ภัยพิบัติและพระศรีอาริยเมตไตรยจากคำบอกเล่าของเด็กชายปลาบู่

ยังมีอีกหลายเรื่องที่ลุงทองใบยังไม่ได้บอกพวกเรา ที่ลุงเอาเรื่องแผ่นดินไหวมาบอกน่ะ มันแค่เรื่องเดียวเท่านั้น ยังมีอีกหลายเรื่องที่เรายังไม่รู้ เพราะฉนั้นลุงทองใบเป็นคนที่รู้ดีที่สุดเรื่องวัน-เวลาที่จะเกิดแผ่นดินไหว ปลาบู่หมายถึงวันไหนลุงทองใบจะรู้ดีที่สุด หลายๆคนไปว่าลุงทองใบว่า ลุงแกคงตีความผิด เฮ้อ... ลองกลับไปฟังคลิปหลายๆรอบสิคะ ในคลิปไม่มีคำว่า 2556 เลย ซักนิด

 

ของจริง ๆ ก็มีปนกับปลอม ๆ เหมือนกัน อันนี้จริงครับ

 

ขออนุโมทนาทุกท่านที่เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยครับ
ผมกลับไปดูเพจของคุณลุงทองใบที่ OKNation ไม่เห็นมีแล้ว แต่ที่นี่มีข้อมูลเพิ่มเติมขึ้นมาอีกเยอะจริงๆ

ในเว็บนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติเยอะมาก โดยเฉพาะช่วงปลายปีนี้ีจนถึงปีหน้า
โดยมากมักจะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก
อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกท่านรับข้อมูลอย่างมีสติ
ใครที่อ่านแล้วเกิดความหดหู่ วิตกกังวล ก็ขอแนะนำให้ยกเว้นจากการรับข้อมูลข่าวสารมั่งก็ดีครับ
หากิจกรรมที่ช่วยจรรโลงใจจะช่วยปลอดทุกข์ได้มากกว่า
อย่างน้อยในเว็บนี้ลองเลื่อนขึ้นไปดูรูปน้องเมย์ เห็นน้องเค้ายิ้มแล้วอยากจะยิ้มตามไปด้วย
ดูแล้วทำให้โลกสดใสได้ขึ้นเยอะเลย ^^ (อาจจะเฉพาะหนุ่มๆ ?)

อย่างไรก็ตาม ผมอาจจะไม่ได้เข้ามาในที่นี้บ่อยนัก ขอใช้โอกาสนี้อวยพร (ปีใหม่... ล่วงหน้า) แก่ทุกท่าน
ขอให้ผ่านพ้นปีนี้และเข้าสู่ปีหน้าได้โดยสวัสดิภาพ ขอให้อยู่รอดปลอดภัย แข็งแรงทั้งกายใจทั้งตัวท่านเองและผู้ใกล้ชิดของท่านด้วยครับ

 

อามิตตาพุธ สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับไปเป็นธรรมดา ประดุงดั่งโลกของเราใบนี้นั่นเอง
พระธรรมเทศนานั้น โกณฑัญญะ ได้ "ธรรมจักษุ" (ดวงตาเห็นธรรม) คือเข้าใจแจ่มแจ้งตามสภาพความเป็นจริงว่า "สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีการเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นย่อมมีการดับสลายไปเป็นธรรมดา" และบรรลุเป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบัน นั่นเอง
ป.ล. แต่อย่างไรก็ขอบคุณที่ทำให้ผมได้รู้น่ะครับ ผมคนจันทบุรี อ.แหลมสิงห์ น่ะ ไกลจากอ.สอยดาว 100 กิโลเมตรเชียว หุหุ

 

จริง ๆ แล้วที่เรากลัวภัยพิบัติ ก็เพราะเรากลัว "ตาย" นั่นเอง

แต่หากท่านลองศึกษาดี ๆ แล้ว ความตายไม่ใช่สิ่งน่ากลัว

สิ่งที่น่ากลัวกว่าการตายคือ "การเกิด" เป็นที่มาของปัญหามากมาย

เพราะเราหลงใน อวิชชา คือความไม่รู้ คิดว่าการเกิดเป็นเรื่องดี

เราจึงต้องเวียนว่ายในวัฎจักรต่อไป ไม่มีจบสิ้น ถ้าไม่มีการเกิดก็จะไม่มีการตาย

พอศึกษาเรื่องภัยพิบัติมาก ๆ ก็ขอให้มีมรณานุสติอยู่เสมอนะครับทุกๆ ท่าน

 

ควรพิจารณาเนือง เนืองว่า เราทุกคนมิอาจหนีความตายไปได้ นั่นคือ มรณานุสติ ๑ ใน อนุสติ ๑๐ นั่นเอง(deejai)(deejai)(deejai) ฉะนั้นยิ้มสู้ร่าเริงเข้าไว้
ป.ล. 4 เดือนแห่งการเฝ้าระวังภัย(ปีใหม่สากล 1 ม.ค.-ปีใหม่ไทย)
บ้านใกล้เขาก็โชคดีหน่อย หลบขึ้นเขาได้ทัน หวังว่าเขาคงไม่ถล่มด้วยนะ เหอะๆ

 

ปลาบู่น่าจะพูดจริงของเค้านะ
เพราะพระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า
"แผ่นดินนี้นั้นมีน้ำรองใต้ดิน
ใต้น้ำนั้นมีลม
ใต้ลมนั้นลงไปเป็นอากาศหาที่สุดไม่ได้"

 

ใกล้เข้ามาทุกที เท่าที่ติดตามก่อนหน้านี้ก็ไหวตรงขอบ ๆ ชายแดน

 

จากแหล่งข้อมูลนี้
กรมทรัพยากรธรนี
น่าจะมีอะไร ไม่ปกติ
คุณ ZZ คิดว่า นี้เป็นสัญญานอะไรที่ต้องสนใจมากๆ ใช่ไหมครับ เตือนเล็กๆ หลายครั้งแล้ว เฉพาะลำปางที่เดียว แถมแม่เมาะอีกต่างหาก
เอ้ออออ หวังว่าคงจะไม่เห็นภูเขาไฟที่ดับไปนาน ประทุมาอีกนะ 555

... บ้าหละเรา

 

สู้ๆ นะทุกท่าน ไม่นานเราทุกคนคงได้เจอกันในอีกโลกหนึ่ง

 

อาจเป็นจุดเริ่มต้นครับ

ปีใหม่น่าจะยังไม่เกิดอะไร (เขื่อนไม่แตก)...ให้เรามัวเมากันต่อไป...แต่หลังจากนั้น...ก็ตัวใครตัวมัน

ตามยถากรรม...ครับ

มหัศจรรย์ทางธรรมชาติ

ภูเขาไฟลำปางกับมหัศจรรย์ความเป็นเลิศ




ภูเขาไฟลำปางเริ่มค้นพบโดยชาวลำปาง พ.ศ.2520 ภูเขาไฟลำปางมีลักษณะ
พิเศษที่มีการระเบิดซ้อนกันเป็นรูป ดวงจันทร์เต็มดวงและครึ่งเสี้ยว

คาบเกี่ยวกันซึ่งหาชมได้ยากในระบบสุริยจักรวาลกรมทรัพยากรธรณีได้แจ้งผล
สำรวจ ทางธรณีลำปางมีภูเขาไฟ 4 ลูก ในเขตอำเภอเมือง คือภูเขาไฟ
จำป่าแดดสองปล่องซ้อน มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง 630 เมตร
ปากปล่องด้านเหนือกว้าง 150 เมตร สูงเหนือพื้นที่รอบๆ ราว 160 เมตร
เป็นต้นกำเนิดหินธารลาวา ที่ไหลมาสู่บริเวณใกล้สถานีรถไฟศาลาผาลาด

อันเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์สมัยองค์ยุพราช (รัชกาลที่ 6) เสด็จประทับ เสวย
พระกระยาหารกลางวันเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2448 ชาวบ้านได้สร้างเจดีย์
บูชาเป็นสำคัญ ในบริเวณแหล่งธรรมชาติ อันสวยงาม บ้านผาลายังมีภูเขาไฟ
อีกสองปล่องในเขตอำเภอแม่ทะ ซึ่งแบ่งกั้นเขตเพียงคนละฟากรางรถไฟ

คือผาคอกม่อนหินฟู เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง 160 เมตร ปากปล่องมีเส้น
ผ่าศูนย์กลาง ราว 150 เมตร สูงเหนือบริเวณข้างเคียงราว 80 เมตร ภูเขาไฟ
เกาะคาอยู่บนเส้นทางสายลำปาง – กรุงเทพ กม.32 โดยรถเมล์ทุกคันจะวิ่งผ่าน
ปากปล่องภูเขาไฟเกาะคาสู่ลำปางทุกวัน อยู่เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง 360
เมตร ขอบปล่องเปิดทางด้านทิศเหนือเป็นรูปยาวทำให้สภาพปล่องไม่สมบูรณ์
แต่ส่วนของขอบปล่องที่รถวิ่งผ่าน ก็มีลักษณะชั้นดิน

กลุ่มภูเขาไฟลำปางจัดเป็นเขาบริวารขึ้นเทือกเขาดอยงามที่มีตราสารหลาบเงิน
สมัยพระเจ้าประเทศราช หอคำดวงทิพย์นครลำปาง

ที่มา แผ่นพับแนะนำแหล่งท่องเที่ยวขององค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง


http://www.lp-ju.ago.go.th/travel/valcano.htm



ภูเขาไฟในประเทศไทย

• ภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด และปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู จังหวัดลำปาง
• ภูเขาพระอังคาร ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
• ภูเขาหลวง จังหวัดสุโขทัย
• ภูเขาพนมสวาย(วนอุทยานพนมสวาย) จังหวัดสุรินทร์ สถิติอยู่ที่ 52 ครั้ง
• ภูเขาพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์
• เขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์

http://th.wikipedia.org/wiki/ภูเขาไฟ




<table id="ewt_main_structure" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td id="ewt_main_structure_body" background="" bgcolor="" height="160" width="995"><table class="text_normal" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="98%"><tbody><tr><td bgcolor="#000000">ปล่องภูเขาไฟลำปาง จังหวัดลำปาง</td></tr></tbody></table>
<table class="text_normal" align="center" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="93%"> <tbody> <tr> <td>
</td></tr> <tr> <td> <table class="text_normal" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="100%"> <tbody> <tr> <td>

​

</td> <td>

​

</td></tr> <tr> <td>

​

</td> <td>

​

</td></tr></tbody></table></td></tr> <tr> <td>
</td></tr> <tr> <td> ที่ตั้ง
ปล่องภูเขาไฟลำปางที่จัดได้ว่าเห็นชัดที่สุด ตั้งอยู่ในพื้นที่ต่อเนื่องของอำเภอเมืองและอำเภอแม่ทะ ได้แก่ปล่อง ภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด และปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู ปล่องภูเขาไฟทั้งสอง ตั้งอยู่ไม่ห่างกัน โดยอยู่คนละฝั่งถนน สายเข้าเหมืองถ่านหินแม่เมาะ การเข้าถึงทำได้โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 11 (ลำปาง-เด่นชัย) ออกจากตัวเมืองลำปางไป 10 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายเข้าเหมืองถ่านหินแม่เมาะไปถึงระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 2 และ 3 จะมีทางเลี้ยวขวาเข้าวัดเวียงสวรรค์ ให้วิ่งตามทางลาดยางเข้าไป 3.5 กิโลเมตรจะถึงวัด แต่ไม่เข้าวัดให้เลยไปจนสุดถนนซึ่งเป็นลานจอดรถด้านหลัง แล้วเดินขึ้นบันไดซีเมนต์ไปอีกราว 100-200 เมตร ขึ้นไปที่ศาลาชมวิวบนยอดเขา ซึ่งสร้างอยู่บนปากปล่องของภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู ส่วนปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด ให้ใช้ถนนเข้าเหมืองเช่นกัน ไปจนเลยหลักกิโลเมตรที่ 6 เล็กน้อยจะมีทางแยกซ้ายเข้าสู่เชิงเขาดอยผาคอกจำป่าแดด แต่ที่นี่ไม่มีทางขึ้นเขาเหมือนที่ดอยผาคอกหินฟู จึงขึ้นไปปากปล่องไม่ได้
ชื่อของภูเขาไฟทั้งสองได้มาจากชาวบ้านในบริเวณนั้น เป็นคำง่ายๆ ที่มีความหมายสอดคล้องกับลักษณะของปล่องภูเขาไฟ คำว่า ผาคอก หมายถึงเขาที่มีผากั้นล้อมรอบ หินฟู หมายถึงหินที่มีลักษณะเป็นรอยแตกฟู มีน้ำหนักเบา ลอยน้ำได้ หรือตะกรันภูเขาไฟ (Scoria) ส่วนคำว่า จำป่าแดด เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่ง ที่ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากในบริเวณปล่อง ภูเขาไฟ
ภูเขา ไฟทั้งสองลูกนี้สามารถมองเห็นได้ในระยะไกลจากเส้นทางสายลำปาง-เด่นชัย ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 14 ที่กลางสะพานข้ามทางรถไฟ โดยให้มองไปทางเหมืองแม่เมาะจะเห็นภูเขายาวต่อเนื่องกันตั้งตระหง่านขวาง หน้า ให้สังเกตภูเขาลูกเล็กยอดแหลม ซึ่งโดดเด่นกว่าบริเวณข้างเคียงตรงกลางเทือก จุดนี้เป็นจุดแบ่งระหว่างภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดดที่อยู่ทางซ้ายและภูเขาไฟ ดอยคอกผาหินฟู ที่อยู่ทางขวา มีระยะห่างกันในแนวเหนือใต้ เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
ปล่องภูเขาไฟลำปางอีกบริเวณหนึ่ง อยู่ที่บริเวณอำเภอเกาะคา อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางไปประมาณ 32 กิโลเมตร อยู่ในแผนที่ภูมิประเทศ มาตราส่วน 1: 50,000 ระวางอำเภอเกาะคา เส้นละติจูดที่ 19ฐ 0ข 94ขข เหนือกับเส้นลองจิจูดที่ 5ฐ 40ข 100ขข ตะวันออก ปล่องภูเขาไฟนี้มีถนนสายลำปาง-สบปราบ (ทางหลวงหมายเลข 1) ตัดผ่านระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 586 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเส้นทางสายนี้ โดยจะเห็นชั้นหินลาวา (หินบะซอลต์) ซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ เนื่องจากปากปล่องภูเขาไฟมีบริเวณกว้าง ลักษณะของพืชหรือต้นไม้คลุมดินมีลักษณะเหมือนๆ กับภูมิประเทศทั่วๆ ไปจึงไม่เป็นที่ทราบว่าบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของปล่องภูเขาไฟ และไม่ได้นำรูปมาแสดงไว้
ลักษณะของแหล่ง
ปล่องภูเขาไฟลำปางทั้งสองแห่ง เมื่อมองจากด้านล่างจะเห็นเป็นเทือกเขายอดเว้า แต่ถ้ามองจากภาพถ่ายทางอากาศจะเห็นยอด เป็นแอ่งรูปกลม เมื่อขึ้นไปที่ปากปล่องจะเห็นสันเขาเป็นแนวยาว ล้อมรอบเป็นวง การมองต้องใช้จินตนาการประกอบ เนื่องจากปล่องคลุมพื้นที่กว้างและต้นไม้คลุมหนาแน่นทำให้มองเหมือนไหล่เขา ชันทั่วๆ ไป
ลักษณะของปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด เป็นปากปล่องที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 150 เมตร ขอบปล่องด้านเหนือและด้านตะวันตกเฉียงใต้เปิดออก ทำให้ลาวาไหลออกคลุมพื้นที่บริเวณห้วยจำห้า ห้วยแม่ทะ และพื้นราบ เห็นได้จากหินบะซอลต์ที่คลุมบริเวณดังกล่าว ความชันของเนินเขาด้านใต้จะมีมุมเอียงเทมากกว่าด้านเหนือ รูปร่างภูเขาไฟมองเห็นไม่ชัดเจน เพราะเกิดชิดกับเทือกเขาหินปูน ซึ่งเป็นเทือกที่ขวางกั้นระหว่างแอ่งลำปางกับแอ่งแม่เมาะ ภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดดมีขนาดพื้นที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปางกลาง 530 เมตร ปล่องด้านเหนือแหว่งเล็กน้อย เนื่องจากเป็นทางไหลออกของลาวา ความชันของเนินเขาด้านใต้ชันมากกว่าด้านเหนือ
สำหรับลักษณะของปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู มีลักษณะเป็นปล่องสองปล่องซ้อนกัน โดยปล่องแรกมีขนาดใหญ่ แต่เนื่องจากมีการปะทุของลาวาสองครั้ง จึงทำให้ขอบปล่องเดิมถูกทำลาย เหลือแต่ขอบด้านใต้ โดยเกิดเป็นปล่องเล็กซ้อนขึ้นมา ปล่องเล็กมีลักษณะค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ขอบปล่องด้านทิศเหนือเปิดออก ทำให้ลาวาไหลคลุมพื้นที่ราบโดยรอบเกิดเป็นหินบะซอลต์ ปากปล่องมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 200 เมตร คลุมพื้นที่ประมาณ ครึ่งตารางกิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 450 เมตร และมีความสูงจากที่ราบข้างเคียงประมาณ 80 เมตร
ปล่องภูเขาไฟสบปราบ มีลักษณะเป็นเนินยาวขนานไปกับแม่น้ำวังซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตก ตอนเหนือเป็นเนินสูงรูปร่างคล้ายกรวยฐานกว้าง มีแบบรูปทางน้ำเป็นรัศมีและวงแหวน ตอนใต้เป็นเนินยาวค่อนข้างราบ เป็นส่วนลาดต่อมาจากเนินรูปกรวยซึ่งอยู่ตอนเหนือ บนยอดเนินรูปกรวย มีลักษณะเป็นแอ่งรูปวงกลม มีขอบสูงเปิดออกทางทิศตะวันตก มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 700 เมตร ลักษณะของเนินทั้งทางตอนเหนือและตอนใต้เป็นธรณีสันฐานที่เกิดจาก ภูเขาไฟและลาวาหลาก โดยเนินตอนเหนือเป็นปล่องภูเขาไฟที่กาลเวลาได้กัดกร่อนจนปล่องพังทะลาย ส่วนเนินยาวตอนใต้เป็นลาวาที่หลากล้นออกมาปกคลุมพื้นที่หุบเขาแม่วัง ซึ่งในปัจจุบันประชาชนได้ตั้งบ้านเรือน ทำการเกษตรมีผลผลิตดี เนื่องจากหินบะซอลต์ผุพังกลายเป็นดินที่มีความสมบูรณ์สูง บริเวณพื้นที่ภูเขาไฟพบบอมบ์ภูเขาไฟและตะกรันภูเขาไฟ ส่วนบริเวณปล่องภูเขาไฟพบการหลากของชั้นลาวา นับได้ 5 ชั้น หรือแสดงการปะทุของหินหนืดจากภายใต้ผิวโลกประมาณ 5 ครั้ง
ธรณีวิทยา
กลุ่มหินบะซอลต์ ที่เกิดจากลาวาของภูเขาไฟลำปางไหลอาบออกมาปกคลุมพื้นที่ มีอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่คลุม
พื้นที่ อำเภอเกาะคา และอำเภอสบปราบ เรียกรวมกันว่า บะซอลต์สบปราบ มีพื้นที่ประมาณ 70 ตารางกิโลเมตร อีกกลุ่มหนึ่งอยู่ในบริเวณอำเภอเมือง และอำเภอแม่ทะ รวมเรียกว่า บะซอลต์แม่ทะ ซึ่งได้แก่ภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด และภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู กลุ่มนี้ให้ลาวาคลุมพื้นที่ประมาณ 120 ตารางกิโลเมตร
ภูเขาไฟลำปางเกิดจากการเคลื่อนไหวของเปลือกโลก ทำให้เกิดรอยเลื่อนลึก (Deepseated fault) ขึ้นในแนวเหนือ-ใต้ เป็นช่องทางให้หินหนืดภายใต้ผิวโลก ทะลักล้นออกมาในแนวรอยเลื่อนนี้เกิดเป็นปล่องภูเขาไฟเรียงตัวในแนวนี้ด้วย
จังหวัด ลำปางได้จัดให้ภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด และภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัด สามารถเดินทางไปชมได้สะดวก แต่การชมภูเขาไฟ จะต้องใช้จินตนาการค่อนข้างสูง เพราะปล่องภูเขาไฟมีขนาดกว้างมากกว่าสายตาจะเก็บภาพได้หมด ทั้งยังมีต้นไม้สูงใหญ่ปกคลุมอยู่หนาแน่น หากไม่มีการชี้นำจะมองไม่เห็นภาพใดๆ แม้ทางจังหวัดจะได้พัฒนาสร้างศาลาชมวิวไว้บนสันดอยผาคอกหินฟูเพื่อรองรับนัก ท่องเที่ยวแล้วก็ตาม แต่หากจังหวัดจะพัฒนาให้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวอำเภอแม่เมาะ สำหรับไปนั่งพักชมวิวหรือนำอาหารเครื่องดื่มติดตัวไปนั่งรับประทานกันเป็น กลุ่มได้ จะทำให้ศาลาที่ก่อสร้างไว้แล้วใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น
</td></tr> <tr> <td>
</td></tr> <tr> <td>

แผนที่ธรณีวิทยา​

</td></tr> <tr> <td>
</td></tr> <tr> <td>

​

</td></tr> <tr> <td>
</td></tr> <tr> <td>

แผนที่เส้นทาง​

</td></tr> <tr> <td>
</td></tr> <tr> <td>

​

</td></tr> <tr> <td>
</td></tr></tbody></table>
</td> <td id="ewt_main_structure_right" background="" bgcolor="" width="0">
</td> </tr> </tbody></table> <table id="ewt_main_structure" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"> </tr><tr valign="top"> <td id="ewt_main_structure_bottom" background="" bgcolor="" height="20">

กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 75/10 ถ.พระรามที่6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. 10400
ติชมและเสนอแนะที่ : webmaster@dmr.go.th​

</td></tr></tbody></table>
http://www.dmr.go.th/main.php?filename=n06



.

 

เตรียมกายเตรียมใจเตรียมสติทุกลมหายใจเข้าออก

 

ฟังหูไว้หูครับ อย่างน้อยก็ทำให้เรามีความรู้สึกตื่นตัวพร้อม

 

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี
ณ.ศาลาปฏิบัติธรรมสวนศรีมหาโพธิ์
ในวันอาทิตย์ ที่๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๕
ถวายกองผ้าป่า เวลา ๑๑.๐๐ น.
วัตถุประสงค์
๑.เพื่อซ่อมแซมศาลาปฏิบัติธรรมที่ชำรุด
๒.เพื่อสร้างห้องน้ำเพื่อมเดิมจากที่มีอยู่
๓.เพื่อสร้างกุฏิสำหรับพระที่มาปฏิบัติธรรม ฯลฯ
ตามกำลังจิตรศรัทธา
ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณปราณี(ลูกสาวคุณตาทองใบ คำสี)เบอร์โทร ๐๘๗-๖๔๗๕๘๖๘ และ๐๘๑-๐๗๓๐๓๖๖

 

เรื่องนี้ตามในพุทธทำนายก็บอกไว้เหมือนกัน และก็เชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง จะเริ่มตั้งแต่ ปี2555ไปจนถึง 2560 แน่นอน และการเกิดภัยพิบัตินั้นเราไม่สามารถระบุชัดๆลงไปได้ว่าจะเกิดวันนี้ เวลานี้ แต่การเกิดขึ้นนั้นมีแน่นอน ตอนนี้ขอให้รีบสร้างบุญกุศล ลด ละ เลิกกิเลสให้ได้มากที่สุด ฟังธรรมเพื่อให้เห็นตามความเป็นจริงเมื่อเห็นตามความเป็นจริงแล้วจิตจะได้ปล่อยวางลงครับ ขอทุกคนจงตั้งอยู่ในความไม่ประมาทด้วยเถิดครับ

 

ยังไม่น่าเป็นธันวา 54 หรอกครับ น่าจะเป็นปี 55

 

เป็นคำทำนายที่ได้รับการรับรู้ในวงกว้าง ถือว่ามีบารมีไม่ธรรมดา ผิดกับคนอื่น ๆ เหมือนคำทำนายของผู้มีบารมี

แต่จะเป็นพระศรีอารย์จริงหรือเปล่า ก็คอยดู แต่ผมว่า จริง...

ลุงแกบอกหรือเปล่า ว่า ลูกแกเป็นสามเณรรี หรือ สามเณรเฉย ๆ

 

เคยได้ยินว่า พระโพธิ์สัตว์ที่บารมีไกลเต็มนั้น ได้รับการพยากรณ์แล้วแน่นอน จะไม่ได้เกิดเป็น สตรีเพศอีก อันนี้ คงต้องขอผู้รู้มายืนยันอีกทีครับ เพราะผมก็ไม่ชัดเจน แต่ก็คิดว่า เป็นอย่างนั้น

 

ในขณะนี้ผมได้รับการบอกเล่าจากหลวงปู่ใหญ่ว่าพระศรีย้งไม่เสด็จลงมาท่านยังประทับอยู่ชั้นดุสิตปกครองพระโพธิสัตว์อยู่ครับ