ลำดับพระญาณแห่งการตรัสรู้ธรรมของพระพุทธเจ้า

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย สมถะ, 2 สิงหาคม 2016.

  1. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,045
    สั้นๆเลยนะครับที่ขีดเส้นใต้สีน้ำเงิน วิชานี้มีมาในตำราตั้งแต่ดั้งเดิม หรือเป็น
    หลวงพ่อสดที่ท่านค้นพบครับ...ทำไมถึงต้องบอกว่า
    ฝึกไปตามหลักของพระองค์ครับ.. พระพุทธเจ้าท่าน
    สิ้นกิเลสเพราะวิชานี้หรือยังไงครับ...????(ข้อสงสัยครับ)

    และ ผมให้ข้อสังเกตุ กับสมาชิกทุกท่านนะครับ
    ๑. ในเมื่อกระทู้ก็เป็นกระทู้ ลำดับพระญาณตรัสรู้ธรรมของ
    พระพุทธเจ้า คุณเอามาลงเอง ไม่เห็นเกี่ยวกับวิชานี้เลยครับ
    บอกตามตรงว่า มันแย้งกันเองหรือเปล่าครับ ???
    ๒. หรือแค่เอาพระพุทธเจ้ามาอ้าง แล้วแบบแทรกวิชานี้ครับ ????


    และที่ขีดเส้นใต้สีเขียว ก็คือ ไม่ตอบที่ถามก่อนหน้า ไม่บอกสภาวะ
    แต่บอกไปก่อนว่าปฏิบัติตามไป เพราะบารมีเราไม่เต็มส่วน...
    ไม่เข้าใจว่า ทำไมไม่พูด ไม่บอกไปเลยหละครับ
    ว่าเป็นยังไง เมื่อมีคนถาม
    ก่อนหน้านั้น พูดอย่างหล่อ ว่า '' ใครมีความเห็นอย่างไร
    ผมไม่ว่าอะไรดอกครับ''
    พูดเองอยู่ก่อนหน้าแค่ #Rep เดียว
    พอผมมาถาม มาว่าผมมาสร้างกระแสแระ ตัวอย่างอ้างอิง
    ยืนยันหลักฐานอยู่ข้างล่าง






    นาย สมถะ พูดจาดูหล่อจังเลยครับ..
    เอาทีละข้อนะครับ เด่วผมจะตอบ
    ทีละข้อนะครับ พ่อ วิทยากร ขาฟอร์ม..
    ๑.ก็เรื่องของคุณครับ ผมแค่ถามว่า เวลาคนเค้ามาถามคุณเรื่องสภาวะ
    ระหว่างทาง ทำไมคุณไม่ตอบ แล้วยังต้องไปเอาเรื่องบารมีมาอ้างครับ
    คุณไม่ตอบ ก็แสดงว่า คุณทำไม่เป็น คุณไม่รู้ จริงไหม...

    ๒.ไม่รู้จักกันมาก่อน ในเวบนี้ มันต้องรู้จักมาก่อน ถึงจะตอบหรือจะทำตาม
    หรือครับ คิดอะไรตื้นๆเนาะ...
    ก่อนผมจะตอบใคร ผมต้องถามเค้าก่อนไหม ว่าผมเคยรู้จักคุณหรือเป่า.
    ประเทืองปัญญามาก...บอกได้เลย
    ว่าคุณ เป็นคนจิตใจคับแคบมากครับ ป่านนั้นสอนถึงระดับรู้แม้ลำดับ
    พระญาณของพระพุทธเจ้า แต่จิตใจแคบไปเป่าครับ..

    ๓.ไม่ได้สนใจในสิ่งที่ผมพูดไม่เป็นไรครับ ถ้าสนใจคุณคงจะมาตอบแล้ว
    และยอมรับความจริงไปแล้วหละว่า คุณมัน สายมะโน ทะ มะกาย
    เก่งแต่อ้างตำรา พอตอบใครไม่ได้ ก็อ้างบารมีไงครับ..
    ๔. ถ้าจะถ่ายทอดของตัวเองโดยที่ไม่ต้องมานั่งทำตามใจใคร
    คุณ สมถะ ไปเขียน ไปถ่ายทอดที่ดาวอังคารก็ได้นิครับ ไม่น่ามีใครมา
    กวนใจคุณนะครับ
    ที่นี่ดาวโลกนะครับ พอรู้กิติกาของชาวโลกหรือเป่าครับ
    หรืออ่านตำรามากไป จนหลงดาวครับ..
    ๕.ก็ไม่เป็นไร ก็ดีแล้ว..
    แสดงว่า คุณทำไม่จริง เพราะดูจากการที่ตอบสภาวะการปฏิบัติ
    ไม่ได้เลย..แล้วก็ไปอ้างบารมีถ้าใครไม่เข้า ใครมาแย้ง ยิ่งทำให้ทราบได้
    แน่และยืนยันได้ว่า คุณเป็น มโนทำมะกาย..
    ๖.ไหนบอกว่า ใครแสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้ ผมไม่ว่าอะไรดอก
    จำได้เป่าว่าตัวเองเขียนเองครับ..ผมก็แสดงความคิดเห็น
    ก็ถามตามที่เห็น ขำดี..เนาะ
    ๗.ไม่อยากสนทนากับผม ก็เรื่องของคุณครับ..
    แต่ก็ ถามแทนคนอื่นๆก็ได้ครับว่า. เวลามีคนมาถามสภาวะ
    ทำไมคุณไม่ตอบเค้า มีคนมาแย้งทำไมคุณไม่ตอบเอง
    แล้วทำไมต้องเอาไปอ้างในเรื่องบารมี กรณีที่เค้ามาถาม
    มาแย้งครับ.. ป่านนั้นรีบแสดงตัวว่า เป็นวิทยากร..
    ข้อที่ ๘ เด็ดสุดครับ วิชาที่คุณสำเร็จ คือ มะโน ทำมะกาย..ครับ..
    ถ้าเก่งจริง ทำได้จริง พิสูจน์ได้จริง อ้างแต่ตำราพอมีคนถาม
    มีคนแย้ง ไม่ตอบเค้าแล้วพูดว่าบารมียังไม่เต็ม บารมียังน้อย..
    สงสัยการที่ ผมแค่ถามว่า ทำไมคุณไม่ตอบ
    เวลามีคนถาม ทำไม่คุณถึงอ้างเรื่องบารมีเวลามีคน
    มาแย้ง แค่นี้ ทำไมไม่ตอบ.คุณ เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ ???
    ..
    สุดท้าย แค่ตอบคำถาม
    คนที่เข้ามาถาม ในเรื่องสภาวะธรรม (หรือต้องรู้จักกันมาก่อนครับ)
    สภาวะการปฏิบัติ โดยไม่ต้องอ้างโน้นอ้างนี่
    มันยากมากไหมครับ คุณ สมถะ..
    ไม่ได้ให้มาตอบผม เพราะผมไม่ถามคุณอยู่แล้ว
    เรื่อง สภาวะการปฏิบัติของวิชานี้ เข้าใจไหมครับ

    เอามาถ่ายทอดตั้งเป็นกระทู้
    พอมีคนถามไม่ตอบ บอกว่าผมไม่รู้จัก
    ผมไม่จำเป็นต้องทำตามใคร...
    พอมีคนมาแย้ง
    บอกว่าเป็นความคิดเห็นของท่าน
    แล้วอ้างว่าประมาณว่าที่คนถามไม่เข้าใจ
    เพราะบารมียังไม่เต็ม..

    พอมีคนสงสัยเรื่องความสามารถ
    รีบโชว์เลยว่าตัวเอง เป็นวิทยากร
    พาคนเข้าถึงธรรมกายพิสูจน์ให้คนทั้งหลายเห็นและเป็น
    ธรรมกายมาพอสมควร แต่พอมีคนถามสภาวะธรรม
    กิริยาระหว่างทางกลับตอบไม่ได้ อ้างบารมีไม่เต็ม
    มันดูขัดๆกันยังไงก็ไม่รู้นะครับ...
    เหมือนคนโม้ว่าตัวเองวิ่งเก่ง
    แต่พอมีคนถามเทคนิคว่าทำอย่างไรจะวิ่งเก่ง
    ก็ไปบอกเค้าว่า คุณบารมีไม่เต็มเลยวิ่งไม่เก่ง
    แทนที่จะพูดถึงเทคนิคในการทำอย่างไรให้วิ่งเก่ง
    เข้าใจไหมครับ พูดเปรียบเทียบซะขนาดนี้แล้ว
    เข้าใจเจตนาผมนะครับ




    ปล.เขียนภาษาไทยง่ายๆแล้วนะครับ
    ทำไม คุณ สมถะ ถึงอ่านแล้วเข้าใจยากจังครับ..
     
  2. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    เมื่อผมพิจารณาการถามด้วยหลักของการต้องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับการถามเพื่อหาข้อโต้แย้ง อากัปกิริยาของคนถามบางท่าน ตลอดจนวิธีการเขียนวิธีการพูดคุยมันสื่อเจตนาของการสร้างวิวาทะมากกว่าที่จะสนทนาธรรมด้วยดีแก่กัน ดังนั้น ผมจึงไม่เห็นว่าเป็นโอกาสที่เหมาะสมแก่การพูดคุยกัน เพราะบางคนตั้งแง่จับผิด บิดเบือน และมองเจตนาเป็นอื่นเป็นทุนอยู่แล้ว

    ถ้าสนใจฝึกสมาธิวิชชาธรรมกายผมยินดีที่จะแนะนำให้ไปฝึกปฏิบัติ ส่วนเรื่องของสภาวธรรมนั้น เมื่อท่านลงมือฝึกปฏิบัติ ท่านย่อมจักได้ความ หยุด-นิ่ง สงบระงับของใจ เรียกว่าอารมณ์สมถะในเบื้องต้น การฝึกเบื้องต้นนี้ต้องให้เวลากับตัวเอง เพราะคนโดยมาก อารมณ์ใจไม่สงบ ไม่นิ่งจริง ต้องใช้เวลา ส่วนสภาวธรรมอื่นๆ ให้ท่านไปศึกษาคำเทศนาของหลวงพ่อวัดปากน้ำเถิด การเอามากล่าวผมเห็นว่าไม่บังควร เพราะเป็นอารมณ์ของภาคปฏิบัติ และเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกจักได้เข้าถึงในลำดับขั้นของการปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระดับสมถะหรือวิปัสสนา ผมเป็นผู้สอนวิชชาธรรมกายเบื้องต้น เรื่องละเอียดมากกว่านี้ต้องไปเรียนอย่างจริงจังในอีกระดับหนึ่ง ส่วนการจักทำให้หมดกิเลสจะใช้วิธีการใด สภาวธรรมเป็นเช่นใด มันเป็นอีกระดับหนึ่ง อะไรที่สมควรคุยหรือไม่สมควรคุยผมขอใช้ดุลพินิจของผมเอง เพราะผมไม่ได้รู้ไปทุกเรื่อง ไม่ได้เก่งกาจไม่ทุกอย่าง ท่านที่คิดว่าตนเองมีภูมิธรรมดีอยู่แล้ว ท่านไม่ต้องมาอ่านหรือมาฟังเนื้อหาเบื้องต้น หรือการวิเคราะห์เนื้อหาพระไตรปิฎกในกระทู้นี้ก็ได้

    ส่วนที่สงสัยกันว่า คำว่า วิชชาธรรมกาย นั้นมีหรือไม่มีในพระไตรปิฎก เท่าที่ค้นพบ มีคำว่า ธรรมกาย ในพระไตรปิฎก แต่คำว่า วิชชาธรรมกาย ไม่มีในพระไตรปิฎก เพราะเป็นคำภาษาไทยไม่ใช่ภาษาบาลีซึ่งเป็นการรวมคำสองคำเข้าด้วยกัน คือคำว่า วิชชา และ ธรรมกาย หมายเอาผู้ฝึกให้เข้าถึงธรรมกาย แล้วธรรมกายทำให้เราเกิดความรู้แจ้งใจ(วิชชา) ในหลักของ วิชชา ๓ วิชชา ๘ ในพระพุทธศาสนา เป็นการให้ความหมายในหลักภาษาไทย เพื่อเป็นที่เข้าใจกันว่า ผู้สนใจฝึกให้เข้าถึงธรรมกาย เพื่อใช้ธรรมกายไปเรียนในหลักสูตรสมถะและวิปัสสนา รวมทั้งกายในกายอื่นๆ ทั้ง 18 กาย แล้วความารู้เหล่านั้นทำให้เกิดความแจ้งใจ(วิชชา) ตามหลักวิชชา ๓ วิชชา ๘ ในพระพุทธศาสนานั่นเอง

    แจ้งข่าว...งานสอนสมาธิ ณ วัดโมลีโลกยาราม ราชวรวิหาร

    สำหรับในเดือนสิงหาคม 2559 นี้


    เปิดทำการฝึกอบรม 2 รอบ ดังนี้
    - รอบแรก วันอาทิตย์ที่ 14 ส.ค. 2559
    - รอบสอง วันอาทิตย์ที่ 28 ส.ค. 2559


    เริ่มเวลา 13.00 - 16.00 น.ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :http://group.wunjun.com/khunsamatha/topic/619713-8819
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2016
  3. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    ผมเห็นด้วยกับคุณสมถะ พูดมาทุกประการครับ และผมเอง

    ก็ขี้เกียจพูดอะไรมากไปกว่านี้ สรุปเป็นว่า อย่าไปกลัวมัน
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,045
    ก็พูดด้วยดีๆนะครับ..ตั้งข้อสังเกตุไว้ ไม่ได้เข้ามาเรื่องอะไร
    และ ที่คุณ มังกรบูรพา พูดคุณ อ่านดีๆแล้วหรือยังครับ..
    คำว่า "อย่าไปกลัวมัน" คุณแน่ใจและคิดดีๆแล้วหรือครับ
    ที่พูดอย่างนี้..(^_^) ส่วนตัวไม่ได้มาท้ารบนะครับ
    คือ การที่คุณมังกรพูดเนี่ย.เหมือนนักเลงนะครับ
    ไม่ใช่นักปฏิบัติครับ ประเด็นมันคือ แค่ผมสงสัยว่า
    คุณ สมถะทำไมไม่ตอบ ทำอ้างเรื่องบารมีแค่นี้ครับ

    การที่คุณ มังกร พูดเชิงท้าทาย.
    อย่างนี้ เพราะคุณ มังกรบูรพา
    ก็คงคิดว่า ตัวเองแน่พอตัวใช่ไหมครับ
    ถึงกล้าพูดอย่างนี้ กรุณา เงียบๆไปก่อนเถอะครับ..
    ส่วนตัว พอรู้ ว่าคุณมีความสามารถแค่ไหน
    คุณ ก็น่าจะรู้นะครับ ว่าผมพอมีอะไรหรือทำอะไรได้บ้าง
    ไม่ใช่คนที่มีความสามารถอย่างคุณ มังกร
    จะมาทำอะไร หรือจะมาเปรี้ยวได้ง่ายๆนะครับ
    ผมพูดแบบเบาๆแล้วนะครับ..

    เอาตรงๆนะส่วนวิชาธรรมกายนี้ ผมไม่อยากพูดว่าทำอะไรได้บ้าง
    แต่คุณ มังกร น่าจะเข้าใจคนอย่างผมนะครับว่า
    อะไรก็ตาม ที่ไม่สามารถแสดงให้คนอื่นๆรับรู้ได้
    เหมือนอย่างที่ตัวเองเห็น ส่วนตัวจะไม่พูด ไม่สนใจ
    เพราะมันพิสูจน์ไม่ได้..
    ถ้าจะแสดงความสามารถอะไร มันต้องสามารถ
    แสดงให้คนอื่นๆรับรู้ได้เหมือนที่ตัวเองทำได้
    เห็นได้เหมือนตัวเอง..และภายในเวลาไม่กี่วินาที
    พูดแค่นี้พอเข้าใจนะครับ...สำหรับวิชานี้
    จบนะ..ไม่ต้องไปกรรมฐานกองอื่นๆนะ รวมทั้งวิชา
    ที่คุณ มังกร ทำได้ เรียนรู้มาด้วยนั้นหละครับ
    ผมแสดงคล้ายกันหมดนะครับ.
    ในนี้คนที่เคย ตามเจอตัวผมจริงๆ
    จะเข้าใจดีครับ..
    .แต่คุณ ต้องเข้าใจ ว่าผมไม่ได้เข้ามา
    โม้ว่าทำอะไรได้บ้าง และไปคุยทับ คุณ สมถะ
    ไม่ได้มาหาเรื่อง แค่ติดใจในประเด็นดังที่เคยกล่าวไปแล้ว..
    แค่ ๒ ประเด็น คือทำไมไม่ตอบ และต้องอ้างเรื่องบารมีครับ

    พวกที่เก่ง แต่ในนิมิต เล่าแต่เรื่องในนิมิต เพ้อเจ้อ
    ถามหาแต่สภาวะในนิมิต พูดประหนึ่งว่ามันวิเศษวิโส
    พวกที่คิดว่า งูน้อย เป็นมังกรเงียบๆ
    ไปก่อนนะครับ. อ้างโน้นอ้างนี่ ปากก็พูดแต่เรื่องปัญญา
    แต่เอาแต่เรื่องในนิมิต
    พูดแต่ให้คน ยึดติดในนามธรรม
    ที่ไม่ใช่ทางพุทธศาสนา อย่างคุณ มังกรบูรพา
    รบกวนไปอ่านที่ผมเขียนดีอีกรอบดีๆเป็นกลางด้วยนะครับ
    ก่อนจะมาพูดทำเป็นเก่งนะครับ คุณ มังกร ถ้าแน่จริง คุณอ่านที่ผมเขียน
    ดีๆก่อน ถ้าผมถามไม่มีเหตุผล แล้วค่อยมาแสดงก้ามนะครับ
    เข้าใจตรงกันนะครับ


    ส่วนตัวคุณ สมถะเอง ก็เข้ามาตั้งกระทู้เพื่อเผยแผ่ธรรม
    ส่วนตัวก็เคารพ หลวงพ่อ สด ก็บอกไปแล้วไม่ได้ติดใจอะไร
    และตัว คุณ สมถะ ก็พูดเอง บอกว่าแสดงความคิดเห็นได้ ไม่ว่าอะไร..

    แต่ประเด็น ที่ผมติดขัดก็คือ
    พอมีคนถามสภาวะทางกิริยา นอกจากคุณ สมถะไม่ตอบเค้า

    และคุณ สมถะ ไปอ้างแต่ตำรามาตอบ ซึ่งมันก็ไม่ตรงกับสภาวะที่
    มีคนมาถามคุณ และพอมีคนแย้งคุณ. ทำไม คุณ สมถะ
    ต้องไปอ้างว่าคนที่มาแย้งบารมีไม่เต็มครับ
    มันแค่นี้เอง คุณต้องอ้างโน้นอ้างนี่อะไรครับ..
    ทำไมถึงไม่ตอบแค่นี้ เด่วก็อ้างว่า ผมมาหาเรื่อง
    อ้างว่า ไม่รู้จักผม อ้างว่า ตัวเองไม่จำเป็นต้องทำตามใจใคร
    บอกว่า ตัวเองเสนอแต่ในมุมของตัวเอง
    ถามจริงๆ คุณ ว่าอย่างนี้ มันแสดงความ คับแคบในใจคุณไหมครับ

    ยกตัวอย่างเปรียบ อีกรอบ เผื่อว่าสมาชิก และคนอื่นๆจะไม่เข้าใจ
    คุณ สมถะ มาบอกว่าตัวเองวิ่งเก่ง แต่พอมีคนมาถามคุณสมถะ
    ตัวคุณ กับบอกคนที่มาถามว่า บารมีไม่ถึง แทนที่จะบอกว่า
    มีวิธีอะไรที่จะทำให้วิ่งเก่ง ก็เปรียบกับกรณีที่มีคน
    มาถามเกี่ยวกับวิชาธรรมกายนั่นหละครับ
    และผมก็ไม่ได้เป็นคนถาม คนอื่นๆถาม
    ผมติดใจประเด็นตรงนี้ครับ
    คุณ ก็ตอบแบบที่ผม ตั้งข้อสงสัยว่า วิชานี้มีในตำราเหมือน
    ในข้อความล่าสุด มันก็จบแล้วไม่เห็นมีอะไรนิครับ
    คนอ่านเค้าก็จะไปพิจารณาเองได้นิครับ
    ทำไมจะต้องมาคอยเพ่งโทษคนอื่นๆหละครับ
    ตอบแค่นี้ง่ายจะตายไป



    แต่อีก ๒ ประเด็นที่
    คุณ สมถะ ไม่ตอบ ยังแสดงความใจแคบ หาว่าผมมาจ้องจับผิด
    (มะโน ทะ มะกาย ของคุณมันบอกหรือครับ) บอกว่าไม่รู้จักคุณ
    ผมไม่จำเป็นต้องทำตามที่คุณบอก ผมไม่จำเป็นต้อง
    ทำตามใจใคร ตรงนี้มันคือ นิสัยของคนที่บอกว่า ตัวเองเป็นวิทยากร
    คือ วิสัย ชองคนที่นำเอาวิชานี้มา เผยแผ่หรือครับ มันเป็นนิสัย
    ของคนที่ยกตัวเองพาคนอื่นๆเข้าถึงวิชานี้อย่างนี้หรือครับ..
    ก็คุณ เป็นวิทยากร ทำไมเค้าถามอะไร ที่เกี่ยวกับวิชานี้
    คุณก็ตอบไปซิครับ. ถ้าคุณ บอกว่า ผมแค่นำมาเผยแผ่
    ไม่ได้มีความรู้ทางวิชานี้ ไม่ได้ยกตัวเอง แสดงตัวเองว่าเป็น
    วิทยากร พาคนเข้าถึงวิชานี้. ถามหน่อยว่า
    ใครเค้าจะมาถามคุณครับ เค้าก็อ่านเฉยๆนั่นหละครับ
    จริงไหมคับ ประเด็นที่ผมพูด มีเหตุผลหน่อยครับ
    อย่าเอาแต่เพ่งโทษคนอื่นๆ



    ทำไมคุณ สมถะ ไม่ยอมรับ ไม่ดูตัวเองบ้างครับ
    ดูเหตุผลที่ผมเขียนบ้างครับ
    คุณ มัวแต่โทษภายนอก
    มัวแต่เพ่งโทษคนอื่นๆ
    คุณถึงได้แสดงนิสัย ความคับแคบในจิตใจ
    ของคุณ ออกมาให้สมาชิกได้เห็นธาตุแท้ของคุณเองนั่นหละครับ
    ไม่ใช่ผมเข้ามาหาเรื่อง เข้าใจไหมครับ


    ...คุณก็ยอมรับบ้างซิครับ ว่าคุณตอบสภาวะ
    นั้นๆไม่ได้ใช่ไหมครับ เพราะอะไรคุณถึงไม่ยอมรับครับ..

    ปล.หวังว่าจะอ่านแล้วเข้าใจนะครับ
    ทายนี้ ใครมาดีก็ยิ้มรับ ใครมาไม่ดีก็ยิ้มรับ (^_^)
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,045
    มีเหตุผลหน่อยนะครับ
    อ่านที่ผมเขียนแล้วหรือยังครับ อย่ามาแสดงความเป็นนักเลง..
    คิดว่าตัวเองเก่งมากหรือไงครับ
    ขี้เกียจพูดหรือหาเหตุผลมาแย้งไม่ได้.
    กลัวจะหน้าแหกหรือเปล่าครับ.(^_^)
     
  6. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    กระทู้นี้ตั้งใจนำเสนอข้อมูลตามหัวข้อกระทู้ คือ ลำดับพระญาณแห่งการตรัสรู้ธรรมของพระพุทธเจ้า
    ไม่ได้มาอวดเก่งอวดฉลาดอะไรเลย แต่ก็มีคนบิดเบือนไปเรื่อยเปื่อย ข้อมูลนำเสนอผมก็แจ้งแล้วว่านำมาจากไหน นำมาจาก เนื้อหาจาก หนังสือ โพธิธรรมทีปนี : พระพรหมโมลี ที่สำคัญ ก็ไม่ได้เอ่ยถึงวิชชาธรรมกายมาแต่ต้น เพราะตั้งใจให้เป็นเรื่องการวิเคราะห์แนวปริยัติ แต่ก็เลยเถิดเรือยเปื่อยไปสำหรับบางท่าน

    เอาเป็นว่าผมพึงพอใจในการนำเสนอข้อมูลแล้ว สุดแต่ท่านผู้อ่านจะวินิจฉัยเพื่อให้เกิดคุณประโยชน์แก่ท่านเถิด การจะมานั่ง กระทำปากดังหอกคอยทิ่มแทงกันนั้น ผมเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระ และไม่เป็นเรื่องให้ต้องมานั่งตอบคำถามสำหรับบุคคลประเภทนี้แต่ประการใดๆ

    เอ วัง...สำหรับกระผมก็มีด้วยประการฉะนี้
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,045
    ขอบคุณมาก ชัดเจนดีครับ แถไปเรื่อยอีกนะครับ
    ไม่อวดเก่ง อวดฉลาดหรอกครับ
    แค่ ยกว่าตัวเองเป็นวิทยากร พาคนเข้าถึงธรรมกายเฉยๆ
    ถ้าจะบอกว่าวิเคราะห์เชิงปริยัติ แล้วรีบยกตัวว่า
    เป็นวิทยากรวิชชา ธรรมกาย ทำไมครับ
    ตั้งข้อสังเกตุคือ การบิดเบือนหรือครับ
    ส่วนตัวไม่ได้แสดงความเห็นอะไรเลยเกี่ยวกับวิชานี้หรือเรื่อง
    ที่คุณนำมาลงนะครับ เป็นความเห็นส่วนตัว
    คนที่บิดเบือน คือ พวกที่เอาคำสอนท่านมาสอนคนอื่นๆ
    แล้วใส่ความคิดเห็นตัวเองเข้าไปเสริมนั้นหละครับ
    เค้าเรียก ว่าพวก บิดเบือน เข้าใจนะครับ
    ส่วนการบอกว่าตัวเองไม่อวดฉลาดอวดเก่ง
    หลักฐานก็มีเห็นๆก่อนหน้านั้นเป็นคนเขียนเองด้วย
    อ้างอิงไว้แล้ว ได้อ่านอีกรอบหรือยัง..
    คงไม่ใช่การอวดเก่งอวดฉลาดหรอกมั่งเนาะครับ(^_^)

    และการที่เขียนแบบนี้ ใช้คำว่า
    บุคคลประเภทนี้.(ตัวเองดีว่างั้นเถอะ).
    นอกจากเป็นการใช้คำพูด เชิงดูถูกคนแล้วยัง
    แสดงให้เห็นว่า การที่ผมเคยบอกไปว่า คุณเป็นคนจิตใจคับแคบ
    เป็นเรื่องจริง และคุณก็มาย้ำให้เห็นจริงๆว่าคุณใจแคบมากจริงๆครับ

    ทำไมไม่ตอบประเด็นที่ผมถามก็จบแล้วครับ
    ตอบผมดีๆ ก็จบไปแล้ว ทำไมต้องว่า ผมมาหาเรื่องครับ
    เหตุผลก็เขียนดีๆไปแล้วไงครับ

    ไม่รู้คือไม่รู้ ตอบไม่ได้คือตอบไม่ได้ แค่นั้นเอง
    ถ้ายอมรับมันจะทำให้คุณเสียฟอร์ม ที่อุตสาห์
    ยกตัวเองว่า เป็นวิทยากรหรือครับ...(^_^)

    สำหรับคำตอบของ นาย สมถะ นี้ แสดงให้เห็นตัว
    ความใจแคบของนายคนนี้. ส่วนตัวแนะนำว่า
    ถ้ามี นาย สมถะ เป็นวิทยากร สมาชิกท่านอื่นๆ
    ควรพิจารณาให้ดีๆ ก่อนจะเรียนนะครับ
    ยิ่ง นาย สมถะ ใส่ความเห็นเพิ่มเติมเข้าไปต้องระวังครับ
    เพราะนายคนนี้ มีจิตใจคับแคบ แยกแยะ แบ่งชนชั้นในใจคน

    และนอกจากตัว วิทยากรจะตอบสภาวะธรรม
    และกิริยาระหว่างทางไม่ได้แล้ว
    ยังมีจิตใจคับแคบ ยกตนเองข่มคนอื่นๆ สังเกตุจากการใช้
    คำพูด '' บุคคลประเภทนี้เป็นตัวอย่างครับ ''
    '' บารมีคุณไม่เต็ม'' เป็นการพูดเชิงดูถูกยกตนเอง..

    ถ้าจะเรียน จะศึกษา ควรเรียนกับบุคคลที่เชื่อได้ว่า
    ได้รับการถ่ายทอดสืบมาจากหลวงพ่อ สด โดยตรง
    และเป็นบุคคลที่ตอบสภาวะธรรมต่างๆได้ จากประสบการณ์
    ของตัวเองโดยตรง ไม่ใช่ พวกยกตน แยกแยะ ข่มคนอื่น
    ตอบตามตำรา แล้วยกอวดอ้างว่า ตนเป็นวิทยากร
    อย่าง นาย ที่ใช้ ชื่อ สมถะ คนนี้ครับ..


    ผู้ที่ยกอ้าง ตนเองว่าเป็น วิทยากรวิชชาธรรมกาย
    ตอนนี้บอกวิเคราะห์เชิงปริยัติ(ไปเรื่อย)
    ที่โม้ว่าตนเองพาคนเข้าถึง
    ธรรมกายได้ชัดเจน ใช้คำพูดที่พูดเชิง ดูถูก
    ว่าคนอื่นๆเป็นคนประเภทนี้ ประเภทไหนครับ..
    ต้องประเภทที่เห็นด้วยกับคุณ ประเภทที่ใจแคบแบบคุณหรือครับ
    ลึกๆคงจะคิดว่า ตัวเองเป็นบุคคลที่มีจิตใจสูงส่งมากมายนะครับ..
    แสดงให้เห็นว่า วิชาที่คุณฝึกมา ไม่ได้ทำให้ความใจแคบของคุณ
    มันน้อยลงไปเลยนะครับ..และไม่ได้บอกว่า มันช่วยให้จิตใจ
    คุณ ดีขึ้นเลยนะครับ.



    แค่ถามคุณแทนคนอื่นๆ แล้วคุณตอบไม่ได้ แล้วไป
    อ้างเรื่องบารมีหรือครับ..แล้วมาว่าผมหาเรื่องคุณหรือครับ.

    การที่คุณไปว่าคนที่ถาม คนที่แย้งว่าบารมีไม่เต็ม
    มันคือการที่คุณ ไปเพ่งโทษภายนอกครับ ดูออกไหม
    เข้าใจไหมครับ....ถ้าคุณตอบได้ก็ตอบไปซิครับ

    ถ้าคุณตอบไม่ได้แล้วคุณยอมรับว่า ผมไม่เข้าไม่ถึงสภาวะนี้
    ผมจะหาแหล่งข้อมูลอ้างอิงมาให้ เพื่อท่านสนใจนะครับ
    อย่างนี้คือ เพ่งโทษตัวเองครับ.แบบนี้น่าเคารพครับ

    การที่ คุณ สมถะ เป็นถึงระดับวิทยากร ประเด็นแค่นี้
    คุณมองไม่ออกหรือครับ. มองไม่ออกเพราะคุณไม่มาดู
    ตัวเอง ไม่มาดูใจตัวเอง คอยแต่เพ่งโทษภายนอกนั่นหละครับ


    หรือคุณมั่นใจมากว่า คุณเก่ง วิชานี้ ในฐานะที่คุณเป็นวิทยากร
    ผมเชื่อว่า คุณไม่สามารถ แสดงให้ใครรับรู้และพิสูจน์
    ได้และเห็นได้เหมือนที่คุณ ณ เวลานั้นๆ ในขณะลืมตาภายในเวลา
    ไม่กี่นาที ผมว่าคุณแสดงและทำไม่ได้ ผมกล้าท้าและยืนยันครับ.
    ถ้าทำได้บอกว่า ว่ามีหลักการอย่างไร ตอบมา
    เชื่อว่า คุณทำได้แต่ในนิมิต เห็นในนิมิต ที่ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้เลย
    ดูการที่ไม่มีความสามารถตอบสภาวะธรรมระหว่างทางได้ก็
    พอคาดคะเนได้....

    สรุป คุณ ก็ไม่ตอบประเด็นที่ผมถาม ถ้าเป็นคนอื่นๆถาม
    เหมือนที่ผมถามคุณจะตอบไหมครับ..แต่ตอบไม่ตอบไม่เป็นไรครับ
    เพราะคุณ ได้แสดงให้เห็นธาตุแท้ตัวคุณเอง และความสามารถ
    ของคุณชัดเจนแล้ว จบเนาะ (^_^)
    เอวัง สำหรับผมที่กล่าว
    ถึง นาย สมถะ ก็มีด้วยประการละฉะนี้แล...
    .

     
  8. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ผมว่าอย่าไปเถียงกันเลยครับ ในเมื่อท่านเจ้าของกระทู้เขาก็ไม่อยากจะมาถกด้วย
    มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย นอกจากเหนื่อยกาย เหนื่อยใจเปล่าๆ
    ในเมื่อบางสิ่งบางอย่างไม่อาจเป็นไปได้ตามใจเรา ก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามวิถีของมัน
    เหมือนน้ำมันจะไหล ดวงอาทิตย์มันจะขึ้น เราไม่อาจห้ามได้ ก็มีแต่ต้องปล่อย
    ถ้าเราไม่ปล่อย คนที่ทุกข์ใจก็มีแต่เรา คนอื่นเขาไม่ได้มาทุกข์ใจด้วย
    ไม่ว่าใครจะผิดจะถูก สิ่งเหล่านี้ก็เป็นแต่เพียงความรู้สึก พอผ่านเวลาไปสักพัก ก็จะไม่มีความหมายอะไรเลย
     
  9. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    ที่ผมพูดนั่น มันนังเลงที่ไหนล่ะครับ คุณน่ะ มันตัวอันธพาล พอเห็นใครตอบคำถาม ที่ไม่ตรง

    กับใจคุณ ก็เที่ยวไปหาว่าเค้าไม่รอบรู้เหมือนอย่างคุณ และตัวคุณเอง เป็นระดับที่โคตรอันธพาล

    ในสายตาของผมไงครับ และผมก็นึกไม่ถึงจริงๆ ว่า คนระดับที่ได้ชื่อว่าครูบาอาจารย์ ที่ได้ชื่อว่า

    นักปฏิบัติธรรม จะแสดงส่อนิสัยสันดานเดิม เที่ยวไล่กัดชาวบ้านไปหลายกระทู้ และในส่วนที่คุณ

    บอกผมท้าทาย คงเข้าใจผิดแล้วล่ะครับ ผมแค่ไม่เคยเกรงกลัวศักดิ์ศรี ในความสามารถคุณ แม้เพียง

    ปลายขี้เล็บ ส่วนที่คุณแสดงความสามารถในระดับรูปธรรม ให้คนอื่นเห็นได้ ก็ขอบอกไปอีกนะครับว่า

    ต่อให้คุณเหาะลอย หรือดำดินมาอยู่ตรงหน้าผมเนี่ย ผมยังไม่เห็นถึงความสำคัญอะไรเลยครับ

    และนึกไม่ถึงจริงๆ นึกอย่างคาดไม่ถึง จะมาเจอพวกมารอันธพาล ที่หลงตัวเอง โดยไม่รู้ตัว เฮ้อ
     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,045
    ขออภัยจริงๆนะครับ
    ขออีกหน่อยหนึงนะครับ ที่จริงก็ลงท้ายด้วย
    เอวัง ไปแล้วไม่ว่าผลเป็นอย่างไร ในความหมายก็คือยุติ
    การโต้แย้งระหว่าง ผู้เขียน และ เจ้าของกระทู้ ประเด็นนี้จบนะครับ


    มาอีกประเด็นหนึ่ง ในระหว่างที่ บุคคลสองคนกำลังมีความเห็นต่างกัน
    มีสมาชิกอยู่สองท่านเข้ามาโพส ให้ดูวิธีคิดและระบบความคิดนะครับ
    ท่านแรก นำเสนอ นามว่า มังกรบูรพา แปลว่า มังกรทิศตะวันออก นั่นเองครับ
    เป็นการตั้งชื่อ ที่เท่ห์ หล่อเหล่าเอาการเลยครับ(^_^)


    เริ่มต้นด้วยคำพูดเด็ดประจำวัน
    คำพูดที่ต้องอาศัยบริบทต่างๆหมายถึงคำหรือข้อความแวดล้อม
    ที่ช่วยให้เข้าใจความหมาย

    "อย่าไปกลัวมัน"
    คือคำพูดของ มังกรตะวันออก
    ถ้าสังเกตุดีๆจะพบว่า มีการขยายตัวใหญ่ชัดเจน
    ท่านนี้บอกว่าไม่ใช่ท่าน และไม่ใช่นักเลง และไม่ใช่การพูดท้าทายครับ..
    ผู้ที่บอกว่า
    ''ผมแค่ไม่เคยเกรงกลัวศักดิ์ศรี
    ในความสามารถคุณ แม้เพียงปลายขี้เล็บ''

    ข้อมูลอยู่ในอ้างอิงที่ ๓ ครับ
    อืมๆ ไม่ทราบนะครับคำว่า ''ศักดิ์ศรี"
    เนี่ยมี แต่นักเลงหรือเป่าครับ
    ที่ชอบใช้กัน พอดีนึกไม่ออกครับ
    ศักดิ์สี เป็นอย่างไงครับ สีขาว สีแดงหรือสีดำหรือสีเทา
    อะไรทำนองนี้หรือเปล่าครับ
    หรือศักดิ์สีถ้ามีแล้วมันรับประทานแล้วอร่อยไหมครับ...
    หน้าตามันอย่างไรครับ..ว่างๆเอามาให้ดูหน่อย
    เป็นวิทยาทานด้วยนะครับ (^_^)
    และผู้มีศักดิ์ศรี ที่บอกว่าไม่ใช่นักเลงนี้
    เป็นผู้ที่มาบอกว่า ผู้เขียน โครตอันตพาล...(^_^)


    ตัวอย่างคำพูดของอีกท่านหนึ่ง ในสถานะการณ์คล้ายคลึงกัน คุณ Yostro1310 ดังข้อความเดิมข้างล่างครับ

    ข้างบนนี้เป็นคำพูดของท่านนี้
    ในสถานะการณ์คล้ายคลึงกัน
    เชิญผู้อ่านพิจารณาตามดุลยพินิจท่านครับ





    อย่าไปนึกเอาครับ
    เด่วจะผิดอีกเหมือนที่ผ่านมาครับ เด่วจะต้องคอยมาตามชี้แจงอีกครับ
    หามาให้แล้วครับ คำว่า
    อันธพาล พอดีไปเจอมาครับ แต่โครตอันธพาล ยังไม่เจอครับ
    เลยเอามาให้อ่าน มันจะบอกนัยๆว่า
    คือประมาณว่า พวกไม่ฟังเหตุและผลเพราะสติปัญญามืดบอดครับ
    ก็พิจารณาเอาเองนะครับ ส่วนคำว่า มาร ขอบคุณที่ชมนะครับ...
    คล้ายๆ จอมมารบูรพา ในหนังจีนหรือเปล่าบังเอิญจัง
    ที่มีชื่อคล้ายคลึงกันกับใครบางคน (^_^)
    ไม่อยากเป็นมังกรหรอกครับ มันหล่อไปครับ(^_^)
    เป็นมารก็ดีนิครับ..ขอบคุณที่ชมนะครับ

    ปล.หลงตัวเองไม่รู้ตัวไม่ทราบจริงๆครับ ว่าเป็นอย่างไรนะขอรับ
    พอดีตั้งแต่เข้ามาเวบนี้ยังไม่เคยไปพูดบอกใครว่าตัวเองเก่งครับ
    เหมือนพวกที่เก่งที่สุดใน ๓ ปัฐพีนี้ ที่ไปพูดเกทับ
    ว่า ๒ ถึง ๓ วินาทีช้าไปหรอกครับ พวกไม่หลงตัวเอง
    ใช่แบบพวกที่เก่งมากๆแต่ในนิมิต
    ที่เล่าได้เป็นฉากๆทำได้แต่ในนิมิต
    พิสูจน์ให้คนอื่นๆรับรู้ หรือ
    เห็นแบบตัวเองไม่ได้แบบนี้หรือเป่าครับ
    ใช่พวกที่ชอบบอกว่าเรื่องนี้ตัวเองปฏิบัติ
    มาสิบยี่สิบปีก่อนที่จะแนะนำหรือเปล่าครับ..
    ที่เค้าบอกว่า ต่อให้มีบางคนเหาะได้
    ดำดินมาหาได้ตรงหน้าก็ไม่สำคัญ
    พวกที่เน้นนิมิตแบบนี้
    พิสูจน์อะไรไม่ได้แบบนี้
    พวกนี้ไม่หลงตัวเองใช่ไหมครับ พวกนี้เก่งที่สุดในปัฐพีใช่หรือเปล่าครับ
    ถ้างั้นขออยู่แบบคนธรรมดา
    ไม่ยึดติดนิมิตดีกว่าครับ
    กลัวว่าถ้าไปติดนิมิต แล้วนิสัยเหมือนพวกนี้
    กลัวว่าจะเก่งกว่าใคร
    ไม่ให้ความสำคัญกับใคร
    ขนาดเหาะได้ ดำดินได้ ยังไม่ให้ความสำคัญ
    เพราะสำคัญไม่สำคัญก็คือ
    ต้องเก่งในนิมิตเหมือนตัวเอง ทำได้เหมือนตัวเอง..
    ถึงจะที่สุดในโลกใบนี้ดอกขอรับ(^_^)


    อันธพาล

              คำว่า อันธพาล เป็นคำที่ยืมมาจากภาษาบาลีและสันสกฤตว่า อนฺธพาล (อ่านว่า อัน-ทะ -พา-ละ) แปลว่า ผู้ที่มืดบอดทางปัญญาและโง่เง่าไร้เหตุผล คำว่า อันธะ แปลว่า ตาบอดทั้ง ๒ ข้าง, มืดบอดทางปัญญา ส่วน พาละแปลว่า เด็กอมมือ, เด็กที่ไม่รู้เหตุผล, คนโง่, คนไร้เหตุผล, โง่เง่า

              ในภาษาไทยคำว่า อันธพาล หมายถึง คนชั่วที่เที่ยวระรานก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่คนทั่วไป อาการที่เกะกะระรานนั้นเหมือนเด็กโง่ที่ไม่ฟังเหตุและผลเพราะสติปัญญามืดบอดและไม่ฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ซึ่งเป็นคนดี ได้แต่ฟังคนชั่วบงการให้ทำเรื่องที่ก่อความเสียหายแก่สังคม เช่น ในสมัยจอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ผู้ที่ประพฤติตนไม่อยู่ในระเบียบถือว่าเป็นอันธพาล ตำรวจจะปราบปรามโดยเด็ดขาด ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย.


    ที่มา : บทวิทยุรายการ "รู้ รัก ภาษาไทย" ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น.


     
     
  11. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    เห่า มากไป นะครับ
     
  12. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,001
    ค่าพลัง:
    +2,040
    สำหรับผมเเล้ว ทั้งสองท่าน ก็ อยู่ในระดับครูบาอาจารย์นะครับ

    เพราะมีประสบการณ์ทางจิตมากพอสมควร
     
  13. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    อุ๊ ต๊ะ เสือคำราม 555 ฟังเพลินเลย

    ป.ล. ด้วยความเคารพ ผ่านมาเฉยๆ
     
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,045
    เชื่อให้ความเคารพแต่ไม่ยึด
    ไม่ใช่เชื่อแต่ยึดว่าเชื่อ
    หรือไม่เชื่อแต่ยึดว่าไม่เชื่อ
    เพราะถ้ายึดใครเห็นต่าง
    เราจะมองเค้าผิดหมด
    ไม่ว่าจะยึดว่าเชื่อ
    หรือยึดว่าไม่เชื่อ

    อจิณไตร รู้ได้ถ้าเข้าถึง
    แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูด
    เพราะคนอ่านเค้าไม่ได้รู้
    ไม่ได้เห็นเหมือนผู้พูด
    และแม้แต่ผู้พูดผู้เขียน
    ก็ใช่ว่าจะเชื่อได้ว่า
    เป็นอย่างที่เห็น
    และอย่างที่พูด
    ดังนั่นมันจึงยึด
    อะไรไม่ได้เลย
    เข้าใจนะครับ
    อ่านดีๆค่อยๆอ่านนะครับ(^_^)
     
  15. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    ถ้าตั้งใจชี้ทางนำคนให้พ้นทุกข์ทำไปเถอะผลบุญนั้นจะนำพาแต่ถ้าเป็นไปเพราะกิเลสตัณหาผลกรรมนั้นก็จะสนองตอบแบบเดียวกัน...หลวงปู่ผู้ถ่ายทอดท่านก็รู้ในข้อนี้เป็นอย่างดี...อนุโมทนาสาธุ
     
  16. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    กายไม่ได้หายจิตไม่ได้หายแต่แค่เราไม่เห็น...เพราะเราคิดเพียงกายคือสิ่งที่เห็นและจิตคือสิ่งที่รับรู้...จึงไม่เห็น
     
  17. WATERPOWER

    WATERPOWER สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2016
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0

    อันขวาน.นั้นฟันไปทั่วแต่ฟันต้วเองไม่ได้
     
  18. WATERPOWER

    WATERPOWER สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2016
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0

    อันขวานนั้นฟันสิ่งอื่นไปทั่วแต่ฟันตัวเองไม่ได้
     
  19. WATERPOWER

    WATERPOWER สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2016
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    อันขวานนั้นฟันสิ่งอื่นไปทั่วแต่ฟันตัวเองไม่ได้
     
  20. WATERPOWER

    WATERPOWER สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2016
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0


    อันขวานนั้นฟันสิ่งอื่นไปทั่วแต่ฟันตัวเองไม่ได้

    สัตว์โลกมองไม่เห็นขี้ตาตัวเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...