ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ฟิลิปปินส์เร่งช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย ขณะที่ยอดตาย “กิสนา”และ “ป้าหม่า” ทะลุ 600 ราย </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 ตุลาคม 2552 13:25 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เอเจนซี/ เอเอฟพี - ทีมค้นหาและกู้ภัยพยายามเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยพิบัติทางภาคเหนือของฟิลิปินส์ ซึ่งถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เนื่องจากเกิดแผ่นดินถล่มและน้ำท่วมหลังพายุไต้ฝุ่นพัดถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมแล้วมากกว่า 600 ราย เจ้าหน้าที่หลายคนกล่าว

    ที่จังหวัดปางาซินัน ทางภาคเหนือของประเทศ หลายเมืองยังคงถูกน้ำท่วมขัง มิหนำซ้ำยังเกิดแผ่นดินถล่มตามมา ส่งผลให้หน่วยกู้ภัยไม่สามารถเข้าถึงชุมชนต่างๆ บริเวณเทือกเขาได้ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยกล่าว

    สภาประสานงานภัยพิบัติแห่งชาติในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ แจ้งยอดผู้เสียชีวิตจากพายุป้าหม่าและกิสนารวมทั้งสิ้น 636 ราย โดยคาดว่า จำนวนเหยื่อน่าจะเพิ่มสูงกว่านี้

    ไต้ฝุ่นป้าหม่าเคลื่อนออกสู่ทะเลจีนใต้เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (9) หลังพัดถล่มทางภาคเหนือของหมู่เกาะลูซอนนานกว่าสัปดาห์ ส่วนไต้ฝุ่นกิสนาทำให้เกิดมหาอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษ ณ กรุงมะนิลาและพื้นที่ใกล้เคียงเมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา โดยหลายพื้นที่ยังคงถูกน้ำท่วมขัง แม้จะผ่านมากว่า 2 สัปดาห์

    มีผู้ได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่นทั้ง 2 ลูกมากกว่า 6 ล้านคน โดยยังคงมีผู้อพยพในศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินมากกว่า 300,000 ราย

    พันโท เออร์เนสโต ตอร์เรส โฆษกสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติ แถลงว่า มีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 ราย ตลอดจนพืชผลและสาธารณูปโภคพื้นฐานเสียหายมูลค่ามากกว่า 5 พันล้านเปโซ หลังเกิดฝนตกหนักตลอด 1 สัปดาห์ เนื่องจากพายุไต้ฝุ่นป้าหม่า

    “เรากำลังพยายามเก็บกู้ศพผู้ประสบภัยเพิ่มเติม จากใต้ซากอาคารบ้านเรือนที่พังถล่มลงมา มิหนำซ้ำยังถูกโคลนดินฝังกลบ” ตอร์เรส กล่าว พร้อมสำทับว่า หน่วยกู้ภัยใช้เพียงเสียมและมือเปล่าออกค้นหาศพ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดแผ่นดินถล่มอีกครั้ง

    “ยังคงมีผู้สูญหายหลายสิบราย เรามีเครื่องจักรกลหนักที่นี่ แต่เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดแผ่นดินถล่ม เราเสียเจ้าหน้าที่ไปแล้ว 3 คน ซึ่งถูกฝังอยู่ใต้โคลนตม ขณะพยายามดึงร่างผู้เสียชีวิตออกมา”

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000120362
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ป้าหม่า” พิโรธ.. มหาอึด พุ่งหัวถล่มเวียดนาม!!</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 ตุลาคม 2552 17:59 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    ภาพแผนภูมิที่จัดทำโดยใช้ข้อมูลดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา MTSAT แสดงให้เห็นพายุป้าหม่าม้วนตัวอยู่ริมสุดของแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือวันอาทิตย์ (11 ต.ค.) พ้นจากฟิลิปปินส์ไปแล้วอย่างสิ้นเชิง และ พร้อมพัดเข้าถล่มเวียดนามต้นสัปดาห์นี้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- แม้จะอ่อนกำลังลงมากแล้ว ก็ยังไม่ลดละความพยายาม และดูราวกับมีชีวิต มีความนึกคิด มีความอาฆาตพยาบาท ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คาดกันเอาไว้ พายุโซนร้อนป่าหม่าปักหัวเข้าถล่มเวียดนาม

    เป้าหมายการทำลายล้างครั้งใหม่อาจจะเป็นสักทัี่หนึ่ง ในเขตภาคกลางตอนบนระหว่างเมืองวีง (Vinh) จ.เหงะอาน (Nghe An) กับ จ.แท็งฮว้า (Thanh Hoa) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงฮานอยลงไปทางใต้ราว 400 กม.

    ทางการเวียดนามได้ออกเตือนเมื่อวันเสาร์ ให้ทางการจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือกับภาคกลางตอนบนเตรียมพร้อมอีกครั้งหนึ่ง รับมือ “พายุหมายเลข 10” ที่พัดเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในปีนี้

    ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลาง ได้พยากรณ์ว่า ป้าหม่ามีกำหนดจะเข้าถึงฝั่งในคืนวันอังคารที่ 13 ต.ค.นำฝนตกหนักและแรงลมศูนย์กลางราว 65 กม./ชม.เข้าสู่แผ่นดินเวียดนาม

    ภาพถ่ายดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาของสำนักต่างๆ ในวันอาทิตย์นี้ แสดงให้เห็นพายุป้าหม่า พัดเอาไอน้ำเป็นกลุ่มมหึมาฟุ้งอยู่เหนือหมู่เกาะหว่างซา (Hoang Sa) หรือ สแปรตลีส์ (Spratlys) ทางตอนใต้เกาะไหหลำ

    หนึ่งสัปดาห์เต็มๆ ก่อนหน้านี้ ป้าหม่าได้ย้อนกลับไปพัดถล่มทางตอนเหนือเกาะลูกซอนในฟิลิปปินส์อีกรอบ จนถึงวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมาพบผู้เสียชีวิตจากพายุลูกนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 299 ราย ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวซินหัว

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=480 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=480>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    ภาพจำลองเส้นทางเคลื่อนตัวของพายุป้าหม่าที่จัดทำโดย สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งญี่ปุ่นหรือ JMA ในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งแสดงให้เห็นเส้นทางการเคลื่อนตัวของพายุป้าหม่าช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา และ ปลายทางที่อาจไม่ได้หยุดอยู่แค่เวียดนาม </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สัปดาห์ปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ไต้ฝุ่นเกดสะหนาพัดถล่มเข้าเวียดนาม ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 164 คน และไม่กี่วันก่อนหน้านั้นไต้ฝุ่ที่มีความแรงระดับ C2 (Category 2) ได้พัดกระหน่ำเกาะลูซอนกับนครมะนิลา ฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 289 คน

    ในช่วงนั้น “ไต้ฝุ่นป้าหม่า” ด้วยความแรงระดับ C2 เช่นกัน เคลื่อนตัวจากตอนกลางสมุทรแปซิฟิก บ่ายหน้าเข้าพัดซ้ำอาณาบริเวณเดิมในฟิลิปปินส์ แต่ได้เปลี่ยนทางเดินในนาทีสุดท้าย บ่ายหน้าขึ้นเหนือ พัดถล่มตอนเหนือของเกาะ ก่อนจะพัดเลยขึ้นไป และลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อน

    สำนักอุตุนิยมวิทยาในแถบนี้ เชื่อว่า เกาะไต้หวัน กับภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน จะเป็นเป้าหมายต่อไปของป้าหม่า

    แต่การแกะรอยเส้นทางเคลื่อนตัวของศูนย์เฝ้าระวังความเสี่ยงจากพายุโซนร้อน (Tropical Storm Risk) ที่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา MTSAT ได้พบว่า พายุป้าหม่ากำลังบ่ายหน้าเข้าสู่เวียดนาม

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=550>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    ภาพแผนภูมิที่จัดทำโดยใช้ข้อมูลดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา MTSAT แสดงให้เห็นพายุป้าหม่า พัดเอาไอน้ำหมุนเป็นวงมหึมาอยู่เหนือหมู่เกาะสแปรตลีส์ เมื่อวันอาทิตย์ (11 ต.ค.) นี้ และ ยังเป็นครั้งแรกในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ท้องฟ้าเหนือหมู่เกาะฟิลิปปินส์ ไร้เมฆปกคลุม ไร้พายุ. </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ในช่วงที่หันรีหันขวางอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้เกาะไต้หวัน ทางการเวียดนามได้ออกเตือนทางการจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่กว๋างนีง (Quang Ninh) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไปจนถึง จ.กว๋างหงาย (Quang Ngai) ให้เตรียมรับมือพายุโซนร้อนลูกนี้

    แต่ทุกอย่างพลิกความคาดหมายอีกครั้งหนึ่ง

    ป้าหม่าหักปากกาเซียนพยากรณ์และหันหัวกลับหลังหันลงใต้ นำฝนตกหนักเข้าสู่ภาคเหนือของฟิลิปปินส์อีกครั้งหนึ่ง และอาละวาดโดยเคลื่อนตัวเดินหน้าถอยหลัง เหนืออาณาบริเวณดังกล่าวตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากแผ่นดินเลื่อนและโคลนถล่ม

    TSR ที่เฝ้าแกะรอยติดตามป้าหม่าอย่างใกล้ชิด และเชื่อว่า พายุจะไม่หยุดอยู่แค่ในฟิลิปปินส์ และทุกอย่างเป็นไปตามนั้น

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=550>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    ภาพจำลองเส้นทางการเคลื่อนตัวของไต้ผุ่น-พายุป้าหม่า จากตอนกลางของแปซิฟิก ถล่มฟิลิปปินส์ ขึ้นเหนือ หันรีหันขวาง หันหลังกลับเข้าฟิลิปปินส์อีกครั้ง เดินหน้าถอยหลัง ก่อนจะพุ่งเข้าสู่ทะเลจีนใต้ เตรียมถล่มเวียดนาม.. มีชีวิตยืนยงอยู่ 3 สัปดาห์มาแล้ว ขณะที่ "ซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมอโลร์" (Melor) ที่ก่อตัวพร้อมๆ กัน สลายไปก่อนหน้านี้หลายวัน </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9520000120455
     
  3. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    น่าแปลกลูกที่ดูฝูงบิน thunder bird (รอบนอกสนามบินเค้ามากลับลำรอบเช้าซึ่งบินต่ำมากๆ เมื่อวันศุกร์) วันจันทร์ตัวร้อน น้ำมูกลงปอดไอ อาการคล้ายปอดอักเสบ เด็กอื่นๆ บางคนก็เป็น บางคนไม่เป็น บางทีการบินต่ำมากๆอาจตีฝุ่นเชื้อโรคขึ้นมาเด็กๆ จึงป่วยกันอีกแล้ว ที่จริง หวัด 2009 ก็ผ่านมาแล้วนะ
    แต่รอบบ่ายหลังโชว์ทั้งเสาร์และอาทิตย์ ฝนตกลงมาทุกครั้ง เท่ากับล้างเชื้อโรคไปบ้าง

    แต่ที่น่าห่วงกว่าคือศูนย์รวมดวงใจของพวกเรา ต้องระวังอย่านำเชื้อที่ว่าจะกลายพันธุ์ไปใกล้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2009
  4. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    วันนี้ระบบน่าจะขัดข้องแก้ไขแล้วระบบpostซ้ำให้2รอบ เลยลบแล้วพิมพ์แจ้งแทนค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2009
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    หลายจังหวัดยังเดือดร้อนจากน้ำท่วม

    [​IMG]

    ภูมิภาค 11 ต.ค. - หลายจังหวัดยังเดือดร้อนจากน้ำท่วม ล่าสุดจังหวัดศรีสะเกษ น้ำท่วมสูงขึ้นอีก แต่ชาวจังหวัดอ่างทองที่ถูกน้ำท่วม ปลื้มปีติหลังได้รับถุงยังชีพพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    นายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้นำสิ่งของพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 400 ชุด มอบให้ชาวบ้านตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ที่ประสบภัยน้ำท่วม สร้างความปลาบปลื้มใจให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก

    ขณะที่ชาวบ้าน 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ต้องเร่งขนย้ายสิ่งของหนีน้ำอีกครั้ง หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ทำให้น้ำที่ท่วมขังอยู่แล้วเพิ่มระดับสูงขึ้นอีก ขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 80 เซนติเมตร และบางจุดน้ำท่วมสูงถึง 1 เมตร ทำให้ชาวบ้านบางครอบครัวต้องอพยพขึ้นมาอาศัยอยู่ในเต้นท์พักชั่วคราว แต่บางคนอาศัยบนชั้นสองของบ้านเพื่อเฝ้าทรัพย์สิน และต้องใช้เรือเป็นพาหนะ

    ส่วนที่จังหวัดชัยภูมิ น้ำจากแม่น้ำชี ยังเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร รวมถึงพื้นที่การเกษตร ในอำเภอบ้านเขว้าและอำเภอเมืองชัยภูมิอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ต้นข้าวหลายพันไร่ เริ่มยืนต้นตายแล้ว เพราะถูกน้ำท่วมขังมานานนับสัปดาห์

    แต่นายอำเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร ใช้โอกาสที่ฝนตกหนักในช่วงนี้ เร่งผันน้ำฝนที่ตกสะสมบนเทือกเขาเพชรบูรณ์ ให้ไหลงลงสู่เหมืองแร่ยิปซั่มที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว ที่สามารถจุน้ำได้มากถึง 6 ล้านคิว เพื่อไม่ให้น้ำไหลลงสู่ลำคลองธรรมชาติ และเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และยังเป็นการกักเก็บน้ำไว้สำหรับทำการเกษตร ในช่วงหน้าแล้งด้วย. -สำนักข่าวไทย

    2009-10-11 12:19:25

    สถานการณ์น้ำท่วมในศรีสะเกษขยายวงกว้างหลังฝนตกหนัก

    [​IMG]

    ภูมิภาค 11 ต.ค. - ฝนที่ตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดศรีสะเกษขยายวงกว้างมากขึ้น

    ชาวบ้าน 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ต้องเก็บข้าวของหนีน้ำ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน จนเกิดน้ำท่วมสูงประมาณ 80 เซนติเมตร บางครอบครัวต้องอพยพขึ้นมาอาศัยในเต้นท์พักชั่วคราว แต่บางคนอาศัยบนชั้นสองของบ้านเพื่อเฝ้าทรัพย์สิน และต้องใช้เรือเป็นพาหนะ ขณะที่ระดับน้ำที่สะพานขาว ลำห้วยสำราญ เพิ่มระดับ อยู่ที่ 11 เมตร 96 เซนติเมตร

    ส่วนที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฝนตกหนักทำให้เกิดอุบัติเหตุ รถโดยสารปรับอากาศ สายปากพนัง รามคำแหง ทะเบียน 30-1267 นนทบุรี พลิกคว่ำ มีผู้บาดเจ็บ 39 คน ในจำนวนนี้ อาการสาหัส 1 คน. -สำนักข่าวไทย

    2009-10-11 10:15:52

    ลำปางฟื้นฟูน้ำท่วมแม่พริกมากว่าสัปดาห์-เร่งทำบ้านน็อกดาวน์

    [​IMG]

    ลำปาง 10 ต.ค.- นายอนุสรณ์ แก้วกังวาน ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 ลำปาง เปิดเผยถึงการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยน้ำป่าไหลหลากท่วมอย่างหนักใน อ.แม่พริก เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า การช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานดำเนินมาเป็นวันที่ 8 แล้ว

    ซึ่งมีพื้นที่ได้รับผลกระทบถึง 30 หมู่บ้าน 4 ตำบล โดยเฉพาะถนนและสะพานถูกน้ำกัดเซาะลึกหลายจุดไม่สามารถสัญจรได้นั้น ทางศูนย์ ปภ.เขต 10 เร่งซ่อมแซมให้ใช้ได้ชั่วคราวแล้ว ส่วนบ้านเรือนริมฝั่งที่บ้านสันขี้เหล็ก ม.10 ต.แม่พริก ถูกน้ำพัดพังทั้งหลังจำนวน 9 หลัง ทางมูลนิธิอาสาเพื่อพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จัดหาบ้านน็อกดาวน์มาช่วยเหลือ 15 หลัง โดยให้ผู้ประสบภัยอาศัยอยู่บ้านน็อกดาวน์ชั่วคราวจนกว่าจะหาที่อยู่ใหม่ได้ ส่วนบ้านเดิมที่ตั้งอยู่ทางน้ำส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ และถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยง เพราะหากเกิดภัยทางธรรมชาติกระแสน้ำอาจกัดเซาะดินและบ้านพังเสียหายอีก ดังนั้น จะต้องรื้อถอนออก เพื่อเตรียมไปสร้างในพื้นที่ใหม่.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-10 12:22:00

    น้ำท่วมตลาดชายแดนจันทบุรีเริ่มคลี่คลาย

    [​IMG]

    จันทบุรี 9 ต.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าน้ำป่าไหลหลากท่วมจุดผ่านแดนถาวรไทย–กัมพูชา บ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่วานนี้ (9 ต.ค.) ทำให้ผู้ค้าและแรงงานชาวกัมพูชาไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ นอนพักแรมในศูนย์ราชการบ้านแหลมและวัดบ้านแหลม

    ล่าสุด (10 ต.ค.) ระดับน้ำท่วมในตลาดลดลงเป็นปกติแล้วเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ชาวกัมพูชาที่ตกค้างเริ่มขนย้ายสัมภาระกลับประเทศ โดยมีทหารพรานนาวิกโยธินจากชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 จ.จันทบุรี นำรถบรรทุกอำนวยความสะดวก ขณะที่ผู้ค้าในตลาดจุดผ่านแดนเร่งทำความสะอาดร้านค้า พร้อมสำรวจความเสียหายสินค้าจากภาวะน้ำท่วม ซึ่งนายอิสิวุฒิ ตั้งเกียรติ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าชายแดนไทย – กัมพูชา จ.จันทบุรี กล่าวว่า น้ำท่วมครั้งนี้ ทำให้การขนส่งสินค้ามูลค่ากว่า 20 ล้านบาท หยุดชะงัก นอกจากนี้ ยังมีรถจักรยานยนต์กว่า 20 คัน และรถยนต์อีก 3 คัน ได้รับความเสีย.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-10 11:01:19

    ชาวบ้านอ่างทองเผชิญน้ำเน่า-โคลนหลังน้ำลด

    [​IMG]

    อ่างทอง 10 ต.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดอ่างทองเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยเมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ น้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาทระบายน้ำอยู่ที่ระดับ 1,836 ลบ.ม./วินาที ลดลงจากช่วงเช้าประมาณ 44 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ในจังหวัดอ่างทองลดลงอย่างมาก โดยที่บริเวณหน้าตลาดป่าโมกลดลงเกือบ 30 ซม. อยู่ที่ระดับ 6.27 เมตร หลังจากน้ำลดลงมีอยู่หลายหลังคาเรือน ที่เต็มไปด้วยโคลนที่มากับน้ำ นอกจากนั้นต้นกล้วยที่จมน้ำอยู่กำลังทำให้น้ำเน่าและเริ่มส่งกลิ่นเหม็นสร้างความเดือดร้องหลังน้ำลดแล้ว

    นายวิโรจน์ ดำสนิท นายก อบต.โผงเผง กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าให้ทาง อบต.เข้าทำการสูบน้ำที่ขังออกเนื่องจากน้ำมีกลิ่นเหม็น ซึ่งทาง อบต.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจและช่วยเหลือแล้ว นอกจากนี้ ชาวบ้านหมู่ที่ 2 ต.โผงเผง ต่างเกรงว่าน้ำจะกลับมาท่วมเป็นรอบที่ 2 อีก เนื่องจากปีที่ผ่านมาน้ำท่วมถึง 2 รอบ จึงฝากไปยังหน่วยงานที่ดูแลน้ำว่าควรจะมีวิธีระบายน้ำที่ไม่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านด้วย.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-10 16:19:09

    ชาวบ้านเริ่มป่วย หลังน้ำท่วม 8 หมู่บ้านลพบุรีนานกว่า 1 เดือน

    [​IMG]

    ลพบุรี 12 ต.ค.-น้ำที่ท่วมขังเขตชุมชนพื้นที่ อ.เมือง จ.ลพบุรี นานประมาณ 1 เดือน เริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็น ทำให้ชาวบ้านเริ่มป่วยเป็นโรคน้ำกัดเท้า ตาแดง และผื่นคัน

    สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ 8 หมู่บ้าน เขต ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี น้ำเริ่มสกปรกและส่งกลิ่นเหม็น ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำนานกว่า 2 อาทิตย์ ทำให้ป่วยเป็นโรคน้ำกัดเท้า ตาแดง และผื่นคัน

    ลุงสง่า ผาสุข อายุ 73 ปี อาศัยอยู่กับภรรยาวัยเดียวกัน สถานการณ์น้ำท่วมทำให้ความเป็นอยู่ของทั้งคู่เป็นไปอย่างอยากลำบาก เนื่องจากต้องรับภาระเลี้ยงดูคุณยายจันทร์ สิมมา อายุ 98 ปี และคุณยายร้อย อายุ 82 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน หลังบ้านถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ห้องน้ำไม่สามารถใช้การได้ และโอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้รองรับน้ำไว้อุปโภคบริโภคน้ำเน่าเสียซึมเข้าไปในโอ่ง น้ำจึงไม่สามารถใช้การได้

    ขณะที่กรมชลประทานและองค์การบริหารส่วน จ.ลพบุรี ตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 6 เครื่อง สูบน้ำออกตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้น้ำเริ่มลดลง แต่หากเขื่อนชัยนาทปล่อยน้ำ ระดับน้ำจากคลองส่งน้ำป่าสัก-ชัยนาท จะเพิ่มสูงขึ้น เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนเป็นบริเวณกว้าง.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-12 00:22:00

    น้ำท่วมพิจิตรอีกระลอก บางแห่งระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร

    [​IMG]

    ภูมิภาค 12 ต.ค. - น้ำท่วมจังหวัดพิจิตรอีกระลอก บางแห่งระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ขณะที่จังหวัดกาญจนบุรีหมอกลงจัด ทัศนวิสัยการมองเห็นไม่ถึง 3 เมตร

    น้ำฝนที่ตกสะสมหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำป่าที่หลากจากจังหวัดกำแพงเพชร ไม่สามารถระบายลงแม่น้ำยมได้และทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ตลอดจนพื้นที่การเกษตร หลายพื้นที่ในจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะในตำบลรังนก อำเภอสามง่าม ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะสัญจรเข้าออกระหว่างหมู่บ้าน ทั้งขนย้ายทรัพย์สินมีค่าหนีน้ำไว้ริมถนนแทน ส่วนในแม่น้ำยมพบว่ามีเศษกิ่งไม้ ผักตบชวาลอยมากับน้ำ และติดอยู่บริเวณคอสะพาน ยิ่งเป็นอุปสรรคต่อการไหลของน้ำเพิ่มมากขึ้น

    ด้านจังหวัดกาญจนบุรี สภาพอากาศในอำเภอไทรโยค ทองผาภูมิ และสังขละบุรี มีหมอกลงจัด ส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็น ไม่ถึง 3 เมตร จึงขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-12 09:27:48

    ขอนแก่นอ่วมน้ำท่วมกว่า 2 สัปดาห์

    [​IMG]

    ขอนแก่น 12 ต.ค. - หลายพื้นที่จังหวัดขอนแก่นประสบปัญหาน้ำท่วม หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

    ชาวบ้านวังเวิน และอีก 7 หมู่บ้าน เขตอำเภอชนบท จ.ขอนแก่น ซึ่งอยู่ติดแม่น้ำชี ต้องใช้เรือท้องแบนสัญจรเข้าออกหมู่บ้านนานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว หลังน้ำจากแม่น้ำชีเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนสายหลักระหว่างหมู่บ้านสูงกว่า 1 เมตร และยังไหลเข้าท่วมนาข้าวเสียหายไม่ต่ำกว่า 5,000 ไร่ ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 1,000 ครัวเรือน ขณะนี้ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นและขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง

    ส่วนที่จังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่เร่งนำกระสอบทรายไปทำเป็นพนังกั้นน้ำบริเวณถนนสายชุมชนท่าเรือถึงสำนักงานชลประทานศรีสะเกษ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อป้องกันน้ำจากห้วยสำราญไหลหลากเข้าท่วมชุมชน. -สำนักข่าวไทย

    2009-10-12 16:03:27

    หลายจังหวัดภาคเหนือ-อีสานยังน่าห่วง มีน้ำเหนือไหลมาสมทบ

    [​IMG]

    ภูมิภาค 12 ต.ค. - ที่ชุมชนหนองหัวหมู ในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ถูกน้ำท่วมเป็นรอบสอง บางจุดระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร เนื่องจากมีน้ำหนุนจากแม่น้ำมูล จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้หลายครอบครัวต้องอพยพขึ้นมาอาศัยในเต็นท์ริมถนนที่ทางเทศบาลจัดเตรียมไว้

    ส่วนที่อำเภอบางระกำ และอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ยังเดือดร้อนหนักเช่นกัน พื้นที่นาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายแล้วกว่า 3 หมื่นไร่ เพราะส่วนใหญ่ไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ทัน ขณะเดียวกันน้ำเริ่มเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็น ด้านจังหวัดเร่งแก้ปัญหาระยะยาว จัดหางบประมาณเดินหน้าโครงการแก้มลิง
    ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศ วันนี้ ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีน เริ่มแผ่ลิ่มลงมาปกคลุมภาคอีสานและภาคเหนือ ทำให้มีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา ส่วนภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคใต้ ยังมีฝนชุกหนาแน่น

    สำหรับพายุโซนร้อน “ป้าหม่า” จะเคลื่อนขึ้นฝั่งที่เกาะไหหลำในวันนี้ และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นต่อไป.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-12 10:10:13

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. threetree

    threetree เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +167
    น่าเป็นห่วงประชาชนที่อยู่ในจังหวัดที่กำลังประสบอุทกภัยนะครับ
    อยากให้ทุกฝ่ายรวมมือรวมใจกันเพื่อบรรเทาอุทกภัยด้วยนะครับ
    สามัคคีคือพลัง เพื่อพ่อหลวงของพวกเราครับ
     
  7. tamm16

    tamm16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +466
    ไม่ทราบว่า วันที่ 15 ผมจะเดินทางไปจีน ครับไปเมืองคุณหมิงพอมีใครดูได้ไหมครับว่าจะมีพวก พายุหรืออะไรไหมครับ
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สามารถสอบถามสภาพอากาศได้จากกรมอุตุนิยมวิทยา

    โทร. +66 (0) 2399 5689 (ในวันและเวลาราชการ)
     
  9. TREETORN

    TREETORN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +199
    ที่นี่ด้วยครับ www.tmd.go.th
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เกิดแผ่นดินไหว 6.4 ริกเตอร์ในแปซิฟิกใต้

    [​IMG]

    ซิดนีย์ 12 ต.ค.– สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.4 ริกเตอร์ที่เกาะซานตาครูซในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ในวันนี้ แต่ไม่มีการประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์

    แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.37 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 16.37 น.ตามเวลาในไทย โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองลูกันวิลล์ ไปทางเหนือ 355 กม. และอยู่ลึกลงไป 10 กม. เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกกำลังฟื้นตัว หลังจากประสบภัยแผ่นดินไหว ขนาด 8 ริกเตอร์ และคลื่นยักษ์สึนามิขนาดใหญ่ สร้างความเสียหายให้แก่ซามัว อเมริกันซามัว และตองกาเมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตถึง 184 คน. -สำนักข่าวไทย

    2009-10-12 18:03:43

    เกิดแผ่นดินไหว 6.2 ริกเตอร์ที่อะแลสกา

    [​IMG]

    วอชิงตัน 13 ต.ค.- ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.2 ริกเตอร์ ที่หมู่เกาะอาลิวเชียน ในรัฐอะแลสกาของสหรัฐเมื่อค่ำวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น

    แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.37 น.วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 12.37 น.วันอังคารตามเวลาในไทย โดยอยู่ห่างจากแหล่งชุมชนที่มีประชากรราว 4,000 คน ราว 91 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหาย.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-13 14:01:06

    พายุโซนร้อนป้าหม่าถล่มเกาะไหหลำ

    [​IMG]

    จีน 12 ต.ค. - พายุโซนร้อนป้าหม่าเริ่มพัดถล่มภาคใต้ของจีนแล้ว ส่งผลให้ฝนตกหนักบริเวณเกาะไหหลำในขณะนี้

    สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน รายงานว่า พายุโซนร้อนป้าหม่าที่พัดขึ้นฝั่งเกาะไหหลำ ทางภาคใต้ของจีน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้มีฝนตกลงมาอย่างหนักและกระแสลมแรง ขณะที่เรือประมงในมณฑลกวางตุ้งยังคงต้องจอดเทียบท่าเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ

    คาดว่าพายุป้าหม่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่มณฑลกวางตุ้งและมณฑลฝูเจี้ยนในช่วงเย็นวันนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้พายุลูกนี้ได้พัดถล่มเกาะลูซอนทางเหนือของฟิลิปปินส์ สร้างความเสียหายอย่างหนักทั้งน้ำท่วมและดินถล่ม มีผู้เสียชีวิตและสูญหายเกือบ 200 คน และสร้างความเสียหายแก่สาธารณูปโภคเป็นมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท. -สำนักข่าวไทย

    2009-10-12 14:02:14

    อากาศสหรัฐหนาวเร็วกว่าปกติ

    [​IMG]

    สหรัฐ 13 ต.ค. - ประชาชนทางตะวันตกตอนกลางของสหรัฐนับล้านคนต้องประสบกับสภาพอากาศหนาวเย็นเร็วกว่าปกติ ทำให้เดือนตุลาคมเหมือนเดือนกุมภาพันธ์มากกว่า

    อุณหภูมิทางภาคตะวันตกตอนกลางของสหรัฐ ลดต่ำลงอย่างฮวบฮาบ ถนนหลายสายมีน้ำแข็งเกาะจับและหิมะตกหนักในหลายพื้นที่ แม้จะดูสวยดีแต่สภาพอากาศดังกล่าวก็สร้างความเสียหายร้ายแรง เช่นที่รัฐเนบราสกา มีหิมะตกหนักถึง 17 นิ้ว ฝนที่เย็นเป็นน้ำแข็งและหิมะทำให้เกิดอุบัติเหตุกว่า 100 ครั้ง ในรัฐมินเนโซตา และมีคนเสียชีวิต 1 คน หิมะตกหนักทำให้ต้นไม้โค่นล้มและทำให้เสาไฟทางใต้ของรัฐมินเนโซตาล้มตามไปด้วย ประชาชนกว่า 2,000 คน ในเมืองโรเชสเตอร์ไม่มีไฟฟ้าใช้. -สำนักข่าวไทย

    2009-10-13 15:07:02

    ญี่ปุ่นคาดจำนวนวันที่อากาศร้อนจัดในฤดูร้อนจะเพิ่มขึ้น

    [​IMG]

    ญี่ปุ่น 13 ต.ค. - ญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าจำนวนวันที่อากาศร้อนจัดในฤดูร้อนจะเพิ่มมากขึ้น หากยังไม่เร่งหามาตรการลดผลกระทบจากปัญหาโลกร้อน

    รัฐบาลญี่ปุ่นเผยแพร่ผลการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกของสหประชาชาติ ซึ่งระบุว่าหากยังไม่มีการหามาตรการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จะส่งผลให้อุณหภูมิเฉลี่ยในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 2.1- 4 องศาเซลเซียส ในช่วงปลายศตวรรษที่ 21 นี้ จากระดับเมื่อช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเพิ่มขึ้นระหว่าง 0.3 - 0.6 องศาเซลเซียสจากระดับเฉลี่ย

    นอกจากนี้ยังพบว่าญี่ปุ่นจะมีจำนวนวัน ที่อากาศร้อนจัดกลางฤดูร้อนซึ่งมีอุณหภูมิระหว่าง 30 – 35 องศาเซลเซียส เพิ่มขึ้นระหว่าง 54-78 วัน จากที่เคยมีจำนวนวันที่อากาศร้อนจัดเฉลี่ย 36 วัน ซึ่งจะทำให้ความเสี่ยงในการเป็นโรคลมแดดเพิ่มขึ้นถึง 3.7 เท่า จะเกิดดินถล่มมากขึ้นและสร้างความเสียหายแก่พืชผลการเกษตร โดยความเสียหายทั้งหมดจะมีมูลค่ากว่า 6 ล้าน 4 แสนล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-13 09:49:44

    อิหร่านประกาศพร้อมซื้อยูเรเนียมจากต่างชาติ

    [​IMG]

    อิหร่าน 12 ต.ค. - ประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาดิเนจัด ของอิหร่าน ประกาศพร้อมซื้อยูเรเนียมเสริมสมรรถนะจากต่างประเทศ

    ประธานาธิบดีอาห์มาดิเนจัด กล่าวระหว่างอภิปรายกับผู้เชี่ยวชาญทางโทรทัศน์ว่า อิหร่านต้องการยูเรเนียมเสริมสมรรถนะแล้ว 20 เปอร์เซ็นต์ เพื่อนำไปใช้ในการผลิตเวชภัณฑ์ โดยในวันที่ 19 เดือนนี้ ผู้เชี่ยวชาญอิหร่านจะเจรจากับผู้เชี่ยวชาญประเทศตะวันตกที่นครเจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์ และจะหารือกันถึงเงื่อนไขในการซื้อยูเรเนียมเสริมสมรรถนะจำนวนดังกล่าว

    ผู้นำอิหร่านมั่นใจว่า การเจรจาที่นครเจนีวาจะไม่มีปัญหา ในขณะที่นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เตือนอิหร่านว่า ประชาคมโลกจะไม่คอยอิหร่านอย่างไม่มีกำหนดในการปฏิบัติตามข้อผูกมัดในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ที่ต้องสงสัยของอิหร่าน.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-12 10:14:23

    เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 5 ลูก

    [​IMG]

    โซล 12 ต.ค.- เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 5 ลูก นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศในวันนี้ พร้อมกันนี้ ยังประกาศเตือนเรือประมงให้อยู่ห่างจากพื้นที่ชายฝั่งของเกาหลีเหนือในช่วงระหว่างวันที่ 10-20 ตุลาคมนี้ โดยระบุว่าอาจมีการทดลองยิงอีก

    สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานว่า ขีปนาวุธดังกล่าวยิงออกมาจากทางใต้ของฐานปล่อยมูซูดาน-รี นับเป็นครั้งแรกที่เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธนับแต่เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 4 ลูก โดยเชื่อว่าเป็นขีปนาวุธแบบยิงจากพื้นสู่เรือ และยิงขีปนาวุธพิสัยไกลอีก 7 ลูก ซึ่งดูเหมือนว่าตรงกับในช่วงที่สหรัฐเฉลิมฉลองวันชาติ และนำไปสู่เสียงตำหนิจากสหประชาชาติ

    เกาหลีเหนือมักยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้นอกชายฝั่งตะวันออกและตะวันตกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเกาหลีใต้ระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบ แต่บางครั้งก็อาจมีจุดมุ่งหมายทางการเมือง. -สำนักข่าวไทย

    2009-10-12 19:38:07

    อินเดียทดสอบขีปนาวุธปฤถวี-2

    [​IMG]

    ภุพเนศวร, อินเดีย 12 ต.ค. - แหล่งข่าวด้านกลาโหมอินเดีย เผยว่า กองทัพอินเดียประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงขีปนาวุธปฤถวี-2 ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยสั้นสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ จำนวน 2 ลูกจากฐานยิงทางภาคตะวันออกในวันนี้

    แหล่งข่าวในองค์การวิจัยและพัฒนากลาโหมอินเดีย เผยว่า การทดสอบยิงปฤถวี-2 ขีปนาวุธยิงจากพื้นสู่พื้นมีขึ้นที่ฐานยิงบริเวณหาดจันฑีปุระ ในรัฐโอริสสา โดยขีปนาวุธชนิดนี้มีความยาว 8.5 เมตร มีพิสัยการยิง 150-350 ก.ม. และสามารถติดตั้งหัวรบระเบิดแรงสูงน้ำหนัก 1 ตัน หรือหัวรบนิวเคลียร์ ทั้งนี้ อินเดียทำการทดสอบขีปนาวุธปฤถวี-2 ที่พัฒนา และผลิตขึ้นเองในประเทศ ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา. - สำนักข่าวไทย

    2009-10-12 15:15:52

    พบแมงมุมประหลาดเป็นมังสวิรัติ

    [​IMG]

    สหรัฐ 13 ต.ค.-นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวิลลาโนวา รัฐเพนซิลเวเนีย ในสหรัฐ ค้นพบแมงมุมพันธุ์หนึ่งในอเมริกากลาง และเม็กซิโก มีลักษณะแปลกประหลาดกว่าแมงมุมโดยทั่วไป เพราะกินพืชเป็นอาหาร ซึ่งเป็นการค้นพบครั้งแรก

    โดยปกติแล้ว แมงมุมจำนวน 40,000 ชนิด ที่มนุษย์รู้จักเป็นสัตว์กินเนื้อ แต่แมงมุม Bagheera Kiplingi พบในอเมริกากลาง และเม็กซิโก กินต้นกระถินหอมเป็นอาหาร แมงมุมพันธุ์แปลกประหลาดนี้ มีความยาวลำตัว 5-6 มิลลิเมตร จะกินส่วนยอดของต้นกระถินหอม ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีน แต่การจะขึ้นไปถึงส่วนยอดได้นั้น แมงมุมพันธุ์นี้ต้องผ่านอุปสรรคสำคัญคือ มดที่อาศัยอยู่ตามโพรงต้นไม้ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้พิทักษ์ต้นกระถินหอมจากผู้รุกราน

    นักวิทยาศาสตร์ บอกว่า โดยปกติแล้ว แมงมุมพันธุ์นี้จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับมด ส่วนมดก็จะอยู่บนยอดต้นกระถินหอมได้ไม่นาน เพราะไม่มีอาหารให้กิน แมงมุม Bagheera Kiplingi กินอาหารมังสวิรัติเป็นหลัก แต่ก็มีบางครั้งที่กินตัวอ่อนของมดขนาดเล็ก มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้แมงมุมเปลี่ยนมากินพืชเป็นอาหาร เช่น การแข่งขันหาอาหารในพื้นที่เขตร้อนเป็นไปอย่างดุเดือดรุนแรง จึงดูเหมือนจะเป็นผลดีหากหันไปหาอาหารด้วยวิธีอื่นที่ไม่ต้องแข่งขันมาก และเนื่องจากแมงมุมพันธุ์นี้เป็นพันธุ์กระโดด จึงไม่ต้องสร้างใยเพื่อดักจับอาหาร.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-13 13:00:08

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    วันจันทร์ ที่ 5 ตุลาคม 2552
    "ทุ่นเตือนภัยสึนามิ" ความหวังเดียวของ 6 จว.ฝั่งอันดามัน
    "แผ่นดินไหวเป็นมหันตภัยที่พยากรณ์หรือคาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้"
    นักวิชาการด้านธรณีวิทยา หรือสาขาที่เกี่ยวข้องรู้ซึ้งถึงกฎธรรมชาติข้อนี้ดี

    [​IMG]
    แผนที่ประกอบจากศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ ม.รังสิต

    เย็นวันที่ 30 กันยายน ชาวบ้าน 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามันที่เคยได้รับประสบการณ์จากคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อ 5 ปีก่อน ต่างเฝ้าหน้าจอทีวีบ้างฟังวิทยุด้วยใจจดจ่อ เพราะประมาณ 5 โมงเย็นเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.9 ริกเตอร์ ที่เมืองปาดัง ตอนกลางของเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย ห่างจากชายฝั่งอันดามันของไทยเพียง 984 กิโลเมตร ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติพบว่า แรงสั่นสะเทือนส่งไกลมาถึงมาเลเซีย สิงคโปร์ และอาคารสูงระฟ้าย่านสีลมใจกลางกรุงเทพฯ

    หมู่บ้านชาวประมงหลายแห่งรู้สึกผวา เพราะก่อนหน้านี้ 1 วันได้เกิดคลื่นสึนามิความสูงกว่า 7.5 เมตร บริเวณเกาะซามัว มหาสมุทรแปซิฟิก หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.3 ริกเตอร์ ส่งผลให้หมู่บ้านชาวประมง 70 แห่งเสียหายและมีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 ราย

    เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นที่หมู่เกาะซามัว ศูนย์เตือนภัยมีคำสั่งให้หน่วยป้องกันภัยเฝ้าระวังที่หอสัญญาณเตือนภัยที่มี อยู่กว่า 100 แห่ง เพราะภายใน 1 ชั่วโมงหลังแผ่นดินไหว หากเกิดสึนามิที่เกาะสุมาตรา คลื่นยักษ์จะมาถึงไทยภายใน 3 ชั่วโมง หรือราว 21.00 น.คืนวันที่ 30 กันยายน ดังนั้นทุกฝ่ายจะมีเวลาแค่ 2-2.30 ชั่วโมง ที่จะเคลื่อนย้ายประชาชนที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่ง จ.กระบี่ พังงา ระนอง ตรัง สตูล และภูเก็ต ออกจากพื้นที่

    ...เวลา ผ่านไป 2 ชั่วโมง ยังไม่มีรายงานยืนยันการเกิดสึนามิ ศูนย์เตือนภัยจึงตรวจสอบข้อมูลซ้ำอีกครั้งก่อนประกาศยกเลิกการแจ้งเตือนภัย สึนามิในเวลา 19.00 น.ชาวบ้านจึงเริ่มผ่อนคลายและเข้านอนด้วยความกังวลใจว่าพรุ่งนี้จะเกิดสึนา มิอีกหรือไม่ ?

    ในที่สุดความกังวลก็เป็นจริง เวลา 08.52 น.วันที่ 1 ตุลาคม มีรายงานการเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองแจมบิ ห่างจากจุดเกิดเหตุเมืองปาดังเพียง 280 กิโลเมตร พร้อมรายงานข่าวว่าแผ่นดินไหวในวันที่ 30 กันยายนแม้จะไม่เกิดคลื่นสึนามิ แต่ก็ทำให้ตึกรามอาคารสูงถล่มลงมาและไฟไหม้บ้านเรือน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 1,000 คน

    แผ่นดินไหวเป็นมหันตภัยธรรมชาติที่คร่าชีวิตมนุษย์จำนวนมากในพริบตา เมื่อไม่สามารถคาดเดาได้มนุษย์ก็พยายามพัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกว่า "ทุ่นเตือนภัยสึนามิ" หรือ "ทุ่นตรวจจับแผ่นดินไหวในทะเล" เพื่อช่วยจับกระแสคลื่นยักษ์แล้วแจ้งมายังศูนย์เตือนภัย เปิดโอกาสให้เตรียมพร้อมรับมืออย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงก่อนมหันตภัยจะมาถึง ชุมชนที่อาศัยอยู่ริมทะเลจึงฝากชีวิตไว้กับอุปกรณ์เตือนภัยชนิดนี้

    3 ปีที่แล้ว วันที่ 22 พฤศจิกายน 2549 หน่วยงานที่มีชื่อย่อว่า NOAA (National Oceanic and Atmospheric Administration) ของสหรัฐได้ติดตั้งทุ่นเตือนภัยสึนามิมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท บริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์ มหาสมุทรอินเดีย ห่างจากภูเก็ตไป 1,100 กิโลเมตร

    [​IMG]

    โดยรัฐบาลไทยออกเงินแค่ครึ่งเดียว หลักการทำงาน คือ เมื่อเกิดแผ่นดินไหวเกิน 7.5 ริกเตอร์ ทุ่นจะส่งสัญญาณไปยังเครื่องรับดาวเทียมที่ฮาวาย แล้วข้อมูลจะถูกส่งมายังศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จ.นนทบุรี ก่อนจะส่งสัญญาณเตือนภัยไปยังหอเตือนภัยกว่า 100 แห่งในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง

    ผ่าน ไป 3 ปีดูเหมือนว่าทุ่นมหัศจรรย์ตัวนี้จะทำงานได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ชาวบ้านไม่ต้องหวาดผวากับคลื่นยักษ์อีกต่อไป แต่สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ซามัวและปาดัง เมื่อเข้าไปเช็กข้อมูลออนไลน์ 24 ชั่วโมงในเว็บไซต์ National Data Buoy Center กลับไม่มีข้อมูลแผ่นดินไหวจากทุ่นตัวนี้ ดูเหมือนว่ามันจะหยุดทำงานมาได้ระยะหนึ่งแล้ว

    ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้ อำนวยการศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ ม.รังสิต ผู้รับผิดชอบโครงการวิจัย "การพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อการเตือนภัยคลื่นสึนามิสำหรับประเทศไทย" อธิบายว่า ทุ่นเตือนภัยข้างต้นเป็นระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิแบบทุ่นลอย มีเครื่องมือ 2 ส่วน คือ 1.แท่นใต้สมุทรใช้วางบนพื้นมหาสมุทรลึกลงไป 3.6 กิโลเมตร ประกอบด้วย เครื่องวัดความดันน้ำ เครื่องประมวลผล เครื่องส่งสัญญาณเสียงความถี่ต่ำ และแบตเตอรี่ 2.ทุ่นลอยที่อยู่บนผิวน้ำ มีเครื่องรับคลื่นเสียงความถี่ต่ำจากแท่นใต้สมุทร เมื่อเกิดแผ่นดินไหวคลื่นจะส่งสัญญาณไปยังระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกเข้าไปดูข้อมูลได้ทันที

    "สาเหตุ แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 29 กันยายน เกิดจากรอยต่อเปลือกโลกแผ่นแปซิฟิกกับแผ่นออสเตรเลียนขยับตัว ส่วนวันที่ 30 กันยายน เกิดจากเปลือกโลกแผ่นยูเรเซียนกับแผ่นอินเดียน ที่มุดตัวซ้อนกันมานานเกิดดีดตัวปล่อยพลังงานออกมา แม้จะไม่เกิดสึนามิ แต่ก็ส่งผลให้มีคลื่นสูง 20-30 เซนติเมตร ซัดเข้าหาชายฝั่งพังงาและภูเก็ต แต่เมื่อเข้าไปเช็กข้อมูลของทุ่นเตือนภัยพบว่า ระบบไม่ทำงานมาหลายเดือนแล้ว เลยไม่รู้ว่าครั้งนี้มีคลื่นสึนามิมาใกล้ภูเก็ตหรือฝั่งไทยหรือไม่ อาจเป็นเพราะแบตเตอรี่หมดหรืออุปกรณ์อื่นขัดข้อง หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องรีบแก้ไข เพราะหากเกิดสึนามิจริงจะเตือนภัยไม่ทัน"

    ด้าน ผอ.วิริยะ มงคลวีราพันธ์ ผู้รับผิดชอบศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ยืนยันว่า ทุ่นเตือนภัยสึนามิยังทำงานปกติ แต่ที่ไม่มีข้อมูลก็เพราะไม่มีแผ่นดินไหวหรือสึนามิในรัศมีการทำงานของทุ่น อย่างไรก็ตามทีมช่างได้เตรียมทุ่นตัวสำรองไว้เปลี่ยนแทนตัวทุ่นเดิมแล้ว เพราะถึงกำหนดระยะเวลาบำรุงซ่อมแซม แต่ช่วงนี้เป็นหน้ามรสุมจึงต้องรอสักพัก และในปีนี้ยังได้รับงบประมาณเพิ่ม 150 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อทุ่นเตือนภัยสึนามิในทะเลอีก 2 ทุ่น

    "ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อ มีบริษัท 3 แห่งที่เสนอข้อมูลมาให้คณะกรรมการพิจารณา โดยแนวที่จะวางทุ่นอยู่บริเวณรอยเลื่อนสแกง (Sagaing) แถว หมู่เกาะนิโคบาร์ใกล้พม่า เพราะเป็นจุดเสี่ยงแผ่นดินไหวใกล้ไทยที่สุด ตอนนี้หอเตือนภัย 103 แห่งมีระบบคอมพิวเตอร์ติดตั้งไว้ หากเกิดคลื่นสึนามิสูงกว่า 3 เมตร เสียงไซเรนจะดังขึ้น ชาวบ้านก็วิ่งไปที่หลบภัยแล้วเจ้าหน้าที่กับทหารเรือจะเข้ามาช่วยดูแลต่อ ที่ผ่านมาทุกฝ่ายร่วมกันซ้อมหลายครั้งแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร" ผอ.ศูนย์เตือนภัยกล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

    รายงานพิเศษ
    คม ชัด ลึก 5/10/2552

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2009
  12. amm.

    amm. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +613
    วันนี้ช่วงเช้าฝนตกหนักและนานที่หนามแดงสมุทรปราการ
    ที่หมู่บ้านพัดชา...หมู่บ้านที่เราอาศัยอยู่...น้ำระบายไม่ทัน...
    เอ่อเข้าท่วมในตัวบ้าน...ทั้งหมู่บ้าน...
    หมู่บ้านอื่นเราไม่ทราบเพราะออกไปไหนไม่ได้เลย...
    ตอนนี้น้ำลดลงบ้างแล้ว...คงเหลือที่ถนนหน้าบ้าน...
    หากคืนนี้ฝนไม่ตกมาอีกก็คงลดเป็นปกติ...
    แต่ที่สำคัญหจก.เราก็ปิดกิจการเลยหนึ่งวันเนื่องจากอุปกรณ์สำนักงานอยู่ชั้นล่าง...
    น้ำทะลักเข้าตัวบ้านเร็วมากๆ...ต้องยกเลิกงานบริการลูกค้าหมดเลย...
    รายงานข่าวจากหมู่บ้านพัดชา...หนามแดง จ.สมุทรปราการ..
     
  13. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เวลา 18:00 น. ข่าวสดออนไลน์


    ฝนถล่มกรุง ถ.ศรีนครินทร์อ่วม ท่วมถึงหน้าแข้ง

    กาญจน์เตือนทุกอำเภอระวังดินถล่มตลอด 24 ชม.

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ต.ค. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมบริเวณพื้นที่เขตบางนา จากบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัล บางนา ถ.บางนา - ตราดขาออก จากนั้นขึ้นรถกระบะตรวจสภาพน้ำท่วมบริเวณ ถ.ศรีนครินทร์จากหน้าวัดศรีเอี่ยมถึงหน้าห้างซีคอน สแควร์ โดยระดับน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30 เซนติเมตร เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีน้ำท่วมขังเป็นวงกว้าง ประชาชนต่างเดินลุยน้ำท่วมออกจากที่พักด้วยความยากลำบาก เนื่องจากระดับน้ำสูงถึงระดับเข่า นอกจากนี้ยังมีรถยนต์จอดเสียบนสะพานข้ามคลองต่างๆ บน ถ.ศรีนครินทร์จำนวนมาก

    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวภายหลังว่า รู้สึกเสียใจมากและกราบขออภัยชาว กทม.ที่เกิดฝนตกหนักจนไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน โดยฝนที่ตกต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ มีปริมาณฝนสะสมที่วัดได้ 148 มิลลิเมตรจนทำให้ ถ.ศรีนครินทร์ และ ถ.บางนา - ตราดเกิดน้ำท่วมขัง ซึ่งกทม.จะเร่งระบายน้ำลงคลองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยสถานีสูบน้ำคลองตาช้างจะสูบน้ำลงคลองประเวศ ส่วนสถานีสูบน้ำคลองขวางสูบน้ำลงบึงหนองบอน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 - 8 ชั่วโมง คาดว่าจะกลับเข้าสู่สภาพปกติในช่วงเย็นของวันนี้

    สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาว กทม.จะแก้ไขอย่างเป็นระบบ โดยจะเร่งรัดโครงการก่อสร้างปรับปรุง ถ.ศรีนครินทร์ จากบริเวณแยก ถ.พัฒนาการถึง ถ.สุขุมวิท 103 ซึ่งจะมีการปรับปรุงถนนและทำท่อระบายน้ำให้มีมาตรฐาน หลังจากที่ กทม.ได้รับโอนพื้นที่จากกรมทางหลวงชนบทในฐานะหน่วยงานที่ก่อสร้าง ถ.ศรีนครินทร์ แต่เนื่องจากที่ผ่านมากรมทางหลวงชนบทสร้างเพียงถนนอย่างเดียวไม่ได้ทำท่อระบายน้ำด้วย ทำให้ ถ.ศรีนครินทร์ทั้งเส้นไม่สามารถระบายน้ำลงระบบท่อได้ พร้อมกันนี้ตนยังได้สั่งการให้สำนักการโยธา (สนย.) สำรวจว่ามีถนนเส้นใดบ้างที่กรมทางหลวงชนบทสร้างไว้ และมีกี่เส้นทางที่ไม่ได้ทำท่อระบายน้ำไว้ด้วย เพื่อที่ กทม.จะได้ประสานไปยังกรมทางหลวงชนบทเพื่อขอรับโอนมาให้ กทม.รับผิดชอบ และดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเองในกรณีที่กรมทางหลวงไม่มีงบประมาณดำเนินการหรือรับผิดชอบไม่ได้ ซึ่งตนพร้อมที่จะหางบประมาณมาดำเนินการเอง

    ด้านนายชาตินัย เนาวภูต ผอ.สำนักการโยธา (สนย.) กล่าวว่า โครงการก่อสร้างปรับปรุง ถ.ศรีนครินทร์ จากบริเวณแยก ถ.พัฒนาการถึง ถ.สุขุมวิท 103 งบประมาณ 800 ล้านบาท เป็นหนึ่งในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ 16 โครงการที่ดำเนินการตั้งแต่ปี 48 ที่ผ่านมา แต่มีปัญหาถูกตรวจสอบเรื่องการทุจริตจนต้องล้มประมูลไป จากนั้น สนย.ได้เปิดประกวดราคาไปแล้วในปี 51 และสุดท้ายต้องยกเลิกสัญญาตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเดือน มิ.ย.52 ที่มีมติเห็นชอบให้ช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพก่อสร้างที่ทำสัญญากับทางราชการ และได้รับผลกระทบจากการปรับราคาของวัสดุก่อสร้างและค่าขนส่ง ซึ่งล่าสุดได้รับการอนุมัติโครงการแล้ว เนื่องจากงบประมาณโครงการเป็นของรัฐบาลร้อยละ 60 และ กทม.ร้อยละ 40 ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการเปิดประกวดราคา คาดว่าภายใน 2 - 3 เดือนน่าจะได้ผู้รับเหมา ทั้งนี้ หากโครงการดังกล่าวดำเนินการเสร็จสิ้น จะทำให้การจราจรบน ถ.ศรีนครินทร์ไม่มีปัญหาการจราจรติดขัดและไม่มีปัญหาน้ำท่วมด้วย
    วันเดียวกัน ที่จ.กาญจนบุรี นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รอง ผวจ.กาญจนบุรี ได้มีหนังสือด่วนที่สุด จากศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม จังหวัดกาญจนบุรี แจ้งถึงนายอำเภอทุกอำเภอและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องว่า “จากการที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าในระยะ 2-3 วันนี้ หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมอ่าวไทยตนบนภาคกลางและภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่นและลมกระโชกแรง ซึ่งอาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และ ดินถล่ม ที่จะสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงขอให้ดำเนินการดังนี้

    รองผวจ.กาญจน์ แจ้งว่า “จังหวัดกาญจนบุรีจึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบลุ่มริมน้ำที่ลาดเชิงขาและพื้นที่เสี่ยงภัยทราบเกี่ยวกับภัยอันเกิดจากฝนตกหนัก อาจทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่มได้อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มได้ และให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องปฏิบัติงานเฝ้าระวัง 24 ชม. รวมทั้งให้ใช้ประโยชน์จากมิสเตอร์เตือนภัยประจำหมู่บ้านในการแจ้งข้อมูลสถานการณ์ภัยที่เกิดขึ้น และให้แจ้งต่อศูนย์ฯเพื่อรับทราบสถานการณ์เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนให้ทันต่อทุกสถานการณ์ต่อไป”

    ยิงอีกแล้ว



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ชาวเกาหลีใต้ที่สถานีรถไฟกรุงโซล มุงดูทีวีที่รายงานข่าวด่วนว่าเกาหลีเหนือทดสอบการยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้อีก 5 ลูก นอกชายฝั่งทางตะวันออก เมื่อ 12 ต.ค. หลังจากเพิ่งทดสอบยิงขีปนาวุธไปเมื่อต้นเดือนก.ค. ช่วงเดียวสหรัฐฉลองวันชาติทำให้ถูกสหประชาชาติประณาม (เอพี)



    ย้ากส์!

    เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์



    [​IMG]แมตส์ ฮัมนัส ลุงวัย 62 ปี ในเมืองเฮลซิงบอร์ก สวีเดน กดชัตเตอร์แมวที่บ้านมาอวด ลงหนังสือพิมพ์เดลี่เมล์แดนผู้ดี
    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    เจ้ามัฟฟี่กับ เจ้าไทเกอร์ มันเหาะสู้กันได้ใจ เหมือนฉากในเคราชิ่ง ไทเกอร์ ฮิดเดน ดราก้อน




    "มันสู้กันสุดฤทธิ์ แต่พอสู้เสร็จ มันก็กลับเข้าบ้าน ไปนอนซุกกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น" ลุงฮัมนัสกล่าว

    คนน่าเอาเยี่ยงอย่างใช่มั้ยลุง?

    เชื้อหวัดพันธุ์ใหม่ หวนระบาดสหรัฐ



    ดร.แอน ชูแช็ต ผู้เชี่ยวชาญโรคไข้หวัดใหญ่ สังกัดศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ สหรัฐอเมริกา (ซีดีซี) เปิดเผยว่า สถานการณ์ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เอช 1 เอ็น 1 เริ่มกลับมาระบาดในวงกว้างอีกครั้งในสหรัฐเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ล่าสุดพบรายงานผู้ติดเชื้อแล้วใน 37 รัฐ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่พบใน 27 รัฐ ส่วนจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิต เฉพาะเด็กเล็กมีทั้งสิ้น 76 ราย

    "อย่างไรก็ดี วัคซีนป้องกันไวรัสเอช 1 เอ็น 1 ได้เริ่มทยอยส่งออกจากโรงงานไปยังคลินิกต่างๆ แล้ว โดยวัคซีนชุดแรกจะเป็นชนิดฉีดพ่นทางจมูก ตามด้วยวัคซีนชนิดฉีด และประชากรกลุ่มที่ถูกจัดอันดับว่าควรได้รับวัคซีนเป็นอันดับต้นๆ เพราะเสี่ยงติดเชื้อสูง ได้แก่ สตรีมีครรภ์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่การแพทย์" ดร.ชูแช็ต กล่าว


    "WWF"สำรวจลุ่มน้ำโขง ตะลึงพบ163สิ่งมีชีวิตพันธุ์ใหม่



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ตุ๊กแกลายเสือดาว (Leopard Gecko)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>กองทุนสัตว์ป่าโลก หรือ "WWF" กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแถวหน้า เปิดเผยรายงานและภาพถ่าย "สัตว์และพืชสายพันธุ์ใหม่" 163 ชนิดที่ค้นพบในประเทศกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งอนาคตอันใกล้เสี่ยง "สูญพันธุ์" ล้มหายตายจากไปจากพื้นที่ เพราะผลกระทบจากวิกฤตการณ์ "โลกร้อน!"



    การค้นพบสัตว์และพืชพันธุ์ใหม่ 163 ชนิดเกิดขึ้นหลังจากคณะนักวิทยา ศาสตร์ของ WWF ลงพื้นที่ศึกษาระบบนิเวศวิทยาของประเทศในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เมื่อปีพ.ศ.2551 อันประกอบไปด้วยไทย กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และพื้นที่มณฑลยูนนาน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

    โดย "สิ่งมีชีวิต" ที่พบใหม่ทั้งหมดนั้น แยกเป็น

    พืช 100 ชนิด

    ปลา 28 ชนิด

    สัตว์เลื้อยคลาน 18 ชนิด

    สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ หรือสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 14 ชนิด

    สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 2 ชนิด

    และนกอีก 1 ชนิด



    กองทุนสัตว์ป่าโลกสาขาประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า

    รายละเอียด พร้อมกับรูปภาพสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่หายากและมีความโดดเด่น เฉพาะตัวดังกล่าวปรากฏอยู่ในรายงานเรื่อง "Close Encounters" ซึ่งเขียนและเผย แพร่หลังจากคณะทำงาน WWF บุกเข้าไปค้นพบพวกมันภายในพื้นที่ป่าและแม่น้ำสายต่างๆ ของประเทศภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

    เช่น กบในตระกูลมีเขี้ยวที่กินนกเป็นอาหาร (bird eating fanged frog) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในกลุ่มหนูผี 1 ชนิด (musk shrew) จากทั้งหมด 4 ชนิดที่กำลังได้รับ การจำแนกเป็นชนิดพันธุ์ใหม่ และตุ๊กแกลายเสือดาว (leopard gecko) ด้วยดวงตาสีส้ม ขายาวชะลูด และลำตัวที่เต็มไปด้วยสีสัน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    1. "Oligodon Deuvei" งูพันธุ์ใหม่รูปโฉมดุเอาการ ตัวยาวราวฟุตครึ่ง มีลายยาวสีส้มด้านบน พบในเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ชอบอยู่ตามสวนผัก

    2. งูลายเสือ หรือ Tiger-Striped Pitviper พบบนเกาะหอนซอน จ.เกียนยาง เวียดนาม

    3. นกน่งกั่ง

    4. กบโคราช (Korat Big-Mouthed Frog)

    5.กบตัวเป็นตะปุ่มตะป่ำ สายพันธุ์ใหม่ "Rough Coated Tree Frog" หรือ "Philautus Quyeti" เจอในเวียดนาม

    6. ปลาโอเดซซา บาร์บ (Odessa Barb) เคยเจอในตลาดค้าปลาสวยงามเมืองโอเดซซา ประเทศยูเครน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พบในแม่น้ำโขงของพม่า ซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ

    7."Cnemaspis Biocellata" ตุ๊กแกสีสดใส พบตรงชายแดนไทย-มาเลเซีย มีจุดสีเหลืองตามลำตัว

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    "การค้นพบครั้งนี้แสดงให้เห็นถึง ความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศในภูมิภาค เรากำลังจดจ่ออยู่กับการพยายามจะจับตุ๊กแกชนิดใหม่ตัวหนึ่ง ทันใดนั้นเจ้าลูกชายของผมก็ร้องบอกว่า มีหัวของงูตัวหนึ่งอยู่ห่างจากมือผมที่วางอยู่บนหินเพียงไม่กี่นิ้ว เราเลยจับมาทั้งตุ๊กแกและงู และทั้ง 2 ตัวเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ของโลก" ดร.ลี กริสเมอร์ แห่งมหาวิทยาลัยลาเซียร่า แคลิฟอร์เนีย หนึ่งในทีมงาน WWF กล่าว



    ด้าน สจ๊วร์ต แชปแมน ผู้อำนวยการฝ่ายอนุรักษ์ WWF แห่งลุ่มน้ำโขง แถลงที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ อาคารมณียา กรุงเทพฯ ว่า

    สำหรับนกพันธุ์ใหม่ที่พบ มีนกกลุ่มกินแมลงป่าฝนชนิดใหม่รวมอยู่ด้วย มีชื่อสามัญว่า "Nongbang Babbler" (นกน่งกั่ง) แตกต่างจากนกอื่นๆ ตรงที่ชอบเดินหากินบนพื้นดินมากกว่าที่จะบิน และ จะบินก็ต่อเมื่อตกใจเท่านั้น พบในแถบป่าดงดิบเขตอุทยานธรรมชาติน่งกั่ง บริเวณจีนตอนใต้ ใกล้พรมแดนเวียดนาม

    ส่วนสัตว์พันธุ์ใหม่ดาวเด่นอื่นๆ ได้แก่ "กบโคราชปากใหญ่" (Korat Big-Mouthed Frog) พบที่โคราชของไทย อาศัยอยู่ตามทางน้ำ ในปากมีเขี้ยวเอาไว้คอยกัดกินแมลงและนก <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    กล้วยป่าพันธุ์ใหม่ "Musa Rubinea" พบในมณฑลยูนนาน ฝั่งติดชายแดนพม่า

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    นอกจากนั้น ในเวียดนามยังเจอ "ค้างคาวจมูกท่อ" รวมถึง "ตุ๊กแกลายเสือดาว" ซึ่งมีตาสีน้ำตาลอมส้มคล้ายตาแมวและมีลายบนตัวเหมือนเสือดาว พบบนเกาะแคตบา ทางภาคเหนือของเวียดนาม

    "หลังจากซุกซ่อนตัวมาเป็นเวลานับพันปี ในที่สุดเราก็ค้นพบพวกเขา ทั้งหมดนี้ยืนยันได้ว่า ยังมีสิ่งมีชีวิตอีกมากมายที่รอการค้นพบ หรือก็เป็นไปได้เช่นกันว่ามีสัตว์อีกหลายชนิดสูญพันธุ์ไปจากโลกก่อนที่เราจะได้รู้จัก" แชปแมนกล่าว



    ขณะนี้สิ่งที่ WWF แสดงความกังวลก็คือ ทั้งๆ ที่มนุษย์เพิ่งค้นพบสัตว์พันธุ์ใหม่

    แต่อีกไม่นานมันอาจสูญพันธุ์หมดไปทั้งพื้นที่ เพราะผลกระทบ จากภาวะสภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลง หรือภัยโลกร้อน!

    "ภัยที่กำลังเกิดขึ้นอันเนื่องจากการเปลี่ยน แปลงสภาพภูมิอากาศกำลังคุกคามสถานภาพของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้

    "การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศภายในประเทศลุ่มแม่น้ำโขงได้เกิดขึ้นแล้ว ภายหลังจากแบบจำลองภาวะโลกร้อนแสดง ให้เห็นว่า อุณหภูมิมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีความแปรปรวนของสภาพอากาศสูงมากขึ้น และแนวโน้มที่จะเกิดภัยทางธรรมชาติมีความถี่และทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

    "สอดคล้องกับข้อมูลที่รายงานจากการประชุมคณะกรรมการนานาชาติว่าด้วยภาวะการเปลี่ยน แปลงสภาพภูมิอากาศ (ไอพีซีซี) ชี้ว่า การเพิ่มระดับของน้ำทะเลและภาวะน้ำทะเลหนุนเพราะปัญหาโลกร้อน จะทำให้เกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อพื้นที่ชายฝั่ง โดยเฉพาะที่ราบลุ่มปากแม่น้ำโขง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของพื้นที่ปากแม่น้ำที่มีความเสี่ยงสูงมากที่สุดในโลก" WWF ระบุ



    แชปแมนเสริมว่า สิ่งมีชีวิตบางชนิดอาจสามารถ "ปรับตัว" ให้อยู่รอดได้ในช่วงเวลาหนึ่ง

    แต่บางชนิดก็ไม่สามารถปรับตัวได้ และต้องล้มหายตายจากไป

    ดังนั้น เราอาจจะได้เห็นการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตจำนวนมหาศาลเกิดขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ถูกค้นพบใหม่ในลุ่มน้ำโขงมีความเสี่ยงสูงมากเป็นพิเศษ เนื่องจากพื้นที่ "ถิ่นที่อยู่อาศัย" จะลดลงอย่างมากเพราะผลจากโลกร้อน ภัยแล้ง และน้ำท่วมผิดธรรมชาติ

    โดยทั่วไปสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะพึ่งพาอาศัยกันไม่มากก็น้อย ฉะนั้น หากการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้นเป็นไปในทิศทางที่ไม่สอดคล้องกัน วิวัฒนาการดังกล่าวอาจทำให้พวกมันมีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มาก ยิ่งขึ้นไปอีก

    ผู้อำนวยการ WWF ลุ่มน้ำโขง กล่าวด้วยว่า อยากให้แต่ละประเทศที่ใช้ประโยชน์ จากแม่น้ำโขงหันมาจับมือกันให้ความสำคัญกับการวางแผนรับมือปัญหาโลกร้อน และออกข้อตกลงที่เป็นรูปธรรม

    เพราะนอกจากจะช่วยรักษาดูแลสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในภูมิภาคแล้ว ยังช่วยปกป้องคุ้มครอง "ความหลากหลายทางชีวภาพ" ในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงเอาไว้สืบไปจนถึงคนรุ่นหลัง

    ปักกิ่งปลื้มแมว ชอบเรียนศิลปะ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 11 ต.ค. ซินหัวรายงานเรื่องราวน่ารักของแมวสีส้มตัวหนึ่งในมหาวิทยาลัยปัก กิ่งของจีนที่ชอบเข้าไปเรียนวิชาปรัชญาและศิลปะร่วมกับนักศึกษาจนได้ฉายาว่า "แมวนักวิชาการ" ที่กำลังได้รับความนิยมแพร่หลายในอินเตอร์เน็ตของชาวจีน

    เรื่องราวของแมวถูกโพสต์ในเว็บไซต์โดยผู้ที่ใช้ชื่อว่า "จิ๊กโก๋แก่ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง" ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. โดยเล่าว่า แมวตัวนี้เข้ามาที่มหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 2547 และ ชอบโผล่ไปตามชั้นเรียน บางครั้งจะปีนขึ้นไปบนโต๊ะหน้าห้อง บางครั้งก็นอนบนโต๊ะกับนักศึกษา วิชาที่ชอบคือปรัชญาและศิลปะ และบางครั้งทำท่าสั่นหัว เมื่อครูสอนด้วย
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,699
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** กรรมประเทศ ****

    นิสัยเหล่าผู้นำ....สามารถทำลายประเทศได้
    พระพุทธเจ้า จึงสอนให้พยายามตัดลดนิสัยตนเอง...อย่างจริงจัง
    คือ ....ปฏิบัติด้วยสัจจะ กล่าวออกไปแล้ว ดินฟ้าอากาศเป็นสักขีพยาน
    ทำได้ ทำไม่ได้ ตัวเองก็รู้...

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  15. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>น้ำป่าหลากท่วม 3 อำเภอ เมืองกาญจน์ฯ ถนนขาดหลายสาย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กาญจนบุรี 14 ต.ค.-ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนพื้นที่ 3 อำเภอ ของ จ.กาญจนบุรี กระแสน้ำยังพัดถนนขาดหลายสาย

    น้ำป่าจากเทือกเขาพื้นที่ อ.บ่อพลอย เลาขวัญ และห้วยกระเจา ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน พื้นที่ทางการเกษตร

    และถนนสายห้วยกระเจา เลาขวัญ ขาดหลายจุด รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทำให้หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ขณะที่นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ฝ่ายปกครองกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เฝ้าระวัง

    สถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และประกาศเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยขนย้ายสิ่งของไปอยู่ที่สูง

    ส่วนหมู่บ้านที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก จะประสานขอกำลังทหารจากกองกำลังสุรนารีเข้าไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>จีนยังครองแชมป์ยอดขายรถมากที่สุดในโลก เดือน ก.ย.พุ่ง 78%</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>จีน 14 ต.ค.-ยอดขายรถยนต์ในประเทศจีนในเดือนกันยายนพุ่งขึ้นร้อยละ 78 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทำให้จีนยังคงนำหน้าสหรัฐ มียอดจำหน่ายรถยนต์มากที่สุดในโลก

    สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ของประเทศจีนเผยว่า ในเดือนที่แล้ว จีนมียอดจำหน่ายรถยนต์ 1.33 ล้านคัน

    มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 78 นับเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันที่จีนขายรถยนต์ได้เพิ่มขึ้น เหตุผลสำคัญมาจากมาตรการลดภาษีและการจ่ายเงินอุดหนุนภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ของรัฐบาล


    ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ยอดจำหน่ายรถยนต์ของจีนอยู่ที่ 9.66 ล้านคัน

    มากกว่าช่วง 9 เดือนแรกของปีที่แล้วร้อยละ 34 และถือว่าเป็นประเทศที่จำหน่ายรถยนต์ได้มากที่สุดในโลกต่อไป โดยที่สหรัฐยังอยู่ที่อันดับ 2 ด้วยยอดขายรถยนต์ช่วง 9 เดือนแรก 7.85 ล้านคัน.-สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    โดย :ชาเขียว (สมาชิก) โพสเมื่อ [ วันพุธ ที่ 14 ตุลาคม 2552 เวลา 07:50 น.] [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฝนถล่มกรุง ถ.ศรีนครินทร์อ่วม ท่วมถึงหน้าแข้ง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ต.ค. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.และคณะ

    ได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมบริเวณพื้นที่เขตบางนา จากบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัล บางนา ถ.บางนา - ตราดขาออก จากนั้นขึ้นรถกระบะตรวจสภาพน้ำท่วมบริเวณ ถ.ศรีนครินทร์จากหน้าวัดศรีเอี่ยมถึงหน้าห้างซีคอน สแควร์ โดยระดับน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30 เซนติเมตร เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีน้ำท่วมขังเป็นวงกว้าง ประชาชนต่างเดินลุยน้ำท่วมออกจากที่พักด้วยความยากลำบาก เนื่องจากระดับน้ำสูงถึงระดับเข่า นอกจากนี้ยังมีรถยนต์จอดเสียบนสะพานข้ามคลองต่างๆ บน ถ.ศรีนครินทร์จำนวนมาก
    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวภายหลังว่า รู้สึกเสียใจมากและกราบขออภัยชาว กทม.ที่เกิดฝนตกหนักจนไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน

    โดยฝนที่ตกต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ มีปริมาณฝนสะสมที่วัดได้ 148 มิลลิเมตรจนทำให้ ถ.ศรีนครินทร์ และ ถ.บางนา - ตราดเกิดน้ำท่วมขัง ซึ่งกทม.จะเร่งระบายน้ำลงคลองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยสถานีสูบน้ำคลองตาช้างจะสูบน้ำลงคลองประเวศ ส่วนสถานีสูบน้ำคลองขวางสูบน้ำลงบึงหนองบอน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 - 8 ชั่วโมง คาดว่าจะกลับเข้าสู่สภาพปกติในช่วงเย็นของวันนี้



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาว กทม.จะแก้ไขอย่างเป็นระบบ โดยจะเร่งรัดโครงการก่อสร้างปรับปรุง ถ.ศรีนครินทร์ จากบริเวณแยก ถ.พัฒนาการถึง ถ.สุขุมวิท 103

    ซึ่งจะมีการปรับปรุงถนนและทำท่อระบายน้ำให้มีมาตรฐาน หลังจากที่ กทม.ได้รับโอนพื้นที่จากกรมทางหลวงชนบทในฐานะหน่วยงานที่ก่อสร้าง ถ.ศรีนครินทร์ แต่เนื่องจากที่ผ่านมากรมทางหลวงชนบทสร้างเพียงถนนอย่างเดียวไม่ได้ทำท่อระบายน้ำด้วย ทำให้ ถ.ศรีนครินทร์ทั้งเส้นไม่สามารถระบายน้ำลงระบบท่อได้ พร้อมกันนี้ตนยังได้สั่งการให้สำนักการโยธา (สนย.) สำรวจว่ามีถนนเส้นใดบ้างที่กรมทางหลวงชนบทสร้างไว้ และมีกี่เส้นทางที่ไม่ได้ทำท่อระบายน้ำไว้ด้วย เพื่อที่ กทม.จะได้ประสานไปยังกรมทางหลวงชนบทเพื่อขอรับโอนมาให้ กทม.รับผิดชอบ และดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเองในกรณีที่กรมทางหลวงไม่มีงบประมาณดำเนินการหรือรับผิดชอบไม่ได้ ซึ่งตนพร้อมที่จะหางบประมาณมาดำเนินการเอง

    ด้านนายชาตินัย เนาวภูต ผอ.สำนักการโยธา (สนย.) กล่าวว่า โครงการก่อสร้างปรับปรุง ถ.ศรีนครินทร์ จากบริเวณแยก ถ.พัฒนาการถึง ถ.สุขุมวิท 103

    งบประมาณ 800 ล้านบาท เป็นหนึ่งในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ 16 โครงการที่ดำเนินการตั้งแต่ปี 48 ที่ผ่านมา แต่มีปัญหาถูกตรวจสอบเรื่องการทุจริตจนต้องล้มประมูลไป จากนั้น สนย.ได้เปิดประกวดราคาไปแล้วในปี 51 และสุดท้ายต้องยกเลิกสัญญาตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเดือน มิ.ย.52 ที่มีมติเห็นชอบให้ช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพก่อสร้างที่ทำสัญญากับทางราชการ และได้รับผลกระทบจากการปรับราคาของวัสดุก่อสร้างและค่าขนส่ง ซึ่งล่าสุดได้รับการอนุมัติโครงการแล้ว เนื่องจากงบประมาณโครงการเป็นของรัฐบาลร้อยละ 60 และ กทม.ร้อยละ 40 ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการเปิดประกวดราคา คาดว่าภายใน 2 - 3 เดือนน่าจะได้ผู้รับเหมา ทั้งนี้ หากโครงการดังกล่าวดำเนินการเสร็จสิ้น จะทำให้การจราจรบน ถ.ศรีนครินทร์ไม่มีปัญหาการจราจรติดขัดและไม่มีปัญหาน้ำท่วมด้วย

    วันเดียวกัน ที่จ.กาญจนบุรี นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รอง ผวจ.กาญจนบุรี ได้มีหนังสือด่วนที่สุด

    จากศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม จังหวัดกาญจนบุรี แจ้งถึงนายอำเภอทุกอำเภอและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องว่า “จากการที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าในระยะ 2-3 วันนี้ หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมอ่าวไทยตนบนภาคกลางและภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่นและลมกระโชกแรง ซึ่งอาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และ ดินถล่ม ที่จะสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงขอให้ดำเนินการดังนี้

    รองผวจ.กาญจน์ แจ้งว่า “จังหวัดกาญจนบุรีจึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบลุ่มริมน้ำที่ลาดเชิงขาและพื้นที่เสี่ยงภัยทราบเกี่ยวกับภัยอันเกิดจากฝนตกหนัก อาจทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่มได้อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มได้ และให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องปฏิบัติงานเฝ้าระวัง 24 ชม. รวมทั้งให้ใช้ประโยชน์จากมิสเตอร์เตือนภัยประจำหมู่บ้านในการแจ้งข้อมูลสถานการณ์ภัยที่เกิดขึ้น และให้แจ้งต่อศูนย์ฯเพื่อรับทราบสถานการณ์เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนให้ทันต่อทุกสถานการณ์ต่อไป”


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    โดย :พิกกี้โกะ (สมาชิก) โพสเมื่อ [ วันพุธ ที่ 14 ตุลาคม 2552 เวลา 07:26 น.] [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2009
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    2555-2556
    คลื่นยักษ์ถล่มโลก

    [​IMG]

    พุทธทำนาย จากศิลาจารึก

    เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล ๒๕๑๒ (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ

    ( ปี พ.ศ.2552 ในปัจจุบันนี้ คลาดเคลื่อนเร็วกว่าความเป็นจริงไป 48 ปี พ.ศ.ที่แท้จริงในขณะนี้คือปี พ.ศ.2504 ) -เกษม-

    หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล

    มีประมาณ ปี 2541 ลป.สรวง ท่านแวะมาที่วัดของ หลวงพ่อลมัย ในช่วงเข้าพรรษา และก่อนท่านจะจากไปท่านพูดเป็นภาษาเขมรกับหลวงพ่อลมัยว่า​

    "พ.ศ. 2550 ถึง 2555 หางนาค(พญานาค)กวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรมจะล้มตายมาก ส่วนคนดีมีศีลธรรม จะอยู่รอดปลอดภัยได้"

    หลวงพ่อลมัย ได้ถาม หลวงปู่สรวง ว่าถ้าน้ำท่วมมากขนาดนั้นคนดีก็คงไม่รอดเหมือนกันจะให้ทำอย่างไร หลวงปู่สรวงบอก 'คาถาเป่าน้ำ' ให้ไม่ท่วมร่างกายแก่หลวงพ่อลมัยว่า​

    "อุ้ม เกรอะ เกรอะ เกรอะ เตียงตึ๊ก เกรอะ ตึงได อุมสติสวาหะ"​

    ถาม (ทีมงานลานโพธิ์) - หลวงปู่สรวง เคยสอนวิชาอะไรให้หลวงพ่อมั้ย ?​

    ตอบ (หลวงพ่อลมัย) - เคยสอน แต่โยมจะได้มั้ย เคยสอนว่า ต่อไปนะ เผาของหลวงพ่อสามวันสามคืนไม่หมด พวกยา พวกอะไร หลวงพ่อให้ก็รับ เผาโยนใส่กองไฟ ให้อะไรก็รับ แล้วก็เผา ตอนหลวงพ่อมา มีคนมาถวายเสื้อ ถวายทรัพย์ เผาหมด เขาว่ายั่งงี้ ..​

    ต่อไปนี้ พ.ศ. 2555 คนเก่งอยู่ในเมืองไทย อยู่ที่ไหนก็ตามแต่ มุมไหนก็แล้วแต่ พ่อ - แม่ - ญาติพี่น้อง ไม่ต้องสู้ จะตายหมด น้ำทะเลตีข้างล่างได้ครึ่งโลกแล้ว ไม่ใช่ครึ่งประเทศนะ ครึ่งโลกแล้ว มาบอกให้หยุดนะ ไม่ต้องอยากชนะกันให้ออกไป อย่ามีเวร อย่ามีกรรม ครั้งที่สองบอกอีก เป็นภาษาเขมรว่า ให้ออกก่อน​

    "พวกที่ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ออกไปก่อน นางนาคเป่าน้ำน้ำทะเลเต็มไปหมด" ​

    ให้มันไปแต่พวกนี้ ประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ กลับเข้ามาก็ตีท่วมภูเขา มีทั้งดินมีทั้งโคลน "พวกทำไม่ดีตายหมด" แกว่า...เทวดาตัดสินเอง เจ้ากรรมนายเวรตัดสินเอง หลวงพ่อไม่กลัว(ลป.สรวง) แล้วก็ไม่หนีด้วย หลวงพ่อนี่ในตัวสังขละ ท่านสร้างมาหลายวัดเหมือนกัน ไปอยู่ที่นั่นเขาเอาระเบิดเข้าไป สามปีมอบตัวกันหมด ที่ถนนดินแดงหลวงพ่อก็ไป​

    ถาม - ที่ หลวงปู่สรวง พูดหมายความว่ายังไง ?

    ตอบ - แปลว่า ไม่ต้องกลัว 2555 นางนาค(พญานาค)เป่าน้ำ ท่วมทั้งน้ำทั้งดิน ตายวอดวาย คนที่ไม่ดีตายหมด คนดีไม่ตาย "คนดีมันเป็น ไม่ตายจะรอด"

    ท่านบอกให้คอยดู แต่มาเป่านี่มันปี 2547 - 2550 ไม่ใช่สึนามินะ นางนาคสิเป่า ปี 55 แถวเราน้ำไม่มี เขาว่านางนาคเอาขึ้นข้างบน สามวันสามคืนก็เป็นลูกเห็บ ลูกที่หนึ่ง ลูกที่สอง ถูกใครตายระเนระนาด อย่าให้ถึงขนาดนั้น "คนดีไม่ตาย" ​

    แกว่างั้นนะ ถ้าคนมีศีลห้าไม่ถูก ก็เรา ไม่ได้กบฎพระเจ้าอยู่หัว คนที่กบฎ คนที่อยากชนะ ผืนแผ่นดินนี้ตายแน่ จะยึดแผ่นดินเป็นหลักแค่นั้นแหละ ปีนี้นาคไม่ขึ้นที่หนองคาย นาคไม่ขึ้น​

    หลวงปู่สรวง ท่านละสังขารเมื่อ วันที่ 8 กันยายน 2542 (ขึ้น 10 ค่ำเดือน 10 ปีมะโรง ) สะรีระสังขารของท่านตั้งอยู่ที่ศาลา.ออยเตียนสรูล.วัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2009
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    2012 วันสิ้นโลก ?

    [​IMG]

    ทฤษฏีที่โด่งดังมากสุดคงต้องยกให้กับคำทำนายที่ว่า โลกบูดเบี้ยวใบนี้จะแตกดับในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 หรืออีกแค่ 3 ปีข้างหน้า ด้วยชุดเลขสวย 21/12/2012

    ทฤษฎีนี้คิดค้นขึ้นโดยชนเผ่ามายัน วันดังกล่าวถือเป็นวันสิ้นสุดปฏิทินลอง เคาต์ (Long Count) หรือ ปฏิทินลำดับที่ 3 ของชาวมายัน โดยปฏิทินลอง เคาต์ เล่มล่าสุดนั้น เริ่มต้นในปี 3114 ก่อนคริสตกาล และจะดำเนินต่อเนื่องเป็น 13 รอบบักตุน (baktun) กินเวลาทั้งสิ้นราว 5,126 ปี บวกลบออกมาแล้วก็ตรงกับปี 2012 พอดี ​

    ก่อนเริ่มต้นของ 13 รอบบักตุน เรียกได้อีกอย่างว่า “อาทิตย์ดวงที่ 5” ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวจะเวียนมาบรรจบเพื่อก่อกำเนิดดวงอาทิตย์ครบ 5 ดวง ในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 โดยคำทำนายระบุเอาไว้ว่า ในวันนั้นโลกจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬาร ไล่เรียงตั้งแต่ภัยธรรมชาติที่จะทำลายทุกสิ่งไปจนถึงสงครามอภิมหาโลกาวินาศ จนไม่มีมนุษย์คนได้มีชีวิตรอด ซึ่งอย่างหลังนี้อาจเชื่อมโยงได้กับทฤษฎีสงครามโลกครั้งที่ 3 ของนอสตราดามุส โหราจารย์ชื่อดัง ​

    น่าแปลกที่นอกจาก 21 ธันวาคม 2012 จะเป็นวันสุดท้ายของปฏิทินชนเผ่ามายันแล้ว ยังมีข้อมูลทางดาราศาสตร์ที่ระบุไว้ว่า จะเกิดพลังงานลึกลับที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล โดยในเวลาที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่สุดในช่วงฤดูหนาวของปี 2012 นั้น ดวงอาทิตย์จะอยู่ระนาบเดียวกับใจกลางของทางข้างเผือกเป็นครั้งแรกในรอง 2.6 หมื่นปี ซึ่งหมายความว่า พลังงานทุกประเภทจากใจกลางของทางช้างเผือกจะถาโถมและเกิดการปะทะกับพลังงานทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นของโลกในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 เวลา 23.11 น. (11.11 pm ตามเวลาสากล) ​

    สมมุติว่า มีมนุษย์เหลือรอดบนโลก ก็ไม่อาจรู้ว่าจะจำตัวเองได้หรือไม่ เนื่องจากพลังงานทั้งหลายแหล่ข้างต้น จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ ดีเอ็นเอ นำมาซึ่งการกลายพันธุ์ หรือสรุปคร่าว ๆ ได้ว่า ถึงตอนนั้นโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง คนที่รอดต้องดิ้นรนสร้างสิ่งต่าง ๆ นับจากศูนย์ ​

    นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลทางธรณีวิทยาที่ชี้ว่า ปี 2012 คือปีที่ซูเปอร์โวลคาโน หรือภูเขาไฟใต้น้ำ ครบกำหนดเวลา 7.4 หมื่นปีที่จะทำงานหรือระเบิดตัวเอง โดยสัญญาณเตือนภัยครั้งล่าสุด คือโศกนาฏกรรมคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2004 ที่บอกให้ชาวโลกรู้ว่า โครงสร้างพื้นผิวโลกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และการระเบิดของซูเปอร์โวลคาโน อาจไม่ใกล้ไม่ไกลบริเวณที่เคยเกิดสึนามิมาก่อน ​

    และเป็นที่น่าสักเกตว่า ระยะหลังมานี้ เกิดเหตุแผ่นดินไหว ดินถล่ม และน้ำในแม่น้ำหรือทะเลสาบเหือดแห้งบ่อยครั้งทั่วโลก เป็นไปได้ที่ส่วนหนึ่งเกิดจาก “ภาวะโลกร้อน” แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกันว่าโครงสร้างของพื้นผิวโลกกำลังขยับและเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยที่มนุษย์ไม่รู้ตัว

    ด้านนักวิทยาศาสตร์บางรายกลับมองว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของโลกจะเป็นภัยคุกคามที่ย้อนกลับมาทำลายล้างมนุษยชาติเองในท้ายที่สุด โดยในบทความเรื่อง “วันสิ้นโลก” ของ ไมเคิล แฮนลอน ในเว็บไซต์เดลี เมล์ ระบุว่า วันสิ้นโลกที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้มาจากการระเบิดครั้งใหญ่ของโลกตามคำทำนายใด ๆ ทั้งสิ้น ทว่า กลับเป็นภัยเงียบที่ก่อตัวมานาน ที่มนุษย์กลับไม่เคยใส่ใจหรือรู้สึกต่างหาก ​

    อย่างไรก็ดี ไม่ว่าคำทำนายจะน่าสะพรึงกลัวสักเท่าใด ก็ไม่สำคัญเท่ากับความจริงที่ว่าเวลานี้ โลกของเราอาการหนักจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์ ความขัดแย้งระหว่างประเทศ หรือแม้แต่เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเกินไปจนทำให้หลายชาติ ต้องออกมาแสดงแสนยานุภาพของตัวเอง หากโลกไม่แตกอย่างคำทำนาย ก็คงมีสักวันที่ต้องล่มสลายตามอายุขัย เพราะถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเคยทำนายได้เลยว่า จริง ๆ แล้ว โลกมีอายุยืนยาวกี่ปีกันแน่ ? ​

    ที่มา : Posttoday
    http://atcloud.com/stories/37749

    คลิ๊กชมภาพยนต์ตัวอย่าง 2012 วันสิ้นโลก ได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

    <TABLE class=ts style="WIDTH: auto"><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 7px" vAlign=top>[​IMG]
    [​IMG]




    <TD style="PADDING-RIGHT: 3px" vAlign=top></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2009
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เกิดแผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์ที่หมู่เกาะในอะแลสกา

    [​IMG]

    วอชิงตัน 14 ต.ค.-สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งหมู่เกาะอะลูเชียน ของรัฐอะแลสกา ช่วงเช้าตรู่วันนี้ เป็นแผ่นดินไหวระลอกที่ 2 ในช่วงไม่ถึง 24 ชม.บริเวณดังกล่าว

    แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.21 น. ตามเวลาในไทย ห่างจากเขตนิโคลสกี ในหมู่เกาะอะลูเชียน ราว 120 ก.ม. และอยู่ลึกลงไป 13.7 ก.ม. แผ่นดินไหวครั้งนี้นับเป็นแผ่นดินไหวระลอกที่ 2 ที่หมู่เกาะอะลูเชียน หลังจากเกิดแผ่นดินไหว 6.2 ริกเตอร์ห่างจากเมืองอันนาแลสกา ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 91 ก.ม. เมื่อเวลา 12.37 น.วานนี้ ตามเวลาในไทย.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-14 07:37:15

    สังเวยแล้ว 3 ราย ป้าหม่าถล่มเกาะไหหลำ

    [​IMG]

    จีน 13 ต.ค. - พายุโซนร้อนป้าหม่าพัดถล่มเกาะไหหลำ ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม และมีผู้เสียชีวิตไป 3 คน

    พายุโซนร้อนป้าหม่าที่พัดถล่มเกาะไหหลำตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทำให้เกิดฝนตกและน้ำท่วมทั่วเกาะ และมีกระแสลมแรงจัด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และสูญหายอีก 1 คน จากเหตุเรือขนาดเล็กอับปางนอกชายฝั่งเกาะ ขณะที่การเดินเรือขนส่งสินค้าและเรือโดยสารที่เดินทางระหว่างเกาะไหหลำกับแผ่นดินใหญ่ต้องระงับไปจนถึงคืนวันนี้ นอกจากนี้ กระแสลมแรงยังทำให้ต้นไม้หักโค่น และเรือประมงจำนวนหนึ่งได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก. -สำนักข่าวไทย

    2009-10-13 16:06:38

    พายุโซนร้อนแพทริเซียเคลื่อนตัวเข้าเม็กซิโก

    [​IMG]

    เม็กซิโก 14 ต.ค. - พายุโซนร้อนแพทริเซียเคลื่อนตัวเข้าหาเมืองตากอากาศในเม็กซิโก เจ้าหน้าที่ต้องสั่งปิดโรงเรียนและเตรียมที่พักชั่วคราวไว้สำหรับอพยพประชาชน

    พายุโซนร้อนแพทริเซีย ซึ่งความแรงลมลดมาอยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวเข้าใกล้เมืองลอสคาบอส ของเม็กซิโก ห่างจากชายฝั่งเมืองตากอากาศทางใต้สุดของแหลมบาฮา 138 กิโลเมตร ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐในเมืองไมอามี บอกว่าพายุเคลื่อนตัวขึ้นเหนือด้วยความเร็ว 11 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    อิทธิพลของพายุลูกนี้ ทำให้ท้องฟ้าเมืองท่องเที่ยวคาโซ ซาน ลูคัส ของเม็กซิโก มืดครึ้มและฝนตกเป็นระยะ โรงแรมต้องยกเลิกกิจกรรมต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยวตามชายหาดทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-14 10:16:16

    หลายพื้นที่ของยุโรปเผชิญพายุหิมะ

    [​IMG]

    ยุโรป 14 ต.ค.-หลายพื้นที่ของยุโรปเผชิญพายุหิมะที่ตกลงมาอย่างหนักเร็วกว่าปกติ สร้างความลำบากให้บรรดาผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างมาก

    ที่เยอรมนี หิมะแรกที่โปรยปรายลงมาอันเป็นสัญญาณว่าฤดูหนาวกำลังมาจะมาถึง ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์บนทางหลวงเอ-20 ระหว่างเมืองร็อกสตอกไปยังเมืองลูเบกหลายครั้ง ในจำนวนนี้เป็นเหตถุรถบรรทุก 18 ล้อพลิกคว่ำ และรถยนต์ชนกัน 5 คัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน

    เช่นเดียวกับที่กรุงซาราเยโวในบอสเนีย ซึ่งมีหิมะโปรยปรายลงมาอย่างหนัก บางพื้นที่หิมะสูงถึง 30 เซนติเมตร ทำให้สายไฟฟ้าขาดเนื่องจากรับน้ำหนักหิมะไม่ไหว ส่งผลให้ประชาชนหลายหมื่นคนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้

    ส่วนพื้นที่ตอนเหนือของโปแลนด์ ที่หิมะตกมาตลอด 2 วันที่ผ่านมา จนอุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส แต่ก็ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนชื่นชอบ เพราะหิมะที่ปกคลุมภูเขาทำให้ได้วิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-14 04:14:59

    แคลิฟอร์เนียเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม-โคลนถล่ม

    [​IMG]

    สหรัฐฯ 14 ต.ค. - ชาวรัฐแคลิฟอร์เนียกำลังเตรียมพร้อมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและโคลนถล่ม ขณะที่พายุเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาจนทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ที่เพิ่งจะเผชิญกับไฟป่าไปเมื่อไม่นานนี้

    ขณะนี้ ประชาชนในเมืองซานตา บาร์บารา ไปจนถึงบริเวณเชิงเขาในนครลอสแองเจลิส ต่างนำกระสอบทรายมาวางป้องกันน้ำท่วม หลังฝนเริ่มกระหน่ำลงมาตั้งแต่ก่อนเช้าตรู่ของวันอังคารในหลายพื้นที่ ของรัฐแคลิฟอร์เนีย และคาดว่าจะตกหนักขึ้นในช่วงเย็นไปจนถึงวันพุธ

    ทางการได้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เขตสเตชั่น ไฟร์ ในอุทยานแห่งชาติลอสแองเจลิส ที่เคยถูกไฟป่าเผาผลาญให้ระวังโคลนถล่ม หลังเกิดฝนตกหนักสูงกว่า 4 นิ้ว ทั้ง ๆ ที่ตามปกติแล้ว ลอสแองเจลิสจะมีปริมาณฝนในเดือนตุลาคม สูงไม่ถึงครึ่งนิ้ว.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-14 11:13:50

    ญี่ปุ่นให้คำมั่นช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย

    [​IMG]

    อินโดนีเซีย 14 ต.ค. - รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ให้คำมั่นว่า จะเดินหน้าให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย

    นายคัตสึยะ โอกาดะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวระหว่างพบปะกับ ประธานาธิบดีซูสิโล บัมบัง ยุดโดโยโน ของอินโดนีเซีย รับปากว่าญี่ปุ่นจะเดินหน้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงในเมืองปาดัง จังหวัดสุมาตราตะวันตก ต่อไป

    ต่อมาในการพบปะกับ นายฮัดซัน วิรายูดา รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย นายวิรายูดา ได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นช่วยเหลือในการบูรณะโรงเรียน และโรงพยาบาลหลายแห่ง ซึ่ง นายโอกาดะ กล่าวว่าญี่ปุ่นจะมุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสิ่งจำเป็นพื้นฐานก่อน ส่วนการฟื้นฟูสาธารณูปโภคต่างๆ จะเป็นภารกิจในระยะยาว

    ในวันนี้ นายโอกาดะ จะเดินทางไปยังเกาะสุมาตรา เพื่อสำรวจว่าพื้นที่ประสบภัยต้องการช่วยเหลือในรูปแบบใด.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-14 09:37:50

    ข่าวภายในประเทศ

    น้ำป่าหลากท่วม 3 อำเภอ เมืองกาญจน์ฯ ถนนขาดหลายสาย

    [​IMG]

    กาญจนบุรี 14 ต.ค.-ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนพื้นที่ 3 อำเภอ ของ จ.กาญจนบุรี กระแสน้ำยังพัดถนนขาดหลายสาย

    น้ำป่าจากเทือกเขาพื้นที่ อ.บ่อพลอย เลาขวัญ และห้วยกระเจา ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน พื้นที่ทางการเกษตร และถนนสายห้วยกระเจา เลาขวัญ ขาดหลายจุด รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทำให้หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

    ขณะที่นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ฝ่ายปกครองกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และประกาศเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยขนย้ายสิ่งของไปอยู่ที่สูง ส่วนหมู่บ้านที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก จะประสานขอกำลังทหารจากกองกำลังสุรนารีเข้าไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-14 01:11:44

    พิษณุโลกประกาศอำเภอบางระกำประสบภัยน้ำท่วม

    [​IMG]

    ภูมิภาค 13 ต.ค.- แม่น้ำยม ขยายวงกว้างท่วมหลายพื้นที่ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะอำเภอบางระกำ น้ำสูงกว่า 1 เมตร จังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน เช่นเดียวกับชาวศรีสะเกษ น้ำท่วมยังทรงสูง นาล่มแล้ว 2,000 ไร่

    นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ประกาศให้อำเภอบางระกำ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน เพื่อให้การช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึง เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมยังทรงตัวสูง และแม่น้ำยมขึ้นเกินจุดวิกฤติกว่า 1 เมตร ประกอบกับมีน้ำเหนือจากจังหวัดสุโขทัย แพร่ และกำแพงเพชร ไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมขังเพิ่มขึ้นกว่าเดิม และขยายวงกว้างถึง 8 ตำบล 45 หมู่บ้าน นาข้าวเกือบ 40,000 ไร่ ขณะที่ชาวบ้านเร่งขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัย

    ส่วน จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านโนนสมบูรณ์ ต.หนองบัวดง อ.ศิลาลาด ยังประสบภาวะน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร โดยนาข้าวตำบลหนองบัวดง และตำบลกุง เสียหายสิ้นเชิงแล้ว 2,000 ไร่ ทางชลประทานจังหวัด นำเครื่องสูบน้ำมาเร่งระบายออก รวมทั้งเตรียมแผนสร้างคันไดพนังกั้นน้ำเป็นระยะ เพื่อควบคุมทางน้ำไม่ให้ไหลล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร สำหรับ จ.ศรีสะเกษ เกิดภาวะน้ำท่วมจากพายุกิสนา ช่วงปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชน 19 อำเภอ เดือดร้อนกว่า 69,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 169,000 ไร่ บ่อปลาเสียหาย 107 บ่อ ซึ่งจังหวัดให้การช่วยเหลือเบื้องต้น นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายแล้ว 15,790 ชุด.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-13 12:04:40

    นศ.เทคนิคแกะประทัดยักษ์ระเบิดใส่มือ

    [​IMG]

    อุตรดิตถ์ 12 ต.ค.- พ.ต.ท.พิเชษฐพงษ์ ธนาบูรณศักดิ์ พงส.สบ.3 สภ.เมืองอุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 17.30 น.วันนี้ (12 ต.ค.) ว่า มีผู้บาดเจ็บภายในหอพักชาย ย่านถนนอินใจมี เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบว่าภายในห้องเกิดเหตุมีรอยเลือดตามพื้นและที่นอน รวมทั้งพบชิ้นส่วนนิ้วมือของมนุษย์

    ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ไปก่อนหน้านี้ เป็นนักศึกษาชายอายุ 16 ปี ชั้น ปวช.ปี 2 ของวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่ง ถูกระเบิดของประทัดเข้าบริเวณข้อมือซ้ายและเนื้อนิ้วมือซ้ายทั้ง 5 นิ้ว ขาดหายไป ส่วนใบหน้าและลำตัวเป็นแผลถลอก แพทย์ต้องให้นอนพักรักษาตัวอยู่อยู่ที่ห้องกระดูกชาย ชั้น 2 ตึกศัลยกรรมชาย โดยก่อนเกิดเหตุผู้บาดเจ็บและเพื่อนอีก 5 คน นำประทัดยักษ์ลักษณะทำขึ้นเองมาจากข้างนอก เมื่อมาถึงหอพักจึงแกะออกมาดึงเล่นจนเกิดเสียงระเบิดขึ้นดังทั่วตึก.-สำนักข่าวไทย

    2009-10-12 19:12:01

    ที่มา MCOT News By Thai News Agency : MCOT dot Net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,699
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ศักราช ****

    กาลีศักราช ครบ 5000 ปี...คือ กาลีศักราชปีที่ 5001
    ต่อมาอีก 111 ปี....
    คือ กาลีศักราชที่ 5112
    คือ พ.ศ.2555
    คือ ค.ศ.2012

    ตามหาผู้เคยสัญญาไว้ ให้กลับมาทำต่อให้สำเร็จ
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. นรนิติ

    นรนิติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +141
    ปี2012โลกยังไม่สิ้นหรอกครับ...ไม่ต้องตื่นเต้นกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...