ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

เคยอ่านหนังสือของอาจารย์ท่านหนึ่ง นานแล้วนะ อาจารย์เขามีกสินไฟหรือเตโชกสิน

ไปอยู่เมืองนอกก็มีคนมาลองของ เป็นฝรั่ง มันกะจะเล่นให้ถึงตายเลย เข้ามาในบ้านทำทีเป็นแขก
มาถามวิชา พอ อ.เขาเผลอแค่นั้น มันเล่นเลยเลย ปวดหน้าอกเหมือนกระดูกหน้าอกโดนบิตให้ยุบ
หักแทงเข้าไปที่หัวใจ อ.เขาล้มลงแล้วหันไปมองมัน มันยืนจ้องที่หน้าอกอ. ตาขเม่งเลย
อ.ท่านก็เลย เล็งกสินไฟที่กลางหน้าผากมัน แล้วก็รวบเป็นจุดเล็กๆเหมือนแว่นขยายเวลาส่องกับพระอาทิตย์
พลังจะมหาศาลกว่าไฟธรรมดาเป็นร้อยเท่า ถึงตรงนี้ ฝรั่งนั้นหน้าแดงกั่มเลย ดาแดง เลือดออกจมูก
อาการปวดหน้าอกของ อ.ก็เบาขึ้น สุดท้ายมันก็ขอยอมแพ้แต่ผมไม่รู้ว่าจบอย่างไง ที่ผมจำเนื้อหาได้ประมาณนี้ น่ากลัวมากๆเลยนี้ทำกันถึงตายทีเดียว

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ยูเอ็นเตือนผู้นำแถบเอเชียพร้อมรับมือสึนามิ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
รองเลขาฯ ยูเอ็นเตือนประเทศแถบเอเชียซึ่งเคยประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 47 ให้เตรียมมาตรการเตือนภัย อพยพประชาชน หลังเกิดแผ่นดินไหวหมู่เกาะอินโดนีเซียหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา..

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมืิ่อวันที่ 16 ต.ค. ว่า นายจอห์น โฮล์มส์ รองเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ด้านมนุษยธรรมและการประสานงานด้านบรรเทาสาธารณภัยฉุกเฉิน เดินทางเยือนประเทศแถบเอเชีย เพื่อเข้าเยี่ยมผู้ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติในช่วงหน้ามรสุมที่ผ่านมา

โดยเริ่มต้นด้วยการเยี่ยมผู้ประสบภัยในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์เป็นแห่งแรก หลังถูกพายุโซนร้อนซัดกระหน่ำจนเกิดน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ จากนั้นนายโฮล์มส์ได้เข้าพบตัวแทนรัฐบาลท้องถิ่นของอินโดนีเซีย เพื่อมอบความช่วยเหลือแก่ประชาชนในเมืองปาดัง บนเกาะสุมาตราตะวันตก ศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือน 7.6 ริกเตอร์เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดดินถล่มและบ้านเรือนพังทลายกว่า 130,000 หลัง ขณะที่สถิติผู้เสียชีวิตมีจำนวนมากกว่า 1,000 ราย และมูลค่าความเสียหายที่มิอาจประเมินได้

อย่างไรก็ตาม นายโฮล์มส์ได้กล่าวชมเชยรัฐบาลอินโดนีเซียและองค์กรระหว่างประเทศว่า สามารถรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน รองเลขาฯ สหประชาชาติยังได้กระตุ้นเตือนให้ผู้นำรัฐบาลอินโดนีเซียและผู้นำของประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียซึ่งเคยประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2547 ให้เตรียมความพร้อมด้านมาตรการเตือนภัย รวมถึงเตรียมอพยพประชาชนและรับมือภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเกิดแผ่นดินไหวบริเวณหมู่เกาะอินโดนีเซียหลายครั้งในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทั้งยังเกิดเหตุคลื่นยักษ์สึนามิถล่มประเทศซามัว ซึ่งเป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกทางตอนใต้ เมื่อปลายเดือน ก.ย.เช่นเดียวกัน

นายโฮล์มส์ ระบุว่า หากรัฐบาลสามารถจัดสรรเงิน 10 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณประจำปี เพื่อนำมาใช้สนับสนุนด้านการเฝ้าระวังภัยพิบัติและการซ้อมเตือนภัยอย่างเป็นระบบได้ จะช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดความเสียหายที่สืบเนื่องมาจากปรากฏการณ์ธรรมชาติได้ในระดับหนึ่ง และรัฐบาลแต่ละประเทศจะต้องเพิ่มความเข้มงวดจริงจังเรื่องการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
โดย :JaAey..Ja (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันศุกร์ ที่ 16 ตุลาคม 2552 เวลา 14:53 น.] </TD></TR></TBODY></TABLE>
40 ส.ว.แฉนายทหารไทยขายชาติ แอบส่งข้อมูลพระวิหารให้เขมร<SCRIPT type=text/javascript><!-- google_ad_client = "pub-0032874521947222"; /* 468x15, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 3/13/09 */ google_ad_slot = "7657140061"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 15; //--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px"><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=google_ads_frame1 height=15 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-0032874521947222&output=html&h=15&slotname=7657140061&w=468&lmt=1255722953&flash=10.0.22.87&url=http%3A%2F%2Fnews.mthai.com%2Fheadline-news%2F59844.html&ref=http%3A%2F%2Fwww.mthai.com%2F&dt=1255743246250&correlator=1255743246250&frm=0&ga_vid=1683077134.1255743246&ga_sid=1255743246&ga_hid=1084040059&ga_fc=0&ga_wpids=UA-1682552-2&u_tz=420&u_his=3&u_java=1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=737&u_aw=1024&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1020&bih=643&fu=0&ifi=1&dtd=15&xpc=icGpmoApMI&p=http%3A//news.mthai.com" frameBorder=0 width=468 allowTransparency name=google_ads_frame marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS>


บทความนี้เขียนโดย Hanoiii Reuters, โพสต์เมื่อ <ABBR class=published title=2009-10-16T17:41:37+0700>วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2009 เวลา 17:41:37</ABBR>, ในหมวด ข่าวทั่วไป, ข่าวพาดหัว และ เขมร, เขาพระวิหาร, ไทย. เก็บกระทู้นี้ได้ที่ ลิ้งค์นี้. ติดตามความคิดเห็นในบทความนี้ ด้วยระบบ RSS feed. แสดงความคิดเห็น หรือทิ้งแทร็กแบค: Trackback URL.

เขาพระวิหาร,ไทย,เขมร

เมื่อเวลา 11.30 น. ที่รัฐสภา กลุ่ม 40 ส.ว. นำโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา พร้อมด้วยนายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา และนายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระ ร่วมกันแถลงถึงการจัดเสวนาคณะกรรมการมรดกโลก ชนวนความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ว่า
จากความขัดแย้งกรณีเขาพะรวิหารที่เกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา เป็นเหตุให้มีนายทหารทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บและเสียชีวิต 6 นาย ซึ่งต้นเหตุเกิดมาจากการขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้ขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหาร เป็นมรดกโลก ซึ่งเป็นการยั่วยุและสนับสนุนให้เกิดความรุนแรง
โดยมีความไม่ชอบมาพากลที่นางฟรังซัวส์ ริวิเยร์ ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส รองผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายวัฒนธรรมองค์การยูเนสโก และเป็นผู้ลงนามเป็นพยานในแถลงการณ์ร่วมวันที่ 22 พ.ค.51 อย่างที่ไม่เคยมีประเพณีปฏิบัติมาก่อน เป็นการขึ้นทะเบียนมรดกโลกอย่างผิดระเบียบ
คณะอนุกรรมาธิการด้านการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนพื้นที่ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบการ ดำเนินการของรัฐ และภาคีเครือข่ายผู้ติดตามสถานการณ์ปราสาทเขาพระวิหาร จะจัดสัมมนาดังกล่าวขึ้นในวันที่ 20 ต.ค.
ด้านนายเทพมนตรีกล่าวว่า เราได้พบเอกสารบางอย่างระหว่างที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่ประเทศสเปน พบว่ามีการส่งมอบรูปภาพและการวางกำลังของกองทัพไทย
โดยมีนายทหารบางคนของไทยที่แอบส่งข้อมูลและภาพถ่ายฝูงบินเอฟ 16 และอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทหารไทยจะนำขึ้นไปตรึงกำลังบนเขาพระวิหารไปให้กัมพูชา ถือว่าประเทศไทยมีไส้ศึกที่เป็นนายทหารของไทยเอง และนายทหารคนนี้ยังรับราชการอยู่
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก มติชนออนไลน์
เรียบเรียง ข่าวโดย MThai News

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ธารนํ้าใจหลั่งไหลช่วยเหยื่อนํ้าท่วม </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ต.ค. กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ลักษณะอากาศ ทั่วไป

โดยระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว และมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในทะลจีนใต้ตอนกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย

ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นางนภาพร ศุภวงศ์ นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ พร้อมกลุ่มศิลปิน ดารานักร้อง

อาทิ กุ้ง-สุธิ ราช วงศ์เทวัญ หวิว-ณัฐพนธ์ วงษ์สนิท นำถุงยังชีพและน้ำดื่มมามอบให้ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 4, 5, 6 ต.รางจระเข้ อ.เสนา ขณะเดียวกันที่ อบต.กบเจา อ.บางบาล เภสัชกรหญิงพิศมร กลิ่นสุวรรณ รองผอ.องค์การเภสัชกรรม ได้นำยาและเวชภัณฑ์ พร้อมถุงยังชีพมาแจกจ่ายประชาชนด้วย เช่นเดียวกับ นายมานิต นพอมรบดี รมช. สาธารณสุข พร้อมคณะ นำถุงยังชีพพร้อมยารักษาโรคมาแจกจ่ายประชาชนที่วัดฤาไชย อ.ผักไห่ พร้อมเปิดเผยว่า ได้สั่งให้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกตรวจรักษาโรคให้กับประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมด้วย.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พายุหิมะถล่มเยอรมนี รถชนระนาว-จราจรอัมพาต</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เยอรมนี 16 ต.ค.-พายุหิมะพัดถล่มพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของเยอรมนี ทำให้การจราจรเป็นอัมพาตและเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุหลายครั้ง

ทางหลวงในเมืองซิตเทากลายเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากหิมะตกโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง

ปกคลุมผิวถนนหนาเกือบ 1 ฟุต ตำรวจทางหลวงต้องทำงานอย่างหนัก ในการอำนวยการจราจร และนำรถยนต์หลายคันที่จอดเสียกลางทาง ให้หลบเข้าไหล่ทาง ขณะที่มีรายงานอุบัติเหตุรถชนกันหลายครั้ง เนื่องจากสภาพถนนลื่นและทัศนวิสัยไม่ดี แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ


หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักยังทำให้หลายพื้นที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ด้วย

สำหรับหิมะที่ตกลงมาในช่วงนี้ ถือว่าเร็วกว่าปกติ เนื่องจากฤดูหนาวในยุโรปตะวันตกโดยทั่วไปจะเริ่มในเดือนธันวาคมของทุกปี.-สำนักข่าวไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
โดย :พิกกี้โกะ (สมาชิก) โพสเมื่อ [ วันศุกร์ ที่ 16 ตุลาคม 2552 เวลา 07:39 น.] </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.4 ริกเตอร์ทางตะวันตกของอินโดนีเซีย ​

​

จาการ์ตา 16 ต.ค.- เจ้าหน้าที่สำนักอุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสิกส์อินโดนีเซีย รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.4 ริกเตอร์ทางตะวันตกของเกาะชวา ทั้งยังทำให้อาคารสำนักงานในกรุงจาการ์ตาสั่นสะเทือน

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ในช่องแคบซุนดา ห่างจากกรุงจาการ์ตาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 300 กม. เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือผู้บาดเจ็บ แต่คาดว่าอาจเกิดความเสียหายในพื้นที่ใกล้ศูนย์กลาง และแผ่นดินไหวไม่รุนแรงพอจะก่อให้เกิดคลื่นสึนามิ. -สำนักข่าวไทย

2009-10-16 17:40:35

กองทัพและกลุ่มกบฏในฟิลิปปินส์พักรบชั่วคราวหลังไต้ฝุ่นพัดถล่ม​

​

มะนิลา 16 ต.ค. – กลุ่มกบฏนิยมลัทธิเหมาในฟิลิปปินส์เสนอหยุดยิงฝ่ายเดียวกับกองทัพรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยไต้ฝุ่น ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 760 คนจากเหตุแผ่นดินถล่ม และน้ำท่วม

ด้านกองกำลังรักษาความมั่นคงฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า พวกเขาได้ปรับเปลี่ยนภารกิจจากความพยายามรักษาความมั่นคงภายใน เป็นการทำความสะอาดท้องถนนและนำอาหารรวมทั้งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปมอบให้กับผู้ประสบภัย
โฆษกกองกำลังคอมมิวนิสต์แถลงบนเว็บไซต์ของกบฏนิยมลัทธิเหมาว่า กลุ่มกบฏประกาศหยุดยิงเป็นเวลา 7 วัน เพื่อช่วยเหลือการฟื้นฟูชุมชน โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา กลุ่มกบฏได้ประกาศการหยุดยิงแบบฝ่ายเดียวในเมืองบิโคลและพื้นที่ทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา หลังไต้ฝุ่นกิสนาทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ของกรุงมะนิลาถึงร้อยละ 80

พื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ยังคงถูกตัดขาด หลังไต้ฝุ่นป้าหม่าทำให้เกิดฝนตกหนักและแผ่นดินถล่ม ขณะที่ทางการกำลังซ่อมแซมระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสารและคมนาคมในพื้นที่ดังกล่าว ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาไต้ฝุ่นกิสนา และป้าหม่า ได้สร้างความเสียหายในพื้นที่ทางการเกษตรและการประมงคิดเป็นมูลค่าอย่างน้อย 18,400 ล้านเปโซ (ประมาณ 13,258 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานคิดเป็นมูลค่าถึง 6,600 ล้านเปโซ (ประมาณ 4,755 ล้านบาท) -สำนักข่าวไทย

2009-10-16 16:33:12

เอฟ -16 ชนกันกลางอากาศตกในมหาสมุทรแอตแลนติก​

​

วอชิงตัน 16 ต.ค.-กองทัพอากาศสหรัฐ ทำการค้นหาในเวลากลางคืน นักบิน 1 นายที่สูญหายไปในมหาสมุทรแอตแลนติก หลังจากเกิดเหตุเครื่องบินรบเอฟ-16 2 เครื่องชนกันกลางอากาศ

เครื่องบินเอฟ-16 หนึ่งในสองเครื่องสามารถเดินทางกลับฐานทัพอากาศชาร์ลสตัน รัฐเซาท์แคโรไลนาได้อย่างปลอดภัย แต่อีกเครื่องหนึ่งตกในมหาสมุทรและมีนักบิน 1 นายสูญหาย ซึ่งขณะเกิดเหตุเครื่องบินทั้งสองเครื่องกำลังปฏิบัติภารกิจฝึกซ้อมความคล่องตัวในการบินกลางคืน

หน่วยยามฝั่งของสหรัฐ ส่งเรือ 2 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 1 เครื่อง ออกค้นหาและกู้ภัยนักบิน ซึ่งจุดที่เกิดอุบัติเหตุอยู่ห่างจากชายฝั่งเมืองชาร์ลสตันประมาณ 48 กิโลเมตร

รายงานแจ้งว่าเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุประจำอยู่ที่ฐานทัพอากาศชอว์ ซึ่งนักบินใช้อุปกรณ์มองกลางคืนทำการฝึกรบอยู่เป็นประจำ.-สำนักข่าวไทย

2009-10-16 13:51:28

ที่มา http://news.mcot.net

 

*** เตือนภัยคนไท ****

เมืองหลวง...ระวังคนไทยด้วยกันรับเงินต่างชาติ มาทำลายกรุง ฆ่าล้างกันเอง
เพื่อวางตัวผู้นำใหม่ และระวังภัยพิบัติเกิดกลางกรุง
ภาคใต้....ระวังการบุกยึดพื้นที่ขึ้นมาเกินสามจังหวัด และระวังคลื่นยักษ์
ภาคอีสาน...ระวังเพื่อนบ้านใช้ประวัติศาสตร์ทวงดินแดน
บุกเข้ามาปักธง อาจถึงบางปะกง และระวังภัยพิบัติจากธรรมชาติ
ภาคเหนือ ภาคตะวันตก....ระวังกองกำลังบุกเข้ามายึดดินแดนตามชายแดน
ภาคเหนือ ภาคกลาง...ระวังภัยจากแม่น้ำโขงชะล้างแผ่นดิน

ภัยจากคน กับ ภัยจากธรรมชาติ...
อะไร เกิดก่อน อะไร....ก็อยู่ที่การกระทำของคน
ถ้าเขาทำลายมาก ... ธรรมชาติ ก็จะชะล้างเขาออกไป ถือเป็นของเสีย ไม่สมควรเก็บไว้
ธรรมชาติ....โลก สามารถชะล้างประเทศของเขาออกไปจากโลกได้จริง คือไม่มีแผ่นดินเป็นประเทศได้อีก

คนมีศีล และมีสัจจะ....เป็นผู้รอดพ้นกรรม
คนมีศีล แต่ไม่มีสัจจะ คือรับมาถือแต่ทำไม่ได้จริง....เป็นผู้รับกรรม ไปไม่รอดแน่นอน

มนุษย์ทุกชาติ ทุกศาสนา
ต้องมีสัจจะ เพื่อรักษาศีลข้อที่ตนประกาศไว้

เตือนเพียงผู้ที่เชื่อ
- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

สมาชิกทุกท่าน ตอนนี้มีการปล่อยข่าวที่ชั่วร้ายออกไปสู่ต่างประเทศผ่านสื่อต่างชาติ แล้วให้กลับมาในประเทศ เพื่อโจมตีประเทศไทย และทำลายความเชื่อมั่น ขอให้สมาชิกทุกท่านอย่ากระจายข่าวที่ว่าด้วย (เป็นไปได้ว่าบางท่านกำลังได้รับการแพร่ข่าวลือนี้) เป็นการปล่อยข่าวของพวกต้องการทำลายประเทศไทย
หุ้นตกเพราะการปั่น และสร้างกระแส พี่น้องทุกท่าน รับฟังแล้วช่วยกันด้วยครับ

*ปล. ผมบอกแค่นี้ ไม่บอกว่าข่าวอะไร ท่านที่รู้เรื่องแล้วคงทราบดี

 

เห็นด้วยครับ อย่าเป็นเหยื่อของข่าวลือครับ มุ่งทำกุศลความดี ตั้งจิตสมาธิเพื่อส่วนรวมเอาไว้ครับ

 

สังคมใด ที่ผู้คนขาดปัญญา ขาดการใช้สติ พิจารณา
สังคมนั้นๆ ย่อมตกอยู่ภายใต้ อำนาจของข่าวลือ ลวง
และข่าวลือ ก็ตกอยู่ใต้อำนาจ ของผู้ที่มีอำนาจ สร้างข่าวลือ

 

เอฟเอโอเตือนภัยวิกฤติของมนุษยชาติกำลังคืบคลานเข้าใกล้ตัว​

​

17 ต.ค. - องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ เตือนภัยวิกฤติของมนุษยชาติกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ตัวแล้วเมื่อทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของโลกแห่งหนึ่งได้หดตัวลง

องค์การอาหารและเกษตรของสหประชาชาติ หรือ เอฟเอโอ ได้ออกมาเตือนว่า ทะเลสาบชาดในแอฟริกากลางซึ่งล้อมรอบโดยแคเมอรูน ชาด ไนเจอร์ และไนจีเรีย ซึ่งเป็น 1 ในแหล่งน้ำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกขณะนี้ได้หดตัวลงถึงร้อยละ 90 โดยเมื่อปี 2507 แหล่งน้ำแห่งนี้มีขนาดใหญ่ถึง 25,000 ตารางกิโลเมตร แต่เดี๋ยวนี้เหลือพื้นที่แค่เพียง 2,500 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น

ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และพลเมืองโดยรอบแหล่งน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากสถานการณ์ยังเป็นไปเช่นนี้ ภายใน 20 ปี ทะเลสาบแห่งนี้จะหายสูญไปโดยสิ้นเชิง นายจ๊าคส์ ดียุฟ ผู้อำนวยการเอฟเอโอ กล่าวว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องตั้งคณะกรรมการนานาชาติมาร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้-สำนักข่าวไทย

2009-10-17 13:11:52

โรคฉี่หนูระบาดในฟิลิปปินส์ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 89 คน​

​

มะนิลา 17 ต.ค. – นายฟรานซิส ดูเก้ รัฐมนตรีสาธารณสุขฟิลิปปินส์แถลงวันนี้ว่า อิทธิพลของพายุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดโรคฉี่หนูระบาด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 89 คนเฉพาะในกรุงมะนิลา

นายดูเก้กล่าวว่า โรคฉี่หนูที่ระบาดในกรุงมะนิลาและพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 1,027 คน และเสียชีวิต 89 คนในช่วงระหว่างวันที่ 1-15 ตุลาคมปีนี้ ขณะที่ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีผู้ติดเชื้อ 769 คน และเสียชีวิต 39 คน ทั้งนี้เป็นผลจากน้ำท่วมกรุงมะนิลาและพื้นที่โดยรอบถูกน้ำท่วมหนัก หลังจากพายุโซนร้อนกิสนาพัดกระหน่ำเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ตามมาด้วยพายุไต้ฝุ่นป้าหม่าที่พัดกระหน่ำในอีกไม่กี่วันต่อมา และนับถึงขณะนี้ ระดับน้ำยังคงไม่ลดลงในบางพื้นที่ โดยมียอดผู้เสียชีวิตจากพายุทั้งสองลูกอย่างน้อย 773 คน

รัฐมนตรีสาธารณสุขฟิลิปปินส์กล่าวว่า ทางการได้ประกาศพื้นที่ระบาดของโรคฉี่หนูใน 3 เขตของกรุงมะนิลาและสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะให้แก่ประชาชนราว 1.3 ล้านคนแล้ว พร้อมกันนี้ยังได้เตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำสกปรก.-สำนักข่าวไทย

2009-10-17 13:49:00

ชาวกรุงมะนิลาเตรียมรับมือไต้ฝุ่นลูกใหม่กันจ้าละหวั่น​

​

ฟิลิปปินส์ 17 ต.ค. - พายุไต้ฝุ่นลูปิทก่อตัวทวีความแรงอยู่ในระดับ 3 และ 4 เตรียมเคลื่อนเข้าสู่เกาะลูซอน ทำให้ชาวกรุงมะนิลาต้องเตรียมรับมือกับไต้ฝุ่นลูกใหม่กันจ้าละหวั่น

กรมอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ คาดการณ์ว่าไต้ฝุ่นลูปิทจะขึ้นฝั่งบนเกาะลูซอนในราววันพรุ่งนี้ ซึ่งนับเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 3 ที่พัดถล่มในรอบเดือนนี้ โดยก่อนหน้านี้พายุ 2 ลูกที่ถล่มฟิลิปปินส์ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายนเป็นต้นมาทำให้เกิดอุทกภัยร้ายแรงที่สุดในรอบ 40 ปี คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 770 คน และราว 7 ล้านคน ต้องได้รับผลกระทบ

เจ้าหน้าที่ได้เตือนประชาชนให้เตรียมอพยพทันทีที่ไต้ฝุ่นลูปิทขึ้นฝั่ง แม้จะเพิ่งเก็บกู้ทำความสะอาดบ้านเรือนที่ถูกโคลนท่วมทับ อันเป็นพิษสงของพายุทั้งสองลูกที่พัดเข้าถล่มเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนเสร็จไปได้ไม่เท่าไร และผู้ที่จะอพยพก่อนเพื่อนก็คือประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่ำ.-สำนักข่าวไทย

2009-10-17 13:10:59

เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินส่วนตัวตกในฟิลิปปินส์​

​

มะนิลา 17 ต.ค.- ผู้เห็นเหตุการณ์และสถานีวิทยุในฟิลิปปินส์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 4 คนจากอุบัติเหตุเครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่งตกใส่โกดังสินค้าชานกรุงมะนิลา ขณะพยายามร่อนลงฉุกเฉิน

รายงานระบุว่า เครื่องบินพุ่งชนกำแพงบ้านและโกดัง จากนั้นระเบิดลุกเป็นไฟในเขตมาริกินา ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า เห็นศพ 4 ศพถูกนำออกมาจากเครื่องบินหลังเกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่มีรายงานการเสียชีวิตและบาดเจ็บบนพื้นล่างแต่อย่างใด ตำรวจ เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยได้รีบรุดไปยังจุดเกิดเหตุแล้วเพื่อช่วยเหลือในการดับไฟและดูแลพื้นที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ทราบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้. -สำนักข่าวไทย

2009-10-17 13:33:52

เผยเกาหลีเหนือคุมขังนักโทษการเมือง 154,000 คน​

​

โซล 17 ต.ค. - สมาชิกสภานิติบัญญัติเกาหลีใต้เผยวันนี้ว่า เกาหลีเหนือยังคงมีค่ายแรงงานในระบอบสังคมแบบสตาลิน ซึ่งมีนักโทษการเมือง 154,000 คน

สำนักข่าวยอนฮัพ ของเกาหลีใต้รายงานอ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายยุน ซัง-ฮุน สมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคแกรนเนชั่นแนล พรรครัฐบาลเกาหลีใต้ กล่าวว่า เกาหลีเหนือเคยมีค่ายแรงงาน 10 แห่ง ที่ควบคุมตัวนักโทษไว้ราว 200,000 คน จนกระทั่งช่วงปลายคริสต์ทศวรรษหลังปี 1990 ได้ปิดค่ายแรงงานลง 4 แห่ง ท่ามกลางเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากนานาชาติ ทำให้ปัจจุบันเกาหลีเหนือควบคุมตัวนักโทษ 154,000 คนในค่ายแรงงานที่เหลือ 6 แห่ง

หนังสือพิมพ์ดอง อา รายงานว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ทราบเรื่องค่ายแรงงานของเกาหลีเหนือมาตั้งแต่ปี 2548 แต่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เพราะเกรงจะส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ

รายงานระบุว่า นักโทษในค่ายแรงงานจะถูกบังคับให้ใช้แรงงานหนักกว่าวันละ 10 ช.ม. ทั้งยังไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาล มีเพียงการปันส่วนอาหารวันละ 100-200 กรัม ทั้งที่การปันส่วนอาหารให้เด็กตั้งแต่ 4 ขวบลงมานั้นอยู่ที่วันละ 234 กรัม สำหรับนักโทษที่ถูกควบคุมตัวในค่ายแรงงานนั้นไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มผู้มีความเห็นไม่ลงรอยทางการเมือง หรือผู้พ่ายแพ้ในการแข่งขันทางการเมืองเท่านั้น ทว่ายังรวมถึงประชาชนทั่วไปที่ถูกลงโทษฐานดูหมิ่นนายคิม จอง-อิล ผู้นำสูงสุด หากนักโทษการเมืองคนใดถูกจับได้ขณะพยายามหลบหนี จะถูกประหารชีวิตต่อหน้านักโทษในค่าย ขณะที่นักโทษหญิงมักถูกข่มขืน

ด้านเกาหลีเหนือปฏิเสธข่าวการควบคุมตัวนักโทษการเมือง ขณะที่สื่อของทางการเกาหลีเหนือ ระบุว่า ไม่มีประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศ ซึ่งประชาชนทุกคนต่างดำรงชีวิตอย่างอย่างสง่างามและเป็นสุข.-สำนักข่าวไทย

2009-10-17 11:58:15

จีนรายงานผู้เสียชีวิตจากหวัดใหญ่ 2009 รายที่ 2​

​

ปักกิ่ง 17 ต.ค.- จีนรายงานพบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รายที่ 2 ของประเทศ หลังจากผู้ป่วยคนหนึ่งในมณฑลชิงไห่ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือเสียชีวิตจากโรคนี้

กระทรวงสาธารณสุขจีน แถลงสั้นๆ บนหน้าเว็บไซต์ของกระทรวงฯ เมื่อคืนนี้ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับผู้ป่วยที่เสียชีวิต ขณะนี้จีนมีผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ทั้งสิ้น 26,348 คน นับแต่พบการระบาดครั้งแรก ในจำนวนนั้น 13 คนยังคงมีอาการหนัก

ทั้งนี้ จีนรายงานพบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่คนแรกของประเทศเมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมาในเขตปกครองตนเองทิเบต หลังจากนั้นรัฐบาลจีนได้จัดส่งวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จำนวน 200,000 ชุด ไปยังเขตปกครองตนเองทิเบตในทันที แต่ในแถลงการณ์เมื่อวานนี้ไม่ได้กล่าวถึงแผนจะจัดส่งวัคซีนไปยังมณฑลชิงไห่

กระทรวงสาธารณสุข แถลงเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ได้จัดฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ให้ประชาชนแล้วกว่า 300,000 คน แต่เตือนว่า จีนกำลังเผชิญกับภารกิจใหญ่ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และให้ตรวจสอบจำนวนผู้เสียชีวิตต่อไป คาดว่าอาจมีชาวจีนหลายสิบล้านคนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และการเสียชีวิตก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้. -สำนักข่าวไทย

2009-10-17 10:17:46

ที่มา http://news.mcot.net

 

*** คนไทยด้วยกัน ****

อย่ามัวแต่ทะเลาะกันเอง...
ต่างชาติเขากำลังจ้องจะฮุบอยู่ ตาเป็นมัน....ไม่เห็นหรือ !!!!

ถึงเวลานี้... มีทางแก้ทางเดียว
คือ ....การนำสัจจะคำสอนของพระโคดม ออกมาใช้กับจิตวิญญาณคนไทยทุกคน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

จาก OK Nation

วันเสาร์ ที่ 17 ตุลาคม 2552
แอฟริกาวิบัติ - ทะเลสาบช๊าดใกล้หายไปจากแผนที่โลก
Posted by ThelastKGB , ผู้อ่าน : 292 , 20:21:24 น.
หมวด : ต่างประเทศ
พิมพ์หน้านี้

องค์การ อาหารและเกษตรกรรมหรือ เอฟเอโอ ของสหประชาชาติ เปิดเผยวานนี้ว่า ภัยพิบัติของมวลมนุษยชาติเริ่มปรากฏให้เห็นรางๆแล้ว จากการลดขนาดลงอย่างมากมายเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มของทะเลสาบช๊าด อดีตทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ในเขตแอฟริกาตอนกลาง

​

ใน อดีต ทะเลสาบที่ถูกล้อมรอบโดยประเทศคาเมอรูน , ช๊าด , ไนเจอร์ และ ไนจีเรีย เคยเป็นแหล่งน้ำจืดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ปัจจุบัน จากปัญหาโลกร้อน การเพิ่มจำนวนของประชากร และการผันแปรของสภาพอากาศในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ทำให้ขนาดของทะเลสาบลดลงมากถึงร้อยละ 90


ใน ปี 2507 มันเคยมีพื้นที่ 2 หมื่น 5 พันตารางกิโลเมตร แต่ปัจจุบันเหลือพื้นที่อยู่ไม่ถึง 2 พัน 500 ตารางกิโลเมตร และหากว่าอัตราการหดหายของมันยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ทะเลสาบช๊าด จะหายไปจากโลกในอีก 20 ปีข้างหน้า

การ ขาดแคลนน้ำ ส่งผลกระทบต่อศักยภาพการผลิตของภูมิภาคอย่างมาก การลดขนาดลงของทะเลสาบ ทำให้ประชากรราว 30 ล้านคนต้องแก่งแย่งแข่งกันเพื่อแย่งชิงน้ำกันอย่างหนัก ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่า สงครามครั้งต่อไป จะเป็นสงครามจากการแย่งชิงน้ำ


นาย ฌ๊าค ดิอูฟ ผู้อำนวยการเอฟเอโอ บอกว่า มีความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งคณะกรรมการสากล เพื่อสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการที่ดูแลปัญหาเรื่องทะเลสาบแห่งนี้

​

 

ถ้าว่าไม่เกิด

คือ เกิดอุบัติภัย

 

ฝนถล่มที่กาญจนบุรีทำให้น้ำป่าหลากท่วม 3 อำเภอระลอก 2​

​

กาญจนบุรี 18 ต.ค.-ฝนที่ตกหนักในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ทำให้น้ำป่าหลากเข้าท่วมใน 3 อำเภอ เป็นระลอกที่ 2

เกิดน้ำท่วมเป็นระลอกที่ 2 ในเขตพื้นที่อำเภอบ่อพลอย เลาขวัญ และห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี หลังจากเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้น้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมในพื้นที่เดิม ทั้งยังมีระดับน้ำสูงกว่าครั้งก่อน ชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น ทั้งที่เพิ่งเก็บย้ายสิ่งของที่ถูกน้ำท่วมเสร็จไม่ถึง 3 วัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว พร้อมเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงบริเวณเชิงเขาและเส้นทางไหลของน้ำ อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยโดยด่วน เนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มซ้ำจากสภาพดินที่อุ้มน้ำมาก่อนหน้านี้.-สำนักข่าวไทย

2009-10-18 13:02:12

ฝนกระหน่ำแม่ฮ่องสอนจนถนนขาดยาวกว่า 100 เมตร​

​

แม่ฮ่องสอน 18 ต.ค.-น้ำป่าหลากกัดเซาะถนนสายแม่สะเรียง-เชียงใหม่ ขาดยาวกว่า 100 เมตร ลึกกว่า 100 เมตร หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้รถประจำทางและรถประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรไปมาทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลทะลักออกจากลำห้วยต่าง ๆ ริมทางหลวงสาย 108 แม่สะเรียง-เชียงใหม่ ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 89-90 ถนนหลวงสายแม่สะเรียง-เชียงใหม่ น้ำป่าที่ไหลบ่าออกจากลำห้วยข้างทางได้กัดเซาะถนนขาดยาวกว่า 100 เมตร ลึกกว่า 100 เมตร ทำให้รถประจำทางและรถประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรไปมาทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ ติดอยู่กว่า 20 คัน ผู้ประสบเหตุระบุโชคดีที่ขณะถนนขาดไม่มีรถสัญจรผ่าน

ล่าสุดทาง นายเดชา สัตถาผล นายอำเภอแม่สะเรียง ได้จัดกำลัง อส.เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 36 ตำรวจภูธรแม่สะเรียง หมวดการทางแม่สะเรียง ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2009-10-18 08:54:08

แม่ฮ่องสอนเร่งทำทางเบี่ยงแทนถนนถูกน้ำป่าซัดขาด​

​

แม่ฮ่องสอน 18 ต.ค.- ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอนสั่งระดมเครื่องจักรกลสร้างทางเบี่ยงให้เสร็จภายในวันพรุ่งนี้ บรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้าน หลังน้ำป่าซัดถนนเชียงใหม่-แม่สะเรียง ขาดกว่า 100 เมตร

นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมนายสุเทพ อุบาลี ผู้อำนวยการแขวงการทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน และนายธีรยุทธ์ จันทร์ดิษฐวงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าพื้นที่ อ.แม่สะเรียง ตรวจความเสียหายน้ำป่าซัดถนนหลวงสาย 108 เชียงใหม่-แม่สะเรียง ขาดกว่า 100 เมตร เมื่อเช้าตรู่วันนี้ (18 ต.ค.) ทำให้ประชาชนที่เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุกว่า 300 คน ติดข้างอยู่ทั้งสองฝั่งถนน รวมถึงรถบรรทุกสินค้าการเกษตร รถโดยสาร และรถยนต์อื่น ๆ ต้องจอดยาวเยียดกว่ากิโลเมตร

บางส่วนใช้วิธีเดินเท้าลัดเลาะลงมาตามลำห้วย เพื่อข้ามมาขึ้นรถโดยสารอีกฝั่งหนึ่งของถนน นอกจากนี้ ราษฏรชาวไทยภูเขายังมีรายได้จากการรับจ้างขนสัมภาระจากบรรดาผู้โดยสาร ในราคาก๋วยละ 20 บาท ส่วนพืชผลการเกษตร กระหล่ำปลีที่เจ้าของสวนนำมาส่งให้พ่อค้า ก็ต้องว่าจ้างชาวบ้านเดินเท้าขนข้ามลำห้วยด้วยความยากลำบาก เพราะต้องเร่งส่งผักไปตลาดนครปฐม ราชบุรี ในช่วงเทศกาลกินเจ

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า จังหวัดเร่งขอความร่วมมือจากหมวดการทางแม่สะเรียง หน่วยทหารพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 นำเครื่องจักรกลเข้ามาทำทางเบี่ยง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันพรุ่งนี้ โดยจะวิ่งได้เฉพาะรถยนต์สี่ล้อเล็กเท่านั้น ส่วนระยะยาวจะทำสะพานคอนกรีตถาวรใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ให้ใช้ทางหลวงแผ่นดิน 1095 เชียงใหม่-แม่มาลัย-ปาย-ปางมะผ้า-แม่ฮ่องสอน หรือทางหลวงแผ่นดิน 105 แม่สะเรียง-ท่าสองยาง-แม่ระมาด-แม่สอด จ.ตาก ในการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ. - สำนักข่าวไทย

2009-10-18 14:16:34

ผู้ว่าฯ กาญจนบุรีขอกำลังทหารค่ายสุรสีห์ช่วยหมู่บ้านน้ำท่วมสูง​

​

กาญจนบุรี 18 ต.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานผลกระทบจากฝนตกหนักมาตลอดคืนในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ทำให้น้ำป่าทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นระลอกสองเช้าวันนี้ (18 ต.ค.) ใน 3 อำเภอ คือ อ.เลาขวัญ อ.ห้วยกระเจา อ.บ่อพลอย

ล่าสุดระดับน้ำใน อ.เลาขวัญ เริ่มลดลง ส่วนอีก 2 อำเภอ ถนนเกือบทุกสายถูกน้ำกัดเซาะได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะ ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา เดือดร้อนมากสุดถูกน้ำท่วมทั้ง 17 หมู่บ้าน กว่า 100 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องอพยพไปอยู่ในที่สูง บางหมู่บ้านไม่สามารถผ่านเข้า-ออกพื้นที่ได้ ด้านนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กำชับให้นายอำเภอห้วยกระเจาให้การช่วยเหลือราษฎรในเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน

พร้อมประสานขอเรือท้องแบนและกำลังทหารจากกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ช่วยอพยพราษฎรบ้านพุบอน หมู่ 8 ต.สระลงเรือ ออกจากพื้นที่แล้ว เนื่องจากน้ำท่วมสูงเกือบมิดหลังคาเรือน ขณะเดียวกันป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดเต๊นท์นอนให้ผู้ประสบภัยใช้พักอาศัยชั่วคราว ส่วน ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา ซึ่งมีพื้นที่อยู่ท้ายน้ำต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

2009-10-18 17:20:37

รถไฟสายกทม.-กันตังทิ้งผู้โดยสารเกือบ 2,000 คนก่อนถึงปลายทาง​

​

ชุมพร 18 ต.ค.-รถไฟสายกรุงเทพฯ-กันตัง จอดทิ้งผู้โดยสารเกือบ 2,000 คนก่อนถึงสถานีปลายทาง อ้างกลัวผู้โดยสารไม่ปลอดภัย เพราะมีการประท้วงตามสถานีรถไฟสายใต้หลายจุด

ผู้โดยสารเกือบ 2,000 คนต่างเดือดร้อน หลังรถไฟขบวน 167 สายกรุงเทพฯ-กันตัง ไม่ยอมไปส่งยังจุดหมายปลายทาง โดยจอดให้ทั้งหมดลงที่สถานีรถไฟละแม อำเภอละแม จังหวัดชุมพร เนื่องจากพนักงานขับรถขบวนดังกล่าวอ้างว่าได้รับแจ้งว่า มีการประท้วงที่สถานีรถไฟหาดใหญ่และอีกหลายสถานีในภาคใต้ จึงไม่กล้านำผู้โดยสารเดินทางต่อ ซึ่งทางอำเภอได้จัดรถบัสถึง 30 คันทยอยนำผู้โดยสารส่งปลายทางแทน และมีรายงานว่าที่สถานีรถไฟหลังสวน อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ขบวนรถด่วนสายกรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช ก็จอดทิ้งผู้โดยสารไว้กลางทางเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

2009-10-18 11:05:48

ผู้ว่าฯ ชุมพรสั่งจัดรถรับผู้โดยสารหลังรถไฟหยุดขบวนที่ละแม​

​

ชุมพร 18 ต.ค.- เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (18 ต.ค.) นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้รับรายงานว่าขบวนรถไฟที่ 167 สายกรุงเทพฯ–กันตัง จอดทิ้งที่สถานีรถไฟละแม อ.ละแม ทำให้ผู้โดยสารเดือดร้อนร่วม 2,000 คน

จึงประสานนายเอกรัฐ หลีเส็น นายอำเภอละแม ให้นำรถบัส 10 คัน เข้ามารับนำผู้โดยสารไปส่งยังจุดหมายปลายทางโดยด่วน ส่วนสาเหตุการหยุดเดินรถไฟครั้งนี้เนื่องจากพนักงานขับรถไฟขบวนดังกล่สว อ้างว่าได้รับแจ้งว่ามีการชุมนุมที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ และอีกหลายสถานีในภาคใต้ จึงไม่กล้านำผู้โดยสารไปยังจุดหมายได้ กลัวไม่ปลอดภัย จึงหยุดขบวนรถไฟไว้ที่สถานีละแม พร้อมกันนี้ทางจังหวัดประสานให้สถานีคืนค่าโดยสารแก่ผู้ไม่ประสงค์เดินทางต่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ผลจากการที่ขบวนรถไฟจอดทิ้งครั้งนี้ นอกจากทำให้ผู้โดยสารเสียเวลาการเดินทางแล้ว ยังไม่สามารถหาซื้ออาหารได้สะดวก เพราะร้านค้าส่วนใหญ่ใน อ.ละแม หยุดวันอาทิตย์ ผู้โดยสารหลายคนต่างตำหนิติติงที่รถไฟต้องมาหยุดกะทะกัน ทั้งที่ก่อนเดินทางสอบถามกับสถานีรถไฟหัวลำโพงมาแล้ว อย่างนายธนิต เพชรอินทร์ ประธานชมรมสันทนาการ นักศึกษาปีที่ 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งนำนักศึกษากว่า 100 คน เดินทางไปออกค่ายบำเพ็ญประโยชน์ที่ จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ได้รับคำยืนยันจากสถานีรถไฟหัวลำโพงว่าไม่มีการหยุดเดินรถแน่นอนจึงเดินทางมา แต่ต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้ ทำให้เสียเวลา.-สำนักข่าวไทย

2009-10-18 11:31:47

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

ลิงแสมบนเกาะเป็ดหิวหาปลาในทะเลกิน​

​

​

​

คมชัดลึก : คลื่นลมจัด ฝนตกหนัก ท่องเที่ยวทางทะเลพัทยา-สัตหีบ ถดถอย ส่งผลทำให้ลิงแสมนับพันตัวบนเกาะเป็ดอดอาหาร เรือประมงพบลิงว่ายน้ำหาปลา ไล่จับสัตว์ทะเลตามโขดหิน แถมยังเจอหอยมือเสือหนีบตาย

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2552 นาวาเอก ชัชวาลย์ มีสวัสดิ์ ผู้บังคับการโรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจากเรือประมงชายฝั่ง ขณะที่นำเรือเข้าไปทอดสมอหลบคลื่นลมและพายุฝนบริเวณเกาะเป็ด หรือเกาะเกล็ดแก้ว และนำอาหารหวาน คาว ผลไม้ ขึ้นไปถวายเจ้าแม่อบเชย พบว่าฝูงลิงนับพันตัวหาอาหารทะเลกินตามโขดหิน และบางส่วนว่ายน้ำไล่จับปลา อีกทั้งเคยพบว่าขณะน้ำลงลิงได้ลิงลงไปอาหารกิน ใช้เท้าไปเขี่ยและเหยียบหอยมือเสือทำให้ถูกหอยหนีบไม่ยอมปล่อย พอน้ำขึ้นทำให้จมน้ำตายไปหลายตัวซึ่งเป็นภาพที่น่าสงสาร และทรมานอย่างมาก

นาวาเอก ชัชวาลย์ มีสวัสดิ์ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจึงได้นำเรือพร้อมกับ นาวาเอก วุฒิกร กมลเพชร์ รองผู้บังคับการ นาวาเอก วิฉนุ ถูปาอ่าง เสนาธิการ และ นาวาโท หญิง ประพรรณ คำบุรี ช่วยปฎิบัติราชการ กองนักเรียน และนักเรียนจ่าทหารเรือ จำนวนหนึ่ง นำเรือออกเดินทางไปตรวจสอบบนเกาะเป็ด ปรากฎว่าเมื่อเรือเข้าไปบริเวณใกล้หาดทรายมีลิงแสมจำนวนมากเดินออกมาจากป่า มุ่งหน้ามาที่เรือและลงน้ำเข้ามาที่เรือเพื่อหาอาหารกิน โชคดีที่ได้เตรียมกล้วยน้ำว้าสุกจำนวนมากไปเพื่อเลี้ยงลิงบนเกาะ ทำให้ลิงลงน้ำ และว่ายน้ำมาแย่งกล้วย แต่พบว่าลิงทุกตัวไม่ดุร้าย ไม่กัดคน บางตัวเหมือนกับขาดความอบอุ่นโดดขึ้นนั่งบนบ่านักเรียนจ่าโดยไม่ระแวงหรือกลัวคนแต่อย่างใด

นาวาเอกชัชวาลย์ กล่าวอีกว่า จากการสำรวจพบว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะทราบมาว่าลิงได้แบ่งกันเป็น 2 กลุ่ม คือ ลิงข้างศาลเจ้าแม่อบเชย และลิงหัวเกาะด้านทิศใต้ ทั้งหมดมีจำนวนมากกว่า 1,000 ตัว ก่อนหน้านี้ได้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เดินทางมาทางเรือเพื่อมาท่องเที่ยวหาดทรายแก้ว ได้ซื้อกล้วยมาเลี้ยงลิงก่อนไปเที่ยวชายหาด ทำให้ลิงไม่อดอาหาร แต่ขณะนี้ได้เกิดคลื่นลมแรง มีพายุฝนตกหนักต่อเนื่อง ไม่กล้านำเรือออกทะเลเกรงจะเกิดอันตราย และประกอบกับ การท่องเที่ยวซบเซา เป็นสาเหตุทำให้ลิงบนเกาะเป็ดอดอาหาร ช่วยกันรื้อสิ่งก่อสร้าง หลังคา และฝาผนังจนหมด

นาวาเอกชัชวาล กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้คงจะต้องนำรายงานให้ พลเรือโท ยุทธนา ฟักผลงาม เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ ได้รับทราบ พร้อมกับเสนอโครงการอนุรักษ์ลิงแสมเกาะเป็ด พร้อมจัดเรือพานักท่องเที่ยวที่สนใจข้ามเกาะเลี้ยงลิงด้วยกล้วยน้ำว้า สักการะเจ้าแม่อบเชย และเจ้าแม่ตะเคียนทอง พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาวิถีชีวิตชาวเรือ ถ้ามีมาเป็นคณะอาจจะนำเรือโถงให้ตีกระเชียงข้ามเกาะไปเลี้ยงอาหารลิง เพื่อเป็นกิจกรรมร่วมระหว่างทหารเรือกับนักท่องเที่ยว

ที่มา www.komchadluek.net

 

อันนี้อ่านเป็นความรู้เพื่อความไม่ประมาทและมุ่งปฏิบัติทำแต่ความดี
ศาสตร์แห่งโหร " โสรัจจะ นวลอยู่" ปีขาล 2553 รัฐประหารครั้งใหญ่ ปีแห่งความหายนะทางเศรษฐกิจ
เมื่อร่วมผนึกกำลังกันเข้าตรึงลัคนาราศีเมษกรุงสยามเช่นนี้ ทำให้เห็นชัดว่าถึงคราวชะตาเมืองกำลังตกต่ำ การแตกแยกโกรธแค้นชิงชังของผู้คน เสนาบดีมีเหตุอาเพศตางๆ เกิดการจลาจล รัฐประหาร ยึดอำนาจ คว่ำกระดาน บุคคลในเครื่องแบบแตกแยกแบ่งเป็นสองฝ่าย เกิดสงครามกลางเมือง ซึ่งเลือดไทยต้องไหลรินนองแผ่นดิน เป็นหนทางไปสู่ "การปฏิวัติรัฐประหาร" ครั้งใหญ่อีกครั้ง
เป็นปีแห่งการทุกข์ทรมานของนักการเมืองที่ต้องก้มหน้าก้มตารับ กรรมที่ก่อไว้ ถูกประจานตีแผ่ความเลวร้าย ชั่วช้าสามานย์ ที่แอบแฝงซ่อนเร้นต่อผู้คนที่คอยตักตวงผลประโยชน์ของบ้านเมืองมาเป็นเวลาช้า นาน จะต้องถูกคิดบัญชีจากวัฏจักรของดวงดาว ซึ่งส่อถึงความล่มสบายของอาณาจักร เกรงกลัวหรือไม่ก้แล้วแต่ท่านทั้งหลาย เพราะจุดจบของประเทศจะเกิดขึ้นโดยน้ำมือของนักการเมืองชั่ว และบุคคลที่เข้ามาบริหารประเทศอย่างไร้คุณธรรมอย่างทุกวันนี้ แต่ถ้าจะให้ผ่านจุดนั้นไปให้ได้และจะไปให้ถึงเวลาฟ้าใสของประเทศ
ตามดวงดาวบ่งบอกว่าอาจจะต้องใช้เวลาให้ผ่านช่วงเคราะห์กรรมไปอีกสักระยะหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ก่อกรรมไม่ดี จะถูกลงโทษจากสรวงสวรรค์ จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลประเทศเพราะสยามประเทศนั้นไม่มีอะไรที่จะมาทำลาย ร้างให้สูญสิ้นไปได้ ซึ่งที่ทำนายมานี้ไม่มีอคติต่อใครๆ ทั้งสิ้น หรือสาปแช่งบุคคลใด แต่ไปเป็นไปตามดวงดาวลิขิตจริงๆ สิ่งที่จะลบร้างคำทำนายให้เบาลง ทุกๆ คนต้องสร้างแต่ความดีถือศีล 5 ทำจากใจจริงไม่ใช่เฉพาะภายนอก หรือชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น พรรคการเมืองทั้งเล็กและใหญ่ทั้ง หลาย ซึ่งเป็นอยู่ในปัจจุบันถึงกาลอวสาน สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจะแตกสลายไปเองตามอิทธิพลของดวงดาว และจะเกิดสิ่งใหม่หรือมิติใหม่ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเองยากแก่การคาดการณ์ได้
ดาวมฤตยูเจ้าแห่งการปฏิรูปเปลี่ยนแปลง ได้เดินเข้าทำมุมตรีโกณกับราศีมิถุน ประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย และจะทำมุมอยู่อย่างนั้นเกือบถึง 7 ปี ระหว่างนี้จะมีบาปเคราะห์มาเข้าร่วมมุม ทั้งมุมกากบาท ทั้งมุมสามเหลี่ยม บ่งถึงไทยเรายังมีรัฐบาลที่ดันทุรังและไม่ฉลาดไม่เห็นการณ์ไกล
ความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ ย่อมจะกระทบกระเทือนต่อคุณภาพของการพัฒนาประชาธิปไตย และนำมาซึ่งความขัดแย้งทางสังคม
เกิดจลาจลในกรุงเทพฯ ทุกหมู่เหล่าแตกแยกเคียดแค้น ปิดร้านค้ายึดเป็นที่มั่นยิงต่อสู้กัน ทั่วทุกแถบในกรุงเทพฯ มีการขว้างระเบิดสนั่นเมืองไปหลายวัน จะก่อความยุ่งยากทีละน้อย และค่อยๆ รุนแรงขึ้นจนระงับไม่อยู่ ผู้มีอำนาจหรือคนสำคัญบางคนจักหมดอำนาจวาสนา
ข้อสังเกตเหตุการณ์รับกันนองเลือดครั้งนี้เกิดที่กรุงเทพฯ เมื่อดาวอังคารแห่งสงครามโคจรเข้าทับลัคนาแห่งดวงเมืองประชาธิปไตย จึงรบกันนองเลือดระหว่างผู้มีอำนาจกับประชาชน ครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ตั้งกรุงเทพฯ มา
อาจต้องใช้กำลังทหารเข้า แก้ปัญหา เป็นหนทางไปสู่ "การปฏิวัติรัฐประหาร" ต้องรบราฆ่าฟันกัน สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ตอนต้นปีบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงของประเทศจะถึงแก่กรรมจากการลอบทำร้าย ผู้คนระส่ำระสาย

 

อำนาจของพระมหากษัตริย์จะได้กลับคืนมา !!!​

​

"ชาวโลกทั้งหลายทั้งหมดก็จะกลับปฏิวัติจากระบบประชาธิปไตย หรือระบบประธานาธิบดีทั้งหลาย กลับมาเป็นกษัตริย์อย่างเดิม เรียกว่ากลับมามีกษัตริย์อย่างเดิม”

คำพยากรณ์แห่งรัตนโกสินทร์:-

"ในสมัยที่อาตมา (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) อยู่กับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ปีนั้นจำได้ว่าเป็นปี พ.ศ. ๒๔๘๐ หลวงพ่อปานไม่อยู่ อาตมาเป็นนักค้นแล้วก็คว้าด้วย ท่านวางอะไรไว้ที่ไหนไม่มีใครเขากล้าหยิบ แต่อาตมาคนเดียวกล้าหยิบ สันดานมันเลว เป็นลิงนี่จะให้มันเรียบร้อยได้อย่างไร ค้นไปค้นมาในกุฏิหลวงพ่อปานแล้วก็พบสมุดข่อย เป็นคำพยากรณ์ของพระอรหันต์สมัยกรุงศรีอยุธยา พยากรณ์ไว้ตั้งแต่กรุงเทพยังไม่ปรากฏ

แต่สมุดข่อยนั้นเก่า ขาดกระรุ่งกระริ่ง ข้อความก็ขาด จึงไปกราบเรียนามหลวงพ่อปาน หลวงพ่อปานท่านก็บอกว่า เดิมหนังสือเล่มนี้เป็นสมบัติของหลวงปู่คล้าย แต่ทว่ามันเก่าเต็มทีก็เลยจ้างเขาเขียนไว้ในสมุดข่อยอีกเล่มหนึ่ง แล้วหลวงพ่อปานก็สั่งให้ไปหยิบหนังสือเล่มนั้นจากกุฏิของท่านซึ่งซุกไว้ใต้ตู้นาฬิกา เอาผ้าสีแดงห่อไว้อย่างดีเหมือนกับจะเตรียมไว้ให้เจ้าลิงอ่าน เมื่อเปิดผ้าออกดูแล้วปรากฎว่าหนังสือเล่มนั้นดูราวกับว่าจะมีอายุสัก ๓๐ ปีเศษ ๆ ตัวหนังสืออ่านง่าย เป็นคำทำนายของหลวงพ่อใย ซึ่งเป็นพระอรหันต์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้พยากรณ์กรุงเทพมหานครซึ่งจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าและกล่าวถึงพระเจ้าแผ่นดินของกรุงเทพมหานครไว้ด้วยดังนี้

๑.มหากาฬผ่านมหายักษ์ (รัชกาลที่ ๑)

หมายถึง สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกผ่านพระเจ้าตากสินไม่ใช่ฆ่า ตามประวัติศาสตร์บอกว่า พระเจ้าตากสินถูกรัชกาลที่ ๑ สั่งปลงพระชนม์ โดยใส่กระสอบแล้วเอาท่อนจันทน์ทุบให้ตายนั้น อันนี้อาตมาเห็นทีจะต้องยอมรับ อาตมานะรับรองว่าคำสั่งก็ต้องเป็นคำสั่งจริง ๆ ประหารก็ต้องประหารจริง ๆ แต่ว่าคนที่ตายนั้นไม่ใช่พระเจ้าตากสิน เป็นคนอื่นเขาตายแทน แล้วพระเจ้าตากสินไปทางไหน ทำไมจึงต้องทำกันอย่างนั้น นี่เป็นเรื่องของการเมือง พระเจ้าตากสินทรงกู้ชาติสมัยที่กรุงศรีอยุธยาแตกในคราวนั้น ได้ตีฟันฝ่าข้าศึกออกมา จะเอาเงินที่ไหนออกมาแล้วในระหว่างกู้ชาติ จะเอาเงินทองที่ไหนมา การบริหารประเทศต้องใช้เงิน นั่งคิดดูซิความลำบากของพระเจ้าตากสินมีเพียงใด

เรื่องนี้มันต้องมีการกู้การยืมกัน อาตมาพูดเท่านี้แหละ แต่ขอยืนยันว่าพระเจ้าตากสินไม่ได้ตาย ขอให้นักประวัติศาสตร์สืบค้นกันให้ดี แล้วจะพบจุดสำคัญของประวัติศาสตร์ จะหาว่าพระราชวงศ์จักรีเป็นกบฏต่อพระเจ้าตากสินแล้วขึ้นเถลิงราชย์ไม่ได้ เพราะเป็นพระราชประสงค์ของพระเจ้าตากสินเอง เพื่อหวังจะให้ชาติไทยอยู่รอด ทรงความเป็นชาติไทยต่อไป และเพราะอะไรพระองค์จึงไม่ทรงสละราชสมบัติเฉย ๆ นั่นเป็นเรื่องของการเมือง ทำไม่ได้ พระเจ้าตากสินมหาราชไม่ใช่เป็นกษัตริย์ที่มีความโง่ไม่รู้เท่าทันคน ถ้าพระองค์มีความโง่ไม่รู้เท่าทันคนแล้ว จะทรงกู้ชาติได้อย่างไรภายในปีเดียว ขอให้ท่านพุทธบริษัททั้งหลายช่วยกันพิจารณาด้วยปัญญาที่แท้จริง เอาระบบการเมืองเข้ามาเทียบเคียงกับความจริง แล้วจะทราบความจริงต่อไปในวันข้างหน้า เอากันแค่นี้ก็พอ

๒.รู้จักธรรม (รัชกาลที่ ๒)

รู้จักธรรม ให้พระสงฆ์ทั้งหลายค้นคว้าพระธรรมวินัยกันใหญ่

๓.จำต้องคิด (รัชกาลที่ ๓)

จำต้องคิด พระองค์ทรงคิดหนัก ก่อนจะสวรรคตทรงมีลายพระหัตถ์ ถึงรัชกาลที่ ๔ ว่า ถ้าฉันตาย ฉันไม่ตั้งรัชทายาท เมื่อฉันตายแล้วลูกของฉันถ้าไม่ให้รับราชการ ก็ให้ลงโทษเพียงแค่เนรเทศ อย่าให้ถึง กับต้องฆ่าแกงกันเลย

๔.สนิทธรรม (รัชกาลที่ ๔)

สนิทธรรม ทรงผนวชถึง ๒๗ พรรษาและทรงเชี่ยวชาญด้านธรรมะ

๕.จำแขนขาด (รัชกาลที่ ๕)

จำแขนขาด เสียดินแดนให้แก่พวกฝรั่งเศสและอังกฤษ

๖.ราษฏร์ราชาโจร (รัชกาลที่ ๖)

ชาวบ้านหาว่าพระองค์เป็นโจร เอาเงินในท้องพระคลังไปใช้เสียหมด (สร้างเมืองจำลอง ดุสิตธานี, สร้างพระราชวังสนามจันทร์ นครปฐม) ความจริงพระองค์ทำเช่นนั้น เพราะต้องการให้คนไทยรู้จักคำว่ประชา-ธิปไตย โดยพระองค์ท่านทำทุกอย่างเพื่อให้คนทั้งหลายเห็นว่ากษัตริย์ไม่ได้ทรงถือพระองค์เล่นโขนเล่นละครกับคนทั่วไปก็ได้

๗.นั่งทนทุกข์ (รัชกาลที่ ๗)

ทรงเถลิงราชสมบัติในช่วงของเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ต้องให้ข้าราชการออก เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทรงสละราชสมบัติ

๘.ยุคทมิฬ (รัชกาลที่ ๘)

เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง และพระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์

๙.ถิ่นกาขาว (รัชกาลที่ ๙)

คนไทยเห่อตามพวกฝรั่ง ทั้งแฟชั่น เครื่องแต่งกายเพลงร้อง อะไร ๆ ก็ฝรั่งทั้งนั้น ถึงจะดี (ตอนเอาเรื่องนี้ขึ้น คือยุคถิ่นกาขาวเต็มๆครับ)...

๑๐.ชาววิไล (รัชกาลที่ ๑๐)

คือยุคที่บ้านเมืองของไทยเจริญรุ่งเรืองอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้เหตุการณ์ยังมาไม่ถึง "ในราวปลายรัชกาลที่ ๙ หรือรัชกาลที่ ๑๐ นี้ ประเทศไทยจะขุดพบแร่สำคัญชนิดหนึ่งซึ่งมีกำลังคล้ายแร่ยูเรเนียมแต่ทว่ามีกำลังสูงกว่า ถ้าใช้ทางด้านสันติจะมีความเย็นสามารถเผาโรคได้ด้วยอำนาจของความเย็น ถ้าใช้ทางด้านพลังงาน ก็จะมีพลังงานสูงมาก ถ้าใช้ฆ่าฟันกันก็จะมีพลังงานมากยิ่งกว่าแร่ที่เขาใช้กันในปัจจุบัน เวลานี้ขุดมาได้ก็เหนื่อยเปล่า ๆ ไม่มีประโยชน์ ถึงเวลามันจะปรากฎเอง และเมืองไทยจะมีทรัพยากรต่าง ๆ ปรากฎขึ้นมาอีกมากมาย เริ่มตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็นต้นไป และจะค่อยๆ มีมากขึ้นอย่างเต็มที่ เมื่อกลางสมัยรัชกาลที่ ๑๐ ต่อไป ประเทศไทยจะมีความมั่งคั่งสมบูรณ์ ประเทศชาติจะร่ำรวยมาก"

ในเรื่องคำพยากรณ์นี้ มีอยู่ตอนหนึ่งหลวงพ่อฤษีลิงดำ ท่านบรรยายว่า เมื่อท่านอ่านคําพยากรณ์ 10 รัชกาล ที่พระพุทธโฆษาจารย์ (ใย) ได้ทำนายแล้ว ได้กราบเรียนถามหลวงพ่อปานว่า...

"กรุงเทพพระมหานครนี่ จะมีพระมหากษัตริย์เพียง ๑๐ พระองค์เท่านั้นหรือขอรับ"

ท่านก็ตอบว่า...

"กรุงเทพพระมหานครไม่ได้มีพระมหากษัตริย์แต่เพียง ๑๐ พระองค์ จะมีพระมหากษัตริย์ต่อไปคู่กับประเทศไทยจนกว่าโลกจะสลายตัว แต่ที่ไม่ได้พยากรณ์ไว้ ดูรัชกาลที่ ๑๐ ท่านบอกว่าชาววิไล เป็นอันว่าสุขสบายด้วยประการทั้งปวง...การพยากรณ์นั้น...ถ้าเป็นปกติไม่มีใครเขาพยากรณ์...”

แล้วหลวงพ่อปานยังพูดต่อไปว่า...

"ไม่ใช่มีแต่รัชกาลที่ ๑๐ ต่อไปจะมีเรื่อยๆ พระมหากษัตริย์ในประเทศไทย แล้ว ชาวโลกทั้งหลายทั้งหมดก็จะกลับปฏิวัติจากระบบประชาธิปไตย หรือระบบประธานาธิบดีทั้งหลาย กลับมาเป็นกษัตริย์อย่างเดิม เรียกว่ากลับมามีกษัตริย์อย่างเดิม”

จากที่มีการเล่าลือเป็นอัปมงคลว่าจะมีเพียง 10 รัชกาล (คือ มหากาฬ พาลยักษ์ รักมิตร สนิทธรรม จำแขนขาด ราชโจร ชนร้องทุกข์ ยุคทมิฬ ถิ่นกาขาว ชาววิไล ) พระท่านจึงเมตตาบอกต่อให้ชัดๆ อีก 2 รัชกาล...

๑๑.ไทยมหารัฐ

คือ ยุคที่ประเทศไทยเข้าสู่ความรุ่งเรืองยิ่ง มีความเจริญทางเศรษฐกิจล้ำหน้าประเทศเพื่อนบ้านไปมาก จนทุกประเทศอยากเป็นมิตร บางเขตที่ติดต่อกันถึงกับขอมาผนวกด้วย

๑๒.จักรพรรดิราช

ด้วยพระบรมโพธิสมภารแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ปัจจุบันที่ทรงปูพื้นฐานไว้ เมื่อถึงยุคนี้ คุณาปการเหลือคณานับก็ประจักษ์ชัดแก่นานาอารยะประเทศ ถึงกับบังเกิดกระแสนิยมในระบอบกษัตริย์ บางประเทศที่สิ้นวงศ์กษัตริย์ไปแล้ว ก็ถึงกับมาขอพระบรมวงศ์ของไทยไปยกขึ้นเป็นกษัตริย์ของเขา พระราชประเพณีของไทยจะได้รับการถ่ายทอดและยึดถือเป็นแบบอย่าง พระมหากษัตริย์ต่างๆจึงถวายสักการะ เคารพบูชาพระมหากษัตริย์ของไทยด้วยความเป็นราชวงศ์ต้นแบบ <!-- colorc --><!-- /colorc --><!-- sizec --><!-- /sizec -->และเป็นพระราชทายาทตรงแห่งพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าผู้ทรงทศพิธราชธรรมบริสุทธิ์อย่างไร้ข้อกังขา พระมหากษัตริย์ของไทยจึงทรงไว้ซึ่งพระราชศักดิ์สูงสุดในโลก ประดุจดังพระเจ้าจักรพรรดิราช


*****************************************************

หมายเหตุ

สำหรับที่หลวงพ่อปานกล่าวในตอนหลังนี้ สะกิดใจให้เห็นประหลาดอยู่ เพราะหลวงพ่อฤาษีฯท่านพูด เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ ถึงบัดนี้ พ.ศ.๒๕๔๙ เป็นเวลา ๓๑ ปีมาแล้ว เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ ลัทธิการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ยังเฟื่องฟูอยู่ วันเวลาผ่านมา ๓๑ ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงครองราชย์ ครบ ๖๐ ปี วันเฉลิมฉลองที่เพิ่งผ่านมา มีพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศ์ผู้แทนพระองค์พระมหากษัตริย์ เสด็จมาทรงร่วมงานทั้งโลกที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และทุกพระราชวงศ์ ล้วนเป็นที่รักเคารพและนิยมยินดีแห่งประชาชนในประเทศนั้นๆ

ถึงแม้ประเทศที่เคยมีพระมหากษัตริย์ และเคยเป็นผู้นำคอมมิวนิสต์ของโลกอย่างรัสเซีย ก็ยังหวนกลับไปค้นหาพระศพพระเจ้าซาร์ กษัตริย์พระองค์สุดท้ายที่ถูกพวกบอลเชวิคปลงพระชนม์ เชิญกลับมาบรรจุ ณ โบสถ์ที่บรรจุพระศพกษัตริย์ และอีกหลายประเทศกลับมามีกษัตริย์อย่างเดิม เช่นประเทศกัมพูชา

(อ้างอิงจาก นิตยสารสกุลไทย ฉบับที่ 2705 ปีที่ 52 ประจำวัน อังคาร ที่ 22 สิงหาคม 2549)

ที่มา http://kazezak.multiply.com/journal/item/73

 

" ไทยจะเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง(คืนพระราชอำนาจให้พระมหากษัตริย์) โดยมีทหารดีนำ ไทยจะเป็นสุดยอด(ของโลก)จะนำหน้า USA(สหรัฐอเมริกา) "

“ถอดรหัสวันสิ้นยุค” รับสื่อจากจิตจักรวาลโดย อ.ปริญญา ตันสกุล
ครั้งที่ 155 ที่โรงแรมมิโด วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552
---------------------------------------------------------------
​

2009/2552 ​

12-20 ต.ค. ตุลาวิปโยค
กย.-ธค. อาจมีเครื่องบินตก อีกครั้งในไทย ถ้าเกิดเหตุบนดินตายเป็น 100 บนน้ำตาย 3
13 ธค. บุคคลสำคัญอาจป่วยหนัก 1 คน และเสียชีวิต 1 คนไปเกิดเหตุที่ภาคใต้
ธค. อาจยุบสภา (โดนบังคับ เพราะทุกสี จะเอาเหตุบุคคลสำคัญที่เสียชีวิตไปบังคับ)
พย.-ธค. มาลาเรียพันธุ์ใหม่ระบาด (ตายประมาณ 2 พันคน)

2010/2553

มค. อาจเกิดจราจลกลางเมืองอีกครั้ง
กพ. อดีตผู้นำผจญกรรมดอกแรก ดอกใหญ่ด้วยที่ต่างประเทศ
ตลอดปี ทายาทอดีตผู้นำจะมีเคราะห์

2011/2554

ภัยตลอดปีไม่ขอเล่ามันเยอะเพราะรหัส 11

2012/2555

เม.ย อาจเกิดพายุหมุนถล่มกรุงเทพ มาตอนตี 2-3 มีฟ้าผ่าตึกสูง
และสะพานแขวนขาด รถยนต์ประมาณ 11 คันหล่นลงมาด้วย

2014-2015

เป็นปีที่ไทยเละเทะด้วยภัยพิบัติ

2015/2558

กย. ไทย/พม่า/อินเดีย/ศรีลังกา ได้รับผลกระทบจาก
แผ่นดินไหวรุนแรงครั้งใหญ่ จนต้องเขียนแผนที่โลกใหม่ คนตายประมาณ 3.23 แสนคน

2017/2560

อาจเป็นปีแห่งการสูญเสียบุคคลสำคัญ

2018/2561

ก่อนสิ้นปี เขื่อนเชี่ยวหลานแตกเป็นเขื่อนแรก
เกาะฮอกไกโด คิวชู อาจหายไปเป็นเกาะแรก
เกาหลีใต้-เหนือเจอแผ่นดินไหวรุนแรงและโรคระบาด โดยเฉพาะกรุงโซล
ฟ้าผ่าวังรัสเซีย มีธรณีสูบเพราะแผ่นดินไหวรุนแรง

2018/2561

ลอนดอนเกิดแผ่นดินแยกและยุบตัวลงไป

2019/2562

บุคคลชั้นสูงป่วยหนักทางตา
เขื่อนที่อีสานแตก ตามด้วยภาคกลาง และตะวันตก
เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่ กทม., นนท์, ปทุม 3.2 หมื่น(เจ็บตาย)
เกาหลีแยกเป็น 2 ซีกๆ ขวาจมทะเล
เกิดภูเขาไฟระเบิดที่ ฮอด แม่แตง ตาก ปาย
แผ่นดินแยกที่ทองผาภูมิ ด่านเจดีย์มีเกิดภูเขาไฟระเบิด

2020/2563

ก่อนสิ้นปี เขื่อนใหญ่ที่สุดในไทยแตกออก คนไทยอาจมีการสูญเสียบุคคล
สำคัญอีกครั้ง ทหารดีจะปกครองไทยโดยสิ้นเชิง

2021/2564

ไทยจะเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง โดยมีทหารดีนำ
ไทยเป็นสุดยอดจะนำ USA

2022/2565

ก่อนสิ้นปี USA มีผู้หญิงเป็นประธานาธิปดี ชื่อ Barbara รองคือ Hillary
หน้าทำเนียบขาวเกิดแผ่นดินยุบ น้ำท่วมถาวร
สค.-กย. USA แผ่นดินไหว 19 ริกเตอร์ (เดิม 24) แผ่นดินจะแตกเป็นเกาะเล็กเกาะน้อย
กย. ซึนามึถล่ม LA. ฟากตะวันตก เอาชีวิตคนและกลืนแผ่นดิน
ทอร์นาโด Henna ถล่ม NY. ราบเป็นหน้ากลอง เทพีเสรีภาพถูกฟ้าผ่า 3 ครั้ง แตกเป็น 4 เสี่ยง

2025/2568

กค. ฟ้าผ่าวังต้องห้ามของเวียดนาม เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงและ
ยุบตัวลงจมหายไปกับน้ำ เหมือนตอนแอตแลนติสจม
กย. ฟ้าผ่าปราสาทใหญ่ของเขมร เกิดธรณียุบ
ฟ้าผ่าจำปาศักดิ์ของลาวและเกิดธรณียุบจากเหตุแผ่นดินไหว
ตค.-พย. หนองคายแผ่นดินหาย 11% เพราะน้ำโขงและน้ำทะเลกลืน
มุกดาหารหาย 23%
ครพนมหาย 50%
อุบลหาย 60%
อำนาจเจริญ 70%
ปราจีนบุรี 75%
อรัญฯ 80%

น้ำจะท่วม กทม. แทบทั้งเมือง น้ำจืดกลายเป็นน้ำเค็ม เกิดแผ่นดินยุบ เหมือน
ตอนนิวออลีนโดนถล่มด้วยพายุแคทริน่า ปี 48 จะท่วมนานเป็นปี การติดต่อ
ราชการไม่สามารถทำได้

2026/2569

ต้องย้ายเมืองหลวงเพราะน้ำทะเลท่วม กทม.

2030/2573

27 กค.ปฎิบัติการสู่วันเปลี่ยนยุค เกิด 56 วัน 7 ราตรี
โลกมืดมิด 30 วันเพราะหมอกควันภูเขาไฟระเบิด การกลับขั้วโลกเหนือ-ใต้
ช่วงนี้ต้องนึกถึงที่พระบิดาสอนไว้

2035/2578

ศาสดาของโลกเกิดขึ้นในไทย ห่มผ้าสีขาว 18 ชันษา ใครเห็นก็รู้ว่าท่านเป็นใคร

ปฎิบัติตนอย่างไร จึงจะอยู่รอดไปถึงวันสิ้นยุค

1 หยุดสร้างกรรมใหม่ (หยุดทำบาปอกุศลทั้งปวง)
2 เร่งแก้ไขกรรมเก่า (ขออโหสิกรรม กับเจ้ากรรมนายเวร)
3 เข้าให้ถึงแก่นแท้ (ของความดีงามทั้งหลาย)
4 แน่วแน่ในนิพพาน (ตั้งใจชำระล้างกิเลส ให้หมดสิ้นไปจากจิตใจ)

**************************************************
หมายเหตุ

การปฎิบัติการสู่วันเปลี่ยนยุค 56 วัน 7 ราตรี คือปี ค.ศ. 2030(พ.ศ.2573) เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ แต่เหตุการณ์ไม่เปลี่ยน เนื่องจากโลกถูกไปพิพากษาแล้ว เพราะเวลาไม่ได้มีอยู่จริง มีค่าเป็น 1 ในจักรวาล

(ถ่ายทอดข้อมูลจากจิตจักรวาลโดย อ.ปริญญา ตันสกุล วันที่ 13 ก.ย 52)<!-- google_ad_section_end -->

 

วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6899 ข่าวสดรายวัน


ทอดผ้าป่าดีวีดีการ์ตูน



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>พระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร และแม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม จัดโครงการทอดผ้าป่า ดีวีดี ภาพยนตร์การ์ตูน "พระพุทธเจ้า" เพื่อระดมทุนจัดซื้อดีวีดีภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องพระพุทธเจ้า เผยแพร่ไปสู่โรงเรียนในพระราชดำริ โรงเรียนพระปริยัติธรรม โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรม การการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จำนวน 84,000 ชุด แบ่งเป็น 840 กอง กองละ 100 ชุด เป็นจำนวนกองละ 20,000 บาท พร้อมชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินเพื่อทอดผ้าป่า สนใจสอบถามโทร.08-1927-5467

[FONT=Tahoma,]หน้า 25[/FONT]
หอจดหมายเหตุในหลวง



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ต.คลองห้า จ.ปทุมธานี เปิดให้บริการสืบค้นข้อมูลเพื่อการศึกษา วิจัย และรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในด้านต่างๆ โดยเอกสารในหลายกิจกรรมมีค่าควรแก่การศึกษา และเป็นเอกสารต้นฉบับ ซึ่งหาอ่านจากที่อื่นไม่ได้ รวมถึงเอก สารที่ได้รับมอบจากสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ได้แก่ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการตามแนวพระราชดำริต่างๆ เพื่อศึกษาเรียนรู้ด้านเกษตรกรรม แนวคิด และวิธีการแก้ปัญหาน้ำท่วม ศึกษาวิธีการประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามแนวพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น สอบถามได้ที่ 0-2902-7940 ต่อ 103 และ 113 ในวันและเวลาราชการหรือเข้าดูที่เว็บ www.narama9.go.th



หน้าหนาวเฝ้าระวังน้ำท่วม4จังหวัด พื้นที่ชายฝั่งก้นอ่าวไทย-กทม.ทรุด



ผศ.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) แถลงข่าว "ปรากฏการณ์น้ำท่วมพื้นที่ชายฝั่งก้นอ่าวไทยในช่วงฤดูหนาว" ว่า ช่วงฤดูหนาวของทุกปีต้องระวังเรื่องน้ำท่วมในพื้นที่ก้นอ่าวไทย ตั้งแต่อำเภอเมือง จ.สมุทรสาคร อำเภอเมือง อำเภอพระสมุทรเจดีย์ อำเภอพระประแดง จ.สมุทร ปราการ อำเภอบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และเขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ซึ่งเกิดจาก 3 ปัจจัย คือ ลมมรสุมจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่หอบเอาน้ำทะเลจีนใต้เข้ามายังฝั่งอ่าวไทย และอิทธิพลของดวงจันทร์ในช่วงข้างขึ้นและข้างแรม 15 ค่ำที่ทำให้น้ำทะเลสูงขึ้น โดยจะสูงที่สุดในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 06.00-09.00 น. รวมทั้งปัจจัยจากน้ำจืดที่เกิดจากช่วงหน้าฝนที่ผ่านมา ซึ่งยังมีน้ำขังอยู่บนชั้นดินจำนวนมาก

ผศ.อานนท์ กล่าวว่า ระดับน้ำทะเลจะปรับตัวสูงขึ้น 3.5-4 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง พื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยใน 4 จังหวัดจะได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยเฉพาะช่วงเช้าตั้งแต่ 6-9 โมงจะเกิดน้ำท่วมยาว 3 ชั่วโมง ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์แรกและสัปดาห์ที่สามของเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงมกราคม 2553 ที่สำคัญช่วงนี้ต้องระวังเรื่องพายุ ทั้งพายุดี เปรสชั่น พายุไต้ฝุ่น ที่อาจก่อให้เกิด "สตอร์ม เซิร์จ" หรือ คลื่นพายุหมุน ส่งผลต่อพื้นที่ชายฝั่งทะเลของอ่าวไทย

ผศ.อานนท์ ระบุว่า จากการหารือกับทางคณะวิศวกรรม ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า พื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นทรายและชั้นตะกอนเกิดการทรุดตัวลง 8-10 มิลลิเมตรต่อปี ซึ่งไม่แตกต่างจากข้อมูลที่ผ่านมา แต่ปัญหาคือพบการทรุดตัวลงของชั้นหินของเปลือกโลก ที่ผ่านมาไม่เคยมีการศึกษาบริเวณดังกล่าว แต่คณะวิศวกรรมฯ ได้ทำการสำรวจโดยอาศัยเทคโนโลยีจีพีเอส ระบุตำแหน่งจากภาพถ่ายดาวเทียม ทำให้พบว่ามีความเป็นไปได้ที่เปลือกโลกทรุดตัวลงมากขึ้น อาจมีสาเหตุจากการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก โดยเฉพาะการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ปี 2547 ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่ปัจจุบันเปลือกโลกหรือแผ่นดินบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯน่าจะทรุดตัวลง 20-30 มิลลิเมตร จากเดิมทุกปีพบการทรุดตัว 8-10 มิลลิเมตร

"หากแผ่นดินทรุดตัวมากขึ้นย่อมส่งผลต่อการระบายน้ำ ปัญหาน้ำท่วมก็จะบานปลาย เบื้องต้นจะหารือกับทางสำนัก งานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ของบประมาณราว 4 ล้านบาทเพื่อศึกษาเรื่องนี้ พร้อมทั้งมีแผนที่จะเสนอเรื่องดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีในการดึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกันศึกษาวิจัยด้วย" ผศ.อานนท์ กล่าว

"ธนาคารเมล็ดพันธุ์"ทำสำเร็จเก็บตัวอย่างพืชถึงเป้า



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>"ธนาคารเมล็ดพันธุ์ระหว่างประเทศ" ประสบความสำเร็จรวบ รวมเมล็ดพันธุ์พืชป่า 1 ใน 10 ของโลกได้ตามเป้าหมาย เมล็ดพันธุ์ล่าสุดที่เก็บได้ คือ กล้วยแดงหรือกล้วยหกจากจีน อาหารโปรดของช้างป่าเอเชีย

ธนาคารเมล็ดพันธุ์สหัสวรรษของสวนพฤกษศาสตร์หลวง (สวนคิว) ประเทศอังกฤษ ร่วมมือกับองค์กรต่างๆ มากกว่า 120 องค์กรใน 54 ประเทศ เก็บรวบรวมเมล็ดพันธุ์พืชป่าทั่วโลกเพื่อป้องกันการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพในอนาคต เมล็ดพันธุ์ของพืชแต่ละชนิดจะเก็บไว้ที่ประเทศต้นกำเนิดและที่ห้องใต้ดินอุณหภูมิลบ 20 องศาเซลเซียสของสวนพฤกษศาสตร์หลวงในเมืองเวสต์ซัสเส็กซ์ เมล็ดพันธุ์จะถูกอบแห้ง ทำความสะอาดและคัดแยกเพื่อเลือกเมล็ดที่ดีที่สุดเก็บไว้สำหรับปลูกใหม่หากจำเป็น ส่วนอายุการเก็บจะยาวนานเพียงใดขึ้นอยู่กับประเภทของพืชนั้นๆ

แต่เดิมโครงการนี้วางแผนเบื้องต้นหลังจากห้องเก็บสร้างเสร็จเมื่อปี 2543 ว่าจะเก็บเมล็ดพันธุ์ให้ได้ 1 ใน 10 ของทั่วโลกโดยประมาณการขณะนั้นว่าทั่วโลกมีพืชอยู่ 242,000 ชนิด เมล็ดพันธุ์กล้วยแดงจากจีนเป็นพืชชนิดที่ 242,000 จึงถือว่าครบตามเป้าหมายแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คาดว่าทั่วโลกน่าจะมีพืชมากถึง 300,000 ชนิด จึงขยับเป้าหมายขึ้นเป็นเก็บรวบรวมเมล็ดพันธุ์พืชให้ได้ 1 ใน 4 ของโลกภายในปี 2563

ประชุมครม.ใต้ทะเล-มัลดีฟส์ผวาเกาะจม



เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่า ประธานาธิบดีโมฮัมหมัด นาชีด ผู้นำแห่งสาธารณรัฐมัลดีฟส์ จัดประชุมคณะรัฐมนตรีใต้ทะเลลึก 6 เมตร ในทะเลอันงดงามของมัลดีฟส์ รวมทั้งบรรดาผู้ติดตามและสื่อมวล ชนลงไปทำข่าวใต้น้ำด้วย เพื่อรณรงค์ให้โลกเห็นความสำคัญของการแก้ไขภาวะโลกร้อน

การประชุมครม.นัดพิเศษครั้งนี้ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง มีวาระสำคัญในการประชุมเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน ถ่ายทอดสดทางทีวีไปทั่วประเทศ บรรดารัฐมนตรีทั้งคณะต่างใส่ชุดประดาน้ำลงไปประชุมใต้ทะเล โดยสื่อสารกันด้วยกระดานไวต์บอร์ดและสัญญาณมือ ประธานาธิบดีนาชีดและนายโมฮัมเหม็ด วาฮีด รองประธานาธิบดี นำนั่งโต๊ะประชุมที่ก้นทะเล จากนั้นรัฐมนตรีทั้งคณะร่วมลงนามในเอกสารเรียกร้องให้ทั่วโลกลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ เนื่องจากหากน้ำทะเลสูงขึ้น หมู่เกาะมัลดีฟส์จะต้องจมอยู่ใต้บาดาลก่อนชาติใด

หลังจากขึ้นมาจากน้ำแล้ว ประธานาธิบดีนาชีดวัย 42 ปีที่มาจากการเลือกตั้งครั้งแรกของประเทศ กล่าวว่า ในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ในเดือนธันวาคมนี้ ประชาคมโลกควรจะบรรลุข้อตกลงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ เพื่อรับประกันว่าผู้คนในโลกจะอยู่รอดได้ทุกคน

รายงานเปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้รัฐมนตรีไปเข้าฝึกคอร์สดำน้ำมาก่อนแล้ว 2 เดือน และมีครูฝึกตามลงไปด้วย แต่มีรัฐมนตรี 3 คนที่ไม่ได้ร่วมประชุม เพราะมีปัญหาด้านสุขภาพและติดภารกิจต่างประเทศ

16 แคว้นพุทธกาล

รู้ไปโม้ด

nachart@yahoo.com



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>อยากทราบชื่อเมืองสำคัญๆ ในสมัยพระพุทธ เจ้า อย่างเช่น มคธ โกสัมพี พาราณสี เป็นต้น ขอบคุณครับน้า

คนสนใจ

ตอบ คนสนใจ

สมัยของพระพุทธองค์คือสมัยพุทธกาล ยุคที่เรียกแผ่นดินถิ่นกำเนิดพระพุทธศาสนาคืออินเดียในกาลนั้นว่า ชมพูทวีป ซึ่งในสมัยปัจจุบันเป็นที่ตั้งของประเทศ 4 ประเทศ คือ อินเดีย เนปาล ปากีสถาน และ บังกลาเทศ

ชมพูทวีปแบ่งออกเป็นจังหวัดใหญ่ๆ 2 จังหวัด คือ มัชฌิมชนบท หรือ มัธยมประเทศ ได้แก่ จังหวัดส่วนกลาง และปัจจันตชนบท หรือ ปัจจันตประเทศ ได้แก่ จังหวัดปลายแดน หรือรอบนอก

ทั้งนี้ อาณาเขตแห่งมัชฌิมชนบทในครั้งพุทธกาลตามในบาลีจัมมขันธมหาวรรค มีดังนี้ ทิศบูรพา ภายในแต่มหาศาลนครเข้ามา ทิศอาคเนย์ ภายในแต่แม่น้ำลัลลวตีเข้ามา ทิศทักษิณ ภายในแต่เสดกัณณิกนิคมเข้ามา ทิศปัจจิม ภายในแต่ถูนคามเข้ามา ทิศอุดร ภายในแต่ภูเขาอุสีรทชะเข้ามา

ครั้งพุทธกาลนั้น ชมพูทวีปแบ่งเป็น 21 อาณาจักร หรือแคว้น หรือชนบท โดยแคว้นที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่เรียก มหาชนบท ดังนี้ (ชื่อหลังคือเมืองหลวง) ที่ปรากฏในบาลีอุโบสถสูตร มหาชนบท 16 แคว้น ได้แก่ อังคะ-จัมปา มคธ-ราชคฤห์ กาสี-พาราณสี โกสละ หรือ โกศล -สาวัตถี วัชชี-เวสาลี (ไพศาลี) มัลละ-กุสินารา (ปาวา) เจตี-โสตถิวดี วังสะ-โกสัมพี กุรุ-อินทปัตถ์ (ปัตถะ) ปัญจาละ-กัมปิลละ (หัสดินปุระ) มัจฉะ-สาคละ สุรเสนะ-มถุรา อัสสกะ-โปตลิ อวันตี-อุชเชนี คันธาระ-ตักสิลา กัมโพชะ-ทวารกะ และที่ปรากฏในพระสูตรอื่นมี 5 แคว้นชนบท คือ สักกะ-กบิลพัสดุ์ โกลิยะ-เทวทหะ (รามคาม) ภัคคะ-สุสุงมารคีรี วิเทหะ-มิถิลา และ อังคุตตราปะ-อาปณะ

ไล่เรียงชื่อเมืองสำคัญในพุทธประวัติได้ว่า ดินแดนแห่งหนึ่ง ณ บริเวณที่ราบเชิงเขาหิมาลัย ที่อยู่ในประเทศเนปาลปัจจุบัน ครั้งกระนั้นที่นั่นคืออาณาจักรเล็กๆ นามว่า กบิลพัสดุ์ เมืองหลวงของแคว้นสักกะ ห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองประมาณ 35 กิโลเมตร เจ้าชายสิทธัตถะถือพระประสูติกาลขึ้นกลางสวนป่าลุมพินีวัน ขณะที่พระนางสิริมหามายา พระมารดาของพระองค์ กำลังเสด็จกลับไปยังบ้านเกิด คือเมืองเทวทหะ แคว้นโกลิยะ ที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก

หลังจากใช้ชีวิตในฐานะองค์รัชทายาทได้ 29 ปี เจ้าชายสิทธัตถะ ได้ไปเห็นความจริงของชีวิตอันเป็นทุกข์ในหมู่ประชาชน ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับชีวิตอันหรูหราเปี่ยมสุขในพระราชวัง ทำให้ทรงตัดสินพระทัยละทิ้งชีวิตอันแสนสุขทางโลก เสด็จออกจากพระราช วังในค่ำคืนหนึ่ง เพื่อเข้าสู่โลกของนักบวช

ทรงออกศึกษาแสวงหาหนทางแห่งการหลุดพ้นจากชีวิตอันเป็นทุกข์เรื่อยมากว่า 6 ปี จนบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นพระ พุทธเจ้า ณ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ในแคว้นมคธ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงกบิลพัสดุ์กว่า 200 กิโลเมตร เมื่อพระชนมายุ 35 พรรษา

หลังจากที่พระองค์ตรัสรู้ คือการค้นพบกฎความจริงของธรรมชาติ ทรงประกาศหลักธรรมครั้งแรกให้แก่ปัญจวัคคีย์ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นกาสี

จากนั้นเสด็จออกเผยแผ่สิ่งที่ทรงค้นพบให้กับประชาชนในแว่นแคว้นต่างๆ บริเวณนั้น เป็นเวลานานถึง 45 ปี โดยจำพรรษาอยู่ที่แคว้นโกศลมากที่สุดถึง 19 ปี

กระทั่งมาถึงวาระสุดท้ายของชีวิต พระองค์เสด็จปรินิพพานที่เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ เมื่อพระชนมายุ 80 พรรษา

การเผยแผ่คำสอนและประกาศหลักธรรมที่ดำเนินมาตลอดพระชนมชีพของพระองค์ ได้ทำให้พระพุทธศาสนาฝังรากลึกลงในแผ่น ดินชมพูทวีปอย่างแน่นหนาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

และภายหลังการเสด็จปรินิพพาน ศาสนาพุทธเริ่มลงหลักปักฐานอย่างมั่นคง กษัตริย์แคว้นต่างๆ หลายพระองค์ทรงหันมานับถือศาสนาพุทธ และเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าไปทั่วอาณาจักรของตน

 

http://www.komchadluek.net/detail/20091018/33066/เฟ้นคนไทยร่วมวิจัยหาอนุภาคพระเจ้า.html#

เฟ้นคนไทยร่วมวิจัยหา"อนุภาคพระเจ้า"

<!-- AddThis Button BEGIN --><SCRIPT type=text/javascript>var addthis_pub="komchadluek";var addthis_brand = "คมชัดลึก";var addthis_header_color = "#ffffff";var addthis_header_background = "#3792ef"</SCRIPT><SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/200/addthis_widget.js" type=text/javascript></SCRIPT> <!-- AddThis Button END -->


คมชัดลึก :จำนิยายที่นำมาทำเป็นภาพยนตร์เรื่อง"รหัสลับดาวินชี่" ได้หรือเปล่านิยายขายดี ประพันธ์โดย แดน บราวน์ เขายังมีผลงานอีกเรื่องที่ชื่อว่า เทวากับซาตาน ทำเป็นภาพยนตร์แล้วเช่นกัน
เทวากับซาตานเรื่องเริ่มที่พระเอกซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านสัญลักษณ์ทางด้านศาสนาได้รับเชิญให้ไปดูสัญลักษณ์เก่าแก่ที่ถูกประทับไว้บนตัวศพของนักฟิสิกส์ที่ทำงานอยู่กับองค์การวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป หรือรู้จักกันในชื่อว่า เซิร์น (CERN)
เซิร์นเป็นศูนย์วิจัยเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์ระดับสูงเพื่อค้นหาความลับเกี่ยวกับจุดกำเนิดของจักรวาลตั้งอยู่ระหว่างชายแดนประเทศสวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส ลึกลงไปใต้พื้นดินราว 100 เมตรเป็นที่ตั้งของเครื่องเร่งอนุภาคทำจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังสูงใช้ยิงโปรตอนให้ชนกันด้วยความเร็วใกล้แสง คาดกันว่าเมื่ออะตอมสองตัวชนกันด้วยความเร็วดังกล่าวอาจพบอนุภาคชนิดหนึ่งที่ค้นหากันมานาน อนุภาคดังกล่าวคือ ฮิกส์ โบซอน บ้างขนานนามไว้อย่างน่าเกรงขามว่า "อนุภาคพระเจ้า"
ปฏิบัติการค้นหาความลับของจักรวาลขององค์การเซิร์นเป็นเรื่องจริงและเริ่มเดินเครื่องเร่งอนุภาคไปแล้วเมื่อตุลาคมปีก่อน แต่หลังเดินเครื่องไม่นาน ต้องปิดซ่อมแซมอุปกรณ์ ทำให้ความลับจักรวาลยังเป็นดำกฤษณาอยู่ ล่าสุดคาดว่าเซิร์นจะเดินเครื่องเร่งอนุภาคอีกครั้งกลางเดือนหน้า
เป็นที่น่ายินดีว่าประเทศไทยมีความร่วมมือกับองค์กรการวิจัยด้านนิวเคลียร์แห่งยุโรปจัดส่งตัวแทนประเทศไทย 4 คน ประกอบด้วย นักศึกษาระดับปริญญาตรี 2 คน และครูฟิสิกส์ 2 คน จากประเทศไทย เข้าร่วมเดินทางไปเข้าค่ายภาคฤดูร้อน และร่วมทำงานวิจัยกับเซิร์น เพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีเครื่องเร่งอนุภาค
ศ.ดร.ไพรัชธัชยพงษ์ ประธานคณะกรรมการโครงการคัดเลือกนักศึกษาและครูสอนฟิสิกส์บอกว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศเกิดขึ้นจากพระดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสร็จพระราชดำเนินเยือนองค์กรการวิจัยด้านนิวเคลียร์แห่งยุโรป หรือเซิร์น The European Organization for Nuclear Research (CERN) ที่สหพันธรัฐสวิส เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา และมีพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) และเซิร์น
เพื่อสร้างความร่วมมือส่งนักศึกษาและครูไทยไปร่วมโครงการภาคฤดูร้อนรวมทั้งสนับสนุนในนักฟิสิกส์จากประเทศไทยเข้าร่วมทำงานวิจัยในโครงการของเซิร์นด้วย
เทคโนโลยีฟิสิกส์อนุภาคหรือฟิสิกส์พลังงานสูง ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเทคโนโลยี วิศวกรรมสำหรับอนาคต การศึกษาความเข้มของสนามแม่เหล็กพลังงานสูง เทคโนโลยีการหล่อเย็น เทคโนโลยีสุญญากาศ ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับพัฒนากำลังคนรองรับเทคโนโลยีชั้นสูง เขากล่าว
ศ.ดร.เอมมานูเอลเทรสเมลิส ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารองค์กรการวิจัยด้านนิวเคลียร์แห่งยุโรป (เซิร์น) กล่าวว่า ภารกิจของเซิร์นมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี ค้นหาคำตอบพื้นฐานของการกำเนิดจักรวาล ซึ่งต้องอาศัยเทคโนโลยีชั้นสูง และต้องอาศัยความร่วมมือกันจากบุคลากรจากหลายประเทศ รวมถึงไทย ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือต้องการหาคำตอบว่าจักรวาลคืออะไร ประสบการณ์ที่ได้ถูกนำมาทำวิจัยต่อ หรืออย่างน้อยก็สร้างเครือข่ายนักวิจัยแต่ละประเทศ
อีกไม่นานเราคงได้รู้ว่าอนุภาคพระเจ้ามีจริงหรือไม่
จุฑารัตน์ทิพย์นำภา
พายุไต้ฝุ่น"ลูปิต"มุ่งหน้าเข้าฟิลิปปินส์

<!-- AddThis Button BEGIN --><SCRIPT type=text/javascript>var addthis_pub="komchadluek";var addthis_brand = "คมชัดลึก";var addthis_header_color = "#ffffff";var addthis_header_background = "#3792ef"</SCRIPT><SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/200/addthis_widget.js" type=text/javascript></SCRIPT>
คมชัดลึก :พายุ"ลูปิต"เพิ่มความรุนแรงเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น ขณะมุ่งหน้าสู่ฟิลิปปินส์ ขณะที่ยอดเหยื่อพายุลูกเก่าพุ่งเกือบ 1 พันคนแล้ว
19ต.ค.) เว็บไซท์ข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า พายุไต้ฝุ่น ลูปิต ได้เพิ่มความแรงลมเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นแล้วขณะเคลื่อนตัวอยู่ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ ขณะที่ทางการกำลังวางแผนอพยพสำหรับความเป็นไปได้ที่พายุจะพัดเข้าฝั่ง หลังจากยอดผู้เสียชีวิตจากพายุลูกก่อนหน้านี้ มาตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน เพิ่มกว่า 850 คนแล้ว โดยศูนย์เตือนภัยพายุไต้ฝุ่นร่วมของกองทัพเรือสหรัฐ ได้พยากรณ์ล่วงหน้าเป็นเวลา 5 วันว่า พายุลูปิต อยู่ห่างจากเมืองพาลานัน บนเกาะลูซอน ที่อยู่ทางตะวันออกของประเทศ 1,251 กิโลเมตร เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ตาม
เวลาในท้องถิ่น และกำลังเคลื่อนตัวไปทางเหนือด้วยความเร็วลม 7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ความแรงลมจะเพิ่มขึ้นระหว่าง 250 - 306 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และหลังจากพัดออกจากฟิลิปปินส์อย่างช้า ๆ ได้ 36 ชั่วโมง ก็คาดว่า จะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกและวกกลับทาง
เหนือสุดของเกาะลูซอนอีกในวันที่ 22 ตุลาคมนี้
ฟิลิปปินส์ยังคงเสียหายอย่างยับเยินจากพายุไต้ฝุ่นป้าหม่า และพายุกิสนา รัฐบาลกำลังส่งความช่วยเหลือด้านอาหารและการบรรเทาทุกข์อื่น ๆ ไปยังพื้นที่ที่อาจถูกตัดขาดเพราะพายุลูปิต ลูปิตเป็นภาษาตากาล็อก แปลว่า โหดร้าย ซึ่งศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐ ระบุว่า ความแรงในระดับ 5 ที่ได้ชื่อรุนแรงที่สุดตามมาตรวัดของแซฟไฟร์-ซิมส์สัน ที่ใช้วัดความรุนแรงของพายุ ซึ่งระดับ 5 จะมีความแรงลม 250 กิโลเมตรขึ้นไป และมีขีดความสามารถในการสร้างความหายนะที่รุนแรง
ด้านคณะกรรมการประสานความร่วมมือรับมือภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุ 2 ลูก ที่พัดกระหน่ำฟิลิปปินส์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 858 คนแล้ว โดยผู้ที่เสียชีวิตจากพายุกิสนา มีจำนวน 420 คน สูญหาย 37 คน หลังทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ 80 เปอร์เซ็นต์ ในกรุงมะนิลา เมื่อวันที่ 26 กันยายน และส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน 4.35 ล้านคน และบางพื้นที่ยังคงเกิดน้ำท่วมขัง และอีก 189,000 คน ต้องอาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย
ส่วนพายุป้าหม่า ได้พัดเข้าสู่ฟิลิปปินส์ เมื่อวันทีท 3 ตุลาคม ทำให้เกิดดินถล่มและคร่าชีวิตประชาชนไป 438 คน อีก 51 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ตามบริเวณภูเขาส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน 4.16 ล้านคน รวมทั้งอีกกว่า 32,000 คนที่ยังต้องหลบภัยอยู่ตามศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเช่นกัน
กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า โรคเลปโต-สไตโรซิส หรือ โรคฉี่หนู ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากแบคทีเรียที่สามารถทำให้เกิดอาการไตวาย โดยมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อจากปัสสาวะของสัตว์ที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำ ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 89 คน .

 

*** เตือนคนไทด้วยกัน ****

เสียงสายฟ้าคำราม คือคำเตือนจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เตือนคนกรุง ให้ค้นหาเครื่องป้องกันตนเอง
อยู่ในหลักโลกุตตระธรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุในฟิลิปปินส์พุ่งเกือบ 1,000 คนแล้ว​

​

มะนิลา 19 ต.ค. – ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุ 2 ลูกซึ่งพัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วงเดือนที่ผ่านมาพุ่งสูงถึง 858 คนแล้ว ขณะที่โรคระบาดหลังเกิดภัยพิบัติคร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 89 คน

รายงานล่าสุดจากสภาความร่วมมือด้านภัยพิบัติแห่งชาติระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตรวมเพิ่มขึ้นจาก 818 คน เป็น 858 คนแล้วเมื่อวานนี้ หลังพายุโซนร้อนกิสนาได้พัดถล่มฟิลิปปินส์ในวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 420 คน และสูญหาย 37 คน รวมทั้งทำให้น้ำท่วมพื้นที่ร้อยละ 80 ของกรุงมะนิลาและส่งผลกระทบต่อประชาชน 4.65 ล้านคน นอกจากนี้ ในบางพื้นที่ยังคงจมอยู่ใต้น้ำมาเป็นเวลานานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว และประชาชน 189,000 คน ยังคงอาศัยอยู่ในศูนย์บรรเทาภัย

ส่วนพายุไต้ฝุ่นป้าหม่าได้เริ่มพัดถล่มพื้นที่ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก่อนจะอ่อนกำลังลงกลายเป็นพายุโซนร้อน แต่ยังคงเคลื่อนตัวอยู่ใกล้เป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ อิทธิพลของพายุทำให้เกิดแผ่นดินถล่ม คร่าชีวิตผู้คน 438 คน และทำให้ 51 คนยังคงสูญหาย โดยผู้ประสบภัยส่วนใหญ่มักอาศัยอยู่ในพื้นที่ภูเขา นอกจากนี้ รายงานของรัฐบาลระบุว่า พายุป้าหม่าส่งผลกระทบต่อประชาชน 4.16 ล้านคน และทำให้กว่า 32,000 คน ยังคงอาศัยอยู่ในศูนย์บรรเทาภัย

กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า โรคเลปโตสไปโรซิส หรือโรคฉี่หนู ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 89 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนได้เตรียมพร้อมทีมกู้ภัยและสิ่งของบรรเทาทุกข์ เพื่อรับมือพายุไต้ฝุ่นลูปีต ซึ่งมีความเร็วลม 175 กม./ชม. และคาดว่าจะเข้าพัดถล่มฟิลิปปินส์ในวันพุธที่จะถึงนี้ -สำนักข่าวไทย

2009-10-19 11:38:03

พายุทำให้ฟิลิปปินส์ขาดดุลงบประมาณเพิ่มอีก 35,000 ล้านบาท​

​

มะนิลา 19 ต.ค. - รัฐบาลฟิลิปปินส์เผยว่า พายุ 2 ลูกใหญ่ที่กระหน่ำเกาะลูซอนนอกจากคร่าชีวิตประชาชนไปเกือบ 1,000 คนแล้ว ยังทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณปีนี้เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายอีก 50,000 ล้านเปโซ (ราว 35,000 ล้านบาท)

นายมาร์การิโต เตเวส รัฐมนตรีคลังฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ความเสียหายจากพายุกิสนาและป้าหม่าอาจทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณปีนี้สูงถึง 300,000 ล้านเปโซ (ราว 210,000 ล้านบาท) จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ก่อนเกิดพายุว่าจะขาดดุล 250,000 ล้านเปโซ (ราว 175,000 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ลดลงเหลือร้อยละ 0.4-1.4 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 0.8-1.8

ก่อนหน้านี้รัฐบาลฟิลิปปินส์แจ้งประมาณการคร่าว ๆ ว่า พายุทั้งสองลูกทำให้พืชผลทางการเกษตรและโครงสร้างพื้นฐานเสียหายอย่างน้อย 22,830 ล้านเปโซ (ราว 15,980 ล้านบาท) ยังไม่นับรวมตัวเลขความเสียหายของบ้านเรือนและธุรกิจ. -สำนักข่าวไทย

2009-10-19 12:05:49

ผู้นำไต้หวันขอให้จีนย้ายขีปนาวุธที่เล็งไต้หวันอยู่​

​

ไทเป 19 ต.ค.- ประธานาธิบดีหม่า อิง-จิ่ว ของไต้หวัน ขอให้จีนเคลื่อนย้าย หรือปลดประจำการขีปนาวุธที่เล็งไต้หวันอยู่ และยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะพบกับผู้นำจีน ในสักวัน

ประธานาธิบดีหม่า ให้สัมภาษณ์พิเศษสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่ทำเนียบประธานาธิบดีว่า ไต้หวันคิดจะซื้ออาวุธจากสหรัฐ เพิ่ม เพื่อปกป้องตนเอง แต่ไม่คิดสะสมอาวุธแข่งกับจีน เนื่องจากความสัมพันธ์ทางการค้าของสองฝ่ายขยายตัวด้วยดี และคาดว่าจะมีการลงนามข้อตกลงใหม่ ๆ ในปีหน้า และปีต่อไป อย่างไรก็ดี การที่จีนยังคงเล็งขีปนาวุธไม่ต่ำกว่า 1,000 ลูก มายังไต้หวัน ทำให้ชาวไต้หวันวิตกอย่างยิ่ง ดังนั้น หากไต้หวันจะเจรจาทำข้อตกลงสันติภาพกับจีน ก็หวังให้จีนเคลื่อนย้ายหรือปลดประจำการขีปนาวุธเหล่านั้น.-สำนักข่าวไทย

2009-10-19 15:23:30

อิหร่านโทษสหรัฐ อังกฤษ ปากีสถาน อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด​

​

อิหร่าน 20 ต.ค. - ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวโทษทั้งสหรัฐ อังกฤษ และปากีสถาน ว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดฆ่าตัวตายครั้งรุนแรงในอิหร่าน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 42 คน

อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ระบุว่า เหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าศัตรูของอิหร่าน ที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐและอังกฤษ อย่างไรก็ดี สหรัฐออกมายืนยันว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุโจมตีครั้งนี้ ทั้งยังประณามเหตุระเบิดว่าเป็นการก่อการร้ายที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก

ก่อนหน้านี้ กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน ประกาศว่า สหรัฐ อังกฤษ และปากีสถาน มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดฆ่าตัวตายครั้งรุนแรง เมื่อวานนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในจังหวัดซิสถาน-บาลูจิสถาน ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 42 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่ระดับผู้บัญชาการของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านรวมอยู่ด้วย 7 นาย และว่าจะบดขยี้กลุ่มที่ก่อเหตุให้สิ้นซากโดยเร็ว. - สำนักข่าวไทย

2009-10-20 04:43:44

อิหร่านต้องการให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ ประณามเหตุระเบิดโจมตี​

​

สหประชาชาติ 20 ต.ค. – รัฐบาลอิหร่านต้องการให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติออกมาประณามอย่างรุนแรงต่อเหตุโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปหลายสิบคน ในจำนวนดังกล่าวมีผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน 6 นายรวมอยู่ด้วย

นายโมฮัมหมัด คาซาอี เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติ ระบุในจดหมายถึงนายเล เลือง มิง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหประชาชาติ ว่า อิหร่านหวังว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายครั้งนี้ด้วยการประณามอย่างรุนแรงที่สุด และว่า รัฐบาลอิหร่านได้ตัดสินใจที่จะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นนำกลุ่มก่อการร้ายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้ อีกทั้งหวังว่า ประชาคมโลก รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านจะสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าวด้วยความเคารพ อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะสนับสนุนประเด็นดังกล่าวหรือไม่

กลุ่มมุสลิมนิกายสุหนี่ ที่ใช้ชื่อว่า ทหารของพระเจ้า ออกมายอมรับว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในจังหวัดซิสถาน-บาลูชิสถาน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 42 คน แต่ผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านนายหนึ่งออกมากล่าวโทษสหรัฐ อังกฤษและปากีสถานว่า อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดโจมตีดังกล่าว -สำนักข่าวไทย

2009-10-20 10:20:56

สหรัฐ-รัสเซียมีจุดยืนร่วมกันเรื่องนิวเคลียร์อิหร่าน​

​

เบอร์ลิน 19 ต.ค.-นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เยอรมนีว่า สหรัฐและรัสเซียตกลงกันว่าจะพิจารณาดำเนินมาตรการจัดการกับอิหร่านต่อไป หากยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงด้วยวิธีการทูตเรื่องโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน

อย่างไรก็ตาม นางคลินตันยังไม่สามารถทำให้รัสเซียให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้นกับอิหร่านในระหว่างการหารือกับที่รัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้บรรลุข้อตกลงอย่างกว้าง ๆ ในการดำเนินการครั้งต่อไป นางคลินตันกล่าวว่า การเจรจากับบรรดาผู้นำรัสเซียเป็นไปในทางสร้างสรรค์ และว่า ทั้งสองประเทศเห็นชอบกันในการผลักดันแนวทางต่อไปอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐยังกล่าวถึงเรื่องที่รัสเซียไม่ได้ดำเนินการส่งระบบป้องกันขีปนาวุธให้อิหร่าน ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดี .-สำนักข่าวไทย

2009-10-19 16:09:40

ลิเบียทุ่มงบพันล้านซื้อเครื่องบินซูจากรัสเซีย​

​

มอสโก 19 ต.ค.-สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ รายงานอ้างแหล่งข่าวการทหาร-การทูต เปิดเผยว่า ลิเบียมีแผนซื้อเครื่องบินรบกว่า 20 เครื่องจากรัสเซียมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ

เจ้าหน้าที่การทหาร-การทูต เผยว่า ลิเบียจะซื้อเครื่องบินรบอเนกประสงค์ซู-35 จำนวน 12-15 เครื่อง เครื่องบินรบซู-30 จำนวน 4 เครื่องและเครื่องบินฝึกรบ แยค-130 จำนวน 6 เครื่องจากรัสเซีย ซึ่งจะลงนามข้อตกลงในปลายปีนี้หรือราวต้นปีหน้า รวมมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (34,000 ล้านบาท) ข้อตกลงส่วนใหญ่พร้อมลงนามเหลือเพียงรายละเอียดทางการเงินเท่านั้น

รายงานแจ้งว่า ลิเบียได้หารือข้อตกลงเรื่องซื้ออาวุธจากรัสเซียในครั้งที่ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย เดินทางเยือนกรุงมอสโกปลายปีที่แล้ว ลิเบียเป็นลูกค้าอาวุธของรัสเซียในช่วงปลายสงครามเย็น.-สำนักข่าวไทย

2009-10-19 16:38:29

สหรัฐยืนยันพบหมูติดเชื้อหวัดใหญ่ 2009 ​

​

วอชิงตัน 20 ต.ค. - นายทอม วิลแซค รัฐมนตรีเกษตรสหรัฐ ยืนยันว่า พบหมูในงานออกร้านแสดงสินค้าที่รัฐมินนิโซตา ของสหรัฐ ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 แต่ยืนยันว่า มนุษย์ไม่ติดเชื้อจากหมู และหมูยังคงปลอดภัยสำหรับการบริโภค

นายวิลแซค แถลงว่า ห้องปฏิบัติการด้านสัตวบาลแห่งชาติสหรัฐ ยืนยันพบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในตัวอย่างที่เก็บจากหมูในงานออกร้านแสดงสินค้าของรัฐมินนิโซตา อย่างไรก็ดี ระบุว่า การพบหมูติดเชื้อครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า หมูที่เลี้ยงเชิงพาณิชย์จะติดเชื้อไปด้วยเพราะหมูที่นำมาแสดง กับหมูที่เลี้ยงเชิงพาณิชย์ถูกเลี้ยงแยกจากกัน และว่า มนุษย์ไม่สามารถติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จากการบริโภคหมู หรือผลิตภัณฑ์จากเนื้อหมู และหมูยังปลอดภัยสำหรับการบริโภค จนถึงขณะนี้หมูที่ติดเชื้อในงานรัฐมินนิโซตายังไม่แสดงอาการป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ทั้งยังดูสุขภาพแข็งแรง -สำนักข่าวไทย

2009-10-20 08:59:11

ไอซ์แลนด์พบผู้เสียชีวิตจากหวัดใหญ่ 2009 รายแรก​

​

เรคยาวิก 20 ต.ค. - ศูนย์อำนวยการสาธารณสุขไอซ์แลนด์ รายงานผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รายแรกของประเทศเมื่อวานนี้

ผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกของไอซแลนด์ เป็นวัยรุ่นหญิงพิการซ้ำซ้อนวัย 18 ปีที่เสียชีวิตลงหลังจากล้มป่วยเมื่อราว 11 วันก่อน และมีปัญหาเกี่ยวกับปอดอยู่ก่อนหน้าที่จะติดเชื้อ ซึ่งภาวะดังกล่าวเป็นปัจจัยที่ทำให้เธอเสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเรคยาวิก นครหลวง

ไอซ์แลนด์มีประชากรราว 300,000 คน มีผู้ได้รับการยืนยันว่า ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แล้วทั้งสิ้น 479 คน ในจำนวนนั้นหลายคนติดเชื้อในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นการแพร่ระบาดยังเป็นไปอย่างจำกัดในกรุงเรคยาวิก แต่ตอนนี้เชื้อได้ระบาดไปทั่วประเทศ

องค์การอนามัยโลกระบุว่า นับแต่พบไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดเมื่อเดือนเมษายน มีผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อแล้วเกือบ 400,000 คนทั่วโลก และกว่า 4,700 คนเสียชีวิตจากภาวะที่เกี่ยวเนื่องกับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่-สำนักข่าวไทย

2009-10-20 09:06:21

ที่มา http://news.mcot.net/international/