส่วนตัวของผมบัดนี้ได้พบคำตอบแล้วว่า ทำไมความรู้สึกก่อนมาที่วัดนี้ของผมจึงเป็น ต้องไปมากกว่าควรไป

สิ่ง ที่ผมได้รับรู้นั้นมันทำให้คลายความยินดีในเรื่องความสำเร็จทางการงานที่ เพิ่งได้รับมาหมาด ๆ ลงอย่างหมดสิ้น สิ่งที่ผมนึกออกตอนนั้น ก็คือ

" ต่อไปนี้เราจะประมาทไม่ได้แล้ว "

(แหล่ง ที่มา จากหนังสือ มังกรจักรวาล1 ตอนสมาธิหมุน นอสตราดามุส และมนษย์ต่างดาวว่าด้วยญาณทัศนะกับหายนะของโลกก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 โดย ดร.สุวินัย ภรณวลัย)

ที่มา http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=33386​

 

วิเคราะห์ประเด็นคนจะลอยเคว้งคว้าง...​

​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->karan20<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4499463", true); </SCRIPT> สมาชิก

ในประเด็นคนลอยเคว้งคว้างนี้ เคยได้รับทราบจากลูกศิษย์พระอาจารย์ ที่ติดตามปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน กับพระอาจารย์มา 15 ปี ที่ KU HOME ที่พระอาจารย์จะลงมาให้การอบรม 2 เดือน/ครั้ง ได้พูดถึงการเตรียมเซฟเฮ้าส์ ว่าในห้องนอน ไม่ควรมีสิ่งของ ตู้โต๊ะที่จะเคลื่อนที่หรือล้มมาทับคนที่อยู่ข้างใน หรือเราซวนเซไปกระแทกเข้า ไม่ว่าจะเป็นผนังห้อง หรือเพดาน และหน้าต่างก็ไม่ควรใช้กระจก ให้เป็นบานไม้แทน

แต่ตอนนั้นได้ฟังแล้วก็ไม่ได้ซักถามในรายละเอียดและเหตุผลว่าทำไม ต้องเตรียมห้องนอนหลบภัย ในแบบที่กล่าวแล้ว เมื่อได้มารับทราบจากบทความในเว็บนี้ แล้วนำมาต่อจิ๊กซอร์กันแล้ว ทำให้เข้าใจสภาพอนาคตที่จะเกิดขึ้นอย่างชัดเจน และลูกศิษย์พระอาจารย์ท่านเดิมยังได้เน้นว่า เมื่อสัญญาณอันตรายปรากฏขึ้น ซึ่งในตอนนั้นก็ไม่ได้ถามว่าเป็นสัญญาณชนิดใดอีกเหมือนกัน ต่อเมื่อได้มาติดตามค้นหาข้อมูลต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากๆเข้า

จึงได้ภาพที่ชัดเจนว่าสัญญาณอันตราย สิ่งหนึ่ง ก่อนจะเกิดเหตุภัยพิบัติ ครั้งรุนแรงวาระแรก พระอาทิตย์จะส่องแสงสีแดงออกส้ม ก่อนจะลับฟ้า และจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้น 2 ดวง และต่อมาจะเกิด สุริยุปราคาขึ้น ก่อนที่ดาวต่างๆจะมาเรียงตัว เป็นแถวเดียวกัน ในระนาบของกาแลกซี่ทางช้างเผือก ตั้งแถวเล็งไปที่ดาวหลุมดำ ใจกลางของแกแลกซี่ทางช้างเผือก และต่อมาทั่วจักรวาลต่างๆจะเห็นแสงวาบสว่างผิดปกติเกิดขึ้น ผู้ที่ได้เตรียมการอพยพไปที่หลบภัยเอาไว้ล่วงหน้า ให้รีบออกเดินทางทันที และควรเข้าถึงที่พักภายใน 6-7 ชั่วโมงเป็นอย่างช้า

หากต้องผ่านเขตที่ มีแผ่นดินไหวมาก ถนนอาจแตกหักใช้การไม่ได้ และมีสิ่งก่อสร้างต่างๆหักพังลงมากีดขวางทางจราจร และอุปสรรคอื่นๆอีกหลายๆอย่าง เพื่อความปลอดภัยของชีวิตตนเอง เมื่อตกผลึกความเห็นของตนเองแล้ว ว่าเหตุเภทภัยจะเกิดประมาณเวลาใด วันใด เดือนใดแล้ว ท่านก็ควรเดินทางไปถึงเซฟเฮ้าส์ล่วงหน้าเสียก่อนอย่างน้อย 3-5 วัน จะได้ไม่ต้องขับรถไปลุ้นไปว่าทางข้างหน้าที่ทุกคนต่างเร่งรีบ จะยังพอมีช่องทางให้เราเดินทางไปถึงที่หมายหรือไม่.....ท่านที่สนใจติดตาม รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ลิงค์นี้ และอีก ลิงค์

แล้วรถของเราจะต้อง ตรึงเอาไว้หรือเปล่า ส่วนเซฟเฮ้าส์ เป็นสิ่งแน่นอน ที่ต้องยึดเหนี่ยวเอาไว้ให้มั่นคงติดกับพื้นดิน และป้องกันลมพายุที่พัดรุนแรงผิดปกติเอาไว้ด้วย ท่านจึงต้องคาดการณ์ทิศทางลม ในบริเวณที่ท่านเลือกทำเลสร้างเซฟเฮ้าส์ด้วย ว่าควรจะมีลมพัดแรงมาในทิศทางใด จะได้ปรับทิศของสิ่งก่อสร้างให้ต้านลมน้อยที่สุด

ส่วนที่เป็นหลังคา ท่านอาจต้องเตรียมป้องกันลูกเห็บขนาดใหญ่ หรือสเก็ดของแข็งจากท้องฟ้า ตกลงมา กระแทก เมื่อเร็วๆนี้ ลูกเห็บที่ตกที่แคนาดาใหญ่โตถึง 1 ฟุต คงต้องมีมาตรการป้องกัน ...ส่วนในโซนประเทศไทย น่าจะเป็นเศษขยะอวกาศที่เหลือจากการเผาไหม้ในอากาศไม่หมดมากกว่า

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top>ทั้ง ในรูปแบบทางวิศวกรรม และในรูปแบบของกำลังภายใน ที่อิงกับพลานุภาพของพระรัตนตรัย ที่จะได้พิสูจน์กันคราวนี้ ต่อหน้าต่อตา ของผู้ที่จะต้องอยู่เผชิญ สิ่งแวดล้อม ที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเป็นไปได้

พยายามนำบางเรื่อง ที่นึกได้นำมาปูแนวความคิดให้หลายๆท่าน ได้นำไปใช้ต่อยอด ด้านความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว ไม่ใช่เตรียมเซฟเฮ้าส์เอาไว้อย่างดี ไปถึงแล้วกลับไม่ปลอดภัยแก่ชีวิต ทั้งลม ฝน และสภาพไร้น้ำหนักของโลก ที่ไม่มีแกนพลังงานหลงเหลืออยู่



</TD><TD style="WIDTH: 300px" vAlign=top width=300>

ดูคล้ายๆกับอยู่ในซิ มมูเลเตอร์ของนักบินอวกาศ จนกว่าโลกที่เหลืออยู่จะได้สถาปันนาแกนพลังงานใหม่แน่นอนแล้ว ดูๆไปก็น่าสนุกดีระหว่างที่ลอยไปลอยมาในที่จำกัดภายในเซฟเฮ้าส์เล็กๆ)​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เมื่อได้ทราบข้อมูล คนตัวเบาจากพระอาจารย์รัตน์ เบาจนอยู่ในสภาพเหมือนแหวกว่ายอยู่ในอวกาศ เรื่องนี้ก็ยังติดอยู่ในใจเรื่อยมา ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 22 ก.ย. 2553 จึงได้ข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาว่า ตัวคนจะขยายใหญ่ขึ้นประมาณ 2 เท่าตัว สร้างปัญหากับผู้ที่อยู่ในที่แคบๆเช่นในเรือดำน้ำ จะผ่านช่องแคบๆในเรือไม่ได้ ส่วนผู้ที่กำลังอพยพเคลื่อนย้ายหนีภัยในวินาทีสุดท้ายทางรถยนตร์จะมีปัญหา ถ้ามีผู้โดยสารเต็มคัน รถยนตร์จะรับน้ำหนักน้อยลงแต่ขนาดใส่ผู้โดยสารไม่เพียงพอ

และอีกประการหนึ่ง กำลังคลื่นแม่เหล็กที่ดวงอาทิตย์ส่งมาให้โลกตลอดเวลา ยังทำให้อารมณ์ของคนวิปโกรธกันได้ง่ายมาก ในเรื่องที่รู้สึกขัดหูขัดใจเพียงเล็กน้อย ปัญหาทางอารมณ์ที่ทรามลงไปนี้ จะสร้างปัญหาแก่มนุษย์และสังคมมากทีเดียว โดยความเป็นจริงของ พลังงานเส้นแรงแม่เหล็ก ที่ท่วมโลกมากขึ้นทุกวันในปัจจุบันนี้ ก็สร้างปัญหาด้านสุขภาพแก่สิ่งมีชีวิตมากขึ้นทุกวันอยู่แล้ว เนื่องจากโลกต้องรับพลังงานมาจากดวงอาทิตย์และดาวหลุมดำใจกลางกาแลกซี่ทาง ช้างเผือก เพิ่มขึ้นตลอดเวลาทุกวินาที

แต่ไม่สามารถคลายออกปล่อยทิ้งไปทางขั้วโลกใต้สู่ดวงดาวดวงอื่นๆ กลับเก็บพลังงานเอาไว้ทั้งหมด จึงสร้างปัญหาเช่นอากาศร้อนเพิ่มขึ้นเร็วมาก พร้อมกับเพิ่มปริมาณรังสีแกมม่าที่นักวิจัยเยอรมันค้นพบที่บริเวณขั้วโลกเหนือ และยังไปเพิ่มปริมาณความร้อนให้ภายในเซลล์ทั่วร่างกาย หากมนุษย์ไม่มีเครื่องป้องกันคลื่นพลังงานตัวนี้ ความร้อนภายในเซลล์ทำให้นิวเครียสขยายตัว และยังมีผลกระทบต่อจิตใจ ให้หงุดหงิดและโกรธง่ายอีกด้วย ซึ่งจะเป็นปัญหาส่วนบุคคลและสังคมสูงยิ่งขึ้นโดยลำดับ

ได้ฟังการสัมมนาเจาะลึก ภัยพิบัติ เมื่อ 29 ธ.ค. 2553 ที่ ม.ศรีปทุมและองค์กรอื่นๆอีก 3 รายช่วยกันจัดขึ้นนั้น พระอาจารย์รัตน์ได้เปิดเผยในที่ประชุมทราบว่าโลกกำลังเผชิญกับประจุลบจำนวน มหาศาลจากกาแลกซี่อันโดรเมดา ส่งมา ซึ่งจะมีผลร้ายแก่สุขภาพมนุษย์สัตว์สิ่งมีชีวิตต่างๆ มนุษย์จะยิ่งหายใจลำบาก ขาดน้ำในร่างกายมากขึ้น เลือดจะกลายเป็นกรดมากขึ้น หากความเป็นกรดลงมาถึง pH 6.6 จะเกิดอาการโคม่า วิกฤตที่พูดถึงจะไม่เกิดขึ้นทันที ไม่ต่างกับน้ำซึมบ่อทราย หรือตายผ่อนส่งโดยคนส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุ และไม่เคยคิดหาอุปกรณ์ป้องกันชีวิตตนเอง หรือแม้แต่ผู้ที่ได้รับฟังกับหูตนเอง ก็ยังงมีอีกมาก รับไม่ได้และยากที่จะเข้าใจ เนื่องจากมันเป็นพลังงานลบ ต้องใช้คุณภาพจิตที่ละเอียดพอสมควร

เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2554 ได้มีโอกาสไปกราบท่านครูบาอินทร เจ้าอาวาสวัดสันป่ายางหลวง ที่ จ.ลำพูน ได้เรียนปรึกษาท่านถึงการเล็งๆที่ดินที่วังน้ำเขียวเอาไว้ พระคุณเจ้าตอบทันทีว่าที่นั่นเหนื่อยนะ ก็พอจะเข้าใจสิ่งที่ท่านเตือน มาทบทวนในพุทธทำนายว่าพื้นที่ภาคอิสานจะไม่ประสบภัยพิบัติมากนัก โดยเฉพาะแผ่นดินไหว แต่หลังเหตุรุนแรงของโลกผ่านไปบริเวณภูมิภาพนี้จะอดอยากและมีโรคระบาดมากที่ ผุ้คนจะล้มตายตามธรรมดาผลย่อมเกิดแต่ เหตุ ก็น่าเสียใจ ที่พี่น้องทางภาคนี้ ค่อนข้างเชื่อข่าวต่างๆง่าย และไม่มีเวลาและอุปกรณ์ในการตรวจสอบข่าวสาร จึงเชื่อคำโฆษณาด้านลบต่างๆได้โดยง่าย จึงถูกพาลงเหวมรณะไปโดยที่ตนเองไม่ได้ตั้งใจ

เมื่อในใจของพี่น้องเหล่านี้ไปยึดมั่นในสิ่งที่เป็นปีศาจ หรือมารร้าย จึงกลายเป็นพวกของมารไปโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นเหยื่อของมารที่จะมาล้างผลาญชีวิต ตามที่พระแม่องค์ธรรม หรือพ่อเกิดแม่เกิดของทุกสรรพสัตว์ ท่านเปิดเผยให้ทราบ ในที่สุดที่ยังคงเหลือคือผืนแผ่นดินที่แห้งแล้วอดอยาก ยากที่สิ่งมีชีวิตจะดำรงค์ชีวิตอยู่ได้ เมื่อต้องอดทั้งน้ำและอาหาร และยังอุดมไปด้วยโรคระบาดร้ายแรงอีกด้วย แล้วอย่างนี้สภาพชีวิตจะมีอะไรเหลือในรายละเอียดลึกๆพี่ น้องชาวอิสานคงจะตระหนักแก่ใจได้ดี ว่าสภาวะการดำรงค์อยู่ในสังคมส่วนใหญ่ในภูมิภาคของอิสานนั้นเป็นอย่างไร พลังงานของจิตโดยรวมที่เป็นลบจะดึงดูดสิ่งที่เป็นลบด้วยกันเข้ามาโดย อัตโนมัติ ที่เล่าให้ฟังนี้เป็นการขยายความ 'คำ' ของท่านครูบาอินทร ที่ท่านใช้คำว่าเหนื่อยนะที่นั่น แต่อย่างไรก็ตามในบางจังหวัดที่ในพุทธทำนาย ได้พูดถึงว่าจะพออยู่ได้บางจังหวัดเช่นที่อุดร อุบล เป็นต้น

สำหรับผู้ที่ต้องรับมือ สิ่งรบกวนทั้งความร้อนรอบร่างกาย และความร้อนสะสมในร่างกายทั่วทุกเซลล์ ร้อนทั้งนอกร้อนทั้งใน มีออกซิเจนสำหรับหายใจน้อยลง ผสมกับคนปัจจุบันหายใจถี่และตื้น ก็จะทำให้หัวใจหยุดเต้น เพิ่มปริมาณมากขึ้นอย่างน่าสงสาร ที่จะมีมนุษย์ทั่วโลกเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิด เช่นเดือนที่แล้ว ชาวมอสโคว์เสียชีวิตนับหมื่นคน ต้นเดือน ก.ย. ทางญี่ปุ่นเริ่มเสียชีวิตและอีกครึ่งแสนต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน โดยคลื่นความร้อนปรากฏขึ้นเป็นโซนๆ หมุนเวียนไปทั่วโลก

คนที่จะรอดได้ก็คือ.....คน ที่สามารถตัด 'จิตใจ' ออกจากร่างกายที่เจ็บปวดได้เท่านั้น (ท่านยกตัวอย่างคนที่ถูกผ่าตัดแล้วไม่เจ็บ) และท่านยังบอกว่าการทดลองนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส จะทำให้เหตุการณ์นั้นเกิดเร็วยิ่งขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าที่ท่านบอกว่าแกนโลกจะพลิกนั้นเป็นอย่างเดียว ' Pole Shift' หรือเปล่า ?

หลวงพ่อท่านกล่าวต่ออีกว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติจะมากขึ้น อากาศแปรปรวน แผ่นดินไหว น้ำท่วมจะรุนแรงขึ้นตามลำดับ (จากกรุงเทพ ฯ ถึงนครสวรรค์จะจมน้ำหมด และศูนย์กลางจะย้ายมาอยู่ที่ลำพูน) หากแพนดูในแผนที่ พื้นที่ราบใน จ.นครสวรรค์ จะสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 100 เมตร เอ็ดการ์ เคซี่ย์ นักพยากรณ์เหตุการณ์อนาคต ที่มีชื่อเสียงของสหรัฐฯ ได้มองเห็นว่าโลกจะมีระดับน้ำทะเลขึ้นสูงกว่าเดิม 9 เมตร ในเมื่อ พื้นที่จังหวัดนครสวรรค์กลายเป็นทะเล นั่นแสดงว่าพื้นที่ดินอ่อน กทม.และที่ลุ่มภาคกลาง แถบนครสวรรค์ยังถูกน้ำทะเลท่วมถึง

พื้นที่เหล่านี้ต้องได้รับคลื่นแผ่นดินไหวรุนแรงและเป็นเวลาหลายชั่วโมง ติดต่อกัน ดินจึงเสียโครงสร้างรับน้ำหนักตัวเองไม่ได้ และยุบตัวลง ซึ่งประเทศต่างๆรอบประเทศไทยล้วนมีพื้นที่ใช้สอยอยู่ในพื้นราบในระดับต่ำ กว่า100 เมตร เหนือน้ำทะเลเป็นส่วนใหญ่ หากใช้น้ำทะเลท่วมนครสวรรค์เป็นเกณฑ์ พื้นแผ่นดินในแหลมอินโดจีนก็จะถูกท้องทะเลกลืนกินไปมากกว่าครึ่ง นอกจากส่วนที่เป็นภูเขาสูงกว่า 200 เมตรขึ้นไป ทั้งนี้ก็รอคอยดูกันต่อไปอีกไม่นานก็จะปรากฏผลให้เห็นแผนที่โลกใหม่ ของนายกอร์ดอน ที่ยังพิมพ์จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ยัง ไม่ได้นำเม็กกะสึนามิ ที่เกิดจากแผ่นทวีปเคลื่อนตัว และเกิดจากภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิด คลื่นขนาดใหญ่เหล่านี้ทั้งกดและดูด พื้นดินอ่อนจึงถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว และคลื่นสึนามิ มิได้เกิดจาก 2 สาเหตุที่กล่าวแล้วเท่านั้น

ลมพายุที่พัดรุนแรงและก้อนอุกกาบาดขนาดต่างๆที่ตกลงมาจากฟ้า ก็ยังสร้างความเสียหายบนพื้นผิวโลกได้อย่างรวดเร็ว เช่นแห่งสำคัญๆของโลก ที่ปรากฏภาพต่อการหยั่งรู้ของนอสตราดามุส ก็ เป็นสิ่งที่มนุษย์ยากจะคาดคิด ว่าระหว่างที่ดาวหางดวงใหญ่พร้อมบริวารอีก 5 ดวง จะมีของแถมมาให้แก่ชั้นบรรยากาศของโลก ให้ชาวโลกได้อกสั่นขวัญผวากันได้ไม่น้อยเลย ท่านที่สนใจลองแวะศึกษาในลิงค์ต่างๆได้ตามต้องการ

อ้างอิงจาก
http://ainews1.com/article370.html
http://ainews1.com/article370_a.html

ที่มา http://palungjit.org/threads/เช็คความพร้อมอย่างเป็นรูปธรรม-เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ-คุณพร้อมหรือยัง.284168/

 

คูณเกษมว่าไง..ข้อมูล ลพ.โพธิ์ศรีสุริยะ อยากทราบความคิดเห็น..แนะนำหน่อย แหล่งที่อ้างอิงใช่คุณดร.ละเอียด จริงหรือไม่ วานบอก..

 

ขออภัยค่ะ...newborngirl...มิใช่คุณเกษม ค่ะ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะค่ะ คุณ pangbualan

 

ข้อมูลของหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ ก็สอดคล้องกับข้อมูลของพระอริยะสงฆ์ อีกหลายๆองค์ ที่ท่านได้เมตตามาแจ้งข่าวเรื่องของภัยพิบัติให้ได้รับทราบ และจะได้เตรียมตัวรับกับสถานะการณ์ได้ทันเวลาครับ แหล่งที่มาก็ได้ลงชื่อ ดร.ละเอียด อย่างชัดแจ้งอยู่แล้ว ก็ไม่เห็นจะต้องมีข้อสงสัยอะไรกันอีก

เรื่องของภัยพิบัติตามที่แจ้งมานั้น ถ้าถามความคิดเห็นส่วนตัวของผมแล้ว ก็เชื่อว่าต้องเกิดแน่ๆ เพียงแต่เวลาอาจถูกเลื่อนออกไป ตามเหตุและปัจจัยที่เหมาะสม เพราะฝ่ายที่มีหน้าที่ทำลายล้าง ก็ต้องการจะกวาดล้างคนไม่ดีไปให้มากที่สุด แต่ถ้าข้อมูลใดถูกเปิดเผยในที่สาธารณะ จนมีคนได้รับรู้เป็นจำนวนมากๆ ก็มีโอกาสที่จะถูกเลื่อนเวลาออกไป เปรียบเหมือนตำรวจได้วางแผนจะจับผู้ร้าย แต่ผู้ร้ายดันรู้ตัวก่อน แผนการนั้นก็เป็นอันต้องเลื่อนออกไปครับ

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ฟิลิปปินส์เจอแผ่นดินไหว 6.1 ริกเตอร์กรุงมะนิลา'สั่น'แต่ไม่มีคนตาย-เจ็บ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>20 มีนาคม 2554 20:43 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

เจ้าหน้าที่กู้ภัยฟิลิปปินส์ซ้อมรับมือกับเหตุแผ่นดินไหว ในกรุงมะนิลา วานนี้ (19)


<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>

ชาวญี่ปุ่นในฟิลิปปินส์เขียนคำแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์หายนะที่เกิดขึ้นในบ้านเกิดเมืองนอนของตน​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>การซ้อมรับมือแผ่นดินไหวของฟิลิปปินส์</TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>เอเจนซี - เกิดแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 6.1 ริกเตอร์ที่บริเวณนอกชายฝั่งทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์เมื่อบ่ายวันนี้ (20) ทำให้กรุงมะนิลาและหลายจังหวัดของภาคเหนือ รู้สึกถึงอาการสั่นไหว ทว่าไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บล้มตายหรือความเสียหายใดๆ สถาบันวิทยาการภูเขาไฟและแผ่นดินไหวของรัฐบาลฟิลิปปินส์บอกด้วยว่า ไม่ต้องมีการเตือนภัยคลื่นสึนามิ แต่น่าที่จะเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมา

แผ่นดินไหวคราวนี้ มีศูนย์กลางอยู่ในทะเลห่างออกไปราว 122 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ของเมืองลาวอ็อก บนเกาะลูซอน ที่เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ และอยู่ ณ ระดับความลึก 39 กิโลเมตร เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.26 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 13.26 น.เวลาเมืองไทย) ในตอนแรกทางสถาบันฯระบุว่าแผ่นดินไหวคราวนี้มีความรุนแรง 6.4 ริกเตอร์ก่อนจะปรับแก้เป็น 6.1 ริกเตอร์

เหตุแผ่นดินไหวในฟิลิปปินส์คราวนี้ทิ้งช่วงห่าง 9 วันจากเหตุธรณีพิบัติระดับรุนแรง 9.0 ริกเตอร์ถล่มญี่ปุ่นแล้วตามมาด้วยคลื่นยักษ์สึนามิที่สร้างความเสียหายหนักแก่พื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศนั้น

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000035658
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พูดไม่ออก ... นี่ก็อีกหนึ่ง ของการขาดสัจจะ ญี่ปุ่นก็เป็นเหรอเนี่ย

***********************************************
ญี่ปุ่น ยอมรับ โกหกผลตรวจโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

บริษัทเทปโก ยอมรับแล้ว แจ้งผลเท็จกรณีผลตรวจโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ
เผยแผงจ่ายไฟฟ้าวาล์วควบคุมอุณหภูมิ ไม่ได้ตรวจเช็คสภาพนาน 11 ปี

(21 มี.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัทโตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ คัมปานี
(เทปโก) ยอมรับแจ้งรายงานเท็จ เกี่ยวกับผลการตรวจโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ
หมายเลข 1 ต่อหน่วยงานกำกับดูแลนิวเคลียร์ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหว
รุนแรง และเกิดคลื่นยักษ์สึนามิตามมา โดยรับว่าไม่ได้ตรวจสอบอุปกรณ์ 33 ชิ้น ซึ่งมีอายุ
การใช้งานนาน ส่วนแผงจ่ายไฟฟ้าวาล์วควบคุมอุณหภูมิ ไม่ได้รับการตรวจเช็คสภาพนาน 11 ปี

ในรายงานยังระบุอีกว่า การสรุปผลต่อมาในวันที่ 2 มี.ค. อุปกรณ์โรงไฟฟ้า ไม่ได้รับการ
ตรวจเช็คสภาพและซ่อมบำรุงที่เหมาะสม จึงมีคำสั่งให้ปรับปรุงอีกครั้งแต่เกิดภัยธรรมชาติ
เสียก่อน จนส่งผลให้เครื่องปั่นไฟระบบหล่อเย็นไม่ทำงาน อย่างไรก็ตามเมื่อ 9 ปีก่อน เทปโก
เคยแจ้งรายงานเท็จเรื่องความปลอดภัย และปิดเงียบการรั่วไหลของกัมมันตรังสีหลัง
แผ่นดินไหวเมื่อ 3 ปีก่อน เนื่องจากกลัวบริษัทเดือดร้อน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น เผยข้อมูลว่า ตรวจพบกัมมันตรังสีระดับสูง
กว่าปกติในพืชผักอีก 2 ชนิด คือ ต้นคาโนลา และ เบญจมาศเขียว หลังพบในผักโขมและ
ถั่วก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาหารบางอย่างที่ปนเปื้อนกัมมันตรังสีได้ถูกจำหน่ายออกสู่
ท้องตลาดแล้ว ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นสั่งยุติการส่งนมออกจากจังหวัดฟุกุชิมาแล้ว หลังตรวจ
พบนมปนเปื้อนกัมมันตรังสีในฟาร์ม 4 แห่งจากทั้งหมด 37

ที่มา : http://news.sanook.com/1010051-ญี่ปุ่น-ยอมรับ-โกหกผลตรวจโรงไฟฟ้านิวเคลียร์.html

 

*** ทำให้นึกถึงประเทศไทย ****

กรรม... จากผลการกระทำไม่เที่ยง
ขาดสัจจะ.... ไม่รอดพ้นกรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

แผ่นดินไหวไต้หวัน-ฟิลิปปินส์​

​

ไทเป 20 มี.ค.- เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.5-5.9 ริกเตอร์ใต้ทะเลนอกชายฝั่งไต้หวัน และ 6-6.4 ริกเตอร์ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ยังไม่มีรายงานความเสียหายและไม่มีการประกาศเตือนภัยสึนามิ

สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งว่า แผ่นดินไหวใต้ทะเลเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ตามเวลาไต้หวัน ตรงกับเวลา 15.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย ห่างจากเมืองไถตง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวันไป 44 กิโลเมตร ลึกเพียง 17 กิโลเมตร วัดความรุนแรงได้ 5.5 ริกเตอร์ ด้านศูนย์แผ่นดินไหววิทยาของไต้หวันวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวได้ 5.9 ริกเตอร์ อาคารในกรุงไทเปสั่นไหว รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ทั่วเกาะไต้หวัน สำนักงานดับเพลิงเผยว่า ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสียด้านชีวิตและทรัพย์สิน

ขณะเดียวกันสถาบันภูเขาไฟวิทยาและแผ่นดินไหววิทยาของฟิลิปปินส์ แจ้งว่าเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.4 ริกเตอร์ ห่างจากเมืองเลาอั๊กบนเกาะลูซอน ไป 117 กิโลเมตร ลึกลงไป 50 กิโลเมตร ยังไม่มีรายงานความเสียหายและการเตือนภัยสึนามิ แต่ทางสถาบันยังคงติดตามสถานการณ์ทางตอนเหนือ ขณะที่สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐวัดความรุนแรงแผ่นดินไหวได้ 6 ริกเตอร์ และลึกลงไป 36 กิโลเมตร.-สำนักข่าวไทย

วันอาทิตย์ ที่ 20 มี.ค. 2554

ลมและฝนตกใกล้โรงงานนิวเคลียร์ฟูกุชิมะพัดออกสู่แปซิฟิก​

​

โตเกียว 21 มี.ค.- กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นแจ้งว่า กระแสลมและฝนตกเบาบางเหนือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะที่เกิดปัญหากำลังพัดพาจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิกในวันนี้

สภาพลมฟ้าอากาศมีความสำคัญต่อการวัดว่าสารกัมมันตรังสีรั่วไหลจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะถูกพัดพาไปยังพื้นที่ที่มีคนอยู่อาศัยหนาแน่นหรือเข้าไปในห่วงโซ่อาหารหรือไม่ แม้เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าปริมาณรังสีรั่วไหลจนถึงขณะนี้ยังไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพก็ตาม ทั้งนี้นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม กระแสลมส่วนใหญ่พัดออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิก

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาจังหวัดฟูกุชิมะพยากรณ์ว่า จะมีฝนตก 10-20 มิลลิเมตรในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า ส่วนกระแสลมใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะพัดด้วยความเร็ว 11 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 21 มี.ค. 2554

ญี่ปุ่นเตือนชาวบ้านใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เลี่ยงดื่มน้ำประปา​

​

ญี่ปุ่น 21 มี.ค. - รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเตือนชาวบ้านใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำประปา

โฆษกกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า พบปริมาณรังสีแร่ในน้ำประปาในหมู่บ้านอิอิตาเตะ ห่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 30 กม. สูงกว่าค่ามาตรฐาน 3 เท่า จึงแนะนำให้ชาวบ้านราว 6,000 คนในพื้นที่ หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำประปา อย่างไรก็ดี ปริมาณรังสีแร่ที่พบในน้ำประปาในหมู่บ้านดังกล่าว มีสัดส่วนเพียง 1 ใน 26 ส่วนของระดับรังสีแร่ที่ใช้ในการเอกซเรย์หน้าอก และไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงว่า พบการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในอาหารอย่างผลิตภัณฑ์นม ผักโขม และผักเรปซีด ซึ่งนำเมล็ดไปผลิตเป็นน้ำมัน รวมถึงตั้งโอ๋ด้วย โดยทั้งหมดมาจากพื้นที่ 3 จังหวัด ในรัศมี 120 กม. จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จนต้องระงับการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์นมจากจังหวัดฟุกุชิมะแล้ว. - สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 21 มี.ค. 2554

ญี่ปุ่นพบกัมมันตรังสีระดับสูงในพืชผักอีกหลายชนิด​

​

ญี่ปุ่น 21 มี.ค. - ญี่ปุ่นตรวจพบสารกัมมันตรังสีในระดับสูงกว่าปกติในพืชผักอีกหลายชนิด แสดงให้เห็นว่าสารกัมมันตรังสีที่รั่วไหลจากโรงงานนิวเคลียร์เข้าถึงห่วงโซ่อาหารเพิ่มมากขึ้น

นายโยชิฟูมิ คาจิ รัฐมนตรีสาธารณสุขญี่ปุ่น แถลงยืนยันว่า นอกจากพบการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในอาหารอย่างผลิตภัณฑ์นมและผักโขมแล้ว ยังพบการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในผักเรปซีด ซึ่งนำเมล็ดไปผลิตเป็นน้ำมัน และตั้งโอ๋ด้วย โดยทั้งหมดมาจากพื้นที่ 3 จังหวัด ในรัศมี 120 กม. จากโรงงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ หมายเลข 1 และยอมรับว่า ผลิตภัณฑ์นมและผักที่ปนเปื้อนดังกล่าวอาจถูกจัดส่งไปจำหน่ายตามท้องตลาดบ้างแล้ว และว่า รัฐบาลได้ระงับการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์นมจากจังหวัดฟุกุชิมะแล้ว หลังพบการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีใน 4 ฟาร์ม จากทั้งหมด 37 ฟาร์ม

ก่อนหน้านี้ นายยูกิโอะ เอดาโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงยืนยันว่า ระดับรังสีที่พบไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนแต่อย่างใด และขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก. - สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 21 มี.ค. 2554

เหตุที่ญี่ปุ่นตอกย้ำว่ามหานครทั่วโลกเสี่ยงภัยพิบัติ​

​

ปารีส 20 มี.ค.- ผู้เชี่ยวชาญความเสี่ยงในเขตเมืองชี้ว่า หายนะที่ญี่ปุ่นขณะนี้ตอกย้ำว่ามหานครทั่วโลกมีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติ รวมทั้งอันตรายจากอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

นายฟูอัด เบนดิเมอรัด หัวหน้าปฏิบัติการเชิงรุกด้านแผ่นดินไหวและมหานคร ซึ่งเป็นองค์กรทางวิทยาศาสตร์ที่ประเมินภัยพิบัติกล่าวว่า เหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นเป็นหลักฐานชัดเจนถึงความเปราะบางของมหานครในทุกแง่มุม ทั้งด้านกายภาพ สังคม เศรษฐกิจและนิเวศวิทยา จะต้องมีการตรวจสอบสมมติฐานต่างๆ ที่มีมาก่อนหน้านี้ ขณะที่นายคริส อิปเซน หัวหน้าฝ่ายจัดการภัยฉุกเฉินนครลอสแองเจลิสเห็นว่า เหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นมีความเกี่ยวโยงกับนครลอสแองเจลิสอย่างยิ่งเพราะมหานครแห่งนี้เสี่ยงเกิดแผ่นดินไหว สึนามิ และมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่งเช่นกัน

ด้านเฮเลนา โมลิน วัลเดส รองผู้อำนวยการสำนักงานว่าด้วยกลยุทธ์ระหว่างประเทศเพื่อการลดภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ (UNISDR) ชี้ว่า ปัญหาใหญ่ในการอพยพคนในมหานครยามเกิดภัยพิบัติคือ เส้นทางสัญจรและพลังงานต่าง ๆ ที่จะใช้การไม่ได้ นายทาคาอากิ คาโตะ อาจารย์คณะวิศวกรรม มหาวิทยาลัยโตเกียวเสริมว่า ในกรณีนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้คนจะต้องเป็นระเบียบและเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใจเย็น ผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันว่า ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติอย่างดียิ่ง หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสังคมที่ขาดความเตรียมพร้อม ความสูญเสียจะร้ายแรงกว่านี้.-สำนักข่าวไทย

วันอาทิตย์ ที่ 20 มี.ค. 2554

ตะวันตกถล่มลิเบียด้วยโทมาฮอว์กไม่ต่ำกว่า 110 ลูก​

​

ตริโปลี 20 มี.ค.- กองทัพสหรัฐเผยว่า สหรัฐ อังกฤษและฝรั่งเศส ถล่มลิเบียด้วยขีปนาวุธนำวิถีโทมาฮอว์กไม่ต่ำกว่า 110 ลูกและการโจมตีทางอากาศเมื่อวันเสาร์และเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาลิเบีย สร้างความโกรธแค้นให้แก่ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียที่ประกาศจะทำให้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกลายเป็นสนามรบ

ทหารอเมริกันแถลงที่กระทรวงกลาโหมว่า ขีปนาวุธนำวิถีทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศและอุปกรณ์ป้องกันภัยทางอากาศของลิเบียได้มากกว่า 20 จุด การโจมตีมีขึ้นสองวันหลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติผ่านมติโดยได้รับการสนับสนุนจากชาติอาหรับให้ใช้ปฏิบัติการทางทหารป้องกันไม่ให้ลิเบียโจมตีพลเรือน ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ชาติตะวันตกทิ้งระเบิดใกล้บับ อัลอาซิซิยาห์ ซึ่งเป็นกองบัญชาการของกัดดาฟีในกรุงตริโปลี ทำให้กองกำลังลิเบียระดมยิงอากาศยานนานถึง 40 นาที ส่วนสถานีโทรทัศน์ของรัฐแพร่ภาพผู้สนับสนุนกัดดาฟีหลายร้อยคนรวมตัวกันเป็นโล่มนุษย์ที่บับ อัลอาซิซิยาห์ และที่ท่าอากาศยานกรุงตริโปลี ด้านเจ้าหน้าที่ลิเบียเผยว่า ปฏิบัติการของตะวันตกที่เริ่มขึ้นเมื่อเครื่องบินรบฝรั่งเศสเปิดฉากโจมตีเมื่อเวลา 23.45 น.วันเสาร์ตามเวลาในไทย ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 48 คน บาดเจ็บ 150 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก

สถานีโทรทัศน์ของรัฐในลิเบียได้ออกอากาศบันทึกเสียงของกัดดาฟีที่ประณามการโจมตีของชาติตะวันตกว่าเป็นการรุกรานป่าเถื่อน ไร้ความชอบธรรม เขาประกาศจะโจมตีเป้าหมายพลเรือนและทหารในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นการตอบโต้ และจะทำให้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกลายเป็นสนามรบเต็มขั้น ด้านกระทรวงต่างประเทศลิเบียขอให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นประชุมฉุกเฉินเพราะการโจมตีลิเบียเป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงสากล.-สำนักข่าวไทย

วันอาทิตย์ ที่ 20 มี.ค. 2554

กัดดาฟีประกาศกร้าวชาวลิเบียพร้อมทำสงครามยืดเยื้อ​

​

ตริโปลี 20 มี.ค.- พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ประกาศว่าชาวลิเบียพร้อมทำสงครามยืดเยื้อและจะกำราบชาติตะวันตกที่โจมตีในลักษณะก่อการร้าย โดยจะไม่ยอมให้ตะวันตกเข้าไปฉกฉวยน้ำมันของลิเบีย

สถานีโทรทัศน์ของรัฐถ่ายทอดเสียงของ พ.อ.กัดดาฟี ที่กล่าวอย่างแข็งกร้าวย้ำว่า จะไม่ยอมแพ้ให้แก่กลุ่มทำสงครามศาสนาที่นำโดยสหรัฐ อังกฤษและฝรั่งเศส สงครามครั้งนี้เป็นสงครามศาสนาต่อต้านชาวมุสลิมโดยเฉพาะชาวลิเบีย ประเทศเหล่านั้นหวังข่มขู่ชาวลิเบีย เป็นเพียงวิธีการของพวกก่อการร้าย แต่ฝ่ายที่จะชนะคือกองกำลังภาคพื้นดินของลิเบียเท่านั้น ประเทศเหล่านั้นจะไม่มีทางชนะและไม่สามารถทำให้ผู้คนยอมแพ้ได้

เพราะชาวลิเบียกำลังจับอาวุธและจะตอบโต้กลับหากประเทศเหล่านั้นยังคงรุกรานอย่างไม่เป็นธรรม ชาวลิเบียจะไม่ยอมละทิ้งแผ่นดินเกิด จะไม่ยอมปล่อยให้สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศสหรือกองกำลังใด ๆ ฉกฉวยประโยชน์จากน้ำมันของลิเบีย และพร้อมจะทำสงครามยืดเยื้อ.-สำนักข่าวไทย

วันอาทิตย์ ที่ 20 มี.ค. 2554

ลูกชายกัดดาฟีชี้ชาติตะวันตกตัดสินใจผิดพลาดที่โจมตีลิเบีย​

​

สหรัฐ 21 มี.ค. - ลิเบียระบุปฏิบัติการของชาติมหาอำนาจนำโดยสหรัฐที่โจมตีลิเบียเป็นสิ่งผิดพลาด

นายซาอิฟ อัล-อิสลาม กัดดาฟี บุตรชายของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ให้สัมภาษณ์รายการ “ดีสวีค” ทางสถานีโทรทัศน์เอบีซีของสหรัฐว่า กองกำลังลิเบียของ พ.อ.กัดดาฟี บุกเมืองเบงกาซี เพื่อช่วยเหลือพลเมืองลิเบียให้พ้นจากกลุ่มก่อการร้าย แต่กองกำลังพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศส กลับเปิดฉากโจมตีลิเบีย เพื่อปลดปล่อยกลุ่มก่อการร้ายในพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด และเขาเชื่อว่า วันหนึ่งชาติมหาอำนาจจะต้องเสียใจที่ให้การสนับสนุนผิดฝ่าย อย่างไรก็ดี นายซาอิฟ กัดดาฟี ยืนยันว่า ลิเบียจะไม่โจมตีเครื่องบินพาณิชย์ของชาติตะวันตกเป็นการตอบโต้ปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้

ด้านชาวเมืองเบงกาซี เผยว่า ปฏิบัติการของชาติตะวันตกเกิดขึ้นถูกเวลา เนื่องจากกองกำลังของ พ.อ.กัดดาฟี เคลื่อนพลมาประชิดเมืองเบงกาซีแล้ว หลังการต่อสู้ดุเดือด จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 200 คน. - สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 21 มี.ค. 2554

สหรัฐคุยปฏิบัติการเบื้องต้นในลิเบียประสบความสำเร็จ​

​

วอชิงตัน 20 มี.ค.- พล.ร.อ.ไมเคิล มุลเลน ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐกล่าวว่า

ปฏิบัติการเบื้องต้นของนานาชาติในการประกาศเขตห้ามบินในลิเบียประสบความสำเร็จด้วยดี และขณะนี้กองกำลังรัฐบาลลิเบียได้ยุติการรุกโจมตีเมืองเบงกาซี ฐานที่มั่นของฝ่ายต่อต้านแล้ว

พล.ร.อ.มุลเลนให้สัมภาษณ์ในรายการดีสวีคของสถานีโทรทัศน์เอบีซีหลังจากสหรัฐระดมโจมตีระบบป้องกันภัยทางอากาศของลิเบีย แต่ยืนยันจะไม่ส่งทหารภาคพื้นดินเข้าไปในลิเบีย เรือรบสหรัฐและเรือดำน้ำอังกฤษได้ยิงขีปนาวุธนำวิถีโทมาฮอว์กอย่างน้อย 110 ลูกเข้าไปในลิเบียเมื่อวันเสาร์ ทำลายเป้าหมายได้มากกว่า 20 จุด และช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน สเตลธ์ บี2 ของสหรัฐ 3 ลำได้ทิ้งระเบิดถล่มสนามบินหลักของลิเบียถึง 40 ลูก หวังตัดกำลังของกองทัพอากาศลิเบีย.- สำนักข่าวไทย

วันอาทิตย์ ที่ 20 มี.ค. 2554

ที่มา http://www.mcot.net

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อากาศกลับมาร้อนตามปกติ ฟ้าหลัวตอนกลางวัน กทม.ร้อนสุด36องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 21 มีนาคม 2554 ดังนี้

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลางและภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศร้อน
และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา
ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อน และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อน และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 36-37 องศา
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง
อุณภูมิจะสูงขึ้น และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศา
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อน และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.





</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

"พระคำข้าว"
กับคำพยากรณ์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ​

​

ครั้งแรก ที่ได้รับฟังเรื่อง วัตถุมงคลที่สามารถป้องกันภัย ได้ถึง ปรมณู นิวเคลียร์ และ รังสีที่กระผมเอง มีประสบการณ์ตรง เป็นอันดับแรก ก็คือเมื่อปี พ.ศ.2535 ที่บ้านสายลม สะพานควาย ประมาณสัก 2-3 เดือน ก่อนที่องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยานมหาเถระ(หลวงพ่อฤาษีฯ) จะละสังขาร ท่านได้บอกให้ญาติโยมที่มาถวายสังฆทาน และท่านก็แจกพระคำข้าว ว่า....(กราบขอขมาตรง ต่อองค์หลวงพ่อฯ ที่ไม่สามารถจดจำได้ทุกคำพูด)

“..เอ่อ โยม พระคำข้าว เนื้อขาว ๆ เก็บไว้ให้ดีน่ะ ทำได้ยาก ทำพิธีเหมือนกับพิธีของสมเด็จโตฯ อีกไม่เกิน 20 ปี ราคาองค์ละเป็นแสน..”

พระคำข้าว และวัตถุมงคลขององค์หลวงพ่อฯ ที่ทำพิธีพุทธาภิเศกหากจำไม่ผิด เท่าที่อ่านพบมา ท่านก็ยืนยันมานานแล้ว ตั้งแต่ ปี 2521 เป็นต้นมาว่า วัตถุมงคลที่ท่านทำพิธีพุทธาภิเศก นั้น ท่านก็เพียงนั่งในพิธีเฉย ๆ เรื่องพิธีปลุกเสก เป็นเรื่องของ “พระ” ท่านเป็นผู้ทำเองและ “พระ” ก็รับรองว่า วัตถุมงคลทุกชิ้น สามารถป้องกันภัยได้ทุกอย่างตลอดไปจนถึง ปรมณู นิวเคลียร์ และ รังสี

ความจริง เรื่องวัตถุมงคลขององค์หลวงพ่อฯ คงไม่ต้องกล่าวกันมากไปเพราะว่า ศิษยานุศิษย์ขององค์หลวงพ่อฯ ต่างก็รับรู้กันโดยทั่วไปอยู่แล้ว ที่ผมพูด.... นั่นมันเป็นเรื่องปัจจุบัน ที่จะเกี่ยวพันไปถึงในอนาคต....คือว่า เมื่อถึงเวลาที่เกิดเหตุเภทภัย คนก็ต่างแตกตื่น หาบูชากัน....อันดับแรก ของที่วัดฯ ก็จะหมดไป อย่างรวดเร็ว....ผมพูดว่า "จะหมดไปอย่างรวดเร็ว" ก็ไม่ใช่เพราะใครหรอกครับ....บรรดาพี่ ๆ น้อง ๆ พวกเรา นี่แหละครับ....

บุคคลในคณะอื่น ๆ ต่างก็ขวนขวายของครูบาอาจารย์ของตัวเอง เขาก็จะไม่มาสนใจของพ่อฯ ของพวกเรา....ที่วัตถุมงคลรุ่นที่ทันองค์หลวงพ่อฯ ยังมีเหลืออยู่เยอะ ก็เพราะว่า....

1. บรรดาศิษยานุศิษยื ต่างก็มีกันมากอยู่แล้ว เพราะว่า เมื่อทำบุญ องค์หลวงพ่อก็แจก
2. ไม่ได้รับแจกก็จริงอยู่ แต่ความศรัทธาก็สะสมไว้ครบถ้วน มากอยู่แล้ว ราคาบูชาก็ถูก....(ดังนั้น เมื่อตัวเองมีมาก มีราคาทุนเพียง 10 บาท จะไปบูชา 1,600 บาท ทำไมอีก มีเยอะแล้ว....)

เพราะว่า ก่อน 30 ตุลาคม 2535 ราคาวัตถุมงคลจะถูกกว่านี้อย่างน้อย 16 เท่าตัว ยกตัวอย่างเฉพาะ "พระคำข้าว" (จริง ๆ แล้ว ราคาวัตถุ อื่น ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปพร้อมกัน) ตั้งแต่ ปี 2533 - 2534 "พระคำข้าว" ราคาองค์ละ 10.- บาท(สิบบาทถ้วน) พอปลายปี 2534 องค์หลวงพ่อก็สั่ง ออกไมค์ บอกลูกหลานให้เตรียมตัวกันก่อน ว่า....ใครจะบูชาวัตถุมงคล ก็ให้รีบบูชาน๊ะ ปี 2535 ราคราจะขึ้น ราคาจะเปลี่ยนแปลง พระคำข้าวจะขึ้นเป็น 100 บาท....

พอถึง 1 มกราคม 2535 ราคาก็ถูกปรับให้เปลี่ยนเป็นไปตามที่ท่านพูด คือ "พระคำข้าว" บูชา 100 บาท....แต่หากทำบุญสังฆทาน 100 บาท ท่านก็ยังแจกพระคำข้าว ให้อยู่ดี....(ข้อนี้ ผมมานั่งตึกตรองภายหลังว่า ท่านบอกใบ้ให้แล้ว ว่าปีนี้-2535- ท่านคงไม่อยู่กับพวกเราต่อแน่ ๆ)ราคาวัตถุ อื่น ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปพร้อม ๆ กัน

คำสั่งก่อนมรณภาพ เกี่ยวกับวัตถุมงคล คือ....เมื่อท่านละสังขาร ครบ 3 วัน ให้ปรับราคาวัตถุมงคล ขึ้นเป็น 2 เท่าตัว(พระคำข้าวเป็น 200 บาท) เมื่อท่านละสังขาร ครบ 7 วัน ให้ปรับราคาวัตถุมงคล ขึ้นเป็น 4 เท่าตัว(พระคำข้าวเป็น 400 บาท)เมื่อท่านละสังขาร ครบ 30 วัน ให้ปรับราคาวัตถุมงคล ขึ้นเป็น 8 เท่าตัว(พระคำข้าวเป็น 800 บาท)เมื่อท่านละสังขาร ครบ 50 วัน ให้ปรับราคาวัตถุมงคล ขึ้นเป็น 16 เท่าตัว(พระคำข้าวเป็น 1,600 บาท) และให้ทรงราคาอยู่ที่ 16 เท่าตัว....

นับแต่นั้นพวกเราจึงเห็นราคาบูชาทุกอย่างที่เพิ่มขึ้น 16 เท่าตัว(ตัวเลข 16 ผมเดาว่าเกี่ยวเนื่องกับอสงไขบารมีของท่าน) และก็พบว่าเป็นการขึ้นราคาที่เหมาะสม สงเคราะห์ แก่ลูกหลาน ลูกศิษย์จริง ๆ เพราะว่า....

1. หากไม่ขึ้นราคา เช่นราคา พระคำข้าวยังเท่าเดิมที่ 10 บาท หรือแม้แต่ 100 บาท ถามว่า จะมีพระคำข้าว และวัตถุมงคล หลงเหลือ อยู่ที่วัดอีกหรือ คนหลัง ๆ ที่มา จะเป็นอย่างไร....
2. วัตถุมงคลทั้งหมด จะเป็นสิ่งที่ช่วยทำนุ บำรุง ซ่อมแซม อาคาร วิหาร ของวัด ในอนาคต
3. ต่อมา ผมจำไม่ได้ว่าปีอะไร น่าจะประมาณ 2538 เศรษฐกิจกระเจิง ตกต่ำมาก....บรรดาศิษย์ที่มีวัตถุมงคลอยู่เป็นจำนวนมาก ก็จำต้องทยอยนำออกมาให้เช่าบูชากันบ้าง เพื่อบรรเทาฐานะทางครอบครัว....นับว่าท่าน เห็นด้วยญานอันสุดยอดเยี่ยม และเมตตาลูกหลานมาก....

ท่านที่มีความรังเกียจว่า ลูกศิษย์ที่นำเอาวัตถุขององค์หลวงพ่อมาขาย ก็พึงเห็นใจกัน ในส่วนนี้....เคยมีคนถามปัญหาต่อ องค์หลวงพ่อฯ ที่บ้านสายลม(ผมนั่งอยู่ที่นั่นด้วย) ว่า....ไม่กล้าขายพระ กลัวบาป....องค์หลวงพ่อฯ ท่านบอกว่า "อนุญาติให้ขายได้"

ผมว่าถึงท่านจะไม่บอกอนุญาต ผมก็ว่าน่าจะขายได้อยู่แล้ว เพราะว่า....องค์หลวงพ่อฯ เคยบอกญาติโยม และลูกศิษย์ว่า "พระคำข้าว เนื้อสีขาว ๆ น่ะ ทำด้วยความยาก ทำด้วยวิธีเดียวกับพระของสมเด็จโตฯ อีกไม่เกิน 20 ปี ราคาองค์ละเป็นแสน...." (ท่านพูดในปี 2535)

ท่านบอกว่าราคาองค์ละเป็นแสน นี่ ถ้าไม่มีการซื้อ-ขาย จะเป็นแสน ได้อย่างไร ใช่ไหมครับ ผมก็มานั่งตรอง นั่งตรึก ครุ่นคิดเอาเองว่า(นี่ ผมคิดเองน๊ะ)ที่ องค์หลวงพ่อฯ กล่าวไว้นั้น ผมก็ว่า ยังน้อยไป ราคาเป็นแสน ไม่ใช่ราคา 1 แสน จริงไหม....ราคาอาจะเป็น 10 แสน 100 แสน ก็ได้ ใช่ไหมครับ....แต่หากว่าท่าน บอกราคาจริง ๆ ออกไป ก็คงจะแตกตื่นกันวุ่นวายไป....

แล้วราคาพระคำข้าวในปัจจุบัน 1,600 บาท จะเปลี่ยนเป็น 10 แสน 100 แสน ได้อย่างไรครับ....ถ้าพุทธานุภาพไม่ปรากฎ ใครที่ไหนจะเช่าบูชากันครับ ราคาขนาดนี้ คนไทยจะเช่ากันทั้งหมดหรือ....นี่ ก็เป็นการบอกเป็น นัย ๆ ให้พวกเราได้คิดกันเอาเอง นะครับว่า....

มหาสงคราม จะเกิดขึ้น หรือไม่เกิด...แล้วพระคำข้าว ท่านทำพิธีไว้ 5 ล้านองค์....คนอื่น ก็จะมองว่า วัตถุมงคลที่สร้าง ครั้งละ ตั้ง 5 ล้านองค์ จำนวนมากขนาดนี้ ถึงจะดัง ราคาก็ต้องไม่แพง....แล้วใครที่ไหนจะมาเช่าบูชา 5 ล้านองค์ คิดเพียงองค์ละ 1 แสน นี่ต้องใช้เงินเช่าบูชาถึง 5 แสน ล้านบาท....นี่คิดเฉพาะพระคำข้าวน๊ะ ไหนจะพระหางหมาก เหรียญ และอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ...จะเอาเงินมาจากไหนมาบูชา....

จริง ๆ ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น....แต่ทว่าตามความรู้สึกของผม ผมว่า 5 ล้านองค์ นั้น มันน้อยไป สำหรับประชากรประเทศไทย และประชากรโลก....ก็ต้องติดตามกันต่อไป ..ที่พูดมานี้ ก็ไม่ได้บอกให้เชื่อ นะครับ....พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงตรัสสอนว่า อย่าให้เชื่อโดยง่าย ค่อย ๆ ใคร่ครวญ พิจารณา ให้ดีเสียก่อน....

อย่างไรก็ตามไม่เกิน 20 ปี ขององค์หลวงพ่อฯ ที่ท่านกล่าวไว้ ก็คงไม่เกิน 2555 ก็คงไม่นานเกินรอ ที่จะพิสูจน์ความจริง ยกเว้น ผมเอง และเรา ได้ตายไปเสียก่อน....เพราะความตายมันก็ ไม่แน่นอน ว่าจะตายเมื่อไร .... แต่มัน แน่นอน ว่า จะต้อง ตาย....

มาเข้าเรื่องเดิม.... ที่ว่าวัตถุมงคลที่ทันสมัยองค์หลวงพ่อฯ ท่านทำพิธี ก็ยังมีอยู่มากที่วัดฯ....ถามว่า หากเกิดเภทภัย จริง ตูมมา แตกตื่นกันโดยทั่วไป....วัตถุมงคลที่วัด ก็จะมีอภิญญา กล่าวคือ หายวับ ไปกับตา....คือว่า บรรดาศิษย์ นี่แหละ จ้องกันอยู่แล้ว 1,600 ก็ 1,600 เหอะ จะเหลือหรือ....?
.................................................................................


ปีนี้ปี 2554 แล้วน๊ะครับ รีบเช่าหากันซะ หลวงพ่อมรณะภาพ ไปแล้ว 18 ปี ซึ่งอีกแค่ 1 ปีเท่านั้น พระคำข้าวของหลวงพ่อราคาจะองค์ละเป็นแสน ตามคำพยาการณ์ของหลวงพ่อ เพราะอีกไม่นานจะเกิดภัยพิบัติร้ายแรง กับสงครามครั้งใหญ่มากครับ

ใครที่เชื่อก็เก็บพระคำข้าวของหลวง พ่อเอาไว้เยอะๆน๊ะ ราคาตอนนี้แค่องค์ละ 4-5 ร้อยจากเมื่อก่อนองค์ละ 10 บาท แล้วอีกไม่เกิน 1 ปีราคาจะองค์ละเป็นแสน(เพราะเกิดสงคราม และภัยพิบัติ ใหญ่ครับ)ใครเชื่อก็ดีครับ แต่ถ้าไม่เชื่อก็ทำใจเอาไว้เลยน๊ะครับเพราะ เมื่อถึงเวลานี่ จะหาไม่ได้อีกแล้วน๊ะครับ เพราะลูกศิษย์หลวงพ่อตามเก็บหมด ไม่มีเหลือหรอกครับ อย่าหาว่าไม่เตือนน๊ะครับ

ก็เหมือนเรามีเงินเก็บนั่นแหละครับ เอาง่ายๆว่าถ้ามีซัก 20 องค์ ก็สามารถนำไปเป็นทุนในอนาคตได้ เราก็มีเงินเก็บ อยู่ 2 ล้านจากพระคำข้าวนี่แหละครับ เพราะถ้าหลวงพ่อพยากรณ์เอาไว้นี่เกิดขึ้นตรงหมดทุกอย่างครับ อย่างเรื่องบ่อน้ำมัน หลวงพ่อบอกว่ามี มีบ่อใหญ่ซะด้วย ซึ่งเมื่อสมัย 20 - 30 ปีที่ผ่านมาไม่มีคนเชื่อหลวงพ่อซักคนครับ ตอนนี้อยากจะหัวเราะให้ฟันหาย ก็ในเมืองไทยผลิตน้ำมันเองกันแล้วครับ เพราะเค้าค้นพบบ่อน้ำมันในเมืองไทยกันแล้วน่ะครับ ส่วนเรื่องภัยพิบัติ กับสงครามครั้งใหญ่นี่เกิดขึ้นแน่ๆครับ ร้ายแรงมากด้วยเอาไปคิดพิจารณาให้ดีๆน๊ะครับ เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอกเน้อ.....!!

โพสต์ข้อความโดยคุณ dang9 เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 05:01:10 AM

ที่มา http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=1374.0

 

บ้านกัดดาฟี ลิเบีย

ผู้เชี่ยวชาญเผย จรวดโทมาฮอว์ค ลูกละ 36 ล้านบาท แม่นยำที่สุด
21 มี.ค. รายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศแจ้งว่า หลังจากเมื่อเช้ามืดของวันที่ 20 มี.ค. สหรัฐ อังกฤษ และประเทศพันธมิตรได้เปิดปฏิบัติการ “โอดิสซี ดอว์น” หรือ ปฏิบัติการเดินทางตอนรุ่งสาง โดย ยิงจรวดโทมาฮอว์ค 112 ลูกและเครื่องบินทิ้งระเบิด 40 ลูก โจมตีเป้าหมายทางทหารของลิเบียอย่างหนัก
ทั้งนี้ นายมุสซา อิบรอฮิม โฆษกของลิเบีย เปิดเผยว่า ที่พักอาศัยของมูอัมมาร์ กัดดาฟี ในกรุงตริโปลี ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธลูกหนึ่งได้รับความเสียหายย่อยยับ ซึ่งเจ้าหน้าที่กองกำลังตะวันตกรายหนึ่งระบุว่า เป็นการทำลายศูนย์บัญชาการ และควบคุมการสู้รบของผู้นำลิเบีย โดยอาคารดังกล่าว อยู่ห่างจากเต็นท์ที่ พันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี ใช้เป็นสถานที่พบกับผู้คนแค่เพียง 50 เมตร
นอกจากนั้น โฆษกของรัฐบาลลิเบีย ยังกล่าวว่า การกระทำของพันธมิตรเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนโดยการยิงขีปนาวุธครั้งนี้อาจไปถูกพลเรือนหลายร้อยคน ที่อยู่ในที่พักของ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ห่างจากอาคารที่ถูกโจมตีไปเพียง 400 เมตร
จรวดโทมาฮอว์ค

ด้าน ผู้เชี่ยวชาญทางการทหารบอกว่า จรวดโทมาฮอว์ครุ่น บีจีเอ็ม-109 ซึ่งกองกำลังสหรัฐฯและอังกฤษ ใช้ในปฏิบัติการโจมตีลิเบียกว่า 110 ลูกเมื่อคืนวานนี้ เป็นอาวุธที่ใช้เพื่อยิงเป้าหมายสำคัญระยะไกลที่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสามารถยิงจากเรือรบของสหรัฐฯ หรือเรือดำน้ำ ได้ระยะไกลสุดถึง 2,500 กิโลเมตร ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970 โดยบริษัทเจเนอรัล ไดนามิค บริษัทพัฒนาอาวุธของสหรัฐ
เมื่อยิงจรวดโโทมาฮอว์คออกจากฐานยิงแล้ว มอเตอร์ที่ใช้ในการขับเคลื่อนจะเร่งความเร็วของจรวดได้สูงสุดถึง 880 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมระบบบอกตำแหน่งบนพื้นโลก หรือระบบจีพีเอส มีส่วนทำให้การยิงจรวดโทมาฮอว์คออกจากฐานยิง ใช้เวลาน้อยลง และแม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นอาวุธที่ยากต่อการตรวจจับด้วยเรดาร์ เนื่องจากมีระดับการบินที่ต่ำ
อนึ่ง จรวดโทมาฮอว์ค มีน้ำหนัก 1.5 ตัน หรือราว 1,500 กิโลกรัม มีราคาระหว่าง 6 แสน ถึง 1 ล้าน 2 แสนดอลลาร์ หรือราว 18 ล้าน ถึง 36 ล้านบาทต่อลูก โดย จรวดโทมาฮอร์คถูกสหรัฐฯนำมาใช้ในสงครามหลายครั้ง เพราะเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และไม่ค่อยพลาดเป้าหมาย

เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประมวลภาพ ลิเบียเดือด!! สหรัฐ-อังกฤษ นำชาติตะวันตกโจมตี กองกำลังกัดดาฟี
<SMALL></SMALL>วานนี้ 20 มี.ค. 2011

กัดดาฟี ยกธงขาว ประกาศหยุดยิง หลังกองกำลังนานาชาติ ถล่มลิเบีย
<SMALL></SMALL>หลังนานาชาติโจมตีหนัก
สหรัฐฯ นำทีม กองกำลังชาติตะวันตกถล่มลิเบีย
<SMALL></SMALL>ใช้กำลังทางอากาศ ทะเล กดดัน กัดดาฟี ให้หยุดยิง เจ้าตัวสู้ตายเปิดคลังอาวุธแจกประชาชน


<LI class=news_src_item>

รวมภาพความเสียหาย และการปะทะกัน หลังจากสหรัฐ-อังกฤษ นำชาติตะวันตกโจมตีกองกำลังกัดดาฟี ด้วยขีปนาวุธ และเครื่งบินรบชนิดต่างๆ ที่ลิเบีย วานนี้ (20 มี.ค.)
ลิเบีย โดนถล่ม

รถถังคันหนึ่งเกิดไฟลุกท่วม หลังถูกโจมตีด้วยระเบิด ที่ลิเบีย

อีกมุมหลังลิเบียถูกบอมส์

กองกำลังกัดดาฟี มองดูซากความเสียหายหลังถูกถล่ม

กองกำลังลิเบียยิงกระสุน ตอบโต้การโจมตี ของกองกำลังนานาชาติ

อีกมุมกับการโจมตีลิเบีย ของกองกำลังนานาชาติ

กัดดาฟี ถูกโจมตี

กองกำลังกัดดาฟี พยายามสะกัดกั้นการโจมตีของกองกำลังนานาชาติ

แสงจากระสุนปืน

เครื่องบินของกองกำลังนานาชาติ ออกปฏิบัติการณ์

ความเสียหายของลิเบีย หลังถูกกองกำลังนานาชาติโจมตี

ไก่ตัวหนึ่งวิ่งหาที่หลบภัย หลังลิเบียถูกถล่ม

หลุ่มควันมหึมาลอยคละคลุ้งทั่วลิเบีย

วินาทียิง โฮมาฮ็อค


<SCRIPT src="http://player.ooyala.com/player.js?height=383&embedCode=MzOXViMjpcYzf7xmaM1MtOjTfPh4Lb-T&deepLinkEmbedCode=MzOXViMjpcYzf7xmaM1MtOjTfPh4Lb-T&width=682"></SCRIPT>
<OBJECT id=ooyalaPlayer113699447_107pto6 class=OoyalaVideoPlayer name=ooyalaPlayer113699447_107pto6 classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=682 align=middle height=383 type=application/x-shockwave-flash>
























> > > > > ></OBJECT>


<LI class=news_src_item>

 

มีคนเห็นนิมิตประเทศอิสราเอลโดน NUKE จากลิเบีย​

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ zz
*****!!!!!**** Woman who predicted 911 Saw Libya Nuke Israel! ****!!!!****

Sarah Hoffman committed suicide in 1979 and was told she had to come back and finish her earth life but first she was shown the end of the world.

"This panoramic view of the earth came into view and then came closer and closer like I had been out into space and was flying towards it.

I knew that this was to help me make my decision to go back to earth, to my terrible life, because part of me wanted to go back to the beautiful spirit world or paradise and part of me felt the need to go back into my body and change my life. It was kind of a tug of war and what I was going to see was to help me understand what I would go through if I went back into my clay body.

It played out again just like a video tape in fast forward motion and yet again I could assimilate and see everything clearly and perfectly. As the world zoomed up to me I saw the whole world and then the various countries.

I don't know the countries of the world very well, but as I looked at these lands I instinctively knew what countries they were. I was looking at the Middle East and watched as a missile flew from Libya and hit Israel with a big mushroom cloud. I knew that the missile was actually from Iran but people from Iran had been hiding it in Libya and fired it. I knew that it was a nuclear bomb. Almost immediately missiles started flying from one country to another, quickly spreading to all over the world. I also saw that many nuclear explosions did not come from missiles but from ground bombs of some kind. I knew that in the future there would be a nuclear war throughout the world and this is how it would start
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ฉันมองไปที่ ตะวันออกกลางและมองเห็น จรวดมิซซายยิงจากลิเบีย และไปตกที่อิสราเอลและมีควันพวยพุ่งเหมือนรูปดอกเห็ดบนท้องฟ้า ฉันรู้ดีว่าจรวดมิซซายจริงๆ มาจากอิหร่านแต่คนอิหร่านไปซ่อนตัวอยู่ในลิเบีย และยิงไปอิสราเอล ฉันรู้ดีว่ามันคือ อาุวุธนิวเคลียร์

หลังจากนั้นโดยทันทีทันควัน ก็มีจรวดมิซซายเริ่มยิงจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง กระจายเร็วมากไปทั่วโลก ฉันยังเห็นอีกว่าการระเบิดของนิวเคลียร์ ไม่ได้มาจากมิซซายแต่มาจากการระเบิดภาคพื้นดินบางอย่าง ฉันก็รู้ว่าในอนาคตจะมีสงครามนิวเคลียร์ไปทั่วโลกและนี่คือ จุดเริ่มว่ามันเริ่มอย่างไร<!-- google_ad_section_end -->

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Falkman<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4502459", true); </SCRIPT> แปลและเรียบเรียง

ที่มา ชนวนสงครามโลกครั้งที่ 3 เปิดแล้ว?

 

สงครามล้างโลกเริ่มแล้วหรือนี่ เวลาของมนุษย์เริ่มเหลือริบหรี่ลงทุกที