*** ยุคศิวิไลซ์ ****

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย หนุมาน ผู้นำสาร, 7 มกราคม 2020.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    *** แนวคิด: รัฐมนตรีจากภายในกระทรวง โดยการเลือกตั้งของข้าราชการ ****

    ข้อดีที่ชัดเจน:
    1. ความรู้ลึกในภารกิจของกระทรวง
      • ผู้ที่เติบโตจากภายในย่อมเข้าใจปัญหา โครงสร้าง จุดแข็ง จุดอ่อนของกระทรวงอย่างแท้จริง
    2. ได้รับการยอมรับจากคนใน
      • ข้าราชการรู้จักดีว่าใครทำงานจริง ใครเสียสละ ใครมีภาวะผู้นำที่แท้
      • การเลือกตั้งภายในกระทรวงจะช่วยคัดกรองคนที่ “มีผลงานจริง” ไม่ใช่ “ภาพลักษณ์ทางการเมือง”
    3. ลดการเมืองแทรกแซง
      • ไม่ต้องมีโควต้าพรรคการเมือง หรือแต่งตั้งตามสายสัมพันธ์
      • ทำให้รัฐมนตรีกล้าเสนอสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าต้องตามแนวพรรค
    4. เสริมสร้างขวัญกำลังใจของข้าราชการ
      • ข้าราชการจะมีเป้าหมายในการทำงานดี เพื่อเติบโตขึ้นสู่ระดับผู้นำ
      • กระตุ้นคุณธรรม ความสามารถ และการรับใช้สาธารณะอย่างแท้จริง
    สัจจะที่ซ่อนอยู่ในแนวคิดนี้คือ
    “ตำแหน่งสูงสุด ไม่ใช่รางวัลจากอำนาจ แต่คือความไว้วางใจจากผู้ร่วมทำงานเพื่อประชาชน”
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    *** “รัฐมนตรีจากรากฐานของกระทรวง” ****

    : หลักการประชาธิปไตยเชิงคุณธรรม เพื่อรัฐมนตรีที่มีคุณภาพสูง

    หลักการเบื้องต้น
    1. รัฐมนตรีควรมีประสบการณ์ตรงจากภายในกระทรวง
      • เคยปฏิบัติงานในสายงานหลักของกระทรวงนั้น
      • ผ่านการพัฒนาจากตำแหน่งเล็ก จนถึงตำแหน่งบริหาร
      • มีผลงานที่ตรวจสอบได้ และเป็นที่ยอมรับจากเจ้าหน้าที่กระทรวงและสาธารณชน
    2. การแต่งตั้งรัฐมนตรี ควรมาจากกระบวนการเลือกตั้งภายในกระทรวง
      • ข้าราชการประจำของแต่ละกระทรวงมีสิทธิ์เลือกผู้แทนที่เหมาะสม
      • กระบวนการโปร่งใส เป็นธรรม มีการตรวจสอบ และไม่มีอิทธิพลจากพรรคการเมือง
    3. รัฐมนตรีที่มาจากกระทรวงนั้น จะเป็นผู้เข้าใจภารกิจหลักอย่างลึกซึ้ง
      • แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
      • ลดเวลาการเรียนรู้ระบบงาน
      • สร้างนโยบายที่ “ต่อยอดจากความเป็นจริง” ไม่ใช่เพียงนโยบายหาเสียง

    หลักสัจจะของระบบนี้
    • สัจจะต่อหน้าที่: รัฐมนตรีที่มาจากข้าราชการ ย่อมรู้ว่าหน้าที่มีเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่ออำนาจ
    • สัจจะต่อประชาชน: ผู้ได้รับเลือกคือผู้ที่ข้าราชการเห็นว่าทำเพื่อส่วนรวมมาโดยตลอด
    • สัจจะต่อแผ่นดิน: ลดการแทรกแซงทางการเมืองและการทุจริตเชิงนโยบายที่ไม่ตรงต่อประโยชน์ชาติ
    • สัจจะต่อระบบราชการ: ส่งเสริมการเติบโตภายใน เสริมขวัญกำลังใจ และวางเป้าหมายแห่งคุณธรรมแก่ข้าราชการทุกคน

    ผลที่พึงประสงค์
    • ได้รัฐมนตรีที่เข้าใจงานจริง
    • ลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงตามอำนาจการเมือง
    • เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารกระทรวง
    • สร้างขวัญ กำลังใจ และเป้าหมายที่ยั่งยืนในสายราชการ
    • นำประเทศไปสู่การปกครองที่ “ไม่ใช่แค่ประชาธิปไตย” แต่เป็น “ประชาธิปไตยที่มีสัจจะ”
    คำขวัญประจำหลักการนี้:
    “เติบโตจากภายใน เข้าใจภารกิจ รักษาสัจจะ พัฒนาประเทศ”
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    “สมาชิกผู้แทนราษฎร ต้องมาจากหัวใจของประชาชนในพื้นที่”

    : สัจจะประชาธิปไตยที่แท้จริง

    หลักการสำคัญ
    1. ผู้แทนราษฎรต้องมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนในพื้นที่นั้น
      • ไม่ใช่จากการเสนอชื่อโดยพรรค
      • ไม่ใช่บุคคลภายนอกที่ไม่รู้จักรากเหง้า ปัญหา และวัฒนธรรมของพื้นที่
    2. ต้องมีการนับคะแนนเสียงอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
      • ทุกคะแนนเสียงต้องมีความศักดิ์สิทธิ์
      • ไม่มีการซื้อเสียง ข่มขู่ หรือหลอกลวงประชาชน
    3. ผู้แทนต้องยึดโยงกับประชาชนหลังการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง
      • กลับมารับฟังปัญหาในพื้นที่
      • ทำหน้าที่แทนประชาชน ไม่ใช่แทนพรรค หรือกลุ่มทุน
    สัจจะของผู้แทนราษฎรที่แท้จริง
    • สัจจะต่อแผ่นดิน: ปกป้องประโยชน์ของพื้นที่ และของชาติ มากกว่าประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
    • สัจจะต่อประชาชน: รับฟัง ให้เกียรติ ไม่หลอกลวง
    • สัจจะต่ออำนาจหน้าที่: ไม่ใช้อำนาจเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน
    • สัจจะต่อวิถีประชาธิปไตย: เคารพเสียงของประชาชน ไม่เปลี่ยนจุดยืนตามอำนาจเงินหรืออิทธิพล
    ผลลัพธ์ของระบบนี้
    • ประชาชนมีศรัทธาในผู้แทนของตน
    • เขตพื้นที่ต่างๆ ได้ผู้แทนที่เข้าใจปัญหาจริง
    • ลดความขัดแย้งทางการเมือง และเสริมสร้างสันติในท้องถิ่น
    • เป็นรากฐานของประชาธิปไตยที่มี “หัวใจ” ไม่ใช่แค่ “ระบบ”
    คำขวัญสำหรับแนวคิดนี้:
    “เป็นผู้แทน เพราะประชาชนเลือก ไม่ใช่เพราะพรรคเสนอ”
    “ยืนในสภาแทนเสียงของชาวบ้าน ไม่ใช่แทนเสียงของเงิน”
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    ข้อเสนอ:
    ยกเลิกระบบพรรคการเมือง เพื่อคืนพลังประชาธิปไตยให้ประชาชนอย่างแท้จริง

    เหตุผลและหลักการรองรับ
    1. พรรคการเมืองเป็นโครงสร้างที่สร้างการแบ่งฝ่ายโดยธรรมชาติ
      • ทำให้ประชาชนในชาติกลายเป็น “คนของพรรค” มากกว่า “คนของแผ่นดิน”
      • นำไปสู่ความขัดแย้งทางอุดมการณ์โดยไม่จำเป็น และยากจะหาจุดร่วมเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
    2. ระบบพรรคเปิดช่องให้ทุนแฝงและอิทธิพลภายนอกเข้ามาแทรกแซง
      • พรรคจำเป็นต้องใช้ทุนในการดำเนินกิจกรรมจำนวนมาก
      • กลายเป็นประตูให้ “กลุ่มทุน” หรือ “ฝ่ายต่างชาติ” เข้ามากำหนดนโยบาย ผ่านการสนับสนุนลับ
      • นำไปสู่การบิดเบือนนโยบาย เพื่อสนองตอบผู้สนับสนุน มากกว่าประชาชน
    3. ประชาชนไม่สามารถควบคุมพรรคได้จริง
      • เมื่อผู้แทนเข้าสู่ระบบพรรค มักต้องลงมติตามมติพรรค ไม่ใช่มติประชาชนในเขต
      • ประชาชนจึงถูกตัดขาดจากการมีส่วนร่วมที่แท้จริง

    แนวทางประชาธิปไตยทางเลือก: “ระบบผู้แทนอิสระ”
    • ผู้สมัครทุกคนเป็นอิสระ ไม่มีพรรค ไม่มีหัวหน้าพรรค
    • ประชาชนเลือกผู้แทนโดยตรงในเขตของตนเอง
    • รัฐบาลสามารถจัดตั้งจากเสียงข้างมากในสภา โดยมาจากการรวมกลุ่มเฉพาะกิจตามภารกิจ ไม่ใช่พรรคถาวร
    • ผู้แทนสามารถลงคะแนนโดยอิสระ ตามความต้องการของประชาชนในเขต ไม่ถูกบังคับด้วยมติพรรค
    สัจจะของระบบนี้
    • สัจจะต่อแผ่นดิน: มองประเทศเหนือพรรค
    • สัจจะต่อประชาชน: เป็นผู้แทนของชาวบ้าน ไม่ใช่ผู้แทนของพรรค
    • สัจจะต่อหน้าที่: ใช้เสียงในสภาเพื่อความถูกต้อง ไม่ใช่ตามคำสั่งใคร
    • สัจจะเพื่อความสงบ: ยุติวาทกรรมแบ่งแยก “ฝั่งเรา-ฝั่งเขา” เพื่อคืนความเป็นหนึ่งของคนไทย

    คำขวัญ
    “ไม่มีพรรค ไม่มีฝักฝ่าย มีแต่ประชาชนและประเทศ”
    “สภาแห่งสัจจะ ไม่ใช่สภาของพรรค”
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    …ถ้อยแถลงระดับชาติเพื่ออนาคต….

    “คืนสู่ประชาธิปไตยแห่งสัจจะ —
    ไม่มีพรรค ไม่มีฝ่าย มีแต่ประชาชนและแผ่นดิน”

    ประเทศต้องการความเป็นหนึ่ง ไม่ใช่ความแตกแยก

    ในระยะเวลาที่ผ่านมา การเมืองของประเทศตกอยู่ในวังวนของการแบ่งฝ่ายอย่างรุนแรง ภายใต้โครงสร้างที่เรียกว่า “พรรคการเมือง” ซึ่งในทางปฏิบัติได้กลายเป็นเครื่องมือแห่งการช่วงชิงอำนาจ แย่งชิงงบประมาณ ปลุกปั่นความเกลียดชัง และขัดขวางความร่วมมือของประชาชนในชาติเดียวกัน

    พรรคการเมืองที่ควรเป็นกลไกสร้างนโยบายกลับกลายเป็นรากเหง้าของความแตกแยกทางสังคม นำมาสู่ความไม่มั่นคงในทุกระดับ และเปิดช่องให้ทุนแฝง อิทธิพลนอกประเทศ หรือกลุ่มผลประโยชน์เข้ามาครอบงำเจตจำนงของประชาชน

    เราขอประกาศ
    เพื่อความสงบแห่งแผ่นดิน เพื่อศักดิ์ศรีของประชาชน และเพื่อความมั่นคงของชาติในระยะยาว

    “ขอยุติบทบาทของระบบพรรคการเมือง”
    และ
    “ประกาศคืนอำนาจให้ประชาชน โดยระบบผู้แทนอิสระ”

    หลักการประชาธิปไตยใหม่: ประชาธิปไตยด้วยสัจจะ ไม่ใช่พรรค
    1. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนเป็นอิสระ
      • ไม่มีสังกัดพรรค
      • ไม่ตกอยู่ภายใต้มติพรรค
      • ทำหน้าที่แทนประชาชนในเขต ไม่ใช่แทนหัวหน้าพรรค
    2. การจัดตั้งรัฐบาลเกิดจากฉันทามติร่วมกันของผู้แทนอิสระ
      • ตั้งจากความสามารถ คุณธรรม และภารกิจร่วม
      • ไม่ใช่จากจำนวน ส.ส. พรรคใดพรรคหนึ่ง
    3. ผู้แทนทุกคนมีสิทธิ์ลงคะแนนตามดุลยพินิจที่ซื่อสัตย์ต่อประชาชน
      • เสียงทุกเสียงในสภา คือเสียงของประชาชน ไม่ใช่เสียงของกลุ่มทุน
    หัวใจของระบบนี้ คือ “สัจจะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด”
    • ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายซ้ายหรือขวา
    • ไม่เลือกข้างตามสีเสื้อ แต่เลือกข้างประชาชน
    • ไม่ยึดติดพรรค แต่ยึดมั่นในบ้านเกิด เมืองนอน และผลประโยชน์ของประเทศ
    นี่คือ “ประชาธิปไตยแห่งสัจจะ” ที่ไม่ได้ยืนอยู่ข้างอำนาจใด แต่ยืนอยู่ข้างความจริง ความซื่อสัตย์ และความเป็นธรรม

    เราขอเรียกร้อง
    ให้ประชาชนทุกคนร่วมกันพิจารณาอนาคตของประเทศ ไม่ใช่ด้วยความเคยชินในระบบพรรค หากแต่ด้วยหัวใจที่กล้าจะเปลี่ยนแปลงเพื่อความสงบสุขระยะยาว

    “เรามิได้ต่อต้านประชาธิปไตย แต่เราปรารถนาประชาธิปไตยที่มีสัจจะนำหน้า”

    “เรามิได้เกลียดการเมือง แต่เราใฝ่หาการเมืองที่ไม่ทำลายคนในชาติให้กลายเป็นศัตรูกัน”

    ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะรวมพลังใต้ธงเดียวกัน
    ไม่ใช่ธงพรรค แต่คือ “ธงแห่งสัจจะของชาติ”
    ที่นำพาประเทศเราไปสู่ประชาธิปไตยที่ไม่แตกแยก

    ประชาธิปไตยที่รวมพลังกันพัฒนา
    ประชาธิปไตยที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
    ประชาธิปไตยที่ยืนบนสัจจะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2025 at 20:18
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    *** “สัจจะประชาธิปไตย” คืออะไร ****

    สัจจะประชาธิปไตย คือ ประชาธิปไตยที่มีรากฐานจาก ความซื่อสัตย์ต่อแผ่นดิน ความไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และ การมุ่งรับใช้ประชาชนด้วยจิตสำนึกแห่งความจริง แทนที่จะเป็นเพียงโครงสร้างของการเลือกตั้ง การชิงอำนาจ หรือการแบ่งฝ่าย

    องค์ประกอบของ “สัจจะประชาธิปไตย”
    1. สัจจะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
      • ยุติความแตกแยกทางการเมืองด้วยการเลิกยึดมั่นในพรรค
      • รักษาใจให้มั่นคง ยึดถือประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง
    2. ยกเลิกระบบพรรคการเมือง
      • เพราะพรรคเป็นต้นเหตุของความแตกแยกและเปิดช่องให้อิทธิพลภายนอกแทรกแซง
      • คืนความเป็นเจ้าของประเทศให้ประชาชน ไม่ใช่กลุ่มทุนหรือหัวหน้าพรรค
    3. ประชาชนเลือกผู้แทนโดยตรง ไม่ผ่านพรรค
      • ผู้แทนต้องมี สัจจะต่อประชาชนในเขต ไม่ใช่ต่อมติพรรค
      • เสียงของประชาชนไม่ถูกแปรเปลี่ยนเป็นคำสั่งของกลุ่มใด
    4. รัฐมนตรีต้องเติบโตจากข้างใน มีประวัติการรับใช้จริง
      • เพื่อให้มีสัจจะต่อกระทรวงและประชาชนในสายงาน
      • ไม่แต่งตั้งจากโควต้าทางการเมือง
    5. สร้างประชาธิปไตยที่นำโดยสัจจะ ไม่ใช่ผลประโยชน์
      • เพื่อให้เกิดการเมืองที่สะอาด โปร่งใส และทำเพื่อบ้านเมืองจริง

    คำขวัญแห่ง “สัจจะประชาธิปไตย”

    “ประชาธิปไตยที่มีราก คือ สัจจะ”
    “ไม่เอาฝ่าย ไม่เอาพรรค เอาแผ่นดิน เอาประชาชน”
    “ประชาธิปไตยต้องไม่ทำลายความเป็นพี่น้องของคนในชาติ”
    “สัจจะประชาธิปไตย จะปลดปล่อยเราจากความขัดแย้ง และพาเราสู่สันติภาพถาวร”
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    แนวคิด “พระประมุขพระราชทานนายกรัฐมนตรี” ภายใต้กรอบของ สัจจะประชาธิปไตย
    สามารถออกแบบให้เกิดขึ้นได้ โดยตั้งอยู่บนหลักแห่ง สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมใจของชาติ และ การมีนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการยอมรับจากทั้งข้าราชการ ผู้แทน และประชาชนโดยไม่ยึดพรรค ดังนี้

    แนวทาง: พระราชทานนายกรัฐมนตรีตามสัจจะประชาธิปไตย

    1. นายกรัฐมนตรีไม่ได้มาจากพรรคการเมือง
    • ยกเลิกระบบจัดตั้งรัฐบาลโดยเสียงข้างมากของพรรค
    • เปิดทางให้ผู้แทนราษฎรทั้งหมดเสนอชื่อผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม
    • พิจารณาจาก ความสามารถ, สัจจะ, คุณธรรม, ประวัติการทำงานเพื่อแผ่นดิน
    2. คณะผู้แทนราษฎรเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมที่สุด 5 รายชื่อ
    • เปิดให้มีการเสนอชื่อบุคคลจากทุกภาคส่วนของประเทศ
    • คัดเลือกโดยมติร่วมกันของผู้แทนอิสระทั่วประเทศ
    • ไม่มีโควต้าพรรค ไม่มีการต่อรอง ไม่มีอำนาจนอกระบบแทรกแซง
    3. ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อพระราชทานพระราชวินิจฉัย
    • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฐานะพระประมุข ทรงเป็นที่รวมใจของชาติ
    • ทรงพระราชทานนายกรัฐมนตรีจากรายชื่อที่เสนอ โดยทรงคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของชาติ
    4. นายกรัฐมนตรีที่ได้รับพระราชทาน ถือเป็น “นายกรัฐมนตรีแห่งแผ่นดิน”
    • ไม่เป็นของพรรคใด ไม่เป็นของกลุ่มใด
    • มีหน้าที่รับใช้ประชาชนทั้งชาติ ด้วยความจงรักภักดี และสัจจะบริสุทธิ์
    • น้อมนำพระราชดำรัสและแนวทางพระราชทานสู่การบริหารแผ่นดินด้วยความสุจริต
    5. สัจจะนำการเมืองกลับสู่ความสงบ
    • เมื่อนายกฯ ไม่สังกัดพรรค ประชาชนจะไม่ต้องแตกฝ่ายสนับสนุน
    • เมื่อไม่มีพรรค การเลือกผู้แทนจะเป็นไปอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา
    • เมื่อสถาบันเป็นผู้พระราชทาน ความเชื่อมั่นของประชาชนจะกลับคืน
    • ประชาธิปไตยกับสถาบันไม่ขัดกัน แต่สามารถเสริมกันด้วย “สัจจะ”


    ถ้อยคำแห่งสัจจะประชาธิปไตยรูปแบบใหม่

    “เมื่อพระประมุขพระราชทานนายกรัฐมนตรี ประชาชนทั้งแผ่นดินจะรวมใจเป็นหนึ่ง”
    “ไม่ใช่เพราะท่านมาจากเสียงข้างมาก แต่เพราะท่านมีสัจจะเป็นที่ยอมรับของทั้งแผ่นดิน”
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    *** รัฐธรรมนูญแห่งแดนศิวิไลซ์ ****

    บทนำ
    เป้าหมายของมวลมนุษย์ คือ ความสงบสุข
    แดนศิวิไลซ์ ยึดถือ “สัจจะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด” มีเมตตาเป็นพื้นฐาน มีสติเป็นผู้นำ มีความเที่ยงธรรมเป็นเครื่องชี้ทาง
    เพื่อสร้างแผ่นดินแห่งปัญญา ความร่วมมือ และสันติภาพอย่างยั่งยืน

    เราชาวแดนศิวิไลซ์
    ขอประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันว่า…
    จะยึดมั่นในสัจจะเป็นหลัก
    จะไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
    จะไม่ยอมให้ความโลภ ความกลัว หรือความเกลียดชัง นำทางการปกครอง
    จะร่วมกันสร้างระบอบที่ยกระดับจิตใจมนุษย์
    ให้คุณธรรมสูงกว่าการช่วงชิง
    ให้สันติสูงกว่าชัยชนะ
    และให้ “ความจริง” เป็นรากฐานของบ้านเมือง
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    หมวด ๑ : อำนาจอธิปไตย

    มาตรา ๑
    อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวแดนศิวิไลซ์โดยแท้จริง
    แต่การใช้อำนาจนั้น ต้องอยู่ภายใต้หลัก สัจจะ ความเที่ยงธรรม เมตตา และความไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

    มาตรา ๒
    การใช้อำนาจอธิปไตยแบ่งเป็น ๓ ส่วน คือ
    (๑) อำนาจแห่งความรู้และสัจจะ
    (๒) อำนาจแห่งความร่วมมือของประชาชน
    (๓) อำนาจแห่งการตัดสินใจเพื่อประโยชน์ส่วนรวมโดยไม่มีอคติ

    มาตรา ๓
    อำนาจในการบริหารประเทศมิได้อยู่ที่บุคคลหรือกลุ่มใดโดยถาวร
    แต่อยู่ที่ระบบแห่งสัจจะที่ทุกคนต้องเคารพ
    ผู้ใดฝ่าฝืนสัจจะ ย่อมหมดสิทธิ์ในการใช้อำนาจอธิปไตย

    มาตรา ๔
    ห้ามมิให้ผู้ใดหรือองค์กรใด ผูกขาดอำนาจทางความคิด อำนาจทางเศรษฐกิจ หรืออำนาจทางการเมือง
    อำนาจใดที่สร้างความแตกแยกแก่ประชาชน ให้ถือว่าเป็นภัยต่อแดนศิวิไลซ์

    มาตรา ๕
    ในการใช้อำนาจอธิปไตย ต้องตั้งอยู่บนความสมัครใจของประชาชน
    โดยไม่ใช้การบิดเบือน ปลุกปั่น ล่อลวง หรือสร้างความกลัว
    เพราะ “อำนาจที่ปราศจากความจริง คือ อำนาจปลอม” และ “อำนาจที่ปราศจากเมตตา คือ อำนาจอธรรม”
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    หมวด ๒ : ประชาชนและสิทธิเสรีภาพ

    มาตรา ๖
    ประชาชนคือหัวใจของแดนศิวิไลซ์
    ทุกคนมีสิทธิเกิด เสรีภาพในการดำรงชีวิต และศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์
    โดยไม่มีสิ่งใดมาแบ่งแยก ไม่ว่าชาติพันธุ์ ศาสนา เพศ วัย ความเชื่อ หรือความเห็นทางการเมือง

    มาตรา ๗
    สิทธิเสรีภาพของประชาชนต้องตั้งอยู่บนรากฐานของสัจจะ
    คือ เสรีภาพที่ไม่เบียดเบียนใคร
    สิทธิที่ไม่ล่วงละเมิดสัจจะของผู้อื่น
    และความเห็นที่ตั้งอยู่บนเมตตาและความเที่ยงธรรม

    มาตรา ๘
    ประชาชนมีสิทธิรับรู้ข้อเท็จจริงทุกประการเกี่ยวกับการใช้อำนาจในบ้านเมือง

    ข้อมูลของรัฐถือเป็นสมบัติของประชาชน เว้นแต่เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องปกปิดเพื่อความปลอดภัยของส่วนรวม

    มาตรา ๙
    ประชาชนมีสิทธิร่วมกำหนดทิศทางของบ้านเมือง
    มีสิทธิแสดงความคิดเห็นโดยไม่ต้องหวาดกลัว
    และมีสิทธิขอถอดถอนผู้ใช้อำนาจโดยปราศจากสัจจะออกจากตำแหน่งผ่านกลไกประชามติ

    มาตรา ๑๐
    ประชาชนมีหน้าที่เท่าเทียมกับสิทธิ
    ได้แก่ หน้าที่ในการรักษาสัจจะ
    เคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น
    ไม่หลงตามกระแสแห่งความเกลียดชัง
    และร่วมมือกันสร้างสังคมแห่งเมตตา สติ และความสงบสุข
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    หมวด ๓ : การปกครอง

    มาตรา ๑๑
    แดนศิวิไลซ์ปกครองในระบอบ สัจจะประชาธิปไตย
    โดยมีพระประมุขเป็นองค์ประธานแห่งสันติ
    และมีระบบบริหารที่ตั้งอยู่บนหลักคุณธรรม ความรู้ และความไว้วางใจของประชาชน

    มาตรา ๑๒
    พระประมุขทรงเป็นสัญลักษณ์ของความเมตตา ความไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และความเสียสละเพื่อประชาชน
    ทรงใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเอกภาพของชาติ
    การแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีกระทำโดยพระราชทานจากรายชื่อบุคคลที่ประชาชนเสนอผ่านกระบวนการสัจจะเลือกตั้ง

    มาตรา ๑๓
    นายกรัฐมนตรีต้องเป็นบุคคลที่เคยรับใช้แผ่นดินด้วยสัจจะ มีผลงานปรากฏ และเป็นที่ยอมรับของประชาชนในวงกว้าง
    การดำรงตำแหน่งสูงสุดของประเทศต้องตั้งอยู่บนคุณธรรม มิใช่ความนิยมชั่วคราว

    มาตรา ๑๔
    รัฐมนตรีแต่ละกระทรวง ให้ข้าราชการในกระทรวงนั้นใช้กระบวนการเลือกตั้งภายใน
    เพื่อเสนอชื่อผู้ที่มีประสบการณ์ มีคุณธรรม และเป็นที่เคารพในกระทรวง
    ให้พระประมุขทรงแต่งตั้งจากรายชื่อที่ได้รับเสียงสนับสนุนสูงสุด

    มาตรา ๑๕
    สมาชิกผู้แทนราษฎร ให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่เลือกตั้งโดยตรง
    โดยไม่ผ่านระบบพรรคการเมือง เพื่อป้องกันการแบ่งพรรคแบ่งพวก
    ผู้แทนราษฎรต้องเป็นผู้มีสัจจะต่อประชาชน มีประวัติชัดเจน และยอมเปิดเผยทรัพย์สินและการดำเนินชีวิตต่อสาธารณะ

    มาตรา ๑๖
    ยกเลิกระบบพรรคการเมืองโดยสิ้นเชิง
    ให้ประชาชนเสนอชื่อบุคคลต้นแบบในชุมชนหรือจังหวัดของตน
    และใช้กระบวนการคัดเลือกตามหลักสัจจะและคุณธรรม ไม่ใช้ความนิยมแบบตลาด หรือการหาเสียงแบบชี้นำ
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    หมวด ๔ : ธรรมาภิบาลและการใช้งบประมาณ

    มาตรา ๑๗
    งบประมาณแผ่นดินเป็นสมบัติร่วมของประชาชนทุกคน
    การจัดสรรและใช้งบประมาณต้องตั้งอยู่บนหลัก
    (๑) ความโปร่งใสตรวจสอบได้
    (๒) ประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก
    (๓) ความเรียบง่าย ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มใด

    มาตรา ๑๘
    ทุกหน่วยงานของรัฐต้องเปิดเผยรายละเอียดการใช้งบประมาณต่อประชาชนแบบเข้าใจง่าย
    ต้องมีระบบติดตามผลและรายงานประจำปีที่ประชาชนเข้าถึงได้สะดวก
    ผู้ไม่สามารถชี้แจงการใช้งบประมาณได้ ให้ถือว่าผิดสัจจะ และพ้นจากตำแหน่งโดยอัตโนมัติ

    มาตรา ๑๙
    ห้ามมิให้มีการกู้เงินในนามประเทศเพื่อประโยชน์เฉพาะกลุ่ม
    การกู้เงินเพื่อพัฒนา ต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชนผ่านประชามติ
    หากเกิดหนี้สาธารณะโดยไม่มีความชอบธรรม ผู้ลงนามต้องร่วมรับผิดชอบ

    มาตรา ๒๐
    โครงการระดับชาติใด ๆ ต้องจัดทำรายงานผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และจิตวิญญาณของชุมชน
    หากโครงการใดละเมิดสัจจะของประชาชนหรือธรรมชาติ ให้ระงับทันที

    มาตรา ๒๑
    ความร่ำรวยส่วนตัวที่เกิดจากอำนาจรัฐถือเป็นการผิดธรรมาภิบาล
    ผู้ที่ร่ำรวยผิดธรรมชาติในขณะดำรงตำแหน่ง ต้องพิสูจน์ความโปร่งใสต่อประชาชน
    ทรัพย์สินที่ไม่สามารถชี้แจงได้ ให้ตกเป็นของรัฐเพื่อนำกลับคืนสู่ประชาชน
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    หมวด ๕ : การยุติธรรมและศาลแห่งสัจจะ

    มาตรา ๒๒
    กระบวนการยุติธรรมในแดนศิวิไลซ์ ต้องตั้งอยู่บนหลัก
    (๑) สัจจะ คือ ความเที่ยงธรรมโดยไม่เอนเอียง
    (๒) ความเมตตา คือ การพิจารณาโดยไม่โกรธ ไม่เกลียด
    (๓) ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด คือ การไม่ยึดถืออำนาจ ผลประโยชน์ หรือความกลัวเป็นที่ตั้ง

    มาตรา ๒๓
    ศาลแห่งสัจจะ เป็นองค์กรอิสระสูงสุดทางตุลาการ
    มีหน้าที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน และตัดสินคดีด้วยหลักสัจจะเป็นพื้นฐาน
    ผู้พิพากษาต้องผ่านการทดสอบสัจจะ การฝึกเมตตา และการพิจารณาโดยประชาชนในกระบวนการแต่งตั้ง

    มาตรา ๒๔
    ห้ามมิให้ศาลรับอิทธิพลจากฝ่ายการเมือง เศรษฐกิจ หรือกลุ่มอำนาจใด
    การตรวจสอบการดำเนินงานของศาลกระทำได้โดย “สภาสัจจะพลเมือง” ซึ่งมาจากการคัดสรรของประชาชน

    มาตรา ๒๕
    ในทุกคดีความ ต้องมี “ผู้ไกล่เกลี่ยแห่งสัจจะ” ดำเนินการก่อนเข้าสู่การพิจารณาในศาล
    เพื่อเปิดโอกาสให้คู่ความคืนดีกันด้วยความเข้าใจ
    เว้นแต่คดีที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

    มาตรา ๒๖
    ผู้ที่ทำหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและรายได้ต่อสาธารณะอย่างสม่ำเสมอ
    และต้องตั้งสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าประชาชน ว่าจะไม่รับสินบน ไม่รับใช้อคติ และไม่ยอมให้ความกลัวชี้นำการตัดสิน
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    หมวด ๖ : ความมั่นคงและสัจจะทหารไทย

    มาตรา ๒๗
    กองทัพไทยมีหน้าที่พิทักษ์รักษาเอกราช บูรณภาพแห่งอาณาเขต
    และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพระประมุขแห่งชาติ
    โดยยึดมั่นใน สัจจะ จิตวิญญาณทหาร และความไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เป็นรากฐานแห่งความมั่นคง

    มาตรา ๒๘
    ทหารไทยทุกนายต้องปฏิญาณสัจจะต่อพระมหากษัตริย์และประชาชน
    ให้ถือความสงบสุขของชาติเป็นเป้าหมายสูงสุด
    และละเว้นจากการเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในความขัดแย้งทางการเมืองโดยเด็ดขาด

    มาตรา ๒๙
    กองทัพต้องอยู่ใต้การบัญชาการสูงสุดของพระประมุข
    มิใช่เป็นเครื่องมือของรัฐบาลหรือกลุ่มอำนาจใด
    การแต่งตั้งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ต้องผ่านกระบวนการประเมินจาก “สภาสัจจะแห่งความมั่นคง”
    ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากประชาชน ข้าราชการ และอดีตนายทหารผู้มีสัจจะ

    มาตรา ๓๐
    กองทัพต้องปฏิบัติภารกิจทั้งในยามสงบและยามวิกฤตด้วยความเมตตา มีวินัย และโปร่งใส
    รวมถึงร่วมมือกับประชาชนในการพัฒนาชาติ บรรเทาสาธารณภัย และฟื้นฟูคุณธรรมในสังคม

    มาตรา ๓๑
    ห้ามทหารทุกระดับยุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยสิ้นเชิง
    ผู้ใดใช้กองทัพเพื่อเป้าหมายทางการเมือง ถือว่าผิดสัจจะร้ายแรง ต้องถูกถอดถอนและดำเนินคดี

    มาตรา ๓๒
    กองทัพต้องสนับสนุนการปลูกฝังสัจจะให้กับเยาวชนและประชาชน
    โดยให้ความรู้ด้านความมั่นคงควบคู่กับคุณธรรม
    สร้างประชาชนที่เข้มแข็งทั้งทางกาย ใจ และจิตสำนึกแห่งชาติ
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    หมวด ๗ : วัฒนธรรม ศาสนา และการฟื้นฟูจิตใจแห่งชาติ

    มาตรา ๓๓
    แดนศิวิไลซ์ยึดถือว่า จิตใจที่เข้มแข็งด้วยสัจจะ คือรากฐานแห่งความมั่นคงของชาติ
    รัฐมีหน้าที่ส่งเสริมการปลูกฝังสัจจะ ความดีงาม ความเมตตา และความเป็นกลางทางใจในทุกระดับ

    มาตรา ๓๔
    ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นสมบัติร่วมของประชาชนทุกคน
    รัฐต้องอุปถัมภ์ทุกศาสนาอย่างเสมอภาค และส่งเสริมให้ศาสนาเป็นพลังแห่งการสร้างสันติภาพ ความเมตตา และสัจจะในสังคม

    มาตรา ๓๕
    ทุกศาสนาในแดนศิวิไลซ์ต้องมี “คณะสัจจะธรรม” ซึ่งเป็นองค์กรกลางที่ทำหน้าที่
    (๑) สร้างแนวทางปฏิบัติที่เน้น สัจจะทำ มากกว่าพิธีกรรม
    (๒) ร่วมกันรณรงค์ความดีที่เป็นสากล
    (๓) ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ไม่ใช้ศาสนาเพื่อแบ่งแยกประชาชน

    มาตรา ๓๖
    รัฐต้องสนับสนุนการเรียนรู้พุทธะในทุกศาสนา คือการตื่นรู้ในความจริง
    เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีโอกาสเข้าถึงความสงบในจิตใจโดยไม่ต้องละทิ้งความเชื่อของตน

    มาตรา ๓๗
    หน่วยงานของรัฐต้องร่วมมือกับวัด ศาสนสถาน โรงเรียน และครอบครัว
    ในการจัดกิจกรรมสัจจะประจำวัน เช่น
    – การตั้งสัจจะทำความดีวันละข้อ
    – การเว้นชั่วที่ทำลายสังคม
    – การไถ่บาปด้วยการทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น

    มาตรา ๓๘
    รัฐต้องส่งเสริมการสื่อสารที่สร้างพลังบวก สร้างจิตสำนึก และสะท้อนสัจจะของสังคม
    ห้ามใช้สื่อเป็นเครื่องมือแบ่งฝ่าย หรือยั่วยุให้ประชาชนเกลียดชังกันเอง

    มาตรา ๓๙
    ทุกภาคส่วนมีหน้าที่ร่วมกันฟื้นฟูจิตวิญญาณแห่งชาติ โดยเริ่มจากตนเอง
    “สัจจะต้องเริ่มที่ใจ”
    และขยายออกสู่สังคม ครอบครัว ชุมชน และประเทศ
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    หมวด ๘ : การบริหารราชการแผ่นดิน และการปกครองท้องถิ่น

    มาตรา ๔๐
    ราชการแผ่นดินต้องตั้งอยู่บนหลักสัจจะ รับใช้ประชาชนด้วยความโปร่งใส มีเมตตา ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
    ข้าราชการทุกคนต้องรักษาสัจจะต่อหน้าประชาชน ว่าจะไม่ใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตนหรือพวกพ้อง

    มาตรา ๔๑
    การแต่งตั้งรัฐมนตรีของแต่ละกระทรวง ให้กระทำโดยให้ข้าราชการในกระทรวงนั้น ๆ เป็นผู้ลงคะแนนคัดเลือก
    โดยเลือกจากผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และได้รับความยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน
    ผู้ได้รับเลือกจะเสนอชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ให้พระประมุขทรงพระราชทานการแต่งตั้ง

    มาตรา ๔๒
    ปลัดกระทรวง นายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องผ่านการประเมิน “สัจจะธรรมราชการ” อย่างสม่ำเสมอ
    หากตรวจพบการละเมิดสัจจะ ต้องถูกถอดถอนจากตำแหน่งทันทีโดย “คณะกรรมการสัจจะพลเมือง”

    มาตรา ๔๓
    ให้ยกเลิกระบบพรรคการเมืองในระดับประเทศและท้องถิ่น เพื่อป้องกันการแบ่งพรรคแบ่งพวก
    ประชาชนมีสิทธิเสนอชื่อบุคคลที่ตนไว้วางใจให้เป็นผู้แทนโดยตรง
    ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องแสดง “สัจจะปฏิญาณ” และเปิดเผยประวัติการทำความดีต่อสาธารณะ

    มาตรา ๔๔
    สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ โดยตรง
    ผู้แทนต้องรับผิดชอบต่อประชาชนในเขตของตน และมีหน้าที่รายงานการทำงานต่อชุมชนทุกเดือน
    หากฝ่าฝืนสัจจะหรือทำลายความสามัคคีในชาติ ประชาชนสามารถลงมติถอนออกจากตำแหน่งได้ทันที

    มาตรา ๔๕
    การปกครองท้องถิ่นต้องส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกระดับ
    มี “สภาประชาชนท้องถิ่น” ทำหน้าที่กำหนดทิศทางการพัฒนา กำกับงบประมาณ และตรวจสอบการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ

    มาตรา ๔๖
    งบประมาณแผ่นดินต้องโปร่งใส และให้ประชาชนตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
    การใช้งบประมาณต้องมี “สัจจะงบประมาณ” ระบุชัดเจนว่าเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่ผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    หมวด ๙ : การสร้างประชาชนแห่งสัจจะ และเยาวชนศิวิไลซ์

    มาตรา ๔๗
    ประชาชนแห่งแดนศิวิไลซ์ต้องได้รับการปลูกฝัง สัจจะ ความดี และความไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
    ตั้งแต่วัยเยาว์ จนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม

    มาตรา ๔๘
    ระบบการศึกษาต้องยึดหลัก “การศึกษาเพื่อการตื่นรู้”
    โดยมุ่งเน้น
    (๑) การฝึกฝนความซื่อสัตย์ต่อตนเอง
    (๒) การตั้งสัจจะรายวันเพื่อพัฒนาตน
    (๓) การคิดวิเคราะห์อย่างอิสระ ปราศจากอคติ
    (๔) การบ่มเพาะเมตตาและจิตสำนึกสาธารณะ

    มาตรา ๔๙
    ทุกโรงเรียนต้องมี “วิชาสัจจะศึกษา” เป็นวิชาหลัก
    และจัดกิจกรรม “สัจจะทำ” เป็นประจำ เช่น
    – สัจจะทำความดีวันละข้อ
    – เว้นจากการโกหกแม้เพียงเล็กน้อย
    – ทำความดีโดยไม่ต้องให้ใครเห็น
    โดยมี “ครูสัจจะ” เป็นผู้ชี้แนะแนวทาง ด้วยการปฏิบัติให้ดูเป็นตัวอย่าง

    มาตรา ๕๐
    เยาวชนทุกคนมีสิทธิร่วมแสดงความเห็น เสนอแนะนโยบายต่อชุมชนและรัฐบาล
    รัฐต้องจัดให้มี “สภาเยาวชนแห่งสัจจะ” ในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ
    เพื่อพัฒนาเยาวชนให้เป็นผู้นำที่กล้าแสดงออกด้วยความจริงใจและมีจิตใจรับใช้ส่วนรวม

    มาตรา ๕๑
    การเรียนรู้ในระบบนอกห้องเรียน เช่น การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ การรับใช้สังคม
    และการเข้าใจศาสนาอย่างลึกซึ้ง เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างพลเมืองแห่งศิวิไลซ์
    รัฐต้องสนับสนุนทุกกิจกรรมที่เสริมสร้างจิตวิญญาณของเยาวชนให้เข้มแข็งและมั่นคงในสัจจะ

    มาตรา ๕๒
    ผู้ใหญ่ในสังคมต้องเป็นแบบอย่างแห่งสัจจะ
    โดยเริ่มจากครอบครัว โรงเรียน ศาสนา และหน่วยงานของรัฐ
    ผู้ใหญ่ใดที่ละเมิดสัจจะ ต้องถูกประณามด้วยความเมตตา และให้โอกาสกลับตัวโดยการ “ไถ่บาปเพื่อส่วนรวม”
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    หมวด ๑๐ : สื่อมวลชน เทคโนโลยี และการสื่อสารแห่งสัจจะ

    มาตรา ๕๓
    สื่อมวลชนเป็นพลังสำคัญในการสร้างสังคมแห่งสัจจะ
    หน้าที่ของสื่อคือการเสนอ “ข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบได้” ไม่ใช่การโฆษณาชวนเชื่อหรือยุยงให้แตกแยก
    รัฐต้องคุ้มครองเสรีภาพของสื่อ แต่ต้องไม่ปล่อยให้สื่อใช้เสรีภาพโดยปราศจากความรับผิดชอบ

    มาตรา ๕๔
    ทุกองค์กรสื่อสารมวลชนต้องจัดตั้ง “สภาสัจจะสื่อ” ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนประชาชน
    ทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง รับเรื่องร้องเรียน และมีอำนาจสั่งพักใบอนุญาตสื่อที่ละเมิดจริยธรรม

    มาตรา ๕๕
    สื่อใดที่รับทุนจากต่างชาติหรือองค์กรการเมือง ต้องเปิดเผยที่มาอย่างโปร่งใส
    หากตรวจพบว่าใช้สื่อเพื่อบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของชาติ จะถูกดำเนินคดีในฐานะ “ละเมิดสัจจะสาธารณะ”

    มาตรา ๕๖
    รัฐต้องส่งเสริม “สื่อสร้างสรรค์” ที่ให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และปลุกจิตสำนึกสาธารณะ
    รวมถึงจัดพื้นที่สื่อให้แก่เยาวชน ประชาชน และชุมชน ได้สื่อสารข้อเท็จจริงในท้องถิ่นด้วยตนเอง

    มาตรา ๕๗
    เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต้องพัฒนาโดยยึดหลักสัจจะ เมตตา และความไม่ลำเอียง
    ห้ามใช้เทคโนโลยีเพื่อชี้นำความคิดของประชาชนด้วยความเท็จ หรือเพื่อสร้างอำนาจของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

    มาตรา ๕๘
    รัฐต้องจัดตั้ง “ศูนย์สัจจะดิจิทัลแห่งชาติ” เพื่อทำหน้าที่
    (๑) ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลสาธารณะ
    (๒) ปกป้องประชาชนจากข่าวปลอม (Fake News) และข่าวสร้างความแตกแยก
    (๓) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างรับผิดชอบ โดยยึดหลักธรรมะและสัจจะ

    มาตรา ๕๙
    การสื่อสารระหว่างบุคคลต้องอยู่บนฐานของความเคารพและความจริงใจ
    รัฐต้องส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะการฟัง การพูดอย่างสันติ และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่ไม่แบ่งฝ่าย
    เพื่อสร้างสังคมแห่งการฟังซึ่งกันและกันด้วยจิตใจกลาง
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    หมวด ๑๑ : กระบวนการยุติธรรมแห่งสัจจะ

    มาตรา ๖๐
    กระบวนการยุติธรรมแห่งแดนศิวิไลซ์ ต้องตั้งอยู่บนรากฐานแห่ง สัจจะ ความเที่ยงธรรม และเมตตาธรรม
    มิใช่เพียงการตีความตามถ้อยคำของกฎหมาย แต่ต้องพิจารณาความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยเท่าเทียม

    มาตรา ๖๑
    ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรตรวจสอบอิสระ
    ต้องปฏิญาณตนภายใต้ “สัตยาบันแห่งสัจจะ” ว่าจะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่รับผลประโยชน์ และไม่ยอมอคติครอบงำ

    มาตรา ๖๒
    ผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมทุกระดับ ต้องผ่านการฝึกฝน “จริยธรรมสัจจะ”
    หากตรวจพบการบิดเบือนความจริง ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือรับสินบน จะถูกถอดถอนทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้น

    มาตรา ๖๓
    การจับกุม คุมขัง และการสอบสวนต้องเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
    ห้ามใช้ความรุนแรง ข่มขู่ หรือบิดเบือนความจริงเพื่อให้ได้คำรับสารภาพ
    ผู้เสียหายจากความอยุติธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องได้รับการเยียวยาและขอขมาต่อสาธารณะ

    มาตรา ๖๔
    ผู้ต้องหาและจำเลยทุกคน ต้องได้รับสิทธิในการเข้าถึงทนายความ การประกันตัว และการพิจารณาคดีอย่างเปิดเผย
    ศาลต้องให้โอกาสในการไถ่บาป เพื่อฟื้นฟูจิตใจของผู้กระทำผิดกลับสู่สังคม

    มาตรา ๖๕
    ให้จัดตั้ง “ศาลสัจจะชุมชน” ในทุกเขตจังหวัด เพื่อรับฟังคดีเล็กน้อย คดีครอบครัว และคดีความขัดแย้งในชุมชน
    โดยเน้นการไกล่เกลี่ย การให้อภัย และการแก้ไขร่วมกัน มากกว่าการลงโทษ

    มาตรา ๖๖
    ประชาชนมีสิทธิร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐหรือผู้มีอำนาจที่ฝ่าฝืนสัจจะ โดยตรงต่อ “คณะกรรมการสัจจะแห่งชาติ”
    ซึ่งเป็นองค์กรอิสระสูงสุดในการรักษาธรรมาธิปไตย และตรวจสอบอำนาจในทุกระดับ
     
  20. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,839
    ค่าพลัง:
    +51,989
    หมวด ๑๒ : การทหารและความมั่นคงแห่งสัจจะ

    มาตรา ๖๗
    กองทัพไทยเป็นของประชาชน มีหน้าที่ปกป้องแผ่นดินไทย
    เทิดทูนพระมหากษัตริย์ในฐานะองค์พระประมุข และรักษา “สัจจะแห่งเอกราช” โดยไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

    มาตรา ๖๘
    จิตวิญญาณของทหารไทย ต้องยึดหลัก
    (๑) สัจจะที่ให้ไว้ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน
    (๒) ความมีระเบียบวินัย ความเสียสละ และเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์
    (๓) ความไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมืองและการแสวงหาอำนาจนอกภารกิจปกป้องชาติ

    มาตรา ๖๙
    กำลังทหารต้องดำรงตนภายใต้ “หลักสัจจะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด”
    มิอาจรับคำสั่งจากกลุ่มบุคคลหรือพรรคการเมืองใด ที่มุ่งใช้กำลังเพื่อผลประโยชน์ตน

    มาตรา ๗๐
    การแต่งตั้งผู้บัญชาการทหาร ต้องพิจารณาคุณธรรม ความกล้าหาญ และความซื่อสัตย์
    โดยมี “คณะกรรมการสัจจะแห่งกองทัพ” ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติและความโปร่งใส

    มาตรา ๗๑
    ทุกเหล่าทัพต้องส่งเสริม “การฝึกสัจจะจิต” ควบคู่กับการฝึกอาวุธ
    เพื่อเสริมความมั่นคงทางจิตใจ และสร้างกำลังรบที่ไม่ยอมทรยศต่อความจริง

    มาตรา ๗๒
    การจัดสรรงบประมาณด้านกลาโหม ต้องเปิดเผยต่อประชาชน
    โดยต้องผ่านการพิจารณาจาก “คณะกรรมาธิการสัจจะงบประมาณความมั่นคง” ซึ่งมีประชาชนร่วมตรวจสอบ

    มาตรา ๗๓
    ในยามสงบ ทหารต้องร่วมปฏิบัติภารกิจเพื่อประชาชน เช่น การช่วยภัยพิบัติ การฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาชุมชน
    เพื่อให้ “กองทัพเป็นที่รักของประชาชน” ด้วยการกระทำ ไม่ใช่เพียงเครื่องแบบ
     

แชร์หน้านี้

Loading...