สอยธรรม มาเผื่อแผ่

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 16 มิถุนายน 2008.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    พูดมาว่า ประจำเดือนไม่มา คืออะไร
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    แล้วบอกว่า มีสติ โธ่ อะไรผุดขึ้นมาจากหัวตัวเองยังไม่รู้ว่า มันมาอย่างไร
     
  3. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    มีเหตุผลเท่านี้หรือ กลับไปมองให้ดีๆหน่อยซิว่า เหตุผลแบบนี้มัน ตลกแค่ไหน จร
    ผมหละเวทนา จริงๆ กับปัญญาของคุณเนี่ย เชิญท่านเอกวีร์ต่อนะครับ

    ผม ตลก กับ ตรรกะของไอ้หมอนี่จริงๆ ท่าทางมันจะเป็นหนักอยู่
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ไม่ต้องสันนิษฐานผมหรอกครับ จร สันนิษฐานตัวเองให้มาก
    สำหรับผม ผมไม่มีอะไร ต้องกังวลแล้ว เหลือแต่ คนอื่นๆ
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขจร นี่

    ผมบอกให้นะ ว่า ปัญญาคุณมัน ปิด มากแล้ว มันเหลือทางแคบๆ มาก แล้วนึกสิว่า อะไรจะเกิดขึ้น ถ้ามันปิดมากกว่านี้ จร คราวต่อไปมันจะเหลือเพียง สัญชาติญาณ แล้วมันจะไปโผล่ที่ไหนดีหละ ถ้ามีแค่สัญชาติญาณ
     
  5. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ก็ดีครับ

    แต่สังเกตทันไหมว่า ตอนที่คุณกำหนดว่าใจที่เป็นดิน นั่นคือการสร้างภพ
    เอาไว้อย่างหนึ่ง เป็นภพที่สุดยอด หนักแน่นดั่งหินผา ไม่มีสิ่งใดจะเกาะ
    เกี่ยวแทรกแซง และไม่มีสิ่งใดจะมาทำให้ดูศุงค่าขึ้นไปได้ มันจะนิ่งตราบ
    ใดที่ใจคุณเป็นดิน แล้วเมื่อใจแนบสนิทกับสิ่งนั้นแล้ว ก็จะธรรมดานะ ที่
    จะเห็นสิ่งอื่นเป็นเพียงสิ่งที่ผ่านมาผ่านไป เหมือนหลุดพ้นก็ไม่ปาน มันจะ
    ว่างจากสิ่งเหล่านั้นไปหมด เว้นอันเดียว ที่เกาะกุมหัวใจคุณอยู่ ก็คือ ดิน
    นั่นเอง

    ดังนั้น ถ้าฝึกไปแล้ว ยังเหลืองานอีกตัวหนึ่งที่จะต้องปล่อย สายสมถะนั้น
    ต้องปล่อยตัวนี้ลงในวาระสุดท้าย แต่คำว่าวาระสุดท้ายไม่ได้แปลว่า ตาย
    หมายถึง บทเรียนสุดท้าย จะต้องเรียนให้เสร็จ เรียนการปล่อยตัวนี้ลง จะ
    เริ่มหลักสูตรนี้เมื่อไหร่ก็ได้ ทำได้ทันที ไม่ขึ้นกับเวลา เป็นอกาลิโก เพียง
    แต่น้อมปล่อยลง เป็น โอปนยิโก ถ้าปล่อยตัวนี้ลงแล้ว แล้วพบภาวะอีกภาวะ
    หนึ่งที่ไม่ต้องอิงอาศัยอะไรเลย ก็เห็นว่า ภาวะของการไม่ข้องและกับกิเลส
    นั้นมีเหมือนกัน แถมไม่ต้องยึดอะไรไว้ ไม่ต้องมีเครื่องล่อ ไม่ต้งมีอามิส
    เป็น อิสระจากทุกสิ่ง ไม่ต้องอิงอาศัยอะไรเลย วันนั้นก็จะพบทาง ก็จะเห็น
    ว่า น่าจะจบการศึกษา

    ที่ใช่คำว่าน่าจะ เพราะการจะสรุปว่าจบการศึกษาแล้วหรือไม่ ต้องหาผู้รู้ช่วย
    สอบทวนให้ โดยการไปสอบทวนนั้น ถ้าเกิดความขัดแย้งแม้แต่เพียงนิดเดียว
    เกิดขึ้นในใจ นั่นไม่ได้แปลว่า คนที่สอบเราสอบเราไม่ได้ หากแต่เราเองต่าง
    หากที่ติดข้อง ยึดเหนี่ยวสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้ไม่ปล่อย เพราะไม่อย่างนั้น ไม่ว่า
    ใครมาพูดอะไร ไม่ว่าถูก หรือผิด อย่างน้อยผู้พ้นแล้ว จะต้องไม่สั่นไหว หรือ
    กระเพื่อมโทษะขัดข้องผลักไส
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    เออ ผมก็สงสัยตัวเองนะ ว่าไปเหมือนท่านได้อย่างไร
    คนมันก็อาจจะคิดว่า ผมคงจะไปเลียนแบบท่าน
    มันก็น่าเวทนาไอ้คนคิดนะ
    มันคิดไปได้เรื่อยแหละ
    ก็คงมีหลายคนอยู่ที่คิดแบบนี้ เพราะจริตผมมันดันไปเหมือนท่านเอง
    มันก็ออกมาในรูปแบบเดียวกัน

    ก็พิจารณาให้มากแล้วกัน ขจร ผมเวทนา คุณ ถึงมาเตือน

    อย่าเดา จิต ผมเลย ว่าที่ผมแสดงอาการอะไร แล้วมันจะมาเพราะ เหตุนั้นเหตุนี้ มันผิดหมดแหละ นะ
     
  7. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ถามว่า แล้วคนที่โทรไปหาคุณอยู่ไม่ยอมละวาง ด้วยใจเป็นห่วง และปราถนาดี
    คนนั้น เขาดำเนินอยู่จุดไหน

    ก็ต้องขอชี้ว่า ก็อยู่ตรงบท การปล่อยสิ่งที่เป็นราวจับมั่นในการข้ามกองกิเลสไง

    ดังนั้น เขาแนะนำสิ่งที่ไม่แตกต่างจากทางปฏิบัติของคุณหรอก

    ส่วนทางปฏิบัติสำหรับคนทีไม่ได้ทำ สมถะ ไว้เป็นหลัก เขาอยู่ขั้นตอนไหน ก็
    อยู่ตรงขั้นตอนปล่อยราวเหมือนกัน แต่ราวของเขามีหลายอัน จึงจับอันนู้นที
    อันนี้ที แต่จับแล้วก็รู้ไปหมดว่า นั่นจับอยู่ ต่างจากคุณที่เจตนาตัดทางเลือก
    ให้เหลือราวจับอันประเสริฐเพียงอันเดียว ของคนอื่นเขามีราวจับแบบคละ สะอาด
    บ้าง สกปรกบ้าง แต่จับแล้วก็ให้มีสติรู้ ดูไปว่าจับ พอรู้ตัวว่าจับ ก็จะค่อยๆปล่อย

    พอปล่อยมือเป็น ต่อให้เป็นเส้นลวดที่กวัดแกว่งสัดส่าย เขาก็จะเลี้ยงตัวเองผ่าน
    กองกิเลสไปได้โดยลำพัง ด้วยจิตอิสระ
     
  8. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ถามว่า แล้วอาจารย์ขันธ์ ท่านสอนอยู่ตรงไหน ก็ตรงที่พยายามบอกคุณว่า

    เริ่มเข้าสู่บทการปล่อยราวจับอันประเสริฐได้เลย ปล่อยเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่น่ากลัว
    หรอก ที่ราวจับอันประเสริฐนั้นยังไม่แจ่ม เพราะ มันไม่จำเป็นต้องแจ่ม จะไป
    จับราวอื่นก็ได้ สกปรกก็ได้ เช่น มาทะเลาะกัน นี่ก็แย่หน่อย แต่ก็ถือว่า เดินจับ
    ราวอยู่เหมือนกัน อยู่บนทางปฏิบัติเหมือนกัน

    ดังนั้น ผู้พ้นแล้ว ย่อมไม่เห็นว่ามีอะไรควรขัดแย้งเลย
     
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    เป็นหนักมาก เอาเท่านั้นแหละนะ ผมขอตัวก่อนแล้วกัน

    เพราะว่าเท่านี้ จรมันก็ปิดตัวเองมากแล้ว ยิ่งสอน ยิ่งพูด กลายจะเป็นยิ่งซ้ำเติมไป คงต้องให้จริตอย่างท่านเอกวีร์แนะนำ

    แต่ทั้งนี้ไม่ได้เป็นเพราะ คนอื่นไม่ดี แต่เป็นเพราะ คนกรรมหนาอย่างขจรเอง

    อย่าให้มันเหลือแต่ สัญชาติญาณ จร เพราะที่คุณพูดอะไรออกมา มันมีแต่ สัญชาติญาณหลุดออกมาทั้งนั้น
    โชคดี
     
  10. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อย่าลืมนะน้าจร ถ้ายังเพียรสร้างราวจับอันประเสริฐ นั่นแปลว่า ยังไม่ได้ยกราว
    อันประเสริฐขึ้นมาดู มารู้ มาเป็นของถูกรู้ เมื่อนั้น จะมองไม่เห็นว่า เราจับมั่นมัน
    อยู่ไม่ปล่อย ซึ่งก็แปลว่า ยังไม่ได้ทำ วิปัสสนาเลย

    ที่กล่าวว่า ยังไม่ได้ทำ วิปัสสนาเลย แม้นว่าเห็น ภาวะแยกจากกิเลศ แยกตนออก
    จากจิตแล้วก็จริงอยู่ แต่เนื่องจาก ไปเสริมสร้างตัวตนขึ้นใหม่ที่เลิศกว่าประเสริฐ
    กว่า การดูอย่างปุถุชนจะกระทำไม่ได้ จะต้องไปละ หรือ ไปดูอย่างพรหม จะต้อง
    ยก ราวจับอันประเสริฐ(ดิน) นั้นขึ้นมาดู ถึงจะเริ่มการวิปัสสนาที่แท้จริง นอกนั้นจะ
    เป็นโมฆะหมด

    แล้วถ้าบังเญว่า น้าจรละจากดิน ไปเป็นอากาศ ก็ต้องเริ่มวิปัสสนาญาณกันใหม่ ที่ทำ
    ไปแล้วโมฆะหมด เหมือนเดิม

    แล้วถ้าพ้นจากอากาศไปจับที่ตัวจิต ก็จะต้องยกกันใหม่ ไปเรื่อยๆ

    แน่นอนละ ในแต่ละขั้นจะมีความประเสริฐหลายอย่างเป็นอาสวะที่รองก้น
    รองรับบาทวิถี แต่ถ้าหากยังไม่ยกวิปัสสนาญาณในภพสุดท้ายที่ถึงแล้ว ก็
    ถือว่ายังไม่ได้ยก

    ดังนั้น พระที่สอนเก่งๆ ท่านจะกล้าพอที่จะโน้มน้าวปุถุชนธรรมดา ให้เข้าถึง
    วิปัสสนาญาณได้เลย ส่วนพระที่สอนไม่เก่งจะต้องไปรู้วิธีสอนแบบเลิศให้ถ้วนก่อน

    ทีนี้ ก็ถามว่า จิตน้าจร มีกุศลพอที่จะเป็นอาจารย์ใครไหม ถ้าไม่ก็ไม่รู้ว่าน้าจร
    จะไปแสวงหาวิธีสอนอันเลิศเอาไปเพื่ออะไร

    หากยังรับฟังเสียงโทรศัพท์จากเพื่อนคนหนึ่งไม่ได้

    หากยังรับฟังเสียงจากคนที่คนอื่นๆต่างพากันเรียกว่า อ.ขันธ์ ไม่ได้

    ก็แปลว่า ไม่สามารถสอนใครได้

    ดังนั้น ก็น่าจะเริ่มบทวิปัสสนาญาณไปเลย หรือว่าไงครับ
     
  11. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>หลงเข้ามา </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>วิมุตติ </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อย่าสับสนนะน้าจร

    ปฏิเวธ นี่ ต้องรู้เองแน่นอน --- ขั้นนี้ใช้โยนิโสนมสิการจากพระไตรปิฏก -- จากธรรมสามี

    ปฏิบัติ นี้ ต้องอาศัยตัวเอง และผู้อื่น--- ขั้นนี้ใช้นมสิการธรรมจากผู้รู้ -- จากกัลยาณธรรม

    ปริยัติ นี้ ต้องอาศัยผู้อื่นเท่านั้น --- ขั้นนี้ใช้กาลามาสูตรพิจารณา -- จากกัลยาณมิตร

    การที่เรามาพูดกันนั้น มันก็อยู่ในขั้น ปริยัติ ดังนั้น ไม่จำเป็นเลยว่ามันจะไป
    ปนกับปฏิเวธ แต่ต้องกังวลอยู่ในส่วนของปฏิบัติ ถ้าการปฏิบัติจะเป็นเรื่องส่วน
    ตัวนั้น ล้วนเป็นเรื่องอันตราย

    เราไม่เคยก้าวล่วงไปใน ปฏิเวธ ของน้าจรนะ ส่วนนั้นต่างหากที่ไม่มีใครล่วงได้

    ส่วนปฏิบัตินั้น น้าจรต้องดูดีๆ ไม่มีหรอกที่น้าจกปฏิบัติด้วยตัวเอง ยิ่งสายสมถะ
    ยิ่งแล้วใหญ่ คนช่วยสอนจะเยอะแยะ ยุบยั๊บ

    ปฏิบัติสายวิปัสสณายานิกล้วนๆ นี้ถึงจะปฏิบัติด้วยตัวเองได้ เพราะเป็นเรื่องเรียน
    รู้กายใจตัวเอง ต่อให้มีใครมากระทบ ฐานก็ยังอยู่ที่ตัวเอง ต่างจากสมถะ มันจะ
    ต้องออกไปข้างนอก

    แล้วขอโทษนะ ขนาดคนด้วยกันที่อยู่นอกๆ ยังก่อปัญหาให้น้าจรได้ไม่มากก็น้อย

    แล้วสิ่งที่ไม่มีความเป็นคนนี้ ยิ่งไปกันใหญ่ มาดีก็ดีไป มาร้ายก็หัวปักหัวปำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2008
  14. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ท่านสูญอย่ากล่าวเยี่ยงนี้
    มันพาให้ท่านหลงไปกับปฏิฆะ
    หาประโยชน์มิได้เลย...
     
  15. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ท่านสูญเห็นความสำคัญของการสืบทอดพระพุทธศาสนา ผมขออนุโมทนาด้วย เข้าใจดีครับ
    แต่ท่านต้องดูว่า ความคะนองนั้นเกิดจากเหตุใด ควบคุมได้หรือไม่
    มีหลายท่านพยายามหยุดความคะนองนั้นลง ด้วยจิตที่มีแต่เมตตาธรรม
    แต่ก็จบไม่ลง มันเลยยืดยาวออกไป
    และนี่เอง คือการสืบทอดพระศาสนารูปแบบหนึ่ง
    คือ ชี้ให้ผู้ที่ศึกษาธรรม ได้เห็นแง่มุมต่างๆ ของธรรม โดยอาศัยปัญญาของตนพินิจพิเคราะห์
    ว่าควรเชื่อหรือไม่เชื่อสิ่งใด
    ต่อให้มีใครแสดงธรรมอันสูงส่งในที่นี้
    ผู้ศึกษา ก็อาจไม่สามารถเข้าใจได้ เพราะความเข้าใจนั้น ก็ขึ้นอยู่กับชั้นภูมิของแต่ละท่าน
    ท่านสูญว่าจริงไหม
    ธรรมเดียวกันนี่แหล่ะ เข้าใจกันไปได้คนละทิศละทาง เป็นเรื่องปกติ
    หากท่านต้องการสืบสานพระศาสนา ควรหรือไม่ที่จะใช้วาจาที่เป็นมิจฉาวาจาในการประชดประชันเยี่ยงนี้
    หรือท่านควรแสดงให้เห็นถึงความบกพร่องของข้อความที่ผ่านมาและชี้ในสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่า
    สัมมาวาจาก็จัดอยู่ในองค์แห่งมรรคเช่นกัน
    โปรดพิจารณา...
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ท่าน 00000 เขาก็มาพูดดีๆ ทำไมไปว่าเขาเรื่องอะไร
    พวกบ้าเห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นดอกบัวเป็นกงจักร

    เขาสนใจนะดีแล้ว ดีกว่าพวกไม่สนใจ
     
  17. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ผมไม่ได้ว่า คุณ จร
    ผมว่าไอ้คำพูดนี้

    ผมอยากจะรุ้ว่า มันปฏิฆะตรงไหน นี่มันประเภทนึกอะไรขึ้นมาพูดๆ ไม่ได้ดูธรรม อะไรเลย
    นี่แหละ จิตโดนปิด เห็นผิดเป็นชอบ อยากจะหัวเราะหวะ
     
  18. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ก็คนทำกรรมอย่างไรก็ได้อย่างนั้นไง ไม่ถูกรึ คุณด่าคนอื่น คุณเพ้อเจ้อ คุณแช่งพ่อแม่คนอื่น
    ไม่มีใครพูดอะไร แต่ผมนี่แหละจะพูด

    ส่วนวิมุตติ พูดจาไม่ถูก ไม่ต้อง เอามาออกหน้าสาธารณะ ผมก็พูดตามความเห็นผม

    นี่มันขัดเคือง แต่มันไม่มีปัญญาหาข้อมาแก้ต่าง มันก็อัดอั้นไง มันก็ถูกแล้ว ใครไปทำอะไรคุณ

    ด่านี่แหละดี มันสะใจผมดี ถ้าแน่จริงก็ด่ากลับมาสิ ไม่ได้ว่าอะไร
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    เอามาเลย เครื่องประหารอะไรก็ตาม ถ้าไม่ใช้วิธีการ เด็กงอแง แถไป แล้วละก้อ ผมยินดีให้ตั้งคำถาม
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ขจร ถ้าคิดจะฟ้องผม ตามข้อกล่าวหา ผมอนุญาตให้คุณ ถามมา ตอบตรง แล้ว คุณยินดีจะถามมาตอบตรงกับผมหรือเปล่าหละ

    ถ้ายินดี แล้ว พิสุจน์ได้ด้วยเหตุผลว่า ผมผิดจริง ผมจะยอมรับโทษ
    ถ้าไม่ ก็ อย่าคิดมาปรับโทษผม
     

แชร์หน้านี้

Loading...