ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** กรรม ของจีน ****

    ผลจากการกีดกัน ขัดขวาง ทำลายพุทธศาสนา
    และการเบียดเบียนชีวิตมนุษย์ในอดีตของจีน...มีมาก
    กรรม...กำลังปรากฏ....หลังจีนโหมกำลังใหญ่ คิดครอบครองโลก
    แผ่นดินจีน...จะพิบัติมาก....เพราะ กรรมหนักมีมาก !!!!!!!

    ทางรอด คือ...การฟื้นฟู.... " พุทธศาสนา ในประเทศจีน "...อย่างเต็มกำลัง !!!!!!!
    และ... "การปฏิบัติสัจจะ"....ของคนจีน
    หาก....คนจีนไม่มี สัจจะ นำชีวิต...ก็ยากที่จะรอดพ้นจาก กรรมาในอดีต ที่ร่วมกระทำกันมา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** หลังกึ่งพุทธกาล ****

    .......สมณะวิบัติชัยยัง.......
    "หลักสัจจะธรรม"... คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด.... คือ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และเผยแพร่
    แต่...หลังกึ่งพุทธกาล....สาวกในพุทธศาสนา นำพาสั่งสอนกันนอกเหนือ "หลักสัจจะธรรม"
    "หลักสัจจะธรรม" .... ความจริงจึงถูกบดบัง ไปด้วย "ความเห็นต่างๆ"
    สุดท้าย...คือ กาลปัจจุบัน.... คนเราไม่รู้จักความหมายของ "หลักสัจจะธรรม" ที่แท้จริง !!!!!!!
    ความเห็น...ที่ไม่ใช่ความจริง... จึงนำพาพุทธศาสนิกชน เดินออกนอกทางตรง...เดินนอกธรรมเที่ยง
    เดินนอก "หลักสัจจะธรรม"
    ผู้มองเห็นธรรม...จึงมีน้อย
    ผู้บรรลุธรรม....จึงมีน้อย
    ผู้หลุดพ้น...แทบไม่มี !!!!!!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2007
  3. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    อนุโมทนา.....สาธุ กับคุณเกษม ไว้ ณ.ที่นี้

    เรื่องพระพุทธศาสนามหายานในญี่ปุ่นนี่ เราคงเรียกว่าเป็นพระพุทธศาสนาไม่ได้แล้วล่ะครับ เพราะคำสอนและวัตรปฏิบัติ ต่างกับเราลิบลับ

    เพื่อชาวญี่ปุ่นบอกว่า พระญี่ปุ่นดำเนิธุรกิจเพื่อการดำรงชีพ 100% นอกเหนือจากการรับบริจาค งานศพ งานแต่งงาน มีอัตราการจ้างเป็นระเบียบแบบแผนเหมือนราคารายการอาหาร รับเงินรับบัตรเครดิตอีกด้วย

    เรื่องพระญี่ปุ่นมีเมียได้นี่ทำให้วงการพระไทยแตกตื่นกันมาครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์....ครับ

    กล่าวคือปี พ.ศ. 2500 มีการปลุกเสกพระเครื่อง พระบูชา 25 พุทธศตวรรษ โดยอาราธนาพระสงฆ์จากทั่วมุมโลกมาเจริญจิตภาวนาที่ท้องสนามหลวงนับพันรูป

    ทีนี้พอถึงเวลาเข้านั่งประจำที่เจริญภาวนา ปรากฏว่าท่านได้เอาเมียขึ้นไปบนอาสนะที่มีพระสงฆ์องค์อื่นๆนั่งอยู่ด้วย จึงเกิดการโกลาหล เดือดร้อน ทายก ทายิกา ต้องรีบไปเอาลงมา พิธีปลุกเสกถึงจะดำเนินต่อไปกันได้

    เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่มาเล่าคลายเครียดกันนะครับ เพราะหลายท่านคงเกิดไม่ทัน

    ส่วนเรื่องบาปกรรมที่ทำกันไว้ในพระศาสนาก็คงต้องติดตามผลกรรมกันต่อไป ประเทศญี่ปุ่นเองมีแนวโน้มว่าจะหายสาบสูญไปตามคำทำนายของหลายสำนัก

    เมืองจีนก็คงไม่แพ้กันเท่าไร แต่เพราะมีพื้นที่มาก ก็คงจะเหลือมากอยู่เหมือนกัน แต่จะเหลือเท่าไร เหลืออย่างไร (จะอดตายกันมากน้อย) ขนาดไหน คงต้องดูกันต่อไป

    "อะไรที่ขึ้นชื่อว่าเลวแล้ว ไม่ทำนั่นแหละดีที่สุด"
     
  4. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ขออนุญาตนำ เรื่องของคุณลุงหมูบินมาลงครับ


    <TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: 0px" width=175>ลุงหมูบิน<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 11:31 AM
    วันที่สมัคร: Jan 2007
    อายุ: 31 ปี
    ข้อความ: 54 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 314 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 499 ครั้ง ใน 52 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 59 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->หวัดดีครับ
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->มีความฝันขำ ๆ จะเล่าให้ฟ้งครับ
    พอดีได้อ่านกระทู้ที่คุณ kananun ฝันว่า
    เห็นคนอพยพ สงสัยผมคงต้องไปเดินกับเค้าแน่ ๆ
    เพราะเมื่อคืนนี้ผมก็ฝันเห็นการอพยพออกจาก กทม.
    เหมือนกันครับ ดูแล้วมันสับสนวุ่นวายมากมายอยู่
    ยังฝันว่าตอนที่เค้าเริ่มจะอพยพผมเพิ่งจะเก็บข้าวของ
    กำลังหยิบโทรศัพท์จะโทรหาคุณ kananun
    แฟนก็มาปลุกเสียก่อนครับ ยังไม่ทันได้คุยกันเลย

    แต่รู้สึกว่าช่วงนี้ผมฝันเกี่ยวกับเรื่องนี้บ่อยครั้ง
    อาจเป็นเพราะจิตนิวรณ์ หรือไม่ก็กินมากนอนมาก
    ก็เลยฝันมากก็ได้ เช่นเมื่อวันที่ ๑๔ ที่ผ่านมาผมก็
    ฝันว่าท่านท้าวเวสสุวรรณ พาท่านยมฯ มาเยี่ยมที่บ้าน
    แล้วท่านยมฯ ก็บอกว่า
    "ให้บวชเสียแล้วจะพ้นจากพิบัติภัย" ในใจเราก็เลย
    คิดว่าถ้าบวชแล้วการจะช่วยเหลือคนอื่นนั้นอาจทำ
    ได้ยากกว่าเป็นฆราวาส อยู่เป็นฆราวาสน่าจะช่วย
    เหลือผู้อื่นได้มากกว่า ท่านก็เลยไป

    ก่อนหน้านี้ก็เคยฝัน ตั้งแต่ก่อนจะเข้ามารู้เรื่องภัยพิบัติ
    จากเวปพลังจิต

    ช่วยนี้ยิ่งแย่ครับเวลานั้งสมาธิพอจิตสงบได้ที่ทีไร
    มักจะเกิดนิมิตรเกี่ยวกับภัยพิบัติอยู่เรื่อย ทั้งเมืองร้าง,
    น้ำท่วม, ทางยกระดับถล่ม ก็เลยเซ็งครับ พยายาม
    จะไม่สนใจในนิมิตร แต่มันก็เผลออยู่บ่อย ๆ

    ก็เลยมาเล่าสู่กันฟังครับ ขำ ๆ ยามเช้า ครับ
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ปฏิบัติเหมือนพระสงฆ์ โดยไม่ตองบวช ****

    สมัยพุทธกาล...ที่พุทธศาสนารุ่งเรือง
    มีผู้มองเห็นธรรม....บรรลุ และ หลุดพ้นกันมาก
    เพราะ...ปฏิบัติตาม "หลักสัจจะธรรม" ที่พระพุทธเจ้าค้นพบ
    คือ....การปฏิบัติ สัจจะ เป็นประจำ
    ด้วย...การกำหนด สัจจะ ให้ตนเองปฏิบัติวันละข้อ กำหนดเวลาที่จะทำอย่างชัดเจน

    ปัจจุบัน...ณ วันนี้
    "หลักสัจจะธรรม" ปรากฏชัดแล้ว
    สามารถศึกษาเรียนรู้ได้....เราจึงสามารถปฏิบัติได้ เช่นเดียวกับพระในสมัยพุทธกาล
    เพียงแต่...ข้อใดที่ยัง ละ เลิก ไม่ได้.... เพราะ ความจำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือสังคม
    ก็ยังไม่ต้องปฏิบัติ...หรือ จะสามารถปฏิบัติได้ในบาง วันที่เหมาะสม....
    ซึ่งจะช่วยให้...เราสามารถดำรงชีพในสังคม ได้อย่างมีความสุข
    เรียกว่า... "การเดินสายกลาง"....ทำในสิ่งที่พอทำได้ ไม่เหนือบ่าฝ่าแรง ...มากเกินกำลัง

    สำหรับ...ผลที่เกิดขึ้น ด้วยการ "ปฏิบัติสัจจะ" เป็นประจำ
    จะเกิดผล ....เช่นเดียวกับ การที่พระปฏิบัติ
    เพราะ...เป็นการปฏิบัติตาม "หลักสัจจะธรรม" ที่เป็นหลักเดียวที่ปักไว้อย่างมั่นคง
    สิ่งที่ทำได้ไม่ตาย ไม่สูญสลาย จะติดกับตัวของเราไปตลอดชั่วกัปชั่วกัลป์
    ดั่งเช่นที่...โลกุตตระ ได้สอนให้พระพุทธเจ้าพิจารณา....คือ
    ....... "ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน" .......

    พระพุทธเจ้า จึงได้เชื่อ....ตัวกระทำหาค่าประมาณไม่ได้ !!!!!!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** กรรม ของเขมร ****

    ดินแดนเขมร....เคยเจริญรุ่งเรืองทางศาสนศาสตร์
    ปรากฏใบหน้าของ "โลกุตตระ" ...บนยอดปราสาทใหญ่ในสมัยโบราณ
    ศาสนาพุทธเคยเจริญรุ่งเรือง

    แต่...จิตใจคนเขมรที่ผ่านมา เปลี่ยนไปมาก
    ศาสนศาสตร์ถูกทำลาย....นำ "ความเห็น"... มาแทน "ความจริง"
    สร้างสงครามเบียดเบียน ทำลาย ชีวิตคนจำนวนมาก

    หาก...ผู้นำเขมรยังคบคิดสะสมอาวุธ ใช้ทำลายล้าง
    เพื่อยึดผืนแผ่นดินประเทศไทยในอนาคต...อันใกล้

    ชะตากรรม...ของคนเขมร คือ
    ประเทศเขมรจะพบทรัพยากรธรรมชาติ จำนวนมาก
    แต่...ก็ต้องเกิดพิบัติต่อมา
    เกิด ฟองสีขาว จำนวนมากผุดขึ้นมาจากใต้ดิน
    ก่อน....ที่ประเทศจะจมลง
    ผู้ที่อยากเห็นเหตุการณ์...จะไม่รอด....เพราะ หนีไม่ทัน
    ทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่าง...ฉับพลัน !!!!!!!

    หนทางรอด...ของคนเขมร คือ...สัจจะ
    " ไม่ยุ่งเกี่ยว ไม่สนับสนุนการทำสงครามทุกรูปแบบ "
    และ "การปฏิบัติสัจจะ"....ของคนเขมร
    หาก....คนเขมรไม่มี สัจจะ นำชีวิต...ก็ยากที่จะรอดพ้นจาก กรรมในอดีต ที่ร่วมกระทำกันมา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ตนพึ่งตน ****

    การกระทำ คือ ที่พึ่ง
    สุดท้าย...ทุกคน ต้องพึ่งผลจาการกระทำที่ทำเอาไว้แล้ว
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    *** เมื่อถึงเวลาอพยพหนีภัย ***

    [​IMG]

    คนหนีภัยจากกรุงเทพ และใกล้เคียง...ส่วนใหญ่คงเตรียมการ อะไรไม่ได้มาก !!!!!!!
    เพราะ...ภัยจะถึงตัวอย่างรวดเร็ว....ต้องรีบหนี
    คนต่างจังหวัดภาคเหนือ ภาคอีสาน....
    จึงต้องเตรียมตัวพร้อมรับ คนจากภาคกลางจำนวนมาก ถ้า....เตรียมการดี...จะสามารถช่วยได้อย่างมาก....ช่วยได้ตลอดการเดินทาง จนกว่าเขาจะเดินทางไปถึงจุดหมายที่ปลอดภัย

    " หนุมาน ผู้นำสาร "

    หมายเหตุ

    "น้ำสะอาด" เป็นสิ่งจำเป็นมาก ในช่วงเมื่อถึงเวลาอพยพหนีภัย เพราะถ้าคนเราขาดน้ำเพียง 2-3 วันก็จะถึงแก่ความตาย จึงควรเตรียมจัดหาแหล่งน้ำสะอาดนี้เก็บไว้ตามจุดต่างๆ ในต่างจังหวัดที่คาดว่าผู้คนจะอพยพหนีไปอยู่รวมกันมาก ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2007
  9. greatmans

    greatmans เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +1,131
    'บิ๊กแอ้ด' นัดทานมื้อเที่ยงเอกอัครราชทูตจีน
    เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 22 เม.ย. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางออกจากบ้านพักย่านลาดกระบัง ไปยังสถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย เพื่อรับประทานอาหารกลางวันกับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โดยมี พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วย ทั้งนี้ คาดว่านายกรัฐมนตรี ได้หารือกับเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทยในหลายประเด็น เพราะนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นการ ปลายเดือนพฤษภาคมนี้.

    http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=124921&NewsType=1&Template=1

    มีนัยสำคัญครับ ปกตินายกจะไม่ไปคุยกับฑูตของต่างประเทศโดยตรง สงสัยต้องมีเรื่องบางอย่างที่ลับสุดยอดแน่นอน
     
  10. ตลับนาค

    ตลับนาค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +1,497
    การใช้ลมฟ้าอากาศเป็นอาวุธ

    การทำฝนเทียมดูจะเป็นเรื่องธรรมดาในบ้านเรา เริ่มแรกนั้นมีการทดลองกันมา
    ตั้งแต่ประมาณคศ. 1940 โดยหลักการ ก็จะไปโปรยสารก่อเมฆ ซึ่งมักจะเป็น
    Silver Iodine (AgI) ซึ่งจะกระจายไปทั่วเมฆที่สเปรยไว้ ทำให้เกิดความเย็น
    พอไอน้ำในเมฆ เกาะตัว กันมากขึ้นก็เกิดเป็นฝนตกลงมา

    ตั้งแต่ปี 1962-1983 มีโครงการของนักวิทยาศาสตร์สหรัฐชื่อว่า Project Stormfury
    เพื่อทดลองลดความแรงของ Hericane ที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติค
    แต่ดูเหมือนมันจะไม่ให้ผลออกมาอย่างเห็นได้ชัด โครงการก็ล้มเลิกไป

    แต่ว่าโครงการนี้ก็ก่อให้ทางทหารของอเมริกา เอาหลักการไปใช้ในสงครามเวียดนาม
    คือว่าสมัยนั้น การส่งเสบียง+อาวุธของคนเวียตนามก็ด้วยการเดินเท้า จากตอนเหนือ
    ไปยังตอนใต้ และเส้นทางก็เป็นเครือข่ายหลายเส้นขนานกัน ซึ่งยากต่อการตัดการ
    ขนส่ง ในช่วงปี 1967-1972 ได้มีโครงการลับเกิดขึ้นคือ Project Popeye
    เป็นการทำฝนเทียมเพื่อให้ฝนตกมากๆ และตัดเส้นทาง หรือทำให้เกิดความยาก
    ลำบาก พอตอนหลังโครงการนี้รั่วออกมาข้างนอก ก็ถูกวิจารณ์โดยสื่อมวลชน และ
    ต้องล้มเลิกไปในที่สุด จากนั้นก็ตามมาด้วยสนธิสัญญาระหว่างประเทศในการห้ามใช้
    การดัดแปลงลมฟ้าอากาศเป็นอาวุธ

    เมื่อ 26 April 1986 โรงไฟฟ้านิวเคลียที่ Chernobyl ได้เกิดระเบิดขึ้น
    เกิดกัมมันตภาพรังสีกระจายออกไปเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะกระจายสูงขึ้น
    ไปที่อากาศข้างบน และหอบไปโดยความเร็วของลม
    หลังจากระเบิดผ่านไปได้ห้าปี ทางรัสเซียจึงได้ยอมให้นักวิทยาศาสตร์ต่างชาติเข้าไป
    ในเขตนั้นได้ มีนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งเข้าไปวัดระดับกัมมันตภาพรังสี พบว่า มี
    พื้นที่แห่งนึงห่างออกไปจากโรงไฟฟ้าเกินร้อยกิโลเมตร แต่ว่ามีปริมาณรังสีเข้มข้นมาก
    (ในรูป อยู่ขอบของ Belarus ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของ Gomel ตรงที่
    เป็นสีแดง) คนแถวนั้นบอกว่ามีฝนตกหนักหลายวันหลังจากโรงไฟฟ้าระเบิด ซึ่งฝนตก
    หลังจากที่เครื่องบินบินผ่าน ทางการรัสเซียตอนนั้นก็ออกมาปฏิเสธเรื่องการทำฝนเทียม
    แต่เมื่อปีที่แล้วนี้เอง มีนักบินหลายคนได้รับเหรียญกล้าหาญ เรื่องจากไปปฏิบัติการ
    ทำฝนเทียม ช่วงหลังโรงไฟฟ้าระเบิด (รูป)

    ท่านคงจะพอเดากันได้แล้วนะครับ ดูจากแผนที่แล้ว มอสโควห่างจาก Chernobyl
    ไม่มากนัก และลมในรัสเซียก็พัดไปทางทิศตะวันออก คาดว่าทางการในตอนนั้นก็
    คงจะป้องกันรังสีมาสู่เมืองใหญ่ด้วยการให้เกิดฝนชะรังสีลงมาก่อน นักบินได้ให้สัมภาษณ์
    ในตอนหลังว่าภารกิจนี้เริ่มตั้งแต่วันที่สองหลังจากโรงไฟฟ้าระเบิด จะบินวนรอบเพื่อทำฝน
    ในรัสมี 30 กิโล ไปจน ร้อยกิโลเมตรกว่าๆ หลังจากรอบแรกบินกลับมา ก็ถูกสั่งให้
    จอดเครื่องบินแยกออกไป มีนักวิทยาศาสตร์มาวัดปริมาณรังสี ก็ถึงกับวิ่งหนีออกไปหมด
    ทั้งเครื่องบินและลูกเรือก็ถูกแยกออกไปอยู่ต่างหาก จนกระทั่งช่วงการทำฝนเสร็จสิ้น

    คราวนี้เกิดอะไรขึ้นกับ ผู้คนในหมู่บ้านชายแดน Belarus ผู้คนในหมู่บ้านนั้น
    มีอาการของคนถูกกัมมันตภาพรังสีอย่างสูง ที่สังเกตได้ชัดคือมีมะเร็งไธรอยเกิดขึ้น
    หลังจากนั้นเป็นจำนวนมาก เขาก็ออกมาประท้วงกันว่าถ้ามีการบอกกันก่อนหน้านั้น
    ก็จะได้เตรียมยาแก้ (น่าจะเป็นพวกโปรตัสเซียมไอโอไดน์) ไว้ก่อน แล้วก็จะได้ หลบเข้า
    ชายคาไม่ไปโดนฝนตรงๆ

    คราวนี้ก็ชวนให้คิดว่าถ้าเกิดเหตุนิวเคลียขึ้นหลายที่ในโลก มันก็จะมีละอองรังสีปนเปื้อน
    มากับอากาศแน่นอน ฉะนั้น ฝนที่ตกลงมาหลังจากเกิดสงครามเหล่านี้ก็จะเป็นอันตราย
    อย่างยิ่ง อาจจะมีฝนตกได้ทั้งธรรมชาติ และฝีมือมนุษย์

    นอกจากนี้แล้ว แหล่งน้ำที่เราเตรียมไว้ ถ้าเป็นแหล่งน้ำเปิด พวกบ่อน้ำขุดไว้ ก็จะมีโอกาส
    ปนเปื้อนสูง
    ยาแก้พวกโปรตัสเซียมไอโอไดน์ เราจะไปหามาจากไหน
    ปริมาณรังสีมันจะเพิ่มขึ้นแน่นอน ทุกอย่างคงจะเปื้อนไปด้วยรังสี การวัดค่าจะได้มากหรือ
    น้อยก็แล้วแต่ เราก็น่าจะบอกได้ว่า มากแค่ไหนละที่จะไม่ปลอดภัย และน้อยแค่ไหนที่
    ยังคงปลอดภัยอยู่

    เรื่องและภาพจาก Science of Superstorms, BBC2
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • seeding1.jpg
      seeding1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.5 KB
      เปิดดู:
      40
    • seeding2.jpg
      seeding2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.8 KB
      เปิดดู:
      51
    • seeding3.jpg
      seeding3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.2 KB
      เปิดดู:
      45
    • seeding5.jpg
      seeding5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.4 KB
      เปิดดู:
      46
    • seeding6.jpg
      seeding6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95.3 KB
      เปิดดู:
      41
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    โลกุตตระ...โปรดเมตตามนุษย์และสัตว์
    จัดสรร ดินฟ้าอากาศ....มาห้ามทัพหลายครั้งแล้ว...แต่คนเรามองเห็นเป็นเรื่องธรรมชาติ เรื่องบังเอิญ !!!!!!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  12. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    มีข้อมูล จาก ที่พวกเราช่วยกันรวบรวมไว้

    หากไม่มีโปรแตสเซี่ยมไอโอไดด์ สำหรับแก้พิษกัมมันตภาพรังสี สำหรับกิน เราสามารถ ใช้ เบต้าดีน ที่ใช้ทำแผล ป้ายบริเวณท้องแขนทุกวันให้สารประกอบไอโอไดด์ ดูดซึมทางผิวหนังได้เช่นกันครับ

    ถึงได้บอกว่า การให้ข้อมูลความรู้ เป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต การบาดเจ็บ และการสูญเสียให้น้อยลงครับผม

    ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณตลับนาคมากๆครับ

    ส่วนผู้รวบรวมไฟล์วีธีการอยู่รอดจากสงครามนิวเคลียร์ที่คุณจัสมินได้แปลและเรียบเรียงไว้ รบกวนช่วยทำลิงค์ไว้ให้ด้วยครับ เผื่อท่านที่สนใจจะได้ดาวน์โหลดเก็บไว้ครับผม
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    นักวิทยาศาสตร์ชี้ ไทยเจออากาศร้อนสุดๆ 60 วัน

    [​IMG]

    สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

    ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (START) จุฬาลงกรณ์หาวิทยาลัย กล่าวภายในการสัมมนาวิชาการ เรื่อง ผลกระทบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลต่อประเทศไทย ว่า สภาพภูมิอากาศของประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 20 -30 ปีข้างหน้า และจะค่อยๆ รุนแรงขึ้น เห็นได้จากอัตราการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล โดยเฉพาะบริเวณทะเลอันดามันจะสูงกว่าอ่าวไทย เนื่องจากการเปลี่ยน แปลงของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และปริมาณฝนจะเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยบริเวณชายฝั่งทะเลจะเกิดฝนตกถี่ขึ้น

    เมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้นการเกิดโรคระบาดอาจเพิ่มขึ้น และจากการศึกษาแบบจำลองสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ในอีก 30 -80 ปีข้างหน้า พบว่า จำนวนวันร้อนที่สูงกว่า 33 องศาเซลเซียสจะมีมากขึ้นประมาณ 30-60 วันต่อปีจากปกติ 20 วันต่อปี ทั้งนี้ จังหวัดที่มีวันร้อนมากที่สุด คือ อุทัยธานี เนื่องจากมีพื้นที่อยู่ในหุบเขา รองลงมาคือ นครสวรรค์

    ส่วนจังหวัดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงมากนัก คือ ขอนแก่น สกลนคร และชัยนาท สำหรับจำนวนวันเย็นที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียสจะมี ประมาณ 30-40 วันต่อปีจากเดิมประมาณ 20-30 วันต่อปีเท่านั้น โดยจังหวัดที่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันตกจะมีจำนวนวันเย็นมากที่สุด

     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE borderColor=#00ac00 cellSpacing=0 cellPadding=5 width=620 bgColor=white border=1><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#008600>ไขปริศนา "แอตแลนติส" นครที่สาบสูญ </TD></TR><TR><TD>
    <TABLE width=610 align=center border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]


    ..........นักวิจัยสหรัฐเปิดเผยว่าได้ค้นพบ
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เอ็ดการ์ เคย์ซี ได้พยากรณ์ไว้ตอนหนึ่งว่า
    [​IMG]

    ...ทวีปแอตแลนติส เป็นทวีปที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    มีขนาดใหญ่กว่ายุโรปทั้งหมด รวมกับแผ่นดิน
    รัสเซีย มีดินแดนต่อทอดไปทั่วโลก

    ชนชาติทีอาศัยอยู่บนทวีปแอตแลนติส
    เป็นชนชาติผิวแดงที่มีความเฉลียวฉลาดเป็นเลิศ
    ผู้คนทั่วไปมีประสิทธิภาาพอย่างดียิ่ง
    มีความรู้ความสามารถในศาสตร์ต่าง ๆ ทั้งปวง
    รวมทั้งงานด้านประติมากรรม วิศวกรรม
    และสถาปัตยกรรมด้วย

    โดยเฉพาะความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์นั้น
    เคย์ซีได้บันทึกไว้เป็นคำพยากรณ์ในบทที่ 2794-L-1
    โดยสรุปว่า ชาวแอตแลนติสมีความรู้
    ความเจริญก้าวหน้าทางด้านเคมี ฟิสิกส์
    และจิตวิทยามาก พวกเขารู้จักประดิษฐ์ไฟฟ้าใช้
    รู้จักผลิตพลังปรมาณูจากยูเรเนียม
    รู้จักผลิตแสงเลเซอร์ ตลอดจนผลิต
    คลื่นวิทยุติดต่อกับดินแดนอื่นได้

    สิ่งสำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือ
    ชาวแอตแลนติสสามารถผลิตพลังงาน
    มหาศาลจากพลึกมหัศจรรย์ชนิดหนึ่ง
    ซึ่งสามารถรวมเอาพลังธรรมชาติ
    ทั้งหมดที่มีอยู่ในโลกและจักรวาล
    เข้าด้วยกัน และเป็นที่น่าสังเกตว่า
    ความสำเร็จในทางวิทยาศาสตร์
    ของชาวแอตแลนติสนั้น อาศัยพลังงาน
    แสงอาทิตย์เป็นสำคัญ

    วัฒนธรรมสูงส่งของชาวแอตแลนติสพัฒนา
    ตลอดมา โดยมีความเกี่ยวพันทางศาสนา
    เริ่มตั้งแต่มีการทำพิธีบูชาพระอาทิตย์
    และเทพเจ้า

    วัฒนธรรมของอาณาจักรแอตแลนติส
    หายสาปสูญไปในที่สุด เมื่อเกิดภัยพิบัติ
    ครั้งใหญ่ ดินแดนของมหาอาณาจักรเกิด
    สั่นสะเทือน และได้ถล่มทลายลงไป
    ใต้ทะเล ภายในชั่วคืนกับชั่ววัน ดังน้นเมื่อ
    ปี 9500 ก่อนคริสต์กาล ชาติแอตแลนติสก็
    หายไปจากโฉมหน้าของโลก

    เคย์ซีกล่าวว่า วัฏจักรแห่งประวัติศาสตร์
    มักจะหมุนเวียนกลับมาอีกเสมอ
    ดังนั้นวิญญาณของชาวแอตแลนติสย่อม
    มีโอกาสกลับมาเกิดใหม่ได้อีก
    จากดินแดนหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง
    และจากทวีปหนึ่งไปยังอีกทวีปหนึ่ง
    หรือจากเกาะหนึ่งไปยังเกาะอื่น ๆ

    มหาอาณาจักรแอตแลนติสมีความเจริญ
    ก้าวหน้าทางวิทยาการเท่ากับโลกเรา
    สมัยปัจจุบัน หรือบางอย่างมีความก้าวหน้า
    มากกว่า พวกเรารู้จักพัฒนา โดยนำเอา
    พลังงานอันมหาศาลมาใช้ให้เกิดประโยชน์

    ในปัจจุบันเคย์ซีเชื่อว่า โลกเราได้มีการ
    เปลี่ยนแปลงอย่างปัจจุบันทันด่วน
    ที่ร้ายแรงที่สุดมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งอาจมีผล
    ทำให้อาณานิคมหรือดินแดนบางส่วนของ
    มหาอาณาจักรแอตแลนดิสโผล่ขึ้นมาให้ชาวโลก
    ได้เห็นอีกก็เป็นได้ เช่น เมื่อปี 2483 เคย์ซี
    ทำนายว่าพื้นที่บางส่วนทางด้านตะวันตก
    ของแอตแลนติสจะโผล่ขึ้นมาใกล้ ๆ
    บริเวณหมู่เกาะบาฮามา

    ในช่วงระหว่าง พ.ศ.2511-2512 ปรากฏว่า
    คำทำนายของเคย์ซีได้กลายเป็นความจริง
    คือ ได้มีการค้นพบซากเมืองใต้บาดาลใกล้ ๆ
    หมู่เกาะบาฮามา เรียงต่อกันอย่างประณีต
    ราวกับมีการใช้เทคโนโลยีทางวิศวกรรม
    และสถาปัตยกรรมชั้นสูง หินบางก้อนมีขนาดใหญ่
    พอ ๆ กับขนาดรถบรรทุกเลยดีเดียว
    ลำพังจะใช้กำลังคนช่วยกันแบกหาม
    ขึ้นไปวางเรียงต่อกันก็คงจะไม่ทำได้
    เรียบร้อยและปราณีตเช่นนั้น

    เคย์ซียังทำนายต่อไปอีกว่า
    ภัยพิบัติครั้งร้ายแรงที่เกิดขึ้น จนทำให้
    มหาอาณาจักรแอตแลนติส อันกว้างใหญ่
    ไพศาลถล่มทลายพังพินาศจมหายไปใต้
    ทะเลนั้น จะเกิดขึ้นอีกหลายแห่งในโลก

    เคย์ซีกล่าวว่า
    ในช่วงแรกสุดของโลกเรา เมื่อประมาณ
    10 ล้านห้าแสนปีมาแล้ว มีอารยธรรม
    เกิดขึ้นแล้วเสื่อมสลายไปหลายครั้ง
    ยุคเจริญรุ่งเรืองของอารยธรรมชาวแอตแลนติส
    อยู่ระหว่างช่วงนับจาก 200000 ลงมา
    จนถึงปี 10700 ก่อนคริสต์กาล คือนับตั้งแต่
    ช่วงเวลาประมาณ 13000 ปี ถอยหลังเป็นต้นไป
    คือสรุปแล้ว จะมีอายุนานประมาณ 80000-
    900000 ปี

    http://www.dek-d.com/board/view.php?id=513242

    ประวัติศาสตร์โลกกำลังจะซ้ำรอยเดิม จากเว็บพุทธแท้

    ผลสุดท้ายของยุคนั้นๆ จะจบลงด้วยการล่มของระบบเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ และทั้งโลก ความตึงเครียดของสงครามก็ยุติด้วยมหาสงคราม

    ส่วนเรื่องวิกฤตภัยธรรมชาติก็จบลงด้วยภัยธรรมชาติรุนแรงเพียงวันเดียว ทำให้ผู้คนล้มตายลงไปมากว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ด้วยแผ่นดินไหว 12 ริกเตอร์ เกิดคลื่นสึนามิสูงถึิง 100 เมตร โลกไหวถึง 12 ริกเตอร์ ทำให้แผนที่โลกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว แผ่นดินที่อยู่ข้างบนจะเคลื่ือนตัวลงทะเล แผ่นดินที่อยู่ใต้ทะเลจะเคลื่ือนตัวมาอยู่ข้างบน


    นี่โลกเป็นมาอย่างนี้ หากใครเคยศึกษาปรัชญามาบ้างคงจะรู้จักนักปรัชญากรีกที่ชื่อว่า เพลโต ได้เขียนไว้ในบันทึกว่า มีแผ่นดินหนึ่ึงที่เจริญรุ่งเรืองได้จมลงในมหาสมุทรภายในข้ามคืน

    ดินแดนที่เพลโตบันทึกไว้นั้นเป็นยุคที่มีความเจริญมากกว่าสหรัฐอเมริกาในสมัยของเราซะอีก ในยุคนั้นจบลงด้วยมหาสงครามที่ใช้อาวุธที่มีอนุภาพมากทำลายล้างกัน และหลังจากสงครามหนึ่งเดือนก็เกิดแผ่นดินไหว 12 ริกเตอร์ ทำให้เปลือกโลกเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้แผ่นดินที่เจริญนั้นเคลื่อนตัวลงทะเลและลมหายไป เกิดสึนามิ 100 เมตร

    ประชากรบนโลกล้มตายมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ที่รอดตายบางคนก็เสียสติ ผู้คนสิบเปอร์เซ็นต์ที่รอดชีวิตและไม่เสียสติก็สืบทอดกันมาจนถึงยุคของเรา และเรื่องเหตุการในครั้งนั้นก็กลายเป็นเรื่องเล่าสืบทอดกันมานาน จนปัจจุบันคิดว่าไม่ใช่เรื่องจริง คิดว่าเป็นเรื่องแต่งขึ้น แต่นักประวัติศาสตร์หลายคนก็พยามพิสูจน์ เพื่อหาดินแดนแอตแลนติกที่เพลโตบันทึกเอาไว้

    สงครามในยุคนั้นทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก สองกลุ่มใหญ่ที่ทำสงครามกัน ผูกใจเจ็บกันไม่รู้จักจบสิ้น ตายแล้วเกิดใหม่ก็ทำมหาสงครามกันอีก จนมาถึงยุคของเรา สองกลุ่มนี้ก็ได้กลับมาอีกครั้ง กลุ่มหนึ่งไปเกิดที่อเมริกา ส่วนอีกกลุ่มมาเกิดที่ตะวันออกกลาง อยู่ห่างคนละซีกโลกก็ต้องเดินทางมาฆ่ากัน นี้มันสืบกรรมกันมา

    กี่ยุคๆ ก็เป็นอย่างนี้ จองเวรกันไม่รู้จักจบสิ้น ผลที่เกินขึ้นในยุคของเราก็เป็นเช่นเดียวกัน คือเมื่อเกิดมหาสงคราม ต่อมาก็จะเกิดแผ่นดินไหว 12 ริกเตอร์ และอื่นๆ ตามมาเหมือนๆ กันทุกยุค

    แผ่นดินไหว 10.5 ริกเตอร์อย่างในภาพยนตร์นั้นนักวิทยาศาสตร์บอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ซักวันหนึ่งหลังจากประเทศอิสราเอลถูกโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียสคนตายทั้งประเทศ นับจากนั้นไม่เกินสามวัน เจ็ดวัน แผ่นดินจะไหว 12 ริกเตอร์ และเหตุการณ์อื่นที่เคยเกิดในยุคต่างๆ จะเกิดตามมา เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ียน

    ที่มา http://www.geocities.com/buddhatatum/008-0050.htm
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** โลกมนุษย์... ทุกยุค ทุกสมัย ****

    ทุกยุค...ทุกสมัย....โลกุตตระ จะมอบความรู้ วิทยาการมนุษย์
    และที่สำคัญ...คือ ส่งมอบ "สัจจะ".... การปฏิบัติตาม "หลักสัจจะธรรม"
    เมื่อ...สังคมมนุษย์เสื่อมถอย....จนไม่หาผู้เข้าใจ "หลักสัจจะธรรม" ไม่พบ
    โลกุตตระ...จะปรากฏ ในยามที่.... สมณะกำลังวิบัติ
    เพื่อ...จัดสรรให้ กำเหนิดผู้หนึ่ง มาโปรดสอน "หลักโลกุตตระ" คือ... หลักสัจจะธรรม
    และนำ... "สัจจะ" ถ่ายทอดให้ มวลมนุษย์....เพื่อเป็นหนทางนำสัตว์ให้หลุดพ้น
    ในยามนั้น...หาผู้สนใจ และปฏิบัติได้น้อยมาก
    เหล่ามนุษย์ที่ก่อกรรมมาก...ไม่เชื่อใน "สัจจะ"....จะถูกพิจารณา พิพากษา ในวันที่เหมาะสม
    พวกเขาและเธอ...จะไปไม่รอด
    ส่วนผู้ที่เชื่อ จำนวนน้อยนิด...ดินฟ้าอากาศจะจัดสรรให้รอดปลอดภัย อย่างปฏิหาริย์
    และ ผู้ที่รอดเหล่านี้...คือ มนุษย์ในช่วงเริ่มต้น ยุคใหม่ทุกครั้ง

    โลกจะวนเวียน เช่นนี้
    และ ยุคต่อไป คือ....โลกอุดมสมบูรณ์ เช่นเดียวกับที่คัมภีร์ ตำนานต่างๆ
    ที่กล่าวถึง...ยุคพระศรีอารย์

    สัจจะ...หนทางรอด....จะมาพร้อมภัยพิบัติล้างโลก เสมอ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2007
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อาวุธเส้นแสงและทวีปแอตแลนติส
    โดยพระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ

    [​IMG]

    ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน ที่มนุษย์โลกก้าวไปถึงครั้งล่าสุด คือการสร้าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2007
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรื่องเล่าจากมนุษย์ต่างดาว
    (ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)
    [​IMG]
    เราเคยอ่านในหนังสือเก่าๆ สักเล่มนึงนะ เค้าบอกว่าเป็นเรื่องที่เค้าได้สัมภาษณ์กับมนุษย์ดาวอังคาร แล้วมนุษย์ดาวอังคารก็เล่าเรื่องความเป็นมาของมนุษย์ให้ฟัง รวมถึงพระเจ้าว่าเป็นเพียงมนุษย์ต่างดาว สงครามระหว่างทวีปมูกับแอตแลนติส อาวุธแสง เครื่องยิงขนาดใหญ่ที่ติดตั้งบนดวงจันทร์ สโตนเฮนจ์ และสิ่งต่างๆที่ประวัติศาสตร์ของดาวอังคารได้บันทึกไว้

    โดยคุณ mo เมื่อ 18 ต.ค. 46 23:29:00

    จะขอกล่าวถึงเรื่องราวของ Billy Meier นะคะ เขาผู้นี้ได้รับการติดต่อจากมนุษย์ต่างดาวหลายตน และเรื่องราวเกี่ยวกับทวีปแอตแลนติสกับทวีปมูนี้ ได้รับรู้มาจากมนุษย์ต่างดาวเพศหญิงชื่อ Semjase ขออ่านว่า เซมเจส นะคะ เธอเป็นมนุษย์ต่างดาวชาวพลียะเดียนส์ จากกลุ่มดาวพลียะเดียส เธอเล่าว่า

    "เมื่อสี่หมื่นปีที่แล้ว พวกลูกหลานของมนุษย์ต่างดาว(แต่คนโบราณเข้าใจผิดไปเรียกพวกเขาว่าเป็น "เทพเจ้า") ได้กลับมาเยือนโลกและปกครองโลกในนามของ "เทพเจ้า" อีกครั้ง นามของผู้ปกครองคือ แอตแลนโต ภรรยาของผู้ปกครองชื่อ คาเรียทีเด บิดาของนางชื่อมูราส แอตแลนโตได้สร้างเมืองแอตแลนติสขึ้นที่เกาะแอตแลนติสใหญ่ ขณะที่มูราสได้สร้างเมืองมู ขึ้นมาที่แอตแลนติสเล็ก เมืองแอตแลนติสกับเมืองมู จึงเป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่ที่สุด รุ่งเรืองที่สุดบนโลกในยุคนั้น สันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของเมืองทั้งสองได้ดำรงสืบต่อมายาวนานหลายพันปี จนกระทั่งมีนักวิทยาศาสตร์ 2-3 คน ซึ่งบ้าอำนาจ จึงคิดการใหญ่ แต่ชาวเมืองทั้งสองไม่ยอมรับ จึงลุกฮือต่อต้านขับไล่นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นให้จำต้องไปลี้ภัยอยู่นอกระบบสุริยะจักรวาล นี่เป็นเหตุการณ์เมื่อ 15,000 ปีที่แล้ว"

    "พวกนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นได้หลบหนีไปอยู่นอกระบบสุริยะจักรวาลเป็นเวลา 2,000 ปี ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำยุค จนมั่นใจว่าจะมาบุกโลก แก้แค้นได้แล้ว ก็ได้ทำการส่งพวกของตนภายใต้การนำของ "เอาลาส" จำนวน 200 คนนั่งยานอวกาศ มายึดครองพื้นที่ตรงแถบฟลอริด้าในปัจจุบันนี้ "เอาลาส" ผู้นี้เองที่ทำการยุแหยให้ชาวแอตแลนติสและชาวมูบาดหมางกัน จนกลายเป็นสงครามครั้งใหญ่ที่สุด โดยน้ำมือของนักวิทยาศาสตร์จากต่างดาว จนทำให้เมืองมูและแอตแลนติส ต้องล่มสลายไปพร้อมๆกัน"

    "เมื่อใดก็ตามที่พวกนักวิทยาศาสตร์กับพวกชนชั้นปกครองที่คลั่งศาสนาเกิดบ้าอำนาจขึ้นมา เมื่อนั่นพวกเขาก็จะก่อสงครามซึ่งนำความย่อยยับมาสู่อารยธรรมของมนุษยชาติ...ทั้งชาวเมืองมูและแอตแลนติสต่างถูกยุยงให้เกลียดชังซึ่งกันและกัน จนกระทั่งนำไปสู่ภาวะสงครามอย่างไม่ต่างกับยุคสมัยนี้เท่าไหร่นักหรอก"

    "ที่ตั้งของนครมูอยู่ตรงทะเลทรายโกบี ขณะที่ที่ตั้งของนครแอตแลนติสเป็นเกาะใหญ่อยู่ระหว่างทวีปแอฟริกากับทวีปอเมริกา กำลังรบของทั้งสองฝ่าย ยิ่งใหญ่พอๆกันและก็มีเทคโนโลยีขั้นสุดยอดเหมือนกัน แต่คนละแบบกัน กองทัพฝ่ายแอตแลนติสมีกำลังทหาร 4,800,000 คน มียานอาวุธที่ติดอาวุธแสงมหาปะลัย มีเรือรบประจัญบาน 123,000 ลำ กับเรือเร็วติดอาวุธแสงอีก 16,431 ลำ ขณะที่ฝ่ายมูก็มีอาวุธที่ร้ายแรงเช่นกันแต่เสียเปรียบพวกแอตแลนติสด้านกำลังทัพ"

    "ดังนั้น พวกนักวิทยาศาสตร์ของฝ่ายมู จึงคิดค้นเทคโนโลยีที่จะนำเอาดาวพระเคราะห์ดวงเล็กๆ มาทำให้เป็นเหมือนกระสุนปืนใหญ่จักรวาล เพื่อยิงถล่มพวกแอตแลนติส โดยพวกเขาได้นั่งยานอวกาศออกไปจนในที่สุดพวกเขาก็พบดาวเล็กๆดวงหนึ่ง มีเส้นผ่าศูนย์กลางหลายกิโลเมตร พวกเขาได้ใช้พลังงานจากอะตอมและอิเล็กทรอนิกส์ผลักดันให้ดาวเล็กๆดวงนั้น หลุดจากวงโคจรเดิมและเคลื่อนย้ายมาสู่วงโคจรของโลก การหมุนรอบตัวเองของดาวดวงนี้ถูกทำให้หยุดชะงัก และพวกมูได้นำเอาเครื่องยนต์ขนาดยักษ์เข้าไปติดตั้งบนดาวเล็กๆดวงนี้ ทำให้ดาวเล็กๆดวงนี้กลายเป็นดุจกระสุนปืนใหญ่จักรวาล ที่สามารถบังคับเครื่องยนต์ให้ขับเคลื่อนไปตามทิศที่ต้องการได้


    โดยใช้คลื่นซุปเปอร์โซนิก พวกมูสร้างอาวุธนี้เสร็จช้าไปนิดเดียว เพราะก่อนหน้านั้นเพียงครึ่งวัน กองทัพแอตแลนติสได้ยกพลเข้ามาถล่มนครมูและทำลายนครมูจนพินาศย่อยยับ แต่ตอนนั้นเครื่องยนต์ขนาดยักษ์บนดาวเล็กๆดวงนั้นได้เริ่มทำงานแล้ว พวกแอตแลนติสนึกว่าตนเองชนะสงครามแล้ว ในขณะที่หลงระเริงยินดีในชัยชนะของตนอยู่นั้น ดาวดวงเล็กที่ติดเครื่องจักรของพวกมู ก็วิ่งเข้าใส่บรรยากาศของโลกและระเบิดกลางอากาศในตำแหน่งความสูง 172 กิโลเมตร จากพื้นดิน

    ส่วนหนึ่งกลายเป็นลูกอุกกาบาต ตกลงมาถล่มนครแอตแลนติสเสียย่อยยับ ขณะเดียวกันส่วนที่เหลืออีก 2 ใน 3 ตกลงบนทะเลทะลุพื้นโลก ทำให้ความร้อนใต้พื้นโลกที่เป็นแมกม่าพุ่งทะลักออกมาบนพื้นโลก ขณะเดียวกันก็เกิดเป็นคลื่นทะเลยักษ์สูงถึง 2,300 เมตร และกลืนนครแอตแลนติสจนจมลงใต้ทะเลในที่สุด...นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 11,198 ปีก่อน"

    โดยคุณ Athena เมื่อ 22 ต.ค. 46 00:06:01
    ที่มา http://my.thaimail.com/mywebboard/readmess.php3?user=yuttana_j&idroom=1&idforum=425&login=&keygen=&nick=
     
  19. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    เรื่องเส้นแสงนั้น เมื่อสิบปีก่อนผมได้ฟังเรื่องนี้จากท่านพระอาจารย์รัตน์

    รวมทั้งเรียนการใช้จิตชักนำเส้นแสงจากจักรวาลมาเพื่อใช้รักษาโรคด้วย

    ต่อมาได้บังเอิญดูสารคดี ดิสคัพเวอรี่ ได้พบว่า อเมริกาได้ค้นพบการใช้พลังงานจากเส้นแสงแล้วจริงๆ โดยมีการสาธิตยิงกรวยขนาด เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6นิ้วขึ้นสู่อากาศ โดยใช้"เส้นแสง" ดันวัตถุให้ลอยขึ้นฟ้าไป การทดลองมุ่งหวังที่จะใช้เส้นแสงดัน กระสวยอวกาศให้ลอยพ้นจากวงโคจรของโลกแทน การใช้พลังจากเชื้อเพลิงเหลว และหากผลกระทบที่ฝรั่งยังไม่รู้เกิดขึ้นจริง น่าจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผืนโลกเราจริงๆ ที่สำคัญที่ไม่มีใครรู้ก็คือ เส้นแสงทำให้ประตูมิติ ปริแตกออกมาด้วย ผลกระทบยากที่จะคาดเดาอย่างยิ่ง และไม่อยากไปดูหรือจินตนาการถึง
     
  20. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** มนุษย์ทำอะไรไว้ ...ย่อมหนีไม่พ้น.... หลักสัจจะธรรม ****

    ผลการกระทำ....คือ "ตัวกระทำ"
    ตัวกระทำ...เป็นสิ่งไม่ตาย ไม่สูญสลาย
    ที่สำคัญ คือ...ตัวกระทำ มีผลตอบแทน....แน่นอน

    สิ่งนี้ คือ....... "หลักสัจจะธรรม" .......

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     

แชร์หน้านี้

Loading...