ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

"จงตระหนักแต่อย่าตื่นตระหนก"​

ไม่ควรออกจากงานอย่างเด็ดขาดครับ ถ้าใครมีความคิดแบบนี้ถือว่าขาดปัญญาในการรับรู้ข่าวเรื่องของภัยพิบัติเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากตัวคุณเองจะอดตายก่อนเกิดภัยพิบัติแล้ว คุณยังจะพาครอบครัวไปสู่ความทุกข์ยากโดยไม่จำเป็นอีกด้วย

เวลาที่จะเกิดภัยพิบัติถึงขั้นที่จะต้องอพยพย้ายที่อยู่กันนั้น ข่าวเรื่องภัยพิบัติที่ออกข่าวทาง ทีวี วิทยุ และตามหนังสือพิมพ์ต่างๆนั้น จะเป็นสัญญาณบอกให้คุณได้รับรู้เองว่า ถึงเวลาต้องอพยพแล้วหรือยัง เช่นถ้ามีข่าวแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่เมืองกาญจน์ หรือมีแผ่นดินไหวรุนแรงในบริเวณนั้น จนทำให้เขื่อนแตก ถ้าคุณมีบ้านอยู่ในกรุงเทพฯ และติดตามข่าวเรื่องภัยพิบัติอยู่เสมอ คุณก็จะรู้ได้ทันทีว่าน้ำจำนวนมหาศาลนั้น จะมาถึงบ้านคุณในเวลากี่ชั่วโมง และควรจะรีบอพยพไปทางไหนบ้างครับ

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กองทัพ'กัดดาฟี'ตีโต้ยึดคืนเมืองสำคัญ มหาอำนาจถกหนัก'ติดอาวุธ'ให้กบฏ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>30 มีนาคม 2554 22:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

กบฏลิเบียขับรถมุ่งหน้าสู่เบนกาซี หลังเมืองราส ลานูฟ ถูกกองกำลังของกัดดาฟียึดคืนไปได้​

เอเอฟพี/เอเจนซี - นานาชาติเห็นพ้องในที่ประชุมกรุงลอนดอนเมื่อวันอังคาร (29) ย้ำชัดว่า มูอัมมาร์ กัดดาฟี จะต้องก้าวลงจากอำนาจผู้นำลิเบีย พร้อมกับสนับสนุนให้องค์การนาโต้เป็นหัวเรือในการบังคับมติของสหประชาชาติต่อไป ขณะที่มหาอำนาจบางประเทศเริ่มตรึกตรองถึงมาตรการสนับสนุนด้านอาวุธแก่นักรบฝ่ายกบฏ ด้านสถานการณ์การสู้รบในสงครามกลางเมือง กองทัพของกัดดาฟีสามารถยึดราส ลานูฟ เมืองยุทธศาสตร์กลับคืนจากฝ่ายกบฏได้เมื่อวันพุธ(30)

ที่ประชุมผู้แทนระดับสูงของ 40 ประเทศและองค์การระหว่างประเทศ ณ กรุงลอนดอนเมื่อวันอังคาร เห็นพ้องต้องกันที่จะให้องค์การนาโต้เป็นหัวเรือในการโจมตีทางอากาศต่อฐานที่มั่นของกองทัพลิเบียต่อไปจนกว่ากัดดาฟีจะยอมปฏิบัติตามมติของสหประชาชาติที่ให้ยุติการสังหารพลเรือน

ฟรังโก ฟลาตตินี รัฐมนตรีการต่างประเทศของอิตาลี ระบุว่า “ที่ประชุมลอนดอนได้บรรลุฉันทามติ โดยชาติที่เข้าร่วมประชุมต่างเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ว่ากัดดาฟีจะต้องออกจากลิเบีย”

“พวกเราทั้งหมดจะต้องเพิ่มแรงกดดันและโดดเดี่ยวระบอบของกัดดาฟีด้วยมาตรการที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อไป” รัฐมนตรีการต่างประเทศฮิลลารี คลินตัน ของสหรัฐฯ กล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุม

“นี่รวมถึงมาตรการที่เป็นเอกภาพทั้งในด้านการเมืองและการทูตเพื่อทำให้แน่ชัดว่า กัดดาฟีจะต้องลงจากอำนาจ” คลินตัน สำทับ

นอกจากนี้ที่ประชุมยังตกลงจะจัดตั้งกลไกประสานงานส่วนกลางขึ้น ซึ่งประกอบด้วย 20 ประเทศและองค์การระหว่างประเทศ ที่รวมชาติอาหรับ, สหภาพแอฟริกาและสันนิบาตอาหรับอยู่ในกลุ่ม กลุ่มดังกล่าวจะเป็นตัวประสานความร่วมมือในการวางรากฐานและสนับสนุนกระบวนการก้าวไปสู่ประชาธิปไตยของลิเบีย

สหรัฐฯ, อังกฤษ และกาตาร์ ยังเสนอแนะในที่ประชุมด้วยว่า นานาชาติควรเปิดทางให้กัดดาฟี พร้อมด้วยครอบครัวของเขา สามารถลี้ภัยยังต่างประเทศได้ หากพวกเขายอมรับคำขาดจากประชาคมโลกให้รีบยุติเหตุนองเลือดในประเทศที่ดำเนินมานาน 6 สัปดาห์นี้

นอกเหนือจากนี้ ชาติมหาอำนาจหลายประเทศก็กำลังคิดใคร่ครวญที่จะให้การสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ฝ่ายกบฏในลิเบียเพื่อต้านทานการโจมตีของทหารกัดดาฟีด้วย โดยที่รัฐมนตรีการต่างประเทศอแลง ชูปเป ของฝรั่งเศส กล่าวในการประชุมที่ลอนดอนว่า ปารีสพร้อมแล้วที่จะถกประเด็นดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ยังไม่ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนนัก ทว่าเขาก็แย้มว่า สหรัฐฯ ไม่ได้ปิดกั้นทางเลือกดังกล่าว

“ผมไม่ได้คัดค้าน แต่ก็ยังไม่ได้คล้อยตาม ตอนนี้เรากำลังอยู่ในขั้นประเมินบางส่วนเกี่ยวกับสิ่งที่กองทัพกัดดาฟีกำลังจะทำต่อไป” ผู้นำทำเนียบขาว ระบุในการประชุมแถลงข่าวที่ทำเนียบขาววันอังคาร

โอบามา ยังกล่าวเสริมด้วยว่า ตัวเขามั่นใจเต็มเปี่ยมว่า ท้ายที่สุดแล้ว กัดดาฟีจะต้องพ้นจากบังเหียนอย่างแน่นอน

ขณะที่นางคลินตัน ระบุว่า ประเด็นการติดอาวุธให้พวกกบฏนั้นไม่ได้บรรจุอยู่ในวาระการประชุมในลอนดอนที่ผ่านมา ทว่าก็ย้ำว่า รัฐบาลวอชิงตันตีความว่า มติที่ 1973 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็น ได้ลบล้างข้อห้ามไม่ให้มีการส่งอาวุธให้แก่ผู้ใดก็ตามในลิเบีย

“มันเป็นการตีความของเราที่ว่า มติที่ 1973 นี้ ได้แก้ไขหรือล้มล้างคำสั่งห้ามการส่งมอบอาวุธแก่ผู้ใดก็ตามในลิเบียอย่างเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้ จึงสามารถขนถ่ายอาวุธเข้าไปในลิเบียอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ หากมีประเทศเลือกที่จะทำเช่นนั้น” คลินตัน ระบุ

แต่กระนั้นก็ตาม เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีการต่างประเทศของรัสเซีย ออกมาระบุว่า รัฐบาลมอสโกเชื่อว่า นานาชาติไม่มีสิทธิ์ที่จะไปติดอาวุธให้แก่พวกกบฏในลิเบียภายใต้มติที่ว่านี้ของยูเอ็น

“เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐมนตรีการต่างประเทศของฝรั่งเศสได้ระบุว่า ปารีสเตรียมพร้อมที่จะหารือกับชาติภาคีในประเด็นการจัดหาอาวุธให้แก่ฝ่ายค้านของลิเบีย” ลาฟรอฟกล่าวในการแถลงข่าว “จากนั้นแทบจะทันใด เลขาธิการขององค์การนาโต้ พลเอก ฟอก ราสมุสเซน ก็ออกมาประกาศว่า ปฏิบัติการในลิเบียมีเป้าหมายเพื่อปกป้องชีวิตพลเรือน ไม่ใช่เพื่อไปติดอาวุธให้กับพวกเขา ซึ่งตรงนี้ เราเห็นด้วยกับเลขาธิการนาโต้เป็นที่สุด”

ด้านสถานการณ์การสู้รบในลิเบีย นักข่าวภาคสนามรายงานว่า กองกำลังของกัดดาฟีได้ยาตราทัพเข้าประชิดเมืองราส ลานูฟ ที่อยู่ห่างไปทางตะวันตกของเบงกาซี 370 กิโลเมตรเมื่อช่วงเช้าวันพุธ (30) จากนั้นก็เปิดฉากโจมตีใส่เมืองด้วยปืนใหญ่, จรวด และรถถัง จนกระทั่งสามารถยึดเมืองยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้สำเร็จในเวลาต่อมา

“กัดดาฟีโจมตีเราด้วยจรวดขนาดใหญ่ เขาเข้าไปในราส ลานูฟแล้ว” ฟารัจ มูฟตะห์ นักรบฝ่ายกบฏ บอกกับรอยเตอร์ หลังถอยร่นออกจากเมืองดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร (29) นักรบติดอาวุธของฝ่ายกบฏได้เคลื่อนพลเข้าไปในรัศมี 100 กิโลเมตรห่างจากซีราเต เมืองบ้านเกิดของกัดดาฟี โดยถือเมืองนี้เป้าหมายหลักที่จะเข้ายึดครอง ณ เวลานี้ อย่างไรก็ตาม ทัพกัดดาฟีได้ตอบโต้ด้วยการกระหน่ำยิงใส่พวกกบฏจนต้องถอยกรูดกลับเมืองบิน จาวัด

“เราไม่สามารถฝ่าดงกระสุนปืนใหญ่ของกัดดาฟีได้ด้วยปืนกลของพวกเรา” นักรบกบฏนามว่า รอมะดอน เบอร์กี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี จากในเมืองบิน จาวัด ก่อนที่ตัวเขาและสหายนักรบจะล่าถอยกลับไปทางตะวันออกไกลถึงเมืองราส ลานูฟ

“พวกเราจำเป็นต้องถอนกำลังกลับอย่างรวดเร็ว เพราะมันอันตรายมาก แต่ถ้าหากเครื่องบินรบของฝรั่งเศสกลับมาแล้วล่ะก้อ เราจะสามารถบุกเข้าไปในซีราเตได้ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน หรือแม้กระทั่งบุกเข้าไปถึงกรุงตริโปลีได้ภายใน 3 วัน” เขา คุย

โฆษกของฝ่ายกบฏยังระบุด้วยว่า ขบวนรถถังและทหารภักดีต่อกัดดาฟียังคงดาหน้าถล่มเมืองมิสราตา เมืองใหญ่อันดับสามของประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองหลวง 214 กิโลเมตร โดยโฆษกผู้นี้เตือนด้วยว่า อาจเกิดการสังหารหมู่ขึ้นในไม่ช้านี้ หลังจากแพทย์รายหนึ่งในเมืองดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า นับตั้งแต่ที่ทัพกัดดาฟีเปิดฉากโจมตีมิสราตาตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมเป็นต้นมา มีพลเรือนถูกสังหารไปแล้วถึง 142 ราย และอีก 1,400 ได้รับบาดเจ็บ

ด้านปฏิบัติการบังคับเขตห้ามบินในน่านฟ้าลิเบียโดยกองกำลังแนวร่วมนั้น นักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า มีเสียงระเบิดดังขึ้นในกรุงตริโปลีหลายครั้งในช่วงค่ำวันอังคาร (29) โดยเครื่องบินตะวันตกได้บอมบ์ขีปนาวุธโจมตีใส่เป้าหมายใกล้กับเขตบ้านพักของกัดดาฟีที่ถูกอารักขาหนาแน่น และฐานที่มั่นของทหารลิเบียในเขตชานเมืองทาจูรา

เสียงระเบิดครั้งแรกดังขึ้นเมื่อตอนประมาณ 16.30 น. ตามเวลากรีนนิช (23.30 น. เวลาเมืองไทย) ตามมาด้วยระเบิดครั้งที่สองที่บริเวณเขตบาบ อัล-อาซีซียา ในช่วงเวลาห่างกันเพียง 3 นาที ส่วนเขตฐานทัพในทาจูราก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นถึง 7 ครั้ง

ขณะที่กองทัพอังกฤษระบุว่า เครื่องบินขับไล่กึ่งทิ้งระเบิด ทอร์นาโด 2 ลำของตน ได้บินโจมตียานเกราะ ของทหารกัดดาฟี และอุปกรณ์ปืนใหญ่นอกเมืองมิสราตา ส่วนเพนตากอน แถลงเมื่อวันอังคารว่า เครื่องบินรบของตนได้บินโจมตีในเขตข้าศึกรวม 115 เที่ยวในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และได้ยิงจรวดร่อนโทมาฮอว์กไปแล้วอีก 22 ลูก

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000040431
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอบคุณครับ ค่อยชื่นใจหน่อย

 

หลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านคือใคร?​

​

คือพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้ครับ ที่พระองค์ท่านได้อธิษฐานรูปกาย ให้ปรากฏเป็นพระภิกษุชรารูปหนึ่ง คอยเที่ยวอบรมสั่งสอนให้กับพระภิกษุที่ออกธุดงค์ อยู่ตามป่าเขาลำเนาไพร จนชาวพุทธเราเรียกกันจนติดปากว่า"หลวงปู่เทพโลกอุดร" ครับ

อย่าคิดว่าพระพุทธเจ้าท่านปรินิพพานไปแล้ว จะไม่สามารถมายุ่งเกี่ยวอะไรกับชาวโลกได้อีกนะครับ เพราะนั่นเป็นความคิดที่ผิดถนัด ขึ้นชื่อว่าพุทธวิสัย หรือความสามารถของพระพุทธเจ้านั้น เป็นเรื่องอจินไตย คือเกินกว่าที่คนสามัญธรรมดาอย่างเราๆท่านๆ จะคาดคิดไปถึงได้ครับ -เกษม-

 

มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อประมาณต้นปี ฝันเห็นท่าน ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยฝันเห็นท่าน
ในฝันเห็นมีพระภิกษุรูปหนึ่ง ท่าทางสง่างามมากครับ แล้วก็มีคนเรียกชื่อท่านว่าหลวงปู่โลกเทพอุดร ในฝันดีใจมากที่รู้ว่าเป็นท่าน เดินไปกับท่าน ท่านก็ชี้ให้มองไปที่ป่าและเขา จากนั้นก็หายไป ก็ไม่รู้ว่าสื้อถึงอะไร สะดุ้งตื่นทันทีเลย พอตื่นขึ้นมาดูในรูปเปรียบเทียบก็ไม่ค่อยคล้ายท่าน แต่ก็มานั่งคิดดูนะว่าเราคิดมากไปเองหรือเปล่าฝันถึงปรุงแต่งเรา(สงสัยคงจะบ้าฝัน) ตัวเราเองนี่ก็ยังเป็นคนหลงอยู่ ยังโง่เขลาเบาปัญญาอยู่ ไม่รู้ตามความเป็นจริงอยู่ เพราะคนที่สามารถเห็นท่านได้หรือสื่อถึงท่านได้ท่านนั้นคงจะเป็นผู้บุญบารมีและมีอภิญญามาก แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ดี ก็ถือเป็นมงคลยิ่งแล้วครับ

แต่ก่อนที่จะฝันได้เดินทางไปร่วมงานบุญหล่อพระหลวงปู่โลกเทพอุดรมาครับ

 

UFO Fleet Over Fukushima Japan March 26, 2011


<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/b6kEoYH043I?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/b6kEoYH043I?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ในหลวง” พระราชทานถุงยังชีพให้ราษฎรตรังผู้ประสบอุทกภัย</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>31 มีนาคม 2554 14:38 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ นำถุงยังชีพพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค มามอบให้ราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ วัดแจ้ง ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง

วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนายประสงค์ พิทูรกิจจา เลขาธิการมูลนิธิฯ พร้อมคณะจากส่วนกลาง นำถุงยังชีพพระราชทาน และเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้ราษฎรที่ประสบอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นจำนวน 1,000 ครอบครัว ณ วัดแจ้ง ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง

นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วยข้าราชการ และคณะเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง ร่วมให้การต้อนรับคณะ โดยมีราษฎรที่ประสบอุทกภัย จำนวน 1,000 คน เดินทางมารับถุงยังชีพพระราชทานดังกล่าว ซึ่งต่างก็รู้สึกปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ จากกรณีที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก นับตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2554 เป็นต้นมา ได้ทำให้จังหวัดตรังประสบอุทกภัยครบทั้ง 10 อำเภอ ในพื้นที่ 68 ตำบล 5 เทศบาล 499 หมู่บ้าน มีราษฎรประสบภัยแล้ว 28,435 ครัวเรือน หรือ 51,865 คน

ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000040739

 

คุณเกษม ช่วยตรวจสอบข้อมูลด้วยครับ
เกี่ยวกับ "หลวงปู่เทพโลกอุดร"

คืออาจไม่ใช่ตามที่คุณเกษมได้อธิบาย.....

 

น่านสิครับ ค่อนข้างขัดแย้งความรู้เดิมทั้งหมด ผมว่าืท่าานก้ออาจจะเป็นอริยสงฆ์องค์หนึ่งเท่านั้น

 

[FONT=Tahoma,]วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7427 ข่าวสดรายวัน


พบรังสียุ่น ใกล้ถึงไทยแล้ว

ล่าสุดลมหอบมาที่เวียดนาม สำนักงานปรมาณูสั่งจับตา ตรวจอากาศเข้มวันละ3เวลา


ใกล้ มาถึงไทยทุกขณะแล้ว รังสีนิวเคลียร์จากญี่ปุ่น ล่าสุดตรวจพบลมพัดปลิวมาเวียดนาม แต่ไม่เข้มข้นพอที่จะเป็นอันตรายกับมนุษย์ ด้านสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติของไทยปลิวมาเวียดนามแล้ว แต่ไม่เข้มข้นพอที่จะเป็นอันตรายกับมนุษย์ ด้านสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติของไทย สั่งหน่วยตรวจจับรังสีทุกแห่งจับ ตาวัดอากาศรายงานให้ทราบวันละ 3 เวลา ด้านอาจารย์เทคโนโลยีนิวเคลียร์ จุฬาฯ เชื่อไม่กระทบกับคนไทย เพราะเจือจางได้ภายใน 1 อาทิตย์

เอเอฟพี รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค. สารกัมมันตรังสีแพร่กระจายไปทั่วเอเชีย รัฐบาลหลายประเทศทั้งจีน เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ต่างตรวจพบสารกัมมันตรังสีในอากาศ ซึ่งเชื่อว่าแพร่กระจายมาจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะของญี่ปุ่นที่เกิด การรั่วไหล แต่ปริมาณที่ตรวจพบอยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานมาก จึงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

นางทีน่า เซอร์โบลิส โฆษกสถาบันวิจัยนิวเคลียร์ฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เราประกาศขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากสารกัมมันต รังสีที่ตรวจพบมีเพียงเล็กน้อยในอากาศ

ด้านนายหยุน ชูลโฮ หัวหน้าสถาบันนิวเคลียร์เกาหลี กล่าวว่า ตนสามารถยืนยันได้ว่าปริมาณสารกัมมันตรังสี จะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนเกาหลีอย่างแน่นอน

ก่อนหน้านี้ สถานีตรวจวัดนิวเคลียร์ของทาง การสหรัฐ ตรวจพบสารกัมมันตรังสีในนครลาสเวกัส รัฐเนวาดา ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าสารกัมมันตรังสีฟุ้งข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกมาไกลจาก ญี่ปุ่น ทั้งยังตรวจพบรังสีในน้ำฝนที่รัฐโอไฮโอด้วย

ด้านภาคีสนธิ สัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ (ซีทีบีทีโอ) ได้พยากรณ์ว่า กลุ่มเมฆรังสีที่เกิดจากการรวมตัวของสารกัมมันตรังสีที่รั่วไหลออกจากโรง ไฟฟ้านิวเคลียร์ญี่ปุ่นจะลอยออกมาทางใต้ของญี่ปุ่นและเข้าสู่ภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ โดยคาดว่าเมฆรังสีจะเดินทางมาถึงอินโดนีเซียและมาเลเซีย วันที่ 28 และ 29 มี.ค. ตามลำดับ เนื่องจากสถานีตรวจสอบของซีทีบีทีโอตรวจพบสารกัมมันตรังสี ขณะที่สถานีซึ่งอยู่ในฟิลิปปินส์และอยู่ใกล้กับประเทศเวียดนามมากที่สุดก็ ตรวจพบรังสีไอโซโทป โดยคาดว่ารังสีจะพัดไปทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเวียดนามและหลัง วันที่ 29 มี.ค. อาจจะมีกลุ่มเมฆรังสีใกล้เกาะ ไหหนานของจีนและจ.ก่าเมาและเกาะฟูก๊วก ซึ่งอยู่นอกชายฝั่งทะเลทางตอนใต้ของเวียดนาม

ขณะเดียวกัน เว็บไซต์เวียดนามเน็ตรายงานว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเวียดนาม ประกาศว่า ตรวจพบสารกัมมันตรังสีในชั้นบรรยากาศ แต่ปริมาณน้อยมากและไม่เป็นอันตราย แม้กรมอุตุนิยมวิทยาจะพยากรณ์ไว้ว่า เป็นไปไม่ได้ที่ลมจะพัดฝุ่น หรือสารอันตรายจากญี่ปุ่น มาทางทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ของเอเชียในช่วง 2-3 วันข้างหน้า หรือแม้แต่ช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.

ด้านสถาบันพลังงานปรมาณูเวียดนามเผย ว่า สถานีวัดรังสีทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตรวจพบไอโซโทปรังสีในอากาศ ขณะที่กรมตรวจสอบคุณภาพสัตว์น้ำ ตรวจพบไอโซโทปรังสีปนเปื้อนในน้ำและอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่นด้วย กระทรวง เกษตรและการพัฒนาชนบท จะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบตัวอย่างอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่นตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 1 ก.ค.

นาย แพทย์เหวียน ฮู เฮีย หัวหน้าสถาบันรังสีการแพทย์และเนื้องอกของกองทัพเวียดนาม กล่าวว่า ไอโซโทปรังสีมีปริมาณน้อยมาก ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และจะสลายตัวไปได้เองในเวลา 8 วัน ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ทางการเวียด นามจะแจกจ่ายไอโอดีนให้กับประชาชนเพื่อป้องกันรังสี

วันเดียวกัน นายลภชัย ศิริภิรมย์ รักษาการผอ.สำนักกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ (สน.) สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กล่าวถึงกระแสข่าววิตกกังวลว่ากัมมันตรังสีจะแพร่กระจายมาถึงประเทศไทย หลังพบการแพร่กระจายในประเทศฟิลิปปินส์และเวียดนามแล้วว่า ต้องดูว่าสถานีตรวจวัดอากาศของฟิลิปปินส์รายงานมาเป็นแบบไหน แต่ตอนนี้ประเทศไทยยังปกติอยู่ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลยตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุในญี่ปุ่น จนกระทั่งหลังเกิดเหตุ ประเทศไทยก็ยังไม่มีระดับรังสีสูงขึ้น สถานีของเรายังตรวจวัดไม่ได้ ทั้งนี้โดยทั่วไปการแพร่กระจายของกัมมันตรังสีจะอยู่ในลักษณะของฝุ่น กัมมันตรังสีในอากาศ ไม่ใช่ลักษณะของเมฆฝนอย่างที่หลายคนเข้าใจ ส่วนจะแพร่ไปไกลแค่ไหน เร็วหรือช้าเพียงไร ขึ้นอยู่กับกระแสลมเป็นหลัก

ผู้ สื่อข่าวถามว่า มีโอกาสที่จะแพร่กระจายมาถึงประเทศไทยหรือไม่ นายลภชัยกล่าวว่า คงตอบได้ยาก เพราะถ้ามาถึงจริงๆ โดยหลักแล้วก็จะถูกมวลอากาศทำให้เจือจางมาก ตนก็ไม่แน่ใจว่า ถ้ามาถึงประเทศไทยจะมีปริมาณมากน้อยแค่ไหน ไม่อยากให้ข้อมูลที่จะทำให้ประชาชนตื่นตระหนก แต่ยืนยันว่า สน. จะรายงานผลการตรวจวัดวันละ 3 เวลา คือ เวลา 07.00 น., 12.00 น. และ 17.00 น. ประชาชนสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์สำนักงาน Office of Atoms for Peace - สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ หรือโทรศัพท์มาสอบถามได้โดยตรง

"ถ้าเราตรวจพบ แม้แต่ขึ้นสูงเป็นเท่าตัวจากระดับปกติ เราก็ต้องมีการสำรวจแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น และถ้าสูงเกินกว่า 20 เท่าตัวแล้วก็ต้องมีการเตือนให้ประชาชนอยู่ในบ้าน อย่าออกไปไหน เราจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะแน่นอน ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ยืนยันว่าสถานการณ์ในประเทศไทยขณะนี้ยังปกติอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วง" นาย ลภชัยกล่าว

ด้านนายนเรศน์ จันทร์ขาว รองศาสตราจารย์ ประจำภาควิชานิวเคลียร์เทคโนโลยี คณะวิศว กรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในประวัติศาสตร์เคยมีกรณีที่จีนทดลองระเบิดนิวเคลียร์ แล้วพบมีการแพร่กระจายกัมมันต ภาพรังสีมาถึงประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ที่กระแสลมจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือพัดเข้าสู่ประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สำนัก งานปรมาณูเพื่อสันติ มีเครื่องมือตรวจวัดความไวสูง แม้จะมีปริมาณกัมมันตรังสีน้อยมาก เครื่องก็จะสามารถตรวจวัดได้ ซึ่งเครื่องมือนี้มีการติดตั้งในหลายจังหวัดทั่วประเทศ หากมีการแพร่กระจายมาถึงก็สามารถทราบได้ทันที

นายนเรศน์ กล่าวอีกว่า โดยทั่วไปลักษณะการแพร่กระจายของกัมมันตภาพรังสีจะเหมือนกับควัน คือ ขึ้นอยู่กับทิศทางลมเป็นส่วนใหญ่ แต่กรณีนี้จะเปรียบเทียบกับการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลไม่ได้ เพราะไม่ได้ขึ้นไปสูง จึงแพร่กระจายไปได้ไม่มาก และไม่ไกล ครั้งนี้หากแพร่กระจายมาถึงประเทศไทยจริงๆ อาจอยู่ในปริมาณที่เครื่องมือตรวจรับได้ แต่คงไม่ถึงขนาดทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพแต่อย่างใด เพราะระยะทางจากต้นกำเนิดไกลมาก และมีปริมาณต่ำมากๆ ขอให้ติดตามข้อมูลจากสำนัก งานปรมาณูเพื่อสันติจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ แต่เรียนให้สบายใจ ณ ขณะนี้ว่า ถึงจะตรวจวัดได้ ก็เป็นระดับที่ปลอดภัย

สำนัก ข่าวเกียวโดรายงานสถานการณ์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะว่า ตรวจพบระดับสารกัมมันตรังสีในน้ำทะเลใกล้โรงไฟฟ้ามีความเข้มข้นเพิ่มขึ้น เป็น 3,355 เท่าจากเกณฑ์มาตรฐาน

นายฮิเดฮิโกะ นิชิยามะ โฆษกสำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์และอุตสาหกรรม กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการรั่วไหลจากโรงไฟฟ้าลงสู่ทะเล แต่เวลานี้ยังไม่ทราบว่าเกิดขึ้น ณ จุดใด แต่ขอยืนยันว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ เพราะบริเวณดังกล่าวไม่ใช่เขตประมงและสารกัมมันตรังสีจะเจือจางและสลายตัวไป ตามเวลา

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะคอยตรวจสอบข้อมูลเป็นระยะ นอกจากนี้ บริษัทโตเกียว อิเล็ก ทริก เพาเวอร์ หรือ เทปโก เจ้าของโรงไฟฟ้า จะเริ่มฉีดพ่นน้ำที่ประกอบด้วยสารห่อหุ้มที่เครื่องปฏิกรณ์ปรมาณู เพื่อให้คลุมและดักจับละอองสารกัมมันตรังสีไม่ให้ปลิวไปกับกระแสลมและน้ำฝน

ที่ กรมทรัพยากรธรณี ได้จัดการเสวนาเรื่อง คนไทยจะอยู่กับธรณีพิบัติภัยอย่างเป็นสุขได้อย่างไร นางพรทิพย์ ปั่นเจริญ อธิบดีกรมทรัพ ยากรธรณี ร่วมบรรยายว่า ในช่วงที่ผ่านมา เกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขึ้นทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และประชา ชนไร้ที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างมากมาย เหตุการณ์ดังกล่าว กรมทรัพยากรธรณีจึงเห็นควรให้มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ให้แก่ ประชาชนได้รับทราบถึงสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น รวมทั้งการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากภัยแผ่นดินไหว สึนามิ และมีความพร้อมในการเตรียมรับมือป้องกันกับสถานการณ์

นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรฯ กล่าวว่า ปัจจุบันนี้เหตุการณ์แผ่นดินไหวมีขึ้นอย่างต่อเนื่องและรุนแรงมากขึ้น เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่น่าวิตกและน่าเป็นห่วง เพราะภัยธรรมชาติ ไม่ สามารถที่จะคาดการณ์ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เพียงแต่ต้องเตรียมการป้องกันและบรรเทาสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้สถาน การณ์ในไทยยังไม่ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ภัยพิบัติที่อาจจะ เกิดขึ้นได้ดีนัก อีกทั้งระบบเตือนภัยก็ยังไม่มี จึงควรมีมาตรการ ในการเผชิญภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น และน่าจะปรับปรุงระบบเตือนภัยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีแผนรองรับความเสียหาย สร้างความรู้ ความ เข้า ใจ ซึ่งควรจะมีคู่มือการศึกษาการเตรียมรับมือให้ประชาชน และในทุกจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัย ควรมอบหมายหน้าที่การป้องกันและบรรเทาเหตุการณ์ภัยพิบัติกับหน่วยงานที่รับ ผิดชอบอย่างชัดเจน เพื่อเตรียมพร้อมในการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที

[/FONT][FONT=Tahoma,]ข้อมูลพื้นฐาน สารกัมมันตรังสี

หมุนก่อนโลก


<table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#e0e0e0" valign="top">
</td></tr></tbody></table>ผลพวงจากกระแสข่าวโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ประสบวิกฤตการณ์ "สารกัมมันตรังสี" รั่วไหลสู่สภาพแวดล้อม

ทำให้มีท่านผู้อ่านจำนวนไม่น้อย ส่งคำถามมาทางอีเมล์ อยากให้ช่วยหาข้อมูล "สารกัมมันตรังสี" ว่า

หมายความว่าอย่างไรกันแน่ และอันตรายขนาดไหน

คำตอบนี้สามารถเข้าไปหาอ่านดูได้เลยครับ ที่เว็บไซต์สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ Office of Atoms for Peace - สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ

โดย ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสารกัมมันตรังสีนั้น เว็บนี้ๆ นำคำอธิบายของ นายแพทย์สามารถ ราชดารา สมาคมเวชศาสตร์นิวเคลียร์แห่งประเทศไทย ให้ความรู้ไว้ว่า

สารกัมมันตรังสี ก็คือ สสาร หรือ ธาตุที่เรารู้จักกันทั่วๆไป เช่น ออกซิเจน คาร์บอน ไอโอ ดีน โพแทสเซียม ฯลฯ

อะตอม ของธาตุเหล่านี้ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ โปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน การที่อะตอมของธาตุจะมีเสถียรภาพ ไม่สลายตัวไป ส่วนประกอบทั้งสามจะต้องสมดุลกัน ถ้าไม่สมดุลจะต้องมีวิธีทำให้อยู่ในสภาพเสถียรโดยการปลดปล่อยพลังงานออกมาใน รูปของรังสี

อะตอมของธาตุที่มีการปลดปล่อยรังสีเช่นนี้เรียกว่า "สารกัมมันต รังสี" ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปปริมาณรังสีจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ

ระยะ เวลาที่สารกัมมันตรังสีลดลงเหลือ "ครึ่งหนึ่ง" เราเรียกว่า ค่าครึ่งชีวิตของการสลายตัว ซึ่งมีค่าที่แตกต่างกันไปตามชนิดของธาตุต่างๆ โดยอาจสั้นเป็นวินาทีหรืออาจจะนานเป็นล้านๆ ปีได้ ธาตุต่างๆ นั้นสามารถพบได้ทั้งที่อยู่ในสภาวะเสถียร คือ ไม่มีการปล่อยรังสี และที่มีการปลดปล่อยรังสี เช่น "ไอโอดีน" ซึ่งแม้ว่าสภาวะความเสถียรจะต่างกันแต่มีคุณสมบัติอื่นๆ เหมือนกันทุกประการ

ส่วน อันตรายต่อร่างกายมนุษย์ ถ้ารังสีดังกล่าวเดินทางผ่าน "เซลล์ของร่างกายมนุษย์" จะทำอันตรายต่อ "สารพันธุกรรม" ในเซลล์ให้ได้รับความเสียหาย

แต่โดยทั่วไปแล้วถ้าปริมาณรังสีที่ ร่างกายได้รับมีปริมาณน้อย ความเสียหายต่อสารพันธุกรรมจะน้อย ร่างกายเราสามารถซ่อมแซมให้กลับมาดีเหมือนเดิม

แต่ถ้าปริมาณรังสีมากขึ้น ความเสียหายก็จะมากขึ้น จนร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับคืนเหมือนเดิมได้ทั้งหมด

พูดภาษาชาวบ้าน คือ "ตาย" นั่นแหละครับ![/FONT]

[FONT=Tahoma,]นักวิชาการย้ำอีสานไม่มีสึนามิ



ขอนแก่น - รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวในตอนหนึ่งในเวทีสาธารณะธรณีพิโรธพิบัติภัยสึนามิ-สารกัมมันตรังสี บทเรียนที่คนอีสานควรรู้ว่าประชาชนคนไทยที่กลัวมากที่สุดไม่ได้กลัวว่าจะ เกิดภัยสึนามิในประเทศของเรา หรือแผ่นดินไหวในประเทศ แต่กลัวเรื่องสารกัมมันตรังสี ขอยืนยันว่าในอีสานจะไม่เกิดแผ่นดินไหวหรือมีภัยสึนามิเพราะอยู่ห่างจาก เปลือกโลกอย่างมาก

นอกจากนี้ รัฐบาลได้มีนโยบายที่จะตั้งโรงไฟฟ้าปรมาณูที่ภาคอีสาน ที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อแก้ปัญหาน้ำที่จะแปลงมาเป็นพลังงานและสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ในภาคอีสานอีกด้วย จึงขอยืนยันภัยสึนามิ หรือสารกัมมันตรังสี ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ไม่มีผลกระทบมาถึงที่ประเทศไทยเราแน่นอน แต่เราจะกระทบอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ปัญหาภัยเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นมาถึงเมืองไทยอย่างแน่นอน คือ ปัญหาการท่องเที่ยวในประเทศไทยนั่นเอง[/FONT]

[FONT=Tahoma,]ตำนานแผ่นดินไหว

คอลัมน์ รู้ไปโม้ด
น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com


<table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#e0e0e0" valign="top">
</td></tr></tbody></table>ถึง น้าชาติ

ถึง น้าชาติ หมู่นี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อยากรู้ว่าคนโบราณมีความเชื่อเกี่ยวกับแผ่นดินไหวอย่างไรบ้างคะ

จาก ปุจฉา

ตอบ ปุจฉา

คน แต่ละท้องถิ่นมีความเชื่อเกี่ยวกับแผ่นดินไหวแตกต่างกันไป เพราะในสมัยก่อนคนยังไม่เข้าใจธรรมชาติมากนัก เมื่อเกิดเหตุเภทภัยก็มักจะอ้างเทพยดาฟ้าดิน

ในไทยมีตำนานกล่าวขาน กันว่า "ปลาอานนท์" แห่งมหานทีสีทันดรหนุนโลกอยู่ ปลาอานนท์มีร่างกายใหญ่โตเชื่อว่ายาวราวๆ 8 ล้านเมตร ถ้าเมื่อยขึ้นมาก็จะพลิกตัวทำให้เกิดแผ่นดินไหวตามมา

ส่วนชาวฮินดู ในประเทศอินเดียเชื่อว่าโลกตั้งอยู่บนถาดทองคำซึ่งวางอยู่บนหลังช้างหลาย เชือกติดกัน เมื่อใดที่ช้างเคลื่อนไหว โลกจะสั่นสะเทือนไปด้วย เกิดเป็นแผ่นดินไหว

ชาวโรมันเชื่อว่า "เทพเจ้าวัลแคน" เป็นช่างตีเหล็กให้กับเทพเจ้าองค์อื่นๆ เมื่อใดที่มีควันและเปลวไฟพุ่งออกมาจากภูเขาไฟ ชาวโรมันก็คิดว่าเทพเจ้าวัลแคนกำลังติดไฟในเตาหลอมอยู่ เมื่อแผ่นดินสั่นสะเทือนหมายถึงว่าเทพเจ้าวัลแคนกำลังตีเหล็กหลอมอยู่บนทั่ง นั่นเอง

ขณะที่ชาวกรีกเชื่อว่าเทพเจ้าอีกองค์หนึ่ง คือ "โพไซดอน" เป็นผู้ทำให้เกิดแผ่นดินไหว เพราะเทพเจ้าโพไซดอนมีรูปร่างใหญ่โต เมื่อพิโรธจะใช้ไม้สามง่ามกระแทกพื้นทำให้เกิดแผ่นดินไหว

ตำนานแผ่น ดินไหวของหลายเชื้อชาติบอกเล่าไว้ในหนังสือ "10 ตำนานสะท้านโลก" โดย ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ ว่าชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อคล้ายกับไทย โดยเชื่อว่าปลาดุกยักษ์หนุนเกาะญี่ปุ่น เทพเจ้าไดเมียว จินจะคอยควบคุมปลาดุกยักษ์ไว้โดยใช้ก้อนหินขนาดใหญ่กดทับไว้ แต่ถ้าเทพเจ้าไดเมียวจินเผลอ ปลาดุกยักษ์จะขยับตัวและเกิดแผ่นดินไหว

ที่ แอฟริกาตะวันออก มีความเชื่อเกี่ยวกับปลายักษ์แบกโลกเหมือนกัน ปลาตัวนี้แบกหินไว้บนหลัง บนหินก็มีวัวยืนอยู่ เจ้าวัวจะหมุนโลกด้วยเขาของมันทีละข้าง ถ้าเมื่อยคอเมื่อไหร่ก็จะเปลี่ยนเขาที่หมุนโลกเป็นอีกข้างหนึ่ง แผ่นดินไหวก็เกิดในช่วงที่โลกเปลี่ยนตำแหน่ง

แต่ชาวแอฟริกาตะวันตก เชื่อว่าโลกเป็นแผ่นกลมแบน ด้านหนึ่งวางอยู่บนภูเขา อีกด้านหนึ่งมียักษ์แบกอยู่ โดยมีภรรยายักษ์แบกท้องฟ้าไว้ เมื่อใดที่ยักษ์หยุดแบกโลกเพื่อไปกอดภรรยาก็ทำให้แผ่นดินไหว

ชาว เม็กซิโกว่ากันว่าปีศาจชื่อ เอล ดิอาโบล ทำให้โลกเกิดรอยแยกขนาดใหญ่จากภายใน เพื่อที่ปีศาจและเพื่อนของมันจะอาศัยรอยแยกนี้ออกมาก่อกวน

ชาว โคลัมเบียเล่าต่อกันมาว่า โลกถูกวางไว้บนท่อนไม้ขนาดใหญ่สามท่อน แต่ เทพเจ้าชิบชาคุม อยากเห็นน้ำท่วมที่ราบโบโกตาจึงทำให้เกิดน้ำท่วม เทพชิบชาคุมจึงถูกลงโทษให้แบกโลกเอาไว้ แต่ถ้าพิโรธก็จะกระทืบเท้าเป็นเหตุให้แผ่นดินไหว

สำหรับเทพปรณัมของ นอร์ส เล่าว่าเทพอสูรโลคีถูกลงโทษเพราะทำให้บาลเดอร์หรือเทพแห่งความดีงามสิ้นพระ ชนม์ โลคีจึงถูกมัดไว้กับก้อนหินในถ้ำโดยมีอสรพิษอยู่เหนือศีรษะและปล่อยพิษหยดลง มา ไซจิน ผู้เป็นภรรยาจะคอยใช้ถ้วยรองรับพิษเอาไว้ แต่เมื่อเธอนำถ้วยพิษไปทิ้ง พิษงูจะหยดลงมาที่หน้าของโลคีทำให้โลคีดิ้นและส่ายศีรษะอย่างรุนแรงทำให้ เกิดแผ่นดินไหว

[/FONT]เผยโฉมนางสงกรานต์“กิริณีเทวี”ส่งผลร้ายมากกว่าดี คนเกิดวันศุกร์มีเคราะห์

<style>p { margin: 0px; }</style> เมื่อวันที่ 31 มี.ค. น.ส.ทัศชล เทพกำปนาท นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวถึงนางสงกรานต์ปี 2554 ว่า ปฏิทินหลวงวันสงกรานต์ ปีพ.ศ. 2554 สงกรานต์ปีใหม่ไทยนี้ ตรงกับปีเถาะ นางสงกรานต์ มีนามว่า “กิริณีเทวี” ทรงพาหุรัด ทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่ว งา พระหัตถ์ขวาทรงขอ พระหัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จนั่งมาเหนือหลังกุญชร (ช้าง) เป็นพาหนะ วันที่ 14 เม.ย. เป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 5 เวลา 13 นาฬิกา 25 นาที 25 วินาที วันที่ 16 เม.ย. เวลา 17 นาฬิกา 31 นาที 12 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น 1373

น.ส.ทัศชล กล่าวต่อว่า วันศุกร์เป็นธงชัย และอธิบดี วันพฤหัสบดี เป็นอุบาทว์ วันอาทิตย์เป็นโลกาวินาศ น้ำฝนปีนี้ วันพุธ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 600 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 60 ห่า ตกในมหาสมุทร 120 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 180 ห่า ตกในเขาจักรวาล 240 ห่า นาคให้น้ำ 5 ตัว เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 6 ชื่อ ลาภะ ข้าวกล้าในภูมินาจะได้ผล 9 ส่วน เสีย 1 ส่วน ธัญญาหาร ผลาหาร มัจฉมังษาหาร จะบริบูรณ์ เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีปถวี (ดิน) น้ำงามพอดี

นอกจากนี้ จากคำประกาศสงกรานต์ดังกล่าว จะตรงกับคำทำนาย และความเชื่อคนโบราณ ซึ่งจากหนังสือตรุษสงกรานต์ของนายสมบัติ พลายน้อย ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2553 กล่าวถึงความเชื่อ เกี่ยวเนื่องนางสงกรานต์เสด็จนั่งมาบนหลังช้าง วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันพฤหัสบดี วันเนาตรงกับวันศุกร์ และ วันเถลิงศกตรงกับวันเสาร์ รวมคำทำนายว่า จะเกิดความเจ็บไข้ ผู้คนล้มตาย และเกิดเหตุเภทภัยต่างๆ ผู้น้อยจะแพ้ผู้เป็นใหญ่และเจ้านาย แร้งกาจะเป็นโรคสัตว์ป่าจะเป็นอันตราย แต่แม่หม้ายจะมีลาภ และบรรดาทหารทั้งปวงจะมีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรู

ส่วนคำทำนายของล้านนาบอกว่า ปีนี้ฝนจะตกเสมอต้นเสมอปลายชอบตามฤดูกาล ผู้เป็นเจ้าเป็นใหญ่จักมีอันตราย ช้างม้าวัวควายจักตายมากนัก ไพร่ราษฎรจักอยู่ดีมีสุข ขุนใหญ่ ปุโรหิต พระสงฆ์จักเป็นทุกข์ คนเกิดวันศุกร์มีเคราะห์ คนเกิดวันอาทิตย์มีโชค

“จากคำทำนายค่อนข้างออกไปร้ายมากกว่าดี แต่นางสงกรานต์กิริณีเทวี นั่งมาบนหลังช้าง ซึ่งถือเป็นสัตว์ใหญ่ที่เป็นมงคลจะช่วยขับไล่สิ่งร้ายๆ ให้ออกไป และยังทัดดอกมณฑาเป็นดอกไม้ทิพย์อยู่บนสวรรค์ คนไทยโบราณเชื่อว่าจะช่วยพ้นวิกฤติจากหนักเป็นเบา เมื่อรวมกับภักษาหารที่เป็นถั่วงา ทางพืชผลข้าวปลาอาหารยังมีความสมบูรณ์อยู่ ส่วนคำทำนายที่ว่าทหารจะมีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรู ก็น่าจะแสดงถึงความสงบสุขของบ้านเมืองในปีนี้ด้วย อย่างไรก็ตามคำทำนายดังกล่าวมาจากตำราตรุษสงกรานต์” น.ส.ทัศชล กล่าว


[FONT=Tahoma,]หมวยกตัญญู!ฝึกสุนัขเพื่อแม่

สกู๊ปพิเศษ


<table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#e0e0e0" valign="top">
"หวังซิน" และเจ้า "เหอเหอ"

</td></tr></tbody></table>หลัง จากสูญเสียประสาทการมองเห็นไปตั้งแต่อายุย่างเข้า 20 ปี หวัง เสี่ยวจุน หญิงสาวแห่งเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน ก็ไม่เคยออกไปพบปะผู้คนในสังคมอีกเลย จนเมื่อเธอแต่งงานและคลอดลูกสาวชื่อ หวังซิน ความหวังในการเปิดประตูสู่โลกภายนอกก็กลับมาอีกครั้ง

หวัง ซิน เติบโตในต้าเหลียน ต่อมาได้ไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นในระดับปริญญาตรี และโท สาขาจิตวิทยา หลังจบการศึกษา เธอกลับละทิ้งอนาคตการงานในญี่ปุ่น แต่เลือกที่จะกลับมายังประเทศบ้านเกิด เพื่อดูแลนางเสี่ยวจุน แม่ของเธอ

"เป็น เพราะแม่ ฉันถึงเลือกกลับบ้าน ตั้งแต่เกิดมา แม่ยังไม่เคยได้เห็นใบหน้าของฉันเลย มันน่าเศร้ามาก ดังนั้นถ้ามีอะไรที่ฉันทำได้และทำให้ชีวิตของแม่ที่ตามองไม่เห็นดีขึ้นบ้าง ฉันก็ยินดีจะทำ" หวังซิน กล่าว<table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#e0e0e0" valign="top">
1.การฝึกสุนัขของมหาวิทยาลัยต้าเหลียน

</td></tr></tbody></table>

หลัง จากที่หางานในบ้านเกิดอยู่พักใหญ่ เธอก็เจอกับงานที่ตรงกับเป้าหมายชีวิต นั่นคือศูนย์ฝึกสุนัขนำทางแห่งมหาวิทยาลัยต้าเหลียน ที่นี่เองที่เธอใช้เวลาแค่ 3 เดือนในการจบหลักสูตรเป็นครูผู้ฝึกสอนสุนัขนำทางอาชีพ

สุนัขนำทางตัว แรกของบ้านตระกูลหวัง เป็นสุนัขพันธุ์โกลเดน รีทรีฟเวอร์ อายุ 4 ปี ชื่อ 'เป่ยเป่ย' คอยทำหน้าที่นำทางแม่ของหวังซินเดินทางได้ในระยะทางสั้นๆ เก็บของมาให้ และสามารถเปิด-ปิดประตูได้ด้วย

สิ่งที่ทำให้หวังซิน บัณฑิตสาวสาขาจิตวิทยาเรียนรู้อีกอย่างหนึ่งก็คือ ความผูกพันเหนือธรรมดา ระหว่างเจ้าของกับสุนัขนำทาง ตลอดจนความสัมพันธ์ของทุกคนในบ้าน เพราะสุนัขนำทางต้องอยู่กับนายของมันแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น มันจึงเป็นมากกว่าเพื่อนด้วยซ้ำ หวังซินให้ความเห็นว่ามันเปรียบเสมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเลยก็ว่าได้

ปัจจุบัน หวังซินกำลังฝึกสุนัขอีก 2 ตัวให้กับทางศูนย์ต้าเหลียน 1 ในนั้นเป็นโกลเดน รีทรีฟเวอร์ อายุ 13 เดือน ชื่อ 'เหอเหอ' โดยหวังซินเผยเทคนิคของเธอว่า ขั้นแรกคือการพาเหอเหอ เดินสำรวจทั่วเมืองต้าเหลียนให้มากที่สุด โดยเฉพาะย่านที่คนพลุกพล่าน และคอยดุเสมอเมื่อมันว่อกแว่ก เช่น ดมหาอาหาร หรือไปเล่นกับสุนัขตัวอื่น

ผู้ฝึกสอนสุนัขนำทางจะไม่ใช้วิธีการให้ อาหารเป็นรางวัล โดยหวังซิน อธิบายให้เห็นภาพว่า "ลองจินตนาการถึงสุนัขนำทางบนถนนย่านชุมชนของจีนที่เต็มไปด้วยแผงลอยขาย อาหารดูซิ"

อย่างไรก็ตาม ด้วยลักษณะนิสัยของสุนัขที่แตกต่างกัน ฉะนั้น จะมีสุนัขเพียงร้อยละ 30 ที่จะจบหลักสูตรพร้อมทำหน้าที่สุนัขนำทางได้จริง และสถิติที่ผ่านมาของศูนย์ฝึกแห่งนี้ คือฝึกสุนัขนำทางได้ประมาณ 15 ตัวต่อปีเท่านั้น ขณะที่ตัวเลขของผู้พิการทางสายตาในประเทศจีนมีอยู่กว่า 7 ล้านคน ปัญหาสำคัญอีกอย่างก็คือค่าใช้จ่ายในการฝึกฝนและเลี้ยงดูสุนัขเหล่านี้ที่มี ต้นทุนสูง แต่รายได้หลักล้วนมาจากการบริจาค

"สุนัขพวกนี้ได้รับ การฝึกเพื่อช่วยเหลือคนตาบอดทั่วประเทศจีน และด้วยเหตุผลที่บ้านของฉันก็มีแม่ที่ตามองไม่เห็นและใช้งานเจ้าสุนัขแสนรู้ อยู่ด้วยแล้ว ฉันจึงรู้ว่าทั้งคนและสุนัขต้องการอะไรมากที่สุด" หวังซินกล่าวทิ้งท้ายด้วยความมั่นใจ[/FONT]

[FONT=Tahoma,] [/FONT]







<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="295"><tbody><tr> <td height="21" width="21"></td> <td background="images/line_top.gif">
</td> <td height="21" width="21"></td> </tr> <tr> <td background="images/line_left.gif">
</td> <td width="100%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3" width="100%"><tbody><tr><td align="left" valign="top">

​

</td></tr></tbody></table> </td> <td background="images/line_right.gif">
</td> </tr> <tr> <td height="21" width="21"></td></tr></tbody></table>

 

เรื่องราวเกี่ยวกับบรมครูพระเทพโลกอุดรมีมาช้านานแล้ว เริ่มตั้งแต่ยุคสมัยสุวรรณภูมิ หริภุญไชย สุโขทัย อยุทยา และรัตนโกสินทร์ หลักฐานที่ปรากฏชัดเจนแต่ขาดการค้นคว้าอย่างจริงจัง รู้อยู่ในหมู่คนกลุ่มน้อย รู้ทางเจโตปริญาณบ้าง เช่น พระอริยคุณาธาร (ปุสโสเส็ง ) และหลวงปู่คำคะนิง ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า “ บรมครูพระเทพโลกอุดร คือพระอุตรเถระ” ผู้ที่เคยได้พบท่านได้ถามท่านว่า “ บรมครูพระเทพโลกอุดรท่านคือพระอุตรเถระใช่ไหม” ท่านไม่ปฎิเสธ
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ท่านมีอายุ ๒,๐๐๐ กว่าปีแล้วท่านอยู่ได้อย่างไรกัน จึงมีความเชื่อแบ่งออกเป็น ๒ ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าท่านนิพพานไปนานแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าท่านยังไม่นิพพาน เพราะยังมีผู้พบเห็นท่านอยู่เสมอแม้กระทั่งทุกวันนี้
บรมครูพระเทพโลกอุดร เป็นพระภิกษุลี้ลับ เร้นลับ และมหัศจรรย์อเนกประการ ลี้ลับ เร้นลับไปหมดทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่ชื่อของท่าน ที่อยู่อาศัยของท่าน และที่มาที่ไปของท่าน และที่มหัศจรรย์ก็คือ เรื่องราวของท่านทั้งหมด

หลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่เทพโลกอุดร | พลังจิต สมาธิ ธรรมะ ภัยพิบัติ

 

ขอเชิญร่วมระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ด่วน
หากมีเหตุด่วนกรุณาแจ้ง ศูนย์ข้อมูลช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
@ http://www.thaiflood.com/ @

รายงานข้อมูลอัพเดททางทวิตเตอร์ @SiamArsa​

UP DATE 31 มีนาคม 2554

!!! อาสาดุสิตเปิดเตนท์ ขอรับบริจาค !!!
ที่ โรงแรมดุสิตธานี(สีลม) บริเวณลานจอดรถ
วันที่ 31 มีนาคม – 10 เมษายน
เวลา 10:00 น. – 22:00 น.​

ทางกลุ่ม อาสาดุสิตขอเเชิญชวนทุกท่านร่วมกันช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยที่กำลังประสบภัยน้ำท่วมในขณะนี้

สำหรับพื้นที่ๆจะนำของลงไป ขออนุญาตพิจารณาตามสถานการณ์ ตามเหตุปัจจัยวันต่อวันนะคะ

นครศรีธรรมราช - รองอธิการ ม.วลัยลักษณ์ อนุญาตให้อาสาดุสิต ตั้งห้องปฏิบัติการส่วนหน้าได้เต็มที่สามารถนำของที่จะช่วย ลงพื้นที่ได้ทันที่
นครศรีธรรมราช - คุณวรวุฒิ แซ่ตั้ง หัวหน้าหน่วยกู้ภัยนครศรีฯของสมาคมมิตรสัมพันธ์ไทย-จีนเต๊กก่า จ.นครฯ พี่วุฒิ จะพาพวกเรานำของส่งถึงมือชาวบ้าน ทันทีที่ของถึงคะ
สุราษฎร์ธานี - อาสา กู้ภัย ทีมประสานที่สุราษฎร์ จำนวนมาก และ พี่ๆ ในพื้นที่อีกหลายท่าน จะพาเข้าพื้นที่ทันที คะ ตอนนี้ นำที่สุราษฏร์สูงมากไม่เคยสูงเท่านี้มาก่อน เข้าท่วมในที่ๆไม่เคยท่วมเลยหมดแล้ว คาดว่าน่าจะลงเร็ว แต่ความเสียหายน่าจะสูงเพระาเป็นพื้นที่ไม่เคยท่วมคะ
พัทลุง – เทศบาลอำเภอเมือง พัทลุง ประสาน ขอความช่วยเหลือ มา จะเป็นผู้พานำลงพื้นที่เข้าช่วยชาวบ้านเลยคะ

หากพื้นที่ใดต้องการแพทย์ด่วน กรุณาแจ้งมาได้ นะคะ นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา แจ้งมาว่า หากพื้นที่ใดต้องการโปรดให้ ผอ.รพ.แจ้งที่ท่านโดยตรงได้เลยคะ

<hr>

รบกวนขออาสาสมัครที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆที่ต้องการช่วย
​

แจ้งชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลความต้องการในพื้นที่ และจุดที่จะนำเข้าช่วยด้วยนะคะ เพื่อจะได้ตรวจสอบและประสานงานได้ไม่ผิดพลาด

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน อาสาดุสิต และเครือข่ายโคราราช อาสาอ๊อฟโร้ด ๑๕ คัน (ชาวโคราชกลับมาช่วยเราคะ^^”) จะนำของเข้าพื้นที่ครั้งแรก โดยนำถุงยังชีพ ที่เตนท์ดุสิตธานี ตรงเข้าพื้นที่ลำบาก กันดาร ไกลถนนใหญ่ ที่ความช่วยเหลือยังเข้าไม่ถึง มากที่สุดก่อน แล้วจะพยายามผลิตถุงยังชีพให้ได้มากที่สุด ตามไปเรื่อยๆ จึง ขออาสาสมัครแต่ละพื้นที่ ที่ต้องการช่วยเหลือ แจ้งชื่อได้เลยนะคะ เพื่อเป็นตัวแทนอาสาดุสิตและทุกคนรับของ และนำของช่วยชาวบ้านให้ไวที่สุด จึงอาจต้องรบกวนขอให้เก็บภาพเพื่อเล็กน้อย ส่งมาให้ทุกท่านรู้ว่าได้รับของจริง เรียบร้อยแล้วด้วย

รบกวนขอรายละเอียด พื้นที่ ส่วนที่ลำบากที่สุด ลึก เข้าถึงยากมากที่สุดก่อนนะคะ ของทั้งหมด นำลงไปและจะเข้าพื้นที่แต่ละจุดเลย ตามที่อาสาดุสิตทำมาตลอด จากหนักที่สุด ไปหาหนักกว่าและหนักน้อย

ขอชื่อ โทรศัพท์ ในพื้นที่ลึกๆ เพื่อจะโทรไปถามความต้องพื้นฐานที่จะส่งไป ที่อยู่นอกเขต เทศบาล นอกตลาด ที่รอความช่วยเหลือถ้ามี
ถ้าทำได้ขอรายงานระดับน้ำ ที่เพิ่มขึ้นลดลง ด้วยนะคะจะได้คำนวณเวลา และวิธีการเข้าพื้นที่ รวมทั้งปริมาณฝน หรือการปล่อยน้ำ ถ้าทำได้ด้วยคะ

ติดต่อคุณปูโดยตรงนะคะ 081-5846885

<hr>

รูปวันที่ 31 มีนาคม 2554

PIC OF THE DAY



พี่พลก็มาช่วยด้วยคะ #Arsadusit ด้วยค่ะ@^_^@



ข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ >> http://www.arsadusit.com/891

 

เเละสำหรับพี่น้องภาคอื่น หรือผู้ที่ต้องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้สามารถช่วยอีกทางโดย


★ บริจาคทาง SMS ★ ครั้งละ 10 บ พิมพ์ "ช่วยน้ำท่วม" ส่ง 4567899 ทุกเครือข่าย

 

มีสมาชิกเวบพลังจิตหลายท่านไปช่วยกันจัดของช่วยพี่น้องชาวใต้ที่เต้นท์หน้าโรงแรมดุสิตธานีครับ

พี่กุ้ง อ.ไก่ดร.สุธาทิพ น้องปอและอีกหลายท่านขอโมทนาบุญด้วยครับ

ท่านใดว่างนำอาหารแห้ง สิ่งของไปบริจาค หรือช่วยด้วยแรงก็ได้ครับ พรุ่งนี้บ่ายจะมีรถขนลงภาคใต้

ส่วนทางส่วนทิพย์หลายท่านก็ช่วยกันทำสมาธิอธิษฐานจิตตรึงพลังบุญพลังกุศลคุ้มครองพื้นที่อยู่ครับ โดยฌแพาะทางภาคใต้

 

หากมีโอกาส ทำกุศล ฝึกจิต ทำสมาธิ ได้อย่าได้ทิ้งโอกาสนั้นครับ จะแบบไหนสายใดที่เป็นสายสัมมาทิฐิ ล้วนเป็นประโยชน์ทั้งสิ้นครับ

พาครอบครัวไปปล่อยปลา โดยเลือกปลาจากเขียงที่ตลาดได้ยิ่งดี

เกลือทะเลเริ่มเก็บได้แล้ว พระอาจารย์หลายท่านเตือนเรื่องให้สังเกตุว่าหากอาหารทะเลเริ่มเป็นพิษมีคนแพ้ก็ต้องหยุดกินครับ

และหากกัมมันตรัสีเริ่มแผ่มาใกล้หรือมาถึง พระเครื่องท่านช่วยได้ นอกจากนี้ก็จะมีสมุนไพร รางจืดที่ดับพิษเบื่อ พิษเมาช่วยได้ สาหร่ายเกลียวทองที่ในหลวงทรงส่งเสริมก็สามารถซึมซับกัมมันตรังสีได้

มาถึงสเตจนี้ ครูบาอาจารย์หลายองค์หลายสายท่านเริ่มปิดสถานที่ที่ท่านเตรียมเอาไว้แล้วครับ วาระกรรมทำให้ท่านสงเคราะห์บุคคลได้ตามที่มีวาสนาผูกพันกันครับ เหตุนี้จึงอยากให้ทุกท่านเร่งสร้างกุศลไปกราบครูบาอาจารย์ท่านไว้ และจะมีมากมีน้อย เราก็จงช่วยครูบาอาจารย์ท่านเตรียม ท่านจัดแต่ละจุดแต่ละที่ให้สมบูรณ์เอาไว้ครับ แต่ทำจิตให้สบายๆ ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ตามเวลา ตามกำลัง ตามวาระ ตามแรงกรรม

 

หากมีโอกาส ทำกุศล ฝึกจิต ทำสมาธิ ได้อย่าได้ทิ้งโอกาสนั้นครับ จะแบบไหนสายใดที่เป็นสายสัมมาทิฐิ ล้วนเป็นประโยชน์ทั้งสิ้นครับ

พาครอบครัวไปปล่อยปลา โดยเลือกปลาจากเขียงที่ตลาดได้ยิ่งดี

เกลือทะเลเริ่มเก็บได้แล้ว พระอาจารย์หลายท่านเตือนเรื่องให้สังเกตุว่าหากอาหารทะเลเริ่มเป็นพิษมีคนแพ้ก็ต้องหยุดกินครับ

และหากกัมมันตรัสีเริ่มแผ่มาใกล้หรือมาถึง พระเครื่องท่านช่วยได้ นอกจากนี้ก็จะมีสมุนไพร รางจืดที่ดับพิษเบื่อ พิษเมาช่วยได้ สาหร่ายเกลียวทองที่ในหลวงทรงส่งเสริมก็สามารถซึมซับกัมมันตรังสีได้

มาถึงสเตจนี้ ครูบาอาจารย์หลายองค์หลายสายท่านเริ่มปิดสถานที่ที่ท่านเตรียมเอาไว้แล้วครับ วาระกรรมทำให้ท่านสงเคราะห์บุคคลได้ตามที่มีวาสนาผูกพันกันครับ เหตุนี้จึงอยากให้ทุกท่านเร่งสร้างกุศลไปกราบครูบาอาจารย์ท่านไว้ และจะมีมากมีน้อย เราก็จงช่วยครูบาอาจารย์ท่านเตรียม ท่านจัดแต่ละจุดแต่ละที่ให้สมบูรณ์เอาไว้ครับ แต่ทำจิตให้สบายๆ ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ตามเวลา ตามกำลัง ตามวาระ ตามแรงกรรม

 

ขอยืนยันตามข้อมูลเดิมครับ..."หลวงปู่เทพโลกอุดร" องค์แรกสุดคือพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้ครับ ส่วนองค์หลังๆ มานี้จะเป็นพระอภิญญาที่เป็นลูกศิษย์ของ"หลวงปู่เทพโลกอุดร" อีกทีหนึ่ง ซึ่งมีอยู่มากมายด้วยกันหลายองค์ บางองค์มีอายุ 500 ปี บางองค์ก็มีอายุ 1,000 ปีกว่าก็มี แต่คนส่วนมากเข้าใจว่าเป็นองค์เดียวกันกับ"หลวงปู่เทพโลกอุดร"ครับ

สรุปเอาเป็นว่า"หลวงปู่เทพโลกอุดร" เป็นพระผู้อยู่เหนือโลก ที่มาทำหน้าที่ช่วยเหลือคนดีมีศีลธรรมให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ ก็แล้วกันครับ ส่วนใครจะมีข้อมูลเรื่องของ"หลวงปู่เทพโลกอุดร" ว่าเป็นใครนั้นก็สุดแล้วแต่ความคิดความเชื่อของแต่ละท่านเองครับ....แต่สำหรับผมมีความเชื่อแบบนี้คงไม่ว่ากันนะครับ

 

เกิดแผ่นดินไหว 6.4 ริกเตอร์นอกชายฝั่งตองกา​

​

นูกูอะโลฟา 31 มี.ค. – เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.4 ริกเตอร์ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ นอกชายฝั่งตองกาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สิน และไม่มีประกาศเตือนภัยสึนามิ

ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐเปิดเผยว่า แผ่นดินไหวดังกล่าว มีขนาด 6.4 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางห่างจากเมืองไนอาฟูของตองกาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 438 กม. และอยู่ลึกลงไปในทะเลราว 23 กม. -สำนักข่าวไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 31 มี.ค. 2554

เกิดแผ่นดินไหว 6.2 ริกเตอร์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น​

​

โตเกียว 31 มี.ค.-ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐเปิดเผยว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.2 ริกเตอร์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งประสบภัยพิบัติครั้งใหญ่เมื่อต้นเดือนนี้

รายงานระบุว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 14.15 น. ตามเวลาในไทย โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 417 กม. และลึกลงไป 39.6 กม. อย่างไรก็ตาม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ไม่มีประกาศเตือนภัยสึนามิหลังเกิดแผ่นดินไหวดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 31 มี.ค. 2554

เทปโกตรวจพบรังสีในทะเลสูงกว่าเพดานที่กฎหมายกำหนดกว่า 4,000 เท่า​

​

โอซากา 31 มี.ค.-บริษัทโตเกียว อิเล็กทริค พาวเวอร์ หรือเทปโก ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ เผยว่า ระดับของไอโอดีนกัมมันตรังสีในทะเลนอกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดเท่าที่เคยมีมา โดยสูงกว่าค่าที่กฎหมายกำหนดถึง 4,385 เท่า

เทปโกระบุว่า ระดับของไอโอดีน-131 ที่ตรวจพบห่างจากทางระบายน้ำด้านทิศใต้ไม่กี่ร้อยเมตรของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพิ่มขึ้นสูงสุดเท่าที่มีการเริ่มตรวจสอบตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยค่ารังสีที่อ่านได้เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว สูงกว่าที่กฎหมายกำหนดเพดานไว้เพียง 1,250 เท่า และเพิ่มมาเป็น 1,850 เท่าเมื่อวันเสาร์ และ 3,355 เท่าเมื่อวันอังคาร

ทางด้านกองทัพสหรัฐ สั่งการไปยังหน่วยนาวิกโยธินที่เชี่ยวชาญการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินด้านนิวเคลียร์ ให้เดินทางไปประจำการที่ญี่ปุ่นเพื่อยืนยันการให้ความช่วยเหลือของสหรัฐต่อวิกฤติครั้งนี้

ทั้งนี้นาวิกโยธินประมาณ 155 นายจากหน่วยตอบสนองเหตุนิวเคลียร์ชีวภาพ จะเดินทางออกจากสหรัฐ ในวันนี้และถึงญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้ นาวิกโยธินชุดนี้ได้รับการฝึกให้สามารถแยกแยะสารเคมี ตรวจสอบระดับรังสีและชำระล้างรังสี โดยที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับภารกิจที่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้าฟูกุชิมะ ไดอิจิ

ในปัจจุบัน บุคลากรทางทหารของสหรัฐได้รับคำสั่งห้ามเข้าไปในรัศมี 80 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลกว่าที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเขตห้ามเข้าในระยะ 20 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ .-สำนักข่าวไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 31 มี.ค. 2554

ผู้นำญี่ปุ่นระบุจะต้องเลิกใช้งานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะทั้งหมด​

​

โตเกียว 31 มี.ค.-นายกรัฐมนตรีนะโอโต คัง ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวว่า โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิที่เกิดอุบัติเหตุปรมาณูครั้งร้ายแรงที่สุดในโลกนับตั้งแต่วิกฤติโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลในปี 2529 จะต้องถูกยกเลิกใช้งาน

สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่านายคังบอกกับนายคาซูโอะ ชิอิ หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ญี่ปุ่นว่า โรงไฟฟ้าแห่งนี้ทั้งหมดควรถูกยกเลิกใช้งาน ซึ่งตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จนถึงบัดนี้ หลังจากระบบหล่อเย็นเตาปฏิกรณ์ได้รับความเสียหาย ทำให้เกิดเพลิงไหม้และระเบิดปลดปล่อยรังสีสู่บรรยากาศ

ก่อนหน้านี้ เคยมีเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกล่าวเป็นนัยว่า จะเลิกใช้งานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะทันทีที่สามารถควบคุมสถานการณ์ให้มีเสถียรภาพ ขณะที่เทปโก ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้ากล่าวว่าจะเลิกใช้งานเตาปฏิกรณ์หมายเลข 1-4 เนื่องจากเกิดความเสียหายและมีน้ำทะเลไหลท่วม ส่วนเตาปฏิกรณ์หมายเลข 5 และ 6 นั้น นายสึเนะฮิสะ คัตสุมาตะ ประธานกรรมการบริหารเทปโกกล่าวเป็นนัยว่าสามารถเก็บไว้ใช้งานต่อได้

ทั้งนี้ เป็นที่คาดว่าหลังจากเหตุการณ์สงบลง เทปโกจะต้องจ่ายเงินชดเชยมูลค่ามหาศาล ท่ามกลางความรู้สึกโกรธแค้นของประชาชนถึงการจัดการของเทปโกในระหว่างเกิดวิกฤติ นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า บริษัทแห่งนี้อาจต้องถูกกำกับดูแลโดยรัฐบาล

นายกรัฐมนตรีนะโอโต คัง กล่าวว่าจะพิจารณาแผนทบทวนโครงการสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพิ่มเติมอย่างน้อย 14 แห่ง ภายในปี 2573 หลังจากได้รับบทเรียนจากวิกฤตินิวเคลียร์ครั้งนี้

ทางด้านอเรวา กลุ่มบริษัทนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส เผยว่ามีแผนให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคเพิ่มเติมแก่บริษัทเทปโก ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ

นายเรมี ออเตแบ ประธานอเรวา เจแปน กล่าวว่าเทปโกร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมและอเรวาน่าจะสนองตอบแต่ขอเวลาในการพิจารณา.-สำนักข่าวไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 31 มี.ค. 2554

ฝรั่งเศสและญี่ปุ่นตกลงร่วมมือจัดการวิกฤตินิวเคลียร์​

​

โตเกียว 31 มี.ค.- บรรษัทกระจายเสียงของญี่ปุ่น หรือ เอ็นเอชเค รายงานว่า ผู้นำของฝรั่งเศสและญี่ปุ่น ยืนยันว่าจะร่วมมือกันแก้ปัญหาวิกฤตินิวเคลียร์ที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ซึ่งได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว

นายกรัฐมนตรีนะโอโต คัง ของญี่ปุ่น กล่าวขอบคุณ ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส ที่ได้แสดงความเสียใจมายังผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวและสึนามิ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม และขอบคุณฝรั่งเศสที่ให้การสนับสนุนและยืนเคียงข้างญี่ปุ่นนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้น นอกจากนี้ยังได้ขอบคุณ ประธานาธิบดีซาร์โกซี ที่เยือนญี่ปุ่นในฐานะที่ฝรั่งเศสกำลังทำหน้าที่ประธานหมุนเวียนของการประชุมสุดยอดกลุ่มจี 8

นายคัง กล่าวว่า ชาวญี่ปุ่นตัดสินใจจะฟันฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปพร้อมกัน และร้องขอฝรั่งเศสให้การสนับสนุนอยู่ต่อไป ขณะที่ผู้นำฝรั่งเศส กล่าวตอบว่า เขาชื่นชมยกย่องคนญี่ปุ่นเผชิญกับวิกฤติครั้งรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่สงครามโลก ครั้งที่ 2 ด้วยความกล้าหาญและสง่างาม และยอมรับว่า รู้สึกตกใจมากที่เห็นภาพพื้นที่เกิดภัยพิบัติ แต่ก็รู้สึกประทับใจอย่างยิ่งที่เห็นปฏิบัติการอย่างกล้าหาญของเจ้าหน้าที่ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์

ผู้นำญี่ปุ่นและฝรั่งเศสได้ร่วมหารือและประกาศว่า ฝรั่งเศสจะเป็นผู้นำประชาคมโลกในการช่วยเหลือญี่ปุ่นแก้ไขปัญหาที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งฝรั่งเศสมีความรู้ความเชี่ยวชาญเนื่องจากมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มากเป็นอันดับ 2 ของโลก.-สำนักข่าวไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 31 มี.ค. 2554

นาโตเข้ารับหน้าที่บัญชาการปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดในลิเบียแล้ว​

​

บรัสเซลส์ 31 มี.ค.- องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต เข้ารับหน้าที่บัญชาการปฏิบัติการทุกอย่างในลิเบียแล้ว ตั้งแต่เวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา ต่อจากกองทัพพันธมิตรนานาชาติซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม

ปฏิบัติการทางทหารในลิเบียภายใต้นาโต ซึ่งใช้ชื่อว่าปฏิบัติการ Unified Protector หรือผู้คุ้มครองที่เป็นปึกแผ่น เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ตามเวลามาตรฐานกรีนิช ซึ่งตรงกับเวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งเป็นการยืนยันการถ่ายโอนความรับผิดชอบการโจมตีลิเบียที่บัญชาการโดยสหรัฐฯ ฝรั่งเศสและอังกฤษมาเป็นของนาโต

ซึ่งต่อแต่นี้กองบัญชาการของนาโตในยุโรปที่เมืองมงส์ ประเทศเบลเยียม จะเป็นผู้สั่งการตรงไปยังศูนย์บัญชาการภูมิภาคของนาโต ที่เมืองเนเปิล ในอิตาลี ให้ปฏิบัติภารกิจโจมตีกองกำลังที่คุกคามพลเรือนในลิเบีย.-สำนักข่าวไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 31 มี.ค. 2554

ที่มา http://www.mcot.net

 

พุทธวิสัยเป็นเรื่องอจินไตย​

​

พระองค์ที่ 10​

เมื่อปี พ.ศ.2487 สงครามโลกเห็นจะยังไม่เลิก อาตมาก็เป็นพระนักเทศน์ กำลังเป็นพระนักเทศน์อยู่ วันหนึ่งชาวบ้านราชบุรีเขานิมนต์ไปเทศน์ วันรุ่งขึ้นเขาก็นิมนต์ไปฉลองบ้าน เขาปลูกบ้านใหม่ ก็ไปสวดมนต์เย็น ตอนนั้นยังเก่งอยู่ ตอนนี้ใครนิมนต์สวดมนต์เย็นไม่เอาแล้ว เขานิมนต์พระ 9 องค์ เจ้าคุณธรรม เข้าใจว่าเสนานี วัดสัตนารถเจ้าคณะจังหวัดราชบุรีเป็นหัวหน้า

เมื่อเวลาไปถึงบ้านเขาตอนเย็น ปรากฏว่ามีพระนั่งอยู่แล้ว 1 องค์ อายุอานามเห็นจะไม่แก่กว่าอาตมา ( แล้วตอนนั้นอาตมายังไม่ถึง 30 ) หน้าตายังหนุ่มมาก ผิวพรรณสวยหน้าตาอิ่มเอิบ ทรวดทรงดีมาก ถ้าจะจัดเป็นผู้ชายสวยก็เห็นว่าจะสวยได้พอดี เรียกว่าสวยหาตัวจับยาก หน้าตาอิ่ม ผิวค่อนข้างเหลือง มองดูแล้วชอบใจ พระทุกองค์ก็ชอบใจ ท่านนั่งอยู่ต้นเพื่อน เจ้าคุณธรรมเสนานีสมัยนั้นก็อายุ 50 เศษ หน้าตาแก่กว่าพระองค์นั้นเยอะ

แต่ว่าเวลาเจ้าคณะจังหวัดขึ้นไปท่านไม่ถอยที่ให้ ท่านนั่งแล้ว เจ้าคุณธรรมเสนานีเป็นพระดี ท่านก็นั่งรองลงมาตามลำดับ แต่ปรากฏว่าพระเขานิมนต์มา 9 องค์ เป็น 10 องค์ทั้งท่าน ถึงเวลาจะสวดมนต์ ท่านสวดเสียงเพราะจริงๆ ฟังแล้วจับใจมีกังวาน ฟังรู้สึกใจมันชื่นๆ ชอบกล เสียงไม่เหมือนแร้ง ไม่เหมือนกา แหบๆ เหิบๆ อย่างอาตมาหรอก ฟังเสียงนวลๆ สวดมนต์เสร็จ ท่านก็กลับ เราก็กลับ พอรุ่งขึ้นเช้าท่านก็ไปอีก ไปนั่งก่อน ตานี้เวลาฉันข้าวอยู่ ท่านเจ้าคุณธรรมเสนานีก็สงสัย

คือพระองค์นี้หน้าตาหนุ่ม แล้วทำไมนั่งข้างหน้า มันควรจะนั่งข้างหลัง คุยกันไปคุยกันมา ฉันข้าวก็ค่อยๆ คุยกัน เจ้าคุณธรรมเสนานีก็เลยถามว่า ท่านขอรับ ผมขออภัยเถอะ ท่านบวชมากี่พรรษาแล้ว ท่านก็เลยบอกว่า ไอ้พรรษานี่มันนับไม่ค่อยได้หรอก เดี๋ยวดูใบสุทธิก่อน ท่านก็ล้วงย่ามลงไป เอาใบสุทธิออกมาส่งให้ปรากฏว่าในใบสุทธินั้นบอก พ.ศ. เมื่อเอาเลขลบกันลงไปแล้ว เป็นเวลา 300 ปีเศษ เป็นอันว่าท่านบวชมาแล้วน่ะ 300 ปีเศษนะ ไม่ใช่อายุเกิด

เจ้าคุณธรรมเสนานี ก็ส่งใบสุทธิให้พระทุกองค์อ่าน เมื่อพระทุกองค์อ่านแล้ว ก็ไม่สงสัย พอฉันเสร็จให้พรเสร็จเรียบร้อยแล้วท่านก็ลากลับก่อน ท่านลาญาติโยมทุกคนเดินลงบันไดไป บ้านนั้นนะเป็นบ้านของนายสารี เปาเล้ง ลืมบอกไป คลองแพงพวย พอท่านเดินไปถึงบันได ท่านเจ้าคุณธรรมเสนานีก็ถามว่ารู้จักพระองค์นี่ไหม นิมนต์มาจากไหน เจ้าของบ้านก็บอกว่าไม่ได้นิมนต์ก็เลยให้คนลงไปดูว่า ท่านเดินไปทางไหน ถ้าเดินไปทางวัดไหนแล้วจะไปถามพระวัดนั้น

พอดีท่านเดินลงบันไดลับตัวไปพอดี บ้านอยู่กลางทุ่ง ถ้าพระจะเดินสักชั่วโมงยังเห็นตัวสบายๆ คนข้างบนเดินลงไปถามข้างล่างว่าพระไปไหนดูกันแล้วทั้งหมด ปรากฏว่าไม่เห็นพระองค์นั้นเลย ไม่ทราบว่าพระองค์นั้นไปไหนระยะเวลาสัก 3 นาที เท่านั้นแหละที่พูดกัน อาจจะเป็น 2 นาที หรือนาทีเศษๆ ก็ได้ พูดกันเพียงว่าพระองค์นี้มาจากไหน ใครนิมนต์มา เจ้าของบ้านก็บอกว่าไม่ได้นิมนต์ ท่านมาเอง เท่านั้นแหละ ท่านเจ้าคุณธรรมเสนานีก็บอก ไปดูซิท่านเดินไปทางวัดไหน เราจะได้ไปถามวัดนั้น ว่าพระองค์นี้มาจากไหน ในจังหวัดนี้ฉันก็เคยเป็นเจ้าคณะจังหวัด ไม่เคยเห็นพระแบบนี้เลย จริยาน่าเลื่อมใสมาก รูปก็สวย เสียงก็เพราะ ว่าหนังสือดีมาก แต่ว่ากลางวันแสกๆ ทุ่งโล่งๆ มองไม่เห็นก็กลายเป็นเรื่องอัศจรรย์

นี่เรื่องของพระองค์ที่ 10 นี่จะเป็นพระอะไรก็ช่าง จบกันแค่นี้นะ

(จาก หนังสือ เรื่องจริงอิงนิทาน เล่ม 1 โดยพระราชพรหมยาน)

​

<DD>ศาลาหลวงพ่อองค์ที่ 10 -11 ในอดีตเมื่อปี 2528 เคยมีพระองค์หนึ่งมานั่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์แห่งนี้ แต่เป็นพระมาจากคลองเตยใน กรุงเทพฯ ปัจจุบันย้ายไปสร้างวัดใหม่แถวสามพราน จ.นครปฐม


<DD>เรื่องนี้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ เล่าให้ฟังภายหลังว่า พระองค์ที่ 10 หมายถึง สมเด็จองค์ปัจจุบัน ท่านได้คลุมพระองค์นี้ ในขณะนั้น จึงพูดธรรมะได้ไพเราะ เหมือนรู้จิตรู้ใจคนรับฟังไปหมด เป็นที่ประทับใจมาก แต่เมื่อออกไปจากวัดแล้ว เป็นอันว่าจบกันแค่นั้น


</DD>ที่มา Printable Version - วัดจันทาราม (ท่าซุง) - powered by XMB
เสียงธรรมจากพระองค์ที่ 10 - PaLungJit.com

 

ผมแนะนำเลือกปล่อยปลา หน่อยครับ

ควรปล่อยปลาให้ถูกต้อง ด้วยครับ ผมเห็นหลายที่แล้ว ปล่อยปลาดุกหรือปลาช่อน ที่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งกระแสน้ำไหลแรงมาก

ผมเห็นปลาดุก ถูกคลื่นซัดบ้าง ตามลำตัว มีแผลเหวอะหวะ บ้าง หลายตัวครับ ริมตลิ่ง และแต่ละตัว ขนาดก็ปานกลางทั้งนั้น คงยากที่จะโตเต็มที่ได้ แบบใหญ่ๆ

และมีปลาสวายเจ้าถิ่น วัดบางวัด ด้วยครับ เคยปล่อยครั้งหนึ่ง พวกปลาหมอ ปลาไหล ปลาดุก ถ้ามีขายตามวัด ราคาไม่แพง คนชอบปล่อยกัน เวลาปล่อยที ปลาสวายจะไล่กวด สุดท้าย ปลาสวายอยู่กลางน้ำ ปลาดุกเกาะกลุ่มกันริมตลิ่ง น้ำนิ่ง หรือคุ้งน้ำ น่าสงสารมากครับ

ผมเคยไปวัดห้วยมงคล หัวหิน มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ น้ำนิ่ง มีที่ให้อาหารปลา ปลาดุกตัวใหญ่มากครับ แต่ก็กลัวคนด้วย ผมเห็นก็ Happy มาก เพราะเห็นมันกินแบบสนุกสนาน ไม่มีปลาสวายมาแย่ง เลย

อยากให้ปล่อยปลาให้ถูกสถานที่ด้วยครับ

เดี๋ยวนี้ไปตามวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่คิดจะปล่อยปลาอีกเลย จะให้อาหารปลาเพียงอย่างเดียวครับ