ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว)
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (2 ส.ค.) ที่ศาลาว่าการกทม. นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงผลกระทบจากพายุโซนร้อนนกเตนว่า คาดว่าประมาณวันที่ 10 ส.ค.นี้ กทม.จะได้รับผลกระทบปริมาณน้ำจากภาคเหนือ
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (ผอ.สนน.) จึงทำหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 27 ก.ค.54 ถึงผู้อำนวยการสำนักการโยธา ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้อำนวยการเขตและผู้อำนวยการกองโรงงานช่างกล ขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำท่วม โดยจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.54 เป็นต้นมา
นอกจากนี้ สนน.จะเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ในเขตพื้นที่เสี่ยงภัยที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ จำนวน 13 เขต 27 ชุมชน รวมประมาณ 1,200 ครัวเรือน ขณะเดียวกันยังได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่องด้วย
สำหรับมาตรการป้องกันน้ำท่วม หากปริมาณน้ำเหนือจำนวนมากไหลผ่านกทม. นั้น เจ้าหน้าที่ได้สร้างแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราว โดยนำกระสอบทรายไปกั้นปิดทางน้ำไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำเหนือและปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องได้ในระยะนี้
นายพรเทพ ยังกล่าวอีกว่า ทางกทม. มีศูนย์ปฏิบัติการป้องกันน้ำน้ำท่วม ตรงข้ามห้างซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ และเมื่อเร็วๆนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันน้ำท่วมฝั่งธนบุรีอีกหนึ่งแห่ง เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ ตลอดจนช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้อย่างรวดเร็ว
โดยได้เตรียมเจ้าหน้าที่ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรกลต่างๆ ไว้รับมือเต็มที่ และยังมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งระบบสารสนเทศ เพื่อติดตามสภาพฝน ตรวจวัดปริมาณน้ำฝน ระบบเฝ้าระวังน้ำท่วมถนน ระบบเฝ้าระวังน้ำล้นคลอง ซึ่งระบบสารสนเทศต่างๆ จะแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันน้ำท่วมดังกล่าวตลอดเวลา
Mthai news

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ปภ." สรุปพิษ "นกเตน" ทำน้ำท่วมหนัก 14 จังหวัด ปชช.ดับแล้ว 1 ราย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)

กล่าวถึงอิทธิพลของพายุโซนร้อน “นกเตน” (NOCK-TEN) ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. ถึงปัจจุบัน ว่า ในขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยรวม 14 จังหวัด 43 อำเภอ 134 ตำบล 492 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1ราย
แบ่งเป็น จ.แพร่ ลำน้ำสาขาของแม่น้ำยม ลำห้วยแม่ยาง ลำห้วยแม่หล่าย ลำห้วยแม่แคม ไหลเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ

ได้แก่ อำเภอเมืองแพร่ และร้องกวาง จ.เชียงใหม่ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อน 3,593 ครัวเรือน 6,940 คน ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ สันทราย สันกำแพงดอยสะเก็ด แม่ออน พร้าว แม่ริม อมก๋อย ไชยปราการ และฮอด

นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า จ.น่าน น้ำในอ่างเก็บน้ำแก่นล้นสปริงเวย์เข้าท่วมพื้นที่อำเภอภูเพียง จ.ลำพูน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอลี้ จ.ลำปาง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลำปาง แจ้ห่ม งาว แม่เมาะ วังเหนือ และห้างฉัตร จ.แม่ฮองสอน

น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปาย และปางมะผ้า จ.อุตรดิตถ์ น้ำป่าจากภูเขาไหลลงสู่ห้วยน้ำพี้ เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ทองแสนขัน น้ำปาด และฟากท่า จ.พิจิตร

น้ำในลุ่มน้ำยมไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามง่าม โพธิประทับช้าง และโพทะเล จ.พิษณุโลก น้ำในลำน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในพื้นที่อำเภอชาติตระการ จ.นครพนม น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านแพง ท่าอุเทน และนาทม


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>นายวิบูลย์ กล่าวว่า จ.อุดรธานี น้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่

อำเภอนายูง น้ำโสม และเพ็ญ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว และอยู่ในระหว่างการฟื้นฟู จ.หนองคาย น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอโพนวิสัย และมีน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย บริเวณถนนประจักษ์ตลอดสาย ปัจจุบันระดับน้ำลดลงแล้ว รถสามารถสัญจรผ่านได้แล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางพื้นที่
จ.บึงกาฬ น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเซกา และศรีวิไล และ จ.สกลนคร เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขังบ้านเรือนในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสกลนคร คำตากล้า และโคกศรีสุพรรณ

อธิบดี ปภ.กล่าวด้วยว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมปภ.

โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จัดส่งเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ เครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมเจ้าหน้าที่ชุด ERT สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว และจัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ

"หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้ความช่วยเหลือโดยด่วน"อธิบดีกรมปภ.กล่าว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>อยุธยาท่วมแล้ว 4 อำเภอจ่ออีก 5 พบศพลอยติดหน้าวัดบางไทร </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 2 สิงหาคม ชาวบ้าน หมู่ 1 ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ริมแม่น้ำน้อยเร่งขนย้ายสิ่งของ

และทำสะพานไม้ใช้เดินเข้าบ้าน หลังน้ำจากแม่น้ำน้อยได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนมานานเกือบ 1 สัปดาห์แล้วและมีระดับสูงขึ้นทุกวัน โดยวันที่ 2 สิงหาคม ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10 เซนติเมตร ทำให้พื้นที่ใต้ถุนบ้านมีระดับน้ำท่วมสูงมากกว่า 50 เซนติเมตร จำเป็นต้องใช้เรือพายเข้า-ออกบ้าน

นายสิทธิพล เสงี่ยม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้ว 4 อำเภอ คือ อ.บางบาล อ.เสนา อ.ผักไห่ และ อ.บางปะหัน แต่ท่วมเฉพาะชุมชนสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา, แม่น้ำน้อย, แม่น้ำลพบุรี โดยหาก 3 แม่น้ำยังเพิ่มระดับต่อไปและแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้นมาอีก และยังมีพื้นที่เสี่ยงภัยอีก 5 อำเภอ คือ อ.นครหลวง อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน อ.บางไทร และ อ.ลาดบัวหลวง

สำหรับล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เป็นชายไม่ทราบชื่อสวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ไม่สวมเสื้อสักยันต์เต็มตัว ศพลอยน้ำมาติดบริเวณหน้าวัดบางไทร อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางไทร ได้ตรวจสอบไม่พบบาดแผลแต่อย่างไร คาดว่าจมน้ำมาจากต้นน้ำ และลอยมาตามกระแสน้ำ หากญาติใครหายให้มาติดต่อได้ที่ สภ.บางไทร

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>"โอบามา"รอดตาย-วุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านแผนปรับเพิ่มเพดานหนี้ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>วันที่ 3 ส.ค. สำนักข่าวโกลบอลโพสต์ สหรัฐอเมริกา

รายงานว่า วุฒิสมาชิกสหรัฐ ลงมติด้วยคะแนนเสียง 74 ต่อ 26 เห็นชอบผ่านร่างกฎหมาย หรือร่างแผนปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะของรัฐบาลกลาง และปรับลดรายจ่ายภาครัฐ ทันกำหนดเส้นตายวันที่ 2 ส.ค. แบบเฉียวฉิว

ขณะที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา รีบลงนามรับรองประกาศใช้แผนดังกล่างทันที

ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลโอบามาเพิ่มเพดานหนี้เพิ่มอีก 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ชนเพดานเต็มพิกัดอยู่ที่ระดับ 14.3 ล้านล้านดอลลาร์ การรับรองแผนดังกล่าวของวุฒิสมาชิกสหรัฐตามหลังสภาผู้แทนฯ สหรัฐ จะช่วยให้รัฐบาลโอบามาสามารถไปกู้เงินเพื่อนำมาชำระหนี้พันธบัตรต่างๆ ได้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> วันแรกรอมฎอน มีชาวซีเรีย ถูกฆ่า24 ราย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพข่าวจาก INN</TD></TR></TBODY></TABLE>
นักสิทธิมนุษยชน เผย กองกำลังรัฐบาลซีเรีย สังหารประชาชน 24 ราย ในวันแรกแห่งเดือนรอมฎอน

เครือข่ายผู้สังเกตการณ์ทางด้านสิทธิ มนุษยชนซีเรีย สำนักงานกรุงลอนดอน เปิดเผยว่า มีชาวซีเรีย 24 ราย ที่ถูกสังหารโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาล ในวันแรกของการเริ่มต้นเดือนรอมฎอน

ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นประชาชนที่อาศัยอยู่ใน กรุงฮามา ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการสลายการชุมนุมของกองกำลังรัฐบาลที่เริ่มต้นขึ้นในวัน อาทิตย์ (31 ก.ค.) แต่หากนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการประท้วงขึ้นตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม ที่ผ่านมาพบว่า มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 17,000 ราย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

=====================================


2 ส.ค. 54


16 ก.ย. 51 เรื่องเล่าจากภาพ การทะเลาะวิวาท ผู้นำจากคนนอกที่เก่งด้าน
การเงิน แผ่นดินไหว

บทที่แล้วผมได้กล่าวถึงเรื่อง พ.ศ. 2537 ที่ไปตรงกับบทความของท่านผู้หนึ่ง
ที่คุณเกษมได้นำลงให้อ่านเป็นการบังเอิญที่บทความนั้นได้กล่าวถึงหน่วยเหนือ
จะทำการเก็บกวาดผู้คนในพอศอนั้น ส่วนผมก็มาเพิ่มต่อสัญญาณที่ผมได้รับมา
ในขณะนั้นได้ถูกเลื่อนออกไปอีก 24ปี คงเหลือเวลาที่หน่วยเหนือให้โอกาสแก่
มนุษย์ไม่มากนัก

วันที่ 16 ก.ย. ปี51 ผมจึงอาสาหน่วยเหนือมาแจ้งให้ท่านผู้อ่านในเว็บฯให้ได้
ทราบถึงเพศภัยที่เกิดขึ้นแล้วและยังไม่ได้เกิดในอนาคต

เรื่องเล่าจากภาพ ก็เป็นสัญญาณหนึ่งที่ผมไม่อาจมองข้ามไปได้เพราะดูเหมือน
ว่าเหตุการณ์ปัจจุบันจะเริ่มเข้าเค้าตามภาพที่ผมได้เคยเห็นในนิมิตจึงพยาม
เขียนย้ำให้ทราบบ่อยๆเพื่อความไม่ประมาท





องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"

 

ช่วงนี้ฝนตกมากจัง ตกทุกวัน ตั้งแต่เช้าตอนนี้ยังไม่หยุดเลย เชียงใหม่น้ำท่วมแล้วนะเนี่ย

 

วันที่ 03 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7552 ข่าวสดรายวัน


ครูจีนโวเพาะกบจิ๋วสำเร็จ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ออเรนจ์นิวส์ราย งานว่า เมื่อ 2 ส.ค. นาย หู กานเสิ่ง ศาสตรา จารย์ ด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์วัย 56 ปี มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเจียงซี เมืองหนานฉาง มณฑลเจียงซี แถลงความสำเร็จในการผสมเทียมเพาะพันธุ์กบพันธุ์ใหม่ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกได้สำเร็จ ตัวยาวไม่ถึงครึ่งเซนติเมตร แต่กระโดดได้ไกล 10 เซนติ เมตร และต้องใช้แว่นขยายจึงจะเห็นชัด




สหรัฐหมดฤทธิ์คาดศก.โลกวูบ!



เอพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียและยุโรปดิ่งลงอย่างพร้อมเพรียง ตามด้วยสถานการณ์เดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐ แม้ว่าสภาสหรัฐผ่านกฎหมายขยายเพดานหนี้ 14.3 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อกู้วิกฤตทันกำหนดเส้นตายวันที่ 2 ส.ค. ได้อย่างฉิวเฉียด ทำให้สหรัฐไม่ถูกลดค่าความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจ แต่นักลงทุนในทั่วไปยังห่วงว่า ภาวะที่ตามมาคือเศรษฐกิจโลกจะหวนกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง เพราะการเจรจาต่อรองเรื่องหนี้ในสภาครั้งนี้ลดความเชื่อมั่นที่มีต่อสหรัฐไปโดยปริยายแล้ว ในขณะที่สหรัฐเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

จากตัวเลขภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐสัปดาห์ก่อนลดลงอย่างเห็นได้ชัด มีอัตราการเจริญเติบโตในไตรมาสที่สองเพียงร้อยละ 1.3 ขณะที่จีนและยุโรปเองก็จะอยู่ในภาวะนิ่งๆ เช่นเดียวกัน

ใช้หุ่นแมวน้ำบำบัดใจเหยื่อสึนามิ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
</TD></TR></TBODY></TABLE>เดอะการ์เดียนรายงานวันที่ 2 ส.ค. ว่า เหยื่อแผ่นดินไหวและสึนามิในจังหวัดฟูกูชิมะของญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ เริ่มได้รับการเยียวยาความรู้สึกแล้ว หลังจากผู้ผลิตหุ่นยนต์ตุ๊กตาลูกแมวน้ำสีขาว "พาโร" มอบหุ่นยนต์ตุ๊กตาให้มาบำบัดจิตใจหลายตัว ซึ่งผู้สูงอายุหลายคนบอกว่า ชอบเล่นกับมันมากเพราะความน่ารักของมัน

ซัตซูโกะ ยัตซูซากะ อายุ 85 ปี จากบ้านพักคนชราที่ห่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะไปทางใต้ 27 กิโลเมตร กล่าวหลังได้อุ้มพาโรครึ่งชั่วโมงว่า ถึงข้างนอกจะมีไต้ฝุ่น ตนก็ไม่กลัวแล้ว

ด้านทากุ กาตูโนะ ผู้จัดการบ้านพักคนชรา ซูซยอน กล่าวว่า การใช้หุ่นยนต์ดีกว่าใช้สัตว์เลี้ยงจริงๆ เพราะดูแลง่ายกว่า เมื่อจะนำมาใช้ตอนเช้า แค่นำมาชาร์จไฟชั่วโมงครึ่ง จากนั้นชาร์จอีกทีช่วงเที่ยง เพื่อใช้ต่อในช่วงบ่าย

จับตาเนื้อวัวราคากระฉูด



นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงมาตรการการดูแลราคาสินค้าในช่วงนี้ ว่า ราคาสินค้าโดยเฉพาะผักมีราคาลดลงเนื่องจากผลผลิตออกมามากขึ้น มีเพียงเนื้อหมูที่มีราคาสูงขึ้น ซึ่งเห็นว่าเป็นไปตามกลไกของตลาด เนื่องจากผลผลิตลดลงกว่า 30% จากปัญหาหมูตาย และแม้ว่าราคาหมูจะแพงขึ้น แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการไม่ได้มีเจตนาจะปั่นราคา เพื่อหวังกำไรให้มากขึ้น เพราะหากมีการขายในราคาที่สูงขึ้น สุดท้ายผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบเอง เนื่องจากประชาชนจะเลือกซื้อสินค้าโปรตีนอื่นเพื่อบริโภคแทน เช่น ไก่ ปลา ไข่ เป็นต้น เนื่องจากมีราคาถูกกว่า

นายยรรยง กล่าวอีกว่า ขณะนี้สินค้าที่น่าจับตามองและน่าเป็นห่วงคือ เนื้อวัวที่พบว่ามีแนวโน้มราคาสูงขึ้นเนื่องจากมีเกษตรกรผู้เลี้ยงลดลง ประกอบกับสภาพแวดล้อม ปัญหาภัยธรรมชาติที่ทำให้ผลผลิตลดลง แต่ขณะนี้ยังไม่มีการร้องเรียนเข้ามาว่าเนื้อวัวมีราคาสูงขึ้นอย่างผิดปกติ

นายยรรยง ยังกล่าวในการเปิดงาน ชวนชิม อิ่มอร่อยผลไม้ภาคเหนือ ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 2-4 ส.ค.54 ที่ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นจูรี เดอะมูฟวี่ พลาซ่า กรุงเทพฯ (บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) ว่า ผลผลิตผลไม้ของไทยหลักๆ เช่น ลำไย ปีนี้คาดว่าจะเกิน 600,000 ตัน ลิ้นจี่ 37,000 ตัน และส่วนใหญ่ผลผลิตจะกระจุกตัวที่ภาคเหนือ แต่คาดว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องผลผลิตล้นตลาด เพราะสภาพภูมิอากาศค่อนข้างเหมาะสมทำให้ผลผลิตออกมามีคุณภาพ ประกอบกับการเกิดปัญหา น้ำท่วมทำให้ผลผลิตบางส่วนลดลง ดังนั้น จะส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนผลไม้จำหน่ายผลไม้ได้ราคาดี รวมทั้งความร่วมมือเป็นอย่างดีระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตสินค้าออกมาอย่างมีคุณภาพ และกระทรวงพาณิชย์ทำหน้าที่ในการหาช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตร โดยในปีนี้กระทรวงพาณิชย์จะบุกตลาดในส่วนของกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งอยู่แล้ว

อนามัยโลกเผยผลศึกษาใช้มือถือมากเสี่ยงเป็นมะเร็ง-เด็กอันตรายสุด

วันที่ 3 ส.ค. นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) เปิดเผยว่า เมื่อเดือนกรกฎาคม IARC หรือ International Agency for Research on Cancer หน่วยงานหนึ่งขององค์การอนามัยโลก ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการที่ให้เหตุผลของการจัดให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นปัจจัยก่อมะเร็งประเภท 2B หรือเป็นไปได้ที่จะก่อมะเร็ง ซึ่งนอกจากจะเป็นการยืนยันว่า การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่มีความเสี่ยงกับการเป็นมะเร็งแล้ว ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า การใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรีระบบบลูทูธจะทำให้ผู้ใช้ได้รับพลังงานจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต่ำกว่าการใช้ผ่านเครื่องโทรศัพท์มือถือโดยตรงถึง 100 เท่า และการใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรีแบบมีสายหรือหูฟัง จะช่วยลดการได้รับพลังงานที่สมองลงประมาณร้อยละ 10 แต่การใช้ทั้งสองประเภทไม่ควรเกี่ยวไว้ที่หูตลอดเวลาเมื่อไม่ได้ใช้งาน และผลการศึกษายังพบว่า เครื่องโทรศัพท์ 3G ปล่อยพลังงานน้อยกว่าโทรศัพท์ GSM เฉลี่ยประมาณ 100 เท่า

รายงานดังกล่าวยังระบุว่า การถือโทรศัพท์แนบหูทำให้เกิดการดูดซับพลังงานที่สมอง ซึ่งปริมาณการดูดซับขึ้นอยู่กับการออกแบบตัวเครื่องและเสาอากาศ ลักษณะการใช้ และระดับสัญญาณระหว่างตัวเครื่องและสถานีฐาน ที่สำคัญคือ สมองเด็กจะได้รับคลื่นมากกว่าผู้ใหญ่ 2 เท่า และไขกระดูกของกะโหลกศีรษะเด็กจะได้รับคลื่นมากกว่าผู้ใหญ่ 10 เท่า

นอกจากนี้ ผลการศึกษายังพบว่า กลุ่มที่ใช้โทรศัพท์มากกว่า 1,640 ชั่วโมง จะมีความเสี่ยงมากขึ้นต่อการเป็นมะเร็งสมองชนิด Glioma หรือเนื้องอกในสมอง ข้างเดียวกับที่ใช้โทรศัพท์ ซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับคลื่นสูงที่สุด

นายประวิทย์กล่าวต่อว่า จากรายงานดังกล่าวผนวกกับผลสำรวจของ สบท.ร่วมกับมหาวิทยาลัยอัญสัมชัญหรือเอแบคโพล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่าคนไทยมีพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการได้รับคลื่นสัญญาณที่นอกจากการใช้งานคือ พบว่าร้อยละ 64.5 นิยมวางโทรศัพท์เคลื่อนที่ไว้ที่หัวเตียงพร้อมกับเปิดเครื่องไว้ในเวลานอน ร้อยละ 41.6 ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง หรือกระเป๋ากระโปรง และร้อยละ 23.7 นิยมใส่ไว้ในกระเป๋าพกพา จากข้อมูลที่พบ หากไม่ใช้ก็ควรไว้ให้ห่างตัวโดยเฉพาะศีรษะ โดยไม่ควรวางไว้ที่หัวเตียงและเปิดเครื่องทิ้งไว้ เพื่อลดความเสี่ยงของการได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น

น้ำท่วมสุโขทัยอ่วม-ไฟดูดดับ 1


ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมด่วนเพื่อติดตามสถานการณ์ในภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคเหนือ ซึ่งประสบอุทกภัยที่เกิดจากผลกระทบจากพายุนกเตน โดยมีนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายต่อศักดิ์ วานิชขจร อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายธีรภัทร สันติเมทนีดล รองปลัดสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ตรวจราชการสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุม

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมผ่านระบบวีดีโอ คอนเฟอเรนซ์ กับนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.สุโขทัย เพื่อสอบถามสถานการณ์ล่าสุดในจ.สุโขทัย โดยนายจักริน รายงานว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมในจังหวัดฯ ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เป็นผู้ชายที่เสียชีวิตถูกไฟฟ้าดูด ส่วนพื้นที่ที่ประสบปัญหาหนัก คือ อ.เมือง ศรีสำโรง และสวรรคโลก โดยที่อ.ศรีสำโรง มีน้ำระดับสูงเกินกว่าจุดวิกฤต คืออยู่ที่ระดับ 11.02 เมตร และมีพื้นที่ที่ประสบภัยใน 9 ตำบล 27 หมู่บ้าน อีกทั้งน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรจำนวนมาก รวมถึงถนน 15 สาย โรงเรียนและวัด ส่วนที่ อ.สวรรคโลก มีระดับ 11.85 เมตร ท่วมพื้นที่การเกษตรจำนวนมาก และมีน้ำไหลเข้าไปตามท่อจนท่วมในตลาดเทศบาล โรงเรียนประจำอำเภอ และที่ว่าการอำเภอ นอกจากนี้จะมีน้ำกลุ่มใหญ่ไหลมาจาก จ.แพร่ มาถึงจ.สุโขทัย ประมาณวันที่ 5 ส.ค.นี้

นายจักริน กล่าวอีกว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย และได้สั่งการให้ อบต.และอำเภอ เร่งส่งอาหารและน้ำแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยด้วย สำหรับ อ.เมือง มีการเร่งระดมกำลังเฝ้าดูสถานการณ์ตลอดทั้งคืน ขณะนี้ต้องการเรือท้องแบน เพราะประชาชนไม่สามารถออกจากพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมได้ อีกทั้งต้องการน้ำดื่ม เนื่องจากจุดที่ประชาชนเดือดร้อนได้กระจายเป็นวงกว้าง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข เดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่จ.สุโขทัย 3 จุด คือ 1.ตลาดเทศบาล อ.สวรรคโลก 2.อบต.วังทอง อ.ศรีสำโรง และวัดบางคลอง อ.เมือง

 

"ชีพมีเพียงหนึ่ง สละซึ่งเพื่อแผ่นดิน"​

​

​

​

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ตอนที่ ๔ ศึกนันทบุเรง​

ภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ในทุกบทตอนที่ผ่านมาตราบถึงตอนที่ 4 “ศึกนันทบุเรง” ล้วนมุ่งฟื้นอดีตอันเป็นวีรกรรมของวีรกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรอยุธยา ซึ่งได้ทรงประกอบพระราชภารกิจอันเป็นคุณูประการต่อแผ่นดินเป็นสำคัญ นั่นคือการประกาศเอกราชและการรักษาเอกราช หลักฐานในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาและพงศาวดารพม่าระบุตรงกันว่า ภายหลังการประกาศเอกราชในปี พ.ศ. 2127 แล้วนั้น พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงได้โปรดให้กรีฑาทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาคืนเป็นเมืองขึ้นถึง 4 ครั้งคราว คือ ในคราวศึกพระยาพะสิมและพระเจ้าเชียงใหม่เมงนรธาสอ ในปี พ.ศ. 2127/28 ศึกนันทบุเรงปี พ.ศ. 2129 ศึกมหาอุปราชาในปี พ.ศ. 2133 และศึกยุทธหัตถีในปี พ.ศ. 2135 ในศึกทั้ง 4 ครั้งตามกล่าว

ศึกที่นำพาให้ราชอาณาจักรอยุธยาต้องเผชิญกับวิกฤติการณ์อันสุ่มเสี่ยงต่อการสิ้นสูญแผ่นดินคือศึกนันทบุเรง กระนั้นก็ดี เมื่อออกนามศึกนันทบุเรงจะมีคนไทยน้อยคนที่เคยได้ยินหรือระลึกได้ แต่หากระบุถึงวีรกรรมของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไม่ว่าจะเมื่อครั้งออกปล้นค่ายพม่า จนเป็นที่มาของเรื่องพระแสงดาบคาบค่าย หรือการออกรบบนหลังอาชาจนสังหารลักไวทำมูทหารเอกข้างหงสาวดีทั้งหมดเป็นวีรกรรมที่ล้วนอุบัติในคราวศึกนันทบุเรงทั้งสิ้น ด้วยเหตุประการฉะนี้ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคลจึงมุ่งพลิกฟื้นวีรกรรมแห่งการปกป้องเอกราชของวีรกษัตริย์ผู้เรืองนามพระองค์นี้ในคราวศึกนันทบุเรงให้ปรากฏบนแผ่นฟิล์ม เพื่อจารึกเกียรติประวัติครั้งนั้นไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทย และเพื่อความสมบูรณ์ของมหากาพย์การสร้างตำนานสมเด็จพระนเรศวร

ภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรตอน “ศึกนันทบุเรง” ดำเนินเรื่องตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์โดยนำแสดงที่มาแห่งศึกซึ่งยึดโยงจากผลการปราชัยของหงสาวดีในคราวศึกพระยาพะสิมและพระเจ้าเชียงใหม่ ความพ่ายแพ้ครั้งนั้น ทำให้พระเจ้านันทบุเรงทรงตระหนักในพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนเรศวรและในความเข้มแข็งของกองทัพอยุธยา จึงทรงตัดสินพระทัยยกทัพใหญ่เป็นทัพกษัตริย์มาย่ำยีราชธานีสยามให้ราบเป็นหน้ากลองเพื่อเป็นการแก้มือและเพื่อรักษาซึ่งพระเกียรติยศมิให้เป็นที่ดูแคลนแก่เหล่าเจ้าประเทศราชในขอบขัณฑสีมาพุกามประเทศ ภาพยนตร์ได้ตีแผ่ให้เห็นว่าศึกนันทบุเรงครั้งนั้นพม่ายกเข้ามาเป็นทัพกษัตริย์ กองทัพจึงมีความสมบูรณ์ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามกว่าทุกศึก หลักฐานข้างพม่าระบุว่ากองทัพพระเจ้านันทบุเรงประกอบด้วยช้าง 3,200 ทัพม้า 12,000 และไพร่ราบซึ่งมีจำนวนถึง 252,000 ในกองทัพนี้ยังมีนายทัพผู้ปรีชาสามารถตามติดมาร่วมรบ ไม่ว่าจะเป็นพระมหาอุปราชา มังจาปะโร หรือแม้แต่ลักไวทำมูทหารกล้า

ภาพยนตร์ยังได้ตีแผ่ให้เห็นว่า กิตติศัพท์ความยิ่งใหญ่ที่น่าเกรงขามของทัพหงสาวดีที่ยกเข้ามาครั้งนั้นส่งผลให้เจ้าเมืองกรมการเมืองในขอบขัณฑสีมาของราชอาณาจักรอยุธยาข้างฝ่ายเหนือประหวั่นพรั่นพรึงถึงกับสมคบคิดกันแปรพักตร์เข้าสมานสมัครพระเจ้านันทบุเรงรบสมเด็จพระนเรศวร เป็นเหตุให้สมเด็จพระนเรศวรต้องเผชิญทั้งศึกนอกและศึกใน สถานการณ์กลับยิ่งบีบคั้นให้คับขันยิ่งขึ้นเมื่อพระศรีสุธรรมราชา พระอนุชาเจ้ากรุงละแวกซึ่งขัดพระทัยสมเด็จพระนเรศวรแต่กาลก่อน ได้ยุยงให้พระเชษฐาตัดสัมพันธไมตรีกับอยุธยาจนเป็นเหตุให้ละแวกกลายมาเป็นหอกข้างแคร่ ที่พร้อมจะกระหน่ำซ้ำเติมกรุงสยามให้ย่อยยับหากมีอันพลาดท่าเสียทีในศึกนันทบุเรง ภาพยนตร์ได้ลำดับให้เห็นถึงภัยรอบด้านที่บีบรัดให้สมเด็จพระนเรศวรทรงต้องเผชิญศึกอย่างโดดเดี่ยว แต่เคราะห์กลับทับทวีคูณเมื่อสหายศึก เช่น เลอขิ่น และกำลังเมืองคัง ซึ่งร่วมกรำศึกกันมาแต่เบื้องต้นคิดถอนตัวตีจากเนื่องจากพิษรักระหว่างรบ ที่จบลงด้วยความร้าวฉานระหว่างเลอขิ่นกับพระราชมนูขุนศึกคู่พระทัย ความขัดแย้ง

ด้วยเหตุส่วนตัวได้บานปลายกลายเป็นภัยของแผ่นดินในคราวคับขันเมื่ออยุธยาต้องเผชิญศึก ซึ่งประมาณได้ว่าเป็นมหาสงครามภายใต้โทสจริตของพระเจ้านันทบุเรง ด้วยข้อจำกัดที่รุมเร้าหลายประการ ผสานกับจำนวนไพร่พลที่เป็นรองหงสาวดีอยู่หลายขุม ทำให้สมเด็จพระนเรศวรทรงจำต้องปรับยุทธศาสตร์การตั้งรับทัพหงสาวดีเสียใหม่ โดยทรงใช้พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีทำเลที่ตั้งที่ได้เปรียบเป็นฐานบัญชาการรบแต่เพียงแห่งเดียว โดยทรงส่งกำลังออกไปปักปราการ วางแนวป้องกันมิให้พม่าเข้ามาปลูกค่ายใกล้ขอบคูพระนครและกำแพงเมือง ทั้งยังแต่งกำลังเป็นกองโจรเข้าปล้นค่ายข้าศึกอย่างอาจหาญ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ได้ทรงถ่ายทอดยุทธนาการครั้งสำคัญนั้นลงบนแผ่นฟิล์มได้อย่างเต็มตาตื่นใจโดยเฉพาะตอนที่สมเด็จพระนเรศวรทรงคาบพระแสงดาบขึ้นปีนปล้นค่ายพม่า ภาพห่าธนูเพลิงที่สาดซัดและกองทัพนับพันนับหมื่น ปีนพะองขึ้นชิงค่าย ทั้งหมด คือ ความอลังการที่ผู้ชมจะได้สัมผัสในตำนานสมเด็จพระนเรศวรตอนศึกนันทบุเรงนี้

เมื่อศึกเหนือเสือใต้รุมกระหน่ำ ขุนนางผู้ใหญ่ขาดสามัคคีคิดคดคำนึงแต่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง จอมทัพผู้รั้งราชบัลลังก์และความอยู่รอดของแผ่นดินก็มาพลาดท่าต้องศาสตรากลางสมรภูมิศึก ยอดทหารเอกกรุงศรีถูกขุนศึกผู้ชาญณรงค์กว่าจับเป็นเชลย ชะตากรรมกรุงศรีอยุธยา และสมเด็จพระนเรศวรจะลงเอยฉันใด เชิญท่านร่วมเป็นประจักษ์พยานในภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรภาค 4 ศึกนันทบุเรง

ที่มา http://movie.postjung.com/531.html

ขอเชิญอ่านเรื่องเทวดาบอกกับหลวงพ่อฤาษีฯ ว่าสมเด็จพระนเรศวรมาเกิดใหม่แล้ว เป็นคนไทยอยู่ในฐานะพระมหากษัตริย์ ได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

ทำไมพระนเรศวรและทหารไม่ตกนรก และท่านเกิดแล้ว - PaLungJit.com

 

ส่วนแรก ปีนี้ฝนและน้ำป่ามาเร็วกว่าปีที่ผ่านมา อยากให้ท่านที่มีบ้่านเรือนอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เตรียมตัว เตรียมแผนรองรับกันเอาไว้ด้วยครับ


บ้าน จัด วางโยกย้ายของจากชั้นล่างขึ้นที่สูง หากระสอบทราย เตรียมเอาไว้ก่อนราคาสูงทำถุงนังชีพเสบียงน้ำดื่มของตนเองและคนในครอบครัว

ชุมชน รวมกลุ่มวางแผนรับมือน้ำมา การเตือนภัยจุดเสี่ยง ทางน้ำ วางแผนอพยพรองรับคนจากบ้านที่น้ำท่วม การเตรียมความพร้อมให้วัดโรงเรียนเป็นจุดช่วยเหลือ คลังอาหาร โรงทาน

พร้อมเอาไว้ก่อน เตรียมกาย เตรียมใจ รู้จักสามัคคี แบ่งปันกัน ความลำบากก็ลดน้อยลงไปครับ

ส่วนที่สอง ระยะนี้ พลังงานที่ส่งมาจากดวงอาทิตย์มีพลังรุนแรงขึ้นมาก แต่ในมุมกลับนั้นส่งผลทั้งสองด้าน หากบุคคลที่มีความเครียด ความกังวล คิดลบมากจะค่อนข้างส่งผลลบต่อสุขภาพ มึน หนักหัว ปวดหัวหงุดหงิด วิธีแก้ปรับ คือทำจิตให้ผ่องใส รู้เท่าทันจิตของเรา จดจ่อกับความสงบของใจให้มากที่สุด

และในบุคคลที่ จิตสะอาด ผ่องใส กลับมีผลที่เกิดพลังงานบวก เป็นพลังงานมหาศาลวิ่งตรงไปยังสมองและส่งผลกับจิต พลังจิตให้เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดครับ ตอนนี้มีหลายคนมีประสพการณ์มาเล่าตรงกันครับ ก็ขอให้พากเพียรรักษาจิตของเราให้มีแต่กุศลเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงใจ อยู่กับจิตที่ผ่องใสเป็นแก้วประกายพรึกเข้าไว้ครับ

ทุกๆสิ่งสุข ทุกข์อยู่ที่จิตของเรา ทุกสรรพสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลง เพียงใจเราพลิกเป็นบวก เป็นกุศลได้ เป็นบทเรียน เป็นการเรียนรู้ได้ เมื่อนั้นเราย่อมสงบได้ท่ามกลางกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่ง

กำหนดรู้ ดูให้ทัน

 

ประหลาด! สาวอังกฤษท้องขยายใหญ่ หลังกินอาหาร



สภาพของเธอหลัีงกินเค้กเชอร์รี่พายไปเพียงเล็กน้อย
MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศเผยภาพ เคอร์รี่ ดาวด์เวลล์ วัย 23 ปี อาศัยอยู่ที่เขตแคนนอค เมืองสแตฟฟอร์ดเชียร์ ประเทศอังกฤษ ในสภาพเหมือนผู้หญิงท้องแก่ ซึ่งสภาพนี้จะเกิดขึ้นทุกครั้ง ไม่กี่นาทีหลังจากที่เธอรับประทานอาหาร ท้องของเธอจะขยายตัวใหญ่ขึ้น ก่อนจะหดลงจนเป็นปกติเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ เคอร์รี่เริ่มมีอาการแบบนี้ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น และอาการยิ่งเลวร้ายขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้เธอต้องสวมกางเกงสำหรับคนท้อง ทุกครั้งที่ออกไปทานอาหารนอกบ้าน
เคอร์รี่กล่าว่า เธอพยายามจะอยู่กับสภาพประหลาดอย่างมีความสุข บ่อยครั้งที่เธอถูกถามว่า เมื่อไหร่จะถึงกำหนดคลอด เธอก็มักจะตอบติดตลกกลับไปว่า ลูกของเธอก็คืออาหารที่กินเข้าไป
อย่างไรก็ตาม ในตอนแรกแพทย์คาดว่าอาการดังกล่าวเป็นผลจากโปรตีนในข้าว จึงสั่งงดอาหารที่ทำจากข้าวสาลีทั้งหมด แต่ก็ไมได้ผล รวมทั้งผลจากการตรวจร่างกายของเธอก็ไม่พบอาการแพ้อาหารหรือแพ้ยาใดๆ แพทย์จึงยังหาคำตอบของอาการนี้ไมได้ แม้จะศึกษาเรื่องนี้มาเป็นเวลาถึง 10 ปีแล้วก็ตาม

 

ลิธัวเนียแก้เผ็ดเจ้าของรถมักง่ายจอดรถผิดกฎบนทางจักรยาน นายกฯเมืองหลวงใช้รถหุ้มเกราะไล่เหยียบ​

เว็บไซต์ เดอะการ์เดี้ยน ของอังกฤษรายงานว่า สำนักงานรัฐบาลของเมืองวิลนุส เมืองหลวงของประเทศลิธัวเนีย ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ ของ "อาร์ทูรัส ซูโอกัส" นายกเทศมนตรีเมืองวิลนุส กำลังใช้รถลำเลียงพลหุ้มเกราะล้อยางไล่เหยียบรถยนต์ เมอร์ซิเดส-เบนซ์ ที่จอดรถบนทางวิ่งของจักรยาน เพื่อเตือนให้ประชาชนไม่จอดรถโดยผิดกฎหมาย

ซูโอกัสระบุไว้ในคลิปวิดีโอว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีรถยนต์หรูราคาแพงไม่ว่าจะเป็น โรลส์รอยซ์ และเฟอร์รารี ต่างพากันมาจอดรถอย่างผิดกฎหมายบนทางจักรยานซึ่งเป็นที่ห้ามจอดรถ "เราควรจะให้ทางการจัดการกับคนขับรถที่คิดว่าอยู่เหนือกฎหมายเหล่านี้อย่างไร ซึ่งผมคิดว่า การใช้รถลำเลียงพลหุ้มเกราะน่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด"ซูโอกัสระบุ

ขณะที่ โฆษกของนายกเทศมนตรีเมืองวิลนุส ระบุว่า การเผยแพร่คลิปวิดีโอชิ้นนี้ ซูโอกัส ต้องการสื่อความให้ชัดเจนว่า เมืองนี้จะไม่ยอมให้มีการฝ่าฝืนกฎระเบียบการจอดรถอย่างเด็ดขาด "นายกเทศมนตรีหวังว่าคลิปวิดีโอนี้จะทำให้เจ้าของรถเคารพกฎระเบียบ เพื่อที่เขาจะไม่ต้องใช้รถหุ้มเกราะเช่นเดียวกับในคลิปวิดีโออีก แต่เขาก็ได้เตรียมการที่จะทำเช่นนี้อีกหากพบผู้ละเมิดกฎระเบียบ"โฆษกนายกเทศมนตรีระบุ

<EMBED height=350 type=application/x-shockwave-flash width=425 src=http://www.youtube.com/v/V-fWN0FmcIU&rel=1&fs=1 allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" wmode="transparent"><NOEMBED></NOEMBED></EMBED>​

http://www.megagu.com

 

วันที่ 04 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7553 ข่าวสดรายวัน


ระดมทราย3ล้านถุง-สกัดน้ำท่วมกรุง

มาร์คเพิ่งขยับเรียกถก เหนือดับ8เซ่นนกเตน


<TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>
ทุลักทุเล - สภาพน้ำท่วมใน ต.นาแก้ว อ.เกาะคา จ.ลำปาง ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ขณะที่จังหวัดในภาคเหนือและภาคอีสาน ยังคงประสบปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.

</TD></TR></TBODY></TABLE>เหนือ-อีสานยังอ่วมพิษนกเตน สุโขทัย-พิจิตร-พิษณุโลก รับน้ำเต็ม อ.สวรรคโลกน้ำท่วม ทั้งอำเภอเผยตายแล้ว 1 ยังห่วงระดับน้ำโขงขึ้นทำอีสานจม โคลนถล่ม "สบเมย" แม่ฮ่องสอน ดับ 3 เจ็บ 12 สูญหาย 4 น้ำป่ายังแรงแม่สะเรียง-สบเมย ไฟดับ-สัญญาณโทรศัพท์หาย ถนนตัดขาดหลายสาย ที่หัวหินก็หนักทางขาดเข้าหมู่บ้านไม่ได้ แพร่ตายแล้ว 4 หาย 1 "มาร์ค"เพิ่งเรียกประชุมด่วน ยันมีความพร้อมเตือนภัยปชช.ล่วงหน้าตลอด ปัดลงพื้นที่อ้างภารกิจยาวเหยียด ภาคกลางพร่อง น้ำเขื่อนรับน้ำเหนือ กทม.จัดกระสอบทราย 3 ล้านใบกระจายสร้างเขื่อน

"มาร์ค"ประชุมด่วนน้ำท่วม

เวลา 10.20 น. วันที่ 3 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมด่วนเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เกิดจากผลกระทบจากพายุนกเตน โดยมีนาย วิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ นายต่อศักดิ์ วานิชขจร อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา นายธีรภัทร สันติเมทนีดล รองปลัดสำนักปลัดสำนักนายกฯ และผู้ตรวจราชการสำนักปลัดสำนักนายกฯ เข้าร่วมประชุม

โดยนายกฯ ได้สอบถามสถานการณ์ล่าสุดจากนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.สุโขทัย ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล โดยนายจักรินรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากไฟดูดเพราะน้ำท่วมแล้ว 1 ราย โดยพื้นที่ที่ประสบปัญหาหนัก คือ อ.เมือง อ.ศรีสำโรง และอ.สวรรคโลก โดยที่อ.ศรีสำโรง มีน้ำระดับสูงเกินกว่าจุดวิกฤต อยู่ที่ระดับ 11.02 เมตร มีพื้นที่ที่ประสบภัย 9 ตำบล 27 หมู่บ้าน โดยน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร ถนน 15 สาย โรงเรียนและวัด ส่วนที่ อ.สวรรคโลก มีระดับน้ำ 11.85 เมตร ท่วมพื้นที่การเกษตรจำนวนมาก และมีน้ำไหลเข้าไปตามท่อจนท่วมในตลาดเทศบาล โรงเรียนประจำอำเภอ และที่ว่าการอำเภอ นอกจากนี้ จะมีมวลน้ำก้อนใหญ่ไหลมาจากจ.แพร่ มาถึงจ.สุโขทัย ประมาณวันที่ 5 ส.ค.นี้

ห่วง 3 จว.เหนือตอนล่าง

จากนั้น นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า พื้นที่ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ สุโขทัย พิจิตร และพิษณุโลก โดยจ.สุโขทัยมีพื้นที่ท่วมหนักสุด โดยเป็นพื้นที่การเกษตรเป็นหลัก แต่เราพยายามป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจ สำหรับการช่วยเหลือ จังหวัดร้องขอเรือท้องแบนและน้ำดื่มเพิ่มเติม ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สนับสนุนอยู่ สำหรับพื้นที่ภาคอีสานนั้น ระดับน้ำในแม่น้ำโขง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีตลิ่งต่ำ เช่น จ.มุกดาหาร เป็นต้น ต้องเฝ้าระวังสถาน การณ์ อีก 3-4 วัน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่เสี่ยง ได้แจ้งเตือนตลอด อย่างกรณีพายุนกเตน ประชา ชนทราบล่วงหน้าก่อนแล้ว ปัญหาขณะนี้คือการบริหารจัดการน้ำภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งได้ซักซ้อมทำความเข้าใจ โดยระดมช่วยเหลือเฉพาะหน้า และพยายามควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ส่งผลกระทบวงกว้างต่อชุมชน ที่อยู่อาศัย และพื้นที่เศรษฐกิจ ส่วนถ้ามองยาวในช่วงตลอดฤดูฝนจนถึงปลายปีนี้ กำลังจัดทำตัวเลขชัดเจนว่ามีพื้นที่ใดต้องระวังเป็นพิเศษ

ปัดลงพท.อ้างติดภารกิจ

เมื่อถามถึงการเดินทางไปตรวจพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม นายกฯ กล่าวว่า กำลังดูเวลา เพราะตนติดภารกิจในช่วง 2-3 วันนี้ ทั้งกำหนดการภารกิจในช่วงบ่ายของวันที่ 3 ส.ค. การประชุมสภาผู้แทนราษฎร และการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคประชาธิปัตย์

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ เพื่ออนุมัติงบประมาณช่วยเหลือในเรื่องนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่น่าจะต้องมี เพราะเงินสำรองของจังหวัดมีเพียงพอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายกฯ ได้มอบหมายให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว. สาธารณสุข เดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่จ.สุโขทัย โดยนายจุรินทร์จะออกเดินทางโดยเครื่องบินของกองทัพบก จากสนามบินกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) ดอนเมือง ในเวลา 13.30 น. จากนั้นจะเข้าตรวจเยี่ยม 3 จุด คือ 1.ตลาดเทศบาล อ.สวรรคโลก 2.อบต.วังทอง อ.ศรีสำโรง และวัดบางคลอง อ.เมือง

สวรรคโลกดับ 1

ต่อมาเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข เดินทางตรวจเยี่ยมพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัย พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่รับผิดชอบในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม และการเตรียมการป้องกันน้ำจาก อ.ลอง จ.แพร่ ที่จะไหลลงมาสมทบในอีก 2 วันนี้ และจากสถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอสวรรค โลกครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วหนึ่งรายชื่อ นายอำนวย ทองยัง อายุ 35 ปี เป็นสมาชิ อบต.คลองกระจง หมู่ 3 อ.สวรรคโลก โดยขึ้นไปบนหลังคาบ้านเพื่อขยับสายไฟฟ้าให้พ้นน้ำแต่พลาดตกและถูกไฟฟ้าชอร์ตจนเสียชีวิต

กทม.สั่งพร้อม 24 ชั่วโมง

ที่ศาลาว่าการกทม. นายสัญญา ชีนิมิตร ผอ.สำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วม ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 27 ก.ค. 54 ถึงผอ.สำนักการโยธา ผอ. สำนักการจราจรและขนส่ง ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัย ผอ.เขตและผอ.กองโรงงานช่างกล ขอให้เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำท่วมตลอด 24 ช.ม. พร้อมทั้งให้เขตทั้ง 50 แห่ง เข้าดูแลพื้นที่ ขุดลอกคู คลอง การเตรียมยกพื้น เตรียมไม้ทำสะพาน กระสอบทราย และสถานที่พักชั่วคราวกรณีประชาชนต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของหนีน้ำ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่จากหน่วยเบสท์กว่า 700 นาย คอยอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือประชาชน

ผอ.สำนักการระบายน้ำ กล่าวอีกว่า คาดว่าน้ำเหนือจะไหลเข้าสู่กทม.ประมาณวันที่ 10 ส.ค.นี้ และปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 1,760 ลบ.ม.ต่อวินาที ถือเป็นปริมาณที่ยังสามารถรับมือได้ ยังไม่ต้องเพิ่มความสูงของแนวกั้นน้ำ ซึ่งสูงประมาณ 2.50-3 เมตร เพราะกทม.มีสถานีสูบน้ำ แก้มลิง อุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำ รวมถึงศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมฝั่งธนบุรีเพิ่มอีก 1 แห่ง <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=right><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>
หินถล่ม - ก้อนหินขนาดใหญ่ถูกน้ำเซาะจนถล่มลงมาขวางถนนสายอ.ปาย-ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน จนชาวบ้านไม่สามารถเดินทางผ่านไปมาได้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาขนย้ายนานหลายชั่วโมง เมื่อวันที่ 3 ส.ค.

</TD></TR></TBODY></TABLE>

นายสัญญา กล่าวต่อว่า เป็นห่วงชุมชนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ จำนวน 13 เขต 27 ชุมชน รวมประมาณ 1,200 ครัวเรือน เนื่องจากยังไม่สามารถดำเนินการสร้างแนวคันกั้นน้ำที่เหลืออีก 4.7 ก.ม. เนื่องจากมีประชาชนบางส่วนไม่ยอมรื้อย้ายออกจากพื้นที่และไม่ให้ความร่วมมือ จึงต้องเร่งเจรจาทำความเข้าใจ เพื่อก่อสร้างส่วนที่เหลือให้เสร็จโดยเร็ว

ใช้ 3 ล.กระสอบทรายกั้นน้ำ

นายสัญญา กล่าวว่า ส่วนมาตรการป้องกันน้ำท่วม ได้กระจายกระสอบทรายจำนวน 3 ล้านกระสอบไปยังพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมแล้วเพื่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราว คาดว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำเหนือและปริมาณน้ำฝน ที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องได้ในระยะนี้ ส่วนปริมาณน้ำเหนือที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาในขณะนี้ยังไม่ส่งปัญหาให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณ 2 ริมฝั่ง แม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากระดับน้ำที่วัดได้จากแม่น้ำเจ้าพระยาในขณะนี้ยังไม่เกิน 1.50 เมตร ซึ่งถือว่ายังอยู่ในแนวที่สามารถป้องกันน้ำได้

5 จว.เสี่ยงโคลนถล่ม

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เผยว่า ขอเตือนประชา ชนในพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 5 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ น่าน แพร่ พิษณุโลก และเลย โดยเฉพาะบริเวณอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ลับแล ท่าปลา ของจ.อุตรดิตถ์ อ.นาหมื่น นาน้อย จ.น่าน อ.วังชิ้น ลอง เด่นชัย จ.แพร่ อ.ปากชม เชียงคาน ด่านซ้าย ภูเรือ นาแห้ว จ.เลย อ.ชาติตระการ นครไทย จ.พิษณุโลก ระมัด ระวังอันตรายจากดินถล่มในระยะ 1-2 วันนี้ เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ดังกล่าวทำให้ดินภูเขาที่ชุ่มน้ำ อาจพังถล่มลงมาได้ จึงขอให้ติดตามประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิด หากสังเกตพบสัญญาณผิดปกติ เช่น น้ำในลำธารเปลี่ยนสีเป็นสีเดียวกับดินบนภูเขา สัตว์ป่าแตกตื่น มีเสียงดังอื้ออึงจากป่าต้นน้ำ เป็นต้น ให้รีบอพยพออกจากพื้นที่ในทันที

อุตุฯ เตือนระวังน้ำป่า

กรมอุตุนิยมวิทยา เผยว่า ขณะพายุนกเตนได้สลายตัวแล้ว ขณะที่พายุไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้าไม่มีทิศทางที่จะพัดเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้อิทธิพลของสภาพอากาศที่มีผลขณะนี้ มาจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ กับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมประจำหน้าฝนเท่านั้น โดยพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง คือฝั่งตะวันตกของภาคเหนือ และภาคอีสานตอนบน ที่เกิดน้ำป่าไหลหลาก แต่หลังจาก 24 ชั่วโมง สถานการณ์จะดีขึ้น

อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มที่ฝนจะตกเพิ่มขึ้นในอีก 3-4 วันจากนี้ จึงขอให้เร่งระบายน้ำ เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่อาจเพิ่มขึ้น ขณะที่พื้นที่ชายฝั่งทะเลทั้งภาคตะวันออก และภาคใต้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ยังมีคลื่นสูง 2 เมตร ฝั่งทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 3 เมตร ขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง สำหรับภาคกลาง ตลอดจนกทม.และปริมณฑล จะมีฝนน้อยลง ส่วนใหญ่อยู่ทางตะวันตกของภาค ภาพรวมถือว่าสถานการณ์ใกล้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ปิดแล้ว 27 โรงเรียน

ที่กระทรวงศึกษาธิการ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือและอีสานทำให้มีโรงเรียนได้รับผลกระทบ 80 แห่ง ปิดเรียนแล้ว 27 แห่ง โดยโรงเรียนส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบน้ำท่วมบริเวณโรงเรียน โดยสพฐ.ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่เขตพื้นที่ละ 200,000 บาท ส่วนความเสียหายทั้งหมดจะมีการประเมินอีกครั้งหลังสถานการณ์น้ำท่วมลดลง

สายเหนือพร้อมวิ่งแล้ว

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรฟท. เผยว่า ขณะนี้มีน้ำท่วมทางรถไฟหลายจุดในพื้นที่จ.แพร่และพื้นที่ใกล้เคียง จึงต้องติดตามปรับปรุงทางที่เสียหาย ทั้งคันดิน หินรองราง เครื่องประกอบราง ระบบอาณัติสัญญาณ และโทรคมนาคม ให้ขบวนรถวิ่งได้โดยเร็ว ส่วนการเดินขบวนรถนั้น รฟท.เน้นเดินขบวนรถไปยังสถานีใกล้กับจุดที่น้ำท่วมทาง หรือสถานีที่มีเส้นทางรถยนต์เข้าถึงง่าย เพื่อขนถ่ายผู้โดยสารให้ถึงจุดหมายปลายทาง โดยได้ประสานกับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) แล้ว

นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ รฟท. กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำลดลงเพียงพอที่จะเดินรถสายเหนือได้ตามปกติแล้ว คาดว่าน่าจะเปิดเส้นทางได้ในเวลา 20.00 น. วันที่ 3 ส.ค. อย่างไรก็ตามรฟท. จะติดตามสถานการณ์น้ำท่วมใกล้ชิด เพราะอาจเปลี่ยน แปลงได้ ขอให้ประชาชนที่ต้องการเดินทางตรวจสอบข้อมูลได้ที่สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

โคลนถล่ม"สบเมย"ดับ 3

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมจากพายุนกเตนนั้น เมื่อเวลา 06.00 น. เกิดเหตุดินโคลนถล่ม ที่บ้านปู่ทา หมู่ที่ 6 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย ทำให้ประชาชนเสียชีวิต 3 ราย เป็นหญิงชรา 1 ราย และ เด็ก 2 ราย บาดเจ็บ 12 ราย และมีผู้สูญหายอีก 4 ราย เป็นชาย 3 หญิง 1 และที่บ้านแม่สามแลบ หมู่ 1 มีบ้านเรือนถูกน้ำพัดพาสูญหายไปอีก 11 หลังคาเรือน

ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัย ประสบกับปัญหาเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย เนื่องจากเส้นทางจาก อ.แม่สะเรียง ไปยัง บ้านแม่สามแลบถูกตัดขาด เนื่องจากมีฝนตกอย่างหนัก ส่งผลให้ระบบไฟฟ้า ของทั้งสองอำเภอ ได้แก่ อ.แม่สะเรียง และ อ.สบเมย ไม่สามารถใช้ การได้

นอกจากนี้เส้นทางไปยังบ้านปู่ทา หมู่ที่ 6 จะต้องนั่งเรือจากบ้านแม่สามแลบวิ่งทวนน้ำ 4 ชั่วโมง แล้วเดินเท้าอีก 3 ชั่วโมง จึงจะถึงที่เกิดเหตุ ในขณะที่เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถบินขึ้นได้เนื่องจากสภาพอากาศปิดและมีเมฆหมอกฝนหนาทึบ สามารถติดต่อสื่อสารด้วยวิทยุที่ใช้ในราชการทหารเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำยวม-แม่น้ำแม่สะเรียง เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับน้ำตามลำห้วยต่างๆ ไหลทะลักมาสมทบทำให้เกิดดินถล่ม เสาไฟฟ้าโค่นปิดทับเส้นทางสัญจรหลายเส้น เช่น ที่บ.ทุ่งแล้ง ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทางอ.แม่สะเรียงได้ประสาน หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 หมวดการทางแม่สะเรียง และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมเครื่องจักรเข้าเปิดเส้นทาง ซึ่งทำได้ยากลำบาก เพราะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดทราบชื่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในหมู่บ้านดังกล่าวแล้วคือ ผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย 1. นางจันทร์ขาว ภาวนาวัตร์ อายุ 53 ปี 2.ด.ช.วีระ สายชลวิมาน อายุ 11 ขวบ 3. ด.ช.พาส่าแก ไม่มีชื่อสกุล และ ผู้สูญหาย ได้แก่ 1. นางก่าบือ สายชลวิมาน อายุ 34 ปี 2.นายประวิตร หมื่นตุ้ม อายุ 33 ปี 3. นายหล้า หมื่นตุ้ม อายุ 74 ปี 4. นายพะก่าลิ หมื่นตุ้ม อายุ 49 ปี

นอกจากนี้ยังมีก้อนหินหนักกว่า 50 ตัน ถล่มลงมาปิดทับเส้นทาง ทางหลวงแผ่นดิน 1095 ปาย-ปางมะผ้า บริเวณ ก.ม.122 ทำให้รถยนต์ติดยาวกว่า 2 กิโลเมตร

แม่สะเรียง-สบเมยไฟดับ

ส่วนบริเวณสะพานน้ำแม่สะเรียง บ้านนาคาว เจ้าหน้าที่กฟภ.แม่สะเรียง เร่งตัดสายไฟฟ้าแรงสูง หลังมีเสาไฟฟ้าแรงสูงริมน้ำแม่สะเรียง ถูกกระแสน้ำกัดเซาะเสาไฟล้มลงในแม่น้ำ 2 เสา และยังดึงเสาไฟฟ้าที่อยู่ข้างเคียงล้มขวางปิดทับเส้นทาง 2 เสา ทำให้ อ.แม่สะเรียง มีไฟฟ้าใช้ในเขตเทศบาลเท่านั้น ขณะที่ อ.สบเมย ทั้งอำเภอไม่มีทั้งไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.ลำปาง มีความเสียหายในพื้นที่ 9 อำเภอ 60 ตำบล 308 หมู่บ้าน 1 เทศบาล ได้แก่ อ.เมือง แจ้ห่ม งาว แม่เมาะ วังเหนือ ห้างฉัตร เกาะคา แม่ทะ และเมืองปาน ส่งผลให้บ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรเสียหาย

ส่วนที่จ.พิษณุโลก ระดับน้ำในแม่น้ำน่านขึ้นสูงต่อเนื่อง โดยขณะนี้ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง หรือจุดวิกฤตเพียงเมตรกว่าเท่านั้น จึงต้องใช้เขื่อนนเรศวร ควบคุมไม่ให้ระดับน้ำในเขตเทศบาลถึงขั้นวิกฤต ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนแควน้อย หยุดการระบายน้ำแล้ว ทำให้ชาวแพที่อยู่ 2 ฝั่งแม่น้ำน่าน ต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ป้องกันกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวพัดแพเสียหาย

อ่วมท่วมโรงพยาบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานระดับน้ำในแม่น้ำยมว่า เนื่องจากต้องรับน้ำจากน้ำโค้ง อ.เมือง แพร่ ในระดับ 1,800 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลทำให้น้ำในแม่น้ำยม อ.สวรรคโลก มีระดับความสูงเกินจุดวิกฤต เดิมทีรับได้เพียง 1 เมตร แต่ขณะนี้ระดับน้ำขึ้นไปถึง 1.50 เมตรแล้ว ทำให้น้ำยมที่เอ่อล้นตลิ่งได้ไหลบ่าเข้าท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจของ อ.สวรรคโลก และบ้านเรือนของประชาชน ตลอดทั้งถนนหลายสาย สูงประมาณ 0.50-1 เมตร โดยเฉพาะบริเวณถนนเข้าโรงพยาบาลสวรรคโลก มีระดับน้ำท่วมสูงเกินกว่า 0.50 เมตร ทำให้ประชาชนที่เดินทางไปรักษาตัวไม่สามารถสัญจรเข้าออกได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้ระบายน้ำจากแม่น้ำยมลงสู่คลองเมม หรือแม่น้ำยมสายเก่า 240 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้น้ำล้นตลิ่งท่วมพื้นที่บ้านท่าช้าง บ้านคลองเมม ต.ท่าช้าง อ.พรหม พิรามแล้ว และคงท่วมพื้นที่ ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก ต.ท่านางงาม อ.บางระกำด้วย

ที่จ.พิจิตร นายสมเกียรติ์ อ้นกลิ้ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.บางไผ่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เผยว่า ขณะนี้ ต.บางไผ่ น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลเข้าท่วมนาข้าวที่กำลังจะเก็บเกี่ยวกว่า 5-6 พันไร่ จึงอยากให้ภาครัฐเร่งช่วยเหลือค่าชดเชยโดยเร็ว

แพร่ตาย 4 หาย 1

นายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ เผยว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตในอำเภอวังชิ้นแล้ว 2 ราย คือนายธัชพล ศรแก้ว อายุ 16 ปี นักเรียนโรงเรียนวังชิ้นวิทยา ชาวบ้านนาเวียง หมู่ที่ 4 ตำบลวังชิ้น อ.วังชิ้น จ.แพร่ ที่เสียชีวิตจากลื่นตกน้ำขณะเดินทางไปกับบิดาเพื่อดูบ้านตนเองที่ถูกน้ำท่วม แล้วลื่นหายไปกับสายน้ำและพบศพแล้ว อีกรายคือนายวิเชียร ก้านเงิน อายุ 56 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 4 ตำบลวังชิ้น ออกไปหาปลาแล้วเรือล่มเสียชีวิต ที่อำเภอสูงเม่น ยังพบผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย คือนายสุบิน สุนันทพงษ์ อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 125/2 หมู่ที่ 5 ต.น้ำชำ อ.สูงเม่น จ.แพร่ และที่อำเภอร้องกวาง 1 ราย คือ นายมัย อิสี อายุ 60 ปี ชาวบ้านตำบลทุ่งศรี อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ที่ออกไปหาปลาถูกน้ำพัดลงท่อจนเสียชีวิต นอกจากนั้น ยังมีผู้สูญหายอีก 1 รายที่อำเภอวังชิ้นด้วย

ห่วงน้ำโขงล้นตลิ่ง

ที่จ.หนองคาย นายสุขวิทย์ บัวเผื่อน หัวหน้าส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ เผยว่า ระดับน้ำโขงที่หนองคาย วัดได้ 10.32 เมตร ถือว่าทรงตัว ขณะที่น้ำโขงที่เชียงแสนและเชียงคานลดลง หากไม่มีฝนตกหนัก จากนี้ 1-2 วัน น้ำโขงจะลดปริมาณลง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สูง ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และช่วงวันที่ 20 ส.ค. - 20 ก.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำโขงจะมีระดับสูงสุดในรอบปี ซึ่งน้ำอาจท่วมพื้นที่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนสถานการณ์น้ำลำห้วยสาขาแม่น้ำโขงมีปริมาณสูงขึ้น จนทำให้ล้นลำห้วยและไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ไร่นา ฟาร์มเลี้ยงไก่ และบ่อปลาของชาวบ้าน โดยเฉพาะที่บ้านเวียงคุก ต.เวียงคุก และบ้านปะโค ต.ปะโค อ.เมืองหนองคาย น้ำได้ไหลเข้าท่วมนาที่เพิ่งปักดำ หากน้ำไม่ลดลงภายในสัปดาห์นี้คาดว่าต้นข้าวจะเน่าตายเกือบร้อยไร่ นอกจากนี้ น้ำยังไหลเข้าท่วมบ่อปลาชาวบ้านกว่า 300 บ่อ ทำให้ปลาหลุดออกจากบ่อ

ด้านนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าฯ นครพนม เผยว่า หากระดับน้ำโขงสูงขึ้นถึงจุดวิกฤตที่ระดับ 12.45 เมตร เกรงว่าจะเกิดหายนะขึ้น โดยขณะนี้น้ำโขงอยู่ในระดับ 11.97 เมตร ซึ่งอาจถึงจุดวิกฤตใน 1-2 วัน

นายธงชัย รัตนวารินทร์ชัย ผอ.โครงการชลประทาน จ.นครพนม เผยว่า ขณะนี้เกิดร่องมรสุมผ่านน้ำในประเทศลาว คาดการณ์ไว้จะไหลลงสู่น้ำโขงร้อยละ 35 บวกน้ำไทยอีกร้อยละ 18 รวมกันมีร้อยละ 53 ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ระดับน้ำโขงทะลุถึงจุดวิกฤตในวันที่ 4 ส.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำในแม่น้ำสงคราม เอ่อล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน บ.ปากอูน ม.4 ซอยเทศบาล 9 เขตเทศบาล ต.ศรีสงคราม เสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 1-1.5 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือแทนรถ ส่วน บ.ท่าบ่อสงคราม ม.4 ต.ท่าบ่อสงคราม เดือดร้อน 25 หลังคาเรือน

สำหรับที่จ.เลย น้ำป่าไหลท่วมหมู่บ้านนาแขม ต.นาแขม อ.เมือง มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมหลายหลัง และท่วมนาข้าวนับร้อยไร่ นอกจากนี้ น้ำยังไหลท่วมถนนสายเลย-เชียงคาน ตั้งแต่ตีนเนินมาจนถึงตลาดสด ต.นาอ้อ และชุมชนนาอ้อ รวมทั้งไหลท่วม 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนถูกน้ำท่วม 53 หลังคาเรือน นาข้าวประมาณ 1 พันไร่

พร่องน้ำเขื่อนรอรับ

จ.ศรีสะเกษ ที่เขื่อนราษีไศล เจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ โดยยกประตูระบายน้ำของเขื่อนทั้ง 7 บานประตูสูงขึ้นเพื่อให้น้ำไหลออกจากอ่างลงไปสู่ลำน้ำมูนทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำในอ่างเก็บน้ำมีระดับน้ำที่สูงเกินไป

จ.ชัยนาท นายสุรพจน์ รัชชุศิริ ปลัดจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ขณะนี้เขื่อนภูมิพล เก็บน้ำแล้วร้อยละ 60 เขื่อนสิริกิติ์ เก็บน้ำแล้วร้อยละ 80 จึงต้องพร่องน้ำในเขื่อนสิริกิติ์เพื่อรองรับน้ำฝน ไม่เช่นนั้นน้ำอาจล้นได้ โดยคาดว่ามวลน้ำจะมาถึงที่ชัยนาทประมาณวันที่ 7 ส.ค. โดยทางจังหวัดได้เตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือไว้อย่างเต็มที่ อาทิ ถุงยังชีพถังบรรจุน้ำอุปโภค บริโภค สุขาเคลื่อนที่ ทางแขวงการทางชัยนาทเตรียมเครื่องจักรกล พร้อมซ่อม ขุดลอก ถนนที่อาจพังเสียหาย

ที่จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ เขื่อนพระราม 6 อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เร่งยกบานประตูระบายน้ำบานที่ 4 จากทั้งหมด 6 บาน เพื่อเร่งระบายน้ำเหนือเขื่อน รวมถึงเศษวัชพืช ลงแม่น้ำป่าสัก เพื่อพร่องน้ำเหนือเขื่อน

ส่วนที่บริเวณประตูพระนารายณ์ ด้านเหนือเขื่อนพระราม 6 เปิดประตูระบายน้ำทั้งหมด 12 บาน เพื่อระบายน้ำเหนือเขื่อนพระราม 6 ออกทางคลองระพีพัฒน์ อีกทางหนึ่ง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาน้ำล้นตลิ่งตั้งแต่อ.ท่าเรือ อ.นครหลวง ในเขตจ.พระนครศรีอยุธยาอีกทาง โดยล่าสุด เขื่อนพระราม 6 ระบายน้ำอยู่ที่ 430 ลบ.ม./ วินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 12 ลบ.ม./วินาที และมีแนวโน้มจะระบายน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นอีก ส่วนประชาชนที่อยู่ด้านท้ายเขื่อนจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมไม่มากนัก

นายไมตรี ปิตินานนท์ ผอ.โครงการชลประ ทาน พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า หากไม่มีฝนตกลงมาเหมือนกับพายุนกเตนอีก สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะยังคงทรงตัว ส่วนชาวบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย อาจจะถูกน้ำท่วมบ้าง เพราะขณะนี้น้ำที่ท่วมอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือกำลังจะไหลลงสู่ภาคกลางตอนล่าง และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยคาดว่าประมาณ 10 วัน น้ำจะถึงพื้นที่ภาคกลางทั้งหมด

นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าฯปทุมธานี เผยว่า น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นทุกวันทำให้ชาวบ้านที่อยู่ตามริมแม่น้ำและลำคลองได้ถูกน้ำท่วมแล้ว โดยเฉพาะที่ตำบลท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตติดต่อกับ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธา น้ำได้เพิ่มปริมาณสูงขึ้น ท่วมบ้านเรือนประชาชนจำนวนหลายหลังคาเรือนแล้ว ซึ่งทางจังหวัดก็ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์จากกรมชลประทานอยู่ตลอดเวลา โดยน้ำเหนือลูกแรกจะมาถึงปทุม ธานีประมาณ วันที่ 12-13 สิงหาคม ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการเปิดประตูระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา

หัวหินก็โดนสะพานขาด

ที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายสมชาย บำรุงทรัพย์ นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เผยว่า ขณะนี้สะพานข้ามแม่น้ำปราณ หลายแห่งถูกน้ำป่าแซะคอสะพานจนได้รับความเสียหาย ทำให้ชาวบ้านใน 2 หมู่บ้านกว่า 1,500 คน ไม่สามารถเดินทางสัญจรเข้าออกหมู่บ้านได้ 2 วันแล้ว ขณะนี้ทางอำเภอหัวหิน และอบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ได้นำเรือท้องแบนของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 เข้าช่วยเหลือชาวบ้านและเด็กนักเรียนในการเดินทางเข้าออก ซึ่งต้องใช้วิธีการขึงเชือกเป็นแนวข้ามแม่น้ำและติดตั้งรอกเอาเชือกผูกติดกับเรือแล้วใช้การดึงแทนการใช้เครื่องยนต์ เนื่องจากกระแสน้ำรุนแรงมาก นอกจากนี้ได้นำถุงยังชีพ เข้าไปมอบให้ชาวบ้านตามจุดต่างๆ และอบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ได้เตรียมสร้างสะพานไม้ให้ชาวบ้านสัญจรชั่วคราว

ตร.เร่งช่วยเหลือ

ที่สตช. พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกตร. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกบช.น. และพล.ต.ต.พินิจ มณีรัตน์ ผบก.สนง.จเร ตร. ในฐานะรองโฆษกตร. แถลงว่า ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ประสบเหตุอุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไฟฟ้าและเส้นทางถูกตัดขาดเร่งช่วยเหลือ อพยพประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเร็วที่สุด โดยได้สนับสนุนเรือยางและเรือยนต์เต็มที่ ส่วนถนนที่ถูกกระแสน้ำทำลายเสียหาย ให้ตำรวจทางหลวงจัดเส้นทางเลี่ยง เส้นทางสำรอง พร้อมตรวจสอบสภาพอากาศ และสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อประชาสัมพันธ์ และเฝ้าระวังเหตุให้กับประชาชน รวมทั้งจัดกำลังสายตรวจ และอาสาสมัคร เฝ้าระวังกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสก่อเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ซ้ำเติมประชาชนผู้ประสบอุทกภัย

เปิดประวัติ'พ่อท่านคล้าย' เหรียญดัง-ค่านิยมสูง(1)

คอลัมน์ มุมพระเก่า
อภิญญา


<TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>
</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อเอ่ยนามไปแล้ว ไม่มีชาวปักษ์ใต้คนใดไม่รู้จัก "หลวงพ่อคล้าย" หรือ "พระครูพิศิษฐ์อรรถการ" พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดพระธาตุน้อย (วัดจันดี) ต.ช้างกลาง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช

"หลวงพ่อคล้าย" สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ได้ชื่อว่าเป็นพระที่มีพุทธาคม มีคาถาทรงอิทธิปาฏิหาริย์ มีวิชาอาคมขลัง และมีวาจาศักดิ์สิทธิ์อย่างน่าอัศจรรย์

ด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เท่าที่หลวงพ่อคล้ายมีอยู่นี่เอง ชาวปักษ์ใต้ 14 จังหวัด อาทิ จ.ชุมพร, จ.สุราษฎร์ฯ, จ.สงขลา, จ.ตรัง, จ.กระบี่, จ.ปัตตานี, จ.ยะลา, จ.พังงา, จ.นราธิวาส, จ.สตูล ต่างรู้จักและมีความเคารพเลื่อมใสศรัทธาท่านอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่ได้ประจักษ์กับตัวเองในเรื่องอิทธิฤทธิ์ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านมาแล้ว

ท่านเกิดในสกุล "สีนิล" เมื่อวันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ.2419 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีชวด ที่บ้านโคกกระทือ หรือบ้านโคกทือ หมู่ 10 ต.ช้างกลาง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช (ปัจจุบันตำบลช้างกลางอยู่ในอำเภอช้างกลาง) โยมบิดา-มารดาชื่อ นายอินทร์และนางเหนี่ยว สีนิล

ครอบครัวของพ่อท่านคล้ายมีฐานะค่อนข้างดี มีความรู้เรื่องอักษรไทยและขอมเป็นอย่างดี จึงสอนเขียนอ่านบุตรชายด้วยตัวเองที่บ้านจนมีความชำนาญ และยังได้ส่งบุตรชายไปเรียนคณิตศาสตร์ต่อยังสำนักของครูขำ

อายุประมาณ 14-15 ปี ได้เดินทางไปอยู่กับพี่สาวและพี่เขยที่ ต.มะม่วงเอน อ.คลอง ท่อม จ.กระบี่ ต่อมาในปี 2438 ได้เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณรคล้าย โดยพระอธิการจัน อดีตเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดจันดี (ทุ่งปอน) ขณะจำพรรษาก็ตั้งใจใฝ่เรียน ฝึกท่องพระปาฏิโมกข์จนชำนาญแคล่วคล่องแม่นยำ

ครั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ในปีพ.ศ. 2439 ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ อุทกุกเขปสีมา (ศาลาน้ำ) วัดวังม่วง โดยมีพระอาจารย์กราย คังคสุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดหาดสูง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์สังข์ สิริรัตโน เจ้าอาวาสวัดไม้เรียง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ทอง ปทุมสุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดวังม่วงเป็นพระอนุสาวนาจารย์ และมีพระอาจารย์ล้อม ถิรโชโต เป็นผู้ให้สรณคมน์และศีลก่อนทำพิธีอุปสมบท ได้รับฉายาว่า จันทสุวัณโณ

หลังอุปสมบทอยู่จำพรรษาที่วัดจันดี ศึกษาพระธรรมวินัยและปาฏิโมกข์จนแตกฉาน ต่อมาได้ไปศึกษาพระปริยัติธรรมกับท่านพระครูกาแก้ว (ศรี) วัดหน้าพระบรมธาตุฯ อยู่ 2 ปี ศึกษาวิทยาคมจากพระอาจารย์กราย วัดหาดสูง ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์จนแก่กล้า เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดัง

หลังจากนั้น พ่อท่านคล้ายเริ่มออกธุดงค์แสวงหาความวิเวกตามป่าเขาและถ้ำต่างๆ เพื่อศึกษาทางด้านปฏิบัติ นั่งสมาธิ นั่งกัมมัฏฐานอย่างจริงจัง ตามประวัติและหลักฐานที่ปรากฏท่านแบกกลดท่องธุดงค์และเทศนาธรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนาถึงดินแดนใต้สุดเมืองสยามตลอดจนประเทศมาเลเซีย

พำนักปักกลดที่วัดพุทธาธิวาส อ.เบตง จ.ยะลา

เปิดประวัติ'พ่อท่านคล้าย' เหรียญดัง-ค่านิยมสูง(2)

คอลัมน์ มุมพระเก่า
อภิญญา


<TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>
</TD></TR></TBODY></TABLE>พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแดนใต้ "พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์" ท่านได้สร้างคุณูปการไว้กับพระพุทธศาสนามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ สร้างศรัทธาปสาทะกับพุทธศาสนิกชนให้เลื่อมใส เข้าใจในคำสอนของพระพุทธศาสนาอย่างแจ่มแจ้ง อีกทั้งสร้างปูชนียวัตถุ ปูชนียสถาน ที่สืบทอดพระศาสนาอยู่จนทุกวันนี้คือ องค์พระธาตุเจดีย์ฯ พระพุทธรูปตามวัดต่างๆ รวมทั้งศาสนสถานมากมาย ตลอดจนถาวรวัตถุสิ่งต่างๆ มากมาย อาทิ โรงเรียน ถนนหนทาง ขุดคลอง สร้างสะพานมากมายหลายแห่ง

พ.ศ.2492 พ่อท่านคล้ายได้รับพระราช ทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในราชทินนามพระครูพิศิษฐ์อรรถการ พ.ศ.2500 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม

พ่อท่านคล้าย เป็นพระนักพัฒนา ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และจะอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ พ.ศ. 2475 ท่านเจ้าคุณพระศรีธรรมสาธน์ (เจ้าคุณพระรัตนธัชมุนี) ซึ่งเป็นพระราชาคณะได้นิมนต์พ่อท่านคล‰ายไปจำพรรษาและดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจันดี เนื่องจากวัดจันดี ไม่มีเจ้าอาวาสปกครอง

วาระสุดท้ายของพ่อท่านคล้ายได้มรณภาพอย่างสงบ ณ ห้องหมายเลข 5 ตึกสุทธิสารรณกร โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ เวลา 23.05 น. วันที่ 5 ธันวาคม 2513 ที่ผ่านมาทั่วภาคใต้ได้มีการโจษขานถึงอิทธิปาฏิหาริย์ของท่านอยู่เสมอ ดูเหมือนวาจาของท่านนั้นประดุจมีมนต์หรืออาถรรพณ์อันมหัศจรรย์ เคยมีเรื่องเล่ากันว่า ถ้าหลวงพ่อคล้ายให้ศีลให้พรใครไปแล้วว่า จงร่ำรวยเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีเถิด บุคคลที่ได้รับพรวิเศษแล้ว บุคคลนั้นจะเป็นบุคคลที่โชคดีที่สุด หากทำอาชีพค้าขายก็จะทำมาค้าขายขึ้นหรือเกิดโชคลาภต่างๆ มันเป็นโชคลาภที่เกิดขึ้นจากอาชีพและโชคลาภที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน

มีหลายคนที่ได้รับพรวิเศษจากท่านได้กลายเป็นเศรษฐีไป แต่ก็น้อยคนอีกเหมือนกันที่จะได้รับพรวิเศษเช่นนั้น บางทีท่านอาจมีเจโตปริยญาณ หรือ อนาคตังสญาณ คือมีฌานอันมหัศจรรย์มองเห็นเหตุการณ์ในอนาคตว่าบุคคลนั้นๆ มีบุญกุศลส่งมาในอดีตหรือไม่

การที่หลวงพ่อคล้ายมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ หรือมีอนาคต ตังสญาณอันมหัศ จรรย์นี้ ทำให้เข้าใจว่าท่านต้องสำเร็จฌาน หรือโลกุตตรฌานอย่างแน่แท้ เพราะบุคคลจะมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ หรือมีเจโตปริยญาณได้นั้น จะต้องมีความสำเร็จโลกิยฌาน หรือไม่ก็โลกุตตรฌานอย่างแน่นอน

ท่านจึงได้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ และมีอำนาจจิตสูง

น้ำมนต์ท่านก็มีความศักดิ์สิทธิ์ บุคคลที่ได้มีการเจ็บป่วยด้วยโรคาพยาธิต่างๆ ถ้าได้รดน้ำมนต์ของหลวงพ่อคล้าย เจ้าโรคร้ายเหล่านั้นก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง จนเป็นที่โจษขานกันทั่วทุกจังหวัดภาคใต้

และกล่าวกันว่าเป็น "น้ำมนต์ทิพย์"

เปิดประวัติ"พ่อท่านคล้าย" เหรียญดัง-ค่านิยมสูง(จบ)

คอลัมน์ มุมพระเก่า
อภิญญา


<TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>
</TD></TR></TBODY></TABLE>นอกจากน้ำมนต์ทิพย์แล้ว น้ำหมากของท่านก็กลายเป็นน้ำหมากทิพย์ไปด้วย เพราะสามารถนำเอาไปรักษาโรคได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่แพ้น้ำมนต์ทิพย์อีกเหมือนกัน

พลังพลานุภาพของน้ำหมากที่หลวงพ่อคล้ายให้ใครไปนั้น ท่านจะบ้วนน้ำหมากของท่านลงไปในผืนผ้าเล็กๆ แล้วก็แจกจ่ายให้แก่บรรดาศิษยานุศิษย์และผู้ที่มีความเคารพนับถือไป

เหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงอำนาจอิทธิปาฏิหาริย์ดังกล่าวนี้ก็คือครั้งหนึ่งได้เกิดไฟไหม้ขึ้นในจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งถือว่าเป็นครั้งใหญ่ และครั้งนี้ที่พบเหตุอัศจรรย์ผ้าน้ำหมากหลวงพ่อคล้ายไม่ไหม้ไฟ

ข่าวนี้แพร่สะพัดไปทั่วจังหวัดภาคใต้ จนถึงกล่าวกันว่าผ้าน้ำหมากของหลวงพ่อคล้ายมีความศักดิ์สิทธิ์ป้องกันอัคคีภัยได้ จึงพากันเอาผ้าบ้วนน้ำหมากนี้แขวนไว้บูชา แล้วอธิษฐานให้ปลอดภัยจากอัคคีภัย ด้วยกิตติคุณ ชานหมากเป็นที่เลื่องลือ จากคำบอกเล่าว่า ไม่เคยเลยสักครั้งที่ชานหมากจะตกลงพื้นหรือกระโถน เพราะลูกศิษย์มักแย่งกันเพื่อนำไปบูชา

ทุกวันนี้ สรีรสังขารพ่อท่านคล้าย ได้กลายเป็นหินและไม่เน่าเปื่อย บรรจุอยู่ในโลงแก้ว ให้คณะศิษย์จากทั่วสารทิศได้นมัสการ ภายในพระเจดีย์ฯ วัดพระธาตุน้อย ตลาดคลองจันดี

ด้านวัตถุมงคลพ่อท่านคล้าย ล้วนแต่ได้รับความนิยมหลายรุ่น ขนาดท่านละสังขารไปนานแล้ว คณะศิษย์ยังสร้างวัตถุมงคลออกมาอีกหลายรุ่น ล่าสุดจัดสร้างเหรียญและรูปเหมือนพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ รุ่นนะมหาเศรษฐี เพื่อสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญ และสร้างกำแพงวัดจันดี จ.นครศรีธรรมราช

ส่วนประเภทเหรียญพ่อท่านคล้ายรุ่นเก่า สนนราคาเล่นหาค่อนข้างสูง อาทิ เหรียญพ่อท่านคล้าย 2 ขอบ เนื้อทองแดง ปี 2498 พระครูสังฆรักษ์เดช ขออนุญาตจัดสร้างเนื่องในโอกาสที่วัดสร้างศาลาอเนกประสงค์ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อคล้ายครึ่งองค์ เขียนข้อความว่า "หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน รุ่น ๑" นัยน์ตาคมชัด มีไฝที่มุมปากด้านขวา ซึ่งจะมี 2 บล็อก คือ ไฝแตกกับไฝไม่แตก ที่พื้นเหรียญเป็นละอองคล้ายเม็ดผด ขอบมีรอยตัด มีเส้นแตกผ่านอักษร "ค" ที่ชื่อของท่าน

ส่วนด้านหลังเหรียญ รูเจาะหูเหรียญปลิ้น ยันต์แต่ละตัวมีความคมชัด มีรอยขอบบล็อกจึงเรียกว่า "พิมพ์ 2 ขอบ" สนนราคาเล่นหาสูงที่หลักแสน แต่หากเป็นไฝแตกจะถูกกว่าเล็กน้อย

นอกจากนี้ ยังมีเนื้อผงน้ำมัน ปลุกเสกที่วัดสวนขัน ปี 2509 รูปหล่อโบราณเล็ก พ่อท่านคล้าย 2505 ปลุกเสกปี 2505 ที่วัดสวนขัน รุ่นนี้จะมีทั้งพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ นับวันยิ่งหายาก รูปเหมือนชานหมากพ่อท่านคล้าย วัดวังตะวันออก เป็นเหรียญที่พ่อท่านคล้ายสร้างแจกแม่ครัวที่มาช่วยทำอาหารที่วัดในงานบุญ สร้างปี 2502-2503

เหรียญพ่อท่านคล้าย ไหว้ข้างมีสายสิญจน์ เหรียญพ่อท่านคล้าย วัดสามัครยาราม พ่อท่านคล้ายไหว้ข้าง เนื้อชานหมาก พ่อท่านคล้ายปลุกเสกและสร้างเมื่อปีพ.ศ. 2505 เหรียญกลมใหญ่พ่อท่านคล้าย สร้างปี 2505 เป็นเหรียญกลมมี 2 ข้าง เป็นต้น

เหรียญพ่อท่านคล้ายรุ่นแรก ปัจจุบันหายากมาก ว่ากันว่ามีพุทธคุณโดดเด่นในเรื่องของแคล้วคลาดปลอดภัย ติดต่อค้าขายหรือทำธุรกิจการค้ามักประสบความสำเร็จ สิ่งควรระวังของทำเทียมเลียนแบบ

มีมากกว่าของจริงเป็นร้อยเท่า

 

มีฝากประชาสัมพันธ์มาจากเฟซบุคค์ครับ




!!!!!!....ข่าวประชาสัมพันธ์..<wbr>​...!!!!!!
สำหรับ พี่น้องประชาชนคนใด สนใจที่จะบริจาคช่วยเหลือผู้ประ<wbr>​ สพภัย สามารถบริจาคได้ที่ " ธ.กรุงไทย สาขาแม่ริม บัญชีออมทรัพย์ หมายเลข 515 02 44 376 " ชื่อบัญชี " กองพลทหารราบที่ ๗ " ซึ่งจะบริจาคในนามของ " ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพลทหารราบที่ ๗ " นะครับ ถ้าโอนแล้ว รบกวนแจ้งได้ที่ หน้า FB ของ กองพลทหารราบที่ ๗ หรือ ทางหน้า FB ของกองพันทหารราบที่ ๕ กรมทหารราบที่ ๗ ได้เลยนะครับ...ขอบคุณทุกความช่<wbr>​วยเหลือครับ ........!!!!!!



ตอนนี้เกิดภัยพิบัติด้านน้ำท่วมในหลายพื้นที่ครับ คนไทยต้องช่วยกัน มากน้อยตามกำลังครับ

ตอนนี้ก็กำลังสานเครือข่ายอื่นทั้งภายใน ภายนอกเวบเพื่อช่วยกันทั้งการให้ความช่วยเหลือและในเชิงการป้องกันรับมือครับ

 

กรุงเทพฯ เตือน 27 ชุมชนจมบาดาล
จับตา "น้ำท่วม"กรุงเทพฯ เตือน 27 ชุมชนจมบาดาล!!! (สกู๊ปแนวหน้า)

อิทธิพลของพายุโซนร้อน "นกเตน" (NOCK - TEN) ทำให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อ<wbr>​งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนข<wbr>​องประเทศไทย นับถึงนาทีนี้มีผู้คนเดือดร้อนจ<wbr>​ากเหตุอุทกภัยนับแสนคน !! ประเด็นที่ต้องจับตาคือในวันที่ 10 ส.ค.นี้ "พายุนกเต็น" จะเคลื่อนตัวเข้าถล่มกรุงเทพมหา<wbr>​นคร ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า "น้ำเหนือ" และ "น้ำฝน" จำนวนมหาศาลจะกระหน่ำเข้าท่วม กทม. โดยชุมชนที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ<wbr>​ ้าพระยา จะได้รับผลกระทบก่อนใคร จับตา 27 ชุมชน จมบาดาล

ข้อมูลจาก สำนักการระบายน้ำ (สนน.) กรุงเทพมหานคร ระบุว่า นับถึงเวลานี้ มีบ้านเรือนของประชาชนมากกว่า 1,200 ครัวเรือน ใน 27 ชุมชน ครอบคลุมพื้นที่ 13 เขต ที่ตั้งอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำริม<wbr>​แม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ สุ่มเสี่ยงที่จะจมบาดาล โดย สนน.

ได้แบ่งพื้นที่อันตรายออกเป็น 6 กลุ่มคือ...
1.กลุ่มวิภาวดี มีโซนอันตราย 1 เขตได้แก่ เขตบางซื่อ มี 2 ชุมชน คือ ชุมชนพระราม 6 (ฝั่งติด แม่น้ำ) 25 ครัวเรือน และชุมชนปากคลองบางเขนใหม่ 46 ครัวเรือน

2.กลุ่มรัตนโกสินทร์ มี 3 เขต ได้แก่ เขตดุสิต มี 5 ชุมชน คือชุมชนเขียวไข่กา (ถ.เขียวไข่ กาช่วงปลาย) 20 ครัวเรือน ชุมชนราชผาทับทิมร่วมใจ (เชิงสะพานกรุงธน) 40 ครัวเรือน ชุมชนซอยสีคาม (ซอยสามเสน 19 ช่วงปลาย) 11 ครัวเรือน ชุมชนปลายซอยมิตรคาม (ซอยสามเสน 13 ช่วงปลาย) 140 ครัวเรือนและชุมชนวัดเทวราชกุญช<wbr>​รฯ (ถ.ศรีอยุธยาช่วงปลาย) 40 ครัวเรือนเขตพระนคร มี 3 ชุมชน คือ ชุมชนท่าวัง 80 ครัวเรือน ชุมชนท่าช้าง 25 ครัวเรือน และชุมชนท่าเตียน 120 ครัวเรือน เขตสัมพันธวงศ์มี 2 ชุมชน คือ ชุมชนวัดปทุมคงคา (ท่าน้ำสวัสดี) 12 ครัวเรือนและชุมชนตลาดน้อย 10 ครัวเรือน

3.กลุ่มเจ้าพระยา มี 3 เขต ได้แก่ เขตบางคอแหลม มี4 ชุมชน คือ ชุมชนวัดบางโคล่นอก 36 ครัวเรือน ชุมชนหน้าวัดอินทร์บรรจง 13 ครัวเรือน ชุมชนซอยมาตานุสรณ์ 31 ครัวเรือนและชุมชนหลังรพ. เจริญกรุงประชารักษ์ 14 ครัวเรือน เขตยานนาวามี 1 ชุมชน คือ ชุมชนโรงสี (ถ.พระราม 3) 60 ครัวเรือน เขตคลองเตยมี 1 ชุมชน คือ ชุมชนสวนไทรริมคลองพระโขนง 9 ครัวเรือน

4. กลุ่มกรุงธนบุรี มี 4 เขต ได้แก่ เขตบางพลัด มี 1 ชุมชนคือ ชุมชนวัดฉัตรแก้ว 8 ครัว เรือน เขตบางกอกน้อย 4 ชุมชน คือชุมชนสันติชนสงเคราะห์ 153 ครัวเรือน ชุมชนปากคลองน้ำตาลคลองพิณพาทย์<wbr>​ 103 ครัวเรือน ชุมชนตรอกวังหลัง 66 ครัวเรือนและชุมชนดุสิต-นิมิตรใ<wbr>​ หม่ 23 ครัวเรือน เขตธนบุรี 1 ชุมชน คือชุมชนปากคลองบางกอกใหญ่ 12 ครัวเรือน 11.เขตคลองสาน1 ชุมชน คือ ชุมชนเจริญนครซอย 29/2 มี 11 ครัวเรือน

5.กลุ่มตากสิน มี 1 เขต ได้แก่ เขตราษฎร์บูรณะ มี 1 ชุมชน คือ ชุมชนดาวคะนอง 157 ครัว เรือน 6.กลุ่มมหาสวัสดิ์ มี 1 เขต ได้แก่เขตทวีวัฒนา มี 1 ชุมชน คือ ชุมชนวัดปรุณาวาส 38 ครัวเรือน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบรายงานย้อนหลังของ<wbr>​สำนักการระบายน้ำกทม.พบว่า ชุมชนที่เป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วมใน<wbr>​เขต พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของกท<wbr>​ ม.มีอัตราลดลงเป็นระยะๆ ซึ่งจากเดิมในปี 2550 มีชุมชนจุดเสี่ยงมากถึง 32 ชุมชนและมีจำนวนครัวเรือนกว่า 2,000 ครัวเรือน ต่อมาในปี 2551 ลดลงหลือ 30 ชุมชน 1,563 ครัวเรือน และล่าสุดเมื่อปี 2552 มี 28 ชุมชน 1,331 ครัวเรือนก่อนที่จะเหลือ 27 ชุมชนในปัจจุบัน

ผังเมืองห่วย-แผ่นดินทรุด ข้อมูลจาก แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปั<wbr>​ญหาน้ำท่วมของ กทม. ระบุว่า เหตุที่ประเทศไทย และ กทม. เกิดน้ำท่วมอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจาก ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตมรสุม ซึ่งมีฝนตกชุกและมีปริมาณฝนสูง มีแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นแม่น้ำสาย<wbr>​หลักที่สำคัญที่สุดของประเทศ ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นที่ลุ่ม<wbr>​มีพื้นที่รับน้ำประมาณ 160,000 ตาราง กิโลเมตร หรือประมาณหนึ่งในสามของพื้นที่<wbr>​ของประเทศ รับน้ำบางส่วนจากตอนเหนือของพื้<wbr>​นที่ซึ่งมีระดับสูงกว่าและไหลผ่<wbr>​าน กทม. เพื่อลงสู่ทะเลที่ปากอ่าวไทย ทั้งนี้สาเหตุทาง

กายภาพที่สำคัญ<wbr>​ ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมใน กทม. คือ...

1.ปัญหาผังเมือง กทม.ในอดีตเดิมเต็มไปด้วยคลอง คู บึง ห้วย ที่ว่างรับน้ำเป็นจำนวนมาก เมื่อ ฝนตกลงมาสามารถระบายน้ำจากถนนแล<wbr>​ะบริเวณที่อยู่อาศัยออกไปที่ลุ่<wbr>​มข้างเคียงได้ง่าย ต่อมาจนถึง ปัจจุบันความเจริญของชุนชนเป็นไ<wbr>​ปอย่างรวดเร็ว โดยขาดการกำหนดผังเมืองการควบคุ<wbr>​มการใช้ที่ดิน อย่างเพียงพอ เป็นเหตุให้ - ที่ว่างรับน้ำต่าง ๆ ถูกถมความสามารถซับน้ำฝนของผิวด<wbr>​ินเกือบหมดไปเมื่อผิวดินส่วนใหญ<wbr>​่มีอาคาร และพื้นคอนกรีตทดแทน - ทางระบายน้ำถูกถมเป็นเหตุให้น้ำ<wbr>​ฝนจากอาคารบ้านเรือนระบายออกสู่<wbr>​คลองไม่ทัน - การสูบน้ำบาดาลเป็นเหตุให้แผ่นด<wbr>​ินทรุดและมีสภาพเป็นแอ่งท้องกระ<wbr>​ทะ ระดับพื้นถนน และซอยไม่เท่ากัน น้ำฝนไหลลงมาท่วมถนนและซอยที่ต่<wbr>​ำกว่า เป็นเหตุให้มีน้ำท่วมฉับพลันและ<wbr>​ รุนแรงในถนน หรือพื้นที่หลายแห่ง ยากต่อการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม

2.ปัญหาระบบระบายน้ำ - จากปัญหาผังเมือง ตามมาด้วยปัญหาขาดแผนหลักระบายน<wbr>​้ำที่ถูกต้อง คู คลองถูกถมเป็นถนนและสร้างท่อระบ<wbr>​ายน้ำขนาดไม่เพียงพอ ประกอบกับการขยายตัวของชุมชนในป<wbr>​ัจจุบันท่อระบายน้ำส่วนใหญ่จึงม<wbr>​ีขนาดเล็กกว่าความต้องการของแผน<wbr>​หลัก นอกจากนั้น คู คลองถูกรุกล้ำจนแคบไม่สามารถ ขุดลอกได้ลึก เพียงพอ นอกจากจะต้องสร้างเขื่อนคอนกรีต<wbr>​เสริมเหล็กริมคลองก่อนเท่านั้น - ปัญหาระบบระบายน้ำที่ต้องปรับปร<wbr>​ุงก่อสร้างนั้น จะต้องใช้งบประมาณมหาศาล และสร้างปัญหาการจราจรติดขัดด้ว<wbr>​ย

3.ปัญหาแผ่นดินทรุด - ปัญหาแผ่นดินทรุดเป็นปัญหาที่น่<wbr>​าวิตกที่สุด เนื่องจากเป็นสาเหตุที่ทำให้ระบ<wbr>​บป้องกันน้ำท่วมและระบายน้ำที่ล<wbr>​งทุนไปแล้ว และจะลงทุนอีกในอนาคตประสบความล<wbr>​้มเหลวหรือลดประสิทธิภาพได้ตราบ<wbr>​ที่ยังไม่สามารถมีมาตรการหยุดยั<wbr>​้งหรือชะลออัตราการทรุดตัวลงได้<wbr>​อย่างเพียงพอ สถานการณ์การน้ำท่วม ยังไม่น่าไว้วางใจ หนทางปฏิบัติตัวเวลานี้คือ ต้องตามติดข่าวสารและเฝ้าระวังพ<wbr>​ื้นที่เสี่ยง 24 ชั่วโมง โดยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้<wbr>​อน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน กทม. 1555 SCOOP@NAEWNA.COM วันที่ 4/8/2011


โดย: Piyacheep S. Vatcharobol

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำมันดิ่งเหว $6 - หุ้นมะกันร่วงแรง ผวาเศรษฐกิจโลกทรุดและวิกฤตหนี้ยูโรโซน</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>5 สิงหาคม 2554 04:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เอเอฟพี - ราคาน้ำมันวานนี้ (4) ดิ่งเหวเกือบ 6 ดอลลาร์ เหตุความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกและวิกฤตหนี้ยูโรโซนคุกคามอุปสงค์พลังงานโลก ขณะที่ปัจจัยข้างต้นประกอบกับข้อมูลภาคแรงงานอ่อนเปลี้ยของสหรัฐฯ ฉุดให้วอลล์สตรีทขยับลงวันเดียวรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 2 ปี

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 5.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 86.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นับเป็นราคาปิดที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 5.98 ดอลลาร์ ปิดที่ 107.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

“มีความกังวลต่อภาวะถดถอยซ้ำซ้อนหลังเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวและสถานการณ์หนี้ในยุโรปกำลังทำให้ทุกฝ่ายต้องกัดเล็บ” อดัม ซีมินสกี หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์พลังงานของดอยซ์แบงก์กล่าว

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (4) ปิดลบตามตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งกว่า 500 จุด ทำสถิติร่วงลงวันเดียวรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 2 ปีจากความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจเจอภาวะถดถอยซ้ำซ้อน

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 512.76 จุด (4.3 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,383.68 จุด แนสแดค ลดลง 137.20 จุด (5.1 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,556.39 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 60.36 จุด (4.8 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,200.07 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกทรุดลงกันถ้วนหน้าจากความกังวลต่อสถานะทางการคลังอันอ่อนแอในอิตาลี และสเปน ขณะเดียวกันก็มีข้อสงสัยต่อความสามารถของยูโรโซนในการรับมือวิกฤตเพิ่มเติมหลังต้นทุนการกู้ยืมของทั้งสองประเทศพุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

อีกด้านหนึ่งในสหรัฐฯ รายงานข้อมูลผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานก็เพิ่มเติมความกังวลว่าเศรษฐกิจอันเฉื่อยชาของประเทศแห่งนี้อาจไม่สามารถคืนสู่ความกระฉับกระเฉงในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2011 แถมยังมีความวิตกว่ามันอาจดำดิ่งสู่ภาวะถดถอยด้วยซ้ำ

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่าตัวเลขผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานเพิ่มขึ้นถึง 400,000 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากภาคธุรกิจและราชการยังมีการปลดคนงานอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การสร้างงานใหม่ก็เป็นไปอย่างเหงาหงอย

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000097168

 

MThai News: สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่คลิปวีดิโอ ขณะลมพัดผ่านสนามหญ้าหลังบ้านของนายเดนิส ฟาร์เมอร์ ในเมืองแกรนด์ฟอลล์ รัฐนิวบรันสวิก ประเทศแคนาดา ปรากฏก้อนเมฆเป็นรูปใบหน้าคน
โดยก้อนเมฆค่อยๆลอยไป ตามกระแสลมก่อนจะปรากฏรูปใบหน้าที่ มีจมูก ตา และปากเปื้อนยิ้ม นานเกือบ 1 นาทีมันก่อนจะปลี่ยนรูปไป สร้างความตกตะลึงให้กับนายเดนิสอย่างมาก
ทั้งนี้ หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้มีผู้เข้าชมกว่า 20,000 คน หลายคนลงความเห็นว่ามันอาจจะเป็นสัญญาณเตือนจากพระเจ้าก็เป็นได้ เพราะใบหน้าดังกล่าวคล้ายกับพระเยซู บางคนบอกว่า มันคล้ายกับใบหน้าที่กำลังบึ้งตึงของพระเจ้า ขณะที่บางคนบอกว่ามันดูเหมือนปีศาจร้าย
Mthai news
เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย


ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
<OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=560 height=349>
























<embed width="560" height="349" type="application/x-shockwave-flash" src="http://www.youtube.com/v/gdg6WU_aqWE?version=3&hl=en_US" allowFullScreen="true" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"/></OBJECT></P>

Photo:: youtube.com/denisfarmer

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ฝนฟ้าคะนองกระจาย ทุกภูมิภาคฝนตกน้อยลงเหลือ 20-40%ของพื้นที่ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 5 สิงหาคม 2554 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนกระจาย
อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “หมุ่ยฟ้า” ในมหาสมุทรแปซิฟิกจะไม่มีผลกระทบกับสภาวะอากาศของประเทศไทย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน ตาก และกำแพงเพชร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ สกลนคร และนครพนม
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>หลาย จว.อ่วมน้ำท่วมสูง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ภูมิภาค 4 ส.ค. - ระดับน้ำแม่น้ำน่านซึ่งไหลผ่านตัวเมืองพิจิตร เพิ่มสูงเกือบถึงจุดวิกฤติ เจ้าหน้าที่ระดมกระสอบทรายทำเป็นพนังกั้น ป้องกันน้ำไหลทะลักท่วมย่านเศรษฐกิจ

เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองพิจิตร และชาวบ้าน 25 ชุมชน ช่วยกันกรอกทรายใส่กระสอบจำนวนกว่า 10,000 ลูก

เพื่อนำไปสร้างพนังป้องกันน้ำ และส่วนหนึ่งนำไปปิดกั้นท่อระบายน้ำ ป้องกันน้ำในแม่น้ำน่านไหลทะลักย้อนกลับสู่ท่อระบายน้ำ เข้าท่วมพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ หลังพบว่าระดับน้ำในแม่น้ำน่านสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องชั่วโมงละ 10 เซนติเมตร เหลือไม่ถึง 1 เมตร จะล้นตลิ่งเข้าท่วมตัวเมืองชั้นใน และย่านเศรษฐกิจสำคัญ รวมทั้งสถานที่ราชการอีกหลายแห่ง

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

ชาวบ้านซึ่งบ้านเรือนถูกน้ำท่วมจนต้องมากางเต็นท์นอนข้างถนนเป็นคืนที่ 3 ความเป็นอยู่ยังยากลำบาก เนื่องจากไม่มีกระแสไฟฟ้า ยุงเยอะ บางคนเป็นห่วงบ้าน จนทำให้เกิดความเครียดนอนไม่หลับ ขณะที่นักเรียนเกือบ 10 คน ต้องขาดเรียนเป็นวันที่ 3 เนื่องจากเสื้อผ้าชุดนักเรียนลอยหายไปกับกระแสน้ำ

ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำโฮม ยังเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน บางแห่งระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร ส่วน อ.ฮอด น้ำจากลำน้ำแม่แจ่มล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนสายฮอด-แม่สะเรียง ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร รถไม่สามารถสัญจรผ่านได้

เช่นเดียวกับที่ จ.เชียงราย ระดับน้ำในแม่น้ำสาย แม่น้ำกั้นพรมแดนไทย - พม่า ด้านอำเภอแม่สาย ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนเลียบชายแดนสายลมจอย-เกาะทราย และเอ่อเข้าท่วมร้านอาหารตลาดท่าล่อ จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าตลาดสายลมจอย ซึ่งอยู่ฝั่งไทย ต่างเก็บสินค้าไว้บนที่สูง เนื่องจากเกรงว่าคืนนี้น้ำจะไหลหลากเข้าท่วม และจัดเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด. - สำนักข่าวไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>รองอธิบดีกรมอุตุฯปัดข่าวเดือนก.ย.พายุหลายลูกถล่มไทย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ว่า ฝนที่ตกอยู่ในปัจจุบันเป็นอิทธิพลจากร่องมรสุม และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ใน 1-2 วันข้างหน้าจะมีกำลังแรงขึ้นและมีฝนตกในภาคใต้ช่วงบ่ายและค่ำ จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรการประมง เนื่องจากลมแรงและมีคลื่นสูงต้องระมัดระวังเรื่องการเดินเรือ อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือนสิงหาคม ถึงเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังดูว่าจะมีหย่อมความกดอากาศพัฒนาเป็นมรสุมหรือไม่ หากมีมรสุมสามารถแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบล่วงหน้าได้ และขอปฏิเสธว่าจะมีพายุ 10-20 ลูกพัดผ่านประเทศไทยในช่วงเดือนกันยายนตามที่เป็นข่าว หากจะมีจริงมีเพียง 1 ลูกเท่านั้น


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

นาซาตื่นเต้น เผยพบหลักฐานชี้ มี"ธารน้ำไหล"บนดาวอังคาร

วันที่ 05 สิงหาคม พ.ศ. 2554 เวลา 12:49:11 น.

องค์การนาซาเปิดเผยว่า นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า บนดาวอังคารน่าจะมีธารน้ำไหล หลังพบหลักฐานใหม่ที่แสดงให้เห็นว่าน้ำอยู่ในรูปของของเหลว ไม่ใช่มีเพียงแค่น้ำแข็งอย่างเดียวตามที่ตั้งสมมติฐานไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งหากว่าได้รับการยืนยัน นี่จะเป็นการค้นพบน้ำครั้งแรกบนดวงดาวแห่งนี้



โดยข้อมูลที่รวบรวมได้จากยานสำรวจดาวอังคาร Mars Reconnaissance Orbiter ชี้ให้เห็นว่าอาจมีสิ่งบ่งชี้ว่ามีรูปแบบของสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ที่นี่ และนักวิทยาศาสตร์หวังว่าผลการทดลองในห้องปฏิบัติการและภารกิจการสำรวจอวกาศครั้งใหม่อาจทำให้ไขความกระจ่างของเรื่องราวทั้งหมด

นายไมเคิล เมเยอร์ส นักวิทยาศาสตร์ผู้นำการวิจัยครั้งนี้ชี้แจงว่า มีการค้นพบหลักฐานหลายขิ้นที่สามารถระบุได้ว่าเคยมีการไหลของกระแสน้ำบนดาวอังคาร

นาซากล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2006 นักวิทยาศาสตร์สามารถสังเกตพบกรณีตัวอย่างหลายชิ้น ที่แสดงว่ายังคงมีการไหลของน้ำในหลายพื้นที่บนดาวอังคาร ระหว่างช่วงเวลาฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิของดาวอังคาร โดยจากภาพถ่ายที่เก็บได้ในช่วงเวลาต่างๆกันพบว่า ในพื้นที่แถบตอนล่างของดาวอังคาร มีสิ่งที่บ่งบอกถึงร่องรอยที่เกิดขึ้นจำนวนมากตลอดแนวเชิงเขา ก่อนที่จะค่อยๆจางหายไปหลังจากที่ลมหนาวถูกพัดเข้ามา



นายอัลเฟรด แมคอีเวน ผู้เชี่ยวชาญจากห้องปฏิบัติการด้านดวงจันทร์และดาวเคราะห์ แห่งมหาวิทยาลัยอริโซนากล่าวว่า คำอธิบายที่เด่นชัดที่สุดของเรื่องนี้คือ มีการไหลของน้ำทะเล แม้ว่าจะไม่มีผลการศึกษาใดพิสูจน์ได้ว่าเป็นเช่นนั้น ซึ่งจำเป็นต้องมีการศึกษาและค้นคว้าต่อไปในอนาคต

โดยความเค็ม เป็นตัวทำให้น้ำลดอุณหภูมิลงอย่างรวดเร็วและแข็งตัวในที่สุด และน้ำทะเลซึ่งมีระดับความเค็มเทียบเท่ากับน้ำทะเลบนโลกสามารถคงอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้ตลอดช่วงฤดูร้อน

ด้านสถาบันการประมวลผลภาพเพื่อการทดลองทางวิทยาศาสตร์ (HiRISE) ซึ่งเป็นผู้จับภาพดังกล่าวได้ เปิดเผยว่า สามารถจับภาพของทางน้ำไหลได้มากกว่า 1,000 แห่ง ในรอบสามปีที่ผ่านมา ใน 7 ทำเล และกล่าวเตือนว่าทางน้ำดังกล่าวยังคงเป็นสิ่งที่"เกิดขึ้นตามสถานการณ์แวดล้อม" โดยนักวิทยาศาสตร์ขาดการยืนยันโดยตรงว่ามีน้ำอยู่จริง โดยอ้างอิงจากหลักฐานชิ้นอื่นๆที่เคยมีการศึกษาเกี่ยวกับดาวเคราะห์ แต่หวังว่าเรื่องดังกล่าวจะได้รับการศึกษาเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นจริงต่อไป



อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพื้นผิวดาวอังคารโดยยานไวกิงออร์บิเตอร์ 1 ในปี 1976 และจากยานมาร์สโกลบอลเซอร์เวเยอร์ พบร่องน้ำเก่าหรือร่องรอยของท้องแม่น้ำที่เหือดแห้งไปหมดแล้ว นักวิทยาศาสตร์ตั้งสมมติฐานว่า ถ้าเคยมีสิ่งมีชิวิตอยู่บนดาวอังคารมาก่อน ก็น่าจะพบซากหรือฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นใต้ท้องน้ำหรือภายใต้น้ำแข็งที่ขั้วทั้งสองของดาวอังคาร

ผลการสำรวจเมื่อปี 2007 โดยคณะนักวิทยาศาสตร์แห่งสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ พบหลักฐานสำคัญว่า ครั้งหนึ่งดาวอังคารเคยมีโครงสร้างของระบบน้ำซึม ซึ่งถือเป็นข้อพิสูจน์ชี้ให้เห็นว่าดาวอังคารเคยมีความสัมพันธ์อันสลับซับซ้อนกับองค์ประกอบของสิ่งมีชีวิตมาเป็นเวลานาน




<IFRAME height=303 src="http://www.youtube.com/embed/UfBaM2F6Qzk" frameBorder=0 width=480 allowfullscreen></IFRAME>



<!-- google_ad_section_end -->

 

ตัวเก็งประธานาธิบดีสิงคโปร์เตือนพายุเศรษฐกิจโลกกำลังก่อตัว​

​

สิงคโปร์ 5 ส.ค. - นายโทนี ตัน อดีตรองนายกรัฐมนตรีและตัวเก็งประธานาธิบดีคนใหม่ของสิงคโปร์ เตือนพายุลูกใหญ่กำลังก่อตัวเตรียมกระหน่ำเศรษฐกิจโลกในอีกไม่กี่เดือน ​

เว็บไซต์สำนักข่าวซินหัวของจีน อ้างหนังสือพิมพ์เหลียนเหอเจ่าเป้าในสิงคโปร์ว่า นายตัน วัย 71 ปี กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ปัญหาการเงินการคลังอาจผนวกกับวิกฤติหนี้ยุโรป ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกถดถอยเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐส่งสัญญาณชะลอการขยายตัวและมีปัญหาเรื่องการจ้างงานมากขึ้น จึงมีความเป็นไปได้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ​

นายตัน เคยส่งสัญญาณเตือนเมื่อปี 2550 ว่า เศรษฐกิจโลกกำลังถูกปกคลุมด้วยปัญหาใหญ่ ก่อนที่จะเกิดวิกฤติการเงินโลกและเศรษฐกิจชะลอตัวในปีถัดมา เขาเพิ่งลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารบริษัทเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ (เจไอซี) และประธานสิงคโปร์ เพรสส์ โฮลดิงส์ เพื่อลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ เขาเผยว่า แม้ตำแหน่งประธานาธิบดีไม่ใช่ศูนย์กลางอำนาจในสิงคโปร์ แต่ก็หวังว่าจะนำประสบการณ์ที่มีอยู่มารับใช้ประเทศชาติ. - สำนักข่าวไทย​

วันศุกร์ ที่ 5 ส.ค. 2554

จีนให้ความสนใจปัญหาความอดอยากในแอฟริกา​

​

ปักกิ่ง 5 ส.ค. - กระทรวงต่างประเทศจีน แถลงว่า จีนให้ความสนใจอย่างยิ่งกับปัญหาความอดอยากในกลุ่มประเทศส่วนแหลมของทวีปแอฟริกา ภายหลังนางแนนซี เปโลซี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครตของสหรัฐ เรียกร้องให้จีนช่วยเหลือมากขึ้น

แถลงการณ์ของจีนระบุว่า จีนให้ความช่วยเหลือด้านอาหารแก้วิกฤติในแอฟริกา คิดเป็นมูลค่า 90 ล้านหยวน (420 ล้านบาท) โดยสหประชาชาติ ระบุว่า นับเป็นภัยแล้งรุนแรงที่สุดในแอฟริกา นับตั้งแต่ภาวะอดอยากในโซมาเลีย เมื่อปี 2534-2535 กระทรวงต่างประเทศจีน แถลงว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาภัยแล้งในแหลมแอฟริกา และแสดงความเห็นใจต่อประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน สหประชาชาติคาดว่าจะต้องได้รับความช่วยเหลือมูลค่า 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แก้ไขภาวะอดอยาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อโซมาเลียอย่างรุนแรง จากปัญหาความขัดแย้งที่กลุ่มกบฏซึ่งยึดครองพื้นที่จำกัดการเข้ามาให้ความช่วยเหลือ. - สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 5 ส.ค. 2554

สื่อจีนเตือนฟิลิปปินส์ไม่ให้ประจำการทหารบนหมู่เกาะสแปรตลีย์

​

ปักกิ่ง 5 ส.ค. - สื่อจีนเตือนฟิลิปปินส์ในวันนี้ กรณีก่อสร้างที่หลบภัยของทหารฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้น

บทบรรณาธิการในหนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ ของทางการจีน กล่าวหารัฐบาลฟิลิปปินส์ว่า กำลังละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน และว่า ฟิลิปปินส์อาจต้องได้รับบทเรียนราคาแพงสำหรับการตัดสินใจที่ผิดพลาดในประเด็นดังกล่าว และว่า ฟิลิปปินส์ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ทำร่วมกับรัฐบาลจีนและสมาชิกอาเซียนในการประชุมที่อินโดนีเซีย เมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางทะเลอย่างสันติวิธี

ทั้งนี้ บทบรรณาธิการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากหนังสือพิมพ์ฟิลิปปินส์ สตาร์ ของฟิลิปปินส์ รายงานว่า กองทัพเรือฟิลิปปินส์ใกล้จะเสร็จสิ้นการก่อสร้างที่หลบภัย เพื่อคุ้มครองกองทหารที่รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยและรักษาความมั่นคงบนเกาะซึ่งทั้ง 2 ประเทศอ้างกรรมสิทธิ์. - สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 5 ส.ค. 2554

ที่มา http://www.mcot.net

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> น้ำท่วมกำแพงเมืองน่าน-มรดกโลกเสียหาย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ส่วนวัดไชยวัฒนาราม กรุงเก่า เหลืออีกครึ่งเมตรจมน้ำ กรมศิลฯเร่งตรวจสอบสภาพโบราณสถานทั่วไทย

วันนี้ (5 ส.ค.) นายเอนก สีหามาตย์ รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรได้รับรายงานสถานการณ์น้ำท่วมโบราณสถานในหลายพื้นที่แล้ว พบว่า ในจ.แพร่มีน้ำท่วมโบราณสถานบางส่วนไม่ได้รับความเสียหาย แต่ในจ.น่าน มีกำแพงเมืองเก่าอายุประมาณ 400 ปี ได้รับความเสียหายจากน้ำกัดเซาะเล็กน้อย

ส่วนที่น่ากังวล คือ ที่จ.สุโขทัย แหล่งมรดกโลกศรีสัชนาลัย ได้จมอยู่ในน้ำมา 2 วันแล้ว มีลักษณะเป็นน้ำขัง

โดยสภาพความแข็งแรงของโบราณสถานถือว่า สามารถทนกับสภาพน้ำขังได้ แต่เมื่อน้ำลดลงแล้ว จะประสบปัญหาทางด้านความชื่นส่งผลให้เนื้ออิฐเปี่อยยุ่ยได้ ขณะที่แหล่งโบราณสถานเมืองสุโขทัย ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพราะอยู่บนเนินสูง นอกจากนี้ในส่วนของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะที่วัดไชยวัฒนาราม ยังเหลืออีก 50 เซนติเมตรที่ระดับน้ำท่วมถึง ซึ่งไม่น่ากังวล เนื่องจากขณะนี้กรมศิลปากรได้เตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากน้ำลด กรมศิลปากร จะเร่งประเมินความเสียหาย เพื่อรายงานให้กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)รับทราบ ในการรายงานต่อรัฐบาลต่อไป



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ระบบทุนนิยมที่มีตลาดหุ้นหรือเรียกว่าตลาดทุนเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นระบบคาสิโนระดับโลก ที่มีการเก็งกำไร มีการปั่นหุ้นและสินค้าที่จำเป็นที่นำไปเก็งกำไรในตลาดทุน ซึ่งไม่ต่างกับการพนันดี ๆ นี่เอง ทำให้ราคาสินค้าที่นำมาเล่นกัน บิดเบี้ยวจากความเป็นจริง สร้างความเดือดร้อนทุกข์ยากแสนสาหัสกับประชาชนหาเช้ากินค่ำ ยกตัวอย่างราคาน้ำมันซึ่งมีการเก็งกำไรกันในตลาดทุน มีการสร้างราคากัน ไล่ราคากันให้สูงสุด สร้างข่าวกันแทบทุกวัน บางครั้งวันหนึ่งสร้างข่าวหลายครั้งเพื่อให้ราคาน้ำมันขึ้นลงหลายครั้ง นำมาสู่การได้กำไรผลต่าง แต่ในความเป็นจริง การใช้จริง ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเร็วอย่างนี้ ข่าวที่ได้มาจริงบ้างเท็จบ้าง นำมาวิเคราะห์สร้างราคากัน นำมาเก็งกำไรกัน สร้างความเดือดร้อนกับคนที่ใช้จริง เพราะฉะนั้นราคามีแต่จะขึ้น แล้วคิดดูว่า น้ำมันเป็นพื้นฐานการผลิดสินค้าเกือบทุกอย่าง เป็นต้นเหตุให้ราคาสินค้าที่จำเป็นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด เป็นต้นเหตุของภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งรายได้ของประชาชนระดับรากหญ้าไม่ได้เฟ้อตาม ทั้งหมดนี้มาจากตลาดทุนหรือตลาดหุ้นที่มีการเก็งกำไร ปั่นหุ้น ปั่นสินค้ากันในคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นส่วนน้อยเท่านั้น แต่สร้างความเดือดร้อนทุกข์ยากแก่ประชาชนส่วนใหญ่ในโลกนี้ ยิ่งโลกนี้ไม่มีพรมแดน พฤติกรรมอย่างนี้ยิ่งไร้พรมแดน กระทบไปทั้งโลกใบนี้ เมื่อมันเก็งกำไรกัน ปั่นกั้นจนถึงจุด ๆ หนึ่งกลายเป็นฟองสบู่ฟูฟ่อง แล้วในที่สุดก็แตกจนถึงประเทศล้มละลายไปก็มี นำทรัพย์สินของประเทศไปเลหลังขายให้ต่างประเทศ ทำให้ประเทศยากจนลง ค่าเงินตกต่ำอย่างสุด ๆ ประชาชนเดือดร้อนทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส นี่คือผลจากทุนนิยมที่มีความโลภอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนเรียกว่าทุนนิยมสามานย์ ส่วนคนที่ได้ประโยชน์จากตลาดนี้มีเพียงน้อยนิดและนำผลประโยชน์ที่ได้มาสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอีกชั้นหนึ่ง เช่นที่เกิดในไทย ตลาดหุ้นหรือตลาดทุนจึงเป็นตลาดแห่งความชั่วร้าย เป็นแหล่งอบายมุขที่ใหญ่ที่สุดในโลก เงินที่หมุนเวียนส่วนใหญ่ได้มาจากการกระทำชั่วเกือบทั้งนั้น จึงเป็นแหล่งฟอกเงินของคนที่ทำมาหากินทางผิดกฎหมาย ซึ่งได้เงินมาก็นำมาฟอกในตลาดแห่งนี้ เพิ่มความมั่งคั่งให้อีก หากมีการเจาะลึกของระบบนี้ จะเห็นได้ชัดว่าไม่ต่างกับระบบมาเฟียในยุคอดีตของอเมริกา ซึ่งมีแต่ความสกปรกโสมม แต่มันใหญ่กว่า แนบเนียนกว่า มีกฎหมายรองรับ และคงมีสักวันหนึ่งที่เงินที่ประชาชนมีอยู่จะกลายเป็นเศษกระดาษในที่สุด

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แผนอัจฉริยะ!เจ้าหน้าที่จีนหยุดหญิงสาวคิดฆ่าตัวตายได้ชะงัก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>6 สิงหาคม 2554 03:32 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="http://static.ak.fbcdn.net/connect.php/js/FB.Share"></SCRIPT>Share17
<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><IFRAME style="POSITION: static; MARGIN: 0px; WIDTH: 90px; HEIGHT: 20px; VISIBILITY: visible; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=I1_1312610295734 tabIndex=-1 marginHeight=0 src="https://plusone.google.com/u/0/_/+1/fastbutton?url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FAround%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9540000097687&size=medium&count=true&db=1&hl=th&jsh=r%3Bgc%2F22821001-a70f00f0#id=I1_1312610295734&parent=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th&rpctoken=820507204&_methods=onPlusOne%2C_ready%2C_close%2C_open%2C_resizeMe" frameBorder=0 width="100%" allowTransparency name=I1_1312610295734 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME>

<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000097687&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=420><TBODY><TR><TD vAlign=top width=420 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เดลิเมล์ - ตามปกติแล้วเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินมักใช้วิธีปลอบโยนผู้กำลังคิดสั้นตายตัวตาย ซึ่งมันเป็นปฏิบัติการที่อ่อนไหวและต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ทว่าหน่วยกู้ภัยในมลฑลส่านฉี มีไม้เด็ดกว่านั้น โดยหลอกล่อหญิงสาวคนหนึ่งก่อนผูกเธอโยงกับท่อระบายน้ำหลังเธอขู่กระโดดลงจากตึก

รายงานข่าวระบุว่า เหลียน เกา วัย 32 ปี ปีนขึ้นไปบนริมหน้าต่างของตึกแห่งหนึ่ง หลังอ้างว่าร้านอาหารของเธอถูกเจ้าหน้าที่ของเมืองซีอานคุกคามและขู่ปิด เพื่อจัดทำเป็นย่านสำนักงาน ทั้งนี้ดูเหมือนว่าเธอมีความตั้งใจจะกระโดดตึกฆ่าตัวตายจนกระทั่งเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินเข้ามาพูดคุยกับเธอ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=420><TBODY><TR><TD vAlign=top width=420 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> จากนั้นหน่วยกู้ภัยก็สามารถหยุดยั้งเธอจากความพยายามฆ่าตัวตายได้สำเร็จ เมื่อเจ้าหน้าที่รายหนึ่งพูดจาโน้มน้าวให้ผู้หญิงรายนี้ยอมให้พวกเขาผูกเธอโยงกับตึก โดยอ้างว่าเพื่อให้เธอได้พักเหนื่อยและทบทวนปัญหาต่างๆ

อย่างไรก็ตามเป็นที่แน่ชัดว่า แม้ เกา ยังแน่วแน่ต่อปฏิบัติการปลิดชีพตนเอง ความพยายามนั้นก็ต้องเป็นหมันเพราะแขนของเธอถูกมัดอยู่ ซึ่งต้องขอบคุณแผนอัจฉริยะที่คิดค้นโดยหน่วยฉุกเฉินที่สามารถช่วยเหลือเธอรอดพ้นจากความตายได้

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=420><TBODY><TR><TD vAlign=top width=420 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> ทั้งนี้ขาและเอวของเธอก็ถูกผูกโยงไว้กับท่อระบายน้ำเช่นกัน ซึ่งนั่นทำให้เจ้าหน้าที่ดึงเธอพ้นจากอันตรายได้โดยง่าย และหน่วยกู้ภัยนายหนึ่งเปิดเผยว่า "แม้ว่าเธอตัดสินใจกระโดดลงไป เธอก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเราจะดึงเธอกลับขึ้นไป"

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>