ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ประเทศอิสราเอลจะถูกระเบิดด้วยนิวเคลียร์​

​

ปัญหาธรรมข้อที่ 28 ​

รบกวนถามคุณซักเล็กน้อย เรื่องเหตุการที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ เพราะเห็นว่าคุณเคยบวชเป็นพระอยู่ใกล้ครูใกล้อาจารย์ ถึงแม้จะอยู่กับท่านในเวลาไม่มากนัก แต่ก็น่าจะมีโอกาสมากกว่าฆราวาส ที่ฆราวาสไม่มีโอกาสได้รับฟังเรื่องบางเรื่อง ที่ครูอาจารย์จะพูดให้เฉพาะศิษย์ที่เป็นสงฆ์ฟังเท่านั้น อย่างเช่นเรื่องจิตและจักรวาลนั้น หากคุณไม่ได้บวชเป็นพระ ตัวคุณเองก็คงไม่มีโอกาสได้รับฟัง และก็คงไม่ได้มีดวงตาเห็นธรรมเช่นกัน จึงอยากจะรบกวนคุณตอบคำถามนี้ให้ด้วย ถ้าเป็นคำถามที่มีคนถามมาบ่อยคุณจะนำลงเวปด้วยก็ไม่ว่าอะไร​

ขอถามเรื่องสงครามระหว่าง –อเมริกากับอีรัก- นั้นมันจะเกิดขึ้นหรือไม่ ดูข่าวทุกวันก็ไม่เห็นรบกันซักที่หรือว่าจะไม่เกิด ก็ดีเหมือนกัน แต่ในความรู้สึกแล้วมันจะเป็นสงครามศาสนาหรือสงครามโลกได้เหมือนกัน เคยอ่านคำทำนายจากหลายที่หรือแม้แต่ของนอสตราดามุสก็เคยกล่าวเอาไว้ว่า จะเกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้น และได้เอ่ยนามบุคคล บุคคลหนึ่ง นามว่า “มาบูช” มีผู้ตีความว่าเป็น “ซัดดัม” ที่เขียนกลับหลัง บ้างก็ตีความว่าเป็น มิสเตอบูส ประธานาธิบดีของอเมริกา ได้อ่านแล้วก็รู้สึกคล้อยตาม ถ้าเป็นเช่นนั้นมหาสงครามก็กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ใช้หรือไม่ หากเป็นสงครามศาสนาแล้วศาสนาพุทธจะเป็นอย่างไร พระไทยจะเป็นอย่างไร บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรหากมีผลต่อพุทธศาสนาของเรา อาจจะยาวไปบ้างหวังว่าคงจะตอบให้ และขอขอบคุณไว้ล่วงหน้า ณ.ที่นี้​

ตอบ​

การถามถึงเรื่องอนาคตและตอบเรื่องอนาคตนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะอนาคตที่จะเกิดขึ้นนั้นมันขึ้นอยู่กับการกระทำที่มาจากอดีตและปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ยากมากเพราะกิเลสของมนุษย์การกระทำของมนุษย์มันสุดที่จะคำนวณได้​

ข้าพเจ้าไม่รู้ว่ามันจะเป็นสงครามศาสนาหรือไม่ และก็ไม่รู้ว่า ”บาบุช” เป็นใคร และก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่นอสตราดามุสทำนายไว้จะเป็นจริงหรือไม่ แต่หากจะถามว่าท่านพระอาจารย์กล่าวอะไรเกี่ยวกับสงครามไว้บ้างก็ยังพอจะจำได้บ้าง ท่านพระอาจารย์กล่าวไว้ว่า….​

มหาสงครามจะเกิดขึ้นที่ตะวันออกกลาง ประเทศมหาอำนาจจะตายด้วยอาวุธเชื้อโรค อิสราเอลจะถูกระเบิดนิวเคลียร์ทำลาย มหาอำนาจจะใช้อาวุธด้วยเทคโนโลยีที่สูงกว่านิวเคลียร์ในการหยุดสงคราม​

แต่ท่านพระอาจารย์ก็ไม่ได้เอ่ยไว้ว่าใครเป็นคนยิงระเบิดนิวเคลียร์ ไม่เคยกล่าวว่าเป็นอิรัก และก็ไม่เคยกล่าวถึงวันที่จะเกิด จึงไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อใด และก็ไม่รู้ว่าเป็นครั้งนี้หรือไม่(ระหว่างอเมริกากับอิรัก) จะเป็นปีนี้หรือปีหน้า หรือปีไหนๆ ก็ไม่ได้กล่าวไว้ ส่วนเรื่องบุคคลที่ชื่อ “มาบูซ” นั้นท่านพระอาจารย์จะเคยกล่าวไว้หรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่ในช่วงที่ข้าพเจ้าได้อยู่กับท่าน ท่านไม่เคยกล่าวถึง​

ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าจะเป็นอิรักหรือเปล่า รู้เท่าที่ฟังมาว่าอิหร่านนั้นมีอาวุธที่น่ากลัวกว่าอิรัก แต่ไม่รู้ว่าอิรักมีอาวุธอะไรบ้าง รู้แต่ว่าบุคคลสำคัญของอิหร่านนั้นเรียกร้องกระแสได้มากกว่าอิรัก รู้แต่ว่าอิรักนั้นยากจนมากกว่าอิหร่าน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใครหรือจะเกิดขึ้นเมื่อใด จะเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของข้าพเจ้าหรือไม่ก็ไม่ทราบเพราะท่านพระอาจารย์ท่านไม่เคยเอ่ยถึงวันเวลาที่จะเกิดขึ้น ท่านเอ่ยให้ฟังให้รู้ถึงกิเลสของมนุษย์ ที่นำความรู้มาใช้ในทางทำลาย ​

ท่านเอ่ยว่า น่าเสียดายเหมือนกันที่มนุษย์พัฒนาเทคโนโลยีมาถึงขั้นที่เกือบจะสูงสุดแล้ว แต่ก็ใช้ในทางไม่สร้างสรรค์ ท่านเคยกล่าวไว้ว่าเทคโนโลยีที่สูงที่สุดนั้น สูงกว่านิวเคลียร์ไปอีกสองขั้น แต่มนุษย์จะพัฒนาสูงกว่านิวเคลียร์ได้หนึ่งขั้นแล้วก็จะนำเทคโนโลยีนั้นมาทำอาวุธ ท่านกล่าวว่ามันน่าเสียดาย เพราะหากเรานำมาใช้ในทางสร้างสรรค์ได้ เราก็จะมีพลังงานสะอาดใช้และก็ประหยัดมากๆ เพราะเป็นการนำพลังงานที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติมาใช้ ท่านกล่าวไว้ว่าเทคโนโลยีขั้นสูงนั้น หากอยู่ในมือผู้ที่ไม่เห็นความสำคัญของจิตก็ถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่สร้างสรรค์ และเมื่อนำมาใช้ในทางทำลายกันก็จะเกิดผลเสียแก่โลกอย่างมาก​

ท่านพระอาจารย์ไม่เคยเอ่ยถึงวันเวลาที่จะเกิดขึ้น รู้แต่ว่าสิ่งที่ท่านกล่าวให้ฟังที่จำได้ชัดเจนนั้นก็คือ ประเทศอิสราเอลจะถูกระเบิดด้วยนิวเคลียร์ และหลังจากนั้นภายใน 7 วัน แต่ไม่ทราบว่าวันไหน จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นทั่วโลก (แผ่นดินไหวใหญ่ต่อเนื่องนานถึง 8-9 ชั่วโมง จนแผ่นดินแยกออกจากกัน แบบเดียวกับในหนัง 2012)​

แต่ต้องดูเอาเองว่าใช่ครั้งนี้ระหว่างอเมริกากับอิรักหรือไม่ ก็ต้องดูกันเอาเองถ้ามีการระเบิดด้วยนิวเคลียร์ที่ประเทศอิสราเอลก็ถือว่าใช่ แต่ถ้ายังไม่มีการระเบิดด้วยนิวเคลียร์ที่อิสราเอล ซัดดัมก็น่าจะถูกโค่นลงจากอำนาจ และก็ต้องดูอิหร่านกันต่อไป เพราะอิหร่านก็เป็นศัตรูของอเมริกาที่สำคัญเหมือนกัน จะเกิดไม่เกิดสิ่งที่สำคัญก็คือ ประชาชนและทหารของทั้งสองฝ่ายต้องมาตายเพราะผู้นำ​

ส่วนเรื่องที่ถามว่าแล้วพุทธศาสนาจะเป็นอย่างไร ก็ได้ฟังมาบ้างไม่มากนัก ได้ฟังมาว่า วัดจะร้าง พระจะถูกจับสึกเป็นจำนวนมาก ตลอดจนการเมืองการปกครองจะเปลี่ยนไป ตำแหน่งสำคัญสูงสุดของประเทศจะเปลี่ยนไป (เข้าสู่ยุคของพระเจ้าจักรพรรดิราช หาอ่านได้จากตำนานพระเจ้าเลียบโลกกัณฑ์ที่ 9)​

ข้าพเจ้าก็จำได้แค่นี้ หวังว่าอ่านแล้วคงพอเข้าใจ จะได้มีความเพียรกันเพิ่มขึ้น เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเรา เราจะตายวันไหนก็ไม่รู้ เราสามารถตายกันได้ทุกวินาที เราจะได้ไม่ประมาท นึกถึงความตายให้มาก จะได้มีความเพียร​

ขอธรรมจงมีแก่ท่าน​

ที่มา http://www.reocities.com/buddhatatum/008-0028.htm​

หมายเหตุ ท่านที่สนใจจะอ่านปัญหาธรรมข้ออื่นๆ ก็เข้าไปอ่านดูได้ที่ลิ้งค์ข้างบนนี้เพียงแต่เปลี่ยนตัวเลข 0028 เป็น 0001, 0002, 0003...แล้วคลิ๊กที่ลูกศรไปเรื่อยๆครับ​

ผู้นำอิสราเอลฝึกซ้อมหลบภัยในบังเกอร์ใหม่ป้องกันภัยนิวเคลียร์​

​

เยรูซาเล็ม 22 มิ.ย.-ผู้นำอิสราเอลฝึกซ้อมหลบภัยในบังเกอร์ใหม่ใต้ดินป้องกันนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมประจำปีทั่วประเทศ เพื่อรับมือสงครามขีปนาวุธจากอิหร่าน ซีเรีย และกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์และเลบานอน ​

นับเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีความมั่นคง ซึ่งนำโดยนายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนตันยาฮู ทดสอบบังเกอร์ลับ ซึ่งขุดลึกลงไปใต้ดินบริเวณเชิงเขาทางตะวันตกของนครเยรูซาเล็ม ซึ่งสื่อท้องถิ่นเรียกบังเกอร์นี้ว่า “อุโมงค์ของชาติ” ​

เจ้าหน้าที่ระดับสูงอิสราเอลกล่าวว่า เป็นการซ้อมรับสถานการณ์ระดับสูงสุด ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่สมมติว่าอิสราเอลถูกระดมยิงอย่างหนัก มีผู้คนเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายพันคนที่แนวหน้าทุกแห่งของอิสราเอล สถานที่หลบภัยแห่งนี้จะทำให้ผู้นำของอิสราเอลสามารถบัญชาการโจมตีตอบโต้หากเกิดสงครามในอนาคต ​

อิสราเอลเพิ่มการซ้อมป้องกันภัยพลเรือนมาตั้งแต่เกิดสงครามเลบานอนในปี 2549 ซึ่งกลุ่มกองโจรเฮซบอลเลาะห์ ยิงจรวดพิสัยใกล้หลายพันลูกมายังเมืองทางเหนือของอิสราเอล นอกจากนี้ กลุ่มฮามาสและกลุ่มปาเลสไตน์ในเขตฉนวนกาซาก็เคยยิงจรวดในลักษณะเดียวกับเฮซบอลเลาะห์มายังภาคใต้ของอิสราเอล เจ้าหน้าที่ของอิสราเอลเชื่อว่าสงครามในอนาคตอาจจะมีการยิงจรวดโจมตีมาจากอิหร่านและซีเรีย.-สำนักข่าวไทย​

วันอังคาร ที่ 21 มิ.ย. 2554 ​

ที่มา http://www.mcot.net​

 

พุทธตำนานพระเจ้าเลียบโลกกัณฑ์ที่ ๙​

​

ในกาลต่อไปนับจากนั้น จะมีพระยาธรรมิกราชองค์หนึ่ง ซึ่งเกิดมาในปีกกัดเล้า เดือนเพ็ญวันเสาร์จะได้เป็นพระยาธรรมิกราชองค์ประเสริฐ เมื่อพระยาธรรมิกราชองค์นี้เกิดขึ้นมา คนทั้งหลายคือท้ายพระยา เสนาอำมาตย์และสมณพราหมณ์ผู้ที่เป็นคนพาล ใจบาป เขาย่อมเกลียดชัง ไม่มีใจรักพระยาธรรมิกราชองค์นั้น ท่านจะเกิดในตระกูลฃช่างหูก ในประเทศที่อยู่ตอนล่างแม่น้ำ พระยาธรรมิกราชองค์นั้นเป็นผู้มีปัญญาอันวิเศษ มีปรกติสั่งสอนสมณะและคฤหัสถ์ทั้งหลายด้วยเรื่องที่เป็นบุญเป็นกุศลบ่อยๆ

ด้วยเหตุนี้สมณะและคฤหัสถ์ทั้งหลายผู้เป็นพาลมีใจบาป จึงไม่ชอบไม่พอใจพากันเกลียด ในกาลต่อมาท่านผู้มีบุญมากนั้นจึงขึ้นไปเลี้ยงชีวิตแห่งตน ทางตอนต้นน้ำแม่ระมิงค์ (น้ำปิง) ตั้งแต่นั้นต่อไปภายหน้าสมณะและคฤหัสถ์ทั้งหลายจะประสบอุบาทว์โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เป็นต้นว่า ปวดท้อง ลงเลือดตาย ยิ่งกว่านั้นจะบังเกิดเป็นโกลาหลกลียุค จะฆ่าฟันกันตายเป็นอันมาก หญิงชายจะตายเพราะทุพภิกขภัยอดอยากเป็นจำนวนมากประการหนึ่ง คนทั้งหลายจะตายเพราะโรคภัยไข้เจ็บเป็นต้นว่า เป็นตุ่ม, เป็นฝี, เป็นหิด, เป็นเหา เป็นโรคเรื้อนตายกันมาก ประการหนึ่ง คนทั้งหลายจะอยู่ในสงคราม คนใดเกิดยามนั้น จะกระทำบุญรักษาศีลพังธรรรมเมตตาภาวนาอยู่ตลอดเวลา จงอย่าประมาทเลย

ในกาลยามนั้นจะเกิดทุพภิกขภัยข้าวจะแพงยิ่ง ข้าวสารหมื่นน้ำเป็นราคา ๗๒ ตลิง เป็น ๓๐๖ ธ็อก ก็ยังหาคนขายมิได้เหตุนั้นเจ้าตนมีบุญจึงเป็นพ่อค้าข้าวสาร ในเวลาที่เจ้าตนมีบุญจะได้เป็นพระยาธรรมิกราชนั้น ท่านจะไปค้าขายข้าวสารตามลำดับ แล้วจะไปพักอยู่ใน ดอยสากก้อมคือภูดินแดง อันมีอยู่ในเขตเมืองฝางที่นั้น ในเวลานั้นพระอินทร์ทอดพระเนตรเห็นแล้วจะเสด็จนำม้าตัวหนึ่งชื่อมัญกัณฐัก เข้ามาสู่ดอยดินแดงในเมืองฝางนั้น เมื่อมาถึงพ่อค้าผู้นั้นแล้วจะกล่าวว่า "ดูรา พ่อค้า ขอท่านกรุณาถือเชือกม้าไว้ให้ข้าพเจ้าครู่หนึ่งเถิด ข้าพเจ้าจะไปกินน้ำรินสามสบสักประเดี๋ยว

แล้วอินทมานพก็เอาข้าวต้มมัด ๓ ลูกให้แก่พ่อค้าแล้วสั่งว่า "ขอท่านโปรดจงรักษาม้าข้าพเจ้าไว้สักระยะเถิด ท่านหิวข้าวท่านจงกินข้าวต้ม ๓ ลูกนี้เถิด หากว่าม้าต้วนี้มันดิ้นส่งเสียงร้องลำพองนัก ท่านจงขึ้นขี่เหนือหลังมัน มันก็จะหยุดร้องคะนองทันที" เมื่อสั่งเสร็จแล้ว อินทราธิราชก็เสด็จไปแอบอยู่ที่แห่งหนึ่ง ต่อมาพ่อค้าผู้นั้นรู้สึกหิวข้าวเป็นอันมาก ก็แกะข้าวต้มห่อหนึ่งออกกิน เมื่อกินแล้ว ปัญญาอันเป็นทิพย์ก็บังเกิดแก่พ่อค้าผู้นั้นทันที ในกาลนั้นม้าก็ดิ้นส่งเสียงร้อง พ่อค้าผู้มีบุญก็ขึ้นขี่บนหลังม้าตัวนั้น ม้าตัวนั้นก็พาท่านเหาะมาทางอากาศ ท้าวจตุโลกบาล เทวดา พญานาค ยักษ์ คนธรรพ์ ทั้งมวลในหมื่นโลกธาตุ ก็พร้อมใจกันบรรเลง ๕ ประการ อบรมสมโภช บูชาเป็นโกลหลเอกเกริกทั่วทั้งหมื่นโลกธาตุ

คนทั้งหลายในสกลชมพูทวีป ไม่เคยได้ยินมาแต่ก่อน เมื่อได้ยินแล้วก็สะดุ้งตกใจกลัวเป็นอย่างยิ่ง และพระอินทร์ ท้าวจตุโลกบาลเทวดา ยักษ์ กุมภัณฑ์ คนธรรพ์และสุรางคณาทั้งหลาย ก็พร้อมกันนำเอาท่านผู้มีบุญนั้น ขึ้นไปสู่เมืองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ก็พร้อมกับอุสสวราชาภิเษกด้วย เบญจกกุธภัณฑ์ อันเป็นทิพย์แล้วจึงเชิญพระยาธรรมิราชองค์นั้นลงมา หมู่คนและเทวดาอินทร์พรหมก็พร้อมกันอุสสวราชาภิเษกในเมืองเชียงดาว เขตแห่งเมืองหริภัญชัยนครที่นั้นปราสาททิพย์ ๓ หลังคือ ปราสาทแก้ว ๑ หลัง ปราสาททอง ๑ หลัง ปราสาทเงิน ๑ หลัง สูง ๖๗ วา กว้าง ๓๐ วา จะโผล่ออกมาใต้ปฐพีขึ้นมา ปราสาททางกลางเวียงเชียงดาวที่นั้น

ยามนั้นทองคำสี่แท่งที่มีอยู่ในหนองสรงเกศ อันตั้งอยู่ในหัวหนองไคร้ ที่จะโผล่ออกมาอยู่ที่มุมปราสาททั้ง ๔ มุม ต่อจากนั้นจะมีรินทองคำพาดแต่หัวดอยอ่างสรงโพ้นลง พระอินทร์พร้อมด้วยเทวดาทั้งหลาย จะพร้อมกันรดสรงด้วยน้ำมูรธาภิเษกในรินทองคำนั้น รินทองคำจะพาดแต่จอมดอยภูหวดโน้นลงมา ยามนั้น สมณพราหมณ์ท้าวพระยาเสนามาตย์และคนทั้งหลายพากันอุสสาราชาภิเษกในรินทองคำอันนั้น ในกาลครั้งนั้นคนทั้งหลายก็จะได้เห็นเทวดา พระอินทร์ พระพรหมทุกองค์ เพราะเทวดาเหล่านั้นได้มาอุสสาราชาภิเษกพ่อค้าข้าวสาร ที่เป็นลูกช่างหูกซึ่งเป็นพระยาธรรมิกราชนั้นแล

เมื่อท่านผู้มีบุญได้เป็นพระยาธรรมิกราชแล้ว ต้นกัลปพฤกษ์ทิพย์ทั้งหลาย ๑,๖๐๐ ต้น ก็จะโผล่จากใต้แผ่นดินออกมา แวดล้อมปราสาทและเวียงเชียวดาวทั้งหมด จะเป็นที่รุ่งเรืองปรากฏไปทั่วชมพูทวีปทั้งสิ้น มนุษย์ชายหญิงทั้งหลายเมื่อเข้ามาถึงที่นั้นแล้วก็จะถอดเสื้อผ้าออกกองไว้สูงประมาณ ๗ ศอก ลมจะพัดเสื้อผ้าเก่าเหล่านั้นทิ้งไปทั้งหมดถึง ๗ ครั้ง คนทั้งหลายจะได้นุ่งวัตถาภรณ์อลังการผืนใหม่ที่เป้นทิพย์ทุกคน ในกาลใดที่ท่านยักขราชได้เกิดเป็นพระยาธรรมิกราช ในกาลนั้นท่านจะได้เสวยทิพยสมบัติสุขทุกคน ในเมืองเชียงดาวอันอยู่ในแว่นแคว้นเขตเมืองหริภัญชัยนคร

ชาวเมืองโกสัมพีทั้งหลายจะเข้าพึ่งบรมสมภารชั้นใน คือเป็นพ่อครัวของพระยาธรรมิกราชองค์นั้น สมณพราหมณ์หมู่ใดที่ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยจะถูกไล่สึกเสียทั้งสิ้น ส่วนสมณะพราหมณ์หมู่ใดอยู่ในธรรมวินัยของตถาคตที่ได้บัญญัติไว้ ก็จะให้อยู่รักษาพระพุทธศาสนา จำนวนภิกษุที่ปฏิบัติชอบด้วยพระธรรมวินัยที่ไม่ได้ไปสึกนั้น ในสกลชมพูทวีปทั้งสิ้นจะมีประมาณ ๖ ร่มไม้นิโครธ (บางฉบับว่า ๒ ร่มไม้นิโครธ) ต้นใหญ่ พระยาธรรมิกราชองค์นั้นจะอยู่เสวยราชสมบัติตราบอายุ ๒๐๐ ปี บุญสมภารการแห่งตน

(คัดลอกมาให้อ่านเพียงบางส่วน ท่านที่สนใจจะอ่านแบบเต็มๆ ก็เข้าไปอ่านดูได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ)

(๑๑) พุทธตำนาน:พระเจ้าเลียบโลก - PaLungJit.com

 

Mthai News : สื่อต่างประเทศ เผยภาพ วินาทีคาร์บอมบ์ระเบิด ข้างสำนักงานยุติธรรม จ.นราธิวาส ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ทำให้ลอยกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตร
ทั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองนราธิวาส ได้รับแจ้ง ว่ามีรถต้องสงสัยจอดอยู่บนถนนข้างสำนักงานยุติธรรม จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ค่ายจุฬาภรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เปิดเครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ก่อนเข้าตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งขณะที่ จ.อ.มงคล หนูแก้ว เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ คนร้ายที่แฝงตัวได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิด จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้เจ้าหน้าที่ถูกแรงอัดของระเบิดกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตร แต่โชคดีที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เนื่องจากใส่ชุดบอมบ์สูท
หลังจากตรวจสอบ พบระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก็สหุงต้มอีก 2 ลูก แต่โชคดีระเบิดซึ่งต่อพ่วงกันอยู่ ทำงานไม่ครบวงจร จึงทำให้อนุภาคในการทำลายล้างลดลง
Mthai news
เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย

แท็ก : คาร์บอม, ระเบิด, โจรใต้

 

=====================================


1 ก.ค. 54


5 ก.ย. 47--------สามปลายักษ์
จะเกิดภัยทางน้ำสามครั้ง

26 ธ.ค. 47--------เกิดซึนามิ ครั้งที่หนึ่ง

5 ก.พ. 50--------สองวงล้อกับ พ.ศ. 2537
เวลาได้ถูกเลื่อนออกไปและจะสิ้นสุดใน พ.ศ. 2561

27 ก.พ. 50--------ตามหลังปลายักษ์ตัวที่สอง
เมื่อเกิดซึนามิครั้งที่สอง ให้รีบขึ้นที่สูงหาที่ปลอดภัย

16 ก.พ. 53--------กำลังเตรียมการเก็บกวาดทางน้ำ

1 ก.ค. 54--------เตือนมาก็เตือนไป
ในนิมิตเช้านี้ ตัวผมยืนอยู่บนภูเขามองออกไปท้องทะเล ผมได้เห็นคลื่น
ทะเลลูกใหญ่ สีโคลนม้วนตัวเข้าหาภูเขาและได้กวาดผู้คนที่อยู่บนเขาไป
หนึ่งในสามส่วน



องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"

 

ต้นไม้ในพุทธประวัติ : ต้นไทรนิโครธ ​

​

ต้นไทรนิโครธ หรือเรียกตามภาษาสันสกฤตว่า "บันฮัน" และตามภาษาฮินดูว่า "บาร์คาด" ตามพระพุทธประวัติ กล่าวว่าหลังจากที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้แล้ว ได้ทรงประทับอยู่ ณ ภายใต้ร่มโพธิ์ต่อไปอีก 7 วัน จึงได้ทรงย้ายไปประทับต่อที่ใต้ร่มไทรนิโครธอีก 7 วัน

ไทรนิโครธ เป็นพันธุ์ไม้ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับโพธิ์ กร่างและมะเดื่อ คือสกุล (genus) มะเดื่อ (Ficus) ในวงศ์(Family) ไทร(Moraceae) เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ลำต้นเป็นพูพอนมาก มีกิ่งก้านสาขาไม่แพ้ต้นโพธิ์เช่นกัน ปลายกิ่งจะห้อยลู่ลง ทำให้เกิดเป็นพุ่มกลมแน่นทึบ ตามลำต้นและกิ่ง จะมีรากอากาศห้อยย้อยลงมามาก ซึ่งรากอากาศนี้จะเจริญเติบโต เป็นลำต้นต่อไปได้อีกด้วย ฉะนั้นบางทีจะทำให้เกิดเป็นหลืบสลับซับซ้อน ดูเป็นฉากเป็นห้องพัก กำบังลม-ฝนได้ ้อย่างดี

และคงจะเป็นเพราะเหตุนี้กระมังพระพุทธเจ้าจึงทรงเสด็จประทับ เพราะอาจจะเป็นได้ว่าในช่วงนั้นมีฝนตก และลมแรง ก็เป็นได้ ตามกิ่งอ่อนจะมีขนนุ่ม ๆ หนาแน่น ตามใบอ่อนก็มีขนแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านท้องใบ แต่พอใบแก่ขนจะหลุดร่วงไปหมด ใบจะติดเวียนกัน เป็นกลุ่มตามปลาย ๆ กิ่ง เมื่อทิ้งใบจะปรากฏรอยแผลใบเด่นชัด ใบรูปไข่ กว้าง 10-14 ซม. ยาว 15-20 ซม. ปลายใบมน โคนใบโค้งกว้าง ๆ หรือหยักเว้าเข้าเล็กน้อย เนื้อใบหนา แขนงใบมีระหว่าง 4-6 คู่ ก้านใบอวบ ยาว 2-5 ซม. ผลกลม โต วัดผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-1.5 ซม. ผลจะติดแนบอยู่กับกิ่ง และแต่ละผลจะมีกาบ 2-4 กาบ เมื่อผลแก่จะมีสีแดงคล้ำ ๆ หรือสีเลือดหมู เป็นอาหารของสัตว์พวกนกได้เป็นอย่างดี

ไทรนิโครธ ขึ้นกระจายทั่วไปในย่านเอเชียเขตร้อน อาจจะขึ้นเป็นกลุ่ม ๆ หรือกระจายห่าง ๆ ตามพื้นที่ที่ค่อนข้างชุ่มชื้น ไม่เลือกชนิดดิน และสามารถอยู่ได้ในที่น้ำท่วมชั่วคราวได้ การขยายพันธุ์ก็โดยอาศัยเมล็ด ซึ่งสัตว์์จำพวกนกจะพากันมากินแล้วบินไปถ่ายมูลที่อื่น ไทรนิโครธก็จะไปขึ้นที่นั้น จึงเป็นเหตุให้การแพร่พันธุ์เป็นไป อย่างกว้างขวางมาก นอกจากนี้ยังอาจจะใช้วิธีชำหรือตอนกิ่งนำไปปลูกก็ได้ โดยปกติมักนิยมปลูกไว้ตาม วัดวาอารามและตามสวนสาธารณะที่มีเนื้อที่กว้าง ๆ เพื่อใช้เป็นที่พักของพุทธศาสนิกชน ตลอดจนเป็นที่อาศัย และแหล่งอาหารของนกกาต่าง ๆ แต่ตามบ้านเรือนและตามชายถนนแล้วไม่ค่อยนิยมปลูกกันเพราะเนื่องจาก กิ่งก้านของไทรนิโครธใหญ่โตและอาจมีอันตรายเมื่อมีพายุพัดในบางโอกาส ทำให้ไม่ปลอดภัยต่อเสาไฟ หรือหลังคาบ้านก็เป็นได้

ความจริงไทรในอินเดียก็มีมากมายหลายชนิด บางชนิดก็มีพุ่มหนาแน่นเหมาะที่จะใช้เป็นที่พักอาศัยในระหว่าง การเดินทาง เช่นกัน เช่น ไทรย้อย ที่มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Ficus bengnalensis L. และยางอินเดีย ที่มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Ficus elastica Roxb. ex Hornem เป็นต้น ฉะนั้นถ้าจะให้กำหนดว่า ไทรชนิดไหนแน่ที่พระพุทธเจ้า ทรงนั่งประทับนั้นคงจะลำบาก แต่โดยคำนึงเอาว่าไทรนิโครธนั้นมีดาษดื่นและกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวาง ประกอบกับมีลำต้นปลอมที่เกิดจากรากอากาศล้อมเป็นปริมณฑล ก็คงเหมาะแก่การพักพิงและหลบภัยธรรมชาติ ก็คงเหมาะแก่การพักพิงและหลบภัยธรรมชาติได้มากกว่าไทรชนิดอื่น ๆ และชื่อทางพฤกษศาตร์ยังมีชื่อพ้องกับ Ficus indica L. ซึ่งหมายถึงไทรอินเดียอีกด้วย จึงมีผู้เขียนเกี่ยวกับไม้พระพุทธประวัติหลายท่านกำหนด เอาไทรนิโครธเป็นหลักไว้ก่อน และคำว่านิโครธคงจะแผลงมาจากนิโรธ ก็หมายถึงการพ้นจากบ่วงทุกข์ บ่วงกิเลส ก็อาจเป็นได้ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าได้ชนะมาร (กิเลส) แล้ว จึงทรงประสงค์จะไปประทับที่ใต้ต้นนิโครธก็เป็นได้

ที่มา http://www.kammatan.com/board/index.php?topic=231.0

 

เหตุการณ์ในเดือน กรกฏาคม 2554
ทำนายโดย โสรัจจะ นวลอยู่​

กรกฎาคม 2554 กรุงเทพฯ จมบาดาล ไทยประกาศสงครามเขมรเดือด

ดีเปรสชั่นผ่านตอนเหนือของประเทศอย่างรุนแรง น้ำป่าเริ่มไหลบ่า เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด พืชพันธุ์ธัญญาหารเสียหายหนักยิ่งกว่าครั้งใด มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน กรุงเทพฯ ต้องจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลายาวนาน การจราจรเป็นอัมพาต เกิดความยุ่งยากทางการเมือง บ่งถึงความแตกหัก ขัดแย้ง การก้าวร้าวกันอย่างชนิดยอมหักไม่ยอมงอ จะมีปัญหากับการเกะกะระรานของเพื่อนบ้าน ศัตรูกำลังกล้าแข็ง ประเทศไทยนั้น บุคคลสำคัญยังคงมีอันตรายอยู่จวบจนสิ้นไป​

ผู้ใหญ่ในแผ่นดินบางคนไม่ ตั้งมั่นอยู่ในความเที่ยงธรรม เอาใจฝักใฝ่ในอธรรม ฟ้าดินจึงลงโทษ ต้องระวังอันธพาล โจรปล้น นักข่มขืนจะชุกชุม ศีลธรรมจะเสื่อมโทรม พระอลัชชีลวงโลกชื่อดังถูกจับสึก ผู้คนร้องจ๊าก ด้วยสินค้าทุกประเภทขึ้นราคาแพงหูฉี่ อากาศร้อนจัดสูงสุดในกรุงเทพฯ ในรอบ 1,000 ปี เครื่องบินกองทัพเรืออุบัติเหตุตก นักบินเสียชีวิตทั้งหมด​

โป๊ะท่าเรือข้ามฟาก ถล่มมีคนตายหลายสิบศพและบาดเจ็บสาหัสกับหายไปหลายศพ คนตายซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและสตรีเสียชีวิต เป็นโศกนาฏกรรมอันร้ายแรงที่สุดของกรุงเทพมหานครในรอบปีนี้ โดยทั่วไปสถานการณ์ของโลกกำลังตกอยู่ในสภาพวิปริต เศรษฐกิจตกต่ำ ความเดือดร้อนของประชากรชาวโลก เด็ก ๆ อาจพบกับโรคร้ายแปลกประหลาดตายกันมาก​

ปลายเดือนทหารพม่าบุกไทยเผาหมู่บ้านในเขตไทยจำนวนมาก ไทยประกาศสงครามกับประเทศกัมพูชา อย่างเป็นทางการ หอกข้างแคร่เขมรบุกเข้ามาโดยใช้กำลังทหารจำนวนมาก พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์เข้ามาถล่มชายแดน แล้วรุกล้ำมาถึงกรุงเทพฯ เผาสิ่งของหรือสถานที่สำคัญ บ้านเมืองเราเสียหายมาก และตอบโต้อย่างหนักจนต้องถอยร่นออกไป ต้องเสียชีวิตทหารไทยและประชาชนไปเป็นจำนวนมาก​

ที่มา http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2027698​

 

เว้อไปหรือเปล่า เขมรรบกับไทยนี่นะจะบุกมาถึงกรุงเทพ โถ่เอย เครื่องบินรบเขมรไม่มีจะสู้ไทยได้อย่างไร ทหารไทยมีมากว่าเขมรหลายเท่า เขมรมีประชากร 5 ล้านคน ทหารสักกี่คน แต่ไทยมีประชากร 60 กว่าล้านคน เทียบแล้วมีทหารมากกว่าเยอะ เว้อไปหรือเปล่า อาจารย์ครับ

 

เขมรพวกนี้อยู่กับการรบมานาน เด็กๆก็ใช้ปืนเป็น เขมรบุกมาถึง กทม.ไม่ค่อยแปลกใจ ทุกวันนี้เขมรก็เต็ม กทม. อยู่แล้ว พม่าก็เยอะ ลาวก็มาก แถมยังมีญวณด้วยนะ ถ้าปะทะกันที่ชายแดน คนพวกนี้จะแอบก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองเราไหม คิดเอา....

 

เว้อไปแล้วเขมรที่ไหนจะบุกมาถึงกรุงเทพแล้วเผาสถานที่สำคัญเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน..

 

โหนรายนี้น่าจะต้องเข้า รพ.ประสาท เช็คสมอง นะครับ

ติดตามดูมาหลายคำทำนายแล้ว ออกในแนว Hard Core แต่ไม่เป็นจริงเลย
ไม่รู้ว่าทำไมต้องเอามาโพสต์ เพราะไม่เคยใกล้เคียงความจริง :boo:

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวว่า รอน อาร์เทสต์ นักบาสเกตบอลชื่อดังของทีมลอสแองเจลิส เลเกอร์ส ซึ่งก่อนนี้ เป็นนักบาสที่มีชื่อเสียงไม่ค่อยดีนักจากพฤติกรรมทั้งในและนอกสนามของเขา เขาเคยถูกแบนหลายต่อหลายครั้งจากการเล่นนอกเกมส์ และทำร้ายร่างกายทีมตรงข้าม
ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากเขาได้ฟังพระธรรมคำสอนในศาสนาพุทธ ทำให้เขาเกิดทราบซึ้ง และได้ให้ทนายของเขา ดำเนินการยื่นเรื่องกับ ศาลสูงลอสแองเจลิส เพือ่ขอเปลี่ยนชื่อเป็น Metta World Peace หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า นายเมตตา โลกสงบ และศาลได้นัดฟังคำพิจารณาในวันที่ 26 ส.ค.นี้

Mthai news




2 ก.ค. 54 รายงานข่าวแจ้งว่า แหล่งข่าวตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ที่ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวในประเทศกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง เปิดเผยว่า
ในขณะนี้เครือข่ายประชาชนกัมพูชาเพื่อสันติภาพ นำโดยนายซอม โอน สมาชิกเครือข่าย ได้เผยแพร่ข่าวโจมตีรัฐบาลไทยที่นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และ แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยว่า
กำลังเตรียมการเปิดฉากสู้รบกับทหารกัมพูชาอีกรอบ โดยได้เสริมกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์เข้ามาประชิดชายแดนมากขึ้นทำให้สถานการณ์ชายแดนขณะนี้ตึงเครียดอย่างหนัก
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า นายซอม โอน สมาชิกเครือขายประชาชนกัมพูชาเพื่อสันติภาพ ให้สัมภาษณ์ นสพ.กัมพูชาใหม่ ( กัมปุเจียทะเม็ย) ว่า รัฐบาลไทยนับตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ และแกนนำเสื้อเหลือง และผู้นำกองทัพไทย พูดทำนองเดียวกันว่าจะทำให้เกิดสงครามขึ้นอีก หลังจากที่คณะกรรมการมรดกโลกรับแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ไทยจึงมีความประสงค์จะโจมตีเพื่อรุกรานดินแดนกัมพูชาอีกรอบ
“ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนไทยก่อนเลือกตั้งผลปรากฎว่า นายอภิสิทธิ์ไม่สามารถเอาชนะการเลือกตั้งได้ ดังนั้นเพื่อให้สามารถดำรงตำแหน่งนายกฯได้อีกต่อไปจึงจะใช้สงครามมาเป็นข้ออ้างในการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป”นายซอม โอน ให้สัมภาษณ์กับ นสพ.กัมพูชาใหม่
ขณะเดียวกันในส่วนของรัฐบาลกัมพูชาก็พยายามกระพือข่าวในลักษณะนี้เช่นเดียวกันทำให้ทหารกัมพูชาตามแนวชายแดน ได้รับคำสั่งให้เตรียมความพร้อม ขณะที่ฝ่ายไทยยังไม่มีความเคลื่อนใดๆ

Mthai news


ระเบิด

เป็นชนิดเอ็มเค 2 เจ้าหน้าที่เก็บกู้แล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค. พ.ต.ท.ประทวน แมลงทับ พงส.(สบ.2) สน.โชคชัย รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ในอาคารร้างเลขที่ 11/446 ภายใน ซ.ลาดพร้าววังหิน 33 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. ใกล้คูหาเลือกตั้ง จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นอาคารร้างสูง 4 ชั้น 2 คูหา
ทั้งนี้ พบว่าบริเวณด้านหน้าเป็นประตูกระจกบานใหญ่ มีร่องรอยถูกทุบจนแตก ข้างในพบระเบิดชนิด เอ็มเค 2 พันด้วยสก็อตเทปสีดำวางอยู่บนผ้าขนหนู เจ้าหน้าที่จึงทำการเก็บกู้
อาคารที่เกิดเหตุ อยู่ตรงข้ามหน่วยเลือกตั้งที่ 47 และ 48 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว เขตเลือกตั้งที่ 8 กทม.

Mthai news

 

เห็นบางคนกำลังประมาทเลยมีเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมได้นิมิตเห็นสายลับของเขมรเข้ามาสืบเรื่องในไทย แต่ถูกจับได้เสียก่อน ใจความมีอยู่ว่า เขมรเตรียมบุกไทย มิถุนายน-กรกฏาคมปีนี้ แต่ว่าจะยังทำอะไรไม่ได้เพราะโดนจับได้เสียก่อน และความลับทางยุทธศาสตร์ได้รั่วไหลออกไปเลยมีการเตรียมบุกไทยอีกหนในช่วงเดือนตุลาคม(ต้องระวังแม่น้ำ) ก็นำมาเล่าสู่กันฟังนะ ถือว่าฟังนิทานแล้วกัน

 

=====================================


2 ก.ค. 54


นิ้วปริศนา

หนึ่งนิ้ว---------ชี้ออก--------บอกความผิด
ดัดจริต---------โทษเขา------ไปวันๆ
สามนิ้ว---------ชี้เข้า---------ตัวเองอาน
ไม่เคยถาม------ตัวเอง--------เป็นเช่นไร

สู้นิ้วโป้ง--------นิ้วเดียว------ก็ไม่ได้
ไม่เข้าใคร------ออกใคร------ใจซื่อตรง
ไม่โทษเขา-----โทษเรา------ให้ได้งง
ขอชื่นชม-------นิ้วโป้ง-------ดีกว่าใคร

จะโทษใคร-----โทษเขา------ให้ดูเรา
ไม่มัวเมา-------หนักแน่น-----ไม่โทษใคร
ดูที่จิต----------ที่ตัว---------แล้วแก้ไข
จะช่วยให้-------จิตดี---------ถ้วนหน้าเอย



องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=6KHCX7znTfc&NR=1"]YouTube - ‪เพลงเลือดไทย‬‏[/ame]

" อดีตยังฝังตราตรึง คำนึงถึงบุญคุณ
ชาติไทยไม่เคยดับสูญ เทอดทูนบรรพชน
กู่ก้องระบือไกล สถิตย์ในหัวใจคน
ลูกหลานจะดำรงค์ ให้คงสถาพร "



รวมใจกันไว้เพื่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

 

เรื่องเขมรก็สามารถเกิดตามที่ โสรัจจะ นวลอยู่ ทำนายไว้ก็ได้ ปัจจุบันเราประมาทเขมรมาก และมีคนไทยในแผ่นดินที่เข้าข้างเขมรทั้งองค์กร และสื่อด้วยครับ

 

เออ....เห็นด้วยนะ
ก็ติดตามเค้ามาหลายปีหละ
ทายเพี้ยนๆแบบนี้ทุกปี
แบบว่าประเทศจะล่มจมให้ได้เลยหละ
ยังกะก็อบ แล้วเปลี่ยนปี พ.ศ.
เออ... ทายไปทุกปี มันก็ต้องถูกซักปีน่า
แปลกก็แต่ ทายผิดเรื่อยๆ ก็ไม่เคยมีใครโวย
แถมโปรโมทกันจัง
ดูที่ใต้หวันซี โดนจับ ปรับอานเลย

 

=====================================


3 ก.ค. 54


ใกล้เข้าไปอีกนิด

มาตามนัด-------ที่ผม---------ได้ลิขิต
อภิสิทธิ์---------กลับเป็น------สามัญชน
ถ้าคนกลาง------นำไทย-------ต้องกังวล
จะเป็นผล--------แผ่นดิน------ผลิกกลับคืน

ถ้าจะเกิด---------นั้นเกิด-------เวลาใด?
โปรดเข้าใจ-------พลบค่ำ------ยามคนหลับ
เหล่าหมู่มาร------นั้นชอบ------คอยจะจับ
ให้ระงับ----------สูญเสีย-------ให้น้อยลง

ชายทะเล--------ก็ไม่เบา-------ให้ระวัง
น้ำจะพัง---------บ้านเรือน------และผู้คน
ถ้าเตรียมการ-----ให้ดี----------ก็ไม่จน
ขอช่วยดล-------ให้ท่าน-------ได้พ้นภัย



องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"

 

เสียเลือดกันไปเท่าไหร่ เสียใจกันไปกี่ครั้ง...​

​

ที่ผมจำเป็นต้องเอามาโพสต์ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ ยังไม่เข้าใจว่าเขมรมีพี่ใหญ่คอยหนุนหลัง คอยจ้องหาจังหวะที่คนไทยทะเลาะกันตีกันจนหมดแรง โดยเมื่อใดที่หหารในประเทศเราเกิดการแย่งชิงอำนาจกัน พวกเขาจะฉวยโอกาสเข้าโจมตีประเทศเราเมื่อนั้นครับ

 

มุสลิมเขมรไปชายแดนใต้​

​

ทหารพราน1206 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา,ตม.สระแก้ว,สภ.คลองลึก,ตร.ท่องเที่ยว ตรวจค้นและทำประวัติเขมรมุสลิม 106 คน ระบุไปเยี่ยมญาติชายแดนภาคใต้ไทย

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2554

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com

ลิ้งค์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกัน:-

อีกข่าวเกี่ยวกับ มุสลิมเขมร

แฉแกนนำ โจรใต้ วางเครือข่ายเชื่อมโยงมุสลิมเขมร..

แกะรอย 'เขมรมุสลิม' ร่วมจุดไฟเผาปลายด้ามขวานไทย - OSKNETWORK

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จีนบริจาคอีกเครื่องแบบ-รองเท้า 50,000 ชุด ให้กองทัพเขมร</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>28 พฤษภาคม 2554 23:44 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=632><TBODY><TR><TD vAlign=top width=632 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
พล.อ.เมือง สมพร (ยืนกลาง) ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีรับมอบในวันพฤหัสบดี เป็นการบริจาคเครื่องแบบกับรองเท้าทหารครั้งที่ 2 ปี่ที่แล้วจีนได้บริจาคให้จำนวนเท่ากันนี้ พร้อมกับรถบรรทุกทหารอีกหลายชนิดรวมกว่า 250 คัน. -- ภาพ: CEN. </B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- รัฐบาลจีนได้บริจาคเครื่องแบบทหาร กับรองเท้าบูต ให้แก่กองทัพกัมพูชาอีก 50,000 ชุด รวมจำนวน 17 คอนเทนเนอร์ พิธีรับมอบจัดขึ้นที่สนามบินโปเจินตง กรุงพนมเปญ วันพฤหัสบดี 26 พ.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวของทางการกล่าว

นับเป็นครั้งที่ 2 ที่จีนบริจาคช่วยเหลือเป็นเครื่องแบบทหาร กับรองเท้าแก่กองทัพกัมพูชา หลังจากเคยมอบให้ 50,000 ชุดเท่ากันเมื่อปีที่แล้ว

สำนักข่าวกัมพูชา กล่าวว่า พล.อ.เมือง สมพร ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้รับมอบเครื่องแบบกับรองเท้าครั้งใหม่นี้ และได้แสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลจีนที่ให้การช่วยเหลือกองทัพกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารจีนประจำกัมพูชา พ.อ.จางเบี้ยนลิน (Zhang Jianlin) กล่าวในพิธีว่า “กัมพูชากับจีนเป็นเพื่อนและเป็นพี่น้องกัน”

พ.อ.หลิน กล่าวอีกว่า การบริจาคครั้งนี้เป็นการช่วยเพิ่มขีดความสามารถแก่กองทัพกัมพูชา และเป็นการแสดงความปรารถนาดีของจีน

ในเดือน มิ.ย.2553 นอกจากชุดเครื่องแบบทหารกับรองเท้าบู๊ตแล้ว จีนยังบริจาครถบรรทุกชนิดต่างๆ ให้กองทัพกัมพูชาอีก 257 คัน โดยการร้องขอของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ระหว่างไปเยือนจีนก่อนหน้านั้น

การบริจาครถบรรทุกของจีนยังมีขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ยุติการส่งมอบรถบรรทุกทหารที่ใช้แล้ว 200 คันให้แก่กัมพูชา หลังจากมอบไปให้เพียง 63 คัน

การตัดความช่วยเหลือของสหรัฐฯ เป็นการตอบโต้การที่รัฐบาลฮุนเซนส่งตัวผู้ลีภัยชาวอุ้ยกูร์ 10 คน ที่กำลังแสวงหาความช่วยเหลือจากองค์การสหประชาชาติ คืนไปให้แก่รัฐบาลจีน โดยไม่ฟังเสียงทัดทานของฝ่ายสหรัฐฯ และประชาคมโลก

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ทหารกัมพูชายืนอยู่ข้างๆ รองเท้าบู๊ตที่รัฐบาลจีนบริจาคให้อีกพร้อมเครื่องแบบทหารรวม 50,000 ชุด หลังบริจาคให้มาครั้งหนึ่งจำนวนเท่าๆ กันนี้เมื่อปีที่แล้ว. -- ภาพ: CEN. </B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ภาพวันที่ 8 ก.พ.2554 ทหารกัมพูชาชุมนุมกันอยู่ใกล้ๆ ปราสาทพระวิหาร ขณะสถานการณ์ชายแดนด้านนั้นยังตึงเครียด สองฝ่ายปะทะกันมาหลายวัน สัปดาห์นี้จีนเพิ่งบริจาครองเท้ากับเครื่องแบบให้อีก ปีที่แล้วบริจาคให้จำนวนเท่าๆ กัน แต่ให้ไปแล้วก็เท่านั้น หลายคนเอาไปแขวนเอว แล้วลากรองเท้าแตะต่อไปตามถนัด. -- REUTERS/Damir Sagolj. </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9540000065350</TD></TR></TBODY></TABLE>