ผลของการโต้ตอบธรรมที่รุนแรง

แล้วจะมายุ่งอะไร กับ ฉันกันเนี๊ย ยุ่งก็ไม่ได้มายุ่ง ด้วย คุยก็ไม่ได้คุยด้วย

เเล้วทิ้งก็ไม่ได้ทิ้งอะไร ก็ อยุ่ของตัวเอง มายุ่งอะไรกันเนี๊ย น่ารำคาญ

จะไปนิพพาน เเบบพระพุทธองค์ หรือ เเบบ ศาสนาไหน ก็ไปดิ มายุ่งอะไรกับฉันกัน ไป นู่นไป

ต่อไปนี้จะไม่มาห้องนี้เเล้ว รำคาญ พวกเเกว่ะ

 

ก็กล่าวเทียบให้ดูเฉยๆ อาจจะใช่ หรือ ไม่ใช่

สันโดษก็ย่อมรู้อย่างสันโดษอยู่แล้ว ใครจะไปทำให้ความรู้ของสันโดษที่มีดีอยู่แล้วหายไปได้

จะเคืองไปทำไม

 

ที่ไม่มา คุย ห้องเนี๊ยไม่ใช่อะไรหรอกนะ รำคาญ จึงไม่อยากยุ่ง

เเล้วก็เห็นมีเเต่ คุย เรื่องเดิมๆ ซ้ำๆซากๆ เห็นอะไรก็ไม่เห็น รู้ก็รู้เเต่ในตำรา

สัมผัสอะไรก็ไม่มี อะไรก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่รู้ คุยด้วยแล้วก็ มาบังคับให้คนนู่นคนนี้ เป็นอย่างนั้นอย่างนี้

หัดเคารพ คนอื่นเขาบ้างเหอะ ว่าใครเขาจะดี ก็ ดี จะชั่ว จะบ้า ก็ บ้า

มัน สุขของเขา ไม่ได้ทำให้ ใครเดือดร้อน ไม่รู้ตัวกันซะที นะว่าทำไม คนอื่นถึงไป

เเล้วที่สำคัญ คนที่เขารู้มากกว่า พวกปริยัติ จะบอกให้นะ เขา คุยกัน เเบบ คนบ้า

เห็น อะไร รู้อะไร ตั้งเเต่ ในโลกมนุษย์ จนทั้ง จักรวาล มันก็ คุยกัน เเบบ คนบ้า

เพราะอะไร รู้ไหม ก็ เขา เป็น ผู้ดู นะซิ ว่า มันมีบางอย่างที่ ผัสสะ และ อายตนะ ของมนุษย์ ไม่รู้นะซิ

คนบ้า เขาคุยกัน เขาเอามาเเลกเปลี่ยน ทดสอบ พลัง กันเเล้ว

นิพพาน นะ มันแค่ ประตู เข้าไปได้ มันก็ เห็น อะไร สุดยอด ที่มนุษย์ ไม่เข้าใจ

เเต่ พระพุทธองค์ ก็ สอนเเค่ รู้ ณ ปัจจุบัน เพราะ ถ้า เล่ามากกว่า นั้น เขา ก็ จะว่า คุณ ว่า บ้า เท่านั้นเอง

เพราะ ว่า เมื่อ เข้าประตูไปเเล้วมันก็ อยุ่เหนือ โลก เเต่ ไม่ได้ หลง ก็ เเค่รู้เเล้ว เอามาคุยกัน เฉยๆ ไม่ได้ คิดอะไร

 

แล้วสิ่งที่เราพูด มันก็เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยดูมาก่อนไม่ใช่เหรอ

หากนิยมความรู้ ก็ลองเอามาดูแบบนี้บ้าง เอาจิตของสันโดษ
มาดูในแนวนี้บ้าง

แนวออกไปดูจักรวาล เห็นแล้วก็เท่านั้น ใช่ว่าเราไม่ได้ออกไปดู

แต่มันจะมีอะไร ดูไปเรื่อยๆ ก็จางเป็นแค่กลุ่มหมอก ดูไปอีก ลึกไปอีก
ก็ไม่มีอะไรสักอย่างเดียว นี่อย่าบอกนะ ว่าแค่เป็นเห็นมันกลมๆ ก็เลิก
ดูลึกลงไปอีก หยุดเท่าที่เห็น

 

โง่อีก เเล้ว นั่งสมาธิ เห็น กาย เห็น จิต เเล้ว มันถึง เห็น อย่างอื่น ต่อ ...โอโห้

เคย นั่งวิปัสสนา กรรมฐาน จริงๆ ป่าว เนี๊ย จะบ้า หรอ มันจะ รู้ 10 ก่อน รู้ 1 ได้ ไง...........-*-

 

<TABLE class=tborder id=post1550859 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 09:45 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #346 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>สันโดษ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1550859", true); </SCRIPT>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 11:59 AM
วันที่สมัคร: Oct 2007
ข้อความ: 4,629
ได้ให้อนุโมทนา: 14,789
ได้รับอนุโมทนา 35,635 ครั้ง ใน 5,899 โพส
พลังการให้คะแนน: 550


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1550859 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เมื่อ จิตเป็นใหญ่ สติ หายไป

เมื่อ จิตไม่มีผู้คุม จิตจึงเเสดงอำนาจ

เมื่อ จิตเเสดงอำนาจ จึงรู้ถึงพลังซ่อนเร้น

เมื่อ จิตรู้ถึงพลังซ่อนเร้น จึงรู้ว่าตัวตนเป็นใคร

เมื่อ จิตรู้ว่า ตัวตนเป็นใคร จึงค่อยๆหายไป

เพราะ จิตนั้นรู้เเล้ว ไซร์ว่า พวกเขาไม่มีตัวตน อีกครา

ทุกอย่างจึงหยุดและทำหน้าที่ของตนดังเดิม

จิตรู้ จิตดู จิตเห็น ในสิ่งที่เป็น ปัจจุบัน ไม่มีอะไรมากไปกว่า สิ่งที่ทำ

นั้นคือ การรู้ตัว ณ ปัจจุบัน นะเอย นะเอย


สูงสุด คืน สู่ สามัญ ส่วน สติ ก็ ดู จิต ต่อไป ไม่คิดอะไร เหมือนเดิม
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ทำไม่จะไม่ได้ ไอ้ที่ว่า 10 มันก็อยู่ใน ตนนั้นแหละ

รู้ข้างในตน ก็รู้ข้างนอก ได้เหมือนกัน

 

ข้างบนนะไม่ว่าอะไร

แต่ที่เข้ามากระทบสันโดษ เพราะสันโดพูดในอันล่างนี้

เราเลยจำใจต้องแย้งสันโดษ ทั้งที่ไม่ได้ทำมาตั้งนานแล้ว

 

ฉันทำได้ตั้งกะ 14 ล่ะ เเต่ไม่รู้ว่า ที่เห็น กาย ขยับ เรียกว่า สติปัฏฐาน 4

เเล้ว ที่ พูดคนเดียว เรียกว่า ญาณหยั่งรู้ เเล้วที่เห็น ดวงเเก้ว เรียกว่า จิต

เเล้วที่ เรียกฝนฟ้า ให้ตกได้ เรียกว่า อภิญญา แล้วก็ไม่รู้ว่า รู้ว่าคนอื่น คิดยังไง เรียก เจโตปริญาณ

เเล้วก็ กำหนดอนาคตได้เอง อีก เรียกว่า อะไรไม่รู้

 

ก็ ถ้า ไม่เกิด จิต มันก็ ไม่เกิด เเต่ พอเกิด จิตมันก็ เกิด

เเต่ ตัวเรา ไม่ได้รู้ว่า จิต แท้ๆมันไม่ได้ คิดอะไร นั้นเอง

 

ก็เห็นไหมละ สันโดษ ก็มีความรู้แบบสันโดษ ผมพูดอะไรออกไปก็ใช่

ว่าจะทำให้ความรู้อันเลิศของสันโดษหายไปซะที่ไหน

ไม่เห็นต้องเคืองเลย

* * * *

ส่วนในบางประโยค ที่อาจทำให้คนอ่านแล้วเข้าใจภูมิความรู้ของสันโดษผิด

เราก็เสนออีกมุม อีกลักษณะการพูด เอาไว้ให้คนอื่นพิจารณาเพิ่มเติมเท่านั้น

ซึ่ง ใครอ่านแล้ว ก็ไม่มีหลอก ที่เขาจะเลิกรัก สันโดษ ก็เห็นหลายคนยังรักสันโดษ

และก็มีเพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่ใช่เหรอ อย่างใครนะ santasos นั้นก็พึ่งรักสันโดษนี่

 

ก็บอกแล้วว่าไม่ได้ผิดอะไร ที่สันโดษรู้นะ ดีอยู่แล้ว

แต่เราก็ขอกล่าวให้ครบเอาไว้ เผือคนอื่นจะเข้าใจไปทางอื่นๆ

 

จะบ้า หรอ ก็ บอกเเล้วไง ว่า ที่คนมารักสันโดษ กัน เพราะ ว่า รักตัวเอง

ก็ ที่อ่านที่เห็น สันโดษ ก็ เห็น ตัวเองทั้งนั้น จะให้ พูดกี่ที่

ว่า ที่มันเห็น มันเห็น ตัวของมันเอง จาก คนที่ ชื่อสันโดษ

จักรวาล ก็ อยู่ในร่างมนุษย์ และ ทุกสิ่งนั้นล่ะ

บอกกี่ที่เเล้วว่า ไม่ต้องไปรักใคร รักตัวเองมาก

เเล้ว จักรวาลก็ ออกมาบอกความจริงตัวเอง ง่ายจะตาย

บอกเเล้วไงว่า สันโดษ ไม่ได้ คิดโว้ยยยยยยยยยยยยยย!!!

จิต มันเป็น อิสระ เขาก็ ทำหน้าที่ตามตำเเหน่งเมื่อถึง คราวของงานที่เข้ามา

จะมารักตัวเองทำไม เมื่อตัวเอง เข้ากับจักรวาลได้ ทุกอย่าง จักรวาลก็ ทำเอง เพราะ จักรวาลสร้างและทำลายทุกอย่างเองไง

มันก็ เลยรุ้ เเละ รู้ เเละรู้ เเต่ สันโดษ ไม่ได้คิด ...........ไม่ได้คิด ....ไม่ได้คิด.......ต้องบอกกี่ที ...ว่าไม่ได้คิดอะไร จริงๆ

มันเก่งเอง เพราะ จักรวาล หรือ ความว่างเปล่า เขาทำเอง

 

การที่เราจะดำรงอยู่อย่างปราศจากอามิสจากภายนอก ไม่รู้เรียกถูกรึป่าว หมายถึงว่า เราสามารถดำรงอยู่อย่างมีความสุขได้ โดยไม่ต้องพึงกำลังใจจากบุคคลภายนอก ไม่ต้องให้ใครสรรเสริญ ไม่ต้องให้ใครยกย่อง ไม่ต้องเป็นคนสำคัญของใคร ไม่ต้องให้คนอื่นมองตนเป็นคนที่มีค่าต่อเค้า หรือให้คนอื่นเป็นแรงใจในชีวิต ถ้าเป็นอย่างที่กล่าวชีวิตจะมีแต่คนอื่นเป็นใหญ่ ชีวิตมีแต่ความคับแค้น ชีวิตจะมีแต่สิ่งแลกเปลี่ยน ความไม่เป็นไปอย่างใจย่อมเกิดขึ้น เมื่อนั้นความทุกข์จากความอยากให้เป็นอย่างที่เราต้องการจะตามมา



การอยู่อย่างสันโดษ คือ เราสามารถอยู่ได้โดยสร้างแรงจูงใจในการดำรงชีวิตด้วยตัวเราเอง ไม่ใช่อยู่อย่างเห็นแก่ตัว แต่เป็นการอยู่อย่างไม่ประมาท การอยู่เช่นนี้ ความทุกข์ จะตามมาน้อยมาก เพราะไม่หวัง ไม่อยากให้คนอื่นเป็นไปดังใจเรา ^-^

 

^
^
^ เพราะงั้นไง ก็ ถึงชื่อ สันโดษ เนาะ jinny95 เนาะ รักกัน รักกัน รักเพื่อน ถึงไม่คุยกันเเต่เราก็ ดูเพื่อนอยู่เงียบๆ เสมอ นะเอย นะเอย

 

ผมเห็นด้วยกับข้อความของพี่สันโดษข้อความ ที่ วันนี้, 11:50 AM กับข้อความของคุณJinny ครับ

 

<TABLE class=tborder id=post1551109 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 11:50 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #363 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>สันโดษ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1551109", true); </SCRIPT>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 02:26 PM
วันที่สมัคร: Oct 2007
ข้อความ: 4,634
ได้ให้อนุโมทนา: 14,803
ได้รับอนุโมทนา 35,670 ครั้ง ใน 5,905 โพส
พลังการให้คะแนน: 551


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1551109 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ที่ไม่มา คุย ห้องเนี๊ยไม่ใช่อะไรหรอกนะ รำคาญ จึงไม่อยากยุ่ง

เเล้วก็เห็นมีเเต่ คุย เรื่องเดิมๆ ซ้ำๆซากๆ เห็นอะไรก็ไม่เห็น รู้ก็รู้เเต่ในตำรา

สัมผัสอะไรก็ไม่มี อะไรก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่รู้ คุยด้วยแล้วก็ มาบังคับให้คนนู่นคนนี้ เป็นอย่างนั้นอย่างนี้

หัดเคารพ คนอื่นเขาบ้างเหอะ ว่าใครเขาจะดี ก็ ดี จะชั่ว จะบ้า ก็ บ้า

มัน สุขของเขา ไม่ได้ทำให้ ใครเดือดร้อน ไม่รู้ตัวกันซะที นะว่าทำไม คนอื่นถึงไป

เเล้วที่สำคัญ คนที่เขารู้มากกว่า พวกปริยัติ จะบอกให้นะ เขา คุยกัน เเบบ คนบ้า

เห็น อะไร รู้อะไร ตั้งเเต่ ในโลกมนุษย์ จนทั้ง จักรวาล มันก็ คุยกัน เเบบ คนบ้า

เพราะอะไร รู้ไหม ก็ เขา เป็น ผู้ดู นะซิ ว่า มันมีบางอย่างที่ ผัสสะ และ อายตนะ ของมนุษย์ ไม่รู้นะซิ

คนบ้า เขาคุยกัน เขาเอามาเเลกเปลี่ยน ทดสอบ พลัง กันเเล้ว

นิพพาน นะ มันแค่ ประตู เข้าไปได้ มันก็ เห็น อะไร สุดยอด ที่มนุษย์ ไม่เข้าใจ

เเต่ พระพุทธองค์ ก็ สอนเเค่ รู้ ณ ปัจจุบัน เพราะ ถ้า เล่ามากกว่า นั้น เขา ก็ จะว่า คุณ ว่า บ้า เท่านั้นเอง

เพราะ ว่า เมื่อ เข้าประตูไปเเล้วมันก็ อยุ่เหนือ โลก เเต่ ไม่ได้ หลง ก็ เเค่รู้เเล้ว เอามาคุยกัน เฉยๆ ไม่ได้ คิดอะไร
<!-- / message --><!-- sig -->__________________

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

จะบอกให้นะว่า คนที่พวกคุณว่า เขา บ้าเเต่ละคน ทำงานระดับไหน ความรู้ระดับไหน

เพราะ หน้าที่ ที่เขาทำจึงทำให้เขาเงียบและไม่บอกความจริงเพราะคำว่า บ้า ที่มนุษย์ กำหนดนั้นละ

พวกปริยัติ จึงไม่สามารถ เข้าใจ คนเเบบพวกเรา เเละ รู้อย่างที่พวกเรารู้

ถ้าเทียบชั้น พวกคุณ ก็ หยุดในที่ที่พวกคุณ ปฏิบัติในฐานะตำรา

เเต่ถ้าคุณ หลุดพ้นเเล้ว คุณ ก็ จะรู้อย่างที่พวกเรารู้ เเต่คุณก็จะ เงียบเหมือนกัน

เพราะว่า สิ่งที่พวกเราเป็น เราก็ไม่ได้ เอามาเป็น สรณะ ทำบ้าๆ ให้คนสรรเสริญ พวกเรารู้เเต่ก็ได้เเต่ เงียบ

เเละก็คุยกับคนที่รู้เเละเข้าใจในระดับเดียวกัน

คนที่เป็นเเบบสันโดษ มีเยอะมาก เเล้วเขาก็ รู้สึกโล่งใจ ที่สันโดษ สามารถบอกเขาได้ว่า

คุณไม่ได้บ้านะคะ คุณเเค่ เข้าไปสู่ มิติที่ 4 โดยที่คุณไม่รู้ว่า มันเรียกว่า ดวงตาที่สาม

ถ้าคุณ รู้ว่า คนที่มีสัมผัสที่หก และดวงตาที่สามหลายๆ คนอยู่เเบบ ลำบาก

เเละ ตายไป หลายๆคน คุณ จะไม่ว่า คนเเบบพวกเราบ้าไปเลย

เพราะ เมื่อคุณมี สิ่งที่คุณเรียกกันว่า อภิญญา คุณจะช่วยคนที่มีอาการ กาย และจิต ที่ผิดปกติได้มากมาย

หมอโรคจิตช่วยได้ไหม? ร่างทรงช่วยได้ไหม? ท้ายที่สุด ทุกคนก็ต้องกลับมาหาคำตอบ ไม่มีวันจบสิ้น

 

ตัวอย่าง PM อาการเหมือนสันโดษ​

สมัยที่สันโดษไม่รู้ว่า ตัวเองเป็นอะไร​

ขอบคุณ...สันโดษ

อาการต่างๆที่ผ่านมา มันเกิดนานมาแล้วตั้งแต่ต้นปี(มีนาคม 51)แล้วก็เป็นเรื่อยๆมา

มีบางครั้งหาว อ้วก หาว อ้วก ตอนที่อยู่บ้านคนอื่นแล้วก็กวักมือเรียก พูด กับอากาศ บอกเจ้าของบ้านให้เอานั่นเอานี่ไหว้นะ แล้วปากก็พูดภาษา???

มันห้ามไม่ได้ยั้งไม่อยู่ ช่วงแรกไม่กล้าเล่าให้แม่ฟัง กลัวเค้ารับไม่ได้ และอีกอย่างเราก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร

บางครั้งสวดมนต์นัมเมียวฯ ก็สวดอย่างอื่นแทนโดยคอไม่ตีบเหมือนตอนแรกแล้ว มันยาวๆ เราพยายามหยุด แต่เสียงในหัว"เชื่อเรา เรามาดี!!! "

บางทีเดินผ่านกระจก ดามองมาแต่แววตามันม่ายใช่ เสียงมา "ยังไม่เชื่ออีกเหรอ "


ฮือๆ ๆ ไอ้อันหลังเนี่ยแหล่ะที่ทำให้คิดว่า จิตเราหลอนเองหรือเปล่า

ช่วงแรกคุยโทรศัพท์กับเพื่อน กำลังเล่าอาการให้ฟัง เค้าก็แทรก พูดกับเพื่อนจนทางนู้นห่วงจนร้องไห้...น้ำตาแตก

มันก็เป็นอย่างนี้โดยประมาณ

ถึงตอนนี้เราก็สวดมนต์ได้ตามปกติ และก็บูชาภาพนั้นด้วยคู่กัน สงบแล้วมีอาการวืดหัวบ้างบางคราว

ขอบคุณที่สันโดษบอกว่าจะช่วย ดีใจ

...........


ป.ล.โทษนะสันโดษ การเปิดจิตเนี่ยมันคืออะไรอ่ะ?

 

ตอบ จิตไม่ได้หลอน ​

เปิดตาที่สามมันก็มาเองล่ะคะ​

ไม่ได้คิดจิตพูดเอง แต่ว่า มันก็ไม่ได้พูดถูกทุกเรื่องล่ะ​

ให้อาจารย์ในร่างสอนต่อนะคะ​

จิตผู้รู้ มาอย่างนี้เลย ขอบอก ​

ไม่ได้ เป็นเเบบ ที่ปริยัติสอนหรอกนะ​

เขาออกมาสอน ออกมาพูดยังงี้เลย จะ จะ เลย เฟร้ย ​

ที่เขาเรียกว่า องค์ นั้นละ เเต่ไม่ได้มา จิตเดียว มา อีกเยอะ​

มันเเค่ เริ่มต้นของ การ เปิดดวงตาที่สาม เเค่นี้อ่ะ เด็กๆ มากมาก​