ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

คู่มือการเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหวภัยพิบัติ
(ฉบับมหาวิทยาลัยโตเกียว)​

ของที่ควรมีติดตัว
1 เงินสด
2 บัตรประจําตัว บัตรคนต่างด้าว
3 ตราปั้มญี่ปุ่น บัตรประกันสุขภาพ
4 น้ำดื่ม (คนละ 3 ลิตร ต่อวัน)
5 อาหารสำรอง(เครื่องกระป๋อง,ขนม)
6 มือถือ & ที่ชาร์จยามฉุกเฉิน
7 ทิชชู่
8 ผ้าขนหนู ประมาณ 5 ผืน
9 ไฟฉาย
10 วิทยุ
11 ร่ม หรือ เสื้อกันฝน
12 เสื้อหนาว เครื่องป้องกันความหนาวต่างๆ
13 ถุงมือทหารหรือถุงมือ
14 หน้ากาก เพื่อป้องกันหนาว หรือ เพื่อไม่ให้สูดควัน
15 ถุงขยะ(ขนาดใหญ่ๆ ดีกว่า) เพื่อป้องกันความหนาว
หรือป้องกันน้ำหรืออาจใช้แทนถังได้ ใช้เวลาฉุกเฉิน
16 saran wrap หรือพลาสติกครอบอาหาร
17 ยางรัด (5-6 เส้น)
18 ผ้าห่ม
19 หนังสือพิมพ์ (ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงความหนาว)
20 รูปถ่ายของครอบครัว (เพื่อยืนยันและหาครอบครัวเมื่อพรากกัน)
21 นกหวีด (เพื่อส่งสัญญาณว่ายังมีชีวิตรอด)
22 แว่นตา
23 ยาที่กินประจำ
24 ผ้าอนามัย(ขาดไม่ได้)
25 เครื่องเล่นเพลง(เพื่อฟังธรรรม-เพลงให้สงบ ในบางผลิตภัณฑ์อาจมีระบบวิทยุด้วย)
26 เทปผ้า(ถ้ามี จะสะดวกขึ้น)
27 เบาะ (ถ้ามี เบาะใช้แทนหมวกกันน้อคได้)
28 เครื่องเปิดกระป๋องและมีดเล็กๆ (เผื่อต้องอยู่ในห้องหลบภัยเป็นเวลานาน)​

วิธีปฏิบัติตัวยามฉุกเฉิน
1 เปิดหน้าต่างกับประตูไว้
2 วางของสำคัญบริเวณทางเข้าออก
3 ใส่รองเท้าที่มีพื้นหนา
4 ปิดวาล์วใหญ่ของท่อแก๊สหุงข้าว (อาจเกิดอันตรายได้ ต้องดูสถานการณ์ประกอบด้วย)
5 อัดไฟมือถือเมื่อโอกาสอำนวย
6 ปิด circuit breaker เวลาไฟดับ
(ดึงปลั๊กไฟในบ้านออกทั้งหมดก่อนปิด เพราะอาจถูกไฟดูดได้)​

กรณีมีแผ่นดินไหวต่อ ภายใน 24 ชั่วโมง
7 ให้สงบใจดีก่อนอื่น
8 ใช้เบอร์โทรศัพท์ที่ฝากข้อความเวลาภัยพิบัติ 171 (บอกลี้ภัยที่ไหน)
9 ใช้โทรศัพท์เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
10 ใช้ Skype ได้
11 ให้ระวังโทรศัพท์หลอกลวง ซึ่งจะโทรมาโดยทำทีว่าเป็นตำรวจ​

ข้อควรปฏิบัติตอนหลบภัย
1 อยู่ให้ห่างจากตู้เสื้อผ้าหรือตู้เย็นที่ทำท่าจะล้ม
2 ระวังกระจก หรือรั้ว(อาจล้มลงมาทับตัวได้)
3 อยู่ให้ห่างจากกำแพงที่ร้าวหรือเสาที่เอียง
4 หลีกเลี่ยงการผ่านเข้าออกในซอยแคบๆ หรือบริเวณริมหน้าผา ริมแม่น้ำ หรือริมทะเล
5 ผู้ที่อยู่แนวเลียบฝั่งทะเล ให้หลบไปอยู่บริเวณที่สูงๆ
6 ใส่หมวกนิรภัย หรือหมวกอะไรก็ได้เพื่อป้องกันศีรษะ
7 หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ผ้าฝ้ายหรือวัสดุติดไฟง่าย
8 เตรียมหน้ากากหรือผ้าชุบน้ำให้ชุ่มให้พร้อม (เพื่อป้องกันควัน)
9 หากเกิดไฟไหม้ ให้อยู่บริเวณเหนือลม
10 ถ้ามีรถให้เปิดกระจกรถพร้อมเปิดวิทยุเสียงดังเพื่อเป็นการกระจายข่าวให้แก่ผู้อื่น(ถ้าทำได้)​

ก่อนเกิดแผ่นดินไหว
1 ตรวจว่ามีหมวกกันน้อคหรือไม่
2 ตรวจว่ามีอาหารสำรองหรือไม่
3 ตรวจว่ามีน้ำสำรองหรือไม่
4 ตรวจว่ามีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลหรือไม่
5 ตรวจว่ามีถุงนอนหรือไม่
6 ตรวจทางหนีภัยว่ามีหรือไม่
7 ใส่ถุงเท้านอน
8 วางรองเท้าไว้ใกล้ตัว ถ้าเป็นไปได้หาที่ส้นหนาๆ หน่อย
9 ปิดม่านนอน เพื่อป้องกันเศษแก้วจากกระจกเวลาแตก
10 วางผ้าขนหนูกันไว้ระหว่างประตู เผื่อประตูปิดเบี้ยวกันให้เปิดประตูได้​

(ที่มา: http://www.facebook.com​

[ตัวอย่าง] การเตรียมอุปกรณ์ กระเป๋าเป้ฉุกเฉิน หรือ Emergency & Survival Bag (ฉ.คนไทย)
โดยอาสาสมัครฟื้นฟูประเทศไทย​

​

เป็นเป้ฉุกเฉินชุดที่เตรียมไว้ในที่พักอาศัย สำหรับยามเกิดพิบัติประเภทต่างๆ โดยรวมสิ่งของที่จำเป็นไว้ในเป้สามารถคว้าได้ทันที สำหรับดำรงชีพในเวลา 3-7 วัน หรือในระยะยาวกว่านั้น​

รายละเอียด
-เป้หลัก Lowe alipne(สำเนา) สีแดงสด มีแถบสะท้อนแสงชัดเจน ....ประมาณ 900 บาท
-เป้สำรองแบบย่ามมีหูรูด เผื่อใช้ยามเป้หลักชำรุดหรือมีสิ่งของต้องขนมากขึ้น หรือใช้แยกของเป็นสัดส่วนได้ ....... 50 บาท
-กล่องอุปกรณ์ฉุกเฉิน SurvivalKit (ใส่ไว้ในเป้หลัก) .........ประมาณ 300 บาท​

อุปกรณ์สื่อสารและส่งสัญญาณ
-ไฟฉายหลัก เป็นไฟฉายคาดศีรษะ ใช้ได้โดยมือว่างทั้งสองข้าง เปลี่ยนฝาหน้าเป็นสัญญาณฉุกเฉินสีแดงได้ (Petzl tactikka plus)..........ประมาณ 1,400 บาท
-วิทยุพลังงานแสงอาทิตย์และมือหมุน ใช้รับฟังข่าวสารทางวิทยุ AM/FM ได้
เป็นไฟฉายสำรอง สามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือฉุกเฉินได้ (Eton Microlink FR150) ..........ประมาณ 1,300 บาท
-วิทยุmp3 ฟังเสียงธรรมของครูบาอาจารย์ เป็นที่ยึดเหนี่ยวสงบจิตใจยามเกิดภัยพิบัติ ใช้เก็บข้อมูลสำคัญ เป็นวิทยุสำรอง และเป็นการใช้ถ่านที่มีให้หมดจนก้อนสุดท้าย.............ของเดิม
-กล่องพลาสติคล็อค ขนาดกลางแข็งแรง เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์อิเลคโทรนิคปลอดภัยกันน้ำเข้า ภายในกล่องบุโฟมกันกระแทก ใช้ใส่อุปกรณ์สื่อสารอิเลคโทรนิคทุกประเภท -ไฟฉายคาดศีรษะ วิทยุไฟฉาย วิทยุmp3 โทรศัพท์มือถือ หัวต่อประเภทต่างๆ และ battery ไว้ในกล่องเดียว.............ของเดิม
-(อาจเพิ่มอุปกรณ์แปลงไฟจากรถยนต์เข้ามือถือ)
*(ไฟฉายคาดศีรษะและวิทยุmp3 ใช้แบต AAA เหมือนกันเพื่อความสะดวกในการหยิบใช้แทนกันได้)
-แบตเตอรี่ ถ่านสำรอง
-นกหวีดหลัก Fox pearl เสียงดัง มีมาตรฐาน เป่าเมื่อเปียกน้ำได้ เลือกสีสะท้อนแสง..............250 บาท
-นกหวีดเล็กสำรอง ................30 บาท
-*สีเทียนหรือเมจิก 1 แท่งใช้เขียนบนพื้นผิวขุขระต่างๆทำเครื่องหมาย ป้ายข้อความ สัญลักษณ์ขนาดใหญ่ ได้
-แท่งเรืองแสงสีน้ำเงิน x3 ใช้ส่องสว่างส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือยามฉุกเฉินได้รวดเร็ว เลือกสีน้ำเงินเพราะคิดว่าสามารถมองเห็นได้ชัดทั้งในป่าหรือที่มีต้นไม้และในเมือง ............120 บาท​

อุปกรณ์ประเภทมีด,คีม และ มีดอเนกประสงค์
-มีดขนาดกลางใบเรียบ LAND GB-910 เป็นมีดหลัก ............ประมาณ 400 บาท จากร้าน Kitcamp
-มีดพับอเนกประสงค์ Victorinox Huntsman มีมีด ที่เปิดขวดเปิดกระป๋อง กรรไกร เลื่อย ไขควง และอื่นๆ ...............500 บาท จาก TKT
-มีดพับอเนกประสงค์(ขนาดเล็ก) Vic sd มี มีด ตะไบ กรรไกร แหนบ ใช้กับชุดปฐมพยาบาล...........100 บาท จาก TKT
-คีม multitools ไม่ทราบยี่ห้อ คุณภาพน่าจะพอไว้วางใจได้ ใช้ตัดลวดแล้วไม่บิ่น ............50 บาท จาก TKT (ใช้ดัด-ตัด ชุดขดลวดที่เตรียมไว้ได้)​

อุปกรณ์สำหรับต้มน้ำ ทำอาหาร
-หม้อถ้วยแสตนเลส สำหรับต้มน้ำให้สุกฆ่าเชื้อโรค-ทำอาหาร GI-Canteen cup .............100 บาท
-สกอตไบรท์ ทำความสะอาดภาชนะ และสิ่งของอื่น
-แอลกอฮอลล์แข็ง x2 สำหรับทำอาหารยามจำเป็นได้ 2 มื้อเล็ก โดยไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงก่อไฟ...........10 บาท​

อุปกรณ์ทำความสะอาดและปฐมพยาบาล
-กระเป๋ายาปฐมพยาบาล FirstAid Kit จากร้าน Boot's .............100 บาท
*(ยาแก้เชื้อราน้ำกัดเท้าหลอดใหญ่เพื่อทาแก้เชื้อรา ฮ่องกงฟุต ซึ่งเป็นโรคที่พบมากจากอุทกภัยน้ำท่วม)
-เสปรย์กันยุงแมลง 2 ขวดเล็ก ทิ้งได้เมื่อหมด ไม่ต้องพกทั้งขวด
-babywipe ทิชชู่เปียก สำหรับทำความสะอาดร่างกายแทนการอาบน้ำ ยามเกิดภัยพิบัติ น้ำสะอาดขาดแคลน .............50 บาท
-ทิชชู่แบบใช้งานอเนกประสงค์ (เหนียวและซับมากกว่าแบบธรรมดา) ใส่ในกล่องมีฝาปิดของ babywipe เดิมที่ใช้หมดแล้ว เพื่อหยิบใช้สะดวกกันน้ำ
-ทิชชู่แบบธรรมดา
-แปรงสีฟัน
-เจลล้างมือ ฆ่าเชื้อโรค เนื่องจากยามเกิดภัยพิบัติหรือหลังจากนั้นอาจมีโรคระบาดการทำความสะอาดฆ่าเชื้อเป็นสิ่งจำเป็น
-น้ำยา ฆ่าเชื้อโรคเดทตอลขวดเล็ก ใช้ละลายน้ำฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาดสิ่งต่างๆในปริมาณมาก
-ถุงพลาสติกใบใหญ่และเล็กหลายขนาด
-ขวดพลาสติดเล็กใส่น้ำยาบ้วนปากและน้ำมันมะกอก สำหรับกันผิวแห้งจากความร้อน-เย็น นวดคลายกล้ามเนื้อ หล่อลื่นไม่ให้มีดพับ multitools เป็นสนิม *บรรเทาอาการเชื้อราตามผิวหนังจากน้ำท่วม​

อุปกรณ์ปกป้องและป้องกันร่างกาย
-ผ้าปิดจมูกแบบใช้แล้วทิ้ง x 12 ผืน จากร้านไดโซะ 60 บาท
-ถุงมือหนัง ป้องกันมือบาดเจ็บจากการหยิบจับสิ่งของ เช่นเศษซากปรักหักพัง...........50 บาท
-ถุงมือผ้า หยิบจับสิ่งของเล็กน้อยและกันหนาว
-ถุงมือพลาสติก x24 ข้าง เผื่อหยิบจับสิ่งสกปรก หรือทำแผล
-ผ้าห่มอวกาศ x2 ผืน เพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกายยามจำเป็นฉุกเฉิน ใช้ปิดถ้วยหม้อสเตนเลสให้สุกเร็วขึ้น
ใช้รองสะท้อนแสงอาทิตย์สำหรับวิธีทำน้ำสะอาดด้วยแสงอาทิตย์ จากร้านไดโซะ 60 บาท .........120 บาท
-เสื้อคลุมกันฝนแบบพลาสติก ............20 บาท
-*แว่นตาว่ายน้ำ ใช้ป้องกันดวงตาได้ดียามเกิดภัยพิบัติ จากฝุ่นทราย ฝุ่นควัน แก๊สน้ำตา ละอองน้ำ พายุฝนตกหนักต่างๆ ได้ดี หรือสิ่งของเล็กๆที่มากับลมหรือน้ำท่วมได้ ใช้ดำน้ำยามน้ำท่วมได้ถ้าจำเป็น เพิ่มขอบเขตการมองเห็น.............ของเดิม​

เชือก
-เชือกเปล 10 เมตร สำหรับผูกมัดโยงสิ่งของสำภาระต่างๆ............60 บาท
-เชือกเล็ก 6 เมตร ใช้ผูกสิ่งของเล็กๆน้อยๆ เลือกมีสีสะท้อนแสง *อาจใช้เป็นสัญลักษณ์เครื่องหมายได้..........30 บาท
-เชือกเอ็น 1 ม้วน 50 เมตร
-เชือกฟาง
-แลคซีนเทป เทปกาวผ้า ใช้ปะซ่อมแซมสิ่งของ​

*เนื่องจากกระเป๋าเป็นของสำเนาแม้จะดูแล้วทนทานแต่ไม่มั่นใจเต็ม 100 เปอร์เซนต์จึงมีกระเป๋าสำรองไว้เผื่อฉุกเฉิน
*ขวดน้ำพลาสติก 1 ลิตร กับ 500 มิลลิลิตร แบบดูแล้วทนทานหน่อย สำหรับใช้ใส่น้ำ ใช้กับยาเม็ดทำน้ำสะอาดได้ 1 เม็ดและครึ่งเม็ดพอดี และสามารถใช้กับอลูมิเนียมฟลอยด์เพื่อทำน้ำสะอาดด้วย uv จากแสงอาทิตย์
*บางอย่างอาจไม่เอาไป เช่นขวดน้ำยาบ้วนปากหรือหนังสือบางเล่ม แต่ลงไว้เผื่อเป็นไอเดียสำหรับท่านอื่นครับ​

-การจัดชุดเป้ฉุกเฉินของผม เริ่มจาก ของหลักๆคือกล่องอุปกรณ์ฉุกเฉิน และ กระเป๋า-รองเท้า ก่อน จากนั้นค่อยไปส่วนอื่นๆเช่น ไฟฉาย มีด ยา เชือก ฯลฯ
-อุปกรณ์ทั้งหมดนี้ไม่ได้ซื้อทีเดียวแต่ทยอยค่อยเก็บไปทีละน้อย
-ถือว่าเกือบครบสมบูรณ์แล้วครับ อาจมีปรับเปลี่ยนอีกนิดหน่อย สิ่งที่คิดว่าอาจเพิ่มเติมคือ ฟลายชีทกันแดดฝน กับ ผ้าห่มฟรีสบางกันหนาว และ น้ำเกลือจำนวนหนึ่งสำหรับล้างแผล
-(ถ้าใช้กระเป๋าเป้ใบที่มีอยู่แล้ว หรือใช้ไฟฉายมือหมุนและ ใช้วิทยุเล็กแบบใส่ถ่านก็จะประหยัดได้มากขึ้นอีกแต่ได้อุปกรณ์จำเป็นครบใกล้ เคียงกัน ชุดฉุกเฉินอาจใช้ของที่มีอยู่แล้วได้เช่นรองเท้า แล้วอาจค่อยไปลงรายละเอียดของแต่ละชิ้นภายหลังตามความเหมาะสมและงบประมาณของ แต่ละท่าน)
ราคารวมอุปกรณ์ ประมาณ 5,000 บาท + ชุดปฐมพยาบาล และยาต่างๆประมาณ 500 บาท = 5,500 บาท​

หนังสือ
-วิธีรอดตายจากภัยพิบัติ
-คู่มือปฐมพยาบาล หมอชาวบ้าน
-แผนที่ทางหลวง​

น้ำหนักกระเป๋าฉุกเฉิน
ประมาณ 4 กิโลกรัม ไม่รวมเสื้อผ้าและอาหาร
ประมาณ 5 กิโลกรัม รวมเสื้อผ้าและอาหารสำหรับ 3 ถึง 5 วัน​

(ที่มา: http://palungjit.org/threads/รวบรวมข้อมูลเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ.51726/page-74)​

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> ทั่วประเทศมีฝนเพิ่มมากขึ้น </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ทั่วประเทศมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้

วันนี้ ( 12 มิ.ย.) สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไปประจำวันระบุว่าเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำอยู่บริเวณประเทศลาว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วประเทศมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้

สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 12-16 มิ.ย. 2554

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก และกำแพงเพชร อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ความดันพระเนตร ปกติ กระจกพระเนตรมัวเล็กน้อย
แถลงการณ์สำนักพระราชวัง
เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 44
วันนี้ (11 มิ.ย. )คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รายงานว่า พระอาการทั่วไปดี อุณหภูมิพระวรกาย ความดันพระโลหิต พระหทัย และระบบการหายพระหทัยปรกติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงออกกำลังพระวรกายทำให้กำลังพระกล้ามเนื้อทรงแข็งแรงขึ้นอีก
อนึ่ง เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พุทธศักราช 2554 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงรับการถวายตรวจพระเนตรที่โรงพยาบาลจักษุรัตนิน ซึ่งคณะแพทย์ฯ ได้ถวายการตรวจพระเนตรมาเป็นระยะๆ พบว่า ความดันในพระเนตร จอประสาทและประสาทพระเนตรปรกติ
ส่วนกระจกพระเนตรมัวเล็กน้อย เนื่องจากทรงเป็นต้อกระจกระยะเริ่มแรก คณะแพทย์ฯ มีความเห็นว่าจำเป็นต้องขอพระราชทานถวายการตรวจติดตามเป็นระยะๆต่อไป

Mthainews

 

คลื่นยักษ์ที่ชิลี​

​

ที่ชิลีได้เกิดคลื่นยักษ์พัดถล่มพื้นที่ชายฝั่ง สร้างความเสียหายให้กับหมู่บ้านชาวประมงอย่างหนัก

สภาพอากาศที่แปรปรวนและฝนตกหนักติดต่อกันนานเกือบสัปดาห์ได้ทำให้เกิดคลื่นยักษ์หลายระลอก บางลูกมีความสูงถึง 9 เมตรพัดถล่มหลายพื้นที่ชายฝั่งของชิลี รวมทั้งหมู่บ้านชาวประมงเมาเล่, และเมืองปุนตา อเรนาสและลิตอราล ในรัฐคูลิโค โดยเฉพาะที่หมู่บ้านชาวประมงเมาเล่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมประมงสำคัญของชิลีนั้นได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยถูกคลื่นยักษ์พัดถล่มพังยับเยิน ก่อนพัดขึ้นท่วมบ้านเรือนประชาชน ทำให้ต้องอพยพผู้ที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่ง อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

หลังเกิดเหตุ ผู้ว่าการรัฐคูริโค่ให้คำมั่นจะให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ ขณะที่ชาวประมงก็ยืนยันจะไม่ย้ายออกไป แต่จะฟื้นฟูอุตสาหกรรมประมงให้ฟื้นคืนชีพขึ้นอีกครั้ง

ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เผยภาพธารลาวาภูเขาไฟในฮาวาย​

​

สำนักข่าวต่างประเทศ เผยภาพธารลาวา ที่ไหลลงสู่ทะเลสาบ บนยอดภูเขาไฟ"กิโลเว" ท่ามกลางการจับตาของคณะวิทยาศาสตร์อย่างใกล้ชิด หวั่นลาวาจะล้นทะลักออกมา

ภาพวิดีโอล่าสุดของสำนักธรณีวิทยาของสหรัฐฯ บันทึกได้ ที่แสดงให้เห็นถึงธารของลาวา กำลังไหลผ่านช่องเปิด ลงสู่แอ่งหรือทะเลสาบ บนยอดภูเขาไฟ กิโลเว ในรัฐฮาวายของสหรัฐฯ

รายงานระบุว่า ทะลสาบลาวาดังกล่าว ก่อตัวขึ้นที่หลัง ในช่วงปี 2009 ซึ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 700 องศาเซลเซียส และการที่ลาวาไหลลงสู่ทะเลสาบจำนวนมากมหาศาล ทำให้นักวิทยาศาสตร์วิตกกังวลว่าจะไหลทะลักออกมาได้ ซึ่งได้มีการจับตาดูระดับของลาวาอย่างใกล้ชิด

ภูเขาไฟ"กิโลเว" ตั้งอยู่ในอุทยานภูเขาไฟแห่งชาติ บนเกาะฮาวาย และยังคงปะทุอยู่ โดยในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวชมของภูเขาไฟเป็นจำนวนมาก

ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

จีนเผชิญพายุหลายลูก​

​

จีนเผชิญน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่ภาคกลางและใต้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 41 คนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ล่าสุดพายุสาริกาได้กลายเป็นพายุโซนร้อนลูกแรกที่พัดขึ้นฝั่งทางใต้ของจีนเมื่อเช้านี้

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีและต่อเนื่องถึงเช้าวานนี้ได้ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันครั้งรุนแรงและแผ่นดินถล่มในหลายพื้นที่ทั่วมณฑลหูเป่ย และหูหนานซึ่งอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง โดยทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 คนสูญหาย 5 คนและต้องอพยพผู้ประสบภัยอีกกว่า 111,000 คนที่เมืองเซียงหยาง, หวงกังและเสียนหนิงของมณฑลหูเป่ย โดยเฉพาะที่เสียนหนิงได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ส่วนที่มณฑลหูหนานก็มีรายงานผู้เสียชีวิต 19 คน สูญหาย 28 คน

ที่เมืองเยว่หยางและฉางเต๋อ พายุฝนฟ้าคะนองยังสร้างความปั่นป่วนขึ้นที่มณฑลเจียงซี โดยเจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพชาวบ้านกว่า 26,000 นออกจากพื้นที่ในเขตซิวฉุ่ย และทำให้มีผู้ติดค้างอยู่ภายในบ้านราว 1,200 คน รวมผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมปีนี้มีอย่างน้อย 95 คนแล้ว

และล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อนสาริกาได้กลายเป็นพายุโซนร้อนลูกแรกที่พัดขึ้นฝั่งที่เมืองซ่านโถว มณฑลกว่างตง ทางใต้ของจีน โดยขึ้นฝั่งเมื่อเวลา 5.45 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่นหรือ 6.45 นาฬิกา ตามเวลาของไทยด้วยความเร็วลม 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนมุ่งขึ้นขึ้นสู่ภาคเหนือ โดยคาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักและลมพัดแรงที่เมืองเมืองซ่านโถว, เม๋โจว, เจียหยางและเฉาโจว

ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อากาศร้อนจัดที่สหรัฐ​

​

ที่สหรัฐฯ พื้นที่ทางตะวันออกต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด โดยเฉพาะที่กรุงวอชิงตัน ดีซี.ประชาชนต้องออกมาเล่นน้ำพุคลายร้อน

รายงานระบุว่า ที่เมืองบอสตั้น ฟิลาเดลเฟียและกรุงวอชิงตัน ดีซี. วัดอุณหภูมิได้เกือบ 38 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนต้องออกมาคลายร้อนกันตามสวนสาธารณะ หรือไม่ก็จุดที่มีน้ำพุ ขณะที่เครื่องดื่มและไอศกรีมก็ขายดิบขายดี แม้กระทั่งสัตว์ในสวนสัตว์กรุงวอชิงตัน ก็ได้รับผลกระทบจากอากาศร้อนด้วย เจ้าหน้าที่ต้องนำสัตว์เข้าที่ร่ม นอกจากนี้พยากรณ์อากาศสหรัฐฯยังคาดการณ์ด้วยว่า อาจเกิดพายุฝนที่เมืองฟิลาเดลเฟีย และนิวยอร์คด้วย

ส่วนที่เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ในย่านธุรกิจเมื่อวานนี้เกิดไฟดับ เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด 32.2 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนใช้ไฟกันมากขึ้น รายงานระบุว่า ไฟฟ้าที่ดับเป็นบางจุดทำให้สัญญานไฟจราจรใช้งานไม่ได้ เจ้าหน้าที่ต้องตัดไฟที่ศาลากลางและอาคารรัฐบาลหลายแห่งเพื่อให้พื้นที่อื่นได้มีไฟใช้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องตัดไฟในพื้นที่บางจุดเป็นเวลา 2 วัน ทำให้ประชาชนหลายร้อยคนต้องอพยพออกจากพื้นที่

ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ภูเขาไฟชิลียังส่งผลกระทบต่อเที่ยวบิน​

​

เถ้าถ่านจากภูเขาไฟในชิลี ส่งผลกระทบน่านฟ้าในหลายประเทศของอเมริกาใต้ โดยเฉพาะที่อาร์เจนติน่าและอุรุกวัย จำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายสิบเที่ยว เพื่อความปลอดภัย

แม้สถานการณ์การปะทุของภูเขาไฟ "ปูเยฮิว" ของชิลีจะลดน้อยลง แต่เถ้าถ่านและควันไฟ ยังคงถูกพ่นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เกิดการปะทุครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยกลุ่มเถ้าถ่านและควันไฟขนาดมหึมา ได้เริ่มส่งผลกระทบต่อน่านฟ้าของประเทศเพื่อนบ้าน อย่างอาร์เจนติน่าและ อุรุกวัยแล้ว

ทั้งนี้รัฐมนตรีคมนาคมของอาร์เจนติน่า ได้สั่งปิดสนามบินอย่างน้อย 7 แห่ง จนกว่าจะปลอดภัยในการบิน ส่งผลให้เที่ยวบินหลายสิบเที่ยวต้องถูกยกเลิก ผู้โดยสารตกค้างตามสนามบินเป็นจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อเที่ยวบิน ในโคลัมเบีย,เปรู และสหรัฐอเมริกา ที่ต้องบินผ่านอาร์เจนติน่าต้องล่าช้าออกไปด้วย

ขณะที่ประชาชนที่อยู่อาศัยใน Villa La Angostura ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนชิลี ต่างช่วยกันตักเถ้าถ่านที่ปกคลุมหนาทึบทั่วเมือง อาคารร้านค้า รวมไปถึงโรงเรียนปิดการเรียนตลอดสัปดาห์ ขณะที่ทางการแนะให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และ ระมัดการใช้รถใช้ถนนเพราะทัศนวิสัยเลวร้าย ล่าสุดมีรายงานว่าประชาชนเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนอาหารและสิ่งของจำเป็นแล้ว เพราะถนนหลายสายถูกปิด ทำให้การขนส่งสินค้ามาถึงล่าช้า

นอกจากนี้ปัญหาเถ้าถ่านจะส่งผลกระทบต่อน่านฟ้าแล้ว ยังเป็นปัญหากับแม่น้ำนิลาฮิว ในพื้นที่ทางตอนใต้ของชิลีด้วย เนื่องจากเถ้าถ่านจำนวนมากที่ตกลงสู่แม่น้ำ ได้ไปปิดกั้นทางน้ำ ทำให้น้ำเอ่อท้นเข้าท่วมสองฝั่งแม่น้ำ ทางการเตือนประชาชนที่อาศัยใกล้กับแม่น้ำ อพยพออกจากพื้นที่ พร้อมวิตกน้ำในแม่น้ำ อาจเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง และระดับน้ำที่สูงขึ้น บวกกับอุณหภูมิน้ำที่สูงถึง 45 องศาเซลเซียส อันเนื่องมาจากการปะทุของภูเขาไฟ จะทำให้ปลาในแม่น้ำตายเป็นจำนวนมาก

ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

กัดดาฟีเป็นเป้าหมายโจมตีของนาโต้​

​

นาโต้เผยพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียถือเป้าหมายการโจมตีของนาโต้ภายใต้มติของสหประชาชาติ

หลังจากปฏิบัติการเพื่อบังคับใช้มติการจัดตั้งเขตห้ามบินเหนือลิเบียเพื่อปกป้องชีวิตพลเรือนชาวลิเบียจากการกวาดล้างของกองกำลังกัดดาฟีซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมาก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งนายกัดดาฟีหรือทำให้นายกัดดาฟียอมลงจากอำนาจได้ ล่าสุดนายทหารระดับอาวุโสขององค์การนาโต้เปิดเผยกับ CNN ว่านาโต้เพิ่มความกดดันไปที่ระบอบการปกครองของกัดดาฟีมากขึ้น โดยเมื่อวัปดาห์ที่แล้วได้ระดมเฮลิคอปเตอร์ออกไปโจมตีรถทหารของกัดดาฟี่,เครื่องไม้เครื่องมือและกองกำลังของกัดดาฟี่เป็นครั้งแรก

ขณะเดียวกันก็ตอบคำถามของ CNN ว่า กัดดาฟีเป็นเป้าหมายการโจมตีของนาโต้หรือไม่ นาโต้ไม่ได้ตอบตรงๆแต่ระบุว่า หากพิจารณาตามมติของสหประชาชาติก็หมายถึงตัวกัดดาฟีเพราะในฐานะเป็นผู้บัญชาการทหารและเขาเป็นส่วนหนึ่งในโครงสร้างงของการควบคุมและบัญชาการ ดังนั้นกัดดาฟีจึงเป็นเป้าหมายโจมตีที่ถูกต้องตามกฏหมาย

นายนาย Anders Fogh Rasmussen เลขาธิการใหญ่องค์การนาโต้กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ถึงเวลาที่จะต้องวางแผนกันแล้วว่า ลิเบียจะเป็นอย่างไรหลังจากกัดดาฟีลงจากอำนาจเนื่องจากระบอบการปกครองที่น่าสะพรึงกลัวดังกล่าวกำลังจะถึงกาลอวสาน ขณะที่กัดดาฟีก็ออกแถลงการณ์ในวันต่อมาทันทีว่าจะไม่ยอมจำนน แม้ว่าที่พักของเขาถูกถูกนาโต้ถล่มทางอากาศ ทั้งนี้นาโต้ได้ขยายเวลาปฏิบัติการในลิเบียออกไปอีก 90 วัน

ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

เกิดแผ่นดินไหว 3.6 ริกเตอร์ที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ไม่มีรายงานความเสียหาย​

​

เมื่อเวลา 06.49 น. วันที่ 12 มิถุนายน เกิดเหตุแผ่นดินไหวมีขนาด 3.6 ริคเตอร์ ศูนย์กลางอยู่ที่ ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ โดยสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหว จ.เชียงใหม่ ระบุว่า เป็นแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากรอยเลื่อนแม่จัน เบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนมีขนาดเล็กน้อย ประชาชนในพื้นที่ไม่รับรู้แต่อย่างใด

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน 2554 16:39:10 น.

ที่มา http://www.ryt9.com/s/iq01/1169117

 

ภัยจากภาวะโลกร้อนเกิดขึ้นแน่นอนครับ ขนาดแถวบ้านผม ยังมีการทิ้งขยะพลาสติกเกลื่อนกลาด ผมไปออกกำลังกายทีใด รู้สึกหดหู่ใจ ผมจะต้องเดินเก็บไปทิ้งถังขยะคนเดียวทุกที ไม่มีใครมีจิตสำนักเลย เวรกรรมกำลังจะตามทันแล้วครับ

 

จีน-เด็กยอดกัตญญูเดินเท้า 340 กิโลเมตร ทำงานเลี้ยงแม่​

​

เด็กชายยอดกตัญญูที่ประเทศจีน อายุแค่ 13 ปี ยอมเดินเท้าไปทำงานต่างมณฑล เป็นระยะทางถึง 340 กิโลเมตร เพื่อหาเงินรักษาแม่ที่ป่วยจากโรคเนื้องอกในสมอง

ลั่ว เว่ยเคอะ เด็กชายยอดกตัญญูวัย 13 ปีคนนี้ มีบ้านอยู่ที่เมืองเหอหยวน มณฑลกวางตุ้ง เด็กชายต้องเดินเท้าเป็นระยะทางถึง 340 กิโลเมตร เพื่อไปทำงานขัดรองเท้าที่มณฑลกวางโจว ด้วยความหวังจะเก็บเงินเป็นค่าผ่าตัดให้กับแม่ที่ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง

พ่อของลั่วเสียชีวิตไปเมื่อปีก่อน ทิ้งเด็กชายให้อยู่กับแม่และน้องสาว ส่วนแม่ของเด็กชาย มีเงินเดือนเพียงเดือนละ 1,000 หยวนเท่านั้น ดังนั้นแม่จึงมีเงินไม่พอจ่ายเงินค่ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ลั่วจึงตัดสินใจไปทำงานขัดรองเท้าที่ต่างมณฑลเพื่อเก็บเงินช่วยแม่ ขณะที่น้องสาวของลั่ว เล่าว่า ระหว่างเดินเท้าไปกวางโจว ลั่วจะนอนพักข้างทางหลวง และว่าพี่ชายยอมทนลำบากทั้งที่ไม่เคยต้องทำอะไรอย่างนี้มาก่อน

ลั่วทำงานได้เงินวันละ 100 หยวน แต่จากการเปิดเผยของผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมระบบประสาทของโรงพยาบาลที่แม่ของลั่วรักษาตัวอยู่ ระบุว่า ก้อนเนื้อในสมองแม่ของลั่วนั้นมีขนาดใหญ่ แต่การรักษาต้องใช้เวลานาน คาดค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 100,000 หยวน

ลั่ว เปิดเผยกับซีซีทีวีว่า เขาเป็นลูกชายคนเดียวในครอบครัว เป็นหน้าที่ที่เขาจะต้องดูแลแม่และน้อง สิ่งเดียวที่ลั่วต้องการ คือให้แม่หายเพื่อมีชีวิตอยู่กับเขาและน้องอย่างมีความสุข

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอาทิตย์ ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554

จีน..ผ่าตัดแม่ของเด็กยอดกตัญญู​

​

เรื่องของลูกยอดกตัญญูที่จีน ที่ต้องเดินเท้าไกล 340 กิโลเมตรไปทำงานหาเงินรักษาแม่ที่ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ล่าสุดแม่ของเขาก็ได้เข้ารับการผ่าตัดแล้ว

ลั่ว เว่ยเก๋อ เด็กชายวัย 13 ปีต้องเดินเท้าไกล 340 กิโลเมตรจากหมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองเหอหยวน ไปยังเมืองกวางเจา ในมณฑลกวางตุ้ง เพื่อทำงานขัดรองเท้า เก็บเงินเป็นค่าผ่าตัดให้แม่ที่ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง แม้จะหาเงินได้เพียงแค่วันละ 100 หยวนเท่านั้น

พ่อของเด็กชายลั่วเสียชีวิตไปเมื่อ 1 ปีก่อน ทิ้งเขาให้อยู่กับแม่และพี่สาว โดยแม่มีรายได้เดือนละ 1,000 หยวนเท่านั้น ไม่พอสำหรับค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดที่คาดว่าจะต้องใช้เงินถึง 100,000 หยวน

เขาจึงตัดสินใจเดินเท้าไปทำงานที่เมืองกวางเจา โดยอาศัยนอนข้างถนน และกินอาหารง่ายๆ เด็กชายลั่วบอกว่าตัวเองเป็นลูกชายคนเดียว มีหน้าที่ต้องดูแลแม่และพี่สาว ขณะที่พี่สาวก็เล่าว่าน้องชายไม่เคยต้องเจอความลำบากเช่นนี้มาก่อน

ล่าสุดมีข่าวดีว่า แม่ของเด็กชายลั่วได้เข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกในสมองแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยการผ่าตัดประสบความสำเร็จ และขณะนี้กำลังพักรักษาตัว แต่แพทย์บอกว่ายังไม่พ้นขีดอันตราย ในวันผ่าตัด เด็กชายลั่วได้มาให้กำลังใจแม่ถึงข้างเตียงด้วย

ด้านแพทย์เผยว่า เนื้องอกมีขนาดใหญ่มาก และไม่สามารถผ่าตัดออกได้ทั้งหมด แต่ก็พยายามผ่าออกให้ได้มากที่สุด เพื่อรักษาชีวิตและทำให้ร่างกายของเธอสามารถใช้งานได้เป็นปกติที่สุด

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เวียดนามประท้วงจีนต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ติดกัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>12 มิถุนายน 2554 16:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=650><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผู้ชุมนุมประท้วงถือธงชาติเวียดนามและป้ายแสดงข้อความต่อต้านจีน หน้าสถานทูตจีนระหว่างการประท้วงต่อต้านการรุกล้ำเขตแดนเวียดนามของเรือจีนในน่านน้ำพิพาท ที่กรุงฮานอย ในวันนี้ (12 มิ.ย.). --AFP PHOTO/STR. </B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
เอเอฟพี - ชาวเวียดนามหลายสิบคนชุมนุมประท้วงด้านนอกสถานทูตจีนในกรุงฮานอย วันนี้ (12 มิ.ย.) นับเป็นการชุมนุมประท้วงช่วงสุดสัปดาห์ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านคอมมิวนิสต์เพิ่มขึ้นในปัญหาน่านน้ำพิพาท

ชาวเวียดนามประมาณ 50 คนพร้อมธงชาติเวียดนามรองเพลงปลุกใจและถือสัญลักษณ์แสดงอำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะสองแห่งในทะเลจีนใต้ที่เป็นประเด็นปัญหาพิพาทยาวนานกับจีน ส่วนที่นครโฮจิมินห์ ประชาชนประมาณ 250 คน จัดชุมนุมประท้วงในลักษณะเดียวกัน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมพื้นที่บริเวณสถานกงสุลจีนด้วยรั้วลวดหนามเพื่อป้องกันผู้ชุมนุมเข้ามาในพื้นที่

แม้ว่าทางการเวียดนามจะอนุญาตให้มีการชุมนุมเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินขนาดเล็กบ้าง แต่การสนับสนุนให้มีการชุมนุมประท้วงทางการเมืองที่เสี่ยงต่อการถูกจับกุมเช่นนี้ ทำให้การชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องผิดปกติ

ผู้ชุมนุมประท้วงในฮานอยที่สลายกลุ่มหลังผ่านไป 30 นาทีนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลและเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เป็นจำนวนมากควบคุมสถานการณ์อยู่ เวียดนามและจีนมีปัญหาขัดแย้งในประเด็นอำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะสแปร็ตลีย์และหมู่เกาะพาราเซลล์ รวมทั้งน่านน้ำบริเวณโดยรอบ

ความตึงเครียดเพิ่มยิ่งขึ้นและมาถึงระดับสูงสุดในรอบหลายปี หลังจากในเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา เวียดนามกล่าวหาว่าเรือลาดตระเวนของจีนตัดสายเคเบิ้ลสำรวจแหล่งน้ำมันภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเวียดนาม

ผู้ชุมนุมประท้วงบางรายกล่าวว่า พวกเขากลับมาชุมนุมอีกครั้ง หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เวียดนามกล่าวหาว่าเรือประมงจีนทำความเสียหายให้กับสายเคเบิ้ลของเรืออีกลำในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเล แต่จีนตอบโต้ด้วยการเตือนให้เวียดนามหยุดทุกกิจกรรมที่เป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของจีนในบริเวณน่านน้ำพิพาทในทะเลจีนใต้

"เราชุมนุมเพื่อสันติ" นายก๊วก ดัท อายุ 30 ปี สวมเสื้อลายธงชาติเวียดนาม และกล่าวว่าหากจีนลุกล้ำประเทศ จีนจะต้องสูญเสีย

ในนครโฮจิมินห์ ผู้ชุมนุมประท้วงจีนด้วยการแสดงสัญลักษ์ผู้บุกรุก ขณะที่ผู้ชุมนุมอีกรายเรียกร้องให้ต่อต้านสินค้าจีน นอกจากนั้นผู้ชุมนุมประท้วงต่างตั้งหน้ารอการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงของกองทัพเรือเวียดนามที่มีแผนจะจัดซ้อมกันในคืนวันจันทร์นี้ (13 มิ.ย.) ที่บริเวณนอกชายฝั่งภาคกลาง ขณะที่รัฐบาลเวียดนามระบุว่า การซ้อมรบเป็นส่วนหนึ่งของกำหนดการการฝึกซ้อมประจำปีอยู่แล้ว.

ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9540000071651
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สงครามจีน-เวียดนาม สงครามที่ยิงแหลกที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ​

สงครามสิบหกวันหรือสงครามจีน-เวียดนามเกิดขึ้นในปี 1979 เป็นสงครามที่เกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้นๆแต่รุนแรงของจีนที่พึ่งกลายเป็นมหาอำนาจสดๆ กับเวียดนาม ประเทศเล็กพริกขี้หนูจอมท้าทาย มีสาเหตุมาจากเงื่อนไขทางการเมืองที่ซับซ้อน สาเหตุที่เรียกว่าสงครามสิบหกวันก็เนื่องมาจากสงครามครั้งนี้กินเวลาเพียงแค่ 16 วันเท่านั้น แต่ถึงแม้จะกินเวลาไม่นานนัก แต่การรบนั้นดุเดือดเลือดพล่านและจำนวนคนตายมากกว่าสงครามที่กินระยะเวลานานๆบางครั้งซะอีก (อันที่จริงสงครามนี้มีอยู่หลายชื่อ เช่น สงครามสั่งสอน สงครามอินโดจีนครั้งที่ 3 เป็นต้น) อย่างที่บอกไปนั่นแหละครับ สาเหตุมันซับซ้อน ดังนั้นผมจะขอเล่ามาตั้งแต่ต้นตอเลยนะครับ

กรณีพิพาทของจีนกับรัสเซีย

ในช่วงแรกของสงครามเย็นนั้น จีนกับรัสเซียเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน ไม่ว่ารัสเซียจะก่อสงครามตัวแทนขึ้นที่ไหน ไม่ว่าจะที่เกาหลีหรืออียิปต์ จีนก็จะไปช่วยเสมอ

แต่ทว่าในปี 1963 เมื่อรัสเซียมีปัญหากับอเมริกาเรื่องวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ในคิวบา แต่จีนกลับไม่ยอมไปช่วยซะงั้น รัสเซียจึงถอนการสนับสนุนทุกเรื่องที่มีต่อจีน แต่แล้วสงครามเวียดนามก็ดันเกิดขึ้นซะก่อน รัสเซียจึงจำเป็นต้องใช้จีนเป็นทางผ่านในการขนอาวุธไปให้เวียดนามสู้กับอเมริกา จีนจึงถือโอกาสนี้ยักยอกอาวุธของรัสเซียซะเลย แต่รัสเซียก็ไม่ได้โง่ มีเช็กยอดปลายทาง เมื่อรัสเซียรู้เข้าจึงเรียกจีนไปคุยแต่ก็ตกลงกันไม่ได้ รัสเซียจึงหันไปใช้วิธีขนอาวุธให้เวียดนามทางเรือแทน โดยใช้ท่าเรือไฮฟองนอกชายฝั่งฮานอยเป็นแหล่งขนถ่ายอาวุธขนาดใหญ่

ในปี 1969 สถานการณ์ความบาดหมางของจีนกับรัสเซียทวีขึ้นถึงขีดสุด เมื่อทหารจีนซุ่มยิงทหารรัสเซียตายที่ชายแดนระหว่างจีนกับรัสเซีย ทั้งสองฝ่ายจึงขนทหารเป็นล้านไปยืนประจันหน้ากันที่ชายแดน ออกโรงรบกันจนทหารเสียชีวิตไป 800 นาย แต่สุดท้ายต่างฝ่ายต่างก็ต้องถอยกลับมาเพราะมีอาวุธนิวเคลียร์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย (ภาพล่าง) ทหารจีนเอาหมวกทหารรัสเซียที่ยิงได้มาโชว์

​

ด้วยเหตุนี้อเมริกาจึงชักชวนจีนเข้าร่วมเป็นพันธมิตร เปิดสถานทูตมะกันในจีน บอยคอตไต้หวันซะเลย

เวียดนาม - แผนสหพันธรัฐอินโดจีน

ปี 1975 เวียดนามเหนือรบชนะอเมริกาในสงครามเวียดนามและรวมแผ่นดินได้สำเร็จ หนำซ้ำยังยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยต่างๆที่ทหารมะกันทิ้งเอาไว้ได้อย่างมากมายจนกลายเป็นชาติที่ Powerful ที่สุดในคาบสมุทรอินโดจีนในสมัยนั้นไปเลย (ภาพล่าง) ทหารเวียดนามขับรถถังพุ่งชนประตูรั้วสถานทูตอเมริกาในกรุงไซง่อน ภาพนี้ดังไปทั่วโลกเล่นเอาอเมริกาแทบบ้าไปเลย ชนะชาติมหาอำนาจได้ตั้งมากมาย เยอรมัน อิตาลี่ ญี่ปุ่น โดนตูปราบหมด แต่เจือกมาแพ้ประเทศที่ไม่น่าจะมีอะไรแบบเวียดนามเนี่ยนะ

​

เมื่อจัดการเรื่องภายในประเทศตนเสร็จ เวียดนามก็วางแผนที่จะยึดครองทุกประเทศในคาบสมุทรอินโดจีน(กัมพูชา ลาว ไทย) และจัดการรวมเป็นประเทศเดียวที่ปกครองแบบคอมมิวนิตส์ แผนการนี้มีชื่อว่า "แผนสหพันธรัฐอินโดจีน"

เวียดนามเข้ายึดครองกัมพูชา

เวียดนามกับเพื่อนบ้านอย่างลาวและกัมพูชานั้นเป็นคอมมิวนิตส์คนละสายกัน เวียดนามนั้นเป็นคอมมิวนิตส์สายรัสเซีย ส่วนลาวและกัมพูชานั้นเป็นคอมมิวนิตส์สายจีน เมื่อจีนกับรัสเซียขัดแย้งกัน เวียดนามจึงมีปัญหากับเพื่อนบ้านทันที

กัมพูชาเป็นประเทศจอมหาเรื่องที่เที่ยวก่อเรื่องกับประเทศเพื่อนบ้านไปทั่ว แต่ในตอนนั้น(ปี 1978) กัมพูชาตกอยู่ในสภาวะสงครามกลางเมืองระหว่างกลุ่มเขมรแดงกับกลุ่มกัมพูชาประชาธิปไตย การฆ่าฟันกันเองของคนชาติเดียวกันทำให้ประเทศที่ธรรมดาก็สู้เวียดนามไม่ได้อยู่แล้วอ่อนแอลงไปอีก เวียดนามจึงใช้ความเหนือกว่าทางด้านการทหารบุกเข้ายึดครองกัมพูชาไว้ได้อย่างง่ายดาย (ภาพล่าง) กองทัพเวียดนามบุกเข้าสู่กรุงพนมเปญ

​

เวียดนามเข้ายึดครองลาว

เมื่อจัดการกัมพูชาเสร็จ เวียดนามส่งกองทัพบุกเข้าไปในลาว ซึ่งเป็นเป้าหมายต่อไป ลาวเป็นประเทศที่รักสงบ เรื่องทหารนั้นเวียดนามเลยกินขาด เวียดนามจึงสามารถเข้ายึดครองลาวได้อย่างง่ายดายเช่นกัน บัดนี้เวียดนามมีชายแดนยันกับไทยแล้ว การรุกรานกัมพูชาและลาวของเวียดนามสร้างความโกรธแค้น ให้กับจีนเป็นที่สุด เพราะลาวและกัมพูชานั้นจีนให้การสนับสนุนอยู่ การกระทำของเวียดนามจึงถือเป็นการตบหน้าจีนฉาดใหญ่เลยทีเดียว

เวียดนามบุกไทย

ไทยนั้นถือเป็นชาติลู่ตามลมที่ขาดจุดยืนของตัวเอง ในตอนที่อเมริกาบุกเวียดนามนั้น ไทยได้ส่งทหารไปช่วยอเมริการบ ซึ่งบัดนี้เวียดนามมันมาทวงคืนแล้ว

ถ้าเทียบกันแล้ว กองทัพไทยในตอนนั้นสู้เวียดนามไม่ได้เลยทั้งเรื่องอาวุธและจำนวนทหาร กองทัพไทยประสบปัญหาทั้งเรื่องอาวุธที่ล้าหลังเอามาก ๆ(ตั้งแต่สมัยสงครามโลก) เทียบไม่ได้กับเวียดนามที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีีย ประกอบกับไทยในตอนนั้นเกิดจลาจลขึ้นภายในประเทศ ดังนั้นถ้าเวียดนามมันบุกเข้ามาจริงๆล่ะก็จบเห่

เวียดนามได้เคลื่อนกำลังทหารกว่าหกแสนนายเข้าประชิดชายแดนไทยเป็นแนวยาว และจัดการยิงปืนใหญ่เข้าถล่มชายแดนไทยเป็นการทักทาย ไทยจึงได้ส่งกองทัพเข้าต้าน(ทหารไทยมีน้อยกว่าอย่างมาก กำลังสำรองก็ไม่ยอมเรียกมาใช้ ฉลาดเนอะ) แต่ก็ไม่ครณามือเวียดนาม จนในที่สุดเวียดนามก็เข้ายึดครอง บ้านร่มเกล้า บ้านช่องบก บ้านทับโท ของไทยได้ (ภาพล่าง) ทหารเวียดนามบุกเข้าช่องบก

​

ความโกรธของจีน

การรุกคืบเข้ามาของกองทัพเวียดนาม สร้างความอกสั่นขวัญหายแก่ไทยยิ่งนัก ไทยจึงเลิกให้การสนับสนุนอเมริกาและหันไปขอความช่วยเหลือจากจีนแทน จีนนั้นเมื่อก่อนเป็นชาติกระจอกๆ ที่ถูกชาติมหาอำนาจตะวันตกและญี่ปุ่นรังแก แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว จีนพร้อมที่จะกลายเป็นขั้วอำนาจใหม่บนเวทีโลกที่จะไม ่ยอมให้ใครมาลูบคมเอาง่ายๆ

ในปี 1978 นั้น เติ้งเสี่ยวผิง ได้ไปเยือนอเมริกา บอกกับ ปธน.อเมริกา(จำชื่อไม่ได้) ว่าจะจัดการเวียดนามให้ เหตุการณ์นี้ทำให้รัสเซียกับเวียดนามเหม็นขี้หน้าจีน เป็นอย่างมาก

ปัญหาที่จีนกลัวมากที่สุดก่อนที่จะเริ่มสงครามครั้งนี้ก็คือ ประสิทธิภาพอาวุธของจีนนั้นล้าหลังกว่าเวียดนามพอสมควร จีนยังใช้เครื่องบินใบพัดอยู่ ส่วนเวียดนามมีเครื่องมิกรุ่นใหม่ๆจากรัสเซีย และเครื่องไฟท์เตอร์คุณภาพดีที่ยึดมาจากอเมริกาอีก

หน่วยรถถังของเวียดนาม ระดับเทคโนโลยีมันคนละชั้นกันจริงๆนั่นแหละ

รถยิงขีปนาวุธสกั๊ดของเวียดนาม​

แต่ถึงอย่างไร จีนก็ไม่อาจที่จะปล่อยให้ไทยโดนเวียดนามยึดไปได้หรอก เพราะถ้าแผนสหพันธรัฐอินโดจีนสำเร็จล่ะก็ เวียดนามก็จะกลายเป็นชาติที่เข้มแข็งมากๆและอาจกลายเป็นมหาอำนาจอีกชาติหนึ่ง ที่จะเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อจีนอย่างแน่นอน การบุกเวียดนามจึงดูเหมือนเป็นเรื่องชอบธรรมในประเทศจีนขณะนั้น

เมื่อกลับจากอเมริกา เติ้งเสี่ยวผิงได้เคลื่อนทหารกว่า 2 แสน รถถังอีก 400 คันไปยังชายแดนเวียดนาม ขู่ให้เวียดนามถอนทหารออกจากทุกประเทศที่ยึดครองอยู่ แต่เวียดนามไม่ยอมถอน สงครามสิบหกวันครั้งนี้จึงเริ่มขึ้น

สงครามสิบหกวัน

​

ในเวียดนามตอนนั้นมีเพียงตำรวจ ประชาชน กับทหารเพียงเจ็ดหมื่นนายเฝ้าประเทศอยู่ พวกทหารส่วนใหญ่อยู่ชายแดนไทยหมดแล้ว

จีนได้เปิดฉากบุกเวียดนามในวันที่ 17 ก.พ. 1789 ด้วยโจมตี 3 เมืองชายแดนของเวียดนาม ใน 3 วันแรกของการรบนั้น จีนยังคงใช้ยุทธวิธีคลื่นมนุษย์ซึ่งถือเป็นแผนการรบที่โบราณที่สุดในโลก(ใช้กันมาตั้งแต่ยุคหินแล้ว วิธีการวิ่งเฮกันไปยังที่มั่นข้าศึกน่ะ) ส่วนเวียดนามใช้วิธีที่ตนถนัดที่สุด คือการใช้ปืนใหญ่ ยิงถล่มจากที่สูง(แบบที่เดียนเบียนฟู) เนื่องจากเทคโนโลยีที่ล้าหลังกว่า ทำให้กองทัพจีนเสียหายอย่างหนักในช่วงแรก (ภาพล่าง) ทหารเวียดนามยืนอยู่บนซากรถถังจีน

​

ภาพนี้ ทหารหญิงเวียดนามยืนคุมแถวเฉลยศึกจีน(สังเกตได้ว่าจีนตอนนั้นจนเอามากๆ ทหารยังใส่หมวกผ้าอยู่เลย ส่วนเวียดนามหมวกเหล็กเรียบร้อย)

​

จีนเลยเปลี่ยนมาใช้วิธีใหม่ คือการใช้รถถังกับกองทหารราบเข้าถล่มพร้อมกัน ยิงถล่มมันทุกตารางวา นักข่าวต่างประเทศยังบอกเลยว่าไม่เคยเห็นสงครามครั้ง ไหนยิงกันแหลกลาญขนาดนี้มาก่อนเลย

​

ได้ผล ในที่สุดจีนก็ยึด 3 เมืองของเวียดนามได้ เวียดนามจึงขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย รัสเซียจึงเคลื่อนทหารพร้อมรถถังเข้าประชิดชายแดนจีน แล้วประกาศกร้าวว่า "ถ้าจีนไม่ยอมหยุดโจมตีเวียดนาม ชาวปักกิ่งจะได้รับรู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของอาวุธนิวเคลียร์"

จีนก็ออกแถลงการบ้างว่า "ถ้ารัสเซียทำลายปักกิ่งด้วยอาวุธนิวเคลียร์ มอสโคว์ก็จะต้องพินาศด้วยอาวุธนิวเคลียร์เช่นกัน" ทำให้รัสเซียไม่กล้าทำอะไรจีนไปมากกว่านี้ เวียดนามจึงต้องสู้กับจีนอย่างโดดเดี่ยว

เวียดนามถอนทหารจากชายแดนไทยกลับมาป้องกันประเทศ

ในที่สุดเวียดนามก็เห็นว่าจวนตัว จึงเรียกคืนทหารที่อยู่ในลาว กัมพูชา ไทย กลับมาสู้กับจีนโดยด่วน (ภาพล่าง) ทหารเวียดนามมุ่งสู่แนวหน้า

​

(ภาพล่าง) ทหารเวียดนามคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิต ขณะที่เพื่อนๆยังเดินหน้าต่อไป สงครามครั้งนี้เป็นสงครามครั้งเดียวในประวัติศาสตร์สงครามร่วมสมัยที่ทหารทุกคนเดินหน้าสู้แบบลืมตายทั้งสองฝ่าย ไม่มีการหนีทัพให้เห็น นับเป็นวีรกรรมที่น่ายกย่องอย่างมาก

​

ในช่วงวันที่ 8 - 13 ของสงคราม ทหารจีนได้รุกคืบเข้าสู่พื้นที่สำคัญๆต่างๆ เช่น ริมแม่น้ำแดง เวียดนามจึงส่งกองทัพอากาศสุดไฮเทคของตนเข้าร่วมวงด้วย กลายเป็นสงครามอลังการน่ะสิทีนี้

​

ภาพล่าง ทหารหญิงจีน
​

จีนถอนกำลังกลับไปเฉยๆ

สงครามกำลังดำเนินมาอย่างดุเดือด กองทัพเวียดนามเสียหายอย่างหนัก ขณะที่กองทัพจีนรุกคืบเข้ามาเรื่อยๆจนจะเข้าตีฮานอยอยู่แล้ว เวียดนามจึงวางแผนที่จะสลายตัวไปใช้การรบแบบกองโจร

แต่อยู่ดีๆ จีนก็สั่งถอยทัพกลับไปเฉยๆทั้งที่กำลังได้เปรียบและบอกว่าสงครามนี้จบลงแล้ว? ทำให้สงครามที่กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือดจบลงชนิดที่ เรียกได้ว่าไม่ทันหายใจ

สงครามนี้ใครชนะกันแน่ - สงครามนี้ใครสั่งสอนใครกันแน่

การที่จีนถอนทัพกลับไปแบบนี้ทำให้เวียดนามประกาศชัยชนะทันทีโดยอ้างว่าสามารถขับไล่กองทัพจีนออกจากประเทศได้(จริงๆแล้วจีนถอยกลับไปเอง) แต่จีนเองกล้าอ้างว่าตนชนะเพราะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของตน ซึ่งก็คือพังแผนสหพันธรัฐอินโดจีนของเวียดนามลงซะยับ (แต่จริงๆแล้ว จีนกลัวว่าถ้าสงครามยืดต่อเวียดนามก็จะใช้กลยุทธ์แบบกองโจร ซึ่งจีนจะเสียเปรียบอย่างมาก อาจถึงขั้นแพ้สงครามแบบราบคาบเลยก็ได้ ขนาดฝรั่งเศสกับอเมริกายังมาแพ้เวียดนามเพราะสงครามกองโจรเนี่ยแหละ) สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ชนะ และไม่รู้ว่าใครสั่งสอนใครกันแน่ เพราะจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่ายมากพอๆกัน โดยรวมแล้วยอดผู้เสียชีวิตเกือบล้าน ทั้งๆที่สงครามกินเวลาแค่ 16 วันเท่านั้น

หลังสงคราม - ความพยายามที่จะลืมเลือนสงครามครั้งนี้

ภายหลังสหภาพโซเวียตได้ล่มสลายลง จีนก็ได้เป็นเบอร์หนึ่งของโลกตะวันออกแทน และหันกลับไปร่วมมือกับรัสเซียและเวียดนามเพื่อต้านอเมริกาแทน ปัจจุบันนี้จีนกับเวียตนามหันกลับมาญาติดีต่อกัน เปิดพรมแดนค้าขาย เจริญสัมพันธ์ทางการทูตและการทหาร

สงครามสิบหกวันกลายเป็นเรื่องที่รัฐบาลของทั้งสองชาติิอยากจะลืมเลือนไปเสีย หนังสือของสงครามครั้งนั้นถูกเก็บเผาทิ้งไปมากมาย ไม่มีการโบกธง ไม่มีการฉลองชัยให้ทหารที่กลับบ้าน ขนาดในประเทศอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากสงครามครั้งนี้อย่างกัมพูชา ลาว ไทย ยังลืมเลือนวีรกรรมที่ทหารชาติตัวเองทำไว้ในสงครามครั้งนี้เลย ทำให้สงครามนี้กลายเป็นสงครามที่โลก(อยากจะ)ลืมไป

ที่มา http://higu-fc.com/forums/index.php?topic=3655.0
http://atcloud.com/stories/33471

 

คำทำนายของ เอ็ดการ์ เคซีย์ (Edgar Cayce)

​

เอ็ดการ์ เคซีย์ เป็นชาวอเมริกัน เกิดที่เมืองเวอร์จิเนียบีช มลรัฐเวอร์จิเนีย เป็นโหรดูทางในที่มีชื่อกระฉ่อนไปทั่วโลก เอ็ดการ์ เคซีย์ ได้ทำนายเหตุการณ์ที่จะอุบัติขึ้นในอนาคตไว้ดังนี้

สงครามโลกครั้งที่ 3

เอ็ดการ์ เคซีย์ ได้ทำนายไว้เช่นเดียวกับโหรชาวคริสต์คนอื่นๆ ว่าสงครามที่จะเกิดก่อนสิ้นยุคนี้ รัสเซียกับอเมริกาจะเป็นพันธมิตรทำสงครามกับจีน ทั้งนี้โดยจีนจะเป็นฝ่ายบุกประเทศอื่นๆ ก่อน เป็นมหาสงครามที่ยิ่งใหญ่และโหดร้ายทารุณยิ่งกว่าครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

โดยเริ่มแรกจะมีการปะทะกันทางพรมแดนของจีนกับประเทศเพื่อนบ้าน และจีนก็ดำเนินยุทธศาสตร์ "คลื่นมนุษย์" โดยส่งกองทัพประชาชนจำนวน 800 ล้านคน บุกทั่วทุกสารทิศ ประเทศที่จะตกเป็นเหยื่อของสงครามรุกรานจากจีน ในช่วงแรกๆ คือ คาบสมุทรอินโดจีน (ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา) อินเดีย ปากีสถาน อัฟกานิสถาน อิหร่าน โซเวียต ซีเรีย และกรีซ เมื่อยึดครองประเทศเหล่านี้ได้หมดแล้ว ก็จะบุกเข้ายึดกลุ่มประเทศ ยุโรปตะวันออก หลังจากนั้นก็จะบุกออสเตรีย เบลเยี่ยม อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอแลนด์

แต่ทั้งนี้ฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์จะทำสัญญาสันติภาพกับจีน ทำให้ทั้งสองประเทศนี้รอดพ้นจากความหายนะจากกองทัพจีนได้ นอกจากนั้นแล้ว ประเทศแอลเบเนียก็จะไม่ถูกจีนรุกรานเพราะจะเข้าเป็นพันธมิตรกับจีน โดยจีนจะปกครองประเทศต่างๆ ในยุโรปด้วยความโหดร้ายทารุณ มีการทำทารุณกรรมต่างๆ แก่ประชาชน ส่วนสตรีก็จะถูกข่มขืนกระทำชำเราไม่เว้นแต่ละวัน และเลือดจะนองทั้งแผ่นดินและแผ่นน้ำ

ที่มา:- หนังสือคำพยากรณ์โลก โดยนาวาโททองใบ หงษ์เวียงจันทร์ พิมพ์ที่โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

หมายเหตุ

เหตุการณ์ในประเทศจีนในตอนนี้ น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะถ้าประเทศจีนเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ หรือมีภัยน้ำท่วมใหญ่ขึ้นมาอีก บวกกับปัญหาทางเศรษฐกิจตกต่ำอย่างมาก อาจทำให้เกิดปัญหาอดอยากขาดแคลนอาหารขึ้นในประเทศจีน ซึ่งมีประชากรมากถึง 1,300 ล้านคน

ซึ่งถ้าเกิดการจลาจลแย่งชิงอาหารเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนคงคุมเหตุการณ์ไม่อยู่แน่ๆ ดังนั้นรัฐบาลจีนอาจจะตัดสินใจดำเนินยุทธศาสตร์ส่ง "คลื่นมนุษย์" โดยมีกองทหารนำหน้า เข้าไปยึดครองแหล่งอาหารในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชนของตัวเองก็เป็นได้ครับ

การทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจนี้ ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาก็มักจะนำมาใช้เสมอๆ เพราะเป็นหนทางที่ง่ายที่สุด ได้ผลเร็วที่สุด และยังสามารถรักษาอำนาจของตัวเองให้มั่นคงได้อีกด้วย

 

ในช่วงสงครามนี้เป็น ช่วงที่ ไทย กำลังถูกเวียดนามบุก....

และในระหว่างนี้ ก้อเกิดสงครามข้างล่างนี้ขึ้น...

เพราะอะไร???...อะไรอยู่เบื้องหลัง???....

แต่ช่วงนี้ ไทย เสียพระอริยสงฆ์ ครั้งเดียว 5 รูป....
เพราะอะไร...???

สุดท้าย ไทย รอดพ้นจากภัยพิบัติของสงครามคอมมิวนิสต์.....

.....................

สงครามจีน-เวียดนาม สงครามที่ยิงแหลกที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ​

 

สัจจะธรรมของพระพุทธเจ้า ประกอบไปด้วยมรรคมีองค์ ๘​

​

มรรค ๘ คือ หนทางถึงความดับทุกข์ เป็นส่วนหนึ่งของอริยสัจ๔ (เรียกว่า มัคคสัจจ์ หรือ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ) และนับเป็นหลักธรรมสำคัญอย่างหนึ่งในพระพุทธศาสนา ประกอบด้วยหนทาง ๘ ประการด้วยกัน เรียกว่า "มรรคมีองค์แปด" หรือ "มรรคแปด" (อัฏฐังคิกมรรค)

๑. สัมมาทิฏฐิ คือ ปัญญาเห็นชอบ มีศรัทธาที่ถูกทาง คือการมีความเห็นไม่ผิด เป็นมูลฐานที่ต้องถึงก่อนมรรคอื่น เป็นเหมือนประตูแรกที่เปิดเข้าสู่แหล่งปรารถนา โลกนี้มีลักษณะเหมือนคุกมืด ผู้อาศัยอยู่ในโลกมีภาวะเหมือนนักโทษในคุกนั้น ภายในคุกนั้นมีแต่ความมืด ไม่มีแสงสว่างส่องเข้าไป นักโทษไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้

นักโทษนั้นไม่ใช่เพียงเป็นผู้บอดอยู่ในความมืดสิ้นกาลนานเท่านั้น ในขณะบอดนั้น ยังเป็นผู้สงสัยว่า ไม่มีทางรู้ว่าสิ่งใดอยู่ในที่ใด การจะยังความสว่างให้เกิดขึ้นท่ามกลางความมืดนั้น ก็มีอยู่แก่ใจของนักโทษนั้นๆ อย่างเดียว ใจเป็นเครื่องมืออันเดียว ที่จะช่วยให้เห็นความสว่างภายในคุกมืดได้ทุกประการ นักโทษยังไม่หมดหวังที่จะได้พบแสงสว่างภายในคุกมืดได้ฉันใด บุคคลทั้งหลายย่อมมีภาวะเช่นเดียวกัน

ใจของเขาเองจะเป็นเครื่องมือทำลายความมืดที่เขามีอยู่ได้ ความมืดเหล่านี้เรียกว่าอวิชชา ความสว่างที่เป็นเครื่องมือทำลายความมืดเรียกว่า ปัญญา นักโทษภายในคุกมืดก็ดี บุคคลผู้ที่ติดอยู่ในเรือนแห่งชีวิตของตนก็ดี ต้องฝึกใจตนพิจารณาเหตุผลให้ถูกทาง การพิจารณาไม่ถูกทาง ความมืดจะคงอยู่ไม่สูญหาย ชีวิตจะบอด จะหมดอิสระ หากความเห็นถูกเกิดขึ้น ศรัทธาถูกก็จะเกิดตามและในเวลานั้นความมืดในคุกมืดก็จางหาย กลายเป็นแสงสว่าง

บุคคลที่รับโทษติดอยู่ในคุกอันมืดแสนมืด แต่วางความคิดตามเหตุผลที่ถูกทาง ความสว่างคือปัญญาจะเกิดขึ้นทำลายอวิชชา คือความไม่รู้ความจริง ไม่รับรู้ความจริงแห่งทุกข์ เสียได้ด้วยประการนี้ สัมมาทิฐิจะเกิดได้ด้วยการละทิ้งเสียซึ่งศรัทธาต่อโอวาทใดๆ ที่พิสูจน์ไม่ได้ตามความจริง สัมมาทิฐิ คือการวางใจให้เป็นอิสระ วางความคิดให้หมดข้อผูกพันกับสิ่งใด

๒. สัมมาสังกัปปะ คือ ดำริชอบ คือการดำริเพื่อผลอันชอบ ทุกคนมีความมุ่งหมาย มีความใฝ่ฝันเพื่อให้ได้มีได้เป็นในผลต่างๆกัน แต่ต้องมีความหมายเพื่อผลอันชอบ ผลอันชอบนั้น คือผลที่เกิดขึ้นไม่ทำลายประโยชน์ของตนและไม่ทำลายประโยชน์ของผู้อื่น

๓. สัมมาวาจา คือ เจรจาชอบ คือการปราศรัยถูกทาง ได้แก่พูดแต่สิ่งที่เป็นจริง ไม่พูดให้ร้ายส่อเสียดใคร เว้นจากการพูดดูหมิ่นผู้ใด ไม่พูดด้วยความโกรธ ไม่ใช้วาจาบิดเบือนให้เข้าใจผิด พูดด้วยวาจาอ่อนหวาน ด้วยเมตตากรุณา พูดให้มีจุดหมาย ไม่พูดด้วยความเขลา

๔. สัมมากัมมันตะ คือ ทำการงานชอบ ได้แก่การทำการงานถูกทางให้งานทำงานนั้นเป็นไปเพื่อความสามัคคี ไห้เป็นไปตามแบบแผนอันถูกทาง

๕. สัมมาอาชีวะ คือ เลี้ยงชีพชอบ คือการดำเนินอาชีพถูกทาง บุคคลทุกคนต้องเลี้ยงอาชีพเพื่อให้เป็นอยู่ได้ อาชีพแต่ละอย่างมีทั้งดีและชั่วเลือกกระทำแต่สิ่งไม่เดือดร้อนต่อผู้อื่นและเดือดร้อนตน

๖. สัมมาวายามะ คือ เพียรชอบ ได้แก่ ความพยายามถูกต้อง รากฐานของความพยายามเบื้องแรก คืออย่าพยายามทำอะไรไปด้วยความไม่รู้จริง ละจากความไม่รู้เสียแล้ว จึงลงมือพยายามทำงาน ความพยายามนั้น จะไม่เป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อน และความไม่ยุติธรรมแก่ผู้ใด

๗. สัมมาสติ คือ ระลึกชอบ ได้แก่การมีสติระลึกอยู่เป็นนิจว่า เราจะกระทำอะไร และกำลังทำอะไรอยู่ ไม่เป็นคนเผลอ การไม่เผลอการรู้ตัวอยู่เป็นนิจเป็นทางให้หลีกได้จากการกระทำความชั่ว

๘. สัมมาสมาธิ คือ ตั้งใจชอบ คือ ความตั้งใจมั่นโดยถูกทาง เป็นยอดแห่งมรรคทั้งหลาย ด้วยว่าการวางสมาธิ คือ การทำใจให้นิ่งอยู่ได้ จะยังประโยชน์ให้สำเร็จทุกเมื่อ คำว่าสมาธิ กับคำว่าสัมมาสมาธิ ผิดกัน สมาธิได้แก่ถือเอาอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง ทำให้แน่วแน่อยู่ในอารมณ์นั้น ถ้าจิตจับที่เรื่องร้ายมาเป็นอารมณ์แน่วแน่อยู่ในเรื่องนั้น สมาธินั้น เป็นสมาธิไม่ชอบไม่ถูกตามธรรม ส่วนคำสัมมาสมาธิหมายถึงการยึดเรื่องดีมาเป็นอารมณ์แน่วแน่อยู่ในเรื่องที่เป็นกุศล สมาธินั้นจึงจะยังประโยชน์ให้สำเร็จ

อริยมรรค ๘ คือหนทางแห่งการดำรงชีวิตอย่างรู้แจ้ง มีสติเป็นพี้นฐานด้วยการฝึกสติสามารถพัฒนาสมาธิจิตซึ่งจะช่วยให้บรรลุถึงปัญญา เพราะสัมมาสมาธิจึงสามารถบรรลุถึงสัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ และสัมมาวายามะ ปัญญาความเข้าใจซึ่งพัฒนาขึ้นนั้นสามารถปลดปล่อยตัวเราให้เป็นอิสระจากห่วงทุกห่วงทุกข์และก่อให้เกิดความสงบ ความเบิกบานอย่างแท้จริง

ที่มา มรรค ๘ - คลังปัญญาไทย

 

เกือบได้ร้องเพลงชาติเวียดนามแล้ว...55

 

ประวัติศาสตร์ของสงครามที่บันทึกไว้กับเรื่องจริงที่อยู่ข้างหลัง

แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแบบหักมุม 180 องศา ครับ

เรื่องที่เวียดนามประกาศชัยชนะเหนือสหรัฐอเมริกานั้น เบื้องหลังมีความเน่าในของรัฐบาลอเมริกาที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่รับรองได้ว่าอเมริกาไม่แพ้สงครามนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเปรียบเทียบกันในด้านใด

ส่วนสงครามสั่งสอนเวียตนามนั้น จีนไม่ได้ถอนทหารออกไปเอง (ซึ่งผิดวิสัยการรรบ) แต่เป็นการที่นาย ฟาม วันดง ยอมแพ้เอง แล้วจีนไม่อยากที่จะก่อศัตรูหลายด้านและต้อนสุนัขให้จนตรอก นะครับ

แม้กระทั่งสงครามบ้านร่มเกล้า ก็ยังมีเรื่องจริงที่อัปยศมาเล่าสู่กันฟังในหมู่ทหารที่ไปรบด้วยกัน อนาคตความจริงคงจะเปิดเผยเองแหละ ครับ

ฉะนั้นสิ่งที่ท่านเห็น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นจริงๆ ก็ได้

 

เวียดนามจะซ้อมยิงด้วยกระสุนจริงในทะเลจีนใต้​

​

ฮานอย 13 มิ.ย.- เวียดนามจะซ้อมยิงด้วยกระสุนจริงในการซ้อมรบทางทะเลในทะเลจีนใต้วันนี้ท่ามกลางความตึงเครียดกับจีนที่ถึงจุดสูงสุดในรอบหลายปีเพราะการอ้างสิทธิทับซ้อนเหนือหมู่เกาะสแปรตลีย์และพาราเซลรวมทั้งน่านน้ำใกล้เคียง

เจ้าหน้าที่เวียดนามที่ขอสงวนนามกล่าวว่า การซ้อมยิงด้วยกระสุนจริงนาน 6 ชั่วโมง จะมีขึ้นในคืนนี้รอบเกาะแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากจังหวัดกว่างนาม ทางตอนกลางของเวียดนามไป 40 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้เหตุผลของการซ้อมหรือรายละเอียดของเรือที่จะเข้าร่วม ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศ เผยว่า เป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมประจำปีตามปกติ

พื้นที่ซ้อมยิงด้วยกระสุนจริงคืนนี้จะอยู่ในน่านน้ำที่เวียดนามอ้างว่าอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเล เป็นเขตที่เวียดนามกล่าวหาเมื่อเดือนก่อนว่าเรือลาดตระเวนจีนตัดสายเคเบิลของเรือสำรวจน้ำมันเวียดนาม และกล่าวหาซ้ำเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าเรือประมงจีนพุ่งชนสายเคเบิลของเรือสำรวจน้ำมันเวียดนามอีกลำ ถือเป็นการเจตนาชน ด้านจีนโต้กลับด้วยการเตือนให้เวียดนามยุติกิจกรรมทุกอย่างที่จีนระบุว่าละเมิดอธิปไตยของจีนในพื้นที่พิพาท

นักวิเคราะห์มองว่า การซ้อมของเวียดนามเป็นการส่งสัญญาณเตือนจีนมากกว่าจะยิงจริงจัง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากเวียดนามเพิ่งซ้อมป้องกันภัยทางอากาศบนบกเมื่อ 2 เดือนก่อน.-สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 13 มิ.ย. 2554

ไต้หวันจะส่งเรือขีปนาวุธสู่เขตพิพาททะเลจีนใต้​

​

ไทเป 12 มิ.ย. – ไต้หวันกำลังพิจารณาส่งเรือติดตั้งขีปนาวุธเข้าสู่ทะเลจีนใต้และส่งรถประจำการบนหมู่เกาะพิพาทท่ามกลางสถานการณ์ในภูมิภาคที่เริ่มตึงเครียด

โฆษกกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่า การพิจารณาข้อเสนอเสริมกำลังเรือขีปนาวุธและรถถังแก่หน่วยยามฝั่งบนหมู่เกาะหนานซา (สแปรตลีย์) และหมู่เกาะตุงซา (ปราตาส) มีขึ้นจากความวิตกว่าเจ้าหน้าที่ยามฝั่งซึ่งมีเพียงอาวุธเบาสำหรับใช้ในภารกิจเฝ้ารักษาการอาจไม่สามารถรับสถานการณ์ในกรณีที่เกิดการปะทะกัน อย่างไรก็ดีการพิจารณาข้อเสนอยังไม่เข้าสู่ขั้นตอนการตัดสินใจ อีกทั้งยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเรือขีปนาวุธและรถถังในแผนนี้

เรือรบชั้นซีกัลของไต้หวันติดตั้งขีปนาวุธเซียงเฝิง 1 อันเป็นขีปนาวุธต่อต้านเรือรบมีพิสัยทำการ 40 กิโลเมตร และปัจจุบันไต้หวันมีหน่วยยามฝั่ง 130 นายประจำการอยู่บนเกาะไท่ผิงอันเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะสแปรตลีย์ ล่าสุดไต้หวันยังได้ยืนยันกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะสแปรตลีย์และหมู่เกาะอีก 3 แห่งในทะเลจีนใต้ ขณะที่คู่กรณีทั้งเวียดนาม บรูไน จีน มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ต่างก็อ้างว่ามีกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะสแปรตลีย์เช่นเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย

วันอาทิตย์ ที่ 12 มิ.ย. 2554

แควนตัสจะประเมินสถานการณ์เถ้าภูเขาไฟชิลีเช้านี้​

​

ซิดนีย์ 13 มิ.ย. - สายการบินแควนตัสของออสเตรเลีย จะประเมินสถานการณ์อีกครั้งในเช้าวันนี้ เรื่องเถ้าภูเขาไฟจากชิลีลอยข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้ต้องงดบริการเที่ยวบินในประเทศและเที่ยวบินไปนิวซีแลนด์ ผู้โดยสารตกค้างเป็นหมื่นคน

โฆษกแควนตัสเผยกับสถานีวิทยุบรรษัทกระจายเสียงออสเตรเลีย (เอบีซี) ว่า แควนตัสเชื่อว่าการงดเที่ยวบินเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และจะเร่งให้บริการดังเดิมโดยเร็วที่สุด โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นอันดับแรก ด้านสำนักข่าวเอเอพีรายงานว่า แควนตัสจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งในเช้าตรู่วันนี้

ภูเขาไฟปูเยเวของชิลีปะทุเมื่อสัปดาห์ก่อน กระแสลมแรงพัดกลุ่มเถ้าภูเขาไฟลอยข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกไปถึงนิวซีแลนด์ที่อยู่ไกลออกไป 9,400 กิโลเมตร และขณะนี้ลอยเข้าสู่น่านฟ้าของออสเตรเลียแล้ว แควนตัสซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของออสเตรเลียได้ยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศทั้งหมดที่ไป-กลับเกาะแทสเมเนียและนครเมลเบิร์น และเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมดที่ไป-กลับเมืองไครสต์เชิร์ช เมืองควีนส์ทาวน์ กรุงเวลลิงตันและเมืองออคแลนด์ในนิวซีแลนด์ กระทบผู้โดยสารทั้งหมด 30,000 คน

ส่วนสายการบินเจตสตาร์ระงับเที่ยวบินไปแทสเมเนียและนิวซีแลนด์ รวมถึงเที่ยวบินภายในนิวซีแลนด์บางเที่ยว ด้านสายการบินเวอร์จินออสเตรเลียระงับเที่ยวบินทั้งในและระหว่างประเทศทั้งหมดจากนครเมลเบิร์นตั้งแต่วันอาทิตย์ และเที่ยวบิน 5 เที่ยว ระหว่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ขณะที่สายการบินแอร์นิวซีแลนด์จะปรับเส้นทางและเพดานบินเพื่อเลี่ยงกลุ่มเถ้าภูเขาไฟ การบินพลเรือนนิวซีแลนด์เตือนว่ากลุ่มเถ้าภูเขาไฟจะลอยที่ระดับความสูง 20,000-30,000 ฟุต.- สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 13 มิ.ย. 2554

มีผู้เสียชีวิตจากอีโคไลแล้ว 35 คน เตือนอาจมีอีก​

​

เบอร์ลิน 13 มิ.ย.- ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อแบคทีเรียอีโคไลระบาดเพิ่มเป็น 35 คนแล้วเมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่เยอรมนีซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดเตือนว่าอาจจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก

นายแดเนียล บาห์ร รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนี เผยกับหนังสือพิมพ์บิลด์ อัม ซอนน์ทาก ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้ออีก ต่างจากสำนักงานโรคติดต่อแห่งชาติของเยอรมนีที่มองว่าการระบาดกำลังลดลงเพราะอัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงต่อเนื่อง

ผู้เสียชีวิตทั้ง 35 คน อยู่ในเยอรมนี 34 คน อีกคนเป็นสตรีในสวีเดนที่เพิ่งกลับจากเยอรมนี ส่วนผู้ติดเชื้อมีประมาณ 3,255 คนใน 14 ประเทศ ในจำนวนนี้มีเพียง 5 รายที่ไม่ได้อยู่หรือเคยไปเยอรมนี ผู้ป่วยหลายคนอาการหนัก บางคนเกิดอาการเม็ดเลือดแดงแตกและไตวาย จำเป็นต้องรับการปลูกถ่ายไตหรือฟอกเลือดไปตลอดชีวิต.-สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 13 มิ.ย. 2554

สธ.เยอรมนียืนยันแหล่งการระบาดของอีโคไลมาจากถั่วงอก​

​

เบอร์ลิน 12 มิ.ย.- สถาบันสาธารณสุขของเยอรมนี ยืนยันแหล่งที่มาการระบาดของเชื้อแบคทีเรียอี โคไล มาจากถั่วงอก ซึ่งการระบาดได้สร้างความหวั่นวิตกไปทั่วยุโรปและมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 คน

สถาบันประเมินความเสี่ยงแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ยืนยันผลการตรวจเมื่อวันศุกร์ว่า ถั่วงอกที่นำมาจากฟาร์มเกษตรอินทรีย์แห่งหนึ่งในหมู่บ้านบีเนนบูเทอ ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียอี โคไล สายพันธุ์ EHEC-0104 เชื้อชนิดนี้ทำให้ประชาชนล้มป่วยประมาณ 3,000 คนใน 14 ประเทศ และนำไปสู่การออกคำสั่งห้ามนำเข้าผักที่ปลูกในยุโรป สร้างความเสียหายแก่เกษตรกรผู้ปลูกผักคิดเป็นมูลค่าหลายล้านยูโร

นายอันเดรียส เฮนเซ ผู้อำนวยการสถาบันประเมินความเสี่ยงแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี กล่าวว่า ผลการตรวจครั้งนี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการโยงใยถึงต้นตอของหลักฐาน ขณะที่ นายจอห์น เดลี หัวหน้ากิจการสาธารณสุขของสหภาพยุโรป แสดงความยินดีต่อคำยืนยันของเยอรมนี เนื่องจากเป็นผลการพิสูจน์ที่มีหลักฐานจากห้องปฏิบัติการรองรับ แต่การสอบสวนจะดำเนินต่อไปจนกระทั่งได้ความกระจ่างถึงการเชื่อมโยงระหว่างผู้ได้รับเชื้อ การเตรียมอาหารและฟาร์มในหมู่บ้านบีเนนบูเทอ โดยที่การสอบสวนจะเน้นไปที่หาคำตอบว่า เชื้ออี โคไลสายพันธุ์นี้เข้ามาอยู่ในห่วงโซ่อาหารได้อย่างไร

ด้านกรรมาธิการสาธารณสุขของยุโรป แสดงความหวังให้รัสเซียรีบยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าผักจากสหภาพยุโรป ขณะที่นายแกร์ด ซอนน์ไลเตอร์ ประธานสมาพันธ์เกษตรกรเยอรมนี ต้องการให้คณะกรรมาธิการการเกษตรของอียู เพิ่มเงินอีก 210 ล้านยูโรช่วยเหลือเกษตรกรปลูกผักที่ได้รับความเสียหาย นายแกร์ดระบุว่า ความเสียหายทั้งหมดในอียูคิดเป็นมูลค่าราว 500-600 ล้านยูโร ในจำนวนนี้เป็นความเสียหายของเกษตรกรเยอรมนีเพียงแห่งเดียว 65 ล้านยูโร.-สำนักข่าวไทย

วันอาทิตย์ ที่ 12 มิ.ย. 2554

ยอดผู้เสียชีวิตและสูญหายจากน้ำท่วมในจีนเพิ่มเป็นกว่า 170 คนแล้ว​

​

ปักกิ่ง 12 มิ.ย.-จำนวนผู้เสียชีวิตและสูญหายจากเหตุอุทกภัยที่เกิดมาจากพายุฝนอย่างหนักทางภาคกลางและใต้ของจีน เพิ่มเป็นกว่า 170 คนแล้ว โดยเป็นผู้เสียชีวิต 94 คนและสูญหาย 78 คน

รัฐบาลจีนคาดว่า จะมีฝนตกลงมาอย่างหนักอีก หลังจากน้ำในแม่น้ำแยงซีไหลเข้าท่วมพื้นที่ภาคใต้และตะวันตกเฉียงใต้ในเขตกว่างซี ส่งผลกระทบต่อเขตปกครองและมณฑลต่างๆรวม 13 แห่ง ทำลายพื้นที่เพาะปลูกรวม 3.75 ล้านไร่ ศูนย์บรรเทาภัยแล้งและควบคุมน้ำท่วม รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ฝนที่ตกลงมาเมื่อเร็วๆนี้ได้ช่วยผ่อนคลายปัญหาความแห้งแล้งในแม่น้ำแยงซี แต่ยังมีพื้นที่อีกจำนวนมากที่ยังคงแห้งแล้งและขาดแคลนน้ำที่ใช้ในการบริโภคและทำการเกษตร อย่างไรก็ตาม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีน กล่าวในวันนี้ว่าจะมีฝนตกลงมาอย่างหนักตามแนวแม่น้ำแยงซีในช่วง 2-3 วันข้างหน้า.-สำนักข่าวไทย


วันจันทร์ ที่ 13 มิ.ย. 2554

ที่มา http://www.mcot.net

 

OH My GOD!​

​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Chayutt<!-- google_ad_section_end --> สมาชิก

เพิ่งไปอ่านเจอมาครับ..มาคอยดูกันซิว่า มันจะมีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่เขาว่ากันไหม ?

..........................................................................................................
ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจาก Polaris
ถึง Talyaa Liera เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2011(ตัดตอนมาเพียงบางส่วนหนะนะครับ)​

Global Politics​

Here is where things begin to become interesting this month. Expect some serious upheavals in some major governments, things like scandal, assassination, and military coup. Likely countries experiencing these kinds of shakeups are: Thailand, Bolivia, Turkey, Syria, the U.K., Germany, Poland, and Russia.​

การเมืองโลก:​

ในเดือนนี้จะมีหลายสิ่งหลายอย่<WBR>างเริ่มน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเกิดเหตุการณ์ ที่จะ<WBR>ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้<WBR>งใหญ่เกิดขึ้น กับรัฐบาลของประเทศสำคัญๆบางประเทศ เช่น เรื่องอื้อฉาว, การลอบสังหาร, และการก่อรัฐประหาร ซึ่งประเทศที่ดูเหมือนว่ากำลั<WBR>งจะประสบกับเหตุการณ์เหล่านี้ ก็ได้แก่ ประเทศไทย, โบลิเวีย, ตุรกี, ซีเรีย, สหราชอาณาจักร, เยอรมัน, โปแลนด์ และ รัสเซีย..​

ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อความจากต่างมิติ-1-มิ-ย-1-ก-ค-2011-30-วันแห่งการปลดปล่อย-ชำระล้าง-และสร้างขึ้นใหม่.293190/page-3​

****************************************************************
คำทำนายของโหรโสรัจจะ นวลอยู่​

มิถุนายน 2554 เดือนแห่งลัทธิใหม่เกิด แผ่นดินไหว-น้ำท่วม-ไต้ฝุ่นใหญ่ในไทย​

ภาคใต้จะถูกก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ทั้ง 5 จังหวัด ไฟเผาสถานที่สำคัญมากมาย บ่งถึงลัทธิทรงเจ้าเข้าผี และไสยศาสตร์จะไม่มีคนเลื่อมใสหรือถูกกำจัด ประชาชนจะหันมาเลื่อมใสศาสนาอันบริสุทธิ์มากขึ้น ในช่วงกลางเดือนนี้มีความตึงเครียดอย่างรุนแรงจนยากที่จะปกปิดให้มิดได้ ผู้นำของประเทศอาจถูกลอบทำร้ายถึงแก่ชีวิต บ้านเมืองสับสนอลเวง ราวปลายเดือนไฟไหม้ใหญ่หลายจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ โบราณสถานถูกไฟไหม้ทำลายเสียหายมีผู้คนล้มตายเป็นเบือ สร้างความปั่นป่วนโกลาหลไปทั่ว​

แต่ปลายเดือนสุดหฤโหดสุดวิปริตที่แท้ จริงสำหรับคนไทย เพราะจะเกิดภัยธรรมชาติครั้งรุนแรง แหล่งน้ำทั้งเล็กและใหญ่พังทลาย น้ำจะไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ เกิดไต้ฝุ่นเข้าถล่มภาคใต้ ที่ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี คนตายนับพัน​

เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทั่วประเทศไทย มีผู้คนล้มตายมากมายผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคน จะมีอุบัติเหตุทางเครื่องบินครั้งใหญ่ สหรัฐอเมริกา อยู่ในระยะคับขัน จะพบกับความตึงเครียดครั้งสำคัญในประเทศประวัติศาสตร์แห่งปี พ.ศ. 2554 จะถูกวินาศกรรมในหลายรัฐจากอาวุธร้ายแรง แผ่นดินจะเดือดเป็นไฟ, เกิดกลียุค ผู้คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง​

ที่มา http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2027698​

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> พ่อคลั่งยาใช้ดาบฟันลูกสาว5ขวบดับ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>พ่อทาสยาบ้าเกิดอาการคลั่ง คว้าดาบซามูไรฟันลูกสาวในไส้ 5 ขวบดับ ตำรวจตามรวบใช้กรรมทันควัน


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 มิ.ย. พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ รักบำรุง พงส.(สบ 2) สภ.รัษฎา จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุชายเมายาบ้าคลุ้มคลั่งใช้มีดดาบไล่ฟันลูกสาววัย 5 ขวบ เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 10 ต.ควนเมา ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ประเสริฐ ส่งแสง รองผกก.สส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านพบกองเลือดที่พงหญ้า และมีกระจุกผมตกอยู่จำนวนหนึ่ง ส่วนผู้บาดเจ็บเจ้าหน้าที่ช่วยกันนำส่ง รพ.ไปก่อนหน้าทราบชื่อ ด.ญ.สุตาภัทร ชูนุ่น หรือน้องเมย์ อายุ 5 ขวบ มีบาดแผลจากการถูกฟันด้วยของมีคม เข้าที่บริเวณศีรษะ ปาก ท้ายทอย และมือ รวม 4 แผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกรายชื่อนางวีระวรรณ ชูจันทร์ อายุ 43 ปี ถูกฟันเข้าที่หลังหูซ้าย และแขนขวา และพบอาวุธมีดดาบซามูไรเปื้อนเลือดตกอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นทราบว่าผู้ลงมือก่อเหตุสลดครั้งนี้คือ นายธีรวุฒิ ชูนุ่น อายุ 27 ปี บิดาแท้ ๆ ของน้องเมย์

ที่ก่อเหตุใช้มีดดาบไล่ฟันลูกสาวจนเสียชีวิตและยังไล่ฟันนางวีระวรรณ เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์และพยายามเข้าช่วยเหลือเจ็บไปอีกราย ส่วนสาเหตุจากการสอบสวนทราบว่า นายธีรวุฒิเกิดอยากยาเสพติดจนเกิดอาการคลุ้มและก่อเหตุสลด ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับตัวไว้ได้ขณะหลบหนีอยู่ในตลาดนัดคลองมวน จึงควบคุมมาดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามฆ่าผู้อื่น อย่างไรก็ตามขณะจับกุมนายธีรวุฒิยังมีอาการกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด โดยยอมรับว่าติดยาบ้างอมแงมและไม่ได้เสพมานาน 3 วันแล้ว จึงเกิดอาการอยากยา จนรู้สึกเหมือนผีร้ายเข้าสิงและไม่รู้สึกเสียใจจากการกระทำของตัวเอง.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> เผยเจ้าของสุนัขสั่งเสียก่อนตาย ให้ดูแลเจ้าปีเตอร์ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เมื่อ 12 มิ.ย. จากกรณีเจ้าปีเตอร์Ž สุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ อายุ 3 ปี กัดนายมานะ เทศฤทธิ์ อายุ 51 ปี

ที่บ้านเลขที่ 64/36 ซอยบ่อนไก่ หมู่ 5 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา สาเหตุคาดว่าอาจเป็นถูกนายมานะชอบเตะเป็นประจำนั้น ล่าสุด น.ส.วาสนา เทศฤทธิ์ อายุ 25 ปี ลูกสาวนายมานะผู้ตาย เปิดเผยว่า หลังจากมีการนำเสนอข่าวนี้ออกไป ทำให้มีคนวิพากษ์วิจารณ์ถึงพ่อของตนว่า เป็นคนใจร้ายรังแกสุนัข ทำให้ตนเสียใจมาก กลับกลายว่าพ่อเป็นคนผิด ทั้งๆ ที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่กรณีที่โรงพยาบาลไม่ยอมให้พ่อพักต่อ ทั้งที่มีโรคประจำตัว ต่อมาช็อกและหมดสติขณะเข้าห้องน้ำของโรงพยาบาลนั้น อยากจะทราบว่าใครหรือหน่วยงานใดที่จะออกมาแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้าง
ส่วนเจ้าปีเตอร์สุนัขที่ก่อเหตุในครั้งนี้ น.ส.วาสนากล่าวว่า จะเลี้ยงไว้ต่อไปโดยไม่นำไปปล่อยหรือให้คนอื่นเลี้ยงแทน เนื่องจากมีความผูกพันกันมาก และพ่อได้สั่งเสียไว้ก่อนตายว่าเลี้ยงเจ้าปีเตอร์ไว้ด้วย อย่านำไปปล่อยที่อื่น สงสารมัน

ต่อมา นางสมปอง รอดคร้าม อายุ 43 ปี ภรรยาผู้ตาย พร้อมด้วยนายมานพ เทศฤทธิ์ อายุ 20 ปี บุตรชาย

ได้นำเจ้าปีเตอร์มาฝากเลี้ยงไว้ที่ร.พ.สัตว์สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุแล้วมีคนขู่จะวางยาเบื่อฆ่าเจ้าปีเตอร์ให้ตาย จึงเกิดความกลัว จึงนำมาฝากเลี้ยงไว้ หลังจากงานศพเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำกลับไปเลี้ยงไว้ที่บ้านตามเดิม น.สพ.เกษตร สุเตชะ นายสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่ากรณีนี้ไม่อยากให้มีการกล่าวโทษว่าใครเป็นคนผิด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องอ่อนไหว หากโทษผู้เสียชีวิต ทางครอบครัวก็เสียใจ และต้องดูเหตุการณ์แวดล้อมประกอบด้วย เพราะสุนัขไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนี้ตลอดเวลา สำหรับการเสียชีวิตของเจ้าของนั้นอยากให้มีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากโดยปกติสุนัขมักจะไม่กัดจนเสียชีวิต จึงเป็นไปได้ที่จะมีสาเหตุอื่นประกอบการเสียชีวิตด้วย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> อุตุฯเตือนฝนกระจายทั่วปท.-หนักบางแห่งร้อยละ60-70ของพื้นที่ อ่าวไทย-อันดามันคลื่นแรง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 13 มิ.ย.2554 ดังนี้

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำอยู่บริเวณประเทศลาวและประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักได้บางแห่งในระยะนี้

สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 13-17 มิ.ย. 2554

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ ฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย
น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และ เพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี และราชบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.




</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีคลิปเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกได้โดยช่างภาพ ถูกโพสบนเว็บไซต์ยูทูปและออกอากาศทั่วปากีสถาน ซึ่งคลิปดังกล่าว เผยให้เห็นภาพของชายคนหนึ่ง ชื่อซาร์ฟาราซ ชาห์ ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวบนถนนหลังต้องสงสัยว่าเป็นขโมย
โดยรายงานข่าวแจ้งอีกว่า นายชาห์ ได้พยายามร้องขอชีวิตจากทหารที่ยืนล้อมและจ่ออาวุธปืนเข้าที่ศีรษะ ก่อนที่ทหารจะยิงเข้าที่ต้นขาของเขา และปล่อยให้นายชาห์เสียเลือดจนตาย
อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของชายเคราะห์ร้าย กล่าวยืนยันว่า เขาไม่ได้เป็นคนร้ายขโมยของตามที่ถูกกล่าวหา ด้านนายกรัฐมนตรียูซุฟ ราซา กิลานี ประกาศให้ดำเนินการสอบสวนเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว
Mthai news
เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย

<EMBED height=349 type=application/x-shockwave-flash width=425 src=http://www.youtube.com/v/JPyANnZ5dDc?version=3&hl=th_TH&rel=0 allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

แท็ก : คลิปทหารยิงคน, ปากีสถาน

 

วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7501 ข่าวสดรายวัน


จีนมึนเหตุชาวบ้านปะทะตร.เริ่มถี่



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
เหตุตึงเครียดที่เมืองหลี่ฉวน มณฑลหูเป่ย

</TD></TR></TBODY></TABLE>บีบีซีรายงานวันที่ 12 มิ.ย. ว่า ตำรวจจีนในเมืองซินถัง ใกล้เมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ของจีน แจ้งว่า ได้จับกุมบุคคล 25 รายในเหตุการณ์การปะทะระหว่างกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยกับตำรวจ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงความยุ่งยากของรัฐบาลในการรับมือกับเหตุการณ์ไม่สงบในสังคมที่มีบ่อยครั้งขึ้นจากการที่ชาวบ้านไม่พอใจข้าราชการ

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงค่ำของวันเสาร์ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่เทศกิจวิวาทกับสามีภรรยาที่ขายของหาบเร่แผงลอยบนถนนในเมือง ซึ่งตำรวจกล่าวว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อย และผู้สัญจรในบริเวณมักเข้าข้างทางพ่อค้าแม่ค้า กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ขณะที่ตำรวจในเมืองกวางโจวเผยแพร่ข้อความในเว็บไซต์ ว่า "พวกก่อปัญหา" ขัดขวางเส้นทางจราจรและทำลายพาหนะอื่นๆ บีบบังคับให้ตำรวจต้องใช้มาตรการเข้าป้องกันเหตุการณ์ไม่ให้รุนแรงไปกว่านี้

เหตุนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากเหตุการณ์ชาวบ้านทะเลาะกับเจ้าหน้าที่รัฐเช่นกันจนบานปลายเป็นการจลาจล ที่เมืองหลี่ฉวน มณฑลหูเป่ย ภาคกลาง ต้นตอมาจากการที่มีสมาชิกสภาเมือง ชื่อนายหลัน เจียซิน วัย 49 ปีเสียชีวิตในวันที่ 4 มิ.ย. ระหว่างที่ถูกตำรวจจับกุม จากนั้นมีภาพถ่ายแสดงแผลรอยช้ำตามตัวศพนายหลัน ทางครอบครัวเชื่อว่านายหลันถูกกลั่นแกล้งเพราะเคยคัดค้านการเวนคืนที่ดินชาวบ้าน ทางครอบครัวพร้อมด้วยชาวบ้านจึงเรียกร้องให้ทางการจับคนที่ทำให้นายหลันตายมาดำเนินคดี โดยชุมนุมหน้าอาคารรัฐบาลกว่า 1,500 รายก่อนเกิดเหตุปะทะในวันที่ 9 มิ.ย.

ขี้เถ้าภูเขาไฟชิลีถึงออสซี่



เอเอฟพีรายงาน วันที่ 12 มิ.ย. ว่า กระแสลมพัดพาเถ้าถ่านจากภูเขาไฟปูเยอวย ในชิลี ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ระยะทางกว่า 9,400 กิโลเมตร มาตกในนิวซีแลนด์ และเข้าสู่น่านฟ้าออสเตรเลีย ส่งผลให้สายการบินทั้งในนิวซี แลนด์และออสเตรเลียต้องระงับเที่ยวบิน สร้างความปั่นป่วนแก่ผู้โดยสารราวๆ 8,000 ราย ทำให้สายการบินต้องเร่งปรับเส้นทางการบิน และระดับความสูงเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ที่คาดว่าจะยืดเยื้อ 1 สัปดาห์

ต้นหวีดสยอง



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ต้นไม้ที่เผอิญมีลำต้นดูแล้วเหมือนหน้าตาบิดเบี้ยวของมนุษย์ อยู่ริมถนนในซัฟเฟิล์ก ประเทศอังกฤษ เตะตา หนุ่มเดวิด การ์นแฮม ซึ่งขับรถผ่าน ระหว่างพาแม่ไปส่งที่ทำงาน การ์นแฮม กล่าวว่า เห็นทีแรกนึกถึงภาพวาด 'หวีดสยอง' หรือ 'สกรีม' อันลือลั่นของ เอ็ดเวิร์ด มุนช์ เลยทีเดียว (ภาพ-เดลี่เมล์)






หนุ่มปินส์ครองสถิติโลก'มนุษย์จิ๋ว'



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
</TD></TR></TBODY></TABLE>วันที่ 12 มิ.ย. เอเอฟพีรายงานว่า จันเรย์ บาลาวิง หนุ่มฟิลิปปินส์วัย 18 ปี ลูกชายของช่างตีเหล็ก จากเมืองซินดันกัน บนเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ได้รับการบันทึกจากกินเนสส์บุ๊ก ว่า เป็นผู้ชายที่เตี้ยที่สุดในโลกคนใหม่ ด้วยส่วนสูง 59.93 เซนติ เมตร หรือ 23.6 นิ้ว ทำลายสถิติเดิมของนายคเชนธรา ฐาปะ มาการ์ แชมป์มนุษย์จิ๋วโลกชาวเนปาล เมื่อปี 2553 ที่สูง 66.03 เซนติเมตร โดยทางครอบครัวได้รับความอนุ เคราะห์เป็นเงินช่วยเหลือทั้งจากนักการเมือง และผู้คนที่มาร่วมเป็นพยานในการบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งนี้

จันเรย์หยุดสูงตั้งแต่อายุ 2 ขวบ มาวันนี้หนุ่มน้อยที่เพิ่งเป่าเค้กวันเกิดครบรอบ 18 ปี กล่าวต่อหน้าฝูงชนที่มาให้กำลังใจ ด้วยเสียงเล็กๆ ว่า "ขอบคุณ" จากนั้นกล่าวว่า "ผมเหนื่อย" ด‰านพ่อแม่ของหนุˆมจิ๋วกล่าวว่า ถึงจันเรย์จะพูด เดิน หรือยืนไม่ถนัดเหมือนคนทั่วไป แต่ลูกเป็นคนพิเศษ พวกตนจะเก็บเงินช่วยเหลือไว้เป็นทุนของครอบครัวซึ่งมีฐานะยากจนมาก

 

=====================================



ในนิมิต ผมเห็นเพื่อนบ้าน(เขมร) สองคนชกกัน ที่มือพันผ้าไว้ทั้งสองข้าง
ชุ่มไปด้วยเลือด

ภาพนี้จะสื่อถึง การเมืองภายในของเขาจะมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกัน



องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"