ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ยอดตายจาก"มหาอุทกภัย"ในฟิลิปปินส์เพิ่มเป็น 240 รายแล้ว ขณะที่สิ่งของบรรเทาทุกข์ขาดแคลนหนัก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 กันยายน 2552 11:08 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>​

เอเอฟพี - ผู้ประสบภัยน้ำท่วมหนักในฟิลิปปินส์หลั่งไหลเข้าสู่ทำเนียบประธานาธิบดี, อาคารยิมเนเซียม และศูนย์พักพิงชั่วคราวอีกหลายร้อยแห่งในวันนี้ (29) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากมหาอุทกภัยครั้งนี้พุ่งเป็น 240 รายแล้ว

วิกฤตด้านมนุษยธรรมที่รัฐบาลฟิลิปปินส์กำลังเผชิญอยู่ยิ่งเลวร้ายลง หลังมีรายงานงานผู้ประสบภัยหลายแสนรายกำลังหลั่งไหลเข้าสู่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่ซึ่งเสบียงอาหาร, ยาและสิ่งบรรเทาทุกข์ต่าง ๆ กำลังขาดแคลน

ทางการฟิลิปปินส์กล่าวว่า มีเหยื่อผู้ประสบภัยมากถึง 374,890 รายจากฝนตกหนักในครั้งนี้ ซึ่งเกิดจากพายุ "กิสนา" พัดถล่มทั้งในและรอบ ๆ กรุงมะนิลา เมื่อวันเสาร์ (26) กำลังพักพิงอยู่ตามศูนย์ช่วยเหลือต่าง ๆ

จนถึงวันนี้ (28) ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมหนักครั้งนี้พุ่งขึ้นเป็น 240 รายแล้ว เพิ่มขึ้น 100 ราย จากการประเมินเมื่อวันก่อน (27)

รัฐบาลฟิลิปปินส์แถลงว่า ได้รับการยืนยันว่าพบผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 101 รายในกรุงมะนิลา แต่คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้ เนื่องจากยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังจมอยู่ใต้น้ำ

รัฐบาลฟิลิปปินส์วานนี้ (28) ร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ หลังจากยอมรับว่ารับมือกับมหาอุทกภัยครั้งนี้ไม่ไหว

"เรากำลังร้องขอความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากนานาชาติ" รัฐมนตรีกลาโหม คิลเบร์โต เตโอโดโร กล่าวในการแถลงสรุปถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศ "มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดสถานการณ์อันเลวร้ายอย่างที่สุด และเราไม่สามารถรอคอยให้สถานการณ์เช่นนั้นบังเกิดขึ้นมา"

เหตุน้ำท่วมหนักครั้งนี้ เกิดจากพายุฝนที่ตกหนักติดต่อกันกว่า 9 ชั่วโมงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบกว่า 40 ปี ณ กรุงมะนิลาและส่วนอื่น ๆ ของเกาะลูซอน ทำให้พื้นที่ร้อยละ 80 ของกรุงมะนิลา ซึ่งมีประชากรราว 12 ล้านคน มีน้ำท่วมขังสูงในขณะที่ระบบการระบายน้ำย่ำแย่และขาดโครงสร้างพื้นฐานรองรับที่ดีพอทำให้ปัญหายิ่งชุลมุนหนักขึ้น มีการตัดไฟและโทรศัพท์ในหลายพื้นที่

ประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย ผู้นำฟิลิปปินส์ พูดถึงเหตุน้ำท่วมหนักครั้งนี้ว่า “เป็นมหาอุทกภัยที่ชั่วชีวิตหนึ่งจะเกิดขึ้นสักครั้งหนึ่ง” และอนุญาตให้ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวภายในทำเนียบประธานาธิบดี

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000114098

 

เผยผู้ประสบภัยน้ำท่วมฟิลิปปินส์ 3,000 คน มีห้องน้ำใช้เพียงห้องเดียว​

​

ฟิลิปปินส์ 29 ก.ย.-ผู้รอดชีวิตจากอุทกภัยในฟิลิปปินส์ ซึ่งต่างมีอาการไม่พอใจ ต้องเข้าแถวที่ศูนย์พักพิงเพื่อรอรับปลากระป๋องและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขณะที่อีกหลายพันคนต้องยืนรอเข้าแถวเพื่อใช้ห้องสุขาที่มีอยู่เพียงห้องเดียวในโรงยิมซึ่งแปรสภาพเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว

ผู้ประสบภัยต้องอาศัยนอนบนพื้นคอนกรีตของสนามบาสเกตบอล มีทั้งเด็กและสุนัขนอนเคียงข้างกัน รวมทั้งสัมภาระมากมาย ขณะเจ้าหน้าที่ร้องตะโกนให้ทุกคนต่อแถวตามระเบียบเพื่อรอรับของแจก แต่ผู้ประสบภัยบางส่วนอยู่ในอารมณ์ไม่พอใจที่ต้องรอนาน ประชาชนราว 3,000 คน ในเมืองซาน อันเดรส ชานกรุงมะนิลา ต่างอพยพมาอยู่ที่โรงยิมของรัฐหลังน้ำท่วมบ้านเรือนเมื่อวันเสาร์ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 240 คน และไร้ที่อยู่กว่า 370,000 คน

ผู้ประสบภัยกว่า 3,000 คน ในศูนย์พักพิงยิ่งได้รับความเดือดร้อนหนักขึ้น เนื่องจากมีห้องน้ำใช้อยู่เพียงห้องเดียว ก่อนหน้านี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศเมื่อวันจันทร์ โดยยอมรับว่าไม่สามารถรับมือกับจำนวนผู้ประสบภัยได้ เนื่องจากขาดแคลนอาหาร น้ำสะอาด ยารักษาโรค และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ.-สำนักข่าวไทย

2009-09-29 11:10:12

ผู้นำฟิลิปปินส์บริจาคเงินเดือนให้เหยื่อน้ำท่วม​

​

มะนิลา 29 ก.ย. – ประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย ของฟิลิปปินส์มอบเงินเดือนของเธอจำนวน 2 เดือน ให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม และออกคำสั่งให้คณะรัฐมนตรีปฏิบัติเช่นเดียวกั

นางอาร์โรโย ได้กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลว่า คณะรัฐมนตรีควรจะบริจาคเงินเดือน 2 เดือน เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์และฟื้นฟูสภาพที่ได้รับความเสียหายจากเหตุน้ำท่วม ซึ่งจากการลงมติของคณะรัฐมนตรีพบว่าไม่มีเสียงใดคัดค้านข้อเสนอของนางอาร์โรโย
ประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ได้รับเงินเดือนราว 50,000 เปโซ (ประมาณ 35,200 บาท) ขณะที่รัฐมนตรีได้รับเงินเดือนราว 30,000 เปโซ (ประมาณ 21,100 บาท) แต่รัฐมนตรีหลายคนมีฐานะร่ำรวยจากการลงทุนทำธุรกิจภายนอก นอกจากนี้ ผู้นำฟิลิปปินส์ยังได้สั่งให้จ่ายเงินโบนัสพิเศษให้บรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐในทันที แทนที่จะรอจนถึงวันคริสตมาสตามกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือในการดำรงชีวิต

อิทธิพลของพายุโซนร้อนกิสนา ทำให้เกิดน้ำท่วมสูง 6 เมตรในกรุงมะนิลาและพื้นที่ใกล้เคียงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่รายงานล่าสุดของรัฐบาลระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 240 คน และประชากรเกือบ 2 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัย. -สำนักข่าวไทย

2009-09-29 14:49:48

ฟิลิปปินส์เปิดทำเนียบมาลากันยังให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมเข้าพักอาศัย ​

​

ฟิลิปปินส์ 29 ก.ย. - ผู้นำฟิลิปปินส์ เปิดทำเนียบมาลากันยังให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมหนักในกรุงมะนิลา เข้าไปพักอาศัย

ประธานาธิบดีกลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย แห่งฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ที่นางอนุญาตให้ใช้ทำเนียบมาลากันยัง เป็นศูนย์อพยพและศูนย์แจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์หลังจากเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบ 40 ปี ครั้งนี้เป็นการแสดงถึงการช่วยเหลืออย่างเต็มที่

นางอาร์โรโย กล่าวในแถลงการณ์ว่า จะให้ผู้ประสบภัยเข้าไปพักตามอาคารต่าง ๆ ในทำเนียบมาลากันยัง และในเต็นท์ที่ตั้งขึ้นระหว่างอาคารและหากจำเป็น ก็จะให้เจ้าหน้าที่ภายในทำเนียบสละพื้นที่บางส่วน เพื่อให้ประชาชนมีพื้นที่พักอาศัยมากขึ้น ทั้งนี้ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจากอิทธิพลของพายุกิสนา เมื่อวันเสาร์ ทำให้พื้นที่ร้อยละ 80 ของกรุงมะนิลา จมอยู่ใต้น้ำ

ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดขณะนี้อยู่ที่ 240 คน และสูญหายอีก 37 คน ขณะที่มีผู้ต้องไร้ที่อยู่เข้าอาศัยตามที่พักชั่วคราว 600 แห่ง อีกเกือบ 4 แสนคน .-สำนักข่าวไทย

2009-09-29 09:27:59

ข่าวภายในประเทศ

ไทยเตรียมส่งทีมแพทย์ช่วยเหยื่อพายุ กิสนา ในฟิลิปปินส์​

​

รพ.ราชวิถี 29 ก.ย.- นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงการส่งความช่วยเหลือทีมแพทย์และเวชภัณฑ์ไปยังประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งประสบความเดือดร้อนจากพายุ “กิสนา” ว่า ในเร็ว ๆ นี้ น่าจะมีการอนุมัติทีมแพทย์ไปช่วยเหลือ ซึ่งก่อนหน้านี้กรมการแพทย์ได้ปฏิบัติภารกิจเช่นนี้แล้ว เช่น ที่พม่า คราวพายุนาร์กิส ส่วนพื้นที่เสี่ยง 14 จังหวัดภาคอีสานที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุนี้ ได้สั่งให้ทีมแพทย์ในพื้นที่เตรียมพร้อมทุกด้านแล้ว

สำหรับปัญหาการขาดแคลนศัลยแพทย์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบมีศัลยแพทย์ประจำพื้นที่เพียง 6 คน ซึ่งไม่พอแก่ความต้องการส่งผลกระทบให้แพทย์เกิดความเครียดในที่ประชุมกรมการแพทย์ จะได้ขอเพิ่มอัตรากำลังทั้งศัลยแพทย์ พยาบาล วิสัญญีแพทย์ ประมาณ 100 คนกระจายประจำในพื้นที่ 3 จังหวัด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานได้มากขึ้น .-สำนักข่าวไทย

2009-09-29 12:03:17

กรมชลประทานพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำรับมือพายุกิสนา​

​

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. - กรมชลประทานเตรียมพร้อมรับมือผลกระทบจากพายุกิสนา (กฤษณา) โดยการพร่องน้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดใหญ่ พร้อมเตรียมเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำไว้ช่วยเหลือประชาชน

นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้ติดตามเส้นทางของพายุอย่างใกล้ชิดและได้สั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ เตรียมพร้อมรับมือตามแผนที่มีการซักซ้อมและปฏิบัติการไว้ในช่วงฤดูฝน โดยการพร่องน้ำจากอ่างขนาดกลางและขนาดใหญ่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้มีช่องว่างที่จะสามารถรองรับปริมาณน้ำในกรณีฝนตกหนัก และชะลอน้ำบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ท้ายเขื่อน

ขณะนี้อ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดใหญ่ทั่วประเทศมีปริมาณน้ำประมาณ 71 เปอร์เซ็นต์ ของความจุ ยกเว้นอ่างเก็บน้ำลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีน้ำมาก ขณะนี้กำลังเร่งระบายน้ำเพิ่ม แต่อยู่ในปริมาณที่ชาวบ้านท้ายเขื่อนไม่เดือดร้อน ขณะเดียวกันได้เตรียมเครื่องสูบน้ำไว้ประมาณ 1,200 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 112 เครื่อง ไว้สนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนเมื่อจังหวัดร้องขอ ขณะนี้ส่งไปช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมแล้ว 13 จังหวัด จำนวน 93 เครื่อง.-สำนักข่าวไทย

2009-09-28 12:38:24

กทม.เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมจากพายุกิสนา​

​

กรุงเทพฯ 29 ก.ย. - กทม.เตรียมมาตรการรับมือน้ำท่วมจากพายุ “กิสนา” เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ ประจำการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ดูแลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เปิดสายด่วน 1555 รับแจ้งปัญหาน้ำท่วมขังตลอด 24 ชั่วโมง

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพฯ จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “กิสนา” ว่า กทม.เตรียมความในการให้ความช่วยเหลือโดยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบสภาพอากาศ ปริมาณน้ำฝน พื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วมผ่านทางสื่อประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ ป้ายจราจรอัจฉริยะ เพื่อให้ประชาชนหลีกเลี่ยงจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมขัง พร้อมประกาศแจ้งประชาชนเตรียมขนย้ายทรัพย์สินพ้นระดับน้ำ และจัดหาที่พักอาศัยชั่วคราว

สำหรับมาตรการด้านการช่วยเหลือและฟื้นฟู ประกอบด้วย การจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว BEST เข้าตรวจสอบช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา จัดหาเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ช่วยลดระดับน้ำ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ประจำจุดน้ำท่วม เช่น ตามถนนเพื่อช่วยเหลือกรณีรถยนต์ขัดข้อง จัดรถยก ลากจูง รถเสียให้พ้นจุดน้ำท่วม หรือเส้นทางจราจร จัดเตรียมสถานที่ โรงเรียน วัด มัสยิด เพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราว แจกเครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน จัดทำสะพานทางเดิน สะพานไม้ กระสอบทราย เพื่อใช้เป็นทางสัญจรชั่วคราว จัดหน่วยแพทย์ อนามัย ช่วยเหลือรักษาพยาบาลเบื้องต้น แจกยารักษาโรค ยาประจำบ้านที่จำเป็น จัดน้ำดื่ม น้ำอุปโภค รวมทั้งรถสุขาเคลื่อนที่ รถขยะ ถุงดำ เพื่อสุขอนามัยและการป้องกันโรคติดต่อ จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เพื่อทำการซ่อมแซมบำรุงรักษาบ้านพักอาศัย ถนนทางเท้า และภายหลังน้ำลด กทม.จะดำเนินการกวาดและเก็บขยะบริเวณพื้นที่น้ำท่วมขัง พร้อมล้างทำความสะอาดดินโคลนบนถนน จัดเก็บขยะที่ค้าง พร้อมจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อประสานงาน สนับสนุน ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยแบ่งแผนเป็น 3 ระยะ คือ แผนฟื้นฟูเฉพาะหน้า แผนฟื้นฟูระยะกลาง และแผนพื้นฟูระยะยาว

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ผู้อำนวยการเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ และบริเวณฝั่งธน เรียกประชุมผู้นำชุมชนเพื่อแจ้งมาตรการในการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ เช่น การเตรียมกระสอบทราย การอพยพผู้คน การเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน เป็นต้น พร้อมกันนี้ ผู้ว่าฯ กทม. จะเดินทางไปประจำการยังศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร สำนักการระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และลงพื้นที่แก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที และเปิดสายด่วน 1555 ให้ประชาชนแจ้งปัญหาน้ำท่วมขัง และขอความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง.- สำนักข่าวไทย

2009-09-29 14:40:37

ที่มา http://news.mcot.net

 

ไต้ฝุ่นกิสนาเข้าเวียดนามแล้ว อพยพคน 1.7 แสนหนี
พายุกิสนาซึ่งคร่าชีวิตชาวฟิลิปปินส์ไปอย่างน้อย 240 คน และได้ทวีความรุนแรงกลายเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 2 เริ่มพัดขึ้นฝั่งทางตอนกลางของเวียดนามแล้วในบ่ายวันนี้ ทำให้มีลมแรงและ
<DD>ฝนตกหนัก ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเวียดนามคาดว่าตาพายุลูกนี้จะพัดขึ้นฝั่งทางตอนกลางของเวียดนามในเย็นวันนี้
<DD>ทางการได้อพยพประชาชน 170,000 คน ออกจากพื้นที่ 6 จังหวัดเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ ขณะที่เริ่มมีฝนตกหนักและมีลมแรงบริเวณชายฝั่งตั้งแต่ช่วงเช้า ทำให้มีต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นจำนวนมาก และมีไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดกวางหงาย ใกล้เมืองดานัง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ และที่จังหวัดเถือเทียนเว้ ใกล้เมืองเว้ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง นอกจากนี้ทางการได้ระดมกำลังตำรวจและทหารหลายพันนายไว้คอยช่วยเหลือประชาชนในเส้นทางพายุ พร้อมสั่งปิดสนามบิน โรงเรียน และตัดไฟในเมืองดานัง เพื่อป้องกันไว้ก่อน และยังสั่งงดเที่ยวบินที่จะเดินทางไปเมืองดานังและเมืองเว้ พร้อมกับเรียกเรือประมงกลับเข้าฝั่งด้วย </DD>

 

"ในตอนนี้ เชื้อยักษ์ เชื้อนาค เชื้อเทวดา เชื้อครุฑ มีในพระไตรปิฎก หรือพระธรรมเล่มไหนมีอธิบายไว้ ผมไม่เคยรู้เลย อย่างไรช่วยให้ความรู้เพิ่มด้วย"

จริงๆแล้วก็ผสมผสานกันนะแหละครับ หากศึกษาทางจิตดีๆ จะเห็นได้ว่าการเวียนว่ายตายเกิดมันก็กระจายไปตามภพภูมิ มนุษย์ไม่ได้เกิดแค่ภพชาติเดียว บางภพอาจจะเกิดเป็นยักษ์ บางภพอาจจะเกิดเป็นนาคราช เป็นครุฑ เป็นเทวดาก็ได้ครับ แต่ที่เรียกยักษ์ต่างศาสนานั้น ต้องเข้าใจว่าเป็นภาษาโบราณครับและอดีตชาติพวกเขาอาจจะเกิดเป็นยักษ์ก็ได้ ซึ่งมีทั้งยักษ์ดีและยักษ์ร้าย ปะปนกันครับ มีหลายคนที่ปัจจุบันอยุ่ในศาสนาอื่นแต่ฝึกสมาธิแบบพุทธก็มี เนื่องจากอดีตชาติเขาอาจจะเป็นพุทธ แต่เพราะผลกรรมบางอย่าง จึงนำพาเขาไปเกิดที่ศาสนาอื่น แต่ของเดิมเขาเป็นพุทธ สุดท้ายการปฏิบัติของเขาก็เป็นพุทธได้ครับ (ผมเองก็มีเพื่อนต่างศาสนาที่ฝึกจิตได้แบบเดียวกับพุทธโดยไม่รู้ว่าเป็นแบบพุทธครับ)

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD>กิสนาขึ้นฝั่งเวียดนามตาย3ราย


</TD><TD vAlign=top width=155></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD>

</TD><TD>วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2552 16:06

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เอพีตีข่าว"กิสนา"ขึ้นฝั่งที่เวียดนามแล้วมีผู้เสียชีวิตทันที3ราย

วันนี้(29สำนักข่าวเอพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่น "กิสนา(KETSANA)" ได้ขึ้นฝั่งที่เวียดนามแล้วช่วงบ่ายวันนี้ และส่งผลให้มีชาวเวียดนามเสียชีวิตแล้ว 3 ราย

ศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติของเวียดนามเปิดเผยว่า พายุกิสนาขึ้นฝั่งที่จังหวัดควงนัม ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ด้วยความเร็วลมสูงถึง 144 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ภัยพิบัติในจ.ควงนัมเผยว่า ประชาชน 2 คนเสียชีวิตเนื่องจากต้นไม้ล้มลงมาทับ และอีกคนเสียชีวิตจากสายไฟฟ้า.

http://www.posttoday.com/breakingnews.php?id=69043

 

ข่าวล่า จาก CBC News ชาวเวียตนาม เสียชีวิตแล้ว 23 คน หลังจากขึ้นฝั่งที่เวียตนามแล้ววันนี้




The death toll in Vietnam caused by Typhoon Ketsana has increased as the powerful storm forced mass evacuations.
At least 23 people in central Vietnam died on Tuesday as the typhoon struck the coast.

 

นี่มันห้อง ภัยพิบัติและการเตรียมการ ไม่ใช่เหรอ แต่ไมชักจะเลอะเทอะ
หัวข้อนี้น่าจะเป็นการบอกข่าว หรือชี้แนะแนวทางเตรียมป้องกัน



ใครไม่เห็นด้วยขอดูหน้าหน่อย กระทู้นี้ควรเป็นเป็นการเตือนภัยที่ฉับพลันไม่ใช่อ้างนิมตรอะไรนั้นเช่นเชื้อนาก เทพ เทือกไรนั้น ควรเป็นห้วข้อที่ให้ความรู้แหล่งข้อมูลกับสมาชิกบอร์ดไม่ใช่อะไรที่ลูบๆคลำหาข้อมูลหาเนื้อแท้ไม่ได้

 

แล้วท่านเห็นเค้่าบอกข่าวไหมละครับ ผมเข้ามาดูข่าวที่นี่บ่อยๆนะครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=661 border=0><TBODY><TR><TD class=textHeadBlue>กิสนาคร่าเวียดนามตายแล้ว23-ปินส์ดับ284</TD></TR><TR><TD height=25> </TD></TR><TR><TD><TABLE height=300 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=664 border=0><TBODY><TR><TD width=1></TD><TD vAlign=top width=660>

<!-- -->
<!-- Show Detail -->อิทธิพลของ พายุ ไต้ฝุ่น กิสนา สร้างความเสียหายที่กับมนุษย์โลกอีกเเล้ว ล่าสุด เข้าซัดทางตอนกลางประเทศเวียดนามคร่าพลเมืองไปเเล้ว 23 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์ พุ่งสูงกว่า 284 รายแล้ว

สำนักข่าวเอพี รายงาน จากการเปิดเผยของ เจ้าหน้าที่เวียดนาม ที่รายงานยอดผู้เสียชีวิตจากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่นกิสนา ที่ซัดเข้าในตอนกลางของประเทศ ซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 144 ก.ม.ต่อ ช.ม. เข้าสู่เวียดนามตอนกลางในวันนี้ ส่งผลให้ต้นไม้จำนวนมากรวมถึงสายไฟฟ้าล้มขวางถนนบริเวณ เมืองเว้ และ ดานัง ขณะที่ประชาชนราว 170,000 คน ในบริเวณใกล้เคียงได้ทำการอพยพออกจากพื้นที่ไปสู่ที่หลบภัย รวมถึงยังมีคำสั่งให้เรือประมงกลับสู่ฝั่ง โดยพายุกิสนา ในตอนนี้ได้เพิ่มความรุนแรงขึ้นเป็นไต้ฝุ่นภายหลังจากเคลื่อนที่ผ่านฟิลิปปินส์เข้าสู่ทะเลจีนใต้ซึ่งทางอุตุนิยมวิทยาของเวียดนามได้ประกาศเตือนว่าไต้ฝุ่นมี อาจจะเพิ่มขึ้นความแรงขึ้นหลังจากเคลื่อนที่เข้าสู่ชายฝั่ง และอาจจะก่อให้เกิดน้ำท่วมรุนแรง


ด้าน เอพี ยังรายงานอีกว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุมรณะ กิสนา นี้ ล่าสุดพุ่งขึ้นสูงมากกว่า 284 รายแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายของฟิลิปปินส์ เร่งค้นหาศพผู้เสียชีวิตอย่างหนัก เนื่องจากหลายชีวิตถูกกระแสลมและน้ำพัดหายไปอีกจำนวนมาก และบางส่วนมีรายงานว่าได้มีศพลอยขึ้นอืดบ้างแล้ว
​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

*** เตือนคำพูดระวังปากตน ****

ดินฟ้าอากาศ... คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์
เป็นมนุษย์ อย่าอวดทนงตัว
จะว่าจะกล่าวเรื่องฟ้าดิน ขอให้คิดก่อนพูด
คนโบราณเขาฉลาด รู้จักเคารพนอบน้อมฟ้าดินไว้ก่อน
เพราะ ดินฟ้าอากาศ คือปรางหนึ่งของโลกุตตระ
เข้าใจง่ายๆ คือ ดินฟ้าอากาศที่สัตว์โลกอยู่อาศัยนี้ เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งศักดิ์สิทธิ์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

แต่ละเหตุการณ์เห็นชัดและใกล้ขึ้นครับ


ทางที่ดีที่สุดคือ พิจารณาเหตุการณ์ เฝ้าระวังอย่างมีสติครับ

หากไม่เกิดหรือเกิดช้า หรือเลื่อนไป ก็น่ายินดีสำหรับทุกคนครับ


แต่หากเกิดภัยพิบัติ หรือ เหตุการณ์ที่ทุกๆคนห่วง ข้อมูล ความรู้จากเวบนี้ กระทู้นี้จะช่วยชีวิตผู้คนได้อีกมากมายครับ

เราปรารถนาให้ทุกคนพ้นจากทุกข์ จากเคราะห์กรรม ทั้งด้วยปัญญาทางโลก และด้วยกุศล

 

ขอข้อมูลรายละเอียดด้วยครับ.. ขอบคุณครับ

ขอรายละเอียดด้วยครับ

 

*** กรรม กับ การก้าวข้ามกรรม ****

กรรมประเทศไทย...จะโดนเขารุมเตะเหมือนลูกตะกร้อ
จะโดนเขาปลอกเปลือก....เหมือนลูกมะพร้าว
เขาจะเข้ามาแย่งชิง...ทรัพยากรใต้ดินของประเทศ
(คนติดตามข่าวสาร.... จะสามารถประเมินสถานการณ์ได้)

เขา เข้ามาแทรกแซง... การบ้าน การเมือง การทหาร
ยุให้คนไทยแตกแยก.... ยุแย่ให้คนไทย เบื่อระบบปกครองของตัวเองที่ใช้อยู่
คนไทยส่วนใหญ่ลืมคิดว่า ...ประเทศชาติไทยไม่เหมือนประเทศใดในโลก
คือ ศาสนานำการปกครอง ....นำหลักธรรมมาใช้บริหารบ้านเมือง

เมื่อคนไทยตีกันเองเสร็จ...เกิดการปกครองใหม่ ที่ต่างชาติอยู่เบื้องหลัง
การบ้าน การเมือง การทหาร จะอ่อนแอ....ข้างบ้านเขาก็เข้ามาตีเอาแผ่นดิน
ผลเสียหาย คือ การสูญเสียคณานับ เลือดนองแผ่นดิน

เมื่อกระดูกเป็นเหมือนฝืน...ฝืนไว้ใช้เร่งไฟ
ไฟ คือพิบัติต่างๆ ก็จะเกิดขึ้นไปทั่ว

กรรมประเทศไทยก็ได้กล่าวไปแล้ว
แต่ การก้าวข้ามกรรม สำคัญกว่า...คือ เรื่องของโลกุตตระธรรม
โลกุตตระธรรม นำพาให้พระพุทธเจ้าตรัสรู้สัจจะธรรม และค้นคว้าหาคำสอนจนพบคือ สัจจะ
สัจจะในการตัดลดกิเลสนิสัยตนเอง...คือ การก้าวข้ามกรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

#17525
ใครไม่เห็นด้วยขอดูหน้าหน่อย กระทู้นี้ควรเป็นเป็นการเตือนภัยที่ฉับพลันไม่ใช่อ้างนิมตรอะไรนั้นเช่นเชื้อนาก เทพ เทือกไรนั้น ควรเป็นห้วข้อที่ให้ความรู้แหล่งข้อมูลกับสมาชิกบอร์ดไม่ใช่อะไรที่ลูบๆคลำหาข้อมูลหาเนื้อแท้ไม่ได้<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->น้ำจะท่วมบ้านแล้วยังมาลูบๆคลำๆ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ช้ากว่านัด พายุ“Ketsana”แรงจัดเวียดนามตายแล้ว 22 คน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 กันยายน 2552 19:13 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
ภาพเอเอฟพีถ่ายวันที่ 29 ก.ย.2552 ขยันอดทนทำกินและไม่กลัวตาย ชายคนนี้ฝ่าพายุลมแรงมองหาเศษไม้ริมทางหลวงสายเหนือ-ใต้ ในเขตนครด่าหนัง (Danang) เพื่อเก็บกลับบ้านไปทำฟืน ยังเข้าไม่ถึงฝั่งเสียด้วยซ้ำไต้ฝุ่นเกดสะหนา (Ketsana) ทำให้ชาวเวียดนามเสียชีวิตไปแล้ว 22 คน

ASTVผู้จัดการออนไลน์-- ช้ากว่าที่พยากรณ์เอาไว้เป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนจะเข้าถึงฝั่ง แต่กระนั้นไต้ฝุ่นเกดสะหนา (Ketsana) ก็ได้คร่าชีวิตของชาวเวียดนามไปแล้วไม่น้อยกว่า 22 คน ในวันจันทร์และวันอังคารนี้ หลังจากพัดถล่มเกาะฟิลิปปินส์สร้างความเสียหายสุดคณานับ มีผู้เสียชีวิตไป 240 คน


"การนับอย่างเป็นทางการของเรา จนถึงบ่ายวันอังคาร (29 ก.ย.) นี้ไต้ฝุ่นทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 22 ราย" สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างคำกล่าว ของเจ้าหน้าที่คณะกรรมการควบคุมพายุและอุทกภัยแห่งชาติ

"เกดสะหนา" ซึ่งตั้งชื่อตามชื่อไม้มงคลที่มีกลิ่นหอมและมีราคาแพงในลาว (ไม้กฤษณา) พัดเข้าถึงฝั่งเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. มีศูนย์กลางอยู่ระหว่าง จ.กว๋างนาม (Quang Nam) กับ จ.กว๋างหงาย (Quang Ngai) ช้าไป 6 ชั่วโมง จากที่หลายสำนักพยากรณ์ล่วงหน้าเอาไว้เวลา 04.00 น.วันเดียวกัน

เจ้าหน้าที่ที่ไม่ประสงค์ให้ระบุชื่อบอกกับเอเอฟพีว่า จ.กงตูม (Kon Tum) ในเขตที่ราบสูงภาคกลางซึ่งเป็นเขตสวนกาแฟใหญ่ที่สุดของประเทศ มีผู้เสียชีวิตถึง 9 ราย ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดเมื่อนับรายจังหวัด

ไต้ฝุ่นกำลังแรงจัดลูกล่านี้ทำให้ไฟฟ้าดับกินบริเวณกว้างหลายจังหวัด ทางการเวียดนามต้องอพยพราษฎรออกจากพื้นที่เสี่ยงเกือบ 170,000 คน และในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะมีความเร็วลมในระดับพายุโซนร้อนลูกหนึ่ง เกดสะหนาได้ทำให้ชาวฟิลิปปินส์ราว 400,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย

ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีกล่าวว่า เกดสะหนา ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายอาณาบริเวณของนครด่าหนัง (Danang) กับนครเหว (Hue) ที่อยู่เหนือขึ้นไป ราษฎรท้องถิ่นต่างๆ ต้องใช้เรือแจวในการสัญจรแทนพาหนะชนิดอื่นๆ ที่เคยครองท้องถนน ขณะที่ต้นไม้หักโคล่นลงในลำน้ำหอม (Huong) ของเมืองมรดกโลก

น้ำท่วมบ้านเรือนของราษฎรสูงถึงระดับเข่า ขณะที่นายเหวียนหง็อกเทียน (Nguyen Ngoc Thien) ประธานคณะกรรมการประชาชน จ.เถือะเทียนเหว (Thua Thien Hue) กล่าวว่า ทางรถไฟบางช่วงจมอยู่ใต้น้ำ 10-15 เซนติเมตร มีผู้โดยสารกว่า 100 คน ติดอยู่ที่สถานีรถไฟของเมืองนี้

สิ่งที่ทำให้ทางการท้องถิ่นเป็นกังวลก็คือ ฝนที่ตกอย่างหนักอาจจะทำให้ ระดับน้ำในแม่น้ำเอ่อขึ้นท่วมเช่นเดียวกับระดับน้ำทะเล
</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

​

ภาพเอเอฟพีถ่ายวันที่ 29 ก.ย.2552 ในวิกฤติมีโอกาส ชายคนนี้ยืนรอที่ริมทางหลวงสายเหนือ-ใต้ ในเขตนครด่าหนังเช่นเดียวกัน คอยให้คลื่นซัดเศษไม้เข้าฝั่ง เก็บรวบรวมเพื่อนำกลับบ้านไปทำฟืน ไต้ฝุ่นเกดสะหนาขึ้นฝั่งในภาคกลางเวียดนามเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน มีผู้เสียชวิตแล้ว 22 คน

ภาพที่เผยแพร่ทางทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นต้นไม้หักโค่นระเกะระกะตามริมถนนหลายสายในนครเหว เศษแผ่นเหล็กแผ่นสังกะสี กระจายอยู่ตามท้องถนน

เมืองโฮยอาน (Hoi An) เมืองมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งใน จ.กว๋างนาม น้ำท่วมขึ้นสูงในเจตตัวเมืองเก่า มื่อครั้งไต้ฝุ่นช้างสารพัดถล่มในปี 2549 โฮยอานจมน้ำเป็นเวลาหลายวัน

สายการบินเวียดนามได้ยกเลิกเที่ยวบินไปนครด่าหนังกับนครเหว ตั้งแต่บ่ายวันจันทร์ สายการบินเจ็ตสตาร์แปซิฟิก ก็ยกเลิกเที่ยวบินไปด่าหนัง กับนครโฮจิมินห์เช่นเดียวกัน

สื่อในเวียดนามรายงานว่าเกดสะหนา ทำให้สายส่งไฟฟ้าแรงสูงขนาด 500 กิโลโวลต์ในภาคเหนือหักโค่น ทำให้สูญเสียพลลังงานไฟฟ้าไปไม่ต่ำกว่า 500 กิโลวัตต์

ทางการทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นต่างๆ ได้ระดมทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายพันคน พร้อมรถสายพานลำเลียงพล กับรถหุ้มเกราะของกองทัพ ออกช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่เสี่ยงภัยต่างๆ ที่หลบหนีจากพายุและอุทกภัย

องค์การควบคุมอุทกภัยและพายุแห่งชรติกล่าวว่า สองวันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ได้อพยพราษฎรออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว 168,585 คน.

ไต้ฝุ่นเกดสะหนายังไม่พ้นจากเวียดนาม พายุอีก 2 ลูก ได้ก่อตัวขึ้นอีกแล้วในแปซิฟิกและอาจจะทวีความแรงขึ้นภายในวันสองวันข้างหน้า เจ้าหน้าที่เวียดนามกล่าว.

​

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
ภาพเอเอฟพีถ่ายวันที่ 29 ก.ย.2552 ไต้ฝุ่นเกดสะหนา ยังเข้าไม่ถึงฝั่ง แต่ฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมถนนหลายสายในนครด่าหนัง กิ่งไม้หัก ต้นไม้โค่นลงขวางถนนหลายสาย พาหนะขนาดเล็กลุยต่อไปไม่ไหว ต้องจูงกัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

​

ภาพเอเอฟพีถ่ายวันที่ 29 ก.ย.2552 ผลงานของไต้ฝุ่นเกดสะหนา ยังเข้าไม่ถึงฝั่ง แต่ฝนที่ตกหนักทำให้ต้นไม้ริมทางหักโค่นลงกีดขวางการจราจรตามท้องถนนหลายสายในนครด่าหนัง ไม่ต่างกับในอีกหลายเมืองและท้องถิ่นต่างๆ ในหลายจังหวัดภาคกลางเวียดนาม ​

​

ภาพเอเอฟพีถ่ายวันที่ 29 ก.ย.2552 ดูเผินๆ นึกว่าเป็นชาวนากำลังพยายามกอบกู้ผลผลิตอะไรสักอย่าง แต่ที่ไหนได้เป็นชาวบ้านใน จ.กว๋างจิ (Quang Tri) ทางภาคกลางตอนบน ลุยลงไปในนาข้าว เพื่อเก็บเศษป้ายโฆษณาพลาสติกขนาดใหญ่ ที่ถูกพลังส่วนหน้าของไต้ฝุ่นเกดสะหนาพัดทำลาย จนพังพิน่าศ ​

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

​

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
รถขี่เรือบ้างจะเป็นไรไป--ภาพเอเอฟพีถ่ายวันที่ 29 ก.ย.2552 เจ้าของจักรยานยนตร์รายหนึ่งลุยกลับไม่ถึงบ้าน ต้องว่าจ้างเรือให้นำพาหนะคู่ชีพล่องไปตามถนนที่เปี่ยมน้ำสายหนึ่งในย่านใจกลางนครเหว (Hue) เมืองหลวงเก่าของเวียดนามมีสิทธิ์จมน้ำเหมือนเมื่อปี 2549 ครั้งไต้ฝุ่นช้างสารพัดกระหน่ำ

​

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

​

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9520000114506